วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นวารสารรายงานข่าวและบทความที่เก่ียวข้องกับวงงานรัฐสภา และเผยแพร่นโยบายการปฏิบัติงานของสำ�นักงาน เลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร ให้สมาชิกฯ ขา้ ราชการ และประชาชนทัว่ ไปไดร้ บั ทราบ ระเบียบการ ๑. ออกเปน็ รายเดือน (ปลี ะ ๑๒ เลม่ ) ๒. ส่วนราชการบอกรับเป็นสมาชิกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ท่ีผู้จัดการเอกสารข่าวรัฐสภา กลุ่มงานผลิตเอกสาร สำ�นักประชาสัมพันธ์ สำ�นักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนประดิพัทธ์ิ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ โทร. ๐ ๒๒๔๔ ๒๒๙๑-๕ โทรสาร ๐ ๒๒๔๔ ๒๒๙๒ ๓. การย้ายท่ีอยู่ของสมาชิกโปรดแจ้งให้ผู้จัดการทราบทันที พร้อมท้ังแจ้งสถานที่อยู่ใหม่ให้ชัดแจ้ง เพื่อความสะดวก ในการจดั สง่ เอกสาร ท่ีปรึกษา เอกสารข่าวรัฐสภา นายสรศักด์ ิ เพยี รเวช ปที ี ่ ๔๓ ฉบับท่ี ๘๖๑ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ นางสาวสภุ าสินี ขมะสนุ ทร ภาพกจิ กรรม ๒ บรรณาธกิ าร การประชุมสภา ๑๒ นางจงเดอื น สทุ ธริ ัตน์ สรุปผลการประชมุ สภานิติบญั ญัตแิ ห่งชาต ิ รอบร้วั สภา ๑๒ ผู้จัดการ ข่าวในประเทศ นางบุษราคำ� เชาวนศ์ ริ ิ ๑๗ ขา่ วต่างประเทศ กองบรรณาธิการ ๑๗ นางพรรณพร สินสวัสด์ิ แวดวงกรรมาธกิ าร ๒๖ นางสาวอารยี ว์ รรณ พูลทรพั ย์ กฎหมายควรรู้ นายพษิ ณ ุ จารยี พ์ นั ธ์ ภาพเกา่ เล่าเรื่อง ๓๒ นางสาวอรทยั แสนบุตร เร่อื งน่าร้ ู ๔๑ นางสาวจุฬวี รรณ เตมิ ผล ๔๖ นางสาวนธิ ิมา ประเสริฐภักดี ๕๐ นางสาวสหวรรณ เพ็ชรไทย นางสาวอาภรณ ์ เนอ่ื งเศรษฐ์ ๒ ๑๒ ๑๗ ๒๖ นางสาวสุรดา เซน็ พานิช ๓๒ ๔๑ ๔๖ ๕๐ น างสาวเสาวลกั ษณ ์ ธนชยั อภภิ ทั ร นางสาวดลธ ี จุลนานนท์ นางสาวจริยาพร ดกี ัลลา ฝ่ายศิลปกรรม นายมานะ เรืองสอน นายนิธิทัศน ์ องค์อศิวชยั นางสาวณฐั นันท ์ วชิ ติ พงศเ์ มธี พมิ พ์ที่ สำ�นกั การพมิ พ์ สำ�นักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผพู้ ิมพ์ผู้โฆษณา นางสาวกลั ยรชั ต ์ ขาวส�ำ อางค์
เอกสารข่าวรฐั สภา 2 ภาพกิจกรรม วางพวงมาลาถวายราชสักการะ เน่อื งในวนั ที่ระลึกพระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยู่หวั วันพุธที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาต ุ ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพวงมาลาของ ส่วนพระองค์ และทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เน่ืองในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่หนึ่ง รองประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนท่ีสอง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วยเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา คณะผูบ้ ริหารและขา้ ราชการของท้ังสองสำ� นักงานเฝา้ รบั เสดจ็ ฯ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวในนาม “มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า รำ� ไพพรรณ”ี
3 ภาพกจิ กรรม เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ หม่อมราชวงศ์ชิษณุสรร สวัสดิวัฒน์ กรรมการมูลนิธิประชาธิปก- ร�ำไพพรรณี พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ วางพวงมาลา ถ ว า ย ร า ช สั ก ก า ร ะ พ ร ะ บ ร ม ร า ช า นุ ส า ว รี ย ์ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พระปกเกลา้ เจา้ อยู่หวั ในนาม “มลู นิธปิ ระชาธปิ ก-รำ� ไพพรรณี” เวลา ๐๙.๒๐ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วย คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ วางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในนาม “คณะกรรมการรา่ งรฐั ธรรมนญู ” เวลา ๑๓.๑๕ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ พร้อมด้วยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วางพวงมาลา ถ ว า ย ร า ช สั ก ก า ร ะ พ ร ะ บ ร ม ร า ช า นุ ส า ว รี ย ์ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั ในนาม “สภานิตบิ ญั ญัติแหง่ ชาติ”
เอกสารข่าวรฐั สภา 4 เวลา ๑๓.๑๕ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และข้าราชการส�ำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา วางพวงมาลาถวาย ราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจา้ อยู่หัวในนาม “ส�ำนักงานเลขาธกิ ารวฒุ ิสภา” เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารและข้าราชการส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร วางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวในนาม “ส�ำนักงานเลขาธิการ สภาผูแ้ ทนราษฎร” เวลา ๐๙.๑๕ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารรัฐสภา ๑ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย คณะท�ำงานสโมสรรัฐสภา วางพวงมาลาถวายราชสักการะ พ ร ะ บ ร ม ร า ช า นุ ส า ว รี ย ์ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ป ก เ ก ล ้ า เ จ ้ า อ ยู ่ หั ว ในนาม “สโมสรรัฐสภา”
5 ภาพกจิ กรรม พิธีบ�ำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานและพิธีมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จ พระปกเกลา้ เจ้าอย่หู วั และสมเด็จพระนางเจา้ ร�ำไพพรรณี วันพธุ ท ่ี ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ๑ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีบ�ำเพ็ญกุศลทักษิณา นุปทาน เน่ืองในวันท่ีระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว โดยมีหม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ ประธานมูลนิธิ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่สอง พร้อมด้วย นายสรศักด์ิ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา และผู้บริหารของ ส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและส�ำนักงาน เลขาธิการวุฒิสภา คณะกรรมการมูลนิธิฯ คณะอนุกรรมการฯ ขา้ ราชบรพิ าร แขกผ้มู เี กยี รต ิ และผู้รบั ทนุ รว่ มในพิธี เวลา ๑๒.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ๑ พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ ประธานมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณ ี เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นิสิต นักศึกษาบัณฑิตศึกษาทุนวิทยาศาสตร์ ทุนพยาบาล ทุนบุตรข้าราชการ และลกู จา้ งส�ำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร และส�ำนักงานเลขาธิการวฒุ สิ ภา
เอกสารข่าวรฐั สภา 6 รองประธานสภานติ บิ ัญญัตแิ ห่งชาติ เปดิ กิจกรรมการเสรมิ สรา้ งความเปน็ พลเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย วันพุธที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ โรงแรมเจริญธานี จังหวัดขอนแก่น นายสุรชัย เล้ียงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนท่ีหนึ่ง เป็นประธานเปิดกิจกรรม การเสริมสร้างความเป็นพลเมืองใน ระบอบประชาธิปไตย คร้ังที่หน่ึง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง การส่งเสริมความเป็นพลเมือง ในวิถีรฐั ธรรมนูญตามแนวทางศาสตรพ์ ระราชา รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดการเสวนาทางวิชาการ ครั้งที่ ๒ PBO Mini – Symposium “ผลการศกึ ษาและติดตามแผนงานบูรณาการ” วันศุกร์ท่ี ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องสารนิเทศ ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ๑ นายสุรชัย เล้ียงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่หน่ึง เป็นประธานเปิดการเสวนาทางวิชาการ คร้ังท่ี ๒ PBO Mini – Symposium “ผลการศึกษาและติดตาม แผนงานบูรณาการ” โดยมีนายจีรพงศ์ วัฒนะรัตน์ ที่ปรึกษาด้าน กฎหมาย กล่าวรายงาน นายนพรัตน์ ทวี ผู้บังคับบัญชาส�ำนัก งบประมาณของรัฐสภา กล่าวต้อนรับ และสรุปภาพรวมการศึกษา และติดตามแผนงานบูรณาการ จากนั้นรองศาสตราจารย์ทวีศักด์ิ สูทกวาทิน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ บรรยายพิเศษ เร่ือง “แผนงานบูรณาการในทัศนะของฝ่ายนิติบัญญัติ” ซ่ึงโครงการ ดังกล่าวจัดโดยส�ำนักงบประมาณของรัฐสภาร่วมกับส�ำนักวิชาการ และส�ำนักกรรมาธกิ าร ๑ ๒ และ ๓ เลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร ให้การรับรองผู้อำ� นวยการใหญ่ สถาบันรัฐสภาของกัมพูชา วันศุกร์ท่ี ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องรับรอง ช้ัน ๒ อาคารรัฐสภา ๑ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง นายดาราริธ คิม-ยีท (Dararith Kim-Yeat) ผู้อ�ำนวยการใหญ่สถาบันรัฐสภา ของกัมพูชา (Parliamentary Institute of Cambodia: PIC) ราชอาณาจักรกัมพูชาในโอกาสเข้าเย่ียมคารวะ เลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพ่ือหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างส�ำนักงาน โดยเฉพาะการพัฒนาความสามารถของเจ้าหนา้ ที่รัฐสภา
7 ภาพกจิ กรรม พิธีมอบประกาศเกียรติคณุ ให้แก่ผู้สนบั สนนุ โครงการพลกิ ฟื้นปา่ ชายเลนสู่ธรรมชาตฯิ วันอังคารที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข ๒๑๓ – ๒๑๖ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้สนับสนุนโครงการ พลิกฟื้นป่าชายเลนสู่ธรรมชาติ เพ่ือน้อมร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และ เ ฉ ลิ ม พ ร ะ เ กี ย ร ติ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ง เ จ ้ า สิ ริ กิ ต์ิ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ ในรชั กาลที่ ๙ รฐั สภารวมใจ บริจาคโลหติ ประจำ� ป ี ๒๕๖๑ (ครงั้ ท่ ี ๒) วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องโถง ช้ัน ๑ อาคารรัฐสภา ๑ ส�ำนักบริการ ทางการแพทย์ประจ�ำรัฐสภา ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดโครงการ “รัฐสภารวมใจ บริจาคโลหิต” ประจ�ำปี ๒๕๖๑ (ครั้งที่ ๒) เพ่ือส่งเสริมกิจกรรมท�ำความดี เพ่ิมพูน การมีจิตสาธารณะ ตลอดจนการบ�ำเพ็ญประโยชน์ทั้งทางตรงและ ทางออ้ ม ประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมการด้านพิธีเปิด-ปิดฯ ในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพลูกเสือ รฐั สภาโลก ครั้งที ่ ๙ วันพฤหัสบดีท่ี ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข ๓๖๐๑ ช้ัน ๖ อาคารรัฐสภา ๓ พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ เป็นประธานการ ประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมการด้านพิธีเปิด-ปิด และงานเล้ียง รับรองในการเปน็ เจา้ ภาพจัดประชุมสมชั ชาใหญส่ หภาพลกู เสอื รฐั สภาโลก ครั้งที่ ๙ เพ่ือพิจารณาเรื่องการเตรียมการด้านล�ำดับพิธีการในการ เปิดและปิดการประชุมสมัชชาสหภาพลูกเสือรัฐสภาโลก และการ เ ส น อ ป ร ะ ม า ณ ก า ร ก ร อ บ ว ง เ งิ น ค ่ า ใ ช ้ จ ่ า ย ข อ ง ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร เตรียมการด้านพธิ ีเปิด-ปิด และงานเลีย้ งรับรอง
เอกสารข่าวรัฐสภา 8 ประธานสภานิตบิ ญั ญตั ิแห่งชาติ รับข้อเสนอและความเหน็ ต่อรา่ งพระราชบัญญัตภิ าษที ีด่ นิ และส่ิงปลูกสรา้ ง พ.ศ. .... วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๔๕ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ช้ัน ๑ อาคาร รัฐสภา ๑ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับข้อเสนอและความเห็นต่อร่าง พระราชบัญญัติภาษีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้าง พ.ศ. .... จากผู้แทน คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย พธิ ีทำ� บญุ ตกั บาตรขา้ วสารอาหารแหง้ เน่อื งในเทศกาลวสิ าขบูชาวนั สำ� คญั สากลของโลกประจำ� ป ี ๒๕๖๑ วันอังคารท่ี ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๗.๐๐ นาฬิกา ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กรุงเทพมหานคร นายสุรัตน์ หวังต่อลาภ รองเลขาธิการวุฒิสภา พร้อมด้วย นางจงเดือน สุทธิรัตน์ ผู้อ�ำนวยการ ส�ำนักประชาสัมพันธ์ และข้าราชการของส�ำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมในพิธีท�ำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระสงฆ์ จ�ำนวน ๓๐ รูป ในนามส�ำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เน่ืองในเทศกาลวิสาขบูชาวันส�ำคัญสากลของโลก ประจ�ำปี ๒๕๖๑ รัฐสภาให้การต้อนรับประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และคณะ ในโอกาสเดินทาง มาเยือนประเทศไทยอย่างเปน็ ทางการ ในฐานะแขกของสภานติ ิบญั ญัติแห่งชาต ิ วันศุกร์ท่ี ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา ณ โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายสรศักด์ิ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับ นางปานี ยาท่อตู้ ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และคณะ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะ แขกของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมท้ังรับฟังบรรยายสรุป และ เยี่ยมชมโครงการกอ่ สร้างอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่
9 ภาพกจิ กรรม จากน้ัน เวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องรัตนโกสินทร์ โรงแรมเดอะ สุโกศล รองศาสตราจารย์คุณหญิง สุมณฑา พรหมบุญ ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ลาว เป็นเจ้าภาพเล้ียงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติ แก ่ นางปานี ยาทอ่ ต้ ู ประธานสภาแห่งชาตสิ าธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และคณะ เวลา ๑๔.๒๐ นาฬิกา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว นางปานี ยาท่อตู้ ประธาน สภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาววางพวงมาลา ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว และเวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องรบั รอง ๑-๒ ชัน้ ๓ อาคารรัฐสภา ๒ ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว และคณะ ร่วมหารือข้อราชการกับศาสตราจารย์ พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ สมาชกิ สภานติ ิบัญญัติแห่งชาติ
เอกสารข่าวรัฐสภา 10 ประชมุ สภาสถาบันพระปกเกลา้ วันจันทร์ท่ี ๔ มถิ ุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬกิ า ณ หอ้ งรับรอง ๑ - ๒ ชน้ั ๒ อาคารรัฐสภา ๑ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสภาสถาบัน พระปกเกล้า โดยมีนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณา การขออนุมัติรายช่ือผู้ผ่านการศึกษาอบรมหลักสูตร ป ร ะ ก า ศ นี ย บั ต ร ผู ้ น� ำ ยุ ค ใ ห ม ่ ใ น ร ะ บ อ บ ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย รุ่นท่ี ๗ และ รุ่น ๖ (เพิ่มเติม) และขออนุมัติรายช่ือ ผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตร ป ร ะ ก า ศ นี ย บั ต ร ช้ั น สู ง ก า ร บ ริ ห า ร ง า น พั ฒ น า ท ้ อ ง ถิ่ น ท่ยี ง่ั ยนื ร่นุ ท่ ี ๕ ประชุมคณะอนุกรรมการด้านพิธีการและประชาสัมพันธ์ ในการจัดต้ังสวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.๙ สภานิติบญั ญัติแหง่ ชาติ วันอังคารท่ี ๕ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการหมายเลข ๒๑๕–๒๑๖ ช้ัน ๒ อาคารรัฐสภา ๒ พลเรือเอก ธราธร ขจิตสุวรรณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธาน คณะอนุกรรมการด้านพิธีการและประชาสัมพันธ์ ในการจัดตั้ง สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.๙ สภานิติบัญญัต ิ แห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการฯ คร้ังท่ี ๑/๒๕๖๑ เพื่อพิจารณากรอบแนวทางการด�ำเนินงานของ คณะอนุกรรมการด้านพิธีการและประชาสัมพันธ์ ในการจัดตั้ง สวนพฤกษศาสตรป์ า่ ชายเลนนานาชาต ิ ร.๙ สภานติ ิบญั ญตั แิ ห่งชาติ เสวนาโตะ๊ กลม และเสวนาทางวชิ าการ ในโครงการพฒั นาบคุ ลากรดา้ นประชาคมอาเซยี น ประจำ� ปงี บประมาณ ๒๕๖๑ กิจกรรม “เปดิ บา้ นศูนยอ์ าเซียน” วันพุธท่ี ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๑๕ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ๑ มีการจัดเสวนาโต๊ะกลม เร่ือง “ประเทศไทยกับการขับเคลื่อนอาเซียนในปี ๒๕๖๑” โดยนายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ อธิบดีกรมอาเซียน ศาสตราจารย์ประภัสสร เทพชาตรี อดีตผู้อ�ำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร. กิตติ ประเสริฐสุข รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และหัวหน้าโครงการ ASEAN Watch ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปิติ ศรีแสงนาม รองผู้อ�ำนวยการ ศูนย์อาเซียนศกึ ษา จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ผู้ดำ� เนินรายการ
11 ภาพกิจกรรม เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องสารนิเทศ ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ๑ นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร รองเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมเสวนาทางวิชาการเร่ือง “การขับเคลื่อน ประชาคมอาเซียนในบริบทรัฐสภา” โดยมีนางสาวบุษรา เพ็งนุ่ม วิทยากรช�ำนาญการพิเศษ เปน็ ผู้ดำ� เนนิ รายการ ทั้งน้ี การเสวนาท้ังสองเรื่องดังกล่าวเป็นส่วนหน่ึงของ โครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคมอาเซียนประจ�ำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ กิจกรรม “เปิดบ้านศูนย์อาเซียน” จัดโดยศูนย์ประชาคม อาเซยี นของสำ� นักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร โครงการบรรยายธรรมสำ� หรบั บคุ ลากรของสำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ วันพฤหัสบดีท่ี ๗ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข ๒๑๓–๒๑๖ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ นายสรศักด์ิ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการบรรยายธรรมส�ำหรับบุคลากรของส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ กิจกรรมที่ ๓ บรรยายธรรมเน่ืองในวันวิสาขบูชา โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือให้บุคลากรของส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เพ่ิมพูน ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับหลักธรรมค�ำส่ังสอนของศาสนา เพื่อเป็น แนวทางในการน�ำมาด�ำเนินชีวิตให้เกิดความสุขทางจิตใจ ตลอดจน เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในองค์กร และสร้างเสริมบุคลากรให้มี คุณธรรม จริยธรรม อันจะน�ำไปสู่การท�ำงานร่วมกันอย่างมีความสุข รวมทั้งมีจิตส�ำนึกร่วมกันในการจรรโลงและรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมและ ประเพณไี ทย
เอกสารข่าวรฐั สภา 12 การประชุมสภา สรปุ ผลการประชุมสภานติ บิ ญั ญตั แิ ห่งชาติ ครง้ั ที่ ๑๘ วนั พฤหัสบดีท ่ี ๒๙ มนี าคม ๒๕๖๑ ๗ วัน ตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับทราบเร่อื งทีป่ ระธานจะแจ้งต่อที่ประชมุ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๑๑๗ วรรคหน่ึง และท่ีประชุมมีมติ ๑. เรื่อง รายงานผลการด�ำเนินการของคณะรัฐมนตรี ใหค้ ณะกรรมาธกิ ารวิสามญั ฯ พิจารณาร่างพระราชบญั ญัติ ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการ ฉบับนี้ให้แล้วเสร็จ ภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันท ่ี แผ่นดิน เรื่อง “ข้อเสนอเพ่ือพัฒนาการจัดหน่วยงานของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ภาครัฐในรูปหน่วยบริการรปู แบบพิเศษ (Service Delivery ชดุ น้ี Unit : SDU)” ๒. ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเพ่ือ ๒. เรื่อง ค�ำส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีมติมิให้เปิดเผยรายงานลับของคณะกรรมาธิการสามัญ ที่ ๔/๒๕๖๑ สั่ง ณ วันที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช เพ่ือท�ำหน้าท่ีตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และ ๒๕๖๑ เรื่อง ให้กรรมการการเลือกต้ังยุติการอยู่ปฏิบัติ พฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อ หน้าที่ ให้ด�ำรงต�ำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ทป่ี ระชมุ รบั ทราบทั้ง ๒ เรือ่ ง (ตามมาตรา ๑๒๙ วรรคหก ของรัฐธรรมนูญแห่ง เรอื่ งทีพ่ ิจารณา ราชอาณาจกั รไทย) (ระเบยี บวาระท่ ี ๖.๑) ๑. ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ผลการพิจารณา (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ซ่ึงคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ที่ประชุมได้พิจารณาและลงมติมิให้เปิดเผยรายงาน (เรื่องดว่ น) ลบั ดังกลา่ ว ผลการพิจารณา ๓. ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเพ่ือมีมติ ที่ประชุมได้ลงมติในวาระที่หนึ่งรับหลักการแห่ง มิให้เปิดเผยรายงานลับของคณะกรรมาธิการสามัญเพ่ือ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไว้พิจารณาและมีมติให้ตั้ง ท�ำหน้าท่ีตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และ คณะกรรมาธิการวิสามัญข้ึนคณะหน่ึงเพื่อพิจารณา พฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ จ�ำนวน ๒๓ คน โดยมีก�ำหนดการแปรญัตติภายใน ด�ำรงต�ำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ตามมาตรา
13 การประชุม ๑๒๙ วรรคหก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ๗. ขอขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (ระเบียบวาระท ่ี ๖.๒) องค์กรจัดสรรคลื่นความถ่ีและก�ำกับการประกอบกิจการ ผลการพิจารณา วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ท่ีประชุมได้พิจารณาและลงมติมิให้เปิดเผยรายงาน (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... (ระเบียบวาระที่ ๗.๒) เป็นครั้งที่สาม ลบั ดงั กลา่ ว ออกไปอีก ๖๐ วัน โดยขอ้ บงั คับฯ ข้อ ๙๘ วรรหนง่ึ (๑) ๔. ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเพ่ือมีมติ ผลการพิจารณา มิให้เปิดเผยรายงานลับของคณะกรรมาธิการสามัญเพ่ือ ท่ีประชุมได้พิจารณาและลงมติเห็นชอบให้งดใช ้ ท�ำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และ ข้อบังคับฯ ข้อ ๘๗ วรรคหนึ่ง (๑) ประกอบข้อ ๒๑๓ พฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอช่ือให้ เป็นการช่ัวคราวเฉพาะกรณี โดยให้คณะกรรมาธิการ ด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (ตามมาตรา ๑๒๙ วิสามัญฯ ขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัต ิ วรรคหก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ดังกล่าว เป็นคร้ังท่ีสาม ออกไปอีก ๖๐ วัน นับแต่ (ระเบียบวาระท ี่ ๖.๓) วนั ท ่ี ๓ เมษายน ๒๕๖๑ ผลการพิจารณา ๘. ร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมได้พิจารณาและลงมติมิให้เปิดเผยรายงาน เป็นผู้เสนอ (ตามมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแผน ลบั ดังกลา่ ว และขั้นตอนการด�ำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕. ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเพ่ือมีมติ (ระเบยี บวาระท่ี ๖.๕) มิให้เปิดเผยรายงานลับของคณะกรรมาธิการสามัญเพ่ือ ผลการพจิ ารณา ท�ำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และ ท่ีประชุมได้พิจารณารับทราบร่างแผนการปฏิรูป พฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ ประเทศ ตามมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแผนและ ด�ำรงต�ำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด (ตามมาตรา ขั้นตอนการด�ำเนนิ การปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑๒๙ วรรคหก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) สรปุ ผลการพิจารณาร่างพระราชบญั ญตั ิ (ระเบียบวาระท่ ี ๖.๔) รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติไว้พิจารณา ผลการพิจารณา จำ� นวน ๑ ฉบับ คอื ท่ีประชุมได้พิจารณาและลงมติมิให้เปิดเผยรายงาน - ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ลับดังกลา่ ว (ฉบบั ที ่ ..) พ.ศ. .... ๖. ขอขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ การผังเมือง พ.ศ. .... (ระเบียบวาระท่ี ๗.๑) เป็นครั้งท่ีหน่ึง คร้งั ท ี่ ๑๙ วันศกุ ร์ที่ ๓๐ มนี าคม ๒๕๖๑ ออกไปอกี ๖๐ วัน โดยข้อบังคบั ฯ ข้อ ๙๘ วรรคหนึ่ง (๑) เรื่องที่พิจารณา ผลการพจิ ารณา - ร่างพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่ง ท่ีประชุมได้พิจารณาและลงมติเห็นชอบให้ ประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซ่ึงคณะกรรมาธิการ งดใช้บังคับฯ ข้อ ๙๘ วรรคหนึ่ง (๑) ประกอบข้อ ๒๑๓ วสิ ามัญพจิ ารณาเสร็จแล้ว (เรอ่ื งด่วน) เป็นการชั่วคราวเฉพาะกรณี โดยให้คณะกรรมาธิการ ผลการพจิ ารณา วิสามัญฯ ขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัต ิ ที่ประชุมได้พิจารณาในวาระที่สอง เริ่มต้นด้วย ดังกล่าว เป็นคร้ังที่หนึ่ง ออกไปอีก ๖๐ วัน นับแต่ ช่ือร่าง ค�ำปรารภ แล้วพิจารณาเรียงตามล�ำดับมาตรา วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๑ จนจบร่างและลงมติในวาระที่สาม สมควรประกาศใช้เป็น
เอกสารขา่ วรฐั สภา 14 กฎหมาย พร้อมทั้งเห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตของ พระราชบัญญัติฉบับน้ีคืนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพ่ือส่งไปยังคณะรัฐมนตรี เน่ืองจากบทก�ำหนดโทษยังไม่มีความสอดคล้อง ครบถ้วน ประกอบการพิจารณาด�ำเนนิ การตอ่ ไป สมบูรณ์ ดังน้ัน สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะต้องปรึกษา สรปุ ผลการพจิ ารณาร่างพระราชบัญญัติ ร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีใหม่ และลงมติว่าจะยืนยัน สมควรประกาศใช้เป็นกฎหมาย จ�ำนวน ๑ ฉบับ ตามเดิมหรือไม่ หากสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติยืนยัน คอื ตามเดิม ให้นายกรัฐมนตรีน�ำร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ - ร่างพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่ง ข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายอีกคร้ังหน่ึง ซ่ึงมติยืนยัน ประเทศไทย (ฉบบั ที ่ ..) พ.ศ. .... ตามเดิมต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของ จ�ำนวนสมาชิกท้ังหมดเท่าท่ีมีอยู่ของสภา ตาม คร้ังท่ ี ๒๐ วนั พธุ ท ่ี ๔ เมษายน ๒๕๖๑ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย มาตรา ๑๔๖ พิจารณารับทราบเร่อื งท่ีประธานจะแจง้ ตอ่ ทป่ี ระชุม ผลการพิจารณา ๑. เร่ือง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตาม ที่ประชุมได้ลงมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียง การปฏบิ ตั ิงานตามนโยบายของรัฐบาล ไม่ถึงสองในสามของจ�ำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ๒. เรื่อง ค�ำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ท่ี ๑/๒๕๖๑ ของสภาจึงถือว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีไม่อาจ ลงวนั ท่ ี ๙ มนี าคม ๒๕๖๑ น� ำ ข้ึ น ทู ล เ ก ล ้ า ทู ล ก ร ะ ห ม ่ อ ม ถ ว า ย ไ ด ้ อี ก ค รั้ ง ห นึ่ ง ต า ม ท่ปี ระชุมพจิ ารณารบั ทราบทั้ง ๒ เร่ืองดงั กล่าว มาตรา ๑๔๖ ของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย รบั รองรายงานการประชมุ ๒. ร่างพระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและ ๑. คร้ังท่ี ๗๐/๒๕๖๐ วันศุกร์ท่ี ๘ ธันวาคม วิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ซ่ึงคณะ ๒๕๖๐ รฐั มนตรเี ปน็ ผเู้ สนอ (เรอื่ งดว่ นที ่ ๑) ๒. คร้ังที่ ๗๑/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีท่ี ๑๔ ผลการพิจารณา ธนั วาคม ๒๕๖๐ ท่ีประชุมได้ลงมติในวาระท่ีหน่ึงรับหลักการแห่ง ๓. ครั้งที่ ๗๒/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไว้พิจารณาและมีมติให้ตั้ง ธนั วาคม ๒๕๖๐ และ ค ณ ะ ก ร ร ม า ธิ ก า ร วิ ส า มั ญ ข้ึ น ค ณ ะ ห นึ่ ง เ พ่ื อ พิ จ า ร ณ า ๔. ครั้งที่ ๗๓/๒๕๖๐ เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒๒ จ�ำนวน ๒๒ คน โดยมีก�ำหนดการแปรญัตติภายใน ธันวาคม ๒๕๖๐ ๗ วัน ตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่องทพี่ จิ ารณา พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๑๑๗ วรรคหน่ึง และท่ีประชุมมีมติ ๑. ปรึกษาร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาร่างพระราช วตั ถุระเบิด ดอกไมเ้ พลิงและสงิ่ เทียมอาวุธปนื (ฉบบั ที ่ ..) บัญญัติฉบับน้ีให้แล้วเสร็จ ภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันท่ี พ.ศ. .... ใหม่ (นายกรัฐมนตรเี สนอมาตามมาตรา ๑๔๖ สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) (เรื่องด่วนที่ ๕) ชุดน้ี ตามท่ีส�ำนักนายกรัฐมนตรีได้น�ำร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน ๓. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่าย เคร่ืองกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และส่ิงเทียม ตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซ่ึงคณะ อาวธุ ปนื (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ข้ึนทลู เกล้าทลู กระหมอ่ ม รฐั มนตรีเป็นผเู้ สนอ (เรอ่ื งดว่ นท ่ี ๒) ถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย นั้น ผลการพจิ ารณา ส�ำนักงานองคมนตรีแจ้งว่าได้น�ำความกราบบังคมทูล ที่ประชุมได้ลงมติในวาระที่หน่ึงรับหลักการแห่ง พระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ให้ส่งร่าง ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไว้พิจารณาและมีมติให้ตั้ง
15 การประชมุ คณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหน่ึงเพ่ือพิจารณา ๓. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราการฝ่าย จ�ำนวน ๒๔ คน โดยมีก�ำหนดการแปรญัตติภายใน อยั การ (ฉบับที ่ ..) พ.ศ. .... ๗ วัน ตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๑๗ วรรคหนึ่ง และ สมควรประกาศใชเ้ ปน็ กฎหมาย จำ� นวน ๑ ฉบบั ท่ีประชุมมีมติให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณา คอื ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน - ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาค นั บ แ ต ่ วั น ที่ ส ภ า นิ ติ บั ญ ญั ติ แ ห ่ ง ช า ติ มี ม ติ ต้ั ง ค ณ ะ ทางการศึกษา พ.ศ. .... กรรมาธิการวิสามัญฯ ชดุ นี้ ๔. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ คร้ังที ่ ๒๑ วนั พฤหัสบดที ี่ ๕ เมษายน ๒๕๖๑ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ซ่ึงคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ (เร่ือง เร่อื งทพ่ี จิ ารณา ดว่ นที่ ๓) ๑. รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทาง ผลการพจิ ารณา การบริหารการอุดมศึกษา : การจัดตั้งกระทรวงการ ที่ประชุมได้ลงมติในวาระท่ีหน่ึงรับหลักการแห่ง อุดมศึกษา ซ่ึงคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไว้พิจารณาและมีมติให้ต้ัง พิจารณาเสรจ็ แลว้ (ระเบยี บวาระท่ ี ๔) คณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณา ผลการพจิ ารณา จ�ำนวน ๒๔ คน โดยมีก�ำหนดการแปรญัตติภายใน ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานฯ ดังกล่าว พร้อมท้ัง ๗ วัน ตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๑๗ วรรคหน่ึง และท่ีประชุม เห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของ มีมติให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาร่างพระราช คณะกรรมาธิการฯ เพ่ือส่งไปยังคณะรัฐมนตรีประกอบ บัญญัติฉบับนี้ให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันท่ี การพิจารณาดำ� เนนิ การต่อไป สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ๒. รายงานผลการด�ำเนินการของคณะรัฐมนตรีตาม ชดุ น้ี ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง ๕. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาค พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ ทางการศึกษา พ.ศ. .... ซ่ึงคณะกรรมาธิการวิสามัญ ในวยั รุน่ พ.ศ. .... (ระเบียบวาระที ่ ๕) พจิ ารณาเสร็จแลว้ (เร่อื งด่วนที ่ ๔) ผลการพิจารณา ผลการพจิ ารณา ท่ีประชุมมีมติรับทราบรายงานผลการด�ำเนินการฯ ที่ประชุมได้พิจารณาในวาระที่สอง เริ่มต้นด้วย ดงั กลา่ ว ช่ือร่าง ค�ำปรารภ แล้วพิจารณาเรียงตามล�ำดับมาตรา จนจบร่าง และลงมติในวาระท่ีสาม สมควรประกาศใช้ ครั้งท ่ี ๒๒ วนั พฤหัสบดีท ่ี ๑๙ เมษายน ๒๕๖๑ เป็นกฎหมาย พร้อมท้ังเห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตของ รบั รองรายงานการประชมุ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อส่งไปยังคณะรัฐมนตรี ๑. คร้ังท่ ี ๗๔/๒๕๖๐ เปน็ พิเศษ วันจนั ทร์ท่ ี ๒๕ ประกอบการพจิ ารณาดำ� เนนิ การตอ่ ไป ธนั วาคม ๒๕๖๐ และ สรปุ ผลการพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญัติ ๒. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ วันพฤหัสบดีท่ี ๑๑ มกราคม รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติไว้พิจารณา ๒๕๖๑ จำ� นวน ๓ ฉบับ ดังน้ี เรอ่ื งท่ีพจิ ารณา ๑. ร่างพระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและ ๑. ให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอช่ือให้ วธิ ีพิจารณาคดปี กครอง (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ด�ำรงต�ำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน (ตามมาตรา ๑๓ แห่ง ๒. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่าย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... พ.ศ. ๒๕๖๐) (เร่ืองดว่ นท่ ี ๑)
เอกสารขา่ วรฐั สภา 16 ผลการพจิ ารณา ผลการพิจารณา ผลการออกเสียงลงคะแนนปรากฏว่า บุคคลผู้ได้รับ ในการประชุมพิจารณาได้มีสมาชิกสภานิติบัญญัติ การเสนอชื่อให้ด�ำรงต�ำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินคือ แห่งชาติ เสนอญัตติต่อที่ประชุมว่าไม่สมควรด�ำเนินการ นางภรณี ลีนุตพงษ์ ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง เลือกกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และ น้อยกว่าก่ึงหนึ่งของจ�ำนวนสมาชิกท้ังหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามบัญชีรายช่ือท่ี (สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จ�ำนวน ๒๔๗ คะแนนเสียง เลขาธิการวุฒิสภาเสนอตตามมาตรา ๑๗ วรรคหน่ึง ไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึง คือ ๑๒๔ คะแนน) จึงถือว่าไม่ได้รับ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และก�ำกับ ความเหน็ ชอบให้ดำ� รงต�ำแหนง่ ผตู้ รวจการแผ่นดิน การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ ๒. ให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม ด�ำรงต�ำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยมีผู้รับรองถูกต้อง และ การฟอกเงิน (ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติป้องกัน เพื่อให้การลงมติในประเด็นนี้สอดคล้องตามบทบัญญัติ และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคล่ืน โดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ความถ่ีและก�ำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง (ฉบบั ท ่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘) (เร่ืองดว่ นที่ ๒) วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ผลการพจิ ารณา และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประธาน ผลการออกเสียงลงคะแนนปรากฏว่าบุคคลผู้ได้รับ ของท่ีประชุมได้ปรึกษาต่อท่ีประชุมเพ่ือก�ำหนดวิธีการออกเสียง การเสนอชอื่ ใหด้ ำ� รงตำ� แหนง่ เลขาธิการคณะกรรมการปอ้ งกัน ลงคะแนนลับ โดยใช้เครื่องออกเสียงลงคะแนนลับ ตาม และปราบปรามการฟอกเงิน คือ พลต�ำรวจตรี รมย์สิทธ ิ์ ข้อบังคับฯ ข้อ ๖๘ (๑) ซึ่งที่ประชุมไม่มีความเห็นเป็น วีริยาสรร ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงข้างมาก อย่างอื่น ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับญัตติดังกล่าว จึงถือว่าได้รับความเห็นชอบให้ด�ำรงต�ำแหน่งเลขาธิการ คือ ไม่สมควรด�ำเนินการเลือกกรรมการกิจการกระจายเสียง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ๓. เลือกบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ด�ำรงต�ำแหน่ง ตามบัญชีรายช่ือท่ีเลขาธิการวุฒิสภาเสนอตามมาตรา ๑๗ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคล่ืนความถี่ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) (ตามมาตรา ๑๗ แห่ง และก�ำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุ พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถ่ีและก�ำกับ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่ การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ แก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ท ี่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐) (เรอ่ื งดว่ นที ่ ๓)
17 รอบรว้ั สภา - ขา่ วในประเทศ รอบรว้ั สภา ขา่ วในประเทศ สนช. มมี ติรบั หลกั การร่าง พ.ร.บ. การรกั ษาผลประโยชนข์ องชาติทางทะเลฯ ไวพ้ จิ ารณา วันท่ี ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับหลักการร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอไว้พิจารณา ด้วยคะแนน ๑๙๘ เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง ๔ เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จ�ำนวน ๒๙ คน ก�ำหนดระยะเวลาแปรญัตติ ๑๕ วัน ระยะเวลาด�ำเนินงาน ๖๐ วัน ส�ำหรับ เหตุผลในการตรากฎหมายฉบับน้ีเน่ืองจากปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลทั้งภายใน และภายนอกราชอาณาจักร ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีลักษณะที่หลากหลาย และประเทศไทยมีอ�ำนาจอธิปไตยที่จะต้องรักษา ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลไว้ รวมท้ังมีสิทธิหน้าท่ีอื่นตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศท่ีประเทศไทยมีพันธกรณีจะ ต้องปฏิบัติตาม อันท�ำให้กฎหมายท่ีมีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถใช้บังคับในเขตทางทะเลที่อยู่ภายนอกราชอาณาจักร หรืออาจไม่ครอบคลมุ ถึงการรักษาผลประโยชน์ของชาตทิ างทะเลทม่ี อี ยู่อยา่ งมากมายในทกุ ๆ ดา้ น ส�ำหรับเนื้อหาของ รา่ ง พ.ร.บ. ฉบบั น้ี ได้ยกระดบั ศูนย์ประสานการปฏิบตั ิ ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นศูนย์อ�ำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล อยู่ภายใต้การบังคับบัญชา ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และมีกฎหมายรองรับ ซึ่งเป็นการบูรณาการหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไม่เพียงแต่เฉพาะกองทัพเรือเท่าน้ัน โดยมี อ�ำนาจหน้าที่วางแผน อ�ำนวยการ ประสานงาน ส่ังการ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐที่เก่ียวข้อง และมีคณะกรรมการบริหาร ศรชล. พิจารณาให้ ความเห็นชอบแผนงาน โครงการและการจัดต้ัง งบประมาณ ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของ ศรชล. ขณะเดียวกันยังได้ก�ำหนดให้มี “ศรชล. ภาค” และ “ศรชล. จังหวัด” รับผิดชอบเก่ียวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบของทัพเรือภาคและจังหวัด ชายทะเล ทงั้ น้ ี เพอ่ื ดำ� เนนิ การให้เป็นประโยชน์ตอ่ ประเทศชาติและต่อพนั ธกรณีกับประเทศตา่ ง ๆ ให้เรยี บร้อยตอ่ ไป
เอกสารขา่ วรฐั สภา 18 สนช. มีมติเห็นชอบสนธสิ ญั ญา CTBT และรบั หลกั การรา่ ง พ.ร.บ. คุ้มครองการด�ำเนนิ งาน ขององค์การสนธิสญั ญาวา่ ดว้ ยการห้ามทดลองนิวเคลยี รโ์ ดยสมบรู ณ์ ไวพ้ จิ ารณา วันท่ี ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติให้ความเห็นชอบสนธิสัญญา ว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (CTBT) ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนน ๑๗๙ เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง ๔ เสียง พร้อมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองการด�ำเนินงาน ขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ พ.ศ. .... ท่ีคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ไว้พิจารณา ด้วยคะแนน ๑๗๙ เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง ๔ เสียง พร้อมต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จ�ำนวน ๑๘ คน ก�ำหนดระยะเวลาแปรญัตติ ๗ วัน ระยะเวลาดำ� เนินงาน ๖๐ วัน ส�ำหรับสนธิ สัญญาดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายหลักห้ามรัฐภาคีทดลอง อาวุธนิวเคลียร์ และระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์ในทุก รูปแบบ ปัจจุบันมีประเทศท่ีลงนามแล้ว ๑๘๓ ประเทศ และให้สัตยาบันแล้ว ๑๖๖ ประเทศ รวมถึงประเทศ สมาชิกอาเซียนอ่ืนอีก ๙ ประเทศ โดยสนธิสัญญา ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อประเทศท่ีรวมเจรจาจัดท�ำ สนธิสัญญาฯ และมีศักยภาพทางนิวเคลียร์ ๔๔ ประเทศ หรือกลุ่มประเทศ Annex ๒ ทุกประเทศ ให้สัตยายัน ซึ่งปัจจุบันยังเหลืออีก ๘ ประเทศ ประกอบด้วย จีน อียิปต์ อิหร่าน อิสราเอล อินเดีย เกาหลีเหนือ ปากีสถาน และสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจึงยังไม่มีองค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร ์ โดยสมบูรณ์ แต่ได้มีการตั้งกรรมาธิการฯ ข้ึนมา เพ่ือท�ำหน้าท่ีก�ำกับนโยบายและการด�ำเนินการท่ีเก่ียวข้องไปพรางก่อน มีสถานะเป็นองค์การระหว่างประเทศ ท้ังน้ี ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ยังไม่ให้สัตยาบัน เนื่องจากต้องด�ำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขท่ีสนธิสัญญาฯ ก�ำหนดไว้ ๒ ประการ คือ ๑. การมีกฎหมายที่ก�ำหนด เกี่ยวกับการห้ามทดลองอาวุธหรือระเบิดนิวเคลียร์ไม่ว่าในพื้นที่ใด ๆ ของประเทศ และ ๒. การมีกฎหมายว่าด้วย การคุ้มครองการด�ำเนินงานขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ ซึ่งขณะน้ีไทยได้ ด�ำเนินการแล้วในประการแรก คือ การมี พ.ร.บ. พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ ส่วนประการที่สอง อยู่ระหว่างการด�ำเนินการให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองการด�ำเนินงานขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลอง นิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ เนื่องจากรัฐบาลไทยได้ลงนามในสนธิสัญญาฯ ดังกล่าว เม่ือปี ๒๕๓๙ ซึ่งสนธิสัญญาและ พิธีสารแนบท้ายสนธิสัญญาได้ก�ำหนดให้องค์การสนธิสัญญาฯ และผู้ปฏิบัติภารกิจท่ีเกี่ยวข้องกับองค์การได้รับเอกสิทธิ์ และความคุ้มกันท่ีจ�ำเป็น เพื่อประโยชน์แก่การด�ำเนินงานขององค์การในอาณาเขต หรือการควบคุมของรัฐภาค ี ส�ำหรับประโยชน์ที่ไทยจะได้รับเม่ือเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาฯ จะช่วยเสริมสร้างบทบาทประเทศระดับสากลในเรื่องของ การลดและการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ท�ำให้ไทยสามารถต่อยอดและยกระดับบทบาทในเรื่องท่ีเก่ียวข้องได้อย่าง เข้มแข็งย่ิงข้ึน และสร้างแรงขับเคลื่อนที่ส�ำคัญในการส่งเสริมความเป็นสากลและส่งเสริมการบังคับใช้ CTBT ตลอดจน เสริมสร้างความสมั พันธ์และความรว่ มมืออันดีกบั มิตรประเทศทใี่ หส้ ตั ยาบนั แลว้
19 รอบรัว้ สภา - ข่าวในประเทศ ประธาน สนช. ประชุมเตรียมความพรอ้ มรัฐสภาไทยเปน็ เจา้ ภาพจัดประชุม AIPA ในป ี ๒๕๖๒ วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำ� นวยการจัดการประชุมภายใตก้ รอบสมชั ชารฐั สภาอาเซยี น (AIPA) ป ี พ.ศ. ๒๕๖๒ ครั้งท่ี ๑/๒๕๖๑ เพื่อเตรียมความพร้อมในโอกาสท่ีรัฐสภาไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม AIPA คร้ังที่ ๔๐ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ และประธานรัฐสภาจะเป็นประธาน AIPA ในปีเดียวกัน ส�ำหรับการประชุมดังกล่าวรัฐสภาไทยในฐานะ ประเทศเจ้าภาพเตรียมความพร้อมส�ำหรับจัดการประชุมจ�ำนวน ๓ การประชุมประกอบด้วย การประชุมคณะมนตรี ที่ปรึกษาของ AIPA ว่าด้วยยาเสพติดอันตราย (AIPACODD) การประชุมเตรียมการในการประชุมระหว่างผู้น�ำอาเซียน และคณะผู้แทนของ AIPA ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน รวมท้ังการประชุมใหญ่ AIPA ดังนั้นคณะกรรมการ อ�ำนวยการจัดการประชุมฯ จึงหารือและติดตามความคืบหน้าท่ีเกี่ยวข้องทั้งหมด และจากคณะกรรมการเตรียม ความพร้อมของฝ่ายข้าราชการ ซ่ึงมาจากส่วนงานต่าง ๆ ของ ส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และส�ำนักงานเลขาธิการ วุฒิสภา แบ่งเป็นด้านการประชุมและสารัตถะ ด้านพิธีการรับรอง และพิธีเปิด ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านประชาสัมพันธ ์ ด้านการรักษาความปลอดภัยและการรักษาพยาบาล ด้านเจ้าหน้าที่ และการประสานงาน ท้ังนี้ เพ่ือติดตามการด�ำเนินงานตามแผนงาน ให้การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศ เป็นไป อย่างเรียบร้อย สมเกียรติ และสมประโยชน์ของชาติ ส�ำหรับการเป็น เจ้าภาพจัดการประชุมในกรอบ AIPA ของรัฐสภาไทยในปี ๒๕๖๒ น้ี เป็นไปตามธรรมนูญของ AIPA ท่ีก�ำหนดให้รัฐสภาประเทศสมาชิก เวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่ตามล�ำดับ อักษรภาษาอังกฤษ และประธานรัฐสภาประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมจะด�ำรงต�ำแหน่งประธาน AIPA ท้ังน ี้ ประธาน สนช. จะเดินทางไปรับมอบต�ำแหน่งประธาน AIPA ต่อจากประธานรัฐสภาสิงคโปร์ ในช่วงการประชุมใหญ ่ AIPA คร้ังท่ ี ๓๙ ในเดือนกันยายนนี ้ ที่ประเทศสงิ คโปร์ รองประธาน สนช. ระบุปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและการเปน็ พลเมอื งทด่ี จี ะช่วยพฒั นาประเทศใหย้ ง่ั ยนื วันท่ี ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นายสุรชัย เล้ียงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่หนึ่ง กล่าวปาฐกถาพิเศษ เร่ือง \"การส่งเสริมความเป็นพลเมืองในวิถีรัฐธรรมนูญตามแนวทางศาสตร์พระราชา\" ในกิจกรรม เสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยตามวิถีรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๒ ประจ�ำปี ๒๕๖๑ ณ อุทยาน การอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงในเรื่องการพอมี พอกิน พอใช้ และเม่ือประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้เต็มท่ีแล้วจึงค่อยขยายผล เศรษฐกิจพอเพียงจึงหมายถึง การพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการวางรากฐานจากล่างข้ึนบน ส่วนค�ำว่าพลเมืองตาม วิถีรัฐธรรมนูญ คือ บุคคลผู้เป็นก�ำลังของบ้านเมือง ซ่ึงเป็นความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญท่ีต้องการให้ประชาชนทุกคน เป็นผู้มีคุณภาพและมีความสามารถ ดังนั้น เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงและเร่ืองการเป็นพลเมืองจึงเป็นเรื่องที่มี ความสัมพันธ์กัน เพราะจะช่วยพัฒนาประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่ย่ังยืน และการจะพัฒนาประเทศให้มีความเข้มแข็ง ต้องมีการปลูกฝังอุดมการณ์ของคนในชาติเพ่ือให้ประเทศมีการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๑ ยังได้ก�ำหนดเน้ือหา ในหมวด แนวนโยบายพ้ืนฐานแห่งรัฐ มาตรา ๗๑ โดยระบุให้รัฐพึงส่งเสริมและต้อง พัฒนาอย่างทั่วถึง ดังนั้นพลเมืองทุกคนจึงต้องเป็นก�ำลังในการตรวจสอบการด�ำเนินการของภาครัฐ โดยพลเมืองต้อง สามารถขบั เคล่ือนการเมือง เศรษฐกจิ เพื่อเป็นกำ� ลังสำ� คัญของประเทศ
เอกสารข่าวรฐั สภา 20 ประธาน สนช. รบั การยื่นหนงั สอื ขอให้ทบทวนร่างกฎหมายภาษที ด่ี ินและส่ิงปลูกสร้าง วันท่ี ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รับการยื่นหนังสือจากผู้แทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย น�ำโดยนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธาน คณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการแรงงาน สนช. ที่ขอให้มีการทบทวนร่างพระราชบัญญัติ ภาษีท่ีดินและส่ิงปลูกสร้าง ซึ่งอยู่ในข้ันตอนการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญ สนช. เน่ืองจากเห็นว่าร่างกฎหมาย ดังกล่าวส่งผลกระทบและสร้างภาระให้กับประชาชนและภาคธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และจากการสัมมนาระดม ความคิดเห็นพบปัญหาหลายประการ อาทิ การขาดความชัดเจนในการตีความหากน�ำไปปฏิบัติในแต่ละพ้ืนท่ีที่มี ความแตกต่าง การก�ำหนดอัตราภาษีท่ีภาครัฐจะเรียกเก็บเป็น เพดานสูงสุดในอนาคต ซึ่งย่อมส่งผลเสียต่อการลงทุน พร้อมกันน้ี ชี้ให้เห็นถึงตัวอย่างต่อธุรกิจภาคพลังงาน ที่จะมีต้นทุนภาษีเพ่ิมข้ึน ส่งผลให้อาจต้องปิดตัวลงและย่อมกระทบต่อความม่ันคงทาง พลังงาน ภาคเกษตร ที่การประเมินภาษีส่วนท้องถ่ินแต่ละพื้นท่ีมี ความแตกต่าง เปิดโอกาสให้ข้ึนกับดุลพินิจเจ้าหน้าท่ี ก่อให้เกิด ความเหลื่อมลำ�้ ในการจดั เกบ็ ภาษี สนช. มมี ตริ บั หลักการ ร่าง พ.ร.บ. วตั ถอุ นั ตรายฯ ไวพ้ จิ ารณา วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ท่ีประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับหลักการร่างพระราช บัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตราย (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ไว้พิจารณาด้วยคะแนนเห็นด้วย ๑๙๕ เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง ๕ เสียง ก�ำหนดระยะเวลาแปรญัตติ ๗ วัน ระยะเวลาด�ำเนินงาน ๖๐ วัน ส�ำหรับเหตุผลของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเน่ืองจาก พ.ร.บ. วัตถุอันตราย ฉบับปัจจุบันใช้บังคับมาเป็นเวลานานท�ำให้บทบัญญัติบางประการ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและยังไม่มีการก�ำหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับการน�ำผ่าน การน�ำกลับเข้ามาและ การส่งกลับออกไป รวมท้ังการโฆษณาวัตถุอันตรายไว้โดยเฉพาะ ประกอบกับกลไกการควบคุมวัตถุอันตรายยังไม่อาจ ขับเคล่ือนได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร ดังน้ันสมควรก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการน�ำผ่าน การน�ำกลับ มาและการส่งกลับออกไปเพื่อเป็นการลดภาระแก่ผู้ประกอบการ โดยเน้ือหาของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ได้ก�ำหนด บทบัญญัติเกี่ยวกับการโฆษณาวัตถุอันตรายให้เป็นธรรมต่อผู้บริโภคย่ิงข้ึน และแก้ไขเพ่ิมเติมองค์ประกอบ อ�ำนาจ หน้าท่ีคณะกรรมการวัตถุอันตราย โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานกรรมการ และเพิ่มเติม หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการควบคุมวัตถุอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานผู้รับผิดชอบเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนแก้ไขเพิ่มเติมอายุและการต่ออายุ ใบส�ำคัญการข้ึนทะเบียนวัตถุอันตราย ก�ำหนดให้มีการยกเว้น ไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้ท้ังหมดหรือแต่บางส่วนในกรณี การน�ำวัตถุอันตรายมาใช้เพื่อประโยชน์ในการศึกษา การทดสอบ การวิเคราะห์ การวิจัย และการพัฒนา และก�ำหนดให้มีการจ่าย ค่าเสียหายเบ้ืองต้นแก่ผู้เข้าช่วยเหลือ เคลื่อนย้าย บ�ำบัด บรรเทา หรือขจัดความเสียหายที่เกิดข้ัน รวมท้ังแก้ไขเพิ่มเติมบทก�ำหนด โทษและบทบัญญัติเกยี่ วกบั การเปรยี บเทยี บใหเ้ หมาะสม
21 รอบร้วั สภา - ข่าวในประเทศ สนช. มีมติเห็นชอบพิธีสารปี ค.ศ. ๒๐๑๔ ส่วนเสริมอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคบั ค.ศ. ๑๙๓๐ วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ท่ีประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติให้ความเห็นชอบพิธีสาร ปี ค.ศ. ๒๐๑๔ ส่วนเสริมอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนน ๑๗๒ เสียง ไม่เห็นด้วย ๒ เสียง งดออกเสียง ๒ เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง ๑ เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด ๑๗๗ คน โดยพลต�ำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับท่ี ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ แล้ว เม่ือวันท่ี ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ เพราะตระหนักถึง ความส�ำคัญของการขจัดใช้แรงงานบังคับหรือแรงงานเกณฑ์ ซึ่งลดทอนการท�ำงานท่ีมีคุณค่าและศักด์ิศรีของมนุษย ์ แต่เนื่องด้วยบทบัญญัติของอนุสัญญาฯ ดังกล่าวมีการประกาศใช้มานานแล้ว องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) จึงให้การรับรองพิธีสารปี ค.ศ. ๒๐๑๔ฯ เพ่ือเสริมช่องว่างในการปฏิบัติของอนุสัญญาฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน สอดคล้องกับการน�ำไปปฏิบัติและรูปแบบแรงงานในปัจจุบันท่ีเปล่ียนแปลงไป รัฐบาลจึงก�ำหนดให้มีการด�ำเนินการ เข้าร่วมเป็นภาคีให้สัตยาบันพิธีสารฯ ดังกล่าว โดยกระทรวงแรงงานได้มีการจัดท�ำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ พ.ศ. .... เพื่อรองรับการให้สัตยาบันพิธีสารฯ คร้ังนี้ ส�ำหรับสาระส�ำคัญ ของพิธีสารฯ ได้ก�ำหนดนโยบายและแผนระดับชาติ เพื่อปราบปราบและลงโทษผู้กระท�ำความผิดเกี่ยวกับการใช้แรงงาน บังคับอย่างเข้มงวด ก�ำหนดมาตรการในการป้องกัน คุ้มครอง และการชดเชย เยียวยาหรือการฟื้นฟู และการปราบปราม การใช้แรงงานบังคับอย่างมีประสิทธิภาพและย่ังยืนและสร้างความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก เพื่อบรรล ุ เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร ป ้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ก า ร ใ ช ้ แ ร ง ง า น บั ง คั บ อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์และ ความมุ่งม่ันระดับสากล ต่อการขจัดการใช้แรงงานบังคับที่ ประชาคมโลกให้ความส�ำคัญ ยกระดับมาตรฐานในการคุ้มครอง แรงงานทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรม สอดคล้องมาตรฐานสากล เสริมสร้างภาพลักษณ์ท่ีดี และส่งเสริมผลประโยชน์เศรษฐกิจของ ประเทศ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้า สร้างความ ม่ันใจตอ่ ผูบ้ ริโภคในสนิ คา้ ไทย รองประธาน สนช. รับการย่ืนเรื่องเสนอความเห็นต่อร่างกฎหมายการอุดมศึกษาและร่างกฎหมายระเบียบ การบรหิ ารราชการกระทรวงฯ วันท่ี ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นายสุรชัย เล้ียงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนท่ีหนึ่ง รับการย่ืนหนังสือจากนายทัศไนย ไชยแขวง อุปนายกสภาทนายความ ตัวแทนสมาพันธ์สภาวิชาชีพ ๑๑ สภา ซ่ึงประกอบด้วย แพทยสภา สภาการพยาบาล สภาทนายความ สภาเภสัชกรรม ทันตแพทยสภา สภาวิศวกร สภาสถาปนิก สัตวแพทยสภา สภาเทคนิคการแพทย์ สภากายภาพบ�ำบัด และสภาวิชาชีพบัญชี ท่ีน�ำคณะย่ืนขอเสนอความเห็นและมีข้อเสนอแนะต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การอุดมศึกษา และร่าง พ.ร.บ. ระเบียบการบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา โดยสมาพันธ์เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ. การอุดมศึกษา ห้ามไม่ให้ สภาวิชาชีพก้าวก่ายการจัดหลักสูตรการเรียนการสอน แต่ในทางกลับกันหน้าที่หลักของสภาวิชาชีพไม่ใช่ดูเรื่อง จรรยาบรรณอย่างเดียว แต่ต้องควบคุม ส่งเสริม พัฒนาและให้บริการ ตรวจสอบสถาบันอุดมศึกษาให้มีมาตรฐาน
เอกสารขา่ วรัฐสภา 22 ดังน้ันหากสภาวิชาชีพไม่ดูแลต้ังแต่หลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาท่ีเรียนมา ไม่มีความรู้ เพียงพอเพื่อผ่านการทดสอบใบประกอบวิชาชีพ เกิดผลกระทบทั้งต่อผู้เรียนโดยตรงและงบประมาณ รวมทั้งยังมี ประเด็นอื่น อาทิ การให้บริการทางวิชาชีพท่ียังไม่มีนิยามชัดเจน จึงอาจมีผลในทางปฏิบัติ เกิดปัญหาในทางกฎหมาย ในอนาคต และประเด็นอ�ำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการอุดมศึกษาท่ีอาจทับซ้อนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ ด้านรองประธาน สนช. คนที่หน่ึง กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ถึงข้ันตอนการพิจารณาของ สนช. แต่เมื่อได้เข้ามาแล้วจะเสนอข้อมูลให้ สนช. พิจารณาและจะผลักดันให้ตัวแทนของสมาพันธ์ได้เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ ร่วมพิจารณาร่างกฎหมาย ท้ังน้ี ตนมีความเข้าใจและเห็นว่าควรหาจุดบรรจบระหว่างเสรีภาพและคุณภาพมาตรฐานท่ี จะตอบสนองผู้ประกอบวชิ าชีพใหไ้ ดด้ ที ีส่ ดุ เพ่อื ตอบสนองผใู้ ชบ้ รกิ ารซึง่ คือประชาชน มต ิ สนช. ๑๙๖ เสยี ง รบั หลักการรา่ ง พ.ร.บ. ลขิ สทิ ธ์ ิ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ไว้พจิ ารณา วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ท่ีประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับหลักการร่างพระราช บัญญัติ (พ.ร.บ.) ลิขสิทธิ์ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ไว้พิจารณา ด้วยคะแนนเห็นด้วย ๑๙๖ เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง ๔ เสียง พร้อมก�ำหนดระยะเวลาแปรญัตติ ๑๕ วัน ระยะเวลาด�ำเนินงาน ๖๐ วัน ส�ำหรับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้ปรับปรุงเพ่ือรองรับการเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญามาร์ราเคช จะท�ำให้คนพิการท่ีไม่สามารถเข้าถึงงานที่มีลิขสิทธ์ิ อันเนื่องมาจากความบกพร่องทางความเห็น การได้ยิน การเคล่ือนไหว สติปัญญา การเรียนรู้หรือความบกพร่อง ด้านอื่น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงหนังสือและต�ำราเรียนต่าง ๆ ที่ใช้ในการพัฒนา ความสามารถของมนุษย์ อีกท้ังการปรับปรุงแก้ไขคร้ังน้ียังมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ หน้าท่ีของรัฐและ แนวนโยบายของรัฐ รวมทั้งสอดคล้องกับหลักไม่เลือกปฏิบัติ ความเท่าเทียมและความเสมอภาค ความสามารถ ในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ การมีส่วนร่วมอย่างเต็มรูปแบบและมีประสิทธิภาพ ทั้งน้ี สนธิสัญญามาร์ราเคช ได้ก�ำหนดให้รัฐภาคีบัญญัติกฎหมายเพื่อรองรับข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ เพื่อให้คนตาบอด คนพิการทางการเห็น และคนพิการทางสื่อส่ิงพิมพ์ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกับบุคคลอ่ืนในการเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ โดยสมควรแก้ไข เพ่ิมเติมข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธ์ิเพ่ือประโยชน์ของคนพิการตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ิปี ๒๕๓๗ เพ่ือให้สอดคล้อง กับสนธิสัญญาดงั กลา่ ว
23 รอบร้ัวสภา - ข่าวในประเทศ โครงการ สนช. พบประชาชนในพื้นท่ี กทม. หวังประชาชนใช้โอกาสในการเข้าร่วมโครงการ สะท้อนปัญหา ไปยงั ผูแ้ ทนรฐั บาลและผบู้ ริหาร กทม. วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนท่ีหนึ่ง เป็นประธานเปิดโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ณ กรุงเทพมหานคร ณ ห้อง ประชุมรัฐสภา อาคารรัฐสภา ๑ พร้อมกล่าวว่า โครงการ สนช. พบประชาชน ด�ำเนินการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี ๒๕๕๗ ด้วยวัตถุประสงค์ส�ำคัญคือ เพื่อให้สมาชิก สนช. ในฐานะท่ีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ได้มีโอกาสพบปะกับพ่ีน้องประชาชนทั้งประเทศ โดยขณะน้ี ได้รับฟังปัญหาของประชาชนครบทุกจังหวัดแล้ว และ กทม. เป็นพ้ืนที่สุดท้ายซ่ึงได้ลงพื้นที่ครบทั้ง ๖ โซนเพ่ือรับฟัง ประมวลประเด็นปัญหาและส่งผ่านปัญหาไปยังหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง จึงได้จัดโครงการคร้ังน้ีขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ ตัวแทนประชาชนทั้ง ๖ โซน ในพ้ืนท่ี กทม. ประกอบด้วย กรุงเทพกลาง กรุงเทพใต้ กรุงเทพเหนือ กรุงเทพตะวันออก กรุงธนเหนือ กรุงธนใต้ และตัวแทนกลุ่มปัญหาพิเศษ ๔ กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มคนพิการ ได้ร่วมรับฟังและแลก เปลี่ยนปัญหา ต่อผู้แทนรัฐบาล ผู้ว่าฯ กทม. และ ผู้บริหารระดับสูงของ กทม. เพ่ือน�ำปัญหาที่ประชาชน น�ำเสนอไปสู่การแก้ไข ทั้งน้ี หวังว่าประชาชนจะได้ใช้ เวทีนี้สะท้อนปัญหาให้ผู้แทนรัฐบาลและผู้บริหาร กทม. ได้รับทราบ และ สนช. จะท�ำหน้าที่เป็นตัวกลาง ประสานและติดตามการแก้ไขปัญหาของประชาชน พร้อมหวังว่าการจัดเวทีในคร้ังน้ีจะน�ำไปสู่การแก้ไข ปัญหาของคน กทม. ได้อย่างย่ังยืน ด้านนายพีระศักด ์ิ พอจิต รองประธาน สนช. คนท่ีสอง ในฐานะ ประธานคณะกรรมการด�ำเนินงานโครงการ ย�้ำว่า สนช. เป็นอีกหน่ึงช่องทางที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ต้องท�ำหน้าท่ีแทนท้ัง ส.ส. และ ส.ว. โดย จากการลงพ้ืนที่ กรุงเทพฯ ท้ัง ๖ โซน ๕๐ เขต สมาชิก สนช. ไดร้ บั ทราบปญั หาของประชาชนจำ� นวนมาก ซึ่ง สนช. จะด�ำเนินการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล ปัญหาให้กับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องรับไปด�ำเนินการต่อไป แต่บางเรื่องท่ีเกินขอบเขตอ�ำนาจของ กทม. หรือจังหวัด สนช. กจ็ ะดำ� เนนิ การแจ้งไปยังหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งทั้งในระดับกระทรวงและกรมต่าง ๆ ไดด้ �ำเนนิ การแกไ้ ขต่อไป ประธาน สนช. ย้ำ� พจิ ารณางบประมาณประจำ� ป ี พ.ศ. ๒๕๖๒ ยึดหลกั การสอดคลอ้ งกับแผนยทุ ธศาสตรช์ าติ และเกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ตอ่ ประชาชน วันท ี่ ๔ มถิ ุนายน ๒๕๖๑ ศาสตราจารยพ์ เิ ศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบญั ญัตแิ ห่งชาต ิ (สนช.) เป็นประธานเปิดสัมมนาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และข้อเสนอแนะบางประการในการจัดท�ำรา่ ง พ.ร.บ. งบประมาณปี ๒๕๖๒ จัดโดยคณะกรรมการวิชาการของ สนช.
เอกสารขา่ วรฐั สภา 24 สถาบันพระปกเกล้า และสมาคมรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ณ ห้องประชุม กรรมาธิการ หมายเลข ๒๑๓-๒๑๖ อาคารรัฐสภา ๒ พร้อมกล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณแผ่นดินให้เหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุด เป็นภารกิจที่ส�ำคัญของ สนช. ท่ีต้องท�ำหน้าที่พิจารณากล่ันกรองงบประมาณเพ่ือควบคุมการ บริหารราชการแผ่นดิน ลดความซ้�ำซ้อนของการใช้จ่ายงบที่ไม่จ�ำเป็น โดย สนช. ต้องมีข้อมูลประกอบการพิจารณา จากหลากหลายมิติ ท้ังข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ข้อมูลจากระบบเศรษฐกิจ มวลรวม นโยบายการคลัง การประมาณรายได้ ของรัฐบาล สถานะการคลัง และความเสี่ยง โดยต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน การสัมมนาคร้ังน้ีจึงถือเป็นการเตรียม ความพร้อมใหก้ ับสมาชิก สนช. ทต่ี ้องทำ� หน้าท่ีในกรรมาธกิ ารวสิ ามัญพจิ ารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ใหไ้ ดร้ ับทราบ ข้อมูล แลกเปล่ียนความรู้และประสบการณ์ ซ่ึงจะท�ำให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบ เกิดประโยชน์ต่อประเทศ ชาติและประชาชน รองประธาน สนช. เปิดงานโครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคมอาเซียน ประจ�ำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ กิจกรรม \"เปดิ บ้านศูนยอ์ าเซยี น\" วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายสุรชัย เล้ียงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่หน่ึง เป็นประธานเปิดงานโครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคมอาเซียน ประจ�ำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ กิจกรรม \"เปิดบ้านศูนย์อาเซียน\" ณ อาคารรัฐสภา ๑ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เร่ือง \"รัฐสภากับการขับเคลื่อน อาเซียนใน ๕๐ ปีข้างหน้า\" ว่า การเปล่ียนแปลงในบริบทการท�ำงานของฝ่ายนิติบัญญัติต่อภาระกิจการขับเคลื่อน อาเซียนให้อยู่บนพ้ืนฐานของผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาคมอาเซียนถือเป็นเร่ืองส�ำคัญ โดยบทบาทส�ำคัญของ ฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องปรับคือ การตรากฎหมาย ที่กระบวนการตรากฎหมายต้องตอบโจทย์เป้าหมายของการ เป็นอาเซียน ที่มีลักษณะความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สอดรับกับข้อผูกพันท่ีมีต่อข้อตกลงต่าง ๆ แต่จะต้องออกกฎหมาย ด้วยความระมัดระวงั ตอ้ งรักษามติ ขิ องกฎหมายในประเทศ มนุ่ เนน้ ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตง้ั ควบคู่กับการรักษาผลประโยชน์อย่างเสมอภาคของประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน แต่ด้วยปัจจุบันการพิจารณา ร่างกฎหมายยังขาดการพิจารณาเชิงเปรียบเทียบกับข้อผูกพันต่าง ๆ ของอาเซียน สภาจึงต้องปรับปรุงกระบวนการ ตรากฎหมาย โดยต้องเร่ิมตั้งแต่วิธีการ การวิเคราะห ์ ข้อกฎหมาย ที่ต้องเสนอบทวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบกับ ประเทศท่ีมีพัฒนาการทางกฎหมายมาก่อนประเทศไทย ร ว ม ทั้ ง ป ร ะ เ ด็ น ก า ร ต ร า ก ฎ ห ม า ย ถื อ เ ป ็ น ส่ิ ง ท่ี ฝ ่ า ย นิติบัญญัติต้องเรียนรู้และน�ำมาเป็นแนวทางในการ ปรับปรุงกระบวนการการท�ำงานและกระบวนทัศน์ทาง ความคิด ที่จะส่งผลต่อระบบงานนิติบัญญัติใน ๕๐ ปี ข้างหน้า พร้อมฝากถึงการตรากฎหมายท่ีจะไม่ให้เกิด ความขัดแย้งกับการตรากฎหมายระหว่างประเทศ ที่ต้อง มุ่งเน้นประเด็นส�ำคัญ ๓ ประการ ประกอบด้วย ๑. หลีกเล่ียงการมีกฎหมายที่ขัดหรือแย้งกับข้อตกลงต่าง ๆ ที่มี อยู่กับประชาคมอาเซียน ๒. หลีกเลี่ยงปัญหาการตีความ และ ๓. วางยุทธศาสตร์ให้กับประเทศไทยในการเป็น ศูนยก์ ลางหรือเปน็ ผนู้ ำ� ของกลุม่ อาเซยี น
25 รอบรั้วสภา - ข่าวในประเทศ สนช. มีมตริ บั หลกั การรา่ ง พ.ร.บ. งบประมาณป ี ๖๒ วงเงิน ๓ ลา้ นล้านบาท วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๑ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ท่ีคณะรัฐมนตรีเสนอวงเงิน ๓ ล้านล้านบาท ด้วยมติ ๑๙๗ เสียง งดออกเสียง ๓ เสียง จากจ�ำนวนผู้ร่วมประชุม ๒๐๐ คน โดยไม่มีผู้ไม่ออกเสียง และ ก�ำหนดตั้งกรรมาธิการสามัญพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว จ�ำนวน ๕๐ คน กรอบเวลาท�ำงาน ๙๐ วัน พร้อมเปิด ให้ สนช. แปรญตั ใิ น ๑๕ วนั นับแต่วันถดั จากวันทสี่ ภาก�ำหนดวนั แปรญตั ต ิ สำ� หรับมตดิ งั กล่าวมขี ้ึนภายหลังจากท ี่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช้ีแจงถึงเหตุผลความจ�ำเป็นในการเสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวว่าเพื่อให้ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอ่ืน เป็นหลักในการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นเครื่องมือส�ำคัญของรัฐบาลท่ีจะ ขับเคล่ือนประเทศไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน ตามร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติที่มีความสอดคล้องกับสภาวะการทาง เศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันทั้งภายในและนอกประเทศ ส�ำหรับวงเงินงบประมาณที่เสนอในปี ๖๒ ลดลงจากปี ๖๑ จ�ำนวน ๕ หม่ืนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๑๗.๑ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ แบ่งเป็นรายจ่ายประจ�ำกว่า ๒.๒๖ ล้านล้านบาท รายจ่ายลงทุนกว่า ๖.๖ แสนล้านบาท และรายจ่ายช�ำระคืนต้นเงินกู้กว่า ๗.๘๒ หมื่นล้านบาท แบ่งยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณเป็น ๖ ยุทธศาสตร์ คือ ด้านความมั่นคง ด้านการสร้างความสามารถ ในการแขง่ ขนั ของประเทศ ดา้ นการพฒั นาเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคน ดา้ นการแกไ้ ขปญั หาความยากจน ลดความเหลอื่ มลำ�้ ด้านการจัดการน�้ำและส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ และรายการ ค่าด�ำเนินการภาครัฐเพื่อรองรับในยามเกิดเหตุฉุกเฉินจ�ำเป็น ทั้งน้ี ก�ำหนดกรอบการจัดท�ำงบประมาณให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอ่ืน พิจารณาตามล�ำดับความส�ำคัญของภารกิจ ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ชะลอปรับลด ในส่วนท่ีไม่คุ้มค่า ยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน มีความโปร่งใสคุ้มค่า และค�ำนึงถึง พ.ร.บ. วินัยการเงิน การคลงั ของรัฐ
เอกสารขา่ วรฐั สภา 26 รอบรวั้ สภา ขา่ วต่างประเทศ อหิ รา่ นย่นื ร่างกฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิ์ขอ้ ตกลงนิวเคลยี ร ์ วันท่ี ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ สมาชิกรัฐสภาอิหร่านได้ย่ืนร่างกฎหมายคุ้มครองสิทธ์ิในข้อตกลงนิวเคลียร ์ ต่อรัฐสภา เพ่ือป้องกันไม่ให้สมาชิกท่ีเหลืออยู่ในข้อตกลงนิวเคลียร์ถอนตัวออกจากข้อตกลงเหมือนท่ีสหรัฐอเมริกา กระทำ� ไป โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ได้เรียกร้องใหส้ มาชกิ ให้การรับรองวา่ จะไมม่ กี ารละเมิดข้อตกลงนิวเคลยี ร์ นายโมจตาบา ซอนนูรี ประธานคณะกรรมการข้อตกลง นิวเคลียรอ์ หิ รา่ นประจ�ำรัฐสภา กลา่ ววา่ การเจรจารว่ มกับชาติยุโรป ท่ีเป็นสมาชิกคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน ๑ เดือน พร้อมระบุว่า ก า ร อ อ ก ร ่ า ง ก ฎ ห ม า ย น้ี เ กิ ด ข้ึ น เ พ่ื อ ต อ บ โ ต ้ ส ห รั ฐ อ เ ม ริ ก า ท่ี ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ และหากชาติยุโรปไม่สามารถให้การรับรองแก่อิหร่านหรือละเมิด ข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลอิหร่านจะเริ่มการผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ แบบเต็มกำ� ลงั ตอ่ ไป ญ่ปี ุน่ ผา่ นกฎหมายส่งเสรมิ ใหผ้ หู้ ญงิ ลงรบั สมคั รเลอื กต้งั มากขน้ึ วันท่ี ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ รัฐสภาญ่ีปุ่นผ่านกฎหมายท่ีสนับสนุนให้ผู้สมัครผู้หญิงลงเลือกตั้งในประเทศท่ี ผู้หญิงไม่ค่อยได้รับบทบาทในด้านการเมือง ซ่ึงภายใต้กฎหมายใหม่นี้พรรคการเมืองต่าง ๆ ถูกร้องขอให้มีผู้สมัครชาย แ ล ะ ห ญิ ง ใ น จ� ำ น ว น เ ท ่ า เ ที ย ม กั น ม า ก ที่ สุ ด แ ล ะ เ พ่ื อ ใ ห ้ มี ความเท่าเทียมทางเพศ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ญ่ีปุ่น กล่าวว่า จะท�ำให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในแรงงานมากขึ้น ทง้ั น ี้ ในสภาผแู้ ทนราษฎรมีจำ� นวน ๔๖๕ ทน่ี ั่ง แตก่ ลับมี สมาชิกผู้หญิงอยู่เพียง ๔๗ คนเท่านั้น ในอัตราร้อยละ ๑๐.๑ ในประเด็นน้ีท�ำให้ญ่ีปุ่นตามหลังเมียนมาร์และแกมเบีย กฎหมายฉบับนี้ผลักดันโดยกลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติ แต่ได้มีการต่อต้านในระหว่างการร่างกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะไม่มี บทลงโทษส�ำหรับการไม่ปฏิบัติตามก็ตาม ทั้งนี้ ในปี ๒๕๖๒ นายชินโซ อาเบะ ญี่ ปุ ่ น จ ะ จั ด เ ลื อ ก ตั้ ง ร ะ ดั บ ภู มิ ภ า ค ใ น เ ดื อ น เ ม ษ า ย น แ ล ะ การเลอื กตั้งวฒุ สิ มาชิกในเดือนกรกฎาคม
27 รอบรัว้ สภา - ขา่ วตา่ งประเทศ ผนู้ ำ� แคว้นกาตาลุญญาเสนอชอื่ อดตี รฐั มนตรีที่ถกู จ�ำคกุ และเนรเทศ เข้าร่วมรฐั บาลใหม่ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นายควิม ทอร์รา ประธานาธิบดีแห่งแคว้นกาตาลุญญาของสเปน เสนอชื่อ อดีตรัฐมนตรีกาตาลุญญา ๒ คน ให้มาร่วมรัฐบาลกาตาลุญญาอีกครั้ง โดยอดีตรัฐมนตรีนั้นถูกรัฐบาลสเปนสั่งจ�ำคุก เน่อื งจากสนับสนุนใหแ้ คว้นกาตาลุญญาแยกตัวจากสเปน ท้ังน้ี นายทอร์รา ได้รับเลือกต้ังจากรัฐสภากาตาลุญญา และได้สาบานตนเข้ารับต�ำแหน่งเม่ือวันพฤหัสบดีท่ี ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ จากนัน้ ได้เสนอชื่อท่ีปรึกษา ๑๓ คน ในจ�ำนวนนีม้ ี นายจอรด์ ี ทรู ุล และนายโจเซป รูลล์ อดีตรัฐมนตรี ที่ขณะน้ีถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง โดยการเสนอชื่อครั้งนี้ท�ำให้ทนายความย่ืนขอปล่อยตัวเพ่ือให้พวกเขา เข้ารับต�ำแหน่ง และในจ�ำนวนรายช่ือท่ีปรึกษายังมี นายโทนี โคมิน และนายหลุยส์ พิวก์ ท่ีถูกเนรเทศและยังอยู่ใน เบลเยี่ยมดว้ ย นายควิม ทอรร์ า รฐั สภาเกาหลีใตผ้ ่านร่างงบประมาณการสร้างงาน วันท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ รัฐสภาเกาหลีใต้มีมติผ่านร่างงบประมาณมูลค่ากว่า ๓.๘ ล้านล้านวอน โดยต้ังเป้าที่จะสร้างงานให้กับกลุ่มคนหนุ่มสาว รัฐบาลของนายมูน แจ อิน ได้ส่งร่างงบประมาณดังกล่าวเมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๑ และได้ผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยมติ ๑๗๗ ต่อ ๕๐ เสียง โดยมี ๓๔ คน ไม่ลงคะแนนเสียง งบประมาณครึ่งหนึ่งดงั กลา่ วจะใช้เพ่ือการสรา้ งงานในกลมุ่ คนรนุ่ ใหม ่ และชว่ ยสร้างบรษิ ทั รว่ มทนุ ท้ังนี้ ความเคล่ือนไหวดังกล่าวมีขึ้น ภายหลังอัตราว่างงานของผู้ที่อายุ ๑๕-๒๙ ปีอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานที่สูงมากน้ันยังท�ำให้ผู้คนแต่งงานช้าลง และไม่กล้าท่ีจะมีบุตร ส่งผลให้รัฐบาลเกิด ความกงั วลเก่ียวกบั ประชาชนวัยทำ� งานท่ีลดลงในอนาคต รวมถึง การบรโิ ภคทท่ี รุดตัวลงด้วย
เอกสารข่าวรัฐสภา 28 สภาผูแ้ ทนราษฎรญี่ปนุ่ มีมตเิ หน็ ชอบร่างกฎหมาย วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายเพ่ือการด�ำเนินมาตรการ ต่าง ๆ ภายในประเทศให้สอดคล้องกับสนธิสัญญาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ซ่ึงรวมถึง การสนับสนุนเกษตรกรให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดเพ่ิมมากข้ึน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีข้ึนหลังจากท ่ี สภาผู้แทนราษฎรญ่ีปุ่นได้ผ่านร่างกฎหมายให้สัตยาบันข้อตกลงดังกล่าวมาแล้วก่อนหน้าน้ี และส่งผลให้กระบวนการ ต่าง ๆ ภายในประเทศเสร็จสิ้นลงในช่วงปลายเดือนมิถุนายน จากน้ัน ข้อตกลงก็จะมีผลบังคับใช้เมื่อได้รับการรับรองจากประเทศสมาชิก อยา่ งน้อย ๖ ประเทศ ร่างกฎหมายที่ผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร จะท�ำให้รัฐบาลสามารถเพ่ิมวงเงินอุดหนุนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เพื่อ บรรเทาผลกระทบจากการปรับลดภาษีเนื้อหมูและเน้ือวัว และมี วัตถุประสงค์เพื่อปรับแก้ระบบภายในประเทศให้สอดคล้องและน�ำไปสู่ ความส�ำเร็จของข้อตกลงดังกล่าว รวมท้ัง การขยายสิทธิด้านทรัพย์สิน ทางปญั ญาดว้ ย สภาผู้แทนราษฎรของอนิ โดนเี ซยี มมี ตเิ หน็ ชอบกฎหมายปราบปรามการกอ่ การรา้ ย วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ สภาผู้แทนราษฎรของอินโดนีเซีย มีมติเห็นชอบกฎหมายปราบปราม การก่อการร้ายฉบับใหม่ที่มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยรวมถึงการอนุญาตให้เจ้าหน้าท่ีฝ่ายความม่ันคงควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยได้นานสูงสุด ๒๑ วัน จากเดิมเพียง ๗ วัน และการต้ังข้อหากับบุคคลซึ่งเข้าร่วมหรือมีหน้าที่จัดหา สมาชิกเข้าสู่องค์กรก่อการร้ายทั้งในและต่างประเทศ ขณะท่ีหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนวิจารณ์กฎหมายดังกล่าวว่า ไม่มีความชัดเจนและเร่งด�ำเนินน�ำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเร็วเกินไป ซ่ึงก่อนหน้านี้นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดอี นิ โดนีเซีย ประกาศว่าจะประกาศใช้ค�ำสง่ั พิเศษหากรฐั สภาไมย่ อมผ่านรา่ งกฎหมายดงั กลา่ วโดยเรว็ นายโจโก วโิ ดโด
29 รอบรัว้ สภา - ขา่ วต่างประเทศ ปากสี ถานแต่งตง้ั อดตี ประธานศาลสงู ข้ึนเป็นนายกรฐั มนตรรี กั ษาการ นายนาเซอร ์ อัล มัค วันท่ี ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ รัฐบาลปากีสถานภายใต้การน�ำของ นายชาฮิด คาห์กัน อับบาซี ร่วมกับแกนน�ำฝ่ายค้าน นายโฮชีด ชาห์ แต่งตั้ง นายนาเซอร์ อัล มัค วัย ๖๘ ปี อดีตประธานศาลสูงปากีสถาน เข้ารับ ต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการปากีสถานเพ่ือจัดการเลือกตั้งท่ัวไปที่จะเกิดขึ้นใน ส้นิ เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ ท้ังน้ี นายนาเซอร์ อัล มัค (Nasir-ul-Mulk) วัย ๖๘ ปีเคยท�ำหน้าท ่ี ประธานศาลสูงปากีสถานในปี ๒๕๕๗ และข้ึนชื่อว่ามีความเป็นกลางทางการเมือง จะรับเข้าท�ำหน้าท่ีนายกรัฐมนตรีรัฐบาลรักษาการ ซ่ึงนายโฮชีด ชาห์ ได้กล่าว ช่ืนชม มัคในฐานะผู้พิพากษาและนักกฎหมาย โดยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรักษา การปากีสถานคนใหม่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้อย่างยุติธรรม โปร่งใส และเป็นไป ตามกำ� หนดเวลา ปารากวยั จะมีประธานาธบิ ดีหญงิ คนแรกของประเทศ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ปารากวัยจะมีประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ แม้จะเป็นแค่เพียงระยะเวลาชั่วคราว โดยนางอลิเซีย ปูเชตา รองประธานาธิบดี วัย ๖๘ ปี จะเข้ารับต�ำแหน่ง ประธานาธิบดชี วั่ คราว ภายหลงั จากท่ีนายโฮราซิโอ คารเ์ ทส ลาออกจากการดำ� รงต�ำแหน่งก่อนก�ำหนด รัฐสภามีก�ำหนดจะยืนยันการลาออกของนายโฮราซิโอ คาร์เทส และประกาศให้นางปูเชตาเป็นประธานาธิบดี ชั่วคราว ท้ังน้ี การลาออกของนายโฮราซิโอ คาร์เทส มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว หลังจากเขาได้รับเลือกให้เป็น สมาชิกวุฒิสภาในการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๖๑ ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาใหม่จะสาบานตนเข้ารับต�ำแหน่ง ในวนั ที่ ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๖๑ และต่อจากนั้น นายมารโิ อ อับโด เบนิเตซ จากพรรคอนรุ ักษ์นยิ ม ซ่ึงได้รับเลือกตง้ั เม่อื วันที ่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๑ จะเริ่มงานในตำ� แหน่งประธานาธบิ ดี โดยมีวาระ ๕ ปตี อ่ ไป นางอลิเซยี ปเู ชตา
เอกสารข่าวรัฐสภา 30 อิตาลยี กเลิกแผนจัดตัง้ รัฐบาลผสม วันท่ี ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นายจูเซ็ปเป คอนเต ผู้ได้รับเสนอช่ือให้เป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลี ยอม ยกเลิกแผนจัดตั้งรัฐบาลผสม ภายหลังนายแซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีได้คัดค้านการแต่งตั้งนายเปาโล ซาโวนา ด�ำรงต�ำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เน่ืองจากไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้เพิ่มสกุลเงินนอกจากยูโร ซ่ึงอาจส่งผลกระทบกับ เศรษฐกิจ สร้างความวุ่นวายให้กับการเมืองอิตาลี ประเทศเศรษฐกิจอันดับสามของยุโรป และอาจต้องน�ำไปสู ่ การเลือกตัง้ อีกคร้งั หลังเพิ่งผา่ นการเลือกตั้งครง้ั ล่าสุดเมอื่ วนั ที ่ ๔ มนี าคม ๒๕๖๑ นายจเู ซป็ เป คอนเต นายกรฐั มนตรสี เปน โดนสภาลงมติไมไ่ วว้ างใจ วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน พ่ายแพ้การลงคะแนนเสียง ไม่ไว้วางใจในรัฐสภา ด้วยข้อกล่าวหาการทุจริต โดยมีสมาชิกสภาลงมติสนับสนุนการลงมติไม่ไว้วางใจ นายราฮอย ๑๘๐ เสียง คัดค้าน ๑๖๙ เสียง และงดออกเสียง ๑ เสียง มีผลให้นายราฮอยพ้นจากต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ สเปน โดยนายเปโดร ซานเชซ ผู้น�ำพรรคฝ่ายค้าน สังคมนิยม ซึ่งเป็นผู้เรียกร้องขอเปิดอภิปรายเพ่ือลงมติไม่ไว้วางใจ นายราฮอยในคร้ังน้ี จะข้ึนมาด�ำรงต�ำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของสเปนคนใหม่แทน ท้ังน้ี นายมาริอาโน ราฮอย หัวหน้าพรรคประชาชน เคยชนะการเลอื กตง้ั และได้ดำ� รงตำ� แหนง่ นายกรัฐมนตรขี องสเปนต้ังแต่ป ี ๒๕๕๔ นายมารอิ าโน ราฮอย
31 รอบรั้วสภา - ข่าวตา่ งประเทศ มาเลเซียเตรียมเปดิ โปงการทุจรติ การเงนิ ในรัฐบาลชุดท่แี ลว้ วันท่ี ๕ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายลิม กวน เอ็ง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของมาเลเซียประกาศว่า จะรายงานหน่วยงานต่อต้านการทุจริตเรื่องเงินจ�ำนวนหลายพันล้านริงกิต ท่ีรัฐบาลชุดที่แล้วจ่ายให้กับบริษัทจีนแห่งหนึ่ง ส�ำหรับโครงการท่อส่งน้�ำมัน ท้ังนี้ ภายหลังจากเข้ารับต�ำแหน่ง นายลิม กวน เอ็ง ได้ผลักดันปฏิบัติการเปิดโปง การทจุ ริตการเงนิ ในรัฐบาลของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรฐั มนตร ี ทไ่ี ดพ้ ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง โดยนายลิม กล่าวว่า รัฐบาลในยุคของ นายนาจิบ ราซัค ได้จ่ายเงิน ๘.๒ พันล้านริงกิต หรือ ๘๘ เปอร์เซ็นต์ของมูลค่ารวมของโครงการท่อส่งน�้ำมัน สองโครงการให้กับบริษัท China Petroleum Pipeline Bureau (CCPB) ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเสร็จไปไม่ถึง ๑๕ เปอร์เซ็นต์ และ พบว่าการก�ำหนการจ่ายเงินส�ำหรับโครงการข้างต้นข้ึนอยู่กับ ล�ำดับเง่ือนเวลาเกือบท้ังหมด ไม่ใช่ล�ำดับความก้าวหน้า ของงาน โดยนายลิมได้สั่งการให้ย่ืนรายงานกับหน่วยงาน ต่อต้านการทุจริต ซ่ึงทางกระทรวงการคลังจะพิจารณา ขอความช่วยเหลือจากประเทศจีนด้วยเพื่อตรวจสอบว่ามี การฟอกเงนิ เกิดขึน้ ในขอ้ ตกลงหรอื ไม่ นายลิม กวน เอ็ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สง่ั ปลดผู้ช่วยหญงิ ประจำ� ทำ� เนยี บขาว วันท่ี ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สั่งปลดเคลลี แซดเลอร ์ ผู้ช่วยหญิงประจ�ำท�ำเนียบขาวภายหลังจากท่ีได้กล่าวถ้อยค�ำเยาะเย้ยนายจอห์น แมคเคน สมาชิกวุฒิสภาท่ีก�ำลังป่วย เป็นโรคมะเร็งสมองว่า “เด๋ียวก็จะตายอยู่แล้ว” หลังจากเหตุการณ์ที่ นายแมคเคน ประกาศคัดค้านบุคคลที่นายทรัมป์ เสนอช่ือเป็นผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) คนใหม่ ท้ังน้ ี ถอ้ ยคำ� ของเคลล ี แซดเลอร ์ ได้ส่งผลใหท้ ำ� เนยี บขาวถกู วพิ ากษ์วจิ ารณ์อย่างหนกั เจา้ หนา้ ท่ที �ำเนียบขาว ท่ีอยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า แซดเลอร์ได้พูดพาดพิงถึงอาการป่วยของ แมคเคน ระหว่างประชุมเจ้าหน้าที่ โดยตั้งใจ จะพูดให้ตลกเท่าน้ัน แต่ปรากฏว่าผู้ฟังส่วนใหญ่ไม่ข�ำด้วย การดูหม่ินสมาชิกวุฒิสภาอาวุโสผู้ซ่ึงได้รับยกย่อง เป็น “วีรบุรุษสงคราม” แบบไม่ไว้หน้าเช่นนี้ได้จุดกระแสตอบโต้จากคนในแวดวงการเมืองสหรัฐอเมริกา โดยสมาชิก สภาคองเกรสหลายคนเรยี กรอ้ งใหน้ ายทรมั ปอ์ อกมากลา่ วค�ำขอโทษ แตว่ ่าผ้นู ำ� สหรฐั อเมริกาก็ยงั คงนง่ิ เฉยอยู่ นางเคลล ี แซดเลอร์ นายจอหน์ แมคเคน
เอกสารข่าวรฐั สภา 32 แวดวง กรรมาธิการ คณะกรรมาธกิ ารการเศรษฐกจิ การเงินและการคลงั สภานิติบญั ญัติแห่งชาติ วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ศูนย์ราชการอ�ำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย พลเอก รังสาทย์ แช่มเชื้อ และนางเสาวณี สุววรณชีพ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ศึกษาดูงานและรับฟังบรรยายสรุปเก่ียวกับการด�ำเนินงานของหน่วยงานในพื้นท่ีอ�ำเภอเวียงแก่น ในด้านการบริหารจัดการ และการใช้จ่ายงบประมาณ ปี ๒๕๖๑ และการส่งเสริมการค้า การลงทุนและการพัฒนาเกษตรเพ่ือเป็นต้นแบบทาง ธุรกิจในส่วนของสินค้าการเกษตรที่ข้ึนชื่อของอ�ำเภอเวียงแก่น รวมถึงการด�ำเนินงานโครงการสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ ประชาชน ตลอดจนปญั หาและอปุ สรรคทีต่ อ้ งการให้ผลักดนั หรอื ใหก้ ารสนบั สนนุ ต่อไป คณะกรรมาธกิ ารสงั คม กจิ การเดก็ เยาวชน สตร ี ผสู้ งู อาย ุ คนพกิ ารและผดู้ อ้ ยโอกาส สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาต ิ วันท่ี ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปตุเกส พลเรือเอก พลวัฒน์ สิโรดม ในฐานะหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยอนุกรรมาธิการกิจการผู้สูงอายุ ได้เดินทางไปประชุมทวิภาคีแลกเปล่ียนข้อคิดเห็น กับผู้บริหารของ The Lisbon Holy House of Mercy MHIH (Portuguese: Santa Casa da Misericórdia de Lisboa หรือ SCML) พร้อมศึกษาดูงานด้านการดูแลและสวัสดิการ ก า ร รั บ มื อ แ ล ะ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร กั บ สั ง ค ม ผู ้ สู ง อ า ยุ ข อ ง โ ป ตุ เ ก ส แ ล ะ สหภาพยุโรป จากน้ัน เขา้ เยยี่ มชม Centro Social Polivalente do Bairro Padre Cruz (Multipurpose Social Centre) ซึ่งเป็นพ้ืนท ่ี ทำ� งานดา้ นสงั คมแหง่ หนงึ่ ของ SCML โดยเปน็ ศนู ยใ์ หบ้ รกิ ารดา้ นสงั คม เพอ่ื จดั กิจกรรมและให้บรกิ ารดา้ นตา่ งๆ ท้งั เดก็ วัยรุน่ และผู้สูงอายุ
33 แวดวงกรรมาธิการ คณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม สภานิตบิ ญั ญตั แิ หง่ ชาต ิ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ห้องโถง ช้ัน ๑ อาคารรัฐสภา ๒ พลอากาศเอก ธงชัย แฉล้มเขตร เลขานุการคณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม พรอ้ มด้วยพลเอก วรี ัณ ฉนั ทศาสตรโ์ กศล และพลเรอื เอก ชุมนมุ อาจวงษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะกรรมาธิการการคมนาคม รับหนังสือจาก นายสมควร ฆ้องประเสริฐ ตัวแทน ชาวนาเกลือ ผู้ได้รับผลกระทบจุดขึ้น-ลง ถนนยกระดับ กม.๓๗ +๓๐๐ พระราม ๒ จังหวัดสมุทรสาคร เพ่ือขอให้ คณะกรรมาธิการการคมนาคม ตรวจสอบติดตามความคืบหน้า กรณี ขอให้ย้ายจุดข้ึน-ลง กม.๓๗ +๓๐๐ รัศมี ๕๐๐ พระราม ๒ พบว่า ประชาชนโดยรอบ ประกอบด้วยกลุ่มอาชีพนาเกลือ โรงงานอาหาร ส่งออก และกลุ่มชุมชนร้านค้า ได้รับความเดือดร้อนจากการคมนาคม จุดขึ้น-ลงดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงขอให้ทางคณะกรรมาธิการช่วย พิจารณาด�ำเนินการเรื่องน้ีด้วย พลอากาศเอก ธงชัย แฉล้มเขตร กล่าวว่า จะรับเร่ืองดังกล่าวไว้ประกอบการพิจารณาศึกษาวิเคราะห ์ เพ่ือแกไ้ ขปญั หาตอ่ ไป คณะกรรมาธิการการเมอื ง สภานิตบิ ญั ญัติแหง่ ชาติ วันท่ี ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ห้องแมจิก ๒ ชั้น ๒ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรงุ เทพฯ นายกลา้ นรงค ์ จนั ทกิ ประธานคณะกรรมาธกิ ารการเมอื ง เปน็ ประธานเปดิ การสมั มนา เ รอ่ื ง “รฐั ธรรมนญู ปราบโกง จะสัมฤทธิ์ผลได้จริงหรือไม่” โดยมี รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน รองประธานคณะกรรมาธิการ การเมือง คนที่สาม เป็นผู้กล่าวรายงาน การจัดสัมมนาในคร้ังน้ีเป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมาธิการการเมือง สภานติ ิบญั ญตั ิแห่งชาติ และสมาคมรัฐประศาสนศาสตร ์ นิด้า นายกล้านรงค์ จันทิก กล่าวว่า การจัดสัมมนาในคร้ังนี้ จัดขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นเก่ียวกับกลไกในการป้องกันและขจัด การทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามมาตรา ๖๓ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย อันจะเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และ เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพ่ือให้มีส่วนร่วมในการ ป ้ อ ง กั น แ ล ะ ข จั ด ก า ร ทุ จ ริ ต แ ล ะ ป ร ะ พ ฤ ติ มิ ช อ บ ทั้ ง ใ น ภ า ค รั ฐ แ ล ะ ภาคเอกชน ท�ำให้ได้รับมุมมองที่หลากหลาย อันจะน�ำไปสู่การร่วมกัน ป้องกัน และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซ่ึงจะเป็นการอ�ำนวย ประโยชน์แก่ประเทศชาต ิ และประชาชนไดเ้ ปน็ อยา่ งยงิ่
เอกสารขา่ วรฐั สภา 34 คณะกรรมาธกิ ารสงั คม กิจการเด็ก เยาวชน สตร ี ผสู้ ูงอายุ คนพกิ ารและผ้ดู อ้ ยโอกาส สภานติ บิ ญั ญัติแหง่ ชาติ วันท่ี ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ The city Hall of Sevilla เมืองเซวิย่า ราชอาณาจักรสเปน คณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ น�ำโดย พลเรือเอก พลวัฒน์ สิโรดม ในฐานะหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยอนุกรรมาธิการกิจการผู้สูงอายุ ได้เดินทางไป ประชุมทวิภาคีแลกเปล่ียนข้อคิดเห็นกับผู้บริหารของเมืองเซวิย่า ในการน ี้ Ms. Emilia Barroso Fuentes ผู้อ�ำนวยการด้านสวัสดิการสังคมฯ เทศบาลเมอื งเซบยิ า่ (Director General of Social Welfare of the City Hall of Sevilla) เก่ียวกับกฎหมาย นโยบาย และการจัดสวัสดิการสังคมของเทศบาล เมืองเซบิย่าที่มุ่งเน้นให้ความส�ำคัญต่อผู้สูงอายุ ท้ังด้านสุขภาพ การศึกษา สวัสดิการสังคม และที่อยู่อาศัย โดยการจัดบริการต่างๆ ส�ำหรับผู้สูงอายุ เพ่ือให้ผู้สูงอายุได้อยู่กับครอบครัวได้อย่างมีความสุข อาทิ บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุ ถึงบ้าน ซ่ึงมีระบบการออกใบอนุญาตและการติดตามประเมินผลผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้บริการมีมาตรฐาน และการสร้างเครือข่ายเพ่ือนผู้สูงอายุ โดยจัดท�ำ แอพพลิเคชันเพื่อเป็นช่องทางสื่อสารและศูนย์ข้อมูลส�ำหรับผู้ท่ีต้องการให ้ ความช่วยเหลือและผู้ที่ขอรับความช่วยเหลือซ่ึงกันและกันระหว่างเครือข่าย เป็นต้น คณะกรรมาธิการการเมือง สภานติ บิ ญั ญตั แิ ห่งชาติ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นายกล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการการเมือง สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ และคณะ เดินทางเยือนและประชมุ ทวภิ าคี ณ สาธารณรฐั ฟนิ แลนด์ สาธารณรัฐเอสโตเนยี สาธารณรัฐลัตเวีย และสาธารณรัฐลิทัวเนีย โดยได้เข้าพบปะหารือกับ นายนพพร อัจฉริยวนิช เอกอัครราชทูตไทย ประจ�ำฟินแลนด์ เพ่ือรับฟังบรรยายสรุปเก่ียวกับประเด็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง และความสัมพันธ์ของ สาธารณรัฐฟินแลนด์และกลุ่มทะเลบอลติก และได้เข้าร่วมประชุมหารือ กับนาย Andres HerKel ประธานคณะกรรมการต่อตา้ นการทจุ ริตและ ประพฤติมิชอบ (Anti-Corruption Committee of Riigikogu) พร้อมท้ัง แลกเปลี่ยนข้อมูลเก่ียวกับกลไก และการด�ำเนินงานป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของท้ังสองประเทศ จากน้ัน เยยี่ มชม e-Estonia Showroom และรบั ฟงั บรรยายสรปุ การดำ� เนนิ งาน เร่ือง e-Governance ซึ่งมีความก้าวหน้าในอันดับต้นๆ ของโลก รวมทง้ั การรับบรกิ ารภาครัฐดว้ ยบัตรประจำ� ตวั ประชาชนใบเดยี ว
35 แวดวงกรรมาธิการ คณะกรรมาธกิ ารการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม สภานิตบิ ัญญตั แิ หง่ ชาต ิ วันท่ี ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ เกาะพะลวย อ�ำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พลโท ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ศึกษาดูงาน เกี่ยวกับการบริหารจัดการเกาะพลังงานสะอาด (Green Island) พร้อมทั้งรับฟังข้อมูลเก่ียวกับการด�ำเนินงานด้าน การบริหารจัดการเกาะพลังงานสะอาดจากหน่วยงานที่เก่ียวข้อง อาทิ ระบบประปาโดยพลังสูบน้�ำแสงอาทิตย์ การผลิตไฟฟ้าชุมชนด้วยกังหันลมและแผงโซล่าเซลล์ นอกจากน้ี คณะได้เย่ียมชมพิพิธภัณฑ์พลังงานสะอาดของ โรงเรียนบ้านเกาะพลวย พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการด้านพลังงานสะอาด อันจะน�ำไปสู่ข้อเสนอแนะในการพัฒนาต่อไป คณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม สภานติ ิบัญญัตแิ หง่ ชาติ วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ศูนย์ซ่อมบ�ำรุงรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จ�ำกัด (คลองตัน) เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พลโท จเรศักณิ์ อานุภาพ ประธานคณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม สภานติ ิบญั ญตั ิแหง่ ชาต ิ ศึกษาดงู านและ ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารและเจ้าหน้าท่ี บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จ�ำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการด�ำเนินงาน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ จากน้ัน เย่ียมชมศูนย์ซ่อมบ�ำรุง รถไฟฟ้า โดยมี นายวิสุทธ์ิ จันมณี รักษาการกรรมการผู้อ�ำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จ�ำกัด และคณะ เจ้าหนา้ ท่ีให้การต้อนรบั
เอกสารขา่ วรฐั สภา 36 คณะกรรมาธิการการทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม สภานติ ิบญั ญัตแิ หง่ ชาติ วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พลโท ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดการเสวนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “เกาะ : ทรัพยากรล้�ำค่า จะรักษาให้ยั่งยืนได้อย่างไร?” ส�ำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดเสวนาครั้งน้ี เพื่อรับฟัง ข้อมูลกลไกการบริหารจัดการพื้นท่ีเกาะที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อหาแนวทางการฟื้นฟู การอนุรักษ์ และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติประเภทเกาะให้เป็นแหล่งท่องเท่ียวที่มี คุณภาพ มีความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และความหลากหลายทาง ชีวภาพอย่างยั่งยืนต่อไป ส�ำหรับกลุ่มเป้าหมายในการเข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้แทนจากหน่วยงาน ท่ีเก่ียวข้อง ผู้แทนชุมชน และประชาชนทั่วไป จ�ำนวน ๑๐๐ คน ซ่ึงคณะกรรมาธิการ จะน�ำผลท่ีได้รับจากการเสวนาไปพิจารณา แนวทางการบริหารจัดการเกาะให้มีประสิทธิภาพ โดยการมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วนเพ่ือน�ำไปสกู่ ารแกไ้ ขปญั หาอยา่ งยง่ั ยนื ต่อไป คณะกรรมาธิการการสาธารณสขุ สภานติ บิ ัญญตั แิ ห่งชาติ วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข ๓๐ วัดเจ้าอาม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นายเจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ศึกษาดูงานและแลกเปล่ียน ความคิดเห็นร่วมกับแพทย์หญิงอัจฉรา รังสราญนนท์ ผู้อ�ำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข ๓๐ วัดเจ้าอาม และ คณะเจ้าหน้าท่ี เก่ียวกับการด�ำเนินงานด้านการบริการสุขภาพระบบการแพทย์ปฐมภูมิ การเชื่อมโยงการให้บริการ ระหว่างระบบการแพทย์ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ รวมท้ังงบประมาณที่ใช้ในการด�ำเนินงาน ตลอดจนปัญหา อุปสรรคท่ีเกี่ยวข้อง จากนั้น ศึกษาดูงานศูนย์บริการสาธารณสุข ๒๙ (ช่วงนุชเนตร) เขตจอมทอง พร้อมทั้งแลกเปล่ียนความคิดเห็นร่วมกับ นายแพทย์โชคชยั งามทรายทอง ผอู้ �ำนวยการศูนยบ์ รกิ ารสาธารณสขุ ๒๙ (ช่วงนุชเนตร) และคณะเจ้าหน้าท่ี เกี่ยวกับการด�ำเนินงานระบบ การแพทย์ปฐมภูมิ การเชื่อมโยงการให้บริการระหว่างระบบการแพทย์ ปฐมภูมิ ทุติยภูมิและตติยภูมิ รวมท้ังงบประมาณที่ใช้ในการด�ำเนินงาน ตลอดจนปญั หาอุปสรรคที่เกย่ี วขอ้ ง
37 แวดวงกรรมาธกิ าร คณะกรรมาธกิ ารสังคม กิจการเดก็ เยาวชน สตรี ผู้สงู อาย ุ คนพกิ ารและผดู้ อ้ ยโอกาส สภานติ บิ ญั ญตั ิแหง่ ชาติ วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา และโรงเรียนจิตรลดา สายอาชีพ กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับคณะกรรมการโครงการส่งเสริมคุณธรรมและวิถีประชาธิปไตยในโรงเรียน และมูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ นำ� โดย คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณ ี รองประธานคณะกรรมาธิการ และในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธกิ ารกจิ การเดก็ และเยาวชน ศึกษาดูงานด้านการเรียนการสอน รวมถึงกิจกรรมในการส่งเสริมคุณธรรมและวิถีประชาธิปไตยในโรงเรียน โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะอธิการบดี วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดาและคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา เปิดการเรียนการสอนทั้งในระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และระดับ ปริญญาตรี มีความมุ่งหวังท่ีจะผลิตบัณฑิตท่ีมีความสร้างสรรค์ทักษะ ทางปัญญาเพ่ือน�ำไปพัฒนางานอาชีพ โดยใช้เทคโนโลยีก้าวไกลและ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ดังปรัชญา “รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม น�ำความรู้ สู้งานหนัก” ซ่ึงเป็น สิง่ ยึดเหน่ียวใหเ้ ดก็ ทกุ คนยดึ ถอื และปฏิบัตมิ าโดยตลอด คณะกรรมาธิการการเมือง สภานิตบิ ญั ญตั แิ หง่ ชาต ิ วันท่ี ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ รัฐสภา สาธารณรัฐลัตเวีย นายกล้านรงค์ จันทิก ประธาน คณะกรรมาธิการการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าเยี่ยมคารวะ H.E. Inara Murniece ประธานรัฐสภาลัตเวีย และประชุมทวิภาคีกับนาย Ojars Eriks Kalnins ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของรัฐสภาลัตเวีย โดยได ้ แลกเปล่ียนความคิดเห็น อาทิ การท�ำความยกเว้นการตรวจลงตราส�ำหรับหนังสือเดินทางการทูตและราชการ ความสัมพันธ์อาเซียน-EU บทบาทลัตเวียในบอลติก และบทบาทจีนในบอลติก จากนั้น เข้าพบปะหารือกับ คณะผู้บริหารองค์กรป้องกันและปราบปรามคอรัปชั่น (Corruption Prevention and Combating Bureau) เพื่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อคิดเห็นเก่ียวกับกลไก แนวทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของทั้งสองประเทศ ทั้งน้ี อ�ำนาจหน้าที่ขององค์กรป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันไม่ได้มีการ ก�ำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่มีอิสระในการด�ำเนินงานโดยสามารถ ด�ำเนินการฟ้องร้องศาลคดีอาญาผ่านส�ำนักงานอัยการ ดังนั้น จึงให้ ความสนใจกรณีของประเทศไทยท่ีมีการก�ำหนดเร่ืองนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญ และสามารถฟ้องร้องต่อศาลเองได้ (ในกรณีท่ีอัยการสูงสุด และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ไม่สามารถหา ขอ้ ยุติรว่ มกัน) อนงึ่ เจา้ หนา้ ท่ีของรฐั ทุกคนของสาธารณรฐั ลัตเวยี ต้อง เปิดเผยบัญชีทรพั ย์สินกับสำ� นักงานสรรพากรดว้ ย
เอกสารข่าวรัฐสภา 38 คณะกรรมาธิการวิสามัญการพทิ ักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ สภานิตบิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ วันท่ี ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ห้องประชุมอนุสรณ์สถานแห่งชาติ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กรุงเทพฯ พลอากาศเอก ชาลี จันทร์เรือง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สภานติ บิ ัญญัตแิ หง่ ชาติ เปน็ ประธานในพธิ ีเปิดนทิ รรศการ \"พทิ ักษ์สถาบนั รู้ทันกฎหมาย ระวังภยั โลกโซเซียล\" โดยมี พลอากาศเอก ณรงค์ศักด์ิ สังขพงศ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับ การพทิ กั ษส์ ถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ กลา่ วรายงาน คณะกรรมาธิการได้ร่วมกับภาคีทุกภาคส่วนจัดแสดงนิทรรศการดังกล่าวขึ้น เนื่องจากตระหนักถึงความส�ำคัญ ของสถาบันพระมหากษัตริย์ท่ีเป็นสถาบันหลักและมีความส�ำคัญต่อวิถีชีวิต สังคมขนบธรรมเนียมและประเพณี ตลอดจน การสืบทอดวัฒนธรรมไทย เป็นผลให้สังคมไทยมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของชาติ ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความจงรักภักดี ทรงเป็นที่ยึดเหน่ียวจิตใจของประชาชนชาวไทย และทรงเป็นที่เคารพรักเทิดทูน อย่างสูงย่ิงของประชาชนทั้งประเทศ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ปรากฏว่ามีการกระท�ำความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยวิธีการ ต่างๆ เป็นจ�ำนวนมาก มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในลักษณะ เป็นการหม่ินพระบรมเดชานุภาพในเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์โดย ขาดความเข้าใจกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และ สุ่มเส่ียงต่อความมั่นคงของประเทศ จึงได้จัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้ เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้อันทรงคุณค่า เกิดความภาคภูมิใจในชาติ รักและ หวงแหนแผน่ ดนิ คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม สภานิตบิ ญั ญตั ิแห่งชาต ิ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ ห้อง ๓๐๘ ช้ัน ๓ อาคารรัฐสภา ๒ พลโท ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้การต้อนรับ คณะเจา้ หน้าท่รี ะดับสงู จากสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว พร้อมทั้งแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นในประเดน็ เกยี่ วกบั การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการต่อต้าน การคา้ สัตว์ป่า ซึ่งจะเป็นประโยชนต์ อ่ การพจิ ารณากฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ งต่อไป
39 แวดวงกรรมาธกิ าร คณะกรรมาธกิ ารการเศรษฐกิจ การเงนิ และการคลงั สภานิติบัญญัติแหง่ ชาติ วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ เกาะเต่า อ�ำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พลเอก ชาตอุดม ติตถะสิริ เลขานุการคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เดินทางศึกษาดูงานเก่ียวกับ การบริหารจัดการงบประมาณ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมท้ังรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ทั้งในส่วนการจัดเก็บเองและเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ การจัดสรรรายได้ รวมไปถึงผลการ เบิกจ่ายงบประมาณประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ในการน้ี คณะเดินทางได้ลงพ้ืนท่ีศึกษาดูงานสถานท่ีก�ำจัดขยะของเกาะเต่า พร้อมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรค เกี่ยวกับ การจัดเก็บรายได้เพ่ือน�ำไปบ�ำรุงรักษาส่ิงแวดล้อมในด้านการก�ำจัดขยะมูลฝอย ซึ่งคณะกรรมาธิการจะมีการพิจารณา เพื่อมีขอ้ เสนอแนะตอ่ การพัฒนาตอ่ ไป คณะกรรมาธกิ ารวิสามญั การพทิ กั ษ์และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตริย ์ สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ วันท่ี ๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ อาคารศูนย์ปฏิบัติการ การโรงแรมและการท่องเท่ียว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ธนบุรี กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้จัดโครงการสัมมนาการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคม ออนไลน์อย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยมี นางสาวจินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และประธานอนุกรรมาธิการศึกษาติดตามและตรวจสอบการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารที่มีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย ์ กล่าวเปิดการสัมมนา และ ดร.ดวงฤทธ์ิ เบ็ญจาธิกุล รองอธิการบดี มหาวทิ ยาลยั กรงุ เทพธนบุรี กล่าวรายงาน นางสาวจินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร กล่าวว่า การสัมมนา ครัง้ นเี้ กดิ ขึน้ จากการทีค่ ณะกรรมาธกิ ารวิสามญั ฯ ไดต้ ระหนกั และเห็นถงึ ค ว า ม ส� ำ คั ญ ข อ ง สื่ อ สั ง ค ม อ อ น ไ ล น ์ ที่ เ ข ้ า ม า มี บ ท บ า ท ส� ำ คั ญ ใ น ชี วิ ต ประจ�ำวันของทุกคน แต่เน่ืองจากปัจจุบัน ผู้ใช้ยังขาดความรู้ความเข้าใจ ท่ีถกู ตอ้ งในการติดตอ่ สื่อสารหรอื เผยแพร่ข้อมลู ข่าวสารตา่ งๆ จงึ อาจใช้ สื่อสังคมออนไลน์ในทางท่ีไม่ถูกไม่ควรซ่ึงอาจส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืนโดยไม่รู้ตัว ดังน้ัน จึงจ�ำเป็นที่ควรได้รับรู้ รับทราบถึงแนวทางและหลักเกณฑ์ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และถูกวิธี
เอกสารข่าวรัฐสภา 40 คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกจิ การตำ� รวจ สภานติ ิบัญญตั แิ หง่ ชาติ วันท่ี ๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ สถานีต�ำรวจภูธรจังหวัดระนอง จังหวัดระนอง พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการต�ำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ศึกษาดูงานและเข้าร่วมประชุมกับพลต�ำรวจโท สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการต�ำรวจภูธรภาค ๘ พลต�ำรวจตรี หัสชัย เรืองมาลัย ผู้บังคับการต�ำรวจภูธรจังหวัดระนอง และหัวหน้าสถานีต�ำรวจภูธรในสังกัด เพื่อรับฟังบรรยายสรุป และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม มาตรการรักษาความปลอดภัย นักท่องเท่ียว มาตรการในการด�ำเนินการเก่ียวกับของกลาง และแนวทางการด�ำเนินการเพ่ือให้ประชาชนสวมหมวก นิรภัยในขณะขับข่ีหรือโดยสารรถจักรยานยนต์เพ่ิมมากขึ้น รวมทั้ง ปัญหาและอุปสรรคในการด�ำเนินงานของต�ำรวจภูธรจังหวัดระนองและ สถานีต�ำรวจภูธรในสังกัด โอกาสน้ี คณะกรรมาธิการ ได้ให้ข้อแนะน�ำ ผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมใน พ้ืนที่จังหวัดระนอง รวมท้ังได้มีการแลกเปล่ียนความคิดเห็นเกี่ยวกับ การปฏิรูปต�ำรวจตามนโยบายของรัฐบาลด้วย ทั้งน้ี คณะกรรมาธิการ จะได้รวบรวมข้อมูลและข้อคิดเห็นต่างๆ เพ่ือน�ำไปประกอบการ พจิ ารณาดำ� เนนิ การตามหน้าทแี่ ละอ�ำนาจของคณะกรรมาธิการตอ่ ไป คณะกรรมาธิการการพาณิชย ์ การอตุ สาหกรรม และการแรงงาน สภานติ บิ ัญญัติแห่งชาติ วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ ห้องรับรองพิเศษ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะ ให้การ รับรองนายซั่ง ฝูหลิน (H.E.Mr. Shang Fulin) ประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ สภาที่ปรึกษาทางการเมือง แห่งชาติจีน (CPPCC) ในโอกาสหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รวมทั้งการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมี พลเอก ดนัย มีชูเวท ประธาน คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะ พร้อมด้วย นายวิทวัส บุญญสถิตย์ โฆษกคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง สภานติ ิบัญญตั ิแหง่ ชาติ และคณะ รว่ มใหก้ ารรบั รอง โอกาสนี ้ ได้มี การหารือแลกเปล่ียนความคิดเห็นใน ๔ ประเด็น ได้แก่ ๑. สภาพ พ้ืนฐานการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยเมื่อปีท่ี ผ่านมา ๒. สภาพพ้ืนฐาน วิธีการ และปัญหาท่ีเกิดข้ึนในการพัฒนา เขตอุตสาหกรรมโดยความร่วมมือกับฝ่ายจีนในปัจจุบัน และแนวทาง การพัฒนาในอนาคต ๓. สภาพพ้ืนฐานส่ิงอ�ำนวยความสะดวกด้าน โครงสร้างพื้นฐาน การเงิน ภาษี กฎหมายและนโยบายต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องในเขตอุตสาหกรรมความร่วมมือ และ ๔. ข้อเสนอแนะทางด้านการสร้างเขตอุตสาหกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน เพอื่ การสง่ เสรมิ ความร่วมมือดา้ นกำ� ลังผลิตและการลงทนุ ระหวา่ งสองประเทศ
41 กฎหมายควรรู้ กฎหมายควรรู้ พระราชบญั ญัตกิ องทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติกองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันท่ี ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป พระราชบัญญัติฉบับน้ีบัญญัติให้จัดต้ังกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาข้ึนเป็นหน่วยงานของรัฐและมีฐานะ เป็นนิติบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิที่จะรับและเข้าถึง การศึกษาและพัฒนาอย่างท่ัวถึง รวมท้ังให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จนส�ำเร็จการศึกษา ขั้นพื้นฐาน และศึกษา วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งให้มีกลไกการท�ำงาน โดยมี คณะกรรมการบริหารกองทุน ท�ำหน้าที่ในการก�ำหนดนโยบาย เป้าหมาย และแนวทางการด�ำเนินงานของกองทุน โดยมีส�ำนักงานกองทุนท�ำหน้าท่ีในการด�ำเนินงานของกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน มีขอบเขตของ การใช้จ่ายของกองทุน เพ่ือใช้ในการด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส โดยอาจด�ำเนินการ โดยวิธีการให้เปล่า ให้ยืม หรือให้กู้ยืมก็ได้ รวมท้ังสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับผู้บริจาคเงินให้แก่ กองทุนมีสิทธิน�ำจ�ำนวนเงินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อนหรือรายจ่ายเช่นเดียวกับการบริจาคเพ่ือการศึกษาตาม ประมวลรัษฎากร
เอกสารขา่ วรัฐสภา 42 สรปุ เนือ้ หาโดยสงั เขปพระราชบัญญตั กิ องทนุ เพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ เหตผุ ล การประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่มาตรา ๕๔ วรรคหก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหจ้ ัดตัง้ กองทนุ เพอ่ื ใช้ในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย ์ ลดความเหลือ่ มลำ�้ ในการศึกษา และเสริมสร้างและ พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู โดยให้รัฐจัดสรรงบประมาณให้แก่กองทุนหรือใช้มาตรการหรือกลไกทางภาษ ี รวมท้ังการให้ผู้บริจาคทรัพย์สินเข้ากองทุนได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีโดยให้กองทุนมีการบริหารจัดการท่ีเป็น อสิ ระ จึงจำ� เปน็ ตอ้ งตราพระราชบัญญตั นิ ี้ การจัดต้ังกองทุน ๑. ก�ำหนดให้จัดตั้ง “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” มีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้างความเสมอภาค ทางการศึกษา และมีวัตถุประสงค์อื่นตามที่บัญญัติ โดยการด�ำเนินการเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวกองทุนจะ ด�ำเนินการเองหรือรว่ มกบั หนว่ ยงานอนื่ ของรฐั หรือภาคเอกชนในการด�ำเนนิ การกไ็ ด้ ๒. กำ� หนดใหก้ องทุนประกอบดว้ ยเงนิ และทรพั ย์สนิ ตามทบ่ี ัญญตั ไิ ว้ ๓. ก�ำหนดให้ผู้บริจาคเงินให้แก่กองทุนมีสิทธิน�ำจ�ำนวนเงินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อนหรือรายจ่าย เชน่ เดยี วกบั การบริจาคเพ่อื การศกึ ษาตามประมวลรษั ฎากร ๔. กำ� หนดให้กองทนุ เป็นหน่วยงานของรฐั และมีฐานะเปน็ นิตบิ คุ คลที่ไมเ่ ป็นสว่ นราชการตามกฎหมายว่าดว้ ย ระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดนิ หรอื รฐั วิสาหกจิ ตามกฎหมาย ๕. ก�ำหนดให้กิจการของกองทุนไม่อยู่ในบังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วย แรงงานสมั พนั ธ ์ กฎหมายวา่ ดว้ ยการประกันสงั คม และกฎหมายว่าด้วยเงนิ ทดแทน ๖. ก�ำหนดอ�ำนาจกระทำ� การตา่ ง ๆ ตามวัตถปุ ระสงคข์ องกองทนุ ๗. กำ� หนดหลักเกณฑ์การใชจ้ ่ายเงินของกองทนุ ๘. ก�ำหนดหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส เพื่อการ ด�ำเนินการตามวัตถปุ ระสงคข์ องกองทนุ ๙. ก�ำหนดให้เพ่ือประโยชน์ในการลดความเหล่ือมล�้ำในการศึกษากองทุนจะด�ำเนินการเองหรือจะร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษาหรือหน่วยงานอื่นก็ได้ โดยให้กองทุนมีอ�ำนาจสนับสนุน ค่าใชจ้ า่ ยให้แกห่ น่วยงานดงั กล่าวได้ตามทคี่ ณะกรรมการกำ� หนด ๑๐. ก�ำหนดให้ในการด�ำเนินการหรือจัดให้มีการศึกษา วิจัย หรือค้นคว้าแนวทางในการพัฒนาครูกองทุน จะด�ำเนินการเองหรือจะร่วมกับหรือมอบหมายให้บุคคลอ่ืนหรือสถาบันอุดมศึกษาด�ำเนินการให้ก็ได้ และในกรณีที่ สมควรจัดต้ังสถาบันต้นแบบในการผลิตและพัฒนาครู กองทุนจะส่งเสริม สนับสนุน หรือร่วมกับหน่วยงานอื่นของรัฐ หรอื ภาคเอกชนดำ� เนนิ การก็ได้ ๑๑. ก�ำหนดให้เงินท่ีผู้รับทุนได้รับมาจากกองทุนเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายท่ีเกี่ยวเน่ืองกับการศึกษา คา่ ครองชพี และทุนเพอื่ การฝึกอบรม ให้ถอื วา่ เปน็ เงนิ รางวลั เพื่อการศกึ ษาหรือคน้ ควา้ ในวทิ ยาการตามประมวลรัษฎากร ๑๒. ก�ำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินของกองทุนต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่าเพ่ือประโยชน์สูงสุดในการด�ำเนินการ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคทางการศึกษา และมีมาตรการป้องกันการทุจริตท่ีเหมาะสม รวมทั้งก�ำหนดหลักเกณฑ์ในการ เผยแพร่ขอ้ มูลเก่ยี วกับการใช้จ่ายเงนิ ของกองทนุ ๑๓. ก�ำหนดให้ทรัพย์สินของกองทุนท่ีใช้หรือได้มาเพื่อการด�ำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุน ตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี การบังคับทางปกครอง และบุคคลใดจะยกอายุความหรือ ระยะเวลาในการครอบครองขึ้นเปน็ ข้อต่อสกู้ บั กองทนุ ในเร่ืองทรพั ย์สนิ ของกองทุนมิได้
43 กฎหมายควรรู้ การบรหิ ารกิจการกองทุน ๑. ก�ำหนดให้มี “คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งต้ัง เป็นประธานกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการโดยต�ำแหน่ง และผู้จดั การกองทนุ เป็นกรรมการและเลขานุการ ๒. กำ� หนดคณุ สมบตั ิและลักษณะตอ้ งห้ามของประธานกรรมการและกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ ๓. ก�ำหนดวาระการดำ� รงต�ำแหนง่ และการพน้ จากตำ� แหนง่ ของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคณุ วุฒิ ๔. ก�ำหนดหลกั เกณฑก์ ารแต่งตงั้ ประธานกรรมการหรือกรรมการผูท้ รงคณุ วฒุ ิแทนต�ำแหน่งทว่ี า่ ง ๕. ก�ำหนดหน้าทแ่ี ละอำ� นาจของคณะกรรมการบรหิ ารกองทุนเพือ่ ความเสมอภาคทางการศึกษา ๖. ก�ำหนดหลักเกณฑ์การใช้อ�ำนาจของคณะกรรมการเพื่อด�ำเนินการขอข้อมูลส่วนบุคคลท่ีจ�ำเป็นต่อ การด�ำเนินงานของกองทุนท่ีอยู่ในความครอบครองของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่น เพ่ือประโยชน์ในการด�ำเนินการ ตามวัตถปุ ระสงค์ของกองทุน ๗. ก�ำหนดองค์ประชุม การประชมุ และการวนิ จิ ฉัยช้ีขาดของที่ประชมุ คณะกรรมการ ๘. ก�ำหนดให้มติของคณะกรรรมการผูกพันส่วนราชการซึ่งมีผู้แทนร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย แม้ว่าในการ พิจารณาวินิจฉัยเร่ืองนั้น ผู้แทนส่วนราชการที่เป็นกรรมการจะมิได้เข้าร่วมพิจารณาวินิจฉัยก็ตาม ถ้ามีความเห็น แตกตา่ งกนั สองฝา่ ย ให้บนั ทกึ ความเหน็ ของกรรมการทกุ ฝา่ ยไวใ้ หป้ รากฏในเรอื่ งนนั้ ดว้ ย ๙. ก�ำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของประธานกรรมการและกรรมการ และ ค่าตอบแทนของอนุกรรมการและคณะทำ� งาน ๑๐. กำ� หนดหนา้ ท่แี ละอ�ำนาจของสำ� นักงานกองทุน ๑๑. ก�ำหนดคุณสมบตั แิ ละลกั ษณะตอ้ งหา้ มของผู้จดั การกองทุนซ่ึงมาจากการแตง่ ตั้งของคณะกรรมการ ๑๒. ก�ำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณวุฒิ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ วิธีการสรรหาการด�ำรง ต�ำแหน่ง การพ้นจากต�ำแหน่ง ค่าจ้าง ค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และการทดลองปฏิบัติงานหรือการ ปฏิบัตงิ านในหน้าทีผ่ ้จู ัดการ และการทำ� สัญญาจา้ งผู้จดั การกองทนุ ๑๓. กำ� หนดหลักเกณฑก์ ารพ้นจากต�ำแหน่งของผจู้ ัดการกองทนุ ๑๔. ก�ำหนดให้ผู้จัดการกองทุนเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของส�ำนักงานกองทุน และรับผิดชอบ การบริหารกจิ การของสำ� นกั งานกองทุน ๑๕. ก�ำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะท�ำงาน และการจ้างพนักงานและลูกจ้างของ สำ� นกั งานกองทนุ ๑๖. ก�ำหนดให้ในการปฏิบัติหน้าท่ี ผู้จัดการต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการ โดยในกิจการของกองทุน ท่ีเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้จัดการเป็นผู้แทนของกองทุนและก�ำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการรักษาการแทนและ การปฏิบตั กิ ารแทนผูจ้ ดั การกองทุน ๑๗. ก�ำหนดให้ประธานกรรมการ กรรมการ ผู้จัดการ พนักงาน และลูกจ้างท่ีมีหน้าท่ีและอ�ำนาจในการ บริหารงานในส�ำนักงานกองทุนตามท่ีคณะกรรมการก�ำหนด ต้องไม่มีส่วนได้เสียในกิจการของกองทุนไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม โดยให้คณะกรรมการมีอ�ำนาจวินิจฉัยว่าการกระท�ำใดของบุคคลดังกล่าวเป็นการกระท�ำท่ีถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ เสียในกิจการของกองทนุ การบญั ชแี ละการตรวจสอบ ๑. ก�ำหนดให้กองทุนต้องจัดให้มีระบบบัญชีท่ีเหมาะสมเพื่อบันทึกรายการทางบัญชีและแสดงผลการด�ำเนินงาน และฐานะการเงินของกองทนุ โดยถกู ต้อง โดยใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานการบัญชที ีร่ บั รองท่วั ไป
เอกสารข่าวรัฐสภา 44 ๒. ก�ำหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับการจัดท�ำรายงานการเงินเพ่ือแสดงผลการด�ำเนินงานและฐานะการเงิน การรับเงิน การจา่ ยเงนิ และการเกบ็ รกั ษาเงนิ ของกองทุน โดยใหเ้ ปน็ ไปตามท่คี ณะกรรมการก�ำหนด ๓. ก�ำหนดให้ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชีที่ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้ความเห็นชอบ เป็นผู้สอบบัญชีของกองทุน โดยให้ผู้สอบบัญชีท�ำรายงานการสอบบัญชีของกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการ ภายใน ๑๘๐ วันนับแต่วันสน้ิ ปีบญั ช ี และใหป้ ระกาศรายงานการเงินดังกล่าวในราชกจิ จานุเบกษา ๔. ก�ำหนดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบภายใน ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กรรมการ ผู้แทนส�ำนักงบประมาณคนหน่ึง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการแต่งต้ังคนหน่ึง เป็นกรรมการ ท�ำหน้าท่ี ตรวจสอบภายในเพือ่ รายงานผลการตรวจสอบโดยตรงตอ่ คณะกรรมการบรหิ ารกองทนุ ๕. ก�ำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาเกี่ยวกับการจัดท�ำรายงานประจ�ำปีของกองทุน เพ่ือเสนอต่อคณะ รฐั มนตร ี สภาผแู้ ทนราษฎร วุฒสิ ภา และเปิดเผยใหป้ ระชาชนทราบ การประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งานของกองทนุ ๑. ก�ำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาเก่ียวกับการประเมินผลสัมฤทธ์ิในการด�ำเนินงานของกองทุน ทุกรอบ การประเมิน ๓ ปีโดยก่อนครบก�ำหนด ๓ ปีไม่น้อยกว่า ๖ เดือน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอต่อ คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลการด�ำเนินงานของกองทุน จ�ำนวนไม่น้อยกว่า ๓ คนแต่ไม่เกิน ๕ คน และให้คณะกรรมการประเมินผลรายงานผลการประเมินให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๑๘๐ วันนับแต่วันสิ้นรอบ การประเมิน และเมื่อคณะรฐั มนตรมี มี ตริ บั ทราบ ใหแ้ จง้ ให้กองทุนทราบและใหก้ องทนุ เผยแพร่ใหป้ ระชาชนท่วั ไปทราบ ๒. ก�ำหนดหน้าทแี่ ละอำ� นาจของคณะกรรมการประเมนิ ผล การกำ� กบั และดูแล - ก�ำหนดให้นายกรัฐมนตรีมีอ�ำนาจส่ังให้กองทุนชี้แจง แสดงความคิดเห็น ท�ำรายงาน หรือยับยั้งการ กระท�ำท่ีไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตามมาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติน้ี หรือไม่สอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐตามที่ บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยุทธศาสตร์ชาติ แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ นโยบายของ รัฐบาล และมติคณะรัฐมนตรีท่เี ก่ยี วกบั กองทนุ ตลอดจนสั่งสอบสวนข้อเทจ็ จริงเกย่ี วกบั การดำ� เนนิ งานของกองทนุ ขอ้ ดีพระราชบัญญตั กิ องทุนเพ่อื ความเสมอภาคทางการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑. มีมาตรการในเร่ืองการให้ความช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล�้ำในการศึกษา เสริมสร้าง และพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู เงินและทรัพย์สินของกองทุนจะถูกน�ำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ ซึ่งจะท�ำให้ ประชาชนมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาและพัฒนาอย่างเสมอภาคและทั่วถึงเพื่อให้มีความสามารถในการประกอบอาชีพตาม ความถนัดและมีศักยภาพท่ีจะพึ่งพาตนเองในการด�ำรงชีวิตได้ ครูและสถานศึกษาจะได้รับการพัฒนาคุณภาพและ ประสิทธิภาพให้สามารถจัดการเรียนการสอนท่ีท�ำให้ผู้เรียนซ่ึงมีพื้นฐานและศักยภาพท่ีแตกต่างกันสามารถรู้และพัฒนา ความถนัดตามศักยภาพของตนได้ ๒. ความเสมอภาคทางการศึกษาจะช่วยยกระดับการศึกษาสูงสุดของประชาชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และผู้ด้อย โอกาสให้สูงข้ึน ซ่ึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนกลุ่มนี้ผ่านการมีรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และครอบครัวทีด่ ีขน้ึ ซ่งึ จะชว่ ยลดความเหลื่อมลำ้� ทางสงั คมเศรษฐกิจในประเทศไทยได้ในระยะยาว ๓. การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาจะช่วยให้มีประชากรวัยแรงงานที่มีทักษะเข้าสู่ตลาดแรงงานและ ระบบฐานภาษีของรัฐบาลมากข้ึนในอนาคต รวมทั้งป้องกันปัญหาด้านสุขภาพและสังคมด้านต่าง ๆ อันเนื่องมาจาก การศกึ ษาทส่ี งู ขน้ึ ของประชาชน ซ่ึงจะช่วยสง่ เสริมการพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมไทยใหม้ ีการพัฒนาท่ยี ั่งยนื ในอนาคต
45 กฎหมายควรรู้ ๔. ระดับการศึกษาที่สูงข้ึนในภาพรวม และโดยเฉพาะอย่างย่ิงความเสมอภาคทางการศึกษาท่ีดีขึ้นระหว่าง ประชากรผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ และประชากรทั่วไป จะช่วยส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างมาก งานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์จ�ำนวนมากแสดงให้เห็นว่าความเสมอภาคทางสังคม เศรษฐกิจและการศึกษาช่วยส่งเสริม การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจผ่านการพฒั นาทุนมนุษย์ (Human Capital) ขอ้ มลู :- คณะกรรมการอสิ ระเพอ่ื การปฏิรปู การศึกษา “ประกาศราชกจิ จานุเบกษา พ.ร.บ. กองทนุ เพ่ือความเสมอภาค ทางการศึกษา” สืบค้นเมื่อวนั ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ จาก http://www.thaiedreform.org/news/ 1131/ ราชกจิ จานุเบกษา “พระราชบญั ญตั ิกองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑” สืบค้นเมอื่ วันท่ ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/ A/033/1.PDF สภานิติบัญญัตแิ หง่ ชาติ. การพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญัตขิ อง สนช. “ร่างพระราชบัญญตั กิ องทุน เพือ่ ความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ....” สืบค้นเมื่อวนั ท่ ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ จาก http://www.senate.go.th/w3c/senate/lawdraft.php สภานติ ิบัญญตั แิ ห่งชาต ิ “ร่างพระราชบญั ญัตกิ องทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เปน็ ผู้เสนอ)” สบื ค้นเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ จาก http://www.senate. go.th/document/manual/692.pdf
เอกสารขา่ วรฐั สภา 46 ภาพเกา่ เล่าเรือ่ ง ชนชาติจามในแผ่นดินสยามสมัยอยุธยา ชาวจามหรือแขกจามจ�ำนวนหน่ึงได้อพยพเข้ามาต้ังถิ่นฐาน ในกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นซึ่งในเวลานั้นชนชาติจาม ในอาณาจักรจัมปาได้เข้ามารับนับถือศาสนาอิสลามแล้ว ชาวจามใน สมัยอยุธยาตอนต้นจึงเป็นมุสลิมจามมิใช่ฮินดูจาม หรือพุทธจามนิกาย มหายานอีกต่อไป ประชาคมมุสลิมจามหรือแขกจามในอยุธยาต้ังนิคม ของพวกตนอยู่บริเวณปากคลองคูจามที่เอกสารเก่าเรียกว่า “ปทาคูจาม” แปลว่า “ค่ายคูของชาวจาม” ซ่ึงอยู่ด้านใต้ของเกาะเมืองใกล้กับ วัดพุทไธสวรรย์
47 ภาพเก่าเล่าเร่ือง “ปทาคูจาม” เป็นค�ำท่ีปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติกล่าวว่า พ.ศ. ๑๙๕๒ สมเด็จพระรามราชาธิราช (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๙๓๘-๑๙๕๒ / ค.ศ. ๑๓๙๕-๑๔๐๙) ทรงให้ จับกุมออกญามหาเสนาบดีในข้อหาเป็นกบฏ ออกญาผู้นี้จึงหนีออกจากพระนครโดยข้ามแม่น้�ำไปยังฝั่งปทาคูจาม ต่อมาขุนนางผู้น้ีได้ทูลเชิญสมเด็จพระนครินทราธิราช (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๙๕๒-๑๙๖๗ / ค.ศ. ๑๔๐๙-๑๔๒๔) ผู้ครองเมืองสุพรรณบุรีให้เสด็จมาเอาพระราชสมบัติ สมเด็จพระนครินทราธิราชได้ทรงเนรเทศสมเด็จพระรามราชาธิราช ใหไ้ ปครองเมอื งที่ “ปทาคูจาม” แทน บริเวณดังกล่าวยังคงมีศาสนสถานของแขกจาม คือ มัสยิดและกุโบร์ (สุสาน) อยู่ในปัจจุบัน (ดูรายละเอียด ใน “พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ, ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหลวง ประเสริฐอักษรนิติ ฉบับสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิจชิโนรส และพงศาวดารเหนือ เล่ม ๑ (พระนคร : โรงพิมพ์คุรุสภาฯ ๒๕๐๔) หน้า ๔ ; พลับพลึง คงชนะ :, “พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ชุมชนจาม อยุธยา” วารสารประวตั ิศาสตร ์ (๒๕๔๒) : หน้า ๗๑)
เอกสารข่าวรัฐสภา 48 ชาวจามเดินทางเข้ามาสู่สยามเป็นระยะ ๆ ส่วนหน่ึงเพ่ือประกอบการค้า และอีกส่วนหนึ่งอพยพเข้ามา เพราะปัญหาการเมืองเนื่องจากอาณาจักรจัมปาถูกรุกรานโดยเวียดนาม (อันนัม) ในช่วงปลายพุทธศตวรรษท่ี ๒๑ ท�ำให้ชาวจามจ�ำนวนหน่ึงต้องอพยพลี้ภัยไปยัง ชวา มลายู กัมพูชา และสยาม (D.G.E. Hall, A History of South-East Asia, p.218 ; Raymond Scupin, “Islam in Thailand before the Bangkok Period,” Journal of The Siam Society 69, 1 (January 1980) : 68.) นอกจากน้ีชาวจามซึ่งตั้งชุมชนอยู่ในกัมพูชายังถูกกองทัพของสยามซึ่งยกไปตีกัมพูชากวาดต้อนเข้ามาเป็นเชลย ดังปรากฏสงครามระหว่างอยุธยากับเขมรญวน ในรัชกาลสมเด็จพระราเมศวร ซ่ึงขึ้นครองราชย์เป็นครั้งท่ี ๒ ในระหว่าง ปี พ.ศ. ๑๙๓๑-๑๙๓๘ เป็นต้น ท้ังนี้ชาวจามที่อพยพเข้าไปในกัมพูชาได้ต้ังชุมชนอยู่ในเขตกัมปงธม (Kampong Thom) และก�ำปงจาม (Kampong Cham) ใกล้กับแม่น�้ำโขงห่างจากพนมเปญ เมืองหลวงปัจจุบันไปราว ๑๒๐ กิโลเมตร เม่ือสยามในช่วงอยุธยาตอนต้นยกทัพไปตีกรุงกัมพูชาคงได้กวาดต้อนชาวจามเข้ามาด้วย (ดูรายละเอียดใน พลับพลึง คงชนะ :, พฒั นาการทางประวัตศิ าสตรช์ มุ ชนจาม อยุธยา, หนา้ ๗๑) เมื่อมีชาวจามอพยพเข้ามามากขึ้น ชุมชนจึงขยับขยายออกไป โดยตั้งบ้านเรือนขนานไปตามแนวสองฟาก คลองคูจามซ่ึงติดต่อกับคลองตะเคียน (คลองขุนละครไชย) อันเป็นที่ตั้งของชุมชนมุสลิมมลายู และชุมชนแขกมักกะสัน ซ่ึงเป็นกลุม่ ชาตพิ นั ธ์แุ ละนับถือในศาสนาอสิ ลามเหมือนกัน
49 ภาพเกา่ เลา่ เรอื่ ง กรุงศรีอยุธยามีตลาดใหญ่รอบพระนครเป็นตลาดน้�ำถึง ๔ แห่งคือ ตลาดน้�ำวนบางกระจะ หน้าวัดพนัญเชิง ตลาดปากคลองคูจามท้ายสุเหร่าแขก ตลาดปากคลองคูไม้ร้อง และตลาดปากคลองวัดเดิม (วัดอโยธยา) ใต้ศาลเจ้า ปุนท่ากง (ดูรายละเอียดใน ค�ำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม เอกสารจากหอหลวง (กรุงเทพฯ : คณะกรรมการ ชำ� ระประวตั ศิ าสตรไ์ ทยและจดั พมิ พเ์ อกสารทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละโบราณคด ี สำ� นกั นายกรฐั มนตร,ี ๒๕๓๔) หนา้ ๓) ชุมชนจามซึ่งตั้งถัดจากปากคลองคูจามไปทางด้านหลังหมู่บ้าน (พลับพลึง คงชนะ :, อ้างแล้ว หน้า ๗๗) จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ข้างต้นย่อมเป็นส่ิงช้ีชัดได้ว่า ชนชาติจามมุสลิมหรือแขกจามมีอยู่จริงในกรุงศรีอยุธยา นับต้ังแต่ช่วงอยุธยาตอนต้น โดยชาวจามมีท้ังพ่อค้า ผู้อพยพล้ีภัยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์อยุธยา และบางส่วนเป็นเชลยศึกที่ถูกกวาดต้อนมาเม่ือมีสงครามเกิดขึ้นระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงกัมพูชา แต่หลักฐานที่ ชัดเจนท่ีสุดซ่ึงยืนยันถึงการมีตัวตนอยู่จริงของชาวมุสลิมจามในสยามประเทศนับต้ังแต่สมัยอยุธยาก็คือ “กองอาสาจาม” น่ันเอง ขอบคุณขอ้ มูลจาก อาลี เสอื สมงิ . มีนาคม ๑๑, ๒๐๑๒ ชนชาตจิ ามในแผ่นดินสยามสมัยอยธุ ยา. สบื ค้นจาก alisuasaming อาลี เสือสมิง : ศาสนาอสิ ลาม ประวตั ิศาสตร์ ศลิ ปะ วิทยาการ http://alisuasaming.org/ main/?p=2878 เมอ่ื วันท ่ี ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑
Search