Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศิลปะ วัฒนธรรมสมัยใหม่

ศิลปะ วัฒนธรรมสมัยใหม่

Description: 1. นายณภัทร นาคสุขมูล เลขที่ 2 ม.6.1
2. นายคุณภัทร หุ่นสุวรรณ์ เลขที่ 28 ม.6.1

Search

Read the Text Version

ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยใหม่ จั ด ทำ โ ด ย 1.นายณภัทร นาคสุขมูล เลขที่ 2 2.นายคุณภัทร หุ่นสุวรรณ์ เลขที่ 28 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1



สารบัญ หน้า ศิลปะบารอก (Baroque) 1 งานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมแบบบารอก 2 ลัทธิคลาสสิกใหม่ 4 ลัทธิจินตนิยม 6 ลัทธิสัจนิยม 9



ศิลปะบารอก (Baroque) ลักษณะของศิลปะบารอกเปลี่ยนแปลงจากศิลปะสมัยฟื้ นฟูศิลปวิทยา ซึ่งแสดงอารมณ์สงบนิ่งแฝงปรัชญามาเป็นอารมณ์พลุ่งพลานแสดงควาดิ้นรน หรือสร้างให้มีรูปบิดจนเกินงามหรือประณีตเกินไปและเน้นบรรยากาศหรูหรา เป็นพิเศษ ศิลปะแนวนี้รุ่งเรืองมาในอิตาลีและกลุ่มประเทศคาทอลิก ความหมาย 1. ศิลปะแบบบารอก 2. ศิลปะแบบบารอก 3. ศิลปะแบบบารอก (Baroque) ในความหมายทางวรรณกรรม เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐต่างๆ ใน หมายถึง การเขียนที่มุ่งพัฒนา พัฒนามาจากศิลปะแบบ สติปัญญา เน้นความรู้ และวิธี ยุโรปมีความมั่งคั่งทาง เรเนสซองส์ ในช่วงคริสต์ เศรษฐกิจและมีความมั่งคั่ง การสืบสวนตามหลัก ทางการเมือง เป็นผลให้พระ ศตวรรษที่ 17-18 วิทยาศาสตร์ และสะท้อนถึง ราชวงศ์ ขุนนาง และพ่อค้ามี มีลักษณะเฉพาะ คือ การ ความพร้อมที่จะอุปถัมภ์การ แสดงออกถึงความมีอิสรภาพ ความปรารถนาที่จะมี สร้างสรรค์ผลงานของศิลปิน ของมนุษย์ตามแนวความคิด อิสรภาพของมนุษย์ตามแนว แขนงต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ มนุษยนิยม (Humanism) ความคิดมนุษยนิยม แต่ให้ ผลงานที่ปรากฎมักแสดงออก ความสำคัญแก่อารมณ์และใช้ ถึงลักษณะแน่นอนตายตัว พฤติกรรมของมนุษย์เป็นโครง ของศิลปิน เรื่องสำคัญ 1

งานสร้างสรรค์ศิลป วัฒนธรรมแบบบารอก งานจิตรกรรม ส่วนใหญ่ยังคงรับรูปแบบและเทคนิคจากสมัยเรเนสซองส์ แต่ได้ พัฒนาฝีมือและเทคนิคการผสมสีที่วิจิตรงดงามยิ่งขึ้น นิยมใช้สีสดและฉูดฉาด ภาพ วาดมักปรากฎตามวัด วัง และคฤหาสน์ของชนชั้นกลางผู้มั่งคั่ง แสดงชีวิตความเป็น อยู่ที่หรูหราสุขสบายของเจ้านายและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา งานสถาปัตยกรรม แสดงออกถึงความใหญ่โตหรูหรา และการประดับประดา ที่ฟุ่มเฟือย โดยนำความรู้ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาใช้งานก่อสร้างมาก ขึ้น ผลงานชิ้นสำคัญของศิลปะแบบบารอก คือ พระราชวังแวซายส์ (Versailles) ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส 2

ศิลปะด้านดนตรี มีการพัฒนาไปมากทั้งการร้องและการบรรเลงเครื่องดนตรี ขนาดของวงดนตรีขยายใหญ่ จากแบบ Chamber Music ที่ใช้ผู้เล่นไม่กี่คน มา เป็นแบบ Orchestra ที่ใช้ผู้เล่นและเครื่องดนตรีจำนวนมาก มีการแต่งเพลงและ ใช้โน้ตเพลง และเปิดการแสดงดนตรีในห้องโถงใหญ่ๆ นักดนตรีสำคัญ คือ โย ฮันน์ เซบาสเตียน บาค (Johann Sebastian Bach) ชาวเยอรมัน ซึ่งแต่งเพลง ทางด้านศาสนาเป็นส่วนใหญ่ งานด้านวรรณกรรม ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองแห่ง วรรณกรรมยุโรป มีผลงานชิ้นเอกของนักประพันธ์ชาวอังกฤษและฝรั่งเศสเกิดขึ้น มากมาย ที่เด่นคือ งานเขียนทางปรัชญาการเมืองของ จอห์น ลอค (John Locke) และผลงานของนักเขียนบทละครเสียดสีสังคมชั้นสูง ชื่อ โมลิแอร์ (Moliere) เป็นต้น 3

ลัทธิคลาสสิกใหม่ ศิลปะแบบนีโอคลาสสิก (Neo-Classicism) เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึง กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 งานสร้างสรรค์ยังคงยึดรูปแบบคลาสสิกของกรีก-โรมัน แต่ให้ ความสำคัญต่อเหตุผลมากที่สุด เนื่องจากในช่วงเวลาอยู่ในยุคของเหตุผล หรือสมัยแห่ง ภูมิปัญญา มนุษย์มีความเชื่อมั่นในเหตุผล เชื่อความสามารถและสติปัญญาของตน อัน เป็นผลมาจากการปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา ประติมากรรมและจิตรกรรม ประติมากรรมนิยมเลียนแบบประติมากรรมกรีกโรมัน ส่วนจิตรกรรมเน้นในเรื่องเส้น มากกว่าการใช้สี สถาปัตยกรรม สะท้อนเรื่องราวของอารยธรรมโบราณ ความสง่างามของทรวดทรง เน้นความสมดุล กลมกลืนได้สัดส่วน นาฏกรรม แสดงความสมเหตุสมผลของเรื่องและมุ่งมั่นที่จะสั่งสอนนอกเหนือไปจากการ ดนตรี ให้ความเพลิดเพลิน นิยมเนื้อเรื่องที่แสดงออกด้านความคิดเห็น และในเรื่องความเสมอภาค นักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียงสมัยนี้ คือ วอล์ฟกัง อะมาเดอุส โมสาร์ต 4

ตัวอย่าง 5

ลัทธิจินตนิยม ลัทธิจินตนิยม (bomanticism) ระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19ศิลปะของโลกตะวันตกมีลักษณะเป็นแบบ จินตนิยมเน้นอารมณ์และความรู้สึกภายใน เนื่องจาก ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายการใช้เหตุผล และต้องการกลับไปชื่นชมความงามของธรรมชาติ พวกศิลปินจะ สร้างงานโดยยึดถืออารมณ์ฝันและจินตนาการของตนเป็นสำคัญและไม่เห็นด้วยกับหลักวิชาการและ เหตุผล สถาปัตยกรรม เป็นการนำรูปแบบจินตนาการในอดีตมาดัดแปลงเพื่อให้เกิดผลทางด้านอารมณ์ ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมกอทิก ประติมากรรม จินตนิยมเน้นการแสดงอารมณ์ ความรู้สึก แนวคิดประติมากรจินตนิยมที่มีชื่อเสียงของ ฝรั่งเศส ได้แก่ ฟรองซัว รูเด ผู้ปั้ นประติมากรรมนู้นสูง มาร์ชายแยสประดับฐานอนุสาวรีย์ประตู ชัยในกรุงปารีส 6

จิตรกรรม มีผลงานปรากฎน้อยกว่าวรรณกรรม แต่จิตรกรแสดงออกในอารมณ์และความ รู้สึกของตนอย่างเต็มที่ ใช้สีฉูดฉาดตัดกันอย่างรุนแรง มักเป็นภาพวาดทิวทัศน์ธรรมชาติ หรือภาพสะท้อนสังคมสมัยการปฏิวัติอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ รุนแรง ดนตรี นักดนตรีและนักแต่งเพลงสมัยนี้ เน้นการแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกอย่างรุนแรง โดยเฉพาะความรู้สึกชาตินิยม การประพันธ์เพลงมีรูปแบบเสรีมากขึ้น ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ของแบบ คลาสสิก ทั้งนี้เป็นผลมาจากการบุกเบิกของบีโธเฟน นักดนตรีชาวเยอรมันที่มีผลงานยอดเยี่ยมทั้งใน รูปแบบคลาสสิกและโรแมนติก ประพันธ์กรที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ ได้แก่ ไชคอฟสกี (Tchaikovsky) และ โชแปง (Chopin) เป็นต้น ไชคอฟสกี (Tchaikovsky) โชแปง (Chopin) 7

การละคร นิยมแสดงเรื่องที่ตัวเอกประสบปัญหา อุปสรรค หรือมีความขัดแย้งในชีวิตอย่างสาหัส ซึ่งจะช่วยดึงอารมณ์ของผู้ชมให้เอาใจช่วยตัวเอกในเรื่อง บทละครที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ เฟาสต์ (Faust) ของโยฮันน์ วอล์ฟกัง ฟอน เกอเธ (Johann Wolfgang von Goethe) วรรณกรรม เน้นการจินตนาการและอารมณ์ และถือว่าความต้องการณ์ของผู้ประพันธ์สำคัญกว่าความต้องการ ของคนในสังคม บทร้อยกรองประเภทคีตกานท์ เป็นโคลงสั้นๆแสดงอารมณ์ของกวี ได้รับความนิยมสูงสุด ในสมัยนี้ กวีคนสำคัญของยุตนี้ได้แก่ วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ท และ วิกตอร์ - มารี อูโก นอกจากแต่งโคลงแล้ว ยังแต่งบทละครและนวนิยายด้วย นวนิยายที่มีชื่อเสียงมาก คือ เหยื่ออธรรม (Les Miserables) วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ท) วิกตอร์ - มารี อูโก 8

ลัทธิสัจนิยม แสดงให้เห็นสภาพที่เป็นจริงของสังคม เปิดโปงความชั่วร้ายของพวกนายทุน และความ ไม่ยุติธรรมที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานได้รับ มักจะเน้นชีวิตของพวกกรรมกรที่ทุกข์ยาก ชุมชนแออัด ความสับสนวุ่นวายในเมือง สภาพของคนที่ยากไร้ การเอารัดเอาเปรียบของกลุ่มคนที่มีฐานะดี กว่า ส่วนมากจะเป็นรายละเอียดของชีวิตประจำวันทุกด้านตามความเป็นจริง พวกสัจนิยมไม่ นิยมเรื่องประวัติศาสตร์ เรื่องจินตนาการเพ้อฝัน และไม่มองโลกในแง่ดีเหมือนพวกจินตนิยม นอกจากนี้ยังเสนอผลงานอย่างตรงไปตรงมาและเป็นกลาง สถาปัตยกรรม เนื่องจากอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วจึงมีการสร้างโรงงานขนาดใหญ่ อาคารสำนักงานที่สูงหลาย ๆ ชั้นกันมาก การก่อสร้างอาคารจะนำวัสดุที่เกิดจาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เช่นเหล็กกล้า เหล็กหล่อคอนกรีตอัดแรง แผ่นกระจก เป็นต้น ประติมากรรม นิยมปั้ นและหล่อรูปคนมีรูปร่างสัดส่วนเหมือนจริง ผิวของรปปั้ นหยาบและขรุขระ ไม่เนียนเรียบ เมื่อมีแสงส่องกระทบจะแลเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน ศิลปินคนสำคัญคือ โอกูสต์ โรแดง ซึ่งเป็นปะติมากร ที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศสและของโลก ผลงานชิ้นเอก เช่น นักคิด (the thinker) 9

จิตรกรรม ศิลปะสัจนิยมมีกำเนิดในประเทศฝรั่งเศสจาการริเริ่มของกูสตาฟ กูร์เบ ซึ่งยึดถือหลักการ สร้างงานให้เหมือนจริงและจริงตามที่ตาแลเห็น มักสะท้อนสภาพชีวิตจริงของมนุษย์ในด้านลบ เช่นชีวิตคนชั้นต่ำตามเมืองใหญ่ ๆ ชีวิตชาวไร่ชาวนาที่ยากไร้ในชนบท ดนตรี สมัยปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีการแต่งเพลงในรูปแบบใหม่ไม่ ยึดถือแบบเก่าที่เคยมีมาตามแนวความคิดที่ว่าดนตรีไม่ใช่สิ่งที่หล่อออกมาเป็นแบบประเพณีหรือ มีรูปแบบตายตัว แต่ดนตรีจะต้องประกอบด้วยทั้งสีสันและจังหวะนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ ได้แก่ โคลดเดอบูซี (Claude Debussy) 10

การละคร สัจนิยมมักสะท้อนภาพสังคมหรือภาพชีวิตในแง่มุมต่าง ๆ การแสดงสมจริงเป็นธรรมชาติบท ละครเขียนเป็นผู้บุกเบิกละครแนวใหม่นี้คือเฮนริกอิบเซน นักแต่งบทละครชาวนอร์เวย์ผู้แต่งเรื่อง บ้านตุ๊กตา (A Dol's House) จอร์จเบอร์นาร์ดชอว์ (George Bernard Shaw) นักแต่งบทละครเรื่อง เอกของชอว์ ได้แก่เรื่อง อามส์แอนด์เดอะแมน (arms and the man) วรรณกรรม นักประพันธ์ มักจะบรรยายสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นของกรรมกรตามชุมชนแออัดความ ชั่วร้ายจอมปลอมของชนชั้นกลาง วรรณคดีแนวสัจนิยมเกิดขึ้นก่อนในประเทศฝรั่งเศสนักเขียนนวนิยายที่มีอิทธิพล ได้แก่ โอโน เรเดอบัลซัก (Honore de Balzac) , กูสตาฟว์โฟลแบร์ (Gustav Flaubert) และอังกฤษมีนักเขียน นวนิยายในแนวสัจนิยมหลายคน ที่รู้จักกันดีคือ ชาลส์ ดิกเกนส์ ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง โอลิเวอร์ ทวิสต์ 11


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook