๓ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.๖ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี พฤติกรรมทางเพศ ของวยั รุน่ • วิเคราะหพ์ ฤติกรรมเสยี่ งทีอ่ าจนาไปสู่การมีเพศสมั พนั ธ์ การตดิ เชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวยั อันควร (พ ๒.๑ ป.๖/๒)
ผงั สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๖ พฤติกรรมเสย่ี งทอ่ี าจ ปัญหาที่เกดิ จากการมี นาไปสู่การมีเพศสมั พนั ธ์ เพศสมั พนั ธ์โดยไมป่ อ้ งกัน พฤตกิ รรมทางเพศ โรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์ ของวยั ร่นุ และโรคเอดส์ การป้องกันพฤตกิ รรมเส่ยี ง การต้ังครรภ์ไม่พรอ้ ม ทอี่ าจนาไปสกู่ ารมีเพศสมั พนั ธ์ การยุติการต้งั ครรภ์
๑. สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.๖ พฤตกิ รรมเสี่ยงท่ีอาจ นาไปสกู่ ารมเี พศสมั พนั ธ์
สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.๖ ความเจรญิ กา้ วหน้าทางเทคโนโลยี และสภาพสังคม ท่ีเปล่ียนแปลงไป ทาให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมเสี่ยงทอี่ าจนาไปสู่ การมีเพศสมั พันธ์ และมแี นวโน้มของการมเี พศสัมพันธ์ โดยไม่ป้องกนั มากข้ึน ซ่ึงก่อใหเ้ กิดปญั หาสงั คมตามมา เชน่ การต้งั ครรภ์ไมพ่ รอ้ ม การยตุ ิการตงั้ ครรภ์ การเปน็ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ การติดเช้ือเอชไอวี โดยสาเหตทุ ที่ าใหเ้ กดิ ปัญหาดังกลา่ วมีดงั นี้
สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.๖ พฤติกรรมเสย่ี งท่อี าจนาไปสู่การมีเพศสมั พนั ธ์ ๑. มีการสมั ผสั แตะต้องร่างกายกนั และนาไปสู่ การมีเพศสมั พนั ธโ์ ดยไมป่ อ้ งกนั ๒. การไปเทยี่ วกลางคืน ซึง่ อาจมีการด่มื เครอื่ งด่ืมท่มี ี แอลกอฮอล์ ทาใหข้ าดสติและการยับยัง้ ชง่ั ใจ ๓. การไปในทเ่ี ปลย่ี วหรือสถานทรี่ กร้างเพยี งลาพัง โดยไม่รู้ตัว
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.๖ ๔. การเลน่ อินเทอร์เน็ต เล่นเกมออนไลน์ การมว่ั สมุ ในร้านอินเทอรเ์ นต็ ๕. การดูสอ่ื ตา่ ง ๆ ทีก่ ระตนุ้ ความรูส้ กึ ทางเพศ ๖. การหลงเชอื่ ผทู้ ไี่ มห่ วงั ดเี พราะความไว้ใจ
สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป.๖ การมเี พศสัมพันธ์ทปี่ ลอดภัยและรบั ผิดชอบ ควรเกิดจากความรัก ความเขา้ ใจ ความยนิ ยอมพรอ้ มใจ และความพรอ้ มของทัง้ สองฝา่ ย ซ่ึงถ้าจะมีเพศสมั พันธ์ ตอ้ งคิดไตรต่ รองใหร้ อบคอบ และมคี วามรับผดิ ชอบ ตอ่ การกระทาของตนเอง เพ่ือให้เกิดความปลอดภัย โดยไม่เป็นการทารา้ ยตนเองและผู้อืน่ ไมท่ าใหเ้ กดิ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ และการต้ังครรภ์ไมพ่ ร้อม
สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๖ โดยพยายามหลกี เลย่ี งการมีเพศสมั พนั ธใ์ นวัยเรยี น เมือ่ ไมพ่ รอ้ มท่ีจะมีเพศสมั พันธก์ ใ็ หป้ ฏิเสธ หรือหลกี เล่ียง การอยใู่ นสถานทีล่ บั ตาคนสองต่อสอง แต่ถา้ หลีกเลยี่ ง ไม่ไดก้ ใ็ ห้ป้องกันโรคและการตั้งครรภ์ โดยใช้ถงุ ยางอนามัย อย่างถกู วธิ ีทุกคร้งั ทีม่ เี พศสมั พันธ์ และเชือ่ วา่ การพก ถงุ ยางอนามยั ไม่ใชเ่ ร่อื งน่าอาย การใชถ้ งุ ยางอนามัย เป็นการแสดงความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและผู้อน่ื หากไมใ่ ช้ถือวา่ ประมาท
สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.๖ กรณีที่ถูกขม่ ขืนตอ้ งรบี ไปพบแพทย์ เพ่ือปอ้ งกันการตงั้ ครรภแ์ ละรับการดแู ล รกั ษาท่ถี ูกต้อง และแจง้ ความเพ่อื ดาเนินคดี ตามกฎหมาย
๒. สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.๖ ปญั หาทเี่ กิดจากการ มเี พศสมั พันธ์ โดยไม่ป้องกัน
สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.๖ การมีเพศสมั พันธ์โดยไมป่ อ้ งกนั อาจทาใหเ้ กดิ ปญั หาต่าง ๆ ตามมา มากมาย ดงั นี้
สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.๖ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์หรือที่เรยี กกนั ทว่ั ไปว่า กามโรค คอื โรคทต่ี ิดต่อจากคนหนงึ่ สูอ่ ีกคนหนง่ึ โดยการ รว่ มเพศทางอวัยวะเพศ ปาก และทวารหนกั คนทกุ วยั ทัง้ ชายและหญิงสามารถติดต่อโรคน้ีได้ คนท่ีตดิ โรคนี้ กันมาก คอื วยั รนุ่ อายุ ๑๕-๒๔ ปี
สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.๖ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์เกิดจากเชอื้ โรคหลายชนิด ไดแ้ ก่ ๑) แบคทเี รยี ซึ่งรกั ษาหาย แตเ่ ปน็ ซา้ ได้ถ้าไดร้ บั เชื้ออีก เชน่ ซฟิ ลิ สิ หนองใน หนองในเทียม แผลริมออ่ น กามโรคของตอ่ มและท่อนา้ เหลือง (ฝีมะมว่ ง) ๒) ไวรัส ซึ่งรักษาไม่หายขาด เช่น โรคเรมิ หดู หงอนไก่ ๓) รา และโพรโทซัว เชน่ ราในชอ่ งคลอด และพยาธิ ชอ่ งคลอด ซ่ึงบางครงั้ อาจเป็นโรคน้ีไดโ้ ดยไม่มีเพศสัมพนั ธ์
สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๖ การปอ้ งกันโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์ หลกี เลยี่ งการมีเพศสมั พันธ์ในวยั เรียน เมอื่ ไม่พร้อม ท่ีจะมเี พศสมั พนั ธก์ ใ็ ห้ปฏิเสธ หรือหลกี เล่ยี งการอยู่ ในสถานท่ีลับตาคนสองต่อสอง แตห่ ากหลีกเล่ียงไมไ่ ด้ กใ็ ห้ป้องกนั โรคและการตง้ั ครรภ์ โดยใชถ้ งุ ยางอนามยั อยา่ งถูกวิธีทุกครั้งทมี่ ีเพศสัมพันธ์
๓. สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๖ การป้องกันพฤตกิ รรมเสย่ี ง ที่อาจนาไปสกู่ ารมีเพศสมั พนั ธ์
สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.๖ การมเี พศสมั พันธ์โดยไมป่ อ้ งกนั อาจกอ่ ใหเ้ กิด ปญั หาตา่ ง ๆ ดังนั้น จงึ ควรคดิ ให้รอบคอบ มสี ติ นึกถึงอนาคตของตนเอง และรจู้ กั วธิ ปี ้องกนั ตนเอง ดังน้ี ๑. วางตวั ในการคบเพื่อนใหเ้ หมาะสม และรู้จัก ให้เกียรตกิ นั ๒. รู้จักปฏเิ สธอยา่ งชดั เจนหนกั แนน่ ดว้ ยคาว่า “ไม่” เมอ่ื ถกู ชักชวนให้มีเพศสมั พันธ์
สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๖ ๓. วางตวั ในการคบเพอื่ นใหเ้ หมาะสม และร้จู กั ให้เกยี รติกนั ๔. ไม่ทดลองมีเพศสัมพนั ธ์ และไมเ่ ลยี นแบบ พฤตกิ รรมทางเพศทไ่ี ม่ถกู ตอ้ งจากส่ือต่าง ๆ ๕. ไม่เที่ยวกลางคืนและไม่ด่มื เครอ่ื งดมื่ ที่มี แอลกอฮอลห์ รอื เสพสารเสพตดิ ๖. หลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสองในทล่ี บั ตาคน
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.๖ ๗. ไมร่ ับประทานอาหารและเครอ่ื งดื่ม จากคนแปลกหนา้ ๘. ไมห่ ลงเชอื่ การชกั ชวน ให้เข้าไปส่สู ถานการณ์เสย่ี ง ต่อการมีเพศสัมพันธ์ทงั้ จากผทู้ ีร่ จู้ ักคนุ้ เคยและผทู้ ่ี ไม่รจู้ ัก การต้งั ใจเรียนจะทาให้ ประสบความสาเร็จในชวี ติ
สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.๖ ๙. เม่ือมปี ญั หาในเรือ่ งต่าง ๆ รวมถงึ เรือ่ งเพศ ควรปรึกษาพ่อ แม่ ผปู้ กครอง เพือ่ หาทางแกไ้ ข อย่างถูกต้อง ๑๐. ไมด่ ูส่อื เกี่ยวกบั เร่อื งเพศที่กระตนุ้ ใหเ้ กดิ อารมณท์ างเพศ ๑๑. ใช้เวลาวา่ งทากิจกรรมที่มีประโยชนก์ ับเพ่ือน เชน่ เล่นกฬี า เลน่ ดนตรี
สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๖ ๑๒. ตัง้ ความมุ่งหวงั ในอนาคต แล้วควบคมุ ตนใหท้ าในส่ิงทจ่ี ะ นาไปสคู่ วามมุง่ หวงั น้ัน เมื่อมีปัญหาต้องปรกึ ษาพ่อ แม่ ผู้ปกครอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: