Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แฟ้มสะสมผลงาน1

แฟ้มสะสมผลงาน1

Published by nantarat wongsakdirin, 2020-07-13 23:02:37

Description: แฟ้มสะสมผลงาน1

Search

Read the Text Version

ขอ้ มูลการประพฤตติ าม จรรยาบรรณครู 2. ไม่ใช่ศษิ ยเ์ ปน็ เครื่องมือหาประโยชน์ให้กับคนโดยมิชอบด้วยกฎหมายขนม ธรรมเนียมประเพณหี รอื ความรสู้ กึ ของสังคมตวั อย่างเช่น -ไมน่ าผลงานของศิษย์ไปแสวงหากาไรส่วนคน -ไม่ใช้แรงงานศษิ ยเ์ พือ่ ประโยชน์สว่ นตน -ไม่ใช้หรือจา้ งวานศษิ ยไ์ ปทาสิง่ ผดิ กฎหมาย ฯลฯ จรรยาบรรณข้อท่ี 6 กฎย่อมพัฒนาตนเองท้ังในด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ ให้ทัน ตอ่ การพฒั นาทางวิทยาการเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองอย่เู สมอ 1. ใส่ใจศึกษาค้นคว้าริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ท่ีเกี่ยวกับวิชาชีพอยู่เสมอ ตวั อยา่ งเชน่ -หาความรู้จากเอกสารตาราและส่ือต่างๆอยู่เสมอ -จดั ทาและเผยแพร่ความรู้ผ่านส่อื ต่างๆตามโอกาส -เข้ารว่ มประชมุ อบรมสัมมนาหรือฟังการบรรยายหรอื อภิปรายทาง วชิ าการ ฯลฯ 2. มีความรอบรู้ทันสมัยทันเหตุการณ์สามารถนามาวิเคราะห์กาหนด เป้าหมายแนวทางพัฒนาตนเองและวิชาชีพทันต่อการเปล่ียนแปลงทางด้าน เศรษฐกิจสังคมการเมอื งการอาชพี และเทคโนโลยีตัวอย่างเชน่ -นาเทคโนโลยที เ่ี หมาะสมมาใช้ประกอบการเรยี นการสอน -ตดิ ตามขา่ วสารเหตุการณด์ ้านการเมืองเศรษฐกิจสงั คมการเมอื งอยเู่ สมอ -วางแผนพฒั นาตนเองและพฒั นางาน ฯลฯ

ข้อมูลการประพฤตติ าม จรรยาบรรณครู 3. แสดงออกทางร่างกายกริยาวาจาอย่างสง่างามเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวอย่างเช่น -รักษาสขุ ภาพและปรบั ปรงุ บคุ ลกิ ภาพอยู่เสมอ -มีความเช่ือม่ันในตนเอง -แต่งกายสะอาดเหมาะสมกบั กาลเทศะและทันสมยั -มีความกระตือรอื รน้ ไวต่อความรสู้ ึกของสงั คม ฯลฯ จรรยาบรรณขอ้ ท่ี 7 ครูย่อมรกั และศรัทธาในวิชาชีพครู และเป็นสมาชกิ ท่ีดีขององค์กรวชิ าชพี ครู 1. เช่ือมั่นช่ืนชมภูมิใจในความเป็นครูและองค์กรวิชาชีพครูว่ามีความสาคัญ และจาเปน็ ตอ่ สงั คมตวั อย่างเชน่ -ชืน่ ชมในเกยี รติและรางวัลท่ีไดร้ บั และรักษาไว้อยา่ งเสมอตน้ เสมอปลาย -ยกย่องชมเชยเพ่อื นครทู ีป่ ระสบผลสาเรจ็ เกยี่ วกบั การสอน -เผยแพรผ่ ลสาเร็จของตนเองและเพื่อนครู -แสดงตนว่าเป็นครอู ยา่ งภาคภูมิ ฯลฯ 2. เป็นสมาชิกองค์กรวิชาชีพครูและสนับสนุนหรือเข้าร่วมหรือเป็นผู้นาใน กิจกรรมพัฒนาวิชาชีพครูตวั อยา่ งเชน่ -ปฏบิ ตั ิตามเงื่อนไขขอ้ กาหนดขององค์กร -รว่ มกจิ กรรมทีอ่ งคก์ รจดั ขึ้น -เป็นกรรมการหรือคณะทางานขององคก์ ร ฯลฯ

ข้อมูลพฤติกรรมการสอน ตามแนวทางปฏิรปู การเรยี นรู้ 3. ปกปอ้ งเกียรตภิ ูมิของครแู ละองค์กรวชิ าชพี ตวั อยา่ งเชน่ -เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ผลงานของครูและองคก์ รวิชาชพี ครู -เมอื่ มผี ู้เข้าใจผิดเกีย่ วกับวงการวิชาชพี ครกู ็ชี้แจงทาความเขา้ ใจให้ ถูกตอ้ ง จรรยาบรรณข้อที่ 8 ครพู งึ ช่วยเหลอื เกอ้ื กูลครแู ละชมุ ชนในทางสรา้ งสรรค์ 1. ให้ความร่วมมือแนะนาปรึกษาแก่เพ่ือนครูตามโอกาสและความเหมาะสม ตัวอยา่ งเช่น -ใหค้ าปรกึ ษาการจัดทาผลงานทางวิชาการ -ใหค้ าปรกึ ษาแนะนาการผลติ ส่ือการเรียนการสอน ฯลฯ 2. ให้ความช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ส่ิงของแก่เพ่ือนครูตามโอกาสและความ เหมาะสมตัวอย่างเชน่ -ร่วมงานกศุ ล -ชว่ ยทรัพย์เมอ่ื เพ่ือนครูเดือนรอ้ น -จดั ต้ังกองทนุ เพื่อช่วยเหลอื ซึง่ กนั และกันฯลฯ 3. เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนรวมทั้งให้คาปรึกษาแนะนาแนวทางวิธีการ ปฏิบตั ิตนปฏบิ ตั งิ านเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวติ ของคนไทยชุมชนตัวอย่างเชน่ -แนะแนวทางการป้องกนั และกาจดั มลพษิ -ร่วมกิจกรรมตามเพณขี องชมุ ชน ฯลฯ

ขอ้ มลู พฤตกิ รรมการสอน ตามแนวทางปฏิรูปการเรียนรู้ จรรยาบรรณขอ้ ท่ี 9 ครูพึงประสงค์ ปฏิบัติตน เป็นผู้นาในการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญา และ วัฒนธรรมไทย 1. รวบรวมข้อมูลและเลือกสรรภูมิปัญญาท้องถ่ินและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสม ใช้จัดกิจกรรมการเรยี น การสอนตวั อยา่ งเช่น -เชิญบคุ คลในท้องถิน่ เป็นวทิ ยากร -นาภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ มาใช้จดั การเรยี นการสอน -นาศษิ ยไ์ ปศึกษาในแหล่งวิทยาการชุมชนฯลฯ 2. เป็นผู้นาในการวางแผนและดาเนินการเพ่ืออนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญา ท้องถิน่ และ วฒั นธรรมตวั อย่างเช่น -ฝกึ การละเล่นทอ้ งถิน่ ให้แก่ศษิ ย์ -จัดตงั้ ชมรมสนใจศลิ ปวัฒนธรรมท้องถิ่น -จดั ทาพิพิธภัณฑใ์ นสถานศกึ ษา ฯลฯ 3. สนับสนุนส่งเสริมเผยแพร่และร่วมกิจกรรมทางประเพณีวัฒนธรรมของ ชุมชนอยา่ งสม่าเสมอ -รณรงคก์ ารใชส้ ินค้าพืน้ เมือง -เผยแพร่การแสดงศลิ ปะพนื้ บา้ น -ร่วมงานประเพณีของท้องถ่นิ ฯลฯ

ขอ้ มูลพฤตกิ รรมการสอน ตามแนวทางปฏิรูปการเรียนรู้ 4. ศกึ ษาวิเคราะหว์ จิ ยั ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมทอ้ งถิ่นเพ่ือนาผลมาใช้ในการ จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนตวั อยา่ งเชน่ -ศกึ ษาวิเคราะห์วิจยั ภูมปิ ัญญาและวฒั นธรรมท้องถน่ิ เพื่อนาผลมาใช้ ในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนตวั อย่างเช่น -ศกึ ษาวิเคราะหเ์ กย่ี วกับการละเลน่ พ้นื บา้ นนิทานพ้นื บา้ นเพลงกลอ่ ม เดก็ ตานานและความเชอ่ื ถือ

การเปน็ สมาชิกของ องค์กรวชิ าชพี ครู องค์กรท่ีเก่ียวข้องกับผู้ประกอบวิชาชีพครูมี 3องค์กรได้ แก่ องค์กรผลิตครู องคก์ รใชค้ รู และองคก์ รวชิ าชีพครู องค์กรการผลิตครู เป็นองค์กรท่ีผู้ประกอบวิชาชีพครูจัดต้ังข้ึนเพ่ือพัฒนาวิชาชีครูและควบคุม มาตรฐานการประกอบวิชาชีพครู หมายถึง หน่วยงานที่รัฐจัดต้ังขึ้นเพื่อผลิต บคุ ลากรทางการศึกษา องค์กรผลิตครูของประเทศไทยเร่ิมจัดตั้งสถานศึกษา เพอื่ เรียนวชิ าครคู รง้ั แรก เม่อื พ.ศ. 2453บริเวณโรงเล้ียงเดก็ สะพานดา องคก์ รใชค้ รู หมายถงึ สถานศกึ ษาในสังกดั ตา่ งๆ ทั้งทส่ี งั กัดกระทรวงศึกษาธิการ เทศบาล กรุงเทพมานคร และโรงเรียนเอกชนในควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนหน่วยงานท่ีจัดต้ังเพื่อให้ความรู้ และการศึกษาในรูปแบบต่างๆใน สงั กัดกระทรวง ทบวงอื่นๆ องคก์ รวิชาชีพครู หมายถึง องค์กรที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูรวมกลุ่มจัดตั้งข้ึน ท้ังที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เพ่ือพัฒนาวิชาชีพครู พัฒนาครู และจัดกิจกรรมต่างๆที เก่ยี วข้องกบั ครกู ลมุ่ นนั้ ๆ

การเปน็ สมาชิกของ องคก์ รวิชาชีพครู ลกั ษณะขององคก์ รวชิ าชพี 1. เป็นองค์กรที่ผู้ประกอบวิชาชีพเดียวกัน มีสภาพปัญหาคล้ายกัน ร่วมกัน จดั ตงั้ ขนึ้ 2. วชิ าชพี น้ันๆเป็นวิชาชีพทจี่ าเปน็ ต่อสงั คมและในการประกอบการวิชาชีพมี ผลกระทบตอ่ มวลชน 3. เป็นนิตบิ คุ คล มีกฎหมายรองรับในการดาเนินการ 4. มีทรัพยากรขององค์กร สถานท่ี บุคลากร ส่ิงอานวยความสะดวก ตลอดจนทรัพยส์ ินต่าง ๆ 5. มี พ.ร.บ.ควบคุม เช่น พ.ร.บ. ครูและบลุ ากรทางการศึกษา 6. มจี รรยาบรรณแหง่ วิชาชพี ที่เผยแพรใ่ ห้สงั คมรับทราบ เปา้ หมายองคก์ รวชิ าชพี ครู 1. สง่ เสรมิ สมาชิกผู้ประกอบวิชาชีพน้นั ๆ ให้มกี ารกินดอี ยู่ดี โดยการจดั สวัสดิการตา่ งๆ หรอื ดูแลสทิ ธิประโยชน์ของสมาชกิ ทกุ ๆดา้ น 2. สง่ เสรมิ ใหส้ มาชิกผู้ประกอบวชิ าชีพน้ันๆ มคี วามสามารถในการประกอบ วิชาชพี สูงข้ึนเป็นการส่งเสรมิ ด้านวชิ าการสาหรบั วชิ าชีพ

การประพฤตติ นตามจรรยา บรรณครตู อ่ นกั เรยี น จรรยาบรรณต่อผ้เู รียน ครูจะต้องมคี วามประพฤติปฏิบัตติ ่อผเู้ รียน 9 ประการ คือ 1. ต้ังใจถา่ ยทอดวชิ าการ บทบาทของครูตอ้ งพยายามที่จะทาให้ลูกศิษย์เรียน ด้วยความสุข เรียนด้วยความเข้าใจ และเกิดความมานะพยายามที่จะรู้ใน ศาสตร์น้ัน ครูจึงต้องตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่จะศึกษาวิชาการท้ังทางศาสตร์ที่จะ สอน ศาสตรท์ จี่ ะถา่ ยทอดหรอื วธิ กี ารสอน ครูต้องพยายามท่ีจะหาวิธีการใหม่ ๆ มาลองทดลองสอน 2. รักและเขา้ ใจศษิ ย์ ครูต้องพยายามศึกษาธรรมชาติของวัยรุ่น ว่ามีปัญหามี ความไวต่อความรู้สึก (sensitve) และอารมณ์ไม่ม่ันคง ครูจึงควรให้อภัย เข้าใจ และหาวธิ ีการใหศ้ ิษยป์ รับเปลย่ี นพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ครูต้องพยายาม ทาให้ลูกศิษย์รักและไว้ใจเพ่ือท่ีจะได้กล้าปรึกษาในส่ิงต่าง ๆแล้วครูก็จะ สามารถช่วยให้ศิษย์ประสบความสาเร็จในการเรียน และการดารงชีวิตได้ อยา่ งถูกต้อง 3. ส่งเสริมการเรียนรู้ปัจจุบันการส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคาตอบด้วย ตนเองหรือการเรียนรู้จากการช่วยเหลือกันในกลุ่มอาจจะทาให้ผู้เรียนมี วิธีการหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ ด้วยตนเองมากขึ้นมากกว่าจะคอยให้ครู บอกให้แต่ฝ่ายเดียว ครูจึงจาเป็นต้องชี้ช่องทางให้ผู้เรียนหาวิธีการศึกษาหา ความรู้ด้วยตนเองมากขึน้

การประพฤตติ นตามจรรยา บรรณครูตอ่ นกั เรยี น 5. ไม่แสวงหาประโยชน์จากผู้เรียน ลักษณะของครูจะต้องเป็นผู้ไม่แสวงหา อามิสสินจ้าง เงินไม่ใช่ส่ิงท่ีสร้างความสุขเสมอไป ครูจึงจะต้องมีความ ระมดั ระวงั เปน็ พิเศษในการกระทาใด ๆ อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจได้ว่า ครู กาลงั หาประโยชน์จากศษิ ยอ์ ย่างไมเ่ ป็นธรรม 6. ทาตนเป็นแบบอย่างที่ดี ครูมีอิทธิพลต่อศิษย์ท้ังด้านวาจา ความคิด บุคลกิ ภาพ และความประพฤติ ครจู ึงจะตอ้ งพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพ่ือให้ลูก ศษิ ย์ไดซ้ มึ ซับสง่ิ ที่ทาจากตวั ครูไป เม่อื ศษิ ย์เกดิ ศรัทธาในความสามารถของครู ศิษย์อาจจะเลยี นแบบความประพฤติของครูไปอยา่ งไมไ่ ด้เจตนา เช่น การตรง ต่อเวลา การพูดจาชัดเจน การแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา สุภาพ เรียบร้อย เปน็ ตน้ 7. ให้เกียรติผู้เรียน การยกย่องให้เกียรติผู้เรียน ทาให้ผู้เรียนเกิดความพึง พอใจ และเกรงใจผู้สอน ครูไม่ควรใช้อานาจในทางที่ผิด เช่น พูดจาข่มขู่ ใช้ คาพดู ไมส่ ภุ าพ เปลย่ี นช่อื ผเู้ รียน เยาะหยันหรือดถู ูกผ้เู รยี น การเคารพผู้เรียน ในฐานะปัจเจกบุคคลเป็นส่ิงที่ทาให้เกิดความเข้าใจ และการเรียนรู้ท่ีดี เม่ือ ผ้เู รียนได้รบั การปฏิบตั ิอยา่ งดี ยอ่ มกอ่ ให้เกดิ พลังในการศึกษาตอ่ ไป 8. อบรมบ่มนิสัย มล. ปิ่น มาลากุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูมีบทบาทหน้าท่ีในการอบรมบ่มนิสัยเด็ก โดยท่านเช่ือว่า “การอบรมบ่มนิสัยใคร ๆ น้ันเพียงแค่วันละนาทีก็ดีถม” ดังนั้นครูควรแบ่งเวลาใน การอบรมบ่มนิสยั ผู้เรยี น เช่น ก่อนการสอนแต่ละชั่วโมงอาจชี้แนะหรือให้ความคิด ท่ีดแี ก่ผเู้ รียนได้ ครคู วรถือเป็นหน้าที่ทีจ่ ะต้องสอนคนให้เป็นคนดี

การประพฤตติ นตามจรรยา บรรณครตู ่อนกั เรียน 9. ช่วยเหลือศิษย์ผู้เรียนมาอยู่ในสถานศึกษาพร้อมด้วยประสบการณ์และ ปัญหาที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นครูจึงมีหน้าท่ีที่จะต้องสังเกตความผิดปกติ หรือข้อบกพร่องของศิษย์ และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ไม่ให้ศษิ ย์ตอ้ งกา้ วถลาลกึ ลงไปในพฤตกิ รรมทไี่ มพ่ งึ ประสงค์ การประพฤตติ นตาม จรรยาบรรณครตู ่อตนเอง ครูจะต้องมีความประพฤติปฏิบัติต่อตนเอง ด้วยคือ จรรยาบรรณต่อตนเอง ครูจะต้องพฒั นาตนเองตลอดเวลาเพ่อื ให้มีลกั ษณะพฤติกรรม ดงั น้ี 1.ประพฤติชอบ ครูต้องต้ังตนไว้ในที่ถูกที่ควรสามารถบังคับตนเองให้ ประพฤตแิ ตส่ ง่ิ ท่ีดงี ามถกู ตอ้ ง 2.รับผิดชอบ ครูต้องฝึกความรับผิดชอบ โดยต้ังใจทางานให้สาเร็จลุล่วง มี ความผิดพลาดน้อย 3. มีเหตผุ ล ครตู ้องฝกึ ถามคาถามตนเองบ่อย ๆ ฝึกความคิดวิเคราะห์หาเหตุ หาผลหาข้อดีข้อเสียของตนเอง และเรื่องต่าง ๆ เพ่ือทาให้ตนเองเป็นคนมี เหตผุ ลท่ีดี

การประพฤตติ นตาม จรรยาบรรณครตู อ่ ตนเอง 4. ใฝ่รู้ การติดตามข่าวสารข้อมูลอยู่เสมอ ๆ ทาให้ครูมีนิสัยใฝ่รู้ อยากทราบ คาตอบในเรอ่ื ง ต่าง ๆ ครูควรมีความรู้รอบตัวอย่างดีท้ังด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เพื่อให้ครูดารงชีพในสังคมได้อย่างเป็นสุข ปรับตัวเข้ากับ สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ และชแี้ นะส่ิงท่ถี ูกตอ้ งใหศ้ ษิ ย์ได้ 5. รอบคอบ ครูต้องฝกึ ฝนตนเองใหเ้ ป็นคนรอบคอบ ละเอียดและประณีต ใน การดาเนินกิจการต่าง ๆ การทากิจกรรม เช่น ควบคุมบัญชีการเงินต้อง รอบคอบ ต้องเห็นตัวเลขชัดเจนไม่ตกหล่น ทาให้เกิดการผิดพลาดที่เป็น ผลรา้ ยท้งั ของตนเองและผู้อน่ื 6. ฝึกจิต การพัฒนาจิต ทาให้ครูอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและส่งผลทา ให้ครูทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครูจึงต้องหมั่นฝึกจิตของตนให้ สูงสง่ สงู กวา่ มาตรฐาน ระงับอารมณไ์ ม่ดี คิดอะไรไดส้ ูงกว่ามาตรบานและคิด เปน็ บวก มากกวา่ คิดลบหรือคิดรา้ ย 7. สนใจศิษย์ การสนใจพฒั นาการของผเู้ รียน เป็นส่วนหนึ่งท่ีจะทาให้วิชาชีพ ครูก้าวหน้า เพราะถ้าไม่มีผู้เรียนก็ไม่มีวิชาชีพครู ครูจึงจาเป็นต้องศึกษาหา ความรเู้ กย่ี วกับลักษณะธรรมชาตผิ เู้ รียน การแก้ปัญหาผู้เรียน การส่งเสริมให้ ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ สรุปได้ว่า จรรยาบรรณ คือ ประมวลพฤติกรรมที่กาหนด ลักษณะมาตรฐาน การกระทาของครู อนั จะทาใหว้ ิชาชีพครูก้าวหน้าอย่างถาวร โดยที่ครูจะต้อง ดาเนินการเรียนการสอนโดย การยึดจรรยาบรรณต่อวิชาชีพต่อผู้เรียน และ ตอ่ ตนเอง ในการทาหน้าท่ขี องครูใหส้ มบรู ณ์

การประพฤติตนตาม จรรยาบรรณครตู ่อเพื่อนครู ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับครูนับว่ามีความสาคัญมากท่ีสุดต่อการพัฒนา วิชาชีพครู เพราะครูกับครูที่ทางานสอนอยู่สถานศึกษาเดียวกัน เปรียบเสมือนบุคคลท่ีเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน หากสมาชิกใน ครอบครัวเดียวกนั มคี วามสมานสามัคคีอันดีต่อกันแล้ว นอกจากจะทาให้การ อบรมส่ังสอนนักเรียนเป็นไปอย่างมีคุณภาพแล้ว ยังช่วยให้การปฏิบัติงานใน ดา้ นต่าง ๆ ทน่ี อกเหนือจากการสอนเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพด้วย เม่ือเป็น เช่นน้ี การพัฒนาสถานศึกษาและการพัฒนาวิชาชีพครู ก็จะดาเนินไปอย่าง รวดเรว็ วิธที คี่ รูควรปฏบิ ัตติ ่อครู เพอื่ สร้างมนษุ ยส์ มั พนั ธ์ตอ่ กนั เชน่ 1. ร่วมมือกันในการอบรมส่ังสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติอย่าง สมา่ เสมอ 2. ชว่ ยเหลอื เกื้อกูลกันในทางดา้ นวิชาการ เช่น การแนะนาการสอน, แนะนา เอกสาร หรอื แหล่งวิทยาการให้ 3. ช่วยเหลอื งานสว่ นตัวซึ่งกนั และกันเทา่ ท่ีโอกาสจะอานวย 4. ทาหนา้ ท่ีแทนกนั เมอ่ื คราวจาเปน็ 5. ใหก้ าลังใจในการทางานซ่ึงกันและกัน ซึ่งอาจจะแสดงออกในรูปของวาจา หรอื การกระทาก็ได้ 6. กระทาตนให้เป็นผู้มีความสุภาพอ่อนน้อมต่อกันเสมอ ไม่แสดงตนในทา นองยกตนข่มทา่ น หรือแสดงตนว่าเราเกง่ กว่าผู้อื่น

ขอ้ มูลพฤติกรรมการสอน ตามแนวทางปฏริ ูปการเรียนรู้ ตารางการปฏบิ ัตงิ าน

ขอ้ มูลพฤตกิ รรมการสอน ตามแนวทางปฏริ ปู การเรยี นรู้ การจัดการเรยี นรทู้ ี่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ โรงเรยี นสนุ ทรศึกษา มกี ารจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ เพราะการ จัดการศึกษา มีเป้าหมายสาคัญที่สุด คือ การจัดการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนได้พฒั นาตนเอง ตามกาลงั หรอื ศักยภาพของนักเรียนแต่ ละคน เช่น การทากิจกรรมกลุ่ม การศึกษาค้นคว้า การระดมความคิด การลง มือปฏบิ ตั ิ การแสดงบทบาทสมมติ การแสดงความคดิ เห็น เปน็ ตน้

ขอ้ มูลพฤติกรรมการสอน ตามแนวทางปฏริ ูปการเรยี นรู้ การจดั การเรียนรทู้ ีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ โรงเรยี นสุนทรศกึ ษา มีการจดั การเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผ้เู รยี นเป็นสาคัญ เพราะการจัด การศึกษา มีเป้าหมายสาคัญท่ีสุด คือ การจัดการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นแต่ละคนไดพ้ ัฒนาตนเอง ตามกาลังหรือศักยภาพของนักเรียนแต่ ละคน เชน่ การทากิจกรรมกลุ่ม การศึกษาค้นคว้า การระดมความคิด การลง มือปฏบิ ัติ การแสดงบทบาทสมมติ การแสดงความคดิ เหน็ เปน็ ต้น การวัดประเมนิ ผลการเรียนการสอนและการทดสอบ ความรู้พน้ื ฐานของนกั เรยี น ในการจัดการเรียนรู้มีการวัดผลและประเมินผลทางการศึกษา เพื่อเป็นการ ทดสอบ ในการวัดผลการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อจะได้นาผลของการวัดมา เป็นข้อมูลในการประเมินผลได้ อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง เช่น การ ทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น เป็นต้น การผลติ สื่อและนวัตกรรมการเรยี นการสอน ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ได้มีการผลิตสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน เพื่อให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ และช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิด ความสนใจในการเรยี น

ข้อมลู พฤตกิ รรมการสอน ตามแนวทางปฏิรูปการเรียนรู้ การจัดสภาพแวดลอ้ มทเ่ี อื้อตอ่ การเรยี นรู้ การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ เป็นสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวผู้เรียน ส่งผลต่อผเู้ รยี น ทงั้ ทางบวกและทางลบ และมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น ห้องเรียนที่ถูกสุขลักษณะ มีแสงสว่าง พอเพียง สะอาด สงบ อากาศถ่ายเท มีสิ่งอานวยความสะดวกท่ีมีคุณภาพ เหมาะสม ทาให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข ทาให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ปา้ ยนิเทศที่จดั ขึ้น ความร้คู อมพิวเตอร์ ผลงานของชมุ นมุ

ข้อมลู แผนการจัดการ เรียนรู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย ข้อมลู แผนการจัดการเรียนรู้ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ในการจัดการเรียนการสอน ได้มีการจัดทาโครงสร้างรายวิชา หน่วยการ จัดการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือให้การจัดการเรียนรู้ประสบ ผลสาเร็จ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้ผลการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ มาตรฐานและตัวชวี้ ดั

ขอ้ มลู แผนการจดั การ เรยี นรู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ตวั อย่างแผนการจดั การเรียนรู้ ม.2 แผนการจัดการเรยี นรู้หน่วยท่ี 1 การเลอื กใช้ ซอฟต์แวร์และการใช้งานMicrosoft Excel 1.1 ความหมาย 1.2 ความสาคญั 1.3 ประเภทของซอฟต์แวร์ 1.4 ซอฟต์แวร์ระบบ 1.5 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ ช่วยในการ ทางาน 1.6 การสร้างเวิรก์ บ๊กุ ใหม่ 1.7 การเพิม่ ขอ้ มลู Microsoft Excel 1.8 การใช้เสน้ ขอบเซลล์ Microsoft Excel 1.9 การใสส่ ีเซลล์ Microsoft Excel ข้อมูลการช่วยพฒั นาโรงเรียน 1.ไดร้ บั มอบหมายให้สอนวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละวิทยาการคานวณ 2. ไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ป็นครูทีป่ รกึ ษาประจาชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 3.ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ฝึกสอนนักเรียนในการแข่งขันทักษะวิชาการ งานศลิ ปหัตถกรรม

ข้อมูลการร่วมมือ กับสังคมและชุมชน การรว่ มงานระหว่างโรงเรียนกับชมุ ชน -ร่วมเช่อื มสมั พนั ธร์ ะหวา่ งชุมชนและโรงเรยี น การรว่ มงานมงคลและอวมงคล ของทางชมุ ชน - ร่วมกับเทศบาลตาบลพระบาท จดั คา่ ยคณุ ธรรมจริยธรรม

ขอ้ มูลผลสัมฤทธท์ิ างด้านการเรยี น และการพฒั นานกั เรียน ตวั อย่างผลสัมฤทธ์ิทางดา้ นการเรยี นและการพัฒนานักเรียน เลข ช่ือ - สกลุ สถานะคะแนน ประจาตวั นร.เดมิ แก้ มส ที่ ผล เวลาขาด 1 1348 นาย ไตรภพ ใจแสน เรียน 78 3.5 0/0 - 2 1292 นาย ธนภมู ิ นนทเ์ ตม็ เรยี น 82 4 0/0 - 3 1349 ส.ณ. นนทกานต์ เขยี วหนู เรียน 74 3 1/2 - 4 1354 ส.ณ. เมธาชาญ ดวงตบิ๊ เรยี น 83 4 1/2 - 5 1297 นาย วีรภทั ร อ่นุ เรอื น เรยี น 83 4 0/0 - 6 1346 ส.ณ. กิตตชิ ยั กนั ทะวงั เรียน 70 3 0/0 - 7 1562 นาย ชนะ สดุ ฉลวยคงคา เรยี น 83 4 0/0 - 8 1367 นาย ตรวี ทิ ย์ สดใสดาวเรอื ง เรยี น 82 4 0/0 - 9 1563 นาย พงษส์ ทิ ธ์ิ ซิโน เรยี น 72 3 1/2 - 10 1368 นาย ภาคิน สดใสดาวเรอื ง เรยี น 74 3 0/0 - 11 1351 นาย ประวณี สากล เรียน 64 2 0/0 - 12 1640 นาย ธรรมดา แกว้ พรมงาม เรยี น 73 3 0/0 -


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook