นวัตกรรมการการนิเทศการศึกษา SUPER Model โรงเรียนยางรากวิทยา จ.ลพบุรี

ตารางสรุปกิจกรรมพัฒนาตนเองของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ โรงเรยี นยางรากวิทยา จำนวนชว่ั โมงท่ี ท่ี ชอ่ื ตำแหน่ง เขา้ รับการอบรม ๑ นางพรรณพร โพธจิ นั ทร์ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น และพัฒนาตนเอง (ชั่วโมง) ๑๐๔ ๒ นางสาวภัทราวรรณ พิพิธปยิ ะปกรณ์ ครู คศ.๓ ๑๓๒ ๑๑๖ ๓ นายณฐั พล จกั รเพชร ครู คศ.๑ ๖๐ ๑๖๐ ๔ นางสาวศิรนิ ญา ภูอ่ ยู่ ครู คศ.๑ ๙๒ ๖๘ ๕ นางสาวสวุ รรณรกั ษ์ เพ็ชร์หนู ครู คศ.๑ ๗๖ ๘๔ ๖ นางสาวกชกร เกษมสุวรรณ ครู คศ.๑ ๖๔ ๖๘ ๗ นายทศพล พลอยเพช็ ร ครู คศ.๑ ๙๒ ๓๖ ๘ นางสาวเมธาวี ตรจี กั ร ครู คศ.๑ ๕๖ - ๙ นายมนต์ชยั จันทร์อ้น ครผู ชู้ ่วย - ๒๐ ๑๐ นางสาวนิลาวรรณ กันทา ครผู ู้ช่วย ๘ ๑๑ นางสาวนัฐพร ม่วงแก้ว ครผู ู้ช่วย ๑๒ นายธนภทั ร วัฒนวงศ์ ครผู ชู้ ว่ ย ๑๓ นางสาวพนดิ า อาบสวุ รรณ์ ครูพเ่ี ลย้ี งเดก็ พิการ ๑๔ นายกชกร ภูธร ครอู ัตราจ้าง ๑๕ นางสาวธญั ลักษณ์ เอื้อสลงุ ครอู ตั ราจา้ ง ๑๖ นางสาวแคทลีน เชอื้ ปุย ครูธุรการ ๑๗ นายพนม ฆ้องนอก นกั การภารโรง ๑๘ นางสาวสำรวม หาสงู เนิน นักการภารโรง จากตาราง ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ท่ปี ฏิบัติติหนา้ ท่ีครบตามปงี บประมาณ ๒๕๖๓ มีจำนวนทง้ั ส้นิ ๑๘ คน ได้เขา้ รับการพัฒนาตนเอง สมั มนา และศึกษาดงู าน มากกวา่ ๕๐ ช่วั โมงต่อปี คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๒.๒๒ 36

-ดา้ นคณุ ภาพ ๑. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตนเอง เข้ารับการอบรม สัมมนา และ ศึกษาดูงานอย่างน้อย ๕๐ ชั่วโมงต่อปี เพ่ือพฒั นาตนเองในด้านวิชาชพี นำผลที่ได้จากการพัฒนามาปรับปรุง การเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรียนให้สงู ขึน้ ๒. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการอบรมจากวิทยากร/ผู้เชี่ยวชาญภายนอก สถานศกึ ษา โดยนำองค์ความรู้ทไ่ี ดไ้ ปจดั การเรียนการสอนและพฒั นาตนเองได้ดียิง่ ขึ้น โดยได้ดำเนินการเชิญ วทิ ยากร/ผู้เช่ียวชาญภายนอกเขา้ มาอบรมท่ีโรงเรียนยางรากวิทยา • ศน.หัทยา เข็มเพ็ชร ศึกษานิเทศน์จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๕ อบรม เกี่ยวกบั กระบวนการถอดบทเรยี น เรอ่ื ง หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง • คุณครูเสาวณี ณัฎฐประเสริฐและคุณครูวัชรี จันทร์เผือก จากโรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จุฬาภรณราช วิทยาลัย ลพบุรี วิทยากรที่มีความรู้ในด้านการทำวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ ว๒๑/๒๕๖๐ เพ่ือ จดั ทำผลงานทางวชิ าการใหไ้ ดม้ าตรฐานและถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ๑. เชิญวิทยากรภายนอกสถานศึกษาทอ่ี ยู่ในชุมชน/ทอ้ งถิน่ ปราชญช์ าวบา้ น เพ่ือใหข้ ้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศกึ ษา มแี นวทางในการจดั ทำเน้ือหาวิชาที่สามารถบูรณาการกับชมุ ชนและทอ้ งถ่นิ ไดด้ ยี ่ิงขนึ้ เป้าหมายกิจกรรม ผลการดำเนินงานอยูใ่ นระดบั ดี บรรลุเปา้ หมายของกิจกรรม (ลงชื่อ ) ..........................................................ผู้ประเมิน (นางสาวเมธาวี ตรีจกั ร) ผูร้ ับผิดชอบกิจกรรม 37

กระทรวง : ศึกษาธิการ หนว่ ยงาน : โรงเรียนยางรากวิทยา ช่อื โครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) พฒั นานวัตกรรมการศกึ ษาการศึกษาโรงเรียนยางราก วิทยา ขึ้นเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และคุณภาพของผู้เรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านทักษะการ เรยี นรู้ ทักษะอาชีพ และทกั ษะชีวติ ในศตวรรษที่ 21 ด้วยกระบวนการนิเทศการสอน ความเป็นมาและความสำคัญของปญั หา ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติ มั่นคงประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” พฒั นาคนในทกุ มิตแิ ละในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมคี ุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและ ประโยชน์ส่วนรวมดังนั้นแผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์และวางเป้าหมายที่สามารถตอบสนองการพัฒนาที่สำคัญในด้านต่าง ๆ คือ ยุทธศาสตร์ท่ี 1 ยทุ ธศาสตรพ์ ัฒนาหลักสตู ร กระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมนิ ผล ทมี่ ุ่งหวังให้คน ไทยมีคุณธรรมจริยธรรม มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงและการพฒั นาประเทศในอนาคต ซึ่งตอบสนองการ พัฒนาในด้านคุณภาพและด้านการตอบโจทยบ์ ริบททเ่ี ปล่ียนแปลง ยุทธศาสตรท์ ี่ 2 ยทุ ธศาสตร์ผลิต พฒั นาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่มุ่งหวังให้มีการผลิตครูได้สอดคล้องกับความต้องการในการจัด การศกึ ษาทกุ ระดับ ทุกประเภทและมีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชพี สามารถใช้ศักยภาพในการสอนได้อย่าง เต็มที่ ซึ่งตอบสนองการพัฒนาในด้านคุณภาพ ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลังคน รวมท้ัง งานวจิ ัยทส่ี อดคล้องกบั ความต้องการของการพัฒนาประเทศ ทม่ี ่งุ หวังให้กำลังคนไดร้ ับการผลิตและพัฒนาเพื่อ เสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศและมีองค์ความรู้เทคโนโลยี นวัตกรรม สนับสนุนการพัฒนา ประเทศอย่างยั่งยืนซึ่งตอบสนองการพัฒนาในด้านคุณภาพและด้านการตอบโจทย์บริบทที่เปลี่ยนแปลง ยทุ ธศาสตร์ท่ี 4 ยทุ ธศาสตร์ขยายโอกาสการเขา้ ถงึ บริการทางการศกึ ษาและการเรยี นร้อู ยา่ งต่อเนอ่ื งตลอดชีวิต ท่ีมุง่ หวังใหก้ ารบรกิ ารการศึกษาแกผ่ ู้เรียนทกุ กล่มุ ทุกวยั ในระดบั ท่เี หมาะสมกับสภาพบริบทและสภาพพ้นื ท่ี ซึ่ง ตอบสนองการพัฒนาในด้านการเข้าถึงการให้บริการและด้านความเท่าเทียม ยุทธศาสตร์ 5 ยุทธศาสตร์ ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ที่มุ่งหวังให้คนไทยได้รับโอกาสในการเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่องตลอดชีวิตโดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งตอบสนองการพฒั นาในด้านการเข้าถึง การให้บริการ ด้าน ความเทา่ เทียม และดา้ นประสทิ ธิภาพและยุทธศาสตร์ 6 ยุทธศาสตรพ์ ัฒนาระบบบริหารจัดการ และส่งเสริม ให้ทกุ ภาคส่วนมีส่วนรว่ มในการจัดการศึกษา ที่มุ่งหวงั ให้มีการใช้ทรัพยากรท้งั ด้านงบประมาณและบุคลากรได้ อยา่ งคุม้ คา่ ไมเ่ กิดการสญู เปล่า และมคี วามคลอ่ งตวั ซง่ึ ตอบสนองการพัฒนาในด้านประสิทธิภาพจากรายงาน สรปุ ผลการดำเนินการตามยทุ ธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2562 พบวา่ ในแผนแมบ่ ทด้านการพฒั นาการเรียนรู้ ซงึ่ มเี ป้าหมายให้วัยเรยี น วยั รนุ่ มคี วามร้แู ละทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ครบถว้ น รู้จกั คดิ วเิ คราะห์รกั การเรียนรู้ มี สำนึกพลเมือง มีความกล้าหาญทางจริยธรรม มีความสามารถในการแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสารและทำงาน ร่วมกับผู้อื่นไดอ้ ย่างมีประสิทธิผลตลอดชีวิตดีขึ้น ผลการประเมินด้านทกั ษะ อยู่ที่ 62.30 คะแนนต่ำกว่า ปี 2561 ซึ่งผลการประเมินอยู่ท่ี 63.00 และจากรายงานวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) พบว่า 38

ปัญหาคุณภาพการศึกษาไทยสาเหตุหลักส่วนหนึ่ง เกิดจากระบบการศึกษาไทยไม่เอื้อต่อการสร้างความ รับผิดชอบ (Accountability) หลักสูตรและตำราเรียนของไทยไมส่ อดคล้องกบั การพฒั นาทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 การทดสอบยังคงเน้นการจดจำเนอ้ื หามากกว่าการเรียนเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจอย่างแท้จริง (Ministry of Education, 2009) กระบวนการบริหารจดั การศึกษาท่ีมคี ุณภาพประกอบด้วย 3 กระบวนการ คือ กระบวนการบริหารจดั การศึกษา กระบวนการจัดการเรียนการสอน และกระบวนการนิเทศการศึกษา ซึ่งจะต้องมีความร้อยรัด สัมพันธ์กันเป็นอย่างดี โดยต้องอาศัยความร่วมมือกันของบุคลากรที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน การสร้าง เครอื ขา่ ยในการทำงานในแต่ละพ้นื ที่จงึ มคี วามสำคัญอย่างย่ิงต่อการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ซึ่งจะต้องมีการ ร่วมคิดร่วมทำ ร่วมประเมินผล อย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนากระบวนการทำงาน และสร้างนวัตกรรมในการ ทำงานให้เหมาะสม สอดคลอ้ งกับสภาพบริบทและความต้องการของแตล่ ะพ้ืนท่ี รองรับการพัฒนาผู้เรียนให้มี ความรแู้ ละทักษะในศตวรรษท่ี 21 (Office of the Education Council, 2009: 9-12) สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวถึง ปัญหาโรงเรียนขนาดเลก็ พบปญั หา 5 ประการทเี่ ปน็ อุปสรรคตอ่ การพัฒนาสถานศึกษาขนาดเลก็ ส่วนใหญ่จะ ต้งั อยู่ในพนื้ ที่นอกเขตเมืองหรือในพื้นที่ห่างไกล ทา ให้โรงเรียนขนาดเลก็ ไมไ่ ดร้ ับการสง่ เสริมและพัฒนา ดังนี้ 1) ปัญหาอา่ นไมอ่ อก เขยี นไมไ่ ด้ และผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนอยู่ในระดับต่ำ 2) ขาดแคลนงบประมาณ ส่งผล ต่อจานวนบุคลากร ครุภัณฑ์และสื่อการเรยี นการสอนต่าง ๆ รวมไปถึงการก่อสร้างอาคารสถานที่ ซึ่งมีผลต่อ การพัฒนาศกั ยภาพของผู้เรียน แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าบุคลากรในสถานศึกษานั้น ๆ มีประสิทธภิ าพ และเรียนรู้ ในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3) จานวนบุคลากรครูมีไม่เพียงพอ ทำให้นักเรียนไม่ได้รับ ความรู้ที่เหมาะสมในแต่ละชั้นเรียน 4) ขาดระบบข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณภาพ จากข้อมูลการประเมิน สถานศึกษา ระบบเครือขา่ ย ยงั ไม่เพยี งพอต่อความต้องการหรือไม่มปี ระสิทธิภาพมากพอ 5) สถานศึกษาขาด การนาผลการประเมินคุณภาพภายนอกมาใช้ปรับปรุงพัฒนาวางแผนพฒั นาคุณภาพของสถานศึกษา (Office of Education Quality Assessment and Assessment, 2016) การนิเทศการศึกษา เป็นการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ สามารถปรับปรงุ กระบวนการเรียนการสอนสง่ ผลไปสู่การเรียนของผ้เู รียนด้วยความรว่ มมอื ระหว่างผู้นิเทศและ ผรู้ บั การนเิ ทศ ในการชว่ ยเหลอื ปรบั ปรุงพัฒนาการเรยี นการสอน เพ่ือให้นกั เรยี นมีคุณภาพตามจุดมงุ่ หมายของ หลักสูตรการนิเทศ การศึกษาเป็นกระบวนการทางานร่วมกับครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้ได้มาซึ่ง สัมฤทธิ์ผลสูงสุดในการเรียนการสอนของนักเรียน(Wongnutarot, 2005: 16; Harris, 1985: 10; Office of the Education Council, 2003: 213) (Oliva and Pawlas, 2008) การนิเทศการสอนภายในโรงเรียนในปัจจุบันและอนาคต จะมุ่งเน้นใน 3 มิติ คือ การพัฒนาการเรียนการสอน (instruction development) การพัฒนาหลักสูตร(curriculum development) และการพัฒนาบุคลากร/วิชาชีพ (staff development/professional development) และมุ่งเน้นการปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอนโดยตรง ซึ่งจะเป็นการนิเทศในลักษณะเป็นรายบุคคล และ 39

รายกลุ่มที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของครูและโรงเรียน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นิเทศการสอนจะต้อง มุ่งเนน้ การปฏิบตั งิ าน เพ่ือการปรับปรงุ และพฒั นาการเรยี นรู้ของผู้เรยี นเปน็ สำคญั โดยจะต้องมกี ารประเมนิ ผล การจัดการเรียนรูข้ องครู และมกี ารประชมุ ระหวา่ งครูและผูน้ ิเทศอย่างต่อเนอื่ ง ดังนั้น เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนยางรากวิทยาจึงได้จัดทำ โครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมการศึกษา เพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนยาง ราก ขึน้ เพ่อื ยกระดับผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น และคุณภาพของผู้เรียนได้รับการพฒั นาทง้ั ด้านทกั ษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวติ ในศตวรรษท่ี 21 วัตถุประสงค์การวจิ ัย ๑. เพอ่ื ยกระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของโรงเรยี นยางรากวทิ ยาใหส้ งู ขนึ้ ๒. เพื่อพัฒนารูปแบบและแนวทางการจัดการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เหมาะสม สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการและบริบทของพ้ืนที่ ๓. เพอ่ื สรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมอื ในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา กรอบแนวคิดการวิจัย การพัฒนาครูในโรงเรียนขนาดเล็กเกี่ยวกับสภาพปัญหา อุปสรรค และความต้องการในการนิเทศ พบว่าสภาพปัญหาอุปสรรคในการนเิ ทศ มีดังนี้ การนิเทศภายในสถานศกึ ษามีวตั ถุประสงค์เป้าหมาย วิธีการ การประเมนิ ผล การแจง้ ผลให้ผู้รบั การนิเทศทราบ เพ่อื พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาและสร้างความเข้าใจที่ ตรงกันจะช่วยให้ครูได้พัฒนาการจัดการเรียนรู้ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ส่งเสริมให้ครูได้เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถและนำความรู้มาปรบั ปรงุ วธิ ีสอนกระต้นุ ให้เกดิ แนวคิดใหมแ่ ก่ครู โรงเรยี นขนาดเล็กแต่ละแห่งมี 40

สภาพปัญหาและความต้องการทีต่ ่างกัน การพัฒนานวัตกรรมการศึกษา ผู้บริหารและครูมีความคุ้นเคย และ ทราบสภาพปัญหาในโรงเรียน จึงมีความพร้อมและความสามารถที่จะใหค้ วามช่วยเหลอื ครไู ด้สะดวก รวดเรว็ ตรงวัตถปุ ระสงคย์ งั เปน็ การเสรมิ สร้างขวัญและกำลังใจของครใู นการทำงานใหม้ คี วามภูมิใจในวิชาชีพครู สมมตฐิ านของงานวจิ ยั กระบวนการนิเทศการศึกษามีความสัมพันธ์ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรม การศึกษา เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Educational Test : O-Net) ของนักเรียนระดับมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 และมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นยางรากวิทยา แตล่ ะวชิ าผา่ นเกณฑเ์ พิ่มข้ึน ขอบเขตการวิจยั ขอบเขตเนือ้ หา การศึกษาครั้งนี้มุ่งพัฒนานวัตกรรมการศกึ ษา Innovation For Thai Education (IFTE) เพื่อพัฒนา การศกึ ษาโรงเรยี นยางรากวทิ ยา โดยอาศยั กระบวนการนเิ ทศการศึกษา ดงั นี้ 1. ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน โดยนำนวัตกรรมการศกึ ษามาประยุกต์ใช้ จะช่วยส่งเสรมิ ให้ ผูเ้ รียนเกิดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง สามารถเรียนรู้ได้ทกุ เวลาตาม ความตอ้ งการ นวัตกรรมการเรียนรู้ จะเกิดข้ึน ได้ต้องอาศัยวถิ คี ิด ที่ออกนอกกรอบเดิม พอสมควร คือจะต้องออกนอก “ร่อง” หรือช่องทางเดิม ๆ ที่เคยชนิ เรยี กได้วา่ จะตอ้ งปรบั เปลี่ยนแนวคดิ หรือ กระบวนทัศนท์ ม่ี อี ยูเ่ ดิมเก่ยี วกับการเรียนรเู้ สยี ใหม่จากทีเ่ คยเข้าใจว่า การเรียนรู้ คือการศึกษาเพียงเพื่อให้ได้รู้นั้น มาเป็นการเรียนรู้ที่นำมาใช้พัฒนางานพัฒนาชีวิต และพัฒนา สังคมประเทศชาติ ซึ่งเป็น ความรู้ท่แี นบแน่นอยกู่ ับงาน เกยี่ วพันอยูก่ บั ปญั หา เปน็ ความรู้ท่ีมีบริบทการเรียนรู้ ตามกระบวนทัศน์ใหม่นี้จึงมักเริ่มต้นด้วยการพัฒนาตัวโจทย์ขึ้นมาก่อน โดยใช้ปัญหาหรือสิ่งที่เกิดขึ้นใน ชีวิตประจำวันเปน็ หลกั เรยี กได้ว่ามคี วามตอ้ งการทจ่ี ะแกไ้ ข และเพม่ิ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น 2. การนเิ ทศการศึกษา เป็นการพฒั นาคณุ ภาพและประสิทธภิ าพของครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาให้ สามารถปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนสง่ ผลไปส่กู ารเรียนของผเู้ รยี นด้วยความรว่ มมอื ระหว่างผู้นเิ ทศและ ผู้รับการนิเทศ ในการชว่ ยเหลอื ปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอน เพ่อื ใหน้ ักเรียนมคี ณุ ภาพตามจุดมุ่งหมายของ หลักสูตรการนิเทศ การศึกษาเป็นกระบวนการทางานร่วมกับครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้ได้มาซึ่ง สัมฤทธิ์ผลสูงสุดในการเรียนการสอนของนกั เรียน (Wongnutarot, 2005: 16; Harris, 1985: 10; Office of the Education Council, 2003: 213) 4 ขอบเขตด้านประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง ประชากร ไดแ้ ก่ นกั เรยี นโรงเรียนยางรากวิทยา สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาลพบุรี ภาค เรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 183 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนยางรากวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลพบุรี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 183 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ตวั แปรทศ่ี กึ ษา ตัวแปรตน้ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมการศึกษา ตัวแปรตาม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Educational Test : O-Net) 41

นยิ ามศัพท์เฉพาะ นวัตกรรมทางการศึกษา หมายถึง แนวคิด วิธีการ กระบวนการหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่นำมาใช้ แก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพตรงตามเป้าหมายของหลักสูตร รูปแบบ หรือสื่อการสอน หรือวิธีการ ที่ครูพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของนวัตกรรมเดิมที่ยังไม่เคยนามาใช้พัฒนาผู้เรียนหรืออาจจะสร้าง ขึ้นมาใหมต่ ามแนวคดิ ทฤษฎี หรือหลักวิชาการเพื่อนำสิง่ ทีส่ รา้ งขึ้นไปใช้แกป้ ัญหาหรือพัฒนาผูเ้ รยี นให้บรรลุ ตามจุดมงุ่ หมายทวี่ างไว้ แผนการสอน คือ การนำวิชาหรือกลุ่มประสบการณ์ที่ต้องทำการสอน ตลอดภาคเรียนมาสร้างเป็น แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน การใช้ส่อื อุปกรณ์การสอน การวดั และการประเมนิ ผล สำหรับเนื้อหา สาระและจุดประสงค์การเรียนการสอนย่อย ๆ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หรือจุดเน้นของหลักสูตร สภาพ ผู้เรียน ความพร้อมของโรงเรียนในด้านวัสดุอุปกรณ์ และตรงกับชีวิตจริงในท้องถิ่น ซึ่งถ้ากล่าวอีกนัยหนึ่ง แผนการสอนคือ การเตรยี มการสอนเปน็ ลายลักษณ์อักษรไวล้ ่วงหน้า เทคนิคการสอน คือ กลวิธีต่าง ๆ ที่ใช้เสริมกระบวนการ ขั้นตอน วิธีการ หรือการกระทำใด ๆ เพื่อ ชว่ ยให้กระบวนการ ขนั้ ตอน วธิ กี าร หรือการกระทำนนั้ ๆ มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขนึ้ ดังนั้น เทคนิค การสอน จึงหมายถงึ กลวิธีต่าง ๆ ทใี่ ช้เสรมิ กระบวนการสอน ข้นั ตอนการสอน วธิ กี ารสอน หรือการดำเนินการ ทางการสอนใด ๆ เพื่อช่วยให้การสอนมีคุณภาพและประสทิ ธิภาพมากขึ้น เช่น ในการบรรยาย ผู้สอนอาจใช้ เทคนิคต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้การบรรยายมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น 5E, PDCA, Active Learning, กรณตี วั อยา่ ง (Case Method), กลมุ่ สมั พนั ธ์, เทคนคิ การสอนแบบอปุ นัย เป็นตน้ การนิเทศการศึกษา หมายถึง การให้ความช่วย เหลือแนะนา หรือปรับปรุงเกี่ยวกับการศึกษาเป็น แนวทางหนึ่งทีจ่ ะชว่ ยปรับปรงุ คุณภาพการศึกษา ซึ่งจะช่วยแกไ้ ขปรับปรุงสิ่งที่บกพรอ่ งด้านวิชาการให้มีการ พฒั นา และส่งเสริมให้การเรียนการสอนบรรลวุ ัตถุประสงค์ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาและผรู้ ่วมบริหาร เป็นผู้ท่ีอยู่ ใกลช้ ิดกบั คุณครูและนักเรียน จึงย่อมทราบถงึ ปญั หาต่าง ๆ ไดด้ ีกวา่ บุคลากรภายนอก เมอ่ื เป็นเช่นน้ีแล้ว การ นิเทศภายในโรงเรยี นจะสนองตอบความต้องการของบุคลากรในโรงเรียนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสมทส่ี ดุ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น หมายถงึ ระดับ ความรู้ ความสามารถและทกั ษะทผี่ เู้ รียนไดร้ ับและพัฒนาตน ให้ดีขึ้นจากการเรียนการสอนวชิ าต่างๆ โดย อาศัยเครื่องมือในการวดั ผล หลังจากการเรียนหรือการฝึกอบรม เหลา่ นั้นแลว้ ซง่ึ อาจพจิ ารณาได้จาก คะแนน การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หรือความชาํ นาญเชงิ ทกั ษะ O-NET (Ordinary National Educational Test) คือ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ัน พืน้ ฐาน เปน็ การทดสอบเพื่อวัดความรู้และความคดิ ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนยางรากวิทยา ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 42

เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการวิจัย 1. การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียนใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ โรงเรยี นยางรากวทิ ยาจงึ ไดจ้ ดั ทำโครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมการศึกษา เพื่อพฒั นาการศกึ ษาโรงเรยี นยางราก ขึ้นเพื่อ ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น และคณุ ภาพของผู้เรยี นไดร้ บั การพัฒนาทง้ั ดา้ นทักษะการเรยี นรู้ ทักษะอาชีพ และทกั ษะชีวติ ในศตวรรษที่ 21 คือ เอกสารท่ีแสดงรายละเอียดของการจัดการเรียนการสอน การจดั กจิ กรรม การเรียนรู้ การวดั และประเมินผล โดย 1.1 ศึกษาหลักสูตรแกนกลางทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ในด้านจุดหมาย สาระและมาตรฐาน การเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ โครงสร้างเนื้อหา และองค์ประกอบในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ โครงสรา้ งเน้อื หา และองคป์ ระกอบในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน และเป็นแนวทาง พนื้ ฐานในการจัดทำ แผนการจัดการเรียนรู้ 1.2 หลังจากวิเคราะห์โครงสร้างเนื้อหา และองค์ประกอบในการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน ยังไดท้ ำการสัมภาษณค์ รผู ู้สอน อาจารย์ ทสี่ อนจำนวน 3 ทา่ น (รายชื่อครู อาจารย์ ทถ่ี กู สัมภาษณ์ อยู่ใน ภาคผนวก ก) ในเรื่องหลักสูตรการสอน การจัดกิจกรรม เวลาในการเรียนภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมทั้ง เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการเรียนการสอนพัฒนาโครงงานฯ เป็นต้น เพื่อมาเป็นแนวทางกำหนด กรอบเนื้อหา 1.3 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับร่างโดยกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ นำไปใหค้ รู อาจารย์ ในโรงเรยี นเพือ่ พจิ ารณาดา้ นเนอ้ื หา สำนวนภาษา แลว้ นำมาปรับปรงุ แก้ไขตามคำแนะนำ 1.4 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีต่อการพัฒนาโครงงาน และการเรียนรู้แบบทีม เสนอ ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา เพื่อตรวจสอบความตรงของเนื้อหา โดยการคำนวณค่าดัชนี ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ ตามวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ ข้ันตอนการเรยี น การจดั กิจกรรม ท่ีผู้ วยั สรา้ งขน้ึ Index of item objective Congruence (IOC) 1.5 นำแผนการจดั การเรียนรู้ เสนอผเู้ ช่ียวชาญเพื่อตรวจสอบความตรงเชิงเนือ้ หา (Content validity) เพื่อตรวจสอบความถูกตอ้ งของเนือ้ หา โดยการคำนวณค่าดชั นีความสอดคล้องของแผนการจดั การ เรียนรู้ ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ขั้นตอนการเรียน การจัดกิจกรรม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น Index of item objective Congruence (IOC) โดยมวี ธิ กี ารให้คะแนนดังน้ี (ศริ ชิ ยั กาญจนวาสี, 2552) ใหค้ ะแนน +1 สำหรับข้อทีน่ าใจว่าสอดคล้อง ใหค้ ะแนน 0 สำหรับข้อท่ไี ม่แน่ใจว่าสอดคล้อง ให้คะแนน -1 สำหรับขอ้ ท่แี น่ใจว่าไม่สอดคล้อง จากนัน้ นำคะแนนที่ไดม้ าคำนวณหาค่าความสอดคล้องของขอ้ คำถาม โดยแปลความหมายถ้า ขอ้ คำถามที่มคี ่า IOC ≥ 0.5 แสดงว่า ข้อคำถาม มคี วามสอดคล้อง IOC ≤ 0.5 แสดงว่า ข้อคำถาม ไมม่ ีความสอดคลอ้ ง ผลการประเมินค่าความสอดคลอ้ งโดยผู้เชี่ยวชาญ พบวา่ มีค่า IOC เท่ากับ 1.0 ซึ่งคา่ IOC มี ค่ามากกว่า 0.5 จัดว่าแผนการจัดการเรียนรู้ในวิชาวิทยาการคำนวณ มีคุณภาพสามารถนำไปใช้ทดลองได้ และมขี อ้ เสนอแนะทไี่ ดจ้ ากผู้เชย่ี วชาญ มดี ังนี้ 1. เน่ืองจากการนำแผนการจดั การเรียนรูไ้ ปใช้กบั นักเรียนระดับ ประถมศึกษาตอนปลาย การจัดกจิ กรรมอาจจะมีหลายข้ันตอน ซึง่ อาจมากเกินไปสง่ ผลทำให้อาจจะไม่ทันกับ คาบเรียนทีม่ ี 2. ควรมกี ารประเมนิ ผลด้านการปฏิบตั ิงานของนกั เรียนระหว่างกิจกรรมทส่ี อน 3. ควรปรับปรุง 43

ภาษาที่ใช้ให้ทางการหรือเปน็ วชิ าการมากกวา่ ภาษาพูด ผู้วิจัยปรับปรุงตามขอ้ เสนอแนะของผูเ้ ช่ียวชาญ และ จัดทำแผนการจดั การเรียนรูฉ้ บับจริง ผ้วู จิ ยั นำเสนอตัวอยา่ งเคร่ืองมือไวท้ ี่ 1.6 นำแบบทดสอบให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการนิเทศ จำนวน 3 ท่าน ตรวจสอบความตรงเชิง เนื้อหา (Content Validity) ภาษาที่ใช้และความถูกต้อง โดยตรวจสอบดัชนีความสอดคล้อง IOC พบว่ามีค่า 1.0 ซึ่งมีค่ามากกว่า 0.5 จึงสรุปได้ว่ามีความเหมาะสม สามารถนำไปใช้ทดลองได้ โดยมีข้อเสนอแนะของ ผู้เชี่ยวชาญดังนี้ มีให้ปรับปรุงคำถามบางคำถามที่มีเน้ือหาซับซ้อน ปรับปรุงข้อคำตอบที่เปน็ ข้อลวงไม่ชดั เจน อาจทำใหผ้ เู้ รยี นสับสนได้ และใหป้ รับสำนวนภาษาในข้อคำถามบางข้อกอ่ นนำไปใช้จริง เปา้ หมายโครงการ (Output) เป้าหมายเชิงปรมิ าณ 1. ร้อยละของนักเรียนมผี ลการเรยี นเฉลยี่ ต้งั แต่ 2.00 ขน้ึ ไปเพมิ่ ข้นึ 2. ร้อยละของนักเรียนที่คะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) แต่ละ วิชาผ่านเกณฑ์เพ่มิ ข้ึน เปา้ หมายเชงิ คณุ ภาพ นกั เรยี นมีความร้คู วามสามารถตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน กลุ่มเป้าหมายโครงการ (Target group) 1. นักเรียนโรงเรยี นยางรากวทิ ยาทุกคน 2. ครผู ้สู อนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัดเปา้ หมายโครงการ (Outputs) และตวั ชีว้ ัดผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชีว้ ดั เปา้ หมายโครงการ (Outputs) 1. ผลการเรยี นเฉลีย่ ตัง้ แต่ 2.00 ขนึ้ ไปของนักเรียนโรงเรียนยางรากวทิ ยา 2. ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พื้นฐาน(O-NET) แต่ละวิชาผ่านเกณฑ์ ตวั ชี้วดั ผลลัพธ์ (Outcomes) ๑. ร้อยละ 60 ของนักเรียนมผี ลการเรยี นเฉลีย่ ตั้งแต่ 2.00 ขน้ึ ไป ๒. ร้อยละ 50 ของนักเรียนมีการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) แต่ละวิชา ผา่ นเกณฑ์เพิม่ ขึน้ วิธดี ำเนินการ (Activity) – กิจกรรม วิธดี ำเนินการ ๑. แต่งตั้งคณะดำเนินงานโครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมการศึกษา เพอื่ พัฒนาการศกึ ษาโรงเรียนยางรากวทิ ยา ๒. ประชมุ ชี้แจงการดำเนินโครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรม การศึกษา เพื่อพัฒนาการศกึ ษาโรงเรียนยางรากวิทยา เพื่อยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนโรงเรียนยางราก วิทยา โดยการกำหนดคา่ เป้าหมาย ๓. ครูผูส้ อนออกแบบการจัดการเรยี นรู้ (แผนการเรยี นรู้) และจัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดย 44

เลอื กเทคนิคและวธิ สี อน รูปแบบการสอน สอ่ื การสอนและการวัด ประเมินผล ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับ ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของครผู ูส้ อนท่จี ะช่วยในการพัฒนาคุณภาพ ๔. ดำเนินงานตามโครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวตั กรรมการศึกษา เพื่อพฒั นาการศกึ ษาโรงเรียนยางรากวิทยา เพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ๔.1 จัดบรมเชิงปฏบิ ัติการ เรื่องการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน พัฒนาด้านทักษะการเรยี นรู้ ทกั ษะอาชีพ และทักษะชวี ิตในศตวรรษท่ี 21 ๔.2 ผเู้ ขา้ ร่วมอบรมรว่ มออกแบบประเมนิ ความพึง่ พอใจการนิเทศการเรียนการสอนก่อน/หลงั ๕. ดำเนินการแตง่ ตงั้ ผ้เู ชยี่ วชาญ 3 ท่าน เพอ่ื ตรวจสอบความสอดคลอ้ งระหวา่ งขอ้ คำถาม กับวัตถุประสงค์ (IOC) ออกแบบประเมินความพง่ึ พอใจการนิเทศการเรยี นการสอนก่อน/หลงั ๖. ดำเนนิ การนิเทศการเรยี นการสอน และประเมนิ ความพึง่ พอใจการนเิ ทศการเรียนการ สอนกอ่ น/หลงั ๗. วิเคราะห์และสรุปผลประเมนิ ความพ่งึ พอใจการนเิ ทศการเรยี นการสอนกอ่ น/หลงั ๘. ผู้นิเทศและผู้สอนจัดทำ (Professional Learning Community: PLC ชุมชนการเรียนรู้ทาง วิชาชพี ) ๙. นำนวัตกรรมไปใช้พัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น และผลคะแนนการทดสอบทาง การศึกษาระดบั ชาตขิ นั้ พ้นื ฐาน (Ordinary National Educational Test : O-Net) ระยะเวลาการดำเนนิ การกจิ กรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ (วนั /เดอื น/ป)ี การดาเนินกิจกรรม สปั ดาห์ท่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1. แตงตงั้ คณะดาเนินงาน ครงการ 2. ประชุมชี้แจงการดาเนิน ครงการ ครง้ั ที่ 1 3. ครผสอนออกแ การจัดการ เรยี นร 4. จดั อ รมเชงิ ป ิ ตั กิ าร 5. ดาเนินการนเิ ทศการเรียนการสอน 6. ผนเิ ทศและผสอนจัดทานวัตกรรม มถิ ุนายน 2564 – กนั ยายน 2565 สถานที่ดำเนนิ การ/พื้นท่ดี ำเนินการ โรงเรียนยางรากวทิ ยา หมู่ 12 บา้ นยางราก ตำบลยางราก อำเภอโครกเจริญ จังหวัดลพบรุ ี งบประมาณ เงนิ งบประมาณ 20,000 บาท จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร เร่ืองการพฒั นานวตั กรรมการเรียน การสอน พัฒนาด้าน ทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21ดำเนินการจัดอบรมใน วันท่ี 7, 8, 14, 15, 21 สิงหาคม 2564 (หลกั สตู ร 30 ช่ัวโมงการเรียนรู้) 45

รายละเอยี ดประมาณการ ราคา/หน่วย จำนวน รวม วิทยากร 1 ท่าน 600 บาท/ช่ัวโมง 30 ชั่วโมง 18,000 บาท อาหารวา่ งและอาหารกลางวนั 100 บาท/คน 4 คน 2,000 บาท วันที่ 7,8, 14, 15, 21 สงิ หาคม 2564 20,000 รวมทงั้ สน้ิ บาท (สองหมืน่ บาทถ้วน) ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รบั ๑. ผเู้ รยี นมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉล่ยี ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไปเพิ่มข้ึน ๒. ผเู้ รียนมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขน้ั พนื้ ฐาน (O-NET) แต่ละวิชาผ่านเกณฑ์ เพิม่ ข้ึน ๓. ผสู้ อนมีนวัตกรรมทางการเรียนการสอน เพ่อื นำส่งิ ทส่ี ร้างข้นึ ไปใช้แก้ปญั หาหรือพัฒนาผู้เรียนให้ บรรลุตามจดุ มุง่ หมายทวี่ างไว้ ๔. ผู้บริหารมนี วัตกรรมนเิ ทศ ติดตาม กระบวนการเรียนการสอน เพ่อื นำส่ิงทส่ี รา้ งข้นึ ไปใช้แก้ปัญหา หรอื พฒั นาผูเ้ รียนใหบ้ รรลตุ ามจุดมงุ่ หมายที่วางไว้ เอกสารอา้ งอิง Burton, William, H. & Brueckner, J. (1955). Supervision: A social process (3rd ed.). New York Appleton - Century Company. Chaiheng, S. (2011). The development of community participation management strategies for basic education institutions in northern highland areas. Dissertation of Doctor of Philosophy Program in Educational Administration. Bangkok: Chulalongkorn University. [in Thai] Harnkla, R. (2011). Strategies development of management in primary educational institutes to promote community participation in student assistance system. Bangkok: Chulalongkorn University. [in Thai] Harnmanop, R. (2012). Strategies development in enhancing students’ learning achievement: A case study of Ban Lak School, Sungkla District, Surin Province. Surin Province: Copy. [in Thai] Kongwimon, S. (2015). Strategies in developing students’ life skills. SWU Educational Administration Journal, 12(22), pp. 13-22. [in Thai] Maneesri, Sh. (1999). Education supervision (4th ed.). Bangkok: Silpabunnakarn. Ministry of Education. (2009): Online. (2017). Education reform in the second decade (2009 – 2018). Retrieve on 1 July 2017 from http://www.moe.go.th/moe/th/home/ [in Thai] Mintzberg, H. & Quinn, J. B. (1996). The strategy process: Concepts, contexts, cases (3rd ed.). New Jersey: Prentice-Hall. 46

คำสง่ั โรงเรียนยางรากวิทยา ท่ี 054 / 2564 เรอ่ื ง จดั อบรมพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา โครงการอบรมเชิงปฏิบตั ิการ พัฒนานวัตกรรมการศึกษาของโรงเรียนยางรากวิทยา ------------------------------- ด้วยโรงเรยี นยางรากวิทยา สงั กดั สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาลพบุรี ได้รับรับคัดเลือกเข้า ร่วมโครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาการศึกษาจังหวัดลพบุรี ของสำนักงาศึกษาธกิ ารจงั หวัดลพบรุ ี และพฒั นานวัตกรรมการจดั การเรียนการสอนของครแู ละบุคลากรทางการ ศกึ ษา ยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรียนโรงเรียนยางรากวิทยา ให้อยใู่ นระดบั มาตรฐานทุกกลุ่มสาระ วชิ า กลุ่มงานบริหารงานวิชาการ โรงเรียนยางรากวิทยา จึงจัดอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพฒั นานวัตกรรมการศึกษาของโรงเรียนยางรากวิทยา ในวันที่ ๗, ๘, ๑๔, ๑๕, ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น. ด้วยระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ทางไกลหรือระบบออนไลน์ (Online) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ (๑) แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการ ศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ และมาตรา ๓๙ แหง่ พระราชบญั ญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ.๒๕๔๖ และฉบับแกไ้ ข เพิม่ เตมิ พ.ศ.๒๕๕๓ จงึ แต่งตงั้ คณะกรรมการการดำเนนิ งาน ดงั น้ี ๑. คณะกรรมการอำนวยการ ๑.๑ นางพรรณพร โพธจิ นั ทร์ ผู้อำนวยการโรงเรยี นยางรากวิทยา ประธานกรรมการ ๑.๒ นายณัฐพล จักรเพชร ผู้ชว่ ยผู้อำนวยการฯ กรรมการ ๑.๓ นายทศพล พลอยเพช็ ร หวั หนา้ งานบริหารงานทัว่ ไป กรรมการ ๑.๔ นางสาวศิรินญา ภอู่ ยู่ หัวหน้างานบรหิ ารงบประมาณ กรรมการ ๑.๕ นางสาวผาณติ นิภา เจริญมลู หวั หน้างานบรหิ ารงานบุคคล กรรมการ ๑.๖ นางสาวเมธาวี ตรจี ักร หัวหา้ งานบริหารวิชาการ กรรมการและเลขานกุ าร หนา้ ท่ี ประสานงานกับคณะกรรมการดำเนนิ งานทุกฝ่ายให้ดำเนนิ ไปด้วยความเรียบร้อย และปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย ๒. คณะกรรมการดำเนินงาน ๒.๑ นางสาวเมธาวี ตรจี กั ร ประธานกรรมการ ๒.๒ นางสาวนฐั พร มว่ งแก้ว รองประธานกรรมการ ๒.๓ นางสาวธญั ลักษณ์ เออ้ื สลงุ กรรมการ ๒.๔ นายสาธิต ศรีวรรณะ กรรมการและเลขานุการ หนา้ ที่ ดำเนินการจัดอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการพัฒนานวตั กรรมการศึกษาของโรงเรยี นยางรากวิทยา และปฏบิ ัติหน้าท่ี อ่นื ๆ ตามที่ไดร้ บั มอบหมาย 47

.../ต่อหน้า ๒ ๓. ฝ่ายโสตทศั นูปกรณ์ ๓.๑ นายธนภัทร วฒั นวงศ์ ประธานกรรมการ ๓.๒ นายทศพล พลอยเพ็ชร กรรมการ ๓.๒ นายสาธิต ศรีวรรณะ กรรมการ ๓.๓ นายกชกร ภธู ร กรรมการและเลขานุการ หนา้ ท่ี จดั เตรียมโสตทศั นูปกรณ์เพ่อื ใชส้ ำหรบั การจัดอบรม และปฏิบตั หิ น้าท่อี นื่ ๆ ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย ๔. ฝ่ายจดั เตรียมการลงทะเบียน อาหารและเครอ่ื งดม่ื ๔.๑ นางสาวผาณติ นิภา เจริญมลู ประธานกรรมการ ๔.๒ นางสาวนิลาวรรณ กันทา กรรมการ ๔.๓ นางสาวอุ้มบญุ ฆ้องนอก กรรมการและเลขานกุ าร หน้าท่ี จัดเตรยี ม การลงทะเบยี น คา่ ใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในการอบรมให้ครบถว้ นและปฏิบัติหน้าท่ีอื่น ๆ ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย ๕. ฝา่ ยเอกสาร จัดทำเกียรตบิ ัตร ๕.๑ นางสาวนฐั พร มว่ งแกว้ ประธานกรรมการ ๕.๒ นายมนต์ชัย จนั ทรอ์ ้น กรรมการ ๕.๓ นายภาณุวฒั น์ มาสวสั ดิ์ กรรมการและเลขานุการ หนา้ ที่ จัดทำเอกสารการอบรม จดั พิมพเ์ กยี รติบตั รและนำเสนอผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นฯ ลงนามและปฏบิ ัติหน้าท่ี อ่นื ๆ ตามทไี่ ด้รบั มอบหมาย ๖. ฝ่ายประเมนิ ผล และจัดทำรายงานการสรปุ ผล ๖.๑ นายณัฐพล จกั รเพชร ประธานกรรมการ ๖.๒ นางสาวศริ นิ ญา ภู่อยู่ กรรมการ ๖.๓ นางสาวพนดิ า อาบสุวรรณ์ กรรมการและเลขานกุ าร หนา้ ท่ี จดั ทำแบบประเมินผล จัดเก็บขอ้ มูล จัดทำรายงานสรุปผลและปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ๗. ฝา่ ยเขา้ ร่วมอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร ๗.๑ นางพรรณพร โพธิจนั ทร์ ๗.๒ นายณัฐพล จกั รเพชร ๗.๓ นางสาวศิรนิ ญา ภูอ่ ยู่ ๗.๔ นางสาวผาณติ นิภา เจริญมูล ๗.๕ นายทศพล พลอยเพ็ชร ๗.๖ นางสาวเมธาวี ตรจี ักร ๗.๗ นางสาวนิลาวรรณ กันทา ๗.๘ นายมนตช์ ยั จันทรอ์ ้น ๗.๙ นางสาวนัฐพร ม่วงแก้ว ๗.๑๐ นายธนภัทร วฒั นวงศ์ ๗.๑๑ นายภานุวฒั น์ มาสวสั ด์ิ ๗.๑๒ นายสาธติ ศรีวรรณะ 48

๗.๑๓ นางสาวพนิดา อาบสวุ รรณ์ ๗.๑๔ นายกชกร ภูธร ๗.๑๕ นางสาวธัญลกั ษณ์ เอื้อสลงุ ๗.๑๖ นางสาวอุม้ บุญ ฆ้องนอก หน้าที่ เข้าร่วมอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการดังกล่าว ตามวัน เวลาที่กำหนด โดยเคร่งครัด และปฏิบัติหนา้ ทีอ่ ื่น ๆ ตามท่ี ไดร้ ับมอบหมาย ให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ รับผิดชอบเพื่อให้บังเกิดผลดีต่อ สถานศึกษา ส่งั ณ วนั ที่ ๒ เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงช่อื (นางพรรณพร โพธิจนั ทร์) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นยางรากวทิ ยา 49

แบบนเิ ทศการออกแบบการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนยางรากวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษาลพบุรี ช่อื ผู้สอน....................................................................วิชา......................................ระดบั ชน้ั ทีส่ อน..................... เร่อื งท่ีสอน...................................ประเมนิ ครงั้ ที่.............วนั ที่........................................เวลา............................ รปู แบบการนเิ ทศ 5 นเิ ทศตนเอง 5 เพอ่ื นครู 5 คณะกรรมการฝ่ายบรหิ าร คำชี้แจง 1. แบบประเมินการนเิ ทศเพื่อการเสริมสร้างประสทิ ธภิ าพในการเตรียมการสอน การวัดประเมนิ ผล 2. ใหค้ รเู ขยี นเคร่อื งหมาย a ลงในช่องการปฏบิ ัตแิ ละระดบั คะแนนการปฏิบัติ การออกแบบการเรียนรู้ ปฏบิ ัติ ระดับที่ปฏิบัติ มี ไมม่ ี 3 2 1 0 ๑. ศึกษาหลกั สูตรสถานศึกษา 1.1 วิเคราะห์หลกั สตู ร ……. ……. ……. ……. ……. ……. ๒. จดั ทำกำหนดการสอน ……… ……… ……… ……… ……… ……… 2.1กำหนดการสอนที่จัดทำมีสาระสำคัญให้เห็นภาพงาน/กิจกรรม ……… ……… ……… ……… ……… ……… การเรยี นรตู้ ลอดปี …...... …...... …...... …...... …...... …...... 2.2กำหนดการสอนสอดคล้องกับหลักสตู ร ......… ......… ......… ......… ......… ......… ……... ……… ……... ……… ……… ……… ๓. การเตรียมการสอน ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.1 แผนการสอนมอี งคป์ ระกอบสำคัญครบถว้ น ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.1.1 ความคดิ รวบยอด/หลักการ ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.1.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.1.3 เน้อื หา ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.1.4 กจิ กรรมการเรียนรู้ ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.1.5 การใชส้ ่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.1.6 การวัด/ประเมนิ ผล ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.2 การเขยี นองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของแผนการสอนถูกตอ้ ง ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.3 องค์ประกอบทกุ ส่วนสอดคล้องสมั พนั ธก์ นั ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.4 กิจกรรมการเรียนการสอนมีความยากง่ายเหมาะสมกับ ……… ……. ……. ……. ……. ……. นักเรยี น ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.5 กจิ กรรมการเรยี นการสอนมลี ักษณะดงั น้ี ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.5.1 เน้นกระบวนการ ......... …...... …...... …...... …...... …...... 3.5.2 เน้นผู้เรียนเป็นศนู ย์กลาง ......... ......... ......… ......... ......... ......... 3.5.3 นกั เรียนเป็นผู้สร้างและสรปุ ความรู้เอง ....….. ......… ......... ......… ......... ......… 3.5.4 นักเรียนเรยี นรจู้ ากแหล่งการเรียนรรู้ อบตัว ......... ......... ......... ......... ......... ......... 3.5.5 ใชภ้ ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ตามความเหมาะสม ......... ......... ......... ......... ........ ......... 3.5.6 นกั เรยี นไดท้ ำงานร่วมกนั เป็นกลุ่ม 50

3.5.7 เนน้ การสร้างนสิ ยั ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.6 การใช้ส่ือการเรยี นการสอน ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.6.1 ส่ือการเรียนการสอนได้มาจากวสั ดทุ อ้ งถ่นิ ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.6.2 นักเรียนมสี ่วนรว่ มในการผลติ ส่อื /จัดหา/ใช้สอื่ ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.6.3 มกี ารปรบั ปรงุ สือ่ ให้เหมาะสม ยงิ่ ข้ึน ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.7 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.7.1 สอดคลอ้ งกบั ระเบยี บวดั ผล ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.7.2 ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ……… ……… ……… ……… ……… ……… 3.7.3 มกี ารประเมินความสามารถของนักเรยี นเป็นราย บุคคล ......... ......... ......... ......... ......... ......... 3.7.4 นำผลการประเมินมาปรับปรุงการเรยี นการสอน ......... ......... ......... ......... ......... ......... รวม เกณฑก์ ารแปลความหมาย ระดับคะแนน 4.51 – 5.00 หมายถงึ ปฏบิ ัตไิ ด้ระดับดมี าก ระดับคะแนน 3.51 – 4.50 หมายถึง ปฏิบัติไดร้ ะดบั ดี ระดบั คะแนน 2.51 – 2.50 หมายถึง ปฏบิ ัตไิ ดร้ ะดบั ปานกลาง ระดบั คะแนน 1.51– 2.50 หมายถงึ ปฏบิ ัติไดร้ ะดับพอใช้ ระดบั คะแนน 1.00– 1.50 หมายถึง ควรปรบั ปรุงแก้ไข ข้อเสนอแนะของผู้นเิ ทศ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.....................................................................ผเู้ ยี่ยม/นเิ ทศ (..........................................................................) ตำแหนง่ ..................................................................................... 51

แบบนเิ ทศการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ โรงเรียนยางรากวทิ ยา สังกดั สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาลพบุรี ช่ือผสู้ อน....................................................................วชิ า......................................ระดบั ช้ันท่สี อน..................... เร่ืองท่สี อน...................................ประเมินครง้ั ที่.............วนั ที่........................................เวลา............................ รูปแบบการนเิ ทศ  นเิ ทศตนเอง  เพอื่ นครู  คณะกรรมการฝ่ายบรหิ าร คำชี้แจง 1. แบบประเมนิ การนิเทศเพื่อการเสริมสร้างประสทิ ธภิ าพในการเตรยี มการสอน การวดั ประเมินผล ๒. ใหค้ รูเขยี นเครอ่ื งหมาย a ลงในช่องการปฏบิ ตั ิและระดบั คะแนนการปฏิบตั ิ ***************************************************** ระดบั คะแนน ขอ้ สังเกต 54321 ข้อท่ี ประเด็นสงั เกตการสอน การเตรียมการสอน/ขนั้ นำ 1 จดั ทำแผนการสอนกอนการสอน 2 เชค็ ชอ่ื นกั เรยี นและตรวจเชค็ สภาพหองเรยี นกอนทำการสอน 3 ซกั ถามเหตุผลนักเรียนทเ่ี ขาหองสาย/ติดตามนักเรียนทขี่ าดเรียน 4 เตรียมวัสดุ-อปุ กรณ์ สื่อ กิจกรรมตามแผนฯ กอนเขาสอน 5 ใชวิธีการนำเขาส ทเรียน ที่นาสนใจตามแผนการสอน ด้านการสอน 1 ครดำเนนิ การสอนอยางเปน็ ลำดั ตามข้ันตอนของแผนการสอน 2 จัดกิจกรรมการเรียนการสอนดวยวธิ ีการที่หลากหลาย 3 จดั กิจกรรมใหผเรียนไดฝกึ คนควา สังเกต รว รวมขอมล คิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ 4 จดั กิจกรรมใหผเรียนไดคิดหลากหลาย สรางสรรค์ สรางองคค์ วามรไดดวยตนเอง 5 จดั กจิ กรรมท่เี นนผเรียนเป็นสำคญั รวมกจิ กรรมกลุมสัมพนั ธ์ 6 มีการสอดแทรกความรและเหตุการณ์ปจั จุ นั 7 กระตนุ ใหผเรียนมสี วนรวมแสดงความคดิ เหน็ ศกึ ษาคนควา หาความรและแสวงหา คำตอ ดวยตนเอง 8 ใหกำลงั ใจเมอื่ นกั เรยี นป ิ ัติไดถกตองหรอื เสริมแรงทาง วก 9 จัด รรยากาศเรียนรทด่ี ึงดดความสนใจกอใหเกดิ ความสขุ แกผเรยี น 10 นกั เรียนมคี วามกระตือรือรนและสนกุ สนานในการเรยี น 11 ฝกึ ใหนักเรียนมพี ฤติกรรมประชาธปิ ไตย เชน ยอมรั ความคดิ เห็นของผอ่นื รจักหนาที่ ของตนเป็นผนำและเปน็ ผตามท่ีดี เปน็ ตน 12 การสอดแทรกจรยิ ธรรมคุณธรรมขณะสอน 52

13 ใชเวลาสอนอยางเต็มเวลา 14 มีการสรปุ ทเรยี น ไดชดั เจน เขาใจ 15 มีความสนใจตอผเรยี นอยางทั่วถงึ และชวยเหลอื ผทเ่ี รยี นดวย การวัดผลประเมนิ ผล 1 ผเรยี นมสี วนรวมในการกำหนดเกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล 2 จัดทำเกณฑก์ ารประเมนิ ไดชัดเจน ทกุ ข้นั ตอน 3 ประเมินผลอยางหลากหลาย และครั้งทงั้ 3 ดาน (K.P.A) 4 คร ผเรยี น ผปกครอง หรือผทเ่ี กีย่ วของ มีสวนรวมในการประเมิน 5 ใชวิธกี ารวัดผลการเรยี นรหลายรปแ ดยเนนสภาพจรงิ และตรงตามจุดมุงหมาย รวมคะแนน ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )…………………………......................... ผ้นู ิเทศ (………………………………………...) ตำแหนง่ ……………………………………………. 53

แบบเย่ียมช้นั เรยี น โรงเรียนยางรากวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาลพบุรี ช่อื ผูส้ อน...........................................................วชิ า......................................ระดบั ช้นั ที่สอน..................... เร่อื งทีส่ อน............................ประเมินครง้ั ท่ี.............วันท่.ี .......................................เวลา............................ รปู แบบการนเิ ทศ  นเิ ทศตนเอง  เพื่อนครู  คณะกรรมการฝา่ ยบริหาร คำช้แี จง 1. แบบประเมนิ การนิเทศเพอื่ การเสริมสรา้ งประสทิ ธิภาพในการเตรยี มการสอน การวดั ประเมินผล ๒. ให้ครเู ขยี นเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องการปฏิบตั แิ ละระดบั คะแนนการปฏิบัติ ----------------------------------------------------------- คำช้แี จง แบบการเยี่ยมช้นั เรียนน้ี เปน็ แบบเยีย่ มการจดั การเรยี นการสอนของครูในแต่ละรายวชิ าที่สอน โดย ผู้เยย่ี มช้ันเรียน และบนั ทึกข้อมลู จากการเยยี่ มช้นั เรียนโดยทำเครอ่ื งหมายถกู ( ✓ ) ในแบบ ประเมินทุกข้อ ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลทัว่ ไป ๑. ผู้รับผดิ ชอบช้ันเรยี น (ชือ่ -นามสกลุ ) …………………………………………………………………………………………… ๒. กล่มุ สาระการเรียนรู้/วิชา ....................................................................................................................... เร่ืองทส่ี อน..................................................................................... ระดบั ช้ัน/หอ้ งทส่ี อน .........../............ วนั ที่............เดือน...............................พ.ศ. ................... คาบท.ี่ ...............เวลา......................................... ๓. ผู้เย่ียมชนั้ เรยี น / ผู้นิเทศ (ช่ือ- นามสกลุ )................................................................................................ ตอนที่ ๒ การเยี่ยมชน้ั เรยี น ๕ = ปฏบิ ัติไดร้ ะดับดีมาก ๔ = ปฏิบตั ิได้ระดับดี ๓ = ปฏิบตั ไิ ด้ระดบั ปานกลาง ๒ = ปฏิบัตไิ ด้ระดับพอใช้ ๑ = ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข ๑. สภาพห้องเรยี น ระดับการปฏบิ ตั ิ หมายเหตุ 543 21 ที่ รายการ 1 มสี ญั ลกั ษณช์ าติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ 2 การจดั บรรยากาศในห้องเรยี นเปน็ บรรยากาศทางวิชาการ ๓ มีการจดั มุมวชิ าการ หรือมุมประสบการณท์ างการเรียนรู้ ๔ มมุ ประสบการณ์ ๕ ถังขยะอปุ กรณ์ทำความสะอาด ๖ ขอ้ มูลสมาชิก ๗ ขอ้ ตกลงประจำห้อง ๘ นาฬิกาแขวน ๙ ปา้ ยนเิ ทศประจำหอ้ ง ๑๐ โตะ๊ ครู (ความสะอาด,แจกนั ) ๑๑ เวรประจำวัน ๑๒ พน้ื ห้องและบริเวณหอ้ งสะอาด ๑๓ ปา้ ยช่อื ห้องเรยี นและป้ายชือ่ ครูประจำชน้ั รวม 54

ค่าเฉล่ีย ๒. พฤติกรรมของครู ระดับการปฏบิ ัติ หมายเหตุ 54321 ท่ี รายการ 1 มีการเตรียมการสอน และบันทกึ การสอน 2 มีสอ่ื อปุ กรณ์การสอน และมรี ่องรอยการใช้ 3 ควบคุมดแู ลการจัดหอ้ งเรยี นใหม้ ีบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4 พดู ดว้ ยน้ำเสียงนา่ ฟงั และเร้าความสนใจของนักเรียน 5 แต่งกายเหมาะสมกบั สภาพความเปน็ ครู รวม คา่ เฉลี่ย ๓. พฤตกิ รรมของนกั เรยี น ระดับการปฏิบตั ิ ที่ รายการ 5 4 3 2 1 หมายเหตุ 1 กลา้ พูดกลา้ คยุ กบั คนแปลกหน้าและกล้าซักถามครูผู้สอน 2 กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ 3 มคี วามสนกุ สนาน รา่ เริง แจม่ ใส 4 สนใจปฏิบัตกิ จิ กรรมทไี่ ด้รับมอบหมาย 5 แต่งกายสะอาด เรยี บรอ้ ย 6 มีระเบียบวนิ ยั ดี และมมี ารยาทเรียบร้อย รวม คา่ เฉลย่ี รวมเฉลย่ี ทุกดา้ น ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ลงช่อื .....................................................................ผเู้ ย่ียม/นิเทศ (..........................................................................) ตำแหน่ง ..................................................................................... 55

เกณฑก์ ารแปลความหมาย 4.51 – 5.00 หมายถงึ ปฏบิ ัติได้ระดบั ดีมาก 3.51 – 4.50 หมายถึง ปฏิบัตไิ ดร้ ะดับดี ระดับคะแนน ระดับคะแนน 2.51 – 2.50 หมายถงึ ปฏิบัติไดร้ ะดบั ปานกลาง 1.51– 2.50 หมายถงึ ปฏบิ ัตไิ ดร้ ะดับพอใช้ ระดับคะแนน 1.00– 1.50 หมายถงึ ควรปรบั ปรุงแก้ไข ระดับคะแนน ระดับคะแนน 56

การประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษาเพอื่ ใหช้ ุมชนได้มีสว่ นรว่ มในการกำหนดวิสยั ทศั น์ และคา่ เป้าหมายของโรงเรยี น ผบู้ รหิ ารและคณะครูร่วมกนั ประชุมวางแผนการนเิ ทศ ติดตาม นวตั กรรมโดยการนิเทศแบบพฒั นารว่ มดว้ ย SUPER MODEL 57

การจดั บรรยากาศในห้องเรียนให้มบี รรยากาศทส่ี อดคล้องกบั เกณฑ์ การนเิ ทศแบบร่วมพฒั นา ด้วย SUPER MODEL 58

กระบวนการนเิ ทศแบบรว่ มพัฒนา SUPER Model ดว้ ยกิจกรรมชมุ ชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) 59

การประชาสมั พนั ธ์รูปแบบการใชน้ วตั กรรมบบร่วมพฒั นาดว้ ย SUPER Model 60

การประชาสมั พนั ธ์รูปแบบการใชน้ วตั กรรมบบร่วมพฒั นาดว้ ย SUPER Model 61

การประชาสมั พนั ธ์รูปแบบการใชน้ วตั กรรมบบร่วมพฒั นาดว้ ย SUPER Model 62

แบบประเมนิ คณุ ภาพนวัตกรรม เพื่อหาค่า IOC แบบแสดงความคดิ เห็นของผูท้ รงคณุ วุฒิที่มตี ่อนวตั กรรมการนิเทศแบบร่วมพฒั นาดว้ ย “SUPER MODEL” คาชี้แจง ขอใหท้ า่ นผูเ้ ช่ียวชาญไดก้ รุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มตี อ่ นวตั กรรมการศึกษาการนิเทศแบบร่วม พฒั นาดว้ ย SUPER Model โดยใส่เคร่ืองหมาย ( ✓) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียน ขอ้ เสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการนาไปพิจารณาปรับปรุงตอ่ ไป รายการขอความคดิ เห็น ความคดิ เห็น เหมาะสม ไม่แน่ใจ ไม่ ขอ้ เสนอแนะ เหมาะสม 1 0 -1 1. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั หลกั สูตร ✓ 2. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั ธรรมชาตวิ ชิ า ✓ 3. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั วยั ของผเู้ รียน ✓ 4. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั สภาพปัจจบุ นั และปัญหา ✓ 5. ความเหมาะสมต่อกระบวนการพฒั นาผเู้ รียน ✓ 6. ความเหมาะสมของเน้ือหา ✓ 7. ความเหมาะสมของขนาดตวั อกั ษร ✓ 8. ความเหมาะสมของการใชภ้ าษา ✓ 9. ความเหมาะสมกบั ความสนใจของนกั เรียน ✓ 10.ความเหมาะสมของรูปแบบ ✓ ขอแสดงความขอบคณุ อยา่ งย่งิ ............................................ (..............................................) ครูชานาญการโรงเรียน........................................... ลงชื่อ................................................................. (...........................................................) ผทู้ รงคณุ วุฒิ

ตารางวเิ คราะห์ความคดิ เห็นของผ้ทู รงคุณวฒุ ิต่อนวตั กรรม แบบแสดงความคิดเห็นของผูท้ รงคณุ วุฒิท่ีมีตอ่ นวตั กรรมการนิเทศแบบร่วมพฒั นาดว้ ย “SUPER MODEL” รายการขอความคดิ เห็น ประมาณคา่ ความคดิ เห็นของ ค่า แปลผล ผทู้ รงคณุ วฒุ ิคนท่ี IOC 12345 1. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั หลกั สูตร +1 +1 0 +1 +1 0.8 ใชไ้ ด้ 2. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั ธรรมชาตวิ ชิ า +1 0 -1 +1 +1 0.4 ปรับปรุง 3. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั วยั ของผเู้ รียน +1 +1 +1 +1 +1 1.0 ใชไ้ ด้ 4. ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั สภาพปัจจุบนั และ +1 +1 +1 -1 -1 0.2 ปรบั ปรุง ปัญหา 5. ความเหมาะสมต่อกระบวนการพฒั นาผเู้ รียน +1 +1 0 +1 -1 0.4 ปรับปรุง 6. ความเหมาะสมของเน้ือหา +1 +1 +1 +1 0 0.8 ใชไ้ ด้ 7. ความเหมาะสมของขนาดตวั อกั ษร +1 +1 +1 +1 +1 1.0 ใชไ้ ด้ 8. ความเหมาะสมของการใชภ้ าษา 0 +1 +1 0 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 9. ความเหมาะสมกบั ความสนใจของนกั เรียน 0 +1 +1 +1 -1 0.4 ปรับปรุง 10.ความเหมาะสมของรูปแบบ +1 +1 -1 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ ค่า IOC = 0.8+0.4+1.0+0.2+0.4+0.8+1.0+0.6+0.4+0.6 10 = 6.2 = 0.62 10 สรุปวา่ แบบฝึกท่ี 1 ใชไ้ ด้

บรรณานุกรม กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหงชาติ. พ.ศ. 2542 และทีแ่ กไขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : โรงพิมพครุ สุ ภาลาดพราว. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2558). การกำหนดแนวทางการพฒั นาการศกึ ษาไทยกับการเตรียมความพร้อมสศู่ ตวรรษ ท่ี 21. กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟกิ จำกดั บริษัท. กติ ิมา ปรดี ีดลิ ก.(2532). การบริหารและการนเิ ทศการศึกษาเบอื้ งตน้ . พมิ พค์ รั้งที่ 1 กรุงเทพฯ: บรษิ ทั อักษรา พพิ ัฒน์ จากดั . กาญจน์ เรืองมนตรี และธรนิ ธร นามวรรณ. (2560). หลักสตู รพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตงั้ ให้มี และเลอ่ื นวิทยฐานะเชีย่ วชาญ ตำแหน่งศึกษานเิ ทศก์ โดยยึดถือภารกจิ และพน้ื ที่ปฏิบัตงิ านเป็นฐาน ด้วย ระบบ TEPE Online. สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน. ฉลาด จนั ทรสมบตั ิ ธรนิ ธร นามวรรณ และ กาญจน์ เรอื งมนตรี. (2560). การพัฒนานวัตกรรมยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของสถานศกึ ษา สังกัดสำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ด้วยการ ประยุกต์ใชค้ ลนิ กิ การนิเทศเพอื่ ความเป็นเลิศสกู่ ารชี้แนะและสอนงาน. มหาสารคาม: อภชิ าตกิ ารพมิ พ์. ประเวศ วะสี. (2545). “การจดั การความร.ู้ ” การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อยกร่างโครงการนำ รอ่ งการจดั การ ความร.ู้ 27 กรกฎาคม 2545. วิจารณ์ พานิช. (2555). วถิ สี รา้ งการเรียนรเู้ พ่ือศิษย์ ในศตวรรษท่ี 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี-สฤษดวิ์ งศ์สำนกั งาน คณะกรรมการพิเศษเพื่อประชาชนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ. (2548). หลักการทรงงานใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกลา้ . Deanery, W. (2014). “Agreement formerly known as the educational supervision tripartite” supervising the route to excellence. Cardiff University, Heath Park, Cardiff. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). ข้อเสนอการปฏิรูปการศกึ ษาในทศวรรษท่ีสอง (พ.ศ.2552–2556). กรงุ เทพฯ: สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ. ขจรศักดิ์ บวั ระพันธ์. (2556). การประเมนิ ทกั ษะ แห่งศตวรรษที่ 21. นครปฐม: สถาบันนวัตกรรมการเรยี นรู้ มหาวทิ ยาลัยมหิดล. ทศิ นา แขมมณี; และคนอ่นื ๆ. (2553). สรปุ รายงานการวิจยั และพัฒนารปู แบบการปฏริ ูปการเรียนรทู้ ้งั ในโรงเรียน. พิมพ์คร้ังที่ 3. กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . สงดั อุทรานนั ท์ (2530). การนิเทศการศึกษา หลกั การทฤษฎีและปฎิบตั .ิ (พมิ พ์ครัง้ ที่ 2).กรุงเทพฯ: โรงพมิ พม์ ิตร สยาม.

Alfonso, Robert J, Firth Gerald, & Neville, Richard F. (1981). Instructional supervision: Abehaviors systems. Massachusetts: Allyn and Bacon. Office of the Basic Education Commission. (2017). Comprehensive and quality basic education management according to a learning standard. Retrieved on 1July 2017 from http://www.obec.go.th/index.php [in Thai]





เปรยี บเทยี บคะแนนเฉล่ยี ผลการทดสอบ แยกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ชั้นมธั ยมศกึ 49.04 47.1 9 26.0 22.1 7 0 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์

บทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้ันพ้ืนฐาน (O-net) กษาปีท่ี 3 ระหวา่ งปีการศกึ ษา 2561 - 2562 ปีการศึกษา 2561 ปกี ารศกึ ษา 2562 33.4 28.2 28.1 1 28.0 20 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาษาตา่ งประเทศ

เปรียบเทยี บคะแนนเฉลย่ี ผลการทดสอบท แยกตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ช้ันมัธยมศึกษ 41.0 5 34.3 9 28.3 7 20.2 2 7 16.1 7 9 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทค

ทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ั้นพนื้ ฐาน (O-net) ษาปที ี่ 6 ระหวา่ งปกี ารศกึ ษา 2561 - 2562 ปีการศกึ ษา 2561 ปีการศึกษา 2562 25.6 32.8 31.8 23.1 22.8 1 2 51 7 ยนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คโนโลยี สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนาธรรม ภาษาตา่ งประเทศ

กระบวนการแกป้ ญั หา















วตั ถปุ ระสงค์

1. เพ่อื สร้างรูปแบบการนิเทศการ การสอนของครูผู้สอน 2. เพื่อยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการ เรียนและคณุ ภาพของผ้เู รียน 3. เพื่อพฒั นารูปแบบการจดั การ เรียนการสอนของครูผ้สู อน

นวตั กรรมเพอื่ ยกระดบั โดยนวัตกรรมนเิ ทศ โรงเรียนยาง

บผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ศแบบรว่ มพัฒนาด้วย งรากวทิ ยา

Setting (กาหนดเป้าหมาย)