Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2 wk3

2 wk3

Published by Guset User, 2021-10-01 08:24:27

Description: 2 wk3

Search

Read the Text Version

การวิเคราะหค์ วามสมั พนั ธ์ พฤติกรรมทางการศึกษามาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั กบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม





คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ประการ • รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ • ซ่ือสัตย์ สุจริต • มวี นิ ัย • ใฝ่ เรียนรู้ • อยู่อย่างพอเพยี ง • มุ่งม่ันทางาน • รักความเป็ นไทย • มจี ิตสาธารณะ

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5 ประการ • 1. ความสามารถในการส่ือสาร ดีเยย่ี ม • 2. ความสามารถในการคิด ดี • 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา • 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต พอใช้ • 5. ความสามารถในการใช้ ปรบั ปรุง เทคโนโลยี

















มาตรฐานการเรยี นรู้ 8 สาระ K AP

กกาลรุ่มเรสีภยานารษระู้าไทยป.1 จำนวนมำตรฐำนตวั ชวี้ ดั ม.3 ม.4-6 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. มฐ. ตชว. ภาษาไทย 2 6 2 6 3 8 4 11 5 15 5 5 5 23 5 22 5 25 5 24 คณติ ศาสตร์ 6 12 7 18 8 19 8 20 10 22 13 13 9 22 10 20 8 16 12 31 วทิ ยาศาสตร์ 6 14 7 18 9 19 5 18 9 28 10 10 7 37 7 35 9 40 12 51 สังคมศึกษา 10 19 10 18 10 23 10 25 11 27 11 11 11 33 11 30 11 32 11 50 ภาษาองั กฤษ 4 6 4 6 6 9 6 13 6 14 6 6 6 15 6 15 6 15 6 14 สุขศึกษา-พละ 5 8 5 14 5 10 5 11 6 16 6 6 6 9 6 10 5 12 6 23 ศิลปะ 4 8 5 11 5 12 5 11 5 9 6 6 6 13 6 16 6 15 6 19 การงานอาชีพ 2 3 3 5 3 5 3 4 4 7 4 4 3 4 4 10 4 7 6 15 รวม 39 76 43 96 49 105 46 113 56 138 61 61 53 156 55 158 54 162 64 227

ตวั ชีว้ ัด ตัวชว้ี ัดระบสุ งิ่ ทนี่ กั เรียนพึงรู้ (K) และปฏิบัติ (P) ได้ รวมท้งั คุณลักษณะของผเู้ รยี น (A) ในแตล่ ะระดับชั้น ซงึ่ สะท้อนถึงมาตรฐาน การเรยี นรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจงและมีความเปน็ รปู ธรรม นาไปใชใ้ นการ กาหนดเน้อื หา จัดทาหนว่ ยการเรียนรู้ จดั การเรยี นการสอน และเปน็ เกณฑ์สาคญั สาหรับการวัดประเมนิ ผลเพอ่ื ตรวจสอบคณุ ภาพผเู้ รียน 1. ตวั ชว้ี ดั ชนั้ ปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผเู้ รียนแตล่ ะช้นั ปใี นระดบั การศึกษาภาคบังคบั (ประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปที ี่ 3) 2. ตัวชีว้ ดั ชว่ งชน้ั เป็นเป้าหมายในการพฒั นาผเู้ รียนในระดบั มธั ยมศกึ ษา ตอนปลาย (มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4- 6)









องค์ประกอบของตวั ชวี้ ัด ตวั ชว้ี ดั เปรียบเทียบ และเรยี งลำดับเศษส่วนและทศนยิ ม ไม่เกนิ สำมตำแหนง่ คาสาคัญ (key word) สถานการณ์ หรอื บรบิ ท หรอื เนอ้ื หา พฤตกิ รรมที่ตอ้ งการแสดง

มฐ. ท 1.1 ใชก้ ระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมร้แู ละควำมคดิ เพื่อนำไปใช้ ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หำในกำรดำเนนิ ชีวิต และมีนิสัยรักกำรอำ่ น • อ่ำนออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง เหมำะสมกบั เรือ่ งที่อำ่ น Process • จบั ใจควำมสำคัญจำกเร่อื งทอี่ ำ่ น & Skill • ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกบั ข้อคดิ เห็นจำกเรื่องทอ่ี ่ำน • .............. Knowledge • มมี ำรยำทในกำรอำ่ น Attribute

มำตรฐำน ว ๑.๑ เขำ้ ใจหน่วยพืน้ ฐำนของส่ิงมีชีวิต ควำมสมั พนั ธ์ของโครงสรำ้ ง และหนำ้ ทีข่ องระบบตำ่ ง ๆ ของ ส่งิ มีชีวิตทท่ี ำงำนสัมพันธก์ นั มกี ระบวนกำรสบื เสำะหำควำมรู้ สอ่ื สำรส่งิ ที่เรียนรู้และนำควำมร้ไู ปใช้ในกำรดำรงชีวิตของ ตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต • ทดลองและอธิบำย น้ำ แสง เปน็ ปจั จยั ทจี่ ำเป็นตอ่ กำรดำรงชีวติ ของพชื Knowledge วทิ ย์ ป.2 Process & Skill

มำตรฐำน ศ ๓.๒ เข้ำใจควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงนำฏศลิ ป์ ประวัตศิ ำสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่ำของนำฏศลิ ปท์ ีเ่ ป็น มรดกทำงวัฒนธรรม ภูมิปัญญำท้องถน่ิ ภมู ปิ ญั ญำไทยและสำกล Knowledge Process & Skill • ระบแุ ละเลน่ กำรละเล่นพ้นื บ้ำน • เชอื่ มโยงสิง่ ทีพ่ บเหน็ ในกำรละเล่นพื้นบำ้ นกับส่ิงที่พบเหน็ ในกำร ดำรงชีวติ ของคนไทย • ระบสุ ิง่ ท่ีชื่นชอบและภำคภมู ิใจในกำรละเล่นพ้ืนบำ้ น นำฏศิลป์ Attribute ป.2

สำระที่ ๑ สง่ิ มชี วี ติ กบั กระบวนกำรดำรงชวี ติ มำตรฐำน ว ๑.๑ เขำ้ ใจหนว่ ยพนื้ ฐำนของสง่ิ มชี วี ติ ควำมสมั พนั ธข์ องโครงสรำ้ ง และหนำ้ ท่ี ของระบบตำ่ งๆ ของสงิ่ มชี วี ติ ทที่ ำงำนสมั พนั ธก์ นั มกี ระบวนกำรสบื เสำะแสวงหำ ควำมรู้ สอื่ สำรสงิ่ ทเ่ี รยี นรู้ และนำควำมรไู้ ปใชใ้ นกำรดำรงชวี ติ ของ ตนเองและดแู ลสง่ิ มชี วี ติ ร้อู ะไร: สารอาหารต่างๆ นาไปใช้ : (A) คารโ์ บไฮเดรต น้า โปรตนี เลอื กบรโิ ภค วิตามนิ ไขมัน แรธ่ าต(ุ K) อาหารตามวยั ทาอะไร: วเิ คราะห์ อภิปราย สารอาหาร รายงานผล(P)

มาสตารระฐทาี่ 1น วการ๑ด.า๑รงชเขีวติ้าแใลจะหครนอว่ บยคพรัวืน้ ฐานของสิ่งมชี ีวติ ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ ง มาแตลรฐะาหน นง ้า๑.ท๑ เข่ี ้าอใจงกราระทบางบานตม่าีคงวๆามคขดิ อสรง้าสงสงิ่ รมรคชี ์ มีวีทิตักทษะีท่ กราะงบาวนนกสารมั ทพางาันนธท์กักษนั ะ มกากี รจรัดะกบารวนทกักาษระ กทราสงะาบืบนวเนมสกีจาาิตระสแแากน้ปสึกัญใวนหงกาหารทาใชักค้พษวละกังางามารนทราทู้งสรานัพอ่ื รย่สวามการกรนัแสลและงิ่ สะททิ่งแกัเ่ี วรษดะยี ลกน้อามรรแเแู้สพวื่ลองกหะาารนคดาวาารคมงชวรู้ีวามติ มคีแลุณระธู้ไครปรรอใมบชแคลใ้ระนัวลกักษาณระดนิสาัยรใงนชกาวีริต ของตนเองและดแู ลสง่ิ มีชีวติ ตัวชี้วัด ผ้เู รยี นรูอ้ ะไร ผ้เู รยี นทาอะไร (รู้/ทา ไดแ้ คไ่ หน) (K) (P) ป.6/3 วิเคราะห์ คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั สบื ค้นข้อมูล สรุป สารอาหารและอภิปราย โปรตนี และวิตามนิ เป็น ความรู้ และนาเสนอ ความจาเป็นทรี่ ่างกาย ตอ้ งไดร้ ับสารอาหารใน สารอาหารสาคัญท่ี ผลการศกึ ษาดว้ ย สดั ส่วนทเ่ี หมาะสมกับ จาเปน็ สาหรบั ร่างกาย การอภปิ ราย เปน็ แผนภาพความคดิ เพศและวัย

มาสตารระฐทาี่ 1น วการ๑ด.า๑รงชเขีวติา้ แใลจะหครนอ่วบยคพรัวื้นฐานของสงิ่ มีชวี ิต ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ ง มาแตลรฐะาหน นง า้๑.ท๑ เ่ีข้าอใจงกราระทบางบานตม่าีคงวๆามคขดิ อสรง้าสงสง่ิ รมรคีช์ มวี ีทติ กั ทษะที่ กราะงบาวนนกสารัมทพางาันนธท์กกั ษนั ะ มกากี รจรัดะกบารวนทกกั าษระ ทกราสงะาบบื นวเนมสกจี าาติ ระสแแากน้ปสึกัญใวนหงกาหารทาใชกั ค้พษวละกังางามารนทราทู้งสรานัพือ่ รย่สวามการกรนัแสลและ่งิ สะทท่ิงแักีเ่ วรษดะยี ลกน้อามรรแเแู้สพว่ืลองกหะาารนคดาวาารคมงชวรู้ีวามติ มคีแลุณระธู้ไครปรรอใมบชแคลใ้ระนัวลกักษาณระดนิสาัยรใงนชกาวีริต ของตนเองและดูแลสงิ่ มชี ีวิต ตัวชว้ี ัด ผู้เรยี นร้อู ะไร ผเู้ รียนทาอะไร ๕.ทดลองวเิ คราะหแ์ ละ แปง้ น้าตาล ไขมนั ๑.ทดลองและ อธบิ ายสารอาหารใน โปรตีน และวิตามนิ เปน็ วเิ คราะห์ปริมาณ อาหารมปี รมิ าณ สารอาหารและสามารถ สารอาหารทใ่ี ห้ พลงั งานและสัดส่วนที่ เหมาะสมกบั เพศและวยั ทดสอบได้ พลังงาน ๒.รายงานผลการ ทดลอง

ตวั อย่าง







พฤติกรรมทางการศึกษา (Educational Behavior)

พฤติกรรมทางการศึกษา รู้อะไร? Cognitive Affective Psychomotor รู้สึกอย่างไร? ทาอะไรได้?

พฤตกิ รรมการแสดงออกของผู้เรียน ด้านพทุ ธิพสิ ัย ด้านทักษะพสิ ัย ด้านจิตพสิ ัย (Cognitive) (Psychomotor) (Affective) ❖ ความรู้ความจา ❖ การเลยี นแบบ ❖ การรับรู้ ❖ ความเข้าใจ ❖ การกระทาตามแบบ ❖ ตอบสนอง ❖ การนาไปใช้ ❖ ความถูกต้องตามแบบ ❖ เห็นคุณค่า ❖ วเิ คราะห์ ❖ การกระทาอย่าง ❖ จดั ระบบ ❖ สังเคราะห์ ❖ สร้างคุณลกั ษณะ ❖ ประเมนิ ค่า ต่อเนื่อง ❖ ปฏบิ ตั จิ นทาได้ 35 ตามธรรมชาติ

พฤตกิ รรมด้านพทุ ธิพสิ ัย ด้านพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive Domain) เป็ นพฤติกรรมท่ีเกย่ี วกบั สตปิ ัญญา การรู้คดิ ความสามารถในการคดิ เร่ืองราวต่าง ๆ แบ่งได้เป็ น 6 ระดบั ดงั นี้ 1. ความรู้ความจา (knowledge) เป็ นความสามารถใน การเกบ็ รักษาประสบการณ์ต่าง ๆ ทไ่ี ด้รับรู้ และสามารถระลกึ ส่ิงน้ันได้เมื่อต้องการ 2. ความเข้าใจ (comprehension) เป็ นความสามารถใน การจับใจความสาคญั ของสาระได้ โดยแสดงออกมาในรูปการ แปลความ ตคี วาม หรือขยายความ

พฤตกิ รรมด้านพทุ ธิพสิ ัย 3. การนาไปใช้ (application) เป็ นความสามารถของ ผู้เรียนทส่ี ามารถนาความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหา สถานการณ์ ต่าง ๆ ได้ โดยอาศัยความรู้ ความจา และความเข้าใจเป็ นฐาน 4. การวเิ คราะห์ (analysis) เป็ นความสามารถของ ผู้เรียนในการคดิ แยกแยะเรื่องราวสิ่งต่าง ๆ ออกเป็ นส่วนย่อย หรือเป็ นองค์ประกอบทีส่ าคญั ได้ และมองเห็นความสัมพนั ธ์ ของส่วนที่เกยี่ วข้องกนั ความสามารถในการวเิ คราะห์จะ แตกต่างกนั ไปแล้วแต่ความคดิ แต่ละคน

พฤตกิ รรมด้านพทุ ธิพสิ ัย 5. การสังเคราะห์ (synthesis) เป็ นความสามารถของ ผู้เรียนในการผสมผสานส่วนย่อย ๆ เข้าด้วยกนั ให้เป็ นเรื่อง เดยี วกนั ในลกั ษณะการจดั เรียงรวบรวมเป็ นรูปแบบหรือ โครงสร้างใหม่ทไี่ ม่เคยมมี าก่อน 6. การประเมนิ ค่า (evaluation) เป็ นความสามารถของ ผู้เรียนในการตดั สินคุณค่าของส่ิงต่าง ๆ ท้งั เนื้อหาและวธิ ีการ ทเี่ กดิ ขนึ้ อาจจะกาหนดขนึ้ เองจากความรู้ประสบการณ์

ลาดบั ข้นั การเรียนรู้ด้านพทุ ธิพสิ ัย

พฤติกรรมด้านทกั ษะพสิ ัย ด้านทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor Domain) เป็ นพฤตกิ รรม การเรียนรู้ทบ่ี อกถงึ ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ านได้อย่าง คล่องแคล่วชานาญ พฤตกิ รรมด้านนีจ้ ะเห็นได้จากการปฏิบัติ ทแี่ สดงออกมาให้เห็น โดยมเี วลาและคุณภาพของงานเป็ นตัวชี้ ระดบั ของทกั ษะทเ่ี กดิ ว่ามมี ากน้อยเพยี งใด ประกอบด้วย พฤติกรรมย่อย ๆ 5 ระดบั ดงั นี้ 1. การเลยี นแบบ (imitation) เป็ นพฤตกิ รรมทผี่ ู้เรียน รับรู้หลกั การปฏบิ ตั ทิ ถี่ ูกต้อง หรือเป็ นการเลือกหาตัวแบบที่ สนใจ

พฤตกิ รรมด้านทกั ษะพสิ ัย 2. การกระทาตามแบบ หรือการลงมือกระทาตาม (manipulation) เป็ นพฤตกิ รรมทผี่ ู้เรียนพยายามฝึ กตามแบบ ทต่ี นสนใจและพยายามทาซ้า เพื่อให้เกดิ ทกั ษะตามแบบทต่ี น สนใจให้ได้ หรือสามารถปฏบิ ัตงิ านได้ตามข้อแนะนา 3. ความถูกต้องตามแบบ หรือความถูกต้องแม่นยา (precision) เป็ นพฤตกิ รรมทผ่ี ู้เรียนสามารถปฏิบัตงิ านได้ด้วย ตนเอง โดยไม่ต้องชี้แนะ พยายามหาความถูกต้องในการ ปฏบิ ตั แิ ละพฒั นาเป็ นรูปแบบของตนเอง

พฤติกรรมด้านทกั ษะพสิ ัย 4. การกระทาอย่างต่อเนื่อง หรือการกระทาทมี่ ีความ ต่อเนื่องประสานกนั (articulation) เป็ นพฤตกิ รรมทผ่ี ู้เรียน ปฏิบัตติ ามรูปแบบทไ่ี ด้ตดั สินใจเลือกเป็ นของตวั เอง และจะ ปฏิบัตติ ามรูปแบบน้ันอย่างต่อเนื่อง และสมา่ เสมอ จน สามารถปฏิบัตงิ านได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และคล่องแคล่ว 5. การทาจนเคยชิน หรือเป็ นไปตามธรรมชาติ (naturalization) เป็ นพฤตกิ รรมทผ่ี ู้เรียนสามารถปฏบิ ตั สิ ิ่ง น้ัน ๆ ได้คล่องแคล่วว่องไว โดยอตั โนมตั ิ ดูเป็ นไปอย่าง ธรรมชาตไิ ม่ขัดเขนิ

ลาดบั ข้นั การเรียนรู้ด้านทกั ษะพสิ ัย

พฤติกรรมด้านจิตพสิ ัย ด้านจิตพสิ ัย (Affective Domain) เป็ นพฤตกิ รรมทางด้านจิตใจ เกย่ี วกบั ค่านิยม ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ทศั นคติ ความเช่ือ ความสนใจ และคุณธรรม พฤตกิ รรมของผู้เรียน จะไม่เกดิ ขนึ้ ทันที การจดั การเรียนการสอนจึงต้องใช้วธิ ีปลูกฝัง และสอดแทรกส่ิงทดี่ งี าม แบ่งเป็ นพฤตกิ รรมย่อย ๆ 5 ระดบั 1. การรับรู้หรือการยอมรับ (receive) เป็ นการแปล ความหมายความรู้สึกทเ่ี กดิ จากส่ิงเร้า หรือปรากฏการณ์ 2. การตอบสนอง (response) เป็ นการแสดงออกมาใน รูปของความเตม็ ใจ ยนิ ยอม พอใจต่อส่ิงเร้า

พฤติกรรมด้านจติ พสิ ัย 3. การเกดิ ค่านิยม (value) เป็ นการเลือกปฏบิ ัตใิ นสิ่งท่ี สังคมยอมรับ หรือปฏิบัตติ ามในเรื่องใดเร่ืองหน่ึง จน กลายเป็ นความเชื่อและเกดิ ทศั นคติที่ดใี นส่ิงน้ัน 4. การรวบรวม หรือ การจัดระเบยี บค่านิยม (organize) เป็ นการรวบรวมค่านิยมใหม่ทเี่ กดิ ขนึ้ จากแนวคดิ และการจดั ระบบค่านิยมทยี่ ดึ ถือต่อไป หากไม่สามารถยอมรับ ค่านิยมใหม่ กจ็ ะยดึ ถือค่านิยมเก่าต่อไป แต่ถ้ายอมรับค่านิยม ใหม่กจ็ ะยกเลกิ ค่านิยมเก่าทยี่ ดึ ถือ

พฤติกรรมด้านจติ พสิ ัย 5. การสร้างลกั ษณะนิสัยตามค่านิยมทยี่ ดึ ถือ หรือ การสร้างคุณลกั ษณะทเ่ี กดิ จากค่านิยม (characterize) เป็ น การนาค่านิยมทยี่ ดึ ถือมาใช้เป็ นตวั ควบคุมพฤตกิ รรม ทเี่ ป็ น นิสัยประจาตัวของตน ให้ประพฤติปฏิบัตแิ ต่สิ่งทถี่ ูกต้อง ดงี าม

ลาดบั ข้นั การเรียนรู้ด้านจติ พสิ ัย

แบบฝึกหัด กล่มุ ละ 3 คน (10 คะแนน) ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ปรับปรงุ 2560) http://academic.obec.go.th/newsdetail.php?id=75

มาสตารระฐทาี่ 1น..ก..า.ร.ด..า..ร.ง..ช.ีว..ติ..แ..ล.ะ..ค..ร.อ..บ..ค..ร.ั.ว.......................................................................... ...กม..รา.ตะ..บร.ฐว..าน.น.ก.า.งร..แ๑.ก..๑.้ป.เัญ.ข.้.าห.ใ.าจ.ก..ทา.รกั.ท.ษ.า.ะง.กา..นา.ร.มท..คีา.งว.า.าน.ม.ร.ค่.วดิ.ม.ส.ก.รนั.้า.แง..สล.ะร..ทร.คกั..์ษม..ะที.ก.กั .าษ.ร.ะแ..กส.รว.ะ.ง.บห..วา.คน..วก.าา.ม.ร.รท.ู้.า.มง.าีค.น.ุณ..ทธ..กัร.ษร..มะ.แ.ก.ล.าะ.ร.ล.จกั.ดั.ษ.กณ.า.ร.ะ.น..ิส.ั.ยท.ใัก.น.ษ.ก.ะา.ร.. ...ท..า.ง..า.น..ม..ีจ.ติ..ส..า.น..ึก.ใ.น..ก..า.ร.ใ.ช.้.พ..ล.งั.ง..า.น..ท..ร..ัพ..ย.า.ก..ร..แ.ล..ะ.ส..่ิง.แ.ว..ด..ล.้อ..ม..เ.พ..่ือ.ก..า.ร.ด..า.ร.ง..ช.ีว..ติ .แ..ล.ะ..ค.ร..อ.บ..ค..ร.ัว..................... รอู้ ะไร: (K) ทาอะไร: (K) คุณลักษณะ พงึ ประสงค์ (A)

ตัวช้วี ดั ผ้เู รียนรอู้ ะไร สอดคลอ้ งพฤตกิ รรม KP A ระบตุ ัวช้วี ดั ระบเุ น้ือหาสาระ ระบคุ าสาคัญ **ทกุ ตวั **


Share
Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook