Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-bookโปราณเปาราณ.

E-bookโปราณเปาราณ.

Published by โปราณเปาราณ, 2020-10-14 11:03:53

Description: E-bookโปราณเปาราณ.

Search

Read the Text Version

โปราณเปาราณ บา้ นจ่าทวี มีมาแลว้ ชา้ นาน หากเราช่วยกนั อนรุ กั ษ์ และชว่ ยกนั จดจา ของโบราณก็จะไมห่ ายไปไหน

คำนำ หนังสือเร่ืองโปรราณเปาราณนี้ จัดทาข้ึนเพื่อเก็บ บันทึกภาพและขอ้ มลู ของพิพิธภัณฑ์บา้ นจ่าทวี ซ่ึงภายใน เน้ือหาจะประกอบไปดว้ ยรปู ภาพของเก่าโบราณ รปู ภาพ บา้ นท้ัง ๕ หลังที่อย่ใู นพิพิธภัณฑ์บ้านจ่าทวีพร้อมขอ้ มลู และประวตั คิ วามเป็ นมาของจ่าทวี เพ่ือตอ้ งการอนรุ ักษว์ ัตถุ โบราณใหค้ งอยคู่ ่คู นไทยไมใ่ หห้ ายสาบสญู ไป ทางคณะผจู้ ดั ทาขอขอบคณุ ทางพิพิธภัณฑบ์ า้ นจ่าทวี ท่ใี หค้ วามอนเุ คราะห์เขา้ ไปถ่ายทา และหาขอ้ มลู มาจัดทาเป็ น หนงั สอื ทางคณะผจู้ ัดทาหวังว่าหนังสอื เล่มนจี้ ะมีประโยชน์ แก่ผทู้ ี่มีความสนใจในวัตถโุ บราณหรือคนร่นุ หลังสืบตอ่ ไป คณะผจู้ ดั ทา

สำรบญั หนา้ เรอื่ ง ๑-๒ ๓-๔ ประวัติจา่ สบิ เอก ดร.ทวี บรู ณเขตต์ ๕ การกอ่ ตง้ั พิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวี ๕ สถานทตี่ งั้ พิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวี ๖ เวลาทาการ ๗ การเดนิ ทาง ๘-๙ ค่าเขา้ ชม ๑0-๑๑ อาคารพิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวีหลงั ที่๑ ๑๒-๑๔ อาคารพิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวีหลงั ท่ี๒ ๑๕-๑๖ อาคารพิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวีหลงั ท่ี๓ ๑๗-๑๙ อาคารพิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวีหลงั ที่๔ ๒0 อาคารพิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวีหลงั ที่๕ แหลง่ อา้ งองิ

วีดีโอ พิพิธภณั ฑบ์ า้ นจา่ ทวี https://www.youtube.com/watch?v=x11582cPzbo

๑ จ่ำสบิ เอก ดร.ทวี บรู ณเขตต์ จ.ส.อ.ดร.ทวี บรู ณเขตต์ เป็ นชาวจังหวัดพิษณโุ ลก เป็ น จา่ สบิ เอกทวี บรู ณเขตต์ หรือทช่ี าวพิษณโุ ลกมกั เรยี กวา่ บตุ รชายคนที่ ๒ ของนายทิว บูรณะเขตต์ มีพ่ีนอ้ งทั้งหมด \"ลงุ จา่ หรอื จา่ ทวี\" เป็ นชาวพิษณโุ ลกแต่กาเนิด ไดร้ ับความรู้ ๑๒ คน สมรสกบั นางพิมพ์ พันธเ์ุ สน มบี ตุ ร ธิดารวม ๖ คน ดา้ นชา่ งศิลป์ จากบิดา หลงั จากนั้นเขา้ กรงุ เทพฯ ฝึ กหัดและ ในวัยเด็กมีโอกาสเรียนรงู้ านช่างศิลป์ หลายอย่างจากบิดา เป็ นช่างวาดประจารา้ นชา่ งศิลป์ หลายแห่ง เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๘ เม่ือเรียนจบชั้นมัธยมปี ท่ี ๓ จากโรงเรียนผดงุ ราษฎร์แลว้ รบั ราชการทหารตดิ ยศสบิ ตรี ตอ่ มาพ.ศ. ๒๕o๒ กองทพั ภาค ไม่ไดเ้ รียนต่อเพราะฐานะทางบา้ นยากจน จึงเริ่มทางาน ที่ ๓ สง่ ไปฝึ กงานหลอ่ โลหะท่ีกรมศลิ ปากร ตอ่ มาจงึ ยึดอาชีพ รบั จา้ งเขยี นป้ าย เขยี นภาพ และงานศลิ ปะตา่ ง ๆ ปั้น หล่อโลหะ โดยเฉพาะพระพทุ ธรปู พระประธาน และพระ ทาใหเ้ ชยี่ วชาญงานดา้ นนมี้ ากยิง่ ขนึ้ บชู าตา่ ง ๆ พ.ศ. ๒๕๒๑ ลาออกจากราชการ ดว้ ยรักในศิลปะ และเห็นในคณุ คา่ ของใชพ้ ้นื บา้ น กลับสสู่ ำรบญั

๒ ลงุ จ่าเร่ิมซื้อหาและรวบรวมของใชพ้ ้ืนบา้ นที่คนทวั่ ไป ความตงั้ ใจของจา่ สิบเอก ดร.ทวี บรู ณเขตต์ มองว่าเป็ นของรกของทิ้ง ไม่มีราคาเช่น ส่มุ ไห ไซ โอ่ง ผกู้ อ่ ตง้ั พพิ ธิ ภณั ฑพ์ น้ื บา้ นจ่าทวี ฯลฯ โดยสะสมมานานกว่า ๓o ปี จนนาไปส่กู ารเกิด พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวีในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ขา้ วของ “อยากใหค้ นร่นุ ใหมไ่ ดเ้ ห็นคณุ ค่าของอดตี เครื่องใชพ้ ้ืนบา้ น ส่วนใหญล่ งุ จ่าไดม้ าจากพื้นที่ภาคเหนือ และเก็บความทรงจาอนั มคี า่ เหลา่ นนั้ ตอนล่าง ได้แก่ นครสวรรค์ พิจิตร กาแพงเพชร อยคู่ ่กู บั เมอื งไทยตลอดไป” เพชรบูรณ์ ตาก สโุ ขทัย อตุ รดิตถ์ โดยเฉพาะอย่างย่ิง จากพิษณโุ ลก ของบางอย่างลงุ จ่าตอ้ งด้ันดน้ เขา้ ไปหา เองในป่ า ไม่มีราคาค่างวด แต่มีคุณค่า ซ่ึงผู้ชมจะได้ เรียนรู้ ชีวิต ความเช่ือ ความคิดของคนในอดีตจากขา้ ว ของเคร่ืองใชเ้ หลา่ นี้ กลบั สสู่ ำรบญั

การก่อตง้ั พพิ ธิ ภณั ฑพ์ นื้ บา้ นจา่ ทวี ๓ พิพิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ นจ่าทวี กาเนิดข้นึ ดว้ ยนา้ พักนา้ แรง พพิ ิธภณั ฑบ์ ำ้ นจำ่ ทวี ดว้ ยชวี ิตจิตใจของ (ลงุ จ่า) หรือจ่าสิบเอกทวี บรู ณเขตต์ โดยการใชเ้ งินจากนา้ พักน้าแรง เก็บรวมรวมซ้ือหาขา้ ว ของเครื่องใชข้ องชาวบา้ นมาสะสมไวเ้ ป็ นจานวนนับหม่ืน ช้ิน ม่งุ เนน้ ของท่ีเจา้ ของเลิกใชง้ านแลว้ และเร่ิมสรา้ ง พิพิธภณั ฑ์ โดยทปี่ ้ าพิมพ์กับลกู ๆ ท้ัง ๖ คน ไมช่ อบใจกับ พิพิธภณั ฑน์ กั คนนอกครอบครวั ก็ไมเ่ ขา้ ใจคิดว่าลงุ จ่าเป็ น โรคประสาท (บ้าสมบัติ) แต่ลุงจ่าก็ประคับประคอง พิพิธภณั ฑม์ าเกอื บ ๔o ปี แลว้ กลบั สสู่ ำรบญั

๔ พิพิธภณั ฑ์พื้นบา้ นจ่าทวี เป็ นสถานที่ที่เล่าเรื่องราว วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม จากอดีตสู่ปั จจุบัน เมื่อ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี ตั้งอย่ทู ี่ถนนวิสทุ ธิ ย่างเทา้ เขา้ ไปจะรสู้ ึกเหมือนเขา้ ไปในบา้ นตัวเอง มีร่ม กษตั ริย์ ในตวั เมืองพิษณโุ ลก เป็ นท่ีเก็บรวบรวมขา้ ว เงาของตน้ ไมน้ อ้ ยใหญ่และไมท้ ่ีประกอบเป็ นรปู สัตว์ ของเคร่ืองใชพ้ ้ืนบา้ น ซ่ึงเป็ นเคร่ืองมือทามาหากิน ต่างๆ และบ่อน้าสมัยโบราณ ภายในจัดแสดงวัสดุ ของชาวบา้ นในอดีต ต้ังแต่ชิ้นเล็ก ๆ จนถึงช้ินใหญ่ อปุ กรณ์ เลา่ เรื่องราวรอ้ ยเรียงการดาเนินชีวิตของคน เช่น เคร่ืองจักสาน เคร่ืองปั้นดินเผา เคร่ืองใช้ใน ไทยไดเ้ ป็ นอย่างดี ทาใหน้ กั ท่องเท่ียวที่ชอบชอ้ ปรสู้ ึก ครวั เรือน เคร่ืองใชใ้ นการประกอบอาชีพ เช่น เครื่อง เพลิดเพลินไปชวั่ ขณะ และยังมีพันธป์ุ ลาต่าง ๆ ใหช้ ม วิดน้าด้วยมือ เคร่ืองสีขา้ ว เครื่องมือดักจับสัตว์ รวมถึงแบบจาลองวิถีชีวิตของคนไทยสมัยโบราณ รวมกันแลว้ นบั หม่ืนชิ้น จนไดร้ ับการยอมรับว่าเป็ น จนถึงปั จจุบัน ให้รู้สึกรักและหวงแหนพิพิธภัณฑ์ ขมุ ทรัพยท์ างประวัติศาสตร์และภมู ิปัญญาไทย และ พ้ืนบา้ นจ่าทวี ทท่ี รงคณุ คา่ แหง่ น้ี ไดร้ ับรางวัลยอดเยี่ยมอตุ สาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประเภทหนว่ ยงานส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว เมือ่ ปี ๒๕๔๑ กลับสสู่ ำรบญั

๕ สถานทีต่ งั้ ของพิพิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ นจา่ ทวี เวลาทาการ ทอ่ี ยู่ ๒๖/๔๓ ถนนวิสทุ ธิ์กษตั ริย์ ตาบลในเมอื ง วันอาทิตย:์ o๘:๓o - ๑๖:๓o อาเภอเมอื งพิษณโุ ลก จงั หวัดพิษณโุ ลก ๖๕ooo วนั องั คาร: o๘:๓o - ๑๖:๓o พิกดั GPS: ละติจดู ๑๖.๘o๖๑o๒ วนั พธุ : o๘:๓o - ๑๖:๓o ลองจิจดู ๑oo.๒๖๗๒๘๒ooooooo๒ วันพฤหัสบด:ี o๘:๓o - ๑๖:๓o วนั ศกุ ร:์ o๘:๓o – ๑๖:๓o วนั เสาร:์ o๘:๓o - ๑๖:๓o หมายเหตเุ วลาทาการ : หยดุ ทกุ วันจนั ทร์ เบอรต์ ดิ ตอ่ (0๕๕) ๒๕๒ - ๑๒๑ กลับสสู่ ำรบญั

๖ วิธีที่ ๒ : เดินทางโดย รถสองแถว/สามลอ้ การเดนิ ทาง นงั่ รถสามลอ้ เล็กจากสถานขี นสง่ ผโู้ ดยสารแหง่ ท่ี ๑ (ในเมอื ง) ไปพิพิธภณั ฑพ์ ื้นบา้ น จ่าทวี วธิ ที ่ี ๑ : เดนิ ทางโดย รถยนต์ คา่ ใชจ้ า่ ย : รถสองแถว/สามลอ้ = ๗o บาท เดินจากที่ว่าการอาเภอเมืองพิษณโุ ลก ขา้ ม สะพานนเรศวร ผ่านหา้ งสรรพสินคา้ ท็อปแลนด์ ลอดใต้ สะพานสงู เล้ียวซา้ ย มองเห็นสี่แยกไฟแดง(สี่แยกบา้ นแขก) ใหเ้ ลี้ยวซา้ ยอีกคร้ัง ขบั ตรงไป แลว้ ขา้ มทางรถไฟยังตรง ต่อไปมาทางถนนพระองค์ดา เจอแยกเลี้ยวขาวเขา้ ถนน วสิ ทุ ธกิ์ ษตั ริยอ์ ีก ๒ กโิ ลเมตรถงึ พิพิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ นจ่าทวี หมายเหต ุ: ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางมกี ารเปลี่ยนแปลงได้ ขน้ึ อยกู่ บั หมายเหต ุ: ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางมกี ารเปลย่ี นแปลงได้ ขน้ึ อยกู่ ับ ปัจจยั ตา่ งๆ และสภาวะเศรษฐกิจ ปัจจยั ตา่ งๆ และสภาวะเศรษฐกิจ กลบั สสู่ ำรบญั

๗ คา่ เขา้ ชม วธิ ที ี่ ๓ : เดินทางโดย รถสองแถว/สามลอ้ ราคาค่าเขา้ ชม: มีคา่ ใชจ้ ่าย นงั่ รถสามลอ้ เล็กจากสถานีขนสง่ ผโู้ ดยสารแห่งที่ ๒ ไป รายการ ราคา(บาท) พิพิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ น จ่าทวี ๑oo ค่าใชจ้ า่ ย : รถสองแถว/สามลอ้ = ๑๒o บาท ต่างชาติ ผใู้ หญ่ ๑oo ตา่ งชาติ เด็ก ๕o ไทย ผใู้ หญ่ ๒o ไทย เด็ก หมายเหต ุ: ค่าใชจ้ ่ายในการเดินทางมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขน้ึ อยู่ กบั ปัจจัยตา่ งๆ และสภาวะเศรษฐกิจ กลบั สสู่ ำรบญั

๘ เป็ นอาคารสานักงานและจาหน่ายของที่ระลึก เช่น หมวก รถของเล่น พัด ดาบ ขล่ยุ และของน่ารัก ๆ อาคารท่ี ๑ หลายอย่างใหเ้ ลือกซ้ือเป็ นของที่ระลึกไปฝากท่านที่ไม่ ไดม้ าเทยี่ วดว้ ยกนั ได้ อาคารหลงั แรก เป็ นบา้ นไมท้ เี่ จา้ ของเดิมสรา้ งขนึ้ หลัง เหตกุ ารณไ์ ฟไหมย้ ่านตลาดเมอื งพิษณโุ ลก ร่นุ บกุ เบิก ใช้ จัดแสดงรปู ภาพเก่าที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ทอ้ งถิ่น พิษณโุ ลก อาทิ รปู การออกตรวจราชการงานเมืองใน อดตี , รปู เหตกุ ารณไ์ ฟไหม้ ปี พ.ศ.๒๕00, รปู ทศั นียภาพ เมอื งพิษณโุ ลกก่อนและหลงั ไฟไหมใ้ หญ่, ภาพของดีเมือง พิษณโุ ลก และภาพชมุ ชนสาคญั ในอดตี เป็ นตน้ กลับสสู่ ำรบญั

๙ ของที่ระลกึ กลบั สสู่ ำรบญั

๑0 สมนุ ไพร ยาโบราณ อาคารท่ี ๒ คาวา่ สมนุ ไพร ตามพระราชบญั ญัตหิ มายความถึง ยาที่ไดจ้ ากพืช สตั ว์ และแร่ ซง่ึ ยงั มไิ ดม้ กี ารผสมปรงุ หรอื แปรสภาพ อาคาร ๒ เป็ นอาคารไมเ้ กา่ ๒ ชนั้ ภายในบา้ นหลังนี้จัด (ยกเวน้ การทาใหแ้ หง้ ) เชน่ พชื ก็ยงั คงเป็ นสว่ นของราก ลาตน้ ใบ ดอก แสดงภาพประวัติศาสตร์ทอ้ งถ่ินพิษณโุ ลก ของ ผล ฯลฯ ยังไม่ไดผ้ ่านขั้นตอนการแปรรปู ใดๆ เช่น การหัน่ การบด โบราณต่าง ๆ เช่น แบบจาลองเรือ และเรือน การกลนั่ การสกดั แยก รวมทัง้ การผสมกบั สารอื่นๆ แตใ่ นทางการคา้ สมัยโบราณ รวมถึงขา้ วของเครื่องใช้ สมนุ ไพร สมนุ ไพรมกั จะถกู ดดั แปลงในรปู แบบ ตา่ งๆ เชน่ ถกู หัน่ เป็ นชนิ้ เล็กลง ยาโบราณตา่ ง ๆ เป็ นตน้ บดใหเ้ ป็ นผง อัดใหเ้ ป็ นแท่ง หรือปอกเปลือกออก เป็ นตน้ เม่ือพดู ถึง สมนุ ไพร คนทัว่ ๆ ไปมกั จะนกึ ถึงเฉพาะพืชที่นามาใชป้ ระโยชนใ์ นทางยา ทง้ั นเ้ี พราะ สัตว์ และแร่มีการใชน้ อ้ ย จะใชเ้ ฉพาะในโรคบางชนิดเท่านน้ั เช่น ใบฟ้ าทะลายโจร ใบย่านาง และกาฝากมะม่วงมะนาว กา้ นสะเดา และเถาบอระเพ็ดสด ฯลฯ กลับสสู่ ำรบญั

เตารีดโบราณ ๑๑ เตารีด (อังกฤษ: iron) เป็ นอปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการกาจดั รอยยับบน เตารีดสมยั แรกๆ ในชว่ งครสิ ตศ์ ตวรรษที่ ๑๗ จะเป็ นเตารีดแบบ เสอ้ื ผา้ โดยใชค้ วามรอ้ น, รปู ร่างเป็ นอปุ กรณท์ ่ีมีฐานลา่ ง อังไฟ ซึ่งประกอบดว้ ยเหล็กหลอ่ รปู สามเหลี่ยมแบน มีดา้ มจับเป็ นไม้ เป็ นโลหะเรียบรปู สามเหล่ียม และดา้ นบนมีมือจับ โดย ซง่ึ ตอ้ งนาไปอังไฟใหร้ อ้ นก่อนใชง้ าน ในยคุ ต่อมาไดม้ ีการออกแบบเตา วิธีใชท้ ัว่ ไปจะตอ้ งทาใหเ้ ตารีดรอ้ น แลว้ จึงนาไปรีดบน รีดใหม้ ีช่องว่างดา้ นในสาหรับใส่ถ่านไมห้ รือถ่านหินเพื่อใหค้ วามรอ้ น รอยยับ เสน้ ใยผา้ จะคลายตัวเม่ือเจอกับความรอ้ น เม่ือ สว่ นเตารีดในยคุ ปัจจบุ ันจะใหค้ วามรอ้ นดว้ ยไฟฟ้ าแทน ถกู รดี นา้ หนกั ที่กดทับจะทาใหเ้ สน้ ใยถกู ยืดเป็ นแนวตรง (โดยจา่ ยไฟผา่ นลวดความรอ้ นท่ีอยใู่ นสว่ นฐานของเตารดี ) เมื่อความรอ้ นหมดไป เสน้ ใยจะคงรปู ร่างท่ีเรียบเอาไว้ โดยเสน้ ใยบางชนดิ เช่น ฝ้ าย จะตอ้ งใชน้ า้ ร่วมกับความ รอ้ นในการรดี ดว้ ย กลบั สสู่ ำรบญั

๑๒ อาคารที่ ๓ มี ๒ ช้ัน ชั้นล่าง จัดแสดงเสื้อผา้ เครื่องแต่งกาย ขา้ วของ เครื่องใชพ้ ื้นบา้ นไทยในอดีต เช่น เคร่ืองจักรสาน ไม้ นวดขา้ ว หมอ้ บดยา กระต่ายขดู มะพร้าว เหรียญ ธนบัตร ส่วนช้ันบน เป็ นเคร่ืองป้ันดินเผา เครื่อง ดนตรี ของเลน่ เครื่องทองเหลอื ง อาวธุ ตา่ งๆ กลบั สสู่ ำรบญั

เครื่องจกั รสานทอ่ ผา้ ๑๓ เคร่ืองที่ประสานดา้ ยยาว ๒ เสน้ ไวด้ ว้ ยกนั โดยวธิ สี อดสลบั เคร่ืองปั้นดินเผา เสน้ ดา้ ยไปมาตามแบบเพ่อื ทอใหเ้ ป็ นผนื ผา้ ออกมา เสน้ ดา้ ยยนื จะถกู ขงึ ตงึ ไวก้ บั เครือ่ งทอผา้ เสน้ ดา้ ยนจ้ี ะถกู ยกขนึ้ และดงึ ลงเพอื่ ทาใหเ้ กดิ เครอื่ งป้ันดนิ เผา มคี วามผกู พันกบั การดารงชวี ิตของมนษุ ยม์ าตงั้ แต่ ชอ่ งวางหรอื รอ่ งกระสวย จากนนั้ กระสวยท่ีนาเสน้ ดา้ ยพงุ่ จะวิ่งผา่ น สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ เพราะมนษุ ยไ์ ดใ้ ชเ้ ป็ นเครอื่ งใชไ้ มส้ อยในชวี ิต ชอ่ งวา่ งนไี้ ปมาเสน้ ดา้ ยเหลา่ นส้ี ามารถทอไดห้ ลายรปู แบบ ประจาวนั บรรจอุ าหารและสง่ิ ของ ฉะนน้ั จงึ ไดม้ กี ารประดษิ ฐค์ ิดคน้ และปรบั ปรงุ เทคโนโลยีตา่ ง ๆ อย่ตู ลอดเวลา จากการสารวจแหลง่ โบราณ คดใี นประเทศไทย พบวา่ นบั ตง้ั แตร่ าวพทุ ธศตวรรษท่ี ๑๕-๑๖ เป็ นตน้ มา ในพ้ืนท่ีของราชอาณาจักรไทยไดป้ รากฏแหล่ง เตาเผาต้ังกระจัดกระจาย อย่มู ากมายหลายแห่ง รวมท้ังไดม้ ีการ คน้ พบเครอื่ งป้ันดนิ เผาเป็ นจานวน มากมายหลายชนดิ ท้ังที่ผลติ จาก แหล่งเตาเผาในราชอาณาจักรไทยและ ท่ีผลิตจากแหล่งเตาใน ตา่ งประเทศ กลับสู่สำรบญั

๑๔ กระตา่ ยขดู มะพรา้ วเป็ นเครื่องใชใ้ นครัวเรือนท่ีพบไดท้ วั่ ไปใน ทกุ ภมู ภิ าคของประเทศไทย ในบรเิ วณภาคกลางและภาค กระตา่ ยขดู มะพรา้ วโบราณ ตะวันออกเฉียงเหนอื จะเรียกกระตา่ ยขดู มะพรา้ ว ในภาคใตจ้ ะ เรียกว่า เหลก็ ขดู สว่ นในภาคเหนอื จะเรยี กวา่ แมวขดู กระตา่ ยขดู มะพรา้ วเป็ นเครอื่ งมอื สาหรับขดู มะพรา้ ว บรเิ วณโครง มะพรา้ ว หรอื งอง ไมใ้ ชส้ าหรับเสยี บฟันขดู และใชน้ งั่ เวลาขดู มะพรา้ ว มแี ผงฟัน ทาดว้ ยเหล็กเป็ นซี่เล็ก ๆ คลา้ ยฟันเลอ่ื ยย่นื ออกมาจากปาก เป็ นทีข่ ดู มะพรา้ ว บรเิ วณโครงไมใ้ นสมยั โบราณนยิ มทาเป็ น รปู กระตา่ ย ตอ่ มาเรมิ่ มกี ารทาเป็ นรปู สตั วช์ นดิ อ่นื ๆ เชน่ แมว สนุ ขั นก หนู สงิ ห์ เตา่ ตะกวด ตามแตค่ วามนยิ มของ ผสู้ รา้ ง หรอื ในบางครั้งกม็ กี ารสรา้ งออกมาในรปู ท่ีเกยี่ วขอ้ ง กบั สญั ลกั ษณท์ างเพศดว้ ยตามอารมณข์ นั ของผสู้ รา้ ง เนอื่ งจากคนขดู มะพรา้ วมกั จะเป็ นผหู้ ญิง จงึ เป็ นการสรา้ ง ความขบขนั ใหแ้ กผ่ พู้ บเห็น แตก่ ็ยังคงนยิ มเรยี กวา่ กระตา่ ย ขดู มะพรา้ วเนอ่ื งจากแตเ่ ดมิ นนั้ นยิ มทาเป็ นรปู กระตา่ ยและ เรยี กกนั มาจนเคยชนิ หรอื สว่ นฟันท่ีใชข้ ดู เนอ้ื มะพรา้ วมี ลกั ษณะเป็ นซยี่ าวเหมอื นฟันกระตา่ ย จงึ ยงั คงเรยี กกระตา่ ย ขดู มะพรา้ วเชน่ เดมิ กลบั สสู่ ำรบญั

อาคารที่ ๔ ๑๕ จัดแสดงนิทรรศการชาวโซ่ง (ลาวโช่งหรือไทยทรงดา ) ไทยทรงดา หรือ ลาวโซ่ง ถกู กวาดตอ้ น กรณีศึกษาชาวโชง่ บา้ นแหลมมะค่า ต.พันเสา และอพยพเขา้ สปู่ ระเทศไทย ๓ ครง้ั อ.บางระกา จ.พิษณโุ ลก ท่ีอพยพมาจากจังหวดั เพชรบรุ ี ราชบรุ ี ครง้ั ที่ ๓ พ.ศ.๒๓๖๙ – ๒๓๗๑ สมยั รชั กาลที่ ๓ เจา้ อนวุ งศแ์ หง่ เวียงจนั ทน์ และพิธีเสนเรือน หรือพิธี เลี้ยงผีป่ ูย่าตายาย ก่อกบฏ ตอ่ ประเทศสยาม สมเด็จพระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดใหย้ กกองทพั ไป ทีม่ าของชาวไทยทรงดา ( ชาวโชง่ ) ปราบเมืองแถง ไดร้ วบรวมครอบครวั ลาวโซง่ มาไวท้ จ่ี งั หวดั เพชรบรุ ี ตงั้ บา้ นเรอื นอยทู่ ่ี ตาบลทา่ แรง้ อาเภอบา้ นแหลม แตเ่ น่ืองจากลาวโซ่งอาศยั ประวัติความเป็ นมา ไทยทรงดา (โซง่ ดา) อยทู่ ี่ดอนนา้ ทว่ มไมถ่ ึง แตบ่ รเิ วณนนั้ เป็ นท่ีลมุ่ นา้ ทว่ มถึง ลาวโซ่งไมเ่ คยชิน “ ไทยทรงดา ลาวโซง่ หรอื ไทยโซ่ง ” หมายถึง กลมุ่ ชาติพนั ธ์ุ กบั ความอยแู่ บบนี้ จึงอพยพมาในอาเภอเขายอ้ ย เพราะลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ คลา้ ยเมืองแถง มีทงั้ ป่ า ภเู ขา ลาหว้ ย จงึ ไดต้ งั้ บา้ นเรือนหนาแนน่ ท่ีสดุ กลมุ่ หนง่ึ ทีพ่ ดู ภาษาไทย คนไทยเรียกชนกลมุ่ น้วี า่ ลาว หรือ ลาวโซ่ง ทีต่ าบลหนองปรง ตาบลหว้ ยทา่ ชา้ ง ตาบลทบั คาง ลาวโซง่ รนุ่ เก่ายงั ไมล่ มื ถิ่น เพราะอพยพจากเมืองเดยี นเบียนฟู อยทู่ างตอนเหนือของ ประเทศเวียดนาม ฐานบา้ นเดมิ มคี วามปรารถนาจะกลบั ไปบา้ นเกิดของตน เมอื่ เดินทางไปนานๆ ผา่ นมายงั ประเทศสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว มคี นเจ็บคนตายไปเรื่อยๆ หลายคน พวกลกู หลานไมส่ ามารถเดินทางตอ่ ไปได้ เพราะไมร่ ถู้ ่ินฐานบา้ นเกิดจึงตงั้ หลกั อาศัยอยบู่ ริเวณนน้ั ไดแ้ ก่ จงั หวัดพิจิตร ผไู้ ทนยิ มแตง่ กายดว้ ยสดี า จงึ เรียก ไทยทรงดา ตามลกั ษณะเครื่อง พิษณโุ ลก สโุ ขทยั กาแพงเพชร เป็ นตน้ แตง่ กาย ถ่ินฐานเดิมอยบู่ ริเวณ แควน้ สบิ สองจไุ ทย อยทู่ างตอนเหนอื ประเทศเวียดนาม สว่ นคาว่า “ โซ่ง ” ทีเ่ รียกกนั สนั นิษฐานเป็ นคาท่ีมาจากคา ว่า “ ซว่ ง หรอื ทรง ” แปลว่า กางเกง ไทดาถกู กวาดตอ้ นและอพยพมาใน ประเทศไทย สมยั กรงุ ธนบรุ ี และกรงุ รตั นโกสินทรต์ อนตน้ กลับสสู่ ำรบญั

๑๖ อปุ กรณแ์ ละเคร่ืองใช้ ของชาวไทยทรงดา (ชาวโชง่ ) พิธีกรรมชาวไทยทรงดา (ชาวโชง่ ) - กระหมอง (ตะขอ้ ง) ทาจากไมไ้ ผ่ เอาไวใ้ สก่ บ ใสป่ ลา งานกนิ หลอง - กะเหล็บปากฟาน ทามาจากไมไ้ ผ่ งานกินหลองหรอื งานกินดอง เป็ นพิธีงานแตง่ งานของชาวโซง่ ใชส้ าหรบั ใสเ่ สอ้ื ผา้ และใสข่ องตา่ งๆ หมายถึง งานเลี้ยงเพื่อประกาศความเก่ียวดองเป็ นญาติกัน ในงานสง่ หรือ วันแตง่ ฝ่ ายเจา้ บ่าวจะฆา่ หมู 1 ตวั สาหรบั แบ่งใหฝ้ ่ ายเจา้ สาว คร่งึ ตวั นาไหวผ้ ี และเล้ียงผมู้ ารว่ มงาน ฝ่ ายเจา้ สาวจะเตรยี มเหลา้ ไกต่ ม้ หมากพลู บหุ ร่ี สาหรบั ไวใ้ หเ้ จา้ บ่าวไหวผ้ ีเรือน หลงั จากนน้ั เป็ นพิธสี ิน้ สอด ทองหมน้ั แลว้ จึงไหวญ้ าตผิ ใู้ หญ่ เจา้ บ่าวจะนงั่ เป็ นคนทสี่ อง จากกลมุ่ เพื่อน ๖ – ๘ คน สว่ นเจา้ สาวจะตงั้ ผมทรงสงู นงั่ ขา้ งเพื่อนผหู้ ญิงอยา่ งนอ้ ย ๑ คน เม่ือไหวญ้ าตทิ งั้ สองฝ้ ายแลง้ จึงเป็ นอนั เสร็จพิธี - กะตา้ ทามาจากไมไ้ ผ่ เอาไวล้ า้ งปลา กลบั สสู่ ำรบญั

อาคารท่ี ๕ ๑๗ หอ้ งเฉลมิ พระเกยี รตริ าชวงศ์ ผลงาน สาคญั มดี งั น้ี และหอเกยี รตยิ ศ จา่ สบิ เอก ดร.ทวี ผลงาน จ.ส.อ.ดร.ทวี ไดร้ ับยกย่องใหเ้ ป็ นผมู้ ผี ลงานดเี ดน่ ๑. ผลงานดเี ด่นดา้ นวฒั นธรรม สาขาการการชา่ งฝี มอื ทางดา้ นวัฒนธรรม ประจาปี พ.ศ.๒๕๒๖ และปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ไดร้ ับพระราชทานปรญิ ญาครุ ศุ าสตรบ์ ัณฑติ ( ช่างหล่อ ) ประจาปี ๒๕๒๖ กติ ตมิ ศักดิ์ สาขาศลิ ปศกึ ษา ปริญญาศิลปศาสตร์ ดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศักดิ์ สาขาศิลป และไดร้ บั เครอ่ื งหมายประกาศเกยี รตคิ ณุ สาขาตา่ ง ๆ มากกวา่ ๑๐ เหรยี ญ กลบั สสู่ ำรบญั

๑๘ ๓. “ สดุ ยอด ๑๒ นกั คิดเมืองพิษณโุ ลก ” ๒. คนดีส่งเสริมและอนรุ ักษ์ ศิลปะวัฒนธรรมไทย สดุ ยอดนกั คิดดว้ ยวิสยั ทัศนแ์ ห่งจิตพัฒนา ปี ๒๕๕๗ บงั ลงั กค์ นดแี หง่ ปี ๒๕๕๓ กลับสสู่ ำรบญั

๑๙ ๔. กอ่ ตงั้ โรงงานหล่อพระบรู ณไทยทบ่ี า้ นเลขท่ี ๒๖/๔๓ ถนนวิสทุ ธกิ์ ษตั ริย์ อาเภอเมือง จงั หวดั พิษณโุ ลก ซ่ึงทาใหช้ าวพิษณโุ ลกมีงานทามากกว่ารอ้ ยคน กลบั สสู่ ำรบญั

๒0 แหลง่ อา้ งอิง พิพิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ น จ่าสิบเอก ดร.ทวี-พิมพบ์ รู ณเขต ๒๖/๔๓ ถนนวิสทุ ธิ์กษตั ริย์ ต.ในเมือง อ.เมอื งพิษณโุ ลก จ.พิษณโุ ลก ๖๕000 กลบั สสู่ ำรบญั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook