Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารคำสอนรายวิชา 550151 บทนำสู่วิชาชีพเภสัชกรรม (64)

เอกสารคำสอนรายวิชา 550151 บทนำสู่วิชาชีพเภสัชกรรม (64)

Published by Karunrat Tewthanom, 2021-07-27 15:39:40

Description: เอกสารคำสอนรายวิชา 550151 บทนำสู่วิชาชีพเภสัชกรรม (64)

Search

Read the Text Version

เอกสารคำสอนรายวิชา 550151 บทนำสวู่ ชิ าชีพเภสชั กรรม (Introduction to Pharmacy profession) บทบาทของเภสัชกรในงานบริบาลทางเภสัชกรรม โดย ภญ. ผศ. ดร. กรณั ฑ์รัตน์ ทิวถนอม ประจำปกี ารศึกษา 2564 1

คำนำ เอกสารคำสอนเล่มน้ี ใช้ประกอบการเรยี นการสอนวชิ า บทนำสู่วิชาชพี เภสชั กรรม เนอื้ หาโดยทวั่ ไปจะ เป็นหวั ขอ้ บทบาทของเภสชั กรในงานบรบิ าลทางเภสชั กรรม กล่าวถงึ ความหมายของการบริบาลทางเภสัชกรรม ทักษะที่จำเป็นต่องานบริบาลทางเภสชั กรรม ระดบั ของการบริบาลเภสัชกรรม บทบาทของเภสัชกรในงานบริบาล ทางเภสัชกรรมระดบั ต่าง ๆ และ ตวั อย่างของงานบริบาลทางเภสัชกรรม ผู้เขยี นหวงั เป็นอยา่ งยิ่งว่า เอกสารคำสอนฉบับนจี้ ะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนท่จี ะมาเรยี นในสาขาวชิ าชีพ เภสชั กรรม หากผู้อา่ นมีขอ้ เสนอแนะใด ๆ เพื่อปรับปรุงหรือเพิ่มเติม ผู้เขยี นยินดรี ับขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรบั ปรุงการ เขียนในครง้ั ตอ่ ไป ภญ. ผศ. ดร. กรณั ฑ์รตั น์ ทวิ ถนอม ผู้นิพนธ์ 2

สารบัญ หนา้ หวั ขอ้ 1 แผนการสอนรายหวั ข้อ 7 นยิ ามของการบรบิ าลทางเภสชั กรรม 7 แนวคดิ ของงานบริบาลทางเภสชั กรรม 8 บทบาทของเภสชั กรในงานบริบาลทางเภสัชกรรม 12 ระดบั ของงานบรบิ าลทางเภสัชกรรมและตวั อยา่ ง 15 เภสัชกรรมทางไกลและเภสัชศาสตรแ์ มน่ ยำ 19 ตวั อยา่ งงานบรบิ าลทางเภสัชกรรม 19 เอกสารอา้ งองิ 3

หัวข้อและวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ แผนการสอน รายวิชา 550151 หวั ข้อหลกั บทบาทของเภสชั กรในงาน จานวนชวั่ โมง 50 นาที ความมุ่งหมายทวั่ ไปของหวั ข้อนี้ วตั ถุประสงค์ เมอื่ ศกึ ษาเพ่ือให้ทราบนิยามของงานบริบาลทางเภสชั กร 1. อธบิ ายแนวคดิ และระดบั ของการบรบิ าลทางเภสชั กรรม 2. อธบิ ายและยกตวั อย่างงานบรบิ าลทางเภสชั กรรม 3. อธบิ ายและยกตวั อย่างบทบาทของเภสชั กรในงานบรบิ าลทางเภสชั กรรม หวั ข้อย่อย เวลา 1. บทนำ: กล่าวถึงนิยามของงานบริบาลทาง 5 นาที บรรยา เภสชั กรรม ในระห 2. แนวคิดของงานบริบาลทางเภสัชกรรม 10 นาที บรรยา ในระห 3. บทบาทของเภสัชกรในงานบริบาลทาง 10 นาที บรรยา เภสชั กรรม ในระห 4. ระดับของงานบริบาลทางเภสัชกรรมและ 15 นาที บรรยา ตัวอยา่ งงานบรบิ าลทางเภสัชกรรม ในระห 4

นบริบาลทางเภสชั กรรม รรม ม กจิ กรรมการเรียนการสอน าย มีเอกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลดป์ ระกอบ มกี ารตั้งคำถามและตอบคำถาม หว่างการบรรยาย าย มีเอกสารประกอบการบรรยายพรอ้ มสไลด์ประกอบ มีการต้งั คำถามและตอบคำถาม หวา่ งการบรรยาย าย มเี อกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลดป์ ระกอบ มีการตง้ั คำถามและตอบคำถาม หวา่ งการบรรยาย าย มีเอกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลดป์ ระกอบ มีการตั้งคำถามและตอบคำถาม หวา่ งการบรรยาย 4

หวั ข้อย่อย เ 5 5. สรุปเนอ้ื หา 5 6. ตอบคำถามและมอบหมายแบบฝึกหัด มาตรฐานการเรยี นรูข้ องรายวิชา 2. ความรู้ 3. ท มาตรฐานผลการเรยี นรรู้ ายวิชา 1. คณุ ธรรม จริยธรรม 550151 12312345 1 บทนำสูว่ ิชาชพี เภสัชกรรม  ● 5

เวลา กิจกรรมการเรยี นการสอน 5 นาที บรรยาย มเี อกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลด์ประกอบ มกี ารตั้ง คำถามและตอบคำถามในระหว่างการบรรยาย 5 นาที บรรยาย มเี อกสารประกอบการบรรยายพร้อมสไลดป์ ระกอบ มกี ารตั้ง คำถามและตอบคำถามในระหวา่ งการบรรยาย ทักษะทางปญั ญา 4. ทกั ษะ 5. ทักษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ความสัมพันธ์ ตวั เลข การสือ่ สาร และการ ระหวา่ งบคุ คลและ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ความรับผดิ ชอบ 2 345 1 2 3 1 2 3 4 ●● 5

ตำราและเอกสารทใ่ี ชใ้ นการเรียนการสอนหัวข้อน้ี 1. เฉลิมศรี ภมุ มางกูร, กฤติกา ตัญญะแสนสขุ . โอสถกรรมศาสตร์. พมิ พ์ครัง้ ที่ 2 นวิ ไทยมิตรการพิมพ์ (2547). 290 หนา้ 2. สมาคมเภสชั กรรมโรงพยาบาล (แหง่ ประเทศไทย). เกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม 2554. (12 มิถุนายน 2554) สืบค้นจาก http://www.thaihp.org. 3. สมาคมเภสชั กรรมโรงพยาบาล (แหง่ ประเทศไทย). เกณฑ์มาตรฐานผูป้ ระกอบวชิ าชพี เภสชั กรรมโรงพยาบาล 2556. (12 มิถนุ ายน 2556) สืบค้นจาก http://www.thaihp.org. 4. สภาเภสชั กรรมประกาศสภาเภสัชกรรมท่ี 56/2563 เรื่อง การกำหนดมาตรฐานและข้ันตอนการใหบ้ ริการ เภสชั กรรมทางไกล (Telepharmacy) (21 กค 64) สบื ค้นจาก https://www.pharmacycouncil.org/index.php?option=content_detail&menuid=68&itemid=18 46&catid=0 5. คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร ร่างแผนพัฒนาคณะเภสัชศาสตร์ ปี 2566-2569 6. Blackburn DF et al. Proposing a redefinition of Pharmaceutical care. The annual of Pharmacotherapy; 2012(46):447-9. 6

นยิ ามของการบรบิ าลทางเภสัชกรรม คำว่าการบริบาลทางเภสัชกรรมรวมถึงปรัชญาของการบริบาลทางเภสัชกรรมได้เริ่มในต่างประเทศนาน มาแลว้ (ประมาณปี คศ 1960) แตใ่ นประเทศไทยเริ่มเป็นรูปเป็นร่างข้ึนเมื่อประมาณปี คศ 2000 ซึ่งนับว่ายังใหม่ มากหากนับระยะเวลาของการพฒั นาวชิ าชีพทางเภสัชกรรมที่นานกว่าหนึง่ ศตวรรษ นิยามของการบริบาลทางเภสัชกรรมหมายถึง “ ความรับผิดชอบของเภสัชกรโดยตรงที่มีต่อการใชย้ าของ ผ้ปู ว่ ย เพือ่ ใหไ้ ด้ผลการรักษาตามต้องการและเพิม่ คณุ ภาพชวี ติ ของผู้ปว่ ย” แนวคดิ ของการบริบาลทางเภสัชกรรมและมาตรฐานของเภสชั กรรมโรงพยาบาล จากนิยามข้างต้น นับเป็นจุดเปล่ียนของวิชาชีพเภสัชกรรมที่เน้นทางผลิตภัณฑ์มาเน้นทางการดูแลผู้ป่วย ซึ่งแนวคิดดังกล่าวมีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบตะวันตกและเป็นเหตุผลที่ทำให้เภสัชกรที่ให้การบริบาลทาง เภสัชกรรมควรมที ักษะ 3 อยา่ งคือ 1. การค้นหาปัญหาการใช้ยาจากยาที่ผู้ป่วยได้รับเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาการใช้ยาของผู้ป่วยได้ตรง ประเด็น ซึ่งบางครง้ั ผูป้ ่วย ๑ รายมปี ญั หาการใช้ยามากกว่า ๑ ปญั หาและมีความซับซ้อนเกี่ยวพันกัน ในระหว่างปัญหาตา่ งๆ 2. การแก้ไชปัญหาจากการใช้ยา มีหลายกลยุทธ์ในการแก้ไชปัญหาจากการใช้ยาซึ่งต้องอาศัยองค์ ความรู้ต่างๆทางเภสชั ศาสตร์หรอื อาจจะเป็นศาสตรอ์ ื่นๆขึ้นกับปัญหาการใช้ยาและปัจจยั ท่ีเก่ียวข้อง ของผู้ป่วยแต่ละราย 3. การปอ้ งกันปัญหาท่เี กิดจากการใช้ยา หลายปญั หาที่เกิดจากการใช้ยาเปน็ ส่ิงท่ีป้องกันได้ เป็นหน้าท่ี ของเภสัชกรที่จะต้องหาแนวทางป้องกันการเกิดปัญหาการใช้ยา เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็น สำคญั ซึ่งการที่จะมีความเชี่ยวชาญในทักษะดงั กล่าวควรจะต้องได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์ในการดู และผ้ปู ว่ ย ย่ิงฝึกฝนมาก กจ็ ะมีประสบการณ์มาก ยิง่ มคี วามเชยี่ วชาญในทกั ษะ 7

บทบาทของเภสชั กรในงานบริบาลทางเภสัชกรรม จากเกณฑ์มาตรฐานของสภาเภสัชกรรม กำหนดดงั นี้ 1. มีคณุ สมบตั ติ ามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวิชาชพี เภสชั กรรมเกย่ี วกับคุณสมบตั ิของสมาชกิ 2. มีคณุ ธรรม จรรยาบรรณ และเจตคติทเ่ี หมาะสมตอ่ การประกอบวิชาชพี เภสชั กรรม 2.1 ตระหนกั ถงึ การปฏิบตั ิวิชาชพี ในระดบั ท่ดี ที ี่สุด โดยคำนึงถึงผรู้ ับบรกิ ารเป็นสำคัญ 2.2 ปฏบิ ัตติ ามข้อบังคบั สภาเภสชั กรรมว่าด้วยจรรยาบรรณ แห่งวิชาชพี เภสชั กรรม 2.3 มเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ การใหบ้ ริการทางเภสชั กรรมแกป่ ระชาชนทุกระดบั อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 2.4 มีเจตคติที่จะแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าทาง วิชาการ 3. การประกอบวิชาชีพเป็นไปอย่างเหมาะสมผู้ประกอบวิชาชีพทางเภสัชกรรมควรมีความรู้ความ เข้าใจและทกั ษะตา่ งๆเพิ่มเติมดังน้ี 3.1 รหู้ ลักการบริหารงานทว่ั ไปและการบรหิ ารงานด้านเภสชั กรรมและสาธารณสุขของประเทศ 3.2 สามารถนำความรู้ทางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ที่จำเป็นมา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการประกอบวิชาชีพ 3.3 มที กั ษะการตดิ ตอ่ สอื่ สารที่ดี 3.4 มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ประชาชนทั่วไป ผู้ร่วมงานและบุคคลากร สาธารณสขุ อนื่ ๆ 3.5 วิเคราะห์ข้อมูลเหตุการณ์และแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบตามวิธีทาง วทิ ยาศาสตร์ 3.6 รู้กฎหมายทั่วไปและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม เช่น พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พระราชบัญญัติ ประกันสงั คม เปน็ ต้น 3.7 มีความสามารถในการทำงานเป็นทมี 3.8 มคี วามใฝร่ ู้ และมีทกั ษะในการเรยี นรดู้ ้วยตนเองอย่างต่อเน่อื ง 3.9 รู้หลักการคุ้มครองผบู้ ริโภคด้านยาและสขุ ภาพ 8

4. มีความสามารถถา่ ยทอดความรู้และใหค้ ำปรึกษา 4.1 สามารถใหค้ วามรูแ้ ละคำปรกึ ษา แนะนำ ผูป้ ว่ ย ญาติ และประชาชนท่วั ไป 4.2 สามารถถา่ ยทอดความรใู้ ห้แก่ เภสัชกรอน่ื นสิ ิต/นักศกึ ษา และผ้รู ่วมงานทกุ ระดับ 4.3 สามารถถ่ายทอดความรใู้ หแ้ กบ่ คุ คลากรทางการแพทย์และสาธารณสขุ ทุกระดบั 5. มีสมรรถนะทางวิชาชีพ สามารถปฏิบัติงานบริบาลทางเภสัชกรรมในระบบยาและระบบสาธารณสุขในการสร้างเสริม สุขภาพ การป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟูสภาพแก่ผู้ป่วยที่มารับบริการ ทั้งในระดับบุคคล ครอบครวั และชุมชน 5.1 สามารถบูรณาการความรู้ในกระบวนการสังเคราะห์ ผลิต และประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา ในการรับบรกิ ารงานบรบิ าลทางเภสชั กรรม 5.2 สามารถคัดเลือกจัดซื้อ จัดหายา/ผลิตภัณฑ์ยาที่มีคุณภาพสอดคล้องกับปัญหาสุขภาพของ ผรู้ ับบริการโดยประเมินจากปญั หาสุขภาพและความต้องการยาของชุมชน 5.3 สามารถเตรียมผลิตภัณฑ์ยาในรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการในผู้รับบริการแต่ละ ราย 5.4 สามารถดำเนินการหรือสนับสนุนกจิ กรรมเพอ่ื สรา้ งเสริมสขุ ภาพบุคคลและชุมชน 5.5 รู้กฎหมายในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ตลอดจนกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆของสภา เภสัชกรรม 5.6 สามารถปฏิบัติงานบริบาลทางเภสัชกรรมทั้งในระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชน ในฐานะ ทีมสหสาขาวชิ าชพี ดังตอ่ ไปน้ี 5.6.1 สามารถคัดกรอง ประเมินสุขภาพเบื้องต้นเพื่อให้คำแนนำในการปฏิบัติตัวทั้งที่ ต้องใช้ยาหรือไม่ตอ้ งใชย้ าแก่ผู้รับบรกิ ารอยา่ งเหมาะสม รวมทั้งการจัดการโรคและยา การส่งต่อ ในกรณที ีจ่ ำเปน็ 5.6.2 สามารถประเมินสภาวะผู้ป่วย กำหนดแผนการรักษาหรือประเมินเผนการรักษา ค้นหา ป้องกัน แก้ไขปัญหา ติดตามการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ประเมินความร่วมมือ พฤติกรรมสุขภาพ ปัจจัยที่มีอิทธิพล รวมถึงเสนอแผนการใช้ยาให้เหมาะสม เพื่อให้เกิด ผลสัมฤทธิ์ ของการรักษาท่ีเป็นไปตามหลกั การของเภสัชบำบัด 9

5.6.3 สามารถรวบรวม วิเคราะห์ ประมวลข้อมูล ประเมินการใช้ยา (Drug Use Evaluation) และเสนอแนวทางการใช้ยาที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยในองค์กร ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ สมเหตสุ มผล และปลอดภัย 5.7 สามารจัดการระบบยาและการจัดการความเสี่ยงด้านยาเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยกับ ทีมสหสาขาวิชาชีพ 5.8 สามารถวางระบบการประกันสุขภาพในองค์กรเพื่อให้การจัดการระบบยาเกิดผลที่มี ประสิทธิภาพและปลอดภยั ต่อผปู้ ่วย 5.9 สามารถค้นคว้าข้อมูลใช้เทคโนโลยีการสืบค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่มีหลักฐานทาง วิชาการที่น่าเชื่อถือ และให้ข้อมูลยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ แก่ผู้ป่วย ผู้รับบริการ ชุมชนและ บุคคลากรทางสาธารณสุขอยา่ งถูกตอ้ งและเชือ่ ถือได้ มีผู้เสนอบทบาทสำคัญ 5 ประการทเี่ ก่ยี วข้องกับงานบริบาลทางเภสัชกรรมดังน้ี 1. บทบาทเกี่ยวกบั ยา 2. การบรบิ าล 3. ผลการรักษา 4. คณุ ภาพชีวิต 5. ความรบั ผดิ ชอบ ซ่ึงในบทบาทเกีย่ วกบั ยาจะมงี านที่เกยี่ วขอ้ งเพ่ือปอ้ งกันปญั หาทเ่ี กิดจากการใช้ยาดงั นี้ 1. การให้คำแนะนำในการใช้ยา 2. การติดตามอาการไมพ่ งึ ประสงค์ของยา 3. การประเมนิ การใชย้ า 4. การให้บริการขอ้ มูลทางยา 5. การตรวจวัดระดับยาในเลอื ด 6. การบริบาลผู้ใช้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ 10

สามารถสรุปภาพของงานการบริบาลทางเภสัชกรรมภายในโรงพยาบาลหรือระบบ สาธารณสุขเปน็ แผนภาพดงั น้ี การจ่ายยา การส่งมอบยา การตดิ ตามผลของยา กิจกรรมการบริบาลทางเภสชั กรรม ปัญหาทีเ่ กิดจากการใชย้ า Counseling Drug Related Problems Adverse Drug reaction Monitoring (ADRM) Untreated indication Drug Use Evaluation (DUE) Improper drug selection Drug Information Service (DIS) Under dosage Therapeutic Drug Monitoring Over dosage (TDM) ADR Non – compliance Invalid indication การแกไ้ ข การปอ้ งกนั ยาท่ีมีประสทิ ธิภาพดที ส่ี ดุ มีอาการไมพ่ งึ ประสงคน์ อ้ ยท่ีสดุ ไดผ้ ลการรกั ษาท่ถี กู ตอ้ งตามตอ้ งการ ผปู้ ่วยมีคณุ ภาพชีวติ ทด่ี ี ท่มี า: โอสถกรรมศาสตร์ 2548 11

หน้าท่ีของเภสัชกรดา้ นการบริบาลทางเภสัชกรรม 1. จัดทำแฟ้มประวตั ผิ ู้ป่วยเน้นด้านการใช้ยา 2. สบื คน้ ปญั หาจากการใชย้ าของผู้ป่วยแต่ละราย 3. การจดั ระบบส่งมอบยาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4. ตดิ ตามการใช้ยาของผูป้ ่วย เพื่อใหผ้ ูป้ ่วยไดย้ าทม่ี ปี ระสิทธภิ าพ 5. คดั กรองผ้ปู ่วยทีม่ ีปญั หาการใชย้ า 6. ติดตามอาการไม่พงึ ประสงค์ 7. หายาอืน่ ท่เี หมาะสมทดแทน 8. สามารถตอบคำถามหรอื ใหข้ ้อมลู การใชย้ า 9. ใหค้ ำแนะนำด้านสขุ ภาพ 10. สัมภาษณ์ประวตั ิ 11. ชว่ ยแพทยใ์ นการเลือกชนิดยา 12. สามารถจดั ทำโปรแกรมประเมนิ การใช้ยา 13. สามารถนำหลกั การทางเภสชั กรรมมาประยกุ ต์ใช้ในการคัดเลอื กยาสำหรับรักษาผ้ปู ว่ ย ระดบั ของการบริบาลทางเภสัชกรรม การบรบิ าลทางเภสชั กรรมแบ่งเปน็ 3 ระดับ คือ ระดับต้น ระดับกลาง และระดบั สูง ระดับต้น: ผูป้ ว่ ยมกั จะไมต่ ้องนอนโรงพยาบาล สามารถรบั ยาและกลับมารกั ษาตวั เองทบ่ี า้ นได้ ดงั นน้ั บทบาทของเภสชั กรในการให้การบริบาลทางเภสัชกรรมระดบั นีค้ ือ 1. ติดตามการใช้ยาและผลของยาไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. จา่ ยยาพร้อมมีฉลากและฉลากช่วยแนะนำ 3. ให้คำแนะนำการใชย้ ากรณีที่ผูป้ ่วยซ้อื ยาใชเ้ อง 4. ใหค้ ำแนะนำวิธกี ารเกบ็ รักษายาทเี่ หมาะสม 5. ช่วยแพทย์ในการเลือกชนิดของยา 12

ระดบั กลาง: มีความซับซ้อนกวา่ ระดบั ตน้ บ้าง เน่ืองจากการใชย้ าซับซ้อนและยงุ่ ยากมากข้ึนกว่าระดบั ตน้ บทบาทของเภสัชกรในการบริบาลทางเภสัชกรรมในระดับน้ีคอื 1. เลือกใชย้ าในการรกั ษา โดยจำเปน็ ต้องทำหลกั เกณฑ์ในการเลือกใช้ไวใ้ นหนว่ ยงาน 2. จดั การหารูปแบบของยาหรือการใช้ยาอยา่ งเหมาะสม 3. ให้บรกิ ารทางเภสัชจลนศาสตร์ รวมท้ังสามารถประเมินการใชย้ าโดยอาศัยหลกั การทางเภสัช จลนศาสตร์ได้ 4. มสี ่วนรว่ มในการทำ Cardio pulmonary resuscitation (CPR) 5. ตอบปัญหาการใช้ยา 6. ชว่ ยแพทย์ โดยการแนะนำยาและขนาดที่เหมาะสม ระดับสูง: มีความซับซ้อน และจำเป็นต้องอาศัยความชำนาญเปน็ พิเศษในการดูแลผู้ป่วย เนื่องจากการใช้ ยาซับซ้อนและยุ่งยากมากขึ้นกว่าระดับต้นและระดับกลาง ผู้ป่วยระดับนี้มักเป็นผู้ป่วยขั้นวิกฤต บทบาท ของเภสัชกรในการใหก้ ารบรบิ าลทางเภสัชกรรมในระดบั น้จี ะเหมอื นกับระดบั กลางแตต่ ้องมีความรู้ลึกและ แม่นยำมากขึ้น มีความพร้อมที่จะสามารถตัดสินใจร่วมกับแพทย์ในการเลือกยาหรือเปลี่ยนวิธีการให้ยา เชน่  เปลยี่ นมาใชย้ าลดความดันโลหติ ให้เหมาะสมกับสภาวะไตของผ้ปู ่วย  เปลี่ยนยาปฏิชวี นะรูปแบบฉีดมาเป็นรปุ แบบรับประทาน  ปรับขนาดยาให้เหมาะสมตามระดับยาในกระแสเลือดทใ่ี ห้ผลการรักษา ปัจจุบันประเทศไทยมีหลักสูตรที่จะสนับสนุนให้เภสัชกรมีความรู้ความชำนาญด้านการ บริบาลทางเภสัชกรรมเฉพาะด้าน หรือที่เรียกว่า เภสัชกรประจำบ้าน (Residency) ซึ่งเป็นหลักสูตรในความ รับผิดชอบของวิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย (The College of Pharmacotherapy of Thailand) โดย มีสถาบันสมทบในการจัดการเรียนการสอน เช่น จุ ฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ที่จบหลักสูตรดังกล่าวก็จะมีความ ชำนาญในการให้การบริบาลทางเภสัชกรรมในระดับที่สูงขึ้น และมีโอกาสที่จะสามารถไปเรียนรู้ระบบการทำงาน บริบาลทางเภสัชกรรมในต่างประเทศได้ เนื่องจากหลักสูตรดังกล่าวมีความร่วมมือกันระหว่างประเทศไทยและ สหรัฐอเมรกิ า 13

ปัจจัยในการพิจารณาความต้องการการบรบิ าลทางเภสัชกรรม มีปจั จัยทค่ี วรพจิ ารณาความตอ้ งการการบรบิ าลทางเภสัชกรรมดังตาราง ปัจจัย ระดับของการบรบิ าลทางเภสชั กรรม สภาวะโรค การใหย้ ารกั ษา ระดับต้น ระดบั กลาง ระดบั สงู ภาระของเภสัชกร ความร่วมมอื ไม่เฉียบพลัน เรอ้ื รงั ต ้ อ งเข ้ า ร ั บ ก า ร ร ั ก ษ า ใ น ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หน้าทร่ี บั ผิดชอบของเภสชั กร เป็นคร้ังคราว โรงพยาบาล และดแู ลใกล้ชิด เกี่ยวกบั หลายระบบ แหล่งปฏิบตั ิ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สังเกตผลการ มักต้องใช้ยาฉีดหรืออาจไม่ใช้ ใช้ยาหลายขนาน มักเป็นยาฉีด ใช้ยา ตอบสนองต่อการรักษาของผู้ป่วยได้ แต่ต้องติดตามผลการรักษาด้วย ท่มี ี Therapeutic index ต่ำ งา่ ย คา่ ทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ไม่มา ก นัก ใช้ค่า ผลต รว จ ท า ง ต้องติดตามผลเสมอ ทง้ั ผลตรวจ ต้องติดตามการรักษาและค่าผลการ ห้องปฏิบัติการและความรู้ทางเภสัช ทางห้องปฏิบัติการและเภสัช ตรวจทางห้องปฏบิ ัตการอยา่ งใกลข้ ิด จลนศาสตรบ์ า้ ง จลนศาสตร์ ต้องอาศัยความร่วมมือของแพทย์และ แพทย์-พยาบาล-เภสัชกร แพทย์-พยาบาล-เภสัชกร เภสชั กรบางคร้ัง สม่ำเสมอ อย่างใกลช้ ิด  ติดตามดูแลความร่วมมือของ  บริการจัดการใช้ยาให้  เหมือนระดับกลางแต่ต้องดูแล ผปู้ ว่ ยในการใช้ยา ถูกต้องตามมาตรฐานของ ใกล้ชิดและบ่อยคร้ังมากกว่า  จ่ายยามีฉลากถุกต้อง พร้อม โรงพยาบาล คำแนะนำ และฉลากชว่ ยอน่ื ๆ  ส่งมอบยา  แนะนำเกบ็ ยาทถี่ กู ต้อง  ให้บริการเรื่องการติดตาม  ช่วยแพทย์เลือกยาและรูปแบบ ผลโดยใช้เภสัชจลนศาสตร์ ของยา  อยใู่ นทีม CPR  ช่วยแพทย์เลือกยาและการ รกั ษาอ่ืนๆรว่ มดว้ ย  ผูป้ ว่ ยนอกในโรงพยาบาล  โรงพยาบาล (ผปู้ ่วยใน)  สถาบันที่ให้การบริการการ  ร้านขายยา  โรงพยาบาลทั่วไปขนาด เจบ็ ป่วยวิกฤต ความเจบ็ ปว่ ย  โรงพยาบาลชุมชน เล็ก เฉพาะโรค  โรงพยาบาลส่งเสรืมสุขภาพ  โรงพยาบาลศูนย์ ตำบล (รพสต)  โรงพยาบาลท่ัวไปขนาดใหญ่ ทมี่ า: ดัดแปลงจาก โอสถกรรมศาสตร์ 2548 14

เภสชั กรรมทางไกลและเภสัชศาสตร์แมน่ ยำ เภสัชกรรมทางไกล (Tele-pharmacy) ไดอ้ ยู่ในความสนใจของประเทศไทยในขณะนี้ ทางสภาเภสชั กรรมได้ ให้นิยามและมาตรฐานเภสชั กรรมทางไกลดงั น้ี สภาเภสัชกรรมมีประกาศสภาเภสัชกรรมที่ 56/2563 เรื่อง การกำหนดมาตรฐานและขั้นตอนการ ใหบ้ รกิ ารเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) ลงวนั ท่ี 2 มิถนุ ายน พ.ศ. 2563 ซึ่งให้ความหมาย “การให้บริการ เภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy)” คือ การบริบาลทางเภสัชกรรม (Pharmaceutical care) และการ ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องแก่ผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ โดยผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สามารถสื่อสารกับผู้ป่วยหรือ ผ้รู บั บรกิ ารได้ด้วยเทคโนโลยีการส่ือสาร (Telecommunication) รวมทั้งการสง่ มอบยา 1. ผ้ใู ห้บริการต้องเป็นผู้ประกอบวชิ าชพี เภสัชกรรม 2. จดั ให้มรี ะบบการขึ้นทะเบยี นผูป้ ่วยและการบนั ทึกประวตั ิผู้ปว่ ยและการใหบ้ ริการ 3. จดั ใหม้ รี ะบบการบันทึกข้อมลู เสียงหรือวิดิโอในขณะท่ใี ห้บริการและติดตามผลการใช้ยาของผู้ป่วย ที่ สามารถรักษาความลบั ข้อมลู ของผู้ป่วย โดยผู้ประกอบวชิ าชพี เภสัชกรรมไดร้ ับความยินยอมจากผู้ปว่ ยในการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลของผปู้ ่วยได้ 4. จดั ให้มีระบบการบริบาลทางเภสชั กรรม ดงั ต่อไปน้ี 4.1 การสัมภาษณ์ผปู้ ว่ ยหรอื ญาติของผูป้ ่วย เพ่ือรวบรวมขอ้ มูลทจ่ี ำเป็นในการให้การบรบิ าลทางเภสชั กรรม ไดแ้ ก่ ประวตั ิความเจบ็ ปว่ ยและโรคประจำตวั ของผูป้ ่วย ประวัติการใชย้ า ประวตั กิ ารแพย้ า อาการไม่พงึ ประสงค์จากยา ประวัตกิ ารใช้ผลิตภณั ฑ์เสริมอาหาร วติ ามินและสมุนไพร และประวตั กิ ารใชย้ าตามสง่ั 4.2 การวิเคราะหใ์ บส่ังยา (prescription analysis) และค้นปญั หาท่ีเกยี่ วกบั ยา (drug-related problems) ทัง้ นี้ ใหค้ รอบคลุมกิจกรรมท่ีเกย่ี วข้อง ดงั ต่อไปน้ี (1) การประเมนิ ความเหมาะสมของการใช้ยาต่อผปู้ ่วยแตล่ ะราย ทั้งชนดิ ของยา รปู แบบของยา ความแรง ความเข้มขน้ ของยา ขนาดยา ความถ่ีของการใชย้ า ระยะเวลาในการใช้ยา ความพอเพยี งของยาที่สงั่ จ่าย ในแต่ละคร้ัง เง่อื นไขเฉพาะในการใช้ยา วิธีการใช้ยา เทคนิคพเิ ศษ 15

(2) การประเมินความเส่ียงต่อการเกดิ อนั ตรกิรยิ าระหวา่ งยากบั ยา ยากับอาหาร ยากบั ผลิตภณั ฑ์ เสรมิ อาหาร และยากับสมุนไพร (3) การประเมนิ ความเสี่ยงต่อการเกดิ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (4) การประเมินความเหมาะสมของยา ตามปัจจัยตา่ ง ๆ เชน่ – หลักพนั ธุศาสตร์ – กลุ่มผปู้ ว่ ยท่ตี อ้ งการดแู ลเฉพาะ ได้แก่ เด็ก ผู้สงู อายุ หญิงตัง้ ครรภ์ หญิงให้นมบตุ ร ผู้ที่มีการ ทำงานของตบั หรือไตบกพรอ่ ง ผทู้ ม่ี ีความบกพร่องทางเภสชั จลนศาสตรข์ องยา เชน่ ภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD – ขอ้ มูลระดบั ยาในเลือดหรอื ผลทางหอ้ งปฏิบัติการที่เกี่ยวขอ้ ง เชน่ INR สำหรบั warfarin เป็นตน้ 4.3 การใหค้ ำแนะนำปรึกษาผู้ป่วยหรือญาติผปู้ ่วยเกยี่ วกับยา การจดั การเมื่อผปู้ ่วยลืมใชย้ า การปฏิบตั ิ ตวั ทีเ่ หมาะสม การเก็บรักษายา การสังเกตยาหมดอายุ การติดตามผลการใช้ยา การจดั การเมื่อผปู้ ว่ ยมีความ ผดิ ปกตทิ เี่ กิดจากการใชย้ า 4.4 การส่งต่อผู้ป่วยไปยงั สถานพยาบาล 5. ตอ้ งมมี าตรฐานในการขนส่งที่สามารถรักษาคุณภาพและความคงตวั ของยาตลอดการขนส่ง โดย คำนึงถึง 5.1 อณุ หภูมใิ นขณะขนส่งกบั ประเภทหรอื ชนิดของยา 5.2 สง่ มอบยาครบถว้ น ถกู ต้องแกผ่ ้ปู ว่ ย ผรู้ บั บรกิ าร ณ สถานท่แี ละเวลาท่ีกำหนด 5.3 ป้องกันการสูญหาย มใิ ห้นำไปใชใ้ นทางทผ่ี ดิ หรือก่ออาชญากรรม 16

ขั้นตอนการปฏิบัติงานเภสชั กรรมทางไกลของเภสชั กร 1 กรณที ีเ่ ป็นสถานพยาบาล 1.1 รบั ใบสั่งยาและตรวจสอบการข้นึ ทะเบียนของผปู้ ว่ ย 1.2 พิจารณาให้การบริบาลเภสชั กรรมทางไกลและนัดหมายการสง่ มอบยา 1.3 ติดต่อผรู้ บั บริการเภสชั กรรมทางไกลและนดั หมายการสง่ มอบยา 1.4 ติดต่อผ้รู บั บริการเภสัชกรรมทางไกลแสดงตนว่ามมี ีช่อื ตรงกับทขี่ ึน้ ทะเบยี นผูป้ ่วยและชือ่ ในใบสง่ั ยา กรณีเปน็ ผรู้ บั ยาแทนผูป้ ว่ ย ใหแ้ สดงตนว่าเป็นผไู้ ดร้ บั มอบหมายจากผปู้ ่วยตามที่ได้แจ้งไว้ เมื่อถูกต้องแล้ว เภสัชกรอธิบายรายการยาที่จะได้รับ วิธีการให้ยา ข้อควรระวังในการใช้ยา คำแนะนำในการใชย้ า คำเตือนในการใชย้ า ฯลฯ 1.5 จัดทำบันทึกประวัติการให้บริการแก่ผู้ป่วย (Patient profile and medical records) โดยต้องมี การบันทกึ เสียงตลอดเระยะเวลาการใหบ้ รกิ ารเปน็ อยา่ งน้อย 1.6 ติดตามผลการใชย้ าของผูร้ บั บรกิ ารเภสชั กรรมทางไกล 2 กรณรี ้านยาทไ่ี ดร้ บั ใบสง่ั ยา 2.1 จัดทำทะเบียนผู้ป่วย (Patient registration) และและจดั ทำแฟ้มประวัตผิ ู้ปว่ ย (Patient profile) ท่ี มีการรักษาความลับของผู้ป่วย และผู้ป่วยยินยอมให้เภสัชกรเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเพ่ือ ประกอบการใหบ้ ริการ 2.2 รับใบสัง่ ยาและตรวจสอบการขอขน้ึ ทะเบยี นของผปู้ ว่ ยกับสถานพยาบาล 2.3 พจิ ารณาให้การบรบิ าลเภสัชกรรมทางไกลมีเ่ หมาะสมตามมาตรฐานข้างตน้ 2.4 ตดิ ตอ่ ผ้รู ับบรกิ ารเภสัชกรรมทางไกล และนัดหมายการสง่ มอบยา 2.5 ให้ผู้รับบริการเภสัชกรรมทางไกลแสดงตนวา่ มมี ชี ือ่ ตรงกบั ทขี่ นึ้ ทะเบยี นผปู้ ่วยและชื่อในใบสัง่ ยา กรณเี ปน็ ผูร้ ับยาแทนผู้ปว่ ย ให้แสดงตนวา่ เป็นผ้ไู ด้รับมอบหมายจากผปู้ ว่ ยตามที่ได้แจ้งไว้ เมื่อถูกต้องแล้ว เภสัชกรอธิบายรายการยาที่จะได้รับ วิธีการให้ยา ข้อควรระวังในการใช้ยา คำแนะนำในการใชย้ า คำเตอื นในการใช้ยา ฯลฯ 2.6 บันทึกประวัติการให้บริการแก่ผู้ป่วย (Patient profile and medical records) โดยต้องมีการ บันทกึ เสียงตลอดเระยะเวลาการใหบ้ ริการเปน็ อย่างนอ้ ย 2.7 ติดตามผลการใชย้ าของผูร้ ับบรกิ ารเภสชั กรรมทางไกล 17

3 กรณรี ้านยาทใี่ ห้บรกิ าร โดยไมไ่ ดร้ บั ใบส่งั ยา 3.1 ขึ้นทะเบียนผู้ป่วย (Patient registration) และและจัดทำแฟ้มประวัติผู้ป่วย (Patient profile) ที่มี การรักษาความลับของผู้ป่วย และผู้ป่วยยินยอมให้เภสัชกรเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเพื่อ ประกอบการใหบ้ ริการ 3.2 ซักประวัติผู้ป่วย และให้บริการตามมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ดีทางเภสัชกรรม (Good Pharmacy Practice) จรรยาบรรวิชาชีพ และข้อบังคับของสภาเภสัชกรรมว่าด้วย ข้อจำกัดและเงื่อนไขการ ประกอบวชิ าชพี เภสชั กรรม และเปน็ ไปตามมาตรฐานการให้บริบาลเภสชั กรรมทางไกลข้างตน้ 3.3 ตดิ ตอ่ ผรู้ ับบริการเภสชั กรรมทางไกล และนัดหมายการส่งมอบยา 3.4 ให้ผ้รู ับบรกิ ารเภสัชกรรมทางไกลแสดงตนวา่ มีมชี ื่อตรงกับทขี่ ึ้นทะเบยี นผปู้ ่วยและชือ่ ในใบสงั่ ยา กรณเี ป็นผ้รู บั ยาแทนผู้ป่วย ใหแ้ สดงตนวา่ เปน็ ผไู้ ดร้ บั มอบหมายจากผปู้ ว่ ยตามที่ไดแ้ จง้ ไว้ เมื่อถูกต้องแล้ว เภสัชกรอธิบายรายการยาที่จะได้รับ วิธีการให้ยา ข้อควรระวังในการใช้ยา คำแนะนำในการใช้ยา คำเตือนในการใช้ยา ฯลฯ 3.5 จัดทำบันทึกประวัติการให้บริการแก่ผู้ป่วย (Patient profile and medical records) โดยต้องมี การบันทึกเสียงตลอดเระยะเวลาการใหบ้ ริการเป็นอยา่ งน้อย 3.6 ติดตามผลการใช้ยาของผรู้ บั บริการเภสัชกรรมทางไกล เภสัชศาสตรแ์ ม่นยา หรอื เภสชั ศาสตรเ์ ฉพาะราย (Precision Pharmacy) คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากรมีเป้าหมายเน้นการเรียนรู้ทาง เภสัชศาสตร์แม่นยา (Precision Pharmacy) ซง่ึ นิยามดงั กล่าวท่คี ณะไดน้ ิยามไว้ตามรา่ งแผนพัฒนาคณะเปน็ ดังนี้ นิยาม : เภสัชศาสตร์เฉพาะราย (precision pharmacy) การรักษาด้วยยา โดยอาศัยข้อมูลเฉพาะบุคคล เช่น ข้อมูลทางพันธุกรรม สิ่งแวดลอ้ ม และการด าเนินชีวิต เป็น ต้น รวมถึงการวจิ ัย คิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการ ตรวจวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเลือกยาที่เหมาะสมให้กับ ผู้ป่วยแต่ละราย โดยค านึงถึงประสิทธิภาพ ความ ปลอดภัย เศรษฐานะ และความรว่ มมือของผู้ปว่ ย ซง่ึ ในหากดตู ามนยิ ามแล้วกจิ กรรมในการบริบาลทางเภสัชกรรมก็จดั เป็นความรู้เภสัชศาสตรเ์ ฉพาะรายเช่นกัน 18

ตวั อย่างของงานบริบาลทางเภสชั กรรมในประเทศไทย ☺ การบรบิ าลทางเภสชั กรรมของโรงพยาบาลยะหริ่ง ☺ งานบริบาลผปู้ ่วยเฉพาะราย เชน่ ผูป้ ว่ ยเบาหวาน ผปู้ ว่ ยเอดส์ ผู้ป่วยโรคไต ☺ การสร้างระบบการประสานรายการยา (Medical Reconciliation) ☺ การจัดตั้งคลินิกผปู้ ่วยนอกตา่ งๆ เชน่ คลินกิ โรคหอบหดื คลนิ กิ วอรฟ์ าริน ☺ งานเภสชั กรรมปฐมภมู ิของศนู ย์บรกิ ารสาธารณสุข รา้ นยา รพสต ☺ งานเภสัชกรรมทางไกล โดยสรุป: การทำงานด้านการบริบาลทางเภสัชกรรมมีหลายระดับ และต้องอาศัยการฝึกฝนให้เกิดทักษะ ความชำนาญ รวมทั้งต้องมีใจรัก มีจิตอาสาที่อยากจะช่วยเหลือผูป้ ่วย เป็นผู้มีมนษุ ยสัมพันธ์ที่ดีต่อบุคคลากรต่าง สาขาวิชาชีพ จงึ จะสามารถดำเนินงานได้อยา่ งลุล่วงและไปสู่เปา้ หมาย คอื คณุ ภาพชีวติ ที่ดีของผปู้ ว่ ย เอกสารอ้างองิ 1. เฉลิมศรี ภุมมางกูร, กฤติกา ตัญญะแสนสุข. โอสถกรรมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2 นิวไทยมิตรการพิมพ์ (2547). 290 หน้า 2. สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (แห่งประเทศไทย). เกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม 2554. (12 มิถนุ ายน 2554) สืบคน้ จาก http://www.thaihp.org. 3. สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (แห่งประเทศไทย). เกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โรงพยาบาล 2556. (12 มถิ นุ ายน 2556) สืบค้นจาก http://www.thaihp.org. 4. สภาเภสัชกรรมประกาศสภาเภสัชกรรมที่ 56/2563 เรื่อง การกำหนดมาตรฐานและขั้นตอนการ ใ ห ้ บ ร ิ ก า ร เ ภ ส ั ช ก ร ร ม ท า ง ไ ก ล ( Telepharmacy) (21 ก ค 64) ส ื บ ค ้ น จ า ก https://www.pharmacycouncil.org/index.php?option=content_detail&menuid=6 8 &ite mid=1846&catid=0 5. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร รา่ งแผนพัฒนาคณะเภสชั ศาสตร์ ปี 2566-2569 6. Blackburn DF et al. Proposing a redefinition of Pharmaceutical care. The annual of Pharmacotherapy; 2012(46):447-9. 19