Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ชั้นป.4 ปีการศึกษา2564

วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ชั้นป.4 ปีการศึกษา2564

Published by Wannisa Pumurai, 2021-09-20 11:59:27

Description: วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ชั้นป.4 ปีการศึกษา2564

Search

Read the Text Version

รายงานการวเิ คราะห์ผ้เู รียนรายบคุ คล รายวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4/1 ปีการศึกษา 2564 โดย นางสาววรรณนษิ า พุ่มอไุ ร ตาแหน่ง ครู คศ.1 โรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คาสวัสด์ิราษฎรบ์ ารงุ ) อาเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต 1 สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

บนั ทกึ ข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธำนี ที่ วันท่ี …………………………………………… เรือ่ ง รำยงำนกำรวิเครำะห์ผ้เู รยี นรำยบคุ คล รำยวชิ ำสุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ช้ันประถมศึกษำปที ี่ 4/1 ปีกำรศกึ ษำ 2564 เรยี น ผู้อำนวยกำรโรงเรียนวัดพชื นิมิต(คำสวสั ดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) ด้วยข้ำพเจ้ำ นำงสำววรรณนิษำ พุ่มอุไร ตำแหน่ง ครู คศ.1 ได้รับมอบหมำยให้ปฏิบัติหน้ำท่ีสอน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ และเป็นครูประจำชั้นประถมศึกษำปีที่ 4/1 ประจำปีกำรศึกษำ 2564 มนี ักเรียนจำนวนทั้งสน้ิ 32 คน ในกำรวำงแผนจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนที่มีคุณภำพและช่วยเหลือผู้เรียนน้ันครูผู้สอนต้องจัดทำ กำรวิเครำะห์ผเู้ รียนเพื่อให้ทรำบสภำพปัจจุบัน ปัญหำอุปสรรคและควำมสำมำรถของผ้เู รียน ดงั นั้น ข้ำพเจ้ำจึง รำยงำนผลกำรวิเครำะห์ผเู้ รียนรำยบุคล ดงั เอกสำรที่แนบมำพร้อมนี้ จงึ เรียนมำเพื่อโปรดทรำบ จึงเรยี นมำเพื่อโปรดทรำบ ลงชอ่ื ผรู้ ำยงำน (นำงสำววรรณนิษำ พุ่มอุไร) ตำแหนง่ ครู คศ.1 ความเห็นผู้อานวยการโรงเรยี นวดั พชื นิมิต(คาสวัสดิร์ าษฎร์บารุง) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นำงสำวกันยำภัทร ภัทรโสตถิ ) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ……/……………………../………………..

คานา กำรวิเครำะหผ์ ูเ้ รียน เพ่ือศึกษำผ้เู รยี นเป็นรำยบุคคล มีควำมสำคญั และจำเป็น จะช่วยให้ครผู ู้สอน ไดร้ จู้ ักผู้เรยี นเป็นรำยบุคคล หรือรำยกลมุ่ โดยกำรกำหนดควำมต้องกำรทจ่ี ะใช้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตัวผ้เู รยี น เปน็ ข้อมูลสำรสนเทศพนื้ ฐำนนำไปสูก่ ำรวำงแผนกำรเรียนรู้ หรอื จัดกจิ กรรมกำรเรยี นร้ทู ี่มีจดุ ม่งุ หมำยเฉพำะใน เร่ืองควำมสำมำรถ ทกั ษะและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยใช้วธิ กี ำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู หลำกหลำย เพ่อื ให้ ไดข้ ้อมลู เกี่ยวกับตัวผ้เู รยี น เชน่ กำรสอบถำม กำรให้ทำแบบทดสอบ กำรรวบรวมข้อมูลพ้ืนฐำนกำรเรยี นรู้ แล้วนำมำวเิ ครำะหเ์ ป็นรำยบุคคล โดยจำแนกให้เหน็ องค์รวมของผเู้ รยี นในแตล่ ะด้ำน กำหนดเกณฑ์กำรจำแนก คุณภำพผูเ้ รียน และสรปุ จัดกลมุ่ ผูเ้ รียน ซึ่งข้อมูลดังกล่ำวสำมำรถนำไปใชป้ ระโยชนเ์ พ่ือนำไปชว่ ยเหลอื แก้ไข ส่งเสรมิ และสนบั สนุนให้ผู้เรียนมีกำรพฒั นำได้อย่ำงเหมำะสม เตม็ ศักยภำพของแต่ละบุคคลและมีควำมสขุ พัฒนำผูเ้ รยี นให้ผูเ้ รยี นบรรลตุ ำมจุดเน้นกำรพฒั นำคุณภำพผ้เู รียน ตำมกรอบกำรปฏิรูปกำรศกึ ษำในทศวรรษที่ สอง เริ่มตน้ ค้นวิเครำะห์ ที่ครแู ละผู้เกี่ยวข้องสำมำรถนำไปวำงแผนในกำรพัฒนำผเู้ รยี นดำ้ นต่ำง ๆ ได้ต่อไป และช่วยใหค้ รูผ้สู อนในกำรจัดกำรเรยี นรู้ให้ผู้เรยี นรจู้ ักแสวงหำควำมรู้ พัฒนำตนเอง คิดเอง ปฏบิ ตั ิเอง เพ่ือ นำไปสู่กำรสรำ้ งองค์ควำมร้ดู ้วยตนเอง นำงสำววรรณนิษำ พุ่มอุไร

บทที่ 1 บทนา 1. ความเปน็ มา พระรำชบญั ญตั กิ ำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 ท่ีระบุไว้ว่ำ “ มำตรำ 22 กำรจัดกำรศึกษำต้องยึดหลัก ว่ำผู้เรียนทุกคนมีควำมสำมำรถเรียนรู้และพัฒนำตนเองได้ และถือว่ำผู้เรียนมีควำมสำคัญมำกท่ีสุด กระบวนกำรจดั กำรศกึ ษำต้องส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถพฒั นำตำมธรรมชำติและเตม็ ตำมศักยภำพ” กำรวิเครำะห์ผ้เู รียน เพ่ือศึกษำผ้เู รียนเปน็ รำยบุคคล จึงมีควำมสำคญั และจำเปน็ มำก ประโยชน์ของกำรวิเครำะห์ผู้เรียน คือ กำรนำข้อมูลไปช่วยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีกำร พฒั นำได้อย่ำงเหมำะสม เตม็ ศักยภำพของแต่ละบุคคลและมคี วำมสุข ครผู ูส้ อนจงึ เปน็ ผู้มีบทบำทสำคัญเกย่ี วกับกำรจัดกำรเรียนรู้ให้ผเู้ รียนรูจ้ ักแสวงหำควำมรู้ พัฒนำตนเอง คิดเอง ปฏบิ ัติเอง เพื่อนำไปสู่กำรสร้ำงองคค์ วำมรู้ดว้ ยตนเอง ผู้สอนได้รับมอบหมำยให้สอน รำยวิชำสุขศึกษำและพลศึกษำ ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4/1 จำนวน 32 คน ผู้สอนจึงได้ดำเนินกำรกำรวิเครำะห์ผู้เรียนที่รับผิดชอบเพ่ือให้ทรำบข้อมูลพื้นฐำนของผู้เรียน เพื่อนำไป วำงแผนในกำรจดั กิจกรรมพัฒนำผเู้ รยี นและจัดกระบวนกำรเรยี นรไู้ ด้อยำ่ งมีประสิทธิภำพ สมศ. ไดก้ ำหนดมำตรฐำนคุณภำพครูในด้ำนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผู้เรียนเปน็ สำคญั อย่ำงมี ประสทิ ธิภำพไวว้ ่ำ ครูจะต้องทำกจิ กรรม 7 กจิ กรรม คือ 1. กำรวเิ ครำะหห์ ลักสูตร 2. กำรวิเครำะห์ผู้เรยี นเปน็ รำยบุคคล 3. กำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำย 4. กำรใชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ แหลง่ และสื่อกำรเรียนรู้ของตนเองและนกั เรียน 5. กำรวัดผลและประเมินผลตำมสภำพจริงอยำ่ งรอบดำ้ นเนน้ องคร์ วมและเน้นพฒั นำกำร 6. กำรใชผ้ ลกำรประเมนิ เพ่ือแกไ้ ข ปรับปรงุ และพฒั นำกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนเพ่ือพฒั นำผูเ้ รียนให้ เตม็ ศกั ยภำพ 7. กำรใช้กำรวิจัยปฏบิ ตั กิ ำรในกำรพฒั นำนวัตกรรมเพ่ือพฒั นำกำรเรยี นร้ขู องนักเรียนและกำรสอน ของตนเอง จำกมำตรฐำนดงั กล่ำว ครูจงึ ตอ้ งวิเครำะห์ผูเ้ รยี นเปน็ รำยบุคคล เพื่อท่จี ะวำงแผนกำรจัดกำรเรียน กำรสอนใหเ้ หมำะสมกับผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มอยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ 2. คาถามวจิ ยั 1) นักเรยี นแต่ละคนมลี ักษณะสำคัญอย่ำงไร 2) นักเรยี นแต่ละคนมจี ดุ เด่น จดุ ด้อยท่คี วรได้รบั กำรพฒั นำและปรบั ปรุงในเร่ืองอะไรบ้ำง 3) ครคู วรออกแบบจัดกำรเรยี นรู้อย่ำงไรใหส้ ำมำรถพัฒนำคุณภำพของแต่ละคนและทุกคนในภำคเรยี นน้ี

3. วตั ถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อวิเครำะห์ข้อมูลพ้ืนฐำนด้ำนต่ำง ๆ ของนักเรียนที่เรียนในรำยวิชำสุขศึกษำและพลศึกษำ ชั้น ประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปี กำรศกึ ษำ 2564 2. เพ่ือศึกษำจุดเด่น และจุดด้อย ท่ีควรได้รับกำรพัฒนำและปรับปรุงนักเรียนแต่ละคนในชั้น ประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปี กำรศกึ ษำ 2564 3.เพื่อศึกษำแนวทำงกำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูให้สำมำรถพัฒนำคุณภำพของแต่ ละคนและทุกคนในช้ันประถมศึกษำปีที่ 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปกี ำรศกึ ษำ 2564 4. ขอบเขตของการวจิ ัย 4.1 ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จงั หวัดปทุมธำนี ปกี ำรศึกษำ 2564 จำนวน 32 คน 4.2 กล่มุ ตัวอยา่ ง ไดแ้ ก่ นักเรียนช้ันประถมศึกษำปที ่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปกี ำรศกึ ษำ 2564 จำนวน 32 คน 5. ประโยชนข์ องการวจิ ยั 5.1 ครรู จู้ กั ผเู้ รียนเป็นรำยบุคคล และจัดทำข้อมูลสำรสนเทศของนักเรยี นอย่ำงเปน็ ระบบ 5.2 ครูนำผลท่ีไดจ้ ำกกำรวิเครำะห์วจิ ยั นไ้ี ปวำงแผนกำรจดั กำรเรียนรู้เพื่อพัฒนำผเู้ รียนต่อไป 5.3 ครแู ละผ้เู ก่ยี วข้องมแี นวทำงในกำรพฒั นำผเู้ รยี นตำมจุดเน้นคุณภำพผู้เรยี น

บทท่ี 2 แนวคิด หลกั การ รำยงำนผลกำรวิเครำะห์ผู้เรียน รำยวิชำสุขศึกษำและพลศึกษำ ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียน วัดพืชนิมิต(คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จงั หวัดปทุมธำนี ปีกำรศึกษำ 2564 ได้ทำกำรศึกษำ แนวคิด ทฤษฎีเอกสำรและงำนวิจัยท่ีเก่ียวข้องเม่ือใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐำนในกำรดำเนินงำน กำรศึกษำและ รำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน ดงั นี้ 1. แนวคดิ ในกำรวเิ ครำะหผ์ เู้ รยี น 2. วตั ถุประสงค์ของกำรวิเครำะหผ์ ูเ้ รยี น 3. ขอบเขตของกำรวิเครำะห์ผูเ้ รยี น 4. กำรวเิ ครำะหผ์ เู้ รียนเป็นรำยบคุ คล 5. ด้ำนของข้อมูลท่จี ัดเก็บ 6. วธิ ีกำรจดั เกบ็ ข้อมูล 1. แนวคิดในการวิเคราะห์ผูเ้ รียน 1) กำรจัดกำรเรยี นรู้ให้ประสบควำมสำเร็จมผี ลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี นรู้สูง ผู้เรียนควรมคี วำม พร้อมท่ีดใี นทุก ๆ ด้ำน ดงั นั้นกอ่ นจะเรมิ่ ดำเนนิ กำรสอนวิชำใด ๆ ควรมีกำรศึกษำวิเครำะห์ ผเู้ รียนเปน็ รำยบุคคลทีเ่ กีย่ วกับ - ควำมพร้อมด้ำนควำมรู้ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ - ควำมพร้อมดำ้ นสตปิ ัญญำ - ควำมพร้อมด้ำนร่ำงกำย - ควำมพร้อมดำ้ นสงั คม 2) กอ่ นจะเร่มิ ดำเนินกำรจัดกำรเรียนรูว้ ิชำใดๆ ผูส้ อนควรศกึ ษำวเิ ครำะห์ผู้เรียนให้รู้ถงึ ควำม แตกต่ำงระหว่ำงบคุ คลในแต่ละด้ำน หำกพบผเู้ รียนคนใดมขี อ้ บกพร่องดำ้ นใดควรปรบั ปรุง แกไ้ ข ให้มีควำมพร้อมที่ดกี ่อน 3) กำรเตรยี มควำมพร้อมหรือกำรแกไ้ ขข้อบกพร่อง สำหรบั นกั เรียนท่ยี ังขำดควำมพร้อมในดำ้ น ใด ๆ ควรใช้กจิ กรรมหลำกหลำยแบบ หรือใชเ้ ทคนิควิธีกำรทีเ่ หมำะสมจนผเู้ รียนมีควำม พร้อม ดงั นี้ 2. วัตถุประสงค์การวิเคราะห์ผูเ้ รยี น 1) เพ่อื ศกึ ษำวเิ ครำะห์แยกแยะเก่ยี วกับควำมพร้อมของผ้เู รียนในแต่ละด้ำนเปน็ รำยบคุ คล 2) เพอ่ื ให้ครผู ูส้ อนได้รูจ้ กั ผู้เรียนเป็นรำยบคุ คล สำหรับส่งเสริมใหส้ ำมำรถพัฒนำตำมธรรมชำติของ แต่ละบคุ คลเต็มตำมศักยภำพ และหำทำงช่วยเหลอื ผเู้ รยี นที่มีข้อบกพร่อง ใหม้ ีควำมพร้อมที่ดีขึน้

3) เพอื่ ให้ผูส้ อนไดจ้ ดั เตรยี มกำรสอน ส่ือ หรอื นวัตกรรมสำหรับดำเนนิ กำรจดั กำรเรียนรู้แกผ่ ู้เรียน ได้สอดคล้องเหมำะและตรงตำมควำมต้องกำรของผูเ้ รยี นมำกยิง่ ขนึ้ 3. ขอบเขตของการวิเคราะห์ผูเ้ รยี น กำรวเิ ครำะหผ์ ้เู รียนเพือ่ แยกแยะหำควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคลในเร่อื งต่ำง ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1) ควำมรู้ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ (1) ควำมร้พู ้นื ฐำนของวชิ ำทีจ่ ะทำกำรเรยี นร้ใู นระดับชั้นน้นั ๆ (2) ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ (3) ควำมสนใจและสมำธิในกำรเรียนรู้ 2) ควำมพร้อมด้ำนสตปิ ัญญำ (1) กำรคิดรเิ รม่ิ สร้ำงสรรค์ (2) ควำมมเี หตุผล (3) ควำมสำมำรถในกำรเรยี นรู้/กำรลำดบั ควำม 3) ควำมพร้อมดำ้ นพฤติกรรม (1) กำรแสดงออก (2) กำรควบคมุ อำรมณ์ (3) ควำมมุ่งมั่น อดทน ขยนั หม่ันเพียร (4) ควำมรับผดิ ชอบ 4) ควำมพร้อมด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ (1) ดำ้ นสขุ ภำพร่ำงกำยสมบรู ณ์ (2) กำรเจริญเตบิ โตสมวัย (3) ควำมสมบูรณด์ ้ำนสขุ ภำพจิต 5) ควำมพรอ้ มด้ำนสังคม (1) กำรปรบั ตัวเข้ำกบั คนอ่ืน (2) กำรช่วยเหลือ เสยี สละแบง่ ปนั (3) กำรเคำรพ ครู กตกิ ำ และมีระเบยี บวนิ ัย

4. การวิเคราะหผ์ ูเ้ รียนเปน็ รายบุคคล เม่อื เปิดภำคเรียนแตล่ ะภำคเรียน โรงเรยี นได้รับมอบหมำยควำมรับผดิ ชอบใหค้ รจู ัดกำรเรยี นรู้ อยำ่ งมีคุณภำพใหก้ บั นักเรียนกลมุ่ ใหม่ ดังนัน้ ครูแตล่ ะคนจึงต้องเรยี นรู้ วิเครำะห์ เพื่อรจู้ ักนักเรียนเป็น รำยบุคคลใหเ้ พียงพอท่ีจะสำมำรถวำงแผนจัดกำรเรียนร้ทู ่ีเน้นผูเ้ รียนเปน็ สำคญั 5. ดา้ นของข้อมลู ทจ่ี ัดเก็บ ประกอบด้วย ด้ำน ภูมหิ ลงั ทำงครอบครัว, ผลกำรเรยี นรูต้ ำมหลักสตู ร,พฒั นำกำรด้ำนร่ำงกำย, อำรมณ,์ สงั คม, จิตใจ, สติปญั ญำ, คำ่ นยิ ม, ควำมถนัด,ควำมสนใจ, ศักยภำพ ข้อจำกดั สภำพปัญหำ และ ควำมตอ้ งกำรจำเปน็ 4/1. วิธีการจดั เกบ็ ขอ้ มูล ใชว้ ธิ กี ำรสงั เกต,กำรสัมภำษณ์และแบบสอบถำม ,แบบทดสอบวดั ควำมรู้พ้ืนฐำนก่อนเรียน และผล กำรเรียนในระดับช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรงุ ) อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธำนี ปีกำรศึกษำ 2564 แล้วมำวเิ ครำะห์ข้อมลู โดยวธิ ี ค่ำรอ้ ยละ, SWOT analysis ,PMIA (Plus, Minus, Interesting point, Approach)

บทท่ี 3 วธิ ดี าเนินการวิจัย กำรวิเครำะห์ผู้เรียนรำยบุคคลครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อวิเครำะห์ข้อมูลพ้ืนฐำนด้ำนต่ำง ๆ ของ นักเรียนท่ีเรียนในรำยวิชำสุขศึกษำและพลศึกษำ ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสด์ิ รำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปีกำรศึกษำ 2564 เพื่อศึกษำจุดเด่น และจุดด้อย ท่ีควร ได้รับกำรพัฒนำและปรับปรุงนักเรียนแต่ละคนใน โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) อำเภอคลอง หลวง จังหวัดปทุมธำนี ปีกำรศึกษำ 2564 และ เพื่อศึกษำแนวทำงกำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ของครูให้สำมำรถพัฒนำคุณภำพของแต่ละคนและทุกคนในช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำ สวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปีกำรศึกษำ 2564 มีวิธีกำรดำเนินงำนตำมลำดับ ดงั น้ี 1. กลุ่มเปำ้ หมำย 2. สำรสนเทศและข้อมลู ทเ่ี ก็บรวบรวม 3. แหลง่ ขอ้ มูล 4. เครอ่ื งมือท่ีใช้ในกำรเกบ็ ข้อมลู 5. วิธีกำรเก็บขอ้ มูล 6. กำรวิเครำะห์ข้อมูล 1. กล่มุ เปา้ หมาย ท่ีทำกำรวิจยั ในคร้ังน้ี คอื นกั เรยี นชั้นประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืช นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปกี ำรศึกษำ 2564 จำนวน 1 ห้อง นกั เรยี นทงั้ หมด จำนวน 32 คน 2. สารสนเทศและข้อมูลทเ่ี ก็บรวบรวม ประกอบดว้ ย 2.1 ภูมหิ ลังทำงครอบครวั 2.2 ผลกำรเรยี นรู้ตำมหลกั สูตร 2.3 พฒั นำกำรดำ้ น ร่ำงกำย อำรมณ์ สังคม จติ ใจ สตปิ ัญญำ คำ่ นิยม 2.4 ควำมสนใจ ควำมถนดั ศักยภำพ และควำมต้องกำรจำเป็น 2.5 ปัญหำ/ขอ้ จำกดั 3. แหลง่ ข้อมลู 3.1 แหลง่ ข้อมูลเอกสำร เช่น ระเบียนสะสม, ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษำ ปที ่ี 4/1 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปกี ำรศกึ ษำ 2564, แบบสำรวจ, แบบบนั ทึก 3.2 แหล่งขอ้ มูลบคุ คล เชน่ ครูทปี่ รึกษำ ผู้ปกครอง เพื่อนนกั เรยี น ตวั นกั เรียน ฯ

3.3 แหลง่ ขอ้ มูลเหตกุ ำรณ์ เชน่ พฤตกิ รรมกำรเขำ้ แถว พฤตกิ รรมในห้องเรยี น พฤติกรรมนอก หอ้ งเรยี น ฯลฯ 4. เครื่องมือทใี่ ช้ในการเกบ็ ขอ้ มูล 4.1 แบบวิเครำะหผ์ ูเ้ รียนรำยบุคคล 4.2 แบบสงั เกต 4.3 แบบสัมภำษณ์ 4.4 แบบบันทึก 5. วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล 5.1 ศกึ ษำเอกสำรจำก ผลกำรเรียนปกี ำรศกึ ษำ 2564 ระเบียนสะสม 5.2 สำรวจข้อมูลรำยบุคคล 5.3 สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน 4/1. การวเิ คราะหข์ อ้ มูล - SWOT analysis - คำ่ รอ้ ยละ - PMIA (Plus, Minus, Interesting point, Approach)

บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู กำรวิเครำะห์ผู้เรียนรำยบุคคลในปีกำรศึกษำ 2564 ได้วิเครำะห์ข้อมูลจำกนักเรียนชั้นประถมศึกษำปี ที่ 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี ปีกำรศึกษำ 2564 โดยวิเครำะห์ตำมประเด็นกำรวิเครำะห์ผู้เรียนรำยบุคคล 4 ด้ำนคือ 1) ด้ำนข้อมูลภูมิหลังครอบครัว 2) ผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น 3) พฒั นำกำรด้ำนตำ่ ง ๆ (รำ่ งกำย, จติ ใจ) 4) ควำมสำมำรถ ได้แบ่งกำรนำเสนอดังนี้ 4.1 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ด้านภูมหิ ลงั ครอบครัวดังแสดงในตารางท่ี 1 ตำรำงท่ี 1 แสดงผลกำรวิเครำะห์ข้อมลู ดำ้ นภูมหิ ลงั ครอบครัว ข้อมูล รายการ จานวนนกั เรยี น คน รอ้ ยละ 1.สถำนภำพบิดำ-มำรดำ 1.1 อยูร่ ว่ มกัน 19 59.37 1.2 หยำ่ ร้ำง 7 21.88 1.3 แยกกนั อยู่ 5 15.63 1.4 บดิ ำ/มำรดำถึงแก่กรรม 00 1.5 อยูร่ ่วมกบั บุคคลอนื่ 1 3.12 2. ทีพ่ ักของนักเรยี น 2.1 บ้ำนพักของตนเอง 9 28.13 2.2 พักบำ้ นญำติ 00 2.3 หอพัก/บ้ำนเช่ำ 23 71.87 2.4 อ่นื ๆ 00 3. อำชพี ผู้ปกครอง 3.1 เกษตรกรรม 1 3.12 3.2 รบั รำชกำร 00 3.3 ค้ำขำย 8 25 3.4 รับจ้ำงทว่ั ไป 7 21.88 3.5 อ่ืน ๆ (พนักงำนบริษทั ) 16 50 จำกตำรำงท่ี 1 พบวำ่ สถำนภำพบิดำ- มำรดำ อันดับที่ 1 อยู่รว่ มกนั รอ้ ยละ 59.37 อนั ดบั ที่ 2 หยำ่ ร้ำง รอ้ ยละ 21.88 อันดับที่3 แยกกนั อยู่ ร้อยละ 15.63 อนั ดบั ท่ี 4 อยู่รว่ มกับบุคคลอื่น รอ้ ยละ 3.12 ทีพ่ ักของนักเรียน อนั ดบั ท่ี 1 หอพัก/บ้ำนเชำ่ ร้อยละ 71.87 อนั ดบั ท่ี 2 พกั บ้ำนของตนเอง ร้อยละ 28.31

อำชีพของผู้ปกครอง อนั ดับที่ 1 อ่นื ๆ (พนักงำนบริษทั ) ร้อยละ 50 อนั ดบั ที่ 2 คำ้ ขำย ร้อยละ 25 อันดบั ที่ 3 รับจำ้ งท่ัวไป รอ้ ยละ 21.88 อนั ดับ 4 เกษตรกรรม ร้อยละ 3.12 4.2 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลด้านผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น ดงั ตารางที่ 2 ตำรำงที่ 2 แสดงผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลดำ้ นผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี น นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษำปีที่ 3/1 จำนวน นักเรยี น 32 คน ปกี ำรศกึ ษำ 2563 จำนวนคำที่ได้รับผลกำรเรียน ระดบั ผลกำรเรยี น 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 ภำษำไทย 0 0 2 3 6 2 7 12 คณิตศำสตร์ 00 7 3 8 3 8 3 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 02 2 1 2 5 2 18 สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม 0 0 0 0 0 0 2 30 ประวตั ิศำสตร์ 0 0 0 0 2 5 8 17 สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ 00 0 5 2 13 10 2 ศิลปะ 0 0 0 0 0 6 5 21 กำรงำนอำชพี 0 0 0 0 2 2 10 18 ภำษำตำ่ งประเทศ 0 0 0 4 5 10 5 8 รำยวิชำเพ่ิมเติม(ภำษำองั กฤษ) 0 0 0 6 2 5 6 13 รวม 0 2 11 22 29 51 63 142 ร้อยละ 0 0.62 3.44 6.87 9.06 15.94 19.69 44.38 จำกตำรำงที่ 2 พบวำ่ ระดบั ผลกำรเรียน อันดับท่ี 1 ระดับผลกำรเรยี น 4 ร้อยละ 44.38 อันดบั ท่ี 2 ระดับผลกำรเรียน 3.5 ร้อยละ 19.69 อันดับที่ 3 ระดับผลกำรเรียน 3 ร้อยละ 15.94 อันดับท่ี 4 ระดบั ผลกำรเรียน 2.5 ร้อยละ 9.06 อนั ดับท่ี 5 ระดับผลกำรเรียน 2 ร้อยละ 6.87 อันดับท่ี 6 ระดับ ผลกำรเรยี น 1.5 ร้อยละ 3.44 อนั ดบั ที่ 6 1.5 รอ้ ยละ 0.62 4.3 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ด้านผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ตารางที่ 3 แสดงผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู ดำ้ นผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรียนGPA ภำคเรียนท่ี 2 ปีกำรศกึ ษำ 2563 ระดับผลการเรยี นเฉลีย่ (GPA) ชัน้ /หอ้ ง ตา่ กว่า 1.00 1.00-1.99 2.00-2.99 3.00-4.00 จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ (คน) (คน) (คน) (คน) 3/1 - - - - 10 31.25 22 68.75 รวม - - - - 10 31.25 22 68.75

จำกตำรำงที่ 3 พบว่ำ ผลกำรเรยี นเฉลยี่ (GPA) ภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ 2563 อนั ดับท่ี 1 3.00-4.00 รอ้ ยละ 68.75 อันดบั ที่ 2 2.00-2.99 ร้อยละ 31.25 4.4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลทดสอบก่อนเรียน ตารางที่ 4 แสดงผลกำรทดสอบก่อนเรียนรำยวิชำสขุ ศึกษำและพลศึกษำ ชน้ั ป.4/1 ในกำรแบง่ กล่มุ เก่ง : ปำนกลำง : ออ่ น นักเรียนทั้งหมด 32 คน เลขท่ี คะแนน ลาดบั คะแนน เลขท่ี คะแนน ลาดบั คะแนน 1 12 H 22 12 H 28 M 23 11 H 39 M 24 7 M 4 11 H 25 5 L 57 M 26 7 M 68 M 27 5 L 77 M 28 5 L 85 L 29 9 M 98 M 30 11 H 10 7 M 31 9 M 11 11 H 32 9 M 12 7 M 13 5 L 14 9 M 15 7 M 16 9 M 17 12 H 18 11 H 19 6 M 20 8 M 21 8 M เลขที่ จานวน (คน) สงู High 1,4,11,17,18,22,23,30 8 คน (11-15 คะแนน) กลำง Medium 2,3,5,6,7,8,9,12,14,15,16,19,20,21,24,26,29,31,32 19 คน ( 6-10 คะแนน)

ตำ่ Low 8,13,25,27,28 5 คน (1-5 คะแนน) จำกตำรำงท่ี 4 พบว่ำ นักเรียนทไ่ี ด้รับคะแนนกลุม่ สูง (10-15 คะแนน) จำนวน 8 คน ร้อยละ25 นักเรียนท่ีได้รับคะแนนกลมุ่ กลำง (6-10 คะแนน) จำนวน 19 คน ร้อยละ 59.38 นกั เรียนท่ีไดร้ ับคะแนนกลุม่ ตำ่ (1-5 คะแนน) จำนวน 5 คน รอ้ ยละ15.62 4.5 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลพัฒนาการด้านต่าง ๆ ตารางท่ี 5 แสดงผลกำรวิเครำะหข์ ้อมูลพัฒนำกำรด้ำนต่ำง ๆ ขอ้ มูล รายการ จานวนนักเรยี น คน รอ้ ยละ 1.น้ำหนัก 1.1 ตำ่ กว่ำเกณฑม์ ำตรฐำน 2 6.25 1.2 ตำมเกณฑม์ ำตรฐำน 26 81.25 1.3 สงู กว่ำเกณฑม์ ำตรฐำน 4 12.5 2.ส่วนสูง 2.1 ตำ่ กว่ำเกณฑม์ ำตรฐำน 2 6.25 2.2 ตำมเกณฑ์มำตรฐำน 27 84.37 2.3 สงู กว่ำเกณฑ์มำตรฐำน 3 9.38 3.สำยตำ 3.1 ปกติ 31 96.88 3.2 ส้ัน 1 3.12 3.3 ยำว 00 3.4 บอดสี 00 3.5 อ่นื ๆ 00 4.สขุ ภำพ/ 4.1 ปกติ 30 93.76 โรคประจำตัว 4.2 บกพรอ่ งทำงรำ่ งกำย (พิกำร) 00 4.3 หอบ 1 3.12 4.4 คลื่นไฟฟ้ำในสมองไม่เท่ำกัน 1 3.12 4.5 กระเพำะอำหำร 00 4.4/1 อื่น ๆ 00 5.บุคลกิ ภำพ 5.1 แต่งกำยถกู ต้องตำมระเบียบ 32 100 ทำงกำย 5.2 ควำมสะอำดของรำ่ งกำย 0 5.3 มำรยำทงดงำม 0 4/1.สภำพ 6.1 แจ่มใส ร่ำเริง 32 100 อำรมณ์ 6.2 ซมึ เศรำ้ 0 6.3 ซกุ ซน 0 6.4 จริงจัง/เครียด 0

จำกตำรำงท่ี 5 พบวำ่ น้ำหนักของนกั เรียน อันดบั ท่ี 1 ตำมเกณฑม์ ำตรฐำน ร้อยละ81.25 อันดบั ท่ี 2 สงู กว่ำเกณฑม์ ำตรฐำน รอ้ ยละ 12.5 อันดับที่ 3 ตำ่ กวำ่ เกณฑ์มำตรฐำน ร้อยละ 6.25 สว่ นสูงของนักเรยี น อนั ดับที่ 1 ตำมเกณฑม์ ำตรฐำน รอ้ ยละ84.37 อนั ดับท่ี 2 สูงกว่ำเกณฑ์ มำตรฐำน รอ้ ยละ 9.38 อนั ดับที่ 3 ตำ่ กว่ำเกณฑ์มำตรฐำน รอ้ ยละ 6.25 สำยตำ อนั ดับท่ี 1 ปกติ รอ้ ยละ 96.88 อันดับที่ 2 สน้ั ร้อยละ 3.12 สขุ ภำพ/โรคประจำตวั อนั ดบั ท่ี 1 ปกติ รอ้ ยละ 93.76 อนั ดับท่ี 2 หอบ รอ้ ยละ 3.12 อันดบั ที่ 3 คล่นื ไฟฟ้ำในสมองไม่เท่ำกนั รอ้ ยละ 3.12 บุคลิกภำพทำงกำย อนั ดบั ท่ี 1 แตง่ กำยถกู ต้อง รอ้ ยละ 100 สภำพอำรมณ์ อนั ดับท่ี 1 แจ่มใส รำ่ เริง ร้อยละ 100 4.6 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ด้านความสนใจ และความสามารถพิเศษ ตารางท่ี 6 แสดงผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลด้ำนควำมสนใจ และควำมสำมำรถพเิ ศษ ข้อมูล รายการ จานวนนักเรยี น คน รอ้ ยละ 1.วชิ ำทช่ี อบ 1.1 กำรงำนอำชีพ 5 15.63 1.2 สุขศึกษำและพลศกึ ษำ 13 40.62 1.3 ภำษำไทย 2 6.25 1.4 วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี 2 6.25 1.5 คณิตศำสตร์ 4 12.5 1.6 ภำษำองั กฤษ 00 1.7 ศลิ ปะ 6 18.75 1.8 สังคมศึกษำ 00 2.ควำมสำมำรถ 2.1 กีฬำ 14 43.75 พเิ ศษ 2.2 ดนตรี 00 2.3 ศลิ ปะ 5 15.63 2.4 คอมพวิ เตอร์ 11 34.37 2.5 อ่ืน ๆ 2 6.25 3.อำชพี ทใ่ี ฝ่ฝนั 3.1 รับรำชกำร 4 12.5 3.2 พนกั งำนบริษทั 23 71.87 3.3 อำชพี อสิ ระ 5 15.63 3.4 อนื่ ๆ 00

4.ระดบั 4.1 ต่ำกวำ่ ปริญญำตรี 6 18.75 กำรศกึ ษำที่ 4.2 ปริญญำตรี 23 71.87 ตอ้ งกำร 4.3 ปริญญำโท 1 3.12 4.4 ปรญิ ญำเอก 2 6.25 4.5 ไม่ต้องกำรศกึ ษำต่อ 00 จำกตำรำงท่ี 6 พบว่ำ วชิ ำทนี่ ักเรยี นชอบท่ีสดุ อนั ดับท่ี 1 สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ร้อยละ 40.63 อนั ดับท่ี 2 ศลิ ปะ รอ้ ยละ 18.75 อนั ดับท่ี 3 กำรงำนอำชีพ รอ้ ยละ 15.63 อนั ดับที่ 4 คณิตศำสตร์ ร้อยละ 12.5 อนั ดบั ที่ 5 ภำษำไทย วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รอ้ ยละ 6.25 ควำมสำมำรถพเิ ศษ อันดบั ท่ี 1 กฬี ำ 43.75 อันดบั ท่ี 2 คอมพวิ เตอร์ ร้อยละ 34.37 อนั ดับ 3 ศลิ ปะ ร้อยละ 15.63 อำชพี ท่ีใฝ่ฝนั อนั ดับที่ 1 พนักงำนบรษิ ัท รอ้ ยละ 71.87 อันดับที่ 2 อำชีพอิสระ ร้อยละ 15.63 อันดบั 3 รับรำชกำร ร้อยละ 12.5 ระดับกำรศกึ ษำทตี่ ้องกำร อันดับท่ี 1 ปรญิ ญำตรี รอ้ ยละ 71.87 อนั ดบั ที่ 2 ตำ่ กว่ำปรญิ ญำตรี รอ้ ยละ 18.75 อนั ดบั 3 ปรญิ ญำเอก ร้อยละ 6.25 อันดับ 4 ปริญญำโท ร้อยละ 3.12 4.7 ผลการวิเคราะห์ผ้เู รียนตามแบบ SWOT Analysis ดงั น้ี O จดุ แข็ง โอกาส 1. ครมู ีเป้ำหมำยในกำรจดั กำรเรยี นรูเ้ พ่ือ 1. โรงเรียนมเี ป้ำหมำยในกำรพัฒนำ พฒั นำคุณภำพนกั เรียนโดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง คุณภำพของนักเรยี น จึงมีกำร กำรยกระดับผลสัมฤทธิท์ ำงกำรเรยี นให้ สนับสนนุ ในทกุ ๆดำ้ น สูงขน้ึ 2. นกั เรยี นมีควำมสนใจใน พลศกึ ษำและสุขศึกษำ SW อุปสรรค จดุ ออ่ น 1. จำนวนนักเรียน 11 คน 1. ผลกำรสอบ 5 คน อย่ใู นระดบั 2. นกั เรียนมีควำมสนใจในดำ้ น คอ่ นขำ้ งต่ำ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสูงแต่ขำดอุปกรณ์ 2. ผลกำรสอบนกั เรียนไมไ่ ด้รับอยู่ใน กำรฝกึ ทักษะกำรคดิ T

4.7 ผลการวเิ คราะห์ PMIA (Plus, Minus, Interesting point, Approach) ตารางท่ี 7 แสดงผลกำรวเิ ครำะห์ PMIA ของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษำปีที่ 4/1 ชน้ั /ห้อง จุดเด่น จดุ ดอ้ ย จดุ ควรพฒั นา แนวทางพฒั นา ป.4/1 (Plus) (Minus) (Interesting (Approach) นักเรียนมคี วำม - นกั เรยี นขำดกำร point) - สร้ำงชุดกจิ กรรม - พัฒนำ กำรเรียนรู้เพื่อ สนใจ ตั้งใจเรียนใน กำรคดิ สง่ เสริม กระบวนกำรคดิ ควำมสำมำรถ วชิ ำพลศึกษำและ - ผลสมั ฤทธิ์ของ และผลสมั ฤทธิ์ ทำงกำรคิด ของนักเรยี น สขุ ศึกษำ นกั เรียนอยใู่ น ระดบั ปำนกลำง คอ่ นข้ำงต่ำ จำกตำรำงที่ 7 พบวำ่ จุดเดน่ คือนักเรยี นมคี วำมสนใจ ต้ังใจเรียนในวชิ ำพลศกึ ษำและสขุ ศกึ ษำ จดุ ด้อย คือ นกั เรียนขำดกำรคดิ และ ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนอยู่ในระดบั ค่อนข้ำงตำ่ จุดท่คี วรพฒั นำ คือ พัฒนำกระบวนกำรคิดและผลสัมฤทธขิ์ องนกั เรียน แนวทำงพัฒนำ คอื สรำ้ งชดุ กจิ กรรมกำรเรียนร้เู พ่ือส่งเสรมิ ควำมสำมำรถทำงกำรคดิ

โรงเรยี นวัดพชื นิมติ (สวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) สรปุ ผลการวเิ คราะห์ผเู้ รียนรายบุคคล รหสั วิชา พ14101 รายวิชาสุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั ป.4/1 กล่มุ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ครผู ้สู อน นางสาววรรณนษิ า พุ่มอไุ ร เกณฑก์ ำรประเมิน คำ่ เฉลีย่ 1.00-1.49 หมำยถงึ ปรบั ปรงุ : คำ่ เฉลีย่ 1.50-1.99 หมำยถึง ปำนกลำง : คำ่ เฉลีย่ 2.00-3.00 หมำยถงึ ดี ผลการวิเคราะหผ์ ้เู รยี น สรุปผล ดา้ น รายการวิเคราะหผ์ เู้ รียนรายบคุ คล ดี ปานกลาง ปรับปรงุ ที่ รอ้ ย ร้อย รอ้ ย x̄ ความหมาย คน ละ คน ละ คน ละ 1. ควำมรู้ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ ปำนกลำง 1.1 ควำมรูพ้ ื้นฐำน 6 18.75 23 71.87 3 9.38 1.97 ปำนกลำง 1 1.2 ควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ 5 15.63 17 53.12 10 31.25 1.84 ปำนกลำง 1.3 ควำมสนใจและสมำธใิ นกำรเรยี นรู้ 5 15.63 20 62.5 6 18.75 1.72 ปำนกลำง 1.4 ควำมสำมำรถในกำรคิด 3 9.38 18 56.25 11 34.37 1.81 ปำนกลำง 2. ควำมพร้อมด้ำนสติปญั ญำ ปำนกลำง 2 2.1 ควำมคิดริเริ่ม สร้ำงสรรค์ 5 15.63 20 62.5 7 21.87 1.91 ปำนกลำง 2.2 ควำมมเี หตผุ ล 6 18.75 17 53.12 9 28.13 2.09 ดี 2.3 ควำมสำมำรถในกำรเรยี นรู้ 11 34.37 17 53.12 3 9.38 1.97 ปำนกลำง 3. ควำมพรอ้ มด้ำนพฤตกิ รรม ดี 3 3.1 กลำ้ แสดงออก 6 18.75 18 56.25 8 25 2.19 ดี 3.2 กำรควบคมุ อำรมณ์ 6 18.75 21 65.62 5 15.63 1.94 ปำนกลำง 3.3 ควำมมุง่ มั่น ขยันหม่นั เพยี ร 3 9.38 22 68.75 7 21.87 2.00 ดี 4. ควำมพรอ้ มด้ำนรำ่ งกำยและจติ ใจ ดี 4 4.1 สขุ ภำพร่ำงกำยสมบูรณ์ 23 71.88 8 25 1 3.12 2.66 ดี 4.2 กำรเจรญิ เติบโตสมวยั 13 40.63 19 59.37 0 0 2.38 ดี 4.3 มีสุขภำพจิตดี 12 37.5 20 62.5 0 0 2.66 ดี 5. ควำมพรอ้ มดำ้ นสังคม ดี 5 5.1 กำรปรบั ตวั เข้ำกับคนอ่ืน 9 28.13 22 68.75 1 3.12 2.25 ดี 5.2 กำรชว่ ยเหลือ เสยี สละ แบ่งปนั 7 21.87 23 71.88 2 6.25 2.09 ดี 5.3 มีระเบยี บวินยั เคำรพกฎ กตกิ ำ 12 37.5 19 59.38 1 3.12 2.22 ดี เฉลย่ี รวม 2.11 ดี

จากตารางสรปุ ผลการวิเคราะห์ผู้เรียนชัน้ ป.4/1 จานวน 32 คน พบว่าค่าเฉลี่ยดา้ นความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ความพรอ้ มดา้ นสติปัญญา ความพรอ้ มดา้ นพฤตกิ รรม ความพร้อมดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ ความพร้อมดา้ นสังคม มีคา่ เฉลย่ี เทา่ กับ 2.11 ระดบั ดี ครูผสู้ อนไดน้ ำขอ้ มลู กำรวิเครำะหผ์ ้เู รยี น มำจัดแบ่งกลุ่มผเู้ รยี น ออกเปน็ 3 กล่มุ โดยพจิ ำรณำเกณฑ์ ควำมรคู้ วำมสำมำรถและประสบกำรณ์ ควำมพร้อมดำ้ นสตปิ ญั ญำ ควำมพร้อมด้ำนพฤตกิ รรม ควำมพรอ้ มด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ ดังน้ี สรุปผลกำรวเิ ครำะหค์ ณุ ภำพผเู้ รยี น ระดับคณุ ภำพ จำนวน(คน) รอ้ ยละ กลุ่มดี 22 68.75 กลุม่ ปำนกลำง 10 31.25 กลมุ่ ทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ 0 0.00 ลงช่ือ ครผู ้สู อน (นางสาววรรณนิษา พมุ่ อไุ ร)

1. ข้อมูลเก่ียวกับผเู้ รียนแตล่ ะคน ท่ีครูเก็บเพือ่ วิเคราะห์นักเรยี นเป็นรายบุคค โรงเรียนวัดพืชน แบบวเิ ครำะหผ์ เู้ รยี นรำยบุคคล รหัสวิชำ พ14101 เกณฑก์ ำรประเมิน คำ่ เฉล่ีย 1.00-1.49 หมำยถงึ ปรับปรงุ : ค รำยกำรวเิ ครำะหผ์ ู้เรียน (ใสห่ มำยเลข ลงในช่องเกณฑค์ ะแนนที่เลือก) โดย 3 หมำยถงึ ดี 2 หมำยถึง ปำนก ข้อมูลผู้เรยี น ดา้ นความรคู้ วามสามารถและ ความพร้อ ประสบการณ์ สติปญั เลข ่ีทชื่อ-นามสกุล ควำมรู้พ้ืนฐำน ควำมสำมำรถในกำร แก้ ัปญหำ ควำมสนใจ สมำธิกำร เ ีรยน ู้ร ควำมสำมำรถในกำร ิคด วิเครำะห์ ควำม ิคด ิรเริ่ม ส ้รำงสรร ์ค ควำมมีเห ุตผล 1 ด.ช.นรนิ ทร สทิ ธิโอฬำรสกลุ 2 1 2 1 2 2 2 ด.ช.ธนพฒั น์ คนั สินธ์ 2 2 1 2 22 3 ด.ช.พรี ภำส ขวัญสุข 1 1 1 1 11 4 ด.ช.ภทั รชัย ษำรกั 2 1 2 1 22 5 ด.ช.ทนิ กร เตรยี มทะนะ 1 2 1 1 22

คล นิมิต (คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง) รำยวิชำ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ ช้นั ป.4/1 จำนวนนกั เรียน 32 คำ่ เฉล่ีย 1.50–1.99 หมำยถงึ ปำนกลำง : คำ่ เฉลย่ี 2.00–3.00 หมำยถึง ดี กลำง 1 หมำยถึง ปรับปรุง อมด้าน ความพร้อมดา้ น ความพรอ้ มดา้ นร่างกาย ความพรอ้ มดา้ นสังคม ญญา พฤตกิ รรม และจติ ใจ ควำมสำมำรถในกำร x̄ เ ีรยนรู้ กำรแสดงออก กำรควบ ุคมอำรม ์ณ ควำมมุ่ง ัม่นขยันหม่ันเ ีพยร ุสขภำพ ่รำงกำยสม ูบร ์ณ กำรเจริญเ ิตบโตสมวัย ้ดำน ุสขภำพ ิจต กำรป ัรบตัวเ ้ขำกับผู้ ่อืน กำรเ ีสยสละไม่เห็นแก่ ัตว มีระเบียบวินัย เคำรพกฎ ก ิตกำ 1 2 2 1 3 3 2 2 2 2 1.88 2 2 2 2 3 3 3 3 3 3 2.31 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1.00 1 1 1 2 3 2 3 2 3 2 1.88 1 3 2 1 3 3 3 2 2 2 1.94

6 ด.ญ.จรนิ ทรพ์ ร ชยั ณรงค์ 3 3 3 3 23 7 ด.ญ.ธญั รดา พกิ ลุ 2 2 2 2 22 8 ด.ช.ศภุ ณฐั ​ ทาคา 2 2 2 3 22 9 ด.ญ.พรรณภิ า บตุ รเทศ 2 2 2 2 22 10 ด.ช.ธณากร ย้ิมฉาย 2 2 2 2 22 11 ปลมิ ล กล่ินหอม 2 1 2 2 21 12 ด.ช.อภิชน นเิ วชกลุ 2 2 2 2 22 13 ด.ช.ศภุ ชยั ชะนวน 3 3 3 3 33 14 ด.ญ.ธญั ญามาศ. จงเกษกรรณ์ 2 2 2 2 2 2 15 ด.ญ.วาสนา เหลอื ลน้ 2 2 2 2 22 16 ด.ญ.จริ ชยา ชาตอิ าไพ 2 1 1 2 12 17 ด.ช.ศลิ า ยุพานชิ ย์ 2 1 1 1 12 18 ด.ช.พศั ธนญั ญ์ชยั ชยั พรปภารตั 3 2 3 1 2 2 19 ด.ช.สนั ติ แกว้ จีน 2 3 1 1 33 20 ด.ญ.อมลวรรณ เชยี งอนิ ทร์ 2 2 2 2 2 2 21 ด.ช.ปณุ มนสั รุ่งระวี 2 2 1 2 23 22 ด.ช.ฉตั รตโิ ชติ ชศู รี 2 2 2 2 22 23 ด.ญ.ธนภทั ร ชา่ งทอง 2 1 1 2 12 24 ด.ช.เตชติ เพช็ รกลาง 1 2 1 1 22 25 ด.ญ.รรรชนก สวุ รรณประจกั ษ์ 2 2 2 2 2 2

3 2 2 3 3 3 3 3 2 3 2.75 2 3 2 2 3 3 3 3 3 3 2.44 2 3 2 2 2 2 2 3 3 3 2.31 2 2 2 2 2 2 3 2 2 2 2.06 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2.00 2 1 1 2 3 3 3 3 3 3 2.13 2 2 2 2 3 3 3 2 2 2 2.19 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3.00 2 2 2 2 3 3 2 3 2 2 2.19 2 3 2 2 3 2 3 2 2 2 2.19 3 2 2 2 3 2 2 1 1 1 1.75 1 1 2 2 2 2 2 2 2 2 1.63 2 1 1 2 3 2 2 2 2 2 2.00 3 3 2 3 1 2 3 3 3 3 2.44 2 2 3 2 3 3 3 3 3 3 2.44 2 2 2 3 3 2 3 3 1 3 2.25 2 3 2 2 3 2 3 2 2 2 2.19 3 2 2 2 3 2 2 1 1 1 1.75 1 3 2 1 3 3 3 2 2 2 1.94 2 2 2 2 2 2 3 2 2 2 2.06

26 ด.ช.ศรนั ภทั ร ศรศรี 2 2 1 2 23 27 ด.ช.เขง่ ควนั 1 2 1 1 22 28 ด.ช.รัตนพล สจี ันทร์ 2 2 2 2 22 29 ด.ช.กติ ตภิ ูมิ แสงสด 2 1 1 2 12 30 ด.ญ.ณฐภัทร ไชยเสนา 2 2 2 2 22 31 ด.ช.ธนดล ม่ิงขวญั 2 2 2 2 22 32 ด.ญ.จรญิ ศรี ประทานกลุ 2 2 2 2 22 1.97 1.84 1.72 1.81 1.91 2.09 1 x̄

2 2 2 3 3 2 3 3 1 3 2.25 1 3 2 1 3 3 3 2 2 2 1.94 2 2 2 2 2 2 3 2 2 2 2.06 3 2 2 2 3 2 2 1 1 1 1.75 2 2 2 2 2 2 3 2 2 2 2.06 2 3 2 2 3 3 3 3 3 3 2.44 2 3 2 2 3 2 3 2 2 2 2.19 1.97 2.19 1.94 2.00 2.66 2.38 2.66 2.25 2.09 2.22

บทที่ 5 สรุปผลการวจิ ยั กำรวิจยั ครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพอ่ื 1. เพื่อวิเครำะห์ข้อมูลพ้ืนฐำนด้ำนต่ำง ๆ ของนักเรียนท่ีเรียนในรำยวิชำสุขศึกษำและพล ศึกษำ ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธำนี ปกี ำรศึกษำ 2564 2. เพื่อศึกษำจุดเด่น และจุดด้อย ท่ีควรได้รับกำรพัฒนำและปรับปรุงนักเรียนแต่ละคนในช้ัน ประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จังหวัด ปทมุ ธำนี ปีกำรศกึ ษำ 2564 3.เพ่ือศึกษำแนวทำงกำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูให้สำมำรถพัฒนำคุณภำพ ของแต่ละคนและทุกคนในช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4/1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธำนี ปกี ำรศกึ ษำ 2564 สรปุ ผลการวิจัย 1. การวิเคราะห์ข้อมลู ด้านภูมหิ ลงั ครอบครวั จากตารางท่ี 1 พบวา่ สถำนภำพบิดำ- มำรดำ อนั ดับที่ 1 อย่รู ว่ มกนั ร้อยละ 59.37 อนั ดับท่ี 2 หยำ่ รำ้ ง ร้อยละ 21.88 อันดบั ที่3 แยกกนั อยู่ รอ้ ยละ 15.63 อันดบั ที่ 4 อยู่รว่ มกบั บคุ คล อน่ื ร้อยละ 3.12 ทพี่ ักของนักเรยี น อันดบั ที่ 1 หอพัก/บำ้ นเช่ำ ร้อยละ 71.87 อันดับท่ี 2 พักบำ้ นของตนเอง ร้อยละ 28.31 อำชพี ของผูป้ กครอง อนั ดับที่ 1 อน่ื ๆ (พนกั งำนบริษทั ) ร้อยละ 50 อนั ดบั ท่ี 2 ค้ำขำย ร้อย ละ 25อันดับท่ี 3 รบั จ้ำงทวั่ ไป ร้อยละ 21.88 อันดบั 4 เกษตรกรรม ร้อยละ 3.12 2. การวเิ คราะหข์ ้อมูลด้านผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ปกี ารศึกษา 2564 จากตารางท่ี 2 พบว่า ระดับผลกำรเรยี น อันดบั ที่ 1 ระดบั ผลกำรเรยี น 4 ร้อยละ 44.38 อนั ดบั ท่ี 2 ระดับผลกำรเรยี น 3.5 รอ้ ยละ 19.69 อนั ดบั ที่ 3 ระดับผลกำรเรยี น 3 รอ้ ยละ 15.94 อันดบั ท่ี 4 ระดับผลกำรเรยี น 2.5 ร้อยละ 9.06 อันดบั ท่ี 5 ระดับผลกำรเรยี น 2 ร้อยละ 6.87 อนั ดับท่ี 6 ระดับผลกำรเรยี น 1.5 รอ้ ยละ 3.44 อนั ดบั ที่ 6 1.5 รอ้ ยละ 0.62 3. การวเิ คราะหข์ ้อมลู ด้านผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น จากตารางที่ 3 พบว่า ผลกำรเรยี นเฉลีย่ (GPA) ภำคเรยี นที่ 2 ปกี ำรศึกษำ 2563 อนั ดับ ท่ี 1 3.00-4.00 รอ้ ยละ 68.75 อันดบั ท่ี 2 2.00-2.99 ร้อยละ 31.25

4. การวิเคราะหข์ อ้ มูลทดสอบก่อนเรยี น จากตารางที่ 4 พบวำ่ นักเรียนทีไ่ ดร้ บั คะแนนกลุ่มสงู (10-15 คะแนน) จำนวน 8 คน ร้อย ละ25 นกั เรียนทไี่ ด้รับคะแนนกลมุ่ กลำง (6-10 คะแนน) จำนวน 19 คน ร้อยละ 59.38 นกั เรยี นที่ ไดร้ บั คะแนนกลุ่มตำ่ (1-5 คะแนน) จำนวน 5 คน ร้อยละ15.62 5. การวิเคราะห์ขอ้ มูลพัฒนาการด้านต่าง ๆ จากตารางท่ี 5 พบว่ำ น้ำหนกั ของนักเรยี น อนั ดบั ที่ 1 ตำมเกณฑ์มำตรฐำน ร้อยละ81.25 อันดับท่ี 2 สงู กวำ่ เกณฑ์มำตรฐำน ร้อยละ 12.5 อันดบั ที่ 3 ต่ำกวำ่ เกณฑม์ ำตรฐำน ร้อยละ 6.25 ส่วนสูงของนกั เรียน อันดบั ที่ 1 ตำมเกณฑ์มำตรฐำน รอ้ ยละ84.37 อันดบั ท่ี 2 สงู กวำ่ เกณฑ์ มำตรฐำน ร้อยละ 9.38 อันดับที่ 3 ตำ่ กว่ำเกณฑ์มำตรฐำน รอ้ ยละ 6.25 สำยตำ อันดบั ที่ 1 ปกติ รอ้ ยละ 96.88 อันดบั ท่ี 2 ส้ัน ร้อยละ 3.12 สขุ ภำพ/โรคประจำตวั อันดบั ท่ี 1 ปกติ รอ้ ยละ 93.76 อันดบั ท่ี 2 หอบ ร้อยละ 3.12 อันดบั ท่ี 3 คลน่ื ไฟฟ้ำในสมองไม่เทำ่ กัน ร้อยละ 3.12 บคุ ลิกภำพทำงกำย อันดับท่ี 1 แต่งกำยถูกต้อง ร้อยละ 100 สภำพอำรมณ์ อันดับท่ี 1 แจ่มใส รำ่ เรงิ รอ้ ยละ 100 6. การวเิ คราะหข์ ้อมูลดา้ นความสนใจ และความสามารถพิเศษ จากตารางที่ 6 พบว่า วิชำท่ีนักเรียนชอบท่ีสุด อันดับที่ 1 สุขศึกษำและพลศึกษำ ร้อยละ 40.63 อันดับท่ี 2 ศิลปะ ร้อยละ 18.75 อันดับที่ 3 กำรงำนอำชีพ ร้อยละ 15.63 อันดับที่ 4 คณติ ศำสตร์ รอ้ ยละ 12.5 อนั ดบั ท่ี 5 ภำษำไทย วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี รอ้ ยละ 6.25 ควำมสำมำรถพิเศษ อันดับท่ี 1 กีฬำ 43.75 อันดับท่ี 2 คอมพิวเตอร์ ร้อยละ 34.37 อันดับ 3 ศิลปะ ร้อยละ 15.63 อำชีพที่ใฝ่ฝัน อันดับท่ี 1 พนักงำนบริษัท ร้อยละ 71.87 อันดับท่ี 2 อำชีพอิสระ ร้อยละ 15.63 อันดับ 3 รับรำชกำร ร้อยละ 12.5 ระดับกำรศึกษำทต่ี ้องกำร อันดับที่ 1 ปริญญำตรี ร้อยละ 71.87 อนั ดบั ท่ี 2 ต่ำกว่ำปริญญำตรี รอ้ ยละ 18.75 อันดับ 3 ปริญญำเอก รอ้ ยละ 6.25 อันดับ 4 ปรญิ ญำโท รอ้ ยละ 3.12 7.การวเิ คราะห์ PMIA (Plus, Minus, Interesting point, Approach) จากตารางที่ 7 พบวา่ จดุ เด่น คือนักเรยี นมคี วำมสนใจ ตั้งใจเรียนในวชิ ำพลศึกษำและ สุขศึกษำ จุดด้อย คือ นักเรียนขำดกำรคิด และ ผลสัมฤทธ์ิของนักเรียนอยู่ในระดับค่อนข้ำงต่ำ จุดที่ ควรพัฒนำ คือ พัฒนำกระบวนกำรคิดและผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน แนวทำงพัฒนำ คือ สร้ำงชุด กจิ กรรมกำรเรียนรูเ้ พ่ือสง่ เสริมควำมสำมำรถทำงกำรคดิ ข้อเสนอแนะจากการวจิ ัย 1. ครูตอ้ งศกึ ษำนักเรียนเป็นรำยบคุ คลก่อนเพ่ือวำงแผนในกำรออกแบบกำรเรยี นรู้ 2. ครูควรเตรยี มส่ือกำรเรียนกำรสอนให้เหมำะสมกับผู้เรียน 3. ครูควรสอบถำมวธิ ีกำรเรยี นรู้ท่นี ักเรียนต้องกำรเรียน

ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากการวิจัยคร้งั น้ี 1. ครผู สู้ อนสำมำรถออกแบบกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นกำรสอนใหเ้ หมำะสมกับนักเรียน 2. แนวทำงกำรเตรียมควำมพร้อมและพื้นฐำนของนกั เรียนจะเรียนเรื่องใหม่ 3. แนวทำงกำรวำงแผนพฒั นำและปรับปรงุ นักเรียนให้สอดคลอ้ งกับจดุ เดน่ จดุ ด้อยของ ผู้เรียนต่อไป

ภาคผนวก

1.การวเิ คราะหผ์ ูเ้ รียน แบบวิเครำะหผ์ ู้เรยี นรำยบคุ คล

แบบวิเคราะหผ์ ู้เรยี นรายบคุ คล สาหรับนักเรยี นระดบั การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน 1. ชื่อ – สกุล……………………………………………………วนั /เดือน/ปีเกิด……………………อำยุ………..ปี 2. ผลกำรเรียนในปีกำรศึกษำท่ีผ่ำนมำ ระดับชั้น เกรดเฉลยี่ ……………………………………… 3. ข้อมลู ดำ้ นสุขภำพ นำ้ หนัก………..กก. ส่วนสูง…………ซม. โรคประจำตวั …………………………. 4. ปัจจบุ นั พักอำศยั อยู่กับ………………ซ่งึ เป็นผู้ปกครอง ช่ือ – สกลุ ……………………………………………. 5. บ้ำนเลขท่ี…………..หมทู่ ่ี……..ตำบล ....................อำเภอ ....................จงั หวดั ................ ผลกำรประเมิน ดี ปำน ปรับ สรปุ ผล ดำ้ น รำยกำรวเิ ครำะห์ผู้เรียน กลำง ปรุง กำร กำรปรบั ปรุง แก้ไข ที่ (3) (2) (1) ประเมนิ 1 ด้านความรู้ ความสามารถ ……………………………………… และ ประสบการณ์ ……………………………………… 1) ควำมรูพ้ น้ื ฐำน …… …… …… ……………………………………… 2) ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ญั หำ …… …… …… 3) ควำมสนใจ / สมำธิในกำรเรยี น …… …… …… 2 ความพรอ้ มด้านสติปญั ญา ……………………………………… 1) ควำมคิดริเริ่ม สร้ำงสรรค์ ……. ……. ……. ……………………………………… 2) ควำมมเี หตผุ ล ……. ……. ……. …………………………………… 3) ควำมสำมำรถในกำรเรยี นรู้ ……. ……. ……. 3 ความพร้อมด้านพฤตกิ รรม ……………………………………… 1) กล้ำแสดงออก ……. ……. …… ……………………………………… 2) กำรควบคุมอำรมณ์ ……. ……. …… …………………………………… 3) ควำมมงุ่ มัน่ ขยันหม่ันเพยี ร ……. ……. …… 4 ความพร้อมดา้ นร่างกาย จิตใจ ……………………………………… 1) สขุ ภำพรำ่ งกำยสมบูรณ์ ……… ……. ……. ……………………………………… 2) กำรเจริญเติบโตสมวยั ……… ……. …… …………………………………… 3) มีสุขภำพจิตดี ……. …… 5 ความพร้อมดา้ นสังคม ……………………………………… 1) กำรปรับตัวเข้ำกับผอู้ นื่ …… …… …… ……………………………………… 2) กำรช่วยเหลือ เสียสละ แบ่งปัน …… …… …… …………………………………… 3) มีระเบยี บวนิ ัย เคำรพกฎ กติกำ …… …… ……

ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของครู ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ลงชือ่ (นำงสำววรรณนษิ ำ พุ่มอุไร)

2. แบบสรปุ ผลการวเิ คราะห์ ผ้เู รยี น

3. การสรา้ งเครื่องมอื เพ่ือ การวเิ คราะห์ผ้เู รยี น

แนวทางในการสร้างเครือ่ งมือเพอ่ื วิเคราะห์ผู้เรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… กำรสร้ำงเคร่ืองมือสำหรบั นำมำทดสอบ หรือตรวจสอบผูเ้ รียน เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ข้อมูลสำหรับ วิเครำะหผ์ ู้เรยี นถือเป็นเรือ่ งที่มคี วำมจำเป็นและมีควำมสำคัญมำก ซึง่ สำมำรถทำได้หลำยแนวทำง แตใ่ นท่ีน้ี ผสู้ อนเลอื กปฏิบตั ิแบบงำ่ ย ๆ 2 แนวทำง ดังน้ี แนวทางท่ี 1 นำผลกำรประเมนิ ผลกำรศึกษำท่ผี ำ่ นมำ ตลอดทั้งข้อมูลด้ำนตำ่ ง ๆที่ครู ได้เกบ็ รวบรวมไว้ นำมำวิเครำะห์แยกแยะตำมเกณฑ์ทีก่ ำหนดไว้ 3 ระดับ คือ ระดบั ท่ี 1 ต้องปรับปรงุ แก้ไข ระดบั ที่ 2 ปำนกลำง (ผำ่ นเกณฑ์) ระดบั ที่ 3 ระดบั ดี – ดีมำก กำรดำเนนิ กำรแยกแยะข้อมลู ของนักเรยี นเป็นรำยบคุ คลในแตล่ ะด้ำน แลว้ นำมำกรอก ขอ้ มลู ลงในแบบวเิ ครำะหผ์ เู้ รียนรำยบคุ คล จำกน้ันไดป้ ระมวลผลขอ้ มลู สรปุ กรอกลงในแบบสรุปผล กำรวเิ ครำะห์ผ้เู รยี นเม่อื ได้ข้อสรปุ แลว้ นำไปกำหนดแนวทำงในกำรแก้ไขนักเรียนทค่ี วรปรับปรงุ เรอ่ื ง ตำ่ ง ๆ ในแต่ละด้ำนตอ่ ไป แนวทางที่ 2 ครผู ูส้ อนสรำ้ งเครื่องมอื หรือแบบทดสอบเอง ให้เหมำะสมกับเรื่องทีจ่ ะ วเิ ครำะห์ผู้เรียนในแตล่ ะดำ้ น เช่น กำรวดั ควำมรคู้ วำมสำมำรถ หรอื ควำมพร้อมดำ้ นสตปิ ัญญำ ควรใชแ้ บบทดสอบส่วนกำรตรวจสอบควำมพร้อมพฤติกรรม ด้ำนรำ่ งกำยและจิตใจ ดำ้ นสังคม ควรใชแ้ บบสงั เกต หรอื แบบสอบถำม การสรา้ งเคร่อื งมือเพือ่ วเิ คราะห์ผู้เรียน ยึดหลกั ทส่ี าคญั ดงั ต่อไปนี้ 1) ควรใหค้ รอบคลมุ สำระหลัก ๆ ทีจ่ ะเรียนรู้ หรือครอบคลมุ พฤติกรรมด้ำนต่ำง ๆ ของ ผู้เรียน 2) สอดคล้องกับประเด็นท่จี ะวัดหรือประเมินผู้เรียนในแต่ละดำ้ น 3) กำหนดเกณฑ์ใหช้ ัดเจน เชน่ - ตอบได้ถูกต้องหรือมีตำมหัวขอ้ ประเมนิ น้อยกวำ่ ร้อยละ 40 ตอ้ งปรับปรุงแก้ไข - ตอบได้ถูกต้องหรือมีตำมหัวข้อประเมนิ รอ้ ยละ 40 – 60 ปำนกลำง - ตอบได้ถูกต้องหรือมตี ำมหัวขอ้ ประเมิน รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป ได้ระดับ ดี 4) กำรวัดหรอื กำรทดสอบผเู้ รียนควรดำเนนิ กำรก่อนทำกำรสอน เพือ่ ผ้สู อนนำผลสรุป กำรวเิ ครำะห์ ไปวำงแผนจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เพ่ือชว่ ยเหลอื หรอื สง่ เสรมิ นกั เรียนได้อย่ำง เหมำะสม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook