เอกสารคำสอน รายวชิ า 562363 เภสัชกรรมการจา่ ยยา หัวขอ้ บทนำเภสัชกรรมการจา่ ยยา สำหรบั นักศกึ ษาปที ่ี 4 ปกี ารศกึ ษา 2564 โดย ภญ. ผศ. ดร. กรณั ฑ์รตั น์ ทิวถนอม ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร 1
คำนำ เอกสารคำสอนเลม่ น้ี ใชป้ ระกอบการเรยี นการสอนวชิ า เภสัชกรรมการจา่ ยยา เนือ้ หาโดยทว่ั ไปจะกลา่ วถึง นยิ าม ของเภสชั กรรมการจ่ายยา ระบบการจ่ายยา เทคนิคทีค่ วรมีในการจ่ายยา ขอ้ ปฏิบตั ทิ ่ดี ใี นการจา่ ยยา และตัวอย่างของการ วเิ คราะห์ใบสั่งยาเมอื่ จ่ายยา ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารคำสอนฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนที่จะนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ฝึกงานต่อไป รวมทั้งการเลือกสาขาเน้น หากผู้อ่านมีข้อเสนอแนะใดๆ เพื่อปรับปรุงหรือเพิ่มเติม ผู้เขียนยินดีรับ ข้อเสนอแนะเพื่อปรบั ปรุงการเขยี นในครง้ั ต่อไป ภญ. ผศ. ดร. กรัณฑ์รตั น์ ทวิ ถนอม ผนู้ ิพนธ์ 2
สารบัญ หนา้ หวั ข้อ 1 แผนการสอนรายหวั ขอ้ 7 นิยามของเภสชั กรรมการจา่ ยยา 7 กระบวนการจา่ ยยา 11 แนวปฏิบตั ิทีด่ ีในการจา่ ยยา 25 บทบาทของเภสัชกรในกระบวนการจา่ ยยา 27 ตัวอยา่ งการวเิ คราะห์ใบส่ังยา 30 สรปุ เน้อื หา 31 เน้ือหาปฏบิ ัติการ 33 เอกสารอ้างองิ 3
แผนการสอน รายวิชา 562363 หัวข้อหลัก บทนำเภสชั กรรมการจา่ ยยา จำนวนช่วั โมง 2.คาบ (100 นาที) ความมุ่งหมายทั่วไปของหัวขอ้ นี้ วตั ถปุ ระสงค์ เม่ือศึกษาหัวข้อน้ีจบแลว้ นักศึกษาสามารถ 1. สามารถอธิบาย นยิ าม ข้ันตอน รปู แบบ ของกระบวนการการจา่ ยย 2. สามารถอธบิ ายบทบาทของเภสัชกรในกระบวนการจา่ ยยา 3. สามารถอธบิ ายแนวทางกระบวนการจ่ายยาที่ดี 4. สามารถประยุกตใ์ ช้ความรู้ ในสถาการณ์การจา่ ยยาจริง หวั ข้อและวัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ หวั ข้อย่อย เว 1. บทนำ: นิยามเภสชั กรรมการจา่ ยยา 5น 2. กระบวนการจ่ายยา 10 3. แนวทางการจา่ ยยาท่ีดี 35 4. บทบาทของเภสัชกรรในกระบวนการจา่ ยยา 25
ยาได้ วลา กิจกรรมการเรยี นการสอน นาที บรรยาย มเี อกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลดป์ ระกอบ มกี าร ต้งั คำถามและตอบคำถามในระหวา่ งการบรรยาย นาที บรรยาย มีเอกสารประกอบการบรรยายพรอ้ มสไลดป์ ระกอบ มีการ ต้ังคำถามและตอบคำถามในระหว่างการบรรยาย นาที บรรยาย มเี อกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลด์ประกอบ มีการ ตัง้ คำถามและตอบคำถามในระหว่างการบรรยาย นาที บรรยาย มเี อกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลดป์ ระกอบ มกี าร ตง้ั คำถามและตอบคำถามในระหวา่ งการบรรยาย 4
หัวข้อย่อย 5. สรุปเนอ้ื หา 6. ตอบคำถามและมอบหมายแบบฝกึ หัด มาตรฐานการเรียนร้ขู องรายวิชา 2. ความรู้ 3. ทกั ษะทางปัญญา มาตรฐานผลการ 1. คณุ ธรรม เรยี นรรู้ ายวชิ า จริยธรรม 562363 1 23 12 3 4 5 1 2 3 4 เภสัชกรรมการจ่ายยา ● ●
เวลา กิจกรรมการเรียนการสอน 10 นาที บรรยาย มีเอกสารประกอบการบรรยายพร้อม 15 นาที สไลด์ประกอบ มีการตั้งคำถามและตอบคำถามใน ระหว่างการบรรยาย บรรยาย มีเอกสารประกอบการบรรยายพร้อม สไลด์ประกอบ มีการตั้งคำถามและตอบคำถามใน ระหว่างการบรรยาย 4. ทกั ษะ 5. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 6. ทักษะการ ความสมั พนั ธ์ เชงิ ตัวเลข การส่ือสาร ปฏิบตั ทิ างวชิ าชพี ระหว่างบุคคลและ และการใช้เทคโนโลยี ความรบั ผดิ ชอบ สารสนเทศ 51 2 3 1 2 3412 3 ● 5
ตำราและเอกสารที่ใชใ้ นการเรียนการสอนหัวข้อน้ี ตามเอกสารอา้ งองิ 1. การวางแผนการประเมนิ ตดิ ตามการเรยี นการสอนหัวขอ้ น้ี การถามในช้ันเรยี น แบบฝกึ หัด การสอบข้อเขยี น วิธีการการปรบั ปรงุ การสอน จากการทบทวนวรรณกรรมงานวจิ ัยใหมๆ่ ข้อมูลจากการประเมนิ โดยนกั ศกึ ษา การวิเคราะห์ข้อสอบ 6
นิยามของเภสชั กรรมการจ่ายยา เภสัชกรรมการจ่ายยาคือ กระบวนการเตรียมและนำส่งยาตามรายการยาในใบสั่งยาให้กับผู้ป่วย Dispensing refers to a process of preparing and giving medicine to a named person on a basis of prescription Source: apps.who.int/medicinedocs/documents/s19607en/s19607en.pdf กระบวนการจา่ ยยา ในกระบวนการจา่ ยยา จะแบ่งออกเป็น 2 ระบบใหญๆ่ คือ - การจา่ ยยาผปู้ ว่ ยนอก (Outpatient dispensing) - การจา่ ยยาผู้ป่วยใน (Inpatient dispensing) ระบบการจ่ายยาผู้ปว่ ยนอก ระบบการจา่ ยยาผู้ปว่ ยนอก จะเริ่มจากข้ันตอนต่างๆ ดงั น้ี 1. การเขยี นใบสั่งยา (Writting prescription) กระบวนการน้ะทำโดยแพทย์ หลังจากตรวงจ รา่ งกายผู้ปว่ ย 2. ใบส่งั ยาถูกสง่ มายงั ห้องยา หรือหากมีการพฒั นาระบบสารสนเทศท่ดี ี รายการยาของผู้ป่วยจะ มาปรากฎในจอคอมพิวเตอรข์ องห้องยา 3. ทำการดำเนนิ การกับรายการยาในใบส่งั ยา คือคดั ลอกรายการยา (Transcription) จัดยา (Selection) และ ติดฉลาก 4. จ่ายยาให้กับผู้ปว่ ย พร้อมใหค้ ำแนะนำ 5. บันทกึ ข้อมูล หากเป็นยาอันตรายท่วั ไป 6. หากเปน็ ยาควบคุมพเิ ศษ ก็บันทกึ แยกจากรายการจา่ ยยาปกติ แผนภมู ิของกระบวนการดังกลา่ วแสดงดงั รูปท่ี 1 7
รูปที่ 1 ตัวอย่างระบบยาผูป้ ว่ ยนอก ท่ีมา https://slideplayer.com/slide/10766768/ ระบบการจา่ ยยาผู้ปว่ ยใน ระบบจา่ ยยาผู้ป่วยในจะคลา้ ยคลงึ กับกระบวนการจ่ายยาผู้ป่วยนอก แต่จะเพิ่มการส่งต่อไปยังหอผู้ปว่ ย (แสดงดงรูปที่ 2) 1. รกา่างรกเขาียยนผู้ปใบ่วสย่งั ยา (Writting prescription) กระบวนการน้ะทำโดยแพทย์หลงั จากตรวงจ 8
2. ใมบาสปั่งรยาากถฎกู ใสนง่จมอาคยองั มหพ้อิวงยเตาอหร์ขรืออหงหาอ้กงมยีกาาหรรพือัฒเนปา็นรคะำบสบงั่ สใชารย้ สานตอ่เทเนศ่ือทง่ดี ที ร่เี ขายียนกาไวร้ยาของผู้ป่วยจะ 3. (ทSำeกleารcดtiำoเnน)ินแกลาะรกตับิดรฉาลยากการ(Lยaาbในeใlบinสg่งั)ยาคือ คัดลอกรายการยา (Transcription) จัดยา 4. เภสัชกรตรวจสอบความถกู ต้องก่อนการจ่ายยา 5. ใสย่ าท่ีตรวจสอบแลว้ ลงในตะกรา้ ประจำหอผปู้ ว่ ย 6. นำส่งไปท่หี อผปู้ ว่ ย 7. บนั ทกึ ข้อมูลการใช้ยาของผปู้ ่วย 8. หากเปน็ ยาควบคุมพเิ ศษ ก็บันทกึ แยกจากรายการจ่ายยาปกติ รปู ที่ 2 ตวั อยา่ งระบบยาผปู้ ่วยใน ท่มี า https://slideplayer.com/slide/10766768/ กระบวนการจา่ ยยาในผ้ปู ่วยในสามารถใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ ในการบันทึกหรือการสั่งจา่ ยยา (หรอื เรียกว่า Electronic medical record, eMR) สรุปดงั รปู ที่ 3 1. แพทย์สั่งจ่ายยา และมีการส่งต่อข้อมลู ไปยังเภสัชกร 9
2. เภสัชกรทำการทบทวนรายการยา 3. พยายาลจา่ ยยาโดยมรี ะบบ Barcode หรือ ระบบ electronic medication adminisrtration record system (eMARS) เพ่ือลดความผดิ พลาดในการบริหารยาผู้ปว่ ย 4. ระบบการกระจายยาหรือการจ่ายยา หากเปน็ ยาท่ีมีการ Stock นอกหอผู้ป่วย ควรมรี ะบบขนสง่ ที่ดี และสามารถใช้ระบบ Electronic ชว่ ยได้ เช่นตขู้ นสง่ ยาระบบอตั โนมัติ 5. กรณีที่มีการ Stock หรือสำรองยาไว้ที่หอผู้ป่วย การมีระบบการบรรจุยาอัตโนมตั ิสำหรับผู้ป่วยแต่ละ รายก็จะช่วยลดความผิดพลาดในดารจ่ายยา หรือมีการใช้ระบบ Barcode หรือจัดยาแบบแบ่งม้ือ (Unit dose) รปู ท่ี 3 ตัวอยา่ งระบบการจ่ายยา ทีม่ า: https://docplayer.net/11581851-Enhancing-patient-safety-through-integrated-supply-chain- management.html 10
แนวปฏบิ ตั ิที่ดีในการจ่ายยา ทางสมาคมเภสชั กรรมโรงพยาบาลรว่ มกบั สภาเภสชั กรรมไดก้ ำหนดเกณฑ์มาตรฐานของเภสัชโรงพยาบาล รวมทั้งเปน็ หน่งึ ในสมรรถนะหลกั ของวชิ าชพี เภสัชกรรม ซึ่งส่วนที่เก่ียวข้องกบั การา่ ยยาดังนี้ ขอ้ 4. การปรุงยาและจ่ายยาตามใบสงั่ ยาของผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชพี ทันตกรรมหรือ ผปู้ ระกอบการบำบัดโรคสัตว์ 4.1 ตรวสอบความถูกตอ้ งเหมาะสมของยาที่จะจา่ ย และสง่ มอบยาให้กบั ผปู้ ่วยที่มารบั บริการ 4.2 ตดิ ตามและประเมินปัญหา เพอื่ วางแผนและประสานงานกับผปู้ ระกอบวิชาชพี ทางการแพทย์ สาขาอ่นื ที่เกยี่ วข้องในการแก้ไขปัญหาทีเ่ กดิ จากการใช้ยาของผปู้ ว่ ย 4.3 ให้คำปรกึ ษาปญั หาดา้ นยาแกผ่ ปู้ ่วยและประชาชนท่ีมารบั บริการ 4.4 ปรงุ ยาผสมยาตามคำส่งั (ใบส่งั ) ของผ้ปู ระกอบวิชาชีพเวชกรรม ผ้ปู ระกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือ ผปู้ ระกอบการบำบัดโรคสัตว์ 4.5 ใหค้ ำปรึกษา แนะนำและให้ข้อมูลด้านยาแก่บคุ คลากรทางการแพทย์สาขาต่างๆ 4.6 จัดให้มีเวชภณั ฑ์ที่ถูกต้องตามกฏหมายและมีคณุ ภาพตามหลักเกณฑท์ ี่ดใี นการผลติ ยาไวบ้ รกิ าร 4.7 ตอ้ งแสดงชื่อยา ความแรง ขนาดการใชท้ ่ชี ัดเนทกุ คร้งั ท่มี ีการำหน่าย จ่ายหรือส่งมอบใหผ้ ้มู ารับบรกิ าร 4.8 ต้องให้คำแนะนำเกย่ี วกบั ยาท่ีจา่ ยหรือส่งมอบให้กับผ้มู ารับบรกิ ารในประเดน็ ต่างๆ ต่อไปน้ี 4.8.1 ช่ือยา 4, 8.2 ข้อบ่งใช้ 4.8.3 ขนาดและวิธกี ารใช้ 11
4.8.4 ผลข้างเคยี ง (Side effects) (ถา้ ม)ี และอาการไมพ่ ึงประสงคจ์ ากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction) ที่อาจเกดิ ขึ้น 4.8.5 ข้อควรระวังและข้อควรปฏบิ ัติในการใช้ยา 4.8.6 การปฏิบัตเิ มื่อเกิดปญั หาดังกลา่ ว 4.9 ตอ้ งจัดทำรายงานอาการไมพ่ ึงประสงค์จากการใชย้ าตามแบบฟอร์มท่ีกำหนด 4.10 ตอ้ งให้ข้อมลู ด้านยาที่ถูกตอ้ ง เป็นกลางและมีหลกั ฐานอา้ งอิงทชี่ ัดเจน เชื่อถือได้ 4.11 ต้องจัดทำบันทึกประวัติการใช้ยาของผปู้ ว่ ย ในกรณีท่ีพบว่ายาทผ่ี ูป้ ่วยได้รับอาจก่อใหเ้ กิดปญั หาจากการ ใชย้ า 5.9 ตอ้ งใหค้ ำแนะนำเกี่ยวกบั ยาทจ่ี ่ายหรือสง่ มอบให้กับผมู้ ารบั บริการในประเด็นต่างๆ ต่อไปน้ี 5.9.1 ช่อื ยา 5. 9.2 ข้อบง่ ใช้ 5.9.3 ขนาดและวิธีการใช้ 5.9.4 ผลขา้ งคึยง (Side effects) (ถ้ามี) และอาการไม่พึงประสงค์จากการใชย้ า (Adverse Drug Reaction) ท่อี าจเกิดขน้ึ 5.9.5 ขอ้ ควรระวังและข้อควรปฏบิ ัติในการใชย้ า 5.9.6 การปฏบิ ตั เิ มอื่ เกดิ ปัญหาดังกลา่ ว 12
รายละเอียดของแนวปฏบิ ตั ิที่ดใี นการจา่ ยยา ก่อนท่จี ะกลา่ วถึงรายละเอียดของแนวปฏิบตั ิท่ีดใี นการจา่ ยยาซ่ึงจะองิ ตามกระบวนการจ่ายยามปี ระเดน็ ที่ ควรต้องระวงั ดังนี้ เภสัชกรควรตรวจสอบใบสั่งยากอ่ นทำการจ่ายยา กระบวนการน้ีเรยี กว่ากระบวนการวเิ คราะห์ใบส่ังยา (prescription analysis) ในอดีต มผี เู้ สนอ ประเด็น 5 R คือ Right drug, Right dose, Right person, Right route, Right time แตป่ จั จุบนั ดว้ ยบรบิ ทที่ เปลย่ี นไป จงึ ปรับเปน็ 6-7 และ 10 R ดงั ตารางที่ 1 ตารางที่ 1 6R-7R-10R 6R 7R 10R Right drug Right drug Right drug Right patient Right patient Right patient Right dose Right dose Right dose Right route Right route Right route Right time Right time Right time Right document Right document Right document Right to refuse Right to refuse Right history and assessment Right drug-drug interaction and evaluation Right to education and information ที่มา: https://www.slideshare.net/SuradetSri/10-r-53263929 13
การจา่ ยยาควรจะต้องแนใ่ จวา่ ยาทผี่ ู้ปว่ ยไดร้ ับมคี วามปลอดภัย ข้อมลู เก่ียวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาจะต้องผ่านการพจิ ารณาอย่างถ่ึถ้วน ก่อนสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป้วย ซึ่งในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของเภสัชกรผู้ที่จ่ายยาให้กับ คนไข้ ในการจา่ ยยาควรจะตอ้ งแนใ่ จว่ายาทผี่ ู้ปว่ ยได้รับมคี วามเหมาะสมกบั ผูป้ ว่ ย ตรงตามใบสั่งยา เภสชั กรต้องตรวสอบว่ายาทีผ่ ู้ปว่ ยไดร้ ับมีความเหมาะสมและถูกตอ้ งตรงตามใบสงั่ ยา หากมขี ้อสงสัยควรตดิ ต่อกับแพทย์ผู้สัง่ ใช้ยา หาคำส่ังใชย้ าไม่ชัดเจนหรอื มีขอ้ สงสยั ควรปรึกษาแพทย์ผสู้ ่ังใชย้ าเพื่อใหไ้ ด้ขอ้ มูล้ชั ัดเจนยง่ิ ขึ้น ❑ หากมใี บส่งั ยาที่เหมือนกันหลายใบควรจะจ่ายในครั้งเดยี ว ต้องระวังการจ่ายซ้ำซอ้ น ❑ ใบส่ังยาทไ่ี ด้จากการ Fax, Scan ต้องมคี วามชดั เจน ❑ การส่งั ยา Internet, mail หรอื ช่องทางอ่ืนๆ ❑ การเตรียมยาตามส่งั เฉพาะราย หรือ Extemporaneous dispensing (compounding) ❑ การบนั ทึกอุบตั ิการณ์ หรือข้อผิดพลาดในดารจ่ายยา ❑ ฉลากยา - ฉลากยาควรติดแน่นกับภาชนะบรรจุ (หากเป็นยาชนิดเดียวแต่ได้หลายขวด ควรมีฉลาก ทุกขวด) และขนาดเหมาะสมที่จะบรรจุข้อมูลที่จะทำให้ผู้ป่วยใช้ยาได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะยาเทค นิกพิเศษเชน่ ยาสดู พ่น หรือยาหยอดตาหรืออาจจะออกแบบเปน็ แถบเลก็ ๆ ตดิ กับภาชนะบรรจุได้ - ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย เหมาะสมกับผู้ป่วย หากเป็นชาวต่างชาติก็ควรแปล เปน็ ภาษาทีถ่ ูกตอ้ ง 14
- กรณีทีผ่ ปู้ ว่ ยมีความพิการทางสายตา หรอื อาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ควรปรบั ฉลาก เพื่อสามารถใหผ้ ปู้ ว่ ยไดร้ ับขอ้ มูลท่ีเหมาะสมได้ - ข้อมูลในฉลากต้องแสดงถึงชื่อยา ความแรง แหล่งที่มาของยา หากเป็นฉลากจาก สถานพยาบาลควรมีชื่อ หรือหาก มาจากบริษัทยาควรมีชื่อบริษัท วันหมดอายุ และสภาวะการเก็บรักษา ตัวอย่าง ฉลากยาดังรูปที่ 4 รปู ท่ี 4 ตวั อยา่ งฉลากยา ที่มา :http://www.software.worldmedic.com/smartdrugstore/new_features/premium.html 15
รูปที่ 5 ฉลากยารูปภาพ (Pictogram) ท่มี า: https://healthgraphics.wordpress.com/2011/06/13/medicine-pictograms/ รูปที่ 6 ตัวอยา่ งฉลากยาอักษรเบลล์ ทมี่ า https://www.hfocus.org/content/2015/07/10511 16
โดยสรปุ องค์ประกอบของฉลากยาควรประกอบด้วยข้อมลู ตา่ งๆ ดังน้ี ชอ่ื การคา้ หรือชอ่ื สามัญ ความแรง และจำนวนบรรจุ กรณีของ การเตรยี มยาเฉพาะราย (Extemporaneous preparations) ควรระบสุ ตู รหรอื องค์ประกอบของสารในตำรบั วธิ ีการใช้ยา ขนาดและความถี่ ช่อื ผู้ป่วย หรอื ในกรณยี าสัตว์ควรมชี อ่ื เจา้ ของสัตว์และชนิดของสตั ว์ ชื่อเภสัชกรผจู้ ่าย รหัสยา หรือ Bar-code ฉลากช่วย กรณตี ่อไปน้ีจำเปน็ ต้องมีฉลากช่วยเพือ่ ทำให้ผปู้ ว่ ยเขา้ ใจการใช้ยามากขึ้น -ยา หรอื สารพิษที่มใี นรายช่ือตามมาตรฐานขององค์กร เชน่ ใน Astralia เรียก (Standard Uniform of scheduling medicine and poison, (SUSMP) หรือ ของประเทศไทยก็จะเป็น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาซึง่ มกึ ำหนดไว้ - ยา หรือสารพิษทต่ี ้องระวังเวลาหยบิ เคลือ่ นที่ ขนย้าย เชน่ ยาเคมบี ำบัด ตวั อยา่ งฉลากชว่ ยแสดงดังรปู ท่ี 7 และ รูปที่ 8 โดยรูปท่ี 7 เปน็ ฉลากช่วยทีจ่ ำเปน็ เพือ่ ทำห้ผู้ป่วยเข้าใจการใช้ยามากขึน้ เชน่ ในยาตา้ นซมึ เศร้า กลมุ่ MAOI ท่ีอาจจะเกดิ อนั ตรกรยิ ากบั Chocolate เนย หรอื Alcohol ท่รี ับประทาน หรอื อีกตัวอย่างหน่งึ คอื ยา กลมุ่ ทท่ี ำใหเ้ กดิ อาการงว่ งควรมฉี ลากเตือน สว่ นรปู ที่ 8 เป็นฉลากชว่ ยเตอื นในเรอื่ งการหยบิ เคลือ่ นท่ี หรอื ขนย้าย ฉลากเหล่านจ้ี ะทำใหผ้ ู้ใชใ้ ช้ยาไดถ้ ูก หรือมีความระมดั ระวงั มากขน้ึ ลกั ษณะของฉลากมักจะใชเ้ ป็น ข้อความสนั้ ๆ กระชบั หรอื สัญญลกั ษณ์ มุง่ เน้นแต่ประเด็นสำคัญ 17
รูปที่ 7 ตวั อย่างฉลากช่วย ทม่ี า:https://pharmlabs.unc.edu/labs/prescriptions/auxiliary.htm 18
รปู ที่ 8 ตัวอยา่ งฉลากชว่ ยทค่ี วรระมดั ระวังในการเคล่ือนย้าย ท่ีมา:https://www.unitedadlabel.com/chemotherapy-communication-label-3-x-1-5-8 http://www.tapesolutionsinc.com/chemo-drug-9x12.html 19
❑ การใหค้ ำปรึกษาเก่ยี วกับยาท่ไี ดร้ ับ มีขอ้ พจิ ารณาดังนี้ -ยานน้ั ทำให้เกิดอาการง่วงซมึ - ยาที่ไดม้ ีช่วงการรักษาที่แคบ เชน่ Digoxin, กลุ่มยากดภูมิ เช่น Cyclosporine - เปน็ รูปแบบใหม่ท่ผี ้ปู ว่ ยไม่คุ้นเคย เช่น แผน่ แปะ, ยาสดู พ่น - ยาท่มี วี ิธีใช้ หรอื มีวธิ บี ริหารยาพเิ ศษ - ผ้ปู ่วยไดร้ ับยาใหม่ - มกี ารเปลี่ยนขนาดยา เปลยี่ นความถใี่ นการใช้ยา - เมื่อเปลยี่ นยหี่ อ้ ยา - เม่ือเปน็ ยาควบคุมพเิ ศษ - เมือ่ ยานั้นต้องใหข้ ้อมูลเพม่ิ เตมิ ตามข้อกำหนด เช่นในเรอ่ื งผลตอทารกในครรภ์ หรือ อาการขา้ งเคียงที สำคญั - เมอ่ื ผู้ปว่ ยต้องใช้ยาเป็นเวลานาน - เม่อื ยานัน้ ต้องใช้กับเด็ก - เมอ่ื ผปู้ ่วยได้รบั ยาหลายขนาน จำเปน็ ต้องมีการอธบิ าย 20
ปจั จัยทต่ี ้องคำนงึ ถึงในกระบวนการจา่ ยยาที่ดี ❑ การรักษาความลับของผู้ป่วย( Privacy and confidentially) ขอ้ มูลรายการยา หรือภาวะเจ็บป่วย ของผูป้ ่วยถือว่าเปน็ ความลับ ไม่ควรเผยแพร่ข้อมลู ของผู้ปว่ ย โดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าต ❑ ความผิดพลาดและขอ้ ผดิ พลาดทคี่ าดไม่ถึง Dispensing error and near misses แน่นอนว่าในกระบวนการจา่ ยยาอาจจะมีความผิดพลาด หรือข้อผิดพลาดท่คี าดไม่ถงึ ดงั นั้นจงึ ควรวางแผน หรอื มกี ระบวนการจัดการ รวมถงึ ป้องกันข้อผิดพลาดดงั กล่าวเพ่อื ไมใ่ ห้เกดิ ขึ้นอีก ตัวอยา่ งของการมีระบบป้องกัน การจา่ ยยาทผ่ี ดิ พลาดคือการมรี ะบบ barcode หรอื มี program แจง้ เตือน (warning) ❑ ภาระงาน (Pharmacist workloads) `ภาระงานของเภสัชกรควรจะตอ้ งเหมาะสม หากภาระงานมากเกินไปอาจจะทำให้มเี วลานอ้ ยในการตรว สอบตวามถูกตอ้ ง รวมทั้งความสามารถในการทำงานจะลดลงอีกดว้ ย ❑ Dispensary assistants/ Dispensary technicians/Hospital pharmacy technicians การจา่ ยยาท่ดี ีควรมรี ะบบเอ้ือให้แบง่ เบาภาระของผู้จา่ ยยาเชน่ มเี ครือ่ งชว่ ย่ายยา หรือผชู้ ว่ ยจดั ยา เป็นต้น ในบางท่ีกจ็ ะมหี ุน่ ยนตห์ รือ เครอื่ ง Pack ยา ซึ่งจะทำให้ลดระยะเวลาหรอื ขั้นตอนในการ่ายยา 21
สรปุ ข้ันตอนตามกระบวนการจา่ ยยาท่ดี ี 1. การรบั และตรวสอบความถกู ต้องของใบส่ังยา (Receive and validate the prescription) 2. ความเข้าใจและตีความหมายใบสั่งยา (Understand and interpret the prescription) 3. การเตรยี มยาและฉลากยา (Prepare and label items for issue) 4. ตรวจสอบคร้งั สุดท้าย (Make a final check) 5. บันทึกการจ่ายยา (Record the action taken) 6. จา่ ยยาให้กบั ผูป้ ่วยและใหค้ ำแนะนำ (Issue medicine to the patient with clear instruction and advice.) กล่าวในรายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี ขน้ั ตอนท่ี 1 การรับและตรวสอบความถกู ต้องของใบสั่งยา (Receive and validate the prescription) ทำการตรวจสอบรายการยา ตรวจสอบชอ่ื ของผูป้ ่วย เมอื่ พจิ ารณาตามคำนยิ ามของใบส่งั ยาคือ คำสั่งการใชย้ าจากบคุ ลากรตอ่ ไปนี้ แพทย์ ทันตแพทบ์ สตั วแพทย์ หรอื บคุ คลากรทางการแพทย์อน่ื ท่มี ีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดบคำสงั่ ใชย้ าจะเปน็ คำส่ัง เฉพาะราย ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนง่ึ องคป์ ระกอบของใบสงั่ ยาทดี่ ีควรมีองค์ประกอบดงั ต่อไปน้ี ข้อมูลผปู้ ่วย วนั ทส่ี ่งั ใช้ยา เครอ่ื งหมาย Rx ยาท่สี งั่ ซึ่งควรประกอบดว้ ย ชอื่ ยา ความแรง ปริมาณยา คำส่งั ใช้ยา หรอื คำสัง่ การเตรียมยาสำหรับเภสัชกร คำส่งั ใช้ยาสำหรับผปู้ ว่ ย 22
คำส่งั กรณีการเติมยา หรอื ฉลากพเิ ศษ คำส่งั พิเศษ ลายเซน็ แพทยผ์ ูส้ งั่ ยา รวมถงึ รายละเอยี ดทีอ่ ยตู่ ิดต่อของสถานพยาบาล สิง่ ทเ่ี ป็นปัญหาหนงึ่ ซ่ึงมผี ลตอ่ ความผดิ พลาดในการจา่ ยยาคือลายมือแพทย์ แต่เป็นที่น่ายินดวี ่า แพทย์รุ่น ใหมต่ ระหนักถึงส่งิ นี้มากขึ้น รวมทง้ั มีการนำเทคโนโลยมี าใช้ โดยการสง่ั ยาผา่ นทางระบบคอมพวิ เตอร์ จงี ลด ความผิดพลาดในประเดน็ การอ่านลายมือ ดังขา่ วในรูปท่ี 9 รปู ท่ี 9 ข้อมมูลจากข่าวเดลินิวสเ์ กยี่ วกับลายมอื แพทย์ ที่มา https://www.dailynews.co.th/regional/342281 ในการอ่านใบสงั่ ยานนั้ เภสชั กรต้องมีความรู้เกีย่ วกบั ประเภทของยา ยาแบง่ ออกเปน็ ยาท่ีตอ้ งจ่ายตามใบส่งั แพทย์ ซง่ึ จะต้องมีใบส่งั ยาจากผปู้ ระกอบวชิ าชีพเวชกรรม ทนั ตก รรม หรอื การรกั ษาสัตว์ ยาที่ไม่ต้องมใี บสงั่ แพทย์ สาสมารถซื้อหาได้เอง 23
ตาม พรบ ยาในประเทศไทยสามารถจัดแบ่งยาตามความเข้มงวดในการจำหน่ายดังน้ี ยาสามัญประจำบ้านแผนปจั จุบนั ตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรือง ยา สามัญประจําบ้านแผนปัจจุบนั ยาบรรจุเสร็จทีไ่ ม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ยาประเภทนี้สามารถหาซ้อื ได้ในร้านขายยาแผนปัจจุบันและร้านขายยาบรรจุเสร็จ ที่มีบุคคลากรของ กระทรวงสาธารณสขุ เป็นผูป้ ฏิบตั ิการ ไม่จำเปน็ ตอ้ งมีใบสงั่ แพทย์ ยาอันตราย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาอันตราย ยาประเภทน้ี สามารถหาซื้อได้เฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบัน และต้องมีเภสัชกรเป็นผู้ส่ง มอบยา ยาควบคุมพิเศษ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรือง ยาควบคุมพิเศษ ยา ประเภทจำเป็นต้องใช้ใบสั่งแพทย์ในการซื้อยา เนื่องจากยามีความเป็นพิษสูง ก่อใหเ้ กิดอันตรายไดง้ ่ายจึงจำเป็นตอ้ งมีแพทย์กำกบั การใช้ยา ขน้ั ตอนที่ 2 ความเขา้ ใจและตีความหมายใบสั่งยา (Understand and interpret the prescription) เภสชั กรตอ้ งอา่ นและตีความใบส่ังยาอย่างระมดั ระวัง รวมถึงเข้าใจตวั ยอ่ ท่พี บในใบส่งั ยา พิจารณาขนาดยา ปรมิ าณยา รวมท้งั ตรวจสอบอนั ตรกรยิ าของยา (ใชห้ ลัก 10 R) ขนั้ ตอนท่ี 3 การเตรียมยา (Prepare and label items for issue) ซ่ึงต้องอาศยั ทกั ษะ การชง่ั ตวงวดั การคำนวณ และเขียนฉลากให้ชดั เจน ขั้นตอนท่ี 4 ตรวจสอบครั้งสุดท้าย (Make a final check) ต้องแนใ่ จวา่ กระบวนการทุกอยา่ งถกู ต้อง มีการตรวจสอบยาท่ีเตรียม หรือยาทจ่ี ัดกบั รายการยาในใบส่งั ยา อีกครั้ง ขน้ั ตอนท่ี 5. บนั ทกึ การจ่ายยา (Record the action taken) มรี ะบบการบนั ทึกการจ่ายยาท้ังชอ่ื ยาและจำนวนท่จี า่ ย • กรณ๊ที่ไม่ได้ใหใ้ บส่งั ยาผู้ปว่ ยกลบั ไป ควรต้องรบี บนั ทึกรายการยาและจำนวน • กรณที ีใ่ ห้ใบส่งั ยาผู้ป่วยกลบั ไป ใหบ้ ันทกึ ก่อนจ่ายยาและคืนยาให้กบั ผูป้ วย 24
• ชะบบคอมพิวเตอรม์ าช่วย ขนั้ ตอนท่ี 6. จ่ายยาให้กับผู้ปว่ ยและใหค้ ำแนะนำ (Issue medicine to the patient with clear instruction and advice.) จ่ายยาพร้อมใหค้ ำแนะนำการใช้ยาท่ีเขา้ ใจง่ายและชัดเจน หากเภสัชกรปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนตา่ ง ๆ ดงั กล่าวแล้วนี้ เชอื่ ว่าจะช่วยลดความผิดพลาดในการจา่ ยยาลงได้ ซ่ึง ทกั ษะที่กลา่ วมาข้างต้นต้องอาศยั การฝึกฝนและประสบกรณ์จึงจะมีความชำนาญ บทบาทของเภสัชกรในกระบวนการจา่ ยยา เภสัชกรมีบทบาทหลายส่วนในกระบวนการา่ ยยาดังน้ี 1. จดั หายาทจ่ี ำเป็นสำหรบั ผู้ป่วย เภสัชกรมีหน้าท่ีจัดหายาที่จำเป็นแก่ผู้ป่วย โดยมีการทำรายชื่อยาที่มีอยู่ เพื่อที่แพทย์ผู้สั่งใช้จะได้ ทราบว่าหอ้ งยามียาใดบ้าง ซึ่งงานดังกล่าวเป็นความรบั ผิดชอบของเภสัชกรโดยตรงต่อระบบสั่งจ่ายยา ท้งั นเี้ พ่ือให้มียาเพยี งพอสำหรับผูป้ ่วย 2. รักษาความนา่ เชอ่ื ถือระหว่างผปู้ ่วยและแพทยผ์ ้สู ั่งใชย้ า ในบางครง้ั การเปล่ียนแปลงคำส่งั ใช้ยาของแพทย์ตอ่ น่าผู้ป่วยโดยใช้คำพดู วา่ คำส่งั ใช้น้ันผิดหรอื มี ขอ้ บกพร่อง อาจจะทำให้ผู้ปว่ ยขาดความเช่ือถือแพทยแ์ ละอาจจะก่อใหเ้ กดิ ความขัดแย้งในอนาคต ดังนน้ั จงึ ควรมีเทคนิกการสอ่ื สารหรอื การพูดที่ทำให้ผ้ปู ่วยยังคงเชอื่ ม่ันนแพทยผ์ ใู้ ห้การรักษา เช่น “รอสักครุ่นะคะ ขอหารือเก่ียวกับคำสัง่ ใชย้ ากบั แพทย์ก่อนนะคะเพื่อใหเ้ ข้าใจตรงกัน” เป็นตน้ 3. ตรวสอบความถูกต้องของใบสั่งยา เภสชั กรมหี น้าท่ีตรวจสอบความถกู ต้องของใบสั่งยาโดยใช้หลกั 6-10R 4. ให้ขอ้ มลู แกแ่ พทย์ผู้สงั่ ใชย้ านด้านการหายาแทนยาท่ผี ู้มีอยู่หรือสามารถแนะนำยาให้กบั ผ้ปู ่วย 25
กรณีที่แพทย์สั่งใช้ยาที่ไม่มีในโรงพยาบาลหรือสั่งใช้ยาที่ไม่ควรจ่ายให้กับผู้ป่วย เภสัชกร ควรจะเปน็ ผใู้ หข้ อ้ มลู กับแพทยผ์ ูส้ ่งั ใชถ้ งึ ยาทสี่ ามารถทดแทนหรือยาทเ่ี หมาะสมกับผปู้ ว่ ย 5. ใหข้ ้อมูลกบั ผู้ป่วยและแนวทางการปฏบิ ตั ิตัวเพอ่ื ใหแ้ น่ใจว่าผปู้ ่วยจะสามารถใชย้ าตามส่ังได้ ในบางครัง้ การทีผ่ ู้ป่วยไมไ่ ดร้ ับประทานยาตามสัง่ อาจจะเป็นเพราะผปู้ ว่ ยยงั ไมท่ ราบขอ้ มูล ของการใช้ยา หรอื ยงั ไมเ่ หน็ ความสำคัญของการรับประทานยา เภสชั กรควรให้ขอ้ มลู แก่ผู้ป่วยและ แนวทางการปฏบิ ตั ิตัวเพอ่ื ทำให้สามารถรับประทานยาตามส่ังได้ ตวั อย่างที่พบไดค้ ือในผู้ปว่ ย HIV ทม่ี ี ความจำเป็นต้องรบั ประทานยาสม่ำเสมอซึ่งกรณนี ี้ เภสัชกรควรคุยกับผปู้ ่วย ร่วมวางแผนการ รับประทานยา สรปุ บทบาทของเภสัชกร.ในกระบวนการจา่ ยยาดงั รปู ที่ 9 รูปที่ 9 บทบาทของเภสัชกกรในกระบวนการจ่ายยา ที่มา https://www.slideshare.net/JavisVonOnias/good-dispensing-practice 26
ตวั อย่างการวิเคราะหใ์ บสั่งยา การใช้เทคนิค3C 4A 1. Correct drug: จา่ ยยาถกู ต้อง ตรงตามใบส่งั ยา ตรวจสอบยา ที่หยิบกับรายการในใบสั่งยา กรณีนี้ผู้ป่วยได้ยา Paracetamol Syrup (120 mg/5mL) รับประทาน 1.5 ชช, Amoxicillin Syrup (125 mg/5 mL) ครั้งละ 1.5 ชช วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร, Guaifenesin Syrup (100 mg/5 mL) ครงั้ ละ 1 ชช วันละ 3 คร้ัง หลังอาหาร, Chlorpheniramine Syrup (2 mg/ 5 mL) คร้ังละ 1 ชช วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร 2. Appropriate indication ข้อบง่ ใชเ้ หมาะสม ถา้ ดูจากการวนิ จิ ฉัย ผ้ปู ว่ ยเป็น Streptococcal Pharyngitis ควรต้องได้ยาปฏชิ ีวนะ และมีอาการไข้ อาจจะต้องสอบถามอาการอื่น ๆ เช่น ไอ มีเสมหะ มีน้ำมูก 27
3. Appropriate drug ตัวยาเหมาะสม มีประสิทธิภาพ หากดูจากข้อบ่งใช้ยา Amoxicillin ก็มีประสิทธิภาพ ในการฆ่าเชื้อ Streptococcus และยาอื่น ๆ ก็มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการไข้ ไอมีเสมหะ หรือมี น้ำมกู หากไมม่ ีอาการแพย้ า ยาดงั กลา่ วก็เหมาะสม 4. Appropriate dosage ขนาดเหมาะสม ขนาดของยา Amoxicillin ในเดก็ อายุ 4 ปี หนัก 16 kg ควรได้ 640 mg / day ซึ่งคำนวณแล้วจากทแ่ี พทย์จ่าย ขนาดน้อยไป นา่ จะเปน็ ขนาด 250 mg/mL และให้คร้ังละ 1 ชช วนั ละ 3 ครงั้ ส่วนยาอ่นื ๆ ขนาดเหมาะสม 5. Appropriate patients เพมาะกบั ผปู้ ่วย ถ้าดจู ากอายุและรปู แบบยา ซงึ่ เป็นยาน้ำก็เหมาะสม 6. Correct dispensing จา่ ยยาถกู คน ตรวจสอบและถามช่ือนามสกุ ล 7. Compliance ผู้ป่วยสามารถรบั ประทานยาตามสัง่ ได้ ควรต้องอธิบายวธิ ีรับประทานยาและตรวจสอบ ความเขา้ ใจและการยอมรบั วิธีรับประทานยาดังกลา่ ว การใช้หลกั IIESAC I= Correct indication ยาทจี่ า่ ยถกู ต้องตามข้อบ่งใช้ E= Appropriate Efficacy ยาทจ่ี ่ายมีประสิทธิภาพ S= Appropriate safety ยาที่จ่ายมีความปลอดภยั A = Availability, Acessibility, Adherence ยาทีจ่ า่ ยเปน็ ยาทผ่ี ปู้ ่วยสะดวกรบั ประทาน มีในโรงพยาบาล C = Cost ยาทจ่ี า่ ยมรี าคาที่เหมาะสมเมื่อเทยี บกบั ประสิทธิภาพ 28
จากใบส่งั ยา ในชอ่ งวนิ ิจฉยั คือ Essential (Primary) Hypertension ดังนน้ั ขอยกตวั อย่างยาทใี่ ชใ้ นโรคนท้ี ผ่ี ูป้ ่วย ไดร้ บั โดยเปรยี บเทียบยา 3 กลุ่มคอื ACEI/ ARB, CCB, Beta blockers I: Indication ยาดังกล่าวสามารถใชใ้ น Essential (Primary) Hypertension ได้ E: Efficacy: ประสิทธผิ ลในการรักษาไมแ่ ตกตา่ งกันมาก แตก่ ล่มุ ACEI/ ARB มีประโยชน์ในเร่อื ง Reno protective ในผ้ปู ่วยทเ่ี ปน็ เบาหวาน S: Safety ยา Betablockers ไม่เหมาะสมในการใชใ้ นผูป้ ว่ นที่มีภาวะผดิ ปกติในทางเดินหายใจ ซ่งึ ในผปู้ ว่ ยรายนม้ี ี โรคหอบหดื และการใช้ Betablocker ในผู้ปว่ ยเบาหวานกจ็ ะบดบังอาการน้ำตาลตกได้ A: Adherence/ Availability ยาท้งั 3 กลุ่มสะดวกในการรบั ประทานเพราะสามารถให้วนั ละครง้ั ได้ C: Cost มีการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์พบว่ายากลมุ่ ACEI/ ARBs มีความคุ้มคา่ กวา่ 29
เทคนิคในการหาปญั หาการใช้ยาจากรายการยาในใบส่ังยา ขอ้ มูลดงั กล่าวเหลา่ นี้ จะมสี า่ นชว่ ยในการคน้ หาปญั หาการใชย้ าได้ Chief complain (CC) หรือ อาการ (Symptoms) จะช่วยในเรื่องการตดิ ตามประสทิ ธิภาพและความปลอดภัยใน การใช้ยา (Therapeutic/safety monitoring) Past medical history (PMH) ทำใหท้ ราบวา่ ผูป้ ่วยมีโรคเรอื้ รงั เปน็ โรคเรอ้ื รงั อะไรบา้ ง Drug allergy history จะชว่ ยป้องกันการเกิดอาการข้างเคียงจากการใช้ยา หรือกรณีท่ีอาจเกิดการจา่ ยยาที่ผ้ปู ่วยแพ้ Medication history จะชว่ ยเรอื่ งการป้องกนั Drug Interaction Failure to receive medication ข้อมลู การลืมรบั ประทานยาจะช่วยประเมินการใชย้ าตามสั่ง (Compliance) ขอ้ มลู การเกิดอาการไมพ่ งึ ประสงค์ จะช่วยติดตามเรอ่ื งความปลอดภัยของการใชย้ า Adverse drug reactions Safety monitoring * ADR = S/E + Drug Allergy สรปุ เนอื้ หา จากเนื้อหาทัง้ หมดท่ไี ด้กล่าวมามีประเดน็ หลกั ๆ สรปุ ไดด้ ังนี้ ❑ กระบวนการจ่ายยาเปน็ กระบวนการหนึง่ ที่สำคญั ทีจ่ ะทำให้ผู้ป่วยได้รับยาทีเ่ หมาะสม และนแต่ละ ขั้นตอนการ่ายยาก็จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายส่วน เช่น แพทย์ เภสัชกร พยาบาล รวมทั้งผู้ป่วย ซึ่งะ ต้องมีการประสานหรือการสื่อสารระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เภสัชกรต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดี โดยเฉพาะเมอื่ ตอ้ งใหข้ ้อมูลแกผ่ ูป้ ว่ ยหรือบุคลากรการแพทย์ ❑ การะบวนการจ่ายยาจะต้องอยู่ภายใต้แนวปฏิบัติที่ดีในการจ่ายยาซึ่งประกอบด้วยหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มสั่งใช้ยาจนถึงการส่งมอบยาให้แก่ผู้ป่วย เพื่อป้องความผิดพลาดในการจ่ายยาหรือ เหตุการไมพ่ งึ ประสงคจ์ ากยา ❑ เภสัชกรเป็นบุคคลกรที่สำคัญในกระบวนการจ่ายยา และมีส่วนผลักดีหรือส่งเสริมการใช้ยาที่ เหมาะสม ลดความผดิ พลาดหรอื ลดเหตุการณ์ไมพ่ ึงประสงค์จากการใชย้ าได้ 30
เน้อื หาปฏบิ ัตกิ าร Lab Dispensing Pharmacy: “Introduction to Dispensing Pharmacy” Instruction: For Assignment of the following situation Identify the problems involving dispensing process (Example, Which step of dispensing process cause problems?) Design the model for solving the problems Presentation the idea and discussion in class 31
Scenarios 1. ผปู้ ่วยไดร้ บั ยา กล่มุ Ergotamine แลว้ เกิดอาการไม่พึงประสงค์ 2. จากขา่ ว ผปู้ ่วยเบาหวาน ประสบปัญหาน้าทว่ ม ไมส่ ามารถเดนิ ทางมารบั ยาได 32
3. ผปู้ ่ วย COVID 19 ไดร้ บั ยา favipiravir ตามฉลากดงั นี้ วนั ท่ี 1 รบั ประทาย 9 เม็ด เชา้ และเยน็ วนั ท่ี 2 รบั ประทาย 9 เม็ด เชา้ และเยน็ วนั ท่ี 3 รบั ประทาย 4 เม็ด เชา้ และเย็น วนั ท่ี 4 รบั ประทาย 4 เม็ด เชา้ และเย็น วนั ท่ี 5 รบั ประทาย 4 เมด็ เชา้ และเย็น ผปู้ ่วยรบั ประทานยาในวนั ท่ี 2 ตอนเชา้ ไปแลว้ 9 เมด็ เอกสารอ้างองิ Catherine Stones. (2011). Graphic design in healthcare. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2018 จาก School of design: https://healthgraphics.wordpress.com/2011/06/13/medicine-pictograms/ Hfocus. (2015). ฉลากยาเพื่อคนตาบอด ผลงาน นศ.พระจอมเกล้าธนบุรี. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2018 จาก Hfocus: https://www.hfocus.org/content/2015/07/10511 Javis Von Onia. (3 October 2015). Good dispensing practice. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2018 จาก https://www.slideshare.net/JavisVonOnias/good-dispensing-practice Lester Dean. ( 2 0 1 6 ) . Slideplayer. เ ร ี ย ก ใ ช ้ เ ม ื ่ อ 2 2 October 2 0 1 8 จ า ก https://slideplayer.com/slide/10766768/: https://slideplayer.com/slide/10766768/ Sukonrat Sriaungoon Suradet Sriaungoon. (2015). 10 R กับการใช้ยาอย่างปลอดภัย. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2018 จาก Slideshare: https://www.slideshare.net/SuradetSri/10-r-53263929 Tape solution Inc. (2018). 9\"x12\" 4 Mil Chemotherapy Drug Transport Bags. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2018 จาก http://www.tapesolutionsinc.com/chemo-drug-9x12.html Terry C. Davis, Patrick F. Bass Michael S. Wolf. (2010). Improving Prescription Drug Warnings. Arch Intern Med., 170(1), 50-6. 33
UNCEshelman School of Pharmacy. (2018). Axilary label. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2018 จาก The Pharmaceutics and Compounding Laboratory: https://pharmlabs.unc.edu/labs/prescriptions/auxiliary.htm United Ad Label. (2018). Chemotherapy Communication Label. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2018 จาก https://www.unitedadlabel.com/chemotherapy-communication-label-3-x-1-5-8 Wolrd Health Organization. (2012). Ensuring Good Dispensing practices. Retrieved Octobr 22, 2018, from http: / / apps. who. int/ medicinedocs/ documents/ s19607en/ s19607en. pdf: http://apps.who.int/medicinedocs/documents/s19607en/s19607en.pdf Worldmedic. ( 2 0 1 5 ) . ร ้ า น ย า ค ุ ณ ภ า พ . เ ร ี ย ก ใ ช ้ เ ม ื ่ อ 2 2 October 2 0 1 8 จ า ก Worldmedic: http://www.software.worldmedic.com/smartdrugstore/new_features/premium.html Wu Tuck Seng. (2018). Docplayer. เรยี กใช้เมอ่ื 22 October 2018 จาก Enhancing Patient Safety Through Integrated Supply Chain Management: https://docplayer.net/11581851-Enhancing-patient- safety-through-integrated-supply-chain-management.html สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล ประเทศไทย. (2561). มาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมโรงพยาบาล. เรียกใช้เมื่อ 22 October 2 5 6 1 จ า ก ส ม า ค ม เ ภ ส ั ช ก ร ร ม โ ร ง พ ย า บ า ล ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย : file:///C:/Users/user/Downloads/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0% B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0 %B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E 0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8% อลั จนา เฟอื่ งจันทร์ สทุ ธาทพิ ย์ ออประยรู . (2560). การพฒั นาฉลากยาสาหรับผพู้ ิการทางสายตา. Thai Journal of Pharmacy practice, 236-250. สภาเภสัชกรรม. 2563 “การกำหนดมาตรฐานและขึ้นตอนการให้บริการเภสัชกรรมทางไกล (TelePharmacy)” Access December 4 , 2563. https://www.pharmacycouncil.org/index.php?option =content_detail&view=detail&itemid=1817&catid=1 34
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: