Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ebook pre post op อัญชนา BCPN

ebook pre post op อัญชนา BCPN

Published by Anchana witwattanangoon, 2022-06-14 07:07:58

Description: ebook pre post op อัญชนา BCPN

Search

Read the Text Version

Pre – Post operative Nursing care อญั ชนา วชิ ช์วฒั นางกรู วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช.

วตั ถุประสงคข์ องการเรียน 1. มีความตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ของผปู้ ่ วยท่ีไดร้ บั การผา่ ตดั 2. มีความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั การพยาบาลผปู้ ่ วยในระยะกอ่ นและหลงั ผา่ ตดั ไดถ้ กู ตอ้ ง 3. บอกการพยาบาลผปู้ ่ วยในระยะกอ่ นการผา่ ตดั และหลงั ผา่ ตดั ไดถ้ กู ตอ้ ง 4. บอกภาวะแทรกซอ้ นของผปู้ ่ วยท่ีไดร้ บั การผา่ ตดั ไดถ้ กู ตอ้ ง 5. วางแผนการพยาบาลผปู้ ่ วยท่ีไดร้ บั การผา่ ตดั ไดถ้ กู ตอ้ ง



เริ่มตน้ การเตรียมผา่ ตดั อยา่ งไร เตรียมตนเอง ทราบชนิดการผา่ ตดั , ตาํ แหน่งผา่ ตดั ทราบชนิดของการใหย้ าระงบั ความรู้สึก ( GA, RA) ความรู้ในการใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั การผา่ ตดั แก่ผปู้ ่ วย และ การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั รับ Doctor’s order ใหถ้ ูกตอ้ ง และครบถว้ น เตรียมขอ้ มูล และเอกสารอยา่ งเป็นระบบ - แฟ้มประวตั ิของผปู้ ่ วย (OPD card) - ใบปรึกษาแพทยเ์ ฉพาะทาง (Med, Anesth) - ใบเซ็นยนิ ยอม (Informed consent) - แบบบนั ทึกการเตรียมผปู้ ่ วยก่อนผา่ ตดั - ผลการตรวจLab (CBC,BUN,Cr, E’lyte,Coag,LFT), CXR, EKG

ยาทต่ี ้องงด และ ยาทต่ี ้องรับประทานอย่างต่อเน่ือง ยาทต่ี อ้ งงดก่อนผ่าตดั ไดแ้ ก่ - ยารกั ษาโรคเบาหวาน (oral hypoglycemics ) ควรงดเชา้ วนั ผา่ ตดั - ยาตา้ นเกรด็ เลือด เชน่ แอสไพรนิ ควรงด 7 – 10 วนั ก่อนผา่ ตดั - ยาตา้ นการแขง็ ตวั ของเลอื ด (ควรปรกึ ษาแพทยเ์ จา้ ของไข)้ - Diuretics ยาทต่ี ้องรับประทานตอ่ เนื่องจนถงึ เช้าวันผ่าตดั ได้แก่ - ยาลดความดนั โลหติ สงู ยกเวน้ Diuretics เชน่ HCTZ - ยาตา้ นธยั รอยดฮ์ อรโ์ มน - ยาขยายหลอดเลอื ดหวั ใจ - ยาขยายหลอดลม ควรงดสบู บหุ รอ่ี ยา่ งนอ้ ย 2 สปั ดาหก์ อ่ นผา่ ตดั

การเตรียมผปู้ ่ วยสาํ หรับการผา่ ตดั ด้านจติ ใจ  สร้างสมั พนั ธภาพ เพอื่ ลดความวติ กกงั วล  อธิบายใหผ้ ปู้ ่ วยรับทราบ ขอ้ มูลเก่ียวกบั การผา่ ตดั ชนิด ข้นั ตอน วธิ ีการใหย้ าระงบั ความรู้สึก ภาวะแทรกซอ้ น และอาการหลงั ผา่ ตดั สอนการปฏิบตั ิตวั หลงั ผา่ ตดั (สอนการหายใจ, สอนการไอ) การประเมินอาการปวดหลงั ผา่ ตดั

Pre operative Teaching

ด้านร่างกาย การเตรียมผปู้ ่ วยสาํ หรับการผา่ ตดั  NPO เวลา................. (AMN),NPO ยกเวน้ ยา IกVารfใlหu้ iIdVดว้fยluTirdeeเวล-าw....a...y..,..(eตxาํ แtหeนn่งs,ioขnนาใดหพ้mรe้อมdใiชc้ ut) ต่อ set ความสะอาดร่างกายของผวิ หนงั บริเวณผา่ ตดั การระบุตวั ผปู้ ่ วย (ป้ายขอ้ มือ ชื่อ – สกลุ , HN) ไม่มีของมีค่า / ฟันปลอม ไม่มีชุดช้นั ใน ไม่เคลือบสีเลบ็ / ไม่มีสีเคลือบฟัน ไดร้ ับยา pre – medication คือ.........................

Pre medication ยา pre medication คือการใหย้ าก่อนการระงบั ความรู้สึก วตั ถุประสงคเ์ พ่ือ 1. ลดความวติ กกงั วลของผปู้ ่ วย (sedation)และจาํ เหตุการณ์ไม่ได้ (amnesia) 2. pre-emptive analgesia คือ ใหย้ าแกป้ วดก่อนที่จะมีบาดแผล 3. ลดความเส่ียงในการเกิดภาวะสูดสาํ ลกั อาหารเขา้ ปอด 4. ทาํ ใหร้ ะบบไหลเวยี นเลือด และความดนั เลือดคงที่ 5. ช่วยลดความตอ้ งการยาระงบั ความรู้สึกขณะผา่ ตดั 6. ลดการตอบสนองของระบบประสาทอตั โนมตั ิขณะนาํ สลบ

Pre medication 1. ยาคลายกงั วล ไดแ้ ก่ diazepam , midazolam 2. ยาแกป้ วด ไดแ้ ก่ กลุ่ม opioids และ NSAIDs 3. ยาป้องกนั คลื่นไสอ้ าเจียน คือ Metoclopramide Ondansetron 4. ยาลดกรด ไดแ้ ก่ ranitidine, omeprazole , 0.3 M sodium citrate 5.Steroids supplementary ไดแ้ ก่ hydrocortisone (ในกรณีท่ีผปู้ ่ วยใช้ steroids นานเกิน 1 เดือน)

การเตรียมเลือด จองเลือดวนั ท.่ี ................................... PRC ……. Unit FFP……. ml. Plt ……. Unit

ใบยนิ ยอมการผา่ ตดั





Anesthetic technique ❖ General Anesthesia : การระงบั ความรู้สกึ แบบท่วั ร่างกาย ❖ Regional Anesthesia : การระงบั ความรู้สกึ เฉพาะส่วน ❖ Conscious Sedation : การใหย้ าสงบประสาท ❖ Local / Topical Anesthesia : การบริหารยาชาเฉพาะที่ ❖ Monitor Anesthetic Care (MAC) : การเฝ้าระวังผู้ป่ วย

General Anesthesia General Anesthesia : GA : การใหย้ าระงบั ความรูส้ กึ ท่วั รา่ งกาย โดย การบรหิ ารยาหลายชนิดซง่ึ เสรมิ ฤทธิ์กนั ทาํ ใหผ้ ปู้ ่วยหมดสติ (unconscious) และไมต่ อบสนองตอ่ ส่งิ เรา้ ใดๆในขณะผา่ ตดั ปราศจากความเจบ็ ปวด (analgesia) ไม่สามารถจาํ เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในระหวา่ งการผา่ ตดั ได้ (amnesia) ดว้ ยการใหย้ าระงบั ความรู้สึกทางหลอดเลือดดาํ (intravenous anesthesia) หรือมีการสูดยาดมสลบเขา้ ทางระบบทางเดินหายใจ หลงั ยาสลบเริ่มหมดฤทธ์ิ ผปู้ ่ วยจะกลบั มารู้สึกตวั และรู้สึกเจบ็ ปวดบริเวณแผลผา่ ตดั รู้สึกง่วงนอน มึนงง อ่อนเพลีย หรือสูญเสียความทรงจาํ ชว่ั คราว คล่ืนไส้ อาเจียน ตวั สนั่ อาจเกิดข้ึนชวั่ ขณะ หลายนาที ไปจนหลายชว่ั โมง

General Anesthesia • Complication ระบบหายใจ ทางเดินหายใจอุดก้นั ( Airway obstruction) แทgปาloงลเดกttิปนiลหcอาแยมลใไจะปสกอ่วลุดน่อตตงนั น้เสเอชียุด่นงก(เ้นัลLือ(aดUrเypสnมpxหeะ)rเเศAกษิดiอrจาwาหกaาeรypแOiกgไ้blขosโttดtrยiusกcาตรtกทioไาํ ปnlปa)ิ ดrอyกุด้นัnตกgนัลoท่อsี่งบcเรสoิเียวpงณหeเหรนหือือรมือีส่ิง bronchoscope อีกสาเหตุเกิดจาก laryngospasm เกิดจากการการกระตุน้ ระหวา่ งผา่ ตดั ท่ีสลบลึกไม่พอ หรือพบในระยะตื่นจาก เสมหะตกลงไปกระตุน้ กล่องเสียง ทาํ ใหส้ ายเสียงปิ ดเฉียบพลนั เกิดภาวะหายใจ รลุนาํ บแารกงมราะกดอบั าoจต2อ้ งใในหเล้ sือuดตc่าcํ ลiงnแyกlcไ้ ขhโoดlยiใnหe้ อ0อก.5ซิเมจกน/ 1ก0ก0ห%รือช่วพยจิ กาารรณหาาใยสใ่ทจ่โอดชย่วใยชหC้ ายPใAจใPหถมา้่

General Anesthesia • การหดเกร็งของหลอดลม ( Bronchospasm ) พบบ่อยในผปู้ ่ วยหอบหืด hyperreactive airway เสมหะตกลงไป ช่วงนาํ สลบ เมื่อสลบลึกไม่พอ เมื่อเกิด Bronchospasm จะพบวา่ มีเสียง wheezing การรักษาโดย เพม่ิ ความเขม้ ขน้ ของออกซิเจนและยาดมสลบ เนื่องจาก ยาดมสลบมีฤทธ์ิขยายหลอดลม • การสาํ ลกั เขา้ ปอด (Pulmonary aspiration) จะอนั ตรายสูงถา้ สิ่งที่สาํ ลกั มี ปริมาณมากกวา่ 25 มล. และ pHต่าํ กวา่ 2.5 รักษาโดยใชส้ าย suction ขนาด ใหญ่ ดูดน้าํ ในปากออกมาใหม้ ากท่ีสุด จดั ท่านอนตะแคงศีรษะต่าํ เพ่มิ ความเขม้ ขน้ ของออกซิเจน

General Anesthesia • ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่าํ ( hypothermia) เกิดจาก อุณหภูมิหอ้ งเยน็ การไดร้ ับสารน้าํ และเลือดที่มีอุณหภูมิเยน็ กวา่ อุณหภูมิร่างกาย การระเหยของน้าํ และความร้อนของอวยั วะภายในช่องทอ้ งระหวา่ งการผา่ ตดั รวมไปถึงก๊าซท่ี ไม่มีความช้ืน ผลจากการท่ีอุณหภูมิร่างกายต่าํ ลง ทาํ ใหเ้ พิ่ม การทาํ งานของระบบประสาทอตั โนมตั ิ เพิ่ม periperal vascular resistance ผลเกิดจากความตอ้ งการของออกซิเจนมากข้ึน อาจทาํ ใหเ้ กิดภาวะหวั ใจขาดเลือดไปเล้ียง ยาบางตวั ขบั ออกชา้ ลง ทาํ ใหฟ้ ้ื นจากยาสลบชา้ การป้องกนั Keep warm การใชอ้ ุปกรณ์ทาํ ความช้ืน ใชส้ ารน้าํ อุน่ บริเวณท่ีทาํ ผา่ ตดั ใหส้ ารน้าํ อุน่ ทาง หลอดเลือดดาํ ควบคุมอุณหภูมิในหอ้ งผา่ ตดั ดว้ ย

General Anesthesia • ภาวะแทรกซอ้ นทาง metabolic Metabolic acidosis เกิดจากการท่ีเลอื ดไปเลีย้ งเนือ้ เย่ือไมพ่ อ จากภาวะหวั ใจวาย sepsis ปรมิ าณสารนา้ํ ในรา่ งกายไมพ่ อ อณุ หภมู ทิ ่ีต่าํ ลง ภาวะปรมิ าณออกซเิ จนในเลอื ดไม่ เพียงพอ เชน่ anemia การรกั ษาตามสาเหตุ ตดิ ตามและประเมินแกไ้ ขภาวะความไมส่ มดลุ ของ acid – base และ electrolyte ภาวะคล่ืนไส้อาเจยี นหลังผ่าตดั ( Nausea &vomiting ) เกิดจากยาสลบ , opioids นอกจากนีอ้ าจเกิดจากสาเหตุ ความดนั เลอื ดต่าํ ภาวะออกซเิ จน ในเลือดต่าํ การรกั ษา ใหย้ าแกค้ ล่นื ไสอ้ าเจียน เช่น metroclopramilde และ ondansetron

Spinal anesthesia โSดpยiยnาaชาlจaะnออeกsฤtทhธeิ์สsกiดัaกคนั้ อืกกาารนรราํ ะกงรบั ะคแวสาปมรระูส้สกึ าเทฉชพว่ างะรสะว่ยนะเโวดลยาฉหีดนย่งึ าชาเขา้ ชอ่ งนา้ํ ไขสนั หลงั ตาํ แหน่งท่ีนิยมในการแทงเข็มเพ่ือทาํ SB ไดแ้ ก่ ช่องระหวา่ ง L 3- 4 ใช้ Spinal needle No.25 หรอื No. 27 และ ยาชาท่ีใชค้ ือ 0.5% Heavy Marcaine. • นิยมทาํ สาํ หรบั การผ่าตดั - การผ่าตดั กระดกู lower extremity เช่น hip, femur, tibia, foot - การผา่ ตดั บรเิ วณ lower abdomen เช่น hernia, C/S - การผ่าตดั บรเิ วณ perineum เช่น anus, rectum, TUR-P

Spinal Anesthesia contraindication 1.ผปู้ ่ วยปฏิเสธ หลงั ไดร้ ับการอธิบายแลว้ 2.มี infection ตรงตาํ แหน่งท่ีจะทาํ การแทงเขม็ 3. ไดร้ ับ heparin, cuamadin, ticlid, plavic, pletaal, *4. ผปู้ ่ วยมีโรคเก่ียวกบั ระบบประสาทอยกู่ ่อนแลว้ (ถา้ motor grade 0 ทาํ SB ได้ ) *5. IICP เช่น เน้ืองอกในสมอง มีเลือดออกในสมอง หรือสมองบวมมาก *6. ผปู้ ่ วยที่มีภาวะ respiratory failure *7.ผปู้ ่ วยที่ภาวะ severe hypovolemia *8.ผปู้ ่ วยท่ีไม่ใหค้ วามร่วมมือในการจดั ท่า หรือการทดสอบระดบั การชา

Spinal Anesthesia Complication จากการทาํ spinal anesthesia (acute onset) 1. Hypotension 2. Bradycardia 3. High-total spinal block 4. Cardiac arrest 5. Anaphylaxis 6. Nausea /Vomiting 7. Paresthesia (เกิดจากneedle แทงโดน spinal nerve root) 8. shivering

Spinal Anesthesia Complication จากการทาํ spinal anesthesia (late onset) 1. backache (เกิดจากการแทงเขม็ หลายคร้ัง) 2. urinary retention( 6 ชม.ไม่ถ่ายปัสสาวะ อาจจาํ เป็นตอ้ งสวนปัสสาวะ) 3. postdural puncture headache (PDPH) (อาการปวดหวั ใน 24-72 ชม. จากการท่ี CSF รั่วออกจากไขสนั หลงั และสมองผา่ นทางรูท่ีแทงทะลุ dura mater หายเองใน 7 วนั ) 4. spinal, epidural hematoma (เลือดแขง็ ตวั ผดิ ปกติทาํ ใหเ้ กิดกอ้ นเลือดกดทบั ไขสนั หลงั ) 5. meningitis, arachnoiditis (จากการปนเป้ื อนแบคทีเรีย หรือ สารเคมี) 6. cauda equina syndrome (เกิดจากมี injury อาการปวดหลงั ร้าวลงขาท้งั 2 ขา้ ง ขาชาและอ่อนแรง ปัสสาวะไม่ออกและทอ้ งผกู จาํ เป็นตอ้ งไดร้ ับการผา่ ตดั ภายใน 24 ชม.เพื่อป้องกนั ความพิการ

position The supine ’s position The trendelenberg ’s position The lithotomy position The lateral decubitus position The prone position

การดแู ลเร่อื งทางเดนิ หายใจและการใหอ้ อกซิเจนเพ่ือลดความเส่ยี งตอ่ การเกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่าํ ❖ การเฝา้ ระวงั สญั ญาณชีพตอ่ เน่ือง (ความดนั โลหิต/ความเขม้ ของออกซเิ จนในเลอื ด/อตั ราการเตน้ ของ หวั ใจ) ❖ ประเมนิ ระดบั ความรูส้ กึ ตวั และการทาํ งานของกลา้ มเนือ้ ❖ ประเมินระดบั ความเจบ็ ปวด และใหก้ ารระงบั ปวดท่ีเหมาะสม ❖ การวดั อณุ หภมู ิกายและใหค้ วามอบอนุ่

แนวทางการดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั ขอ้ มูลที่บนั ทึกประกอบดว้ ย - ระดบั ความรู้สึกตวั - PR ,RR ,BP และความอิ่มตวั ของออกซิเจนในเลือด (SpO2) • ทุก 15 นาที จาํ นวน 4 คร้ัง • ทุก 30 นาที จาํ นวน 2 คร้ัง • วดั ทุก 1 ชั่วโมง จนกว่าสัญญาณชีพจะคงที่ และอยู่ในเกณฑ์ปกติ - ปริมาณออกซิเจนท่ีไดร้ ับ ( SPO2 ) - ระดบั ความเจบ็ ปวดในขณะอยนู่ ่ิงและเคล่ือนไหว - ชนิดและปริมาณสารน้าํ ที่ผปู้ ่ วยไดร้ ับ - ยาท่ีไดร้ ับ - ขอ้ มูลอ่ืนๆที่เก่ียวขอ้ งกบั ผปู้ ่ วยแต่ละราย: อุณหภูมิกาย,urine, CVP, end-tidal CO2, ปริมาณและสีของ drain ที่ใส่ เป็นตน้

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั ทางศัลยกรรมระบบต่างๆ • ศลั ยกรรมประสาท •ศลั ยกรรมตกแตง่ •ศลั ยกรรมชอ่ งทอ้ ง/หลอดเลอื ด •ศลั ยกรรมทางเดินปัสสาวะ •ศลั ยกรรมกระดกู •ศลั ยกรรมบรเิ วณศีรษะ ตา หู คอ จมกู คอ และเตา้ นม •ศลั ยกรรมนรเี วช และสตู ิกรรม

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั ทางศัลยกรรมประสาท หลกั การในการดแู ลผปู้ ่ วย •การดแู ลใหม้ ีเลือดไปเลีย้ งสมองใหเ้ พียงพอ •สงั เกตภาวะความดนั ในกะโหลกศีรษะและดแู ลไมใ่ ห้ มีการเพ่ิมขนึ้ ของความดนั ในกะโหลกศีรษะ (intracranial pressure; ICP) •สงั เกตการเปล่ยี นแปลงของ Neuro signs •การดแู ลท่วั ไป เชน่ ทางเดนิ หายใจ หนาวส่นั ภาวะคล่ืนไสอ้ าเจียน

ตอ้ งการ การดแู ลไม่ใหม้ กี ารเพมิ่ ขนึ้ ของความดันในกะโหลกศรี ษะ บางส่วน (intracranial pressure; ICP) • ศีรษะสูง คอไม่พบั /เอียง ทางเดินหายใจโล่ง •สายระบายเลือด Drain ไดต้ าํ แหน่งตามท่ีศลั ยแพทย์ •สงั เกตอาการของภาวะความดนั ในกะโหลกสูง ระยะแรก: ปวดศีรษะ ,N/V ,ตามวั ,ชกั ท้งั ตวั หรือกระตุก ระยะหลงั : BP สูง PR ชา้ (Cushing’s reflex) หายใจไม่สม่าํ เสมอ หรือหยดุ หายใจ ม่านตาขยาย แขนขางอเกร็ง/เหยยี ดเกร็งแบบผดิ ปกติ •การดแู ลท่วั ไป เชน่ shivering , N/V

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมตกแต่ง การผา่ ตดั ศลั ยกรรมความงามบรเิ วณใบหนา้ : - ดแู ลจดั ทา่ ใหศ้ ีรษะสงู เพ่ือลดบวม - ใหย้ าแกป้ วดใหเ้ พียงพอ - ใหย้ าปอ้ งกนั /แกไ้ ขอาการคล่ืนไสอ้ าเจียน

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมตกแต่ง • การผา่ ตดั จลุ ศลั ยกรรมของหลอดเลือด เช่น free flap - ดแู ลใหม้ ีเลือดไปเลีย้ งอยา่ งเพียงพอ: มีปรมิ าณเลือดไหลเวียนท่ีเพียงพอ , - ระดบั hematocrit - อยา่ ใหม้ ีการกดทบั บรเิ วณเนือ้ เย่ือท่ีนาํ มาตอ่ - ดแู ลการให้ dextran, heparin ตามคาํ ส่งั ศลั ยแพทย์ - เฝา้ ระวงั สภาวะขาดเลือดของเนือ้ เย่ือท่ีนาํ มาตอ่ โดยสงั เกตสี ความเยน็ /อนุ่ เป็นระยะๆ

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมตกแต่ง • การผา่ ตดั แผล burn - ดแู ลทางเดนิ หายใจ โดยเฉพาะ กรณี burn ท่ีมี inhalation injury รว่ มดว้ ย และผปู้ ่ วยท่ีมาตกแตง่ แผลเป็นจาก burn ท่ีบรเิ วณ ใบหนา้ และลาํ คอ ท่ีมีประวตั ิใสท่ อ่ หายใจยาก - ดแู ลใหส้ ารนา้ํ ใหเ้ พียงพอ และรกั ษาอณุ หภมู ิกายใหป้ กติ - ใหย้ าแกป้ วดใหเ้ พียงพอ

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมช่องทอ้ ง การผ่าตดั ช่องทอ้ งส่วนบน: กระเพาะอาหาร ตบั มา้ ม ถงุ นา้ํ ดี ลาํ ไสเ้ ลก็ การผ่าตัดช่องทอ้ งส่วนล่าง: ลาํ ไสเ้ ลก็ ลาํ ไสใ้ หญ่ - ควรใหอ้ อกซเิ จน กบั ผปู้ ่วยทกุ ราย และใหต้ อ่ ใน 24 ช่วั โมงแรก จากปัญหาเรอ่ื งการหายใจไมเ่ พียงพอได้ เน่ืองจากอาจมีทอ้ งอืด และปวดแผล - ดแู ลใหม้ ีระดบั ความดนั เลือด ปรมิ าณสารนา้ํ และ hematocrit ท่ี เหมาะสม อาจมีโอกาสเกิดภาวะพรอ่ งนา้ํ พรอ่ งเลอื ด หรอื มีตดิ เชือ้ ในกระแสเลือด ไดม้ าก - ผปู้ ่วยบางราย อาจมีโรครว่ มซง่ึ ตอ้ งการการดแู ลท่ีเฉพาะ

การผ่าตดั ช่องท้องโดยวธิ ีส่องกล้อง (laparoscopic surgery) - เจบ็ ปวดนอ้ ยกวา่ การผา่ ตดั เปิ ดช่องทอ้ ง - มีความเสี่ยงในการเกิดคล่ืนไสอ้ าเจียนมากกวา่ ปกติ - เฝ้าระวงั ความเสี่ยงท่ีเกิดจากลมที่ใส่เขา้ ในช่องทอ้ ง กระจายไปสู่อวยั วะขา้ งเคียงและทาํ ใหเ้ กิดอนั ตรายไดเ้ ช่น gas embolism, pneumothorax

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมทางเดินปัสสาวะ การผ่าตดั ตอ่ มลูกหมากแบบส่องกล้อง (TUR-P) - เฝา้ ระวงั การเกิด TUR-P syndrome (สารนา้ํ เกิน ระดบั โซเดียม ในเลือดต่าํ สบั สน ความดนั โลหิตสงู เม็ดเลือดแดงแตก) - เฝา้ ระวงั ภาวะขา้ งเคียงอ่ืนๆ เชน่ กระเพาะปัสสาวะแตก ,ติดเชือ้ ใน กระแสเลอื ด เลอื ดออกมาก ,อณุ หภมู ิกายต่าํ - ดแู ลใหผ้ ปู้ ่ วยไดร้ บั การ irrigate bladder(สวนลา้ งกระเพาะ ปัสสาวะ) อยา่ งปลอดภยั

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมทางเดินปัสสาวะ การผ่าตัดนิ่วในไตแบบเจาะ (PCNL) - เฝา้ ระวงั ผลขา้ งเคียงของการผา่ ตดั เชน่ pneumothorax บาดเจ็บตอ่ เนือ้ ไต ตดิ เชือ้ ในกระแสเลือด อณุ หภมู ิกายต่าํ

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมกระดูก การดแู ลและเฝ้าระวงั เฝื อก - ควรตรวจสอบวา่ เฝือกมีการกดทบั ป่ มุ กระดกู หรอื ไม่ ขอบเฝือกเรยี บดหี รอื ไม่ - ตรวจสอบวา่ เฝือกรดั แน่นเกินไปจนทาํ ใหเ้ กิดการกดหลอดเลือดท่ีไปเลีย้ งเนือ้ เย่ือ สว่ นปลาย หรอื กดเสน้ ประสาทหรอื ไม่ ควรคลาํ ชีพจรสว่ นปลายตอ่ เฝือกถา้ ทาํ ได้

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมกระดูก การผ่าตดั บริเวณแขนและมือ - ควรยกหรือหนุนส่วนท่ีผา่ ตดั ใหอ้ ยสู่ ูงกวา่ ระดบั หวั ใจ - เฝ้าระวงั ภาวะแทรกซอ้ นท่ีเกิดจากการทาํ brachial plexus block เช่น pneumothorax

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมกระดูก • การผา่ ตดั บริเวณขาและเทา้ - ควรยกหรือหนุนส่วนที่ผา่ ตดั ใหอ้ ยสู่ ูงกวา่ ระดบั หวั ใจ - เฝ้าระวงั ภาวะแทรกซอ้ นอื่นๆ เช่น fat embolism, thromboembolism, compartmental syndrome

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมกระดูก การผ่าตดั บริเวณสะโพกและเชิงกราน - ควรจดั ใหน้ อนราบ ขากางออกเลก็ นอ้ ย โดยใชห้ มอนคนั่ ระหวา่ งขาหรือวางบนกล่องที่ทาไวเ้ ฉพาะ - ตรวจปลายเทา้ วา่ เลือดไหลเวยี นดี - เฝ้าระวงั เร่ืองระบบไหลเวยี นไม่คงท่ี เน่ืองจากเสียเลือดมาก - เฝ้าระวงั การเกิด delirium ในผปู้ ่ วยสูงอายุ - เฝ้าระวงั การเกิด fat embolism, thromboembolism

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ทางศลั ยกรรมกระดูก • Fat embolism syndrome (FES) เกิดจากไขมนั ใน bone marrow หลุดเขา้ ไปในหลอดเลือด ทาํ ใหค้ วามดนั เลือดตก ชีพจรไม่สม่าํ เสมอ ขาดออกซิเจน หมดสติ มีจุดเลือดออกตามตวั และเลือดออกจากแผลมากกวา่ ปกติ - พบใน long bone fracture, knee replacement, hip replacement, spine surgery with instrumentation • Compartmental syndrome เกิดจากช่องกลา้ มเน้ือมีความดนั สูง ทาํ ใหเ้ ลือดไหลเวยี นไม่สะดวก เกิดกลา้ มเน้ือตาย ระยะแรกผปู้ ่ วยจะปวดมากเมื่อขยบั ต่อมาจะมีอาการชา บวม ปลายมือหรือเทา้ ซีดหรือสีคล้าํ คลาํ ชีพจรส่วนปลายไม่ได้

การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ตา - กรณีผา่ ตดั ในลูกตา ตอ้ งดูแลไม่ใหค้ วามดนั ในลูกตาสูง (intraocular pressure; IOP) ขโอ้ดหยหา้ มลีกเลี่ยงการไอ/เบ่ง ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนนิ่งๆ อาจใหศ้ ีรษะสูงเลก็ นอ้ ยถา้ ไม่มี รักษาระดบั ความดนั เลือดใหป้ กติ ม- ไากม่ค่อยปวดนกั paracetamol หรือ opioid ที่ออกฤทธ์ิส้นั ถา้ ปวด - มีโอกาสเกิดคลื่นไส้อาเจียนไดม้ าก จึงควรใหย้ าป้องกนั / แกไ้ ข - เฝ้าระวงั ผลแทรกซอ้ นจากการทาํ retrobulbar block

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั หู - จดั ท่าใหศ้ ีรษะสูงเลก็ นอ้ ยเพ่อื ลดบวม - มีโอกาสเกิดคลื่นไสอ้ าเจียนไดม้ ากจึงควรใหย้ าป้องกนั / แกไ้ ขภาวะน้ี - เฝ้าระวงั อาการบาดเจบ็ ของเสน้ ประสาท เช่น facial nerve (ปากเบ้ียว) ที่อาจเกิดจากการผา่ ตดั

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั จมูก และโพรงจมูก - จดั ท่าใหศ้ ีรษะสูงเลก็ นอ้ ยเพ่อื ลดบวม - ถา้ แน่นจมูกมากอาจหยอดยาท่ีมีฤทธ์ิตีบหลอดเลือด เช่น iliadrin แต่ตอ้ ง ระวงั การเกิดความดนั เลือดสูง - มีโอกาสเกิดคลื่นไส้อาเจียนไดจ้ ากการกลืนเลือดลงไปในกระเพาะจึงควรให้ ยาป้องกนั / แกไ้ ข - ดูดเลือดในช่องจมูกดว้ ยความระมดั ระวงั - ผปู้ ่ วยบางรายมีการ pack จมูก อาจหายใจไม่สะดวก อธิบายใหผ้ ปู้ ่ วยเขา้ ใจ

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั tonsillectomy และ adenoidectomy - จดั ท่า recovery position (tonsil position) เพ่อื ใหท้ าง หายใจโล่งและเลือดไม่ไหลลงคอ - ถา้ แน่นจมูกมาก ใหห้ ยอดยาที่มีฤทธ์ิตีบหลอดเลือด เช่น iliadrin แต่ตอ้ งระวงั การเกิดความดนั เลือดสูงได้ - มีโอกาสเกิดคลื่นไส้อาเจียนจากการกลืนเลือดลงไปในกระเพาะ - หา้ มดูดเลือดในช่องจมูกและในปาก ตอ้ งทาํ ดว้ ยความระวงั - อาจเกิดเน้ือเยอ่ื บวมจนมีภาวะทางหายใจอุดก้นั ได้

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั ต่อมไทรอยด์ อาจเกิดทางหายใจอุดก้นั หลงั ผา่ ตดั ไดจ้ าก •hematoma, recurrent laryngeal nerve injury, tracheomalacia ถา้ กอ้ นไทรอยดม์ ีขนาดใหญ่มาก และกด trachea อยนู่ าน - กรณีทาํ total thyroidectomy ท่ีมีการตดั ต่อม parathyroid ออกไปหมด ผปู้ ่ วยอาจเกิด hypocalcemia ได้ : กลา้ มเน้ือกระตุก เกร็งท่ี ใบหนา้ และแขน หวั ใจเตน้ ผดิ จงั หวะได้

การดูแลผู้ป่ วยทผ่ี ่าตดั เต้านม - ไม่วดั ความดนั หรือใหน้ ้าํ เกลือ แขนขา้ งที่มีการเลาะต่อมน้าํ เหลืองท่ีรักแร้ออก - ดูแลรักษาอุณหภูมิกาย ใหย้ าแกป้ วดตามความเหมาะสม

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั ทางศัลยกรรมนรีเวช • การผา่ ตดั โดยการเปิดชอ่ งทอ้ ง - ผา่ ตดั นาน มีการเสยี เลือดมาก บางรายมี ascites ก็มีภาวะพรอ่ งนา้ํ ไดง้ า่ ย - ดแู ลใหอ้ ณุ หภมู ิกายปกติ - ดแู ลใหย้ าแกป้ วดอยา่ งเหมาะสม - ใหย้ าปอ้ งกนั /แกไ้ ขภาวะคล่ืนไสอ้ าเจียนหลงั ผา่ ตดั

การดูแลผู้ป่ วยหลงั ผ่าตดั ทางสูตกิ รรม - ตรวจสอบประวตั ิต้งั ครรภว์ า่ มีความผดิ ปกติอะไรบา้ ง เช่น ซีด ครรภเ์ ป็นพษิ (pre-eclampsia, eclampsia) รวมถึงโรคประจาํ ตวั อื่นของผปู้ ่ วย - ผปู้ ่ วยครรภเ์ ป็นพิษที่ไดร้ ับการรักษาดว้ ย magnesium เฝ้าระวงั ความดนั โลหิตสูง และสงั เกตอาการชกั - ตรวจสอบการแขง็ ตวั ของมดลูกและดูแลใหไ้ ดร้ ับยาเพิม่ การบีบตวั ของมดลูก เพ่ือป้องกนั การตกเลือด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook