โครงงานวิทยาศาสตร์ เรือ่ ง มหัศจรรย์เจลวา่ นหางจระเข้(Wonderful aloe vera soothing gel) คณะผจู้ ัดทำ นาย ณัฐพล คล้ิงบวั ทอง เลขท่ี 1 นางสาว เจนจิรา ชเู ชิด เลขท่ี 12 นางสาว แพรวา ใตร้ าชโพธิ เลขที่ 15 นางสาว วรรณพร พรมจันทร์ เลขท่ี 20 นางสาว ศศิกานต์ ทุมรินทร์ เลขท่ี 40 นักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6/2 เสนอ อาจารย์ นพวรรณ แกว้ โกสมุ รายงานโครงงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชา ว30226 เคมี กลุม่ สาระเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรยี นทีปราราษฎรพ์ ทิ ยา จังหวดั สุราษฎรธ์ านี ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563
ก ชอ่ื โครงงาน : มหศั จรรยเ์ จลว่านหางจระเข้ (Wonderful aloe vera soothing gel) ผจู้ ัดทำโครงงาน : 1. นายณัฐพล คลงิ้ บวั ทอง 2. นางสาวเจนจริ า ชเู ชดิ 3. นางสาวแพรวา ใต้ราชโพธิ 4. นางสาววรรณพร พรมจันทร์ 5. นางสาวศศกิ านต์ ทมุ รนิ ทร์ โรงเรียน : ทปี ราษฎรพ์ ทิ ยา ครูท่ปี รึกษา : คุณครูนพวรรณ แกว้ โกสมุ บทคดั ยอ่ ประเทศไทยเปน็ ประเทศท่มี อี ากาศรอ้ นคอ่ นขา้ งสูงและถา้ ชว่ งฤดูหนาวกจ็ ะมอี ากาศเย็นค่อนขา้ งสงู เชน่ เดยี วกนั วิถชี วี ติ ของคนในประเทศต้องประสบปัญหากบั สภาพอากาศทเี่ ปลย่ี นแปลงบอ่ ย บางวันมอี ากาศ รอ้ น ฝน และหนาวเย็นรวมๆอยู่ในวนั เดียวกัน จนทำให้มีการปรบั ตัวยากและการรับมอื ท่ีค่อนขา้ งลำบาก ถา้ สขุ ภาพดีกพ็ อรบั มือได้ แตผ่ วิ พรรณไมส่ ามารถรบั มอื กบั อากาศทแ่ี ปรปรวนไดไ้ วเท่าไหรน่ กั อากาศ เปลีย่ นแปลงจงึ เป็นสาเหตหุ ลกั ที่ทำให้ผิวเสีย ดงั นั้นผจู้ ดั ทำจงึ คิดคน้ เจลว่านหางจระเขซ้ ง่ึ สกัดจากวา่ นหาง จระเข้ธรรมชาติ 200กรัม ผสมกับ คารโ์ บพอล 940 เป็นจำนวน 1 กรัม และสารtriethanolamine หรอื TEA เปน็ จำนวน 2 กรัม ทงั้ นผ้ี จู้ ัดทำได้มีการผสมสารกนั เสียไป 2.5 กรัมเพอื่ เพม่ิ ประสิทธภิ าพการอยทู่ นของเจ ลวา่ นหางจระเข้ อย่างไรกต็ ามผจู้ ัดทำไดม้ กี ารทดลองเจลทจี่ ดั ทำกับผลไมห้ ลากชนิด เชน่ การนำกล้วยและ แอปเปล้ิ ทที่ าเจล และไมไ่ ดท้ าอะไรเลยไปวางไวก้ ลางแดด พบว่าสภาพของผลไมท้ ี่ทาเจลน้นั มสี ภาพทีไ่ ม่เหีย่ ว หรอื คล้ำซ่งึ ต่างจากผลไม้ทผี่ ู้จัดทำไมไ่ ด้ทา จากการทดลองจงึ พบวา่ เจลวา่ นหางจระเข้มีประสทิ ธภิ าพมาก พอทจี่ ะช่วยใหผ้ วิ พรรณเราไม่เสยี ไปจากการตากแดด
ข กิตติกรรมประกาศ ในการทำโครงงานเคมีครง้ั นี้คณะผจู้ ัดทำขอขอบพระคณุ คณุ ครูนพวรรณ แกว้ โกสุม ทไี่ ด้ใหค้ วามอนเุ คราะห์ และสละเวลาเพอ่ื ชีแ้ นะแนวทางในการทำแกก่ ล่มุ คณะผจู้ ัดทำ คอยใหค้ ำปรึกษาให้ความสะดวกในการทำ โครงงานตงั้ แต่ริเรมิ่ จนสำเรจ็ เรยี บรอ้ ย คณะผจู้ ัดทำขอกราบขอพระคณุ ด้วยความเคารพอยา่ งสงู ไว้ ณ โอกาสน้ี ขอบคุณสมาชิกคณะผจู้ ัดทำทกุ คนท่ใี หค้ วามชว่ ยเหลือ รว่ มกันแกไ้ ข้ปญั หาจนทกุ อยา่ งผา่ นไปไดด้ ว้ ยดี ตลอดจนใหค้ ำแนะนำ ช้แี นะ จนโครงงานสำเขบรรลลุ ว่ งไปได้ด้วยดี ท้ายท่ีสดุ ขอกราบขอบพระคุณ คณุ พอ่ และคณุ แม่ ท่เี ป็นผใู้ ห้กำลงั ใจและใหโ้ อกาสการศกึ ษาอันมคี ่าย่ิง คณะผู้จัดทําโครงงานเคมขี อขอบพระคณุ ทกุ ท่านอยา่ งสงู ท่ีให้การสนบั สนนุ เอื้อเฟ้อื และให้ความอนเุ คราะห์ ช่วยเหลือ จนกระทัง่ โครงงานภาษาไทยสาํ เรจ็ ลลุ ว่ งไดด้ ้วยดี คณะผจู้ ดั ทำ
สารบญั ค เร่ือง หนา้ ก บทคดั ย่อ ข กติ ติกรรมประกาศ สารบญั ค-ง สารบญั ตาราง จ สารบญั รูปภาพ ฉ บทท่ี 1 บทนำ 1 1 ทมี่ าและความสำคัญ 2 วตั ถุประสงค์ 2 ขอบเขตของการศกึ ษา 2 สมมตฐิ านของการศึกษา 2 ตัวแปปรท่ีเก่ียวข้อง 2 นิยามศัพท์เฉพาะ 2 ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ 3 บทที่ 2 เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง 3 ว่านหางจระเข้ 4 ลักษณะพฤกษศาสตร์ 4 ประวัตคิ วามปน็ มาในการใชว้ ่านหางจระเข้ การปลูกว่านหางจระเข้ 4-5 การบำรุงรกั ษา 5 วิธีดูแลรกั ษาวา่ นหางจระเข้ 5 การขยายพนั ธ์ุวา่ นหางจระเข้ 5 ลกั ษณะต้นไมท้ ่ีเลี้ยงดไู มด่ ี 5 ศัตรพู ืช 5 การตัดมาใช้ 6 วิธีใชว้ า่ นหางจะเข้ 6 วิธีใชว้ า่ นหางจระเข้เป็นยาทาภายนอก ขอ้ หา้ มใช้และขอ้ ควรระวงั 6-7 บทท่ี 3 วธิ ีการดำเนนิ งาน 7-8 อปุ กรณแ์ ละเคร่อื งมอื สารเคมี 9 9 9
วธิ ีทำ ง บทที่ 4 ผลการทดลอง บทท่ี 5 สรุปผลและอภิปรายผลการทดลอง 9-10 สรปุ ผลการทดลอง 11 อภิปรายผลการทดลอง 12 ข้อเสนอแนะ 12 ภาคผนวก บรรณานุกรม 12-13 13 14-16 17-18
สารบญั ตาราง จ ตารางท่ี หน้า ตารางท่ี 1 วิเคราะหข์ อ้ มลู เรอื่ งมหศั จรรยเ์ จลว่านหางจระเข้ 11
สารบญั รปู ภาพ ฉ ภาพที่ หน้า ภาพท่ี 1 วา่ นหางจระเข้ สมนุ ไพรสมานแผล รกั ษาโรค 3 ภาคผนวก ภาพท่ี 1 สารทใี่ ชใ้ นการทำเจลวา่ นหางจระเข้ 15 15 ภาพที่ 2 ทำสารสกดั ว่านหางจระเข้ 15 ภาพท่ี 3 ตวงสาร 16 ภาพที่ 4 ผสมสาร 16 ภาพท่ี 5 ผสมสาร 16 ภาพท่ี 6 เลือกบรรจภุ ณั ฑ์
1 บทที่1 บทนำ 1. ทมี่ าและความสำคญั ประเทศไทยเป็นประเทศที่มอี ากาศร้อนค่อนข้างสูงและถา้ ชว่ งฤดหู นาวกจ็ ะมอี ากาศเยน็ คอ่ นขา้ งสูง เชน่ เดียวกนั วถิ ชี ีวติ ของคนในประเทศตอ้ งประสบปัญหากบั สภาพอากาศท่ีเปลี่ยนแปลงบอ่ ย บางวนั มีอากาศ รอ้ น ฝน และหนาวเยน็ รวมๆอย่ใู นวันเดยี วกัน จนทำใหม้ ีการปรบั ตวั ยากและการรบั มอื ทีค่ อ่ นข้างลำบาก ถา้ สขุ ภาพดีกพ็ อรบั มอื ได้ แต่ผิวพรรณไมส่ ามารถรบั มอื กบั อากาศที่แปรปรวนได้ไวเท่าไหร่นกั อากาศ เปลี่ยนแปลงจงึ เป็นสาเหตหุ ลกั ท่ีทำให้ผวิ เสีย เช่น ผิวแสบไหมจ้ ากแสงแดด ผิวแหง้ กร้านเป็นขยุ จากสภาพ อากาศทเ่ี ยน็ ทกุ คนลว้ นอยากมผี วิ พรรณทสี่ ุภาพดี จงึ ตอ้ งพงึ่ ครมี บำรงุ หรือการทำสปาผวิ แต่การทำส่ิงเหล่าน้ี คอ่ นขา้ งใชเ้ งนิ มากและฟมุ่ เฟอื ยและเสย่ี งอนั ตายได้ เชน่ ครมี บำรงุ ถ้าหากซือ้ ในราคาทส่ี งู กท็ ำใหไ้ ด้ ประสิทธภิ าพจริงแตก่ เ็ กดิ การฟุ่มเฟือยแต่ถา้ ซื้อในราคาทถี่ กู มักจะมสี ารปรอททเ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ ผิว และถ้าหาก ซ้อื ครมี บำรงุ ท่มี รี าคาแพง นับวา่ เปน็ ปญั หาของคนในประเทศในยคุ เศรษฐกจิ สมยั นี้ การที่จะรักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพที่ดี มีหลายวิธีแต่วีธีหลักที่คนส่วนใหญ่ใช้และสะดวกก็คือการทา ครีมบำรุง และยังมี การทำสปา กับการใชส้ มุนไพร ซ่งึ คนไทยส่วนใหญ่ไม่นยิ มใช้มากนักเพราะต้องใช้เวลามาก ในการทำสมนุ ไพรมาบำรุงผิว สมุนไพรมหี ลายชนิดที่ช่วยบำรุงผวิ พรรณ เพม่ิ ความชมุ่ ช่ืนแกผ่ ิว ลดรอยจุดด่าง ดำซึ่ง”วา่ นห่างจระเข้”เปน็ อกี หนง่ี สมนุ ไพรทมี่ ีคุณสมบัติบำรงุ ผวิ เพมิ่ ความชุม่ ชื่น รวมไปถึงผิวหน้าได้อีกด้วย ฉะนั้นว่านหางจระเข้จึงถูกมาใช้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่าว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยให้ ผิวพรรณมสี ุขภาพทด่ี ี ผดุ ผอ่ ง สดชื่น ลดรอยจดุ ด่างดำได้ แต่มักท่จี ะถูกมองข้ามเพราะตอ้ งปลกุ เองหรอื ต้องหา ซอ้ื แตต่ อ้ งใช้เวลาในการนำเน้อื วา่ นหางมาบำรงุ นานอยู่สมควร วา่ นหางจระเข้สมุนไพรไทย ๆ ท่ีมหี นา้ ตาละมา้ ยคล้ายกบั หางแหลม ๆ ของจระเข้ จนได้ช่ือเรียกท่บี ่ง บอกถึงลักษณะได้ดีว่า ว่านห่างจระเข้ คืออีกหนึ่งพรรณไมไ้ ทยที่นิยมปลูกไว้ติดบ้าน ว่านหางจระเข้ คือพืช สมนุ ไพรท่รี ูจ้ กั กนั ทว่ั ไป เปน็ สมนุ ไพรพนื้ ฐานทีท่ ุกบ้านจะต้องมี ซึ่งโดยปกติแลว้ ว่านหางจระเข้จะถูกใช้ในการ รกั ษาแผลพพุ องจากไฟไหม้ นำ้ ร้อนสวก หรือวา่ แผลจากความรอ้ น สามรถใชไ้ ด้ แต่วา่ นอกจากสรรพคุณทาง ยาที่กลา่ วมาข้างต้นแล้ว ว่านหางจระเข้ยังมีอีกหนึ่งสรรพคุณที่น้อยคนนักจะรู้ คือ สามารถเพิ่มความช่มุ ชน่ื ใหแ้ ก่ผวิ พรรณและป้องกนั ผิวแสบไหมจ้ ากแสงแดดได้อกี ดว้ ย ดังน้ันคณะผู้จัดทำจงึ มคี วามสนใจที่ทำเจลว่านหางจระเขบ้ ำรงุ ผิวเพ่ือคนบางกล่มุ ที่มีงบประมาณน้อย หรอื คนบางกลุ่มทไี่ ม่มเี วลาแต่อยากใช้สมนุ ไพรในการบำรงุ ผิว คาดว่าจะผลติ เจลวา่ นหางจระเข้ช่วยประหยัด ค่าใช้จ่ายและสะดวกมากยง่ิ ขน้ึ
2 2.วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ศึกษาหาความช่มุ ชนื้ ของว่านหางจระเข้ 2. เพอื่ นำความรู้ทไี่ ด้ไปเผยแพรต่ ่อชุมชน 3. ขอบเขตการศกึ ษา เลอื กศึกษาสรรพคุณของว่านหางจระเข้ ทำสตู รเจลบำรงุ ผวิ ด้วยวา่ นหางจระเข้ 4. สมมตฐิ านของการศึกษา วา่ นหางจระเข้สามารถใช้ทาผวิ เพอื่ เพม่ิ ความชุ่มชนื่ หลงั จากผิวสมั ผสั แดด 5. ตัวแปรที่เก่ยี วขอ้ งกับการจดั ทำโครงงาน ตวั แปรตน้ : วา่ นหางจระเข้ ตวั แปรตาม: ระยะเวลาในการใช้ ตัวแปรควบคมุ : สภาพผวิ พรรณของผใู้ ช้ 6. นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ เจล หมายถงึ เปน็ วัสดคุ ล้ายของแขง็ เกิดจากสารละลายคอลลอยด์ (colloidal solution) มี โครงสร้างแบบรา่ งแห ทีส่ ามารถเพมิ่ ปรมิ าตรเมือ่ อยูใ่ นของเหลว ตัวอย่างของเจลท่ีกินได้ ได้แกเ่ จลาติน โดยมากมสี มบัตเิ ปน็ ของเหลวเม่อื ถูกกวน และสามารถกลบั เป็นของแขง็ เมื่อปลอ่ ยทงิ้ ใหพ้ ัก (thixotropy) สมุนไพร หมายถงึ ยาท่ีได้มาจากส่วนต่างๆของลำต้นพชื โดยไมไ่ ด้ผ่านกระบวนการตา่ งๆมากอ่ น ว่านหางจระเข้ หมายถึง สมนุ ไพรชนดิ หนง่ึ ท่สี ามารถใชง้ านไดห้ ลายอย่าง 7. ประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ บั 1. ไดร้ บั ความรเู้ กยี่ วกบั คณุ ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ 2. การทำเจลบำรงุ ผวิ พรรณ 3. เปน็ แนวทางในการนำสมุนไพรมาประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ 4. ทำให้คณะผจู้ ัดทำไดเ้ รียนรกู้ รรมวิธีในการทำเจลบำรงุ เพ่ิมความชมุ่ ชน่ื (ว่านหางจระเข)้
3 บทท่ี 2 เอกสารท่เี กย่ี วข้อง วา่ นหางจระเข้ วา่ นหางจระเขเ้ ป็นตน้ พชื ทมี่ ีเนือ้ อมิ่ อวบ จัดอยูใ่ นตระกลู ลเิ ล่ยี ม (Lilium) แหลง่ กำเนิดดัง้ เดมิ อยู่ใน ชายฝัง่ ทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนยี นและบรเิ วณตอนใตข้ องทวีปแอฟรกิ า พันธขุ์ องวา่ นหางจระเขม้ ีมากมายกวา่ 300 ชนิด ซงึ่ มีทัง้ พนั ธทุ์ ม่ี ขี นาดใหญม่ ากจนไปถงึ พนั ธุท์ ีม่ ีขนาดเลก็ กว่า 10 เซนติเมตร ลักษณะพเิ ศษของวา่ นหาง จระเขก้ ค็ ือ มีใบแหลมคล้ายกบั เขม็ เน้อื หนา และเนอ้ื ในมีน้ำเมือกเหนียว วา่ นหางจระเขผ้ ลิดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะมสี ีตา่ งๆกัน เชน่ เหลือง ขาว และแดง เป็นต้น ทัง้ นข้ี นึ้ อยูก่ บั สายพันธุ์ คำวา่ \" อะโล\" (Aloe) เป็นภาษากรซี โบราณ หมายถงึ ว่านหางจระเข้ ซึ่งแผลงมาจากคำวา่ “Allal” มี ความหมายว่า ฝาดหรือขม ในภาษายิว ฉะนั้นเมื่อผู้คนได้ยินชื่อนี้ ก็จะทำให้นึกถึงว่านหางจระเข้ ว่านหาง จระเข้เดิมเป็นพืชที่ขึ้นในเขตร้อนต่อมาได้ถูกนำไปแพร่พันธุ์ในยุโรปและเอเชีย และทุกวนั นี้ทั่วโลกกำลังเกดิ กระแสนยิ มวา่ นหางจระเข้กนั เปน็ การใหญ่ ภาพท่ี1 ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสมานแผล รกั ษาโรค (ท่ีมา : https://www.pobpad.com) ชอ่ื วิทยาศาสตร์: Aloe vera (Linn.) Burm. f. ชื่อพอ้ ง: Aloe barbardensis Mill. , A. indica Royle ช่อื วงศ์: Aloaceae ชื่อองั กฤษ: Aloe, Barbados aloe, Crocodile’s tongue, Indian aloe, Jafferbad, Mediteranean aloe, Star cactus, True aloe ชื่อท้องถ่ิน: ว่านไฟไหม้, หางตะเข้
4 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ วา่ นหางจระเขเ้ ปน็ พชื อวบน้ำลำตน้ สน้ั หรอื ไมม่ ีลำตน้ สงู 60 - 100 ซม. (24 - 39 นิว้ ) กระจายพนั ธุโ์ ดย ตะเกยี ง ใบหนาอว้ นมสี ีเขยี วถึงเทา-เขียว บางสายพนั ธุ์มีจุดสขี าวบนและล่างของโคนใบ ขอบใบเป็นหยักและมี ฟันเล็กๆสีขาว ออกดอกในฤดูร้อนบนช่อเชิงลด สูงได้ถึง 90 ซม (35 นิ้ว) ดอกเป็นดอกห้อย วงกลีบดอกสี เหลอื งรูปหลอด ยาว 2 - 3 ซ.ม. (0.8 - 1.2 นว้ิ ) วา่ นหางจระเข้กเ็ หมือนพชื ชนิดอน่ื ในสกลุ ทส่ี รา้ งอาร์บัสคลู าร์ ไมคอรไ์ รซา (arbuscular mycorrhiza) ขนึ้ ซึง่ เป็นสมชพี ท่ที ำให้พชื ดูดซึมสารอาหารและแรธ่ าตุในดินได้ดขี ้นึ ประวัติความเป็นมาในการใชว้ า่ นหางจระเข้ นับเปน็ เวลาหลายศตวรรษท่ีหลายประเทศรู้จกั ใช้ว่านหางจระเขร้ กั ษาโรคอย่างกวา้ งขวาง เน่อื งจากมี คุณวิเศษในการรักษาแผลไฟลวก รักษาแผลทั่วไป และระงับความเจ็บปวด รวมทั้งรักษาโรคเรื้อนกวาง จาก เอกสารทางประวัตศิ าสตรข์ องชาวอยี ิปต์ โรมัน กรีซ แอลจเี รยี ตนู เี ซีย อาหรับ อินเดีย และจนี มรี ายงานการ ใช้พืชชนิดนี้เป็นทั้งยาและเครื่องสำอาง แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็ยังรักษาความงามและความมเี สนห่ ข์ อง พระองค์ด้วยวุ้นของวา่ นหางจระเข้ ก่อนคริสตศกั ราช 1500 ปี (หรือ 957 ปีก่อนพุทธศกั ราช) มรี ายงานของชาวอียปิ ตท์ ่ีถือว่าเป็นหลกั ฐานที่ เก่าแก่ทีส่ ดุ รายงานถงึ สรรพคุณมากมายของว่านหางจระเข้ ซ่งึ แสดงให้เห็นถึงการรู้จกั ใช้พืชชนดิ นีม้ าเปน็ เวลา หลายศตวรรษแล้ว ในตำราสมนุ ไพรที่มีชื่อเสียงของกรีซเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 1 รายงานถึงวิธีการใช้ว่านหาง จระเข้ในการรักษาโรคต่างๆ อย่างละเอียดพิสดาร ตั้งแต่รักษาบาดแผล โรคนอนไม่หลับ กระเพาะอาหาร ทำงานไม่ปกติ ท้องผูก ริดสีดวงทวาร อาการคันที่ผิวหนัง ปวดหัว ผมร่วง โรคเหงือกและฟัน โรคไต ผิวหนัง พอง ผวิ ถกู แดดเผา ผิวดา่ งดำ ช่วยบำรงุ ผวิ หนงั ระงับอาการปวดและอน่ื ๆ วธิ ปี ลกู ว่านหางจระเข้ การเตรียมดนิ : วา่ นหางจระเข้ชอบดนิ ร่วนซุย ถ้าดนิ เหนียวมากใหผ้ สมใบไม้แหง้ ผุ และทรายลงไป ดนิ ควรใส่ป๋ยุ ดว้ ย ใหใ้ ช้คอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ กทม. ๒ ไม้ตอ้ งใชป้ ุย๋ วิทยาศาสตร์ ก่อนนำดนิ มาผสมตอ้ งยอ่ ยดินเป็น กอ่ นเลก็ ทีส่ ดุ เสยี ก่อน เอาดนิ มา ๓ ส่วน ผสมใบไมแ้ หง้ ผุทย่ี อ่ ยเปน็ ช้นิ เลก็ ๆ ๒ ส่วน ผสมปยุ๋ ๑ สว่ น ผสมทราย ๐.๕ ส่วน คลุกเคล้าใหเ้ ข้ากัน จะไดด้ นิ ร่วนซุยท่ีเหมาะกบั วา่ นหางจระเข้ สถานท่ปี ลูก: แสงแดด ว่านหางจระเข้ไม้ชอบแดดจัด ควรให้ว่านได้ถูกแดดตั้งแต่ตอนเช้าถึงสิบเอ็ดโมงเช้า และไดร้ ่มตง้ั แต่นั้นจนถึงเย็น หรือปลูกในทรี่ ่มรำไรตลอดวันกไ็ ด้ แตร่ ะวงั อยา่ ใหถ้ ูกแดดตอนเทยี่ งและตอนบา่ ย ระดับพน้ื ที่ บรเิ วณที่ปลูกวา่ นหางจระเข้ไม่ควรเป็นพนื้ ที่ต่ำกว่าบริเวณทีอ่ ยรู่ อบๆ ควรสูงกวา่ หรอื อยา่ งนอ้ ยกเ็ สมอื นบรเิ วณทอี่ ยรู่ อบๆ เพราะวา่ นหางจระเข้ไมช่ อบบรเิ วณพ้นื ทม่ี นี ำ้ ขงั ชอบดินทร่ี ะบายนำ้ ดี
5 น้ำค้าง ไม่ควรปลกู ใตช้ ายคาหรือบรเิ วณทีน่ ้ำคา้ งลงไมถ่ งึ การเลอื กตน้ ปลกู ตน้ ว่านหางจระเข้ยงิ่ โตยิ่งปลกู ง่าย ถา้ ตน้ เล็กเกินไปจะปลูกยาก ต้นท่นี ำมาปลกู ได้ควรมีใบทีย่ าวที่สุดประมาณ 1 ฝา่ มือขนึ้ ไปหรือมีใบ 8-10 ใบแลว้ วิธดี ูและรกั ษาวา่ นหางจระเข้ การลงดนิ หรือลงกระถาง: ถ้าตน้ ว่านหางจระเขม้ ลี ำตน้ ยาวมาก ควรตัดลำต้นใหส้ ัน้ ลงใหเ้ หลือลำตนั เพยี ง 2 - 3 นิ้ว ลำต้นที่ ถูกตัดนี้จะงอกรากใหมอ่ ยา่ งรวดเรว็ การลงดิน: อย่าลงลกึ ไปหรอื ตื้นไป คอื อยา่ ลึกจนเวลาลดนำ้ ดนิ ไปกลบยอดได้ หรอื อยา่ ตน้ื จนตน้ โยก เยกเวลารดนำ้ การรดน้ำ: หนา้ ฝนไมจ่ ำเป็นต้องรดนำ้ ถา้ หน้าแล้งควรลดวันละ 1 - 2 ครัง้ ใหด้ นิ ช่มุ ช้ืออยู่เสมอ แต่ ตอ้ งระวงั อย่ารดจนดินแฉะเกินไป การบำรงุ รักษา หมัน่ พรวนดนิ เนอ่ื งจากว่านหางจระเข้ชอบดินร่วน ดงั น้นั ถา้ หากเหน็ วา่ ดนิ เรม่ิ แข็งจับเป็นก้อนน้ำซึม ผ่านไมด่ ี หรอื มีน้ำขังใหพ้ รวนดนิ ใหร้ ว่ น คอยกลบโคนตน้ เมอ่ื ต้นว่าหางจระเขโ้ ตขนึ้ เรื่อย ๆ จะมีลำต้นยืดยาว ขึ้นมาเหนือพื้นดินให้คอยเอา ดินกลบต้นเสมอกลบจนดินอยู่ตืดชิดกับใบล่างสุด ถอนต้นเล็ก ๆ ทิ้ง ว่านหาง จระเข้แตกตน้ ใหมไ่ ด้เร็วมากจึงต้องหมัน่ ถอนต้นใหม่ทิ้งเสมอเพราะ ต้นใหม่จะแย่งอาหารจากต้นแม่แต่อย่า ถอนหมด เหลอื ไวข้ ยายพันธบ์ุ า้ ง ใส่ปยุ๋ ปีละ1-2ครั้ง เปลี่ยนกระถางหรือปลกู ใหม่ ถา้ ปลกู ในกระถางเมื่อครบปี แลว้ ควรเปล่ยี นดินใหม่ ตน้ ว่านหางจระเขท้ ี่ปลูกลงดนิ ถ้าลำต้นอย่พู ้นจากดนิ มากไป ก็ตัดให้ลำต้นเหลอื ส้ันลง แลว้ ปลูกใหม่ ลำต้นท่ถี กู ตัดจะงอกรากใหม่ การขยายพนั ธว์ุ า่ นหางจระเข้ ตน้ ใหมท่ ่ีงอกจากตน้ แมจ่ ะโตเรว็ กว่าต้นใหมท่ แ่ี ยกมาปลกู ตา่ งหาก ดังนน้ั จึงควรจะค่อยให้ต้นใหม่โต มากๆ เสียก่อนจึงค่อยแยกปลกู ตน้ แมห่ นงึ่ ต้นควรเกบ็ พนั ธไ์ุ ม่เกิดสองต้น เพราะถ้ามลี กู มากไป ลูกจะแย้งอาหาร กนั เองทำใหโ้ ตชา้ ลูกว่านหางจระเขท้ เี่ กบ็ ไว้ขยายพันธุไ์ ม่ควรปลูกอยู่ใกลก้ นั ควรจะอยตู่ รงขา้ มกนั ลักษณะตน้ ไม้ท่ีเลยี้ งดไู ม่ดี 1. ใบเนา่ และลำต้นเน่า แสดงว่าน้ำขังมากหรอื ปุ๋ยมากเกิดไป 2. ใบแบนราบลงแสดงว่ารากเริ่มเน่าหรอื ต้นมรี ากนอ้ ยเกนิ ไป 3. ใบออกสีน้ำตาลอมแดงเปน็ เพราะถูกแดดมากเกินไป 4. โตช้าเพราะขาดปุ๋ย ดินไม่รว่ น ขาดนำ้ ค้าง ถูกต้นไม้อื่นแยง่ อาหารถกู แดดมากเกินไปและขาดน้ำ
6 ศตั รพู ืช วา่ นหางจระเขม้ ีศัตรูนอ้ ยมาก เช่นกนั เท่าทเ่ี คยพบมี 1.เพลยี้ กินใบ ทำใหใ้ บมจี ุดขาว 2.หอยทาก ใบวา่ นหางจระเข้ทหี่ อยทากกนิ จะเปลย่ี นเปน็ สีนำ้ ตาลเหมือนถกู ไฟเผา การตดั มาใช้ เมื่อจะตดั ใบจากลำตน้ ไหนก็ควรจะตัดต้นนนั้ ต้นเดียวไปเลอ่ื ยๆ จนหมดแล้วจึงตัดตน้ ใหม่ไม่ควรตัด ต้นน้ันทตี ้นนท้ี ีเพราะว่านหางจระเข้ที่ถูกตัดไปจะโตชา้ และทำใหล้ ำตน้ ยดื ยาวพน้ ดินมากเกนิ ไปทำใหต้ น้ ว่านลม้ ได้ การตัดควรตัดใบลา่ งสุดก่อนเพราะเปน็ ใบแก่ทส่ี ดุ มีสรรพคุณดีทส่ี ดุ วิธใี ช้วา่ นหางจระเข้ ตน้ วา่ นหางจระเขท้ ี่จะนำมาใช้ควรเป็นตน้ ที่ปลกู นาน 1 ปขี ึน้ ไป หรอื สังเกตจากใบทใ่ี หญ่ทีส่ ุดควรมี ความกวา้ งที่โคนใบประมาณ 1-2 นว้ิ อยา่ งไรก็ตามตน้ เลก็ ก็มีสรรพคณุ ในการรกั ษาเชน่ กันแต่สนนพคุณของมนั จะมมี ากข้นึ ตามอายุ จึงควรมตี ้นแกๆ่ สกั ตน้ ในบา้ น เวลาใช้ ปกตคิ วรใช้ใบลา่ งสดุ เพราะเป็นใบท่ีแกแ่ ละใหญ่ กว่าใบอื่นดงั นนั้ จึงมนี ้ำเมอื กมากและมีคณุ คา่ ทางยามากกว่า วนุ้ และน้ำเมือก: เมื่อเราปอกเปลอื กวา่ นหางจระเข้หมด จะเหลือส่วนทเ่ี ป็นแทง่ ใสๆ ส่วนน้ีเรา เรยี กว่า วุน้ และเมือ่ ขดู เนือ้ วุ้นน้ีจะมีน้ำไหลออกมา เรยี กว่า นำ้ เมือก วิธีใช้: ให้เลือกใช้ใบลา่ งสุด ล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกสีเขียวออก ล้างน้ำยางสีเหลืองออกให้หมด เพราะ อาจจะระคายเคอื งผวิ หนงั และทำใหม้ ีอาการแพ้ได้ ขดู เอาวุ้นใสปิดพอกบริเวณแผล หรอื ฝานเป็นแผน่ บางปิด แผล พันด้วยผ้าพันแผลที่สะอาด เปลี่ยนวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น จนกว่าแผลจะหาย นอกจากนี้ ยังใช้วุ้นเปน็ ส่วนผสมในเครอ่ื งสำอางหลายประเภท เชน่ แชมพูสระผม สบู่ ครมี กันแดด เป็นตน้ สารทอี่ อกฤทธเิ์ ปน็ กลัยโค โปรตีนชื่อ Aloctin A ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ และเพิ่มการเจริญทดแทนของเนื้อเยื่อที่แผล แต่มีข้อเสีย คือ สลายตวั ไดง้ า่ ยเมื่อถกู ความรอ้ น ไม่ควรทิง้ วุ้นสดไว้เกิน 24 ชวั่ โมง วิธีใชว้ า่ นหางจระเขเ้ ปน็ ยาทาภายนอก นำ้ เมือกทา: เอามดี ตัดใบวา่ นหางจระเข้ เฉอื นตรงทมี่ หี นามออกทง้ั สองข้าง แลว้ ผ่ากลางออกเป็นสอง ซีก เนื้อวุ้นที่ผ่าจะมีน้ำเมือกใสๆ ออกมาพร้อมที่จะใช้ทาได้เลย ทาให้มากๆ น้ำเมือกจะถูกดูดซึมเข้าไปใน ผวิ หนังในเวลาไมก่ ่ีนาที เมอื่ ทาไปสักครจู่ ะร้สู ึกว่าน้ำเมือกถูกใชจ้ นหมด ท่จี รงิ หมดเฉพาะผิวหน้า ถ้าหาอะไรไป ขูดท่ผี วิ วุน้ น้ำเมือกทอี่ ยู่ข้างในจะไหลออกมาอกี และสามารถดดู แบบน้ตี อ่ ไปเรื่อยๆ จนหมดวุ้น เฉือนเป็นแว่นปิดปากแผล: ถ้าเป็นแผลเล็กและเราไม่ต้องการทาแผลบ่อยๆ ให้เอาใบว่านหาง จระเข้ตัดหนามออกท้งั สองข้าง แลว้ เฉือนตามขวางออกเปน็ แวน่ บางๆ นำมาปดแผล แว่นบางๆ นีจ้ ะปดิ แผลได้ ดแี ละไมเ่ ลื่อนหลดุ งา่ ย เพราะมีขอบใบชว่ ยยึดผิวหนัง
7 เฉือนเนื้อวุ้นเป็นแผ่นบางๆ: ถ้าเป็นแผ่นใหญ่และเราไม่ต้องการทาแผลบ่อยๆ ให้เอาใบว่านหาง จระเข้มาแล้วปาดหนามออกท้ังสองข้าง ปอกเปลือกด้านทีแ่ บนออกให้หมด แล้วใชม้ ีดคมๆ เฉอื นวุ้นออกเป็น แผน่ บางๆ ยง่ิ บางยง่ิ ดีนำแผน่ วุ้นท่ีได้มาปดิ แผล ใสน่ ้ำเมือกลงในผ้าพนั แผล: ถา้ เปน็ แผลบริเวณท่ีสกปรกงา่ ย เชน่ บริเวณเทา้ ใหเ้ อาว่านหางจระเข้ขดู เอาน้ำเมอื กใส่ลงในผา้ พนั แผล นำมาปิดแผลใหเ้ รียบร้อย ควรเปลีย่ นผ้าพันแผลวนั ละ 2 คร้ัง เช้า-เยน็ ปอกเปลอื กว่านหางจระเข้ออกให้หมด: ให้รับประทานส่วนท่ีเป็นวุ้นโดยปอกเปลือกแล้วล้างวุ้น ด้วยน้ำใหย้ างออกหมดเสียกอ่ นก็จะใช้รับประทานได้ ให้รับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้า-เยน็ ครั้งละ 1-2 ช้อน โต๊ะ ปกตวิ ุน้ จะมีรสเฝ่ือน ควรเตมิ นำ้ หวานลงไปเพื่อกลบรส ถ้าลา้ งยางออกไม่หมดจะมรี สขม ข้อห้ามใช้และขอ้ ควรระวงั ขอ้ หา้ มใช:้ ยาง และ ยาดำ ทไ่ี ดจ้ าดยางว่านหางจระเข้ ห้ามใชก้ ินสำหรบั คนทกี่ ำลงั มีอาการปวดทอ้ ง อ่อนเพลีย ไตอักเสบ เป็นรดิ สดี วงทวารหรอื หญงิ มีครรภ์ และหญงิ ที่อยรู่ ะหวา่ งให้นมลกู เพราะอาจทำให้แท้ง ลูกและทำใหล้ ูกทกี่ ินนมแมท่ ้องเสีย สว่ นวนุ้ และน้ำเมอื กว่านหางจระเขห้ า้ มใหค้ นท่แี พ้ยาต่างๆงา่ ยหรอื ร่างกายขาดความตา้ นทานยา ต่างๆ เพราะกินว่านหางจระเข้เขา้ ไปแล้วอาจเกิดผนื่ คันท่ผี วิ หนัง ข้อควรระวงั ในการใช:้ เมอ่ื เป็นยาทาบางคนอาจแพย้ า อาการแพย้ าจะเกิดข้ึนภายในเวลา 2-3 นาที ดังนนั้ ก่อนใชค้ วรทดลองทาดเู ลก็ นอ้ ยทีห่ ลงั หู หรอื ทร่ี ักแร้ หากใน 2-3 นาที ไมม่ ีอาการผวิ ปกติใดๆ เกดิ ขน้ึ ก็แสดงว่าใหไ้ ด้ สำหรับผทู้ ผี่ ิวแห้ง ไมค่ วรใช้นำ้ เมอื กเพียงอยา่ งเดยี วทาผิวเพราะอาจทำใหผ้ ิวแหง้ ยงิ่ ขนึ้ ควรผสมน้ำ เมอื กลงกบั ครมี หรือนำ้ มนั ทาผิวซง่ึ จะช่วยใหผ้ ิวเตง่ ตงึ และชมุ่ ชนื่ เมอ่ื ใช้เป็นยากิน สำหรับ ยางและยาดำ ไม่ควรกนิ มากเกนิ ไปเพราะสาร “อะโลอิน” ทมี่ อี ยู่ในยางว่าน หางจระเขม้ ฤี ทธ์ิเปน็ ยาระบาย ถ้ากินมากเกดิ ไปทำใหท้ ้องเสยี และปวดทอ้ ง เพราะลำไสเ้ กร็งตวั และ ถ้ากินตดิ ตอ่ กนั นานอาจทำใหเ้ ปน็ โรคปวดตามข้อได้ ข้อควรระวงั สำหรบั ผู้ทีป่ ่วยเป็นโรคตา่ งๆ ขอ้ ควรระวงั สำหรับผู้ทปี่ ่วยเป็นโรคเบาหวาน: การดม่ื นำ้ วา่ นหางจระเข้ จะทำให้ตบั อ่อนสร้างอินสุ ลนิ มาก ขึน้ ดังน้ันผทู้ ใ่ี ช้ยาอนิ สลุ ินอยแู่ ลว้ ดม่ื นำ้ ว่านหางจระเข้อาจทำให้มอี นิ สุลนิ มากเกนิ ไป ซ่ึงมอี ันตรายมาก อาจทำให้ช็อกได้ ดังนัน้ คนท่ีคิดว่าจะกินว่านหางจระเข้โดยที่ใช้ยาอินสุลินอยู่ ควรจะปรึกษาแพทย์ เพือ่ หา วธิ ีใชย้ าอนิ สลุ ินให้เหมาะสม ขอ้ ควรระวังสำหรบั ผู้ทเ่ี ปน็ โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ: ผทู้ ่เี ป็นโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบอยู่ แล้ว เมื่อกนิ วุ้นวา่ นหางจระเข้สด ควรจะล้างยางใหอ้ อกใหห้ มดจริงๆ จนไม่มรี สขมเหลืออยู่เลยมฉิ ะนั้นยางที่ ติดคา้ งอยกู่ บั วุน้ จะไประคายเคืองกระเพาะและลำไส้ ทำใหอ้ าเจยี นและถา่ ยอยา่ งแรง
8 ข้อควรระวงั ยาง และ ยาดำ ท่ีได้จากยางว่านหางจระเข้ หา้ มใช้กนิ สำหรบั คนที่กำลงั มอี าการปวดท้อง ออ่ นเพลีย ไตอักเสบ เปน็ รดิ สีดวงทวาร หรอื หญิงมีครรภ์ และหญิงท่อี ยู่ระหวา่ งใหน้ มลกู เพราะอาจทำใหแ้ ท้งลกู และทำ ให้ลูกที่กนิ นมแมท่ ้องเสีย ส่วนวุ้นและน้ำเมอื กว่านหางจระเข้หา้ มให้คนท่ีแพ้ยาต่างๆ ง่าย หรือร่างกายขาด ความตา้ นทานยาต่างๆ เพราะกินวา่ นหางจระเขเ้ ข้าไปแล้วอาจเกดิ ผนื่ คันท่ีผิวหนงั
9 บทที่ 3 วีธีการดำเนินงาน 1.อปุ กรณแ์ ละเคร่อื งมือ 1. มีด 2. บรรจภุ ณั ฑ์ 3. แทง่ แกว้ 4. บกี เกอร์ 5. ปเิ ปต 6. ช้อนตกั สาร 7. เครอ่ื งช่งั ดิจทิ ัล 2. สารเคมี 1. คาร์โบพอล 940 2. triethanolamine หรือ TEA 3. สารกันเสีย 4. นำ้ สะอาด 5. วา่ นหางจระเข้ 3. วิธีทำ ข้นั ตอนท่ี 1 การทำสารสกัดวา่ นหางจระเข้ 1. ตัดว่านหางจระเขส้ ดๆมา ล้างน้ำให้เศษดนิ เศษฝนุ่ ออกจากใบ 2. นำว่านหางจระเข้มาพกั ท้งิ ไว้ ประมาณ 10-20 นาที เพือ่ ใหย้ างสเี หลืองไหลออกมาให้หมด 3. ปอกเปลอื กว่านหางจระเขอ้ อก แลว้ นำเนื้อวา่ นหางจระเขม้ าปัน่ ใหล้ ะเอยี ดเพื่อให้ไดน้ ้ำสารสกดั ของวา่ นหางจระเข้ 4. นำว่านหางจระเขท้ ีป่ น่ั เสรจ็ แล้วกรองดว้ ยผา้ ขาวบาง แลว้ ใสบ่ รรจภุ ณั ฑ์พกั ไว้ ขัน้ ตอนท่ี 2 การเตรียมคาร์โบพอลเจล 1. นำน้ำสะอาด 50 กรมั เทใส่ภาชนะทจ่ี ะทำการผสม 2. นำคารโ์ บพอลเจล 1 กรมั ลงไปผสมในนำ้ สะอาด และทำการคนเล็กน้อย 3. แช่พักไว้ 24 ช่ัวโมง เพ่อื ให้ขึ้นเป็นเนอ้ื เจล
10 ขนั้ ตอนที่ 3 การทำเจลวา่ นหางจระเข้ 1. นำสารสกัดวา่ นหางจระเข้เทใส่บกี เกอร์ 200 กรมั 2. นำคาร์โบพอลท่ีทำการผสมเปน็ เนอื้ เจลแล้วมาผสมในสารสกดั วา่ นหางจระเข้ คนใหเ้ ขา้ กัน 3. เตมิ สาร TEA 2 กรมั ลงไป 4. เตมิ สารกันเสยี 2.5 กรัม จากนน้ั คนกนั ให้เป็นเนอ้ื เจล 5. นำใส่บรรจภุ ัณฑ์
11 บทท่ี4 ผลการทดลอง การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เรอื่ ง มหศั จรรยเ์ จลวา่ นหางจระเข้ มดี ังน้ี ผลไม้ตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการทดลอง ระยะเวลาท่ีใช้ในการทดลอง ผลการทดลอง ผวิ บนเปลอื กของกลว้ ยหอม 15 นาที ไมเ่ กดิ การเปลยี่ นแปลง 1 ช่ัวโมง ไมเ่ กิดการเปลย่ี นแปลง 24 ชัว่ โมง สบี นเปลอื กกลว้ ยหอมเรม่ิ เปลยี่ น สเี ป็นสนี ำ้ ตาลออ่ น ปอกเปลอื กเนอ้ื แอปเปลิ้ 15 นาที ไมเ่ กดิ การเปลย่ี นแปลง 1 ชั่วโมง ไม่เกิดการเปลย่ี นแปลง 24 ชว่ั โมง เนอ้ื แอปเปลิ้ บรเิ วณตรงกลางที่ ไดร้ ับการทาเจลยงั คงชุมช่นื ส่วน เน้อื แอปเปลิ้ บรเิ วณรมิ ขอบทไี ม่ได้ รับการทาเจลวา่ นหางจระเขไ้ ด้ เกดิ การเปล่ียนสเี ป็นสนี ้ำตาล เลก็ นอ้ ย และเกดิ การแหง้
12 บทที่5 สรุปผลและอภิปรายผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง เจลว่านหางจระเขท้ ่ีได้ทำขึ้นมา สามารถช่วยเพ่มิ ความช่มุ ชนื่ ไดจ้ ริง เนือ่ งจากได้ทดลองกับเปลอื ก กล้วยหอมกับเนื้อแอปเปิ้ล เวลาผ่านไป24ชั่วโมง เนื้อแอปเปิ้ลและผลกล้วยหอมที่ได้รับการทาเจลว่านหาง จระเขย้ ังคงชมุ่ ชนื่ อยแู่ ต่มีสเี ปล่ยี นแปลงเล็กน้อย แตกต่างจากส่วนอ่ืนๆท่ไี มไ่ ด้ทาเจลว่านหางจระเขไ้ ด้เกิดการ แห้งและสีเปล่ยี นแปลง เปน็ สนี ้ำตาล อภิปรายผลการทดลอง เจลว่านห่านหางจระเข้างจระเข้ทไี่ ดท้ ำขึน้ มา สามารถชว่ ยเพมิ่ ความชุ่มชื่นได้จริง เนือ่ งจากได้ทดลอง กับเปลือกกลว้ ยหอมกบั เนื้อแอปเปลิ้ เวลาผา่ นไป24ชวั่ โมง เนอื้ แอปเป้ิลและผลกลว้ ยหอมที่ไดร้ บั การทาเจ ลว่านหางจระเขย้ งั คงชมุ่ ชื่นอยแู่ ต่มสี เี ปล่ียนแปลงเล็กน้อย แตกต่างจากสว่ นอ่ืนๆท่ีไม่ไดท้ าเจลว่านหางจระเข้ ไดเ้ กิดการแหง้ และสเี ปล่ยี นแปลง เปน็ สนี ำ้ ตาล เมือ่ ทำการทดลองสกดั ว่านหางจระเขก้ บั ผลไม้ ทำให้ทราบวา่ วา่ นหางจระเขเ้ พิม่ ความช่มุ ช้นื ได้จรงิ เนื่องจากในวา่ นหางจระเข้มสี าร Aloction และ Aloction B มฤี ทธใิ์ นการสมานและให้ความชุ่มช้ืนแกผ่ ิวไดด้ ี มาก ประเทศไทยเป็นประเทศทีม่ อี ากาศร้อนคอ่ นข้างสงู และถา้ ชว่ งฤดูหนาวก็จะมอี ากาศเยน็ คอ่ นข้างสูง เชน่ เดยี วกนั วถิ ีชวี ิตของคนในประเทศต้องประสบปญั หากบั สภาพอากาศทเ่ี ปลยี่ นแปลงบอ่ ย บางวนั มอี ากาศ ร้อน ฝน และหนาวเยน็ รวมๆอยูใ่ นวันเดียวกนั จนทำใหม้ ีการปรบั ตัวยากและการรับมือทีค่ อ่ นขา้ งลำบาก ถ้า สุขภาพดกี พ็ อรบั มือได้ แต่ผวิ พรรณไมส่ ามารถรบั มอื กบั อากาศท่ีแปรปรวนได้ไวเทา่ ไหร่นกั อากาศ เปลี่ยนแปลงจงึ เป็นสาเหตหุ ลกั ทีท่ ำใหผ้ ิวเสีย เชน่ ผวิ แสบไหมจ้ ากแสงแดด ผิวแหง้ กร้านเป็นขุยจากสภาพ อากาศทเี่ ยน็ ทกุ คนลว้ นอยากมผี ิวพรรณที่สุภาพดี จงึ ตอ้ งพงึ่ ครีมบำรงุ หรือการทำสปาผิว แตก่ ารทำสง่ิ เหล่าน้ี ค่อนขา้ งใชเ้ งนิ มากและฟ่มุ เฟือยและเส่ียงอันตายได้ เชน่ ครมี บำรงุ ถ้าหากซื้อในราคาทสี่ งู กท็ ำใหไ้ ด้ ประสิทธภิ าพจรงิ แตก่ เ็ กดิ การฟุ่มเฟือยแตถ่ ้าซ้อื ในราคาทถี่ กู มกั จะมีสารปรอทที่เปน็ อันตรายต่อผิว และถ้าหาก ซือ้ ครมี บำรงุ ท่มี รี าคาแพง นับวา่ เป็นปญั หาของคนในประเทศในยุคเศรษฐกจิ สมัยน้ี การที่จะรักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพที่ดี มีหลายวิธีแต่วีธีหลักที่คนส่วนใหญ่ใชแ้ ละสะดวกก็คอื การทา ครมี บำรุง และยงั มี การทำสปา กับการใชส้ มุนไพร ซงึ่ คนไทยสว่ นใหญ่ไมน่ ิยมใช้มากนกั เพราะตอ้ งใชเ้ วลามาก ในการทำสมุนไพรมาบำรงุ ผวิ สมุนไพรมหี ลายชนิดทชี่ ว่ ยบำรงุ ผิวพรรณ เพม่ิ ความชุม่ ช่ืนแก่ผิว ลดรอยจุดด่าง ดำซึง่ ”ว่านหา่ งจระเข้”เป็นอกี หนี่งสมนุ ไพรท่ีมีคุณสมบตั ิบำรุงผวิ เพ่ิมความชุม่ ชื่น รวมไปถงึ ผวิ หน้าได้อีกด้วย
13 ฉะนั้นว่านหางจระเข้จึงถูกมาใช้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่าว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยให้ ผิวพรรณมีสขุ ภาพที่ดี ผดุ ผ่อง สดช่ืน ลดรอยจดุ ด่างดำได้ แต่มกั ท่จี ะถกู มองข้ามเพราะตอ้ งปลกุ เองหรอื ตอ้ งหา ซื้อ แต่ตอ้ งใชเ้ วลาในการนำเน้อื วา่ นหางมาบำรุงนานอยสู่ มควร วา่ นหางจระเข้สมนุ ไพรไทย ๆ ที่มหี นา้ ตาละมา้ ยคล้ายกับหางแหลม ๆ ของจระเข้ จนไดช้ อื่ เรยี กทบี่ ง่ บอกถงึ ลกั ษณะได้ดีว่า วา่ นหา่ งจระเข้ คอื อีกหนง่ึ พรรณไม้ไทยทีน่ ิยมปลูกไวต้ ิดบา้ น ว่านหางจระเข้ คอื พืช สมุนไพรทร่ี จู้ ักกันท่วั ไป เปน็ สมุนไพรพนื้ ฐานทท่ี กุ บา้ นจะต้องมี ซ่ึงโดยปกตแิ ลว้ วา่ นหางจระเขจ้ ะถูกใชใ้ นการ รกั ษาแผลพุพองจากไฟไหม้ นำ้ รอ้ นสวก หรอื วา่ แผลจากความร้อน สามรถใช้ได้ แต่ว่านอกจากสรรพคณุ ทาง ยาที่กล่าวมาขา้ งต้นแลว้ วา่ นหางจระเข้ยังมอี ีกหนึ่งสรรพคณุ ที่นอ้ ยคนนักจะรู้ คือ สามารถเพมิ่ ความช่มุ ชืน่ ใหแ้ กผ่ วิ พรรณและป้องกนั ผิวแสบไหม้จากแสงแดดไดอ้ ีกด้วย จนทำใหท้ ราบว่าเจลวา่ นหางจระเข้ทำใหเผิมชมุ่ ชื้นได้จรงิ ซ่ึงเปน็ ไปตามวัตถุประสงคข์ องคณะผู้จดั ทำท่วี างไว้ ไดแ้ ก่ 1. เพื่อศกึ ษาหาความชุม่ ช้นื ของว่านหางจระเข้ 2. เพ่อื นำความร้ทู ไ่ี ดไ้ ปเผยแพรต่ ่อชุมชน ข้อเสนอแนะ 1. ว่านหางจะเข้สดๆจะมีคุณภาพสูง เมื่อตัดจากต้นแลว้ นำมาใช้ทันที สำหรับผู้ที่ไม่สามารถหา ว่านห่างจระเข้สดๆได้ อาจใช้ว่านหางจระเข้ 100% ขององค์การเภสัชกรรมทบ่ี รรจใุ ส่หลอดขายตามร้านขาย ยาทว่ั ไป ก็พอใชไ้ ด้ (นำไปแชใ่ นตเู้ ย็น เวลาใช้จะได้รูส้ ึกสบายผวิ ) 2. สามารถใชส้ มนุ ไพรอื่นๆนำมาในการนำมาเจลบำรุงเพอ่ื เพ่ิมความชุ่นช่ืนใหแ้ กผ่ ิวได้ 3. ควรมกี ารผลติ กบั สมุนไพรอ่นื ๆหรือ สมุนไพร 2 ชนิดมาผสมกันเพอ่ื ทำให้สรรพคณุ ดีข้ึน
14 ภาคผนวก
15 ภาพท1ี่ สารท่ีใช้ในการทำเจลวา่ นหางจระเข้ ภาพที2่ ทำสารสกดั ว่านหางจระเข้ ภาพท่3ี ตวงสาร
16 ภาพที4่ ผสมสาร ภาพที่5 ผสมสาร ภาพที่6 เลือกบรรจุภัณฑ์
17 บรรรณานุกรม เมดไทย. (2558).สรรพคณุ ของเจลว่านหางจระเข้.[ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://medthai.com. สืบคน้ เมื่อ 21 ธนั วาคม 2563 เอ็มจอี ารอ์ อนไลน์. (2560). “ผิวสวย\" \"หนา้ ใส\" ด้วยวา่ นหางจระเข้.[ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก https://mgronline.com/goodhealth/detail/9610000002882. สบื ค้นเมอ่ื 21 ธันวาคม 25636 ใบเฟริ น์ จฑุ ามาส. (2562). สารตงั้ ต้นของ แอลกอฮอลเ์ จลล้างมือ.[ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://bestreview.asia/how-to/make-aloe-vera-gel/. สบื คน้ เมื่อ 22 ธนั วาคม 2563 วังใน. (2559). สอนวธิ ีทำเจลลา้ งมอื ง่าย ๆ ดว้ ยตวั เอง.[ออนไลน]์ .เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://www.wongnai.com/articles/alcohol-gel. สบื ค้นเมื่อวนั ที่ 22 ธนั วาคม 2563 หกหา้ ส.่ี (2555). \"คาโบพอล\" คืออะไร ทำไมใช้ทำเจลได้.[ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://cities.trueid.net/article/. สืบค้นเมื่อ ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๖๓ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยมี หาวทิ ยาลยั สวนดุสติ . (2559). Triethanolamine. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้ จาก http://ohs.sci.dusit.ac.th/wp/?p=768. สบื คน้ เม่ือ 23 ธันวาคม 2563
18 ป.ปาย. ใช้ดีบอกตอ่ ! 10 เจลวา่ นหางจระเข้ ปังๆ ทาแลว้ ช่มุ ฉ่ำ สดช่นื ผิวมาก! .(2558). [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก https://women.trueid.net/detail/Xja9e1z05dG. สบื คน้ เม่ือ 25 ธนั วาคม 2563 วมี อล.7 คณุ ประโยชนข์ องเจลวา่ นหางจระเขท้ ีค่ ุณไม่ควรพลาด.(2557). [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.wemall.com/blog/4774/aloe-vera-. สบื ค้นเมื่อ 25 ธันวาคม 2563
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: