Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จามจุรี

จามจุรี

Published by dechawat.b25, 2019-09-10 03:41:05

Description: ก้ามปู, ฉำฉา หรือ จามจุรีแดง (มักเรียกสั้น ๆ ว่า จามจุรี)[2] เป็นพืชในวงศ์ถั่ว (Leguminosae) ในวงศ์ย่อย Minosoideae เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีกิ่งก้านสาขามาก มีใบขนาดเล็ก ดอกสีชมพู มีผลเป็นฝัก เมล็ดแข็ง ผลมีเนื้อสีชมพู รสหวานสัตว์เคี้ยวเอื้องชอบกินเป็นอาหาร เป็นพืชพื้นเมืองของเม็กซิโก, บราซิล และเปรู ต่อมาได้ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในเอเชียใต้, เอเชียอาคเนย์, หมู่เกาะแปซิฟิก และฮาวาย เมล็ดเมื่อรับประทานทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน ถ้าเป็นพิษรุนแรง ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่สม่ำเสมอ ทำให้ชักได้ [3]

ก้ามปูต้นแรกในประเทศไทยปลูกอยู่ภายในโรงเรียนอัสสัมชัญ โดยบาทหลวงรอมิเอล ซึ่งเป็นนักบวชที่อยู่ในวัดอัสสัมชัญ เป็นผู้นำพันธุ์มาจากเมืองไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม ต่อมาภายหลังก็เป็นที่แพร่หลายและนิยมนำมาปลูกเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่เพื่อให้ร่มเงา

Keywords: จามจุรี ม

Search

Read the Text Version

ฐ า น ข้ อ มู ล พ ร ร ณ ไ ม้ โรงเรียนเทศบาล 7 (ศิรินาวนิ วทิ ยา) ต้นจามจุรี

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Samanea saman (Jacq.) Merr. ชื่อเรียกอื่น : กา้ มกราม จามจุรี ฉาฉา ตุด๊ ตู่ลงั สาสา ช่ือวงศ์ : MIMOSACEAE ลกั ษณะ : ลาต้น :ไมต้ น้ ขนาดใหญ่ สูง 15-20 เมตร ผลดั ใบเรือนยอดแผเ่ ป็นพ่มุ กวา้ งคลา้ ย ร่มคนตน้ เป็นพพู อนต่า เปลือกสีน้าตาลปนเทา แตกตามยาวขรุขระไม่เป็นระเบียบ ใบ :ใบประกอบแบบขนนกสองช้นั ปลายคู่ เรียงสลบั ใบยอ่ ยเรียงตรงขา้ ม มี 2- 10 คู่ ใบรูปไขร่ ูปรีหรือคลา้ ยรูปส่ีเหล่ียมขนมเปี ยกปูน กวา้ ง 1-2.5 ซม. ยาว 1.5- 5 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบบิดเบ้ียว ผวิ ในดา้ นบนสีเขียวเขม้ เป็ นมนั ดา้ นล่างมี ขนนุ่ม ขอบใบเรียบ เสน้ แขนงใบขา้ งละ 7-8 เสน้ ไมม่ ีกา้ นใบยอ่ ย ดอก :สีเหลืองปนเขียว กลีบเล้ียง 7-8 กลีบ กลีบดอกโคนเชื่อมติดเป็นถว้ ย ปลาย แยก 5 แฉกเป็นรูปแตร เกสรเพศผจู้ านวนมาก ยาวโผล่พน้ กลีบดอก สีชมพู ออ่ น บริเวณโคนมีสีขาว ดอกออกเป็ นช่อแบบช่อกระจุกแน่น ตามซอกใบใกล้ ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 3 ซม. ช่อดอกรวมบานเตม็ ท่ีกวา้ ง 5-6 ซม. ดอกยอ่ ยขนาด เลก็ ผล :เป็นฝักแหง้ รูปขอบขนาน สีน้าตาลดา กวา้ ง 1.5-2.4 ซม. ยาว 15-20 ซม. คอด เป็นตอนระหวา่ งเมลด็ เมลด็ แบนสีน้าตาลเขม้ ปนดาเป็น มนั กวา้ ง 6 มม. ยาว 10 มม.

การกระจายพนั ธ์ุ : ดินทุกชนิด เป็นไมก้ ลางแจง้ เพาะเมลด็ ช่วงเวลาการออกดอก : เริ่มตดิ ดอก :สิงหาคมสิ้นสุดระยะตดิ ดอก :กนั ยายน เริ่มตดิ ผล :ตุลาคมสิ้นสุดระยะตดิ ผล :ธนั วาคม ประโยชน์ : เปลือกตน้ ป่ นละเอียดเป็นยาสมานแผล - เปลือกตน้ และเมลด็ รักษาอาการบิด ทอ้ งเสีย [1] - เน้ือไมใ้ ชใ้ นงานแกะสลกั ทาเครื่องใช้ เคร่ืองเรือนต่างๆ [1], [2] - ใบแกป้ วดแสบปวดร้อน - เมลด็ แกโ้ รคผวิ หนงั เปลือกสมานแผลในปากคอ แก้ ทอ้ งร่วง - ฝักแก่เป็นอาหารสตั ว์ [2] แหล่งอ้างองิ : http://www.royalparkrajapruek.or g/Plants/view?id=1256

ลกั ษณะของลาตน้ ลกั ษณะของใบ

ลกั ษณะของดอก ลกั ษณะของผล

ผู้ จั ด ทา ❖เดก็ หญิงเกจ็ มณี จนั ทร์สมวงค์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่1 ❖เลขที่24


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook