PA1-ปีงบประมาณ2565

PA 1/ส

PA 1/ส แบบขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน (PA) สาหรับขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ (ทุกสังกัด) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ระหวา่ งวนั ที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันท่ี 30 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2565 ผ้จู ัดทาข้อตกลง ชือ่ นางสาวประภาศรี นามสกลุ เที่ยงธรรม ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ สถานศึกษา โรงเรียนวัดกลางคลองสาม สังกดั สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 1 รับเงนิ เดอื นในอนั ดบั คศ. 3 อัตราเงินเดือน 36,670 บาท ประเภทหอ้ งเรียนทีจ่ ัดการเรยี นรู้ (สามารถระบุได้มากกว่า 1 ประเภทหอ้ งเรียนตามสภาพการจัดการเรียนรู้จรงิ )  ห้องเรียนวิชาสามญั หรือวชิ าพ้นื ฐาน  ห้องเรยี นปฐมวัย  หอ้ งเรยี นการศกึ ษาพเิ ศษ  หอ้ งเรียนสายวิชาชีพ  หอ้ งเรยี นการศึกษานอกระบบ / ตามอธั ยาศัย ข้าพเจา้ ขอแสดงเจตจานงในการจดั ทาข้อตกลงในการพฒั นางาน ตาแหนง่ ครู (ยงั ไม่มวี ิทยฐานะ) ซึ่งเป็นตาแหน่ง ที่ดารงอย่ใู นปัจจบุ นั กบั ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา ไวด้ ังต่อไปน้ี สว่ นท่ี 1 ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหน่ง 1. ภาระงาน จะมภี าระงานเปน็ ไปตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด 1.1 ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน รวมจานวน 14.86 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ดงั นี้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี - รายวิชาวทิ ยาการคานวณ (ม.1) จานวน 3.30 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - รายวิชาวทิ ยาการคานวณ (ม.2) จานวน 3.30 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าวทิ ยาการคานวณ (ม.3) จานวน 3.30 ชั่วโมง/สัปดาห์ - รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์เพมิ่ เตมิ (ม.1) จานวน 3.30 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น รายวชิ าลูกเสอื -เนตรนารี (ม.2) จานวน 0.83 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น รายวชิ าชุมนุม (ม.2) จานวน 0.83 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 1.2 งานส่งเสริมและสนบั สนุนการจัดการเรยี นรู้ รวมจานวน 14 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - ระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน จานวน 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - ตรวจการบา้ นนกั เรยี น จานวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ - การจัดทาแผนการสอนและผลิตสือ่ การสอน จานวน 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - การมสี ว่ นร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวชิ าชพี จานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 1.3 งานพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา รวมจานวน 7 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ - เจ้าหนา้ ทีท่ ะเบยี นและวดั ผล จานวน 5 ชัว่ โมง/สัปดาห์ - หัวหนา้ กลมุ่ สาระการงานอาชีพ จานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น รวมจานวน 5.50 ชั่วโมง/สัปดาห์ - ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ จานวน 2.50 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - เวรประจาวนั จานวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์

PA 1/ส 2. งานที่จะปฏิบัตติ ามมาตรฐานตาแหน่งครู (ใหร้ ะบรุ ายละเอียดของงานทจ่ี ะปฏบิ ตั ิในแต่ละด้านว่าจะ ดาเนนิ การอย่างไร โดยอาจระบุระยะเวลาทใ่ี ช้ในการดาเนนิ การด้วยกไ็ ด้) ลกั ษณะงานที่ปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชว้ี ัด (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหนง่ ท่จี ะดาเนนิ การพฒั นา ของงานตามข้อตกลงที่ ท่จี ะเกดิ ขน้ึ กบั ผู้เรยี น ตามขอ้ ตกลง ใน 1 รอบการประเมนิ คาดหวงั ให้เกิดขึน้ กบั ผเู้ รยี น ท่แี สดงใหเ้ หน็ ถึงการ (โปรดระบ)ุ (โปรดระบ)ุ เปลีย่ นแปลงไปในทางท่ี ดีขึ้นหรอื มีการพัฒนา มากขน้ึ หรือผลสมั ฤทธิ์ สูงขน้ึ (โปรดระบ)ุ 1. ดา้ นการจดั การเรยี นรู้ 1. วิเคราะห์หลักสตู รและพฒั นา 1. ผเู้ รียนเกดิ การพัฒนา 1. ผเู้ รยี นร้อยละ 80 ลกั ษณะงานท่ีเสนอให้ครอบคลุม หลกั สูตรรายวิชาที่สอน ประกอบไป สมรรถนะและการเรียนรูต้ าม เกิดการพัฒนาสมรรถนะ ถึงการสร้างและหรือพัฒนาหลกั สตู ร ดว้ ยการออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ศักยภาพ มคี ณุ ภาพการ และการเรียนร้ตู าม การออกแบบการจัดการเรียนร้กู ารจัด จากมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชวี้ ัด จัดการเรยี นร้ดู ียิง่ ขน้ึ ศกั ยภาพ มีคณุ ภาพการ กจิ กรรมการเรยี นรกู้ ารสร้างและหรือ จากหลักสตู รสถานศึกษา หลกั สูตร จดั การเรยี นรดู้ ียงิ่ ขน้ึ พฒั นาสอ่ื นวตั กรรม เทคโนโลยี และ ท้องถิ่นและหลกั สูตรแกนกลาง แหลง่ เรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ การจดั การเรียนรู้ การศกึ ษา พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ปรับปรงุ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ เพือ่ แก้ปัญหา 2560) หรือพฒั นาการเรียนรู้ การจดั 2. ผ้เู รียนมคี วามรู้ พัฒนา 2. ผเู้ รยี นร้อยละ 80 มี บรรยากาศทส่ี ง่ เสรมิ และพัฒนาผเู้ รยี น 2. จัดทาแผนการจดั การเรียนรู้โดย ทักษะกระบวนการคดิ ความรู้ พฒั นาทักษะ และการอบรมและพัฒนาคณุ ลกั ษณะ ใช้กระบวนการเรยี นรู้ 5E มา คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ กระบวนการคดิ ท่ีดขี องผเู้ รียน ออกแบบโดยเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ สมรรถนะที่สาคญั ตามตัวชี้วดั คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะที่ สาคัญตามตัวช้วี ัด 3. คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเพื่อ 3. นวตั กรรมเอกสาร 3. ผู้เรยี นร้อยละ 80 ใชป้ ระกอบการจดั การเรยี นรู้ เพอื่ ประกอบการเรยี นรายวชิ า เกิดกระบวนการคิด มี แกป้ ญั หาในการเรียนรู้ เช่น เอกสาร วทิ ยาการคานวณ ระดบั ชั้น ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ประกอบการเรยี น ศนู ยก์ ารเรียนรู้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ทาให้ ดขี ึ้น ออนไลน์ google site เป็นตน้ ผลสัมฤทธิ์ของผ้เู รยี นดีขนึ้ 4.จดั ทาส่ือการสอนท่มี าจากปัญหา 4.ผูเ้ รียนท่ใี ชส้ ่อื ทาให้เกิดการ 4. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80 มี การเรียนรขู้ องผเู้ รียนตามความ พัฒนาการเรียนรตู้ าม ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน แตกต่างระหว่างบุคคลท่สี อดคลอ้ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สงู ขน้ึ กับการวดั ผลประเมินผลตามสภาพ จริง นาผลการวดั ประเมินผลการ เรียนรมู้ ารเิ รม่ิ คิดค้นวธิ แี ก้ไขปญั หา พัฒนาการเรียนรู้ 5. จดั บรรยากาศ โดยผู้เรยี นมีสว่ น 5.ผูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรู้ใน 5. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80 มี ร่วมเพื่อให้น่าสนใจทเี่ ออ้ื ต่อการ บรรยากาศท่ีเหมาะสม เกิด ความพึงพอใจต่อการ เรียนรู้ของผ้เู รียนฝกึ ฝนความเป็น ทักษะทจี่ าเป็นทกั ษะใน เรยี นในรายวชิ า ระเบยี บวนิ ัย/การอบรมคณุ ธรรม ศตวรรษท่ี 21 วทิ ยาการคานวณ จรยิ ธรรมจากการใชท้ กั ษะชวี ติ โดย การแลกเปลย่ี นเรียนรู้

PA 1/ส 2. ด้านการส่งเสรมิ และสนบั สนนุ 1. จดั ทารายงานข้อมลู สารสนเทศ 1. ผเู้ รยี นใชข้ ้อมูลสารสนเทศ 1. ผ้เู รยี นร้อยละ 100 การจดั การเรยี นรู้ ผเู้ รียนรายบคุ คลและขอ้ มลู รายวิชา ท่ีสอนผา่ นระบบออนไลน์ Google ตรวจสอบและรายงานผล ไดใ้ ช้ประโยชนจ์ าก ลักษณะงานท่เี สนอให้ครอบคลุมถึง Meet และ Google classroom ระบบดแู ลชว่ ยเหลือผู้เรยี น สารสนเทศในระบบดแู ล การจัดทาขอ้ มลู สารสนเทศของผู้เรียน 2. การออกเย่ียมบ้าน คัดกรอง และรายวชิ าการดาเนนิ การตามระบบ นกั เรียน มีการประสานงานกับ ผา่ นระบบ School Health ช่วยเหลอื ผู้เรยี นด้วย ดูแลชว่ ยเหลือผเู้ รยี น การปฏิบัตงิ าน ผู้ปกครองทางกลุม่ line ให้เข้ามามี วชิ าการ และงานอนื่ ๆ ของ สว่ นร่วมในการให้ความช่วยเหลือ hero ของตนเอง ระบบ School Health สถานศึกษาและการประสานความ ตามระบบดแู ลชว่ ยเหลือผเู้ รียน รว่ มมอื กบั ผูป้ กครองภาคีเครอื ขา่ ย hero และหรอื สถานประกอบการ 2. ผเู้ รียนและผปู้ กครองมี 2. ผู้ปกครอง/ผูท้ ี่ ส่วนรว่ มกับครูผู้สอนในการ เก่ยี วขอ้ งรอ้ ยละ 100 แกไ้ ขปัญหาผูเ้ รียนในดา้ นการ สามารถรับรู้ เรยี นรูแ้ ละระบบดแู ล ความก้าวหน้าและ ชว่ ยเหลือผู้เรยี นรายบุคคล พฒั นาการของผูเ้ รยี น 3. ปฏบิ ัติหน้าท่ีตามแผนงานของ 3. ผ้เู รยี นไดร้ ับการชว่ ยเหลอื โรงเรียนมกี ารจัดทาโครงการเพื่อ เม่ือเกดิ ปญั หาในระบบดูแล พัฒนาคุณภาพการบริการจัด ชว่ ยเหลือผเู้ รียน เชน่ การ การศกึ ษา เชน่ โครงการพัฒนาการ แนะแนว จัดการเรยี นการสอนคอมพิวเตอร์ โครงการพัฒนางานทะเบียนและ วดั ผล โครงการกลุม่ สาระการงาน อาชพี โครงการสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี น 4.จดั ทางานกลุม่ สาระการงานอาชีพ และกกลมุ่ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี เอกสารต่างๆของงาน ประจาชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2/1 และงานอน่ื ๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย 5.รบั ผิดชอบงานระบบสารสนเทศ ตา่ งๆ เพ่ือชว่ ยสนับสนุนระบบดแู ล ชว่ ยเหลือนกั เรียนและการ ปฏิบัติงานวิชาการเพ่ือผ้เู รยี น เช่น 1. ดูแลจดั ทาข้อมลู นกั เรยี นลงระบบ DMC 2. ดูแลจดั ทาข้อมูลผลการเรยี นของ นักเรยี นลงระบบ SchoolMIS 3. ดูแลจดั ทาข้อมูลผลการเรยี นของ นกั เรยี นลงระบบวัดผล Secondary ระดับมธั ยมศกึ ษา 4. ดูแลจัดทาขอ้ มูลบคุ ลากรใน ระบบ EMIS 5. ดูแลจดั ทาขอ้ มูลลงระบบปัจจัย พนื้ ฐานนักเรียนยากจนพิเศษ(CCT) 6.จดั ทาข้อมูลลงระบบการสอบ Onet ม.3

PA 1/ส ลักษณะงานทีป่ ฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตวั ช้ีวดั (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหน่ง ท่ีจะดาเนินการพัฒนา ของงานตามขอ้ ตกลงท่ี ทจี่ ะเกิดข้ึนกบั ผเู้ รียน ตามขอ้ ตกลง ใน 1 รอบการประเมิน คาดหวงั ให้เกิดขน้ึ กบั ทีแ่ สดงให้เห็นถึงการ 3. ด้านการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพ เปลีย่ นแปลงไปในทางท่ี ลกั ษณะงานท่เี สนอให้ครอบคลุมถงึ (โปรดระบ)ุ ผเู้ รียน (โปรดระบุ) ดีข้นึ หรือมีการพฒั นา มากขึน้ หรอื ผลสัมฤทธิ์ การพฒั นาตนเองอยา่ งเป็นระบบและ 1. การเข้าร่วมการอบรม/การ 1. ใช้ทักษะ/องคค์ วามรู้มา สงู ขน้ึ (โปรดระบ)ุ ตอ่ เนือ่ ง การมสี ่วนรว่ มในการ ประชมุ ในศาสตรว์ ชิ าต่าง ๆ ท่ี บูรณาการ/สอดแทรกใน 1. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80 มี แลกเปลี่ยนเรยี นร้ทู างวชิ าชีพเพ่ือ สามารถนามาพฒั นาการจดั เน้อื หาสาระวิชาในการ ผลสัมฤทธ์ิวชิ าวิทยาการ พฒั นาการจัดการเรยี นรแู้ ละการนา การศกึ ษาและกจิ กรรมการเรยี นรู้สู่ จดั การเรียนรู้หรือพฒั นา คานวณในระดบั คุณภาพ ความรคู้ วามสามารถทกั ษะทไี่ ดจ้ าก ชน้ั เรยี นและการจดั กิจกรรมการ นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ 2.5 ข้นึ ไป การพฒั นาตนเองและวชิ าชพี มาใช้ใน เรยี นการสอนทางออนไลน์ สอดคลอ้ งกับความ การพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ การ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล 2. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80 พัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น และการพฒั นา 2. การทากจิ กรรมชมุ ชนแหง่ การ ไดร้ บั การพฒั นาทักษะ นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ เรยี นรู้ทางวชิ าชีพกับกลุ่มสาระอนื่ ๆ 2. รว่ มกจิ กรรมชุมชนการ กระบวนการคิดจาก เพ่ือแลกเปลีย่ นปัญหาการเรียนรู้ เรยี นร้ทู างวชิ าชีพ นวัตกรรมท่ีครผู สู้ อน ของผูเ้ รยี น แลกเปลย่ี นปญั หาในการ ประยกุ ต์ใช้ จัดการเรียนการสอนของ ผู้เรยี นทีห่ ลากหลาย หมายเหตุ 1. รูปแบบการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานตามแบบ PA1 ให้เป็นไปตามบริบทและสภาพการจัดการเรียนรู้ ของแตล่ ะสถานศกึ ษา โดยความเหน็ ชอบรว่ มกนั ระหวา่ งผ้อู านวยการสถานศกึ ษาและขา้ ราชการครูผู้จัดทาขอ้ ตกลง 2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ต้องเป็นงานในหน้าท่ีความรับผิดชอบหลักที่ส่งผลโดยตรง ต่อผลลพั ธก์ ารเรียนร้ขู องผ้เู รียน และใหน้ าเสนอรายวชิ าหลักท่ีทาการสอน โดยเสนอในภาพรวมของรายวิชาหลักที่ทาการ สอนทกุ ระดับชั้น ในกรณีที่สอนหลายรายวชิ า สามารถเลือกรายวิชาใดวชิ าหน่ึงได้โดยจะต้องแสดงให้เหน็ ถึงการปฏิบตั ิงาน ตามมาตรฐานตาแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงสามารถประเมินได้ตามแบบการ ประเมิน PA 2 3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสาคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Outcomes) และตัวช้ีวัด (Indicators) ท่ีเป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการพฒั นางานตามข้อตกลง ให้ คณะกรรมการดาเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพการจัดการเรียนรู้ในบริบทของแต่ละ สถานศกึ ษา และผลลพั ธก์ ารเรยี นร้ขู องผู้เรียนที่เกดิ จากการพฒั นางานตามขอ้ ตกลงเป็นสาคัญ โดยไม่เน้นการประเมินจาก เอกสาร

PA 1/ส ส่วนท่ี 2 ข้อตกลงในการพฒั นางานทีเ่ ป็นประเดน็ ทา้ ทายในการพัฒนาผลลพั ธก์ ารเรยี นรขู้ องผ้เู รียน ประเดน็ ทที่ ้าทายในการพฒั นาผลลัพธ์การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น ของผจู้ ดั ทาขอ้ ตกลง ซึ่งปจั จุบันดารง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เหน็ ถึงระดับการปฏบิ ัติที่คาดหวังของวทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ คือ การริเร่ิม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น ใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดี ข้ึนหรือมกี ารพัฒนามากขึน้ (ท้งั นี้ ประเดน็ ท้าทายอาจจะแสดงให้เหน็ ถึงระดับ การปฏบิ ัตทิ ่ีคาดหวงั ในวทิ ยฐานะท่ีสงู กว่าได้)ประเดน็ ท้าทาย เรือ่ ง การพัฒนาทกั ษะการคิดเชงิ คานวณ 1. สภาพปัญหาของผู้เรยี นและการจัดการเรยี นรู้ เน่ืองจากในรายวิชาวิทยาการคานวณ ต้องการให้นักเรียนสามารถออกแบบกระบวนการคิดเชิง นามธรรมให้สามารถแกป้ ัญหาในชวี ิตประจาวันได้ และมีการนาเอาเอารูปแบบการเขียนโปรแกรมมาชว่ ยในการแก้ปัญหา ซ่ึงในปีการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า ผู้เรียนยังขาดทักษะคิดเชิงคานวณ การกาหนดตัวแปร เนื่องจากนักเรียนยงั ไมเ่ ข้าใจใน การใช้งานโปรแกรมจึงทาให้ไม่สามารถออกแบบโปรแกรมได้ ดังนั้น เพ่ือให้เกิดการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนักเรยี น ครผู ู้สอนจึงประยุกต์ใช้มาพฒั นาทกั ษะการคานวณของผู้เรยี น และออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ให้นา่ สนใจมากย่งิ ข้ึน 2. วธิ กี ารดาเนนิ การให้บรรลผุ ล ออกแบบและสร้างนวัตกรรมเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาวิทยาการคานวณ ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ขึ้นเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน และจัดทาบทเรียนออนไลน์โดย ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ coding เปน็ ฐาน 3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวงั 3.1 เชิงปรมิ าณ ผู้เรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวน 80 คน โรงเรียนวัดกลางคลองสาม ที่เรียนในรายวิชา วทิ ยาการคานวณ มีผลการพฒั นาทกั ษะการสื่อสารท่ีถกู ตอ้ งและผลสัมฤทธิ์เพ่ิมสงู ขน้ึ ร้อยละ 80 3.2 เชิงคุณภาพ ได้นวัตกรรมท่ีใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาทักษะการคิดเชิงคานวณของผู้เรียนรายวิชา วิทยาการคานวณโดยใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ทิ ลั และ coding เปน็ ฐาน ลงชอ่ื ................................................... (นางสาวประภาศรี เท่ยี งธรรม) ตาแหนง่ ครู คศ.3 ผจู้ ัดทาข้อตกลงในการพฒั นางาน ......./............./...........

PA 1/ส ความเห็นของผ้อู านวยการสถานศึกษา ( ) เหน็ ชอบให้เปน็ ขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ( ) ไม่เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีข้อเสนอแนะเพื่อนาไปแก้ไข และเสนอเพ่ือ พิจารณาอีกครั้ง ดังน้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ................................................................... (นางสาวสพุ ชาต ชมุ่ ชืน่ ) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดกลางคลองสาม ......./.............../............

PA 1/ส