คณะที่ 4 กระบวนงานการปฏิบัติงานกรณีคณะกรรมการเจ้าหน้าที่ถูกฟ้องในคดีปกครอง

- ๖๑ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก วกิชพงษM/ปรกับปรกงุ ก ก ก ก กก ก ก ก ๑ก๙ พกฤศจกิกายน ๒๕๕๖ ก ก กก ก ก ก กก ก ก วิศนี/เพก่มิ เตกมิ ก ก ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก กัญฑรตั นM/เพม่ิ เตมิ ๒๗ กเมษายน ๒ก๕๕๙ก ก ก ก ก กก ก ก ก ก ก กศิรวัชรM/แก-ไข ก ก กก ก ก ก กก ก ๒ กุมกภาพนั ธM ๒ก๕๖ก๐ ก ก ก ก กก ก ก ก ก ก ปณุก กิ า/เพมิ่ เติม ๒๗ กันยายน ๒๕๖๐ ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก ก ก กก ก











































- ๑๖ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕๘ คําส่ังทางปกครองท่ีกําหนดให้กระทําหรือละเว้นกระทํา ถ้าผู้อยู่ใน สํานักบงังานคคับณขะอกงรครํามสกั่งาทรกาฤงษปฎกีกคารองฝ่าฝืนหรสือําไนมัก่ปงาฏนิบคัตณิตะากมรรเมจก้าาหรกนฤ้าษทฎี่อกี าาจใช้มาตรการสบํานังคักงับาทนาคงณปะกกครรรมอกงารกฤษฎกี า อยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ดงั ต่อไปน้ี ส(าํ๑น)กั เงจา้านหคนณ้าะทกี่รเขรม้าดกําารเนกฤินษกฎาีกราด้วยตนเองหรสือํานมกัองบาหนคมณายะใกหรร้บมุคกคาลรกอฤ่ืนษกฎรีกะาทําการแทน โดยผู้อย่ใู นบังคับของคําสั่งทางปกครองจะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มในอัตราร้อยละยี่สิบห้าต่อปี สาํ นกั ขงอานงคคา่ณใะชกจ้ รา่ รยมดกงัากรกลฤ่าษวแฎกกี ่เาจา้ หนา้ ท่ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หม่ืนบาทต่อวัน ส(๒าํ น)กั ใงหาน้มคีกณาระชกํารรรมะคกา่ารปกรฤับษทฎากี งาปกครองตามสจําํานนักวงนานทคี่สณมะคกวรรรแมกก่เาหรกตฤุแษตฎ่ตกี ้อางไม่เกินสอง สํานักงานคณะกรรมการกเจฤ้าษหฎนกี ้าาท่ีระดับใดมีอสําํานนากั จงากนําคหณนะดกคร่ารมปกราับรทกาฤงษปฎกกี คารองจํานวนเทสาํ่านใดักสงาํานหครณับะใกนรกรรมณกาี รกฤษฎกี า ใด ใหเ้ ปน็ ไปตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง สใาํนนกกั รงณานที ค่มี ณคี ะวการมรจมาํกเาปรกน็ ฤทษีจ่ ฎะีกตา้องบังคับการโสดํายนเกั รง่งาดน่วคนณเะพกื่อรปรม้อกงากรันกมฤิใษหฎ้มกี ีกาารกระทําที่ ขัดต่อกฎหมายท่ีมีโทษทางอาญาหรือมิให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ เจ้าหน้าที่อาจใช้ สํานักมงาานตครณกาะรกบรรังมคกับาทรกาฤงษปฎกีกคารองโดยไม่ต้อสงําอนอักกงาคนําคสณ่ังะทการงรปมกกาครรกอฤงษใฎหกี้การะทําหรือละสเวํา้นนักกงราะนทคําณกะ่อกนรรกม็ไกดา้ รกฤษฎกี า แต่ท้งั นี้ต้องกระทาํ โดยสมควรแก่เหตุและภายในขอบเขตอํานาจหนา้ ที่ของตน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕๙ ก่อนใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามมาตรา ๕๘ เจ้าหน้าที่จะต้องมี สํานักคงําานเตคือณนะกเปรร็นมหกนารังกสฤือษใฎหกี ้มาีการกระทําหสรํานือกัลงะาเนวค้นณกะรกะรทรมํากตาารมกฤคษําฎสีกั่งาทางปกครองภสําานยักใงนานระคยณะะเกวรลรมากทาี่ รกฤษฎกี า กาํ หนดตามสมควสรําแนกัก่กงารนณคีณคะาํ กเตรรือมนกดาังรกกลฤ่าษวฎจีกะากําหนดไปพรสอ้ ํามนกักับงาคนําคสณง่ั ะทการงรปมกกคารรกอฤงษกฎ็ไดีก้า คําเตือนนั้นจะตอ้ งระบุ สํานกั งานคณะกรรมการก(๑ฤษ) ฎมกี าาตรการบังคับสทํานากั งงปานกคคณระอกงรทร่ีมจกะาใรชก้ใฤหษ้ชฎัดกี แา จ้ง แต่จะกําสหาํ นนักดงมานาคกณกะวก่ารหรมนกึ่งารกฤษฎีกา มาตรการในคราวเดียวกันไมไ่ ด้ ส(๒าํ น)ักคง่าานใชค้จณ่าะยกใรนรกมากราทรกีเ่ จฤา้ษหฎนีกา้าท่เี ขา้ ดําเนินกสาํานรดักว้งายนตคนณเอะกงหรรรมือกมาอรกบฤหษมฎาีกยาใหบ้ ุคคลอ่ืน กระทําการแทน หรอื จํานวนค่าปรบั ทางปกครอง แลว้ แตก่ รณี สํานกั งานคณะกรรมการกกฤาษรกฎําีกหา นดค่าใช้จ่ายสใํานนคักํางเาตนือคนณะไกมร่เรปม็นกการากรฤตษัดฎสีกิทาธิที่จะเรียกค่าสใําชน้จัก่างยานเพค่ิมณขะึ้นกรหรมากการกฤษฎกี า จะต้องเสียคา่ ใชจ้ ่ายจริงมากกว่าท่ไี ด้กําหนดไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๐ เจ้าหน้าที่จะต้องใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามท่ีกําหนดไว้ในคํา สาํ นกั เงตาือนนคตณาะมกมรรามตกราารก๕ฤ๙ษฎกีกาารเปล่ียนแปลงสมํานากัตงรากนาครณจะะกกรรระมทกําาไรดก้กฤษ็ตฎ่อกีเมา่ือปรากฏว่ามสาาํตนรักกงาารนทคี่กณําะหกรนรดมไกวา้ รกฤษฎีกา ไม่บรรลุตามวตั ถุปสาํรนะกัสงงาคน์ คณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้าผู้อยู่ในบังคับของคําสั่งทางปกครองต่อสู้ขัดขวางการบังคับทางปกครอง สาํ นกั เงจา้านหคนณ้าะทก่ีอรรามจกใชาร้กกําฤลษังฎเขกี ้าาดําเนินการเพสื่อํานใหกั ง้เปาน็นคไณปะตการมรมมากตารรกกฤาษรฎบีกังคา ับทางปกครอสงําไนดัก้ งแาตน่ตค้ณองะกกรรระมทกําารกฤษฎกี า โดยสมควรแก่เหตุ ในกรณีจาํ เป็นเจา้ หน้าทีอ่ าจขอความชว่ ยเหลอื จากเจ้าพนกั งานตาํ รวจได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖๑ ในกรณีไมม่ ีการชาํ ระคา่ ปรบั ทางปกครอง ให้เจ้าหน้าท่ีดําเนินการต่อไป สํานักตงาามนคมณาตะรการร๕ม๗การกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมําานตกั รงาาน๖ค๒ณะกผรู้ถรูกมดกําารเนกิฤนษกฎารกี ตาามมาตรการสบําังนคกั ับงาทนาคงณปะกกครรรอมงกอารากจฤอษุทฎธีกราณ์การบังคับ สํานักทงาานงปคกณคะรกอรรงมนก้ันาไรดก้ ฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การอุทธรณ์การบังคับทางปกครองให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกันกับการ สํานักองุทานธครณณะ์คกํารสร่งัมทกาางรปกฤกษคฎรอกี าง สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมําานตกั รงาาน๖ค๓ณะกถรา้ รบมทกการฎกหฤมษาฎยีกใาดกําหนดมาตสรํากนากั รงบางันคคับณทะกางรปรมกกคารรอกงฤไษวฎ้โดกี ยา เฉพาะแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เห็นว่ามาตรการบังคับน้ันมีลักษณะท่ีจะเกิดผลน้อยกว่ามาตรการบังคับตามหมวดน้ี สาํ นักเงจา้านหคนณา้ ะทกีจ่ ระรมใชกม้ารากตฤรษกฎารกี บา งั คบั ทางปกคสรํานอักงตงาานมคหณมะวกดรนรมี้แกทานรกกฤ็ไดษ้ ฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๓ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สรําะนยักะงเาวนลคาณและกะรอรามยกคุ าวรกามฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖๔ กําหนดเวลาเป็นวัน สัปดาห์ เดือน หรือปีนั้น มิให้นับวันแรกแห่ง สาํ นกั รงะายนะคเณวละการนร้ันมรกวามรกเขฤ้าษดฎว้ กี ยา เว้นแต่จะไดสเ้ รําิ่มนักกงาารนใคนณวนัะกนรัน้ รหมรกือารมกกี ฤาษรฎกีกาํ าหนดไวเ้ ป็นอยส่าํางนอักน่ื งโาดนยคเณจะ้ากหรนร้ามทกี่ารกฤษฎีกา ในกรณีที่เจ้าหน้าที่มีหน้าท่ีต้องกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดภายในระยะเวลาท่ี กําหนด ให้นับวันสสําิ้นนกัสงุดาขนอคงณระะกยระรเมวกลาารนกฤั้นษรฎวมกี าเข้าด้วยแม้ว่าสวําันนสักุดงาทน้าคยณเปะก็นรวรันมหกายรุดกทฤํษากฎากี รางานสําหรับ เจา้ หน้าท่ี สํานักงานคณะกรรมการกในฤษกฎรีกณาีท่ีบุคคลใดตส้อํางนทักํางากนาครณอะยก่ารงรหมกนา่ึงรอกยฤ่ษางฎใีกดาภายในระยะสเําวนลักางทาน่ีกคําณหะนกดรรโมดกยารกฤษฎีกา กฎหมายหรือโดสยําคนําักสงั่งานขคอณงเะจก้ารหรมนก้าาทรกี่ ถฤ้ษาวฎันกี าสุดท้ายเป็นวสันําหนักยงุดาทนํคากณาะรกงรารมนกสาํารหกฤรษับฎเจกี ้าาหน้าที่หรือ วันหยุดตามประเพณีของบุคคลผู้รับคําส่ัง ให้ถือว่าระยะเวลาน้ันส้ินสุดในวันทํางานท่ีถัดจากวันหยุด สํานักนง้ันานเควณ้นะแกตรก่ รฎมกหามรากยฤหษรฎือกี เาจา้ หนา้ ทีท่ ่มี ีคสําําสนง่ั กั จงะานกคําหณนะกดรไรวมเ้ ปก็นารอกยฤ่าษงฎอกี่นื า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๖ค๕ณะกรระรยมะกเาวรลกาฤทษี่กฎําีกหานดไว้ในคําสส่ังขํานอักงงเจาน้าคหณนะ้ากทร่ีอรามจกมารีกกาฤรษขฎยีกาายอีกได้ และ ถา้ ระยะเวลานัน้ ได้สิน้ สุดลงแลว้ เจา้ หน้าที่อาจขยายโดยกําหนดใหม้ ีผลยอ้ นหลังไดเ้ ช่นกนั ถา้ การส้ินสุด สาํ นักตงาามนคระณยะะกเรวรลมากเาดริมกจฤะษกฎอ่ กี ใาหเ้ กดิ ความไมสเ่ ําปน็นกั ธงรานรมคณท่จีะกะรใหรมส้ กนิ้ าสรกดุ ฤลษงตฎาีกมานั้น สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ านตกั รงาาน๖คณ๖ะกใรนรกมรกณารีทกฤี่ผษู้ใดฎไีกมา่อาจกระทํากสาํารนอักยงา่านงคหณนะึ่งกอรยร่ามงกใาดรภกฤาษยฎในีกราะยะเวลาที่ กําหนดไว้ในกฎหมายได้เพราะมีพฤติการณ์ที่จําเป็นอันมิได้เกิดขึ้นจากความผิดของผู้น้ัน ถ้าผู้นั้นมีคํา สํานกั ขงอานเจค้าณหะนก้ารทรมี่อกาาจรขกยฤาษยฎรีกะายะเวลาและดสําํานเนักินงากนาครณสะ่วกนรหรนมก่ึงสาร่วกนฤใษดฎทีกี่ลา่วงมาแล้วเสียสใาํหนมัก่กง็ไาดน้คณทะั้งกนรี้ รตม้อกงารกฤษฎีกา ยืน่ คําขอภายในสสบิ าํ หนา้ักวงนัานนคบั ณแะตก่พรรฤมตกกิ าารรกณฤษ์เชฎน่ กี วา่านนั้ ไดส้ ิ้นสดุ สลํางนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา ๖๗ เมื่อมีสกําานรักองุทานธครณณะ์ตกรารมมบกาทรบกฤัญษญฎัีกตาิในส่วนท่ี ๕ สขาํ อนงักหงามนวคดณะ๒กรแรมหก่งารกฤษฎีกา พระราชบัญญัติน้ี หรือการยื่นคําขอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทหรือคณะกรรมการวินิจฉัยร้อง ทกุ ขต์ ามกฎหมายสวํานา่ ดกั ้วงายนคคณณะะกกรรรรมมกกาารรกกฤฤษษฎฎีกกีาาเพอ่ื ใหว้ นิ ิจสฉํายั นชักี้ขงาาดนแคลณว้ ะใกหร้อรมายกคุารวกาฤมษสฎะกี ดาุดหยุดอยู่ไม่ นับในระหว่างน้ันจนกว่าการพิจารณาจะถึงที่สุดหรือเสร็จไปโดยประการอื่น แต่ถ้าเสร็จไปเพราะเหตุ สํานักถงอานนคคณาํ ขะกอรหรรมือกทาริ้งกคฤาํ ษขฎอกีใหา้ถอื ว่าอายุควสาํามนเักรงยี ากนรคอ้ ณงะขกอรงรผม้ยู กืน่ ารคกําฤขษอฎไมีกเ่าคยมกี ารสะดดุสําหนยักดุ งอานยคู่เลณยะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี าหมวด ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานกคาณระแกจร้งรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๘ บทบัญญตั ใิ นหมวดนี้มิให้ใช้บังคับกับการแจ้งซึ่งไม่อาจกระทําโดยวาจา หรอื เปน็ หนงั สอื ไดสาํ้หนรักืองมานีกคฎณหะมการยรกมํากหารนกดฤวษธิ ฎกี กี าารแจ้งไว้เป็นอสยําา่ นงอักง่นื านคณะกรรมการกฤษฎกี า ในกรณีคาํ สง่ั ทางปกครองที่แสดงใหท้ ราบโดยการส่ือความหมายในรูปแบบอ่ืนตามที่ สํานกั กงําาหนคนณดใะนกรกรฎมกกราะรกทฤรษวงฎีกใหา ้มผี ลเม่ือไดแ้ สจําง้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตกั งราานค๖ณ๙ะกรกรามรกแารจก้งฤคษําฎสีก่ังาทางปกครอสงํานกกัางรานนัดคณพิะจการรรณมกาารหกรฤือษกฎาีกราอย่างอ่ืนท่ี สาํ นกั เงจา้านหคนณ้าะทก่ีตรร้อมงกแาจร้งกใฤหษ้ผฎู้ทีกี่เาก่ียวข้องทราบสอํานากัจงการนะคทณําะดก้วรยรวมากจารากกฤ็ไดษ้ฎแีกตา่ถ้าผู้น้ันประสสงาํ คน์จักะงใาหนค้กณระะทกรํารเปมก็นารกฤษฎีกา หนังสือก็ให้แจ้งเป็นหนงั สอื สกาํ านรกั แงจาน้งเคปณ็นะหกนรรังมสกือาใรหก้สฤ่งษหฎนีกังาสือแจ้งต่อผู้นสั้นํานหักงราือนถค้าณไดะก้สร่งรไมปกยาังรภกูมฤิลษําฎเกี นาาของผู้นั้นก็ ใหถ้ อื วา่ ไดร้ ับแจง้ ตง้ั แต่ในขณะทไ่ี ปถึง สาํ นักงานคณะกรรมการกในฤษกฎารีกดาําเนินการเร่ืสอํางนใดกั งทาี่มนีกคณาระใกหร้รทม่ีอกยาู่ไรวก้กฤับษฎเจีก้าาหน้าที่ไว้แล้วสํากนาักรงแาจน้งคไณปะยกังรทรมี่อกยาู่ รกฤษฎกี า ดังกล่าวให้ถือวา่ เปน็ การแจ้งไปยงั ภูมลิ ําเนาของผนู้ นั้ แล้ว สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๗๐ การแจ้งเป็นหนังสือโดยวิธีให้บุคคลนําไปส่ง ถ้าผู้รับไม่ยอมรับหรือถ้า สาํ นกั ขงณานะคนณําะไกปรสร่งมไกมา่พรกบฤผษู้รฎับีกาและหากได้ส่งสใําหน้กกั ับงาบนุคคคณละใกดรซรมึ่งกบารรรกลฤุนษิตฎิภีกาาวะที่อยู่หรือทสําาํ นงาักนงาในนคสณถะากนรทรี่นมก้ันารกฤษฎีกา หรือในกรณีที่ผู้นั้นสําไนมกั่ยงอามนรคับณะหการกรมไดก้วารากงฤหษนฎังกีสาือนั้นหรือปิดหสนํานังกัสงือานน้ันคไณวะ้ใกนรทรี่ซม่ึงกเาหรก็นฤไดษ้งฎ่าีกยา ณ สถานที่ นน้ั ต่อหน้าเจา้ พนกั งานตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวงที่ไปเปน็ พยานกใ็ หถ้ ือว่าไดร้ บั แจ้งแลว้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗๑ การแจ้งโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับให้ถือว่าได้รับแจ้งเม่ือครบ กําหนดเจ็ดวันนับสําแนตัก่วงันานสค่งณสะํากหรรรับมกการรณกฤีภษาฎยกี ใานประเทศ หรสือํานเมกั ง่ือาคนรคบณกะํากหรรนมดกสาริบกหฤ้ษาวฎันกี นา ับแต่วันส่ง สาํ หรบั กรณสี ง่ ไปยงั ต่างประเทศ เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการได้รับหรือได้รับก่อนหรือหลังจาก สํานักวงนั านนคัน้ ณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตักงราานค๗ณ๒ะกรใรนมกกรารณกีทฤษ่ีมฎีผีกู้ราับเกินห้าสิบสคํานนเักจง้าานหคนณ้าะทกี่จรระมแกจา้งรกใหฤษ้ทฎรีกาาบตั้งแต่เร่ิม ดําเนินการในเร่ืองน้ันว่าการแจ้งต่อบุคคลเหล่าน้ันจะกระทําโดยวิธีปิดประกาศไว้ ณ ท่ีทําการของ สาํ นักเงจา้านหคนณ้าะทก่ีแรรลมะกทา่ีวร่ากกฤาษรฎอกี ําาเภอที่ผู้รับมีภสูมํานิลกัํางเนานาคกณ็ไดะ้กใรนรกมรกณารีนกี้ใฤหษ้ถฎือีกวา่าได้รับแจ้งเมสื่อําลน่วักงงพาน้นครณะะยกะรเรวมลกาารกฤษฎกี า สบิ ห้าวนั นบั แตว่ ันสทําน่ีไกัดงแ้ าจน้งคโณดยะกวริธรดี มงั กกาลร่ากวฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๗๓ ในกรณสีทําี่ไนมกั ่รงู้ตานัวคผณู้รับะกหรรรือมรกู้ตารัวกแฤตษ่ไฎมกี่ราู้ภูมิลําเนา หรสือํารนู้ตักัวงแานลคะณภูมะกิลรํารเมนกาารกฤษฎีกา แต่มีผู้รับเกินหน่ึงร้อยคน การแจ้งเป็นหนังสือจะกระทําโดยการประกาศในหนังสือพิมพ์ซ่ึงแพร่หลาย ในท้องถิ่นนั้นก็ไดส้ าํในนักกงราณนคีนณ้ีใหะก้ถรือรวม่ากไาดร้รกับฤแษจฎ้งีกเาม่ือล่วงพ้นระสยําะนเกัวงลาานสคิบณหะ้ากวรันรมนกับาแรกตฤ่วษันฎทีกี่ไาด้แจ้งโดยวิธี ดังกล่าว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗๔ ในกรณีมีเหตุจําเป็นเร่งด่วนการแจ้งคําสั่งทางปกครองจะใช้วิธีส่งทาง เคร่ืองโทรสารก็ไดสํา้ แนตกั ง่ตา้อนงคมณีหะลกักรรฐมากนากรากรฤไษดฎ้สีก่งาจากหน่วยงานสผํานู้จักัดงบานริคกณาระโกทรรรคมมกานรากคฤมษทฎ่ีเีกปา็นส่ือในการ สํานักสง่งาโนทครณสะากรรนรนั้มกแาลรกะฤตษ้อฎงจีกัดา ส่งคําสัง่ ทางสปํากนคกั รงอานงตคัวณจะรกงิ รโรดมยกวาิธรีใกดฤวษิธฎีหีกนา่ึงตามหมวดนสี้ใําหน้แักกงา่ผนู้รคับณในะกทรันรทมกีทาี่ รกฤษฎีกา

- ๑๙ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาจกระทาํ ได้ ในกรณนี ใี้ ห้ถือวา่ ผรู้ บั ได้รบั แจ้งคําสั่งทางปกครองเป็นหนังสือตามวัน เวลา ท่ีปรากฏใน สาํ นักหงลานกั คฐณานะกขรอรงมหกนาร่วกยฤงษานฎผกี จู้าดั บริการโทรสคํามนนักางคานมคดณงั กะกลร่ารวมเกวา้นรกแฤตษ่จฎะีกมาีการพิสูจน์ได้วส่าําไนมัก่มงีกานาครไณดะ้รกับรหรมรกือารกฤษฎีกา ได้รบั ก่อนหรอื หลงั จากน้ัน สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎคกีณาะกรรมการทสมี่ ําีอนาํ ักนงาาจนดคําณเะนกนิ รกรมารกพารจิ กาฤรษณฎาีกทาางปกครอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๗๕ การแต่งสตํา้ังนกกั รงรานมคกณาระใกนรลรมักกษาณรกะฤทษี่เฎปกี็นาผู้ทรงคุณวุฒิใสหํา้แนตัก่งงาตนั้งคโดณยะรกะรบรมุตกัวารกฤษฎีกา บคุ คล สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗๖ นอกจากพ้นจากตําแหนง่ ตามวาระ กรรมการพ้นจากตาํ แหน่งเมือ่ สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษตฎากี ยา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๒) ลาออก สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส(๓ําน)กั เงปา็นนบคณคุ คะกลรลรม้ มลกะารลกาฤยษฎกี า (๔) เปน็ คนไร้ความสามารถหรอื คนเสมอื นไร้ความสามารถ สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๕ฤ)ษไฎดีก้ราับโทษจําคุกโดสํายนคักาํ งพานพิ คาณกษะการถรึงมทกี่สาุดรกใหฤษ้จฎําคกี ุกา เว้นแต่เป็นคสวําานมักผงาิดนลคหณุโะทกษรหรมรกือารกฤษฎีกา ความผิดอันไดก้ รสะาํทนาํ ักโงดายนปครณะะมการทรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๖) มีเหตุต้องพน้ จากตาํ แหน่งก่อนครบวาระตามกฎหมายว่าดว้ ยการนน้ั สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๗๗ ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ผู้มีอํานาจแต่งต้ังอาจ แต่งตั้งผู้อ่ืนเป็นกสราํ รนมกั กงาานรคแณทะนกไรดร้ มแกลาะรใกหฤ้ผษู้ทฎีกี่ไดา้รับแต่งต้ังใหส้ดําํานรักงงตานําแคณหนะก่งรแรทมนกาอรยกู่ใฤนษตฎําีกแาหน่งเท่ากับ วาระท่เี หลอื อยขู่ องผู้ซงึ่ ตนแทน สํานักงานคณะกรรมการกในฤษกฎรณกี าีที่มีการแต่งตสั้งํากนรักรงมานกคาณรเะพก่ิมรรขม้ึนกใานรกรฤะษหฎวกี่าางท่ีกรรมการซส่ึงาํ แนตัก่งงตาน้ังคไวณ้แะลก้วรรยมังกมาี รกฤษฎกี า วาระอยู่ในตําแหน่ง ให้ผู้ท่ีได้รับแต่งต้ังให้เป็นกรรมการเพิ่มข้ึนอยู่ในตําแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ ของกรรมการท่ีไดสร้ ําบันแกั งตา่งนตคง้ั ณไวะแ้ กลรรว้ มการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๗๘ ภายใต้บสําังนคกัับงมานาตคณราะก๗ร๖รมกกาารรกใฤหษ้กฎรีกรมา การในคณะกสรํานรักมงกาานรควณินะิจกฉรัยรมขก้อารกฤษฎกี า พิพาทพ้นจากตาํ แสหาํ นนักง่ งกา่อนนคคณระบกรวรามรกะาจระกกฤรษะฎทกี ําามไิ ด้ เว้นแต่กสรําณนีมักงีเหานตคุบณกะพกรร่อรมงอกยาร่ากงฤยษิ่งฎต่อกี าหน้าท่ีหรือมี ความประพฤติเสื่อมเสยี อย่างรา้ ยแรง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๕ วรรคสอง การประชุมของคณะกรรมการต้อง มีกรรมการมาปรสะาํ ชนุมักองายน่าคงณน้อะกยรกรึ่งมหกนาร่ึงกจฤึงษจฎะีกเปา็นองค์ประชุมสํานเวัก้นงแานตค่บณทะบกัญรรญมกัตาิแรหก่ฤงกษฎฎหีกามายหรือกฎ หรือคําสงั่ ทีจ่ ัดให้มคี ณะกรรมการชดุ นั้นจะกําหนดไวเ้ ป็นอยา่ งอื่น สาํ นักงานคณะกรรมการกในฤกษรฎณีกาีมีกรรมการคสรบํานทกั ่ีจงะานเปค็นณอะกงครร์ปมรกะาชรุมกฤไดษ้ฎแีกตา่การพิจารณาสเรําน่ือักงใงดานถค้าณต้อะกงรเลรม่ือกนารกฤษฎกี า มาเพราะไม่ครบองค์ประชุม ถ้าเป็นการประชุมของคณะกรรมการซ่ึงมิใช่คณะกรรมการวินิจฉัยข้อ พิพาท หากได้มีกสาํานรักนงัดานปครณะชะกุมรเรรม่ือกงานรก้ันฤอษีกฎภกี าายในสิบส่ีวันสนําับนแักตงา่วนันคนณัดะกปรรระมชกุมารทก่ีเฤลษื่อฎนีกมาา และการ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๒๐ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ประชุมคร้ังหลังน้ีมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจํานวนกรรมการทั้งหมด ให้ถือว่า สํานักเงปา็นนอคงณคะป์ กรระรมชกุมารแกตฤ่ทษ้ังฎนกี ้ตี า้องระบคุ วามปสํารนะักสงงาคนใ์คหณเ้ กะกดิ รผรลมตกาามรกบฤทษบฎญั กี าญตั ิน้ีไว้ในหนงั สสาํ อืนนักงดั าปนรคะณชะมุ กดรรว้ มยการกฤษฎกี า สมําานตักรงาาน๘ค๐ณะกกรารรมปกราะรชกมุฤษใหฎ้เกี ปาน็ ไปตามระเบสยี ํานบกักงาารนทคคี่ ณณะกะรกรรมรกมากรากรฤกษาํ ฎหีกนาด การนัดประชุมต้องทําเป็นหนังสือและแจ้งให้กรรมการทุกคนทราบล่วงหน้าไม่น้อย สํานักกงวาน่าสคาณมะวกันรรเมวก้นาแรกตฤ่กษรฎรีกมาการน้ันจะได้ทสํารนาักบงกาานรคบณอะกกนรรัดมใกนาทรกี่ปฤรษะฎชกีุมาแล้ว กรณีดังกสลาํ น่าวักนงาี้จนะคทณําะหกนรรังมสกือารกฤษฎีกา แจ้งนัดเฉพาะกรรสบมําทนกักาบรงัญาทนญ่ีไคมัตณ่ไิดใะนม้กวรารรปมรรคกะาสชรอุมกงกฤมษไ็ ดิใฎห้ กี ้นาํามาใช้บังคับสใํานนกักงราณนคีมณีเหะตกรุจรํามเกปา็นรเกรฤ่งษดฎ่วกี นาซ่ึงประธาน สํานกั กงรารนมคกณาะรกจระรนมกัดาปรรกะฤชษมุ ฎเีกปาน็ อยา่ งอื่นกไ็ ดสํา้ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตักรงาาน๘คณ๑ะกปรรรมะกธาารนกกฤษรรฎมีกกา ารมีอํานาจสหํานน้าักทงา่ีดนําคเณนินะกกรารรมปการระกชฤุมษฎแีกลาะเพ่ือรักษา ความเรยี บร้อยในการประชมุ ใหป้ ระธานมอี ํานาจออกคาํ สงั่ ใด ๆ ตามความจาํ เปน็ ได้ สํานกั งานคณะกรรมการกถฤ้าษปฎระกี ธาานกรรมการสไมําน่อักยงใู่ านนทคป่ีณระะกชรรุมมหกราอื รไกมฤ่สษาฎมีกาารถปฏิบัติหน้าสทํานี่ไดัก้ใงหาน้รคอณงปะกระรรธมากนารกฤษฎกี า กรรมการทาํ หนา้ ท่แี ทน ถ้าไมม่ ีรองประธานกรรมการหรือมแี ตไ่ ม่สามารถปฏบิ ัติหนา้ ทไี่ ด้ ให้กรรมการ ที่มาประชมุ เลอื กสกาํรนรักมงกาานรคคณนะหกนรรึง่ มขกึน้ าทรกาํ ฤหษนฎ้าีกทา่ีแทน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ในกรณีท่ีประธานกรรมการมีหน้าท่ีต้องดําเนินการใด ๆ นอกจากการดําเนินการ สาํ นกั ปงรานะคชณุมใะหก้นรราํ มคกวาารมกใฤนษวฎรกีราคสองมาใชบ้ ังสคําบันโักดงยานอคนณโุ ละมกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๘๒ การลงมติของทีป่ ระชุมใหถ้ อื เสียงข้างมาก สาํ นักงานคณะกรรมการกกฤรษรมฎกกี าารคนหนึ่งให้มสํีาหนนักึ่งงเาสนียคงณในะกกรารรมลกงาคระกฤแษนฎนกี ถา ้าคะแนนเสียสงาํ เนทัก่างกาันนคใหณ้ปะรกะรรธมากนารกฤษฎีกา ในทป่ี ระชมุ ออกเสยี งเพม่ิ ขนึ้ อกี เสยี งหนึ่งเปน็ เสียงชข้ี าด สเํารนื่อกังงใาดนถค้าณไมะ่มกรีผรู้คมัดกคาร้ากนฤษใหฎ้ปกี ราะธานถามท่ีปสรํานะักชงุมาวน่าคมณีผะู้เกหร็นรมเปก็นารอกยฤ่าษงฎอีก่ืนาหรือไม่ เมื่อ ไม่มีผเู้ ห็นเป็นอยา่ งอืน่ ใหถ้ ือวา่ ทีป่ ระชุมลงมติเหน็ ชอบในเรอ่ื งนั้น สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๘๓ ในการประชมุ ตอ้ งมีรายงานการประชุมเปน็ หนังสือ สถาํ ้านมกั ีคงาวนาคมณเหะก็นรแรยม้งกใาหร้กบฤันษทฎึกีกคาวามเห็นแย้งสพํารน้อักมงาทนั้งคเณหตะกุผรลรไมวก้ใานรรกาฤยษงฎาีกนาการประชุม และถา้ กรรมการฝา่ ยขา้ งนอ้ ยเสนอความเหน็ แย้งเป็นหนงั สือกใ็ ห้บันทึกความเหน็ แยง้ นน้ั ไว้ด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ านตักรงาาน๘คณ๔ะกครรํามวกินาิจรกฉฤัยษขฎอีกงาคณะกรรมกาสรํานวิกันงิจาฉนัยคณข้อะกพริพรมากทาตร้อกฤงษมฎีลีกาายมือชื่อของ กรรมการท่ีวินิจฉัยเรอื่ งนน้ั สํานักงานคณะกรรมการกถฤ้าษกฎรกีรามการคนใดมสีคําวนากั มงเาหน็คนณแะยก้งรรใมหก้มาีสริทกฤธษิทฎํากี คาวามเห็นแย้งขสําอนงักตงนานรควณมไะวก้ใรนรมคกําารกฤษฎกี า วินจิ ฉัยได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า บทเฉพาะกาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๒๑ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๘๕ ให้ถือว่าระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อ สํานักปงรานะคชณาชะนกรขรอมงกหานรก่วฤยษงาฎนกี ขา องรัฐ พ.ศ. ๒สํา๕น๓ัก๒งานเปค็นณระะกเรบรียมบกาทรี่คกณฤษะฎรีกัฐามนตรีวางขึ้นตสาํามนมักงาาตนรคาณ๓ะ๓กรรแมหก่งารกฤษฎกี า พระราชบัญญัตินี้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๘๖ บรรดาคําขอเพื่อให้มีคําสั่งทางปกครองท่ีเจ้าหน้าท่ีได้รับไว้ก่อนที่ สาํ นกั พงรานะครณาชะบกรัญรญมกัตาินรกี้ใชฤ้บษฎังคกี ับา ให้เจ้าหน้าทสําี่ทนํากั กงาานรพคณิจาะรกณรรามคกําาขรกอฤดษังฎกกีลา่าวตามหลักเกสณาํ นฑัก์ทงาี่กนฎคหณมะากยรหรมรกือารกฤษฎกี า กฎสาํ หรบั เรื่องนั้นสําไนดกั้กงาํ าหนนคดณไะวก้ รรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๘๗ เมื่อได้มสีกํานาักรจงาัดนตคั้งณศะากลรปรมกกคารรอกงฤขษึ้นฎแีกลา้ว บทบัญญัตสิมํานาตักงราาน๔คณ๘ะกใหรร้เปมก็นารกฤษฎกี า อนั ยกเลิก สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงาผนูร้ คับณสะนกอรรงมพกราะรบกรฤมษรฎาีกชาโองการ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บรรหาร ศลิ ปอาชา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า นายกรสฐั ํามนนักตงารนี คณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๒๒ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยท่ีการดําเนินงานทางปกครองใน สาํ นกั ปงัจานจคุบณันะยกังรไรมม่มกีหารลกักฤเษกฎณีกาฑ์และขั้นตอนสทําน่ีเักหงมานาะคสณมะกจรึงรมสกมาครวกรฤกษําฎหีกนา ดหลักเกณฑส์แาํ นลักะงขา้ันนตคอณนะกตร่ารงมกๆารกฤษฎีกา สําหรับการดําเนินงานทางปกครองขึ้นเพ่ือให้การดําเนินงานเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย มี ประสิทธิภาพในกสาาํ รนใกั ชง้บานังคคณับะกกฎรหรมมกาายรใกหฤ้สษาฎมีกาารถรักษาประสโํายนชกั นง์สานาคธาณระณกระรไมดก้ าแรลกะฤอษําฎนกี วายความเป็น ธรรมแก่ประชาชน อีกทั้งยังเปน็ การป้องกันการทจุ ริตและประพฤติมชิ อบในวงราชการ จึงจําเป็นต้อง สํานักตงราานพครณะะรการชรบมกญั าญรกัตฤนิ ษ้ี ฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า กสฤาํษนดักางยานทุ คธณ/ปะรกบัรรปมรกุงารกฤษฎกี า ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา วชิ พงษ์/ตรวจ ๑๙สํากนุมักภงาานพคนั ณธะ์ ๒กร๕ร๕มก๖ารกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ภาคผนวก 5 ใบมอบอาํ นาจ

ใบมอบฉนั ทะ/ใบมอบอาํ นาจ คดีหมายเลขดาํ ท่ี............./๒๕...... คดีหมายเลขแดงที่.........../๒๕...... ศาลปกครองระยอง วนั ที่….… เดือน…...................พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ ผฟู้ ้องคดี ระหว่าง ผ้ถู กู ฟ้องคดี ขา้ พเจา้ คณะกรรมการพจิ ารณากําหนดราคาค่าชดเชยพเิ ศษแทนการจดั แปลงอพยพ ขอมอบฉนั ทะ/มอบอาํ นาจให้ อยทู่ ่ี เลขท่ี หมทู่ ่ี ถนน ตรอก/ซอย ตาํ บล/แขวง อาํ เภอ/เขต จงั หวดั รหสั ไปรษณยี ์ โทรศพั ท์ ทําการแทน โดยขา้ พเจา้ ยอมรบั ผดิ ชอบในการทผ่ี รู้ บั มอบฉันทะ/ผรู้ บั มอบอํานาจของขา้ พเจา้ ไดท้ ํา การไปนนั้ ทุกประการ ในกจิ การดงั จะกลา่ วต่อไปน้ี ยน่ื คาํ ฟ้องและคาํ ใหก้ าร ตลอดจนดาํ เนินคดปี กครอง คดนี ้ีจนถงึ ท่สี ุด และให้มอี ํานาจดําเนินกระบวนการพจิ ารณาใดไปในทางจําหน่ายสทิ ธขิ องขา้ พเจ้า เช่น การยอมรบั ตามท่ีคู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงเรยี กร้อง การประนีประนอมยอมความ การสละสทิ ธิ หรอื ใช้สทิ ธิ ในการอุทธรณ์ และแก้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด หรอื ในการขอให้พจิ ารณาคดใี หม่ ตลอดจนรบั เงนิ ค่าธรรมเนียมศาล รบั เอกสาร หรือสิง่ อ่ืนใดจากศาลแทนข้าพเจ้าได้ และให้มีอํานาจมอบอํานาจช่วง ในกจิ การทงั้ หมดดงั กลา่ ว ลงชอ่ื ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ชลบุรี ผมู้ อบฉนั ทะ/ผมู้ อบอาํ นาจ ( ) ( ) ลงช่อื ...

-๒- ลงชอ่ื ) ( เจา้ พนกั งานทด่ี นิ จงั หวดั ชลบรุ ี ลงชอ่ื ) ( นายอาํ เภอเกาะจนั ทร์ ลงชอ่ื ) ( นายอาํ เภอบอ่ ทอง ลงชอ่ื () ผอู้ าํ นวยการสาํ นกั งานจดั การทรพั ยากรป่าไมท้ ่ี 9 (ชลบรุ )ี ลงชอ่ื () นายชา่ งควบคมุ โครงการ กรมชลประทาน ลงชอ่ื () หวั หน้าฝ่ายจดั หาทด่ี นิ ท่ี ๑ สว่ นจดั หาทด่ี นิ ท่ี ๓ ลงชอ่ื ผรู้ บั มอบฉนั ทะ/ผรู้ บั มอบอาํ นาจ ()

ภาคผนวก 6 คําขอขยายระยะเวลายื่นคาํ ใหก ารของคณะกรรมการฯ บนั ทกึ ขอ ความ

(ค.๒) คาํ ขอขยายระยะเวลายื่นคาํ ให้การ คดหี มายเลขดําที่ / ๒๕๖๐ คดีหมายเลขแดงท่ี ...................../ ๒๕........... ศาลปกศาลปกครอง ---- วนั ท…ี่ ........… เดอื น.......................พุทธศักราช ๒๕๖๐ .................................................................................................................................. ผฟู องคดี ...................................................................................................................ผถู ูกฟอ งคดี ขาพเจา คณะกรรมการกําหนดราคาคาทดแทนทรัพยสนิ ทถ่ี ูกเขตชลประทาน ตามมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวนั ที่ .. กรกฎาคม ๒๕๓๒ โครงการอางเก็บนํ้าโปรงขนุ เพชร โดย ................................... ..... ในฐานะท่เี ปน ผรู ับมอบอํานาจ ผถู กู ฟองคดี ท่ี ๑ เกิดวันท่ี เดือน พ.ศ. ๒๕๓๖ อายุ ป อาชพี อยทู ี่ สํานกั กฎหมายและทด่ี ิน กรมชลประทาน เลขที่ ๘๑๑ หมทู ่ี - - ถนน สามเสน ตรอก/ซอย - ตาํ บล/แขวง นครไชยศรี อาํ เภอ/เขต ดุสติ จังหวดั กรงุ เทพมหานคร รหสั ไปรษณยี  ๑๐๓๐๐ โทรศพั ท ๐๒ ๖๖๙ ๕๐๔๗ ขอยื่นคาํ ขอขยายระยะเวลายนื่ คําใหก าร ---- มีขอความตามทจ่ี ะกลา วตอไปนี้ ตามทีศ่ าลไดมคี ําส่ังเม่ือวันที่ ............................... ใหผ ูถูกฟองคดที ่ี ๑ ทาํ คําใหการแกค ําฟอง พรอมดว ยพยานหลกั ฐานรวม ๒ ชุด ยนื่ ตอ ศาลภายใน ๓๐ วัน นบั แตว นั ทีไ่ ดร บั แจงคาํ สง่ั ศาล นั้น ------------ ผูถูกฟองคดีที่ ๑ ขอเรียนวา ไดรับแจงคําส่ังศาลเมื่อ............................ ซึ่งครบกําหนดยื่นคําใหการ ตามคําส่ังศาลดังกลาวในวันท่ี ................................ ขณะน้ี อยูระหวางตรวจสอบขอเท็จจริงและสงเรื่องใหสํานักงาน คดีปกครองนครราชสมี าดําเนินการแกตางใหแทน แตเน่ืองจากระยะเวลาตามที่ศาลกําหนดใหตามคําส่ังนั้น ไมสามารถ ที่จะดําเนินการไดทัน ผูถูกฟองคดีที่ ๑ มีความประสงคขออนุญาตขยายระยะเวลาย่ืนคําใหการในครั้งน้ีออกไป อีก ๖๐ วัน นบั แตว ันครบกาํ หนด ------- ขอศาลไดโปรดอนญุ าต --------- ลงชื่อ ผูยน่ื คําขอ ------ ( นิติกร ) -----

ภาคผนวก 7 หนงั สือขอขยายระยะเวลายน่ื คําใหก ารของกรมฯ

ท่ี กษ ๐๓๐๗/ กรมชลประทาน ถนนสามเสน กทม.๑๐๓๐๐ สงิ หาคม ๒๕๖๑ เรือ่ ง ขอขยายระยะเวลายน่ื คาํ ใหก าร เรียน อธบิ ดีศาลปกครอง................. อา งถงึ คําสั่งเรียกใหทําคาํ ใหการของศาลปกครอง....................... พรอ มสาํ เนาคําฟอง คดหี มายเลขดําท่ี ................... ลงวันที่ ....................................... สิ่งทสี่ ง มาดวย ๑. สาํ เนาคาํ ส่งั กระทรวงเกษตรและสหกรณ ที่ ๒๖/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๒ ๒. สาํ เนาคาํ สง่ั กรมชลประทาน ท่ี ข ๑๒๗๗/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ๓. สาํ เนาคําสงั่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ ที่ ๑๔๓/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๒ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๖๐ ตามคําสัง่ เรยี กใหทําคําใหก ารท่ีอางถึง ศาลปกครอง.....................ไดมีคําส่ังถึงกรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ ในคดีหมายเลขดําท่ี ...................ระหวาง ..............ผูฟองคดี คณะกรรมการกําหนดราคาคาทดแทนทรัพยสินท่ีถูกเขตชลประทาน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๒ โครงการอางเก็บนํ้าโปรงขุนเพชร ท่ี ๑ กรมชลประทาน ที่ ๒ และ กระทรวงเกษตรและ สหกรณ ที่ ๓ ผูถูกฟองคดี โดยศาลใหทําคําใหการแกคําฟองพรอมดวยพยานหลักฐาน๑ ชุด และจัดทํา คําใหการ และสําเนาพยานหลักฐานอีก ๑ ชุด รวม ๒ ชุด ตอศาลภายใน ๓๐ วัน นับแตวันท่ีไดรับคําสั่ง ความละเอียดแจง แลว นัน้ อธิบดีกรมชลประทาน ผูแทนผูถูกฟองคดีท่ี ๒ และในฐานะผูรับมอบอํานาจผูถูกฟองคดีท่ี ๓ ขอเรียนวา ไดรับคําส่ังเรียกใหทําคําใหการเมื่อวันท่ี .................... ขณะนี้อยูระหวางตรวจสอบขอเท็จจริงและ รวบรวมพยานหลักฐาน ทําใหไมสามารถดําเนินการตามคําสั่งศาลไดภายในระยะเวลาที่กําหนด จึงมีความ ประสงคขออนุญาตขยายระยะเวลายื่นคําใหการออกไปอีก เปนภายใน ๖๐ วัน นับแตวัน ท่คี รบกําหนด จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณาอนุญาต ขอแสดงความนับถอื (นายสิทธิวตั ร แสงสิรไิ พบูลย) ผูอ ํานวยการสํานกั กฎหมายและทีด่ นิ ปฏิบัติราชการแทนอธิบดกี รมชลประทาน สาํ นักกฎหมายและทด่ี นิ โทร. โทรสาร ๐ ๒๖๖๙ ๕๐๔๗

ภาคผนวก 8 บนั ทกึ ขอ ความและหนงั สอื ขอใหสาํ นักงานคดปี กครองแกต า งทางกรมฯ และคณะกรรมการ

ที่ กษ ๐๓๐๗/ กรมชลประทาน ถนนสามเสน กทม. ๑๐๓๐๐ สงิ หาคม ๒๕๖๑ เร่ือง ขอใหพ จิ ารณาแกตา งคดปี กครอง เรยี น อธิบดีอัยการ สํานักงานคดีปกครอง............... สิ่งท่ีสงมาดว ย ๑. คาํ ส่งั เรยี กใหทําคาํ ใหก ารของศาลปกครอง............ พรอ มสาํ เนาคําฟอ งสาํ เนาเอกสาร คดีหมายเลขดําท่ี .............. ลงวนั ท่ี ..................... ๒. ใบมอบอาํ นาจของผถู กู ฟองคดีที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ พรอ มสําเนาบัตรประจาํ ตัว จาํ นวน ๖ ชุด ๓. สําเนาคาํ ส่ังกระทรวงเกษตรและสหกรณ ที่ ๒๖/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๒ ๔ สําเนาคาํ สง่ั กระทรวงเกษตรและสหกรณ ที่ ๑๐๐๓/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ ๕. สาํ เนาคําสัง่ กรมชลประทาน ท่ี ข ๙๙๘/๒๕๕๔ ลงวันท่ี ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ ๖. สําเนาคาํ ส่ังกรมชลประทาน ท่ี ข ๔๒๒/๒๕๖๐ ลงวันท่ี ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๐ ๗. บันทึกสรุปขอเทจ็ จริงพรอมเอกสารประกอบ จาํ นวน ๓ ชดุ ๘. สาํ เนาหนังสือกรมชลประทาน ดวนทส่ี ดุ ที่ ............................. ลงวนั ท่ี ............................................ ๙. สาํ เนาคาํ รอ งขอขยายระยะเวลาย่ืนคําใหการของผถู กู ฟองคดที ี่ ๑ ลงวนั ท่ี ................................... ดวยกรมชลประทานและคณะกรรมการกําหนดราคาคาทดแทนทรัพยสินที่ถูกเขต ชล ป ระท าน ตาม มติค ณะรัฐม น ตรี เมื่อวัน ที่ ๑ ๑ ก ร กฎาคม ๒๕ ๓ ๒ โคร งการ อางเก็บ น้ํา โปรงขุนเพชรไดรับคําสั่งของศาลปกครองนครราชสีมา ในคดีหมายเลขดําที่ .......................... ระหวาง ................................. ผูฟองคดี คณะกรรมการกําหนดราคาคาทดแทนทรัพยสิน ที่ถูกเขตชลประทาน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๒ โครงการอางเก็บนํ้า โปรงขุนเพชร ที่ ๑ กรมชลประทาน ที่ ๒ กระทรวงเกษตรและสหกรณ ที่ ๓ ผูถูกฟองคดี เรียกทําคําใหการแกคําฟองพรอมดวยพยานหลักฐาน จํานวน ๑ ชุด และจัดสงสําเนาคําใหการ และ สําเนาพยานหลักฐานอีก ๑ ชุด รวม ๒ ชุด ยื่นตอศาล ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันที่ไดรับคําสั่ง ซ่ึงผูถูกฟองคดี ที่ ๑ ท่ี ๒ และที่ ๓ ไดรับคําสั่งเม่ือวันท่ี........................................ อธิบดีกรมชลประทาน ผูแทนผูถูกฟองคดีที่ ๒ และในฐานะผูรับมอบอํานาจ จากผูถูกฟองคดี ที่ ๓ มีความประสงคใหพนักงานอัยการพิจารณาดําเนินการแกตางคดีนี้แทน และเนื่องจากผูถูกฟองคดีที่ ๑ ถูกฟองคดีดวยเหตุจากการปฏิบัติหนาที่ที่ไดรับมอบหมาย ในภารกิจของกรมชลประทาน จึงมีความประสงคใหพิจารณาแกตางคดีแทนดวยในคราวเดียวกัน จึงไดจ ัดสง ...

-๒- จึงไดจัดสงคําสั่งเรียกใหทําคําใหการพรอมสําเนาคําฟอง และสําเนาพยานหลักฐาน ใบมอบอํานาจ บันทึกสรุปขอเท็จจริงพรอมเอกสาร มาเพื่อพิจารณา ตามส่ิงที่สงมาดวย ๑ - ๗ และไดมอบหมายให ..................................ตําแหนงนิติกร เปนผูประสานงานคดี อน่ึง ระยะเวลาตามท่ีศาลกําหนดในคําส่ังนั้น ผูถูกฟองคดีที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ไดมีหนังสือขอขยายระยะเวลาตอศาลออกไปอีก ๖๐ วัน ตามสิ่งทีส่ งมาดวย ๘ - ๙ จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณาดําเนินการตอไปดว ย จักขอบคุณยิง่ ขอแสดงความนบั ถอื (นายมนสั กาํ เนดิ มณ)ี รองอธบิ ดี ปฏิบตั ริ าชการแทน อธิบดีกรมชลประทาน สํานกั กฎหมายและที่ดนิ โทร.โทรสาร ๐ ๒๖๖๙ ๕๐๔๗