ฐ า น ข้ อ มู ล พ ร ร ณ ไ ม้ โรงเรียนเทศบาล 7 (ศิรินาวนิ วทิ ยา) ดอกเข็ม
ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Ixora , spp. ช่ือเรียกอื่น : เขม็ ชื่อวงศ์ : Rubiaceae ลกั ษณะ : เป็ นไมพ้ ่มุ ออกดอกเป็ นช่อที่ปลายยอดหรือก่ิงขา้ ง ดอกมีหลากสีดว้ ยกนั คือ สี แดง สม้ ชมพู เหลือง และขาว เป็นตน้ ดอกเขม็ มีลกั ษณะเป็ นหลอดเลก็ ๆ ท่ีปลายหลอดมีกลีบแยกจากกนั เป็ น 4 กลีบ ถา้ ดอกซอ้ นอาจจะมีถึง 8 กลีบ หรือมากกวา่ น้นั เกสรตวั ผตู้ ิดอยู่ท่ีหลอดดอกดา้ นบน และอยู่สลบั กบั กลีบ เกสรตวั เมียย่ืนเลย หลอดดอกออกมา มี 2 แฉก เขม็ จะออกดอกตลอดท้งั ปี น้าหวานจากดอกเข็มมีปริมาณมาก เราสามารถดูดน้าหวานดว้ ยปากโดยตรง จากดอกเขม็ แต่ละดอกไดโ้ ดยง่าย
การกระจายพนั ธ์ุ : การเพาะเมลด็ และดว้ ยการตอน ช่วงเวลาการออกดอก : - ประโยชน์ : 1. ราก รสเยน็ หวาน แกเ้ สมหะและแกก้ าเดา บารุงธาตุไฟ แกต้ าพิการ 2.ใบ รสขื่น เป็นยาฆ่าพยาธิ 3. ดอก รสหวานเยน็ แกโ้ รคตา แหล่งอ้างองิ : https://th.wikipedia.org/wiki/เขม็ _(พืช)
ลกั ษณะของลาตน้ ลกั ษณะของใบ
ลกั ษณะของดอก ลกั ษณะของผล
ผู้ จั ด ทา ❖เดก็ หญิง ณฐั ณิชา จนั พรมมิน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี1 เลขท่ี26
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: