ช่ือโครงงาน การทาสบู่จากขิง ผ้จู ดั ทาโครงงาน นางสาว นนั ทพร ไชยยะ เลขที่ 5 นาย ฐิติศกั ด์ิ คาชง่ั เลขท่ี 21 นางสาว ณัฐนิชา พนั ชน เลขที่ 22 นางสาว ดารารัตน์ ร่อนทอง เลขที่ 27 นางสาว บุณฑริกา เคหะอทุ ยั เลขท่ี 28 ช่ือครูทีป่ รึกษาโครงงาน นายดารงค์ คนั ธะเรศย์ ทีม่ าและความสาคญั ของโครงงาน สบู่ เป็นเครื่องสาอางชนิดหน่ึงที่ใชใ้ นการทาความสะอาดร่างกาย ปัจจุบนั กระบวนการผลติ สบู่ มีการ เพ่ิมส่วนผสมอื่นๆ เพ่ือใหส้ บู่มีสรรพคุณตรงตามความตอ้ งการของผบู้ ริโภคมากข้นึ เช่น มสี ีสรรที่สวยงามน่าใช้ มีกลนิ่ หอม และมสี รรพคุณทางยาในทางการคา้ มกี ารใชส้ ารสงั เคราะห์เพ่ิมข้ึนทาใหผ้ ลิตภณั ฑน์ ่าใช้ บรรจุภณั ฑ์ สวยงามแต่แฝงไป ดว้ ยสารเคมที ่ีเป็นอนั ตราย มพี ษิ ตกคา้ งและราคาสูง ปัจจุบนั นิยมใชพ้ ืชสมุนไพรที่มอี ยใู่ น ธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมเพิ่มเติมในสบู่ แทนการใชส้ ารเคมสี งั เคราะห์ พชื สมุนไพรที่ใช้ มีสาระสาคญั และมี สรรพคุณทางยา เช่นมนี ้ามนั หอมระเหยที่มกี ลิ่นเฉพาะใชใ้ นการบาบดั โรค มสี ีสรรสวยงาม หาง่ายราคาถูก ประหยดั ปลอดภยั ไร้สารสงั เคราะห์ และไมม่ ีพษิ ตกคา้ ง ทาใหส้ บู่สมนุ ไพรท่ีผลิตข้ึนจากผลติ ภณั ฑธ์ รรมชาติมี คุณลกั ษณะเฉพาะท่ีหลากหลาย จึงเป็นบทพสิ ูจนใ์ หเ้ ห็นถงึ ความมหศั จรรยข์ องสบู่สมนุ ไพรที่มคี ณุ ค่ายงิ่ ของภูมิ ปัญญาไทย เชื่อว่าทุกคนไมว่ า่ จะเป็นเพศไหน วยั ไหน หรือชาติไหน คงไมม่ ีใครไม่รู้จกั หรือไมเ่ คยใช้ “สบู่” ใน การ นามาถู ผสมกบั น้าเพือ่ ชาระลา้ งส่ิงสกปรกและทาความสะอาดร่างกาย ท่ีมาต้งั แต่สมยั โบราณ เพราะในการ
ใชช้ ีวิตประจาวนั ของคนทุกคนตอ้ งมกี ารอาบน้ากนั อยทู่ กุ วนั โดยปกติคนส่วนใหญ่เฉลี่ย ก็อาบน้าวนั ละสอง คร้ัง และปัจจุบนั น้ี สบู่ก็มมี ากมายหลาย ชนิดใหไ้ ดเ้ ลอื กใช้ ตามความเหมาะสม และความชอบของแต่ละบุคคล แต่จะมใี ครทราบหรือไมว่ ่าสบู่ส่วนใหญ่ท่ีใชก้ นั อยลู่ ว้ นแลว้ แต่มีส่วน ผสมท่ี เป็นพษิ ของสารซกั ฟอก และ สารเคมี ดงั น้นั ทางเราจึงไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั การทาสบู่แลว้ จดั ทาสบู่ท่ีทามาจากขิงท่ีใชไ้ ดผ้ ลอยา่ งดียง่ิ อกี ท้งั ยงั ไมม่ ีสารเคมีหรือสารพษิ ปนมาอกี ดว้ ย และมนี ้ามนั ซ่ึงในที่น้ีมาจากน้ามนั มะพร้าวซ่ึงจะทาใหไ้ ดเ้ กลอื ใน รูปของแขง็ ท่ีลืน่ และมฟี องที่เราเรียกกนั วา่ สบู่โรงงานอตุ สาหกรรมส่วนใหญ่มกั จะใชก้ ากน้ามนั ปิ โตรเลยี มเป็น เบสในการทาสบู่ซ่ึงโมเลกลุ ของน้ามนั ปิ โตรเลียมจะมขี นาดใหญ่จนผวิ ไม่สามารถซึมซบั ไดแ้ ละยงั ก่อใหเ้ กิด อาการอุดตนั ไดอ้ กี ดว้ ย นอกจากน้ีส่วนประกอบสาคญั ทกุ ชนิดท่ีใชใ้ นกระบวนการผลิต ยงั เป็นผลติ ภณั ฑท์ ่ี ได้ จากธรรมชาติ คุณจึงมน่ั ใจไดว้ ่าไม่มีสารสงั เคราะห์ใดๆ เจอื ปนอยใู่ นสบู่ จึงเป็นสบู่ธรรมชาติที่มีความปลอดภยั วตั ถุประสงค์ของการทาโครงงาน เพอื่ ศกึ ษาและทดลองวธิ ีการทาสบู่ท่ีมาจากขิง สมมตฐิ านของการศึกษา สบู่ท่ีไดจ้ ากธรรมชาติสามารถทาความสะอาดผวิ กายได้ ขอบเขตของการทาโครงงาน จะนาเอาขิงมาทาเป็นสบู่ท่ีนามาผสมกบั กลเี ซอรีน ทาใหไ้ ดส้ บู่ตามที่เราตอ้ งการ โดยสบู่ท่ีไดม้ าน้นั จะ ไมม่ ีสารพษิ หรือสารเคมี ใดๆท่ีจะตกคา้ งภายในร่างกายของเราไดเ้ ลย เมอื่ เรานาสบู่ที่ทามาใช้ เพราะส่วนผสมที่ นามาทาน้นั ลว้ นแลว้ แต่ทามาจากธรรมชาติท้งั ส้ิน ตวั แปรตน้ สบู่สมนุ ไพรขิงท่ีทาจากธรรมชาติ ตวั แปรตาม ความสะอาดชุ่มชื่นของผวิ กาย ตวั แปรควบคุม ปริมาณขิงท่ีใชผ้ สมกบั สบู่
วธิ ดี าเนนิ การ 1. กลเี ซอรีน 1/2 กิโลกรัม 2. มีด 1 ดา้ ม 3. หมอ้ /ชอ้ น 1 ใบ/คนั 4. เตาแกส๊ 1 อนั 5. น้าหอม 2-3 หยด ไม่ใส่ก็ได้ 6. ขิง 5 กรัม 7. แม่พิมพส์ บู่ 3 อนั วธิ ีการดาเนินการ 1. หนั่ กลีเซอรีนใหเ้ ป็นช้ินเลก็ ๆ 2. นากลีเซอรีนใส่หมอ้ แลว้ นาไปต้งั ไฟออ่ นๆ 3. รอใหก้ ลีเซอรีนละลายจนหมดโดยไม่ตอ้ งคนมากเพราะจะทาใหเ้ กิดฟอง 4. รอจนกลีเซอรีนละลายจนหมดแลว้ จึงใส่ขิงท่ีทุบละเอียดลงไป 5. อาจใส่สีหรือกล่ินตามชอบลงไป ( หรือใชส้ ีตามธรรมชาติของสมุนไพร) 6. ใชไ้ มพ้ ายคนส่วนผสมใหเ้ ขา้ กนั โดยคนเบาๆอยา่ คนแรงเพราะจะทาใหเ้ กิดฟอง 7. เมอื่ ส่วนผสมเขา้ กนั ดีจึงปิดไฟ 8. นาสบู่ที่ไดเ้ ทใส่แม่พิมพท์ ่ีเตรียมไว้ 9. แลว้ จึงต้งั ทิ้งไวร้ อใหส้ บู่แขง็ ตวั ประมาณ 30 นาที หรือจนกวา่ จะเซ็ตตวั
10. เมอื่ สบู่แขง็ ตวั ดีแลว้ จึงแกะออกจากแม่พมิ พแ์ ลว้ เก็บใหห้ ่อใส่กระดาษไวใ้ ช้ ผลทคี่ าดว่าจะได้รบั 1. สามารถนาสบู่ท่ีผลติ ออกมาไปขายได้ 2. ผลิตสบู่เป็นท่ีน่าสนใจของคนทว่ั ไป 3. สามารถนามาใชเ้ ป็นของฝากหรือของชาร่วยได้ แผนการกาหนดเวลาปฏบิ ัตงิ าน 10/07/2562 เอกสารอ้างองิ http://nrcaum.blogspot.com/2016/03/17-19-24-27-1-2-255-8-triclocarban-1.html ( สบู่เหลว ) -สะดวกใช้ รวดเร็ว ไมต่ อ้ งทาละลาย -ไดส้ ดั ส่วนผสมคงที่เวลาบีบใช้ - ราคาแพงกว่า ไดน้ ้าเป็นสดั ส่วนผสม ( สบู่ก้อน ) - ปริมาณสารแลว้ แต่จานวนคร้ังท่ีถู ถเู น้ือสบู่มากก็ฟองมาก - สบู่ใชไ้ ขช่วยจบั ตวั เกดิ คราบสบู่ - สบู่ราคาประหยดั กว่า - ควบคุมปริมาณสารได้
สบู่เหลว กบั สบู่ก้อนต่างกนั อย่างไร จริงๆ แลว้ สบู่เหลวหรือสบู่กอ้ นก็คลา้ ย ๆ กนั เพียงแต่เขาทามาใหล้ กั ษณะท่ีเป็นของแขง็ หรือของเหลว เท่าน้นั ส่วนผสมกแ็ ลว้ แต่ชนิดของสบู่ วา่ จะใส่สีกลิน่ หรือ สารบางอยา่ งใหม้ คี วามแตกต่างกนั ถา้ จะเลือกใชส้ บู่ควรดูที่ความเป็นกรดด่างของสบู่ สบู่ที่เป็นด่างนอ้ ยหรือเป็นกรดนอ้ ย ๆ จะไมร่ ะคายผวิ มากนกั และสบู่ที่ลา้ งความมนั ออกไดไ้ ม่มากนกั ก็จะทาใหผ้ วิ ไมค่ ่อยแหง้ มาก แต่ขอ้ เสียของสบู่ท่ีมคี รีมมากๆ กค็ ือ มนั จะเละ และหมดเร็วทาใหเ้ ปลืองเวลาใช้ สบู่กอ้ น แบบด้งั เดิม (Soap) ทาจากไขสตั วห์ รือไขพชื ทาปฏิกิริยากบั ด่าง จึงมฤี ทธ์ิ เป็นด่าง หลายคน อาจเกรงว่า สบู่กอ้ น จะระคายผวิ ในปัจจุบนั สบู่กอ้ นอาจไดจ้ ากสารสงั เคราะห์ (syndet) ซ่ึงมคี วามเป็นด่าง นอ้ ยลง เดิมจากความเป็นด่าง pH 10-11 เป็น pH 8-9 แต่ราคาสบู่สงั เคราะห์จะแพงกวา่ จากการศกึ ษาพบวา่ ท้งั 2 แบบทาใหเ้ กิดความระคายเคืองเท่ากนั สบู่เหลว เป็นสารสงั เคราะห์ ลดแรงตึงผวิ (surfactant) จะมี 2 แบบ คือ ลดแรงตึงผวิ ชนิดประจุลบ (anionic surfactant) เช่น sodium lauryl ether sulfate ซ่ึงนิยมใชใ้ นสบู่เหลวและแชมพูเกือบทุกชนิด และชนิด ประจุผสม (amphoteric herfactant) เช่น สาร betaine ซ่ึงจะไมร่ ะคายเยอื่ บุผสมอยใู่ นสบู่เหลว หรือแชมพเู หลว สาหรับเดก็ สารจะมฟี องนอ้ ยกวา่ และราคาแพงกว่า สบู่เหลวมคี วามเป็นกรดด่างเกือบจะเท่ากบั ผวิ หนงั คือ ประมาณ pH 5-6 การใช้ สบู่กอ้ น หรือ สบู่เหลว จะชาระลา้ งคราบสกปรกไดเ้ ท่ากนั อาจระคายเคืองผวิ ไดเ้ หมอื นกนั แต่ สบู่เหลว อาจทาใหผ้ วิ แหง้ เพราะสบู่สมั ผสั คราบไดด้ ีกว่า จึงมีการพฒั นาเป็นโฟม (wash off foam) คือ สบู่เหลว ผสมครีมเพ่อื เพม่ิ ความชุ่มช้ืน ดงั น้นั ท่านสามารถเลือกใชต้ ามความชอบได้ แต่ราคา สบู่กอ้ น จะถกู กวา่ ความ ทมี่ า : https://pantip.com/topic/36531035 , https://guru.sanook.com/9641/ , https://thairats.com (07/08/2019) **************************************************************************************** ****************
สงั เคราะห์ สบู่เหลว เร็ว ไมต่ อ้ งละลายน้า สบู่กอ้ น ราคาประหยดั กว่า ฟองเยอะ ถา้ จะเลอื กใชค้ วรดูความเป็นกรดด่างของสบู่ และเลือกตามความชอบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: