Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสุขศึกษาและพลศึกษา

หลักสูตรสุขศึกษาและพลศึกษา

Published by Wannisa Pumurai, 2021-05-16 10:19:31

Description: หลักสูตรพละ63

Search

Read the Text Version

สาระท่ี 1 การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ มำตรฐำน พ 1.1 เข้ำใจธรรมชำติของกำรเจรญิ เติบโตและพฒั นำกำรของมนษุ ย์ ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้ ป. 5 1. อธบิ ำยควำมสำคญั ของระบบ  ควำมสำคญั ของระบบย่อยอำหำรและ ระบบ ขบั ถำ่ ยท่ีมผี ลต่อสขุ ภำพ กำรเจริญเตบิ โต ย่อยอำหำรและระบบขับถ่ำยทม่ี ผี ล และพัฒนำกำร ต่อสุขภำพ กำรเจริญเติบโตและ พฒั นำกำร 2.อธิบำยวิธีดูแลระบบย่อยอำหำรและ  วิธดี ูแลรักษำระบบย่อยอำหำรและ ระบบขบั ถำ่ ยใหท้ ำงำนตำมปกติ ระบบขับถ่ำยให้ทำงำนตำมปกติ หลกั สตู รโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวสั ด์ิรำษฎร์บำรงุ ) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑

สาระที่ 2 ชวี ติ และครอบครัว มำตรฐำน พ 2.1 เข้ำใจและเหน็ คณุ ค่ำตนเอง ครอบครวั เพศศึกษำ และมีทักษะในกำรดำเนนิ ชีวิต ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้ ป.5 1. อธบิ ำยกำรเปลยี่ นแปลงทำงเพศและ  กำรเปล่ียนแปลงทำงเพศ กำรดูแล ตนเอง ปฏบิ ตั ิตนไดเ้ หมำะสม  กำรวำงตัวที่เหมำะสมกับเพศตำมวัฒนธรรม ไทย 2. อธบิ ำยควำมสำคญั ของกำรมคี รอบครวั  ลกั ษณะของครอบครวั ทอ่ี บอุน่ ตำม ท่อี บอุ่นตำมวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทย ( ครอบครวั ขยำย กำรนับถอื ญำติ ) 3. ระบพุ ฤติกรรมท่พี ึงประสงคแ์ ละ  พฤติกรรมที่พึงประสงคแ์ ละ ไมพ่ ึงประสงค์ในกำรแกไ้ ขปญั หำควำม ไมพ่ งึ ประสงคใ์ นกำรแก้ไขปญั หำควำม ขัดแยง้ ในครอบครัวและกลุม่ เพอ่ื น ขัดแยง้ ในครอบครัว หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวสั ด์ริ ำษฎร์บำรงุ ) พทุ ธศกั รำช 2563 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑

สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล มำตรฐำน พ 3.1 เขำ้ ใจ มที ักษะในกำรเคล่ือนไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกีฬำ ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ ป.5 1. จดั รปู แบบกำรเคลื่อนไหวแบบผสมผสำน  กำรจดั รูปแบบกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำย และควบคมุ ตนเองเม่อื ใช้ทกั ษะ แบบผสมผสำนและกำรปฏิบัติกจิ กรรม กำรเคล่ือนไหวตำมแบบท่ีกำหนด ทำงกำยทัง้ แบบอยู่กับท่ี เคลื่อนท่ีและ ใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบตำมแบบท่ีกำหนด เชน่ กำรฝึกกำยบริหำร ยืดหยุ่นขน้ั พนื้ ฐำน เปน็ ตน้ 2. เลน่ เกมนำไปสูก่ ฬี ำทเี่ ลอื กและ  เกมนำไปสกู่ ีฬำและกิจกรรมแบบผลดั กิจกรรมกำรเคล่อื นไหวแบบผลดั ทีม่ ีกำรตี เขย่ี รบั – สง่ สงิ่ ของ ขว้ำงและ วงิ่ 3. ควบคุมกำรเคล่ือนไหวในเรือ่ ง  กำรเคลื่อนไหวในเรือ่ งกำรรับแรง กำรรบั แรง กำรใชแ้ รงและควำมสมดลุ กำรใช้แรงและควำมสมดุล 4. แสดงทกั ษะกลไกในกำรปฏบิ ตั ิ  ทักษะกลไกทสี่ ่งผลตอ่ กำรปฏบิ ตั กิ ิจกรรม กิจกรรมทำงกำยและกำรเลน่ กีฬำ ทำงกำยและเลน่ กฬี ำ 5. เลน่ กฬี ำไทยและกฬี ำสำกล  กำรเลน่ กีฬำไทย เช่น ตะกร้อวง วง่ิ ชัก ประเภทบคุ คลและประเภททมี ธง และกฬี ำสำกล เช่น กรฑี ำประเภทลู่ ไดอ้ ย่ำงนอ้ ย 1 ชนิด แบดมินตัน เปตอง ฟตุ บอล เทเบลิ เทนนสิ ว่ำยนำ้ 6. อธิบำยหลกั กำรและเขำ้ รว่ ม กจิ กรรม นันทนำกำร อยำ่ งน้อย 1 กจิ กรรม  หลกั กำรและกจิ กรรมนันทนำกำร หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ ำษฎรบ์ ำรุง) พทุ ธศกั รำช 2563 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

สาระที่ 3 การเคล่อื นไหว การออกกาลังกาย การเลม่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มำตรฐำน พ 3.2 รกั กำรออกกำลงั กำย กำรเลน่ เกม และกำรเล่นกฬี ำ ปฏิบตั ิเปน็ ประจำอยำ่ งสม่ำเสมอ มีวนิ ยั เคำรพสิทธิ กฎ กตกิ ำ มีนำ้ ใจนักกฬี ำ มจี ิตวญิ ญำณในกำรแขง่ ขัน และชน่ื ชม ในสุนทรยี ภำพของกำรกฬี ำ ช้นั ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้ ป.5 1. ออกกำลังกำยอยำ่ งมรี ูปแบบเลน่ เกม  หลกั กำรและรปู แบบกำรออกกำลังกำย ทีใ่ ชท้ ักษะกำรคดิ และตัดสินใจ  กำรออกกำลงั กำยและกำรเลน่ เกม เชน่ 2. เล่นกฬี ำทีต่ นเองช่ืนชอบอย่ำงสมำ่ เสมอ เกมเบ็ดเตลด็ เกมเลยี นแบบ เกมนำและ โดยสรำ้ งทำงเลอื กในวิธีปฏบิ ัติ กำรละเล่นพื้นเมอื ง ของตนเองอย่ำงหลำกหลำยและ มีน้ำใจนักกฬี ำ  กำรเล่นกฬี ำไทยและกีฬำสำกลประเภท- บุคคลและทมี ทเ่ี หมำะสมกับวัย อย่ำงสมำ่ เสมอ  กำรสร้ำงทำงเลอื กในวธิ ีปฏบิ ตั ใิ น กำรเลน่ กีฬำอย่ำงหลำกหลำยและ มีน้ำใจนักกฬี ำ 3. ปฏบิ ตั ติ ำมกฎ กติกำ กำรเล่นเกม  กฎ กตกิ ำในกำรเลน่ เกม กฬี ำไทยและ กฬี ำไทยและกฬี ำสำกลตำมชนดิ กีฬำท่เี ลน่ กีฬำสำกลตำมชนิดกีฬำทีเ่ ลน่  วิธีกำรรุกและวิธีป้องกันในกำรเล่นกีฬำไทย และกฬี ำสำกลท่เี ลน่ 4. ปฏิบัตติ นตำมสิทธขิ องตนเองไม่ละเมิด  สทิ ธิของตนเองและผ้อู น่ื ในกำรเล่นเกมและ สิทธขิ องผอู้ ่ืนและยอมรบั ในควำมแตกตำ่ ง กฬี ำ ระหวำ่ งบุคคลในกำรเลน่ เกมและกฬี ำไทย กฬี ำสำกล  ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งบุคคลในกำรเล่นเกม และกีฬำ หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวสั ดิร์ ำษฎร์บำรุง) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

สาระที่ 4 การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพ และการป้องกนั โรค มำตรฐำน พ 4.1 เห็นคุณค่ำและมีทักษะในกำรสรำ้ งเสริมสุขภำพ กำรดำรงสุขภำพ กำรป้องกนั โรค และกำรสรำ้ งสมรรถภำพเพอ่ื สุขภำพ ชน้ั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ ป.5 1. แสดงพฤตกิ รรมท่เี หน็ ควำมสำคญั ของ  ควำมสำคัญของกำรปฏบิ ัติตนตำมสขุ บัญญตั ิ กำรปฏบิ ตั ิตนตำมสุขบัญญัติแห่งชำติ แหง่ ชำติ 2. คน้ หำขอ้ มลู ขำ่ วสำรเพอื่ ใช้สร้ำงเสริมสขุ ภำพ  แหล่งและวธิ คี น้ หำข้อมูลขำ่ วสำร ทำงสุขภำพ ● กำรใชข้ ้อมลู ขำ่ วสำรในกำรสรำ้ งเสริม สขุ ภำพ 3. วเิ ครำะหส์ อ่ื โฆษณำในกำรตัดสนิ ใจเลือกซื้อ ● กำรตดั สนิ ใจเลอื กซื้ออำหำรและ อำหำรและผลติ ภณั ฑ์สขุ ภำพอยำ่ งมเี หตุผล ผลติ ภณั ฑส์ ุขภำพ ( อำหำร เคร่อื งสำอำง ผลิตภณั ฑด์ แู ลสุขภำพใน ช่องปำก ฯลฯ ) 4. ปฏิบตั ติ นในกำรปอ้ งกนั โรคท่พี บบ่อย  กำรปฏบิ ัตติ นในกำรป้องกันโรคท่ี พบบ่อยใน ในชีวติ ประจำวัน ชีวิตประจำวนั - ไข้หวัด 5. ทดสอบและปรับปรุงสมรรถภำพทำงกำย - ไข้เลือดออก ตำมผลกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย - โรคผิวหนงั - ฟันผุและโรคปรทิ นั ต์ ฯลฯ  กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย  กำรปรบั ปรงุ สมรรถภำพทำงกำยตำม ผลกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวสั ด์ริ ำษฎรบ์ ำรงุ ) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พืน้ ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

สาระท่ี 5 ความปลอดภยั ในชวี ติ มำตรฐำน พ 5.1 ป้องกนั และหลีกเลีย่ งปัจจยั เสี่ยง พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ สขุ ภำพ อบุ ัตเิ หตุ กำรใช้ยำ สำรเสพตดิ และควำมรนุ แรง ช้ัน ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้ ป.5 1. วิเครำะห์ปจั จยั ทม่ี ีอิทธพิ ลตอ่ กำรใช้  ปจั จยั ที่มีอทิ ธพิ ลตอ่ กำรใช้สำรเสพตดิ สำรเสพติด ( สุรำ บหุ ร่ี ยำบำ้ สำรระเหย ฯลฯ ) - ครอบครวั สงั คม เพอื่ น - คำ่ นยิ ม ควำมเชอ่ื - ปัญหำสุขภำพ - สอ่ื ฯลฯ 2. วิเครำะหผ์ ลกระทบของกำรใช้ยำและ  ผลกระทบของกำรใช้ยำและสำรเสพตดิ ที่ สำรเสพติด ทม่ี ผี ลต่อร่ำงกำย จติ ใจ มีต่อรำ่ งกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคมและ อำรมณ์ สังคมและสตปิ ญั ญำ สติปญั ญำ 3. ปฏิบตั ติ นเพื่อควำมปลอดภัยจำกกำรใช้ยำ  กำรปฏิบัตติ นเพือ่ ควำมปลอดภัย และหลีกเลี่ยงสำรเสพติด จำกกำรใช้ยำ 4. วิเครำะห์อทิ ธพิ ลของสื่อทีม่ ตี ่อพฤตกิ รรม  กำรหลกี เล่ียงสำรเสพติด สุขภำพ  อิทธิพลของสอ่ื ที่มตี อ่ พฤติกรรมสขุ ภำพ 5. ปฏิบตั ติ นเพ่อื ป้องกนั อันตรำยจำก ( อินเทอรเ์ นต็ เกม ฯลฯ ) กำรเล่นกีฬำ  กำรปฏบิ ตั ิเพือ่ ป้องกนั อันตรำยจำก กำรเล่นกีฬำ หลักสูตรโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

โครงสร้างหลกั สตู รช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ รหสั กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม เวลาเรียน(ชม./ปี) รายวชิ าพนื้ ฐาน (๘๔๐) ท ๑๕๑๐๑ ภำษำไทย 5 ๑๖๐ ค ๑๕๑๐๑ คณิตศำสตร์ 5 ๑๖๐ ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี 5 120 ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม 5 80 ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศำสตร์ 5 ๔๐ พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ 5 8๐ ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ 5 4๐ ง ๑๕๑๐๑ กำรงำนอำชีพ 5 4๐ อ ๑๕๑๐๑ ภำษำองั กฤษ5 120 รายวชิ าเพิ่มเติม (8๐) อ 15201 ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสอ่ื สำร 40 ส ๑52๐3 กำรป้องกนั กำรทจุ ริต 40 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน (๑๒๐) แนะแนว 40 ลกู เสอื -เนตรนำรี 40 กิจกรรมเพื่อสงั คมและสำธำรณประโยชน์ 10 ชุมนมุ 30 รวมเวลาเรยี นตามโครงสร้างหลกั สูตร ๑,040 หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน พ๑5๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา กลมุ่ สาระสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 8๐ ช่ัวโมง ศึกษำ ควำมสำคัญและวิธีดูแลรักษำ ระบบย่อยอำหำรและระบบขับถ่ำยให้ทำงำนตำมปกติซ่ึงส่งผลต่อ สุขภำพ กำรเจริญเติบโต และพัฒนำกำร กำรเปลี่ยนแปลงทำงเพศ และปฏบิ ัติตนไดเ้ หมำะสม ลักษณะของ ครอบครัวที่อบอุ่นตำมวัฒนธรรมไทย พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ และไม่พึงประสงค์ในกำรแก้ไขปัญหำควำม ขัดแย้งในครอบครัวและกลุ่มเพ่ือน ควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนตำมสุขบัญญัติแห่งชำติ ค้นหำข้อมูลข่ำวสำร เพ่อื ใช้สร้ำงเสริมสุขภำพ กำรตัดสินใจเลือกซ้ืออำหำรและผลิตภัณฑ์สุขภำพ ปฏิบตั ิตนในกำรป้องกันโรค ปัจจัย และผลกระทบที่มีอิทธิพลต่อกำรใช้สำรเสพติด ที่มีต่อร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ ควำม ปลอดภัยจำกกำรใช้ยำและหลีกเล่ียงสำรเสพติด อิทธพิ ลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภำพ กำรป้องกันอันตรำย จำกกำรเล่นกีฬำ วิธีกำรจัดรูปแบบกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยแบบผสมผสำนแบบและปฏบิ ัตกิ ิจกรรมทำงกำยทั้ง แบบอยู่กับท่ี เคลื่อนที่ และใช้อปุ กรณ์ประกอบตำมแบบที่กำหนด วิธกี ำรเล่นเกมนำไปสู่กีฬำและกจิ กรรมแบบ ผลัด กำรเคลื่อนไหวในเร่ืองกำรรับแรง กำรใชแ้ รง และควำมสมดลุ ทักษะกลไกลที่ส่งผลตอ่ กำรปฏิบัติกิจกรรม ทำงกำยและเล่นกีฬำกำรเล่นกีฬำไทย หลักกำรเข้ำร่วมกิจกรรมนันทนำกำรหลักกำรและรูปแบบกำรออกกำลัง กำยกำรออกกำลังกำยและกำรเล่นเกม กำรละเล่นพื้นเมือง วิธีกำรเล่นกีฬำไทยและกีฬำสำกล ประเภทบุคคล และประเภททีมท่ีเหมำะสมกับวยั อย่ำงสม่ำเสมอกำรสร้ำงทำงเลือกในวิธีปฏิบตั ิในกำรเล่นกีฬำอย่ำงหลำกหลำย รู้กฎกติกำในกำรเล่นเกมกีฬำไทยและกีฬำสำกลตำมชนิดกีฬำท่ีเล่นวิธีกำรรุกและวิธีกำรป้องกันในกำรเล่นกีฬำ ไทยและกีฬำสำกลท่ีเล่นสิทธิของตนเองและผู้อื่นในกำรเล่นเกมและกีฬำควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคลในกำรเล่น เกมและกีฬำ โดยใช้กระบวนกำรกำรสืบค้น กำรอภิปรำย กำรปฏิบัติ กำรบอก ระบุ เพื่อเกิดควำมรู้ ควำมเข้ำใจ นำไปสู่กำรปฏิบัติกำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพเพ่ือสุขภำพที่ถูกตอ้ งเหมำะสม เกิดควำมตระหนักและเห็นคุณค่ำใน กำรดูแลเพ่ือพัฒนำตนเองและผู้อ่ืน มีวินัย รักควำมเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสำธำรณะ กำรนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ได้อยำ่ งปกตสิ ขุ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในกำรแสวงหำควำมรู้ มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ มีคุณธรรม จริยธรรม มีน้ำใจนักกีฬำ เป็นผู้นำ ผู้ตำมท่ีดี มีเหตุผล รักกำรออกกำลังกำย รักสุขภำพ มีสุขนิสัยที่ดีและตระหนักถึงกำรสร้ำงเสริม สขุ ภำพ มีควำมสำมำรถในกำรคิด กำรใช้ทักษะชวี ิต กำรแกป้ ัญหำ รหสั ตวั ช้ีวดั พ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ พ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ พ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ พ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ พ ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ พ ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ รวมท้งั หมด ๒5 รหสั ตัวชี้วดั หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

รายวชิ าสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา โครงสร้างรายวชิ า รหัสวชิ า พ ๑๕๑๐๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ จานวน ๘๐ ชัว่ โมง/ปี หน่วยที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ เวลา นา้ หนกั ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) (คะแนน) 1 ระบบในร่ำงกำย 2 สำยใยครอบครัว พ1.1 ป.5/1 ป.5/2 7 10 3 13 10 4 พ2.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 8 10 5 เข้ำใจรูปแบบกำร พ3.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 12 10 6 7 เคลอื่ นไหว พ.5.1 ป.5/5 11 10 8 9 กฬี ำสำกล (วอลเลยบ์ อล) พ3.1 ป.5/5 ป.5/6 5 5 4 5 พ3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 4 10 ป.5/4 16 10 พ.5.1 ป.5/5 80 20 ใส่ใจสุขภำพ พ4.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ยำและสำรเสพติด พ5.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 อทิ ธิพลของสือ่ พ5.1 ป.5/4 ป.5/5 สมรรถภำพทำงกำย พ3.1 ป.5/4 พ4.1 ป.5/5 กีฬำไทย (ตะกร้อ) พ3.1 ป.5/5 ป.5/6 พ3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 พ.5.1 ป.5/5 คะแนนระหว่ำงภำค คะแนนปลำยภำค หลักสตู รโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดร์ิ ำษฎรบ์ ำรงุ ) พทุ ธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ หลักสูตรโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

สาระที่ 1 การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ มำตรฐำน พ 1.1 เข้ำใจธรรมชำตขิ องกำรเจริญเตบิ โตและพฒั นำกำรของมนุษย์ ชัน้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้ ป. 6 1. อธิบำยควำมสำคญั ของระบบ  ควำมสำคัญของระบบสืบพันธุ์ ระบบ ไหลเวยี นโลหติ และระบบหำยใจที่มีผล สืบพันธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิตและ ตอ่ สุขภำพ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร ระบบหำยใจ ท่ีมีผลตอ่ สขุ ภำพ กำรเจรญิ เติบโตและพัฒนำกำร 2. อธิบำยวิธกี ำรดูแลรักษำระบบ  วธิ ีกำรดแู ลรักษำระบบสบื พันธุ์ สืบพนั ธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหิตและ ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหำยใจ ระบบหำยใจใหท้ ำงำนตำมปกติ ให้ทำงำนตำมปกติ หลักสตู รโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

สาระท่ี 2 ชีวิตและครอบครวั มำตรฐำน พ 2.1 เขำ้ ใจและเหน็ คุณค่ำตนเอง ครอบครัว เพศศึกษำ และมที ักษะในกำรดำเนนิ ชีวติ ชน้ั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ ป.6 1.อธิบำยควำมสำคัญของกำรสรำ้ งและ  ควำมสำคัญของกำรสรำ้ งและรกั ษำ รกั ษำสัมพนั ธภำพกบั ผอู้ นื่ สมั พนั ธภำพกับผ้อู นื่  ปจั จัยทช่ี ่วยใหก้ ำรทำงำนกลุ่มประสบ ควำมสำเร็จ - ควำมสำมำรถสว่ นบคุ คล - บทบำทหนำ้ ทขี่ องสมำชิกในกลุม่ - กำรยอมรบั ควำมคดิ เห็นและควำม แตกต่ำงระหว่ำงบคุ คล - ควำมรบั ผิดชอบ 2. วิเครำะห์พฤติกรรมเสี่ยงทีอ่ ำจนำไปสู่  พฤตกิ รรมเส่ียงทน่ี ำไปสกู่ ำรมีเพศสัมพันธ์ กำรมเี พศสัมพนั ธ์ กำรติด เชอื้ เอดส์ กำรตดิ เช้ือเอดส์และกำรตัง้ ครรภ์ก่อนวยั และกำรต้ังครรภก์ ่อนวัยอันควร อันควร หลักสตู รโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพื้นฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล มำตรฐำน พ 3.1 เขำ้ ใจ มที กั ษะในกำรเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเล่นเกม และกีฬำ ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้ ป.6 1. แสดงทักษะกำรเคล่ือนไหวรว่ มกบั ผอู้ นื่ ใน  กำรเคลอื่ นไหวรว่ มกับผอู้ น่ื แบบผลัด ลกั ษณะแบบผลดั และแบบผสมผสำนได้ ในลักษณะผสมผสำน ในกำรร่วมกิจกรรม ตำมลำดบั ท้ังแบบอยกู่ ับที่ เคลื่อนท่แี ละ ทำงกำย เชน่ กจิ กรรมแบบผลัด กำย ใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบและกำรเคล่ือนไหว ประกอบเพลง บริหำรประกอบเพลง ยืดหยุ่นขัน้ พ้ืนฐำน ทใี่ ช้ท่ำต่อเนือ่ งและกำรตอ่ ตัวท่ำง่ำยๆ 2. จำแนกหลกั กำรเคลอ่ื นไหวในเรื่อง  กำรเคลอื่ นไหวในเร่ืองกำรรับแรง กำรใช้ กำรรบั แรง กำรใชแ้ รงและควำมสมดลุ ใน แรงและควำมสมดลุ กบั กำรพฒั นำทกั ษะกำร กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยในกำรเล่นเกม เคลือ่ นไหวในกำรเล่นเกมและกีฬำ เลน่ กีฬำและนำผลมำปรบั ปรงุ เพมิ่ พูนวิธี ปฏบิ ัตขิ องตนและผ้อู ืน่ 3. เล่นกีฬำไทย กีฬำสำกลประเภทบุคคล  กำรเลน่ กฬี ำไทย กฬี ำสำกล ประเภท และประเภททมี ได้อยำ่ งละ 1 ชนดิ บคุ คลและประเภททมี เช่น กรีฑำประเภท ล่แู ละลำน เปตอง วำ่ ยน้ำ เทเบิลเทนนสิ วอลเลย์บอล ฟุตบอล ตะกร้อวง 4.ใช้ทกั ษะกลไกเพ่อื ปรับปรุง เพมิ่ พนู  กำรใชข้ อ้ มลู ดำ้ นทักษะกลไกเพื่อปรับปรุง ควำมสำมำรถของตนและผอู้ ่ืนใน และเพ่ิมพูนควำมสำมำรถ ในกำรปฏบิ ัติ กำรเลน่ กีฬำ กจิ กรรมทำงกำยและ เล่นกฬี ำ 5.ร่วมกจิ กรรมนันทนำกำรอยำ่ งนอ้ ย 1  กำรนำควำมรแู้ ละหลักกำรของกิจกรรม กจิ กรรม แลว้ นำควำมรแู้ ละหลักกำร นันทนำกำรไปใชเ้ ป็นฐำนกำรศกึ ษำหำ ท่ไี ด้ไปใช้เป็นฐำนกำรศึกษำหำควำมรเู้ รือ่ ง ควำมรู้ อืน่ ๆ หลกั สตู รโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑

สาระท่ี 3 การเคลอื่ นไหว การออกกาลงั กาย การเลม่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มำตรฐำน พ 3.2 รกั กำรออกกำลงั กำย กำรเล่นเกม และกำรเลน่ กฬี ำ ปฏิบตั เิ ป็นประจำอยำ่ งสม่ำเสมอ มีวินัย เคำรพสทิ ธิ กฎ กติกำ มีนำ้ ใจนักกฬี ำ มจี ติ วญิ ญำณในกำรแข่งขัน และชนื่ ชม ในสุนทรียภำพของกำรกีฬำ ชน้ั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ ป.6 1. อธบิ ำยประโยชนแ์ ละหลกั กำรออก-  ประโยชน์และหลักกำรออกกำลังกำยเพ่ือ สุขภำพ สมรรถภำพทำงกำยและกำรสรำ้ ง กำลงั กำยเพอื่ สขุ ภำพ สมรรถภำพ เสริมบคุ ลิกภำพ ทำงกำยและกำรสรำ้ งเสรมิ บุคลิกภำพ 2. เลน่ เกมทใ่ี ช้ทกั ษะกำรวำงแผนและ  กำรเลน่ เกมที่ใชท้ ักษะกำรวำงแผน สำมำรถเพิ่มพูนทกั ษะกำรออกกำลงั กำย และเคลือ่ นไหวอย่ำงเปน็ ระบบ  กำรเพมิ่ พนู ทกั ษะกำรออกกำลังกำยและ กำรเคลื่อนไหวอย่ำงเปน็ ระบบ 3. เลน่ กฬี ำทต่ี นเองช่นื ชอบและสำมำรถ  กำรเล่นกีฬำประเภทบคุ คลและประเภททมี ประเมนิ ทักษะกำรเล่น ของตน ทช่ี ่ืนชอบ เป็นประจำ  กำรประเมนิ ทกั ษะกำรเล่นกฬี ำของตน 4. ปฏบิ ัตติ ำมกฎ กตกิ ำ ตำมชนิดกฬี ำ  กฎ กติกำในกำรเลน่ กีฬำไทย กฬี ำสำกล ที่เล่น โดยคำนงึ ถงึ ควำมปลอดภยั ตำมชนิดกฬี ำทีเ่ ลน่ ของตนเองและผู้อ่ืน 5. จำแนกกลวธิ รี กุ กำรปอ้ งกนั และนำไป  กลวธิ ีรุก กำรปอ้ งกันในกำรเล่นกฬี ำ ใชใ้ นกำรเลน่ กฬี ำ ๖. เลน่ เกมและกฬี ำดว้ ยควำมสำมัคคแี ละ  กำรสร้ำงควำมสำมคั คี และควำมมี- มีนำ้ ใจนักกฬี ำ นำ้ ใจนักกฬี ำในกำรเลน่ เกมและกีฬำ หลกั สตู รโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวสั ดริ์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

สาระท่ี 4 การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพ และการปอ้ งกันโรค มำตรฐำน พ 4.1 เหน็ คณุ ค่ำและมที ักษะในกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ กำรดำรงสขุ ภำพ กำรป้องกนั โรค และกำรสรำ้ งสมรรถภำพเพอ่ื สุขภำพ ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้ ป.6 1. แสดงพฤตกิ รรมในกำรปอ้ งกนั และ  ควำมสำคญั ของส่งิ แวดล้อมท่มี ีผล แก้ไขปัญหำสิ่งแวดล้อมทีม่ ผี ลต่อสขุ ภำพ ต่อสขุ ภำพ  ปญั หำของสง่ิ แวดล้อมทมี่ ีผลตอ่ สุขภำพ  กำรปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหำสงิ่ แวดล้อม ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภำพ 2. วิเครำะหผ์ ลกระทบทีเ่ กดิ จำกกำรระบำด  โรคติดตอ่ สำคญั ที่ระบำดในปจั จบุ นั ของโรคและเสนอแนวทำงกำรปอ้ งกัน  ผลกระทบท่เี กดิ จำกกำรระบำดของโรค โรคตดิ ตอ่ สำคัญทพี่ บในประเทศไทย  กำรปอ้ งกนั กำรระบำดของโรค 3. แสดงพฤติกรรมทบ่ี ง่ บอกถงึ ควำม  พฤติกรรมที่แสดงออกถึงควำมรับผดิ ชอบตอ่ รับผิดชอบต่อสุขภำพของสว่ นรวม สุขภำพของสว่ นรวม 4. สรำ้ งเสรมิ และปรับปรงุ สมรรถภำพ  วธิ ีทดสอบสมรรถภำพทำงกำย ทำงกำยเพ่อื สุขภำพอย่ำงต่อเนอื่ ง  กำรสร้ำงเสรมิ และปรบั ปรงุ สมรรถภำพทำง กำย ตำมผลกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย หลักสตู รโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

สาระที่ 5 ความปลอดภยั ในชีวิต มำตรฐำน พ 5.1 ป้องกนั และหลีกเลย่ี งปจั จัยเส่ยี ง พฤตกิ รรมเสี่ยงต่อสขุ ภำพ อุบัติเหตุ กำรใช้ยำ สำรเสพติด และควำมรุนแรง ชัน้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้ ป.6 1. วิเครำะห์ผลกระทบจำกควำม รนุ แรง  ภัยธรรมชำติ - ลักษณะของภยั ธรรมชำติ ของภยั ธรรมชำตทิ ่ีมีตอ่ รำ่ งกำย จิตใจ - ผลกระทบจำกควำมรุนแรง ของ และสังคม ภัยธรรมชำติท่ีมีตอ่ รำ่ งกำย จิตใจและ สงั คม 2. ระบุวิธปี ฏิบัติตนเพือ่ ควำมปลอดภยั  กำรปฏบิ ัตติ นเพ่ือควำมปลอดภยั จำก จำกธรรมชำติ ภยั ธรรมชำติ 3. วิเครำะหส์ ำเหตุของกำรตดิ สำรเสพตดิ และ  สำเหตุของกำรตดิ สำรเสพตดิ ชกั ชวนใหผ้ อู้ ื่นหลีกเล่ียงสำรเสพติด  ทกั ษะกำรส่ือสำรใหผ้ ู้อืน่ หลกี เล่ียง สำรเสพตดิ หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎรบ์ ำรุง) พทุ ธศักรำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑

โครงสร้างหลกั สตู รชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลาเรยี น(ชม./ป)ี (๘๔๐) รหสั กลุ่มสาระการเรียนรู/้ กจิ กรรม ๑๖๐ รายวชิ าพน้ื ฐาน ๑๖๐ ท ๑๖๑๐๑ ภำษำไทย 6 120 ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศำสตร์ 6 80 ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 6 ๔๐ ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม 6 8๐ ส ๑๖๑๐๒ ประวัติศำสตร์ 6 4๐ พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ 6 4๐ ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ 6 120 ง ๑๖๑๐๑ กำรงำนอำชีพ 6 (8๐) อ ๑๖๑๐๑ ภำษำองั กฤษ6 40 รายวชิ าเพ่ิมเติม 40 อ 16201 ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่อื สำร ส ๑62๐3 กำรป้องกนั กำรทุจริต กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (๑๒๐) แนะแนว 40 ลกู เสือ-เนตรนำรี 40 กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสำธำรณประโยชน์ 10 ชุมนมุ 30 รวมเวลาเรยี นตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร ๑,040 หลักสูตรโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑

คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน พ๑6๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา กลมุ่ สาระสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลา 8๐ ชั่วโมง ศึกษำควำมสำคัญและวิธีดูแลรักษำระบบสืบพันธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบหำยใจที่มีผลต่อ สุขภำพ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำรให้ทำงำนเปน็ ปกติ ควำมสำคัญของกำรสร้ำงและรักษำสมั พันธภำพกับ ผู้อ่ืน พฤติกรรมเสี่ยงท่ีนำไปสู่กำรมีเพศสัมพันธ์ กำรติดเช้ือเอดส์ และกำรตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ควำมสำคญั และแก้ไขปัญหำ สิ่งแวดลอ้ มที่มผี ลต่อสุขภำพสง่ิ แวดลอ้ มท่ีมผี ลต่อสุขภำพ ผลกระทบท่เี กิดจำกกำร ระบำดของโรคและเสนอแนวทำงกำรป้องกันโรคติดต่อสำคัญที่พบในประเทศไทย พฤติกรรมท่ีแสดงออกถึง ควำมรับผิดชอบต่อสุขภำพของส่วนรวม ควำมรุนแรงของภัยธรรมชำติที่มีต่อร่ำงกำย จิตใจ และสังคม กำร ปฏบิ ัตติ นเพื่อควำมปลอดภัยจำกภัยธรรมชำติ สำเหตุของกำรติดสำรเสพติด และชักชวนให้ผู้อ่ืนหลีกเล่ียงสำรเสพตดิ หลักกำร รูปแบบ กำรจำแนก กำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยโดยอำศัยกลไกกำรทำงำนประสำนกันของระบบตำ่ ง ๆ ใน ร่ำงกำย ส่งผลให้ร่ำงกำยของคนเรำเคล่ือนที่ไปในทิศทำงที่ต้องกำรเพื่อให้เกิดกำรพัฒนำทั้งทำงด้ำนสมรรถภำพ ทำงกำย อำรมณ์ สังคมและจิตใจ ในกำรออกกำลังกำย กิจกรรมนันทนำกำร กำรเล่นเกม กำรเล่นกีฬำไทย กีฬำสำกล ทั้งประเภทบคุ คลและประเภททีม และรกู้ ฎ กตกิ ำมำรยำท ในกำรเล่นประเภทน้นั ๆ โดยใช้กระบวนกำรกำรสืบค้น กำรอภิปรำย กำรปฏิบัติ เพื่อเกิดควำมรู้ ควำมเข้ำใจนำไปสู่กำร ปฏิบัติกำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพเพ่ือสุขภำพท่ีถูกต้องเหมำะสม เกิดควำมตระหนักและเห็นคุณค่ำในกำรดูแล ตนเองและผู้อื่น ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในกำรทำงำน เล่นกีฬำที่ตนเองชื่นชอบ ดว้ ยควำมสำมัคคีและมีน้ำใจนักกีฬำ มวี นิ ัย คำนึงถงึ ควำมปลอดภยั รักควำมเป็นไทย กำรนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้อย่ำงปกตสิ ขุ เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะในกำรแสวงหำควำมรู้ มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ มีคุณธรรม จริยธรรม มีน้ำใจนักกีฬำ เป็นผู้นำ ผู้ตำมท่ีดี มีเหตุผล รักกำรออกกำลังกำย รักสุขภำพ มีสุขนิสัยท่ีดีและตระหนักถึงกำรสร้ำงเสริม สขุ ภำพ มคี วำมสำมำรถในกำรคดิ กำรใชท้ กั ษะชวี ิต กำรแกป้ ญั หำ รหสั ตัวชี้วดั พ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ พ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ พ ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ พ ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ รวมท้ังหมด ๒2 ตวั ชวี้ ัด หลักสูตรโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ด์ริ ำษฎรบ์ ำรงุ ) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พื้นฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ าสขุ ศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ รหัสวิชา พ ๑๖๑๐๑ จานวน ๘๐ ช่วั โมง/ปี หน่วยท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ เวลา นา้ หนัก (ชั่วโมง) (คะแนน) ตัวชว้ี ัด 8 10 1 ระบบในรำ่ งกำย พ1.1 ป.6/1 ป.6/2 12 10 10 10 2 ใสใ่ จเร่ืองรอบตวั พ2.1 ป.6/1 ป.6/2 10 10 3 กีฬำสำกล (กรฑี ำ) พ3.1 ป.6/3 ป.6/4 10 10 พ3.2 ป.6/1 ป.6/3 ป.6/4 10 10 15 15 ป.6/5 5 5 4 กีฬำสำกล (ฟตุ บอล) พ3.1 ป.6/3 ป.6/4 80 พ3.2 ป.6/1 ป.6/3 ป.6/4 20 ป.6/5 5 ใสใ่ จสขุ ภำพ พ4.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 6 ทุกชวี ิตปลอดภยั พ5.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 7 กิจกรรมทำงกำย พ3.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/5 พ3.2 ป.6/2 ป.6/6 พ4.1 ป.6/4 8 กฬี ำไทย (ทำ่ ไหวค้ รมู วยไทย) พ3.1 ป.6/3 ป.6/4 พ3.2 ป.6/1 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 คะแนนระหวำ่ งภำค คะแนนปลำยภำค หลักสตู รโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พืน้ ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

การตดั สินผลการเรยี น ตามหลักสูตรแกนกลาง หลกั สตู รโรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวสั ดิ์รำษฎร์บำรงุ ) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรยี น ๑. การตดั สนิ การใหร้ ะดบั และการรายงานผลการเรยี น ๑.๑ การตดั สนิ ผลการเรยี น ในกำรตดั สนิ ผลกำรเรยี นของกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรอำ่ น คิดวิเครำะหแ์ ละเขียน คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงกำรพัฒนำผู้เรียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้อง เก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้ำนอย่ำงสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภำคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนำ จนเต็มตำมศักยภำพ ระดบั ประถมศึกษา (๑) ผเู้ รยี นต้องมเี วลำเรียนไม่น้อยกว่ำรอ้ ยละ ๘๐ ของเวลำเรยี นทัง้ หมด (๒) ผ้เู รียนตอ้ งไดร้ บั กำรประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่ำนตำมเกณฑท์ ่ีสถำนศกึ ษำกำหนด (๓) ผู้เรยี นต้องไดร้ ับกำรตดั สนิ ผลกำรเรยี นทุกรำยวชิ ำ (๔) ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับกำรประเมนิ และมีผลกำรประเมนิ ผ่ำนตำมเกณฑท์ สี่ ถำนศกึ ษำกำหนด ใน กำรอ่ำน คดิ วิเครำะห์ และเขยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน กำรพิจำรณำเลื่อนช้ัน ถ้ำผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถำนศึกษำพิจำรณำเห็นว่ำ สำมำรถพัฒนำและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถำนศึกษำท่ีจะผ่อนผันให้เลื่อนชั้นได้ แต่หำกผู้เรียน ไม่ผ่ำนรำยวิชำจำนวนมำก และมีแนวโน้มว่ำจะเป็นปัญหำต่อกำรเรียนในระดับช้ันท่ีสูงขึ้น สถำนศึกษำอำจตั้ง คณะกรรมกำรพิจำรณำใหเ้ รียนซ้ำชั้นได้ ท้งั นใ้ี ห้คำนงึ ถงึ วุฒภิ ำวะและควำมรคู้ วำมสำมำรถของผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ ๑.๒ การใหร้ ะดบั ผลการเรยี น ระดับประถมศกึ ษา ในกำรตัดสนิ เพ่อื ให้ระดับผลกำรเรียนรำยวชิ ำ สถำนศึกษำสำมำรถใหร้ ะดับผล กำรเรียนหรอื ระดับคณุ ภำพกำรปฏิบตั ขิ องผ้เู รียน เป็นระบบตวั เลข ระบบตัวอักษร ระบบรอ้ ยละ และระบบที่ ใช้คำสำคญั สะท้อนมำตรฐำน กำรใหร้ ะดบั ผลกำรเรียน โรงเรียนกำหนดให้กำรตดั สนิ เพอ่ื ใหร้ ะดับผลกำรเรยี นรำยวิชำของกล่มุ สำระกำรเรียนรู้ ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลกำรเรยี นเปน็ ๘ ระดบั ดังนี้ ระดับผลการเรียน ช่วงคะแนนเป็นรอ้ ยละ ระบบท่ีใช้คำสำคญั สะท้อนมำตรฐำน ๔ ๘๐ - ๑๐๐ 5 ระดบั 4 ระดบั 2 ระดบั ๓.๕ ๗๕ - ๗๙ ๓ ๗๐ - ๗๔ ดเี ยี่ยม ดีเย่ยี ม ๒.๕ ๖๕ - ๖๙ ๒ ๖๐ - ๖๔ ดี ดี ผ่ำน ๑.๕ ๕๕ - ๕๙ พอใช้ ๑ ๕๐ - ๕๔ ๐ ๐ - ๔๙ ผ่ำน ผำ่ น ไม่ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น ไม่ผำ่ น หลกั สูตรโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวสั ดริ์ ำษฎรบ์ ำรุง) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑

อภิธานศพั ท์ หลักสตู รโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดริ์ ำษฎรบ์ ำรุง) พทุ ธศักรำช 2563 ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑

กลไกของร่างกายทใ่ี ชใ้ นการเคล่อื นไหว (Body Mechanism) กระบวนกำรตำมธรรมชำติในกำรเคล่ือนไหวส่วนต่ำง ๆ ของร่ำงกำยตำมลักษณะโครงสร้ำง หน้ำท่ี และกำรทำงำนร่วมกันของข้อต่อ กล้ำมเน้ือ กระดูกและระบบประสำทท่ีเก่ียวข้องภำยใต้ขอบข่ำย เง่ือนไข หลักกำร และปัจจัยด้ำนชีวกลศำสตร์ท่ีมีผลต่อกำรเคลื่อนไหว เช่น ควำมม่ันคง (Stability) ระบบคำน (Leverage) กำรเคล่อื น (Motion) และแรง (Force) การเคลื่อนไหวเฉพาะอยา่ ง (Specialized Movement) กำรผสมผสำนกันระหว่ำงทักษะย่อยของทักษะกำรเคล่ือนไหวพ้ืนฐำนต่ำง ๆ กำรออกกำลังกำย กำรเล่น เกม และกำรเล่นกีฬำต่ำง ๆ ซ่ึงมีควำมจำเป็นสำหรับกิจกรรมทำงกำย เช่น กำรขว้ำงลูกซอฟท์บอล ต้อง อำศัยกำรผสมผสำนของทักษะกำรสไลด์ (กำรเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนท่ี) กำรขว้ำง (กำรเคลื่อนไหวแบบ ประกอบอุปกรณ์) กำรบดิ ตวั (กำรเคลื่อนไหวแบบไม่เคลื่อนท่ี) ทักษะที่ทำบำงอย่ำงยงิ่ มคี วำมซบั ซอ้ นและต้อง ใช้กำรผสมผสำนของทกั ษะกำรเคล่อื นไหวพ้นื ฐำนหลำย ๆ ทักษะรวมกนั การเคล่ือนไหวในชีวิตประจาวัน (Daily Movement) รูปแบบหรือทักษะกำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยในอิริยำบถต่ำง ๆ ที่บุคคลทั่วไปใช้ในกำรดำเนินชีวิต ไม่ว่ำ เพื่อกำรประกอบกิจวัตรประจำวัน กำรทำงำน กำรเดินทำงหรือกิจกรรมอื่น ๆ เช่น กำรยืน ก้ม นั่ง เดิน วิ่ง โหนรถเมล์ ยกของหนกั ปีนปำ่ ย กระโดดลงจำกทส่ี งู ฯลฯ การเคล่อื นไหวพืน้ ฐาน (Fundamental Movements) ทักษะกำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยที่จำเป็นสำหรับชีวิตและกำรดำเนินชีวติ ของมนุษย์ ในกำรปฏิบัตกิ ิจกรรม ต่ำง ๆ ไดอ้ ย่ำงมีประสิทธิภำพ เป็นทกั ษะทม่ี ีกำรพัฒนำในช่วงวัยเด็ก และจะเป็นพ้นื ฐำนสำหรับกำรประกอบ กิจกรรมตำ่ ง ๆ เมื่อเจรญิ วัยสูงข้ึน ตลอดจนเปน็ พน้ื ฐำนของกำร มีควำมสำมำรถในกำรเคล่ือนไหว โดยเฉพำะ อย่ำงย่ิงในกำรเล่นกีฬำ กำรออกกำลังกำย และกำรประกอบกิจกรรมนันทนำกำร กำรเคลื่อนไหวพื้นฐำน สำมำรถแบง่ ออกไดเ้ ปน็ ๓ ประเภท คอื ๑. กำรเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนท่ี (Locomotor Movement) หมำยถึง ทักษะกำรเคลื่อนไหว ท่ีใช้ ในกำรเคลื่อนร่ำงกำยจำกที่หน่ึงไปยังอีกท่ีหน่ึง ได้แก่ กำรเดิน กำรว่ิง กำรกระโดด สลับเท้ำ กำรกระโจน กำรสไลด์ และกำรวิ่งควบม้ำ ฯลฯ หรือกำรเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง เช่น กำรกระโดด ทักษะกำรเคลื่อนไหว เหล่ำนเี้ ป็นพ้นื ฐำนของกำรทำงำนประสำนสัมพนั ธ์ทำงกลไกแบบไม่ซับซ้อน และเป็นกำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยทใ่ี ช้ กลำ้ มเนื้อมัดใหญ่ ๒. กำรเคล่ือนไหวแบบอยู่กับท่ี (Nonlocomotor Movement) หมำยถึง ทักษะกำรเคลื่อนไหวที่ ปฏิบัติโดยร่ำงกำยไม่มีกำรเคลื่อนที่ของร่ำงกำย ตัวอย่ำงเช่น กำรก้ม กำรเหยียด กำรผลักและดัน กำรบิดตัว กำรโยกตัว กำรไกวตัว และกำรทรงตัว เป็นต้น ๓. กำรเคล่อื นไหวแบบประกอบอุปกรณ์ (Manipulative Movement) เปน็ ทักษะกำรเคล่ือนไหวท่มี ี กำรบังคับหรือควบคุมวัตถุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับกำรใช้มือและเท้ำ แต่ส่วนอ่ืน ๆ ของร่ำงกำยก็สำมำรถ ใช้ได้ เชน่ กำรขวำ้ ง กำรตี กำรเตะ กำรรบั เป็นต้น หลักสตู รโรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) พุทธศกั รำช 2563 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑

การจัดการกบั อารมณ์และความเครียด (Emotion and Stress Management) วิธีควบคุมอำรมณ์ควำมเครียดและควำมคับข้องใจ ที่ไม่เป็นอันตรำยต่อตนเองและผู้อ่ืน แล้วลงมือ ปฏิบัติอย่ำงเหมำะสม เช่น ทำสมำธิ เล่นกีฬำ กำรร่วมกิจกรรม นันทนำกำร กำรคลำยกล้ำมเน้ือ (muscle relaxation) การช่วยฟนื้ คืนชีพ (Cardiopulmonary Resuscitation = CPR) กำรช่วยชีวิตเบ้อื งต้นก่อนส่งต่อใหแ้ พทย์ในกรณีผู้ป่วยหวั ใจหยดุ เต้น โดยกำรนวดหัวใจและผำยปอดไป พรอ้ ม ๆ กัน การดแู ลเบื้องต้น (First Care) กำรใหก้ ำรดแู ลสุขภำพผปู้ ่วยในระยะพกั ฟนื้ และ / หรอื กำรปฐมพยำบำล การพฒั นาที่ยงั่ ยนื (Sustainable Development) กำรพฒั นำที่เป็นองค์รวมของควำมเป็นมนษุ ยต์ ำมแนวทำงของพระธรรมปิฏก (ประยุทธ์ ปยตุ โต) เป็นกำร พัฒนำที่เป็นบูรณำกำร คือ ทำให้เกิดเป็นองค์รวมหมำยควำมว่ำ องค์ประกอบท้ังหลำย ที่เก่ียวข้อง จะต้อง ประสำนกันครบท้ังร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และจิตวิญญำณ และมีดุลยภำพ สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ ของธรรมชำติ การละเลน่ พืน้ เมอื ง (Folk Plays) กิจกรรมเล่นดั้งเดิมของคนในชมุ ชนแต่ละท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของกำรดำเนินชีวิตหรือวิถีชีวติ เพ่ือ เป็นกำรผ่อนคลำยอำรมณ์ ควำมเครียด และสร้ำงเสริมให้มีกำลังกำยแข็งแรง สติปัญญำดี จิตใจเบิกบำน สนุกสนำน อนั ก่อให้เกิดควำมสัมพนั ธ์ที่ดตี ่อกัน และเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรม เช่น กิจกรรมกำรเล่นของ ชมุ ชนทอ้ งถ่ิน ว่ิงเปีย้ ว ชักเยอ่ ข่ีมำ้ ส่งเมอื ง ตจี บั มอญซอ่ นผ้ำ รีๆขำ้ วสำร วงิ่ กระสอบ สะบำ้ กระบีก่ ระบอง มวยไทย ตะกรอ้ วง ตะกร้อลอดบ่วง กจิ กรรมเข้าจงั หวะ (Rhythmic Activities) กำรแสดงออกของรำ่ งกำย โดยกำรเคลื่อนไหวส่วนต่ำง ๆ ของรำ่ งกำยให้เข้ำกับอตั รำควำม ช้ำ – เรว็ ของตวั โน้ต กจิ กรรมนนั ทนาการ (Recreation Activities) กิจกรรมท่บี ุคคลไดเ้ ลือกทำหรอื เข้ำรว่ มด้วยควำมสมคั รใจในเวลำวำ่ ง และผลท่ไี ด้รบั เป็นควำม พงึ พอใจ ไมเ่ ป็นภัยต่อสังคม กจิ กรรมรบั น้าหนักตนเอง (Weight Bearing Activities) กิจกรรมกำรออกกำลังกำยที่มีกำรเคล่ือนไหวบนพื้น เช่น กำรเดิน กำรว่ิง กำรกระโดดเชือก ยิมนำสติก กำรเต้นรำหรือกำรเต้นแอโรบิก โดยกล้ำมเนื้อส่วนที่รับน้ำหนักต้องออกแรงกระทำกับน้ำหนัก ของตนเองในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม หลักสูตรโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดิ์รำษฎร์บำรงุ ) พทุ ธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑

กฬี าไทย (Thai Sports) กีฬำท่ีมีพื้นฐำนเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของท้องถิ่นและสังคมไทย เช่น กระบี่กระบอง มวยไทย ตะกร้อ กีฬาสากล (International Sports) กีฬำที่เป็นที่ยอมรับจำกมวลสมำชิกขององค์กรกีฬำระดับนำนำชำติให้เป็นชนิดกีฬำท่ีบรรจุอยู่ในเกม กำรแข่งขนั เชน่ ฟตุ บอล วอลเลยบ์ อล เทนนสิ แบดมินตัน เกณฑส์ มรรถภาพทางกาย (Physical Fitness Reference) ค่ำมำตรฐำนท่ีได้กำหนดข้ึน (จำกกำรศึกษำวิจัยและกระบวนกำรสถิติ) เพื่อเป็นดัชนีสำหรับประเมิน เปรียบเทียบว่ำบุคคลที่ได้รับคะแนน หรือค่ำตัวเลข (เวลำ จำนวน ครั้ง น้ำหนัก ฯลฯ) จำกกำรทดสอบ สมรรถภำพทำงกำยแต่ละรำยกำรทดสอบนั้น มีสมรรถภำพทำงกำยตำมองค์ประกอบดังกล่ำวอยู่ในระดับ คุณภำพใด โดยทัว่ ไปแล้วนยิ มจัดทำเกณฑ์ใน ๒ ลักษณะ คือ ๑. เกณฑ์ปกติ (Norm Reference) เป็นเกณฑ์ที่จัดทำจำกกำรศึกษำกลุ่มประชำกร ท่ีจำแนกตำม กลุ่มเพศและวยั เป็นหลกั ส่วนใหญ่แล้วจะจัดทำในลกั ษณะของเปอรเ์ ซ็นไทล์ ๒. เกณฑม์ ำตรฐำน (Criterion Reference) เป็นระดบั คะแนนหรอื ค่ำมำตรฐำนท่ีกำหนดไว้ล่วงหน้ำ สำหรับแตล่ ะรำย กำรทดสอบเพื่อเป็นเกณฑ์กำรตัดสินว่ำบคุ คลที่รับกำรทดสอบสมรรถภำพหรือควำมสำมำรถ ผ่ำนตำมเกณฑ์ทไ่ี ด้กำหนดไวห้ รือไม่ มิไดเ้ ป็นกำรเปรยี บเทียบกบั บุคคลอืน่ ๆ ความคิดรวบยอดเกยี่ วกับการเคล่อื นไหว (Movement Concepts) ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งขนำด จงั หวะ เวลำ พื้นที่ และทศิ ทำงในกำรเคลอ่ื นไหวรำ่ งกำย ควำมเข้ำใจถึงควำมเกี่ยวข้องเช่ือมโยง และควำมพอเหมำะพอดีระหว่ำงขนำดของแรงที่ใช้ ในกำร เคลอ่ื นไหวร่ำงกำยหรือวัตถุ ด้วยหว้ งเวลำ จังหวะและทิศทำงทเ่ี หมำะสมภำยใตข้ ้อจำกดั ของพน้ื ที่ทมี่ ีอยู่ และ สำมำรถแปรควำมเขำ้ ใจดังกลำ่ วทั้งหมดไปสูก่ ำรปฏิบัติกำรเคลื่อนไหวในกำรเล่นหรือแข่งขันกีฬำ ความเส่ียงตอ่ สุขภาพ (Health Risk) กำรประพฤตปิ ฏบิ ัตทิ ี่อำจนำไปสู่กำรเกดิ อนั ตรำยตอ่ ชีวิตและสุขภำพของตนเองและผู้อ่ืน เช่น กำรขับ รถเร็ว กำรกินอำหำรสุก ๆ ดบิ ๆ ควำมสำส่อนทำงเพศ กำรมีน้ำหนักตัวเกิน กำรขำด กำรออกกำลังกำย กำรสูบบหุ ร่ี กำรดม่ื สรุ ำ กำรใชย้ ำและสำรเสพตดิ ค่านยิ มทางสังคม (Health Value) คุณสมบัติของส่ิงใดก็ตำม ซ่ึงทำให้สิ่งนั้นเป็นประโยชน์น่ำสนใจ ส่ิงที่บุคคลยึดถือในกำรตัดสินใจและ กำหนดกำรกระทำของตนเองเก่ยี วกบั พฤติกรรมสขุ ภำพ หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) พทุ ธศกั รำช 2563 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพื้นฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

คณุ ภาพชวี ติ (Quality of Life) ควำมรับร้หู รือเขำ้ ใจของปจั เจกบุคคลท่ีมีต่อสถำนภำพชีวิตของตนเองภำยใต้บริบทของระบบวัฒนธรรม และค่ำนิยมท่ีเขำใช้ชีวิตอยู่ และมีควำมเชื่อมโยงกับจุดมุ่งหมำย ควำมคำดหวัง มำตรฐำน รวมท้ังควำม กังวลสนใจท่ีเขำมีต่อสิ่งต่ำง ๆ คุณภำพชีวิตเป็นมโนคติท่ีมีขอบเขตกว้ำงขวำง ครอบคลุมเร่ืองต่ำง ๆ ที่ สลับซับซ้อน ไดแ้ ก่ สุขภำพทำงกำย สภำวะทำงจิต ระดับควำมเปน็ ตัวของตัวเอง ควำมสมั พนั ธ์ตำ่ ง ๆ ทำง สังคม ควำมเชอ่ื ส่วนบุคคล และสมั พันธภำพทด่ี ีต่อสิง่ แวดลอ้ ม จิตวญิ ญาณในการแข่งขนั (Competitive Spiritual) ควำมมุ่งมัน่ กำรท่มุ เทกำลังกำย กำลงั ใจ ควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน และรว่ มมืออยำ่ งสนั ติ เต็มควำมสำมำรถ เพอ่ื ให้ไดม้ ำซง่ึ ผลท่ตี นเองตอ้ งกำร ทกั ษะชวี ติ (Life Skills) เป็นคุณลักษณะหรือควำมสำมำรถเชิงสังคมจิตวิทยำ (Psychosocial Competence) และเป็น ควำมสำมำรถทำงสติปัญ ญ ำ ท่ีทุกคนจำเป็นต้องใช้ในกำรเผชิญ สถำนกำรณ์ ต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้น ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ สำมำรถพัฒนำขึ้นได้ด้วยกำรฝึกและกระทำซ้ำ ๆ ให้เกิดควำม คล่องแคล่ว เคยชนิ จนเป็นลักษณะนิสยั ประกอบดว้ ยทักษะตำ่ ง ๆ ดังนี้ คอื กำรรู้จักตนเอง เขำ้ ใจตนเอง และเห็นคุณค่ำของตนเอง กำรรู้จักคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณและคิดสร้ำงสรรค์ กำรรู้จักคิดตัดสินใจและ แก้ปญั หำ กำรรจู้ ักแสวงหำและใช้ข้อมูลควำมรู้ กำรสอ่ื สำรและกำรสร้ำงสัมพันธภำพกับผู้อื่น กำรจัดกำรกับ อำรมณ์และควำมเครียด กำรปรับตัวท่ำมกลำงกำรเปล่ียนแปลง กำรต้ังเป้ำหมำย กำรวำงแผนและ ดำเนินกำรตำมแผน ควำมเห็นใจผ้อู ่ืน ควำมรบั ผิดชอบต่อสังคมและซำบซึ้งในส่ิงที่ดีงำมรอบตวั ธงโภชนาการ (Nutrition Flag) เป็นเคร่ืองมือที่ช่วยอธิบำยและทำควำมเข้ำใจโภชนบัญญัติ ๙ ประกำร เพ่ือนำไปสู่กำรปฏิบัติ โดย กำหนดเป็นภำพ “ธงปลำยแหลม” แสดงกลุ่มอำหำรและสัดส่วนกำรกินอำหำรในแต่ละกลุ่มมำกน้อยตำมพ้ืนที่ สังเกตได้ชัดเจนว่ำ ฐำนใหญ่ดำ้ นบนเน้นให้กินมำกและปลำยธงข้ำงล่ำงบอกให้กินน้อย ๆ เท่ำท่ีจำเป็นโดยมีฐำน มำจำกข้อปฏิบตั กิ ำรบรโิ ภคอำหำรเพื่อสขุ ภำพท่ดี ขี องคนไทย หรือ โภชนบญั ญัติ ๙ ประกำร คือ ๑. กินอำหำรครบ ๕ หมู่ แตล่ ะหม่ใู หห้ ลำกหลำยและหม่ันดูแลนำ้ หนักตัว ๒. กินข้ำวเปน็ อำหำรหลกั สลบั กบั อำหำรประเภทแป้งเปน็ บำงมื้อ ๓. กนิ พืชผกั ใหม้ ำกและกนิ ผลไมเ้ ปน็ ประจำ ๔. กนิ ปลำ เน้ือสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถ่ัวเมล็ดแหง้ เป็นประจำ ๕. ดม่ื นมใหเ้ หมำะสมตำมวยั ๖. กินอำหำรท่มี ีไขมนั แตพ่ อควร ๗. หลกี เลยี่ งกำรกินอำหำรรสหวำนจัด และเคม็ จดั ๘. กนิ อำหำรท่สี ะอำด ปรำศจำกกำรปนเปอ้ื น ๙. งดหรอื ลดเคร่อื งดืม่ ท่มี แี อลกอฮอล์ หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวัสดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

น้าใจนกั กีฬา (Spirit) เป็นคุณ ธรรมประจำใจของกำรเล่นร่วมกัน อยู่ร่วมกัน และมีชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม ได้อย่ำงปกติสุขและมีประสิทธิภำพ พฤติกรรมท่ีแสดงถึงควำมมีน้ำใจนักกีฬำ เช่น กำรมีวินัย เคำรพกฎกติกำ ร้แู พ้ รชู้ นะ รู้อภัย บรกิ ารสขุ ภาพ (Health Service) บรกิ ำรทำงกำรแพทย์และสำธำรณสขุ ทัง้ ของรฐั และเอกชน ประชาสังคม (Civil Society) เค รือข่ ำย ก ลุ่ ม ชม รม ส ม ำค ม มู ล นิ ธิ ส ถำบั น อ งค์ ก ร ห รือ ชุม ชน ที่ มี กิ จก รรม กำรเคลอื่ นไหวทำงสงั คม เพื่อประโยชน์ร่วมกนั ของกลมุ่ ผลิตภัณฑ์สขุ ภาพ (Health Products) ยำ เคร่ืองสำอำง อำหำรสำเรจ็ รปู เครอ่ื งปรงุ รสอำหำร อำหำรเสรมิ วิตำมนิ พฤติกรรมเบยี่ งเบนทางเพศ (Sex Abuse) กำรประพฤติปฏิบัติใด ๆ ที่ไม่เป็นไปตำมธรรมชำติทำงเพศตนเอง เช่น มีจิตใจรักชอบในเพศเดียวกัน กำรแต่งตวั หรือแสดงกริ ยิ ำเป็นเพศตรงขำ้ ม พฤติกรรมสุขภาพ (Health Behaviour) กำรปฏิบัติหรือกิจกรรมใด ๆ ในด้ำนกำรป้องกัน กำรสร้ำงเสริม กำรรักษำและกำรฟ้ืนฟูสุขภำพ อนั มีผลตอ่ สภำวะทำงสขุ ภำพของบคุ คล พฤตกิ รรมเสี่ยง (Risk Behaviour) รูปแบบจำเพำะของพฤติกรรม ซ่ึงได้รับกำรพิสูจน์แล้วว่ำ มีควำมสัมพันธ์กับกำรเพ่ิมโอกำส ท่ีจะป่วย จำกโรคบำงชนิดหรอื กำรเส่ือมสขุ ภำพมำกขนึ้ พลังปญั ญา (Empowerment) กระบวนกำรสร้ำงเสริมศักยภำพแก่บุคคลและชุมชนให้เป็นผู้สนใจใฝ่รู้ และมีอำนำจในกำรคิด กำร ตัดสินใจ กำรแก้ปัญหำด้วยชุมชนเองได้เป็นส่วนใหญ่ นอกจำกน้ันบุคคลและชุมชน ยังสำมำรถควบคุม สภำพแวดล้อมท่มี ีผลกระทบตอ่ ปัญหำสขุ ภำพใหอ้ ยู่ในสภำพทีเ่ ออ้ื ตอ่ กำรสร้ำงเสรมิ และพัฒนำสขุ ภำพ หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พ้ืนฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

ภาวะทพุ โภชนาการ (Malnutrition) กำรขำดสำรอำหำรทจี่ ำเปน็ ต่อกำรเจริญเตบิ โตและพฒั นำกำรของเด็ก ทำให้มีผลกระทบต่อสุขภำพ ภาวะผู้นา (Leadership) กำรมีคุณลักษณะในกำรเป็นหัวหน้ำ สำมำรถชักชวนและชี้นำสมำชิกในกลุ่มร่วมมือร่วมใจกัน ปฏบิ ตั ิงำนให้สำเรจ็ ลุลว่ งไปดว้ ยดี ภมู ปิ ญั ญาไทย (Thai Wisdom) สติปัญญำ องค์ควำมรู้และค่ำนิยมที่นำมำใช้ในกำรดำเนินชีวิตได้อย่ำงเหมำะสม เป็นมรดกทำง วฒั นธรรมที่เกิดจำกกำรสั่งสมประสบกำรณ์ ควำมรู้แขนงต่ำง ๆ ของบรรพชนไทยนับแต่อดีต สอดคล้องกับ วถิ ชี ีวติ ภูมิปัญญำไทย จงึ มคี วำมสำคญั ตอ่ กำรพัฒนำชีวิตควำมเป็นอยขู่ องคนไทย ทงั้ ดำ้ นเศรษฐกิจ สงั คม ลักษณะของภมู ิปญั ญำไทย มอี งคป์ ระกอบต่อไปน้ี ๑. คติ ควำมเชือ่ ควำมคดิ หลักกำรทีเ่ ปน็ พนื้ ฐำนขององคค์ วำมรูท้ เี่ กดิ จำกสง่ั สมถ่ำยทอดกันมำ ๒. ศิลปะ วฒั นธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี ๓. กำรประกอบอำชีพในแตล่ ะทอ้ งถิ่นทีไ่ ดร้ ับกำรพัฒนำใหเ้ หมำะสมกับสมยั ๔. แนวคดิ หลักปฏบิ ัติ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ทนี่ ำมำใชใ้ นชมุ ชน ซึ่งเป็นอิทธพิ ลของควำมกำ้ วหน้ำ ทำงวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ตวั อย่ำงภมู ิปญั ญำไทยทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับสขุ ภำพ เชน่ กำรแพทย์แผนไทย สมนุ ไพร อำหำรไทย ยำไทย แรงขับทางเพศ (Sex Drive) แรงขับทีเ่ กิดจำกสญั ชำตญำณทำงเพศ ล่วงละเมิดทางเพศ (Sexual Abuse) กำรใช้คำพูด กำรจับ จูบ ลูบ คลำ และ / หรือร่วมเพศ โดยไม่ได้รับกำรยินยอมจำก ฝ่ำยตรงข้ำม โดยเฉพำะกบั ผเู้ ยำว์ สติ (Conscious) ควำมรู้สึกตวั อยู่เสมอในกำรรับรูส้ ิ่งตำ่ ง ๆ กำรให้หลักกำรและเหตผุ ลในกำรปอ้ งกัน ยับยั้งชั่งใจ และ ควบคุมตนเองเพื่อไมใ่ หค้ ดิ ผดิ ทำง ไมห่ ลงลมื ไมเ่ ครยี ด ไมผ่ ิดพลำด ก่อให้เกิดพฤติกรรมทีถ่ ูกตอ้ ง ดีงำม หลักสตู รโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพ้นื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑

สมรรถภาพกลไก (Motor Fitness) หรือสมรรถภาพเชิงทักษะปฏิบัติ (Skill - Related Physical Fitness) ควำมสำมำรถของร่ำงกำยทชี่ ่วยให้บุคคลสำมำรถประกอบกิจกรรมทำงกำย โดยเฉพำะอย่ำงยงิ่ กำรเล่น กฬี ำได้ดี มอี งค์ประกอบ ๖ ด้ำน ดังนี้ ๑. ควำมคล่อง (Agility) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรเปล่ียนทิศทำงกำรเคลื่อนที่ได้อย่ำงรวดเร็ว และสำมำรถควบคมุ ได้ ๒. กำรทรงตัว (Balance) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรรักษำดุลของร่ำงกำยเอำไว้ได้ ทง้ั ในขณะอยกู่ ับทแ่ี ละเคลอ่ื นท่ี ๓. กำรประสำนสัมพันธ์ (Co – ordination) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรเคล่ือนไหวได้อย่ำง รำบรืน่ กลมกลนื และมีประสทิ ธิภำพ ซ่งึ เป็นกำรทำงำนประสำนสอดคล้องกนั ระหว่ำงตำ-มอื -เทำ้ ๔. พลังกล้ำมเน้ือ (Power) หมำยถึง ควำมสำมำรถของกล้ำมเน้ือส่วนหน่ึงส่วนใดหรือ หลำย ๆ ส่วนของร่ำงกำยในกำรหดตัวเพ่ือทำงำนด้วยควำมเร็วสูง แรงหรืองำนท่ีได้เป็นผลรวมของควำมแข็งแรงและ ควำมเรว็ ที่ใชใ้ นช่วงระยะเวลำน้นั ๆ เชน่ กำรยนื อยูก่ ับท่ี กระโดด กำรทุม่ น้ำหนกั เป็นตน้ ๕. เวลำปฏกิ ิริยำตอบสนอง (Reaction time) หมำยถึง ระยะเวลำที่ร่ำงกำยใช้ในกำรตอบสนองต่อสิ่ง เร้ำตำ่ ง ๆ เช่น แสง เสียง สมั ผสั ๖. ควำมเร็ว (Speed) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรเคล่ือนที่จำกท่ีหนึ่งไปยังอีกหน่ึงได้อย่ำง รวดเร็ว สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness) ควำมสำมำรถของระบบต่ำง ๆ ของร่ำงกำย ในกำรทำงำนอย่ำงมีประสิทธิภำพและประสิทธิผล บุคคลที่มีสมรรถภำพทำงกำยดีน้ันจะสำมำรถประกอบกจิ กรรมในชีวิตประจำวนั ได้อยำ่ งกระฉับกระเฉง โดยไม่ เหน่อื ยล้ำจนเกนิ ไปและยังมพี ลังงำนสำรองมำกพอ สำหรับกจิ กรรมนันทนำกำรหรือกรณฉี ุกเฉิน ในปจั จุบนั นัก วิชำชีพดำ้ นสุขศึกษำและพลศึกษำได้เห็นพ้องต้องกันวำ่ สมรรถภำพทำงกำยสำมำรถจัดกลุ่มไดเ้ ปน็ สมรรถภำพ ทำงกำยเพื่อสุขภำพ (Health – Related Physical Fitness) และหรือสมรรถภำพกลไก (Motor Fitness) สมรรถภำพเชิงทกั ษะปฏิบตั ิ (Skill – Related Physical Fitness) สมรรถภาพทางกายเพ่อื สุขภาพ (Health – Related Physical Fitness) ควำมสำมำรถของระบบต่ำง ๆ ในร่ำงกำยประกอบด้วย ควำมสำมำรถเชิงสรรี วทิ ยำดำ้ นต่ำง ๆ ที่ช่วย ป้องกันบคุ คลจำกโรคทีม่ ีสำเหตุจำกภำวะกำรขำดกำรออกกำลังกำย นับเป็นปจั จบุ ันหรอื ตวั บง่ ชี้สำคญั ของกำรมี สุขภำพดี ควำมสำมำรถหรือสมรรถนะเหล่ำน้ี สำมำรถปรับปรุงพัฒนำและคงสภำพได้ โดยกำรออกกำลังกำย อยำ่ งสมำ่ เสมอ สมรรถภำพทำงกำยเพือ่ สุขภำพมอี งค์ประกอบดงั นี้ ๑. องค์ประกอบของร่ำงกำย (Body Composition) ตำมปกติแล้วในร่ำงกำยมนุษย์ประกอบด้วย กล้ำมเนื้อ กระดูก ไขมัน และส่วนอ่ืน ๆ แต่ในส่วนของสมรรถภำพทำงกำยนั้น หมำยถึง สัดส่วนปริมำณ ไขมันในรำ่ งกำยกับมวลร่ำงกำยทป่ี รำศจำกไขมัน โดยกำรวัดออกมำเป็นเปอร์เซ็นต์ไขมนั (% fat) ดว้ ยเคร่ือง หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) พทุ ธศกั รำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑

๒. ควำมทนทำนของระบบไหลเวียนโลหิต (Cardiorespiratory Endurance) หมำยถึง สมรรถนะเชิงปฏิบตั ิ ของระบบไหลเวียนโลหิต (หัวใจ หลอดเลือด) และระบบหำยใจในกำรลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์กล้ำมเนื้อ ทำให้ร่ำงกำยสำมำรถยนื หยดั ทจี่ ะทำงำนหรือออกกำลังกำยทใี่ ชก้ ล้ำมเน้ือมัดใหญเ่ ปน็ ระยะเวลำยำวนำนได้ ๓. ควำมอ่อนตวั หรือควำมยืดหยุ่น (Flexibility) หมำยถึง พิสัยของกำรเคล่ือนไหวสูงสุดเท่ำท่ีจะทำ ได้ของข้อตอ่ หรอื กลุ่มขอ้ ตอ่ ๔. ควำมทนทำนหรือควำมอดทนของกล้ำมเนื้อ (Muscular Endurance) หมำยถึง ควำมสำมำรถ ของกลำ้ มเนือ้ มดั ใดมัดหนึ่งหรอื กล่มุ กล้ำมเนอ้ื ในกำรหดตวั ซำ้ ๆ เพอื่ ตำ้ นแรงหรอื ควำมสำมำรถในกำรคงสภำพ กำรหดตวั ครง้ั เดยี วได้เปน็ ระยะเวลำยำวนำน ๕. ควำมแข็งแรงของกล้ำมเนื้อ (Muscular Strength) หมำยถึง ปริมำณสูงสุดของแรง ที่กล้ำมเน้ือ มัดใดมัดหนงึ่ หรือกลุม่ กลำ้ มเนือ้ สำมำรถออกแรงต้ำนทำนได้ ในชว่ งกำรหดตวั ๑ ครั้ง สุขบญั ญตั แิ ห่งชาติ (National Health Disciplines) ข้อกำหนดที่เด็กและเยำวชน ตลอดจนประชำชนทั่วไป พึงปฏิบัติอย่ำงสม่ำเสมอ จนเป็นสุขนิสัย เพือ่ ให้มสี ุขภำพดีทัง้ ร่ำงกำย จิตใจ และสงั คม ซ่งึ กำหนดไว้ ๑๐ ประกำร ดงั น้ี ๑. ดแู ลรกั ษำร่ำงกำยและของใช้ใหส้ ะอำด ๒. รักษำฟันให้แข็งแรงและแปรงฟันทกุ วนั อย่ำงถกู ต้อง ๓. ล้ำงมือให้สะอำดก่อนกินอำหำรและหลังกำรขับถ่ำย ๔. กินอำหำรสุก สะอำด ปรำศจำกสำรอันตรำย และหลีกเล่ียงอำหำรรสจัด สีฉูดฉำด ๕. งดบุหรี่ สุรำ สำรเสพตดิ กำรพนัน และกำรสำสอ่ นทำงเพศ ๖. สร้ำงควำมสัมพันธใ์ นครอบครัวให้อบอนุ่ ๗. ปอ้ งกันอบุ ตั ภิ ัยดว้ ยกำรไม่ประมำท ๘. ออกกำลังกำยสมำ่ เสมอและตรวจสขุ ภำพประจำปี ๙. ทำจติ ใจใหร้ ่ำเริงแจม่ ใสอยเู่ สมอ ๑๐.มีสำนึกต่อส่วนรวม รว่ มสร้ำงสรรค์สังคม สขุ ภาพ (Health) สุขภำวะ (Well – Being หรือ Wellness) ที่สมบูรณ์และเช่ือมโยงกันเป็นองค์รวมอย่ำงสมดุลท้ังมิติ ทำงจิตวิญญำณ (มโนธรรม) ทำงสังคม ทำงกำย และทำงจิต ซึ่งมิได้หมำยถึงเฉพำะควำมไม่พิกำรและควำม ไมม่ โี รคเทำ่ นั้น สนุ ทรยี ภาพของการเคล่ือนไหว (Movement Aesthetic) ศิลปะและควำมงดงำมของท่วงท่ำในกำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยในอิริยำบถต่ำง ๆ ซึ่งเป็นผลมำจำก ควำมคิดสร้ำงสรรค์ในกำรออกแบบท่ำทำงกำรเคลื่อนไหวและกำรฝึกฝนจนเกิดควำมชำนำญ สำมำรถแสดง ออกมำเป็นควำมกลมกลนื และต่อเน่ือง หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) พทุ ธศักรำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

แอโรบิก (Aerobic) กระบวนกำรสร้ำงพลังงำนแบบต้องใช้อำกำศ ซ่ึงในที่นี้ หมำยถึง ออกซิเจน (Aerobic -energe delivery) ในกำรสร้ำงพลงั งำนของกล้ำมเนือ้ เพอื่ ทำงำนหรอื เคล่ือนไหว น้นั กลำ้ มเน้อื จะมวี ธิ ีกำร ๓ แบบ ท่ีจะไดพ้ ลงั งำนมำ แบบท่ี ๑ เปน็ กำรใชพ้ ลงั งำนทม่ี ีสำรองอยูใ่ นกล้ำมเนื้อซง่ึ จะใชไ้ ดใ้ นเวลำไมเ่ กนิ ๓ วินำที แบ บ ที่ ๒ ก ำรสั งเค รำะห์ พ ลั งงำน โดยไม่ ใช้ออ กซิ เจน (Anaerobic energy delivery) ซ่ึงใชไ้ ดไ้ มเ่ กนิ ๑๐ วินำที แบบท่ี ๓ กำรสงั เครำะหส์ ำรพลังงำน โดยใช้ออกซเิ จน ซ่ึงจะใชพ้ ลงั งำนไดร้ ะยะเวลำนำน หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) พุทธศักรำช 2563 ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook