จัดทำโดยนำงสำว มชั ฌมน เรืองดำ ม.4/11 เลขท่ี 3
คำนำE-Book เลม่ น้จี ดั ทำข้ึนเพื่อเปน็ ส่วนหนง่ึ ของวิชำวิทยำกำรคำนวณ1 ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่4 เพ่ือใหไ้ ด้ศกึ ษำหำควำมรใู้ นเรือ่ งไดโนเสำรแ์ ละได้ศกึ ษำอย่ำงเข้ำใจเพ่อื เป็นประโยชนก์ บั กำรเรียนผ้จู ัดทำหวงั วำ่ รำยงำนเล่มนจ้ี ะเปน็ ประโยชนก์ ับผู้อ่ำน หรือนกั เรียนนักศกึ ษำ ที่กำลงั หำข้อมูลเรอ่ื งนี้อยู่ หำกมีขอ้ แนะนำหรือข้อผดิ พลำดประกำรใด ผจู้ ัดทำขอนอ้ มรบั ไว้และขออภัยมำ ณ ท่ีน้ดี ้วย ลงช่อื มชั ฌมน เรืองดำ
1 ประวตั ขิ องไดโนเสำร์เมอื่ หลำยล้ำนปีก่อนโลกได้ก ำเนดิ สิ่งมีชวี ิตขนำดใหญ่ข้นึ มำบนโลก มีหลำยเผำ่ หลำยพันธส์ุ ำย ทัง้ ประเภทกนิ เนื้อและกนิ พืชเป็นอำหำร ตำ่ งฝ่ำยก็มีหลำยเผำ่ หลำยพันธุ์สำย ทง้ั ประเภทกินเนอื้ และกินพืช เป็นอำหำร ตำ่ งฝำ่ ยกซ็ ึ่งตำ่ งกไ็ ด้รับสมญำนำมวำ่ เป็นนักล่ำ โดยเฉำะ ทีแร็กซ์ และแรพ็เตอร์ นับวำ่ เป็นนักล่ำในยุคจูลลำสสิค และฝำ่ ยหำ อำหำรจำกพชื ก็จะมสี ิ่งป้องกนั บำงอย่ำงเพอ่ื เปน็ เกรำะคมุ้ ครองของ ตนเอง เชน่ หนำมทีแ่ หลมคมพวกนี้จะไม่ท ำอันตรำยพวกอืน่ ก่อนถ้ำ ไม่ถูกรบกวนหรือถูกรุกรำนกอ่ นแต่แล้วสำยพันธุข์ องไดโนเสำร์ก็ ต้องสน้ิ สดุ ลงเพรำะต้องเผชิญกับหำยนะอนั ใหญ่หลวงของโลกจำก กล่มุ หินอุกกำบำตทเ่ี ข้ำถล่มโลกอย่ำงบ้ำคลัง่ ทำใหส้ ิ่งมชี วี ติ ต้องจบ สนิ้ ลงไปด้วย
2 ทอ้ งฟำ้ เต็มไปดว้ ยเขมำ่ และควันไฟท่ีโพยพุ่ง โลกเตม็ ไปดว้ ยควำม มืดมิดไมม่ แี สงสวำ่ ง และเปน็ เช่นนนั้ อยหู่ ลำยปแี ละโลกเริ่มเยน็ ข้ึนๆ เร่ือยๆ และต่อมำก็เร่ิมเขำ้ สภู่ ำวะปกติ เริ่มเข้ำยุคใหมท่ ี่เร่มิ ก่อก ำเนดิ ส่ิงมีชีวติ ยดุ ใหมเ่ ข้ำมำแทนท่ีสตั ว์ใหญ่ ที่เคยครองโลกอยู่คงเหลือแต่ซำกเถ้ำกระดูกและฟอสซิลให้เห็นมำ ซำกดึกดำบรรพ์ (fossil) คอื ซำกหรอื รอ่ งรอยของพืชหรือสตั วท์ ีถ่ ูกเก็บรักษำไวโ้ ดยธรรมชำตใิ นชัน้ หินในเปลือก โลกประโยชน์ของฟอสซิล ฟอสซิลสำมำรถบอกให้เรำทรำบถึงชนดิรูปแบบและวิวัฒนำกำรของสงิ่ มชี ีวิตในช่วง ระยะเวลำทำงธรณีวทิ ยำ รวมทง้ั บง่ บอก สภำพแวดลอ้ มของ โลกในอดีตกำลอกีด้วยเน่อื งจำกในแต่ละช่วงระยะ เวลำทำงธรณีวทิ ยำจะมสี ่ิงมีชีวิตเกดิ ขึน้ เฉพำะบำงชนดิ เทำ่ นนั้
3 แบ่งช่วง ระยะเวลำทำงธรณดี ังกล่ำวออกเปน็ บรมยุค มหำยคุ ยคุ(period) และ สมัย (epoch) ไดโนเสำร์เปน็สัตวเ์ ลื้อยคลำนชนดิ หนงึ่ ซ่ึงอำศัยอยู่บนผนื แผน่ ดินและสูญพนั ธ์ุหมดสนิ้ จำกโลกนี้ เม่ือหลำยสิบลำ้ นปมี ำแลว้ ในปัจจุบันพบเพียงซำกกระดูกส่วนต่ำง ๆ ซึง่ เรำเรียกวำ่ ฟอสซลิ ของไดโนเสำร์คนสว่ นใหญเ่ ขำ้ ใจวำ่ ไดโนเสำรเ์ ป็นสตั ว์ ทใี่ หญ่โต มโหฬำรหรอื เป็นสัตว์ประหลำดขนำดยักษ์เช่นเดยี วกบปลำวำฬ บ้ำงกว็ ่ำเปน็ สตั วท์ ่ใี หญ่ทส่ี ุดเทำ่ ทเี่ คยมชี วี ติ อยู่ในโลก แตโ่ ดยควำมเปน็ จริง ไดโนเสำร์มีขนำดและรูปร่ำงแตกต่ำงกนั มำกมำย ตงั้ แต่ขนำดใหญ่มหมึ ำน้ ำหนักกวำ่ 100 ตัน สงู มำกกว่ำ 100 ฟตุ จนถงึ พวกทข่ี นำดเล็กๆ บำงชนิดกม็ ขี นำดเล็กกว่ำไก่ บำงพวกเดนิ สข่ี ำ บำงพวกก็เดินและวิง่ บนขำหลงั 2 ข้ำง บำงพวกกนิ แต่พืชเป็นอำหำร ในขณะทอี่ กีพวก หนึ่งกนิ เนอเช่นเดียวกับสตั วท์ ่ีมีอยู่ในปัจจบุ นั
4ไดโนเสำร์พวกแรก ปรำกฎขน้ึ มำในโลกในช่วงตอนปลำยของ ยุคไทรแอสสิกเม่อื กว่ำ 225 ลำ้ นปีมำแล้วเป็นเวลำที่ทวีปทงั้ หลำยยังตอ่เปน็ ผืนเดียวกัน สตั ว์เล้อื ยคลำนพวกนี้มชี ีวิตอย่แู ละมีววิ ัฒนำกำรตลอดระยะเวลำอนั ยำวนำนถงึ 160 ล้ำนปี กระจัดกระจำยแพรห่ ลำยอยู่ทั่วผนื แผ่นดินในโลก แล้วจึงได้สญู พนั ธุ์ไปหมดในปลำยยคุ ครีเทเชียสหรือเมอื่ 65 ล้ำนปที ่ลี ่วงมำแล้ว ในขณะท่ีตน้ตระกูลของมนุษย์เพง่ิ จะปรำกฎในโลกเมื่อ 5 ล้ำนปที ผี่ ำ่ นมำ มนุษย์มกั จะคดิ วำ่ ไดโนเสำรน์ ั้นโงแ่ ละธรรมชำติสร้ำงมำไมเ่ หมำะสมกับสภำพแวดล้อม จึงท ำใหม้ นั ต้องสูญพันธุ์ไปทงั้ หมด ควำมคดิ นไี้ ม่ถูกโดยแท้จรงิ แล้วไดโนเสำร์ได้เจริญแพรห่ ลำยเปน็ เวลำยำวนำนกวำ่ 30 เทำ่ ทีม่ นุษย์ไดอ้ ำศยั อยใู่ นโลก ตลอดชว่ งเวลำอันยำวนำนน้ไี ดโนเสำร์ได้มวี ิวัฒนำกำรออกไปเปน็ วงศส์ กุลต่ำง ๆ กันมำกมำย
5ปจั จบุ นั คน้ พบไดโนเสำร์เจอแลว้ ประมำณ 340 ชนิด ชวี วิทยำแบ่งไดโนเสำร์ออกเป็น2กลุม่ ใหญโ่ ดยอำศยั ควำมแตกตำ่ ง ของกระดูกเชิงกรำนคือ1. พวกซอริสเซียน (Saurischians) มีกระดูกเชิงกรำนเปน็ แบบสตั ว์เลื้อยคลำน คอื กระดูก พิวบสิ และอิสเชียมแยกออกจำกกนั เปน็ มุมกวำ้ ง2. พวกออรนื ธิ ิสเชียน (Ornithiscians) มีกระดูกเชิงกรำนเปน็ แบบนก คอื กระดูกทัง้ สอง (พวิ บิสและอิสเชียม) ชไ้ี ปทำงดำ้ นหลงั
6ตวั อยำ่ งไดโนเสำรท์ ค่ี น้ พบCamptosaurusCorythosaurus
7GiganotosaurusParasaurolophus
8 AllosaurusBrachiosaurus
9Velociraptor Spinosaurus
10Tyrannosaurus RexPachycephalosaurus
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: