บทบาทและหนา้ ทีข่ องบุคลากรคอมพิวเตอร์ และ การจัดเก็บข้อมลู ระบบดจิ ทิ ัล จัดทาโดย นายอนั วา หวันตันหยง ปวช.1/1 แผนกคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ รหสั 62202040033
บทบาทและหน้าท่ขี องบคุ ลากรคอมพิวเตอร์ บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ หมายถึง คนทม่ี คี วามรู้ ความสามารถในการใช้หรือควบคมุ ใหก้ ารใช้คอมพิวเตอร์เป็นไปอยา่ ง ราบรน่ื อาจจะประกอบด้วยคนเพยี งคนเดยี วหรอื หลายคนชว่ ยกัน รบั ผดิ ชอบ โครงสรา้ งของหน่วยงานคอมพิวเตอร์
บทบาทและหนา้ ท่ขี องบุคลากรทางคอมพิวเตอร์ 1. เจ้าหน้าท่ปี ฏบิ ัตกิ าร (operator) เป็นผรู้ ับผดิ ชอบดูแลเครื่อง คอมพิวเตอรใ์ หส้ ามารถทางานได้ตามปกติ หากเกดิ ปญั หาขดั ขอ้ื ง เกีท่ืยวกบั ระบบจะตอ้ งแจ้งใหผ้ ู้ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ได้ทราบ เพ่อื ทาการแกไ้ ข
2. บุคลากรที่เกย่ี วขอ้ งกบั ระบบ (SYSTEM) และโปรแกรม (PROGRAM)บคุ ลากรคอมพวิ เตอร์ในกลมุ่ น้ี ประกอบด้วย 2.1 นกั วิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ (systems analyst and designer) ทาหน้าท่ีศึกษาและรวบรวมความตอ้ งการของผใู้ ชร้ ะบบ เพ่อื นามาวเิ คราะห์และออกแบบระบบงานใหม่ และทาหนา้ ทเ่ี ปน็ สอ่ื กลางระหว่างผู้ใช้ระบบและนักเขยี นโปรแกรม (programmer)
2.2 ผูบ้ ริหารฐานข้อมลู (DATABASE ADMINISTRATOR ) ทาหนา้ ทอี่ อกแบบและดูแลระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตลอดจนบารงุ รกั ษาและแกไ้ ขปัญหาทีอ่ าจเกดิ ข้นึ กบั ฐาน ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ขององค์การ
2.3 นกั พัฒนาโปรแกรมระบบ (SYSTEM PROGRAMMER) เปน็ ผูเ้ ขียนโรแกรมควบคมุ ระบบคอมพวิ เตอร์ ใหค้ าปรกึ ษา และแกไ้ ขระบบเมื่อเกดิ ปญั หาท่เี กี่ยวข้องกบั ระบบคอมพิวเตอร์
2.4 นักพัฒนาโปรแกรมประยกุ ต์ (APPLICATION PROGRAMMER) เปน็ ผ้เู ขียนและพฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์ต่าง ๆ โดยการนา ผลทนี่ ักวิเคราะหร์ ะบบไดอ้ อกแบบไว้นักเขียนโปรแกรมประยกุ ต์ จะต้องทาการทดสอบ แกไ้ ขโปรแกรม ติดตัง้ และบารุงรกั ษาโปรแกรม ทพี่ ฒั นาขึ้น
3. ผู้จดั การศนู ยป์ ระมวลผลคอมพวิ เตอร์ (ELECTRONIC DATA PROCESSING MANAGER) ผูจ้ ดั การศนู ย์คอมพิวเตอร์ หรอื EDP manager เปน็ บคุ ลากร ระดบั บริหารที่ทาหน้าที่กาหนดนโยบายและแผนการดาเนินงาน ของ ศูนยค์ อมพิวเตอร์ การวางแผนเรื่องงบประมาณและการจดั หา ทรพั ยากรคอมพวิ เตอร์ ตลอดจนการสง่ เสริมและพฒั นาบคุ ลากรใน หน่วยงานใหม้ คี วามรูค้ วามสามารถ ทันกบั เทคโนโลยีสมยั ใหม่
4. ผู้ใชค้ อมพิวเตอร์ (COMPUTER USER) เป็นผู้ใหข้ ้อมูลความต้องการในการนาคอมพวิ เตอรม์ าใช้งาน ในหนว่ ยงาน ตลอดจนเปน็ ผู้ใช้ระบบคอมพวิ เตอรท์ ่ีได้พฒั นาขน้ึ หรอื ใช้โปรแกรมประยุกตอ์ ื่น ๆ
การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ระบบดจิ ทิ ลั
ข้อมลู (DATA) หมายถงึ ขอ้ เท็จจรงิ (fact) ทอี่ ยใู่ นรูปแบบตวั อกั ษร ตวั เลข สัญลกั ษณ์พเิ ศษ รปู ภาพ ภาพเคลือ่ นไหว และเสียง ซง่ึ สามารถบันทกึ ไว้อย่างตอ่ เนื่องและมีความหมายอยใู่ นตวั เช่น ชอ่ื นกั เรียน อายุ เพศ จานวนประชากร ปรมิ าณฝน เปน็ ต้น ขอ้ มลู จะมีอย่จู านวนมาก และ จะถกู นาไปประมวลผลเพือ่ ใช้ประโยชนใ์ นเรอ่ื งต่าง ๆ ได้มากมาย
การประมวลผล (PROCESSING) หมายถึง การกระทาของเครอ่ื งคอมพิวเตอรก์ บั ขอ้ มูล เชน่ การรวบรวมเป็นแฟม้ ขอ้ มลู การคานวณ การเปรยี บเทยี บ การ เรียงลาดับ การจดั กลมุ่ ขอ้ มูล การจัดทารายงาน เป็นตน้
สารสนเทศ (INFORMATION) หมายถงึ สิง่ ท่ไี ด้จากการนาข้อมลู ทเ่ี กบ็ รวบรวมไวม้ า ประมวลผลเพอื่ นามาใชป้ ระโยชนต์ ามวตั ถปุ ระสงค์ต่าง ๆ หรืออาจ กลา่ วได้ว่าสารสนเทศ คือ ขอ้ มูลทผี่ า่ นการเลือกสรรใหเ้ หมาะสมกบั การใช้งาน ทันตอ่ เวลาและอยูใ่ นรปู แบบท่ีใชไ้ ดส้ ะดวก ซ่ึงสารสนเทศ ท่ีดีตอ้ งมาจากข้อมูลทีด่ ี
ชนิดและลักษณะข้อมลู การแบง่ ประเภทของข้อมลู ขึน้ อยูก่ ับ - ความตอ้ งการของผู้ใช้ - ลักษณะของขอ้ มลู ที่นาไปใช้ - เกณฑ์ท่นี ามาพิจารณา สามารถแบง่ ชนดิ และลักษณะของขอ้ มลู ไว้ 4 รปู แบบ ดังน้ี
1. การแบ่งขอ้ มูลตามลักษณะของข้อมูล เป็นการแบ่งขอ้ มูลโดยพจิ ารณาจากการรบั ข้อมูลของประสาทสัมผสั ของร่างกาย ได้แก่ - ข้อมูลภาพที่ได้รบั จากการมองเหน็ ดว้ ยดวงตา - ข้อมลู เสยี งท่ไี ด้รบั จากการฟงั ด้วยหู - ขอ้ มูลกลิ่นทไ่ี ด้รับจากการสูดดมด้วยจมูก - ขอ้ มลู รสชาตทิ ีไ่ ด้รบั จากการรับรสชาตดิ ว้ ยล้ิน - ข้อมูลสัมผัสทไ่ี ด้รบั จากความรสู้ กึ ด้วยผิวหนัง
2. การแบ่งขอ้ มูลตามแหลง่ ขอ้ มลู ที่ได้รบั โดยพจิ ารณาจากลกั ษณะของทมี่ าหรอื การไดร้ บั ข้อมูล ได้แก่ ข้อมลู ปฐมภูมิ (Primary Data) คอื ขอ้ มลู ทไี่ ด้จากการเก็บ รวบรวมหรือบันทึกจากแหลง่ ขอ้ มูล โดยตรงด้วยวธิ ตี า่ งๆ เช่น จาก การสอบถามการสมั ภาษณ์การสารวจการจดบันทกึ ตวั อย่างขอ้ มลู ปฐม ภมู ิ ไดแ้ ก่ ข้อมูลการมาโรงเรยี นสายของนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ซึ่งได้จากการจดบนั ทกึ ในรอบ 1 เดอื นทผ่ี า่ นมา
ขอ้ มูลทุตยิ ภูมิ (SECONDARY DATA) คอื การนาขอ้ มูลท่ีผอู้ น่ื ไดเ้ กบ็ รวบรวมหรอื บนั ทึกไวม้ าใช้งาน ผ้ใู ชไ้ ม่จาเปน็ ตอ้ งเกบ็ รวบรวมและบันทกึ ดว้ ยตนเอง จดั เป็นขอ้ มลู ที่ เกดิ ข้นึ ในอดตี มกั ผ่านการประมวลผลแล้ว ตวั อย่างข้อมูลทตุ ยิ ภูมิ ได้แก่ สถติ ิการมาโรงเรยี นสายของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ในปี พ.ศ.2550
3. การแบ่งขอ้ มูลตามการจัดเก็บในในส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ มลี กั ษณะคลา้ ยการแบง่ ข้อมูลตามลกั ษณะของขอ้ มูล แตม่ ี การแยกลักษณะขอ้ มูลตามชนิดและนามสกุลของข้อมลู น้ัน ๆ ได้แก่ - ข้อมลู ตวั อักษร เชน่ ตัวหนงั สอื ตัวเลข และสญั ลักษณ์ ข้อมลู ประเภทน้ีมกั มนี ามสกุลต่อท้ายชื่อไฟล์เปน็ .txt และ .doc
ขอ้ มูลภาพ เชน่ ภาพกราฟกิ ต่าง ๆ และภาพถ่ายจากกล้องดจิ ิทัล ขอ้ มูลประเภทน้มี กั มีนามสกลุ ตอ่ ทา้ ยชื่อไฟลเ์ ปน็ .bmp .gif และ .jpg
ขอ้ มูลเสียง เช่น เสยี งพดู เสียงดนตรี และเสยี งเพลง ข้อมูลประเภทน้มี กั มีนามสกลุ ต่อท้ายชือ่ ไฟล์เป็น .wav .mp3 และ .au
ขอ้ มลู ภาพเคลื่อนไหว เช่น ภาพเคล่อื นไหว ภาพมวิ สกิ วดี โี อ ภาพยนตร์ คลิป วดิ โี อ ข้อมลู ประเภทนม้ี ักมนี ามสกุลต่อท้ายช่อื ไฟล์เปน็ .avi
4. การแบง่ ข้อมูลตามระบบคอมพิวเตอร์ มีลกั ษณะคลา้ ยและใกลเ้ คียงกบั การแบ่งขอ้ มูลตามการ จดั เกบ็ ในส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์มาก แตม่ ุง่ เน้นพิจารณาการแบง่ ประเภท ตามการนาขอ้ มูลไปใช้งานในระบบคอมพวิ เตอร์ ไดแ้ ก่ - ขอ้ มูลเชงิ จานวน มลี กั ษณะเป็นตวั เลขท่สี ามารถนามาคานวณ ดว้ ยคอมพิวเตอร์ได้ เช่น จานวนเงินในกระเปา๋ จานวนค่าโดยสารรถ ประจาทาง และจานวนนักเรยี นในห้องเรียน
ข้อมูลอักขระ มีลักษณะเปน็ ตัวอักษร ตวั หนังสอื และสัญลกั ษณ์ ตา่ งๆ ซงึ่ สามารถนาเสนอข้อมูลและเรียงลาดบั ไดแ้ ตไ่ มส่ ามารถนามาคานวณได้ เชน่ หมายเลขโทรศพั ท์ เลขที่บา้ นและชอ่ื ของนักเรียน
ขอ้ มูลกราฟิก เป็นขอ้ มลู ทเ่ี กดิ จากจุดพกิ ัดทางคอมพิวเตอร์ ทาใหเ้ กดิ รปู ภาพหรือแผนท่ี เช่น เครอื่ งหมายการค้า แบบกอ่ สร้างอาคาร และกราฟ
ขอ้ มลู ภาพลกั ษณ์ เป็นขอ้ มูลแสดงความเข้มและสีของรปู ภาพท่ีเกดิ จากการ สแกนของสแกนเนอรเ์ ปน็ หลกั ซ่ึงสามารถนาเสนอขอ้ มลู ย่อหรือ ขยาย และตดั ตอ่ ได้ แต่ไม่สามารถนามาคานวณหรอื ดาเนนิ การ อย่างอน่ื ได้
THE END
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: