Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore stem ของเล่นไฟฟ้า

stem ของเล่นไฟฟ้า

Published by onuma Methakeson, 2019-08-24 05:07:53

Description: stem ของเล่นไฟฟ้า

Search

Read the Text Version

รถของไเฟลฟ่น้า ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 5 ชั่วโมง สาระสำ� คญั แบตเตอรเ่ี ป็นเซลล์ไฟฟ้าทตี่ อ่ กนั เพื่อเป็นแหล่งกำ� เนดิ ไฟฟ้าใหก้ บั อปุ กรณ์ไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า การตอ่ เซลล์ ไฟฟ้ามากกว่า 1 เซลลแ์ บบอนกุ รมจะทำ� ใหม้ พี ลังงานไฟฟา้ มากขนึ้ การออกแบบรถของเล่นไฟฟ้าให้เคลื่อนที่ได้ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ปจั จยั ตา่ ง ๆ เชน่ นำ้� หนกั รวมของรถ ขนาด รปู ทรงของรถ รวมทงั้ การหาตน้ ทนุ คา่ ใชจ้ า่ ยในการสรา้ ง และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสืบค้นและนำ� เสนอขอ้ มลู ตัวชวี้ ดั ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลย*ี 1. ทดลองและอธิบายการตอ่ 1. บวก ลบ คูณ หาร และบวก 1. สรา้ งสงิ่ เครอื่ งใช้ตามความสนใจ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน อยา่ งปลอดภัย โดยกำ� หนดปญั หา 2. ทดลองและอธบิ ายการตอ่ จ�ำนวนคละและทศนยิ ม พรอ้ ม ความต้องการ รวบรวมขอ้ มูล เซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม ท้งั ตระหนกั ถงึ ความสมเหตสุ ม เลอื กวธิ กี ารออกแบบโดยถา่ ยทอด และนำ� ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ผลของค�ำตอบ ความคิดเป็นภาพรา่ ง 3 มติ ิ หรือ แผนทค่ี วามคดิ ลงมือสร้างและ ประเมินผล 2. นำ� ความร้แู ละทักษะการ สรา้ งชนิ้ งานไปประยุกต์ใชใ้ นการ สร้างสง่ิ ของเคร่อื งใช้ 3. ใช้คอมพิวเตอรใ์ นการค้นหาข้อมูล หมายเหตุ *เทคโนโลยี (T) ไดร้ วมตวั ช้ีวดั สาระการออกแบบและเทคโนโลยี และสาระเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ใน ขณะทว่ี ศิ วกรรมศาสตร์ (E) ไมไ่ ดป้ รากฏในหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน แตก่ ระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมสามารถ เทียบเคียงไดจ้ ากกระบวนการเทคโนโลยีในตัวชว้ี ดั สาระการออกแบบและเทคโนโลยี 56 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศกึ ษาธิการ

สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี - การคำ� นวณตน้ ทุน - ความรทู้ ใ่ี ชใ้ นการสรา้ งช้นิ งาน วทิ ยาศาสตร์ การสรา้ งรถของเล่น ตอ้ งอาศัยความรู้ที่เก่ียวข้อง - วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยเป็นเสน้ ทางที่กระแส ไฟฟ้า กับชิน้ งานอ่นื อกี เชน่ กลไก ไฟฟา้ ผา่ นได้ครบรอบ ประกอบดว้ ยแหล่ง และการควบคมุ ไฟฟา้ - ก�ำเนิดไฟฟ้า อปุ กรณ์ไฟฟา้ และสายไฟ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ - วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายมีสายไฟเป็นเส้นทางให้ - ทกั ษะการสรา้ งชิ้นงานอื่น กระแสไฟฟา้ ผา่ นจากขว้ั บวกผา่ นอุปกรณ์ ท่ีต้องใชเ้ พ่มิ เช่น ทกั ษะการ ไฟฟา้ กลับเข้าสขู่ ้ัวลบของแหลง่ กำ� เนิดไฟฟ้า ตัด การประกอบชิ้นงานแตล่ ะ ได้ เรยี กวา่ วงจรปิด (Close circuit) และ ส่วนเขา้ ดว้ ยกนั การเจาะ ท�ำใหห้ ลอดไฟสว่างหรืออุปกรณไ์ ฟฟา้ อ่นื ๆ - การเลอื กใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ ทำ� งานได้ แตห่ ากสว่ นใดส่วนหนง่ึ ของวงจร ตา่ ง ๆ ให้เหมาะสมกบั การ ไฟฟ้าขาดไปท�ำให้กระแสไฟฟ้าผ่านไมค่ รบ สร้างชิ้นงานควรพิจารณา วงจร เราเรยี กวา่ วงจรเปิด (Open circuit) จากสมบตั ขิ องวัสดนุ ้ัน ซ่ึงหลอดไฟจะไมส่ วา่ งหรอื อปุ กรณไ์ ฟฟา้ - การใชค้ อมพิวเตอร์ในการ อน่ื ๆ ไม่ทำ� งาน ค้นหาขอ้ มลู เชน่ คน้ หาข้อมูล - การต่อเซลล์ไฟฟ้ามากกวา่ 1 เซลล์ แบบ ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ค้นหา อนุกรม ซึ่งเปน็ การตอ่ ให้ข้วั บวกของเซลล์ ขอ้ มูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หา ไฟฟ้าอันหนง่ึ ต่อกบั ขั้วลบของเซลล์ไฟฟา้ อีก ขอ้ มูลจากซีดรี อม อันหนง่ึ เรียงกนั ไปเพอื่ ใหม้ พี ลงั งานไฟฟ้า มากขึ้น กรอบแนวคิด T: เทคโนโลยี • การใช้คอมพิวเตอร์ในการคน้ หาขอ้ มลู S: วทิ ยาศาสตร์* • การเลอื กใชว้ ัสดมุ าสร้างรถของเล่น • วงจรไฟฟ้า การตอ่ เซลล์ไฟฟ้า รถของเล่นไฟฟ้า E: วิศวกรรมศาสตร์ M: คณิตศาสตร์ • กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม • การหาตน้ ทนุ ของรถของเลน่ ไฟฟ้า (การสรา้ งรถของเล่นไฟฟา้ ท่ีว่งิ ไดเ้ ร็วและตน้ ทุนตำ่� ) สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 57 * เปน็ วิชาหลักในการนำ� กิจกรรมน้ี กระทรวงศึกษาธิการ

จดุ ประสงคข์ องกจิ กรรม 1. อธบิ ายปัจจยั ท่ีท�ำให้รถของเลน่ เคล่อื นที่ได้เร็วท่สี ุด 2. ออกแบบและสรา้ งรถของเล่นไฟฟ้าใหเ้ คลอื่ นท่ไี ด้เร็วท่สี ุดโดยใช้ต้นทนุ ต�่ำ วัสดอุ ุปกรณ์ ท่ี รายการ รายการตอ่ กลุม่ ที่ รายการ รายการตอ่ กลุ่ม 1 กระดาษแขง็ ขนาด A4 1 แผน่ 10 ถา่ นไฟฉาย 2 กอ้ น 2 พลาสตกิ ลูกฟูก ขนาด A4 1 แผ่น 11 หลอดไฟ ขนาด 2.5 V 1 หลอด 3 กระดาษสตี ่าง ๆ ขนาด A4 4 แผน่ 12 ดินน�้ำมัน 3 กอ้ น กระดาษลูกฟกู ลอน 1 คัน 4 แบบม้วนได้ ขนาด A4 1 แผ่น 13 รถของเลน่ 1 ชดุ 1 เสน้ 5 กระดาษลูกฟูก ขนาด A4 1 แผ่น 14 ชุดล้อและเพลา 1 มว้ น 6 มอเตอรไ์ ฟฟ้า 1 อัน 15 ตลับเมตรหรอื สายวดั 1 อัน 7 ยางรดั ของ 5 เสน้ 16 เทปกาวหรอื เทปใส 8 เชอื กฟาง 1 ม้วน 17 นาฬิกาจบั เวลา 9 ลวดเสน้ เลก็ 1 เสน้ แนวการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ระบปุ ัญหา 1. กิจกรรมน�ำเข้าสู่บทเรยี น 1) ครอู ภปิ รายสถานการณพ์ ลงั งานของประเทศไทย โดยเฉพาะการขาดแคลนนำ้� มนั เชอื้ เพลงิ ซง่ึ มคี วาม พยายามหาแหล่งพลงั งานอ่ืนมาทดแทนเพ่ือใชใ้ นชวี ิตประจำ� วนั ดังนั้น การหาพลังงานทดแทนมา พลังงานจากน้�ำมนั เชือ้ เพลงิ กำ� ลังไดร้ ับความนิยมในปจั จุบัน ครูอาจใช้ค�ำถามในการอภปิ รายดังน้ี 1.1) ยกตวั อยา่ งส่ิงของท่ีต้องอาศัยนำ�้ มนั เช้อื เพลิงในการทำ� งาน (แนวค�ำตอบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องปั๊มน้�ำ) 1.2) พลงั งานทจ่ี ะสามารถนำ� มาทดแทนพลงั งานจากนำ้� มนั เชื้อเพลิงมีอะไรบา้ ง (แนวคำ� ตอบ นักเรยี นอาจตอบไดห้ ลากหลาย เชน่ ไบโอดเี ซล ไฟฟา้ พลังงานชีวมวล) 2) ครยู กประเด็นเกีย่ วกบั รถยนตท์ ีใ่ ชไ้ ฟฟ้าเปน็ แหลง่ พลังงาน ครูน�ำอภิปรายการทำ� งานของรถไฟฟ้า พรอ้ มใชร้ ปู กลไกการทำ� งานของรถไฟฟา้ มาประกอบการอภิปราย โดยอาจใช้คำ� ถามดงั น้ี 2.1) รถไฟฟ้ามกี ลไกการทำ� งานแตกต่างจากรถที่ใช้นำ้� มันเชอ้ื เพลิงอย่างไร (แนวคำ� ตอบ รถไฟฟา้ ใชไ้ ฟฟา้ เปน็ แหลง่ พลงั งานใหม้ อเตอรไ์ ฟฟา้ หมนุ เพอื่ ทำ� ใหล้ อ้ รถเคลอ่ื นทไ่ี ด้ 58 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ

สว่ นรถทใ่ี ชน้ ำ้� มนั เชอื้ เพลงิ ใชก้ ารเผาไหมข้ องนำ�้ มนั เชอ้ื เพลงิ ทำ� ใหเ้ พลาและลอ้ รถเคลอ่ื นทไี่ ด้ 2.2) องคป์ ระกอบส�ำคัญของรถไฟฟ้าคืออะไร (แนวคำ� ตอบ แหลง่ เกบ็ พลงั งานไฟฟา้ หรอื แบตเตอรเ่ี พอ่ื เกบ็ พลงั งานไฟฟา้ จากการชารจ์ กบั ไฟฟ้าทใ่ี ชใ้ นบ้าน และมอเตอรไ์ ฟฟ้า) 2.3) ขอ้ ดีของรถไฟฟา้ เมอื่ เทยี บกบั รถท่ใี ช้น�้ำมนั เช้ือเพลงิ เปน็ อยา่ งไร (แนวค�ำตอบ รถไฟฟา้ ไม่ปล่อยมลพษิ ) 3) ครชู แ้ี จงประเดน็ เกย่ี วกบั การใชแ้ บตเตอรเ่ี พอื่ เกบ็ พลงั งานไฟฟา้ ในรถยนตย์ งั มขี อ้ จำ� กดั ในเรอื่ งของ ระยะการใชง้ านทจี่ ำ� กดั ตอ่ การชารจ์ ไฟฟา้ แตล่ ะครง้ั ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งออกแบบรถยนตใ์ หใ้ ชพ้ ลงั งานทมี่ ี อย่ใู นแบตเตอร่ีอยา่ งจำ� กัดในคุ้มคา่ ทส่ี ุด 4) ครชู ้แี จงจุดประสงคข์ องกจิ กรรมวา่ นักเรียนจะได้สรา้ งรถของเล่นไฟฟ้าเพื่อให้ว่งิ ไดเ้ รว็ ท่ีสดุ โดยใช้ พลงั งานไฟฟา้ จากถา่ นไฟฉายทอ่ี ยอู่ ยา่ งจำ� กดั ครทู บทวนความรทู้ เ่ี รยี นมาแลว้ เกย่ี วกบั การตอ่ วงจร ไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย โดยใหน้ กั เรยี นบอกวธิ กี ารตอ่ วงจรไฟฟา้ ใหห้ ลอดไฟสวา่ งโดยใชถ้ า่ นไฟฉาย 1 กอ้ น และ หลอดไฟขนาด 2.5 V และครูอาจใช้ค�ำถามดังน้ี 4.1) ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้ามอี ะไรบ้าง (แนวคำ� ตอบ แหล่งกำ� เนิดไฟฟา้ สายไฟ และหลอดไฟ) 4.2) การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใดท่ีทำ� ใหห้ ลอดไฟสว่าง เพราะเหตใุ ด (แนวค�ำตอบ การตอ่ วงจรแบบปดิ โดยต่อสายไฟกับข้ัวบวกของแหลง่ กำ� เนิดไฟฟ้า ปลายอกี ด้านหนึ่งของสายไฟต่อเข้ากับหลอดไฟ ในขณะท่ีสายไฟอีกเส้นหน่ึงต่อกับข้ัวลบของแหล่ง ก�ำเนิดไฟฟ้า ปลายอีกด้านหน่ึงต่อเข้ากับหลอดไฟ ท�ำให้มีเส้นทางครบวงจร กระแสไฟฟ้า ไหลผ่านไดค้ รบรอบ) 4.3) วงจรปิดและวงจรเปดิ ต่างกนั อย่างไร (แนวคำ� ตอบ วงจรปดิ เปน็ วงจรทก่ี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นไดค้ รบเสน้ ทาง อปุ กรณไ์ ฟฟา้ จะทำ� งาน ได้ แตว่ งจรเปดิ นนั้ กระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นไมค่ รบเสน้ ทาง ทำ� ใหอ้ ปุ กรณไ์ ฟฟา้ ไมส่ ามารถทำ� งาน ได้) 5) ครนู ำ� เขา้ สกู่ จิ กรรมวา่ นอกจากอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทเี่ ราคนุ้ เคย เชน่ หลอดไฟทใี่ ชถ้ า่ นไฟฉายเพยี งกอ้ นเดยี ว เปน็ แหลง่ กำ� เนดิ ไฟฟา้ แลว้ ยงั มอี ปุ กรณไ์ ฟฟา้ อน่ื ๆ ทต่ี อ้ งอาศยั เซลลไ์ ฟฟา้ หรอื ถา่ นไฟฉายหลายกอ้ น ต่อกันเพ่ือเป็นแหล่งก�ำเนิดไฟฟ้า เช่น รถของเล่น ครูน�ำตัวอย่างรถของเล่นให้นักเรียนสังเกต โครงสรา้ ง ส่วนประกอบของรถของเล่นวา่ มอี ะไรบ้าง 6) ครถู ามความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นเกยี่ วกบั ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การเคลอื่ นทขี่ องรถของเลน่ ไฟฟา้ โดยอาจใช้ ค�ำถามดงั นี้ 6.1) การใชถ้ า่ นไฟฉายหลายกอ้ นตอ่ กนั กบั การใชถ้ า่ นไฟฉายกอ้ นเดยี วจะทำ� ใหเ้ กดิ ผลตอ่ การทำ� งาน ของรถของเล่นแตกตา่ งกันหรือไม่ อย่างไร (แนวคำ� ตอบ ข้นึ อยกู่ บั ความคิดของนักเรยี น) สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 59 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

6.2) การต่อถ่านไฟฉายมากกวา่ 1 กอ้ น แบบใดทีท่ ำ� ใหไ้ ด้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น (แนวค�ำตอบ ข้นึ อยกู่ ับความคดิ ของนักเรยี น) 6.3) ปจั จัยใดบ้างในการสร้างรถของเลน่ ท่ีมผี ลท�ำใหข้ องรถของเล่นเคลอ่ื นทไ่ี ด้เร็วทส่ี ดุ (แนวคำ� ตอบ คำ� ตอบมไี ดห้ ลากหลาย เชน่ นำ้� หนกั และรปู ทรงรถของเลน่ จำ� นวนถา่ นไฟฉาย และวิธกี ารต่อถ่านไฟฉาย 6.4) หากจะออกแบบรถของเล่นไฟฟ้าเพื่อแข่งขนั วา่ รถคันใดเคลอ่ื นทีไ่ ด้เรว็ ทีส่ ุด จะต้องออกแบบ รถของนักเรยี นอย่างไร (แนวค�ำตอบ ขนึ้ อยกู่ บั ความคิดของนกั เรียน) 6.5) นกั เรียนจะทราบไดอ้ ย่างไรว่ารถคันใดเคล่อื นท่ไี ดเ้ รว็ ท่ีสดุ (แนวคำ� ตอบ สามารถทดสอบได้หลายวธิ ี เชน่ ปลอ่ ยรถพรอ้ มกนั แลว้ ดวู ่ารถคนั ใดเข้าเสน้ ชยั กอ่ น หรอื ปล่อยรถและจบั เวลาทลี ะคนั วา่ จากจุดเรมิ่ ตน้ จนถึงเส้นชัยใชเ้ วลาเท่าไหร่ รถคัน ไหนใช้เวลานอ้ ยทีส่ ดุ แสดงวา่ เร็วทส่ี ดุ ) 7) ครูแบง่ นักเรยี นออกเป็นกลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน คละความสามารถและเพศ จากนนั้ ครแู จกรถของเลน่ ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ละ 1 ชดุ เพอ่ื ประกอบโครงชว่ งลา่ งของรถ ซงึ่ ประกอบดว้ ย มอเตอรไ์ ฟฟา้ ลอ้ เพลา และเฟอื ง โดยในขั้นน้ีครอู าจตอ้ งอธบิ ายการทำ� งานของชนิ้ ส่วนตา่ ง ๆ 2. กจิ กรรมระบุปัญหา 8) ครกู �ำหนดปัญหาใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มดงั น้ี “ใหน้ ักเรยี นสรา้ งรถของเล่น ให้ว่งิ ไดเ้ ร็วที่สุด โดยใช้ถา่ นไฟฉาย 2 กอ้ น และรถจะตอ้ งรับน�ำ้ หนกั บรรทุกดนิ น้ำ� มนั 3 ก้อน โดยมงี บประมาณไม่เกนิ 200 บาท” (ครูพิจารณาระหว่างจำ� นวนดินนำ้� มนั กับรถของเล่นที่ใช้ในกจิ กรรมตามความเหมาะสม) 9) ครชู แี้ จงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการออกแบบและสรา้ งรถของเลน่ โดยมหี วั ขอ้ ในการพจิ ารณา 4 หวั ขอ้ คือ ความเรว็ ของรถ ต้นทุนวัสดทุ ีใ่ ช้ ข้นั ตอนการท�ำงานและการนำ� เสนอข้อมลู ข้นั รวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ทเ่ี กยี่ วข้องกับปญั หา 10) ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ปจั จยั ทที่ ำ� ใหร้ ถเคลอื่ นทไ่ี ดเ้ รว็ เชน่ เรอ่ื งพลงั งานไฟฟา้ รปู ทรงและความสมดุลของตวั รถ แลว้ น�ำมาอภิปรายกนั ในกลุ่มเพอ่ื นำ� ไปออกแบบรถ ข้ันออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา 11) ครใู หแ้ ตล่ ะกลมุ่ วาดแบบรถและอธบิ ายการตอ่ วงจรไฟฟา้ พรอ้ มทงั้ ระบรุ ายการวสั ดแุ ละจำ� นวนทใ่ี ช้ เพอ่ื ค�ำนวณต้นทนุ 12) ครูให้แต่ละกลมุ่ น�ำเสนอโดยเริ่มจากนำ� เสนอว่ามีปัญหาหรอื ความต้องการอะไร แล้วมแี นวทางใน การแกป้ ัญหาอยา่ งไร ซง่ึ ประกอบด้วยรูปแบบของรถของเล่นพร้อมทั้งรายละเอียดวัสดุและต้นทุน 60 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธกิ าร

ขน้ั วางแผนและด�ำเนนิ การแก้ปญั หา 13) ครูให้แตล่ ะกลุ่มวางแผนการท�ำงานกอ่ นลงมอื สร้าง จากนน้ั จึงสร้างรถของเล่นโดยใช้วัสดตุ ามท่ไี ด้ ออกแบบภายในเวลา 2 ชั่วโมง ท้งั นี้ นกั เรียนทุกกลมุ่ ต้องเกบ็ เศษวสั ดุเหลอื ใชเ้ พอื่ นำ� ไปประเมิน ความคุ้มคา่ ของวัสดทุ ่ีใชไ้ ป ข้นั ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรงุ แกไ้ ขวิธกี ารแก้ปญั หาหรือชิน้ งาน 14) เมอื่ สรา้ งเสร็จแล้ว แตล่ ะกล่มุ น�ำรถของเลน่ ไฟฟ้า มาทดสอบการทำ� งาน หากรถไม่เคลื่อนที่ หรอื เคลอื่ นทช่ี า้ ใหป้ รบั ปรงุ แกไ้ ข โดยมเี วลาปรบั ปรงุ แกไ้ ข 30 นาที นกั เรยี นบนั ทกึ วธิ กี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ข ในใบกิจกรรม แลว้ นำ� มาทดสอบอกี ครง้ั 15) ครูให้นักเรียนทุกกลุ่มประเมินต้นทุนท่ีใช้ เพื่อเป็นข้อมูลส�ำหรับใช้ประเมินช้ินงานตามเกณฑ์ที่ ก�ำหนดไว้ 16) ครจู ัดแขง่ ขันโดยรถของเลน่ ไฟฟา้ ของกล่มุ ไหนเข้าเสน้ ชยั กอ่ นเปน็ ผชู้ นะ ขน้ั น�ำเสนอวธิ ีการแก้ปญั หา ผลการแก้ปญั หา หรือชิ้นงาน 17) ครูให้แต่ละกลุม่ น�ำเสนอผลงาน และอธิบายในประเด็นต่อไปน้ี 17.1) รถของเล่นของกลุม่ เคลอื่ นที่ไดเ้ รว็ ตามทตี่ อ้ งการหรือไม่ อยา่ งไร 17.2) หลกั การหรอื ปจั จยั ใดทกี่ ลมุ่ นำ� มาพจิ ารณาในการสรา้ งรถใหว้ ง่ิ ไดเ้ รว็ ทส่ี ดุ และปจั จยั นน้ั ทำ� ให้ รถวงิ่ ไดเ้ รว็ ตามที่ต้องการหรอื ไม่ อยา่ งไร 17.3) ถา้ จะปรบั ปรุงใหร้ ถของเล่นวง่ิ ไดเ้ รว็ ขน้ึ อีก จะท�ำอยา่ งไร 18) ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสรปุ ประเดน็ และความร้ทู ีไ่ ดจ้ ากการสรา้ งรถของเล่นไฟฟา้ โดยครใู ช้คำ� ถาม ดงั น้ี 18.1) การต่อวงจรไฟฟ้าในรถของเลน่ ไฟฟ้าเป็นอยา่ งไร (แนวค�ำตอบ ต่อถ่านไฟฉายเข้ากับแผ่นโลหะท่ีติดอยู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ท�ำให้ครบวงจร มอเตอรไ์ ฟฟา้ ทำ� งานได)้ 18.2) การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าให้มพี ลังงานมากขน้ึ ทำ� ไดอ้ ยา่ งไร และเรียกการต่อแบบนวี้ ่าอยา่ งไร (แนวค�ำตอบ ต่อเซลล์ไฟฟ้าโดยให้ขั้วลบของเซลล์ไฟฟ้าต่อกับข้ัวบวกของเซลล์ไฟฟ้าอีก อนั หนึ่งเรยี งกนั ไป เรียกวา่ การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม) 18.3) การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมท�ำให้เกดิ ผลอยา่ งไรตอ่ การเคลือ่ นที่ของรถของเล่น (แนวคำ� ตอบ มพี ลงั งานไฟฟ้าเพิม่ ขึ้น ทำ� ให้รถเคล่อื นทไ่ี ดเ้ ร็วขน้ึ ) 18.4) ปัจจยั ใดบ้างทม่ี ีท�ำให้รถของเล่นไฟฟา้ วง่ิ ไดเ้ ร็ว และมีผลอย่างไร (แนวค�ำตอบ น้ำ� หนกั ของแบตเตอร่ี พลังงานไฟฟา้ จากแบตเตอร่ี รปู ร่างของรถของเล่น ความสมดุลของตวั รถ) สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 61 กระทรวงศึกษาธิการ

การวัดประเมนิ ผล ประเดน็ ระดับคะแนน การประเมิน 1. การระบปุ ญั หา 43 2 1 และเสนอแนวทาง ในการแกป้ ัญหา ระบุปัญหาหรอื ระบุปญั หาหรอื ระบปุ ัญหาหรือ ระบปุ ัญหาหรอื ความ ความต้องการได้ ความต้องการได้ ความตอ้ งการได้ตรง ต้องการได้ไมส่ มบรู ณ์ 2. การเลอื กวธิ ีการ ตรงกบั หวั ข้อที่ ตรงกับหัวข้อท่ี กับหวั ข้อทีก่ �ำหนดแต่ และเสนอแนวทาง กำ� หนดและเสนอ กำ� หนดและเสนอ เสนอแนวทางในการ ในการแก้ปัญหาไม่ 3. การออกแบบ แนวทางใน แนวทางในการแก้ แกป้ ญั หาไดส้ อดคล้อง สอดคล้องกบั การแก้ปัญหาได้ ปัญหาได้ กับปัญหาหรือความ ปัญหาหรือความ สอดคลอ้ งกับปัญหา สอดคล้องกับ ต้องการเป็นสว่ นนอ้ ย ตอ้ งการ หรอื ความต้องการ ปัญหาหรือความ อย่างครบถ้วน ต้องการได้เปน็ สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ เลอื กวิธีการแก้ไข เลือกวิธีการแก้ไข เลอื กวธิ กี าร เลือกวิธกี ารแก้ไข ได้สอดคล้องกบั ได้สอดคล้องกับ แก้ไขได้ ไม่สอดคลอ้ งกับ ปญั หาหรอื ปญั หาหรอื สอดคลอ้ งเป็น ปญั หาหรอื ความตอ้ งการ ความตอ้ งการ บางส่วนน�ำไป ความต้องการ น�ำไปสร้างได้จริง น�ำไปสรา้ งไดจ้ ริง สรา้ งได้จรงิ น�ำไปสร้างไดจ้ รงิ วัสดทุ ี่เลือกใช้ วสั ดุท่ีเลอื กใช้ แต่เลอื กวสั ดุ แตว่ ัสดุทเ่ี ลอื กใช้ เหมาะสมกบั เหมาะสมกับ ไมเ่ หมาะสมกับ ไมเ่ หมาะสมกับ ชิ้นงานทีส่ ร้าง ชิ้นงานท่ีสร้างได้ ช้นิ งานที่สร้าง ชนิ้ งานท่ีสรา้ ง เป็นสว่ นใหญ่ ไดภ้ าพร่าง 3 มิติ ได้ภาพร่าง 3 มติ ไดภ้ าพรา่ ง 3 มิติ ได้ภาพรา่ ง 3 มิติ สอดคล้องกบั วธิ กี าร สอดคลอ้ งกบั สอดคลอ้ งกับ ทีไ่ มส่ อดคลอ้ งกบั แกป้ ญั หาหรอื สนอง วิธีการแกป้ ัญหา วธิ ีการแก้ปญั หา วิธกี ารแก้ปัญหา ความต้องการ หรือสนองความ หรือสนองความ หรือสนองความ แสดงรายละเอยี ด ตอ้ งการ แต่ขาด ต้องการ แต่ขาด ต้องการ รปู ร่าง ขนาดความ รายละเอยี ดดา้ นรูป รายละเอียดทัง้ รปู รา่ ง กวา้ ง ความยาว ร่าง หรือ ขนาด หรือ ขนาด หนว่ ยในการวดั ความสงู และหนว่ ย หน่วยในการวัดขนาด ขนาด ในการวดั ขนาด 62 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ประเดน็ 4 ระดบั คะแนน 1 การประเมนิ 32 4. การวางแผนและ สร้างชิ้นงานโดย สร้างชน้ิ งานโดย สร้างชน้ิ งานโดย สร้างชน้ิ งานโดย ด�ำเนินการ มกี ารวางแผนใน มกี ารวางแผนใน ไม่มีการวางแผน ไมม่ ีการวางแผน การทำ� งานและ การทำ� งานเปน็ ในการท�ำงาน ในการท�ำงาน ปฏบิ ตั ิงานตาม สว่ นใหญ่และ และปฏิบตั งิ าน และปฏบิ ัติงานได้ กระบวนการ ปฏบิ ตั งิ านตาม ตามกระบวนการ แต่ไมเ่ ปน็ ทำ� งานไดอ้ ยา่ ง กระบวนการ ท�ำงานได้ กระบวนการ เหมาะสม ท�ำงานได้ บางสว่ น 5. การทดสอบและ ช้นิ งานหรือวธิ ีการ ชน้ิ งานหรอื วธิ ีการ ชน้ิ งานหรือวิธีการท่ี ชิน้ งานหรอื วธิ ีการท่ี ปรับปรุงแกไ้ ข ใชง้ านไดด้ ไี มต่ ้อง ตอ้ งปรับปรุง นำ� มาปรบั ปรุง น�ำมาปรับปรงุ ปรบั ปรงุ แก้ไข แก้ไขหลายคร้งั แก้ไขแลว้ ใช้งาน แกไ้ ขแลว้ ยังคง จึงจะท�ำงานไดด้ ี ไดเ้ ป็นบางส่วน ใชง้ านไม่ได้ 6. การน�ำเสนอ รปู แบบการนำ� เสนอ รูปแบบการน�ำเสนอ รปู แบบการนำ� เสนอ รูปแบบการน�ำเสนอ สือ่ ความหมายเรื่อง สือ่ ความหมายให้ผู้ ส่อื ความหมายใหผ้ ู้ สื่อความหมายไม่ การตอ่ วงจรไฟฟ้า อื่นเข้าใจได้ชัดเจน อืน่ เข้าใจไดไ้ มช่ ัดเจน ถกู ตอ้ ง ไม่ชดั เจน ของรถของเล่นไฟฟ้า อธบิ ายเหตผุ ลของ อธิบายเหตผุ ลของ อธิบายเหตุผลของ ใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจถูก แนวคดิ เรือ่ งการต่อ แนวคดิ เรอ่ื งการต่อ แนวคดิ เร่อื งการต่อ ต้อง ชัดเจน อธิบาย วงจรไฟฟา้ ของรถ วงจรไฟฟา้ ของรถของ วงจรไฟฟ้าของรถ เหตผุ ลของแนวคดิ ของเลน่ ไฟฟ้าไดถ้ ูก เลน่ ไฟฟา้ ไดถ้ ูกตอ้ ง ของเลน่ ไฟฟา้ ไม่ได้ ได้ ต้องบางสว่ น บางส่วน 7. การเคลอื่ นท่ีของ รถสามารถว่งิ ได้ตรง รถสามารถวิง่ ได้ตรง รถสามารถว่งิ ได้ตรง รถไม่สามารถวง่ิ ได้ รถของเลน่ และเรว็ ท่ีสุด และเร็วปานกลาง แตไ่ มเ่ ร็ว ตรง และไม่เร็ว 8. ต้นทนุ ในการ ใชต้ ้นทนุ ไมเ่ กนิ ท่ี ใชต้ น้ ทุนเกนิ จาก ใชต้ ้นทุนเกนิ จาก ใชต้ น้ ทุนเกินจาก สร้างรถของเล่น ก�ำหนดไว้ ทก่ี �ำหนดนอ้ ยกว่า ทกี่ �ำหนดระหวา่ ง ทกี่ �ำหนดมากกว่า รอ้ ยละ 5 รอ้ ยละ 5-10 ร้อยละ 10 สื่อและแหลง่ เรยี นรู้ 1. สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน การออกแบบและเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว, 2553. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 63 กระทรวงศึกษาธกิ าร

แบบสงั เกตชิ้นงานของนักเรยี น เกณฑ์การประเมนิ ผล คะแนนรวม 10 – 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก คะแนนรวม 5 – 10 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนนรวม ต�่ำกวา่ 5 คะแนน หมายถึง ตอ้ งปรบั ปรงุ ทำ� เครื่องหมายในชอ่ งคะแนน หวั ขอ้ 4 3 21 1. การเคล่อื นที่ คะแนนรวม.................................. ของรถของเล่น 2. การน�ำเสนอข้อมูล 3. ตน้ ทุนวัสดุใน การสร้างรถของเล่น แบบสงั เกตกระบวนการทำ� งานของนักเรยี น เกณฑ์การประเมนิ ผล คะแนนรวม 15 – 20 คะแนน หมายถงึ ดีมาก คะแนนรวม 8 – 14 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนนรวม ต�ำ่ กวา่ 8 คะแนน หมายถงึ ตอ้ งปรับปรุง ท�ำเครอ่ื งหมายในช่องคะแนน หัวขอ้ 432 1 คะแนนรวม................................ 1.1 การก�ำหนดปญั หา 1.2 การเลอื กวธิ กี าร 1.3 การออกแบบและปฏิบตั ิการ 1.4 สร้างช้ินงานจากภาพร่าง โดยวางแผนในการท�ำงาน แ ละปฏิบ ัติงานต ามกระ บวนกา รท�ำงาน อย่างเหมาะสม 1.5 การปรับปรงุ แกไ้ ข 64 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศกึ ษาธิการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook