หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 แบ่งเป็ น 3 เรื่อง ชีวติ ปลอดภยั 1. การปฐมพยาบาล 2. การเคล่ือนย้ายผ้ปู ่ วย 3. สารเสพตดิ 1
ความรู้เบื้องต้นเกยี่ วกบั สารเสพตดิ สารเสพติด การเกดิ โรคและอบุ ัตเิ หตุ ทกั ษะการปฏเิ สธสารเสพติดและ จากการใช้สารเสพตดิ การชักชวนให้ผู้อื่น ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
ชิ้นงาน วาดภาพรณรงค์ต่อต้านยาเสพตดิ -ให้นักเรียนวาดภาพเพื่อรณรงค์ต่อต้านยาเสพตดิ -ระบายสีให้สวยงาม ด้วยเทคนคิ ใดกไ็ ด้ -ใช้กระดาษ100ปอนด์ ขนาดA4 -กาหนดส่งในคาบเรียนสัปดาห์หน้า ช่วงวนั ที่ 6-10 ม.ิ ย. 2565 3
สารเสพตดิ ที่แพร่ระบาดในประเทศต่างๆ
ความหมายของสารเสพตดิ สารเสพติด หมายถึง สารเคมีหรือวัตถุชนิดใดๆ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายด้วย การ กิน ดม สูบ ฉีด หรือวิธีอ่ืนๆ แล้วทาให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ต้องเพม่ิ ปริมาณการเสพขึน้ เรื่อยๆ มอี าการขาดยาเม่ือไม่ได้เสพ มีความต้องการ เสพท้งั ทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงอยู่ตลอดเวลา ทาให้สุขภาพทรุดโทรม
สาเหตุของการตดิ สารเสพตดิ ตวั บุคคล ครอบครัว สิ่งแวดล้อม การถูกชักชวน สภาพจติ ใจ ลกั ษณะงาน ความเจ็บป่ วยทางกาย การอยากลอง ความคกึ คะนอง การถูกหลอกลวง 6
ปัจจยั เส่ียงต่อการตดิ สารเสพตดิ 1. สภาพส่ิงแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้สารเสพติด 10. การไม่ได้รบั 2. การไปสถานท่ีเที่ยว ความสาคญั ในครอบครวั กลางคืน 9. ความต้องการฤทธ์ิที่พึง 3. ปัญหาส่วนตวั ประสงคข์ องสารเสพติด 8. ความจาเป็นของร่างกาย 4. ความอยากทดลอง 7. การประกอบอาชีพท่ีต้อง 5. การใกล้ชิดกบั ผตู้ ิดสาร ทางานหนักเป็ นระยะ เสพติด เวลานานๆ 6. การขาดความรู้
ลกั ษณะและอาการทวั่ ไปของผู้ตดิ สารเสพตดิ 1. สุขภาพทรุดโทรม 2. ริมผปี ากเขียวช้า แห้ง แตก ถ้าเสพโดยการสูบ 3. ตาไม่ค่อยสู้แสงสว่าง 4. นา้ มูกไหล นา้ ตาไหล เหง่ืออกมาก กลน่ิ ตวั แรง สกปรก 5. ร่างกายมรี ่องรอยการเสพตดิ
ลกั ษณะและอาการทวั่ ไปของผู้ตดิ สารเสพตดิ 6. หากเสพโดยการสูบ นิว้ มือ เลบ็ จะมคี ราบเหลืองดา สกปรก 7. การแสดงออกของพฤติกรรมมีลกั ษณะแปลกไปจากปกติ
ลกั ษณะและอาการทวั่ ไปของผู้ตดิ สารเสพตดิ 1. เบื่อหน่ายการงานและการเรียน ละเลยกจิ วตั รประจาวนั 2. ขาดความรับผดิ ชอบในหน้าท่ี 3. บุคลกิ ภาพเสีย ขาดความมน่ั ใจในตวั เอง จติ ใจอ่อนแอ 4. ชอบอย่สู ันโดษ 5. ก้าวร้าว หงุดหงดิ ง่าย ฉุนเฉียวไม่มเี หตุผล
ลกั ษณะและอาการทว่ั ไปของผู้ตดิ สารเสพตดิ 6. มธี ุระส่วนตวั นอกบ้านเสมอ กลบั บ้านผดิ เวลา ไม่ชอบทางาน 7. ใช้เงนิ เปลืองผดิ ปกติ มหี นีส้ ิน บางคร้ังขโมย 8. มอี ปุ กรณ์เกยี่ วกบั สารเสพตดิ
2. ประเภทของสารเสพติด ลกั ษณะการกาเนิด ลกั ษณะการออกฤทธ์ิต่อระบบประสาท สารเสพติดธรรมชาติ กดประสาท สารเสพติดสงั เคราะห์ กระตุน้ ประสาท หลอนประสาท ออกฤทธ์ิผสมผสาน 12
สารเสพตดิ ประเภทกดประสาท ฝิ่ น เป็ นสารท่ีไดจ้ ากยางของผลฝ่ิ น มีลกั ษณะ เหนียว สีน้าตาลไหม้ เม่ือนามาเคี่ยวจะมีสีดา ใชส้ ูดดมควนั หรือไอระเหย หรือกิน โทษของฝ่ิ น ในฝิ่ นมีสารแอลคาลอยด์ (alkaloid) ซ่ึงมีมอร์ฟี นเป็ นองคป์ ระกอบท่ีสาคญั มีฤทธ์ิกดสมองส่วนกลางและไขสันหลงั 13
มอร์ฟี น มีลกั ษณะเป็นผงสีขาวหรือเทา เกือบขาว ไม่มีกลิ่น รสขม ละลายน้าง่าย มีฤทธ์ิสูงกวา่ ฝ่ินประมาณ 8–10 เท่า โทษของมอร์ฟี น มอร์ฟี นจะออกฤทธ์ิ อาการของผู้เสพ เมื่อเสพจะทาให้ ต่อสมองและร่างกายเช่นเดียวกบั ฝ่ิ น ถา้ ใชม้ อร์ฟี นเป็ นเวลานานจะเกิดการ จิตใจเลื่อนลอย อารมณ์ดี ผอมซีด ตา ตา้ นทานยา ทาใหต้ อ้ งเพ่ิมปริมาณ เหม่อลอย ริมฝี ปากเขียวคล้า อ่อนเพลีย ง่าย ความจาเส่ือม ร่างกายทรุดโทรม 14
เฮโรอนี สารเสพติดที่มีฤทธ์ิร้ายแรงท่ีสุดมากกวา่ ฝิ่นถึง 80 เท่า 15
อาการของผู้เสพ เฮโรอีนมีฤทธ์ิกดระบบประสาทส่วนกลาง ทาให้ระงบั อาการ ปวดท่ีรุนแรงได้ ผูเ้ สพจะหายปวด รู้สึกสบาย มีอาการเคลิบเคลิ้ม เซื่องซึม ง่วงนอน ไม่สนใจสิ่งต่าง ๆรอบขา้ ง ผูท้ ่ีเสพเฮโรอีนจนติด ร่างกายจะทรุดโทรม ขอบตาคล้า ดวงตาเหม่อลอย น้าหนักตวั ลดลงอย่างรวดเร็ว สมองและประสาทเส่ือม ความคิด สับสน หากใช้ยาเกินขนาด ฤทธ์ิของเฮโรอีนจะทาให้หัวใจหยุดทางาน เกิดอาการ “ช็อก” ถึงแก่ชีวติ ไดท้ นั ที 16
17
ฝ่ิ น มอรฟ์ ี น โคเดอนี เฮโรอนี
สารเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท โคเคนหรือโคคาอนี เป็นยากระตุน้ ระบบประสาท สกดั จากใบโคคา มีลกั ษณะเป็น ผลึกสีขาว ไม่มีกลิ่น รสขม 20
แอมเฟตามีนหรือยาบ้า อาการเมื่อขาดยา จะหงุดหงิด ซึ มเศร้า อ่อนเพลีย ง่วงนอน หลับ หิวบ่อย และมีอาการอยากยาเป็นพกั ๆ อาการของผู้เสพ เมื่อเสพตอนแรก ๆ จะมีความสุข สนุกสนาน คลายเครียดได้ แต่ถา้ เสพไปนาน ๆ จะทาใหป้ ระสาทมึนงง นอนไม่หลบั หวั ใจเตน้ เร็ว ร่างกายทรุดโทรม อารมณ์แปรปรวนถึงข้นั เพอ้ คลง่ั 21
ยาอี ยาเลิฟ หรือเอค็ ซ์ตาซี่ (ecstasy) เป็นสารเสพติดท่ีใชก้ นั มากในกลุ่ม นกั เท่ียวกลางคืน อาการของผู้เสพ จะทาให้เหงื่อออก หัวใจเตน้ เร็ว รู้สึกสนุกสนาน ไม่สามารถ ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ จึงอาจทาให้เกิดการสาส่อนทางเพศตามมา ผูเ้ สพจะ เคล่ือนไหวร่างกายอยา่ งสนุก ไม่รู้สึกเหนื่อย ซ่ึงอาจทาใหช้ อ็ กและเสียชีวติ ได้ 22
กระท่อม (kratom) เป็นพืชยนื ตน้ ใบคลา้ ยใบกระดงั งา โทษของกระท่อม ทาให้ประสาทมึนชา และประสาทถูกทาลาย เม่ือเสพมาก ๆ จะทาให้ กระวนกระวาย ผิวหนงั แห้งและดาเกรียมคล้าย ถู ก แ ด ด จัด ท้อ ง ผู ก ร่ า ง ก า ย ท รุ ด โ ท ร ม สุขภาพจิตเสีย 23
กระท่อม ภัยเงยี บ...ร้ายแรง...คร่าชีวติ ! กระทอ่ ม... ยาเสพตดิ ประเภท 5 เมอ่ื เสพเบอื้ งตน้ จะทาใหร้ ู้สึกสบาย วอ่ งไว ทางานได้ เมอ่ื เสพต่อเนื่อง จนตดิ จะเกดิ โทษมหันตต์ ่อร่างกายและจติ ใจ ประสาทหลอน นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย สับสน ผวิ หนังดาเกรียม โดยเฉพาะใบหน้า โหนกแก้มท้งั สองข้าง เช่นเดยี วกบั โรคมะเร็งตับ หรือตบั วาย ปากแห้ง คอแห้ง ช่องปากอกั เสบตดิ เชื้อ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว เหน่ือยมาก หัวใจวาย เสียชีวติ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามขอ้ แขน ขา กระตุกและชักเกร็งได้ เบ่ืออาหาร นา้ หนักลด ร่างกายซูบผอม ปวดท้อง ท้องผูกเรื้อรัง อุจจาระดาเป็ นก้อนคล้ายมูลแพะ กระเพาะอาหารและลาไส้อุดตนั แตกทะลุ กระทอ่ ม! ยาเสพตดิ ร้ายแรงกว่าทคี่ ิด เปลี่ยนความเชอื่ ผดิ ๆ เลิกคดิ เลิกลอง เลิกเสพ 24
สารเสพติดประเภทหลอนประสาท แอลเอสดี เป็ นสารสังเคราะห์จากเช้ือรา ชนิดหน่ึงข้ึนอยบู่ นขา้ วไรยห์ รือขา้ วสาลี สารที่ไดจ้ ะเป็นผงสีขาว ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส 25
สารเสพติดประเภทออกฤทธ์ิผสมผสาน 26 กัญชา (cannabis) เป็ นพืชลม้ ลุก ใบเรียว ย า ว แ ต ก เ ป็ น แ ฉ ก ค ล้า ย ใ บ ล ะ หุ่ ง ห รื อ มนั สาปะหลงั น้ามนั ซ่ึงอยู่ในดอกและใบของ กญั ชาเป็นสารที่ทาใหเ้ สพติด อาการของผู้เสพ แรก ๆ จะมีอาการร่าเริง ต่ืนเตน้ หัวเราะง่าย พูดมาก ต่อมาจะง่วงนอน ซึม เห็นภาพหลอนหวาดระแวง หูแวว่ ความคิดสับสน ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ นอกจากน้ีสารพิษใน กญั ชายงั ทาลายระบบภูมิคุม้ กนั ของร่างกาย ทาให้ ร่างกายอ่อนแอติดเช้ือโรคไดง้ ่าย
27
ความสัมพนั ธข์ องการใช้สารเสพตดิ กบั การเกดิ โรคและอบุ ัติเหตุ ประเภทของสารเสพตดิ กับการเกิดโรค บุหรี่ เป็นสารเสพตดิ ทใ่ี หโ้ ทษทง้ั ต่อตนเองและผู้อื่น เพราะในควันบหุ รม่ี ีสารเคมอี ยูม่ ากมาย ซึง่ เปน็ พษิ ภยั ตอ่ สขุ ภาพของ ผู้เสพและผทู้ ีไ่ ด้รบั ควนั บุหรเี่ ขา้ สู่ร่างกาย โดยสารที่อยใู่ นบุหรี่นั้นจะไม่มผี ลทท่ี าใหผ้ ู้สบู ตดิ ได้ แตจ่ ะเปน็ การตดิ ทางใจ ท่เี รยี กวา่ “ส่ิงเสพตดิ นสิ ัย” สูบเพราะความเคยชนิ ถา้ ไมส่ บู จะไมท่ าใหเ้ กดิ อาการ “ลงแดง” เหมือนสารเสพตดิ อนื่ ๆ สารพษิ ท่สี ง่ ผลตอ่ สุขภาพอยา่ งเหน็ ได้ชัด • นิโคติน (Nicotine) • ทาร์ (Tar) หรอื น้ํามันดนิ • แกส๊ ตา่ งๆ • สารก่อมะเร็ง (Carcinogen) ต่างๆ • สารระคายเคอื งตา่ งๆ
โรคที่เกดิ จากการสบู บุหรี่ โรคมะเรง็ ปอด เกดิ จากสารก่อมะเรง็ ชนิดตา่ งๆ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ สารทารท์ ไี่ ด้รบั จากควันบหุ รี่ ถงุ ลมปกติ โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคทีเ่ น้ือปอดและถุงลมปอดถกู ทาลาย ส่งผลใหก้ ารแลกเปลย่ี นออกซเิ จนลดลง ทาให้รู้สึก หายใจไม่เพียงพอหอบเหน่อื ย หายใจลาบากและถี่ขึน้ ซึง่ สาเหตุเกดิ จากการสูบบหุ ร่ี โดยการสูด เอาควันบุหรี่เขา้ ไปในร่างกาย และผ่านเข้าไปในปอด ถงุ ลมโป่งพอง โรคหวั ใจ สารพษิ ทอี่ ย่ใู นควนั บุหร่ี ไดแ้ ก่ แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ และนิโคติน เหล่านี้จะมีผลตอ่ การทางาน ของหวั ใจ ทาให้หลอดเลอื ดตบี ตัน เกิดอาการหัวใจวาย
สมอง ผิวหนัง สายตา ปากและฟัน เล็บ กล่องเสยี ง ผวิ หนัง หวั ใจและหลอดเลือด ปอด ทางเดนิ อาหาร ผลเสียบางส่วนของการสบู บหุ รี่ต่ออวยั วะต่างๆ ในรา่ งกาย
ความสัมพนั ธ์ของการใช้สารเสพติดกบั การเกดิ โรคและอบุ ตั เิ หตุ การเสพยาบ้า มีผลต่อจิตใจทาให้เกิดโรคจิตชนิดหวาดระแวง ส่ งผลให้ มี พฤตกิ รรมเปลยี่ นแปลงไป
เสพยาบ้ามอี าการทางจติ หวาดระแวง
ความสัมพนั ธ์ของการใช้สารเสพติดกบั การเกดิ โรคและอบุ ตั เิ หตุ การเสพสารระเหย เป็ นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ มีอาการระคายเคือง หลอดลมเยื่อบุจมูกมเี ลือดออกหลอดลม ปอดอกั เสบ ระบบทางเดินอาหารจะมี เลือดออกในกระเพาะอาหารเนื้อตับถูกทาลาย ระบบทางเดินปัสสาวะจะทาให้ ไตอกั เสบจนถงึ พกิ าร การดื่มสุรา ทาให้เกิดโรคพิษสุราเรื้อรัง มีโอกาสเป็ นโรคมะเร็งตับเสียชีวิต เจ็บป่ วยหรือพกิ ารจากโรคทส่ี ามารถป้องกนั ได้
สาร ระเหย
แนวทางการป้องกนั และแก้ไขปัญหาสารเสพตดิ แนวทางการป้องกนั การใช้สารเสพตดิ การปฏิบตั ิตวั เพื่อป้องกันไม่ให้ตวั เราใช้สารเสพตดิ
แนวทางการป้องกนั และแก้ไขปัญหาสารเสพตดิ แนวทางการป้องกนั การใช้สารเสพตดิ การสร้างบรรยากาศในครอบครัว ให้อบอุ่น
การมีส่วนร่วมในการป้องกนั สารเสพติดในโรงเรียน 1. ร่วมศึกษาหาความรู้เกยี่ วกบั โทษและอนั ตรายของสารเสพตดิ 2. ร่วมเป็ นแกนนานักเรียนและเยาวชนในโรงเรียน 3. ชักชวนเพื่อนเข้ากล่มุ และเป็ นสมาชิกตามโครงการทูบีนัมเบอร์วนั 4. เฝ้าระวงั และป้องกนั สารเสพติดในโรงเรียน 5. ร่วมกนั ดาเนินกจิ กรรมต่างๆ ในการป้องกนั สารเสพติด 6. ปรึกษาครูเพ่ือประสานหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง 7. ขยายการดาเนินงานเฝ้าระวงั และป้องกนั สารเสพตดิ ออกไปสู่ชุมชน
ไม่ทดลอง รู้จกั สร้างจติ ลกั ษณะ เสพสารเสพตดิ ทุกชนิด ทดี่ ใี ห้แก่ตนเอง แนวทางในการป้องกนั ตนเอง จากสารเสพตดิ เลือกคบเพ่ือนทดี่ ี รู้จักการสร้างทกั ษะชีวติ รู้จกั ใช้วจิ ารณญาณ ใช้เวลาว่างให้เป็ นประโยชน์ ในการแก้ไขปัญหา 38
ทกั ษะในการชักชวนผู้อื่นให้ ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
ทกั ษะในการชักชวนผู้อื่นให้ ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ เลิกสบู บหุ ร่ีได้แล้ว เราเคยเหน็ คนสบู บหุ รี่ หลายคนต้องตายด้วย โรคมะเรง็ ปวด เราไมอ่ ยากเหน็ เธอสบู บหุ ร่ี เลยมนั ไมด่ ีต่อสขุ ภาพ นี่เรา เป็ นห่วงเธอจริงๆ
ทกั ษะในการชักชวนผู้อื่นให้ ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
ทกั ษะในการชักชวนผู้อื่นให้ ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
ทกั ษะในการชักชวนผู้อื่นให้ ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: