Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือช่างไฟฟ้าภายในอาคาร

คู่มือช่างไฟฟ้าภายในอาคาร

Published by thanachai_k, 2022-09-27 10:22:20

Description: คู่มือช่างไฟฟ้าภายในอาคาร
หนังสืออ่านเพิ่มเติมประกอบรายวิชา ง31217 ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร

Search

Read the Text Version

รปู ที่ ๒.๒๑ การวัดคา่ กาํ ลังไฟฟา้ ด้วยวัตตม์ ิเตอร์ ๒.๕.๗ วัตต์ฮารว์ มเิ ตอร์ วัตต์ฮารว์ มิเตอร์ (Watthour Meter) นัน้ เป็นมเิ ตอรท์ ่ี ทํางานด้วยการเหน่ียวนําไฟฟ้าถูกสร้างข้ึนมาให้ใช้งานเป็นมิเตอร์วัด กําลังไฟฟ้าในบ้านเรือน ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยวัดกําลังไฟฟ้าออกมา เป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง (Kilowatthour ;kWh) หลักการทํางานของวัตต์ฮาร์ว มิเตอร์เหมือนกับมิเตอร์ของกําลังไฟฟ้าท่ีทํางานด้วยการเหน่ียวนําไฟฟ้า เช่น วัตต์มิเตอร์ มีส่วนประกอบเหมือนกันคือประกอบด้วยขดลวดกระแส และขดลวดแรงดัน แต่ก็มีส่วนท่ีแตกต่างกันโดยวัตต์ฮาร์วมิเตอร์จะแสดง ค่าออกมาโดยใช้แมเ่ หล็กหน่วงการเคล่ือนที่ของจานหมนุ และใช้ชุดเฟืองไป ขบั เขม็ ชใ้ี ห้แสดงคา่ ออกมาบนสเกล หรืออาจใช้ชุดเฟืองไปขับชุดตัวเลขให้ แสดงค่าออกมา โครงสร้างของชุดให้กําเนิดสนามแม่เหล็กและจานหมุน ของวัตตฮ์ าร์วมิเตอร์ แสดงดังรูปที่ ๒.๒๒ คมู่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๔๖

รูปท่ี ๒.๒๒ โครงสรา้ งและการตอ่ วงจรวตั ต์ฮารว์ มิเตอร์ รูปที่ ๒.๒๓ โครงสร้างและการต่อวงจรวตั ต์ฮาร์วมิเตอร์ ค่มู ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๔๗

ตารางท่ี ๒.๓ มาตรฐานขนาดมเิ ตอร์กบั ขนาดสายไฟฟา้ ขนาดมิเตอร์ ขนาดสูงสดุ ขนาดต่าํ สดุ ของสายไฟฟา้ เมน วัดหน่วย ของเซอร์กิต ทองแดง (ตร.มม.) ไฟฟา้ เบรกเกอรเ์ มน ในอากาศ ในท่อ 5(15) A 16A 4 4* 15(45) A 50A 10 16 30(100) A 100A 25 50 * หากเดนิ สายเมนในทอ่ ฝงั ดินสายต้องไม่เล็กกวา่ 10 ตร.มม. ๒.๖ สายไฟฟ้า ๒.๖.๑ สขี องฉนวนหุม้ สายไฟฟ้า โค๊ดสมี าตรฐานมดี ังนี้ - เฟส A ฉนวนสีนาํ้ ตาล - เฟส B ฉนวนสีดํา - เฟส C ฉนวนสีเทา - สายนวิ ทรลั (N) ฉนวนสฟี ้า - สายดนิ (G) ใช้สายสเี ขียวหรอื เขียวสลับเหลอื ง - สายหุม้ ฉนวน ๒ แกน ใชส้ ีฟา้ และน้าํ ตาล (N-L) - สายหุม้ ฉนวน ๓ แกน (G-N-L) ใช้สีเขียวแถบเหลอื ง สีฟา้ และนํา้ ตาล (A-B-C) ใช้สีนาํ้ ตาล สีดาํ สเี ทา - สายหุ้มฉนวน ๔ แกน (G-A-B-C) ใชส้ เี ขียวแถบเหลือง สีนํ้าตาล สดี าํ สเี ทา (N-A-B-C) ใช้สีฟา้ สนี าํ้ ตาล สดี าํ สีเทา - สายหุม้ ฉนวน ๕ แกน (G-N-A-B-C) ใชส้ ีเขียวแถบเหลือง สีฟ้า สีนํา้ ตาล สีดํา สีเทา ค่มู อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๔๘

รูปที่ ๒.๒๔ สีของฉนวนหุ้มสายไฟฟา้ ๒.๖.๒ ชนดิ ของสายหุ้มฉนวน ใช้สาํ หรับงานติดต้ังระบบไฟฟ้าแรงตํ่า จะเปน็ สายไฟฟา้ ชนิดที่เป็นสายทองแดงหุ้มฉนวน ความหนาและชนิดของฉนวนนั้นขึ้นอยู่ กับพิกัดของแรงดันไฟฟ้า ฉนวนนั้นมีหน้าที่เพื่อป้องกันการลัดวงจร การ เกดิ ไฟฟ้ารว่ั หรอื ป้องกนั ไฟฟา้ ดูด สายไฟฟา้ ท่ีนิยมใช้ มดี งั ต่อไปนี้ (๑) สาย VAF เนอ่ื งจากมรี ูปทรงท่ีแบนจึงเรียกว่า สาย แบนแกนคู่ ภายในประกอบด้วยสายทองแดงจํานวนสองเส้นหุ้มด้วยฉนวน โพลไิ วนลิ คลอไรด์สองช้นั หรอื (PVC/PVC) เหมาะกับงานเดินสายไฟฟ้า ด้วยเข็มขัดรัดสาย เน่ืองจากดัดโค้งงอได้ดี มีหลายขนาด เช่น ๑.๕ ตาราง มิลลิเมตร ๒.๕ ตารางมิลลิเมตร โดยย่ิงพ้ืนท่ีหน้าตัดของสายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ความต้านทานของสายไฟฟา้ จะลดลง สาย VAF มีพิกัดแรงดัน ๓๐๐ โวลท์ อณุ หภูมใิ ช้งานไม่เกนิ ๗๐ องศาเซลเซยี ส คู่มือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๔๙

รปู ที่ ๒.๒๕ สาย VAF-G (๒) สาย VFF ภายในจะประกอบด้วยสายทองแดงฝอย จํานวนสองแกนหุ้มด้วยฉนวน พีวีซีชั้นเดียว (PVC insulated) เหมาะ สําหรับงานที่ต้องเคล่ือนย้ายบ่อยๆ พิกัดแรงดัน และอุณหภูมิใช้งาน เหมือนกับสาย VAF รูปที่ ๒.๒๖ สาย VFF (๓) สาย VSF ภายในประกอบดว้ ยสายทองแดงฝอยหุม้ ด้วยฉนวนพีวีซีช้ันเดียวเป็นสายชนิดอ่อนตัวได้ นิยมใช้ในวงจรควบคุม (Control) ภายในตู้ควบคุมไฟฟ้า พิกัดและอุณหภูมิการใช้งานเหมือนกับ สาย VAF รูปท่ี ๒.๒๗ สาย VAF (๔) สาย THW ภายในประกอบดว้ ยสายทองแดงตันเส้น เดียวหุ้มด้วยฉนวนพีวีซีชั้นเดียว ลักษณะการติดตั้ง เดินลอยต้องยึดด้วย วัสดุฉนวน เดินในช่องร้อยสายในสถานที่แห้ง เดินร้อยท่อฝังดินได้แต่ต้อง ป้องกันไม่ให้นํ้าเข้าภายในท่อและป้องกันไม่ให้สายมีโอกาสแช่น้ํา พิกัด แรงดัน ๗๕๐ โวลท์ อุณหภูมิใช้งานไม่เกนิ ๗๐ องศา เซลเซียส คูม่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๕๐

รูปที่ ๒.๒๘ สาย THW (๕) สาย VCT ภายในประกอบดว้ ยสายทองแดงฝอยมี จาํ นวน ๒ แกน หรือมากกว่า หุ้มฉนวน ๒ ชั้นและอ่อนตัวได้ ใช้ต่อเข้ากับ ปลั๊กตัวผู้ของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ หรือเดินจากตู้ควบคุมไปยังเครื่องจักรท่ี ใหญ่และเคลอื่ นที่ได้ พกิ ดั แรงดนั และอณุ หภูมใิ ชง้ านเหมอื นกับสาย THW รปู ที่ ๒.๒๙ สาย VCT (๖) สาย NYY ภายในประกอบด้วยสายทองแดงจํานวน สองแกนหรือมากกว่าหุม้ ด้วยฉนวน ๓ ช้นั เหมาะสาํ หรบั การเดนิ สายใต้ดิน โดยตรงหรือใช้งานทั่วไป บางชนิดจะมีแผ่นเหล็กเป็นเกราะกําบัง พิกัด แรงดนั และอุณภมู ิใชง้ านเหมอื นกบั สาย VCT รปู ที่ ๒.๓๐ สาย NYY คู่มือเตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๕๑

ความนาํ ไฟฟ้าของลวดตัวนาํ สายไฟฟา้ น้ันข้ึนอยู่กบั - ชนิดของลวดตัวนํา โลหะเงินนําไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดง อะลูมิเนียม ทังสเตน เหลก็ และนโิ ครม ตามลําดับ - ความยาวของลวดตัวนํา ลวดตัวนําชนิดเดียวกันขนาด เท่ากัน ลวดท่ีมีความยาวมากจะมีความนําไฟฟ้าได้น้อยและมีความ ตา้ นทานไฟฟา้ มากกว่าลวดสั้น - พ้ืนทห่ี น้าตัดหรือขนาดของลวดตวั นาํ ลวดตัวนาํ ที่ชนิด เดียวกันความยาวเท่ากัน ลวดท่ีมีพ้ืนที่หน้าตัดมากกว่า (ขนาดใหญ่กว่า) จะมคี วามนําไฟฟ้ามากกวา่ ลวดทม่ี ีพน้ื ทหี่ น้าตัดเล็ก - อุณหภูมิตาํ่ ลวดตัวนาํ จะนําไฟฟา้ ได้ดีกวา่ ทอ่ี ุณหภูมิสูง ๒.๗ อุปกรณป์ ้องกันกระแสเกนิ ๒.๗.๑ สภาวะความผิดปกติในระบบไฟฟ้า ๑. สภาวะการใช้โหลดเกิน เป็นการเกิดสภาวะการใช้ งานโหลดเกินพิกัด มักเกิดข้ึนกับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชนิด พร้อมๆกัน จะทําให้ความต้านทานรวมของระบบไฟฟ้าลดลงกระแสไฟฟ้า ก็จะไหลมากข้ึน ถ้ากระแสไหลเกินกว่าความสามารถของสายไฟท่ีทนได้ก็ จะทําใหฉ้ นวนของสายไฟเส่อื มคณุ ภาพและเป็นสาเหตกุ ารเกดิ เพลงิ ไหม้ได้ ๒. สภาวะลดั วงจร สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการชํารุดของ ฉนวนสายไฟฟ้า ทําให้ตัวนําทองแดงของสายไฟมาแตะกัน สภาวะนี้ความ ต้านทานรวมของระบบไฟฟ้าจะต่ํามากๆทําให้กระแสไหลในวงจรสูงมาก อย่างทนั ทีทนั ใด ถ้าไมม่ อี ปุ กรณ์ป้องกันจะเกดิ ความเสยี หายอย่างรุนแรง ๓. สภาวะกระแสรั่วลงดิน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการ ชาํ รดุ ของฉนวนสายไฟฟ้า ทาํ ใหต้ ัวนําทองแดงไปแตะกับโครงโลหะทําให้มี กระแสไหลผ่านโครงโลหะลงดิน ทําให้ผู้ท่ีไปสัมผัสกับโครงโลหะเป็น อันตรายจากการถกู ไฟดดู ได้ คมู่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๕๒

๒.๗.๒ ฟิวส์ ฟิวส์ (fuse) เป็นอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เกิดจากการ ใชก้ ระแสไฟฟ้า เม่ือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือกระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่วงจรมาก เกินไป ฟิวส์จะหลอมละลายและตัดวงจรไฟฟ้าทันที การต่อฟิวส์ต้องต่อ แบบอนุกรมเข้าในวงจร ฟิวส์ที่นิยมใช้ คือ คาร์ทริดจ์ฟิวส์ (Cartridge Fuse) ซึ่งมีแบบรูปทรงที่ผลิตใช้งาน ๒ รูปทรง คือ ฟิวส์รูปทรงกระบอก และฟิวส์แบบใบมีด โครงสร้างภายในฟิวส์ประกอบไปด้วย ตัวไส้ฟิวส์ทํา จากเส้นโลหะที่มีจุดหลอมเหลวต่ําสามารถหลอมละลายได้ง่ายเม่ือ กระแสไฟฟ้าไหลเกินพิกัดบรรจุอยู่ในตัวกระบอกฟิวส์ ซึ่งจะมีการบรรจุผง ทรายเพื่อใช้เป็นตัวดับอาร์คที่เกิดข้ึนเนื่องจากการหลอมละลายของฟิวส์ คาร์ทรดิ จ์ฟิวส์ แบง่ ไดเ้ ป็น ๒ ประเภทคอื (๑) ฟิวสท์ าํ งานไว โครงสร้างของฟิวส์ชนิดนี้จะมีไส้ฟิวส์เพียงชุด เดียว สามารถใช้ป้องกันสภาวะโหลดเกินและสภาวะลัดวงจรได้โดยไม่มี การหนว่ งเวลาการทาํ งาน ไสฟ้ ิวส์จะขาดเม่ือเกิดสภาวะโหลดเกินประมาณ ๑ –๖ เท่าของพกิ ัดกระแสฟวิ ส์ รปู ท่ี ๒.๓๑ โครงสรา้ งและการทํางานของฟวิ ส์ทาํ งานไว (๒) ฟวิ สห์ นว่ งเวลา เปน็ ฟิวส์ที่มไี ส้ฟิวส์ ๒ ชดุ ต่อแบบอนกุ รมกันอยู่ ภายในกระบอกฟิวส์เดยี วกนั โดยไสฟ้ วิ ส์ส่วนแรกจะขาดเม่ือเกดิ สภาวะ คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๕๓

ลัดวงจรประมาณ ๕๐๐% ของพิกัดกระแสฟิวส์ ไส้ฟิวส์ส่วนท่ีสองจะทํา หน้าท่ีป้องกันสภาวะโหลดเกินจะขาดเม่ืออุณหภูมิภายในตัวฟิวส์มี ค่าประมาณ ๑๔๐ องศาเซลเซียส สามารถใช้ในวงจรมอเตอร์ไฟฟ้าที่มี กระแสเร่ิมสตาร์ทสูงได้ รปู ที่ ๒.๓๒ ฟิวสห์ นว่ งเวลา ๒.๗.๓ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ หมายถึง อุปกรณ์ที่ทํางานเปิดและ ปดิ วงจรไฟฟ้าแบบไม่อตั โนมัติแตส่ ามารถเปิดวงจรได้อัตโนมัติ ถ้ามีกระแส ไหลผ่านเกินกว่าค่าท่ีกําหนดโดยไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น ข้อดีของเซอร์ กิตเบรกเกอร์เมื่อเทียบกับฟิวส์คือ ไม่ต้องเปล่ียนฟิวส์เม่ือเกิดการลัดวงจร เมื่อเซอร์กิตเบรกเกอร์เกดิ การตัดวงจรออกจากระบบ (ทริป) แล้ว สามารถ สับเซอร์กิตเบรกเกอร์เข้าไปในวงจรเดิมได้ทันที (แต่ต้องแก้ไขปัญหาที่ทํา ให้เซอร์กติ เบรกเกอร์ทรปิ ใหเ้ รยี บรอ้ ยเสียกอ่ น) รูปที่ ๒.๓๓ เซอร์กติ เบรกเกอร์และสญั ลักษณ์ คู่มอื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๕๔

กลไกการทริปท่ีนิยมใช้จะมี ๒ ลักษณะ คือการรทริปด้วยความร้อนและ การทรปิ ด้วยแมเ่ หลก็ (๑) การทรปิ ด้วยความรอ้ น เมอ่ื มกี ระแสไหลเกนิ ผ่านโลหะไบเมทอล ซง่ึ เปน็ โลหะ 2 ชนดิ ทีม่ สี ัมประสทิ ธิ์ทางความรอ้ นไม่เทา่ กนั จะทาํ ให้ไบเมทอลโกง่ ตวั ไปปลดอุปกรณ์ทางกลและทําให้เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ตัดวงจร เรียกว่าเกิด การ trip การปลดวงจรแบบน้ีต้องอาศัยเวลาพอสมควรข้ึนอยู่กับกระแส ขณะนัน้ และความรอ้ นทีเ่ กดิ ขึ้นจนทําใหไ้ บเมทอลโก่งตวั รูปที่ ๒.๓๔ กลไกการทรปิ ดว้ ยความร้อน (๒) การทริปดว้ ยสนามแม่เหล็ก ใช้สําหรับปลดวงจรเมื่อเกิดกระแสลัดวงจรหรือ มีกระแสค่าสูงๆ ประมาณ ๘-๑๐ เท่าขึ้นไปไหลผ่าน กระแสลัดวงจร จํานวนมากจะทําให้เกิดสนามแม่เหล็กความเข้มสูงดึงให้อุปกรณ์การปลด วงจรทํางานได้ การตัดวงจรแบบนี้เร็วกว่าแบบแรกมากโอกาสท่ีเซอร์กิต เบรกเกอร์จะชาํ รุดจากการตัดวงจรจึงมนี ้อย คูม่ อื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๕๕

รูปท่ี ๒.๓๕ กลไกการทรปิ ดว้ ยสนามแมเ่ หล็ก คาํ ศพั ทเ์ ฉพาะของเซอร์กติ เบรกเกอร์ ๑. Amp trip หรือ Ampare trip (AT) หมายถงึ พิกดั กระแสของเซอร์กิตเบรกเกอร์ ส่วนใหญ่จะแสดงไว้ท่ี name plate หรือ ด้ามคันโยก การกําหนดขนาดของ Amp trip ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ NEC กําหนดไว้ว่า “หากวงจรมีโหลดท้ังโหลดต่อเนื่องและโหลดไม่ต่อเน่ือง ขนาดของอปุ กรณป์ อ้ งกันต้องมีค่าไม่น้อยกว่า ผลรวมของโหลดไม่ต่อเน่ือง รวมกับ 125% ของโหลดตอ่ เน่ือง ยกเวน้ อุปกรณ์ป้องกนั ท่เี ปน็ ชนดิ 100% ๒. Amp frame หรือ Ampare frame (AF) คือ ขนาด AT สูงสุด ท่ีเซอร์กติ เบรกเกอรใ์ นรุ่นนีม้ จี าํ หนา่ ย เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์ ขนาด 125AT/250AF แสดงว่าเซอร์กิตเบรกเกอร์รุ่นน้ีมี 250AT/250 AF เปน็ พิกดั กระแสสงู สุด ๓. IC หรอื interrupting Rating หมายถงึ คา่ กระแส ลัดวงจรสูงสุดท่ีเซอร์กิตเบรกเกอร์น้ัน สามารถปลดวงจรได้โดยตัวมันเอง ไม่เกิดความเสียหาย ๔. Pole หรือขวั้ จะบอกใหท้ ราบวา่ เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ เป็นชนดิ 1 เฟส หรอื 3เฟส ๕. Push to trip คือ ปุ่มท่ีใช้สําหรบั ทดสอบสภาพการ ทํางานทางกลของเซอรก์ ิตเบรกเกอร์ คูม่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๕๖

๒.๘ การต่อลงดนิ การต่อลงดินมีจุดประสงค์หลักอยู่ ๒ ประการคือ เพื่อให้ระบบ ไฟฟา้ ทาํ งานไดอ้ ยา่ งมีเสถียรภาพและเชอื่ ถือได้ และเพ่ือให้ผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ ท่ีเก่ียวข้องมีความปลอดภัยจากไฟฟ้าร่ัว มาตรฐานการติดต้ังกําหนดให้ บริภัณฑ์ไฟฟ้าท่ีต้องการต่อลงดินต้องเดินสายดินไปต่อลงที่แผงเมนสวิตช์ และต่อสายดินเหนือสวิตซ์ตัดตอนเน่ืองจากต้องการให้เคร่ืองป้องกัน กระแสเกินของบริภัณฑ์น้ันปลดวงจรกรณีท่ีบริภัณฑ์ไฟฟ้ามีไฟรั่ว การต่อ ลงดนิ ท่ถี ูกต้องเป็นไปตามรปู ท่ี ๒.๓๖ รูปที่ ๒.๓๖ การตอ่ สายดนิ ที่ถกู ตอ้ ง รูปท่ี ๒.๓๗ สัญลกั ษณจ์ ดุ ตอ่ สายดิน คมู่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๕๗

มาตรฐานการตดิ ตง้ั ทางไฟฟา้ กําหนดใหบ้ ริภัณฑต์ า่ ง ๆ ตอ้ งต่อ ลงดนิ ได้แก่ (๑) เครื่องห่อหุ้มท่ีเป็นโลหะของสายไฟฟ้า แผงเมน สวติ ช์ โครงและรางปั้นจั่นที่ใช้ไฟฟ้าโครงของตู้ลิฟต์ และลวดสลิงยกของท่ี ใชไ้ ฟฟ้า (๒) ส่ิงก้ันที่เป็นโลหะ ร้ัวโลหะ รวมทั้งเคร่ืองห่อหุ้มของ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าในระบบแรงสงู (๓) อปุ กรณ์ไฟฟา้ ท่ียึดติดกับที่และที่ต่ออยู่กับสายไฟฟ้า ที่เดินถาวรส่วนทีเ่ ป็นโลหะเปดิ โล่งซึ่งปกติไม่มไี ฟฟา้ แต่อาจมีไฟฟ้าร่ัวถึงได้ ตอ้ งตอ่ ลงดนิ ๒.๘.๑ เครื่องใช้ไฟฟา้ ประเภททีต่ อ้ งมสี ายดิน เคร่ืองใช้ไฟฟ้ารวมทั้งอุปกรณ์ติดตั้งทางไฟฟ้าที่มีโครง หรือเปลือกหมุ้ เป็นโลหะซ่ึงบคุ คลมโี อกาสสัมผัสได้ต้องมีสายดิน เช่น ตู้เย็น เตารีดไฟฟ้า เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ เตา ไมโครเวฟ กระทะไฟฟา้ กระติกนา้ํ รอ้ น เครื่องทํานํ้าร้อนหรือน้ําอุ่น เคร่ือง ป้ิงขนมปัง เป็นต้น เราเรียกเคร่ืองใช้ไฟฟ้าเหล่าน้ีว่าเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภท ๑ ๒.๘.๒ เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ประเภทท่ีไมต่ อ้ งมสี ายดิน เคร่ืองใช้ไฟฟ้าประเภท ๒ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ พัดลม ซึ่ง มีสัญลักษณ์ หรือมีเคร่ืองหมาย (ควรใช้ไขควงลองไฟทดสอบ ถ้ามีสัญลักษณ์ประเภท ๒ แต่ยังมีไฟรั่วก็แสดงว่าผู้ผลิตนั้นผลิตไม่ได้ มาตรฐาน และจาํ เป็นต้องมสี ายดิน) เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าที่ใช้กับแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน ๕๐ โวลต์ โดย ต่อจากหม้อแปลงชนิดพิเศษท่ีได้ออกแบบไว้เพื่อความปลอดภัย มี สัญลักษณ์ เชน่ เครอื่ งโกนหนวด โทรศพั ท์ เปน็ ต้น คู่มอื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๕๘

๒.๘.๓ วิธีตดิ ต้งั ระบบสายดนิ ที่ถูกตอ้ ง (๑) จุดตอ่ ลงดนิ ของระบบไฟฟ้า (จุดตอ่ ลงดินของเส้น ศูนย์หรือนิวทรัล) ต้องอยู่ด้านไฟเข้าของเครื่องตัดวงจรตัวแรกของตู้เมน สวิตช์ (๒) ภายในอาคารหลงั เดยี วกนั ไม่ควรมจี ดุ ที่ต่อลงดิน มากกวา่ ๑ จดุ (๓) สายดนิ และสายเส้นศนู ย์ตอ่ รว่ มกันได้เพียงแห่งเดยี ว ท่ีจุดต่อลงดินภายในตู้เมนสวิตช์ ห้ามต่อร่วมกันในท่ีอ่ืนๆอีก เช่น ในแผง สวติ ชย์ ่อยจะต้องมีขวั้ สายดนิ แยกจากขั้วต่อสายศูนย์และห้ามต่อถึงกันโดย มฉี นวนค่ันระหว่างขวั้ ต่อสายเส้นศนู ยก์ ับตวั ตซู้ ่งึ ต่อกับขวั้ ต่อสายดิน (๓) ตู้เมนสวติ ช์สาํ หรบั หอ้ งชดุ ของอาคารชดุ และตูแ้ ผง สวิตช์ประจําชั้นของอาคารชุดให้ถือว่าเป็นแผงสวิตช์ย่อย ห้ามต่อสายเส้น ศนู ย์และสายดนิ ร่วมกนั (๕) ไม่ควรต่อโครงโลหะของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าให้ลงดินโดย ตรง แต่ถา้ ได้ดาํ เนนิ การไปแลว้ ให้แก้ไขโดยมีการต่อลงดินท่ีเมนสวิตย์อย่าง ถกู ตอ้ งแลว้ เดนิ สายดนิ จากเมนสวิตช์มาตอ่ ร่วมกับสายดนิ ที่ใชอ้ ยู่เดมิ (๖) การตดิ ต้งั เคร่อื งตดั ไฟร่ัว สามารถเสริมป้องกนั การ ให้สมบูรณ์แบบยิ่งข้ึน เช่น กรณีท่ีมักจะมีนํ้าท่วมขัง หรือกรณีสายดินขาด เปน็ ต้นและจดุ ตอ่ ลงดนิ ตอ้ งอยดู่ ้านไฟเขา้ ของเครือ่ งตดั ไฟรว่ั เสมอ (๗) ถ้าตเู้ มนสวิตชไ์ มม่ ขี ว้ั ตอ่ สายดิน และขั้วตอ่ สายเสน้ ศูนย์แยกออกจากกัน เคร่ืองตัดไฟร่ัวจะต่อใช้ได้เฉพาะวงจรย่อยเท่านั้นจะ ใช้ตัวเดียวป้องกนั ทงั้ ระบบไม่ได้ (๘) วงจรสายดนิ ที่ถูกตอ้ งในสภาวะท่ีปกติ จะต้องไม่มี มกี ระแสไฟฟา้ ไหล (๙) ถา้ เดินสายไฟในทอ่ โลหะ จะตอ้ งเดนิ สายดนิ ในทอ่ โลหะนนั้ ดว้ ย ค่มู อื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๕๙

(๑๐) สายต่อหลกั ดนิ จะตอ้ งเปน็ สายตวั นาํ ทองแดงชนิด ตัวนําเด่ียวหรือตัวนําตีเกลียวหุ้มฉนวนและต้องเป็นตัวนําเส้นเดียวยาว ตลอดโดยไม่มีการตัดต่อ ขนาดของสายดินที่ต่อจากแผงเมนสวิตซ์ พิจารณาจากขนาดของสายตัวนําประธาน และต้องมีขนาดไม่เล็กกว่า ๑๐ ตร.มม. (๑๑) หลักดนิ ตอ้ งมขี นาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางไม่น้อยกว่า ๕/๘ น้วิ ยาวไม่น้อยกว่า ๒.๔๐ เมตร (๑๒) สายดินของอุปกรณ์ไฟฟ้าจะถูกเดินร่วมไปกับสาย วงจรโดยปลายข้างหน่ึงจะถูกต่ออยู่ที่บัสบาร์สายดินในเมนสวิตซ์หรือแผง จา่ ยไฟย่อย ส่วนปลายอีกข้างหน่ึงจะต่อเข้ากับโครงโลหะของโหลด ขนาด ของสายดินอุปกรณ์ไฟฟ้าจะพิจารณาจากขนาดของเครื่องป้องกันกระแส เกินทป่ี อ้ งกันวงจร และมีขนาดไมน่ อ้ ยกวา่ 1.5 ตร.มม. (๑๓) ยอมใหใ้ ช้อาคารท่ีเปน็ โครงโลหะและมกี ารตอ่ ลง ดินอย่างถกู ตอ้ ง โดยมคี ่าความต้านทานของการตอ่ ลงดนิ ไมเ่ กิน ๕ โอหม์ คู่มอื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๖๐

๒.๙ เคร่ืองมอื ช่างทว่ั ไป ๒.๙.๑ เครอ่ื งมืองานเดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรดั สาย การติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคารส่วนใหญ่จะนิยมใช้วิธีการ เดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรัดสาย เน่ืองจากติดต้ังง่าย ราคาถูก มีเคร่ืองมือ อปุ กรณ์ และวสั ดุอนื่ ๆ ซ่งึ จะชว่ ยทําให้ปฏบิ ตั ิงานเสรจ็ เรว็ ย่งิ ขน้ึ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ค้อนเดินสายไฟฟ้า จะออกแบบให้มีขนาดกระชับ พอดีมอื มีนา้ํ หนักพอประมาณ เช่น ๒๕๐ กรัม ๓๐๐ กรัม บริเวณหัวค้อน จะทาํ ให้แหลมมนเพอื่ ใชต้ อกตะปใู นบริเวณท่แี คบๆ รปู ที่ ๒.๓๘ ค้อนเดินสายไฟฟ้า (๒) ไขควง เป็นเครื่องมือที่ใช้สําหรับขันหรือคลายสกรู ขนาดของไขควงจะบอกขนาดตามความยาวจากปลายก้านจนถึงโคนด้าม ทใ่ี ช้กับงานชา่ งไฟฟ้าส่วนใหญจ่ ะเป็นด้ามพลาสติกหรือไม้ท้ังชนิดปากแบน และปากแฉก (Standard and Phillips Screwdriver) รูปท่ี ๒.๓๙ ไขควงสลบั ปลาย คู่มอื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๖๑

(๓) คีม เป็นเครื่องมือที่จําเป็นสําหรับการเดินสายไฟ มาก ใช้ตัด ดัด งอ โค้งและปอกสายไฟ คีมท่ีมีด้ามเป็นฉนวนหุ้มจะช่วยให้ ผู้ปฏิบัติงานมีความปลอดภัยในการทํางาน คีมท่ีใช้ในการเดินสายไฟ เช่น คีมตัดสาย คีมปากแหลม คีมปากจ้ิงจก คีมปอกสาย คีมย้ําหัวต่อ สาย และคมี ล็อค เปน็ ต้น ก. คีมตัดสาย ข. คมี ปากแหลม ค. คีมปากจ้ิงจก ง. คีมปอกสาย จ. คมี ย้าํ หัวตอ่ สาย ฉ. คมี ลอ็ ค รปู ท่ี ๒.๔๐ คมี แบบต่างๆ (๔) คัทเตอร์ การเดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรัดสายส่วน ใหญ่จะนิยมใช้มีดคัทเตอร์ในการปอกฉนวนของสายไฟฟ้า หากเป็น สายไฟฟ้าขนาดใหญจ่ ะใชม้ ดี ปอกสายไฟ คูม่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๖๒

รูปท่ี ๒.๔๑ คทั เตอร์ (๕) สว่าน ปัจจุบันใช้สว่านไฟฟ้า ประกอบด้วยสว่าน เจาะไม้ สว่านเจาะเหล็ก สว่านกระแทกเจาะปูน สว่านโรตารีสําหรับเจาะ คอนกรีต สว่านไร้สาย (แบบมือถือ) ใช้เจาะไม้และใช้ขันสกรู ขนาดของ สว่านจะเรยี กตามขนาดของหวั จบั เช่น ๓ หนุ หรือ ๔ หุน เปน็ ตน้ รูปที่ ๒.๔๒ สวา่ นไฟฟ้า (๖) เลอ่ื ย ใช้ตดั ไม้ ตัดท่อโลหะหรือเจาะต้ไู ฟฟา้ หรือตัดพลาสติก ก. เล่อื ย ข. เลือ่ ยจิก๊ ซอร์ รปู ที่ ๒.๔๓ เล่อื ยแบบตา่ งๆ คู่มือเตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๖๓

๒.๙.๒ เคร่อื งมอื งานเดนิ สายไฟฟ้าด้วยในทอ่ ร้อยสาย (๑) เคร่ืองมอื ดดั ทอ่ ตารางที่ ๒.๓ เคร่ืองมือท่ีเกย่ี วขอ้ งในงานดัดท่อและร้อยสาย เครื่องมอื รายละเอยี ดการใช้งาน Bender เบนเดอร์ เป็นเครื่องมือสําหรับ ดัดท่อโลหะบาง (EMT) เช่น การ Hickey ดัดคอม้าเข้ากล่อง การดัดท่อโค้ง ๙๐ องศา bender แต่ละขนาด จะบอกระยะ take up ไว้ ซึ่ง ข้ึนอยู่กับขนาดของ bender เช่น ขนาด ๑/๒\" take up = ๕\" ฮิ๊กกี้ เป็นเครื่องมือที่ใช้สําหรับดัด ท่อโลหะหนา และท่อโลหะหนา ปานกลาง การใช้ hickey เหมาะ สําหรบั ทอ่ ทมี่ ขี นาดเลก็ เชน่ ๑/๒\" , ๓/๔\" เป็นตน้ Reamer รีมเมอร์ เป็นเคร่ืองมือคว้านท่อ ใช้สําหรบั ลบคมบรเิ วณปลายท่อ คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๖๔

ตารางที่ ๒.๓ เคร่ืองมือท่เี ก่ยี วขอ้ งในงานดดั ท่อ (ต่อ) เครอ่ื งมอื รายละเอียดการใชง้ าน Cutter คัตเตอร์ เคร่ืองมือตัดท่อ เป็น Pipe vise stands เครอื่ งมือสาํ หรบั ตัดท่อโลหะหนา และท่อโลหะบาง การใช้ cutter ตัดท่อจะทําให้ท่อมีคมท่ีเกิดจาก รอยตัด ซ่ึงอาจทําอันตรายกับ สายไฟในท่อได้ จึงต้องลบคมทุก ครัง้ ปากกาจับท่อ ปากกาจับท่อเป็น เคร่ืองมือสําหรับจับท่อให้แน่น โดยเฉพาะ ทั้งท่อโลหะหนาและ ท่อโลหะบาง ก่อนท่ีจะตัดท่อหรือ ลบคมท่อ มีท้ังแบบสามขาและ แบบยึดตดิ กบั โต๊ะงาน Fish tape ฟิตเทป เป็นลวดดึงสายไฟ เป็น เคร่ืองมือสําหรับร้อยสายไฟฟ้า ภายในท่อ โดยการสอดลวดโลหะ เข้าท่อให้ ปลายโผล่อีกด้านหน่ึง ของท่อแล้วมัดสายที่ต้องการเข้า กับปลาย fish tape แล้วออกแรง ดึง ใหส้ ายร้อยเขา้ ในท่อ โดยระวัง ไ ม่ ใ ห้ ส า ย ขู ด กั บ ท่ อ จ น ฉ น ว น เสียหาย คู่มอื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๖๕

๒.๑๐ อปุ กรณแ์ ละวสั ดงุ านเดินสายไฟฟ้าในท่อร้อยสาย ๒.๑๐.๑ ทอ่ (Conduit) (๑) ทอ่ โลหะบาง (Electrical Metallic Tubing) ท่อ โลหะชนิดนี้มักเรียกช่ือย่อว่า อีเอ็มที (EMT) เป็นท่อท่ีมีน้ําหนักเบา เน่ืองจากท่ออีเอ็มทีมีน้ําหนักเบาและง่ายต่อการดัดโค้ง จึงนิยมใช้ในการ เดินสายไฟในบา้ นทีอ่ ย่อู าศัย รปู ที่ ๒.๔๔ ทอ่ โลหะบาง (๒) ท่อโลหะหนาปานกลาง (Intermediate Metal Conduit) ท่อโลหะชนิดนี้มักเรียกชื่อย่อว่า ไอเอ็มซี (IMC) ท่อชนิดนี้เป็น ท่อที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับงานท่ีต้องการความแข็งแรง มีเกลียวท่ีปลายท่อ สําหรับเชื่อมต่อท่อเข้าด้วยกัน และยังสามารถทําเกลียวด้วยเคร่ืองมือทํา เกลียวมาตรฐาน รปู ท่ี ๒.๔๕ ทอ่ โลหะหนาปานกลาง คู่มอื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๖๖

(๓) ทอ่ โลหะหนา (Rigid Metal Conduit) ท่อ RMC ทําจากเหล็กกล้ารีดร้อนหรือรีดเย็น หรือแผ่นเหล็กกล้าเคลือบสังกะสีมี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๕ ถึง ๖ น้ิวยาวท่อนละ ๑๐ ฟุต (ประมาณ ๓ เมตร) สามารถใช้ได้ทั้งงานภายในและภายนอกอาคารใช้กับงานที่มีแรง กระแทกทางกลสูง เช่นท่อผังดินเดินใต้ถนน งานในท่ีเสี่ยงต่อการเกิด ระเบิด เป็นต้น การเดินสายฝังดินด้วยท่อโลหะหนา ควรฝังลึกไม่น้อยกว่า ๑๕ เซนตเิ มตร (๔) ทอ่ โลหะอ่อน (Flexible Metal Conduit)ทอ่ โลหะ ชนดิ นี้มกั เรียกชอ่ื ย่อวา่ เอฟเอม็ ซี (FMC) ทอ่ โลหะอ่อนทํามาจากเหล็กกล้า ชุบสังกะสีทั้งผิวด้านในและด้านนอกหรือทําด้วยอะลูมิเนียม ได้รับการ ออกแบบให้มีลักษณะเป็นเส้นโลหะขัดประสานกันซึ่งทําให้เกาะติดกัน อยา่ งตอ่ เน่ือง เป็นท่อท่มี คี วามอ่อนตัวโค้งงอไปมาได้มีทั้งชนิดธรรมดาและ ชนิดกันน้ํา จะใช้งานในบริเวณท่ีต้องการความอ่อนตัวของท่อสูงและ บริเวณที่ต้องการป้องกันการถ่ายทอดแรงสั่นสะเทือนจากเคร่ืองจักรกล ไฟฟ้าเข้าสู่ตัวท่อไฟฟ้า เช่น การติดตั้งท่อเข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้า ท่ออ่อนทุก ชนิดจะไมย่ อมใหฝ้ ังในดนิ หรอื คอนกรีตโดยเด็ดขาด รปู ที่ ๒.๔๖ ท่อโลหะอ่อน คมู่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๖๗

๒.๑๐.๒ อปุ กรณง์ านเดนิ สายไฟฟ้าในท่อร้อยสาย ตารางท่ี ๒.๓ อปุ กรณใ์ นงานเดนิ ทอ่ ร้อยสาย อุปกรณ์ รายละเอยี ดการใชง้ าน Box กล่องไฟฟ้าที่ประกอบในการเดิน Handy box Square box ท่อร้อยสายไฟฟ้ามีมากมายหลาย ชนิด แต่ละชนิดจะมีหน้าท่ีต่างๆ Octagon box กัน เช่น กล่องสําหรับจุดต่อไฟฟ้า ของสวิตช์ เต้ารับ กล่องต่อสาย กล่องต่อแยก เป็นต้น การเดิน สายไฟฟ้าในท่อโลหะถ้าต้องการ ต่อสายไฟฟ้าต้องกระทําในกล่อง ต่อสายไฟฟ้าเท่านั้นกล่องเหล่านี้ จะช่วยให้มีความปลอดภัยจาก ประกายไฟท่ีจดุ ต่อไฟฟา้ ไปใกล้ ฝาปิดกล่อง (Box cover) ชนิด ต่างๆ เช่น ฝาปิดของ Handy box ฝาปิดของ Square box ฝาปิดของ Octagon box ค่มู อื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๖๘

ตารางที่ ๒.๓ อปุ กรณ์ในงานเดนิ ทอ่ ร้อยสาย (ต่อ) อุปกรณ์ รายละเอยี ดการใช้งาน Connector คอนเนคเตอร์ ใช้เชื่อมต่อระหว่าง ท่อกับกลอ่ งตอ่ สาย Lock nut ล็อกนัท ผิวด้านในจะทําเป็น Bushing เกลียว ใช้ยึดท่อเข้ากับกล่องต่อ Coupling สาย บุชช่งิ ใช้ปอ้ งกันท่อไฟฟ้าขดู กับ ฉนวน คับปล้ิง ใช้ต่อท่อ 2 ท่อนเข้า ด้วยกนั Clamp แคลมป์ (Clamp) หรือ สแตรป (Strap) ใช้สําหรับยึดท่อให้แนบ ชดิ กับผนงั คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๖๙

ตารางที่ ๒.๓ อปุ กรณ์ในงานเดินทอ่ ร้อยสาย (ต่อ) อุปกรณ์ รายละเอียดการใชง้ าน Condulet คอนดูเลต ใช้สําหรับเดินสายหัก มุม ข้ามส่ิงกีดขวางของท่อโลหะ หนา มหี ลายลกั ษณะ Service entrance หัวงูเห่า ฝาครอบท่อร้อยสาย ใช้ สําหรับนําสายเมนจากภายนอก เข้าสู่ตัวอาคารและช่วยป้องกัน ความช้นื ๒.๑๑ รางเดนิ สายไฟฟ้า นอกจากการเดินสายไฟดว้ ยทอ่ รอ้ ยสายไฟฟ้าแล้ว วิธีการเดินสาย สายไฟด้วยรางเดินสายหรอื ทเ่ี รียกกนั วา่ ไวรเ์ วย์ (Wire Ways) ก็เป็นอีกวิธี หนึ่งซ่ึงเป็นท่ีนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก เนื่องจากความง่ายและสะดวกใน การใช้งาน นิยมใช้แทนการเดินสายในท่อร้อยสายไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่าง ย่ิงในกรณีทมี่ ีการเดนิ สายจํานวนมากๆ จะประหยดั และสวยงามกว่าการใช้ คู่มือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๗๐

ท่อขนาดใหญ่หรือท่อจํานวนหลายเส้นติดตั้ง ขนาดของรางเดินสายโลหะ ความยาวของรางแต่ละท่อนมีทั้งขนาด ๒.๔๐ เมตร และ ๓.๐ เมตร นอกจากน้ยี ังมีอปุ กรณป์ ระกอบการติดตั้งเพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้ งาน ประกอบไปด้วยขอ้ ตอ่ ข้องอ ทางแยกตา่ งๆ เป็นต้น รปู ที่ ๒.๔๗ การใชร้ างเดนิ สายในงานติดตง้ั ระบบไฟฟ้า รูปท่ี ๒.๔๘ อปุ กรณ์ประกอบรางเดนิ สายไฟฟา้ คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๗๑

ตารางที่ ๒.๔ ขนาดรางเดินสายโลหะ ข้อกาํ หนดการใช้งานและการตดิ ตัง้ (๑) อนุญาตให้ใชร้ างเดินสายได้เฉพาะการติดตั้งในท่ีเปิด โล่ง ยกเว้นการติดต้ังในพ้ืนท่ีปิดที่สามารถเข้าถึงได้เพื่อการตรวจสอบและ บาํ รงุ รักษาตลอดความยาวของรางเดินสาย (๒) ถ้าติดต้ังภายนอกอาคารต้องเป็นแบบชนิดกันฝน (Raintight) (๓) ห้ามใช้รางเดินสายในบรเิ วณทีอ่ าจเกิดความเสียหาย ทางกายภาพ ในบริเวณท่ีมีไอที่ทําให้ผุกร่อน หรือในสถานที่อันตราย นอกจากระบุไวเ้ ป็นอยา่ งอื่น (๔) พ้ืนท่ีหน้าตัดของตัวนําและฉนวนทั้งหมดรวมกัน ตอ้ งไมเ่ กินร้อยละ ๒๐ ของพน้ื ท่ีหนา้ ตัดภายในรางเดินสาย (๕) จุดปลายรางเดนิ สายตอ้ งปิด (๖) รางเดินสายต้องจับยึดอย่างม่ันคงแข็งแรงทุกระยะ ไม่เกนิ ๑.๕๐เมตร แตย่ อมใหจ้ ดุ จับยึดห่างมากกว่า ๑.๕๐ เมตร ได้ในกรณี ท่ีจาํ เปน็ แตต่ อ้ งต้องไมเ่ กิน ๓.๐๐ เมตร ค่มู อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๗๒

(๗) รางเดินสายในแนวด่ิงต้องจับยึดอย่างม่ันคงแข็งแรง ทุกระยะไม่เกิน ๔.๕๐ เมตร ห้ามมีจุดต่อเกิน ๑ จุดในแต่ละระยะจับยึด และจดุ จบั ยึดตอ้ งห่างจากปลายรางเดินสายไม่เกนิ ๑.๕๐ เมตรด้วย (๘) ห้ามตอ่ รางเดินสายตรงจุดทผ่ี า่ นผนงั หรอื พน้ื (๙) อนุญาตให้ต่อสายเฉพาะสว่ นทีส่ ามารถเปดิ ออกและ เข้าถึงได้สะดวกตลอดเวลาเท่านั้น และพ้ืนที่หน้าตัดของตัวนําและฉนวน รวมท้ังหัวต่อสายรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 75 % ของพ้ืนที่หน้าตัดภายใน ของรางเดินสาย ณ จุดตอ่ สาย (๑๐) หา้ มใช้รางเดนิ สายเป็นตวั นาํ สําหรบั ต่อลงดนิ (๑๑) รางเดินสายตรงตําแหน่งท่ีต้องมีการดัด งอสาย เช่นปลายทาง ตําแหน่งที่มีท่อร้อยสายเข้า-ออก รางเดินสายต้องจัดให้มี ท่วี า่ งสาํ หรับดัดงอสายอย่างเพียงพอและมีการป้องกันไม่ให้มีส่วนคมที่อาจ บาดสายได้ ๒.๑๒ วงจรยอ่ ย การออกแบบระบบไฟฟ้าจะเป็นการเลือกใช้งานสายไฟฟ้า และ อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินของวงจรย่อย สายป้อน ลักษณะของการ ออกแบบระบบไฟฟ้าควรเร่ิมจากการวางระบบรับไฟฟ้าจากผู้จําหน่าย ไฟฟา้ โดยการเขยี นเปน็ แบบวนั ไลน์ไดอะแกรม (One Line Diagram) เพ่ือ จะทําให้ผู้ออกแบบมองเห็นถึงภาพรวมลักษณะการกระจายโหลดไปยัง ส่วนต่างๆของอาคาร จากนั้นจึงคํานวณการใช้พลังงานไฟฟ้าของแต่ละ วงจรยอ่ ยและสายป้อนในสว่ นตา่ งๆ คู่มอื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๗๓

รูปที่ ๒.๔๙ วนั ไลนไ์ ดอะแกรมของระบบไฟฟา้ ทว่ั ๆไป ๒.๑๒.๑ วงจรยอ่ ย วงจรย่อย (Branch Circuit) หมายถงึ ตัวนาํ วงจรตอ่ อยู่ ระหว่างอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินจุดสุดท้าย กับจุดจ่ายไฟ สามารถแบ่ง วงจรยอ่ ยได้ ๔ ลักษณะ คือ (๑) วงจรย่อยสาํ หรบั เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ (Branch Circuit, Appliance) หมายถงึ วงจรย่อยท่ีจ่ายไฟฟ้าให้จุดจ่ายไฟที่มีเคร่ืองใช้ไฟฟ้า มาตอ่ มากกว่า ๑ จุดขนึ้ ไป รูปที่ ๒.๕๐ วงจรย่อยสําหรบั เครื่องใช้ไฟฟ้า คู่มอื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๗๔

(๒) วงจรย่อยสาํ หรับจดุ ประสงค์ท่วั ไป (Branch Circuit, General Purpose) หมายถึง วงจรย่อยท่ีจ่ายไฟฟ้าให้กับจุด จ่ายไฟเพ่ือใช้สําหรับระบบแสงสว่างและเคร่ืองใช้ไฟฟ้า แบ่งเป็น แบบมี เฉพาะโหลดแสงสว่างหลายๆ ดวง ,มีเฉพาะโหลดเต้ารับหลายๆตัว หรือมี ทั้งโหลดแสงสวา่ งและโหลดเตา้ รับผสมกันก็ได้ รูปที่ ๒.๕๑ วงจรยอ่ ยสาํ หรับจุดประสงค์ทัว่ ไป (๓) วงจรย่อยเฉพาะ (Branch Circuit, Individual) หมายถึง วงจรย่อยทจ่ี ่ายไฟฟ้าให้บริภัณฑ์ใช้สอยหน่ึงช้ินเท่าน้ัน มีอุปกรณ์ ไฟฟ้าต่ออยู่เพียง ๑ อุปกรณ์ในวงจรน้ัน เช่น วงจรเครื่องปรับอากาศ เป็น ต้น คูม่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๗๕

รูปท่ี ๒.๕๒ วงจรยอ่ ยเฉพาะ (๔) วงจรย่อยหลายสาย (Branch Circuit, Multi-wire) หมายถงึ วงจรยอ่ ยซ่ึงประกอบดว้ ยสายทีไ่ มถ่ กู ต่อลงดนิ ตั้งแต่ ๒ สายข้ึนไป ซ่ึงมีความต่างศักดิ์ไฟฟ้าระหว่างสาย และมีสายที่มีการต่อลงดิน ๑ สาย โดยความต่างศักด์ิไฟฟ้าของสายท่ีไม่ถูกต่อลงดินแต่ละสายจะต้องเท่ากัน และสายที่มีการต่อลงดินจะต้องต่อเข้ากับสายนิวทรัลหรือสายที่มีการต่อ ลงดนิ ของระบบ รูปที่ ๒.๕๓ วงจรย่อยหลายสาย ค่มู อื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๗๖

๒.๑๒.๒ ขนาดพกิ ดั วงจรย่อย ขนาดพิกัดวงจรย่อยใหเ้ รียกตาม “ขนาดพิกัด ของเครื่องป้องกันกระแสเกินที่ใช้ตัวกระแสสําหรับวงจรน้ันๆ” วงจรย่อย ซึ่งมีจุดจ่ายไฟฟ้าต้ังแต่ ๒ จุดขึ้นไป ต้องมีขนาดไม่เกิน 50A สําหรับวงจร ย่อยซึง่ มจี ดุ ต่อไฟฟ้าต้ังแต่ ๒ จุดขึ้นไป ยกเว้นอนุญาตให้วงจรย่อยซึ่งมีจุด จ่ายไฟฟ้าตั้งแต่ ๒ จุดขึ้นไป ท่ีไม่ใช่โหลดแสงสว่างมีพิกัดเกิน 50 A ได้ เฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีบุคคลท่ีมีคุณสมบัติคอยดูแลและ บํารุงรกั ษา ๒.๑๒.๓ สายไฟฟ้าสาํ หรับวงจรยอ่ ย สําหรับสายไฟฟ้าของวงจรย่อยตามมาตรฐาน กาํ หนดวา่ (๑) ต้องมีขนาดกระแสไมน่ ้อยกวา่ โหลดสูงสดุ ที่คํานวณได้และไม่น้อยกว่าพิกัดของเคร่ืองป้องกันกระแสเกินของวงจร ยอ่ ย (๒) ขนาดตวั นําของวงจรย่อยตอ้ งมีขนาดทไี่ ม่ ไม่เลก็ กว่า ๒.๕ ตร.มม. ๒.๑๒.๔ โหลดสําหรบั วงจรยอ่ ย ต้องคาํ นวณตามขอ้ กาํ หนดดังต่อไปน้ี (๑) วงจรย่อยตอ้ งมขี นาดไมน่ ้อยกวา่ ผลรวม ของโหลดทงั้ หมดทตี่ ่ออยู่ในวงจรน้ัน (๒) โหลดแสงสว่างและโหลดเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่ืน ทที่ ราบขนาดแนน่ อนให้คาํ นวณตามท่ีติดต้ังจรงิ ตัวอยา่ งที่ ๒.๖ โหลดเครื่องทํานํ้าอุ่นขนาด 4,000 วัตต์ 220 โวลต์ ควรจะเลือกใช้วงจร ย่อยขนาดเทา่ ใด และขนาดสายไฟทใ่ี ช้ คมู่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๗๗

วธิ ีทาํ ขนาดกระแสไฟฟ้าของเครือ่ งทํานํ้าอุ่น 400W I = P = 220V = 18.18A V ขนาดเคร่ืองป้องกันกระแสเกิน = 1.25 เท่าของกระแสโหลด = 1.25 ×18.18 = 22.73A ** เลือกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์พิกัด 30 AT. เปน็ อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย ขนาดสายไฟฟา้ ของวงจรยอ่ ย จะตอ้ ง : - มีขนาดกระแสไม่น้อยกวา่ โหลดสูงสุดท่ีคาํ นวณได้ (22.73 A) - ไมน่ ้อยกว่าพกิ ดั ของเครือ่ งป้องกนั กระแสเกนิ ของวงจรย่อยนนั้ (30 A) ** จะตอ้ งเลือกใชส้ ายไฟฟ้าที่มีขนาดพิกัดกระแส 30 A** ถ้าวงจรยอ่ ยน้ี จะใชส้ าย THW ตดิ ตั้งในท่อโลหะฝงั ในฝ้า จะตอ้ งเลอื กสาย ขนาด 6 ตร.มม. (พิกัดกระแส 31 A) ๒.๑๒.๖ แผงจ่ายโหลดวงจรยอ่ ย การจา่ ยโหลดวงจรย่อยน้นั ผอู้ อกแบบสามารถ เลือกใช้แผงจ่ายโหลดวงจรย่อยสําเร็จรูปที่มีผลิตจําหน่ายท่ัวไปท่ีเรียกว่า โหลดเซนเตอร์ (Load Center) หรือ คอนซูมเมอร์ยูนิต (Consumer Unit) มาใช้ในการติดตั้งได้ โดยโหลดเซนเตอร์จะเป็นแผงจ่ายโหลดวงจร ยอ่ ยสําหรบั ระบบ ๓ เฟสประกอบด้วย บัสบาร์สําหรับสายป้อนท้ัง ๓ เฟส นิวทรอลบัส และกราวด์บสั ผู้ใชส้ ามารถติดตั้งเซอร์กิตเบรกเกอร์ของวงจร ย่อยเข้ากับบัสบาร์ของทั้ง ๓ เฟส ได้ในแผงน้ีเลย มีขนาดวงจรย่อยให้ เลอื กใช้ตงั้ แต่ ๑๒ ๑๘ ๒๔ ๓๖ และ ๔๒ วงจรยอ่ ย คู่มือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๗๘

ส่วนคอนซูมเมอร์ยูนิตน้ันจะเป็นแผงจ่ายโหลดวงจรย่อยสําหรับ ระบบ ๑ เฟส นิยมใช้ตามบ้านพักอาศัยและสํานักงานทั่วไป โดยผู้ใช้ สามารถต่อเซอรก์ ิตเบรกเกอร์ของวงจรยอ่ ยเข้าที่แผงนี้ได้เลยเชน่ กนั ก. โหลดเซนเตอร์ ข. คอนซูมเมอรย์ ูนติ รปู ที่ ๒.๕๔ แผงจ่ายโหลดวงจรยอ่ ย ๒.๑๓ การต่อสวติ ซ์ และเต้ารบั ไฟฟ้า ๒.๑๓.๑ สญั ลกั ษณ์เขยี นแบบไฟฟา้ การเขียนแบบจําเป็นต้องเขียนในรูปสัญลักษณ์ เพราะ การเขยี นแบบรูปงานจริงทาํ ได้ยากและเสียเวลามาก โดยแบบงานไฟฟ้าจะ เป็นแบบที่เขียนสัญลักษณ์แทนอุปกรณ์ไฟฟ้าท้ังหมด โดยท่ัวไปการเขียน แบบ มี 3 ลักษณะ คอื (๑) แบบงานติดต้ัง (One line diagram) เป็นแบบที่ บอกตําแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ (๒) แบบงานสําเร็จ (Working diagram หรือ Wiring diagram) เปน็ แบบทแี่ สดงการต่อเชอ่ื มอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทุกตัว คมู่ ือเตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๗๙

(๓) แบบงานควบคุม (Schematic diagram) เป็นแบบ ทีแ่ สดงการทาํ งานของอุปกรณไ์ ฟฟ้า ตารางท่ี ๒.๕ สัญลักษณส์ ายไฟฟ้า คู่มือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๘๐

ตารางท่ี ๒.๖ สญั ลกั ษณ์สวิตซต์ ่างๆ คู่มอื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๘๑

ตารางท่ี ๒.๗ สัญลักษณอ์ ปุ กรณไ์ ฟฟ้า คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๘๒

ก. การเขยี นวงจรแบบงานติดต้ัง ข. การเขยี นวงจรแบบงานสาํ เร็จ ค. การเขียนวงจรแบบงานควบคุม รปู ที่ ๒.๕๕ การเขยี นวงจรในรปู แบบต่างๆ คมู่ อื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๘๓

๒.๑๓.๒ ตวั อยา่ งวงจรการต่อสวติ ซ์ และเตา้ รับไฟฟ้า (๑) วงจรการต่อเต้ารับไฟฟา้ คู่มือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๘๔

(๒) วงจรการตอ่ สวิตซท์ างเดียวควบคมุ หลอดอนิ แคน เดสเซนต์ และวงจรเต้ารับไฟฟ้า คู่มอื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๘๕

(๓) วงจรการต่อสวติ ซส์ ามทางควบคมุ หลอด อินแคนเดสเซนต์ คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๘๖

บันทกึ ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๘๗

..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... คูม่ ือเตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๘๘

..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... คมู่ อื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๘๙

..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ..................................................................................................................... ค่มู อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๙๐

บรรณานุกรม โสภณ เสือพันธ์, อาชีวอนามัยและความปลอดภัย. กรุงเทพ :สํานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์, 2548 พันธ์ศักด์ิ พุฒิมานิตพงศ์, งานไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์เบ้ืองต้น. กรุงเทพ :ศูนย์ส่งเสรมิ อาชีวะ, 2557 ชลชยั ธรรมววิ ฒั นุกูร, การออกแบบและตดิ ต้งั ระบบไฟฟ้า. กรุงเทพ :เอม็ แอนด์อี, 2554 อดุลยเดช คําผา, เขียนแบบไฟฟา้ . กรุงเทพ :ศนู ย์ส่งเสรมิ อาชวี ะ, 2555 ไวพจน์ ศรีธญั , การติดตัง้ ไฟฟ้าในอาคารและในโรงงาน. กรงุ เทพ :ศนู ยส์ ่งเสริมอาชวี ะ เอกสารอเิ ล็กทรอนกิ ส์(ออนไลน์) http://www.npc-se.co.th http://www.psjenergysave.com http://www.mwit.ac.th http://www.il.mahidol.ac.th http://www.rmutphysics.com http://www.praguynakorn.com http://www.mea.or.th http://www.friendmidland.wordpress.com http://www.bootanongsak.tripod.com http://www.prapathai.com http://www.coe.or.th http://www.siamsafetygroup.com http://bcselectrics.co.uk คูม่ อื เตรียมทดสอบมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๙๑

บทท่ี ๓ บทสรปุ คูม่ ือเตรียมสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๓.๑ สรุปสาระสําคญั ๓.๑.๑ ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกบั อัคคภี ยั การจะเกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้น้ัน จะต้องมีองค์ประกอบ ๓ อย่างคือ วัตถุเชื้อเพลิง ออกซิเจน และความร้อนท่ีมีอุณหภูมิสูงพอท่ีจะติด ไฟได้ การดับไฟกระทาํ ได้โดยเอาองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึง่ ออก ๓.๑.๒ ความปลอดภัยในการปฏบิ ตั ิงานดา้ นไฟฟา้ การปฏิบัติงานทางด้านไฟฟ้า ต้องกระทําด้วยวิธีการอย่าง ปลอดภยั ไมเ่ ช่นน้นั อาจทาํ ใหเ้ กดิ อนั ตรายต่อชีวติ และทรัพย์สินได้ อันตรายที่ จะทําให้ผู้ปฏิบัติงานถูกไฟฟ้าดูดมี ๒ สาเหตุ คือร่างกายมนุษย์เข้าไป เกี่ยวข้องกับระบบวงจรไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายมนุษย์ลงสู่ ดิน การปฏิบัติงานด้านไฟฟ้าอย่างปลอดภัยจึงเป็นการ ตรวจสอบการทํางานของเคร่ืองมือรวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าและการความพร้อม ของผู้ปฏิบัติงานคือ อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องไม่ชํารุดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตลอดเวลา ผู้ปฏิบัติงานต้องทํางานด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และ เช่ือฟังกฏระเบียบต่างๆท่ีได้บัญญัติไว้ เพ่ือรักษาชีวิตและทรัพย์สินท้ัง ผู้ปฏบิ ัติงานเองและผ้ใู ชบ้ รกิ าร ๓.๑.๓ ความร้ทู ว่ั ไปเกย่ี วกับวงจรไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าโดยท่ัวไปจะมีการต่อโหลดอยู่ ๓ ลักษณะ คือ การต่อแบบอนุกรม การต่อแบบขนาน และการต่อแบบผสม โดยมีข้อ แตกตา่ งกนั คือ การตอ่ แบบอนุกรมเป็นการนําโหลดมาต่อเรียงกนั ไปเรอ่ื ยๆ ค่มู ือเตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๙๒

หากมีโหลดหนึ่งตัวใดเปิดวงจรจะส่งผลให้โหลดไม่ทํางานท้ังหมด การต่อ แบบขนานเป็นการนําโหลดมาต่อคร่อมร่วมกันระหว่างจุด ๒ จุด หากมี โหลดหนึ่งตัวใดเปิดวงจรจะไม่มีผลต่อโหลดอื่นๆยังทํางานได้เป็นปกติ ส่วน การต่อแบบผสมจะเป็นการนําโหลดมาต่อร่วมกันท้ังแบบอนุกรมและแบบ ขนานรวมไว้ในวงจรเดียวกัน การวิเคราะห์จะใช้หลักการของวงจรอนุกรม และวงจรขนานเข้ามาใช้ร่วมกัน การทําความเข้าใจกับวงจรไฟฟ้าน้ันใช้กฎ ของโอห์ม กําลังไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าเป็นต้น ซ่ึงเป็นพื้นฐานที่สําคัญของผู้ ประกอบอาชีพชา่ งไฟฟา้ ๓.๑.๔ ความรทู้ ว่ั ไปเก่ยี วกบั เคร่ืองวดั ไฟฟา้ แอมมิเตอร์ คือเคร่ืองวัดค่ากระแสไฟฟ้า โครงสร้าง ประกอบด้วยตัวต้านทานต่อขนานกับขดลวดเคล่ือนท่ี ทําให้แอมมิเตอร์วัด ค่ากระแสไฟฟ้าได้มากข้ึน โวลท์มิเตอร์ คือเคร่ืองวัดค่าแรงดันไฟฟ้า โครงสร้างประกอบด้วยตัวต้านทานต่ออนุกรมกับขดลวดเคลื่อนท่ี ทําให้ โวลท์มิเตอร์วัดค่าแรงดันไฟฟ้าได้มากข้ึน โอห์มมิเตอร์ คือเครื่องวัดค่าความ ต้านทาน โครงสร้างประกอบด้วย มิลลิแอมมิเตอร์ แบตเตอร่ี และตัว ต้านทานปรับค่าได้ วตั ต์มิเตอร์ คือเครอื่ งวดั กาํ ลงั ไฟฟ้าใช้หลักการแบบอิเล็ก โทรไดนาโมมิเตอร์ มีข้ัวต่อวัด ๔ ขั้ว ขั้ววัด ๒ ข้ัวแรกเป็นขดลวดกระแส อีก ๒ ข้ัวท่ีเหลือเป็นขดลวดแรงดัน การบ่ายเบนของเข็มข้ึนอยู่กับภาระท่ีต่อ วงจรและแรงดันไฟฟ้าที่ป้อนให้วงจร วัตต์ฮาร์วมิเตอร์ คือมิเตอร์วัด กําลังไฟฟ้าโดยวัดกําลังไฟฟ้าออกมาเป็นกิโลวัตต์ช่ัวโมง (kWh) ใช้ตาม บ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรม แคล้มป์ออนมิเตอร์ คืออุปกรณ์ท่ีใช้ใน การวัดค่ากระแสไฟฟ้าสลับ โดยใช้แคล้มป์คล้องสายไฟฟ้าและสามารถอ่าน คา่ กระแสไฟฟ้าได้ ๓.๑.๕ สายไฟฟา้ ส า ย ไ ฟ ฟ้ า เ ป็ น ส่ื อ ก ล า ง ก า ร ส่ ง ผ่ า น กํ า ลั ง ไ ฟ ฟ้ า จ า ก แหลง่ กําเนดิ ไฟฟ้าต้นทางไปยงั จดุ ผใู้ ช้งานไฟฟ้าปลายทาง การเลอื กใชง้ าน คมู่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแห่งชาติ สาขาชา่ งไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๙๓

สายไฟฟ้ามีข้อพจิ ารณา คือ ความสามารถในการนาํ กระแสไฟฟ้าสงู สดุ ของ สายไฟฟ้า พิจารณาได้จากตารางหาขนาดกระแสของสายไฟฟ้าทองแดงหุ้ม ฉนวนพวี ซี ตี ามมาตรฐานอุตสาหกรรม แรงดันไฟฟ้าท่ีทนได้ เช่น ๓๘๐ หรือ ๗๕๐ โวลท์ อุณหภมู แิ วดลอ้ มขณะใช้งาน เช่น ๖๐ หรือ ๗๐ องศาเซลเซียส ชนิดของฉนวน เช่น ฉนวนพีวีซีเหมาะสําหรับการเดินสายไฟฟ้าในอาคาร ทว่ั ไป และลักษณะการใช้งานโดยพจิ ารณาจากการติดต้ัง สถานท่ีใช้งานหรือ สภาพความแข็งแรงของสายไฟฟ้าทั้งนี้จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับ สายไฟฟา้ แต่ละชนิดดว้ ย ๓.๑.๖ อุปกรณป์ ้องกันกระแสเกนิ สภาวะความผิดปกติในระบบไฟฟ้าโดยมากมี ๓ ประเภท คือ สภาวะการใช้โหลดเกิน สภาวะลัดวงจร และสภาวะกระแสรั่วลงดิน ฟิวส์ เป็นอุปกรณ์ป้องกันเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือกระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่ วงจรมากเกินไปฟวิ ส์จะหลอมละลายและตัดวงจรไฟฟ้าทันทีการต่อฟิวส์ต้อง ตอ่ แบบอนกุ รมเข้าในวงจร เซอร์กิตเบรกเกอร์มีกลไกการทริปอยู่ ๒ ลักษณะ คือการรทริปดว้ ยความร้อนถกู ใชใ้ นกรณีโหลดเกินและการทริปด้วยแม่เหล็ก ถูกใช้ในกรณีเกิดกระแสลัดวงจรที่มีค่าสูง เซอร์กิตเบรกเกอร์บางรุ่นจะมีการ ตดิ ตัง้ ชดุ ตรวจจบั กระแสร่วั ลงดินเพอ่ื ตรวจจับการรั่วลงดินของวงจรไวด้ ว้ ย ๓.๑.๗ การตอ่ ลงดนิ การต่อลงดินมีประโยชน์หลายประการคือ การทําให้ ศกั ย์ไฟฟา้ ของจดุ ที่ต่อลงดนิ มคี ่าเป็นศูนย์ทาํ ให้แรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟสของท้ัง สามเฟสมีคา่ เทา่ กนั และใช้สําหรับเป็นจุดต่อไปเข้ากับตัวถังของอุปกรณ์เพ่ือ ความปลอดภัยในการสัมผัส รวมถึงใช้เป็นทางเดินของกระแสลงดินเพ่ือให้ กระแสลัดวงจรสูงมากพอที่อุปกรณ์ป้องกันลัดวงจร เช่น ฟิวส์หรือเซอร์กิต เบรกเกอร์ทํางานได้ ๓.๑.๘ เครือ่ งมอื ในงานตดิ ต้งั ไฟฟ้า การใช้เครอื่ งมอื อย่างปลอดภัยผู้ปฏิบัติงานต้องมคี วามรู้ คูม่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดบั ๑ (ภาคความรู้) ๙๔

ศึกษาคู่มือเก่ียวกับเครื่องมือนั้นๆดี การใช้เครื่องมือไม่ถูกต้องและไม่ถูก ขนาดจะทําให้งานที่ทําไม่เรียบร้อยและผิดพลาดได้ง่าย รวมถึงเป็นสาเหตุท่ี ก่อให้เกิดอุบัติเหตุจากการใช้เคร่ืองมือได้ เคร่ืองมือไฟฟ้าควรตรวจสอบ ฉนวนไฟฟา้ ให้อยู่สภาพท่ีดเี สมอ ๓.๑.๙ งานเดินสายไฟฟา้ ภายในอาคาร การติดต้ังไฟฟ้าประกอบด้วย การเดินสาย การติดตั้ง อุปกรณ์ทั่วไป และการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน สามารถแยกตามวิธีการ เดินสายได้ ๒ แบบคือ แบบเปิด การเดินสายแบบนี้สามารถมองเห็น สายไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน เช่นการเดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรัดสาย และ แบบปิด สายไฟฟ้าจะถูกซอ่ นไว้อย่างมิดชิดเป็นการป้องกันการกระแทกจาก ภายนอก เชน่ การเดนิ สายในทอ่ ร้อยสาย รางเดินสายและรางเคเบลิ เปน็ ตน้ ๓.๑.๑๐ วงจรยอ่ ย วงจรย่อยแบ่งออกเป็น ๔ ประเภทคือ วงจรย่อยสําหรับ เคร่ืองใช้ไฟฟ้า เช่นวงจรย่อยสําหรับจักรเย็บผ้า ๔ ตัว วงจรย่อยสําหรับ จุดประสงค์ทั่วไป เช่น วงจรย่อยเต้ารับไฟฟ้า วงจรย่อยเฉพาะ เช่นวงจร เครอ่ื งปรบั อากาศ วงจรย่อยหลายสาย เช่นวงจรไฟฟ้าสามเฟส ๓.๑.๑๑ ความสามารถของชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร หมายถึง ชา่ งซง่ึ ประกอบอาชีพใน งานติดต้ังระบบไฟฟ้ากําลัง แรงดันไฟฟ้ากระแสสลับไม่เกิน ๑,๐๐๐ โวลต์ สําหรับระบบไฟฟ้า ๑ เฟส หรือ ๓ เฟส หรือใช้กับไฟฟ้ากระแสตรงไม่เกิน ๑,๕๐๐ โวลต์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร การแก้ไขปัญหาข้อขัดข้อง และการตรวจสอบระบบไฟฟ้า โดยสามารถปฏิบตั งิ านเกย่ี วกับงานซ่อมบํารุง การใช้เครื่องมือ การใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้าภายในอาคารและหลักการใช้ท่ัวไปของ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าสําหรับใช้ในท่ีอยู่อาศัย ตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชพี ช่างไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ ได้กําหนดกรอบความสามารถ ไว้กล่าวคือ เป็นผู้ท่ีสามารถเลือกใช้และตรวจสอบบริภัณฑ์ไฟฟ้า วัสดุ คูม่ อื เตรยี มทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ สาขาชา่ งไฟฟา้ ภายในอาคาร ระดับ ๑ (ภาคความรู้) ๙๕


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook