หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 กรอบแนวคดิ สาหรับการรายงานทางการเงิน ( Conceptual Framework for Financial Reporting ) สาระการเรยี นรู้ 1. วัตถุประสงค์ของรายงานทางการเงนิ เพ่ือวตั ถปุ ระสงค์ทัว่ ไป 2. ลกั ษณะเชิงคณุ ภาพของข้อมูลทางการเงินทมี่ ีประโยชน์ 3. คานิยาม 4. การรบั ร้รู ายการและการวัดมูลคา่ องคป์ ระกอบของงบการเงนิ สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กรอบแนวคดิ สาหรับการรายงานทางการเงนิ เพื่อวตั ถุประสงคท์ ั่วไป 2. แสดงความรู้เก่ียวกับลกั ษณะเชงิ คุณภาพของขอ้ มลู ทางการเงินที่มปี ระโยชน์ 3. แสดงความรู้เกี่ยวกับคานยิ ามตา่ งๆ 4. แสดงความรเู้ ก่ียวกับการรบั รู้รายการและการวัดมลู คา่ องค์ประกอบของงบการเงนิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวตั ถุประสงค์ของรายงานทางการเงนิ เพื่อวตั ถุประสงคท์ ว่ั ไปได้ 2. อธิบายลักษณะเชงิ คณุ ภาพของข้อมลู ทางการเงนิ ทีม่ ปี ระโยชน์ได้ 3. เขา้ ใจและอธิบายคานยิ ามได้ 4. อธิบายการรับรู้รายการและการวัดมูลคา่ องคป์ ระกอบของงบการเงนิ ได้ เนอื้ หาสาระ สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชูปถมั ภไ์ ดจ้ ดั ทา กรอบแนวคิดสาหรบั การรายงานทางการเงิน ซง่ึ เป็นไปตามหลักการภายใต้กรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงินฉบับปรับปรุง (2558) ท่ีออกโดย คณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (International Accounting Standards Board (IASB)) โดยมีผลบงั คับใชแ้ ทนแม่บทการบัญช(ี ปรบั ปรงุ 2552) ในการจัดทารายงานทางการเงินกิจการต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินนอกเหนือ มาตรฐานการรายงานทางการเงินแล้ว กรอบแนวคิดสาหรับรายงานทางการเงินยังใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดทา และนาเสนองบการเงิน กรอบแนวคิดสาหรับรายงานทางการเงนิ (ปรับปรุง 2558) เนอ้ื หาในฉบับปรับปรุง 2558 แบ่งออกเป็น 4 บทไดแ้ ก่ บทที่ 1 วัตถปุ ระสงค์ของรายงานทางการเงินเพือ่ วัตถุประสงคท์ ่ัวไป (The Objective of General Purpose Financial Reporting) บทท่ี 2 กิจการทเ่ี สนอรายงาน (รอเพ่ิมเตมิ ) บทที่ 3 ลกั ษณะเชงิ คุณภาพของข้อมูลทางการเงนิ ทม่ี ปี ระโยชน์ (Qualitative Characteristics) บทที่ 4 กรอบแนวคิดข้อความสว่ นท่ีเหลอื จากแมบ่ ทการบญั ชี (ปรบั ปรงุ 2552) บทที่ 1 วัตถุประสงคข์ องการรายงานทางการเงนิ เพอื่ วตั ถุประสงค์ท่ัวไป (The Objective of General Purpose Financial Reporting)
2 กรอบแนวคดิ สาหรับรายงานทางการเงนิ (กรอบแนวคิด) เปน็ เกณฑ์ในการจดั ทาและนาเสนอ งบการเงินสาหรบั ผใู้ ชภ้ ายนอกอันประกอบดว้ ยหลายฝ่าย เชน่ 1. คณะกรรมการมาตรฐานการบญั ชีระหวา่ งประเทศ (คณะกรรมการฯ) ใชก้ รอบแนวคิดเป็นพื้นฐาน ในการพัฒนามาตรฐานการรายงานทางการเงนิ ในอนาคตและทบทวนมาตรฐานการเงินที่มีอยู่ 2. กจิ การใช้กรอบแนวคิดในการจดั ทารายงานทางการเงินและจัดการประเดน็ ที่ยงั ไมไ่ ดน้ ามาพจิ ารณา กรอบแนวคิด ยังช่วยหน่วยงานกาหนดมาตรฐานการรายงานทางการเงนิ ของประเทศ พัฒนามาตรฐานรายงาน ทางการเงิน และชว่ ยผู้สอบบัญชีในการแสดงความคิดเหน็ วา่ งบการเงินจัดทามาตรฐานการรายงานทางการเงิน หรือไม่ อย่างไรก็ดี กรอบแนวคิดไม่ใช่มาตรฐานการรายงานทางการเงิน และกรอบแนวคิดไม่มชี ื่อเรื่องใดท่ีอยู่ เหนือกว่ามาตรฐานการรายงานทางการเงิน มีความเป็นไปได้น้อยที่กรอบแนวคิดจะขัดแย้งกับมาตรฐานการ รายงานทางการเงนิ ฉบับใดฉบบั หน่ึง แต่หากมีความขัดแย้ง ขอ้ กาหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงินจะ อยู่เหนือกว่าข้อกาหนดของกรอบแนวคิด อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ จะใช้กรอบแนวคิดเป็นแนวคิดเป็น แนวทางในการพัฒนามาตรฐานการรายงานทางการเงินในอนาคต และทบทวนมาตรฐานการรายงานทาง การเงนิ ท่ีมีอยู่ เพอื่ ลดความขัดแยง้ วัตถุประสงค์ของรายงานการเงิน คือ การใช้ข้อมูลทางการเงินเก่ียวกับกิจการที่เสนอรายงานที่มี ประโยชน์ต่อผู้ลงทุน ผู้ให้กู้ยืม หรือเจ้าหนี้อ่ืน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตเพ่ือตัดสินใจเก่ียวกับการใช้ทรัพยากร แก่กิจการ การตัดสินใจเหล่านีเ้ กี่ยวกับการซื้อขาย หรือถือตราสาร และตราสารหนี้, การใช้หรอื การชาระเงินกู้ สินเชือ่ ในรูปแบบอ่นื ๆ จากวตั ถปุ ระสงคข์ องรายงานการเงนิ ดังกล่าวมปี ระเด็นสาคญั 2 ประเภท 1. รายงานทางการเงนิ ใหข้ ้อมูลทางการเงนิ (financial information) 2. เปน็ ประโยชน์ตอ่ ผู้ลงทุน (investors) และผู้ให้กู้ยมื (creditors) ทง้ั ในปัจจุบนั และอนาคต กรอบแนวคิดระบวุ ่าผู้ใชห้ ลัก (Primary Users) ของรายงานทางการเงิน ได้แก่ ผู้ลงทุน ผ้ใู ห้กู้ยืม และ เจ้าหนี้อื่น ในปัจจบุ ันและอนาคต รายงานทางการเงินจึงจัดทาข้ึนเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้หลกั ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ หลักเพ่ือผู้ใชก้ ลุ่มอ่นื แตผ่ ใู้ ช้กลมุ่ อ่ืนสามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากรายงานทางการเงนิ ได้ ผใู้ ช้กลุ่มอ่นื เช่น หน่วยงาน กากบั ดแู ลและสาธารณชน จากประเด็นท่ีสาคัญ 2 ประการและผู้ใช้หลักของรายงานทางการเงิน รายงานทางการเงินจึงต้องให้ ข้อมูลทางการเงินเพ่ือประกอบการตัดสินใจการลงทุนของผู้ลงทุนและผู้ให้กู้ยืม การตัดสินใจของผู้ลงทุน เกี่ยวกับการให้ทรัพยากรแก่กิจการ ข้ึนอยู่กับผลตอบแทนท่ีนักลงทุนคาดหวัง เช่น ผู้ลงทุนในตราสารทุน มุ่งหวังเงินปันผลและผลต่างราคาของสินทรัพย์ ผู้ให้กู้ยืมมุ่งหวังดอกเบี้ยและการจ่ายคืนเงินต้น ซ่ึงในการ ประเมินจะตอ้ งใช้ข้อมูลอนั ไดแ้ ก่ 1.จานวนเงิน 2.จงั หวะเวลา 3.ความไม่แน่นอน (ในอนาคต) จากความต้องการข้อมูลทางการเงินดังกล่าว ทาให้กิจการทราบว่าข้อมูลใดบ้างท่ีลงทุนคาดหวังจะได้ จากรายงานทางการเงิน และกิจการจะนาเสนอรายการต่างๆ เหล่านี้ในรายงานทางการเงิน เช่น การนาเสนอ ขอ้ มูลในหนว่ ยจานวนเงนิ สาหรับจงั หวะเวลา รายงานทางการเงินอย่างน้อยจะจดั ประเภทรายการเป็นรายการ หมุนเวียน (น้อยกวา่ หรือเท่ากบั 12 เดอื น) และรายการไมห่ มนุ เวยี น (นานกว่า 12 เดือน) ส่วนดา้ นความ
3 ไม่แน่นอน กิจการจะแยกแสดงรายการรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดาเนินงานปกติ (recurring items) และรายได้และค่าใช้จ่ายอื่นท่ีไม่ได้เกิดข้ึนบ่อย (non-recurring items) เช่น ขาดทุนจากการด้อยค่าหรือกาไร (ขาดทนุ )จากการปรบั โครงสรา้ งหน้ี นักลงทุนท้ังในปัจจุบันและผู้ท่ีอาจจะลงทุนในอนาคตต้องการข้อมูลเก่ียวกับทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจ ของกิจการ สิทธิเรียกร้องต่อกิจการ และข้อมูลที่แสดงว่ากิจการได้แสดงความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากร ของกิจการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล (ผลการดาเนินงาน:รายได้-ค่าใช้จ่าย) เพ่ือใช้ในการพยากรณ์ กระแสเงนิ สดรบั สทุ ธใิ นอนาคตของกิจการ ข้อมูลเก่ียวกับทรัพยากรของกิจการ ได้แก่ รายการด้านสินทรัพย์ ส่วนสิทธิเรียกร้องต่อกิจการเป็น ข้อมูลของรายการหน้ีสิน รายการสินทรัพย์และหน้ีสิน จะรายงานในงบแสดงฐานะการเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับ สินทรัพย์และหนี้สิน จะแสดงถึงสภาพคล่องและความสามารถในการชาระหนี้ของกิจการท่ีเสนอรายงาน และ การจัดลาดับความสาคัญของรายการและข้อกาหนดการจ่ายเงินสิทธิเรียกร้องในปัจจุบันช่วยให้ผู้ใช้งบการเงิน พยากรณเ์ กีย่ วกบั การจัดสรรกระแสเงนิ สดในอนาคตได้ การเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรเชงิ เศรษฐกิจและสทิ ธิเรียกร้องเป็นผลมาจากการดาเนินงานของกจิ การ การรายงานการใช้ทรัพยากรของกิจการว่าผู้บริหารได้ช่วยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลหรือไม่ จะ แสดงในงบกาไรขาดทุน ส่วนการเปลี่ยนแปลง ของทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจและสิทธิเรียกร้องจากเหตุการณ์อื่น เชน่ การเปลี่ยนแปลงมลู คา่ ของตราสารหนแ้ี ละตราสารทุน จะแสดงในรายการกาไรขาดทนุ เบ็ดเสร็จอ่ืน นอกจากน้ัน กิจการยังควรให้ข้อมูลเก่ียวกับกระแสเงินสดระหว่างรอบระยะเวลาของกิจการที่เสนอ รายงาน รวมถึงขอ้ มูลเก่ยี วกับการกูย้ ืมและจ่ายคนื หนี้สนิ เงนิ ปันผลหรอื การจัดสรรเงินสดอ่นื ให้ผูอ้ ื่นลงทุนจาก ความต้องการข้อมูลดังกล่าวทาให้กิจการรายงานงบกระแสเงินสด และแยกแสดงงบกระแสเงินสดตาม 3 ลักษณะกิจกรรม ไดแ้ ก่ กิจกรรมดาเนินงาน กจิ กรรมลงทุน และ กิจกรรมจัดหาเงิน กิจการยังนาเสนองบแสดง การเปล่ียนแปลงในสว่ นของเจ้าของด้วย เพ่อื แสดงการเปลีย่ นแปลงทรัพยากรเชงิ เศรษฐกิจและสิทธเิ รียกร้อง ท่ีไม่ได้เป็นผลจากการดาเนนิ งานทางการเงิน เชน่ การออกหนุ้ ทนุ เพมิ่ เตมิ แม้ว่าผู้ใช้งบการเงินจะต้องการข้อมูลเพื่อพยากรณ์กระแสเงินสดรับสุทธิของกิจการ กรอบแนวคิด ยังคงเน้นไว้ว่า การบัญชีตามเกณฑ์คงค้าง จะแสดงผลกระทบของรายการและเหตุการณ์ที่จะให้ข้อมูลได้ดีกว่า ข้อมูลท่ีบันทึกเพียงเงินสดรับและจ่ายในรอบระยะเวลา เกณฑ์คงค้างในกรอบแนวคิดฉบับปัจจุบันไม่ได้ถือเป็น หนึ่งในข้อสมมติทางการบัญชี แต่ยังคงถูกกลา่ วถึงในกรอบแนวคิด ดังน้ัน การจัดทารายงานทางการเงินยังควร จดั ทาตามหลกั เกณฑค์ งค้าง บทที่ 3 ลกั ษณะเชงิ คณุ ภาพของข้อมลู ทางการเงินที่มีประโยชน์ (Qualitative Characteristics of Useful Financial Information) ลกั ษณะเชงิ คุณภาพของข้อมูลทางการเงินที่มปี ระโยชน์ (Qualitative Characteristics of Useful Financial Information) หมายถึง ลักษณะท่ีทาให้ขอ้ มูลมีประโยชน์สูงสดุ ในการตดั สินใจเชงิ เศรษฐกิจของ ผใู้ ชง้ บการเงนิ ซงึ่ ลักษณะเชิงคุณภาพของขอ้ มลู ทางการเงิน ทม่ี ปี ระโยชน์ตอ่ ผลู้ งทุน ผู้ใหก้ ู้ยืม และเจ้าหน้ีอนื่ ในปัจจบุ นั และอนาคต ประกอบด้วย 1) ลกั ษณะเชงิ คณุ ภาพพน้ื ฐาน (Fundament Qualitative Characteristics)
4 กล่าวคือ ข้อมูลทางการเงินมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ ก็ต่อเมื่อข้อมูลน้ันมีความเก่ียวข้องกับการตัดสินใจ และความเป็นตัวแทนอันเท่ียงธรรม กรอบแนวคิดสาหรับรายงานทางการเงินได้อธิบายถึงลักษณะเชิงคุณภาพ พ้นื ฐาน โดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี 1.1 ความเกีย่ วข้องกบั การตดั สนิ ใจ (Relevance)ขอ้ มูลทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับการตัดสินใจสามารถ ทาให้ผู้ใช้ตัดสินใจแตกต่างไปได้เมื่อทราบหรือไม่ทราบข้อมูลนั้น ข้อมูลทางการเงินสามารถทาให้การตัดสินใจ แตกต่างไปได้ ถา้ ขอ้ มูลมีคณุ คา่ ทางการพยากรณ์ คณุ คา่ ทางการยืนยันหรอื ทั้ง 2 ลักษณะ ข้อมูลทางการเงินที่มีคุณค่าทางการพยากรณ์ (Predictive value) เป็นข้อมูลที่ผู้ใช้สามารถ พยากรณ์ผลลัพธ์ในอนาคตได้ คุณค่าทางการพยากรณ์ใช้แทนหลักสาระสาคัญในฉบับปรับปรุง 2552 หาก ข้อมูลมีสาระสาคัญก็ย่อมจะมีคุณค่าต่อการพยากรณ์เช่นเดียวกัน เช่น ในงบกระแสเงินสด กิจการจาเป็นต้อง เปิดเผยรายการท่ีไม่เกี่ยวข้องกับเงินสดด้วย เพราะมีประโยชน์ในการพยากรณ์กระแสเงินสดของกิจการใน อนาคต หรือการแสดงมูลคา่ ลูกหนี้ด้วยมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับรบั หรอื สินทรัพย์บางรายการด้วยมูลค่ายุตธิ รรม เพ่ือใหผ้ ู้ใช้ไดพ้ ยากรณ์กระแสเงนิ สดรับสทุ ธิของกิจการในอนาคตไดเ้ ชน่ กัน ข้อมูลทางการเงินท่ีมีคุณค่าทางการยืนยัน (confirmative value) ควรใช้ข้อมูลป้อนกลับเก่ียวกับ การประเมินอดีตได้ กล่าวคือ ข้อมูลที่แสดงในรายการทางการเงินต้องผ่านการไตร่ตรองและใช้สมมติฐานที่ น่าเช่ือถือได้ ดงั นนั้ หากมีการกลับรายการหรือปรับปรุงรายการที่ต้ังไว้ในงวดกอ่ น อาจแสดงให้เหน็ วา่ ข้อมลู ใน รายงายทางการเงนิ งวดก่อนของกจิ การน้ันไมส่ ามารถใชย้ ืนยันไดเ้ ลย คุณค่าทางการพยากรณ์และคุณค่าทางการยืนยันของข้อมูลทางการเงินมีความสัมพันธ์กัน ข้อมูลท่ีมี คุณค่าทางการพยากรณ์มักมีคุณค่าทางการยืนยันด้วย เช่น รายได้จากการดาเนินงาน ในปีปัจจุบันสามารถใช้ เป็นเกณฑ์สาหรบั พยากรณ์รายได้ในปีต่อๆ ไปได้ และยังสามารถเปรียบเทยี บกับข้อมูลรายได้ปีปัจจุบันท่เี คยถูก พยากรณ์ไวต้ ัง้ แต่ปกี อ่ นๆไดด้ ว้ ย ความมีสาระสาคัญ(materiality) ข้อมูลมีสาระสาคัญ เม่ือหากการละเว้นการแสดงข้อมูลหรือแสดง ผดิ อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผใู้ ช้ ความมีสาระสาคัญอิงกับลักษณะหรือขนาดของรายการ (จานวนเงิน) หรือท้ังลักษณะและขนาดของรายการ ขึ้นอยู่กับบริบทของรายงานทางการเงินของกิจการแต่ละแห่ง เช่น กิจการมีรายการเงินให้กู้ยืมแก่ผู้บริหารจานวน 500,000 บาท และเงินให้กู้ยืมแก่พนักงานในจานวนเท่ากัน 500,000 บาท เงินให้กู้ยืมแก่ผู้บริหารอาจมีความเสี่ยงในหนี้สูญมากกว่าเงินให้กู้ยืมแก่พนักงาน เน่ืองจาก รายการหลังสามารถหักจากเงินเดอื นของพนักงานได้ ในการนาเสนอรายงานทางการเงินจึงจะแยกแสดงเงินให้ กูย้ ืมแกผ่ ้บู ริหารเพราะอาจมีผลตอ่ การตัดสนิ ใจของผใู้ ชใ้ นการพยากรณก์ ระแสเงนิ สดรบั สทุ ธิในอนาคต 1.2 ความเปน็ ตวั แทนอนั เท่ยี งธรรม (Faithful Representation) ข้อมูลทางการเงนิ ทม่ี ี ประโยชน์ต้องไม่เป็นเพียงตัวแทนปรากฏท่ีเก่ียวกับการตัดสินใจ แต่ต้องเป็นตัวแทนอันเท่ียงธรรม ของ ปรากฏการณ์ ท่ีขอ้ มูลน้ันนามาเสนอด้วย ในการเปน็ ตัวแทนอันเที่ยงธรรมอย่างสมบูรณ์ ข้อมูลทางการเงินควร มี 3 ลักษณะได้แก่ ความครบถ้วน (Completeness) ความเป็นกลาง (Neutrality) และปราศจากข้อผดิ พลาด (Error Free) 1.2.1 ความครบถ้วน (Complete) คอื ภาพท่ีกิจการรวมขอ้ มลู ทงั้ หมดทจี่ าเปน็
5 เพ่ือให้ผู้ใช้เข้าใจปรากฏการณ์ของรายการน้ัน รวมถึงการให้ความหมายและคาอธิบายที่จาเป็นทั้งหมด เช่น ภาพท่ีเปน็ ตัวเลขของกลมุ่ สินทรพั ย์ท่เี ปน็ ตัวแทนของกลุ่มทนุ เร่ิมแรก ทุนที่ปรบั ปรุงหรอื มูลคา่ ยตุ ธิ รรม และบาง รายการให้เป็นข้อเท็จจริงอันมีนัยสาคัญด้วย เช่น การเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงิน สาหรับ สินทรัพย์ที่นาไปค้าประกันเงินกู้ยืม หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการท่ีใช้ในการกาหนดภาพเป็นตัวเลข เช่น การเปดิ เผยถงึ นโยบายบัญชที ี่กจิ การเลอื กใช้และการรบั ร้รู ายการ 1.2.2 ความเปน็ กลาง (Neutrality)คือภาพทีป่ ราศจากอคติในการเลือกหรือ นาเสนอข้อมูลทางการเงิน ไม่มีการให้ความสาคัญ ไม่มีการเน้น หรือไม่ถูกตกแต่ง เช่น การเปิดเผยเกี่ยวกับคดี ความฟ้องรอ้ ง ต้องเปิดเผยอยา่ งเป็นกลาง ปราศจากความโน้มเอียงในทางใดทางหนึง่ 1.2.3 การปราศจากข้อผิดพลาด (Free from Error) ไม่ไดห้ มายความว่า ถกู ตอ้ ง สมบูรณ์ทุกลักษณะแต่การประมาณการนั้นต้องมีการอธิบายอย่างชัดเจนว่าจานวนเงินนั้นได้มาจากการ ประมาณและไม่มีข้อผดิ พลาดในการเลือกและประยุกต์กระบวนการทเ่ี หมาะสมเพ่ือพฒั นาประมาณการน้ัน 2. ลกั ษณะคุณภาพเสริม (Enhancing Qualitative Characteristics) ลักษณะคณุ ภาพเสรมิ ประกอบด้วย 4 ลกั ษณะ 2.1 ความสามารถเปรยี บเทียบได้ (Comparability) ข้อมูลเก่ียวกับกจิ การทเ่ี สนอรายงาน จะมีประโยชน์มากขึ้นหากข้อมูลน้ันสามารถเปรียบเทียบได้กับข้อมูลท่ีคล้ายกันเกี่ยวกับกิจการอ่ืนและสามารถ เปรียบเทยี บได้กบั ขอ้ มลู ท่ีคลา้ ยกันเกี่ยวกบั กิจการเดยี วกันสาหรับรอบระยะเวลาอ่ืน การเปรยี บเทียบกันได้ตอ้ ง มีอย่างน้อง 2 รายการเพื่อนาเปรียบเทียบ ความสม่าเสมอไม่เหมือนกันกับความเปรียบเทียบกันได้ ความ สม่าเสมอ หมายถึง การใช้วิธีเดียวกันกับรายการเดียวกนั ในรอยระยะเวลาหน่ึงในกิจการเดียวกัน หรือ ในรอบ ระยะเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่างกจิ การหลายแหง่ แตค่ วามสามารถเปรยี บเทยี บได้เป็นเป้าหมาย ความสม่าเสมอ ช่วยบรรลุเป้าหมายน้ัน การอนุญาตให้กิจการเลือกวิธีการบัญชีต่างๆหรือเปล่ียนนโยบายบัญชีสาหรับ ปรากฏการณ์ เชิงเศรษฐกิจปรากฏการณ์หน่ึงอาจส่งผลให้ขาดความสม่าเสมอและ ทาให้ความสามารถ เปรียบเทียบได้ลดลงแต่จะช่วยให้ข้อมูลในรายการเงินเป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรม ความสามารถเปรียบเทียบได้ เป็นลักษณะเชิงคุณภาพเสริม หากปรากฏการณ์เชิงเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป การที่กิจการเปล่ียนวิธีการบัญชี เพื่อให้ขอ้ มูลทางการเงินเป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรมซึ่งเป็นลักษณะเชิงคุณภาพพื้นฐานนั้นสาคัญกว่า ดังนั้น การ เปล่ยี นแปลงนโยบายบัญชจี ึงควรกระทาแมว้ ่าการเปรียบเทยี บได้จะลดลง 2.2 ความสามารถพิสูจน์ยืนยันได้ (Verifiability) จะช่วยให้ความเชื่อม่ันแก่ผู้ใช้ว่าข้อมูล เป็นตัวแทนอนั เท่ียงธรรม ความสามารถพิสจู น์ยืนยันได้ หมายความวา่ ผู้สังเกตการณ์ รายต่างๆที่มีความรอบรู้ และมคี วามเปน็ อสิ ระ ไดข้ ้อสรุปตรงกนั แตไ่ มจ่ าเป็นตอ้ งเปน็ ประมาณการ ณ จุดเดียว อาจอยใู่ นชว่ งของจานวน เงินก็เป็นได้ เช่น เม่ือใช้ประเมินอิสระหลายรายประเมินราคาที่ดิน ราคาท่ีประเมินได้อาจแตกต่างกันแต่อยู่ ในชว่ งจานวนเดือนเดียวกัน ความสามารถพิสูจน์ยืนยันได้ อาจได้มาจากการสงั เกตโดยตรง เช่น การนับเงินสด หรือได้มาจากการพิสูจน์ทางอ้อมโดยใช้แบบจาลองหรือสูตร เช่น การพิสูจน์มูลค่าตามบัญชีของสินค้าคงเหลือ ได้มาจากการตรวจสอบปัจจัยนาเข้า (ปริมาณและต้นทุน) และคานวณมูลคา่ ตามบัญชีของสินค้าคงเหลือปลาย งวดอกี คร้ังโดยใช้วธิ กี ารตีราคาสนิ คา้ คงเหลือเหมือนเดมิ เป็นตน้
6 2.3 ความทันเวลา (Timeliness) หมายถึง การมีข้อมูลพร้อมให้ผู้ใช้ตัดสินใจทันเวลาการ ย้อนอดีตนานข้ึนทาให้ข้อมูลน้ันมีประโยชน์น้อยลง แต่ข้อมูลบางอย่างยังถือว่าทันเวลาไปเป็นระยะเวลานาน หลงั สิน้ รอบระยะเวลารายงาน ด้วยเหตุผล เชน่ ผ้ใู ช้บางรายอาจจาเปน็ ตอ้ งระบแุ ละประเมินแนวโน้มต่าง ๆ 2.4 ความสามารถเข้าใจได้ (Understandability) การจัดประเภท การกาหนดลักษณะ และการนาเสนอข้อมูลอย่างชัดเจนและกระชับทาให้ข้อมูลน้ันสามารถเข้าใจได้ การไม่รวบรวมลักษณะของ ปรากฏการณ์ท่ีมีความซับซอ้ น เข้าใจได้ยาก อาจทาให้ข้อมูลง่ายต่อการเข้าใจ แต่ไม่สามารถทาได้ เพราะ อาจ ทาให้ผู้ใช้เข้าใจผิดได้ อย่างไรก็ดี เนื่องจากรายงานทางการเงินจัดทาเพื่อผู้ใช้เฉพาะกลุ่มอันนิยามถึงผู้ใช้ท่ีมี ความรู้เกี่ยวกับกิจการทางธุรกิจและกิจการเชิงเศรษฐกิจอย่างมีเหตุผลและผู้ท่ีทบทวนและวิเคราะห์ข้อมูลน้ัน ด้วยความเพียร ข้อมูลทางการเงินจึงไม่ต้องครอบคลุมให้คนเข้าใจได้ ผู้ใช้ที่หมั่นเพียรอาจจาเป็นต้องหาความ ช่วยเหลอื จากทีป่ รึกษา การใช้ลักษณะเชิงคุณภาพเสริมต้องมีการนามาใช้ให้มากที่สุดเท่าท่ีเป็นไปได้ อย่างไรก็ดี ลักษณะเชิง คุณภาพเสริมไม่สามารถทาให้ข้อมูลมีประโยชน์ หากข้อมูลน้ันไม่เก่ียวข้องกับการตัดสินใจหรือไม่เป็นตัวแทน อนั เทยี่ งธรรมอันเป็นลกั ษณะเชงิ คุณภาพพนื้ ฐาน จากคาอธิบายเกย่ี วกับลกั ษณะเชงิ คุณภาพของข้อมูลทางการเงินทีม่ ีประโยชน์ สามารถสรปุ ไดด้ ังนี้ ลักษณะเชงิ คณุ ภาพของข้อมูลทางการเงินที่มีประโยชน์ (Qualitative Characteristics of Useful Financial Information) ลกั ษณะเชิงคุณภาพพืน้ ฐาน ลักษณะเชิงคุณภาพเสรมิ (Fundamental Qualitative Characteristics) (Enhancing Qualitative Characteristics) ความเกี่ยวข้องกับการตดั สินใจ ความเปน็ ตัวแทนอันเทย่ี งธรรม ความสามารถเปรยี บเทียบได้ (Relevance) (Faithful Representation) (Comparability) คุณคา่ ทางการพยากรณ์ ครบถว้ น ความสามารถพสิ จู น์ยืนยันได้ (Predictive Value) (Completeness) (Verifiability) คณุ ค่าทางการยืนยนั เป็นกลาง ความทันเวลา (Confirmative Value) (Neutrality) (Timeliness) ความมสี าระสาคญั ปราศจากข้อผิดพลาด ความสามารถเขา้ ใจได้ (Materiality) (Free from Error) (Understandability) แผนภาพที่ 1 : ลกั ษณะเชิงคุณภาพของข้อมูลทางการเงินทม่ี ีประโยชน์
7 บทที่ 4 กรอบแนวคิดขอ้ ความส่วนทเ่ี หลือจากแม่บทการบญั ชี (ปรับปรงุ 2552) ในสว่ นน้ีของกรอบแนวคดิ แสดงประเดน็ สาคญั ทเ่ี หลอื จากแม่บทการบญั ชี (ปรบั ปรุง 2552) เชน่ ข้อสมมตทิ างการบัญชี องคป์ ระกอบของการเงนิ การรับรู้รายการ และแนวคดิ เร่อื งทนุ และการรกั ษาระดบั ทนุ 4.1 ข้อสมมติทางการบัญชี หากเปรยี บเทียบกบั แม่บททางการบญั ชี (ปรับปรุง 2552) ขอ้ สมมติ ทางการบญั ชีเหลือเพียงขอ้ เดียว คอื การดาเนินงานต่อเนื่อง อธบิ ายไว้วา่ “งบการเงนิ จัดทาข้ึนตามขอ้ สมมติ ทวี่ ่ากจิ การจะดาเนนิ งานอย่างตอ่ เน่ืองและดารงอยู่ตอ่ ไปในอนาคตท่คี าดการณ์ได้ ดังนั้น จงึ สมมตวิ ่ากจิ การไม่ เจตนาหรอื มคี วามจาเปน็ ทเ่ี ลิกกิจการหรือลดขนาดของการดาเนนิ งานอยา่ งมสี าระสาคัญ หากกิจการมีเจตนา หรอื ความจาเปน็ ดังกล่าว งบการเงินอาจต้องจัดทาโดยใช้เกณฑ์อื่น และตอ้ งเปิดเผยเกณฑน์ นั้ ในงบการเงิน” จะเหน็ ไดว้ ่า เกณฑ์คงคา้ งจากแมบ่ ทบญั ชีเดมิ ไม่ไดร้ วมอยใู่ นขอ้ สมมติทางการบัญชีแลว้ หากแตเ่ กณฑ์คงค้างถูก กล่าวถงึ ใน วตั ถุประสงคข์ องงบการเงนิ แทนว่า “การบญั ชตี ามเกณฑค์ งคา้ งแสดงผลกระทบของรายการและ เหตุการณแ์ ละสถานการณ์อ่ืนต่อทรัพยากรเชิงเศรษฐกจิ และสทิ ธเิ รยี กร้องของกิจการในงวดทผ่ี ลกระทบ เหลา่ นนั้ เกดิ ข้ึน แมว้ ่าเงินสดรับและจา่ ยที่เป็นผลจากรายการเหตกุ ารณ์และสถานการณด์ ังกลา่ วเกิดขึ้นในรอย ระยะเวลาทต่ี ่างกัน”จะเหน็ ได้ว่า แมว้ า่ ไม่ได้นาเสนอเกณฑ์คงค้างเป็นหนึ่งในข้อสมมติทางการบญั ชี แตก่ าร บญั ชที ีก่ ิจการควรใชเ้ พ่ือนาเสนอข้อมลู ทางการเงินยงั ควรเปน็ การบญั ชีตามเกณฑ์คงค้าง 4.2 องค์ประกอบของงบการเงิน หมายถึง การจดั ประเภทรายการเพือ่ แสดงให้เห็นถงึ ฐานะการเงนิ และผลการดาเนินงานของกิจการ องค์ประกอบซงึ่ เก่ียวข้องโดยตรงกบั การวัดฐานะการเงินในงบแสดงฐานะ การเงินในงบแสดงฐานะการเงนิ ได้แก่ สนิ ทรัพย์ หนีส้ นิ และสว่ นของเจา้ ของ องค์ประกอบซง่ึ เกย่ี วขอ้ งโดยตรง กบั การวัดผลการดาเนินงานในงบกาไรขาดทนุ ไดแ้ ก่ รายไดแ้ ละค่าใชจ้ า่ ย ส่วนงบแสดงการเปลีย่ นแปลงฐานะ การเงนิ สะท้อนถึงองค์ประกอบในงบกาไรขาดทุนและการเปลย่ี นแปลงองค์ประกอบในงบแสดงฐานะการเงิน กรอบแนวคิดจึงไม่ได้ระบอุ งค์ประกอบของงบแสดงการเปล่ียนแปลงฐานะการเงินไว้เปน็ การเฉพาะ 4.2.1 องค์ประกอบทเ่ี กีย่ วข้องโดยตรงกับฐานะการเงนิ ประกอบด้วย 4.2.1.1 สินทรพั ย์ (Assets) หมายถงึ ทรัพยากรที่อยใู่ นความควบคมุ ของกจิ การ ซ่งึ เป็นผลมาจาก เหตกุ ารณใ์ นอดีต ไมว่ า่ มาจากการซื้อ การผลิต หรือการรับบริจาคก็ตาม แต่ต้องไม่รวมถึง รายการและเหตุการณ์ทางบัญชี ที่คาดว่าจะเกดิ ขึ้นในอนาคต เชน่ การทา สญั ญาซ้ือสนิ ค้าลว่ งหนา้ เป็นต้น โดยท่ีกจิ การคาดว่าจะได้รบั ประโยชน์เชงิ เศรษฐกจิ ในอนาคตจากทรัพยากรนั้น นั่นหมายความวา่ ทรัพยากรนนั้ ตอ้ งก่อให้เกดิ กระแสเงนิ สดหรอื รายการเทยี บเท่าเงินสดแก่กจิ การไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การใช้ สนิ ทรพั ย์เพ่ือผลติ สนิ คา้ หรือใหบ้ ริการ การนาสินทรัพยท์ ี่มีอย่ไู ปแลกเปล่ียนกบั สินทรัพย์อ่ืน การนาสนิ ทรัพย์ไป ชาระหน้ี การนาสินทรัพย์มาแบง่ ปนั ให้กบั ผ้เู ป็นเจ้าของ เป็นต้น ทงั้ นี้ ทรพั ยากรนั้นอาจมี ตวั ตนหรือไม่มีตวั ตน กไ็ ด้ เช่น ลกู หนี้ ทิี่ดนิ อาคารและอุปกรณ์ ลิขสทิ ธิ์ สิทธบิ ัตร เป็นต้น ซง่ึ จากคานยิ าม ขา้ งต้น จะเห็นไดว้ า่ สินทรพั ย์ของกิจการไม่จาเปน็ ต้องเป็นทรัพยากรท่ีกิจการมีกรรมสิทธ์ิ ตามกฎหมาย แต่ กจิ การสามารถควบคุม ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั จากทรพั ยากรนนั้ ในกรณีนี้ ทรัพยากรนัน้ ถอื เป็น สนิ ทรัพยข์ องกจิ การ เชน่ สนิ ทรพั ย์ภายใตส้ ญั ญาเช่าการเงนิ ทางด้านผ้เู ชา่ เป็นต้น
8 หรือ สินทรัพย์(Assets) จากคานยิ ามในหัวข้อก่อน สนิ ทรัพย์ หมายถงึ ทรัพยากรที่อยู่ในความ ควบคุมของกจิ การ ทรัพยากรดังกลา่ วเป็นผลของเหตุการณ์ในอดตี ซึ่งกิจการคาดวา่ จะได้รับประโยชน์เชงิ เศรษฐกิจจากทรัพยากรนั้นในอนาคต ในคานิยามมปี ระเดน็ สาคัญดังน้ี 1. อยใู่ นความควบคมุ ของกจิ การ จะเหน็ ได้ว่านิยามใชค้ าว่า “ควบคุม” ไมใ่ ช่ ความเป็นเจา้ ของ สินทรัพย์หลายประเภทเกีย่ วขอ้ งกบั สิทธิทางกฎหมาย เชน่ ลกู หนี้และทดี่ ิน แต่กรรมสทิ ธิไ์ มใ่ ชเ่ รอื่ งสาคัญใน การพิจารณาความมตี วั ตนของสินทรัพย์ เช่น กรณสี ญั ญาเช่าการเงนิ ท่ีอธิบายไวใ้ นย่อหน้ากอ่ น หรือบาง รายการอาจถอื เป็นสินทรัพย์แม้วา่ สนิ ทรพั ย์น้นั จะไม่มีกรรมสิทธ์ใิ นทางกฎหมาย เชน่ ความร้คู วามชานาญที่ กจิ การไดจ้ ากการพัฒนาหรือค่าความนยิ มทีเ่ กิดขึน้ เม่ือกิจการเขา้ ครอบครองอกี กจิ การหนง่ึ และจา่ ยเงินซ้ือ มากกว่ามลู คา่ ยตุ ิธรรมของสนิ ทรัพย์สุทธขิ องกจิ การท่ีซ้ือมา 2. เป็นจากเหตกุ ารณ์ในอดตี ผลจากเหตกุ ารณ์ในอดตี เช่น การซอื้ ผลติ หรอื การรับบรจิ าค แต่ละรายการและเหตุการณท์ างบัญชีท่ีคาดว่าจะเกิดในอนาคตยังไม่ถือเป็นสินทรัพย์ เช่น ความต้ังใจท่ีกิจการ จะซ้ือสินค้ายังไม่อาจรับรู้สินค้าคงเหลือได้ หรือ ลูกหน้ีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตก็ไม่สามารถบันทึกเป็น สินทรัพย์ได้เช่นกนั เพราะการขายหรอื ใหบ้ รกิ ารยังไม่เกดิ ขน้ึ 3. ประโยชนเ์ ชิงเศรษฐกิจในอนาคต ของสนิ ทรัพย์ ยอ่ หน้า 4.8 นยิ ามวา่ ประโยชนเ์ ชงิ เศรษฐกจิ ในอนาคตของสินทรัพย์ หมายถึง ศักยภาพของสินทรัพย์ในการก่อให้เกิดกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่า เงินสดแก่กจิ การทง้ั ทางตรงและทางอ้อม ศกั ยภาพดังกล่าวอาจอยใู่ นรปู ของความสามารถในการลด กระแส เงินสดจ่ายก็ได้ เช่น กระบวนการผลิตใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต เม่ือกระบวนการผลิตนั้นก่อให้เกิดกระแส เงนิ สดรับสทุ ธิมากขึ้น มูลคา่ การลงทุนกระบวนการผลติ ดงั กล่าวจึงบนั ทึกเป็นสนิ ทรพั ย์ได้ กจิ การอาจได้รบั ประโยชน์เชงิ เศรษฐกิจในอนาคตจากสินทรัพยใ์ นหลายลักษณะ (ย่อหนา้ 4.10) เชน่ 1. กจิ การใช้สินทรพั ยน์ น้ั ร่วมกับสินทรพั ยร์ ายการอน่ื เพอื่ ผลติ สนิ ค้าหรอื บริการท่ีนาไปขาย เชน่ กิจการใชเ้ คร่อื งจกั รร่วมกับวัตถดุ ิบในการผลิตสนิ ค้า 2. กิจการอาจนาสนิ ทรพั ยท์ ี่มีอยู่ไปแลกกับสินทรัพย์อนื่ ที่ทาใหก้ ระเงินสดสทุ ธิของกจิ การเพม่ิ ขนึ้ 3. กจิ การอาจนาสนิ ทรพั ย์ไปชาระหน้ีสนิ หรอื 4. กจิ การอาจนาสนิ ทรพั ย์มาจา่ ยให้กบั เจา้ ของ สินทรัพย์หลายประเภทเป็นสินทรัพย์ที่มีรูปแบบทางกายภาพ (Physical substance) เช่น ท่ีดิน อาคาร และอุปกรณ์ แต่รูปแบบทางภายภาพมิใช่เร่ืองสาคัญท่ีกาหนดว่าเป็นรายการสินทรัพย์หรือไม่ เช่น สิทธิบัตรหรือลิขสิทธิ์ (งานที่ใช้ความรู้ ความสามารถ และความอุตสาหะจนสาเร็จเป็นสิ่งประดิษฐ์หรืองาน สร้างสรรค์) ถือเป็นสินทรัพย์ของกิจการได้ หากกิจการคาดคะเนว่าจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจและอยู่ใน ความควบคุมของกจิ การ (ยอ่ หน้า 4.11) รายจ่ายอาจเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกบั การได้มาซึ่งสินทรัพย์ แต่ไม่จาเป็นต้องเกิดพร้อมกันเสมอไป เช่น ซื้อสินค้าเป็นเงินเช่ือในวันที่ได้สินค้าและชาระภายหลัง ในวันที่รับมอบสินค้ากิจการจะรับรู้รายการสินทรัพย์ (สนิ ค้า) พร้อมรับรู้ภาระผูกพัน (เจ้าหนี้การค้า) โดยไม่ต้องรอบันทึกรายการจนถึงวันที่จา่ ยเงิน หรอื แม้กระทั่ง การได้ทรัพย์สินมาโดยไมเ่ กิดรายจา่ ย เช่น การไดร้ บั ทรัพยส์ นิ บริจาค กถ็ อื เปน็ สนิ ทรัพย์ตามคานิยามได้ (ยอ่ หน้า 4.14)
9 4.2.1.2 หนสี้ นิ (Liabilities) หมายถึง ภาระผูกพนั ในปจั จุบนั ของกิจการ ซ่ึงเป็น ผลมาจากเหตกุ ารณใ์ นอดีต เชน่ การซอื้ สินคา้ หรือบรกิ ารเป็นเงนิ เชอ่ื การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน การขาย สินค้าพรอ้ มกับ การรบั ประกันภายหลงั การขาย เปน็ ต้น โดยทก่ี จิ การคาดว่าจะสญเู สยี ทรัพยากรทิี่มปี ระโยชน์ เชงิ เศรษฐกิจในอนาคต จากการชาระภาระผูกพนั นั้น ซ่ึงการชาระภาระผูกพันนนั้ อาจเกดิ ขนึ้ ได้หลายลกั ษณะ เช่น การจา่ ยเงินสด การโอนสินทรพั ย์อื่น การใหบ้ ริการ การเปล่ียนภาระผกู พนั เดิมเปน็ ภาระผูกพนั ใหม่ การ แปลงหนี้เป็นทนุ เป็นตน้ ทง้ั นี้ ตวั อย่างรายการหนสี้ ิน เช่น เจา้ หนีก้ ารค้า เงนิ กู้ยืมจากสถาบันการเงนิ ประมาณการหน้ีสนิ จากการรับประกันสินค้า เปน็ ตน้ หรือ หนส้ี ิน (Liabilities) จากคานิยาม หน้สี นิ หมายถงึ ภาระติดพันในปัจจบุ ันของกจิ การ ซ่ึงเปน็ ผล ของเหตุการณ์ในอดตี โดยการชาระภาระผกู พนั นัน้ คาดวา่ จะสง่ ผลใหก้ จิ การสูญเสยี ทรัพยากรท่ีมปี ระโยชน์เชิง เศรษฐกิจ ประเด็นท่ีสาคัญของนยิ ามของหนสี้ ินมีดงั นี้ 1. ภาระผูกพนั ครอบคลมุ ถึงภาระผกู พันทางกฎหมาย (Legal obligation) หรืออาจเกิดจาก การดาเนนิ งานตามปกติของกิจการ จากประเพณีการคา้ หรอื จากความตอ้ งการทีจ่ ะรักษาความสมั พนั ธ์ เชิงธุรกิจหรือต้องการปฏิบัติในลักษณะที่เป็นธรรม (Constructive obligation) ภาระผูกพันจากประเพณี การค้า เช่น กิจการขายคอมพวิ เตอรแ์ ละออกใบรับรองประกนั สินค้าเพ่ือซ่อมแซมฟรีเป็นเวลา 3 ปี กิจการต้อง บันทกึ ประมาณการหนีส้ นิ ภายใต้สัญญารับประกนั 2. เปน็ ผลของเหตกุ ารณ์ในอดีต เชน่ กจิ การมภี าระผกู พนั สาหรับรายการเงินกู้ยืม เมอื่ วันที่ ลงนามในสัญญาเงินก้แู ละไดร้ บั เงินกู้ หรือกจิ การมีภาระผกู พันกับผู้จาหน่ายสนิ ค้าหรือเจา้ หนกี้ ารคา้ เมื่อลงนามรับสินค้าหรือกิจการต้ังประมาณการความเสียหายจากคดีความฟ้องร้องเพราะเกิดเหตุการณ์ในอดีต ที่ทาใหผ้ ้อู นื่ เสยี หาย 3. การสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจไปเพ่ือชาระผูกพัน อาจเกิดได้หลายลักษณะ เช่น การจ่ายเงินสด การโอนสินทรัพย์ การให้บริการ การเปล่ียนภาระผูกพันเดิมเป็นภาระผูกพันใหม่หรือการ เปลี่ยนแปลงหนี้ ใหเ้ ป็นทุน ทัง้ นี้ ภาระผูกพันอาจสนิ้ สดุ ลง 4.2.1.3 ส่วนของเจ้าของ (Equity) หมายถงึ ส่วนไดเ้ สยี คงเหลอื ในสนิ ทรพั ย์ของ กจิ การหลังจากหักหนสี้ ินทั้งหมดออกแลว้ เชน่ ห้นุ สามญั กาไรสะสม เป็นตน้ ทั้งนี้ มูลค่าของส่วนของเจา้ ของ ในงบแสดงฐานะการเงนิ มักไม่เท่ากับราคาตลาดของิห้นท้ังหมดท่อี ยู่ในมือของิผ้ถือิห้น เนื่องจากการวดั มูลค่า ของสว่ นของเจา้ ของ ขึ้นอยู่กับการวดั มูลคา่ ของสินทรัพย์และหนสี้ ิน ในงบแสดงฐานะการเงิน ซึง่ สว่ นใหญ่ไม่ได้ แสดงดว้ ยราคาตลาดของสินทรพั ยแ์ ละหน้สี ินนนั้ 4.2.2 องคป์ ระกอบท่ีเก่ียวข้องโดยตรงกับผลการดาเนนิ งาน ได้แก่ กาไรเปน็ เกณฑท์ ่ัวไปทใ่ี ช้วัดผลการดาเนินงาน องค์ประกอบท่ีเกีย่ วขอ้ งโดยตรงกบั การ วัดกาไรคอื รายได้และค่าใช้จา่ ย 4.2.2.1 รายได้ (Income) หมายถึง การเพมิ่ ข้นึ ของประโยชน์เชงิ เศรษฐกจิ ในรอบ ระยะเวลาบัญชีในรูปกระแสเข้าหรือการเพ่ิมค่าของสินทรัพย์ หรือการลดของหนี้สิน อันส่งผลให้ส่วนของ เจา้ ของเพม่ิ ขน้ึ ท้ังนไ้ี มร่ วมถงึ เงินทนุ ทไี่ ดร้ ับจากผูม้ สี ว่ นรว่ มในสว่ นของเจา้ ของ เชน่ การเพมิ่ ทนุ รายไดต้ าม
10 คานิยาม รวมถึง ผลกาไร (gain) และรายได้ที่เกิดจากการดาเนินงานตามปกติของกิจการ (revenue) ตัวอย่าง ของรายได้ เช่น รายได้จากการขาย รายได้ค่าธรรมเนียม ดอกเบ้ียรับ รายได้เงินปันผล กาไรจากการจาหน่าย สนิ ทรัพย์ หรอื กาไรจากการตรี าคาหลักทรัพยใ์ นความต้องการของตลาด 4.2.2.2 ค่าใช้จา่ ย (Expense) หมายถึง การลดลงของประโยชนเ์ ชิงเศรษฐกจิ ใน รอบระยะเวลาบัญชีในรูปกระแสออกหรือการลดค่าของสนิ ทรพั ย์ หรือการเพ่ิมของหนีส้ ิน อันส่งผลให้ส่วนของ เจ้าของลดลง ทัง้ น้ี ไม่รวมถงึ การแบง่ ปนั ให้กบั ผมู้ สี ่วนร่วมในสว่ นของเจ้าของ เชน่ การจ่ายเงินปันผล ค่าใช้จ่าย ตามคานิยาม รวมถึง ผลขาดทุน (loss) และคา่ ใชจ้ ่ายที่เกดิ จากการดาเนินงานตามปกตขิ อง กิจการ ตัวอยา่ งของคา่ ใช้จา่ ย เช่น ตน้ ทนุ ขาย ค่าจ้าง คา่ เสอื่ มราคา ผลขาดทุนทเี่ กดิ จากภัยพบิ ตั หิ รอื ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น เช่น ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ผลขาดทุนท่ียังไม่เกิดขึ้นน้ี มักแสดงสุทธจิ ากรายได้ท่ีเก่ียวข้อง นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงรายการเพอื่ การรกั ษาระดับทุน เช่น การตีราคาใหม่ รายการที่ดิน อาคาร และอปุ กรณ์ ทสี่ ่งผลใหเ้ กิดการเพ่ิมขึ้นของรายการสินทรัพย์และรายได้ อย่างไรก็ดี แม้วา่ การเพิ่มข้ึนหรือลดลง นจ้ี ะตรงคานิยามของรายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ย แต่จะไมร่ วมอยู่ในงบกาไรขาดทุน รายได้ดงั กล่าวจงึ รวมอยูใ่ น ส่วนของเจ้าของ เรยี กว่า รายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสรจ็ อื่น อันเปน็ รายการปรับปรุงเพ่ือการรักษาระดบั ต้นทุน ไมไ่ ดเ้ กดิ จากผลการดาเนินงานของผบู้ ริหารกิจการ 4.3 การรบั ร้รู ายการขององค์ประกอบงบการเงนิ การรบั ร้รู ายการ (Recognition) หมายถงึ การรวมรายการเข้าเป็นส่วนหน่ึงของ งบแสดงฐานะ ทางการเงิน (Statement of Financial Position) หรืองบกาไรขาดทนุ (Statement of Comprehensive Income) การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงนิ หรอื งบกาไรขาดทุนการจะนาเสนอด้วย ข้อความและจานวนเงิน พรอ้ มกับรวมจานวนเงินหรืองบกาไรขาดทนุ การรบั รู้รายการองคป์ ระกอบของงบการเงิน จะเกดิ ข้ึนเมอ่ื เข้าเงอ่ื นไขทุกข้อ ดงั นี้ 1. มคี วามเปน็ ไปไดค้ ่อนข้างแน่ (Probable) ทีก่ จิ การจะได้รับหรือสญู เสียประโยชนเ์ ชงิ เศรษฐกจิ ในอนาคตจากรายการดงั กล่าว 2. รายการดังกลา่ วมีราคาทนุ หรือมลู ค่าทีส่ ามารถวดั ได้อยา่ งน่าเชอื่ ถอื (Reliably Measurable) การประเมินว่ารายการใดเข้าเกณฑ์การรับรู้ในงบการเงิน ให้พิจารณาความมีสาระสาคัญ (materiality) ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ แสดงให้เห็นว่ารายการที่เป็นไปตามคานิยามและเข้าเกณฑ์การรับรู้ สินทรัพย์จะทาให้เกิดการรับรู้รายได้หรือหนี้สินด้วย รายการท่ีไม่เงื่อนไขการรับรู้รายการ ณ เวลาหน่ึง อาจ เปล่ยี นมาเข้าเกณฑ์การรบั รู้รายการในเวลาตอ่ มา สาหรบั รายการทีเ่ ปน็ ไปตามนิยามขององคป์ ระกอบ แต่ ไม่เข้าเกณฑ์การรับรู้รายการให้เปิดเผยไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินหากรายการนั้นมีความเก่ียวข้องกับ การตัดสินใจของผใู้ ชง้ บการเงนิ เช่น หนี้สนิ ทอ่ี าจเกดิ ข้นึ (contingent liability) 4.4 การวดั มูลค่าองคป์ ระกอบของงบการเงิน งบการเงินใชเ้ กณฑ์ในการวัดมลู คา่ แตกตา่ งกัน 4 เกณฑ์ ไดแ้ ก่ 1. ราคาทุนเดิม หมายถงึ การบันทกึ สนิ ทรัพยด์ ้วยจานวนเงินสดหรือรายการเทยี บเท่าเงนิ สด
11 ที่จ่ายหรือด้วยมูลค่ายุติธรรมของสิ่งที่นาไปแลกสินทรัพย์ ณ เวลาท่ีได้มา และบันทึกหนี้สินด้วยจานวนเงินที่ ได้รบั จากการกอ่ ภาระผูกพนั ด้วยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสดท่ีคาดวา่ จะต้องจา่ ยเพื่อชาระหน้ี 2. ราคาทุนปจั จบุ ัน หมายถึง การแสดงสนิ ทรัพยด์ ว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเทา่ เงนิ สดท่ีต้องจา่ ยในขณะนั้นเพ่ือให้ไดส้ นิ ทรัพยช์ นิดเดยี วกนั และการแสดงหน้ีสนิ ดว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการ เทียบเทา่ เงินสดทีต่ อ้ งใช้ชาระภาระผูกพันในขณะน้ันโดยไมต่ ้องคิดลด 3. มลู ค่าท่ีจะไดร้ ับ (จา่ ย) หมายถงึ การแสดงสินทรพั ยด์ ว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการ เทียบเท่าเงินสดที่จะได้มาในขณะน้ันหากกิจการขายสินทรัพย์โดยเป็นไปตามขั้นตอนปกติในการจาหน่าย สินทรพั ย์และการแสดงหนี้สนิ ดว้ ยมูลคา่ ท่ีจะต้องจ่ายคือหรือดว้ ยจานวนเงนิ สดหรอื รายการเทยี บเท่าเงนิ สด ที่คาดวา่ จะต้องจ่ายเพ่อื ชาระหนี้สนิ ท่ีเกิดจากการดาเนินงานตามปกตโิ ดยไม่ต้องคิดลด 4. มลู คา่ ปจั จุบัน หมายถงึ การแสดงสินทรัพยด์ ้วยมูลค่าปจั จุบันของกระแสเงนิ สดรับสุทธิ ในอนาคตซึ่งคาดว่าจะได้รับจากสินทรัพย์นั้นในการดาเนินงานตามปกติของกิจการ และการแสดงหนี้สินด้วย มลู ค่าปจั จบุ นั ของกระแสเงนิ สดจ่ายสทุ ธิซึง่ คาดว่าจะต้องจ่ายชาระหน้สี ินในการดาเนนิ งานตามปกติของกจิ การ เกณฑ์การวดั มลู ค่าส่วนใหญ่ท่ีใช้ในการทางบการเงิน คอื ราคาทนุ เดิม และใช้ร่วมกับเกณฑอ์ ืน่ ๆ เชน่ สนิ คา้ คงเหลอื แสดงดว้ ยราคาทุนหรือมลู ค่าสทุ ธิทจี่ ะได้รบั แลว้ แต่ราคาใดจะตา่ กว่า, หนี้สนิ เงินบานาญแสดง ด้วยมูลคา่ ปัจจุบนั 4.5 แนวคิดเรอ่ื งทนุ และการรกั ษาระดบั ทนุ แนวคิดเรื่องทุน (Concepts of Capital) เปน็ แนวคดิ ที่ใชใ้ นการจัดทางบการเงนิ ซึ่งสามารถแบ่ง แนวคดิ เรื่องทุนออกเปน็ 2 แนวคดิ ย่อย ดังน้ี 1) แนวคดิ ทางการเงิน (Financial Concept of Capital) เป็นแนวคดิ ของทุนที่ใช้ตวั เงิน ท่ลี งทนุ หรอื อานาจซ้ือที่ลงทุน ซ่ึงเท่ากบั สินทรัพยส์ ุทธิ (สินทรพั ย์หกั หน้ีสิน) หรือสว่ นของเจา้ ของเป็นหน่วยวดั โดยวดั อยใู่ นรปู ของตวั เงินทเี่ ป็นหน่วยเงนิ ตราเดิม หรือหนว่ ยเงินตราทีม่ ีอานาจซื้อคงที่ โดยการปรับด้วย อัตรา เงินเฟ้อ เช่น จานวนเงนิ บาท เปน็ ตน้ ซง่ึ กิจการสว่ นใหญ่มักนาแนวคิดทนุ ทางการเงินน้ีมาใชใ้ นการ จัดทางบ การเงิน 2) แนวคิดทางกายภาพ (Physical Concept of Capital) เป็นแนวคิดของทนุ ที่ใชก้ าลงั การ ผลิต ที่สามารถใช้ในการผลติ หรอื ท่ีใช้ผลติ จรงิ เปน็ หนว่ ยวดั ซ่ึงสามารถวดั ได้ในรปู ของผลผลิต เช่น จานวน ผลผลติ ทผ่ี ลติ ได้ตอ่ วัน เปน็ ต้น งบการเงิน งบการเงินเป็นการนาเสนอฐานะการเงินและผลการดาเนนิ งานทางการเงินของกจิ การอย่างมีแบบแผน โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พื่อให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ฐานนะการเงิน ผลการดาเนินงาน และกระแสเงนิ สดของกิจการ เพื่อให้ บรรลวุ ัตถปุ ระสงคด์ ังกล่าว งบการเงินจึงต้องให้ข้อมลู เก่ียวกับ 1. สินทรัพย์ 2. หนส้ี ิน 3. สว่ นของเจ้าของ 4. รายไดแ้ ละค่าใช้จ่าย รวมถึงผลกาไรขาดทุน
12 5. เงนิ ทุนทไี่ ด้รับจากผ้เู ป็นเจ้าของและการจดั สรรส่วนทุนใหผ้ ู้เปน็ เจา้ ของในฐานะทีเ่ ปน็ เจ้าของและ 6. กระแสเงนิ สด จากข้อมูลทางการเงนิ ทีจ่ าเป็นตอ้ งมีในงบการเงนิ 6 รายการดา้ นบน สง่ ผลให้งบการเงินฉบบั สมบูรณ์ ประกอบด้วย 1. งบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั ส้ินงวด 2. งบกาไรขาดทนุ และกาไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็ อน่ื หรืออาจเรยี กงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสรจ็ สาหรับงวด 3. งบการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจา้ ของสาหรับงวด 4. งบกระแสเงนิ สดสาหรับงวด 5. หมายเหตุประกอบการเงิน ซึ่งประกอบด้วยสรปุ นโยบายการบัญชีทส่ี าคญั ข้อมูลท่ใี ห้คาอธบิ ายอ่นื 6. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั ตน้ งวดของงวดกอ่ นเมอื่ กจิ การนานโยบายการบัญชีใหมม่ าถือปฏบิ ตั ิ ยอ้ นหลัง หรอื มีการปรับย้อนหลังรายการในงบการเงนิ หรือเม่ือกจิ การมกี ารจัดประเภทรายการใหม่ข้อสงั เกต รายการท่ี 6 จะเกิดขึ้นเม่ือนานโยบายการบัญชีใหมม่ าถือปฏบิ ัตมิ ีการปรบั ย้อนหลงั รายการในงบการเงิน หรือ มกี ารจัดประเภทรายการใหม่เท่านน้ั งบแสดงฐานะการเงิน Statement of Financial Position งบแสดงฐานะการเงินต้องมรี ายการท่ีแสดงจานวนเงนิ ทกุ ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี เป็นอยา่ งนอ้ ย 1. เงนิ สดและรายการเทยี บเท่าเงนิ สด 2. ลกู หน้ีการคา้ และลูกหน้ีอนื่ 3. สินทรัพยค์ งเหลือ 4. สนิ ทรัพยช์ วี ภาพ 5. เงนิ ลงทนุ ซ่งึ บันทึกโดยใช้วิธสี ่วนไดเ้ สยี 6. สินทรัพยท์ างการเงิน 7. สินทรพั ยไ์ ม่มตี วั ตน 8. อสังหาริมทรัพยเ์ พ่อื การลงทุน 9. ทดี่ นิ อาคาร และอุปกรณ์ 10. ยอดรวมสนิ ทรพั ย์ทจี่ ดั ประเภทเปน็ สนิ ทรัพยแ์ ละถือไว้เพ่ือขาย และ สนิ ทรัพยท์ ี่รวมอยู่ ในกลมุ่ สินทรัพยท์ ่ยี กเลิก 11. เจา้ หนีก้ ารค้าและเจ้าหน้ีอน่ื 12. ประมาณการหนี้สนิ 13. หนสี้ ินทางการเงนิ 14. หนส้ี นิ และสินทรพั ย์ภาษีเงนิ ได้ 15. หน้ีสินภาษีเงนิ ไดร้ อการตัดบัญชีและสินทรัพยภ์ าษีไดร้ อการตดั บัญชี 16. หนสี้ ินที่รวมในกลุ่มสินทรัพย์ทีย่ กเลกิ ทจ่ี ัดประเภทเปน็ สนิ ทรัพยท์ ี่ถือไวเ้ พ่ือขาย 17. สว่ ยไดเ้ สียที่ไม่มีอานาจควบคุมทแ่ี สดงในสว่ นของเจ้าของ และ
13 18. ทนุ ทอี่ อกจาหน่าย และสารองต่างๆ ท่จี ดั สรรใหแ้ ก่ผ้เู ปน็ เจ้าของบริษทั ใหญ่ การจัดประเภทสนิ ทรัพย์และหนสี้ นิ ในงบแสดงฐานะการเงนิ กจิ การแยกแสดงสินทรัพยแ์ ละหนส้ี ินเปน็ รายการหมนุ เวยี นและไม่หมนุ เวียน สินทรพั ย์จะจดั ประเภทเป็นสินทรพั ยห์ มุนเวียนเม่ือเป็นไปตามเงือ่ นไขขอ้ ใดข้อหน่ึงต่อไปน้ี 1. คาดว่าได้รบั ประโยชน์ หรอื ตั้งใจจะขายหรือใช้ภายในรอบระยะเวลาการดาเนนิ งานตามปกติ ของกิจการ 2. ถือไว้โดยมีวตั ถุประสงคเ์ บื้องตน้ คือ มีไวเ้ พื่อค้า 3. คาดว่าจะไดร้ บั ประโยชน์ภายในระยะเวลา 12 เดอื น นับจากรอบระยะเวลารายงาน คือ 4. สินทรัพยด์ งั กลา่ วเปน็ เงินสดหรอื รายการเทยี บเทา่ เงินสดและไมม่ ีข้อจาจดั ในการแลกเปลีย่ นหรอื การใชช้ าระหนส้ี ินภายในระยะเวลาอย่างน้อย 12 เดอื นนับจากรอบระยะเวลารายงาน สินทรัพย์ท่ีไมเ่ ป็นไป ตามเง่ือนไขข้อใดข้อหนึ่งให้จัดประเภทเปน็ สนิ ทรัพย์ไม่หมุนเวียน สินทรัพย์ไมห่ มนุ เวียน รวมถึง สนิ ทรพั ย์มี ตัวตน สินทรพั ยไ์ ม่มีตวั ตน และสินทรพั ยท์ างการเงนิ (Financial assets) ลกั ษณะทีเ่ ป็นระยะยาวและมิไดม้ ี ขอ้ หา้ มในการใช้ หนี้สนิ จะจดั ประเภทเป็นหน้ีสนิ หมนุ เวียน เมื่อหน้สี ินน้นั เข้าเงอื่ นไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ 1. คาดว่าจะมกี ารชาระภายในรอบระยะเวลาดาเนินการตามปกติของกจิ การ 2. ถือไว้โดยมีวัตถุประสงคเ์ บ้ืองต้น คือ มีไวเ้ พ่ือคา้ 3. ถึงกาหนดชาระภายใน 12 เดอื นนับจากรอยระยะเวลารายงาน หรอื 4. กิจการไม่มสี ิทธใิ นการเลือ่ นการชาระหนอ้ี อกไปอกี เป็นเวลาไมน่ ้อยกวา่ 12 เดอื นนับจากรอบระยะ เวลารายงาน หากคู่สญั ญามที างเลือกให้ใช้จ่ายชาระหนี้โดยการออกตราสารทนุ ระยะเวลาการชาระหน้ไี มม่ ี ผลกระทบต่อการจดั ประเภทรายการหนส้ี นิ ทีไ่ มเ่ ปน็ ไปตามเง่อื นไขขา้ งต้นให้จัดประเภทเป็นหน้ีสินไมห่ มนุ เวียน สรปุ กรอบแนวคิดสาหรับรายงานทางการเงนิ เป็นเกณฑใ์ นการจัดทาและนาเสนองบการเงิน คณะกรรมการ มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศใช้กรอบแนวคิดเป็นพื้นฐานสาหรับการพัฒนาและทบทวนมาตรฐานการ รายงานการเงิน ส่วนกิจการใช้กรอบแนวคิดเป็นพื้นฐานในการจัดทารายงานและจัดการกับประเด็นที่ยังไม่ได้ นามากาหนดเป็นมาตรฐานการรายงานทางการเงิน กรอบแนวคิดได้อธิบายถึงลักษณะเชิงคุณภาพของข้อมูล ทางการเงินอันได้แก่ลักษณะเชิงคุณภาพพื้นฐานและลักษณะเชิงคุณภาพเสริม ลักษณะเชิงคุณภาพพื้นฐาน ประกอบด้วยความเกี่ยวขอ้ งกับการตัดสินใจ ความเปน็ ตัวแทนอันเที่ยงธรรม สว่ นลักษณะเชิงคุณภาพเสริมมี 4 ลกั ษณะ ได้แก่ ความสามารถเปรยี บเทียบกันได้ ความสามารถพิสจู นย์ นื ยนั ได้ ความทนั เวลา และความสามารถ เข้าใจได้ ข้อสมมติทางการบัญชีเหลือเพียงข้อเดียว หากเปรียบเทียบกับแม่บทการบัญชี (ปรับปรุง 2552) การ ดาเนินงานตอ่ เน่อื ง องค์ประกอบของการเงินเปน็ การจัดประเภทรายการเพอื่ แสดงใหเ้ ห็นถึงสถานะการเงินและ ผลการดาเนินงานของกิจการ องค์ประกอบซึ่งเกี่ยวข้องกับฐานะการเงิน ได้แก่ สินทรัพย์หนี้สิน และส่วนของ เจ้าของ องค์ประกอบซ่ึงเกี่ยวข้องกับ ผลการดาเนินงานได้แก่ รายได้ และ ค่าใช้จ่าย งบการเงินเป็นการ นาเสนอฐานะการเงินและผลการดาเนินงานของกิจการ โดยงบแสดงฐานะการเงินจะแสดงรายการ สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ ในขณะที่งบกาไรขาดทุนจะแสดงผลการดาเนินงานอันได้มาจากรายได้หัก
14 คา่ ใช้จ่าย ในบทต่อๆไปสาหรบั หนังสือวชิ าการบัญชีชนั้ กลาง 1 นี้จะกล่าวถงึ รายการสินทรพั ย์ ในงบแสดงฐานะ การเงิน และมาตรฐานรายงานทางการเงิน ท่ีเก่ียวข้องกับรายการสินทรัพย์นั้นๆ ส่วนรายการหน้ีสินและส่วน ของเจา้ ของ นักศึกษาสามารถศกึ ษาไดจ้ ากหนังสอื วชิ าการบัญชชี ้ันกลาง 2 *******************************************
15 คาศัพทบ์ ญั ชีท้ายหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 คาศพั ท์ ความหมาย 1.Conceptual Framework for Financial Reporting กรอบแนวคิดสาหรบั การรายงานทางการเงนิ 2.The Objective of General Purpose Financial วัตถปุ ระสงค์ของรายงานทางการเงินเพื่อ Reporting วัตถปุ ระสงค์ทว่ั ไป 3.Qualitative Characteristics ลกั ษณะเชิงคุณภาพ 4.financial information ขอ้ มูลทางการเงิน 5.investors ผลู้ งทุน 6.creditors ผใู้ ห้กยู้ ืม 7.Primary Users ผู้ใช้หลกั 8.recurring items รายการจากการดาเนินงานปกติ 9.non-recurring items รายการทไ่ี ม่ได้เกดิ ขน้ึ บอ่ ย 10.Fundament Qualitative Characteristics ลักษณะเชิงคณุ ภาพพนื้ ฐาน 11.Relevance ความเกยี่ วข้องกับการตดั สินใจ 12.Predictive value คุณคา่ ทางการพยากรณ์ 13.Confirmative value คณุ คา่ ทางการยนื ยัน 14.Materiality ความมีสาระสาคัญ 15.Faithful Representation ความเปน็ ตวั แทนอนั เท่ยี งธรรม 16.Completeness ความครบถว้ น 17.Neutrality ความเป็นกลาง 18.Free from Error ปราศจากข้อผิดพลาด 19.Enhancing Qualitative Characteristics ลักษณะคุณภาพเสรมิ 20.Comparability ความสามารถเปรยี บเทียบได้ 21.Verifiability ความสามารถพิสจู น์ยนื ยนั ได้ 22.Timeliness ความทนั เวลา 23.Understandability ความสามารถเขา้ ใจได้ 24.Assets สนิ ทรพั ย์ 25.Physical substance รปู แบบทางกายภาพ 26.Liabilities หนส้ี นิ 27.Legal obligation ภาระผกู พนั ทางกฎหมาย 28.Constructive obligation ลักษณะทีเ่ ป็นธรรม 29.Equity ส่วนของเจ้าของ 30.Income รายได้
16 คาศพั ทบ์ ญั ชีทา้ ยหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 คาศัพท์ ความหมาย 31.Gain ผลกาไร 32.Expense ค่าใช้จา่ ย 33.Loss ผลขาดทุน 34.Recognition การรบั รู้รายการ 35.Probable ความเปน็ ไปไดค้ ่อนข้างแน่ 36.Reliably Measurable ความสามารถวดั ไดอ้ ย่างนา่ เชื่อถือ 37.Contingent liability หนี้สนิ ที่อาจเกดิ ขนึ้ 38.Concepts of Capital แนวคดิ เรอื่ งทนุ 39.Physical Concept of Capital แนวคดิ ทางกายภาพ 40.Financial assets สินทรัพยท์ างการเงิน 41.Statement of Financial Position งบแสดงฐานะการเงนิ 42.Statement of Comprehensive Income งบกาไรขาดทนุ *******************************************
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: