งานบรกิ ารและซอ่ มระบบไฟฟา้ แสงสวา่ ง
1.1 ระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง 1.2 การตรวจสอบหาสาเหตุข้อบกพร่องของระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง 1.3 การซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง
2.1 ระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง ระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง หมายถึง ระบบท่ีใชพ้ ลงั งาน ไฟฟ้ าเปล่ยี นแปลงใหเ้ กิดเป็ นแสงสว่าง ซ่ึงจะ ประกอบดว้ ย แหลง่ จา่ ย (Supply) ตวั นาไฟฟ้ า (Conductor) หลอดไฟฟ้ า (Load) และสวิตช์ ควบคมุ (Switch)
2.1.1 หลกั การให้แสงสว่าง 1. การใหแ้ สงสว่างทวั ่ พ้ นื ที่ เป็ นวิธีการใหแ้ สง สว่างจากโคมไฟที่ตดิ ตง้ั กระจายอยา่ งสมา่ เสมอบนเพดาน ทาใหม้ ีความสว่างเกือบเทา่ กนั ตลอดพ้ ืนท่ี 2. การใหแ้ สงสว่างเฉพาะพ้ ืนที่ เป็ นวิธีการใหแ้ สง สว่างโดยการออกแบบ ใหส้ อดคลอ้ งกบั การทางานในแต่ ละพ้ นื ท่ีจงึ ทาใหป้ ระหยดั พลงั งานกว่าวิธีแรก 3. การใหแ้ สงสว่างเฉพาะตาแหน่ง เป็ นวิธีการให้ แสงสว่างที่ประหยดั พลงั งานที่สุดและเสริมสาหรบั งานที่ ตอ้ งการปริมาณแสงในระดบั สูง
2.1.2 แสงและการมองเห็น การมองเห็น เกิดจากการที่วตั ถุน้นั ดดู กลนื แสงสีอื่น ไวท้ ้งั หมด และสะทอ้ นแสงสีที่เป็ นสีของวตั ถุเขา้ ตาเรา หน่วยท่ีใชใ้ นการวดั แสง 1. ความสว่าง (Luminance : E) เป็ นปริมาณ แสงท่ีตกกระทบพ้ ืนผิวตอ่ พ้ นื ท่ี 1 ตารางเมตร มีหน่วยเป็ น ลเู มนตอ่ ตารางเมตร (Lm) หรอื ลกั ซ์ (Lux)
2.1.2 แสงและการมองเหน็ 2. ความเขม้ การสอ่ งสว่าง (Luminous Intensity : I) เป็ นความเขม้ ของแสงท่ีสอ่ งออกมาจาก แหลง่ กาเนิดแสง มีหน่วยเป็ น แคนเดลลา(Candela : Cd) 3. ฟลกั ๊ การสอ่ งสว่าง (Luminous Flux : ) เป็ นปรมิ าณแสงท้งั หมดท่ีสอ่ งออกมาจากแหลง่ กาเนิดแสง มีหน่วยเป็ น ลเู มน (Lumen : Lm)
ความสว่างทเ่ี หมาะสมในการใช้งาน บรเิ วณใชง้ าน ความสว่าง (Lux) หอ้ งเรียน 300 รา้ นขายยา 300 งานครวั 300 โรงอาหาร 200 หอ้ งพ่นสี 600 100 หอ้ งเปล่ียนเคร่ืองแต่งกาย 50 ทางเดิน 1,200 หอ้ งตรวจสอบผลิตภณั ฑ์
2.2 การตรวจสอบหาสาเหตุข้อบกพร่องของ ระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง 2.2.1 หลอดเผาไส้ (Incandescent Lamp) เป็ นหลอดไฟฟ้ าที่ใหแ้ สงสว่าง โดยการให้ กระแสไฟฟ้ าไหลผา่ นไสห้ ลอด ไสห้ ลอดจะรอ้ นข้ ึนจน เปลง่ แสงออกมา แบง่ ยอ่ ยได้ 3 ชนิด 1. หลอดเผาไสม้ าตรฐาน 2. หลอดสะทอ้ นแสง 3. หลอดทงั สเตนฮาโลเจน
1. หลอดเผาไส้มาตรฐาน (Standard Incandescent Lamp) แสงสวา่ งจะเปลง่ จากไสห้ ลอดออกมาโดยตรงรอบทิศทาง อายกุ ารใชง้ าน 750 – 1,000 ชม.
1. หลอดเผาไส้มาตรฐาน (Standard Incandescent Lamp) แสงสวา่ งจะเปลง่ จากไสห้ ลอดออกมาโดยตรงรอบทิศทาง สว่ นประกอบของหลอดไสแ้ บบหลอดแกว้ ใส
2. หลอดสะท้อนแสง (Reflector Lamp) หลอดสะทอ้ นแสงจะมีโลหะเป็ นมนั วาว สะทอ้ นแสงไดด้ ี เคลอื บไวท้ ี่ผิวดา้ นในขา้ งหลงั ของไสห้ ลอด แสงจากไสห้ ลอดจะถูก สะทอ้ นออกไปดา้ นหนา้ ของหลอด
3. หลอดทังสเตนฮาโลเจน (Tungsten Halogen Lamp) เป็ นหลอดทอ่ี าศยั การกาเนิดแสงจากความรอ้ นโดยใหก้ ระแส ไหลผ่านไสห้ ลอดท่ที าดว้ ยทงั สเตนจนรอ้ น แลว้ เปล่งแสงออกมา
2.2.2 หลอดก๊าซดชิ ชาร์ท (Gas Discharge Lamp) คือหลอดที่ใหก้ าเนิดแสงโดยวิธีการกระตนุ้ อะตอมของ กา๊ ซ แบ่งออกไดเ้ ป็ น 2 ประเภท - หลอดคายประจคุ วามดนั ตา่ - หลอดคายประจคุ วามดนั สูง
2.2.2 หลอดก๊าซดชิ ชาร์ท (Gas Discharge Lamp) - หลอดคายประจคุ วามดนั ตา่ : หลอดฟลอู อเรสเซนต์ : หลอดโซเดยี มความดนั ตา่ หลอดขนาด T5 , T8 , T12 หลอดแบบคอมแพค
2.2.2 หลอดก๊าซดชิ ชาร์ท (Gas Discharge Lamp) - หลอดคายประจคุ วามดนั สูง หรือ หลอดคายประจุ ความเขม้ สูง : หลอดไอปรอท : หลอดโซเดียมความดนั สูง หลอดไอปรอท หลอดโซเดยี มความดนั สูง
2.2.2 หลอดก๊าซดชิ ชาร์ท (Gas Discharge Lamp) - หลอดคายประจคุ วามดนั สูง หรือ หลอดคายประจุ ความเขม้ สูง : หลอดไอปรอท : หลอดโซเดียมความดนั สูง หลอดไอปรอท หลอดโซเดยี มความดนั สูง
การตรวจสอบ : หลอดเผาไส้ (1) ตรวจสอบดว้ ยสายตา สว่ นใหญห่ ลอดเผาไสจ้ ะ ถกู ออกแบบใหเ้ ป็ นชนิดโปรง่ แสง ดงั น้นั จงึ สามารถมองเห็น โครงสรา้ งของไสห้ ลอดไดอ้ ยา่ งชดั เจน
การตรวจสอบ : หลอดเผาไส้ (2) ตรวจสอบดว้ ยมลั ตมิ ิเตอร์ ตง้ั สวิตชเ์ ลือกยา่ นวดั ความตา้ นทานไวท้ ่ี x1 หรอื x10 จากน้นั นาไปวดั ท่ีข้วั หลอด ถา้ หากเข็มช้ ีบ่ายเบนไปทางขวามือ แสดงว่าหลอดยงั ไม่ขาด แตถ่ า้ ค่าความ ตา้ นทานไม่สามารถอ่านคา่ ได้ แสดง ว่าหลอดขาด
การตรวจสอบ : หลอดเผาไส้ (3) การตรวจสอบข้วั หลอด เม่ือตรวจสอบหลอด แลว้ มีสภาพปกติ ใหต้ รวจสอบข้วั หลอด สาหรบั ข้วั หลอดที่ ใชส้ าหรบั หลอดไสม้ ี 2 แบบ คือ ข้วั หลอดแบบเข้ ียวและข้วั หลอดแบบเกลียว ใหต้ รวจสอบข้วั ตอ่ สายไฟฟ้ าซ่ึงสายไฟ อาจจะหลดุ จากข้วั ตอ่ สาย ตรวจสอบจดุ สมั ผสั ตา่ ง ๆ ซึ่ง อาจจะชารุดเสียหาย การตรวจสอบบางอยา่ งใชก้ ารสงั เกตก็ จะทราบความเสยี หาย แตบ่ างจดุ ตอ้ งใชม้ ลั ตมิ ิเตอร์ เช่น จดุ สมั ผสั ที่เป็ นคราบฉนวนก้นั ไว้ ทาใหก้ ระแสไฟฟ้ าไหลไม่ ครบวงจร กรณีน้ ีแกไ้ ขโดยการทาความสะอาด ……….
การตรวจสอบ : หลอดเผาไส้
การตรวจสอบ : หลอดฟลูออเรสเซนต์ (1) ตรวจสอบหลอดไฟ หลอดขาดหรอื เสอ่ื มสภาพ สงั เกตจากข้วั หลอดสีดา หรอื วดั ความตา้ นทานดว้ ยโอหม์ มิเตอร์ (2) ตรวจสอบสตารต์ เตอร์ โดยหมุนขยบั ถา้ ไม่ตดิ ทดลองเปลยี่ นสตารต์ เตอร์ (3) ตรวจสอบบลั ลาสต์ อาจขาดหรือไหม้ มีเสียงดงั ห่ึงๆ ตรวจสอบดว้ ยสายตา หรอื ใชไ้ ขควงทดสอบไฟ วดั ท่ี ข้วั บลั ลาสตท์ ้งั สอง จะสว่างท้งั สองข้วั
การตรวจซ่อมวงจรหลอดฟลูออเรสเซนต์ (4) หลอดกะพริบแลว้ ดบั ลองขยบั หลอดใหส้ มั ผสั กบั ขาหลอดใหแ้ น่น ถา้ หลอดยงั ไม่สว่างใหน้ าหลอดมาวดั ความตา้ นทานท่ีขาหลอดท้งั 2 ขา้ ง ถา้ คา่ ความตา้ นทานไม่ สามารถอ่านคา่ ได้ แสดงว่าไสห้ ลอดขาด (5) หลอดแดงหวั ทา้ ยและท่ีสตารต์ เตอรม์ ีแสงนิด ๆ ใหข้ ยบั สตารต์ เตอร์ ถา้ หลอดสว่าง แสดงว่าหนา้ สมั ผสั สตารต์ เตอรอ์ ารก์ ตดิ กนั ใหเ้ ปล่ยี นสตารต์ เตอรใ์ หม่ สตารต์ เตอรจ์ ะทาหนา้ ที่ชว่ ยจุดไสห้ ลอด เมื่อหลอดตดิ แลว้ สตารต์ เตอรก์ ็จะหมดหนา้ ที่
การบารุงรักษาระบบแสงสว่าง รายละเอียดการดําเนินงาน ระยะเวลาทเี่ หมาะสม 1. ทาํ ความสะอาดหลอดไฟฟา้ ทกุ เดอื น 2. ทําความสะอาดโคมไฟฟา้ และฝาครอบโคม ทกุ 3 เดือน 3. ตรวจวดั และบนั ทกึ ค่าความสวา่ ง(Lux) ทุกเดือน 4. ให้ห้องขนาดเล็กทาสผี นงั ใหม่ ทกุ ปี 5. ห้องขนาดใหญ่ทาสีผนงั ใหม่ ทุก 3 ปี 6. เปลี่ยนหลอดไฟฟา้ ตามอายุการใชง้ าน
คุณ เห็นอะไรจากภาพนีบ้ ้าง ?
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: