Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปราชญ์ผู้รู้

ปราชญ์ผู้รู้

Published by angrymin.error, 2020-06-05 05:36:02

Description: ปราชญ์ผู้รู้

Search

Read the Text Version

1 โครงการพบปราชญผ์ รู้ ู้ สวู่ ถิ ีชวี ิตพอเพียงอยา่ งยงั่ ยนื ตาบลนาป่า วนั ท่ี 24 พฤศจิกายน 2562 ณ บา้ นเลขที่ 41/1 หมูท่ ่ี 7 ตาบลนาปา่ อาเภอเมืองชลบุรี จงั หวัดชลบรุ ี กศน.ตาบลนาป่า

2 คำนำ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาท่ีชี้ถึงแนวทางปฏิบัติตน โดยคานึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดี เพื่อพร้อมรับต่อความเสี่ยง บนพ้ืนฐานของความรอบรู้ ความรอบคอบ ระมัดระวัง และคุณธรรม การใช้ความรู้อย่างถูกหลักวิชาการ ควบคู่ไปกับการกระทา ที่ไม่เบียดเบียนกัน การแบ่งปัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความร่วมมือปรองดองกันในสังคม จะสร้าง สายใย เชื่อมโยงคนในภาคส่วนต่างๆของสังคมเข้าด้วยกัน สร้างสรรค์พลังในทางบวก นาไปสู่ความ สามัคคี การพัฒนาที่สมดุลและย่ังยืน และการพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ภายใต้กระแส โลกาภิวัฒน์ ซ่ึงอาจทาได้หลายวิธี และอาจใช้เคร่ืองมือประกอบการสอนต่าง ๆ อีกมากมาย โดยมี การจัดการเรียนรู้ ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้ผู้เรียนมีท้ังความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึง ประสงค์และสามารถดาเนินชีวิต อยู่ในสังคมได้โดยปกติสุข จึงจาเป็นต้องพัฒนาศักยภาพ ความสามารถของผู้เรียนอย่างเต็มท่ี เพ่ือให้มีนิสัยใฝ่รู้ ใฝ่เรียน แสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง การนา แหล่งเรียนรู้ในชุมชน ท้องถิ่น ตลอดจนปราชญ์ผู้รู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ินมาใช้ประโยชน์ในการจัด กระบวนการเรียนการสอน จึงเป็นวิถีทางหน่ึงที่จะช่วยให้ กระบวนการเรียนการสอนบรรลุ จุดมุ่งหมายได้ตามที่ต้องการ การนาปราชญ์ผู้รู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งเรียนรู้ มาใช้ในการจัดการ เรยี นการสอนเป็นกจิ กรรมทตี่ ั้งอยู่บนพ้ืนฐานความเชื่อที่ว่า ปราชญ์ผู้รู้ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ภูมิปัญญา ท้องถ่ิน และแหล่งเรียนรู้ เป็นชุดความรู้ในชุมชนท่ีมีการใช้ เพื่อการดาเนินวิถีชีวิตท่ีได้ผลมาในอดีต สามารถดารงความสันติสุขแก่บุคคล ครอบครัว และชุมชน ตลอดจนความมีดุลยภาพอยู่ร่วมกับ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมได้ อย่างผสมกลมกลืน เป็นกระบวนการพัฒนาการเรียนการสอนที่ได้เน้น การมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเฉพาะ ปราชญ์ผู้รู้ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ท่ีเป็นผู้เชื่อมโยงชุดความรู้ท่ีเป็น ภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมกับสถานศึกษาเข้าสู่กระบวนการเรียน การสอนของสถานศึกษา ในแต่ละ ทอ้ งถนิ่ นนั้ ๆ ท้ายน้ี กศน.ตาบลนาป่า ต้องขอขอบคุณ กศน.อาเภอเมืองชลบุรีและผู้ท่ีเกี่ยวข้องท่ีให้ คาปรึกษาแนะนาการจัดทาโครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วิถีชีวิตพอเพียงอย่างย่ังยืนตาบลนาป่า หากมี ขอ้ บกพร่องผ้จู ัดต้องขออภัยมาไว้ ณ ที่นี้ และจะปรับปรุงใหด้ ยี ิง่ ขนึ้ ในโอกาสต่อไป กศน.ตาบลนาป่า พฤศจกิ ายน 2562

3 สำรบัญ หน้ำ บทที่ 1 บทนำ............................................................................................................................. 1 หลักการและเหตผุ ล.................................................................................................1 วตั ถุประสงค์.............................................................................................................1 เปา้ หมาย..................................................................................................................2 ผลลพั ธ์.....................................................................................................................2 ดชั นวี ัดผลสาเรจ็ ของโครงการ..................................................................................2 2 เอกสำรกำรศกึ ษำและรำยงำนที่เกย่ี วขอ้ ง.....................................................................3 นโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงาน สานกั งาน กศน. ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563……………………………………………………………………………..........................3 แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ของ กศน.และ กศน.อาเภอเมืองชลบรุ ี...................................................................11 พระราชดารวิ ่าด้วยเศรษฐกจิ พอเพียง..…................................................................21 3 วธิ ดี ำเนนิ งำน...............................................................................................................28 ประชมุ ปรกึ ษาหารอื การจัดโครงการฯ กศน.อาเภอเมืองชลบุรี.............................28 แต่งตง้ั คณะทางาน.................................................................................................28 ประสานงาน/เครอื ข่ายทีเ่ กย่ี วข้อง…………………....................................................28 ดาเนนิ การตามแผน...............................................................................................28 วดั ผล/ประเมนิ ผล/สรปุ ผลและรายงาน.................................................................29

4 สำรบญั หน้ำ บทที่ 4 ผลกำรดำเนนิ งำนและกำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู ....................................................................29 ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นตวั ผ้ตู อบแบบถามของผู้เขา้ รว่ มโครงการพปราชญ์ผรู้ ู้ สูว่ ถิ ีชีวติ พอเพยี งอยา่ งยั่งยืนตาบลนาป่า.................................................................................29 ตอนท่ี 2 ข้อมูลเก่ียวกับความคิดเห็นของผู้เขา้ รว่ มผเู้ ขา้ รว่ มโครงการพปราชญผ์ รู้ ู้ สู่ วถิ ีชีวิตพอเพียงอย่างย่งั ยืนตาบลนาป่า.....................................................................31 5 สรุปผล อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ.....................................................................34 สรุปผล....................................................................................................................34 อภิปรายผล.............................................................................................................35 ข้อเสนอแนะ...........................................................................................................35 บรรณำนกุ รม ภำคผนวก

5 สำรบญั ตำรำง ตำรำงท่ี หนำ้ 1 แสดงค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ.........................................29 2 แสดงคา่ ร้อยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ.........................................29 3 แสดงค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี ......................................30 4 แสดงค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกระดับการศึกษา..............................30 5 ผลการประเมินโครงการพปราชญผ์ ้รู ู้ สวู่ ถิ ชี ีวิตพอเพียงอย่างยั่งยืนตาบลนาป่า...........….32 6 ผา่ นการฝึกอบรมได้นาความรู้ไปใชจ้ รงิ ………………………....…………………........................33

1 บทท่ี 1 บทนำ ควำมเป็นมำ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ปรชั ญาทีช่ ี้ถงึ แนวทางปฏบิ ัติตน โดยคานึงถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสรา้ งภูมคิ ุ้มกันท่ดี ี เพื่อพร้อมรับต่อความเสยี่ ง บนพน้ื ฐานของความรอบรู้ ความรอบคอบ ระมดั ระวัง และคุณธรรม การใชค้ วามรู้อย่างถูกหลกั วชิ าการ ควบคู่ไปกับการกระทา ทไ่ี มเ่ บียดเบยี นกนั การแบ่งปัน ช่วยเหลือซ่ึงกันและกนั ความร่วมมอื ปรองดองกันในสงั คม จะสรา้ ง สายใย เชื่อมโยงคนในภาคสว่ นตา่ งๆของสงั คมเขา้ ด้วยกัน สรา้ งสรรคพ์ ลงั ในทางบวก นาไปสูค่ วาม สามัคคี การพัฒนาทีส่ มดุลและย่งั ยืน และการพร้อมรับต่อการเปลยี่ นแปลงต่างๆ ภายใตก้ ระแส โลกาภิวัฒน์ ซง่ึ อาจทาได้หลายวธิ ี และอาจใชเ้ คร่ืองมือประกอบการสอนตา่ ง ๆ อกี มากมาย โดยมี การจดั การเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ ใหผ้ ู้เรียนมที ้ังความรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมทพี่ งึ ประสงค์และสามารถดาเนินชีวติ อยู่ในสังคมได้โดยปกติสุข จงึ จาเป็นต้องพฒั นาศักยภาพ ความสามารถของผเู้ รียนอย่างเตม็ ที่ เพ่ือให้มีนิสัยใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น แสวงหาความรไู้ ด้ด้วยตนเอง การนา แหล่งเรยี นรู้ในชุมชน ท้องถน่ิ ตลอดจนปราชญผ์ ู้รู้ ภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ มาใช้ประโยชน์ในการจัด กระบวนการเรยี นการสอน จึงเปน็ วิถที างหนึ่งท่ีจะชว่ ยให้ กระบวนการเรียนการสอนบรรลุ จดุ มุง่ หมายไดต้ ามท่ีต้องการ การนาปราชญผ์ รู้ ู้ ภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ แหลง่ เรียนรู้ มาใชใ้ นการจัดการ เรียนการสอนเปน็ กิจกรรมทต่ี ้ังอยู่บนพื้นฐานความเช่ือท่ีวา่ ปราชญ์ผรู้ ู้ ภมู ิปญั ญาชาวบา้ น ภูมปิ ญั ญา ท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้ เป็นชดุ ความรู้ในชุมชนทม่ี กี ารใช้ เพอื่ การดาเนนิ วิถชี วี ติ ที่ไดผ้ ลมาในอดตี สามารถดารงความสันติสุขแก่บคุ คล ครอบครวั และชมุ ชน ตลอดจนความมดี ุลยภาพอยู่ร่วมกบั ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมได้ อยา่ งผสมกลมกลนื เป็นกระบวนการพัฒนาการเรยี นการสอนทไ่ี ดเ้ นน้ การมีสว่ นร่วมของชุมชน โดยเฉพาะ ปราชญ์ผู้รู้ ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ที่เปน็ ผเู้ ชอื่ มโยงชดุ ความรู้ทเี่ ปน็ ภูมิปญั ญาท้องถิ่น รว่ มกับสถานศกึ ษาเข้าส่กู ระบวนการเรียน การสอนของสถานศึกษา ในแต่ละ ทอ้ งถ่นิ นัน้ ๆ กศน.ตาบลนาป่า ได้เลง็ เหน็ ความสาคญั จึงไดจ้ ัดทาโครงการพบปราชญผ์ ู้รู้ สู่วิถี ชวี ิตพอเพียงอยา่ งยัง่ ยนื ตาบลนาป่า เพื่อใหส้ อดคล้องกับวชิ าทักษะการเรียนรู้ (การใช้แหลง่ เรยี นรู้) ที่ลงทะเบียนเรยี นในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 จึงไดจ้ ดั ทาโครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วิถชี วี ติ พอเพยี งอยา่ งยั่งยนื ตาบลนาป่าข้นึ

2 วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ ทักษะ สามารถขยายผลการเรียนรู้ ปลูกฝงั คา่ นยิ มจากแหล่งเรยี นรู้ใน ชมุ ชน 2. เพ่ือเปน็ แหล่งสง่ เสรมิ มติ รภาพความสมั พนั ธ์ระหว่างผูเ้ รียนกบั ปราชญผ์ ู้รใู้ นชุมชน เปำ้ หมำย เชิงปรมิ ำณ นกั ศึกษา กศน.ตาบลนาป่า จานวน 30 คน เชงิ คุณภำพ นักศกึ ษาท่ีเข้ารว่ มโครงการฯ มีความรู้ ทกั ษะ สามารถขยายผลการเรียนรู้ ปลกู ฝัง ค่านิยมจากแหลง่ เรยี นรู้ในชมุ ชน และเป็นแหล่งสง่ เสริมมติ รภาพความสัมพันธร์ ะหว่างผ้เู รียนกบั ปราชญผ์ ู้ร้ใู นชุมชนได้ ผลลพั ธ์ ผเู้ ข้าร่วมโครงการฯ ตาบลนาปา่ ร้อยละ 80 ความรู้ ทักษะ สามารถขยายผลการเรียนรู้ ปลูกฝงั คา่ นิยมจากแหล่งเรียนรใู้ นชุมชน และเป็นแหลง่ ส่งเสริมมติ รภาพความสัมพนั ธร์ ะหว่างผเู้ รยี น กับปราชญผ์ รู้ ู้ในชมุ ชนได้ ดชั นตี วั ชี้วดั ผลสำเร็จของโครงกำร ตัวชวี้ ดั ผลผลิต - ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการฯ ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 - ผู้เขา้ ร่วมโครงการฯ มคี วามพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ดขี น้ึ ไป ไมน่ ้อยกว่า ร้อยละ 80 ตวั ช้ีวัดผลลัพธ์ - ผู้เขา้ ร่วมโครงการฯ ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 50 สามารถนาความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ - ผู้เข้ารว่ มโครงการฯ ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 10 สามารถนาความร้ทู ่ไี ด้รับไปขยายผลได้

3 บทท่ี 2 เอกสำรกำรศกึ ษำและรำยงำนท่เี กย่ี วขอ้ ง ในการจัดทารายงานโครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วถิ ชี วี ิตพอเพียงอย่างยัง่ ยืนตาบลนาปา่ ครั้งนี้ ผู้จดั ทาโครงการได้ทาการค้นควา้ เนอื้ หาเอกสารการศกึ ษาและรายงานที่เก่ยี วข้อง ดงั นี้ 1. ยทุ ธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 2. แนวทาง/กลยุทธก์ ารดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยขอ งกศน.อาเภอเมืองชลบุรี 3. กศน. WOW 4. เอกสารงานท่ีเกยี่ วข้อง - ความรู้เร่อื งเกีย่ วกับเศรษฐกิจพอเพียง - ความรู้เรือ่ งการทาการปลกู พชื ผสมผสาน - ความรู้เร่อื งการทาน้าหมักชวี ภาพ - ความรู้เรอ่ื งดนิ โลก 1.นโยบำยและจุดเนน้ กำรดำเนนิ งำน สำนักงำน กศน.ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 วิสัยทศั น์ คนไทยไดร้ บั โอกาสการศกึ ษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ิตอยา่ งมีคณุ ภาพ สามารถดารงชีวิตท่ี เหมาะสม กบั ช่วงวัย สอดคลอ้ งกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมที ักษะทีจ่ าเป็นในโลกศตวรรษที่ 21 พันธกจิ 1. จดั และส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทีม่ ีคุณภาพ เพือ่ ยกระดับ การศกึ ษา พัฒนาทกั ษะการเรียนร้ขู องประชาชนทุกกลมุ่ เป้าหมายให้เหมาะสมทุกชว่ งวัย พร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงบรบิ ททางสงั คม และสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต 2 สง่ เสรมิ สนับสนุน และประสานภาคีเครอื ข่าย ในการมสี ว่ นร่วมจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรยี นร้ตู ลอดชีวติ รวมท้ังการดาเนนิ กจิ กรรมของศนู ย์การเรยี น และ แหลง่ การเรียนรู้อน่ื ในรปู แบบตา่ ง ๆ 3. ส่งเสริมและพฒั นาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลมาใช้ใหเ้ กิด

4 ประสิทธภิ าพในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ให้กับประชาชนอย่างท่วั ถึง 4. พัฒนาหลักสูตร รปู แบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและนวตั กรรม การวัดและ ประเมินผล ในทกุ รปู แบบใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทในปจั จบุ ัน 5. พัฒนาบคุ ลากรและระบบการบริหารจดั การให้มีประสทิ ธิภาพ เพอ่ื มุ่งจัดการศึกษาและ การเรียนรูท้ ม่ี ีคณุ ภาพ โดยยดึ หลักธรรมาภิบาล เปำ้ ประสงค์ 1. ประชาชนผู้ดอ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทัง้ ประชาชนทัว่ ไปไดร้ บั โอกาส ทางการศึกษาในรปู แบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พื้นฐาน การศึกษาต่อเน่อื ง และ การศึกษา ตามอธั ยาศัย ที่มคี ุณภาพอยา่ งเทา่ เทยี มและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของ แตล่ ะ กลุ่มเปำ้ หมำย 2. ประชาชนไดร้ ับการยกระดับการศกึ ษา สรา้ งเสรมิ และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และ ความเป็นพลเมือง อนั นาไปสู่การยกระดบั คุณภาพชีวิตและเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ให้ชุมชน เพอ่ื พัฒนาไปสู่ความม่ันคงและยง่ั ยนื ทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสง่ิ แวดลอ้ ม 3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีที่ เหมาะสม สามารถคดิ วเิ คราะห์ และประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวนั รวมทงั้ แก้ปัญหาและพฒั นาคุณภาพชีวติ ได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4. ประชาชนไดร้ บั การสร้างและส่งเสรมิ ใหม้ นี สิ ัยรกั การอ่านเพ่อื การแสวงหาความรดู้ ้วย ตนเอง 5. ชุมชนและภาคเี ครือขา่ ยทุกภาคสว่ น ร่วมจัด สง่ เสริม และสนบั สนุนการดาเนนิ งาน การศกึ ษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั รวมท้งั การขบั เคลอื่ นกิจกรรมการเรียนรขู้ องชมุ ชน 6. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยที างการศกึ ษา เทคโนโลยีดิจทิ ลั มาใช้ ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรยี นรู้และเพิม่ โอกาสการเรยี นรใู้ หก้ ับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพฒั นาสอื่ และการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือแกป้ ัญหาและ พัฒนา คณุ ภาพชวี ติ ทตี่ อบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบรบิ ทด้านเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื ง วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์

5 และสงิ่ แวดล้อม รวมทงั้ ตามความต้องการของประชาชนและชมุ ชนในรูปแบบท่ีหลากหลาย 8. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจดั การที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 9. บุคลากรของหนว่ ยงานและสถานศึกษาได้รบั การพัฒนาเพอื่ เพิม่ สมรรถนะในการ ปฏบิ ตั งิ านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตวั ชว้ี ดั ตวั ชีว้ ดั เชิงปริมำณ 1. จานวนผเู้ รียนการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาชั้นพื้นฐานที่ไดร้ ับการสนับสนนุ คา่ ใชจ้ า่ ยตามสิทธทิ ี่กาหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายตา่ ง ๆ ที่เข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู/้ เขา้ รบั บริการ กิจกรรม การศึกษาต่อเน่อื ง และการศึกษาตามอธั ยาศัยทีส่ อดคล้องกับสภาพ ปญั หา และความต้องการ 3. รอ้ ยละของกาลังแรงงานท่ีสาเรจ็ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ขึน้ ไป 4. จานวนภาคีเครือข่ายท่เี ขา้ มามีส่วนร่วมในการจดั /พฒั นา/สง่ เสริมการศึกษา (ภาคี เครือข่าย : สถานประกอบการ องค์กร หน่วยงานทม่ี ารว่ มจดั /พัฒนา/ส่งเสรมิ การศึกษา) 5. จานวนประชาชน เดก็ และเยาวชนในพน้ื ทส่ี ูง และชาวไทยมอแกน ในพื้นที่ 5 จังหวดั 11 อาเภอได้รบั บริการการศึกษาตลอดชีวติ จากศนู ย์การเรยี นชุมชนสงั กดั สานกั งาน กศน. 6. จานวนผู้รบั บรกิ ารในพน้ื ท่ีเปา้ หมายได้รบั การสง่ เสรมิ ดา้ นการรูห้ นังสอื และการพฒั นา ทกั ษะชวี ิต 7. จานวนนกั เรียนนักศกึ ษาท่ีได้รับบรกิ ารติวเข้มเต็มความรู้ 8. จานวนประชาชนที่ไดร้ บั การฝกึ อาชีพระยะสน้ั สามารถสรา้ งอาชพี เพอื่ สรา้ งรายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพ้นื ที่ กศน.ภาค ได้รบั การพัฒนาศักยภาพดา้ นการจัดการ เรยี น การสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สาร 10. จานวนประชาชนที่ได้รับการฝกึ อบรมภาษาตา่ งประเทศเพ่ือการสื่อสารด้านอาชีพ 11. จานวนผู้สงู อายุภาวะพง่ึ พงิ ในระบบ Long Term Care มีผ้ดู ูแลทีม่ คี ุณภาพและ มาตรฐาน 12. จานวนประชาชนทผี่ า่ นการอบรมจากศูนย์ดจิ ิทัลชมุ ชน 13. จานวนศนู ยก์ ารเรยี นชมุ ชน กศน. บนพื้นทีส่ ูง ในพืน้ ที่ 5 จังหวัด ท่สี ง่ เสรมิ การพฒั นา ทักษะ การฟงั พดู ภาษาไทยเพอ่ื การสือ่ สาร รว่ มกันในสถานศกึ ษาสงั กัด สพฐ. ตชด. และกศน.

6 14. จานวนบคุ ลากร กศน. ตาบลที่สามารถจดั ทาคลังความรูไ้ ด้ 15. จานวนบทความเพื่อการเรยี นรู้ตลอดชีวิตในระดบั ตาบลในหัวขอ้ ตา่ ง ๆ 16. จานวนหลักสูตรและสื่อออนไลน์ท่ีใหบ้ รกิ ารกับประชาชน ทง้ั การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาตอ่ เนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ตัวชี้วดั เชิงคุณภำพ 1. รอ้ ยละของคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET)ทกุ รายวิชาทุกระดบั 2. ร้อยละของผู้เรียนที่ไดร้ ับการสนับสนนุ การจดั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐานเทียบกับคา่ เปา้ หมาย 3. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายทีล่ งทะเบียนเรียนในทกุ หลกั สูตร/กจิ กรรมการศึกษา ตอ่ เนอ่ื งเทียบกบั เป้าหมาย 4. รอ้ ยละของผ้ผู า่ นการฝกึ อบรม/พัฒนาทักษะอาชพี ระยะส้นั สามารถนาความร้ไู ปใช้ ในการประกอบอาชีพหรอื พัฒนางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพื้นทจ่ี งั หวัดชายแดนภาคใต้ที่ไดร้ ับการพฒั นาศกั ยภาพ หรือ ทักษะ ด้านอาชีพ สามารถมงี านทาหรือนาไปประกอบอาชพี ได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมทสี่ ามารถนาความรู้ความเขา้ ใจไปใชไ้ ด้ตามจุดมงุ่ หมาย ของหลกั สตู รกิจกรรม การศึกษาตอ่ เนื่อง 7. ร้อยละของประชาชนท่ีได้รับบรกิ ารมีความพงึ พอใจต่อการบรกิ าร/เข้ารว่ มกิจกรรมการ เรยี นรู้ การศึกษาตามอธั ยาศัย 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ไี ดร้ บั บรกิ าร/ขา้ รว่ มกิจกรรมที่มีความรคู้ วามเขา้ ใจ/ เจตคติ ทกั ษะ ตามจดุ มงุ่ หมายของกิจกรรมทก่ี าหนด ของการศึกษาตามอัธยาศัย 9. รอ้ ยละของนกั เรยี น/นักศึกษาทมี่ ีผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นในวิชาที่ได้รับบรกิ ารติวเข้มเต็ม ความรเู้ พ่มิ สูงขนึ้ 10. รอ้ ยละของผูส้ งู อายุทีเ่ ป็นกลุ่มเปา้ หมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกจิ กรรมการศกึ ษาตลอดชีวติ นโยบำยเร่งดว่ นเพอื่ ร่วมขบั เคลอ่ื นยุทธศำสตร์กำรพัฒนำประเทศ 1.ยุทธศำสตรด์ ำ้ นควำมมนั คง 1.1 พัฒนาและเสรมิ สรา้ งความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลกู ฝังและ สรา้ งความตระหนักรถู้ ึงความสาคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสรมิ สรา้ งความรกั และความ ภาคภูมใิ จในความเป็นคนไทยและชาติไทย น้อมนาและเผยแพรศ่ าสตร์พระราชา หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งรวมถึงแนวทางพระราชดารติ า่ ง ๆ

7 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจทีถ่ ูกต้อง และการมีสว่ นรว่ มอยา่ งถูกต้องกับการ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ในบริบทของไทย มีความเปน็ พลเมืองดี ยอมรับและเคารพความหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การจัดการศึกษาเพื่อป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาภยั คุกคาม ในรูปแบบใหม่ ทั้งยาเสพติด การคา้ มนุษย์ ภัยจากไซเบอร์ ภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาติ โรคอุบัตใิ หม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาและสร้างเสริมโอกาสในการเขา้ ถึงบริการการศกึ ษา การพฒั นาทกั ษะ การสร้างอาชพี และการใช้ชีวติ ในสงั คมพหุวฒั นธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นทช่ี ายแดนอ่นื ๆ 1.5 สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศ เพอื่ นบา้ นยอมรบั และเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกล่มุ ชาติพันธ์ุ และชาวต่างชาตทิ ่ีมีความ หลากหลาย ในลกั ษณะพหสุ งั คมที่อยรู่ ว่ มกัน 2 ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน 2.1 เร่งปรบั หลกั สตู รการจัดการศกึ ษาอาชพี กศน. เพื่อยกระดบั ทักษะด้านอาชพี ของ ประชาชนใหเ้ ป็นอาชพี ท่รี องรบั อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S- curve) โดยบรู ณาการความร่วมมอื ในการพฒั นาและเสริมทักษะใหม่ด้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถงึ มุง่ เน้นสรา้ งโอกาสในการสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ และตอบสนองต่อความตอ้ งการของตลาดแร งานท้ังภาคอตุ สาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพน้ื ที่เขตระเบยี งเศรษฐกจิ และเขตพฒั นาพเิ ศษ ตามภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของประเทศสาหรบั พน้ื ทีป่ กติให้พฒั นาอาชีพท่ีเนน้ การต่อยอดศกั ยภาพและตาม บริบทของพ้นื ที่ 2.2 จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาพ้ืนทภี่ าคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบ การศึกษาอยา่ งน้อยการศึกษาภาคบังคบั สามารถนาคุณวฒุ ิท่ีไดร้ ับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมท้ังพฒั นาทักษะในการประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สร้างอาชพี สรา้ งรายได้ ตอบสนองตอ่ บริบทของสังคมและชุมชน รวมท้ังรองรับการพัฒนาเขตพ้ืนท่รี ะเบยี บเศรษฐกจิ ภาค ตะวันออก (EEC) 2.3 พัฒนาและส่งเสรมิ ประชาชนเพื่อต่อยอดการผลิตและจาหนา่ ยสนิ ค้าและผลติ ภณั ฑ์ ออนไลน์ 1) เร่งจดั ตัง้ ศนู ย์ให้คาปรึกษาและพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ Brand กศน.เพ่ือยกระดับคุณภาพ ของสนิ ค้าและผลิตภัณฑ์ การบริหารจดั การทีค่ รบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และสร้าง ช่องทางจาหน่าย) รวมทงั้ สง่ เสรมิ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทลั ในการเผยแพร่และจาหน่าย ผลติ ภัณฑ์ 2) พฒั นาและคดั เลือกสดุ ยอดสินคา้ และลิตภณั ฑ์ กศน. ในแตล่ ะจังหวดั พรอ้ มทง้ั ประสาน ความรว่ มมือกบั สถานบี ริการนา้ มันในการเปน็ ซ่องทางการจาหน่ายสดุ ยอดสนิ ค้าและผลิตภณั ฑ์ กศน.

8 ให้กวา้ งขวางยิ่งข้ึน 3 ยุทธศำสตร์กำรพัฒนำและเสริมสร้ำงศกั ยภำพทรัพยำกรมนุษย์ 3.1 พัฒนาครูและบคุ ลากรท่เี กย่ี วข้องกับการจัดกจิ กรรมและการเรยี นรู้ เป็นผ้เู ชอ่ื มโยง ความรกู้ ับ ผเู้ รียนและผู้รับบริการ มีความเป็น \"ครูมอื อาชพี \" มจี ติ บริการ มคี วามรอบรู้และทนั ต่อการ เปล่ียนแปลงของสงั คมและเป็น \"ผู้อานวยการการเรยี นรู้\" ที่สามารถบริหารจัดการความรู้ กจิ กรรม และการเรยี นรู้ทีด่ ี 1) เพ่ิมอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อาเภอทุกแหง่ โดยเร่งดาเนนิ การเรื่องการหาอตั รา ตาแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแตง่ ตง้ั ข้าราชการครู 2) พฒั นาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลักสูตรทเ่ี ชือ่ มโยงกับวิทยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตาบลให้สามารถปฏบิ ัตงิ านได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ โดยเนน้ เรอ่ื งการ พฒั นา ทักษะการจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ ทกั ษะภาษาตา่ งประเทศ ทักษะการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 4) พฒั นาศึกษานิเทศก์ ให้สามารถปฏิบตั กิ ารนเิ ทศไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 5) พฒั นาบุคลากร กศน.ทกุ ระดบั ทุกประเภทใหม้ ีทักษะความรเู้ รื่องการใชป้ ระโยชน์จาก ดิจทิ ลั และภาษาต่างประเทศท่จี าเปน็ 3.2 พฒั นาแหล่งเรยี นรู้ใหม้ ีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความพรอ้ ม ในการใหบ้ ริการกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหลง่ สารสนเทศสาธารณะที่งา่ ยตอ่ การเขา้ ถงึ มบี รรยากาศทีเ่ อ้ือต่อการเรียนรู้ เป็นคาเชา่ พ้นื ท่ีการเรยี นรู้สาหรับคนทุกชว่ งวยั มสี ง่ิ อานวยความ สะดวก มบี รรยากาศสวยงามมีชวี ติ ท่ดี งึ ดูดความสนใจ และมีความปลอดภยั สาหรบั ผใู้ ชบ้ ริการ 1) เร่งยกระดับ กศน.ตาบลนารอ่ ง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แห่ง) ให้เปน็ กศน.ตาบล 5 ดี พรีเมย่ี ม ทปี่ ระกอบด้วย ครูดี สถานทด่ี ี (ตามบริบทของพ้ืนท่ี) กิจกรรมดี เครือขา่ ยดี และมี นวัตกรรมการเรียนรทู้ ด่ี ีมปี ระโยชน์ 2) จดั ให้มศี นู ย์การเรยี นรูต้ น้ แบบ กศน. เพ่อื ยกระดับการเรียนรู้ ใน 6 ภมู ภิ าค เปน็ พน้ื ที่การ เรยี นรู้(Co - Learning Space) ท่ีทนั สมยั สาหรบั ทุกคน มีความพร้อมในการใหบ้ ริการต่าง ๆ อาทิ พนื้ ท่ีสาหรบั การทางาน/การเรียนรู้ พนื้ ทสี่ าหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเลก็ รวมทง้ั ทางาน ร่วมกับหอ้ งสมดุ ประชาชนในการใหบ้ ริการในรปู แบบห้องสมดุ ดจิ ิทัล บริการอินเทอร์เนต็ ส่ือ มลั ตมิ เี ดีย เพ่ือรองรับการเรยี นรูแ้ บบ Active Learning 3) พัฒนาห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกมุ ารี\" ให้เปน็ Digital Library โดยให้มบี ริการ หนงั สอื ในรูปแบบ e - Book บรกิ ารคอมพิวเตอร์ และอนิ เทอร์เนต็ ความเร็วสูง รวมทงั้ Free Wifi เพื่อการสบื ค้นข้อมูล 3.3 สง่ เสรมิ การจัดการเรยี นรทู้ ่ที ันสมยั และมีประสิทธิภาพ เออ้ื ต่อการเรยี นรสู้ าหรบั ทกุ คน สามารถเรียนได้ทุกทที่ ุกเวลา มกี จิ กรรมที่หลากลาย น่าสนใจ สนองตอบความตอ้ งการของชุมชน เพ่อื

9 พฒั นาศักยภาพการเรยี นรขู้ องประชาชน รวมทง้ั ใช้ประโยชนจ์ ากประชาชนในชมุ ชนในการรว่ มจัด กิจกรรมการเรยี นรู้เพื่อเช่อื มโยงความสัมพันธ์ของคนในชมุ ชนไปสู้การจัดการความรูข้ องชุมชนอย่าง ยง่ั ยืน 1) ส่งเสรมิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ปลูกฝงั คุณธรรม สร้างวนิ ยั จติ สาธารณะ ความ รบั ผดิ ชอบ ต่อส่วนรวม และการมจี ิตอาสา ผา่ นกิจกรรมรปู แบบตา่ ง ๆ อาทิ กจิ กรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิต อาสา ตลอดจนสนบั สนุนใหม้ ีการจดั กิจกรรมเพ่ือปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรมใหก้ บั บคุ ลากรในองค์กร 2) จัดให้มหี ลักสูตรลูกเสือมัคคเุ ทศก์ โดยให้สานกั งาน กศน.จังหวดั ทกุ แหป่ กทม. จัดต้ังกอง ลูกเสือ ท่ลี ูกเสือมีความพร้อมดา้ นทักษะภาษาต่างประเทศ เปน็ ลูกเสอื มัคคุเทศกจ์ ังหวัดละ 1 กอง เพ่ือสง่ เสริมลูกเสอื จติ อาสาพัฒนาการท่องเท่ยี วในแตล่ ะจงั หวดั 3.4 เสริมสรา้ งความรว่ มมือกับภาคีเครอื ข่าย ประสาน สง่ เสริมความร่วมมือภาคเี ครือข่าย ทง้ั ภาครฐั เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ รวมท้ังสง่ เสริมและสนับสนนุ การมสี ว่ น ร่วมของชมุ ชน เพื่อสรา้ งความเข้าใจ และใหเ้ กิดความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนนุ และจดั การศึกษาและการ เรยี นรู้ใหก้ บั ประชาชนอย่างมีคณุ ภาพ 1) เร่งจดั ทาทาเนียบภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ในแตล่ ะตาบล เพ่ือใช้ประโยชนจ์ ากภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ในการสร้างการเรียนร้จู ากองคค์ วามรู้ในตวั บุคคลใหเ้ กิดการถ่ายทอดภูมปิ ัญญา สรา้ งคุณคา่ ทาง วัฒนธรรมอยา่ งยง่ั ยนื 2) ส่งเสรมิ ภูมิปัญญาท้องถน่ิ สู่การจดั การเรียนรู้ชุมชน 3) ประสานความรว่ มมือกับภาคีเครือข่ายเพือ่ การขยายและพฒั นาการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยใหเ้ ขา้ ถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอยา่ งกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลมุ่ ผ้สู งู อายุ กลุม่ อสม. 3.5 พฒั นานวัตกรรมทางการศกึ ษาเพื่อประโยชน์ตอ่ การจดั การศกึ ษาและกลมุ่ เป้าหมาย 1) พฒั นาการจดั การศึกษาออนไลน์ กศน. ทั้งในรูปแบบของการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน การพัฒนา ทักษะชวี ติ และทักษะอาชพี การศกึ ษาตามอธั ยาศยั รวมทง้ั การพฒั นาชอ่ งทางการคา้ ออนไลน์ 2) ส่งเสรมิ การใช้เทคโนโลยใี นการปฏบิ ตั ิงาน การบรหิ ารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ 3) สง่ เสรมิ ให้มีการใช้การวจิ ัยอย่างงา่ ยเพื่อสรา้ งนวตั กรรมใหม่ 3.6 พัฒนาศักยภาพคนด้านทักษะและความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยดี ิจทิ ัล (Digital Literacy) 1) พฒั นาความรแู้ ละทักษะเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพ่ือพัฒนา รปู แบบกำรจดั กำรเรียนกำรสอน

10 2) สง่ เสรมิ การจัดการเรยี นร้ดู ้านเทคโนโลยีดิจิทลั เพ่ือใหป้ ระชาชนมที กั ษะความเข้าใจและ ใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั ท่สี ามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวัน รวมท้งั สร้างรายได้ให้กับตนเองได้ 3.7 พัฒนาทกั ษะภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นทกั ษะภาษาเพ่ืออาชีพ ทง้ั ในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเทีย่ ว รวมท้ังพัฒนาสื่อการเรยี นการสอนเพ่ือสง่ เสรมิ การใชภ้ าษาเพอื่ การสอ่ื สารและการพฒั นาอาชีพ 3.8 เตรยี มความพรอ้ มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุท่ีเหมาะสมและมีคุณภาพ 1) ส่งเสรมิ การจดั กิจกรรมให้กบั ประชาชนเพื่อสร้างความตระหนกั ถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่ สงั คมผู้สูงอายุ (Aging Society) มคี วามเข้าใจในพัฒนาการของชว่ งวัย รวมทั้งเรียนรู้และมีสว่ นรว่ มใน การดแู ลรบั ผิดชอบผ้สู งู อายุในครอบครวั และชมุ ชน 2) พฒั นาการจดั บรกิ ารการศึกษาและการเรียนรูส้ าหรับประชาชนในการเตรียมความพรอ้ ม เข้าสวู่ ยั สงู อายทุ ี่เหมาะสมและมีคุณภาพ 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชวี ิตสาหรบั ผสู้ ูงอายภุ ายใตแ้ นวคดิ \"Active Aging\" การศึกษาเพือ่ พฒั นาคุณภาพชวี ิต และพฒั นาทักษะชีวติ ให้สามารถดูแลตนเองทง้ั สุขภาพกายและ สุขภาพจิตและร้จู ักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนกั ถงึ คุณคา่ และศักด์ิศรีของผ้สู งู อายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพรภ่ มู ิ ปัญญาของผู้สูงอายุ และให้มีสว่ นร่วมในกิจกรรมดา้ นตา่ ง ๆ ในชมุ ชน เช่น ดา้ นอาชีพ กีฬา ศาสนา และวฒั นธรรม 5) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อรองรับสังคมผสู้ ูงอายุ โดยบูรณาการความรว่ มมือกบั หน่วยงาน ท่เี ก่ียวข้อง ในทุกระดบั 3.9 การส่งเสริมวิทยาศาสตรเ์ พอื่ การศึกษา 1) จัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เชิงรกุ และเนน้ ให้ความรูว้ ทิ ยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนใน ชมุ ชนทง้ั วิทยาศาสตร์ในวิถชี ีวติ และวิทยาศาสตรใ์ นชวี ิตประจาวนั 2) พฒั นาส่ือนิทรรศการเละรูปแบบการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ใหม้ ีความทันสมัย 3.10 ส่งเสรมิ การรู้ภาษาไทยให้กับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขต พนื้ ทีส่ งู ให้สามารถฟัง พดู อ่าน และเขยี นภาษาไทย เพ่อื ประโยชในการใชช้ วี ติ ประจาวนั ได้ 4 ยุทธศำสตร์ต้นกำรสร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสังคม 4.1 จดั ตัง้ ศูนยก์ ารเรียนร้สู าหรับทุกช่วงวัย ทเ่ี ป็นศูนยก์ ารเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ที่สามารถ ใหบ้ ริการประชาชนไดท้ ุกคน ทุกชว่ งวยั ที่มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการ เรียนรใู้ นแตล่ ะวยั และเป็นศนู ยบ์ รกิ ารความรู้ ศนู ย์การจดั กิจกรรมท่ีครอบคลุมทุกชว่ งวัย เพ่ือให้มี พฒั นาการเรียนรู้ท่เี หมาะสมและมีความสขุ กับการเรียนร้ตู ามความสนใจ 1) เร่งประสานกับสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน เพื่อจัดทาฐานขอ้ มูล โรงเรยี นทถ่ี ูกยบุ รวม หรอื คาดวา่ น่าจะถกู ยุบรวม 2) ให้สานักงาน กศน.จงั หวัดทุกแหง่ ทอ่ี ยู่ในจังหวดั ทมี่ โี รงเรียนที่ถูกยุบรวม ประสานขอใช้

11 พ้ืนท่ีเพื่อจดั ตั้งศูนย์การเรียนรู้สาหรับทกุ ชว่ งวยั กศน. 4.2 สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การจดั การศึกษาและการเรยี นร้สู าหรบั กลุม่ เป้าหมายผู้พกิ าร 1) จัดการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวติ และทกั ษะอาชีพ และการศกึ ษา ตามอัธยาศัย โดยเน้นรูปแบบการศึกษาออนไลน์ 2) ให้สานกั งาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทาความรว่ มมือกบั ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจา จงั หวดั ในการใชส้ ถานท่ี วสั ดุอุปกรณ์ และครุภัณฑด์ ้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนการจดั การศึกษา และการเรียนรู้สาหรับกลมุ่ เป้าหมายผพู้ ิการ 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กบั กล่มุ เป้าหมายทหารกองประจาการ รวมท้ังกลุ่มเปา้ หมาย พิเศษอน่ื ๆ อาทิ ผูต้ อ้ งขงั คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรยี นที่อยนู่ อกระบบการศึกษา ให้จบการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน สามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปพัฒนาตนเองได้ อยา่ งต่อเนอ่ื ง 4.4 พัฒนาหลกั สูตรการจดั การศึกษาอาชีพระยะส้นั ให้มีความหลากหลาย ทนั สมัย เหมาะสมกบั บรบิ ทของพนื้ ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผรู้ บั บริการ 5. ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรสร้ำงกำรเติบโตบนคณุ ภำพชวี ิตทเ่ี ปน็ มติ รตอ่ สง่ิ แวดล้อม 5.1 สง่ เสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนในการรบั มือและปรับตัวเพื่อลดความเสยี หาย จากภยั ธรรมชาตแิ ละผลกระทบที่เกย่ี วข้องกบั การเปล่ียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสงั คมสีเขียว สง่ เสริมความรู้ใหก้ ับ ประชาชนเกยี่ วกบั การคัดแยกตั้งแต่ตน้ ทาง การกาจดั ขยะ และการนากลบั มาใช้ช้า เพ่ือลดปริมาณ และต้นทุนในการจัดการขยะของเมือง และสามารถนาขยะกลบั มาใช้ประโยชนไ์ ด้โดยงา่ ย รวมทั้งการ จดั การมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสริมใหห้ นว่ ยงานและสถานศึกษาใช้พลงั งานท่ีเปน็ มิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม รวมทง้ั ลดการ ใชท้ รพั ยากรทส่ี ง่ ผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อม เชน่ รณรงคเ์ รือ่ งการลดการใช้ถงุ พลาสติก การประหยดั ไฟฟา้ เป็นตน้ 6. ยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรปรับสมดลุ และพัฒนำระบบหำรบรหิ ำรจดั กำรภำครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธกี ารปฏิบตั ริ าชการใหท้ ันสมัย มีความโปรง่ ใส ปลอดการทจุ รติ และประพฤติมิชอบ บรหิ ารจัดการบนข้อมลู และหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ มุ่งผลสัมฤทธ์มิ ีความโปร่งใส 6.2 นานวตั กรรมและเทคโนโลยีระบบการทางานท่เี ปน็ ดจิ ิทัลมาใชใ้ นการบริหารและพัฒนา งานสามารถเช่อื มโยงกบั ระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พร้อมทั้งพฒั นาโปรแกรม ออนไลน์ทสี่ ามารถเช่ือมโยงข้อมูลต่าง ๆ ท่ีทาให้การบริหารจดั การเป็นไปอย่างต่อเนื่องกันตง้ั แต่ต้นจน จบกระบวนการและใหป้ ระชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเขา้ ถึงบริการได้อย่างทันที ทุกที่และทกุ เวลา 6.3 ส่งเสริมการพฒั นาบุคลากรทุกระดบั อย่างต่อเน่อื ง ให้มีความร้แู ละทักษะตามมาตรฐาน ตาแหน่ง ใหต้ รงกับสายงาน ความชานาญ และความต้องการของบุคลากร

12 2. แนวทำง/กลยุทธ์กำรดำเนินงำนกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำม อธั ยำศัยของ กศน.อำเภอเมอื งชลบรุ ี ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งชลบุรี ได้กาหนดทิศทางการ ดาเนินงาน ตามแผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา และแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี โดยมีรายละเอียด ดงั นี้ ทิศทำงกำรดำเนินงำนของสถำนศกึ ษำ ✍ ปรชั ญำ “คิดเป็น ทาเป็น เน้น ICT” ✍ วสิ ยั ทัศน์ “จดั การศึกษาตลอดชวี ติ ผกู มติ รกบั เครือขา่ ย กระจายความร้สู ชู่ มุ ชน ทกุ ทท่ี ุกเวลาด้วย ICT มีอาชีพและแข่งขันในประชาคมอาเซยี นอยา่ งยงั่ ยืน” ✍ อัตลกั ษณ์ “กา้ วไปในยุคดจิ ิทัล” ✍ เอกลกั ษณ์ “องค์กรออนไลน์” ✍ พนั ธกิจ 1. จัดและส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รยี น มีความรู้การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานอยา่ งมคี ุณภาพ 2. จดั การศึกษาอาชีพใหผ้ ู้เรยี นมอี าชพี ทาได้ ขายเปน็ และมีทกั ษะชวี ิตท่ีเหมาะสมทุกช่วงวยั 3. จดั และส่งเสริมใหป้ ระชาชนนาเทคโนโลยดี ิจิทลั เพอื่ พัฒนาตนเองและสรา้ งช่องทางการจาหน่าย สนิ ค้า 4. จดั และส่งเสรมิ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยทม่ี งุ่ ใหผ้ ู้รบั บริการมนี สิ ยั รกั การอา่ น และพฒั นา แหล่งเรยี นรูใ้ นชุมชน 5. จดั และสง่ เสริมสนบั สนนุ พฒั นาแหล่งเรียนรู้ สื่อ และภูมิปญั ญาท้องถิ่น 6. จดั และสง่ เสรมิ การศึกษาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพฒั นาสังคมและ ชมุ ชนให้มีความเข้มแขง็ อย่างยง่ั ยืน 7. จดั และส่งเสรมิ ประชาชนใหเ้ ป็นพลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย 8. สง่ เสริม สนับสนุน ภาคเี ครือข่าย ใหม้ ีส่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั เพ่อื ให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชวี ิต 9. พฒั นารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคลอ้ งกับพนื้ ที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาค ตะวนั ออก (EEC) และความต้องการของกลมุ่ เป้าหมาย

13 10. พัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะในการปฏิบัตงิ านตามบทบาทหนา้ ที่อย่างมีประสิทธภิ าพ และตอ่ เน่ืองโดยเนน้ การนาเทคโนโลยดี ิจิทลั มาใชใ้ นการบริหารจดั การ 11. สถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจดั การตามหลกั ธรรมมาภิบาล 12. ปฏิบตั ิงานอน่ื ๆ ที่ได้รบั มอบหมาย ✍เปำ้ ประสงค์ และตัวช้ีวัดควำมสำเรจ็ ตวั ชีว้ ดั ควำมสำเร็จ รอ้ ยละของประชากรกลมุ่ ต่างๆ (กล่มุ ประชากรวยั แรงงาน เปำ้ ประสงค์ ปกติทั่วไป กลุ่มประชากรวยั แรงงานทีเ่ ป็นผู้ยากไร้ ประชาชนไดร้ บั โอกาสทางการศกึ ษาในรปู แบบของ ผดู้ ้อยโอกาส ผู้พิการ และกลุม่ ผูส้ งู อายุ) ที่ได้รบั บริการ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ทีม่ ี การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อย่างทั่วถึง คณุ ภาพอย่างทว่ั ถึงและเปน็ ธรรม ครอบคลมุ และเป็นธรรม ร้อยละของผเู้ รียนทเี่ ขา้ รบั การศึกษาอาชพี เพ่อื การมงี านทาทม่ี ี ผ้เู รยี นทเี่ ขา้ รบั การฝึกอาชีพมสี มรรถนะในการ สมรรถนะในการประกอบอาชีพท่เี พิ่มข้นึ ประกอบอาชีพ สามารถประกอบอาชีพที่สรา้ งรายได้ ให้กบั ตนเองและครอบครวั ได้ จานวนของภาคเี ครอื ขา่ ยในการดาเนนิ งานการศกึ ษานอก องคก์ รภาคส่วนต่างๆรว่ มเปน็ ภาคเี ครอื ขา่ ยในการ ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั เพิ่มมากขึ้น ดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั อยา่ งกวา้ งขวาง ร้อยละของของผเู้ รยี นท่ีมคี วามพงึ พอใจตอ่ การใชเ้ ทคโนโลยี สถานศกึ ษานาเทคโนโลยีดิจทิ ลั มาใชใ้ นการเพ่ิม ดิจิทัลของสถานศกึ ษา ประสทิ ธภิ าพการจดั การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยอยา่ งทวั่ ถึง รอ้ ยละของบุคลากรของสถานศกึ ษาทไ่ี ด้รับการพฒั นาเพอื่ เพมิ่ บคุ ลากรของสถานศกึ ษาไดร้ บั การพัฒนาเพื่อเพิม่ สมรรถนะในการปฏบิ ัติงานการศึกษานอกระบบและ สมรรถนะในการปฏิบัติงานการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศยั โดยเน้นการนาเทคโนโลยดี จิ ิทัลมาใชใ้ น การศึกษาตามอธั ยาศยั อยา่ งทว่ั ถึง การบริหารจดั การ รอ้ ยละของสถานศึกษามกี ารพฒั นาระบบการบริหารจัดการ สถานศกึ ษามีการพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การเพือ่ เพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพโดยเน้นการนาเทคโนโลยีดจิ ิทลั ในการ เพ่มิ ประสิทธภิ าพโดยเนน้ การนาเทคโนโลยดี ิจทิ ลั ใน ดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย การดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศัย ร้อยละของบคุ ลากรของสถานศึกษาปฏบิ ัตงิ านไดเ้ ตม็ บคุ ลากรของหนว่ ยงานปฏิบตั งิ านตามทีไ่ ดร้ ับ ประสทิ ธภิ าพ มอบหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

14 ✍กลยุทธ์ กลยุทธท์ ี่ 1 สง่ เสรมิ และพัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ให้ เปน็ ไปตามนโยบายและมาตรฐานการศกึ ษาอย่างต่อเนอ่ื ง กลยุทธท์ ่ี 2 สง่ เสรมิ ให้ผรู้ ับบริการไดร้ บั การพฒั นาคุณภาพชวี ติ โดยใชก้ ระบวนการคดิ เปน็ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลยทุ ธ์ที่ 3 ส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้ภาคีเครือขา่ ยมสี ่วนรว่ มในการจัดการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย เพอื่ ให้เกดิ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ กลยุทธท์ ี่ 4 พฒั นาหลกั สูตรและรปู แบบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ใหส้ อดคลอ้ งกับพน้ื ทเ่ี ขต พฒั นาพเิ ศษภาคตะวนั ออก (EEC) และความตอ้ งการของกลุม่ เปา้ หมาย โดยการมสี ว่ นร่วมของภมู ิ ปัญญาท้องถิ่นและแหลง่ เรียนรทู้ ัง้ ภาครัฐและเอกชน กลยทุ ธ์ที่ 5 ส่งเสริมใหม้ ีการประชาสัมพันธ์ ในรปู แบบที่หลากหลาย กลยุทธ์ที่ 6 พฒั นาระบบการนิเทศภายในสถานศกึ ษาโดยใชก้ ระบวนการมสี ว่ นรว่ มจากทุก ภาคส่วน กลยุทธท์ ่ี 7 พฒั นาระบบคุณภาพการศึกษาโดยใช้วงจรการพฒั นาคณุ ภาพ (PDCA) เป็น หลักในการจดั การศึกษา กลยทุ ธ์ท่ี 8 พัฒนาบุคลากรของสถานศกึ ษาใหม้ ีความสามารถใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเพื่อการจดั กระบวนการเรียนรู้ การบริหารจัดการ และส่งเสรมิ การทางานเป็นทีม ✍เข็มมุ่งสู่ควำมสำเร็จ 1.มี กศน.ตาบลเปน็ หลักแหล่ง 2. มีคอมฯ/อุปกรณค์ รบทกุ กศน.ตาบล 3. ให้ทุกคนมีความรู้ ICT 4. มรี ะบบจัดเกบ็ /รายงานผ่านออนไลน์ 5. ภายใน1-2 ปีตอ้ งเป็น 1 ใน กศน.จังหวัด 6. ภายใน 3 ปีตอ้ งเป็น 1-5 ของสานักงาน กศน. ✍กำรบรหิ ำรนำ ICT สู่กำรปฏิบัติ 1.การจดั หาคอมฯ/อปุ กรณ์ 2.ข้นั การพัฒนา 3.การประเมนิ ผล/รายงาน 1. กำรจดั หำคอมฯ/อุปกรณ์ 1.1 การเปดิ ตวั กศน.ตาบล โดย 1) เชิญสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร (ส.ส.),สมาชิกวฒุ ิสภา (ส.ว.) เป็นต้น

15 2) นานกั ศึกษา กศน. หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ปัจจบุ ันมีทั้งสิน้ 4,621 คน 3) เชิญภาคเี ครือข่าย อาทิเช่น โรงเรยี น, อบต., เทศบาล, อบจ. , อาเภอ เปน็ ตน้ 4) เสนอโครงการพัฒนา กศน.ตาบล ให้เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ดา้ นดิจทิ ัล 1.2 เชิญส.ส./ส.ว. เขำ้ ร่วมทุกกิจกรรม 1) โครงการเขา้ คา่ ยต่าง ๆของนักศึกษา กศน. 2) โครงการวนั วิชาการ ของนักศกึ ษา กศน. 3) โครงการ อื่น ๆ 2. ขน้ั กำรพัฒนำ 2.1 พัฒนาระบบ จะพฒั นาระบบการจดั เก็บ/รายงานต่างๆผา่ นออนไลน์ 2.2 พฒั นาคน 1) ครู กศน./จนท.ทุกคน 2) นักศึกษา กศน.หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551ทงั้ 2 กลมุ่ เป้าหมาย ตอ้ งมีความรู้ ดา้ น ICT และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้ สาหรบั ในสว่ นของนกั ศกึ ษา กศน. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 กศน.อาเภอเมืองชลบุรีจะต้องประกาศเป็นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ พรอ้ มทั้งใช้ งบอุดหนุน (กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น) ในการขบั เคล่ือน โดยจัดโครงการพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน ด้าน ICT พร้อมท้งั จดั ทาสรปุ เปน็ รูปเล่ม ( 5 บท) 3.กำรประเมนิ ผล/รำยงำน 3.1 รำยงำนผ่ำนออนไลน์ โดยผ่านทางเครือขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ http://118.172.227.194:7003/choncity/ และจัดทา Application รายงานผ่านทางสมาร์ทโฟน 3.2 รำยงำนสรุปผลเปน็ รูปเล่ม (5 บท) จดั ทาสรปุ ผลโครงการ/กิจกรรม เป็นรปู เล่ม (5บท) เพ่ือรองรบั การประเมนิ คุณภาพ โดยต้นสังกัด และภายนอก

16 ✍แผนพัฒนำคณุ ภำพกำรศกึ ษำ (เฉพำะปี 2563) เป้ำประสงค์ กลยทุ ธ์ โครงกำร/กจิ กรรม เป้ำหมำย ตัวชีว้ ัด เกณฑค์ วำมสำเร็จ 8,000 คน ควำมสำเร็จ (ร้อยละ) 1. กลุม่ เปา้ หมาย กลยทุ ธท์ ี่ 1 1. โครงการ 1. กลุ่มเปา้ หมาย 8,000 คน ไดร้ บั โอกาสทาง 1. ร้อยละของ ได้รับโอกาสทาง สง่ เสรมิ ยกระดบั จัด การศกึ ษาแต่ละ กลุ่มเปา้ หมาย 27 คน ประเภทของ กศน. ไดร้ ับโอกาสทาง การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน และพฒั นา การศกึ ษานอก 1,020คน 2. ผู้จบหลกั สตู ร การศึกษาแตล่ ะ การศึกษาข้นั ประเภทของ กศน. การศกึ ษาตอ่ เน่ือง คณุ ภาพ ระบบระดบั พื้นฐานแตล่ ะระดับ 2. รอ้ ยละของผู้จบ มผี ลสัมฤทธิ์ หลกั สูตรการศึกษา และการศึกษาตาม การศึกษา การศึกษาขนั้ ทางการเรียนเฉล่ีย ขนั้ พน้ื ฐานแตล่ ะ > 2.00 ระดับมีผลสมั ฤทธิ์ อัธยาศยั ท่มี คี ุณภาพ นอกระบบ พน้ื ฐานใหม้ ี 3. กล่มุ เปา้ หมาย ทางการเรียนเฉลี่ย รว่ มกิจกรรม > 2.00 ใหเ้ ปน็ ไปตามความ และ คณุ ภาพ พัฒนาคุณภาพ 3. รอ้ ยละของ ผเู้ รียน กลมุ่ เปา้ หมายร่วม ต้องการและ การศึกษา 2. โครงการพฒั นา 4. กล่มุ เปา้ หมาย กจิ กรรมพฒั นา เขา้ ร่วมกิจกรรม คณุ ภาพผเู้ รยี น สอดคลอ้ งกบั สภาพ ตาม คณุ ภาพผู้เรยี น สง่ เสริมการรู้ 4.ร้อยละของ หนังสอื กลุม่ เป้าหมายเขา้ ปญั หาของ อัธยาศยั ให้ กศน.ตามหลักสูตร 5. กลมุ่ เปา้ หมาย รว่ มกจิ กรรม ทุกประเภท สง่ เสริมการรู้ กลุม่ เป้าหมาย5. เป็นไปตาม การศกึ ษานอก สามารถนาความรู้ หนังสอื ไปใช้ในการพัฒนา 5. รอ้ ยละของ กลุ่มเป้าหมายได้รับ นโยบาย ระบบระดบั อาชีพหรอื คณุ ภาพ กลมุ่ เปา้ หมายทกุ ชีวติ ได้ ประเภทสามารถ การสง่ เสริมและ และ การศึกษาขน้ั 6. กลมุ่ เป้าหมายมี นาความรไู้ ปใช้ใน การพัฒนาอาชีพ สนบั สนนุ การพฒั นา มาตรฐาน พนื้ ฐาน คณุ ภาพชวี ิตตาม การศกึ ษา พุทธศักราช 2551 หลกั ปรชั ญาของ อย่าง 3. โครงการส่งเสริม เศรษฐกจิ พอเพียง ต่อเน่อื ง การรหู้ นงั สอื เพื่อพฒั นาสงั คม สาหรับประชาชน และชุมชนใหม้ ีความ อาเภอเมืองชลบุรี เขม้ แขง็ อย่างยงั่ ยืน 4. โครงการจัด 3.กลุม่ เป้าหมาย การศึกษาเพอ่ื ได้รับการสรา้ งและ พัฒนาอาชพี (ศนู ย์ ส่งเสริมใหเ้ ป็นผู้รกั ฝกึ อาชพี ชมุ ชน) การอ่านและใฝร่ ู้ใฝ่ เรียนอย่างต่อเน่ือง

ตลอดชวี ิต คุณลกั ษณะทพี่ งึ 17 ประสงคต์ าม จุดมงุ่ หมายของ หรอื คุณภาพชวี ติ หลกั สูตร ได้ เปำ้ ประสงค์ กลยุทธ์ โครงกำร/กิจกรรม เป้ำหมำย ตวั ชี้วัด เกณฑค์ วำมสำเรจ็ ควำมสำเร็จ (ร้อยละ) กลยุทธท์ ่ี 3 1. โครงการเรยี นรู้ 285 คน 7. กล่มุ เปา้ หมายมี 6. รอ้ ยละของ สง่ เสริม ปรชั ญาของ ส่วนร่วมในการจัด กล่มุ เปา้ หมายมี สนับสนนุ ให้ เศรษฐกจิ พอเพียง การศกึ ษานอก คุณลักษณะทพ่ี ึง ภาคี และเกษตรทฤษฎี ระบบและการจดั ประสงคต์ าม เครอื ข่ายมี ใหม่ การศึกษาตาม จดุ มุ่งหมายของ สว่ นรว่ มใน 2.โครงการ อัธยาศยั หลักสตู ร การจัด เสริมสรา้ งคุณภาพ 2. มีบ้านหนังสอื 7. รอ้ ยละของ การศึกษา ชวี ติ ท่ีเปน็ มติ รกบั ชุมชนท่ีเป็นไปตาม กลมุ่ เปา้ หมายมี นอกระบบ สง่ิ แวดลอ้ ม เกณฑค์ รบทุก ความพึงพอใจตอ่ และ 3.โครงการเกษตร ตาบลอยา่ งนอ้ ย การรว่ มกจิ กรรม การศึกษา ยุคใหม่ตามวิถี ตาบลละ 1 แห่ง การเรียนรู้ทุก ตาม ความพอเพียง 3. มีมมุ หนงั สือเพือ่ ประเภท อัธยาศยั 4.โครงการอบรม ชมุ ชนอยา่ งน้อย 1. รอ้ ยละ 80 เพ่อื ให้เกดิ เชงิ ปฏิบัตกิ าร ตาบลละ 1 ของกลมุ่ เปา้ หมาย การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ความพงึ พอใจต่อ ไดร้ บั การส่งเสรมิ ตลอดชวี ติ พอเพียง การร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ทางด้าน 5.โครงการปรชั ญา การเรยี นรู้ทุก หลักปรัชญาของ ของเศรษฐกิจ 11,500 คน ประเภท เศรษฐกิจพอเพียง พอเพยี ง 1. กล่มุ เปา้ หมาย 2. ร้อยละ 80 นาวิถพี อเพียงสู่ ไดร้ บั การสง่ เสรมิ ของกลมุ่ เป้าหมาย ชุมชน การเรยี นรทู้ างดา้ น นาความรไู้ ปใชใ้ น 6.โครงการอบรม หลกั ปรัชญาของ การพฒั นาอาชพี และเรียนร้ตู ามรอย เศรษฐกิจพอเพยี ง และพัฒนา

18 พระยคุ ลบาทด้วย 2. กลุ่มเปา้ หมาย คณุ ภาพชีวิตได้ หลกั ปรชั ญาของ นาความรไู้ ปใช้ใน 3. รอ้ ยละ 90 ของ เศรษฐกิจพอเพยี ง การพัฒนาอาชีพ กลุม่ เปา้ หมายมี 7.โครงการเรยี นรู้ และพฒั นา ความพึงพอใจใน เศรษฐกิจพอเพียง คณุ ภาพชีวิตได้ ระดบั ดขี ึ้นไป และการพัฒนาท่ี 3. กล่มุ เปา้ หมายมี ยั่งยืน \"วถิ ีไทย วถิ ี ความพึงพอใจใน พอเพียง\" ระดบั ดีขึ้นไป เป้ำประสงค์ กลยทุ ธ์ โครงกำร/กจิ กรรม เปำ้ หมำย ตวั ช้ีวดั เกณฑค์ วำมสำเรจ็ ควำมสำเร็จ (รอ้ ยละ) 9.สถานศึกษาพฒั นา กลยุทธท์ ี่ 4 1. โครงการสง่ เสรมิ 800 คน 1. กลมุ่ เป้าหมาย สื่อ แหล่งเรยี นรู้และ พัฒนา การอ่านเพือ่ พัฒนา ภาคีเครอื ขา่ ยมี 1. ร้อยละ 80 ของ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ หลักสตู ร บ้านหนังสอื ชมุ ชน แหง่ 4 เป้าหมายภาคี ดว้ ยการจดั และรูปแบบ 2. โครงการ กลุ่มเปา้ หมายมี เครอื ข่ายมสี ่วน กระบวนการเรียนรู้ การจัด ห้องสมุดเคล่อื นที่ ความพงึ พอใจใน รว่ มในการจัด ที่ตอบสนองกบั การ กิจกรรม สาหรบั ชาวตลาด 17 ตาบล ระดบั ดีข้นึ ไป การศึกษานอก เปล่ียนแปลงบรบิ ท การเรียนรู้ 3.โครงการเมอื งนกั 1.กลมุ่ เปา้ หมาย ระบบและการจดั ด้านเศรษฐกจิ สงั คม ให้ อ่าน ได้รับการพัฒนา การศกึ ษาตาม การเมอื ง ในรูปแบบ สอดคล้อง 4.โครงการอา่ น ชีวติ ใหส้ อดคลอ้ ง อธั ยาศยั ท่หี ลากหลาย กบั พืน้ ที่เขต สรา้ งงานผา่ น กบั พน้ื ทีเ่ ขตพฒั นา 2. มบี า้ นหนงั สอื พัฒนา QRCode พิเศษภาค ชุมชนท่ีเป็นไปตาม พเิ ศษภาค ตะวนั ออก (EEC) เกณฑค์ รบทกุ ตะวนั ออก 4. กลุ่มเป้าหมายมี ตาบลอยา่ งน้อย (EEC) ความพึงพอใจใน ตาบลละ 1 แหง่ และความ ระดบั ดขี ึน้ ไป 3. มมี มุ หนังสอื ตอ้ งการของ เพื่อชมุ ชนอยา่ ง กลุ่มเปา้ หม -= 1. กศน.อาเภอ นอ้ ยตาบลละ 1 าย โดยการ และกศน.ตาบลมี แหง่ มสี ่วนร่วม การอัพเดทขอ้ มลู 4. รอ้ ยละ 80 ของ ของ การประชาสัมพนั ธ์ กลมุ่ เป้าหมายมี ความพึงพอใจใน

19 กจิ กรรมทางเวบ็ ระดับดขี ้ึนไป ไซดเ์ ปน็ ประจาทุก เดอื น เป้ำประสงค์ กลยทุ ธ์ โครงกำร/กิจกรรม เป้ำหมำย ตวั ช้วี ัด เกณฑค์ วำมสำเรจ็ 7.ชุมชนและภาคี ควำมสำเรจ็ (รอ้ ยละ) ภมู ิปัญญา 1. โครงการ 17 ตาบล 1. สถานศึกษามี คู่มือระบบการ 1. รอ้ ยละ 75 ท้องถิ่นและ English นา่ รู้ คู่ นิเทศภายใน ของกลุ่มเปา้ หมาย 2. ผู้นิเทศมกี าร ได้รบั การพัฒนา แหลง่ เรยี นรู้ Service โรงแรม นเิ ทศการจดั ชีวติ ใหส้ อดคลอ้ ง กิจกรรมและ กบั พ้ืนทีเ่ ขตพฒั นา ทัง้ ภาครฐั 2.โครงการ Smart รายงานผลเปน็ พิเศษภาค ประจาทุกเดอื น ตะวนั ออก (EEC) และเอกชน ONIE เพื่อสรา้ ง 2. ร้อยละ 80 ของ กลุ่มเป้าหมายมี กลยุทธท์ ่ี 5 Smart farmers ความพึงพอใจใน ระดับดีข้ึนไป ส่งเสริมให้มี 3.โครงการ Digital 1. รอ้ ยละ 100 ของ กศน.อาเภอ การ Literacy และ กศน.ตาบลมี การอพั เดทขอ้ มูล ประชาสัมพั (เพ่อื สรา้ งสังคม การประชาสมั พนั ธ์ กิจกรรมทางเว็บ นธ์ ใน ออนไลน)์ รูปแบบที่ 4.โครงการการค้า หลากหลาย ออนไลน์ สสู่ งั คม กลยุทธท์ ี่ 6 Digital พัฒนา 5.โครงการเพมิ่ ระบบการ ประสิทธภิ าพการ นเิ ทศ บริหารจดั การขยะ ภายใน มลู ฝอย

เครอื ข่ายร่วมจดั สถานศกึ ษา 1. โครงการพัฒนา 20 ส่งเสริมและ โดยใช้ ระบบ ไซด์ เปน็ ประจาทุก สนับสนนุ การ กระบวนกา ประชาสมั พนั ธ์ของ เดอื น 1. ร้อยละ 100 ดาเนินงาน รมีส่วนร่วม สถานศกึ ษา ของสถานศึกษามี คมู่ ือระบบการ การศกึ ษานอกระบบ จากทกุ ภาค 1. โครงการพัฒนา นิเทศภายใน 2. ร้อยละ 80 ของ และการศึกษาตาม สว่ น บุคลากรการนิเทศ ผ้นู เิ ทศมีการนิเทศ การจดั กิจกรรม อัธยาศยั ภายในสถานศกึ ษา และรายงานผล เป็นประจาทกุ กศน.อาเภอเมือง เดือน ชลบรุ ี เปำ้ ประสงค์ กลยทุ ธ์ โครงกำร/กิจกรรม เปำ้ หมำย ตัวชว้ี ัด เกณฑ์ควำมสำเร็จ ควำมสำเร็จ (รอ้ ยละ) 10.สถานศึกษามี กลยทุ ธ์ที่ 7 1. โครงการบรหิ าร 39 คน 1. สถานศกึ ษามี ระบบการบริหาร พฒั นา ความเสย่ี งของ คมู่ ือการบรหิ าร 1. สถานศึกษามี จดั การตามหลกั ระบบ สถานศึกษา กศน. ความเส่ยี ง คู่มือการบรหิ าร ธรรมาภิบาล คณุ ภาพ อาเภอเมืองชลบรุ ี 2. รายงานสถานะ ความเสย่ี ง การศึกษา 2. โครงการพัฒนา ทางการเงินเปน็ 2. รายงานสถานะ โดยใช้วงจร ระบบประกัน ประจาทกุ เดอื น ทางการเงินเปน็ การพัฒนา คณุ ภาพการศกึ ษา ประจาทกุ เดือน คณุ ภาพ กศน.อาเภอเมือง (PDCA) ชลบุรี เปน็ หลักใน การจดั การศกึ ษา

21 8. บุคลากรของ กลยทุ ธ์ท่ี 8 1.โครงการพัฒนา 39 คน 1.บคุ ลากรของ 1. รอ้ ยละ 80 ของ สถานศึกษาได้รบั สถานศกึ ษาทุกคน บคุ ลากรของ การพฒั นาเพ่ือเพิ่ม พฒั นา บุคลากรดา้ น ไดร้ ับการพฒั นาเพอ่ื สถานศึกษาทุกคน สมรรถนะในการ เพม่ิ สมรรถนะใน ได้รบั การพฒั นา ปฏบิ ัติงานตาม บุคลากร วชิ าการ:Google การปฏิบัติงานตาม เพ่อื เพ่ิมสมรรถนะ บทบาทหนา้ ที่อย่าง ของ Form บทบาทหน้าที่อยา่ ง ในการปฏิบตั ิงาน มปี ระสิทธิภาพและ สถานศกึ ษา 2.โครงการพฒั นา มปี ระสทิ ธภิ าพและ ตามบทบาทหน้าที่ ตอ่ เนือ่ ง ให้มี บคุ ลากรด้าน ต่อเนือ่ ง อย่างมี ความสามา วชิ าการ:การจดั ทา 2.บุคลากรของ ประสทิ ธิภาพและ รถใช้ สอื่ การเรยี นการ สถานศึกษาสามารถ ต่อเนื่อง เทคโนโลยี สอน Clip Video นาความรไู้ ปใชใ้ น 2. ร้อยละ 80 ดิจิทลั เพอ่ื 3.โครงการบรหิ าร การพฒั นาการ ของบุคลากรของ การจดั จดั การข้อมลู ปฏิบัติงานตาม สถานศกึ ษา กระบวนกา ข่าวสาร กศน.ฝ่า บทบาทหน้าทอี่ ยา่ ง สามารถนาความรู้ กระแส Social มีประสทิ ธิภาพ ไปใช้ในการ 3. บคุ ลากรของ พัฒนาการ รเรียนรู้ Network สถานศกึ ษามคี วาม ปฏบิ ัตงิ านตาม พึงพอใจในระดับดี บทบาทหนา้ ที่ การบริหาร 4.โครงการประชมุ ข้ึนไป อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ จัดการ และ บุคลากรเพอื่ เพ่มิ ส่งเสริมการ ประสทิ ธภิ าพในการ ทางานเปน็ ปฏิบตั ิงาน ทมี 5.โครงการประชมุ เชิงปฏบิ ตั ิการการ จดั กระบวนการ เรยี นการสอน 3. กศน. WOW 1.พัฒนาครู กศน.และบุคลากรทเี่ ก่ยี วข้องกับการจดั กิจกรรมการศึกษาและ เรียนรู้:GOOD TEACHER เพ่ิมอัตรำขำ้ รำชกำรครู กศน. 928 อัตรำ - เร่งดาเนินการเรือ่ งการหาอัตราตาแหนง่ การสรรหา บรรจุ แต่งตงั้ ข้าราชการครู กศน. พัฒนำครูและบคุ ลำกร กศน. -พฒั นาครู กศน. -พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ -พฒั นาบคุ ลากร กศน.ทกุ ระดบั ทกุ ประเภท

22 4. เอกสำรงำนที่เกีย่ วข้อง พระรำชดำริว่ำดว้ ยเศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง คอื ปรชั ญาทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวทรงชีแ้ นวทางการดาเนินชวี ติ ให้แก่ ปวงชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลานาน ในชว่ งตงั้ แตก่ ่อนการเกดิ วิกฤตเศรษฐกิจ เพอ่ื ม่งุ ให้พสกนกิ รได้ ดารงชวี ิตอยูไ่ ด้อยา่ งย่งั ยนื มั่นคง และปลอดภยั ภายใตค้ วามเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ ทเี่ กิดข้ึนตามกระแส โลกาภวิ ฒั น์ อีกทั้งพระองค์ยังได้ทรงพระราชทานความหมายของ เศรษฐกจิ พอเพียง เอาไวเ้ ป็น ภาษาอังกฤษว่า Sufficiency Economy ดังพระราชดารัสทไ่ี ด้ทรงตรสั ไว้เมื่อวันท่ี 23 ธนั วาคม 2554 “ในทน่ี เ้ี ราฟังเขาถามวา่ เศรษฐกิจพอเพยี ง จะแปลเป็นภาษาองั กฤษวา่ อย่างไร ก็อยากจะตอบวา่ มี แล้วในหนังสือ ไม่ใชห่ นังสือตาราเศรษฐกจิ แต่เป็นหนังสอื พระราชดารัสท่ีอุตสา่ หม์ าปรับปรงุ ให้ฟังได้ และแปลเป็นภาษาอังกฤษ เพราะคนท่ีฟงั ภาษาไทยบางทีไม่เขา้ ใจภาษาไทย ต้องแปลเปน็ ภาษาองั กฤษ จงึ ได้แปลเปน็ ภาษาอังกฤษ และเนน้ วา่ เศรษฐกจิ พอเพียง แปลว่า Sufficiency Economy โดยเขยี นเปน็ ตวั หนาในหนงั สือ” แตเ่ น่อื งด้วยคาวา่ Sufficiency Economy เปน็ คาท่เี กิดมาจากความคิดใหม่ อกี ทั้งยงั เป็นทฤษฎีใน พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั จงึ ไมม่ ีปรากฏอยู่ในตาราเศรษฐศาสตร์ ซ่ึงบางคนอาจจะยังสงสยั อย่วู า่ Self-Sufficient Economy สามารถใชแ้ ทน Sufficiency Economy ได้หรอื ไม่ หากวา่ ไมไ่ ดม้ ี ความหมายอยา่ งเดียวกัน หรือไม่สามารถใช้เหมือนกนั ด้ จะมคี วามเหมอื น หรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร โดยคาว่า Self-Sufficiency มีความหมายตามพจนานุกรท่ีว่า การไม่ต้องพง่ึ ใคร และการไม่ต้องพ่ึง ใครในความหมายของพระองคท์ า่ นนั้น คือ “Self-Sufficiency น้ันหมายความว่า ผลติ อะไรมีพอท่ีจะใช้ ไมต่ ้องไปขอยืมคนอน่ื อย่ไู ดด้ ้วยตนเอง” ฉะนัน้ เม่ือเติมคาวา่ Economy เขา้ ไป กลายเปน็ Self-Sufficient Economy แล้วน้นั จะมี ความหมายว่า เศรษฐกจิ แบบพอเพยี งกบั ตัวเอง คอื การที่สามารถอย่ไู ดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งไมเ่ ดอื ดร้อน ไม่ต้องพ่ึงพาผู้อ่ืน แตใ่ นทุกวันน้ี ประเทศไทยเรายงั เดือดร้อน ยังมีความจาเปน็ ต้องพึ่งพาผอู้ ื่นอยู่ ท่ใี น ความเปน็ จรงิ ทเี่ ราจะสามารถช่วยเหลือตวั เองได้กต็ าม ดงั นั้น Self-Sufficient Economy จึง หมายถงึ เศรษฐกิจแบบพอเพียงกบั ตวั เอง ท่แี ตกต่างจาก Sufficiency Economy ซงึ่ หมายถึง เศรษฐกจิ พอเพียงทยี่ ังคงมีการพง่ึ พากันและกันอยู่ ดงั พระราชดารัสเพ่ิมเตมิ ท่ีวา่ “คือพอมพี อกนิ ของตัวเองนน้ั ไมใ่ ช่เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเศรษฐกิจสมยั หนิ สมยั หินน้นั เปน็ เศรษฐกิจ พอเพียงเหมือนกัน แตว่ ่าค่อยๆ พัฒนาขนึ้ มา ต้องมีการแลกเปลีย่ นกนั มกี ารชว่ ยระหว่างหม่บู า้ น หรือระหว่าง จะเรยี กวา่ อาเภอ จงั หวดั ประเทศ จะต้องมีการแลกเปลย่ี น มกี ารไม่พอเพียง จงึ บอกวา่ ถา้ มี เศรษฐกิจพอเพยี ง เพยี งเศษหนึ่งสว่ นส่กี ็จะพอแล้ว จะใชไ้ ด้”

23 ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งนัน้ เป็นแนวทางการดารงชีวติ และการปฏิบตั ิตนของประชาชนทุกระดับ โดยยึดแนวทางการพฒั นาที่มีคน หรือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซง่ึ สิ่งเหล่าน้ีเองจะเป็นตัวการที่นาไปสู่ การพฒั นาที่ย่งั ยืน หรือในภาษาอังกฤษ คอื Sustainable Development หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียง การพฒั นาตามหลักแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี ง คือการพัฒนาที่ตัง้ อย่บู นพื้นฐานของทางสายกลาง และความไมป่ ระมาท โดยคานงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมคิ ุ้มกันท่ดี ใี นตัว ตลอดจนใชค้ วามรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจและการกระทา ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง มหี ลกั พิจำรณำอยู่ 5 ส่วน ดังนี้ 1. กรอบแนวควำมคิด เปน็ ปรชั ญาทช่ี ้ีแนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางทคี่ วรจะเปน็ โดยมีพนื้ ฐานมาจากวถิ ี ชีวติ ดัง้ เดิมของสงั คมไทย สมารถนามาประยุกตใ์ ช้ไดต้ ลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชิงระบบที่มีการ เปลย่ี นแปลงอยตู่ ลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพน้ จากภัย และวิกฤต เพ่ือความมนั่ คง และ ความย่ังยนื ของการพัฒนา 2. คุณลักษณะ เศรษฐกจิ พอเพยี งสามารถนามาประยุกตใ์ ช้กับการปฏิบตั ติ นไดใ้ นทุกระดับโดยเน้นการปฏิบัติบนทาง สายกลาง และการพฒั นาอย่างเปน็ ขั้นตอน 3. คำนยิ ำม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลกั ษณะ พร้อม ๆ กัน ดงั นี้ 1. ควำมพอประมำณ: หมายถงึ ความพอดีที่ไมน่ ้อยเกินไปและไม่มากเกนิ ไปโดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผ้อู นื่ เช่นการผลติ และการบริโภคท่ีอยูใ่ นระดับพอประมาณ 2. ควำมมเี หตุผล: หมายถึง การตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั ระดับของความพอเพยี งนนั้ จะต้องเปน็ ไปอยา่ งมี เหตุผลโดยพจิ ารณาจากเหตปุ ัจจัยทเี่ ก่ียวข้องตลอดจนคานงึ ถึงผลท่คี าดวา่ จะเกิดขึน้ จากการ กระทาน้ัน ๆ อย่างรอบคอบ 3. กำรมภี ูมคิ ุ้มกนั ทด่ี ใี นตัว: หมายถึง การเตรยี มตวั ให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง ดา้ นต่าง ๆ ทจี่ ะเกิดขึ้นโดยคานึงถงึ ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดข้ึนใน อนาคตทง้ั ใกลแ้ ละไกล 4. เงอ่ื นไข การตดั สนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนน้ั ต้องอาศัยทัง้ ความรู้ และ คณุ ธรรมเปน็ พน้ื ฐาน กลา่ วคือ

24  เง่ือนไขควำมร้:ู ประกอบด้วย ความรอบรูเ้ กยี่ วกับวชิ าการตา่ ง ๆ ที่เกีย่ วข้องอย่างรอบด้าน ความ รอบคอบทจี่ ะนาความรเู้ หลา่ นนั้ มาพจิ ารณาใหเ้ ชื่อมโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผน และความ ระมัดระวังในขั้นปฏิบตั ิ  เง่ือนไขคุณธรรม: ท่ีจะตอ้ งเสรมิ สร้างประกอบดว้ ย มีความตระหนกั ในคุณธรรม มีความซอื่ สัตย์ สจุ รติ และมีความอดทน มีความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนนิ ชีวติ 5. แนวทำงปฏิบัติ/ผลท่คี ำดวำ่ จะไดร้ บั ผลจากการนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาทสี่ มดลุ และย่งั ยืน พร้อมรับ ต่อการเปล่ยี นแปลงในทุกด้าน ทัง้ ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม ความรู้และเทคโนโลยี เศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดาริ เศรษฐกจิ พอเพยี งและแนวทางปฏบิ ตั ิของทฤษฎใี หม่ เปน็ แนวทางในการพัฒนาทนี่ าไปสู่ ความสามารถในการพ่งึ ตนเอง ในระดับต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นตอน โดยลดความเสี่ยงเกีย่ วกบั ความผัน แปรของธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงจากปัจจยั ตา่ ง ๆ โดยอาศัยความพอประมาณและความมี เหตุผล การสรา้ งภมู คิ ุ้มกันที่ดี มคี วามรู้ ความเพยี รและความอดทน สติและปญั ญา การช่วยเหลอื ซึง่ กันและกนั และความสามัคคี แหลง่ อา้ งองิ https://sites.google.com/site/suxkarrekicp55hxpheiyng/khwam-ru-keiyw- kab-sersthkic-phx-pheiyng?fbclid=IwAR38FkLvT9i3xtQJO0tCiuHtas5LfqW- TFuEN9zi0tQDbqI6djAy49PiF64 การทาน้าหมักชีวภาพกับความปลอดภยั ทางกายภาพ ลักษณะทางด้านกายภาพประกอบไปดว้ ยหลายๆ ส่วนทค่ี วรพงึ ระวงั และ ตดิ ตามผลเม่อื ทา การหมกั ไม่วา่ จะเป็นเรอื่ ง สี กล่นิ รส ความข่นุ ฟองแก๊ส เพราะสงิ่ ต่าง ๆ เหลา่ นี้เปน็ ตัวชบ้ี ่งเบอื้ งต้นวา่ กระบวนการหมักได้เกดิ ข้ึนหรือยัง มีอนั ตรายที่อาจเกดิ ขนึ้ ในระหว่างกระบวนการหมักหรอื ไม่ โดยควร ทจ่ี ะสังเกตลักษณะทางกายภาพ ดังน้ี สี สขี องนา้ หมักจะเป็นสีน้าตาลและค่อย ๆ เขม้ มากขนึ้ เม่อื ระยะเวลาในการหมักเพมิ่ ขึน้ ความขุน่ ช่วงแรกของการหมักพบวา่ มีฟองแก๊สเกิด ข้นึ เนื่องจากกระบวนการหมักเริม่ เกดิ ขึน้ เนื้อของ พชื ท่ใี ชใ้ นการหมกั เรมิ่ กระจายตัว เป็นช้นิ เลก็ ทาใหม้ ีความขุ่นเพ่มิ ขนึ้ หลงั จากท่ีอัตราการหมกั ลดลง คอื เมื่อเกดิ ฟองแกส๊ น้อยลงหรือไม่มแี กส๊ เกดิ ขนึ้ แลว้ พืชที่ใชใ้ นการหมกั จะตกตะกอนทาให้นา้ หมกั มี ความใสข้นึ

25 กลน่ิ หลังจากเร่มิ กระบวนการหมักจะเรมิ่ มีกล่นิ หอมของน้าตาลและพืชที่ถกู หมักและมกี ลิน่ เปรยี้ วเกิดขน้ึ ในเวลาต่อมา รส ในวนั แรกของกระบวนการหมักนา้ หมักจะมี รสฝาดหรือรสของพชื ทใี่ ช้ผลติ และรสหวาน ของ น้าตาลหลังจากนัน้ จะมีรสเปรี้ยวเพิ่ม มากขน้ึ เมื่อระยะเวลาในการหมักเพ่ิมข้ึน รส หวานจะลดน้อยลง จนแทบหมดไป ฟองแก๊ส ชว่ งแรกของการหมักพบวา่ มีฟองแกส๊ เกิด ขึ้นเนื่องจากกระบวนการหมักทีเ่ กิดข้ึน อาจจะเพิ่มมากขน้ึ จนถงึ วันที่ 15 ของการ หมกั (ข้นึ อยู่กบั ปรมิ าณนา้ ตาลที่ใชใ้ น กระบวนการหมกั ) หลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดลงจนหมดไปในทส่ี ดุ (อาจจะใช้เวลา มากกว่า 30 วันของกระบวนการหมกั ) ประโยชนจ์ ำกนำ้ หมักชีวภำพ น้ำหมักชีวภำพ หรอื น้ำสกดั ชีวภำพ หรือ ปุ๋ยนำ้ จลุ นิ ทรีย์ ตำมแตจ่ ะเรียก เปน็ สำรละลำย เข้มขน้ ท่ีได้จำกกำรหมักเศษพชื หรือสัตว์ กับสำรท่ใี ห้ควำมหวำน จนถกู ยอ่ ยสลายโดยจุลินทรยี ์ ซงึ่ เมอ่ื ผา่ นกระบวนการแล้วจะได้สารละลายเขม้ ข้นสีน้าตาล ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ และสารอนิ ทรยี ์ หลายชนิด เดมิ ทีนน้ั จดุ ประสงค์ของการคดิ ค้น \"น้ำหมกั ชีวภำพ\" ข้ึนมา เพื่อใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร โดยเฉพาะ แต่ชว่ งหลังกม็ ีการนานา้ หมกั ชีวภาพ มาประยกุ ตใ์ ช้ประโยชน์ในด้านอนื่ เชน่ กัน คือ ดำ้ นกำรเกษตร นา้ หมกั ชวี ภาพ มีธาตุอาหารสาคัญ ทง้ั ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั โปแต สเซยี ม แคลเซียม กามะถัน ฯลฯ จงึ สามารถนาไปเป็นปุ๋ย เรง่ อัตราการเจริญเติบโตของพืช เพ่ิม คณุ ภาพของผลผลิตใหด้ ีขนึ้ และยังสามารถใช้ไลแ่ มลงศัตรูพืชไดด้ ว้ ย ด้ำนปศสุ ตั ว์ สามารถชว่ ยกาจัดกลนิ่ เหมน็ นา้ เสยี จากฟาร์มสัตว์ได้ ช่วยปอ้ งกนั โรคระบาด ตา่ ง ๆ ในสัตวแ์ ทนการใหย้ าปฏิชีวนะ ทาใหส้ ตั ว์แขง็ แรง มีความตา้ นทานโรค ช่วยกาจัดแมลงวัน ฯลฯ ดำ้ นกำรประมง ช่วยควบคุมคุณภาพนา้ ในบ่อเลี้ยงสัตว์นา้ ชว่ ยแกป้ ญั หาโรคพยาธใิ น น้า ชว่ ยรกั ษาโรคแผลตา่ ง ๆ ในปลา กบ จระเข้ได้ ช่วยลดปริมาณขีเ้ ลนในบอ่ ช่วยใหเ้ ลนไมเ่ นา่ เหม็น สามารถนาไปผสมเปน็ ปยุ๋ หมักใชก้ ับพืชต่าง ๆ ไดด้ ี

26 ด้ำนสิ่งแวดลอ้ ม น้าหมกั ชวี ภาพ สามารถชว่ ยบาบดั น้าเสยี จากการเกษตร ปศุสัตว์ การ ประมง โรงงานอุตสาหกรรม ชมุ ชน และสถานประกอบการทัว่ ไป แถมยังช่วยกาจัดกลิ่นเหม็นจากกอง ขยะ การเล้ียงสัตว์ โรงงานอุตสาหกรรม และชุมชนตา่ ง ๆ นอกจากน้ยี ังชว่ ยปรบั สภาพอากาศที่เสียให้ สดช่นื และมีสภาพดขี ึน้ ประโยชน์ในครวั เรือน เราสามารถนานา้ หมักชีวภาพ มาใชใ้ นการซกั ลา้ งทาความสะอาด แทนสบู่ ผงซกั ฟอก แชมพู น้ายาลา้ งจาน รวมทัง้ ใชด้ บั กล่ินในหอ้ งน้า โถสว้ ม ท่อระบายน้า ฯลฯ ได้ ด้วย วิธีทำ น้ำหมกั ชีวภำพ เพื่อกำรเกษตร เรำสำมำรถเลอื กส่วนผสมจำก พชื ผลไมส้ กุ หรือสตั ว์ อย่ำงหอยเชอรี่ ในกำรทำนำ้ หมักชวี ภำพ ได้ ส่วนผสม : เราสามารถเลอื กสว่ นผสมจาก พชื ผลไมส้ ุก หรอื สตั ว์ อย่างหอยเชอรี่ อยา่ งใด อยา่ งหนง่ึ ในการทานา้ หมักชีวภาพ โดยสบั เปน็ ชน้ิ เลก็ 3 สว่ น, กากน้าตาล 1 สว่ น (อาจใชน้ า้ ตาล ทรายแดง หรือน้าตาลทรายขาว ผสมน้ามะพรา้ ว 1 ส่วนแทนได้) น้าเปลา่ 10 ส่วน วธิ ีทำ : นาส่วนผสมท้งั หมดมาคลกุ เคล้ากนั แล้วบรรจลุ งในถงั หมักพลาสติก หรือขวดปดิ ฝา เก็บไวใ้ นที่ร่ม นานประมาณ 3 เดอื น แล้วจึงสามารถนาไปใส่เป็นป๋ยุ ใหพ้ ืชผักผลไมไ้ ด้ โดย ใช้น้าหมักชวี ภาพ อัตราส่วน 10 ซีซี ตอ่ นา้ 20 ลิตร เพอ่ื บารุงใบพชื ผกั ผลไม้ ใชน้ า้ หมักชีวภาพอตั ราสว่ น 15-20 ซซี ี ต่อนา้ 20 ลิตร เพ่ือปรับปรงุ บารุงดิน ให้ดนิ ร่วนซุย ใชน้ ้าหมักชีวภาพ อัตราส่วน 1 สว่ น นา้ 1 สว่ น เพอ่ื กาจัดวัชพชื ทั้งน้ี มีเทคนิคแนะนำวำ่ หากต้องการบารงุ สว่ นใบพืช กใ็ หใ้ ช้ส่วนใบยอดพืชมาหมัก หาก ตอ้ งการบารุงผล ให้ใชส้ ่วนผล เชน่ กลว้ ยน้าวา้ สกุ มะละกอสกุ เปลือกสับปะรด ฟักทองมาหมัก หรอื หากตอ้ งการใช้กาจัดศตั รูพขื ควรหมกั สะเดา ตะไครห้ อม ข่า แยกต่างหากดว้ ย เม่ือจะใช้ก็นามาผสม ฉีดพ่นพชื ผักผลไม้ นอกจากนี้ หากใช้สายยางดดู เฉพาะน้าใส ๆ จากน้าหมกั ชวี ภาพทีห่ มักได้ 3 เดอื นแลว้ ออกมา จะเรยี กส่วนนีว้ ่า \"หวั เช้ือนำ้ หมักชีวภำพ\" เม่ือนาไปผสมอกี คร้ัง แล้วหมกั ไว้ 2 เดอื น จะได้หัวเชื้อน้า หมักชีวภาพอายุ 5 เดอื น ซึ่งหากขยายต่ออายุทุก ๆ 2 เดอื น จะไดห้ ัวเชือ้ ท่ีอายุมากขน้ึ เรื่อย ๆ และ ประสทิ ธภิ าพสูงมากข้ึน

27 วธิ ีทำ น้ำหมกั ชีวภำพ เพ่ือกำรซักล้ำง น้าหมกั ชวี ภาพ สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการซักลา้ งได้ โดยมสี ตู รใหน้ าผลไม้ เปลือกผลไม้ (ฝักส้มปอ่ ย , มะคาดีควาย , มะนาว ฯลฯ) 3 ส่วน น้าตาลทรายแดงหรือน้าตาลอ้อย 1 ส่วน และน้า 10 สว่ น ใส่รวมกนั ในภาชนะทมี่ ฝี าปิดสนทิ โดยให้เหลอื ชอ่ งว่างไวป้ ระมาณ 1 ใน 5 ของขวด/ถงั แลว้ หมั่น เปดิ ฝาคลายแก๊สออก โดยต้องวางไว้ในทรี่ ่ม อย่าใหถ้ ูกแสงแดด หมกั ไว้นาน 3 เดอื น ก็จะได้น้าหมกั ชีวภาพ สาหรับซักผา้ หรือลา้ งจานได้ ซึง่ สตู รน้ีแม้ว่าผา้ จะมรี าข้ึน หากนาผ้าไปแชท่ ง้ิ ไว้ในนา้ หมัก ชีวภาพกจ็ ะสามารถซกั ออกได้ ดินโลก กำรทำดนิ หมักสำหรับเพำะปลูกพชื การเพาะปลูกขน้ึ อยู่กบั ปจั จยั ในหลายๆ ด้าน ไม่วา่ จะเป็นสภาพภูมิอากาศ พื้นท่ีทาเล การเลอื กเมล็ด พนั ธุพ์ ืชหรือแมแ้ ตส่ ภาพดินในพน้ื ทเ่ี พาะปลูก หากสภาพดินอดุ มสมบูรณ์ผลผลติ ก็จะอุดมสมบูรณต์ าม ไปด้วย แต่ถ้าหากดินน้นั ขาดแรธ่ าตุ ขาดอาหารพชื กจ็ ะสรา้ งปญั หาให้แกเ่ กษตรกรไดไ้ ม่นอ้ ยเลย กอ่ นการเพาะปลกู ส่วนใหญ่เกษตรกรมักจะต้องปรับสภาพหนา้ ดนิ เสียกอ่ น ซ่ึงมีวิธีทีแ่ ตกต่างกันไป ขึน้ อย่กู ับความนิยมในพืน้ ที่หรอื ชนิดของพชื ท่จี ะปลูกหรือแมแ้ ต่สภาพภมู ิประเทศ แตอ่ ย่างไรกต็ าม การปลกู พชื ทุกชนดิ กต็ ้องอาศัยสภาพดินทเ่ี หมาะสม หากดินดีผลติ ก็ดีดว้ ย สตู รดินหมกั 1.ดินแห้งบดละเอียด (สามารถใชด้ ินได้ทุกชนดิ ) 2.ปยุ๋ คอก 6 ส่วน 3.แกลบดา 4 สว่ น 4.ราละเอียด 1 ส่วน 5.ขุยมะพรา้ วหรือเปลือกมะพร้าวสบั 3 ส่วน 6.ปุ๋ยน้าชีวภาพ 2 ลิตร นา้ 100 ลิตร+นา้ ตาล 1 กก. (ผสมกนั ) ธีการทา ผสมวัสดทุ ้งั หมดคลกุ เคลา้ จนเขา้ กันดี รดด้วยป๋ยุ นา้ ชวี ภาพลงบนกองดนิ ผสมใหเ้ ข้ากัน ให้ความชน้ื พอ หมาด เกลยี่ กองปุย๋ และคลุมด้วยกระสอบ หมักไว้ 5-7 วนั นาไปใชไ้ ด้

28 บทท่ี 3 วิธกี ำรดำเนินงำน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งชลบรุ ี ได้เล็งเห็น ความสาคญั ในการจัดจึงไดจ้ ดั ทาโครงการพบปราชญ์ผรู้ ู้ สู่วิถชี ีวติ พอเพยี งอยา่ งย่งั ยนื ตาบลนาปา่ โดยมขี ้นั ตอนดังน้ี 1. ประชมุ องค์กรนักศกึ ษา กศน.ตาบลนาปา่ 2. จดั ตง้ั คณะทางาน 3. ประสานงาน/ประชาสมั พันธ์ 4. ดาเนนิ งานตามแผน 5. วดั ผล/ประเมนิ ผล/สรปุ ผลและรายงาน 1. ประชุมปรึกษำหำรอื กำรจัดโครงกำรฯ กศน.อำเภอเมอื งชลบรุ ี กศน.ตาบลนาป่า ได้วางแผนงานรว่ มกบั คณะกรรมการ กศน.ตาบล และองคก์ รนักศึกษา กศน.ตาบลนาป่า เพื่อหาแนวทางในการดาเนินงานและกาหนดวัตถปุ ระสงคร์ ่วมกัน 2. จดั ตัง้ คณะทำงำน จดั ทาคาส่ังแต่งตั้งคณะทางานโครงการ เพื่อมอบหมอบหมายหนา้ ทีใ่ นการทางานให้ ชดั เจน 2.1 คณะกรรมการท่ปี รึกษา/อานวยการ มหี น้าทีอ่ านวยความสะดวก และให้คาปรึกษา แกไ้ ขปัญหาทีเ่ กิดขึ้น 2.2 คณะกรรมการ กศน.ตาบลนาปา่ ในการจัดหาอปุ กรณ์ เตรยี มใชจ้ ัดโครงการฯ 2.3 คณะกรรมการฝา่ ยบันทึกภาพและประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่บันทกึ ภาพกิจกรรมตลอด โครงการ และประชาสัมพนั ธ์กจิ กรรมใหส้ าธารณชนได้ทราบ

29 2.4 คณะกรรมการฝ่ายรบั ลงทะเบียนและประเมนิ ผลหน้าที่จดั ทาหลักฐานการลงทะเบียน ผู้เข้าร่วมโครงการ และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดาเนนิ การ 3. ประสำนงำน/เครือขำ่ ยทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ประสานงานกบั วทิ ยากร และนักศึกษา เช่น ประสานเร่ืองสถานท่ใี ชท้ ากิจกรรม รูปแบบ การจดั กิจกรรมโครงการ วนั เวลา สถานที่ รายละเอียดการเข้ารว่ มกิจกรรม พร้อมทง้ั ประชาสมั พันธ์ การจดั กจิ กรรม 4. ดำเนนิ กำรตำมแผนงำนโครงกำร โครงการพบปราชญ์ผรู้ ู้ สู่วิถีชีวติ พอเพียงอยา่ งยงั่ ยนื ตาบลนาป่า วันท่ี 24 พฤศจิกายน 2562 ณ บา้ นเลขท่ี 41/1 หมทู่ ่ี 7 ตาบลนาปา่ อาเภอเมอื งชลบรุ ี จังหวัดชลบรุ ี มีนักศึกษา ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการฯเปน็ จานวน 30 คน โดยจัดกจิ กรรมโดยใช้กระบวนการกลุม่ และการอภปิ ราย 5. วัดผล/ประเมินผล/สรุปผลและรำยงำน โครงการพบปราชญผ์ รู้ ู้ สู่วิถชี วี ิตพอเพียงอยา่ งยั่งยืนตาบลนาป่า มนี ักศกึ ษาเข้ารว่ ม จานวน 30 คน วนั ท่ี 24 พฤศจิกายน 2562 ณ บา้ นเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 7 ตาบลนาปา่ อาเภอ เมอื งชลบุรี จงั หวัดชลบรุ ี กศน.ตาบลนาป่า ได้ดาเนนิ การตามขั้นตอนและไดร้ วบรวมข้อมลู จากแบบสารวจสถติ ิท่ีใช้ ในการวเิ คราะห์ คือโดยกาหนดคา่ ลาดบั ความสาคญั ของการประเมนิ ผลออกเป็น 5 ระดับ ดงั น้ี มากท่สี ดุ ให้คะแนน 5 มาก ใหค้ ะแนน 4 ปานกลาง ใหค้ ะแนน 3 น้อย ให้คะแนน 2 นอ้ ยท่ีสดุ ให้คะแนน 1 ในการแปลผล ผจู้ ัดทาได้ใช้เกณฑ์การพิจารณาจากคะแนนเฉลยี่ ตามแนวคิดของบุญชม ศรสี ะอาด และบุญสง่ นิวแก้ว (2535,หนา้ 22-25) 4.51-5.00 หมายความว่า ดมี าก 3.51-4.50 หมายความว่า ดี 2.51-3.50 หมายความว่า ปานกลาง

30 1.51-2.50 หมายความวา่ น้อย 1.00-1.50 หมายความวา่ ตอ้ งปรับปรุง นักศึกษา กศน.ตาบลนาป่า จะต้องกรอกข้อมลู ตามแบบสอบถาม เพื่อนาไปใช้ในการ ประเมินผลของการจัดกิจกรรมดังกลา่ ว และจะไดน้ าไปเปน็ ข้อมูล ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ ในการจัดทาแผนการดาเนนิ การในปตี อ่ ไป บทท่ี 4 ผลกำรดำเนินงำนและกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู ในการจัดโครงการพบปราชญ์ผูร้ ู้ สู่วิถชี วี ติ พอเพยี งอยา่ งย่งั ยืนตาบลนาปา่ วนั ที่ 24 เดอื นพฤศจิกายน พ.ศ.2562 ณ บ้านเลขท่ี 41/1 หมทู่ ี่ 7 ตาบลนาปา่ อาเภอเมืองชลบุรี จังหวัด ชลบรุ ี มีผเู้ ข้ารว่ มโครงการเป็นนักศกึ ษา จานวน 40 คน ซึง่ ได้สรุปผลจากแบบสอบถามและ นาเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมูล จากผู้เข้ารบั การอบรม จานวน 40 ชดุ ตอนท่ี 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบถามของผู้เข้าร่วมโครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วิถีชีวิต พอเพียงอยา่ งยัง่ ยนื ตาบลนาป่า วนั ท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562 ณ บ้านเลขท่ี 41/1 หมู่ท่ี 7 ตาบลนาป่า อาเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่ีตอบแบบสอบถามได้นามาจาแนก ตามเพศ อายุ และอาชีพ ผู้จัดทาได้นาเสนอจาแนกตามข้อมูลดังกล่าว ดังปรากฏตามตารางที่ 1 ดงั ตอ่ ไปน้ี ตำรำงท่ี 1 แสดงคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมเพศ เพศ ชาย หญิง ความคดิ เห็น จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมโครงการพบปราชญผ์ ู้รู้ สู่วถิ ชี วี ิตพอเพยี ง 26 65.00 14 35.00 อยา่ งยงั่ ยนื ตาบลนาปา่

31 จำกตำรำงที่ 1 แสดงวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามของผเู้ ข้ารว่ มโครงการพบปราชญ์ผรู้ ู้ สู่วิถี ชวี ิตพอเพยี งอยา่ งย่งั ยนื ตาบลนาป่า เป็นชาย 26 ร้อยละ 65.00 เปน็ หญงิ 14 ร้อยละ 35.00 ตำรำงท่ี 2 แสดงค่ำรอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำยุ ความคิดเหน็ 15 - 29 ปี 30 - 39 ปี 40 - 49 ปี 50 - 59 ปี 60 ปี ขนึ้ ไป จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ ผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม โครงการโครงการพบ 36 90.00 2 5.00 2 5.00 -- -- ปราชญผ์ รู้ ู้ สู่วถิ ชี วี ิต พอเพยี ง อย่างยัง่ ยืนตาบลนา ปา่ จำกตำรำงท่ี 2 แสดงวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามของผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมโครงการพบปราชญ์ ผรู้ ู้ สู่วถิ ีชวี ิตพอเพียงอย่างยงั่ ยืนตาบลนาปา่ ในช่วงอายุ 15 - 29 ปี มจี านวนสงู สุด 36 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 90.00 ในชว่ งอายุ 30 - 39 ปี มจี านวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.00 ในช่วงอายุ 40 - 49 ปี มี จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.00 ตำรำงท่ี 3 แสดงคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำชีพ ประเภท รบั จ้าง คา้ ขาย รบั ราชการ เกษตรกร อืน่ ๆ(วา่ งงาน) ความคดิ เห็น จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ ผู้เข้ารว่ มกิจกรรม โครงการพบปราชญ์ 25 62.50 -- -- -- 15 37.50 ผู้รู้ สู่วิถีชีวติ พอเพียง อย่างยัง่ ยืนตาบล นาปา่ จำกตำรำงท่ี 3 แสดงวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามของผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมโครงการพบปราชญ์ ผู้รู้ สู่วิถีชวี ติ พอเพยี งอย่างยง่ั ยืนตาบลนาป่า มีจานวนสูงสดุ 25 คน คิดเปน็ ร้อยละ 62.50 ประกอบ อาชีพอ่นื ๆ มีจานวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 37.50

32 ตำรำงที่ 4 แสดงค่ำร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมระดับกำรศึกษำ การศึกษา ประถมศกึ ษา ม.ตน้ ม.ปลาย สงู กวา่ ความคิดเห็น ม.ปลาย จา รอ้ ยละ จา ร้อยละ จา รอ้ ยละ จา ร้อย นวน นวน นวน นวน ละ ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงการพบปราชญ์ 3 7.50 19 47.50 18 45.00 - - ผรู้ ู้ สู่วิถีชีวติ พอเพยี งอย่างยงั่ ยนื ตาบล นาปา่ จากตารางที่ 4 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามของผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมโครงการพบปราชญผ์ ูร้ ู้ สู่วิถชี วี ติ พอเพยี งอยา่ งยั่งยนื ตาบลนาปา่ มีการศึกษาระดบั ประถมศกึ ษา จานวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7.50 ระดับ ม.ตน้ จานวน 19 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 47.50 ระดบั ม.ปลาย จานวน 18 คน คิดเป็น ร้อยละ 45.00 ตอนที่ 2 ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ควำมคดิ เห็นของผ้เู ข้ำรว่ มโครงกำรพบปรำชญ์ผู้รู้ สู่วิถชี ีวติ พอเพียงอยำ่ ง ยงั่ ยนื ตำบลนำปำ่ ความคิดเหน็ ของผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม จานวน 40 คน จากแบบสอบถามทั้งหมดที่มีต่อ โครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วถิ ชี วี ิตพอเพียงอย่างยัง่ ยนื ตาบลนาป่า ณ บ้านเลขท่ี 41/1 หม่ทู ่ี 7 ตาบล นาป่า อาเภอเมืองชลบุรี จงั หวดั ชลบรุ ี ดังปรากฏในตารางท่ี 5 ตอนท่ี 2 ตารางท่ี 5 ข้อมูลเก่ียวกบั ความคดิ เห็นของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการฯ/ผลการประเมนิ โครงการพบ ปราชญ์ผู้รู้ สู่วถิ ีชีวิตพอเพียงอย่างยงั่ ยนื ตาบลนาป่า ตำรำงท่ี 5 ผลกำรประเมินโครงกำรพบปรำชญผ์ ู้รู้ สู่วถิ ีชีวติ พอเพียงอยำ่ งยั่งยืนตำบลนำปำ่ จากตารางท่ี 5 พบว่า โดยเฉลยี่ แล้วผ้เู ขา้ รับการอบรมในโครงการพบปราชญผ์ ู้รู้ สูว่ ถิ ีชวี ิตพอเพียงอยา่ ง ยง่ั ยืนตาบลนาป่า อยู่ในระดับ ดมี าก เม่ือวเิ คราะห์เปน็ รายข้อความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้รับการ อบรม (x̄= 4.93) ลาดับที่ 1 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์

33 จากตารางท่ี 5 พบว่า โดยเฉล่ียแล้วผู้เข้ารับการอบรมในโครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วิถีชีวิต พอเพียงอย่างยั่งยืนตาบลนาป่า อยู่ในระดับ ดีมาก เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อความพึงพอใจใน ภาพรวมของผู้รับการอบรม (x=̄ 4.93) ลาดับท่ี 1 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ เน้อื หาโครงการพบปราชญผ์ รู้ ู้ สู่วิถชี วี ิตพอเพียงอยา่ งยั่งยืน N = 40 ตาบลนาปา่ X̄ S.D. อันดับท่ี ระดับผลการประเมนิ ตอนที่ 1 ควำมพงึ พอใจดำ้ นเน้ือหำ 1.เนอื้ หาตรงตามความตอ้ งการ 4.75 0.44 7 ดมี าก 2.เนื้อหาเพียงพอตอ่ ความต้องการ 4.70 0.46 9 ดีมาก 3.เนอ้ื หาเปน็ ปจั จุบนั และทันสมัย 4.63 0.49 11 ดีมาก 4.เนอ้ื หามปี ระโยชนต์ ่อการนาไปใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวิต 4.90 0.30 2 ดีมาก ตอนที่ 2 ควำมพึงพอใจด้ำนกระบวนกำรจัดกิจกรรม 5. การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นจดั กิจกรรม 4.75 0.44 7 ดมี าก 6. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ 4.93 0.27 1 ดมี าก 7. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 4.78 0.42 6 ดีมาก 8. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เปา้ หมาย 4.83 0.38 4 ดีมาก 9. วธิ กี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ 4.65 0.48 10 ดมี าก ตอนที่ 3 ควำมพงึ พอใจต่อวิทยำกร 10. วิทยากรมีความรคู้ วามสามารถในเรื่องท่ีถ่ายทอด 4.85 0.36 3 ดีมาก 11. วทิ ยากรมีเทคนคิ การถา่ ยทอดใช้สอ่ื เหมาะสม 4.80 0.41 5 ดีมาก 12. วทิ ยากรเปดิ โอกาสให้มสี ว่ นรว่ มและซักถาม 4.73 0.45 8 ดีมาก ตอนที่ 4 ควำมพงึ พอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก 13. สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณแ์ ละส่ิงอานวยความสะดวก 4.73 0.45 8 ดมี าก 14. การสอ่ื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่อื ให้เกิดการเรยี นรู้ 4.90 0.30 2 ดีมาก 15. การบรกิ าร การช่วยเหลอื และการแกป้ ัญหา 4.65 0.48 10 ดีมาก ค่ำเฉลยี่ 4.77 0.07

34 (x=̄ 4.90) เป็นลาดับท่ี 2 เน้ือหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต, การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพือ่ ใหเ้ กิดการเรียนรู้ (x̄ =4.85) เป็นลาดับที่ 3 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถใน เรื่องท่ีถ่ายทอด (x=̄ 4.83) เป็นลาดับที่ 4 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย (x=̄ 4.80) เป็นลาดับที่ 5 วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้ส่ือเหมาะสม (x̄=4.78) เป็นลาดับท่ี 6 การจัด กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา (x=̄ 4.75) เป็นลาดับท่ี 7 เน้ือหาตรงตามความต้องการ (x̄=4.73) เป็น ลาดับที่ 8 วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม, สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความ สะดวก (x=̄ 4.70) เปน็ ลาดับท่ี 9 เน้อื หาเพียงพอตอ่ ความต้องการ(x=̄ 4.65) เป็นลาดับท่ี 10 วิธีการ วดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์, . การบรกิ าร การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา (x̄=4.63) เปน็ ลาดับท่ี 11 เนือ้ หาเปน็ ปจั จบุ ันและทันสมยั ตามลาดับ ตำรำงที่ 6 ผำ่ นกำรฝกึ อบรมได้นำควำมรูไ้ ปใช้จรงิ ประเภท เพม่ิ รายได้ ลดรายจา่ ย นาไปประกอบ พฒั นาคุณภาพชวี ิต ใชเ้ วลาว่างให้เป็น อาชพี ประโยชน์ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ ความคิดเห็น ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ - - - - - - 40 100.00 - - พบปราชญผ์ ูร้ ู้ สู่วิถี ชวี ติ พอเพียงอย่าง ยง่ั ยืนตาบลนาป่า จากตารางท่ี 6 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงการพบปราชญผ์ ูร้ ู้ สู่วิถีชวี ิตพอเพียงอยา่ งย่ังยนื ตาบลนาป่า ได้นาความรไู้ ปใชจ้ รงิ ดา้ นพัฒนาคุณภาพชีวิต จานวน 40 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100.00

35 บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ จากโครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วิถีชีวิตพอเพียงอย่างยั่งยืนตาบลนาป่า โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ สามารถขยายผลการเรียนรู้ ปลูกฝังค่านิยมจากแหล่ง เรยี นรูใ้ นชมุ ชน และเป็นแหล่งส่งเสรมิ มติ รภาพความสมั พนั ธร์ ะหว่างผู้เรียนกับปราชญ์ผู้รู้ในชุมชนได้ ในวันที่ 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ บ้านเลขท่ี 41/1 หมู่ท่ี 7 ตาบลนาป่า อาเภอเมือง ชลบรุ ี จังหวดั ชลบุรี ทงั้ นีข้ อสรปุ และอภิปรายผลและข้อเสนอแนะดงั น้ี 1. สรปุ ผล 1.1 ผ้ตู อบแบบสอบถามของโครงการพบปราชญผ์ รู้ ู้ สู่วถิ ีชวี ิตพอเพียงอย่างย่ังยนื ตาบลนา ป่า จานวนท้งั หมด 40 คน เป็นชาย 26 ร้อยละ 65.00 เปน็ หญิง 14 ร้อยละ 35.00 ในชว่ งอายุ 15 - 29 ปี มจี านวนสงู สุด 36 คน คิดเปน็ ร้อยละ 90.00 ในชว่ งอายุ 30 - 39 ปี มจี านวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.00 ในชว่ งอายุ 40 - 49 ปี มจี านวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.00 มีประกอบอาชพี รบั จา้ ง มีจานวนสูงสุด 25 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 62.50 ประกอบอาชีพอน่ื ๆ มีจานวน 15 คน คดิ เป็น ร้อยละ 37.50 การศึกษาระดับประถมศกึ ษา จานวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 7.50 ระดับ ม.ตน้ จานวน 19 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 47.50 ระดบั ม.ปลาย จานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 45.00 1.2 ข้อมูลเก่ียวกับความคิดเห็นของผู้เข้ารับการอบรมในโครงการพบปราชญ์ผู้รู้ สู่วิถีชีวิต พอเพียงอย่างยั่งยืนตาบลนาป่า มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก เมื่อวิเคราะห์เป็นราย ข้อความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับการอบรม (x=̄ 4.93) ลาดับท่ี 1 การออกแบบกิจกรรม เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ (x=̄ 4.90) เป็นลาดับที่ 2 เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพชีวิต, การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ (x̄ =4.85) เป็นลาดับที่ 3 วิทยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเร่ืองทถี่ า่ ยทอด (x=̄ 4.83) เป็นลาดบั ท่ี 4 การจดั กิจกรรมเหมาะสม กบั กลุ่มเป้าหมาย (x̄=4.80) เป็นลาดับที่ 5 วิทยากรมเี ทคนิคการถา่ ยทอดใช้ส่ือเหมาะสม (x=̄ 4.78) เป็นลาดับท่ี 6 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา (x=̄ 4.75) เป็นลาดับท่ี 7 เนื้อหาตรงตามความ ต้องการ (x̄=4.73) เป็นลาดับที่ 8 วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม, สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอานวยความสะดวก (x̄=4.70) เป็นลาดับท่ี 9 เน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ (x̄=4.65) เป็นลาดับท่ี 10 วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์, . การบริการ การ ช่วยเหลือและการแกป้ ัญหา (x=̄ 4.63) เปน็ ลาดับที่ 11 เนือ้ หาเปน็ ปจั จบุ ันและทนั สมยั ตามลาดบั

36 2. อภปิ รำยผล - ผเู้ ข้ารว่ มโครงการพบปราชญผ์ ้รู ู้ สู่วิถชี ีวติ พอเพียงอยา่ งยั่งยืนตาบลนาปา่ มี ความพงึ พอใจอยู่ในระดับดีมาก คดิ เปน็ ค่าเฉล่ยี 4.77 3. ข้อเสนอแนะ - อยากให้มีการจัดสรรงบประมาณเป็นค่าวัสดุฝึกให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้มี การฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง

37 บรรณำนกุ รม กรมการศึกษานอกโรงเรียน. (ม.ป.ป. : 9), (2546:76). บญุ ชม ศรีสะอาด และ บุญสง่ นวิ แก้ว. (2535 หนา้ 22 – 25). พิชิต สกลุ พราหมณ์(2535:334) รณรงค์ ณ เชียงใหม่ (2525:55) วินัย วรี ะวัฒนานนท์ (2535:31-36) สานักงานบริหารการศกึ ษานอกโรงเรยี น. (2549:2), (2549:5). แหล่งอ้างองิ https://sites.google.com/site/suxkarrekicp55hxpheiyng/khwam-ru-keiyw- kab-sersthkic-phx-pheiyng?fbclid=IwAR38FkLvT9i3xtQJO0tCiuHtas5LfqW- TFuEN9zi0tQDbqI6djAy49PiF64

38 ภำคผนวก

39 “รำยงำนผลกำรดำเนินงำนโครงกำรฯ”

40 PDCA รำยงำนผลกำรดำเนินงำน โครงกำรพบปรำชญ์ผ้รู ู้ สู่วถิ ีชีวิตพอเพียงอยำ่ งยั่งยืนตำบลนำป่ำ ประจำปีงบประมำณ 2562 ผรู้ บั ผิดชอบ นำงสำวศศิวณั ย์ ออ่ นศรที อง ครู กศนตำบลนำป่ำ 1.หลักกำรและเหตุผล เศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ ปรัชญาที่ช้ีถึงแนวทางปฏิบตั ติ น โดยคานงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล และการสรา้ งภูมคิ มุ้ กันท่ดี ี เพื่อพร้อมรับต่อความเสีย่ ง บนพนื้ ฐานของความรอบรู้ ความรอบคอบ ระมดั ระวงั และคณุ ธรรม การใชค้ วามรู้อย่างถกู หลักวชิ าการ ควบคไู่ ปกับการกระทา ทไ่ี มเ่ บียดเบยี นกัน การแบ่งปัน ช่วยเหลือซึง่ กนั และกัน ความรว่ มมือปรองดองกนั ในสังคม จะสร้าง สายใย เชือ่ มโยงคนในภาคส่วนต่างๆของสงั คมเข้าด้วยกนั สรา้ งสรรคพ์ ลังในทางบวก นาไปสู่ความ สามคั คี การพฒั นาทส่ี มดลุ และยั่งยืน และการพร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงตา่ งๆ ภายใตก้ ระแส โลกาภิวัฒน์ ซ่งึ อาจทาได้หลายวธิ ี และอาจใชเ้ ครื่องมือประกอบการสอนตา่ ง ๆ อีกมากมาย โดยมี การจดั การเรยี นรู้ ท่เี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาคญั ใหผ้ ู้เรยี นมีท้ังความรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมที่พึง ประสงคแ์ ละสามารถดาเนนิ ชวี ิต อยใู่ นสงั คมได้โดยปกตสิ ุข จึงจาเปน็ ต้องพฒั นาศักยภาพ ความสามารถของผ้เู รียนอย่างเต็มท่ี เพ่ือให้มีนิสยั ใฝร่ ู้ ใฝเ่ รียน แสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง การนา แหล่งเรยี นรใู้ นชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ ตลอดจนปราชญ์ผู้รู้ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ มาใช้ประโยชน์ในการจัด กระบวนการเรยี นการสอน จึงเปน็ วิถีทางหนง่ึ ทจ่ี ะช่วยให้ กระบวนการเรยี นการสอนบรรลุ จดุ มงุ่ หมายได้ตามท่ตี ้องการ การนาปราชญผ์ ้รู ู้ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ แหลง่ เรียนรู้ มาใช้ในการจัดการ เรียนการสอนเป็นกิจกรรมท่ีต้ังอยบู่ นพืน้ ฐานความเชอื่ ที่วา่ ปราชญ์ผรู้ ู้ ภูมิปญั ญาชาวบา้ น ภมู ิปญั ญา ทอ้ งถ่ิน และแหลง่ เรยี นรู้ เป็นชุดความรู้ในชมุ ชนทม่ี ีการใช้ เพ่อื การดาเนินวิถชี ีวติ ที่ได้ผลมาในอดีต สามารถดารงความสันตสิ ขุ แก่บคุ คล ครอบครวั และชมุ ชน ตลอดจนความมีดลุ ยภาพอยู่ร่วมกับ ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมได้ อยา่ งผสมกลมกลืน เปน็ กระบวนการพัฒนาการเรยี นการสอนท่ไี ดเ้ น้น การมสี ่วนร่วมของชมุ ชน โดยเฉพาะ ปราชญผ์ ูร้ ู้ ภูมิปญั ญาชาวบ้าน ทเี่ ป็นผ้เู ช่ือมโยงชดุ ความรทู้ ีเ่ ป็น ภูมิปญั ญาท้องถิ่น รว่ มกับสถานศึกษาเขา้ สูก่ ระบวนการเรียน การสอนของสถานศึกษา ในแต่ละ ทอ้ งถ่ินนน้ั ๆ กศน.ตาบลนาป่า ไดเ้ ล็งเห็นความสาคัญ จึงได้จดั ทาโครงการพบปราชญ์ผรู้ ู้ สู่วถิ ชี ีวติ พอเพยี งอย่างย่งั ยืนตาบลนาป่า เพ่ือใหส้ อดคล้องกบั วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ (การใช้แหล่งเรียนรู้) ท่ี ลงทะเบยี นเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562 จงึ ไดจ้ ดั ทาโครงการพบปราชญ์ผรู้ ู้ สู่วิถีชีวิต พอเพยี งอยา่ งย่งั ยนื ตาบลนาป่าขน้ึ

41 2.วัตถปุ ระสงค์ 2.1. เพอื่ ให้มีความรู้ ทักษะ สามารถขยายผลการเรียนรู้ ปลกู ฝังคา่ นิยมจากแหลง่ เรียนรู้ ในชมุ ชน 2.2. เพอ่ื เปน็ แหล่งสง่ เสรมิ มติ รภาพความสัมพนั ธ์ระหว่างผเู้ รยี นกับปราชญ์ผ้รู ใู้ นชมุ ชน 3.เป้ำหมำย 3.1 เชงิ ปริมาณ นกั ศกึ ษา กศน.ตาบลนาป่า จานวน 30 คน 3.2 เชงิ คุณภาพ นักศึกษาทีเ่ ข้ารว่ มโครงการฯ มีความรู้ ทักษะ สามารถขยายผลการเรยี นรู้ ปลูกฝัง คา่ นิยมจากแหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชน และเปน็ แหล่งสง่ เสรมิ มติ รภาพความสมั พันธ์ระหวา่ งผเู้ รยี นกบั ปราชญ์ผูร้ ้ใู นชมุ ชนได้ 4.ตวั ช้ีวัดควำมสำเรจ็ ผเู้ ข้าร่วมโครงการฯ ตาบลนาป่า ร้อยละ 80 มคี วามรู้ ทักษะ สามารถขยายผลการ เรียนรู้ ปลูกฝังคา่ นิยมจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชน และเป็นแหล่งส่งเสริมมิตรภาพความสัมพนั ธ์ระหว่าง ผ้เู รียนกับปราชญผ์ ้รู ู้ในชมุ ชนได้ 5.ขัน้ ตอนกำรดำเนินกำรโครงกำร 5.1.ประชมุ วางแผนการปฏบิ ัติงาน 5.2.เขียนโครงการเพ่อื ขออนุมตั ิโครงการฯ 5.3.ประสานงานหนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วข้อง 5.4. ดาเนนิ งานตามโครงการ 5.5. สรปุ และรายงานผล 6.ระยะเวลำดำเนินงำน วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 7.สถำนที่ในกำรจัดกิจกรรมโครงกำร บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 7 ตาบลนาปา่ อาเภอเมืองชลบุรี จังหวดั ชลบรุ ี 8.ผลกำรดำเนนิ โครงกำร 8.1 ผลกำรประเมนิ ข้อมูลพื้นฐำนของผู้เขำ้ ร่วมโครงกำร 1. จานวนผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ 40 คน เป็นชาย 26 คน เปน็ หญงิ 14 คน 2. อายเุ ฉลีย่ อยใู่ นช่วง 13 - 47 ปี

42 3. อาชีพ รับจา้ ง, ธรุ กิจสว่ นตวั 4. กลมุ่ เป้าหมาย นักศึกษา 8.2 ควำมพงึ พอใจของผู้เข้ำรว่ มโครงกำร - ผเู้ ข้ารว่ มโครงการฯมีความพึงพอใจในระดับดีข้ึนไปไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 8.3 บรรลุตำมวตั ถุประสงค์คือ - ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการฯไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 20 สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชวี ิตประจาวันได้ - ผู้เขา้ ร่วมโครงการฯสามารถไปขยายผลได้ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 5 ของเปา้ หมาย 8.4 สรปุ งบประมำณในกำรดำเนนิ งำน - ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการฯ ร้อยละ 80 มคี วามรู้ ทักษะ สามารถขยายผลการเรียนรู้ ปลกู ฝงั ค่านยิ มจากแหล่งเรียนรใู้ นชุมชน และเปน็ แหล่งสง่ เสริมมติ รภาพความสัมพันธ์ระหวา่ งผเู้ รียน กบั ปราชญผ์ ูร้ ูใ้ นชมุ ชนได้ 9. จำนวนผ้เู รยี นและผ้ผู ่ำนกำรเรยี น/อบรม จำแนกตำมอำยุและเพศ เพศ ตำ่ กวำ่ 15 ปี 15-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขน้ึ ไป รวม รวม ชญ ชญ ทัง้ สิ้น อำยุ ช ญ ช ญ ช ญ -- 26 14 40 จานวนผเู้ รียน 1 2 23 12 2 - -- 26 14 40 จานวนผผู้ า่ นการฝกึ อบรม 1 2 23 12 2 - 10. จำนวนผู้เรยี นและผู้ผ่ำนกำรฝกึ อบรม จำแนกตำมกล่มุ อำชีพและเพศ กลุ่มอำชีพ รบั พนักงำน คำ้ ขำย เกษตรกรรม รบั จำ้ ง อ่นื ๆ รวม รวม รำชกำร รฐั วสิ ำหกิจ ทั้งสิ้น อำยุ ชญ ชญ ชญ ชญ ชญ ชญ ชญ จานวนผู้เรยี น -- -- 16 9 10 5 26 14 40 -- -- จานวนผู้ผา่ นการฝกึ อบรม - - - - - - - - 16 9 10 5 26 14 40 11. จำนวนผเู้ รียนและผ้ผู ่ำนกำรฝึกอบรม จำแนกตำมกลุ่มเป้ำหมำยและเพศ กลุม่ เปำ้ หมำย ผนู้ ำ ทหำรกอง แรงงำ แรงงำน กลุม่ รวม รวม ท้องถิ่ อบต. ผตู้ อ้ งขงั ประจำกำร นไทย ต่ำง เกษตรกร อสม. สตรี อน่ื ๆ ทัง้ สิ้น อำยุ น ดำ้ ว ชญ ช ญช ญ 40 จานวนผู้เรยี น ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญช ญ ช ญ ช ญ - - 10 5 26 14 40 จานวนผ้ผู ่าน - - 10 5 26 14 - - - - - - - - 16 9 - - - - - - - - - - - - - - 16 9 - - - - - -

43 การฝกึ อบรม 12.ปญั หำและอุปสรรคทเ่ี กดิ ข้นึ ระหว่ำงดำเนินงำน - 13.ขอ้ เสนอแนะในกำรจดั กจิ กรรมโครงกำรครั้งต่อไป - 14.ภำพกิจกรรม (จำนวน 2-4 ภำพ) พิธีเปิดโครงการฯ วิทยากรให้ความรูผ้ ูเ้ ข้าอบรม วทิ ยากรใหค้ วามรู้ผเู้ ขา้ อบรม ภาพหมู่พรอ้ มปา้ ยโครงการฯ ......ศศวิ ัณย์ ออ่ นศรีทอง...... ผู้รายงาน (นางสาวศศวิ ัณย์ อ่อนศรีทอง)

44 คณะผู้จัดทำ ที่ปรกึ ษำ ผูอ้ านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองชลบุรี 1.นายไพรตั น์ เนือ่ งเกตุ ครชู านาญการพิเศษ ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น 2.นางสาวเอมอร แก้วกลา่ ศรี 3.นางสาวผสุ ดี สขุ ญาติ ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น ครู กศน.ตาบลนาปา่ คณะทำงำน ครู กศน.ตาบลนาป่า นางสาวกมลลักษณ์ ยงิ่ สุขผล นางสาวศศิวณั ย์ อ่อนศรที อง ครู กศน.ตาบลนาปา่ คณะบรรณำธิกำร นางสาวศศวิ ณั ย์ อ่อนศรีทอง เจำ้ หน้ำท่จี ดั พิมพ์/ผ้เู ขียน นางสาวศศวิ ัณย์ อ่อนศรีทอง

45


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook