กรณปี ระพฤตชิ ั่วอ่นื ๆ ปลอมลายมือชือ่ ขา้ ราชการด้วยกันหาประโยชน์ คณะรัฐมนตรีไดม้ ีมติตามหนังสือสานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ท่ี นร 0203/ว 22 ลงวันท่ี 22 กมุ ภาพนั ธ์ 2532 วางแนวการลงโทษไว้วา่ การปลอมลายมือชื่อข้าราชการด้วยการหาผลประโยชน์ ใหถ้ ือว่าเปน็ ความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง และใหล้ งโทษอยา่ งตา่ ใหอ้ อกจากราชการ และสานักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรไี ดม้ หี นังสือ ที่ นร 0505/ว 197 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2548 แจ้งวา่ คณะรฐั มนตรีไดม้ มี ตกิ าหนดใหส้ ่วนราชการ และคณะกรรมการ ข้าราชการตามกฎหมายตา่ ง ๆ ถอื ปฏบิ ตั วิ า่ “ในกรณขี า้ ราชการกระทาผิดวินยั โดยปลอมลายมอื ชื่อของผูอ้ น่ื ไปหาประโยชน์ใหถ้ อื เป็น ความผดิ วินยั อยา่ งร้ายแรงและลงโทษอยา่ งนอ้ ยปลดออกจากราชการ”
กรณีประพฤติชวั่ อื่น ๆ ปลอมลายมือชอื่ ข้าราชการดว้ ยกนั หาประโยชน์ - นาย ก. ขา้ ราชการครู ตาแหนง่ ผู้ช่วยอาจารยใ์ หญ่ ปลอมสาเนาบัตรขา้ ราชการโดยนาบัตรขา้ ราชการ ผอู้ ืน่ ไปถา่ ยเอกสาร แล้วนารปู ตนเองปดิ แทน นาสาเนาบตั รข้าราชการปลอมไปยน่ื ต่อสหกรณอ์ อม ทรพั ย์ขอกเู้ งนิ และยังปลอมลายมอื ชื่อเพอ่ื นขา้ ราชการครูในโรงเรยี นเดยี วกันอีกหลายคนในการขอกู้ เงินฉกุ เฉนิ จากสหกรณ์ออมทรพั ยค์ รถู กู ดาเนินคดอี าญาได้ ให้การรบั สารภาพ โดยจะคนื เงนิ ดังกลา่ ว แตไ่ ม่สามรถหาเงนิ มาคนื ได้ โทษไล่ออกจากราชการ - นาย ข. ขา้ ราชการครู ตาแหนง่ อาจารย์ 2 ไดป้ ลอมลายมอื ชือ่ เพอื่ นขา้ ราชการครแู ละลกู จา้ ง ในโรงเรยี นแห่งเดยี วกนั จานวน 7 ราย ในเอกสารคาขอและหนงั สือก้เู งนิ เพอื่ เหตฉุ กุ เฉนิ จากสหกรณ์ ออมทรัพยค์ รู เปน็ เงนิ จานวน 20,000 บาท ลงโทษปลดออกจากราชการ - ขา้ ราชการครไู ด้รับเลือกให้เปน็ กรรมการสหกรณอ์ อมทรพั ย์ครูจงั หวัดแหง่ หนึ่งรับเงนิ ทส่ี หกรณอ์ อมทรพั ย์ครู เพ่อื นามาแจกจ่ายใหก้ ับผ้ทู ไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ใิ ห้กู้ แล้วไมน่ ามาจา่ ยใหส้ มาชกิ หรอื จ่ายใหไ้ มค่ รบตามจานวนและ ปลอมลายมือชอื่ ของสมาชกิ ผู้กู้เงนิ ประเภทฉุกเฉนิ โทษปลดออกจากราชการ
กรณีประพฤตชิ วั่ อน่ื ๆ ปลอมแปลงเอกสารอ่นื ๆ - รว่ มกับเสมยี นตราอาเภอปลอมแปลงลายมือชือ่ กรรมการรบั เงนิ เดอื นและเงนิ อ่นื ของทางราชการ ในเช็ค 2 ฉบับ และนาไปใชเ้ บิกเงินจากธนาคารและยกั ยอกเงนิ ของทางราชการไป ศาลพิพากษาให้ ลงโทษคดอี าญาจาคกุ 10 ปี คดถี งึ ท่สี ดุ ไล่ออก - ปลอมแปลงลายมือชอ่ื กรรมการวัดเพอื่ เบิกเงินจานวน 30,000 บาท ไปใชป้ ระโยชน์สว่ นตวั ตามคาขอร้องของเพอื่ น จนถูกพนักงานสอบสวนดาเนนิ คดอี าญา ศาลพพิ ากษาจาคกุ 1 ปี คดีถงึ ทีส่ ุด ไล่ออก - ปลอมและใชห้ นังสือรบั รองเงนิ เดอื นปลอมยื่นตอ่ ศาลจงั หวดั เพ่อื ขอใหป้ ล่อยชว่ั คราวจาเลยใน คดีอาญาตอ่ มาจาเลยในคดีอาญาผิดนัดไมไ่ ปศาล ศาลจงึ ออกหมายจบั และปรบั นายประกนั ฐานผดิ สญั ญาประกนั 200,000 บาท ตอ่ มาศาลมคี าส่งั ว่าเอกสารดงั กลา่ วปลอมเปน็ การละเมิดอานาจศาล ใหจ้ าคุก 3 เดือน คดีอยู่ระหว่างอทุ ธรณ์ โทษปลดออก
กรณปี ระพฤตชิ ั่วอน่ื ๆ นาทรัพย์สนิ ของทางราชการไปจานา คณะรฐั มนตรีไดม้ มี ติเมอ่ื วันท่ี 25 ตุลาคม 2537 กาหนดแนวทางลงโทษทางวินยั กรณขี า้ ราชการ นาทรพั ยส์ นิ ของทางราชการไปจานา หรอื หาประโยชนใ์ นทานองเดยี วกนั อย่างนอ้ ยให้ลงโทษใหอ้ อก จากราชการ (ปจั จุบันคอื โทษปลดออกจากราชการ) - การทข่ี ้าราชการครนู าเอากล้องสารวจพร้อมอุปกรณซ์ ึง่ เปน็ ทรพั ยส์ ินของทางราชการไปจานา เป็น การกระทาอนั ไดช้ ือ่ ว่าเป็นผปู้ ระพฤติชั่วอยา่ งร้ายแรง โทษไลอ่ อกจากราชการ - ครูดนตรแี อบเอาเครอ่ื งดนตรซี ึง่ อยูใ่ นความดูแลรักษาไปจานา โทษไลอ่ อก - ครคู อมพิวเตอรข์ โมยคอมพิวเตอร์โนต๊ บคุ๊ พรอ้ มท้งั Tablet ท่ใี ชจ้ ดั การเรียนการสอนไปจานา โทษไลอ่ อก
กรณปี ระพฤตชิ ัว่ อน่ื ๆ เรยี กรบั เงนิ ในการฝากเขา้ เรียนและเขา้ ทางาน มติ ก.พ. แจง้ ตามหนงั สือสานักงาน ก.พ. ที่ สร 1006/ว 15 ลงวนั ท่ี 14 ธันวาคม 2516 กาหนด แนวทางลงโทษทางวนิ ัยกรณเี รยี กและรับเงนิ จากผสู้ มัครสอบ โดยอา้ งว่าจะช่วยเหลอื ใหส้ อบได้ เป็น ความผิดฐานประพฤตชิ ่วั ร้ายแรง ใหล้ งโทษระดับเดยี วกับความผิดฐานทุจริตตอ่ หน้าท่ี - กรณีสับเปลย่ี นกระดาษคาตอบในการสอบวชิ าความรู้ความสามารถทวั่ ไปในการสอบแขง่ ขัน เพื่อบรรจบุ คุ คลเข้ารบั ราชการครู โดยเปลี่ยนช่อื และเลขประจาตวั สอบทหี่ ัวกระดาษซ่ึงกนั และกนั ขณะ สง่ ขอ้ สอบ โทษไลอ่ อกจากราชการ - ขา้ ราชการครูกรม ก. เรียกรบั เงนิ จากข้าราชการครู กรม ข. จานวน 100,000 บาท อา้ งว่าจะเอาไป วิ่งเร่อื งขอโอนมารับราชการในสังกัดกรม ก. โทษไล่ออกจากราชการ
กรณีประพฤติชวั่ อ่ืน ๆ - ลกั ลอบใชส้ ายไฟฟ้าเชอ่ื มตอ่ กระแสไฟฟา้ ของโรงเรียนไปใช้กบั บา้ นพักของตนเอง โทษลดขั้นเงนิ เดอื นหนึ่งขนั้ - แสดงตวั ว่าเปน็ บคุ คลซ่งึ เป็นผู้คา้ ประกันตวั จาเลยในคดลี ักทรพั ย์ โดยลงช่อื ในคาร้องขอให้ ปลอ่ ยตัวชัว่ คราว และลงชอื่ เป็นผ้คู า้ ประกนั เจา้ หน้าทศี่ าลตรวจบัตรประจาตวั แลว้ ปรากฏวา่ ไม่ใชผ่ ูค้ า้ ประกนั มคี วามผิดฐานละเมิดศาล ศาลพพิ ากษาให้จาคกุ 2 เดือน โทษปลดออก - กู้ยมื เงินขา้ ราชการครหู ลายรายแลว้ ไม่ชาระจนถูกเจา้ หนีฟ้ อ้ งศาล เม่ือศาลมคี าพพิ ากษาใหช้ าระหน้ี กย็ ังไม่ชาระ ศาลจึงมคี าส่งั อายัดเงนิ สหกรณอ์ อมทรพั ยค์ รูจานวน 10,000 บาท ส่วนที่เหลือยังไมย่ อม ชดใชแ้ กเ่ จา้ หนี้โทษตดั เงนิ เดอื น 5 % เป็นเวลา 1 เดือน - กรณสี นบั สนุนให้นักเรียนชมุ นมุ ประทว้ งและเดินขบวนมายังกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เพอ่ื เรียกร้อง ให้ยา้ ยผอู้ านวยการโรงเรียน โทษตัดเงินเดอื น
กรณีประพฤตชิ ั่วอ่ืน ๆ - ถกู จับกุมทบี่ ้านพกั พบยาเสพตดิ (ยาบา้ ) จานวน 1,400 เม็ด เงนิ สด 100,000 บาท ถูกต้ังขอ้ หา มยี าเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไวใ้ นครอบครองเพอ่ื จาหน่าย ในช้ันสอบสวนของพนักงานสอบสวน และชน้ั สอบสวนทางวินยั ใหก้ ารรบั สารภาพ ตามข้อกล่าวหาโทษไล่ออก - ถูกจบั กมุ ข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ใหโ้ ทษประเภท 1 (ยาบา้ ) จานวน 1,946 เม็ด ไว้ในครอบครอง เพ่อื จาหน่าย ให้การรบั สารภาพวา่ ตอ้ งการเงินมารกั ษาตวั เนอื่ งจากเปน็ โรคกระดกู สนั หลงั เส่อื ม ซึง่ ต้องเสียค่าใชจ้ ่ายจานวนมาก หากไมร่ กั ษาจะมอี าคารปวดอย่างรนุ แรงไมส่ ามารถลุกนง่ั ได้ ขณะ ต้องโทษอยู่ในเรือนจาต้องสวมใส่โครงเหลก็ ดดั ลาตัวเอาไวต้ ลอดเวลา ตอ่ มาศาลอทุ ธรณพ์ พิ ากษาให้ จาคุก 12 ปี 6 เดอื น คดีถงึ ทส่ี ดุ โทษไล่ออก - ถูกจับกมุ ข้อหาชงิ ทรัพยแ์ ละฆา่ ผูอ้ น่ื โดยเจตนา ใหก้ ารรบั สารภาพในชั้นสอบสวนวนิ ยั โทษไล่ออก
กรณีทจุ ริตตอ่ หน้าท่รี าชการ การพิจารณาวา่ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษามีหน้าท่ีหรอื ไม่พิจารณาจาก 1. พิจารณาจากกฎหมายมาตรฐานท่วั ไป หรือระเบยี บ 2. พจิ ารณาจากมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง 3. พจิ ารณาจากคาสั่งหรือการมอบหมายของผบู้ งั คับบญั ชา 4. พิจารณาจากพฤตินยั
กรณที จุ รติ ต่อหน้าทรี่ าชการ - ผูอ้ านวยการโรงเรยี นสร้างหลกั ฐานเทจ็ เพอ่ื ขอรับเงนิ ค่าให้บริการสอนเสริมนักเรยี นพเิ ศษ เรยี นร่วมของโรงเรยี นจากศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษจานวน 525 ฉบับ ระหวา่ งวนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2548 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2549 เปน็ เงนิ จานวน 42,000 บาท โดยไมไ่ ดท้ าการสอนจรงิ เปน็ การปฏบิ ตั ิ หน้าทโี่ ดยมิชอบเพอ่ื ประโยชนต์ นเองหรอื ผู้อนื่ ไดป้ ระโยชน์ทมี่ ิควรได้ เป็นการทุจริตตอ่ หน้าทร่ี าชการ การท่ีผู้บงั คับบัญชามีคาส่ังลงโทษไลอ่ อกจากราชการน้นั เหมาะสมกับกรณคี วามผดิ แลว้ - ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งรองผอู้ านวยการสถานศกึ ษา รบั โอนเงิน ทนุ การศึกษาจานวน 6 ทนุ เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรพั ยข์ องโรงเรยี น รวมเปน็ เงิน จานวน 20,000 บาท ต่อมา ไดถ้ อนเงินสดออกจากบญั ชีดงั กลา่ วทง้ั หมด และถอื เงนิ สดไว้กับตนเอง เปน็ เวลาประมาณ 4 เดือนเศษ เม่อื เจ้าหนา้ ท่ตี รวจสอบภายในเขา้ ตรวจสอบ จึงนาเงินทั้งหมดฝาก ให้กบั นกั เรยี นในภายหลัง เปน็ การปฏบิ ัตหิ รอื ละเว้นการปฏิบตั ิหน้าท่รี าชการโดยมิชอบ เพอ่ื ประโยชน์ ตนเองหรือผู้อ่ืนได้ประโยชน์ท่ีมิควรได้ เปน็ การทจุ รติ ตอ่ หน้าทรี่ าชการ การท่ผี ู้บังคบั บญั ชามีคาสง่ั ลงโทษไลอ่ อกจากราชการ เหมาะสมกับกรณคี วามผดิ แล้ว
กรณีทุจริตต่อหน้าที่ราชการ - ผู้อานวยการโรงเรียนดาเนินการจดั ซ้อื จัดจ้าง และเป็นผู้เบิกถอนเงนิ หรอื นาไปจ่ายใหก้ ับผขู้ าย หรอื ผู้รบั จ้าง ตามโครงการต่าง ๆ เงนิ จานวน 964,472.22 บาท แต่ปรากฏวา่ การบรหิ ารการเงนิ ของ โรงเรยี นไมเ่ ป็นระบบ การเบกิ ถอนเงนิ ไปดาเนินการตามโครงการตา่ ง ๆ ไมป่ รากฏเอกสารหลกั ฐานการ จา่ ยทีจ่ ะนามาหกั ล้างหน้ีจานวนดังกลา่ ว พฤติการณ์เปน็ ความผิดวนิ ัยอยา่ งร้ายแรง กรณปี ฏบิ ัตหิ นา้ ทโี่ ดยมิ ชอบเพ่ือประโยชน์ตนเองหรอื ผู้อนื่ ไดป้ ระโยชน์ทมี่ ิควรได้ เปน็ การทุจริตตอ่ หน้าทร่ี าชการ การท่ี ผบู้ งั คับบัญชามีคาส่ังลงโทษไลอ่ อกจากราชการเหมาะสมกับกรณคี วามผิดแล้ว - เจา้ หน้าทบ่ี ริหารงานการเงินและบัญชี 6 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐานนาเงนิ ค่าอาหารเสริมนมที่ผู้บรหิ ารโรงเรยี นจานวน 14 แห่ง ส่งมาเพื่อคนื คลังจงั หวัดจานวน 1,738,367.10 บาท เข้าบัญชีตนเองระหวา่ งวันท่ี 3-5 มิถนุ ายน 2545 ต่อมาระหวา่ งวนั ท่ี 7-14 มถิ ุนายน 2545 ได้ถอน เงนิ ดงั กล่าวออกหลายครง้ั เปน็ เงนิ รวม 455,166.03 บาท โดยไมป่ รากฏวา่ นาไปใช้ในราชการแตอ่ ยา่ งใด เมอ่ื หนว่ ยตรวจสอบภายในตรวจพบ ได้นาเงนิ จานวน 1,738,367.10 บาท สง่ คืนคลงั จงั หวัดจนครบ จานวน เป็นความผดิ ฐานทจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่ีราชการ โทษไลอ่ อกจากราชการ
กรณีทจุ ริตตอ่ หนา้ ที่ราชการ - ข้าราชการครูรกั ษาราชการแทนผบู้ ริหารโรงเรียนถอนเงินทไี่ ดร้ ับบริจาคเพือ่ จดั ตงั้ กองทนุ โดยมี วัตถุประสงคเ์ พอื่ ใช้เฉพาะดอกผลเพอ่ื การศกึ ษา จากบญั ชีธนาคารออมสนิ จานวน 50,895.35 บาท ระหวา่ งวนั ท่ี 19 ธันวาคม 2546 ถงึ วนั ท่ี 24 สงิ หาคม 2547 ไปเพ่อื ประโยชน์ตนเองหรือผู้อนื่ เป็น ความผดิ วนิ ัยอยา่ งร้ายแรงเป็นการปฏิบตั หิ รอื ละเว้นการปฏบิ ตั ิหนา้ ทโี่ ดยมชิ อบเพือ่ ใหต้ นเองหรอื ผู้อ่นื ได้ ประโยชนท์ ม่ี ิควรได้ เป็นการทุจรติ ตอ่ หนา้ ท่รี าชการ การที่ผู้บังคบั บัญชาสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ ระดบั โทษยังไม่เหมาะสมกับกรณีความผดิ - ผูอ้ านวยการศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ นดั หมายครอู ตั ราจา้ งชัว่ คราวของศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษไปทร่ี า้ นอาหาร เพื่อใหส้ ง่ มอบเงนิ จานวน 8,000 บาท แก่ตนเปน็ ค่าตอบแทนใหผ้ ่านการประเมินเพอื่ แตง่ ตงั้ เปน็ พนกั งาน ราชการของศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษ และถกู เจ้าหนา้ ทีต่ ารวจจบั กุม เป็นการปฏิบตั ิหน้าทโ่ี ดยมิชอบเพ่ือ ประโยชนต์ นเองหรือผอู้ น่ื ไดป้ ระโยชนท์ ม่ี คิ วรได้ เปน็ การทจุ ริตตอ่ หน้าทรี่ าชการ กระทาการอนั ได้ชอื่ วา่ เปน็ ผปู้ ระพฤตชิ ั่วอยา่ งรา้ ยแรง ตอ้ งดว้ ยมติคณะรฐั มนตรี การลงโทษผู้กระทาผดิ วนิ ัยฐานทจุ รติ ตอ่ หนา้ ที่ ราชการ เปน็ ความผิดวนิ ยั อยา่ งร้ายแรง ควรลงโทษไลอ่ อกจากราชการการนาเงนิ ท่ีทจุ รติ ไปแล้วมาคนื หรอื มีเหตอุ ันควรปราณอี นื่ ใด ไม่เป็นเหตุลดหย่อนผอ่ นโทษลงเปน็ โทษปลดออกจากราชการ
Search