ข้อความลิขสิทธ์ิของ - RIGHT TO PLAY ©2010 RIGHT TO PLAY (“ผ้จู ดั พิมพ์”) ©2015 RIGHT TO PLAY แก้ไขปรับปรุงครัง้ ที่ 2 สงวนลขิ สทิ ธิ์ ห้ามมใิ ห้สว่ นหนง่ึ สว่ นใดของส่ิงพมิ พ์นถี ้ กู จดั ทาซา้ จดั เก็บในระบบท่ีสามารถกู้ข้อมลู คนื ได้ หรือถกู ถ่ายโอนไมว่ า่ ในรูปแบบใด ๆ ก็ตาม เช่น อเิ ลก็ ทรอนิกส์ การทาสาเนา หรือการบนั ทกึ โดยปราศจากการอนญุ าตอนั เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรจากผ้จู ดั พิมพ์ 2
กติ ตกิ รรมประกาศ เราใคร่ขอขอบคุณทุกท่านท่ใี ห้ความช่วยเหลอื ในการพฒั นาชุดค่มู อื ทกั ษะชวี ิต สงิ่ แรกและสาคญั ท่ีสดุ ขอขอบคณุ ครู ผ้ฝู ึกสอน ผ้นู ากิจกรรม และเจ้าหน้าที่ ไร้ท์ ทู เพลย์ ในประเทศไทยทีน่ ากิจกรรมตา่ ง ๆ ของ ไร้ท์ ทู เพลย์ ไปปฏบิ ตั กิ นั อยา่ งเตม็ กาลงั ด้วยความทมุ่ เท และประสบผลสาเร็จ ขอบคณุ สาหรับความตงั้ ใจอันแนว่ แน่ ความทมุ่ เท และ แรงบนั ดาลใจในการสร้างสถานทแี่ หง่ ความปลอดภยั เพอ่ื ให้เดก็ ๆ ได้เรียนรู้ และสร้างความหวงั ซงึ่ จาเป็นสาหรับเดก็ ๆ ในการเลง็ เหน็ และตระหนกั ถึงอนาคตท่ดี ขี นึ ้ นอกจากนยี ้ งั ขอขอบคณุ บคุ คลตอ่ ไปนสี ้ าหรับการเป็นผ้นู า เป็นแรงบนั ดาลใจ และเป็นแรงสนบั สนนุ ระหวา่ งที่เราทาการพฒั นาคมู่ ือ กิจกรรมชดุ นี ้ เทเรซา่ กอนซาเลซ ทีป่ รึกษาด้านวชิ าการอาวโุ ส ฝ่ายโปรแกรมระหวา่ งประเทศ เจเนท็ มลิ ลาร์ แกรนท์ จากสมาพนั ธ์ครูประถมศกึ ษาแหง่ ออนตาริโอ (ETFO) นีนา่ วาเลน็ ทิค ผ้อู านวยการฝ่ายโปรแกรมระหวา่ งประเทศ ไมเคลิ อลั เบิร์ต ผ้จู ดั การมลู นธิ ิ ไร้ท์ ทู เพลย์ ประจาประเทศไทย เออร์นี่ รีบสุ ทิลโล เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมระดบั ภมู ิภาค สานกั งาน ไร้ท์ ทู เพลย์ ประจาภาคพนื ้ เอเชยี ฮีทเธอร์ ออเดน อดตี เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการอาสาสมคั รและเจ้าหน้าที่พฒั นาทรัพยากรการเรียนรู้ สดุ ท้าย เราขอขอบคณุ บคุ คลต่อไปนที ้ กี่ รุณาเป็นผ้นู าในการเขยี นบทความตา่ ง ๆ ของคมู่ ือกิจกรรมชดุ นดี ้ ้วยความทมุ่ เท อยา่ งไมร่ ู้จกั เหน็ดเหน่อื ย เบอร์นาเด็ตต์ ดากีเนส - เจ้าหน้าท่ีโครงการสาหรับการฝึกอบรมและทรัพยากรการเรียนรู้ เป็นทงั้ หวั หน้านกั เขียนและนกั วจิ ยั ทพี่ ฒั นาออกแบบเลย์เอ้าท์หน้ากระดาษตลอดจนจดั เตรียมต้นฉบบั สาหรับการจดั พิมพ์ เอลสเพธ็ ฮนั นาน – ที่ปรึกษาภายนอก ซง่ึ จดั ทาเนอื ้ หาอยา่ งเป็นทางการและทาสาเนาแก้ไขต้นฉบบั ครัง้ สดุ ท้าย จเู ลยี พอร์ตเตอร์ – ผ้จู ดั การโปรแกรมและพฒั นาทางวิชากร และ ลอเรน ซิมเมสนั อดีตผ้ปู ระสานงานโครงการ ซงึ่ เขยี นและ ทาวิจยั ตลอดจนให้กรอบแนวคิดสาหรับคมู่ ือกจิ กรรมชดุ นี ้ ไซบลิ ฉน่ั – นกั ออกแบบกราฟฟิก ผ้สู ร้างสรรค์ออกแบบปกสาหรับคมู่ ือกิจกรรมชดุ นี ้ 3
สารบัญ บทนา 5 6 1. บทนาสทู่ กั ษะชีวิต................................................................................................. 10 2. บทนาสทู่ ฤษฎีการเรียนรู้อารมณ์และสงั คม.............................................................. 3. บทนาเกี่ยวกบั กระบวนการพฒั นาทกั ษะชีวิตของ Right To Play……………………. การใช้คู่มือทักษะชีวติ 12 14 4. การใช้กีฬาและการเลน่ เพ่ือพฒั นาทกั ษะชีวิตนกั เรียน............................................... 18 5. ประโยชน์ของการใช้การสนทนาในการทากิจกรรม…………………........................... 6. ทาความรู้จกั กิจกรรมการเรียนรู้ผา่ นการเลน่ เพ่ือพฒั นาทกั ษะชีวิต.............................. คาแนะนาสาหรับการวางแผนและเป็ นผู้นากิจกรรมทักษะชีวิต 22 25 7. เคล็ดลบั สาหรับการวางแผนกิจกรรมที่ดี .................................................................. 27 8. แนวทางการบรู ณาการทกั ษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้........................................... 29 9. เคล็ดลบั สาหรับการเป็นผ้นู ากิจกรรมท่ีดี................................................................... 33 10. กลยทุ ธ์สาหรับการเป็นผ้นู าการสนทนาท่ีดี................................................................ 11. บทสรุป.................................................................................................................. 4
1. บทนาสู่ทกั ษะชวี ติ ไร้ท์ ทู เพลย์ คอื ใคร ไร้ ท์ ทู เพลย์ เป็นองค์กรนานาชาติท่ีใช้พลงั แห่งกีฬาและการเล่นเพื่อพัฒนาการศึกษาและเสริมสร้ างพลงั ให้เด็กท่ีปร ะสบความ ยากลาบากในพืน้ ที่ตา่ ง ๆ กว่า 20 ประเทศทว่ั โลก ก่อตงั้ ขนึ ้ ในปี ค.ศ. 2000 โดย นายโจฮานน์ โอลาฟ คอส อดีตนกั กีฬาโอลิมปิค 4 เหรียญทองและผ้ปู ระกอบการทางสงั คม มีรูปแบบการถ่ายทอดความรู้ท่ีเป็นเอกลกั ษณ์ โดยคณะทางานทงั้ ระหว่างประเทศและใน ประเทศจะทาการฝึกอบรมอาสาสมคั ร ผ้นู ากิจกรรม และครูในท้องถิ่น ให้สามารถถ่ายทอดการเรียนรู้ที่เน้นการมีสว่ นร่วมของผ้เู รียน โดยใช้พลงั ของกีฬาและการเล่นท่ีมีแบบแผน เป็นเคร่ืองมือพัฒนาทักษะชีวิตอนั มีคุณค่าให้แก่เด็กเพ่ือก้าวส่อู นาคตที่ดีขึน้ ใน ขณะเดียวกนั ก็ผลกั ดนั ให้เกิดการเปล่ียนแปลงในสงั คมและชมุ ชนอยา่ งยงั่ ยืน โดยทาทงั้ งานวิจยั งานโยบาย และงานพิทกั ษ์สิทธ์ิ ใน ประเทศไทยได้จดทะเบียนในนาม มลู นธิ ิ ไร้ท์ ทู เพลย์ ประเทศไทย ค่มู ือชุดนีเ้ หมาะสาหรับใคร คมู่ ือเลม่ นีถ้ กู จดั ทาขนึ ้ สาหรับครูที่อย่ใู นประเทศไทยซ่ึงได้เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบตั ิการเก่ียวกบั การพฒั นาทกั ษะชีวิต ท่ีจดั ขนึ ้ โดย เจ้าหน้าที่ของ ไร้ท์ ทู เพลย์ ครูทใ่ี ช้คมู่ อื ชดุ นจี ้ าเป็นต้องมีความเข้าใจรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ท่ี ไร้ท์ ทู เพลย์ ใช้ ยกตวั อยา่ งเชน่ การ สนทนาเพ่ือนาเข้าสบู่ ทเรียนและสรุปบทเรียนกบั นกั เรียนอยา่ งมีประสิทธิภาพ ขนั้ ตอนการดาเนินกิจกรรม ฯลฯ ซงึ่ เม่ือครูมีความรู้และ ความเข้าใจกระบวนการดงั กล่าว จะช่วยให้ครูสามารถเตรียมและการจดั การเรียนรู้เพื่อพฒั นาทกั ษะชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกบั สภาพจริงของผ้เู รียน เราสนบั สนนุ ให้ทงั้ ครูใหมท่ ีเ่ ข้าร่วมโครงการและครูที่มีประสบการณ์ในกระบวนการเรียนรู้ของ ไร้ท์ ทู เพลย์ เข้าร่วมการอบรมหรือช่วยพัฒนาคู่มือการเรียนรู้ของ ไร้ ท์ ทู เพลย์ (ยกตัวอย่างเช่น RED BALL CHILD PLAY, EARLY CHILD PLAY, LIVE SAFE PLAY SAFE, YOUTH AS LEADER และอ่นื ๆ ) ค่มู อื ชุดนีส้ าคัญอย่างไร ครูมอี ทิ ธิพลไม่มวี ัน สิ้นสดุ ซ่งึ ครูเองกไ็ ม่ คมู่ อื ทกั ษะชีวิตชดุ นีถ้ กู จดั ทาขนึ ้ เพ่ือชว่ ยพฒั นาทกั ษะชีวติ ของนกั เรียนให้ดีขนึ ้ เพื่อขยายขอบเขตในการใช้ สามารถบอกได้ว่า ชีวิตและการประกอบอาชีพในอนาคตของพวกเขา และที่พิเศษคอื ค่มู อื ชดุ นีช้ ว่ ยให้คณุ ครูสามารถพฒั นา อิทธิพลของเขาหรือ ทกั ษะการสื่อสารของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึน้ เมื่อมีการพฒั นาคู่มือเลม่ นีข้ ึน้ มา และในการ เธอจะหยดุ ลง พฒั นาคมู่ อื ผ้จู ดั ทาได้คานงึ ถงึ ประเดน็ ตอ่ ไปนี ้ เมือ่ ใด ทกั ษะใดทีน่ า่ จะสง่ ผลตอ่ ความสาเร็จทงั้ ทางด้านวชิ าการและด้านทกั ษะชวี ติ มากท่สี ดุ -เฮนรี่ อดมั ส์ – ทาไมนกั เรียนบางคนเติบโตเป็นผ้ใู หญ่แล้วประสบความสาเร็จได้แม้วา่ อาชีพนนั้ จะมคี วามท้า นกั ประพนั ธ์นวนิยาย ทายสงู และยงั สามารถสร้างสมั พนั ธภาพท่ีดกี บั คนรอบข้างได้ด้วย ในขณะที่บางคนกลบั มแี ต่ ความเครียด ไมป่ ระสบความสาเร็จทงั้ ในด้านอาชีพการงานและด้านสมั พนั ธภาพกบั ผ้อู น่ื ด้วย ชาวอเมริกนั มีนกั การศึกษาจานวนมากขนึ ้ ที่ค้นพบว่า นกั เรียนที่ได้รับความรู้ทางวิชาการแบบอดั แน่นมากเกินไป อาจขาดความสามารถในการ รับมอื กบั ปัญหา หรือความท้าทายตา่ ง ๆ ทจี่ ะประสบต่อไปในชีวติ ทงั้ ในระดบั การดาเนินชีวิตสว่ นบคุ คลและในระดบั สงั คม ดงั นนั้ การ ให้ความรู้ใสส่ มองเพียงอย่างเดยี วจึงไม่เพยี งพอ1 คมู่ ือชดุ นถี ้ กู พฒั นาขนึ ้ เพ่ือช่วยครูชว่ ยครูสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ทเี่ ออื ้ ให้นกั เรียน เกิดการพัฒนาทกั ษะชีวิตอนั มีคุณค่า เพ่ิมเติมจากเนือ้ หาซึ่งเป็นข้อบงั คบั ของหลกั สตู ร นอกจากนีค้ ่มู ือนีย้ ังช่วยให้ครูสามารถใช้ กระบวนการสอนในการเช่ือมโยงความรู้ทางวิชาการเข้ากับทกั ษะเฉพาะด้านต่างท่ีสาคัญ อนั จะช่วยให้นกั เรียนสามารถประสบ ความสาเร็จทงั้ ในโรงเรียน ครอบครัว ชมุ ชน ทีท่ างาน และการใช้ชีวิตโดยทวั่ ไป 1htRtpO:B//IwN wSTwE.RaNb,oPuHt.oDu.,rk“SidOsC.oIArLg/AaNrDticEleMsO/TsIoOcNiAaLl_LeEmAoRtNioINnGa:l_WleHaArTniInSgIT_wHhOaWt_CitA_NhoWwE_UcSaEnI_TwTOe_HuEsLeP_OitU_hReSlTpU_DoEuNr_TSs”tu, dents 5
2. บทนาสู่ทฤษฎกี ารเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคมคืออะไร การเรียนรู้ทางอารมณ์และสงั คมเป็นพืน้ ฐานของการพฒั นาค่มู ือทกั ษะชีวิตชุดนี ้ การเรียนรู้ทางอารมณ์และสงั คมบางครัง้ ก็เรียกว่า “ชิน้ สว่ นท่ีขาดหายไป” เพราะเป็นสว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษาท่ีเป็นตวั เช่ือมโยงความรู้ทางวิชาการเข้ากบั ทกั ษะเฉพาะด้านทีส่ าคญั ๆ ท่ีทา ให้ประสบความสาเร็จทงั้ ในโรงเรียน ครอบครัว ชมุ ชน สถานทท่ี างานและการใช้ชีวิตตามปกติ สถานการณ์โลกปัจจบุ นั สอนให้เรารู้วา่ มีอนั ตรายอย่รู อบตวั เราไมว่ า่ จะในระดบั ท้องถิ่นหรือระดับโลก เด็กก็เติบโตขนึ ้ โดยมีความรู้แต่ขาดทกั ษะทางอารมณ์และสงั คม ขาด จริยธรรมเป็นเครื่องนาทาง ดงั นนั้ การเช่ือมโยงการเรียนรู้ทางวิชาการกบั การเรียนรู้ทางอารมณ์และสงั คมจงึ เป็นมาตรฐานทแ่ี ท้จริงของ การศกึ ษาท่ีมีประสทิ ธิภาพในโลกปัจจบุ นั และสาหรับอนาคตข้างหน้า ทกั ษะใดสาคญั ในการเรียนรู้ทางวชิ าการและการเรียนรู้อารมณ์และสังคม งานวจิ ยั เก่ียวกบั การเรียนรู้ทางอารมณ์และสงั คมระบวุ า่ ทกั ษะทจี่ าเป็นสาหรับการเรียนรู้ทางวิชาการและการเรียนรู้อารมณ์และสงั คม ได้แก่ ทกั ษะในการรู้จกั ตนเองและผ้อู ่นื เช่น มีความสามารถในการ • บอกความรู้สกึ - ตระหนกั และบอกความรู้สกึ ของบคุ คล • รับผิดชอบ – เข้าใจหน้าทผี่ กู พนั ของบคุ คลตอ่ หลกั จริยธรรม ความปลอดภยั และกฎหมาย • ตระหนกั ถงึ ข้อดี – แยกแยะและบม่ เพาะคณุ สมบตั ใิ นทางบวกของบคุ คล ทกั ษะในการรับผดิ ชอบต่อการตัดสนิ ใจ เช่น มคี วามสามารถท่จี ะ • จดั การอารมณ์ – ควบคมุ ความรู้สกึ ทีเ่ กิดขนึ ้ มากกวา่ ไปจดั การรบั มือกบั สถานการณ์ทเี่ กิดขนึ ้ • เข้าใจสถานการณ์ – เข้าใจสถานการณ์ที่ตวั บคุ คลประสบอยา่ งถกู ต้อง • ตงั้ เปา้ หมายและวางแผน – ตงั้ เปา้ และทางานเพ่อื ให้บรรลผุ ลอยา่ งเฉพาะเจาะจง ทงั้ ในระยะสนั้ และระยะยาว ทกั ษะการเรียนรู้วธิ กี ารดูแลเอาใจใส่ผ้อู ่นื เช่น มคี วามสามารถท่จี ะ • แสดงความเห็นอกเหน็ ใจ – รับรู้และเข้าใจความรู้สกึ นกึ คดิ ของผ้อู นื่ • เคารพผ้อู น่ื – มีความเช่ือวา่ คนอนื่ สมควรได้รับการปฏบิ ตั ิด้วยความเมตตารุณา อนั เป็นสว่ น หนงึ่ ในการอยรู่ ่วมกนั ของมนษุ ยชาติ • เข้าใจความหลากหลาย – เข้าใจวา่ บคุ คลและกลมุ่ ที่มคี วามแตกตา่ งนนั้ เป็นสว่ นเติมเต็มของ กนั และกนั ทกั ษะในการรู้ว่าจะแสดงออกอย่างไร เช่น มคี วามสามารถในการ: • สอ่ื สารอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ – ใช้ทกั ษะทงั้ วจั นะภาษาและอวจั นะภาษาเพ่ือแสดงออก และสนบั สนนุ การพดู คยุ แลกเปลย่ี นกบั ผ้อู ่ืนอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ • สร้างสมั พนั ธภาพ – สร้างและรักษาความสมั พนั ธ์ ตลอดจนตอบแทนสมั พนั ธภาพทงั้ ระดบั บคุ คลและกลมุ่ • เจรจาตอ่ รองด้วยความยตุ ิธรรม – แก้ปัญหาการขดั แย้งแบบถ้อยทีถ้อยอาศยั โดยการบอกถึงความต้องการของ ทกุ ฝ่ายท่มี ีสว่ นเก่ียวข้อง 6
• ปฏิเสธสง่ิ ยว่ั ยอุ ารมณ์ – สื่อสารบอกและปฏิบตั ิตามการตดั สินใจของตน โดยไม่ย่งุ เก่ียวกับส่ิงไม่พึงประสงค์ ไมป่ ลอดภยั และพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ที่ผิดจริยธรรม • ขอความช่วยเหลือ – ระบคุ วามต้องการตลอดจนขอความสนบั สนุนและความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมเพื่อให้ บรรลคุ วาม ต้องการและเปา้ หมาย • ปฏิบตั ิตนตามหลกั จริยธรรม – ตดั สนิ ใจและปฏิบตั ิตวั ตามหลกั เกณฑ์หรือมาตรฐานซง่ึ เป็นที่ยอมรับ ถกู ต้องตามกฎหมาย กฎระเบยี บ จรรยาบรรณวชิ าชีพ หลกั ศลี ธรรม หรือระบบความคิดความเช่ือ 2 ทฤษฎีการเรียนร้ ูอารมณ์ และสังคมเก่ ียวข้ องกับกระทรวงศึกษาธิการไทยท่ ีม่ ุงเน้ นพัฒนาทักษะชีวิตในระบบการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานอย่างไร ทกั ษะชีวติ เป็นความสามารถของบคุ คลท่ีจะจดั การกบั ปัญหาตา่ ง ๆ รอบตวั ในสภาพสงั คมปัจจบุ นั และเตรียมความพร้อมสาหรับการ ปรับตวั ในอนาคต ซึ่งหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ได้กาหนดทกั ษะชีวติ เป็น 1 ใน 5 สมรรถนะสาคญั ที่ ผ้เู รียนทกุ คนพึงได้รับการพฒั นาทงั้ ด้านความรู้ ความรู้สกึ นึกคิด ทกั ษะการปรับตวั การเผชิญปัญหาหรือความขดั แย้งต่าง ๆ ในชีวิต อยา่ งสร้างสรรค์มปี ระสทิ ธิภาพ สอดคล้องกบั วฒั นธรรมและสงั คม การจดั การชีวิตและปอ้ งกนั ตวั เองในภาวะคบั ขนั ในชว่ งปลายปี พ.ศ. 2553 สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา สานกั คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื ้ ฐานได้จดั ทาเอกสารรวบรวม กลยทุ ธ์และตวั ชีว้ ดั สาหรับครูเพื่อใช้ทางานพฒั นาทกั ษะชีวิตให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนประถมศึกษาและมธั ยมศกึ ษา เอกสาร ดงั กลา่ วมีช่ือว่า การพฒั นาทกั ษะชีวิตในระบบการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน ซง่ึ ทฤษฎีการเรียนรู้อารมณ์และสงั คมเป็นพนื ้ ฐานเบอื ้ งต้นของ แนวทางการพฒั นาและเป็นตวั ชีว้ ดั ตา่ ง ๆ ท่กี าหนดไว้ในเอกสารดงั กลา่ ว ทงั้ นีส้ านกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษาแนะนาวา่ ครูควร ให้ความสาคญั การพฒั นาทกั ษะชีวิตหลกั ๆ ใน 4 ด้านซงึ่ คล้ายคลงึ กบั การเรียนรู้อารมณ์และสงั คม กลา่ วคือ 1. การพฒั นาทกั ษะในการตระหนกั รู้และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู น่ื 2. การพฒั นาทกั ษะในการคิดวเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และแก้ไขปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ 3. การพฒั นาทกั ษะในการจดั การอารมณ์และความเครียด 4. การพฒั นาทกั ษะในการสร้างสมั พนั ธภาพทีด่ กี บั ผ้อู นื่ 2 Elias, M.J. (2003). Academic and social-emotional learning. International Academy of Education, 7. 7
ค่มู ือทกั ษะชวี ิตสามารถปรับเข้ากบั ทฤษฎกี ารเรียนรู้ทางอารมณ์และสงั คม และการพฒั นาทกั ษะชีวติ ในเอกสารระบบ การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานได้อย่างไร คมู่ อื ไร้ท์ ทู เพลย์ เกิดจากการผสมผสานระหวา่ ง ทฤษฎีการเรียนรู้อารมณ์และสงั คมเข้ากบั แนวทางการพฒั นาและตวั ชีว้ ดั ที่กลา่ วถึง การพฒั นาทกั ษะชีวิตในเอกสารของระบบการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน รวมไปถึงรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ตามแนวทางของ ไร้ท์ ทู เพลย์ คมู่ อื ชดุ นจี ้ ะมรี ูปแบบกระบวนการและกิจกรรมทง่ี ่ายตอ่ การทคี่ ณุ ครูจะนาไปจดั กิจกรรมให้กบั นกั เรียน ซง่ึ เป็นรูปแบบของกิจกรรมการ เรียนรู้ผา่ นการเลน่ ทม่ี แี บบแผน ซงึ่ คมู่ อื ชดุ นปี ้ ระกอบด้วยเอกสารดงั ตอ่ ไปนี ้ บทนาเบอื ้ งต้นเก่ียวกบั ชดุ คมู่ อื ทกั ษะชีวติ (คือเอกสารฉบบั น)ี ้ คมู่ ือทกั ษะชีวติ 4 เลม่ คอื 1. คมู่ ือทกั ษะชีวติ เลม่ ที่ 1: การตระหนกั รู้และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู น่ื 2. คมู่ อื ทกั ษะชวี ติ เลม่ ท่ี 2: การคิดวเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และแก้ไขปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ 3. คมู่ อื ทกั ษะชวี ติ เลม่ ท่ี 3: การจดั การอารมณ์และความเครียด 4. คมู่ ือทกั ษะชวี ิตเลม่ ท่ี 4: การสร้างสมั พนั ธภาพท่ดี ีกบั ผ้อู ่นื ในคมู่ ือทกั ษะชีวติ แตล่ ะเลม่ จะประกอบไปด้วยบทนาซงึ่ จะมเี นอื ้ หาทีเ่ กีย่ วข้องทีช่ ว่ ยสนบั สนนุ ครู และชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบการ เลน่ มากกวา่ 20 กจิ กรรม ท่คี รูสามารถนาไปใช้ในการสอนเพื่อพฒั นาทกั ษะชีวติ นกั เรียนได้ ซงึ่ ตารางหน้าตอ่ ไปจะอธิบายจดุ ประสงค์ การเรียนรู้หลกั ของคมู่ อื ทกั ษะชีวติ ทงั้ สเี่ ลม่ การเล่นสามารถเข้าถงึ การพัฒนาและการ เรียนรู้ในทกุ ๆ ด้าน -โรเจอร์ แอนด์ ซอว์เยอร์ ผ้แู ตง่ หนงั สือและผ้เู ชยี่ วชาญ เร่ืองเด็กปฐมวยั 8
ตารางอธิบายจุดประสงค์การเรียนรู้หลักในแต่ละเล่มของค่มู ือทัง้ ส่เี ล่ม ทกั ษะชีวติ เล่มท่ี 1 ทักษะชีวติ เล่มท่ี 2 ทักษะชีวติ เล่มท่ี 3 ทักษะชีวิตเล่มท่ี 4 การตระหนักรู้และเหน็ การคดิ วิเคราะห์ การจัดการกบั อารมณ์ การสร้างสมั พันธภาพ คุณค่าในตนเองและผู้อ่นื ตดั สนิ ใจ และแก้ไขปัญหา และความเครียด ท่ีดกี ับผ้อู ่นื อย่ างสร้ างสรรค์ พฤติกรรมท่ีคาดหวงั ใน พฤตกิ รรมท่ีคาดหวงั ใน พฤตกิ รรมทคี่ าดหวงั ใน พฤตกิ รรมทคี่ าดหวงั ใน ทกั ษะชวี ิตเลม่ นกี ้ ลา่ วถงึ ทกั ษะชีวติ เลม่ นกี ้ ลา่ วถงึ ทกั ษะชวี ติ เลม่ นกี ้ ลา่ วถงึ ทกั ษะชีวติ เลม่ นกี ้ ลา่ วถงึ ความสามารถในการ ความสามารถในการ ความสามารถในการ ความสามารถในการ รู้จกั ความถนดั และ รู้จกั สงั เกต ตงั้ คาถาม และ รู้เทา่ ทนั อารมณ์ตนเอง เป็นผ้ฟู ังที่ดี ความสามารถของตนเอง แสวงหาคาตอบ ควบคมุ อารมณ์ตนเองได้ ใช้ภาษาและกิริยาท่ี ค้นพบจดุ เดน่ จดุ ด้อยของ จาแนกข้อมลู ขา่ วสารอยา่ ง จดั การอารมณ์ตนเองได้อยา่ ง เหมาะสมในการส่อื สาร ตนเอง เป็นระบบ เหมาะสม รู้จกั เอาใจเขามาใสใ่ จเรา ยอมรับความแตกตา่ งระหวา่ ง ประเมนิ สถานการณ์และ มวี ธิ ีผ่อนคลายอารมณ์ แสดงความคิด ความรู้สกึ ตนเองและผ้อู น่ื นาไปประยกุ ต์ใช้ใน สร้างแรงจงู ใจให้ตนเอง การชนื่ ชม และการกระทาท่ีดี ชวี ิตประจาวนั ได้ มองตนเองและผ้อู ื่นในแงบ่ วก ยตุ ิข้อขดั แย้งในกลมุ่ ด้วยสนั ติ งามใหผ้อู ่นื ได้รับรู้ มจี ินตนาการและสามารถคดิ รักและเหน็ คณุ คา่ ในตนเอง วธิ ี รู้จกั ปฏเิ สธ ตอ่ รอง ร้องขอ ได้อยา่ งเชอ่ื มโยง ความชว่ ยเหลือได้อยา่ ง และผ้อู น่ื รู้จกั สร้างความสขุ ให้เหมาะ ถกู ต้อง เหมาะสม ในแตล่ ะ วิพากษ์วิจารณ์บนพนื ้ ฐาน สถานการณ์ มีความภาคภมู ิใจในตนเอง กบั ตนเอง ของข้อมลู สารสนเทศท่ี และผ้อู ่นื ถกู ต้อง ให้ความร่วมมอื กบั ผ้อู น่ื อยา่ ง มีความเชอ่ื มน่ั ในตนเองและ รู้จกั วิธีการและขนั้ ตอนการ สร้างสรรค์ และทางาน ร่วมกบั ผ้อู ืน่ ได้ ผ้อู น่ื ตดั สนิ ใจและแก้ปัญหาที่ ถกู ต้อง ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา ระเบยี บ ของสงั คม 9
3. บทนาเก่ยี วกับรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ของ Right To Play ไร้ท์ ทู เพลย์ ใช้ทฤษฎีใดในการสนับสนุนรูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์และการสนทนาพดู คุย กระบวนการของ ไร้ ท์ ทู เพลย์ ในการเรียนรู้และการสอนเป็นวิธีท่ีปรับให้สอดคล้องกบั รูปแบบการสอนเชิงแนะนาของ เดวิด อี. คอล์บ (David E. Kolb) ซึ่งเป็นนกั ทฤษฎีการศึกษาชาวอเมริกนั โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง (Experiential Learning Mode: ELM) ของ คอลบ์ ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ประการ คือ ประสบการณ์ทเ่ี กิดขนึ ้ อยา่ งเป็นรูปธรรม การสงั เกต/สะท้อนความคดิ จากประสบการณ์นนั้ ๆ การพฒั นากรอบความคิดเชิงนามธรรมที่ได้จากการการสะท้อนความคิด การทดสอบกรอบความคิดใหม่ ไร้ท์ ทู เพลย์ ได้ใช้รูปแบบกระบวนการเรียนรู้จากงานวจิ ยั และการออกแบบของ คอลบ์ โดยเร่ิมต้นด้วยการสนทนานาเข้าสบู่ ทเรียน ตามด้วยการสร้างประสบการณ์ แล้วจบลงด้วยการสรุปบทเรียนด้วยการใช้คาถามเพ่ือกระต้นุ การคิดเชื่อมโยงสง่ิ ที่เรียนรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ซึง่ เรียกวา่ “สะท้อน-เชื่อมโยง-ปรับใช้” (R-C-A) โดยแผนภมู ดิ ้านลา่ งแสดงให้เหน็ วงจรการเรียนรู้จากประสบการณ์ ของ ไร้ท์ ทู เพลย์ 1. สนทนานาเข้าสู่บทเรียน 5. ปรับใช้ – การนาไปประยกุ ต์ใช้ 2. กจิ กรรมการเรียนรู้จาก กับสถานการณ์อ่ืน ๆ ประสบการณ์จริงหรือผ่านการเล่น 4. เช่ือมโยง – สร้างความ 3. สะท้อน - การคิดทบทวน เข้าใจและเรียนรู้ เก่ียวกับประสบการณ์ท่ีได้ แนวคิดพนื ้ ฐานของการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงตรงกบั คาภาษิตตอ่ ไปนี:้ บอกฉัน ฉันกจ็ ะลืม แสดงให้ฉันดู ฉันอาจจาได้ แต่ถ้าให้ฉันมสี ่วนร่วม ฉันกจ็ ะเข้าใจ - ขงจื้อ ก่อนคริสตกาล 450 ปี 10
พดู ให้งา่ ยขนึ ้ ก็คือ R-C-A ชว่ ยให้ผ้เู รียน ไม่วา่ เป็นรายบคุ คลหรือเป็นกลมุ่ สามารถทบทวนประสบการณ์ของตนได้อย่างรอบคอบ และเชื่อมโยงประสบการณ์เหลา่ นนั้ เข้ากบั สงิ่ ที่พวกเขารู้อยแู่ ล้ว และวางแผนการนาสงิ่ ท่ีได้เรียนรู้ไปใช้ประโยชน์ R-C-A ถกู สร้างขึน้ บนมุมมองที่ว่า ความเข้าใจเกิดขนึ ้ ได้ เม่ือเช่ือมโยงประสบการณ์ท่ีพบเจอในโลกเข้ากบั ความรู้เดิมท่ีมีอยแู่ ล้ว การเรียนรู้เกี่ยวพนั กบั การสร้างความเช่ือมโยงใหม่ระหว่างสองส่งิ นี ้ซ่ึงกระบวนการเรียนรู้รูปแบบนีส้ นบั สนนุ ให้เกิดความร่วมมือ และการมสี ว่ นร่วม นอกจากนีย้ งั ช่วยพฒั นาทกั ษะในการคิดเช่น การคดิ วเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ การเจรจา และการ สงั เคราะห์ การใช้คาถาม R-C-A จะนานกั เรียนผา่ นการประมวลผลประสบการณ์ 3 ขนั้ ตอน ดงั ปรากฏในตารางตอ่ ไปนี ้ ขัน้ ตอนในวงจร ส่งิ ท่นี ักเรียนพิจารณา เกิดอะไรขึน้ กบั ประสบการณ์ นกั เรียนจะนึกถึงประสบการณ์ท่ีได้รับและ “ประสบการณ์ ท่ีได้ รับคืออะไร” “รู้สึกอย่างไร” “เห็นอะไร” ทาให้มันชัดเจนขึน้ โดยประสบการณ์ท่ี เพิ่งเกิดขึน้ จะถูกส่งเข้าส่กู ระบวนการจัด สะท้อน “ความสมั พนั ธ์รูปแบบใดทไี่ ด้มีสว่ นร่วมกบั ประสบการณ์นี”้ เรียงลาดบั การจัดลาดับของประสบการณ์ ยังคง เช่ือมโยง “ประสบการณ์ครัง้ นสี ้ มั พนั ธ์กบั ประสบการณ์กอ่ นหน้านีอ้ ยา่ งไร” ดาเนินต่อไป และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ ปรับใช้ “จะเช่ือมโยงกบั ส่ิงที่รู้ เช่ือ หรือรู้สึกมาก่อนได้อย่างไร” “มันสร้ าง นกั เรียนมีจะถกู เช่ือมโยงเข้าด้วยกนั ความชัดเจนหรือขยายขอบเขตมุมมองหรือไม่” “มนั ท้าทายหรือ หกั ล้างมมุ มองของหรือไม”่ การเรียนรู้ถกู ถา่ ยทอดและถกู นาไปปรับใช้ “จะนาสงิ่ ที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์นีไ้ ปใช้ได้อยา่ งไร” กบั สถานการณ์ตา่ ง ๆ “สามารถนาประสบการณ์ ดังกล่าวไปปรับใช้ กับ สถานการณ์ ท่ี คล้ายคลงึ กนั หรือแตกตา่ งกนั อย่างไร” “สามารถนาการเรียนรู้ใหม่ นี ้ไปใช้เพ่ือให้เกิดประโยชน์กบั ตนเอง ผ้อู ื่น และชมุ ชนของตนเอง ได้อยา่ งไร” กิจกรรมการเลน่ ท่ีมแี บบแผนแตล่ ะกิจกรรมในคมู่ อื ดาเนินกิจกรรมชดุ นี ้จะมีคาแนะนา รวมถงึ ชดุ คาถามสนทนาเพือ่ นาพานกั เรียน ให้ได้เรียนรู้ผา่ นขนั้ ตอนแตล่ ะขนั้ ตอนของวงจรการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง 11
4. การใช้กฬี าและการเล่นเพ่ือพฒั นาทกั ษะชวี ติ นักเรียน ทาไมจงึ ใช้กีฬาและการเล่นเพ่ือพัฒนาทกั ษะชีวิตของนักเรียน ในวงจรการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กีฬาและการเลน่ เพ่ือการพฒั นาจดั อยใู่ นวงจรขนั้ ท่สี องที่ช่วยสร้างชดุ ประสบการณ์ให้กบั ผู้ เล่นหรือผ้ทู ากิจกรรมเกิดการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ มากมาย นอกจากนีก้ ีฬาและการเล่นเพ่ือการพฒั นานนั้ ยงั เป็นหน่ึงในบรรดา เคร่ืองมือที่ทรงประสทิ ธิภาพมากท่สี ดุ ในการพฒั นาชีวิตของบคุ คลทวั่ โลก ด้วยเหตผุ ลตอ่ ไปนี ้ ได้รับความนิยมเป็นสากล มคี วามสามารถในการเป็นรูปแบบหนงึ่ ของการสอ่ื สารซง่ึ เป็นสากล มีความสามารถอยา่ งดีเยี่ยมในการเช่ือมโยงผ้คู นเข้าด้วยกนั กีฬาและการเลน่ มีความสาคญั โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงสาหรับการพฒั นาเด็กและเยาวชน กลา่ วคือ มีความสาคญั ตอ่ พฒั นาการทางด้านร่างกาย กระบวนการคดิ และความสามารถในการแสดงออกทางอารมณ์และสงั คม ทที่ าให้นกั เรียนเรียนเกิดการเรียนรู้และนาไปใช้ในชีวติ 3 ทาให้นกั เรียนมีช่องทางในการแสดงความเป็นตวั ตนและแสดงอารมณ์ในทางทพ่ี วกเขามกั ไมค่ อ่ ยแสดงในชนั้ เรียน เปิดโอกาสให้นกั เรียนได้ทางานร่วมกบั ผ้อู น่ื เน่ืองจากกิจกรรมทกุ กิจกรรมจะมีความเก่ียวข้องกบั ผ้อู ื่น เช่น เพื่อนร่วมทีม คแู่ ขง่ กรรมการ และผ้ฝู ึกสอน นบั วา่ มศี กั ยภาพในการสนบั สนนุ ให้เกิดความสามารถท่ีจะเข้าใจความรู้สกึ นกึ คิดของตนเอง เกิดความอดทน เกิดความ ร่วมมือ เกิดทกั ษะทางสงั คมและการทางานร่วมกนั เป็นวิธีท่ีสาคญั ท่ีสดุ วิธีหนึ่งท่ีคนหน่มุ สาวสามารถเรียนรู้การแสดงปฏิกิริยาตอบสนองทางสงั คมและแก้ไขปัญหาเร่ือง ความแตกตา่ งได้อยา่ งยตุ ธิ รรมในกลมุ่ เพ่ือน ๆ ช่วยลดความรู้สกึ ท่เี ป็นอารมณ์ในเชิงลบ เชน่ ความวติ กกงั วล และความหดหู่ ไร้ท์ ทู เพลย์ ใช้กฬี าและการเล่นเพ่อื สอนทกั ษะชวี ติ อนั มีคณุ ค่าให้แก่นักเรียนได้อย่างไร กีฬาและกิจกรรมการเลน่ ที่มีแบบแผนโดยทวั่ ไปของ ไร้ท์ ทู เพลย์ สามารถชว่ ยนกั เรียนดงั นี ้ ปรับเปลยี่ นรูปแบบกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ เขาใหม่ ชว่ ยให้เกิดพนื ้ ที่แหง่ ความรู้สกึ ปลอดภยั และมนั่ คง ชว่ ยสร้างเครือขา่ ยทางสงั คมทส่ี นบั สนนุ กนั และกนั ขนึ ้ ใหม่ ครูสามารถให้ความช่วยเหลือเพ่ือพฒั นาความความสามารถของนกั เรียนในการแก้ปัญหาและเลือกทางออกท่ีดีกว่าสาหรับเขา โดย ชว่ ยให้นกั เรียนเกิดการพฒั นาทกั ษะชีวิตท่หี ลากหลาย เป็นแบบอยา่ งทด่ี ใี ห้กบั นกั เรียน และสนบั สนนุ ให้ความชว่ ยเหลอื ระหวา่ งกนั 3 Sport for Development and Peace International Working Group, Harnessing the Power of Sport for Development and Peace: Recommendations to Governments (Toronto: SDP IWG Secretariat, 2008), p. 6. 12
กีฬาและกิจกรรมผ่านการเล่นในชุดค่มู ือกิจกรรมนีไ้ ด้จดั ทาขึน้ เป็นเฉพาะเพ่ือส่งเสริมทักษะชีวิตที่จาเป็นของนักเรียน เพ่ือให้ ประสบความสาเร็จชีวิตทงั้ ในและนอกชนั้ เรียน ซง่ึ ครูสามารถช่วยนกั เรียนพฒั นาทกั ษะที่จาเป็นเหลา่ นไี ้ ด้ ด้วยการจดั กิจกรรมกบั นกั เรียนในชว่ั โมงเรียนทกุ สปั ดาห์ หลงั จากจดั กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการเลน่ และสนทนาสรุปบทเรียนร่วมกนั แล้ว ในไม่ช้าครูจะ สงั เกตเห็นวา่ นกั เรียนจะรู้สกึ ผ่อนคลายและสนกุ เมอ่ื ทากิจกรรม และการสนทนาร่วมกนั จะทาให้นกั เรียนเรียนรู้เกี่ยวกบั ตวั เองและ เรียนรู้เกี่ยวกบั ผ้อู ่นื ครูท่ัวไปชอบเล่า ครูทด่ี ชี อบอธิบาย ครูท่ดี กี ว่าชอบสาธิต ครูทดี่ ที สี่ ดุ ชอบสร้าง แรงบันดาลใจ -วลิ เลีย่ ม เอ. วาร์ด นกั เขียนและกวชี าวอเมริกนั 13
5. ประโยชน์ของการใช้การสนทนาในการทากิจกรรม ในวงจรการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การพดุ คยุ สนทนามีบทบาทสาคญั ต่อบทเรียนและกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูจดั ขนึ ้ ทงั้ ก่อนและ หลงั การพดู คยุ สนทนาช่วยทาให้บทเรียนมีความชดั เจน มีความหมาย และมีทิศทาง ทาให้นกั เรียนท่ีมีความแตกต่างหลากหลาย สามารถเกิดการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กนั ได้ ซึ่งการสนทนาท่ีสาคญั คือการสนทนานาเข้าสบู่ ทเรียน และการสนทนาสรุปบทเรียนโดยใช้ คาถามเพือ่ กระต้นุ ให้เกิดการคิดเชื่อมโยงสง่ิ ทเี่ รียนรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั (R-C-A) การสนทนาพดู คุยแตกต่างจากการส่งั สอนอย่างไร โดยปกตหิ ลงั จากการเรียนการสอน หรือหลงั การจดั กิจกรรมในแตล่ ะครัง้ ครูจะเป็นผ้สู รุปบทเรียนหรือเนอื ้ หาสาระสาคญั ให้กบั ผ้เู รียน ฝ่ ายเดียว หรืออาจสรุปเป็นคาสั่งสอนว่าบทเรียนครัง้ นีม้ ีวตั ถุประสงค์การเรียนรู้เพ่ืออะไร และต้องการให้นกั เรียนปฏิบัติตวั ต่อไป อยา่ งไร ซง่ึ แตกตา่ งจากการพดู คยุ สนทนา เพราะการพดู คยุ สนทนาจะสร้างการเรียนรู้แบบมสี ว่ นร่วมกบั ผ้เู รียน โดยครูจะใช้คาถามเป็น ตวั กระต้นุ ความคดิ ให้นกั เรียนได้มีโอกาสสารวจทบทวนตนเอง รวมไปถึงสามารถสรุปการเรียนรู้ครัง้ นนั้ ด้วยตนเอง โดยครูจะค่อย ใช้ คาถามพานกั เรียนไปสเู่ ปา้ หมายการเรียนรู้ทต่ี งั้ ไว้ ดงั นนั้ การพดู คุยสนทนาจะช่วยให้นกั เรียนเข้าใจและซมึ ซบั บทเรียนได้มากกวา่ การ ฟังจากครูเพยี งอยา่ งเดยี ว ทาไมการสนทนาเข้าสู่บทเรียนจงึ มีความสาคญั การสนทนานาเข้าส่บู ทเรียน ได้แก่การใช้คาถามสัน้ ๆ 1-2 คาถามเพ่ือช่วยให้นกั เรียนมีความเข้าใจหัวข้อหรือการเรียนรู้หลกั ของ กิจกรรม คาถามในการสนทนาเข้าส่บู ทเรียนนนั้ จะต้องกระชบั มีปฏิสมั พนั ธ์กบั ผ้เู รียนและมีส่วนร่วม หากร่างกายต้องการการอุ่น เครื่องก่อนเร่ิมทางานฉนั ใด สมองก็จะได้รับประโยชน์จากการอ่นุ เครื่องก่อนที่จะทากิจกรรมฉนั นนั้ การสนทนาเข้าสบู่ ทเรียนช่วยให้ นกั เรียนได้มีโอกาสนกึ ถงึ ประเด็นการเรียนรู้หลกั ก่อนเร่ิมทากิจกรรม ซง่ึ พวกเขาสามารถเช่ือมโยงสง่ิ ท่ีจะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และทาให้ การเรียนรู้มีประสทิ ธิภาพมากขนึ ้ เมื่อพวกเขาเหน็ แนวทางและจดุ มงุ่ หมายของกิจกรรมนนั้ ตงั้ แตเ่ ร่ิมต้น ทาไมการสนทนาสรุปบทเรียนจงึ มีความสาคัญ กีฬาและกิจกรรมโดยทวั่ ไป ช่วยให้นกั เรียนมีโอกาสเกิด การเรียนรู้อย่างกว้างขวาง เกิดทกั ษะ และมีคณุ ค่าใน ตวั มันเองอยู่แล้ว แต่จะเกิดประโยชน์ได้มากน้อยแค่ ไหนก็ขึน้ อยกู่ ับโอกาสท่ีมี ซงึ่ หากปราศจากการกระต้นุ และการชีแ้ นะจากครูแล้ว นักเรียนอาจจะไม่จดจาหรื อนาสง่ิ ท่พี วกเขาเพง่ิ ได้เรียนรู้มาใช้กบั ชีวิตทงั้ ในปัจจบุ นั และในอนาคต รูปแบบกิจกรรมของ ไร้ ท์ ทู เพลย์ จัดการกับความท้าทายนี ้ ด้วยการออกแบบกิจกรรม เพอ่ื ช่วยให้ประสบการณ์ของนกั เรียนมีการพฒั นาอย่างเหมาะสม นอกจากนีย้ งั ต้องมน่ั ใจวา่ ในการจดั กิจกรรมครูต้องสอนนกั เรียนให้ สะท้อนทบทวนการเรียนรู้ของพวกเขา เช่ือมโยงเข้ากับสิ่งท่ีพวกเขารู้แล้ว และนาไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวนั ท่ี นอกเหนอื ไปจากจากกิจกรรมการเลน่ และกีฬา ครูควรเตรียมตวั ให้พร้อมในการดดั แปลงคาถามเพือ่ สนทนาเข้าสบู่ ทเรียน และการสรุปบทเรียนด้วยคาถามเพ่ือกระต้นุ การคิดเชื่อมโยง ส่ิงที่เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ด้วยการการสะท้อน - เช่ือมโยง -ปรับใช้ (R-C-A) ให้สอดคล้องกับระดบั พฒั นาการของเด็กเล็ก ตวั อยา่ งเชน่ มกี ิจกรรมมากมายในคมู่ ือทเ่ี หมาะกบั เดก็ อายุ 6 ปีขนึ ้ ไป คาถามบางคาถามในกิจกรรมการเรียนรู้ผา่ นการเลน่ ก็ต้องมีการ 14
ถามซา้ หรือปรับคาถามใหม่เพ่ือให้มนั่ ใจได้ว่าเด็กอายุ 6-9 ปีสามารถตอบคาถามได้ และตวั อย่างคาถามสาหรับการสนทนาท่ีมีให้ใน ชดุ คมู่ อื นีไ้ มไ่ ด้ยดึ ตายตวั เสมอไป เม่อื ครูรู้สกึ สบายใจในการนาสนทนาพดู คยุ เพมิ่ มากขนึ ้ ครูก็สามารถทดลองออกแบบชดุ คาถามเพื่อ นาการพดู คยุ สนทนาให้ประสทิ ธิภาพกบั นกั เรียนขนึ ้ เองได้เช่นกนั ประโยชน์ระยะยาวของการให้นักเรียนเข้าร่วมการพดู คุยสนทนาคอื อะไร ผลการวจิ ยั ได้แสดงให้เห็นวา่ การให้นกั เรียนเข้าร่วมสนทนาพดู คยุ มีความสาคญั เพราะ สง่ เสริมการพฒั นากระบวนการคดิ วเิ คราะห์ โดยเฉพาะการคดิ แบบมีวิจารณญาณ เปิดโอกาสนกั เรียนสร้างแนวความคิดหรือมมุ มองใหม่ ๆ โดยการเช่ือมโยงกบั ความรู้และประสบการณ์เดิมเพื่อนาไปสคู่ วามรู้ และความเข้าใจใหม่ ๆ นกั เรียนมโี อกาสสอบถามพดู คยุ เพื่อสอบถามความชดั เจนเม่ือเกิดความไมเ่ ข้าใจ ครูสามารถตรวจสอบความรู้และความเข้าใจของนกั เรียนได้ นกั เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ของตนเองกบั เพ่อื นคนอน่ื ๆ ได้ สง่ เสริมความคิดขนั้ สงู * ความคดิ ขนั้ สงู คืออะไร ความคิดขนั้ สงู มีความเก่ียวข้องกบั การแปลงข้อมลู และแนวความคิด ซึ่งกระบวนการแปลงนีเ้ กิดขึน้ เมื่อนกั เรียนได้มีโอกาสนาเอา ข้อเท็จจริงและแนวความคิด มาสงั เคราะห์ มาพูดถึง มาอธิบาย สร้างสมมติฐาน หรือสรุปใจความสาคญั หรือแปลความหมายส่ิงท่ี เรียนรู้ ซ่งึ ข้อมลู และแนวความคิดที่ผ่านกระบวนการจดั การเหลา่ นีท้ าให้นกั เรียนเกิดการแก้ไขปัญหา เพิ่มความเข้าใจ และค้นพบ ความหมายใหม่ ๆ ได้ ความจริงทกุ อย่างมมี ุมมองอย่สู ี่มุม ในฐานะทเ่ี ป็ นครู ข้าพเจ้าจะบอก มุมมองให้หน่ึงมุม และคุณต้องหาอกี สามมุมให้พบ -ขงจอื ้ นกั คิดและนกั ปรัชญาสงั คมชาวจนี 15
ถ้าไม่ใช้การสนทนาในกิจกรรม อาจมีความเส่ยี งอะไรบ้าง ถ้าไมร่ วมการสนทนาเข้าไว้ในชว่ งของการทากิจกรรม นกั เรียนจะไมไ่ ด้รับการสง่ เสริมให้แสดงออกหรือมีสว่ นในร่วมรับผดิ ชอบในกิจกรรมหรือการฝึกนนั้ นกั เรียนมีโอกาสน้อยลงในการสร้างความเข้าใจจากการเชื่อมโยงความรู้ทมี่ ีมาก่อนกบั ข้อมลู ใหม่ นกั เรียนอาจจะพลาดการเรียนรู้วตั ถปุ ระสงค์หลกั ทงั้ หมดหรือเรียนรู้ในสง่ิ ทผ่ี ิด นกั เรียนอาจจะไมม่ ีโอกาสท่ีจะถามหรือขอความชดั เจนในเรื่องท่ีคลมุ เครือหรือกาลงั เข้าใจผดิ ได้ ครูอาจจะพลาดโอกาสในการ “สอนทนั ทีเม่ือมโี อกาส” (Teachable Moment) การสอนทันทีเม่อื มโี อกาสคืออะไร กีฬาและการเลน่ มคี วามสามารถท่ีจะดงึ เอาพฤติกรรมทกี่ ้าวร้าวออกมา ซง่ึ กีฬาและการเลน่ ยงั สามารถกลายเป็นสงิ่ ผิดทีท่ าให้นกั เรียน แสดงอารมณ์ในทางลบของพวกเขา ครูควรจะเตรียมพร้อมต่อการจัดการปัญหาความขดั แย้งอย่างมีประสทิ ธิภาพซึ่งอาจจะเกิดขึน้ ระหวา่ งบคุ คลหรือกลมุ่ ของนกั เรียนในระหวา่ งการทากิจกรรม แทนที่จะหลกี เลย่ี งสถานการณ์เหลา่ นี ้แต่ให้ใช้สถานการณ์เหลา่ นีเ้ป็น การสอนทนั ทเี มอ่ื มีโอกาส การสอนทนั ทเี มอ่ื มโี อกาสคือ เมอื่ มขี ้อขดั แย้งหรือสถานการณ์ทีไ่ มไ่ ด้ วางแผนเอาไว้เกิดขนึ ้ ในช่วงเวลานนั้ แทนที่จะเพิกเฉยหรือพยายาม แก้ไขปัญหาในทนั ที ครูควรจะใช้ช่วงเวลาในขณะนัน้ อธิบายความ คิดเห็นหรือความเข้าใจผิด ๆ แล้วช่วยนักเรียนให้สามารถแก้ ไข ปัญหาได้ การสอนทนั ทีเม่ือมีโอกาสจะเป็นเหตุการณ์ท่ีเป็นบวกหรือลบก็ได้ การสอนทนั ทเี ม่ือมีโอกาสซงึ่ เกิดจากเหตกุ ารณ์ทเ่ี ป็นบวกได้แก่ สมุ่ การแสดงออกที่ดใี นหมนู่ กั เรียน ชว่ งเวลาทีเ่ หมาะสมในการสนบั สนนุ สง่ เสริม หรือการทางานเป็นหมนู่ กั เรียน ช่วงเวลาที่กลมุ่ บรรลเุ ปา้ หมายจากการทางานร่วมกนั มาเป็นระยะเวลานาน นกั เรียนมีการแสดงพฤตกิ รรมที่สอดคล้องกบั การเรียนรู้หลกั สามารถใช้เป็นแบบอยา่ งสาหรับนกั เรียนที่เหลอื การสอนทนั ทีเมอ่ื มโี อกาสซง่ึ เกิดจากเหตกุ ารณ์ทเี่ ป็นไปในเชิงลบได้แก่ เกิดความขดั แย้งในหมนู่ กั เรียน กิจกรรมท่ีทาเกิดความล้มเหลว (ยกตวั อยา่ งเช่น ถ้าใครบางคนฝ่าฝืนกฏระเบยี บ หรือมีอบุ ตั เิ หตเุ กิดขนึ ้ ) คาถามหรือข้อกงั วลใจที่ไมค่ าดคดิ จากนกั เรียน 16
ครูจะใช้การสอนทนั ทเี ม่อื มโี อกาสได้อย่างไรในระหว่างการทากิจกรรม การสอนทนั ทีเมื่อมีโอกาสท่ีเกิดขนึ ้ ในระหวา่ งการทากิจกรรม ถือเป็นโอกาสท่ีดีต่อครูเพ่ือนาไปสกู่ ารสนทนาอยา่ งมีประสิทธิภาพกับ นกั เรียน และสง่ เสริมให้นกั เรียนสนทนาถึงความรู้สกึ ของตนเองและคนอื่น สาคญั ท่ีครูจะต้องมองเหตกุ ารณ์เหลา่ นีเ้ป็นโอกาสในการ เรียนรู้ที่มพี ลงั ซ่งึ ทาให้นกั เรียนสามารถคิดได้กว้างมากขนึ ้ เมื่ออยใู่ นสถานการณ์เหลา่ นี ้ครูอาจจะต้องหยดุ คน่ั ระหว่างกิจกรรม แล้ว ถามคาถามเพื่อช่วยให้นกั เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ให้มากที่สดุ ในอีกทางหนง่ึ ครูอาจต้องการรอจนกระทงั่ ถงึ กิจกรรมช่วงท้าย ก่อนท่ีจะชวนสนทนาเก่ียวกบั ปัญหาที่เกิดขนึ ้ นี ้ ตวั อยา่ งคาถาม สะท้อน – เช่ือมโยง – ปรับใช้ ซง่ึ ครูสามารถถามได้ หลงั จากการสอนทนั ทเี มือ่ มีโอกาสแบบด้านบวกคือ สะท้อน: มีข้อดีอะไรที่เกิดขนึ ้ ระหวา่ งทากิจกรรม รู้สกึ อยา่ งไรกบั มนั เช่ือมโยง: ทผ่ี า่ นมาเคยประสบความสาเร็จในการทาสง่ิ ตา่ ง ๆ เรื่องใดบ้าง ได้ทาอยา่ งไรบ้างจึงประสบความสาเร็จ ปรับใช้: สามารถทา หรือสนบั สนนุ ให้เกิดความสาเร็จในชีวติ เร่ืองใดได้อีกบ้าง ตวั อยา่ งคาถามแบบ สะท้อน – เชื่อมโยง – ปรับใช้ ซง่ึ ครูสามารถถามได้ หลงั จากเกิดการสอนทนั ทีเม่ือมีโอกาสแบบด้านลบคือ สะท้อน: เกิดอะไรขนึ ้ เพราะเหตใุ ดจึงเกิดขนึ ้ เช่ือมโยง: ทผ่ี า่ นมาเคยเกิดเหตกุ ารณ์ท่ีคล้ายคลงึ กนั นเี ้มือ่ ใด นกั เรียนทาอยา่ งไรเพอ่ื แก้ไขปัญหา ปรับใช้: ทาอยา่ งไรเราจงึ จะปอ้ งกนั ไมใ่ ห้มนั เกิดขนึ ้ อกี ครัง้ เราต้องรับผดิ ชอบเร่ืองใดบ้าง เด็กสามารถถามคาถามท่ีคนฉลาดไม่สามารถตอบได้ -ไมท่ ราบชอื่ ผ้เู ขียน 17
6. ทาความรู้จกั กจิ กรรมการเรียนรู้ผ่านการเล่นเก่ียวกับทกั ษะชีวติ โดยท่ัวไปแล้วกิจกรรมของ ไร้ท์ ทู เพลย์ มลี กั ษณะอย่างไร กิจกรรมในคู่มืออ่ืน ๆ ของ ไร้ ท์ ทู เพลย์ (ตัวอย่างเช่น RED BALL CHLD PLAY และ TEAM UP) จะเรียงลาดับขัน้ ตอนการจัด กิจกรรมตามแผนภาพตอ่ ไปนี ้ กจิ กรรมการเรียนรู้ผ่านการเล่น (2-3 กิจกรรม) การอบอ่นุ ร่างกาย ผ่ อนคลายร่ างกาย การสนทนาเข้าสู่บทเรียน การสนทนาสรุปบทเรียน เม่ือบรู ณาการกิจกรรมตา่ ง ๆ ในคมู่ ือทกั ษะชีวิตแตล่ ะเลม่ เข้ากบั หลกั สตู รการเรียนรู้ของไทย รูปแบบทไ่ี ด้ก็จะแตกต่างกนั เลก็ น้อย โดย ครูไม่จาเป็นต้องทาช่วงการอบอ่นุ ร่างกายและการผ่อนคลายร่างกาย แต่สามารถสอดแทรกกิจกรรมเกี่ยวกบั ทกั ษะชีวิตเข้าท่ีตอน เริ่มต้น ตอนกลางหรือตอนจบบทเรียนตา่ ง ๆ ก็ได้ ดงั นนั้ รูปแบบขนั้ ตอนการดาเนินกิจกรรมจะแตกตา่ งกนั เลก็ น้อย และมีลกั ษณะดงั นี ้ กจิ กรรมการเรียนรู้ทกั ษะชวี ิต (1-2 กิจกรรม) การสนทนาเข้าสู่บทเรียน การสนทนาสรุปบทเรียน สนทนา หมายเหตุ: ในเอกสารคมู่ อื กิจกรรมทงั้ 4 เลม่ มแี ผนกิจกรรม ตวั อยา่ งคาถามในการพดู คยุ สนทนา ซง่ึ แตล่ ะกิจกรรมจะยกตวั อยา่ งเพยี ง หนงึ่ วตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ (พฤตกิ รรมทีค่ าดหวงั ) แตท่ งั้ นที ้ งั้ นนั้ หน่ึงกิจกรรมสามารถนาไปสกู่ ารเรียนรู้ที่หลากหลายได้ ซงึ่ ครูสามารถ ดดั แปลงกิจกรรม ปรับเปลยี่ นคาถามสรุปบทเรียนเพื่อให้สอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์เร่ืองใหมไ่ ด้ ซง่ึ ในคมู่ ือทงั้ 4 เลม่ จะมีตารางตวั อยา่ ง เทียบเคยี งให้เห็นวา่ หนง่ึ กิจกรรมสามารถเปลยี่ นวตั ถปุ ระสงค์เพื่อนาไปสกู่ ารเรียนรู้เรื่องใดได้บ้าง 18
กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการเล่นมีการจดั ระบบอย่างไร ในคมู่ อื ทกั ษะชีวติ แตล่ ะเลม่ จะมกี ิจกรรมการเรียนรู้ผา่ นการเลน่ ซง่ึ ถกู จดั ระบบตามพฤตกิ รรมทกั ษะชีวิตทค่ี าดหวงั ในการพฒั นา นอกจากนนั้ กิจกรรมการเรียนรู้ยงั แยกออกตามกลมุ่ อายุ ดงั ตอ่ ไปนี ้ 6 - 9 ปี กิจกรรมทม่ี ีความเหมาะสมสาหรับเด็กอายุ 6 ถงึ 9 ปีมากทีส่ ดุ 10 ปี + กิจกรรมทมี่ ีความเหมาะสมสาหรับเด็กอายุ 10 ปีขนึ ้ ไปมากทส่ี ดุ 6-9, 10 ปี+ กิจกรรมท่ีเหมาะสมสาหรับเดก็ ทกุ กลมุ่ อายุ พงึ ระลกึ ไว้เสมอว่า เด็กจะก้าวผา่ นขนั้ ตอนของพฒั นาไปตามลาดบั แตบ่ างครัง้ การก้าวผา่ นพฒั นาการดงั กลา่ วก็แตกต่างกนั เดก็ คน หนึ่งอาจไปถึงระดบั พฒั นาการเร็วกวา่ หรือช้ากวา่ เด็กอีกคนหน่งึ เม่ือวางแผนกิจกรรมให้พิจารณาทบทวนกิจกรรมที่ครูจะใช้เพื่อให้ มน่ั ใจได้ว่ากิจกรรมเหลา่ นนั้ สอดคล้องกบั พฒั นาของนกั เรียน ครูอาจต้องปรับกิจกรรมและคาถามเพ่ือให้มน่ั ใจได้วา่ นกั เรียนสามารถ ไปถึงเป้าหมายการเรียนรู้ที่ตงั้ ไว้และตอบคาถามได้ นอกจากนนั้ การพฒั นาทกั ษะชีวิตในระบบการศึกษาขึน้ พืน้ ฐานยงั ได้กาหนด จดุ เน้นของทกั ษะชีวิตของตามรายชนั้ ปีไว้ ซง่ึ ครูผ้สู อนสามารถเลอื กกิจกรรมจากคมู่ อื ให้สอดคล้องกบั นกั เรียนในแตล่ ะชนั้ ปีได้เลย 19
กจิ กรรมในคู่มอื ทกั ษะชวี ิตมลี กั ษณะอย่างไร ในหน้านี ้จะเหน็ ตวั อยา่ งโครงสร้างของกิจกรรมการเรียนรู้ท่คี ดั มาจากคมู่ ือทกั ษะชวี ิตเลม่ ที่ 2 การคดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และแก้ไข ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ชื่อเกม “ก้อนหิน” โดยมีคาอธิบายแตล่ ะหวั ข้อตามลาดบั หมายเลข 1. พฤติกรรมทักษะชีวิตท่ีคาดหวังและตัวชีว้ ัด: คือ วตั ถปุ ระสงค์หลกั ของทกั ษะชีวิตที่ต้องการพฒั นาในแต่ละครัง้ ท่ีจดั กิจกรรม การเรียนรู้ให้กบั ผ้เู รียน 2. จุดมุ่งหมายของเกม: เป็นภารกิจ/เปา้ หมายหลกั ทีน่ กั เรียนจะต้องทาระหวา่ งกิจกรรม 3. ส่งิ ท่ีต้องมี: เป็นรายการอปุ กรณ์และจานวนผ้เู ลน่ ท่ีจาเป็นต้องมีในกิจกรรม กิจกรรมทกุ กิจกรรมในคมู่ ือทกั ษะชีวิตของประเทศ ไทย ออกแบบขนึ ้ รองรับกลมุ่ นกั เรียนขนาดเลก็ ได้ 6 คน และนกั เรียนกลมุ่ ใหญ่ได้ 100 คน 4. คาถามสนทนาเข้าส่บู ทเรียน: เป็นการถามหนงึ่ หรือสองคาถามเพ่อื เตรียมความพร้อมนกั เรียนสาหรับการเรียนรู้ทีก่ าลงั จะเกิดขนึ ้ และเพื่อช่วยดงึ ดดู ความสนใจ ของนกั เรียน 5. วิธีเล่น: วิธีเล่นของแต่ละกิจกรรมจะเป็นขนั้ ตอนสาหรับครูในฐานะผ้นู ากระบวนการเรียนรู้ โดยแต่ละกิจกรรมจะขอให้ครู “อธิบาย” ขนั้ ตอนของกิจกรรม และ “สาธิต” วิธีการทากิจกรรม พึงระลึกไว้เสมอว่าการสื่อสารท่ีประสบความสาเร็จและทาให้นกั เรียน เข้าใจ ครูจะต้องประสานสงิ่ ทพี่ ดู (ถ้อยคาของครู) กบั วิธีการที่พดู (หมายถึงนา้ เสยี งและภาษากาย) ซงึ่ จะทาให้นกั เรียนจะเข้าใจ สง่ิ ที่ครูต้องการสอื่ และมนั มจี ะความสาคญั มากถ้าครูสามารถผสมผสานถ้อยคา (สงิ่ ทพี่ ดู ) เข้ากบั อวจั นะภาษา (สง่ิ ที่ทา) 20
ความปลอดภัย: นอกจากนีภ้ ายในหมวด “วิธีเล่น” ยังรวมถึงการยา้ เตือนเร่ืองความปลอดภยั โดยจะมีสญั ลกั ษณ์ นี ้ ปรากฏอยขู่ ้าง ๆ ต้องมน่ั ใจวา่ ได้อา่ นคาเตือนเหลา่ นกี ้ ่อนเร่ิมทากิจกรรม 6. ข้อควรสังเกต: จะมีคาถาม 2 หรือ 3 คาถามเพ่อื ถามตวั ครูเองในขณะท่ีกาลงั สงั เกตนกั เรียนระหวา่ งทากิจกรรม ถ้าคาตอบทกุ ข้อตอบวา่ “ใช่” ก็ ให้เกมส์ดาเนินตอ่ ไป ถ้าคาตอบตอบวา่ “ไม่ใช่” ครูอาจจาเป็นต้องทาบางสิง่ อยา่ งอยา่ งตอ่ ไปนีเ้ พื่อดึงกิจกรรมให้กลบั มาเข้ารูป เข้ารอย ให้คาแนะนาเกี่ยวกบั การทากิจกรรมซา้ สาธิตวธิ ีการทากิจกรรมอกี ครัง้ ใช้วธิ ีการตา่ ง ๆ ในการอธิบายกิจกรรมเพ่ิม เตอื นนกั เรียนให้ระมดั ระวงั เร่ืองความปลอดภยั ลดหรือเพ่ิมความยากของภารกิจที่กาลงั ให้นกั เรียนทา 7. สรุปทเรียน: ได้รวมคาถามเกี่ยวกบั การสนทนาด้วยคาถาม สะท้อน- เชื่อมโยง-ปรับใช้ (R-C-A) จานวน 2-5 คาถาม เนื่องจากครูจะต้องทา กิจกรรมยอ่ ย 2-3 กิจกรรมในแตล่ ะครัง้ จึงยงั ไมต่ ้องถามคาถามเหลา่ นหี ้ ลงั จากเสร็จสนิ ้ แตล่ ะกิจกรรมยอ่ ย แตใ่ ห้เลอื กคาถามเพอ่ื ใช้ในการสนทนาสรุปบทเรียนเมื่อสนิ ้ สดุ ชว่ งการทากิจกรรมทงั้ หมดทเี ดยี วแทน ตามที่ได้กลา่ วถึงกอ่ นหน้านเี ้ก่ียวกบั ประโยชน์ใน การรวมการสนทนาไว้ในการทากิจกรรม (โปรดดหู น้า 14) ในแตล่ ะช่วงของการทากิจกรรม ครูต้องจดั ให้มกี ารสนทนาเข้าสบู่ ทเรียนและสนทนาสรุปบทเรียน ซงึ่ การสนทนาเหลา่ นเี ้ป็น เคร่ืองมอื หลกั ท่ีช่วยให้นกั เรียนเรียนได้เรียนรู้บทเรียนตา่ ง ๆ ของการจดั กิจกรรมนี ้ การสนทนาเข้าสบู่ ทเรียนเป็นการเตรียมนกั เรียนให้พร้อมรับประสบการณ์ในการเรียนรู้ การสนทนาช่วยสนบั สนนุ นกั เรียน ให้คดิ เก่ียวกบั การเรียนรู้หลกั หรือพฤติกรรมทกั ษะชีวิตทอี่ ย่ใู นการทากิจกรรม การสนทนาเข้าสรุปบทเรียนช่วยสนับสนุนนักเรียนให้สะท้อนทบทวนการเรียนรู้ท่ีได้ เชื่อมโยงการเรียนรู้นัน้ เข้ากับ ประสบการณ์เดมิ และปรับใช้ในชีวิตจริงนอกห้องเรียน เม่ือครูรู้สกึ ผอ่ นคลายมากขนึ ้ ในการจดั ให้มีการพดู คยุ สนทนา ครูอาจสร้างคาถามของตวั เองทเี่ ชื่อมโยงเข้ากบั วตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ หลกั จาก 2-3 กิจกรรมทจี่ ดั 8. การดดั แปลง: มีตวั อยา่ ง 1-4 วธิ ี ทค่ี รูสามารถใช้ในการเพิม่ ความยากของกจิ กรรม เมอ่ื นกั เรียนรู้สกึ วา่ กิจกรรมทาได้งา่ ยสบาย ๆ ไมท่ ้าทาย เมือ่ ทากิจกรรมนซี ้ า้ ในชว่ งเวลาอนื่ หลงั จากนนั้ 21
7. เคล็ดลับสาหรับการวางแผนกิจกรรมท่ดี ี ควรวางแผนกจิ กรรมอย่างไร ประการแรก ครูที่ใช้ค่มู ือเล่มนีต้ ้องมีความเข้าใจรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ของ ไร้ ท์ ทู เพลย์ เช่น จะสนทนาเข้าสบู่ ทเรียนและสรุป บทเรียนกบั นกั เรียนอย่างมีประสิทธิภาพได้อยา่ งไร สนบั สนนุ ให้ครูท่ียงั ไมร่ ู้จกั หรือไมค่ ้นุ เคยกบั รูปแบบกระบวนการเรียนรู้ของ ไร้ท์ ทู เพลย์ ได้เข้าร่วมอบรมสมั มนาเชิงปฏิบตั ิการเก่ียวกบั ข้องกบั คมู่ ือที่เป็นทรัพยากรการเรียนรู้ หรือชว่ ยพฒั นาคมู่ อื การเรียนรู้ของ ไร้ท์ ทู เพลย์ หนึ่งเร่ืองหรือหลาย ๆ เร่ือง (ตวั อย่างเช่น Red Ball Child Play, Early Child Play, Live Safe Play Safe, Youth As Leader และอ่ืน ๆ ) ขนั้ ตอนตอ่ ไปนีไ้ ด้พสิ จู น์มาแล้ววา่ ช่วยให้การวางแผนของครูเกิดความสาเร็จ ซง่ึ ครูควรจะ 1. ประเมินว่าผ้เู รียนควรได้รับการพฒั นาทกั ษะชีวิตเร่ืองใดเป็ นหลักและพฤตกิ รรมท่ีคาดหวังและต้องการพัฒนาคือ เร่ืองใด โดยการสงั เกตและการได้สนทนากบั นกั เรียน ครูต้องเลอื กทกั ษะชีวติ ท่สี าคญั ที่สดุ ในการพฒั นาแล้วระบพุ ฤตกิ รรมที่ คาดหวงั ในการพฒั นา 2. เลือกกิจกรรมทักษะชีวิตท่ีสอดคล้องกับพฤติกรรมท่ีคาดหวังท่ีเลือก โดยเลือกกิจกรรมจากค่มู ือ ซึ่งในค่มู ือได้ระบุ พฤตกิ รรมทกั ษะชีวิตทคี่ าดหวงั ในการพฒั นาไว้แล้ว หรือออกแบบกิจกรรมใหมใ่ ห้สอดคล้องกบั ตวั ชีว้ ดั 3. วางแผนการสนทนาเข้าสู่บทเรียน ครูจะเห็นตวั อยา่ งคาถามสนทนาเข้าสบู่ ทเรียนในชว่ งเริ่มของแตล่ ะกิจกรรม ขอเน้นยา้ วา่ คาถามเหลา่ นเี ้ป็นแคแ่ นวทางในการสนทนาเข้าสบู่ ทเรียนท่ีครูอาจจะอยากใช้ถามนกั เรียน สว่ นข้อแนะนาในเป็นผ้นู าการ พดู คยุ สนทนาท่ดี จี ะอยใู่ นบทถดั ไป 4. วางแผนการสนทนาสุปบทเรียน ขนึ ้ อยกู่ บั เวลาที่มี ครูสามารถจดั ให้มีการสนทนาสรุปบทเรียนเมื่อสนิ ้ สดุ กิจกรรมย่อยใน แตล่ ะครัง้ หรือเมื่อสนิ ้ สดุ กิจกรรมครัง้ เดยี วเลยก็ได้ การสนทนาสรุปบทเรียนควรเปิดโอกาสให้มสี ว่ นร่วมและมคี วามนา่ สนใจ ตวั อยา่ งคาถามสนทนาสรุปบทเรียนได้มไี ว้ให้ตอนท้ายของทกุ กิจกรรมในคมู่ อื เลม่ นี ้ ต้องมีแผนเสมอและเช่ือในแผนทม่ี ี ไม่มอี ะไรเกดิ ขนึ้ ได้เอง -ชคั น็อค ครูฝึกฟตุ บอล 22
ทาไมจงึ จาเป็ นต้องวางแผนกจิ กรรมไว้ล่วงหน้า การวางแผนทดี่ ีเป็นสงิ่ สาคญั มากสาหรับการทากิจกรรมของ ไร้ท์ ทู เพลย์ ให้ประสบความสาเร็จ จึงเป็นการดีถ้าครูจะเตรียมพร้อมให้ มากดกี วา่ เตรียมไว้น้อยเกินไป การวางแผนที่ดที าให้มน่ั ใจได้วา่ กิจกรรมที่เลอื ก - มีความเหมาะสมกบั อายขุ องนกั เรียนและขนั้ ตอนการพฒั นา (ครูท่ีนากิจกรรมควรมน่ั ใจว่าพวกเขามีความเข้าใจ และรู้บทบาทของตนเองในการจดั การอารมณ์ในระหวา่ งนากิจกรรม) - มปี ระสทิ ธิภาพ - เข้าใจง่าย - สนกุ - มคี วามปลอดภยั การวางแผนทด่ี สี ามารถชว่ ยยืนยนั ให้ทราบถึง - เปา้ หมายท่ีต้องการให้บรรลผุ ล - แนวทางท่จี ะทาให้บรรลเุ ปา้ หมาย - ต้องทาอยา่ งไรหากแผนทเ่ี ตรียมมาใช้ไมไ่ ด้ผล การวางแผนทีด่ ีต้อง เราไม่ได้หยดุ เล่น - ลดจานวนปัญหาเก่ียวกบั เรื่องระเบียบวนิ ยั ลง เพราะเรามอี ายุมาก - นามาใช้กบั นกั เรียนได้งา่ ยและให้ความสนกุ สนานมากกวา่ ขนึ้ แต่เรามีอายมุ าก ขึน้ เพราะเราหยดุ เล่น การวางแผนทดี่ จี ะสะท้อนให้เหน็ วา่ - กิจกรรมอยใู่ นการควบคมุ ดแู ลของครูได้ -จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ - ครูทราบวา่ กาลงั ทาอะไรอยู่ นกั เขียนบทละคร - มีเหตผุ ลรองรับสาหรับแตก่ ิจกรรมที่เลอื กใช้ 23
วนั ท่ี: ตัวอย่างแผนกจิ กรรมทักษะชีวติ ทักษะชวี ติ ท่ตี ้องการเน้น: ชัน้ เรียน: สนทนาเข้าสู่บทเรียน พฤตกิ รรมท่คี าดหวัง: (5 นาท)ี คาถามท่ีจะถาม: กจิ กรรมพัฒนาทกั ษะชีวติ กจิ กรรมทกั ษะชวี ิต (1-3 กจิ กรรม) ท่จี ะเล่น: (25+ นาท)ี สรุปบทเรียน คาถามท่ีจะถาม: (5 นาท)ี สะท้อน – R เช่ือมโยง –C การประเมนิ ผล ปรับใช้ – A คาถามท่ีจะถามเพ่อื พจิ ารณาดวู ่าเกดิ การเรียนรู้เกดิ ขนึ้ หรือไม่ อุปกรณ์ท่จี าเป็ นต้องมี 24
8. แนวทางการบรู ณาการทกั ษะชวี ติ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ การพฒั นาทักษะชีวติ ในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ทาอย่างไร ครูผ้สู อนสามารถจดั การเรียนรู้เพ่ือพฒั นาทกั ษะชีวิตด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผ้เู รียนเป็นสาคญั เป็นกระบวนการเชิงประจกั ษ์ มี ส่วนร่วม เช่น งานกลมุ่ โครงงาน บทบาทสมมุติ ละครสนั้ เกม กีฬา ฯลฯ เพ่ือสร้ างชุดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้จริง ดงั นนั้ การบรู ณาการทกั ษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สามารถทาได้หลายทางดงั ตวั อยา่ งข้างลา่ งนี ้(ในค่มู อื กิจกรรมทกั ษะชีวิตแตล่ ะ เลม่ จะมแี ผนการเรียนรู้บรู ณาการกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้แนบเป็นตวั อยา่ ง) ปรับจากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีมีอยู่ แนวทางนีเ้ ป็นขนั้ ตอนการฝึกบูรณาการทักษะชีวิตอย่างง่าย โดยสอดแทรก กิจกรรมท่ีมีอย่ใู นแผนการสอนของตนเอง หรือแผนการสอนสาเร็จรูปเป็นตวั ตงั้ ต้น ซ่งึ มีจดุ สาคญั คือต้องสงั เกตขนั้ ตอนการ จดั กระบวนการเรียนรู้ในแผนการจดั การเรียนรู้สาเร็จรูป วา่ มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผ้เู รียนเป็นสาคญั หรือไม่ ถ้าพบวา่ มใี ห้ ลองดวู า่ กิจกรรมนนั้ สอดคล้องกบั พฤตกิ รรมที่คาดหวงั ในการพฒั นาทกั ษะชีวิตเร่ืองใด ในกรณีท่แี ผนนนั้ ไมม่ กี ิจกรรม ครูอาจ ต้องหากิจกรรมมาสอดแทรกให้ผ้เู รียนเกิดความเข้าใจในเนอื ้ หา แล้วดวู า่ กิจกรรมท่ีนามาสอดคล้องกบั การพฒั นาทกั ษะชีวิต ด้านใด จากนนั้ ออกแบบคาถาม R-C-A ให้สอดคล้องกบั ทกั ษะชีวิตท่ีต้องการพฒั นา ออกแบบกจิ กรรมใหม่ สาหรับแนวทางการออกแบบกิจกรรมใหมต่ ้องตงั้ ต้นด้วยการกาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้รายวิชา เนือ้ หาการเรียนรู้ และพฤติกรรมทักษะท่ีคาดหวงั จากนนั้ จึงออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องทงั้ วตั ถุประสงค์การ เรียนรู้เชิงวชิ าการและทกั ษะชีวติ แล้วตบท้ายด้วยการออกแบบคาถาม R-C-A ให้สอดคล้องกบั ทกั ษะชีวติ ท่ีต้องการพฒั นา 25
ตวั อย่างแผนการเรียนรู้บรู ณาการทกั ษะชีวติ แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวติ ในกลุ่มสาระ ............................... หน่วยการเรียนรู้ ................................................................... ชัน้ ............................ แผนการจัดการเรียนรู้ ................................................................... เวลา........................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… 2. สาระ/ ตวั ชีว้ ดั ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… 3. วตั ถปุ ระสงค์ ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… 4. องค์ประกอบทกั ษะชีวติ ท่ี.... เร่ือง......................................................... 4.1 พฤติกรรมทกั ษะชีวิตที่คาดหวงั ………………………………….. 4.2 ตวั ชีว้ ดั …………………………………………………………… 5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา………………………………………………………………………………………………… ขนั้ สอน.……………………………………………………………………………………………… ขนั้ สรุป.……………………………………………………………………………………………… สรุปบทเรียนทกั ษะชีวิตด้วยคาถาม สะท้อน-เช่ือมโยง-ปรับใช้ (R-C-A) คาถามสะท้อน (R) ……………………………………………………… คาถามเชื่อมโยง (C) ……………………………………………………… คาถามปรับใช้ (A) ……………………………………………………… 6. สื่อการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… 7. การประเมินผล ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… 26
9. เคล็ดลับสาหรับการเป็ นผู้นากจิ กรรมท่ีดี ครูควรคานึงถงึ เร่ืองใดเม่อื ต้องจดั กจิ กรรม เป็นสง่ิ สาคญั ที่ควรพงึ ระลกึ วา่ ข้อมลู ต่าง ๆ ในคมู่ ือนไี ้ มไ่ ด้เป็นข้อกาหนดตายตวั ในเมอื่ ต้องจดั กิจกรรม เราสนบั สนนุ ให้ครูปรับคาถาม การสนทนาและกิจกรรมให้เหมาะสมท่สี ดุ ให้สอดคล้องกบั ความต้องการท่แี ตกตา่ งกนั ของนกั เรียนท่จี ะเข้าร่วมในกิจกรรม อยา่ งไรก็ดี เม่ือกาลงั เป็นผ้นู าการสนทนาและทากิจกรรม ขอแนะนาให้รักษาหลกั เบอื ้ งต้นของ ไร้ท์ ทู เพลย์ ดงั นี ้ เน้นความสาคญั ท่ีการเลน่ อยา่ งยตุ ิธรรมและการเลน่ เป็นทีม ไมใ่ ชใ่ ห้ความสาคญั ที่การแขง่ ขนั การให้นกั เรียนทุกคนมีสว่ นร่วมอย่างเท่าเทยี ม ไมว่ ่าจะเป็นเพศ เชือ้ ชาติ ศาสนา ความสามารถ วฒั นธรรม ครอบครัว และ พนื ้ ฐานทางสงั คม ให้นกั เรียนทกุ คนมีสว่ นร่วมให้มากทส่ี ดุ ให้ความสาคญั กบั ความปลอดภยั ทางอารมณ์และทางร่างกายของนกั เรียนแตล่ ะคน จดั กิจกรรมเป็นกลมุ่ ยอ่ ยเลก็ ๆ เพ่ือให้นกั เรียนแตล่ ะคนมโี อกาสในการร่วมกิจกรรม ครูต้องทาอะไรในการเป็ นผ้นู ากิจกรรมของ ไร้ท์ ทู เพลย์ ให้ประสบความสาเร็จ 1. จัดการกลุ่ม ใช้สญั ญาณบอกให้นกั เรียนทราบวา่ เมื่อใดที่พวกเขาต้องหยดุ และให้ความสนใจ ตวั อยา่ งเช่น เป่ านกหวีดหรือยกแขน ขนึ ้ สงู ต้องมนั่ ใจวา่ นกั เรียนทกุ คนรับรู้และตอบสนองตอ่ การสง่ สญั ญาณดงั กลา่ ว ให้คืนอปุ กรณ์ทงั้ หมดเม่ือสนิ ้ สดุ กิจกรรมแตล่ ะกิจกรรม ซงึ่ เมือ่ ครูมอี ปุ กรณ์ในมอื นกั เรียนจะพงุ่ ความสนใจมาทค่ี รู โปรดระลกึ วา่ นกั เรียนทกุ คนมีรูปแบบการเรียนรู้และระดบั ทกั ษะท่ีแตกตา่ งกนั ขอให้ตระหนกั ในเรื่องนี ้และต้องมนั่ ใจได้ วา่ ทกุ คนมสี ว่ นร่วมและรู้สกึ สนกุ สนานกบั กิจกรรมทีจ่ ดั 2. ส่ือสารให้ชัดเจน เมอื่ ให้คาสงั่ ทากิจกรรม ต้องมน่ั ใจวา่ นกั เรียนทกุ คนอยใู่ กล้ครู และให้พดู ดงั ๆ เพอ่ื ให้ทกุ คนได้ยิน ใช้คาสงั่ สนั้ ๆ และตรงประเด็น สาธิตให้ดเู มอื่ กาลงั อธิบายถงึ ทกั ษะใหม่ ๆ 3. เน้นยา้ การพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง ต้องมน่ั ใจวา่ นกั เรียนเข้าใจว่าทกุ กิจกรรมล้วนแล้วแตม่ ีจุดประสงค์และมพี ฤติกรรมที่คาดหวงั นกั เรียนควรตระหนกั รู้วา่ กิจกรรมเป็นวธิ ีสอนพวกเขาให้สามารถ - ตระหนกั รู้และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู ่นื (คมู่ อื ทกั ษะชีวิตเลม่ ที่ 1) - คิดวเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และแก้ไขปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ (คมู่ ือทกั ษะชีวติ เลม่ ที่ 2) - จดั การกบั อารมณ์และความเครียด (คมู่ อื ทกั ษะชีวติ เลม่ ท่ี 3) - สร้างสมั พนั ธภาพท่ดี กี บั ผ้อู นื่ (คมู่ อื ทกั ษะชีวิตเลม่ ท่ี 4) นกั เรียนควรได้รับการเตรียมความพร้อมเพ่ือการสนทนาทงั้ ก่อนและหลงั ช่วงการทากิจกรรม 27
บุคคลมักมองครูที่ชาญฉลาดด้วยความช่ืนชม แต่จะมองครูท่ีสัมผัสได้ ถึงความรู้สึกในความเป็ นมนุษย์ ของเราด้ วยความสานึกซาบซ้ึง หลักสูตรเป็ นวัตถุดิบที่มีความจาเป็ นมาก แต่ ความอบอุ่นก็เป็ น องค์ประกอบสาคัญในการเตบิ โตของพชื และจติ วญิ ญาณของเดก็ -คาร์ล จงุ จิตแพทย์ชาวสวิส 28
10. กลยุทธ์ในการเป็ นผู้นาการสนทนาท่ีดี ครูควรคานึงถงึ อะไรในขณะท่กี าลงั เป็ นผ้นู าการพดู คุยสนทนา การเป็นผ้นู าสนทนาเข้าสบู่ ทเรียนและสรุปบทเรียนเป็นความท้าทายอยา่ งหนง่ึ เพราะการเปิดพนื ้ ทใ่ี ห้มกี ารพดู คยุ สนทนาร่วมกบั ผ้เู รียน เป็นสงิ่ ทีก่ ารเรียนการสอนในประเทศไทยไมค่ ้นุ ชิน ซการพดู คยุ สนทนาเป็นสว่ นสาคญั ในการชว่ ยให้นกั เรียนเกิดการเรียนรู้สาระสาคญั ในกิจกรรมของ ไร้ท์ ทู เพลย์ โดยมีมมุ มองหลายมิติในการเป็นผ้นู าการสนทนาให้มีประสิทธิภาพ ซ่งึ รวมถึงการทาความเข้าใจและ การเรียนรู้วธิ ีท่ีจะ ออกแบบคาถามและใช้ถามท่เี หมาะสมในการสนทนา สร้างสภาพแวดล้อมทป่ี ลอดภยั สาหรับนกั เรียนในการสนทนาและแลกเปลยี่ นความคิดกนั รับรู้วิธีการสอ่ื สารทม่ี ีประสทิ ธิภาพที่สดุ กบั นกั เรียนกลมุ่ ตา่ ง ๆ ฟังคาตอบจากนกั เรียนด้วยความตงั้ ใจ ควบคมุ ให้การสนทนาอยใู่ นกรอบประเดน็ ท่กี าหนด การท่ีจะให้ครูมีทกั ษะในการจดั การสนทนาที่สมบูรณ์แบบย่อมต้องใช้เวลา และนกั เรียนที่เรียนรู้วิธีการมีสว่ นร่วมท่ีดีก็ต้องใช้เวลา เชน่ กนั กิจกรรมแตล่ ะกิจกรรมมีตวั อยา่ งของคาถาม R-C-A ท่คี รูอาจใช้ถาม ซงึ่ คาถามเหลา่ นเี ้ป็นเพียงแนวทางให้แก่ครูและไมถ่ ือวา่ เป็นข้อกาหนดบงั คบั ให้ต้องถามตามตวั อยา่ งทม่ี ใี ห้ ซง่ึ กลยทุ ธ์ตอ่ ไปนจี ้ ะช่วยให้ครูเริ่มต้นการสนทนาได้ด้วยดแี ละช่วยพฒั นานกั เรียน ไปเร่ือย ๆ โดย 1. การจัดการสนทนาท่ดี ี จดั กลมุ่ ให้เป็นคร่ึงวงกลม เพือ่ สนบั สนนุ ให้มกี ารประสานสายตาระหวา่ งกนั มากขนึ ้ เพอ่ื สนบั สนนุ ให้นกั เรียนได้พดู ระหวา่ งกนั เอง ไมใ่ ช่พดู กบั ครูเทา่ นนั้ ถ้านกั เรียนไมร่ ู้จกั กนั ให้นกั เรียน เลน่ เกมส์เรียกช่ือ แนะนาตวั เอง สมั ภาษณ์คขู่ องตนเองแล้วจึงแนะนาคขู่ องตนให้กบั สมาชิกในกลมุ่ การสอนทด่ี ีคอื การต้ังคาถามที่ถกู ต้อง มากกว่าการให้ คาตอบท่ีถกู ต้อง -โจเซฟ แอลเบอร์ส นกั การศกึ ษาและศลิ ปินชาวเยอรมนั 29
2. กาหนดระเบยี บท่ีสร้างบรรยากาศท่ปี ลอดภยั สาหรับนักเรียน สาหรับการสนทนาที่ประสบความสาเร็จ นกั เรียนต้องรู้สกึ ปลอดภยั ท่ี จะพูด เมื่อความคิดเห็นของนกั เรียนนนั้ ฟังดูตลกหรือไม่ถูกต้อง ครู ไม่ควรบอกว่าความเห็นนัน้ ไม่ดีไม่ว่าด้ วยวิธีใดก็ตาม และอย่า อนุญาตให้นกั เรียนคนไหนว่าเพ่ือนเช่นกัน ในการสนทนาครัง้ แรก ขอให้นักเรียนช่วยกันกาหนดข้อตกลงและเขียนข้อตกลงนนั้ ให้เห็น เดน่ ชดั เช่น ทกุ คนมีสทิ ธิทีจ่ ะพดู ทกุ คนถกู คาดหวงั ให้มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น ทุกคนควรฟังด้วยความเคารพต่อผู้อ่ืนแม้ว่าตนจะไม่เห็น ด้วยก็ตาม ให้พดู ได้ทีละคนเทา่ นนั้ ไมม่ ีใครถกู มองวา่ เป็นตวั ตลกเมอื่ กาลงั แสดงความคิดเห็นบางแงม่ มุ ทกุ คนต้องฟังคนทกี่ าลงั พดู 3. เตรียมความพร้อมนักเรียนสาหรับการสนทนา ในช่วงแรก ชวนพดู คยุ ถงึ เร่ืองการสนทนาทด่ี ีวา่ เป็นอยา่ งไร ครูควรถามคาถามนกั เรียน เชน่ นกั เรียนควรพดู กบั ใครได้บ้าง ครูควรถามคาถามใครได้บ้าง การเป็นคนพดู เสมอมีประโยชน์หรือไม่ การไมพ่ ดู เลยมีประโยชน์หรือไม่ คนทสี่ ามารถพดู ได้โดยไมร่ ู้สกึ เกร็งจะสามารถสนบั สนนุ ให้คนอ่นื พดู ได้อยา่ งไร เพราะเหตใุ ดการฟังและการถามคาถามจงึ มคี วามสาคญั ในการสนทนา คาตอบประเภทใดทีท่ าให้คนทกี่ าลงั พดู รู้สกึ ไมด่ ี ถ้าไมเ่ หน็ ด้วยกบั บางคน จะทาอยา่ งไรโดยที่ไมท่ าให้บคุ คลนนั้ รู้สกึ ไมด่ ี 4. เร่ิมการสนทนาด้วยวิธีเชญิ ชวน เร่ิมด้วยความคดิ หรือข้อมลู ทีน่ กั เรียนมคี วามค้นุ เคย เริ่มด้วยคาถามงา่ ย ๆ แล้วคอ่ ย ๆ เปลย่ี นเป็นคาถามทย่ี ากขนึ ้ เร่ิมด้วยคาถามปลายปิด เช่น ใช่ / ไมใ่ ช่ แล้วจงึ ตามด้วยคาถามปลายเปิด เชน่ “เหตใุ ดถึงคดิ เชน่ นนั้ ” เริ่มโดยนาสง่ิ ทคี่ รูสงั เกตเหน็ วา่ นกั เรียนกาลงั พดู หรือกาลงั ทาอย่มู าเป็นประเดน็ สนทนา เร่ิมด้วยนิทาน เพลง รูปภาพ การ์ตนู ขา่ ว หรือประสบการณ์ทมี่ รี ่วมกนั เริ่มด้วยคาถามทน่ี กั เรียนสามารถตอบได้จากประสบการณ์สว่ นตวั เริ่มด้วยประสบการณ์ของตวั ครูเองกอ่ นเพอ่ื สนบั สนนุ ให้นกั เรียนพดู เก่ียวกบั ประสบการณ์ของตวั เขาเองบ้าง 30
5. ยอมรับการมีส่วนร่วมของนักเรียนแต่ละคน แสดงความสนใจ ประสานสายตาและรักษาการประสานสายตาไว้ ผงกศรี ษะ ยิม้ และอ่ืน ๆ พดู ทวนความคิดเหน็ ของนกั เรียน หรือขอให้นกั เรียนคนอนื่ พดู ทวนความคดิ เหน็ ดงั กลา่ ว ถามนกั เรียนด้วยคาถามตอ่ เนอ่ื ง เชน่ “เพราะเหตใุ ดจึงพดู เชน่ นนั้ ” “ชว่ ยยกตวั อยา่ งได้หรือไม่” ใช้ข้อคิดเห็นของนกั เรียนเป็นสะพานไปสคู่ าถามต่อไป ตวั อย่างเช่น แนะนาคาถามตอ่ ไปของครูโดยการพดู ว่า “มาลี แนะนาวา่ ..................” หรือ “ซาลนิ า่ ยกตวั อยา่ งให้เราฟังวา่ .................” พดู วา่ “ขอบคณุ สาหรับความคดิ นนั้ ” หลีกเลย่ี งการพูดตดั สนิ เช่น “ดี” “ถกู ต้องแล้ว” ให้เลือกพดู อย่างอ่ืนบ้างเช่น “น่าสนใจดี” “ครูไม่เคยนึกถึงเร่ืองนีม้ า กอ่ นเลย” “ตวั อยา่ งของนกั เรียนทาให้ครูเข้าใจชดั เจน” 6. รักษาการสนทนาให้ดาเนินต่อไป ถามครัง้ ละหนง่ึ คาถามเทา่ นนั้ ให้นกั เรียนมีเวลาคิดหลงั จากที่ครูถามคาถาม ความเงียบ 10-20-30 วินาทีแม้ว่าดูเหมือนว่านาน แต่ถ้าอดทนรอจะ ได้รับคาตอบทดี่ ี อยา่ ตอบคาตอบของตวั เอง เชื่อมโยงระหวา่ งความคดิ เหน็ ตา่ ง ๆ มองหาการเชื่อมโยงระหวา่ งคาตอบและคาถามตอ่ ไป ฟังอยา่ งระมดั ระวงั ถ้าคาตอบไม่ชดั เจน ครูสามารถทวนคาตอบได้ หรือถามวา่ “นกั เรียนกาลงั พดู วา่ ................ใชไ่ หม” หรือ “นกั เรียนหมายความวา่ .....................ใช่ไหม” หรือขอให้นกั เรียนชว่ ยครูทาความเข้าใจสงิ่ ทีก่ าลงั พดู ถ้าคาถามทาให้นกั เรียนสบั สน ให้ทวนคาถาม หรือถามคาถามโดยการใช้วธิ ียกตวั อยา่ ง ถามคาถามที่ท้าทาย แต่อยา่ ทาให้เขาตกเป็นเป้าสายตา เม่ือรับรู้วา่ เขารู้สกึ ไมส่ บายใจท่ีจะตอบคาถามนนั้ ไมค่ วรถาม ตอ่ ให้สนบั สนนุ นกั เรียนคนอนื่ ช่วยตอบคาถาม 7. สนับสนุนให้นักเรียนคุยกนั เองด้วย ไม่ใช่ให้คุยกบั ครูเท่านัน้ ให้นกั เรียนมองนกั เรียนคนอ่ืน ๆ ในขณะที่พวกเขาพดู คยุ กนั ยา้ เตอื นนกั เรียนวา่ พวกเขากาลงั พดู กนั และสามารถถามคาถามกนั เองได้ โยนคาถามให้นกั เรียนคนอ่ืนชว่ ยตอบเมอ่ื มนี กั เรียนถามคาถามมาท่ีครู ให้นกั เรียนคนอ่ืนยกตวั อย่างเพือ่ สนบั สนนุ ความคิดเห็นของเพ่อื น เมื่อนกั เรียนพดู จบ อยา่ เพ่ิงเป็นคนแรกท่ีตอบสนองการพดู นนั้ ให้คอยเพื่อให้นกั เรียนคนอื่นพดู บ้าง ให้ดเู หมือนวา่ ครู กาลงั คาดหวงั ให้พวกเขาพดู มากขนึ ้ 8. ให้นักเรียนทุกคนมสี ่วนร่วม มองดทู กี่ ลมุ่ บอ่ ย ๆ เพ่อื สงั เกตวา่ มีนกั เรียนคนไหนท่ีต้องการพดู ให้ถามคาถามกบั นกั เรียนทไ่ี มค่ อ่ ยพดู บ้างเป็นครัง้ คราว ให้นกั เรียนหารือกนั เก่ียวกบั คาถามโดยจบั ค่สู องคนหรือสามคน วิธีนจี ้ ะทาให้นกั เรียนที่ขีอ้ ายและไมค่ อ่ ยพดู มีสว่ นร่วม มากขนึ ้ ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั และ”สมั ภาษณ์” กนั เอง แล้วจงึ ให้แตล่ ะคนนาเสนอข้อคดิ เหน็ ของคขู่ องตนให้กลมุ่ เพอ่ื นๆฟัง 31
ขอคาตอบที่ไมใ่ ช้วาจา แล้วจงึ ตดิ ตามผล ตวั อยา่ งเช่น ให้พดู วา่ “ยกมอื ขนึ ้ ถ้าคดิ วา่ .............” แล้วจงึ ถามวา่ “เพราะ อะไรจงึ คดิ เชน่ นนั้ ” 9. วางแผนเก่ยี วกบั หลกี เล่ียงปัญหาและแก้ไขปัญหาท่เี กดิ ขนึ้ ในกรณีท่ีนกั เรียนคนหนึ่งมีทีท่าวา่ จะพดู มากกว่าคนอื่นในช่วงสนทนา ครูต้องพยายามใช้กลยทุ ธ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหล าย อยา่ งตอ่ ไปนี ้ ขณะท่ีกาลงั ถามคาถามให้หลกี เลย่ี งการมองไปยงั นกั เรียนคนนนั้ มองหน้านกั เรียนคนอ่ืน ๆ และรอให้นกั เรียนคนอนื่ ตอบ อยา่ มองข้ามนกั เรียนทพี่ ดู มากกวา่ คนอน่ื ตลอดเวลา บางครัง้ ให้เรียกเขาเป็นผ้ตู อบบ้าง ในกรณีที่มีนกั เรียนพดู ขนึ ้ พร้อม ๆ กนั หลายคนให้ลองใช้กลยทุ ธ์เหลา่ นี ้ ให้นกั เรียนยกมอื ก่อนท่ีจะพดู ลองใช้วิธี “ลกู บอลกระเด้ง” ให้คนท่ีกาลงั พูดถือลกู บอล เม่ือพูดเสร็จให้กลิง้ ลูกบอลไปให้อีกคนหนึ่งพูด ไม่มีใคร สามารถพดู ได้ยกเว้นเม่ือกาลงั ถือลกู บอล เปลยี่ นการใช้วธิ ีกระเด้งลกู บอลเป็นให้เรียกชื่อคนถดั ไปท่ีต้องการให้พดู 32
11. บทสรุป คมู่ ือทกั ษะชวี ติ ทงั้ 4 เลม่ ตอ่ ไปนรี ้ วมอยใู่ นเอกสารชดุ นี ้ การตระหนกั รู้และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู ่ืน การคิดวิเคราะห์ ตดั สนิ ใจ และแก้ไขปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ การจดั การกบั อารมณ์และความเครียด การสร้างสมั พนั ธภาพท่ีดกี บั ผ้อู ่ืน ขอเชิญชวนให้ครูใช้คมู่ ือเหลา่ นี ้ซง่ึ คมู่ ือแตล่ ะเลม่ จะสนบั สนนุ กนั และกนั และง่ายทจี่ ะผนวกเข้าไว้ในหลกั สตู รของประเทศไทย หากทา่ นมคี าถามข้อสงสยั ใดใด เกี่ยวกบั คมู่ ือทกั ษะชีวิต กรุณาตดิ ตอ่ สานกั งาน Right To Play ประจาประเทศไทย หรือ สานกั งาน ใหญ่ระหวา่ งประเทศของ Right To Play ในประเทศแคนาดา สานกั งาน Right To Play ประจาประเทศไทย 2533 ถนนสขุ มุ วิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260 ประเทศไทย โทรศพั ท์ +66 (0) 2740 3520 – 22 เว็บไซต์: www.righttoplay.or.th หรือ Right To Play International 65 Queen Street West, Suite 1900 Thomson Building, Suite 1900. Box 64 Toronto, Ontario M5H 2M5 Canada Tel: +1 416 498 1922 Fax: +1 416 498 1942 เว็บไซต์: www.righttoplay.com 33
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: