Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การดำรงชีวิตของพืช

การดำรงชีวิตของพืช

Published by ampmee2109, 2021-03-03 04:16:22

Description: การดำรงชีวิตของพืช

Search

Read the Text Version

PPT模板下载:www.1ppt.com/moban/ 行业PPT模板:www.1ppt.com/hangye/ 节日PPT模板:www.1ppt.com/jieri/ PPT素材下载:www.1ppt.com/sucai/ PPT背景图片:www.1ppt.com/beijing/ PPT图表下载:www.1ppt.com/tubiao/ 优秀PPT下载:www.1ppt.com/xiazai/ PPT教程: www.1ppt.com/powerpoint/ Word教程: www.1ppt.com/word/ Excel教程:www.1ppt.com/excel/ 资料下载:www.1ppt.com/ziliao/ PPT课件下载:www.1ppt.com/kejian/ 范文下载:www.1ppt.com/fanwen/ 试卷下载:www.1ppt.com/shiti/ 教案下载:www.1ppt.com/jiaoan/ 字体下载:www.1ppt.com/ziti/

CONTENTS  การดารงชวี ิตของพชื  ราก ลาตน้ และใบของพชื  โครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องราก  โครงสรา้ งและหนา้ ที่ของลาตน้  การลาเลียงนา้ และสารอาหารของพชื  โครงสรา้ งและหนา้ ท่ใี บ PPT模板下载:www.1ppt.com/moban/ 行业PPT模板:www.1ppt.com/hangye/ 节日PPT模板:www.1ppt.com/jieri/ PPT素材下载:www.1ppt.com/sucai/ PPT背景图片:www.1ppt.com/beijing/ PPT图表下载:www.1ppt.com/tubiao/ 优秀PPT下载:www.1ppt.com/xiazai/ PPT教程: www.1ppt.com/powerpoint/ Word教程: www.1ppt.com/word/ Excel教程:www.1ppt.com/excel/ 资料下载:www.1ppt.com/ziliao/ PPT课件下载:www.1ppt.com/kejian/ 范文下载:www.1ppt.com/fanwen/ 试卷下载:www.1ppt.com/shiti/ 教案下载:www.1ppt.com/jiaoan/ 字体下载:www.1ppt.com/ziti/

请输กา入ร你ดา的ร题งช目ีวิตของพืช พืชเป็ นส่งิ มชี วี ิตท่มี คี วามสาคญั ตอ่ คนและสตั วเ์ ป็ นอย่างมาก เพราะเป็ นแหลง่ อาหารและอากาศซึ่งจาเป็ น ตอ่ การดารงชวี ิตของคนและสตั ว์ และยงั ชว่ ยสรา้ งสมดลุ ใหแ้ กธ่ รรมชาติ พืช หมายถึง สิ่งมชี วี ิตชนั้ สงู ที่สามารถสงั เคราะหอ์ าหารเองได้ พืชจึงจดั เป็ นผผู้ ลิตในระบบนิเวศ เชน่ มะมว่ ง กหุ ลาบ มอส เห็น รา แหน เป็ นตน้ พืชสามารถแบ่งออกได้ 2 พวกใหญๆ่ คือ พืชดอกและพืชไมม่ ดี อก 1.พืชดอก คือ พืชท่ีเจริญเตบิ โตเต็มที่แลว้ จะมอี วยั วะสว่ นตา่ งๆ ครบถว้ น คือ มีดอก ราก ลาตน้ ใบ ผล และเมล็ด จดั เป็ นพืชชนั้ สงู *ดอก คือสว่ นทม่ี อี งคป์ ระกอบของอวยั วะสบื พนั ธแ์ุ ละใชข้ ยายพนั ธอ์ุ อกไป ไดแ้ ก่ พืชสว่ นมากที่เราพบเห็นอยทู่ วั่ ไป เชน่ มะมว่ ง ลาไย กหุ ลาบ มะลิ ถวั่ พริก ขา้ ว กลว้ ย ออ้ ย ขา้ วโพด มะละกอ มะเขอื เป็ นตน้ พืชบางชนดิ มีดอกขนาดเล็ก เชน่ จอก แหน พืชบางชนดิ ไมค่ ่อยออกดอก เชน่ ตะไคร้ พลดู า่ ง 2.พืชไมม่ ีดอก คือ พืชท่ีเจริญเตบิ โตเต็มที่แลว้ จะไมม่ ีดอกใชส้ าหรบั สืบพนั ธ์ุ เป็ นพืชท่มี วี ิวฒั นาการตา่ กวา่ พืชมี ดอก มีจานวน ชนดิ ไมม่ ากเทา่ พืชมดี อก เราจึงพบเห็นไดน้ อ้ ยกว่าพืชมดี อก ไดแ้ ก่ เห็ด รา เฟิ รน์ สน ปรง แป๊ ะกว๊ ย หวายทะนอย หญา้ ถอดปลอ้ ง (หญา้ หางมา้ ) เป็ นตน้

请รา输ก入ล你าต的น้ 题แ目ละใบของพืช พืชทอี่ ย่รู อบๆ ตวั เรามหี ลายชนดิ บางชนดิ เมอื่ เจริญเตบิ โตเต็มทีแ่ ลว้ จะมสี ว่ นประกอบ ดงั น้ี ราก ลาตน้ ใบ ดอก ผล และ เมล็ด สว่ นตา่ งๆ ของพืชตงั้ แตร่ าก ลาตน้ ใบ ดอก และผลจะมีหนา้ ที่แตกตา่ งกนั ออกไป ซ้ึงทกุ สว่ นมคี วามสาคัญตอ่ การ ดารงชวี ิตของพืชทง้ั สิน้

โค请ร输งส入ร你า้ ง的แ题ละ目หนา้ ท่ีของราก ราก คือ สว่ นของพืชทเ่ี จริญเตบิ โตเขา้ สศู่ นู ยก์ ลางของโลก รากสว่ นใหญอ่ ย่ใู ตด้ นิ มขี นาดและความยาวแตกตา่ งกนั รากของพืชมกั มหี ลายลกั ษณะขน้ึ อย่กู บั ชนดิ ของพืช รากของพืชมี 3 ชนิด 1.รากแกว้ เป็ นรากทเ่ี กดิ ขน้ึ ครง้ั แรกซ้ึงเป็ นรากทง่ี อกออกมาจากเมล็ด พืชบางชนดิ เม่อื พืชโตขน้ึ ก็จะฝ่ อและตายไป แตใ่ น พืชบางชนดิ เชน่ มะมว่ ง โพธิ์ รากแกว้ จะคงอย่แู ละมขี นาดใหญ่ขน้ึ และมรี ากแขนงแตกออกจากรากแกว้ 2.รากแขนง เป็ นรากท่เี กดิ ขน้ึ ครงั้ ที่ 2 โดยจะแตกแขนงออกมาจากรากแกว้ มลี กั ษณะเป็ นเสน้ เล็กๆ จานวนมาก มีขนาด สมา่ เสมอ ตลอดความยาวของรากในพืชบางชนดิ เชน่ ขา้ วโพด ขา้ ว รากแขนงจะงอจากขอ้ หรือรอบๆ โคนตน้ แทนราก แกว้ ทฝ่ี ่ อไป และแผก่ ระจายไปในทกุ ทิศทาง 3.รากพิเศษ รากชนดิ นไ้ี มไ่ ดง้ อกจากเมล็ดหรือแตกแขนงมาจากรากแกว้ ตามกั จะงอกตามขอ้ และมหี นา้ ที่

โค请ร输งส入ร你า้ ง的แ题ละ目หนา้ ที่ของราก -รากฝอย มีลกั ษณะเป็ นเสน้ เล็กๆ ขนาดสมา่ เสมอ งอกจากโคนตน้ หรือตามขอ้ แทนรากท่หี ยดุ เจริญ พบใน ขา้ วโพด หญา้ และมะพรา้ ว - รากค้าจนุ เป็ นรากทแ่ี ตกออกจากลาตน้ ขอ้ ของลาตน้ ขอ้ ของลาตน้ ทีอ่ ย่ใู ตด้ นิ และเหนอื ดนิ และมงุ่ ทแยงลงไปในดนิ เพื่อชว่ ยพยงุ ลาตน้ ใหท้ รงตวั อย่ไู ด้ เชน่ โกงกาง และไทรยอ้ ย - รากยดึ เกาะ เป็ นรากทแ่ี ตกออกจากขอ้ ของลาตน้ และยึดเกาะกบั เสาหรือไมอ้ ่ืนๆ เพื่อไตข่ น้ึ ดา้ นบน เช่น พลดู า่ ง และ พริกไทย - รากหายใจ เป็ นรากทแี่ ตกแขนงจากรากใหญ่ แลว้ แทงขนึ้ มาเหนอื พ้ืนดนิ หอ้ ยหรือลอยอยใู่ นอากาศและพืชนา้ เชน่ ลาพู โกงกาง และกลว้ ยไม้ - รากสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง เป็ นรากที่แตกแขนงออกจากลาตน้ หอ้ ยลงมาในอากาศ มสี ีเขยี วคลอโรฟิ ลล์ เชน่ ไทร และ กลว้ ยไม้ - รากสะสมอาหาร มีลกั ษณะอวบอว้ น ทาหนา้ ทสี่ ะสมอาหารพวกแป้ ง ไขมนั และโปรตนี เชน่ แตงกวา มนั แกว มนั สาปะหลงั และกระชาย - รากหนาม มลี กั ษณะ เป็ นหนามงอกจากโคนตน้ ตอนงอกใหมม่ ีลกั ษณะเป็ นรากปกติ แตต่ อ่ มาเกิดเปลือกแข็ง ชว่ ย ป้ องกนั โคนตน้ ปาลม์ นา้ มนั และปาลม์ ชนดิ อื่นๆ - รากกาฝาก เป็ นรากของพืชที่ไปเกาะพืชชนดิ อื่น แลว้ แทงลงไปในเนอ้ื ไมข้ องพืชตน้ อื่นจนถึงทอ่ ลาเลียงเพ่ือแบง่ อาหาร เชน่ กาฝาก และฝอยทอง ** หนา้ ท่ีของราก คือ ดดู น้าและแรธ่ าต ุและยดึ ลาตน้ ไวก้ บั พ้ืนดิน

โค请รง输ส入รา้你ง的แล题ะ目หนา้ ที่ของลาตน้ ลาตน้ คือ สว่ นท่เี จริญเตบิ โตตอ่ จากราก ลาตน้ มที ง้ั อยเู่ หนอื ดนิ และอย่ใู ตด้ นิ พืชสว่ นใหญ่มลี าตน้ อยเู่ หนอื ดนิ ลกั ษณะของลาตน้ ประกอบดว้ ย ขอ้ ปลอ้ ง และตา ลาตน้ ของพืชท่อี ยบู่ นดนิ จะมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั บางชนดิ ลาตน้ ตง้ั ตรงแข็งแรง เชน่ มะขาม ตาล สน บางชนดิ มลี าตน้ เป็ นเถาเล้ือยตามพื้นดนิ หรือเลอ้ื ยเกาะตามสิง่ ตา่ ง เชน่ ฟักทอง บวบ ตาลึง เถาวลั ย์ พืชบางชนดิ มลี าตน้ อยใู่ ตด้ นิ เชน่ ขงิ ขา่ แหว้ หอม กระเทยี ม มนั ฝรงั่ ซ่ึงลาตน้ พืชจะมลี กั ษณะอวบอว้ น เพราะเป็ นแหล่งสะสมอาหาร พืชเหลา่ นสี้ ามารถขยายพนั ธไ์ุ ดโ้ ดยการแตกหนอ่ ขอ้ ควรสงั เกต เพ่ือใหร้ วู้ า่ สว่ นของพืชที่อย่ใู นดนิ เป็ นรากหรือลาตน้ คือ ถา้ เห็นขอ้ และปลอ้ งแสดงว่าเป็ น ลาตน้ ถา้ ไมเ่ ห็นวา่ มขี อ้ หรือปลอ้ งแสดงวา่ เป็ นราก หนา้ ที่ของลาตน้ มีดงั น้ี 1 ลาตน้ ทาหนา้ ที่เป็ นแกรนสาหรบั ชว่ ยพยงุ กงิ่ กา้ น และใบเพ่ือใหไ้ ดร้ บั แสงแดดมากที่สดุ 2 ลาตน้ ทาหนา้ ทลี่ าเลยี งนา้ และแรธ่ าตจุ ากรากไปยงั สว่ นตา่ งๆ ของพืชและลาเลยี งสารอาหาร (นา้ ตาลกลโู คส) ท่ี พืชสรา้ งขน้ึ ที่บริเวณใบไปยงั สว่ นตา่ งๆ

การล请าเ输ลยี 入ง你น้า的แ题ละ目สารอาหารของพืช เมือ่ พืชดดู นา้ และแรธ่ าตจุ ากดนิ ทางรากแลว้ นา้ และแร่ธาตจุ ะถกู ลาเลียงไปยงั ลาตน้ และส่วนตา่ งๆ โดย เนอื้ เยื่อลาเลยี งนา้ เกลือแร่ มีลกั ษณะเป็ นทอ่ ขนาดเล็กและอยรู่ วมกนั เป็ นกลมุ่ พืชยงั มีเนอื้ เยื่อลาเลียงอีกชนดิ คือ เนอ้ื เยื่อ ลาเลยี งอาหาร โดยจะมหี นา้ ทล่ี าเลียงนา้ ตาลท่ไี ดจ้ ากการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงจากใบไปยงั สว่ นตา่ งๆ ของพืช เนอ้ื เย่ือลาเลียงนา้ -เกลอื แรจ่ ะลาเลียงนา้ และแรธ่ าตทุ ่ีรากดดู จากดนิ สง่ ไปยงั ลาตน้ และสว่ นตา่ งๆ ของพืช เป็ นทิศทางเดยี วกนั คือ จากราก (สว่ นลา่ ง) ไปยงั สว่ นตา่ งๆ ของพืช (สว่ นบน) สว่ นเนอ้ื เยื่อลาเลยี งอาหารจะลาเลยี งอาหาร (นา้ ตาล) ท่ีพืชสรา้ งจากใบไปยงั สว่ นตา่ งๆ ของพืชเพื่อใชใ้ น การกระบวนตา่ งๆ ของพืชเพื่อใชใ้ นกระบวนการตา่ งๆ เชน่ การเจริญเตบิ โตการหายใจ แตถ่ า้ มีอาหารมากเกนิ ความ ตอ้ งการ พืชจะนาอาหารไปเก็บสะสมไวท้ ีส่ ว่ นตา่ งๆ เชน่ รากหรือลาตน้ และเมอื่ พืชตอ้ งการอาหารเนอ้ื เยื่อลาเลยี งอาหาร จะลาเลียงอาหารทีส่ ะสมไวไ้ ปยงั สว่ นทีต่ อ้ งการพลงั งาน ดงั นนั้ การลาเลียงอาหารจึงเกิดขน้ึ ไดห้ ลายทิศทาง เชน่ จากใบไป ยงั สว่ นตา่ งๆ ของพืชท่อี ย่สู ว่ นกลาง และจากบริเวณทสี่ ะสมอาหาร (รากหรือลาตน้ ) ไปยงั สว่ นตา่ งๆ ท่ีตอ้ งการอาหาร

โ请คร输ง入ส你รา้ 的งแ题ล目ะหนา้ ที่ของใบ ใบ เป็ นสว่ นประกอบของพืชที่เจริญเตมิ โตออกมาทางดา้ นขา้ งของลาตน้ หรือก่ิงตรงตามตาแหนง่ ของขอ้ ใบ มีหนา้ ท่ี ในการสรา้ งอาหารดว้ ยการสงั เคราะหด์ ว้ ยการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง โดยใชส้ ารสเี ขยี วท่ีเรียกว่า ครอโรฟิ ลล์ ใน การดดู พลงั งานจากแสงอาทิตย์ นอกจากนนั้ ยงั มปี ากใบ ท่ีทาหนา้ ที่เป็ นทางผา่ นเขา้ ออกของอากาศและไอนา้ จากการคายนา้ การคายน้าของพืช หมายถึง การสญู เสียนา้ ของพืชในรปู ไอนา้ นา้ ท่พี ืชดดู ขนึ้ ไปจะใชใ้ นกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง เพียงรอ้ ยละ 1-2 เทา่ นน้ั นา้ สว่ นท่เี หลือจะสญู เสยี ไปในรปู ของคายนา้ ทางปากใบ ทางผวิ ใบ ทางรอยแตกหรือรเู ล็กๆ ที่ลา ตน้ การคายนา้ ทางผวิ ใบและตามรอยแตกของลาตน้ ถือวา่ นอ้ ยมากเมอ่ื เทียบกบั การคายนา้ ทางปากใบ ท่ผี วิ ใบมีเซลลค์ มุ ทา หนา้ ที่ปิ ดและเปิ ดรปู ากใบ ภายในมคี ลอโรฟิ ลลจ์ ึงสามารถเกดิ กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้ การคายนา้ ของพืชมี ความสมั พนั ธก์ บั การลาเลยี งนา้ ของพืช ถา้ หากพืชคายนา้ ออกไปมากจะทาใหส้ ามารถดดู นา้ จากพ้ืนดนิ ที่มแี รธ่ าตุ ซึ่งเป็ น อาหารของพืชไดม้ ากเชน่ กนั ลกั ษณะการคายน้าของพืช 1 การคายนา้ ออกเป็ นไอนา้ เกดิ ขน้ึ ในเวลากลางวนั หรือในเวลาทีอ่ ณุ หภมู ิสงู โดยการแพรอ่ อกทางรปู ากใบ 2 การคายนา้ ออกเป็ นหยดนา้ เกิดขนึ้ ในขณะท่ีอากาศมีความชนื้ มาก พืชบางชนดิ จากดั ออกมาในรปู ของหยดนา้ ออกมาใน รปู ของหยดนา้ ทางรเู ปิ ดเล็กๆ ตามปลายทางของเสน้ ใบเรียกการคายนา้ แบบนี้ ว่า กตั เตซนั ประโยชนข์ องการคายน้า ทาใหเ้ กดิ การดดู นา้ ตามรากขนึ้ มาเพื่อรกั ษาสมดลุ ของนา้ ภายในสว่ นตา่ งๆ ของพืช

โ请คร输ง入ส你รา้ 的งแ题ล目ะหนา้ ที่ของใบ ปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อการคายน้า 1 แสงสว่าง ถา้ มแี สงสว่างมากเซลลค์ มุ พองตวั ทาใหป้ ากใบเปิ ดกวา้ งนา้ ระเหยออกมาทางปากใบไดม้ าก 2 อณุ หภมู ิ ถา้ อณุ หภมู สิ งู ทาใหค้ ายนา้ ไดร้ วดเร็วกวา่ 3 ความชนื้ ถา้ ความชนื้ ในอากาศตา่ จะคายนา้ ไดม้ าก แตถ่ า้ ความชนื้ ในอากาศสงู จะคายนา้ ไดน้ อ้ ยกวา่ 4 ลม ถา้ ลมแรงงจะทาใหค้ ายนา้ มากกว่าลมสงบ ชนิดของใบ 1 พืชทีม่ ีเสน้ ใบเรียงขนาดกนั เชน่ หญา้ ออ้ ย ตะไคร้ ไผ่ 2 พืชที่มเี สน้ ใบเป็ นรา่ งแห เชน่ มะมว่ ง มะขาม หกู วาง มะละกอ นอ้ ยหย่า ละมดุ โกสน มะลิ

โ请คร输ง入ส你รา้ 的งแ题ล目ะหนา้ ที่ของใบ หนา้ ท่ีของใบ ใบมหี นา้ ทีส่ รา้ งอาหาร โดยมีคลอโรฟิ ลลช์ ว่ ยในการดดู พลงั งานจากแสงแดดและมแี กส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ และนา้ เป็ น องคป์ ระกอบ เรียกกระบวนการสรา้ งอาหารของพืชวา่ “การสรา้ งเคราะหด์ ว้ ยแสง” นอกจากนย้ี งั ทาหนา้ ที่คายนา้ ทางปาก ใบอีกดว้ ย นอกจากนใี้ บของพืชบางชนดิ ยงั ชว่ ยทาหนา้ ทอ่ี ย่างอื่นอีก เชน่ ใบตาลงึ ใบมะระ ใบถวั่ ลนั เตา ทาหนา้ ที่ยึดและพยงุ ลาตน้ ใหไ้ ตข่ น้ึ ทสี่ งู ได้ - ใบกระบองเพชรจะเปล่ยี นเป็ นหนามแหลม เพ่ือลดการคายนา้ ของใบเนอื่ งจากกระบองเพชรดารงชวี ิตอย่ใู นท่ีแหง้ แลง้ ไมม่ นี า้ - ปลายใบหมอขา้ วหมอแกงลงิ ทดี่ ดั แปลงไปเป็ นอวยั วะทาหนา้ ทลี่ อ่ และดกั แมลงเป็ นอาหาร - ใบว่านหางจระเข้ กลบี ของกระเทียม และหวั หอม ทาหนา้ ที่สะสมอาหาร - ใบเศรษฐพี นั ลา้ นทาหนา้ ทีข่ ยายพนั ธไ์ุ ด้ โดยตามรอยหยกั ขอบใบจะมตี น้ อ่อนเกินขนึ้ เมื่อเตบิ โตจนถึงระยะหนง่ึ จะหยดุ ออกจากใบตกลงบนพื้นดนิ เมื่อไดร้ บั ความชมุ่ ชนื้ ก็จะเจริญเตบิ โตเป็ นตน้ ใหม่

อา้ งองิ : http://stu.rbru.ac.th/~s5415261038/chapter5.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook