สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 1 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ ก คำนำ การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มี ความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ท่ีจะพัฒนา 5 ศักยภาพ ของพ้นื ท่ีใน 5 กล่มุ อาชพี ใหม่ ให้สามารถแขง่ ขันไดใ้ น 5 ภูมภิ าคหลกั ของโลก “รเู้ ขา รู้เรา เทา่ ทนั เพือ่ แขง่ ขนั ได้ในเวที โลก” โดยไดก้ าหนดภารกิจจะพฒั นายกระดบั การจัดการศกึ ษาเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความ สามารถใหป้ ระชาชนได้ มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ที่มั่นคง มั่งคั่ง และมีงานทาอย่างยั่งยืน สานักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จึงได้กาหนด หลักการในการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานท่ีมีความยืดหยุ่น ด้านหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมทั้งเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพ ดา้ นต่างๆ ตลอดจนมคี วามสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดบั สากล ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นอู่ข้าวอู่น้าท่ีสาคัญของโลก ผลิตสินค้าทางการเกษตรสาหรับ การบริโภคท้ังภายในประเทศ และส่งเป็นสินค้าออก ดังนั้นการจัดทาหลักสูตรอาชีพท่ีเก่ียวข้องกับสาขาการเกษตร จึงนบั วา่ มีความสาคัญอย่างยิ่ง กศน.ตาบลสุวรรณคูหา ได้ตระหนักถึงความสาคัญของการประกอบอาชีพการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ ธรรมชาติ ในฐานะท่ีเปน็ หนว่ ยงานสนับสนนุ ด้านการจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มอี าชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความมั่นคง จึงได้จัดทาหลักสูตรการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ธรรมชาติขึ้น โดยเนน้ ให้กลุ่มเปา้ หมายสามารถประกอบอาชพี และมงี านทาอย่างมั่นคง ผูจ้ ัดทา กศน.ตาบลสุวรรณคหู า กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ ข สำรบญั เรอื่ ง หน้ำ คานา ก สารบัญ ข บทที่ 1 บทนา 1 บทท่ี 2 เอกสารท่เี กยี่ วข้อง 2 บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนนิ การ 10 บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน 12 บทที่ 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ 19 ภาคผนวก คณะผ้จู ดั ทา กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 1 บทท่ี 1 บทนำ ท่มี ำและควำมสำคัญ การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มี ความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็ง ให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ที่จะพัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพ่ือ แข่งขันได้ในเวทีโลก” โดยได้กาหนดภารกิจจะพัฒนายกระดับการจัดการศึกษาเพ่ือเพิ่มศักยภาพและขีดความ สามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ท่ีมั่นคง มั่งค่ัง และมีงานทาอย่างย่ังยืน สานักงานส่งเสริม การเรียนรู้ จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาไว้ว่า ต้องเป็น การดาเนินงานท่ีมีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมท้ังเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ ตลอดจนมีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาค อาเซียนและระดบั สากล ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นอู่ข้าวอู่น้าท่ีสาคัญของโลก ผลิตสินค้าทางการเกษตรสาหรับ การบริโภคทั้งภายในประเทศ และสง่ เปน็ สนิ คา้ ออก ดังนน้ั การจัดทาหลกั สตู รอาชีพทเ่ี กยี่ วข้องกบั สาขาการเกษตร จึงนบั วา่ มคี วามสาคัญอยา่ งยงิ่ สานักงานส่งเสริมการเรียนรู้ ได้ตระหนักถึงความสาคัญของการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ธรรมชาติ ในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพและ ต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความม่ันคง จึงได้จัดทาหลักสูตรการการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ธรรมชาติ ข้ึน โดยเน้นให้กลุ่มเป้าหมายสามารถประกอบอาชีพการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ธรรมชาติและมีงานทาอย่าง มนั่ คง วัตถุประสงค์ 1. กลุม่ เป้าหมายตดั สนิ ใจประกอบอาชพี ใหส้ อดคลอ้ งกบั ศักยภาพตนเอง ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการประกอบอาชีพและบริหารจัดการอาชีพการ เพาะพนั ธ์ุไมพ้ ืน้ ถ่นิ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 3. กล่มุ เปา้ หมาย มีคณุ ธรรม จริยธรรม และมีจิตสานึกความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อนื่ และสงั คม ผลท่ีคำดวำ่ จะได้รบั ผู้เขา้ รับการอบรมสามารถนาความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์การเรียนรตู้ า่ งๆ ไปใชใ้ นการประกอบอาชพี ทเ่ี ป็นการเข้าสูอ่ าชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ หรอื พฒั นาอาชพี หรือตอ่ ยอดอาชีพเดิม เพื่อเพ่ิมรายไดร้ ะหว่างการ อบรมตามหลกั สูตรใหแ้ กป่ ระชาชนทีม่ ีอายุ 15 ปีขนึ้ ไปได้ กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 2 บทที่ 2 เอกสำรทเ่ี ก่ียวข้อง ในการจดั ทารายงานครั้งนี้ ไดท้ าการศกึ ษาค้นควา้ เนอื้ หาจากเอกสารการศกึ ษาและรายงานทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ดังตอ่ ไปน้ี 1. การจัดการศึกษาตอ่ เนือ่ ง 2. เกษตรอินทรยี ธ์ รรมชาติ กำรจัดกำรศกึ ษำต่อเน่อื ง 1. กำรจัดกำรศึกษำต่อเนอ่ื ง การจดั การศกึ ษาตอ่ เนื่องมกี ารจดั กจิ กรรม/โครงการ/หลักสูตรการศึกษานอกระบบในรปู แบบท่ี หลากหลาย ดังน้ี 1) การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ 2) การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต 3) การศึกษาเพ่ือพัฒนา สังคมและชุมชน 4) หลักสูตรระยะสั้น 5) การศึกษาตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 6) โครงการอัน เนื่องมาจากพระราชดาริ การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ เป็นการจัดการศึกษาที่เน้นความรู้และทักษะอาชีพให้สอดคล้องกับ สภาพของแต่ละท้องถ่ิน ให้ผู้เรียนมีทักษะความชานาญการเฉพาะเร่ือง สามารถเพิ่มผลผลิต และหรือลดต้นทุน การผลิต มีความรู้และทักษะในการจัดการระบบบญั ชี การตลาด และการบริหารจัดการอยา่ งครบวงจร สามารถ ประกอบอาชีพสมัยใหม่ เป็นผู้ประกอบการเอง หรือรวมกลุ่มกันประกอบอาชีพก็ได้ และรู้จักนาเทคโนโลยีมาใช้ เพอื่ พัฒนาอาชีพได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ เช่น การทาอาหาร การนวดแผนไทย การจัดดอกไม้สด การเพาะเห็ดฟาง การประดิษฐ์ของชาร่วย การตัดเส้ือผ้าสตรี การจัดสวนหย่อม งานช่างไม้ งานช่างไฟฟ้า งานช่างก่อสร้าง คอมพวิ เตอร์เพอ่ื การประกอบอาชีพ ฯลฯ หลักสูตรระยะสั้น เน้นการจัดการศึกษาเพ่ือส่งเสริมการแก้ปัญหาความยากจนและกระจาย รายได้ให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นท่ี โดยใช้กระบวนการ กศน. ร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างกระบวนการ เรียนรู้ให้แก่คนในชุมชน ให้สามารถพัฒนาตนเองสู่ความเข้มแข็งได้อย่างย่ังยืน (กลุ่มแผนงาน สานักงาน กศน. : 2559) 2. แนวคดิ เกี่ยวกับกำรนเิ ทศกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย กศน. 1) การนเิ ทศจะต้องอยู่บนพ้ืนฐาน ปรัชญา และหลกั การของการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย สอดคล้องกบั นโยบายและจดุ เนน้ การจัด กศน. ของสานักงาน กศน. และสถานศกึ ษา 2) การนเิ ทศ กศน. ควรเปน็ กระบวนการทางานทเ่ี ป็นระบบ เช่น แผนงานโครงการกิจกรรมและ เทคนคิ ต่างๆ ในการนเิ ทศ ควรตงั้ อย่บู นเจตคติและวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ ผลของการนิเทศจะตอ้ งถกู ต้องสมบูรณ์ เชอ่ื ถือได้ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพการจัด กศน. ของสถานศึกษาไดต้ รงตามสภาพจรงิ 3) การนิเทศ กศน. เป็นกระบวนการทางานร่วมกับผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่าย ที่มุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิต เพ่ือให้เขาได้พัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างเต็มท่ี เคารพศักดิ์สิทธิ์ของความเป็นมนุษย์ อดทนต่อความแตกตาง คามหลากหลายให้ความเท่าเทียมกันเสมอภาคกัน ความเป็นอสิ ระ สรา้ งบรรยากาศทีเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตย การมสี ่วนรว่ มและการทางานเปน็ ทมี กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 3 4) การนิเทศ กศน. ควรเป็นวิชาชพี การนเิ ทศจะต้องมีการประเมินผลการนิเทศอย่างเป็นระบบ ท้ังด้านปัจจัยการนิเทศ กระบวนการนิเทศ และผลท่ีเกิดจากการนิเทศ และนาผลการประเมินมาใช้ประโยชน์ใน การปรับปรุงการดาเนนิ งานนเิ ทศ เพ่ือพฒั นาการนิเทศการศกึ ษาให้มีคุณภาพ ควำมสำคัญของกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั การนิเทศเป็นงานสาคัญและจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องดาเนินควบคู่ไปกับกา รบริหารเพราะการ นิเทศเป็นส่วนหนึ่งของการบริหาร องค์ประกอบของการบริหารย่อมข้ึนอยู่กับคน เงิน วัสดุ และการจัดการ การที่ จะบริหารคนให้มีประสิทธิภาพในการทางาน ผู้บริหารจะต้องมีเทคนิคที่เหมาะสม เทคนิคในการบริหารอย่างหนงึ่ คือ การนิเทศเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ สามารถใช้เงิน วัสดุได้อย่างคุ้มค่า มีหลักการ จัดการท่ีดี ดังนั้น การที่จะควบคุมการปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงานที่กาหนดไว้ ผู้บริหารต้องใช้ เทคนิคการบริหารงานและการนิเทศควบคู่กัน การนิเทศการศึกษาเป็นความพยายามในการแนะนา กระตุ้นใ ห้ กาลังใจช่วยเหลือของผู้เช่ียวชาญด้านการศึกษา เพ่ือให้บุคลากรทางการศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนใหม้ คี ณุ ภาพ หรอื ปรับปรงุ กระบวนการจดั การศึกษาให้มีประสทิ ธภิ าพสูงสุด โดยมกี ารสูญเปล่าทางการศึกษา นอ้ ยท่ีสุด โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีการจดั กจิ กรรมการศึกษาที่ หลากหลายให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายประเภทต่างๆ และไม่ได้สังกัด สานักงาน กศน. ทาให้เห็นความจาเป็นของ การนิเทศการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษาทุกประเภท เข้าใจนโยบายปรัชญาการจัด กศน. ทสี่ ามารถสนองความต้องการของกลุ่มเปา้ หมายผู้เรียนในทิศทางท่ีถกู ต้องและ เหมาะสมกับสภาพพน้ื ทีก่ ารจดั กจิ กรรม จดุ มงุ่ หมำยของกำรนเิ ทศกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั 1) เพ่ือส่งเสริมให้สถานศึกษาบริหารหลักสูตรจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการศึกษา พัฒนาส่ือนวตั กรรมและเทคโนโลยีและการนเิ ทศภายในอย่างมีคณุ ภาพ 2) ส่งเสรมิ ใหส้ ถานศึกษามรี ะบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐาน กศน. 3) เพ่ือให้คาปรึกษา เสนอแนะและเป็นที่พึ่งในการพัฒนาวิชาการของสถานศึกษาและสานักงาน กศน. จังหวดั 4) เพื่อประสาน สนับสนุนและเผยแพร่งานทางด้านวิชาการแก่สถานศึกษาและสานักงาน กศน. จังหวัด (อัญชลี ธรรมะวธิ ีกุล : 2553) เกษตรอินทรีย์ธรรมชำติ เกษตรอินทรีย์ คือการทาการเกษตรด้วยหลักธรรมชาติ บนพ้ืนท่ีการเกษตรท่ีไม่มีสารพิษตกค้างและ หลีกเลี่ยงจากการปนเปื้อน ของสารเคมีทางดิน ทางน้า และทางอากาศเพื่อส่งเสริมความอุดสมสมบูรณ์ของดิน ความหลากหลายทางชีวภาพใน ระบบนิเวศน์และฟื้นฟูส่ิงแวดล้อมให้กลับคืนสู่สมดุลธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมี สงั เคราะห์หรือส่ิงท่ีได้มาจากการตัดต่อ พันธุกรรม ใช้ปัจจยั การผลิตท่ีมีแผนการจัดการอย่างเปน็ ระบบในการผลิต ภายใต้มาตรฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ให้ได้ ผลผลิตสูงอุดมด้วยคุณค่าทางอาหารและปลอดสารพิษโดยมีต้นทุน การผลติ ตา่ เพอ่ื คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจพอเพียง แก่มวลมนุษยชาติ และสรรพชวี ติ กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 4 ทำไม ? ตอ้ งเกษตรอินทรยี ์ การใช้ทรัพยากรดินโดยไม่คานึงถึงผลเสียของ ปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ ก่อให้เกิดความไม่สมดุลในแร่ธาตุและ กายภาพ ของดินทาให้สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ในดินนั้นสูญหาย และไร้สมรรถภาพความไม่สมดุลน้ีเป็นอันตรายยิ่ง กระบวนการนี้ เม่ือเกิดข้ึนแล้ว จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างต่อเน่ือง ผืนดินที่ถูกผลาญไปนั้น ได้สูญเสีย ความสามารถในการดูดซับ แร่ธาตุ ทาใหผ้ ลผลติ มแี รธ่ าตุ วิตามิน และพลงั ชวี ติ ต่าเปน็ ผลใหเ้ กิดการขาดแคลนธาตุ อาหารรองในพืช พืชจะอ่อนแอ ขาดภูมิต้านทานโรคและทาให้การคุกคามของแมลง และเชื้อโรคเกิดข้ึนได้ง่ายซ่ึง จะนาไปสกู่ ารใช้สารเคมีฆ่าแมลงและ เช้ือราเพ่ิมขึ้น ดินทีเ่ สือ่ มคุณภาพน้ัน จะเรง่ การเจรญิ เติบโตของวชั พชื ให้แข่ง กับพืชเกษตร และนาไปสู่การใช้สารเคมี สังเคราะห์กาจัดวัชพืช ข้อบกพร่องเช่นน้ีก่อให้เกิดวิกฤติในห่วงโซ่อาหาร และระบบการเกษตรของเราซึ่งทาให้เกิด ปัญหาทางสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอย่างย่ิง ในโลกปัจจุบันประเทศไทย นาเข้าสารเคมีสังเคราะห์ทางการเกษตรเป็นเงิน ปีละ 4-5 หม่ืนล้านบาท เกษตรกรต้องซื้อปัจจัยการผลิตที่เป็น สารเคมีสังเคราะห์ในการเพาะปลูกทาให้การลงทุนสูง และเพิ่มข้ึนอย่างต่อเน่ืองขณะท่ีราคาผลผลิตในรอบย่ีสิบปี ไม่ได้สูงขึ้นตามสัดส่วนของต้นทุนที่สูงข้ึนน้ันมีผลทาให้ เกษตรกรขาดทุน มีหน้ีสินล้นพ้นตัวเกษตรอินทรีย์จะเป็น หนทางของการแก้ปญั หาเหล่านั้นได้ เกษตรอนิ ทรยี ค์ อื อะไร ? - ให้ปริมาณและคณุ ภาพผลผลิตทด่ี ีกวา่ - ใหอ้ าหารปลอดสารพษิ สาหรับชวี ิตทีด่ ีกวา่ - ให้ต้นทนุ การผลิตท่ีตา่ เพ่อื เศรษฐกิจทดี่ กี ว่า - ใหค้ ุณภาพชวี ติ และสุขภาพจติ ที่ดกี ว่า - ใหผ้ นื ดนิ ที่อุดมสมบรู ณ์ดีกว่า - ใหส้ ่งิ แวดล้อมทีด่ ีกวา่ ผลผลิตพืชอินทรียเ์ ป็นอยำ่ งไร? - มีรูปรา่ งดีสมส่วน - มีสสี วยเปน็ ปกติ - มกี ลนิ่ หอมตามธรรมชาติ - มีโครงสร้างของเนื้อนุ่มกรอบแน่น - มีรสชาตดิ ี - ไมม่ ีสารพษิ ตกค้าง - เก็บรักษาได้ทนทาน - ให้สารอาหารและพลงั ชวี ิต เป็นเกษตรอนิ ทรีย์ได้อย่ำงไร การเกษตรปัจจุบัน สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเกษตรอินทรีย์ได้โดยเริ่มต้นศึกษาหาความรู้จากมาตรฐาน เกษตร อินทรีย์ที่ถูกกาหนดข้ึนควรเร่ิมต้นด้วยความสนใจ และศรัทธาหลักทฤษฎีเพื่อการปฏิบัติ โดยศึกษาหา ความรู้จาก ธรรมชาติเมื่อเร่ิมปฏิบัติตามน้ีแล้วก็นับได้ว่าก้าวเข้าสู่การท าเกษตรอินทรีย์ซ่ึงเรียกได้ว่าเป็นเกษตร อินทรีย์ในระยะ ปรับเปล่ียนเมื่อปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องตามาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไม่นานก็จะเป็น กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 5 เกษตรอินทรีย์ได้ ทั้งนี้ช้า หรือเร็ว ขึ้นอยู่กับประเภทของเกษตรอินทรีย์ท่ีจะผลิตซ่ึงได้ถูกกาหนดไว้ในมาตรฐาน เกษตรอินทรีย์แล้วข้อสาคัญน้ัน อยู่ ท่ีการทาความเข้าใจเกษตรอินทรีย์ให้ถ่องแท้มีความต้ังใจจริง มีความ ขยันหม่ันเพียร ไม่ท้อถอยต่อปัญหาหรืออุปสรรค ใด มีความสุขในการปฏิบัติก็จะบรรลุวัตถุประสงค์และประสบ ความสาเร็จดังท่ีตั้งใจไวเ้ พราะเกษตรอินทรียเ์ ป็นเรื่องที่ทุก คนสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ เม่ือเกษตรอนิ ทรียแ์ ล้วสามารถ ขอรบั รองมาตรฐานจากภาครฐั จงึ จะนบั ไดว้ า่ เปน็ เกษตรอินทรยี ์ ท่สี มบรู ณอ์ นั เปน็ สมบตั ลิ า้ ค่าของแผ่นดนิ ควำมเป็นมำของมำตรฐำนเกษตรอินทรยี ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์อาหารอินทรีย์ (Organic food Production Act-OFPA) ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) และมีการแก้ไขในปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) ตลาด ร่วมกลุ่มประเทศในยุโรป (European Unity : EU.) ได้มีการรวบรวมข้อกาหนดของผลิตผลเกษตรอินทรีย์ไว้ใน ข้อกาหนดของสภาตลาดร่วมยุโรป (EEC No. 2092/91) และฉบับแก้ไข ข้อกาหนดส่วนใหญ่ให้คาแนะนา ในการนาเข้า อาหารอินทรีย์ที่ผลิตจากประเทศอื่น ภายใตม้ าตรฐานการผลติ และมาตรการตรวจสอบท่ีเหมือนกัน ทุกประการ ประเทศญ่ีปุ่น รัฐบาลญ่ีปุ่น ได้ประกาศใช้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2544 โดยอา้ งองิ กฎหมายมาตรฐานเกษตรญ่ีปุน่ (Japan Agriculture Standard – JAS) ประเทศไทย ไดม้ ีการกาหนด ใช้มาตรฐานการผลิตพืชอินทรีย์ หลังจากผ่านการปรับปรุงแก้ไขครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2543 โดย คณะทางานเฉพาะกิจปรับปรุงมาตรฐานการผลิตพืชอินทรีย์ของประเทศไทยและผ่าการ เห็นชอบ ของ คณะกรรมการบริหารงานวิจัยและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาพนั ธ์เกษตรอินทรียน์ านาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movement – IFOAM) ได้ จัดทาเกณฑ์มาตรฐานข้ันต่าสาหรับตรวจสอบรับรองเกษตรอินทรีย์เป็นท่ียอมรับในกลุ่มประเทศในยุโรป สมาคมดิน แห่งสหราชอาณาจักร (Soil Association UK) เป็นองค์กรท่ีให้ความสาคัญต่อเกษตรอินทรีย์ มีประวัติ ความเป็นมา ยาวนาน ได้พัฒนามาตรฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในสหราช อาณาจักร องค์กร เครือข่าย (Pesticide Network Action : PNA) เป็นองค์กรเครือข่ายของสหราชอาณาจักร และประเทศเนเธอแลนด์ ท่ี กาลังปฏิบัติการเคลอ่ื นไหว ซ่ึงจะทาให้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลเป็นไปได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ มำตรฐำนกำรผลิตพืชอนิ ทรีย์ของประเทศไทย มีประเดน็ หลกั สาคญั ดงั นี้ - ที่ดินไม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตา่ กว่ามาตรฐานกาหนด - พ้นื ทป่ี ลกู ต้องไมม่ สี ารเคมีสังเคราะหต์ กค้าง - ไมใ่ ช้สารเคมสี ังเคราะหใ์ นกระบวนการผลติ - ไม่ใช้เมลด็ พันธ์ทุ ี่คลกุ สารเคมสี งั เคราะห์ - ไม่ใช้สงิ่ ที่ได้จากการตดั ต่อทางพันธุกรรม - ไม่ใชม้ ูลสตั วท์ ่เี ล้ียงอย่างผิดมาตรฐาน - ปจั จัยการผลิตจากภายนอกตอ้ งไดร้ ับการรบั รองมาตรฐาน - กระบวนการผลิตตอ้ งปราศจากสิง่ ปนเปอ้ื นสารเคมสี ังเคราะห์ - สง่ เสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งิ แวดล้อม กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 6 - ต้องไดร้ บั การรบั รองมารฐานอย่างเปน็ ทางการ ข้อมูลกำรตลำดเกษตรอินทรีย์ ตลาดเกษตรอินทรีย์ของโลกในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 600,000 ล้านบาท โดยตลาดส่วนใหญ่อยู่ สหภาพยุโรป 250,000 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 200,000 ล้านบาทและญ่ีปุ่น 45,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการ ขยายตัวเพิ่มขึ้นโดย เฉลี่ยร้อยละ 25 ต่อปี ราคาสินค้าเกษตรอินทรีย์โดยท่ัวไปจะสูงกว่าสินค้าปกติร้อยละ 25 – 50 อย่างไรก็ตามปริมาณ สินค้าเกษตรอินทรีย์รวมทั้งโลกในปจั จุบันมีเพียงร้อยละ 1 ดังนั้นโอกาสและลู่ทาง ในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปขาย ในตลาดโลกของประเทศไทยยังมีอยู่มาก สาหรับการผลิตสินค้าเกษตร อินทรีย์ของประเทศไทยเริ่มเม่ือปี พ.ศ. 2535 โดยกรมวิชาการเกษตรร่วมกับบริษัทในเครือ นครหลวงและบริษัท ในเครือสยามวิวัฒน์ ผลิตข้าวอินทรีย์ในท้องที่จังหวัดพะเยาและเชียงราย เน้ือท่ีประมาณ 10,000 ไร่ ได้ผลผลิต รวม 1,200 – 1,500 ตันส่งไปขายยังต่างประเทศภายใต้การควบคุมขององค์กรตรวจสอบคุณภาพของ ประเทศ อิตาลี มีการผลิตกล้วยหอมอินทรีย์ส่งไปประเทศญีป่ ุ่นโดยสหกรณ์การเกษตรท่ายางร่วมกับสหกรณ์ผู้บริโภคโต โต้ ประเทศญี่ปุ่น มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการ 259 รายในเน้ือที่ 1,500 ไร่ ผลผลิตของสมาชิกในโครงการประมาณ 2,000 – 2,500 ตัน/ปี ปี พ.ศ. 2542 – 2546 กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวง เกษตรและ สหกรณ์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทา โครงการนาร่อง การผลิตพืชอินทรีย์เพื่อการส่งออกร่วมกับบริษัทส่งออก จานวน 6 บริษัทตั้งเป้าหมายการ ผลติ พชื อนิ ทรีย์ 6 ชนิดเพอื่ การส่งออก คอื หน่อไมฝ้ รั่ง ข้าวโพดฝกั อ่อน กล้วยไข่ สบั ปะรด กระเจยี๊ บเขยี ว และขงิ เพ่ือส่งไปจาหน่ายยังประเทศ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญ่ีปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา สินค้าเกษตรอินทรียท์ ี่มีการซื้อขาย อยู่ในตลาดโลก ปัจจุบันมีมูลค่า ประมาณปีละ 5 – 6 แสนล้านบาท ความต้องการของตลาดส่วนใหญ่เติบโตอยู่ใน ตา่ งประเทศเช่น ประเทศในสหภาพยุโรปมมี ลู ค่าประมาณ 250,000 ลา้ นบาทตอ่ ปี สหรฐั อเมริกามูลคา่ ประมาณ 200,000 ลา้ นบาทต่อปี ประเทศญ่ปี ุ่นมมี ลู ค่าประมาณ 45,000 ลา้ นบาทต่อปี โดยอัตราการขยายตัวเพ่ิมข้ึน โดยเฉล่ียร้อยละ 25 ต่อปี ราคาสินค้าเกษตรอินทรีย์โดยทั่วไปสูงกว่าสนิ ค้า ปกติ ร้อยละ 25.50 ปริมาณสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีอยู่ในตลาดโลกปัจจุบันมีเพียงร้อยละ 1 ดังน้ันโอกาสและ ลู่ทางในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทยเพื่อส่งออกไปขายในตลาดโลกยังมีอยู่มาก กรมส่งเสริมการ ส่งออก กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่ง ประเทศไทย และมหาวิทยาศาสตร์ ได้จัดทาโครงการน าร่องการผลิตพืชอินทรีย์เพ่ือการส่งออกร่วมกับ บริษัทผู้ ส่งออกของไทย ตั้งเป้าหมายการผลิตพืชอินทรีย์ 6 ชนิดเพื่อการส่งออกคือ หน่อไม้ฝร่ัง, ข้าวโพดฝักอ่อน, กล้วย ไข่, สับปะรด, กระเจ๊ียบเขียว และขิงเพื่อส่งไปจาหน่ายยังประเทศสิงคโปร์, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สหภาพยุโรปและ สหรัฐอเมริกา โดยกาหนดระยะเวลาในการดาเนินโครงการน้ีในปี พ.ศ. 2542 ถึงปี พ.ศ. 2544 กรมส่งเสริม การส่งออก กระทรวงพาณิชย์ไดจ้ ดั งานแสดงสนิ คา้ เกษตรอนิ ทรีย์ จากประเทศไทย ณ ประเทศ สิงคโปร์ ในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2544 และมีแผนท่ีจะนาเอาสินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพดีจากประเทศไทย ออกไป แสดงในงาน มหกรรมแสดงสินค้าท่ีต่างประเทศจัดข้ึนในหลายประเทศ เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการตลาด สินค้า เกษตรอินทรยี ข์ องประเทศไทย กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 7 หลกั กำรผลติ พืชอนิ ทรีย์ 1. เลือกพ้นื ทที่ ี่ไม่เคยทาการเกษตรเคมมี าไมน่ ้อยกว่า 3 ปี 2. เปน็ พื้นทที่ ค่ี ่อนข้างดอนและโล่งแจง้ 3. อย่หู า่ งจากโรงงานอตุ สาหกรรม 4. อยู่หา่ งจากแปลงท่ีใช้สารเคมีและปยุ๋ เคมี 5. ห่างจากถนนหลวงหลกั 6. มแี หล่งนา้ ท่ปี ลอดสารพิษ ขนั้ ตอนกำรทำแปลง 1. เก็บตัวอย่างดิน ดินบนและดินล่างอย่างละ 1 กิโลกรัม นาไปวิเคราะห์พร้อมกัน หาชนิดและปริมาณ ธาตุอาหารที่ อยู่ในดนิ 2. แหล่งน้าจะต้องเป็นแหล่งน้าอิสระเก็บตัวอย่างน้า 1 ลิตร นาไปวิเคราะห์เพื่อหาสารปนเปื้อนท่ีขัดต่อ หลักการ ผลิตพืชอนิ ทรีย์ 3. เม่ือทราบข้อมลู ของดินและนา้ แล้วว่าไม่มีพิษต่อการปลูกพืชอินทรยี ์ ก็เรม่ิ ทาการวางรูปแบบแปลงผลิต พืช อินทรีย์ การวางแบบแปลงจะต้องทาการขูดร่องล้อมรอบแปลง เพื่อเป็นการดักน้าหรือป้องกันน้าท่ีมีสาร ปนเป้ือนไหลบ่า มาท่วมแปลงในฤดูฝน ร่องคูรอบแปลงควรกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร พร้อมกับทาการปลูกหญ้า แฝกรมิ รอ่ งโดยรอบทั้ง ด้านในและด้านนอก รากหญา้ แฝกจะเป็นกาแพงกรองนา้ เสยี ให้กลายเป็นน้าดี ซึมเข้าไปใน ดนิ ที่ปลกู พืชอินทรยี ์ สว่ นใบ ของหญา้ แฝกกต็ ดั ไปใช้ปรับสภาพดินหรือใชค้ ลุมแปลงพืชผักอนิ ทรียต์ อ่ ไป 4. ในการเตรียมแปลงในคร้ังแรกอนุโลมให้ใช้รถไถเดินตามได้ แต่ในคร้ังต่อไปให้ใช้คนขุดพรวนดิน ถ้าใช้ รถไถบอ่ ย ๆ แลว้ มลพิษจากเคร่ืองยนต์จะตกคา้ งอยู่ในดิน และจะปฏบิ ตั ิกริ ิยาท่ีเป็นพิษต่อพืชจงึ ต้องระวัง ห้ามสูบ บุหรี่ในแปลงพืช อินทรีย์ ในการเตรียมแปลงจะต้องทาการไถพรวนพื้นท่ีในแปลงโล่งแจ้งพร้อมที่จะวางรูปแบบ แปลงในการวางรูปแบบ แปลงจะต้องวางไปตามตะวันเน่ืองจากพืชใช้แสงแดดปรุงอาหารและแสงแดดจะช่วยฆ่า เช้ือโรค แปลงที่จะปลูกพืชผัก นั้นความกว้างไม่ควรเกิน 1 เมตร ส่วนความยาวตามความเหมาะสมของพ้ืนท่ี ส่วนพ้ืนที่ท่ียังทาแปลงปลูกพืชผักไม่ทันก็ ให้นาเอาพืชตระกูลถ่ัว เช่น ถั่วเขียวหรอื ถั่วมะแฮะ มาหว่านคลุมดินเพือ่ ทาเปน็ ปยุ๋ พชื สดเป็นการปรับปรุงดนิ ไปพรอ้ ม กับเปน็ การปอ้ งกนั แมลงทจี่ ะวางไข้ในพงหญ้าด้วย 5. เม่ือเตรียมแปลงแล้วก็หันมาท าการปลูกพืชสมุนไพรไล่แมลงก่อนท่ีจะปลูกพืชหลักคือพืชผักต่าง ๆ (เสริมกับ การป้องกัน) ทางน้า ทางอากาศ และทางพื้นดิน พืชสมุนไพรที่กับแมลงรอบนอกเช่น สะเดา ชะอม ตะไคร้หอม ข่า ปลกู หา่ งกัน 2 เมตร โดยรอบพ้นื ท่ี สว่ นตน้ ดา้ นในกนั แมลงในระดบั ต่า โดยปลูกพชื สมุนไพรเต้ียลง มาเช่น ดาวเรือง กะเพรา โหระพา ตะไคร้หอม พริกต่าง ๆ ปลูกห่างกัน 1 เมตร และท่ีจะลืมไม่ได้คือจะต้องปลูก ตะไคร้หอมทกุ ๆ 3 เมตร แซมโดยรอบพ้นื ทีด่ ้านในด้วย 6. หลงั จากปลูกพืชสมุนไพรเพื่อกนั แมลงแลว้ ก็ทาการยกแปลงเพื่อปลูกพชื ผัก แต่กอ่ นท่ีจะปลูกจะต้องทา การปรับ สภาพดินในแปลงปลูก โดยการใส่ปุ๋ยคอก (ข้ีวัว) การใส่ปุ๋ยคอกนั้นจะใส่มากน้อยขึ้นอยู่กับความอุดม สมบูรณ์ของดินท่ี จะทาแปลงปลูกพืชอินทรีย์ (ข้ีวัวต้องเป็นวัวที่กินพืชตามธรรมชาติ) ทาการพรวนคลุกกันให้ทั่ว ท้ิงไว้ 7 วัน ก่อนปลูก การปลูกให้ปลูกพืชสมุนไพรกันแมลงท่ีขอบแปลงก่อน เช่น กุ้ยฉ่าย ข้ึนฉ่าย และระหว่าง แปลงก็ทาการปลูกกะเพรา โหระพา พริกต่าง ๆ เพ่ือป้องกันแมลงก่อนท่ีจะทาการปลูกพืชผัก พอครบกาหนด 7 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 8 วันพรวนดินอีกคร้ังแล้วนาเมล็ด พันธ์ุพืชมาหว่าน แต่เมล็ดพันธ์ุพืชส่วนใหญ่เป็นเมล็ดพันธุ์ท่ีคลุกสารเคมี จึงต้อง นาเอาเมล็ดพันธผ์ุ ักมาล้าง โดยการนาน้าที่มีความร้อน 50 – 55 องศาเซลเซียส วัดได้ด้วยความรสู้ ึกของตัวเราเอง คอื เอาน้วิ จ่มุ ลงไปถ้าทนความร้อนได้ก็ให้นา เมลด็ พนั ธพ์ุ ชื แช่ลงไป นาน 30 นาทีแล้วจงึ นาขึ้นมาคลกุ กับกากสะเดา หรือสะเดาผงแล้วนาไปหวา่ นลงแปลงท่ีเตรยี มไว้ คลุมฟางและรดน้า ก่อนรดน้าทุกวันควรขย้ใี บตะไคร้หอมแล้วใช้ ไม้เล็ก ๆ ตีใบกะเพราะ โหระพา ข่า ฯลฯ เพื่อให้ เกิดกลิ่นจากพืชสมุนไพรออกไล่แมลง ควรพ่นสารสะเดาอย่าง ต่อเน่ืองทุก ๆ 3 – 7 วันกันก่อนแก้ ถ้าปล่อยให้โรคแมลง มาแล้วจะแก้ไขไม่ทันเพราะว่าไม่ได้ใช้สารเคมี ควรดูแล เอาใจใส่อย่างใกล้ชิดพอถึงอายุเก็บเก่ียวควรเก็บเกี่ยวผลผลิต ถ้า ท้ิงไว้จะสิ้นเปลืองสารสมุนไพรในการปลูกพืช อินทรีย์ในระยะแรกผลผลิตจะได้น้อยกว่าพืชเคมีประมาณ 30 – 40% แต่ ราคาน้ันมากกว่าพืชเคมี 20 – 50% ผลดคี อื ทาใหส้ ุขภาพของผผู้ ลติ ดีขึ้นไม่ต้องเสยี คา่ ยา (รักษาคน) สิ่งแวดล้อมก็ดดี ้วย รายไดก้ ็เพม่ิ กวา่ พืชเคมหี ากทา อยา่ งยงั่ ยืน อยา่ งต่อเน่อื งผลผลิตจะไม่ต่างกบั การปลูกพชื เคมเี ลย 7. หลักจากทีท่ าเก็บเก่ยี วพชื แรกไปแลว้ ไม่ควรปลูกพืชชนิดเดียวกบั พชื แรก เช่น ในแปลงที่ 1 ปลกู ผักกาด เขียว ปลีได้ผลผลิตดี หลังเก็บผลผลิตไปแล้วปลูกซ้าอีกจะไม่ได้อะไรเลย ควรปลูกสลับชนิดกัน เช่น ปลูกผักกาด เขียวปลี แล้ว ตามด้วยผักบุ้งจีนเก็บผักบุ้งจีนแล้วตามด้วยผักกาดหัว เก็บผักกาดหัวแล้วตามด้วยผักปวยเล้ง เก็บปวยเลง้ ตามดว้ ยต้ังโอ๋ ทาเชน่ นที้ กุ ๆ แปลงท่ปี ลูกแล้วจะได้ผลผลิตดี 8. การปลกู พชื อนิ ทรยี ์ ปลกู ไดท้ ง้ั แนวตั้งและแนวนอน แตจ่ ะต้องปลกู พชื สมุนไพรก่อนและต่อเนื่อง แล้วต้อง ปลูก พืชสลับลงไปในแปลงพืชผักเสมอ ต้องทาให้พืชสมุนไพรต่าง ๆ เกิดการช้าจะได้มีกลิ่น ไม่ใช่ปลูกเอาไว้เฉย ๆ การปลูก พืชแนวต้ังคือพืชที่ข้ึนค้าง เช่น ถั่วฝักยาว มะระจีน ฯลฯ และแนวนอนคือ พืชผักต่าง ๆ เช่น คะน้า กะหลา่ ปลี ปวยเล้ง ตงั้ โอ๋ ฯลฯ ควรทาเช่นนท้ี ุกครงั้ ทป่ี ลกู พชื ในแปลงเกษตรอนิ ทรยี ์ 9. การปลูกพืชสมุนไพรในแปลงเพื่อไล่แมลงยังสามารถนาเอาพืชสมุนไพรเหลา่ นี้ไปขายเพิ่มรายได้อีกทาง หนึ่งด้วย หลังจากทาการเกบ็ เกีย่ วพืชผักแล้วควรรีบทาความสะอาดแปลงไม่ควรท้ิงเศษพืชท่ีมโี รคแมลงไว้ในแปลง ใหร้ ีบนาไป ทาลายนอกแปลงส่วนเศษพืชท่ีไม่มีโรคแมลงกใ็ หส้ บั ลงแปลงเป็นปุ๋ยต่อไป ตวั อย่ำงข้อกำหนดของกำรปลูกผักอนิ ทรีย์ทค่ี วรรู้ - หา้ มใชส้ ารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิด - เน้นการปรับปรุงบารุงดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ ตลอดจนการปลูกพืช หมนุ เวยี น เพอ่ื ใหพ้ ชื แข็งแรง มคี วามต้านทานต่อโรคและแมลงศตั รูพืช - ปอ้ งกันการปนเปือ้ นของสารเคมจี ากภายนอกฟารม์ ทั้งดิน นา้ และอากาศ โดยสรา้ งแนวกันชนดว้ ยการ ขดุ คู หรอื ปลูกพืชยนื ตน้ หรอื ล้มลุก - การกาจดั วัชพืช ใช้การเตรยี มดินท่ดี แี ละแรงงานคนหรอื เคร่ืองมือกล แทนการใชส้ ารเคมกี าจดั วัชพชื - เคารพสทิ ธิมนุษย์และสตั ว์ เช่น การใช้ป๋ยุ คอกจะต้องมาจากฟาร์มสัตวเ์ ลีย้ งทป่ี ล่อยธรรมชาติ เปน็ ตน้ - รักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยการรักษาไว้ซ่ึงพันธุ์พืชหรือสัตว์ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดท่ีมีอยู่ใน ทอ้ งถน่ิ ตลอดจนปลูกหรือเพาะเลี้ยงขึน้ ใหม่ จะเห็นไดว้ า่ กวา่ จะสามารถทาการปลกู พชื เกษตรอินทรียไ์ ดน้ ั้นไม่ง่าย เลย เพราะนอกเหนือจากการดูแลพืชพันธุ์ ให้เจริญเติบโตด้วยวิธีธรรมชาติแล้ว ยังต้องคานึงถึงส่ิงแวดล้อมและ ระบบนเิ วศน์รอบตวั อกี ดว้ ย กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 9 หวั ใจของเกษตรอนิ ทรีย์ การปลูกพืชผักแบบเกษตรอินทรยี ์ นอกจากจะสามารถสร้างรายได้ที่ดีข้ึนใหก้ ับเกษตรกร ท่ีสาคัญคือไม่มี ความ เสย่ี งจากอันตรายท่มี าจากการใช้สารเคมีท้ังตวั ผ้ปู ลูก ผบู้ รโิ ภค และสิ่งแวดลอ้ ม รูจ้ ักกบั ผกั ปลอดสำรประเภทอ่ืนๆ ผักปลอดภัยจากสารเคมี (Pesticide Free) หรือเรียกว่า “ผักปลอดสารพิษ” ตามท้องตลาด เน้นการ ควบคุม การใช้สารเคมีในการปลูก โดยไม่ใช้สารเคมีในการกาจัดแมลง แต่ยังคงใช้ปุ๋ยเคมีและฮอร์โมนเร่งผลผลิต แต่เป็นสารเคมี ท่ีไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ผลผลิตจะมีสารเคมีตกค้างไม่เกินปริมาณท่ีกาหนดไว้เพื่อความ ปลอดภยั ของผบู้ ริโภค โดยมี หน่วยงานรบั รองมาตรฐานจากกรมวชิ าการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ผกั อนำมัย (Pesticide Safe) หรอื “ผกั กำงมุ้ง” มกี ารใชป้ ๋ยุ เคมเี พ่ือการเจริญเติบโต และใช้สารกาจดั แมลง แต่ เปน็ สารเคมีทีม่ ีพิษตกค้างในระยะสนั้ และ หยุดฉีดพ่นสารเคมีก่อนการเก็บเกี่ยวตามระยะเวลาที่กาหนดไว้ โดยใชก้ าง ม้งุ หรือใช้ตาขา่ ยปลกู และปลูกแบบไม่ ใช้มุ้ง แต่เน้นการป้องกันกาจัดศัตรูพืชแบบผสมผสานคือ เน้นปลูกผักตามฤดู ร่วมกับผักประเภทกะหล่าปลีที่ช่วย ลดการระบาดของแมลง ส่วนการรบั รองมาตรฐานจะใชห้ ลักเกณฑเ์ ดียวกับผักปลอด สารพิษ ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ (Hydroponics) เปน็ ผกั ปลอดสารทป่ี ลูกโดยใชน้ ้าแทนดิน ด้วยการผสมอาหารทจ่ี าเป็นของ พชื ลงในรากพืชทส่ี ัมผสั น้าจะ ดูดซึมสารอาหารมาสะสมไว้ที่ใบ ส่วนรากท่ีไม่สัมผัสน้าจะทาหน้าที่รับออกซิเจน ซ่ึงยังคงมี การใช้สารเคมีและ ฮอร์โมนในกระบวนการเพาะปลกู ดังน้ัน ผักปลอดสารเคมีหรือผักปลอดสารพิษท่ัวไปตามท้องตลาด จึงไม่ได้หมายถึงผลผลิตท่ีไร้สารเคมี และสาร กาจัดศัตรูพืช แต่สามารถมีสารเคมีตกค้างได้ไม่เกินระดับมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว้ เท่าน้นั ซง่ึ แตกต่าง จากผักเกษตรอินทรีย์หรือผกั ออร์แกนิกที่จะไม่มีการใชส้ ารเคมีในทุกระบบขั้นตอนการผลิต กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวิชาการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 10 บทที่ 3 วธิ ดี ำเนินกำรดำเนนิ งำน การประเมนิ ครง้ั นมี้ วี ตั ถุประสงค์เพ่ือประเมนิ ประสทิ ธิผลของโครงการ ในการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ ึก อาชพี ชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ ดังรายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้ ขั้นเตรยี มการ ( planning ) ขั้นดาเนินการ ( Doing ) ขัน้ การตดิ ตามผลและประเมนิ ผล ( Checking and Acting ) ขั้นเตรียมกำร ( planning ) 1. แต่งต้งั คณะกรรมการ 2. ประชมุ ชแ้ี จงและวางแผนการดาเนินงานของคณะกรรมการดาเนนิ งานท่ีได้รับมอบหมาย 3. เตรียมเอกสารใหก้ ับผ้เู ขา้ รว่ มโครงการและแบบประเมนิ ผลเพื่อศึกษาความสาเร็จของโครงการ ขนั้ ดำเนนิ กำร ( Doing ) 1. ดาเนินการประสานงานผ้ทู เ่ี กี่ยวข้อง - องคก์ ารปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน/ผนู้ าชมุ ชน - วทิ ยากร 2. จดั อบรม 3. ประเมินผลโครงการ โดยให้ผ้เู ข้ารว่ มโครงการออกแบบประเมินความพึงพอใจในการเข้ารว่ มโครงการ 4. รวบรวมข้อมูลจากแบบประเมนิ 5. สรปุ ผลความพงึ พอใจของผ้เู ข้าร่วมโครงการ ขน้ั กำรตดิ ตำมผลและประเมนิ ผล ( Checking and Acting ) 1. เครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เปน็ แบบประเมินความพึงพอใจ ซึง่ แบง่ ออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของผเู้ ข้ารบั การอบรม ตอนท่ี 3 ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะในการจดั อบรมครัง้ ต่อไป เป็นข้อคาถามแบบปลายเปิด 2. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล การประเมนิ ผลคร้ังนี้ ทาการศกึ ษากลุ่มเปา้ หมายคือประชาชนท่ัวไปท่สี นใจเข้ารว่ ม รับการอบรม ในครั้งนี้ จานวนท้ังสนิ้ 13 คน 3. วเิ คราะห์ขอ้ มลู สถิติท่ีใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ข้อมูลเชิงปรมิ าณ ใช้วิธีวเิ คราะห์ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ส่วนข้อมูล เชงิ คุณภาพจากข้อคาถามปลายเปดิ ใช้วธิ ีวิเคราะหเ์ นื้อหา กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 11 4. เกณฑก์ ารประเมิน จากความพงึ พอใจทอ่ี ย่ใู นระดับมาก นามาหาค่าเฉลย่ี ดงั ต่อไปนี้ 1) รอ้ ยละ 80 – 100 อยใู่ นระดบั ดมี าก 2) รอ้ ยละ 70 – 79 อยู่ในระดบั ดี 3) ร้อยละ 60 – 69 อย่ใู นระดับปานกลาง 4) รอ้ ยละ 50 – 59 อยรู่ ะดบั พอใช้ 5) ร้อยละ 40 – 49 ควรปรบั ปรุง กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 12 บทที่ 4 ผลกำรดำเนนิ โครงกำร ในการประเมินผลการดาเนินงาน กศน.ตาบลสุวรรณคูหา ได้จัดทาเคร่ืองมือเป็นแบบสอบถาม วัดระดับความคิดเห็นและความพึงพอใจในการดาเนินกิจกรรม ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรกเป็นคาถาม เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้ารับร่วมกิจกรรม และ ส่วนท่ี 3 เป็นคาถาม ปลายเปิด ข้อคิดเห็นอ่ืนๆและข้อเสนอแนะ ส่วนท่ีสามเป็นคาถามปลายเปิดเนื้อหาสาระท่ีต้องการพัฒนาในคร้ัง ต่อไป ซ่ึงในการเก็บรวบรวมข้อมูลน้ัน ได้แจกแบบสอบถามแก่ผู้เข้ารับบริการ การเข้าร่วมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพ ชุมชน โดยมีกลุ่มอาชีพ 1 กลุ่ม จานวน 13 คน ได้รับแบบสอบถามคืนจานวน 13 ฉบับ จากผู้เข้ารับการ 13 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ซง่ึ ใชว้ ดั ระดบั ความคดิ เห็นและความพงึ พอใจท่ีมตี ่อโครงการจะปรากฏดงั นี้ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถำม จำกผู้เข้ำอบรมจำนวน 13 คน ผูเ้ ขำ้ อบรม จำแนกตำมเพศ เพศ จำนวน ( คน ) รอ้ ยละ ชาย 3 23.07 หญิง 10 76.93 รวม 13 100.00 จากตาราง พบว่า ผู้ท่ีเข้าอบรมทั้งหมดเป็นเพศหญิง จานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 76.93 และ เปน็ เพศชาย จานวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 23.07 ผ้เู ขำ้ รบั กำรอบรม จำแนกตำมอำยุ จานวน ( คน ) ร้อยละ อายุ - - - - ต่ากว่า 15 ปี 4 30.76 15 – 39 ปี 9 69.24 40 – 59 ปี 13 100.00 60 ปขี ึ้นไป รวม จากตาราง พบว่าผูท้ ่ีเข้าอบรม มอี ายุระหว่าง 40 – 59 ปี จานวน 4 คน คดิ เป็นร้อยละ 30.76 และมีอายุ 60 ปีขนึ้ ไป จานวน 9 คน คดิ เป็นร้อยละ 69.24 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 13 ผ้เู ข้ำอบรม จำแนกตำมระดับกำรศึกษำ จำนวน ( คน ) ร้อยละ ระดับกำรศึกษำ 10 76.93 2 15.38 ป.4 1 7.69 ป.6 - ม.ต้น - - ม.ปลาย - - ปวช. - - ปวส. - - ปรญิ ญาตรี 13 - อืน่ ๆ โปรดระบุ ................. 100.00 รวม จากตารางพบว่าผู้เข้าอบรม มรี ะดบั การศึกษา ป.4 จานวน 10 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 76.93 ระดับการศึกษา ป. 6 จานวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 15.38 และ ม.ตน้ จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 7.69 ผู้เข้ำอบรม จำแนกตำมอำชพี จำนวน ( คน ) ร้อยละ อำชีพ - - - - ผู้นาทอ้ งถ่นิ - - อบต./เทศบาล - - พนักงานรัฐวสิ าหกจิ 13 100.00 ทหารกองประจาการ - - เกษตร - - รับราชการ - - คา้ ขาย - - รบั จ้าง - - อสม. - - แรงงานต่างด้าว - - ว่างงาน 13 100.00 อ่ืนๆโปรดระบ.ุ ............................ รวม จากตารางผู้เขา้ อบรม มีอาชีพเป็นเกษตรกร จานวน 13 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 14 ตอนที่ 2 ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรมและความพึงพอใจของผู้เรยี น/ผู้รบั บริการ ผู้ประเมนิ ได้แก่ ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน ตอนท่ี 1 ควำมพงึ พอใจดำ้ นเน้อื หำ ระดบั กำรประเมนิ ที่ รำยกำร มำกทส่ี ุด มำก ปำน นอ้ ย นอ้ ย รวม กลำง ท่สี ุด 1 เนื้อหาตรงตามความต้องการ 4 7 2- - 13 (30.77) (53.85) (15.38) (100.00) 2 เนอื้ หาเพียงพอต่อความต้องการ 3 8 2- - 13 (23.08) (61.54) (15.38) (100.00) 3 เนอ้ื หาปจั จุบนั ทันสมัย 5 5 3- - 13 (38.46) (38.46) (23.08) (100.00) เนอื้ หามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ 643 - - 13 ในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ (46.15) (30.77) (23.08) (100.00) 4 เฉล่ียรวม 34.62 46.15 19.23 - - 100.00 จำกตำรำง การวเิ คราะหข์ ้อมูลความพงึ พอใจด้านเน้ือหา โดยวัดเปน็ รายดา้ น สรุปผลดงั นีค้ อื 1. เน้ือหาตรงตามความต้องการ จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 4 คน คิดเป็น ร้อยละ 30.77 พอใจในระดับมาก จานวน 7 คน คิดเป็น ร้อยละ 53.85 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 15.38 2. เน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ จานวนผู้ที่มีความพึงพอใจมากที่สุด จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 23.08 พอใจในระดับมาก จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 61.54 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 15.38 3. เนื้อหาปจั จบุ ันทนั สมยั จานวนผู้ทม่ี คี วามพึงพอใจมากทส่ี ดุ จานวน 5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 38.46 พอใจ ในระดบั มาก จานวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 35.46 และพอใจระดบั ปานกลาง จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 23.08 4. เน้ือหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 46.15 พอใจในระดับมาก จานวน 4 คน คิดเป็น ร้อยละ 30.77 และพอใจระดับ ปานกลาง จานวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 23.08 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 15 ตอนที่ 2 ควำมพึงพอใจดำ้ นกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม ระดบั กำรประเมิน ที่ รำยกำร มำกที่สดุ มำก ปำน น้อย นอ้ ย รวม กลำง ท่ีสุด 5 การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม 472 - - 13 (30.77) (53.85) (15.38) (100.00) 6 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับ 4 7 2 - - 13 วตั ถปุ ระสงค์ (30.77) (53.85) (15.38) (100.00) 7 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 472 - - 13 (30.77) (53.85) (15.38) (100.00) 8 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั 5 6 2- - 13 กลุม่ เปา้ หมาย (38.46) (46.15) (15.38) (100.00) 9 วธิ ีการวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสม 5 6 2 - - 13 กบั วัตถุประสงค์ (38.46) (46.15) (15.38) (100.00) เฉลย่ี รวม 33.85 50.77 15.38 - - 100.00 จำกตำรำง การวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจด้านความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม โดยวัด เป็นรายด้าน สรปุ ผลดังนค้ี อื 5. การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 4 คน คิดเป็น ร้อยละ 30.77 พอใจในระดับมาก จานวน 7 คน คิดเป็น ร้อยละ 53.85 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 15.38 6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 4 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 30.77 พอใจในระดบั มาก จานวน 7 คน คิดเป็น ร้อยละ 53.85 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.38 7. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากที่สดุ จานวน 4 คน คิดเป็น ร้อยละ 30.77 พอใจในระดับมาก จานวน 7 คน คิดเป็น ร้อยละ 53.85 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 15.38 8. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย จานวนผู้ที่มีความพึงพอใจมากที่สุด จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 35.85 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 46.15 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.38 9. วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ จานวนผู้ที่มีความพึงพอใจมากที่สุด จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 35.85 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 46.15 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.38 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 16 ตอนท่ี 3 ควำมพึงพอใจต่อวทิ ยำกร ระดบั กำรประเมนิ ที่ รำยกำร มำกท่ีสดุ มำก ปำน น้อย นอ้ ย รวม กลำง ทส่ี ดุ 10 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถใน 4 7 2- - 13 เรื่องที่ถ่ายทอด (30.77) (53.85) (15.38) (100.00) 11 วิทยากรมีเทคนคิ การถา่ ยทอด ใชส้ ื่อ 5 6 2 - - 13 เหมาะสม (38.46) (46.15) (15.38) (100.00) 12 วิทยากรเปิดโอกาสให้มสี ว่ นรว่ มและ 5 6 2 - - 13 ซกั ถาม (38.46) (46.15) (15.38) (100.00) เฉล่ียรวม 35.90 48.72 15.38 - - 100.00 จำกตำรำง การวิเคราะห์ขอ้ มลู ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากรโดยวัดเปน็ รายด้าน สรุปผลดงั น้คี ือ 10. วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเร่ืองทถ่ี ่ายทอด จานวนผู้ทตี่ อบมคี วามพอใจมากที่สดุ จานวน 4 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 30.77 พอใจในระดับมาก จานวน 7 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 53.85 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 15.38 11. วทิ ยากรมีเทคนคิ การถา่ ยทอด ใชส้ อ่ื เหมาะสม จานวนผทู้ ่มี คี วามพึงพอใจมากท่ีสดุ จานวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 35.85 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 46.15 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 15.38 12. วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม จานวนผู้ท่ีมีความพึงพอใจมากที่สุด จานวน 5 คน คิด เป็นร้อยละ 35.85 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 46.15 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 15.38 ตอนท่ี 4 ควำมพึงพอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก ระดับกำรประเมิน ท่ี รำยกำร มำกทส่ี ดุ มำก ปำน น้อย นอ้ ย รวม กลำง ทสี่ ุด 13 สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวย 661 - - 13 ความสะดวก (46.15) (46.15) (7.69) (100.00) 14 การสื่อสาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่ือให้ 6 6 1 - - 13 เกดิ การเรียนรู้ (46.15) (46.15) (7.69) (100.00) 15 การบรกิ าร การชว่ ยเหลือและการ 6 6 1- - 13 แกป้ ัญหา (46.15) (46.15) (7.69) (100.00) เฉลีย่ รวม 46.15 46.15 7.69 - - 100.00 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 17 จำกตำรำง การวเิ คราะห์ข้อมูลความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก โดยวัดเปน็ รายดา้ น สรปุ ผลดังนี้คอื 13. สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และสง่ิ อานวยความสะดวก จานวนผทู้ ่ตี อบมคี วามพอใจมากที่สุด จานวน 6 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 46.15 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 46.15 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 7.69 14. การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 46.15 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 46.15 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 7.69 15. การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 6 คน คิด เป็น รอ้ ยละ 46.15 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 46.15 และพอใจระดับปานกลาง จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 7.69 สรปุ แบบสอบถำมควำมพงึ พอใจรวมทกุ ดำ้ น จำนวน ( ร้อยละ )ผตู้ อบ รำยกำรคำถำม มำกทส่ี ดุ มำก สรุป 34.62 46.15 80.77 ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจด้านเนื้อหา 33.85 50.77 84.62 ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม 35.90 48.72 84.62 ตอนท่ี 3 ความพงึ พอใจต่อวิทยากร 46.15 46.15 92.30 ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก 37.63 47.95 85.58 เฉลีย่ รวม จากตารางวิเคราะห์ ความพึงพอใจรวมในทุกด้าน สรุปผลได้ดังนี้ ตวั ช้ีวดั เกณฑ์ ผล เป้าหมายการบรรลุ บรรลุ ไม่บรรลุ ตอนท่ี 1 ความพึงพอใจดา้ นเนอื้ หา ร้อยละ 80 –100 มคี วามรู้ ความพงึ 80.77 พอใจ ระดับมากที่สดุ ขนึ้ ไป ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจด้าน ร้อยละ 80 –100 มคี วามรู้ ความพงึ 84.62 กระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม พอใจ ระดบั มากทีส่ ุดข้นึ ไป ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจต่อ รอ้ ยละ 80 –100 มีความรู้ ความพึง 84.62 วทิ ยากร พอใจ ระดับมากทส่ี ดุ ข้ึนไป ตอนที่ 4 ความพงึ พอใจด้านการ รอ้ ยละ 80 –100 มคี วามรู้ ความพงึ 92.30 อานวยความสะดวก พอใจ ระดับมากที่สดุ ขึน้ ไป เฉล่ียรวม ร้อยละ 80 –100 มีความรู้ ความพงึ 85.58 พอใจ ระดบั มากทีส่ ดุ ขน้ึ ไปดี กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 18 จากการประเมินผลการดาเนินงานการจัดโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรพัฒนาอาชีพ วิชาการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ธรรมชาติ ของ กศน.ตาบลสุวรรณคูหา มีผลการดาเนินกิจกรรม บรรลุตาม วัตถปุ ระสงค์ ตอนท่ี 3 ดำ้ นกำรนำควำมรูท้ ไ่ี ดร้ ับไปใชป้ ระโยชน์ จากแบบสอบถาม ผู้เรียนได้นาความรู้ที่ได้รบั จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปใชป้ ระโยชน์ในการพัฒนาตนเอง จานวน 13 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 โดยจะแบง่ ออกได้ดงั ตอ่ ไปน้ี ใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต 5 คน คดิ เป็นร้อย ละ 38.46 ใช้ในการลดรายจ่าย จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 38.46 และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จานวน 3 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 23.08 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 19 บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ การประเมนิ โครงการ ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน ของ กศน.ตาบลสุวรรณคูหา โดยมีผู้เข้ารว่ มโครงการ จานวน 13 คน ซ่งึ การประเมนิ ผลสรปุ เม่ือสน้ิ สดุ โครงการ สรุปผลการประเมนิ ดงั นี้ วตั ถปุ ระสงค์ของกำรประเมิน เพ่ือประเมินประสิทธิผลของการดาเนินงาน โครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของประชาชนทั่วไปที่สนใจ ในโครงการท่ี กศน.ตาบลสุวรรณคูหา จัดขน้ึ ประชำกรกลมุ่ ตัวอย่ำง การประเมินในครั้งนี้ ทาการศึกษาทั้งกลุ่มประชากรผู้เข้าร่วมกิจกรรม โครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของ กศน.ตาบลสุวรรณคูหา กลุ่มเป้าหมายจานวน 13 คน และ มีผู้ท่ีสนใจเข้าร่วมกิจกรรม จานวน 13 คน คิด เป็นร้อยละ 100.00 เครอื่ งมือที่ใช้ในกำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เครอื่ งมอื ท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เป็นแบบประเมินความพึงพอใจ ซึง่ แบง่ ออกเปน็ 3 ตอน คือ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 แบบสอบถามความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารับการอบรม ตอนที่ 3 ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะในการจดั อบรมคร้งั ต่อไป เปน็ ขอ้ คาถามแบบปลายเปดิ 2. การเก็บรวบรวมข้อมลู การประเมินผลครั้งนี้ ทาการศึกษากลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนทั่วไปท่ีสนใจเข้าร่วม กิจกรรมในครั้งนี้ จานวนทงั้ สิ้น 13 คน 3.วิเคราะห์ขอ้ มลู สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้วิธีวิเคราะห์ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ส่วนข้อมูลเชิง คณุ ภาพจากข้อคาถามปลายเปดิ ใช้วิธวี เิ คราะห์เนื้อหา 4. เกณฑก์ ารประเมิน จากความพงึ พอใจทีอ่ ยใู่ นระดบั มาก นามาหาคา่ เฉล่ีย ดังต่อไปนี้ 1) รอ้ ยละ 80 – 100 อยใู่ นระดบั ดมี าก 2) ร้อยละ 70 – 79 อยู่ในระดับดี 3) รอ้ ยละ 60 – 69 อย่ใู นระดบั ปานกลาง 4) รอ้ ยละ 50 – 59 อยูร่ ะดบั พอใช้ 5) รอ้ ยละ 40 – 49 ควรปรับปรงุ กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 20 อภิปรำยผล จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการตอบแบบประมินของผู้เข้าร่วมโครงการ พบว่า มีความพึงพอใจใน ภาพรวมของโครงการในระดับระดับดีมาก ร้อยละ 85.58 และผู้เข้าร่วมโครงการมีความรคู้ วามเข้าใจและทักษะ เพ่ิมมากขึน้ และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการดาเนินโครงการอบรม/เข้าร่วมกิจกรรมการจัด โครงการในครัง้ นี้ บรรลุวัตถปุ ระสงค์และเปา้ หมายที่ตั้งไว้ ผูเ้ ข้าร่วมการอบรม/เข้ารว่ มกจิ กรรมมคี วามรู้ความเข้าใจ สามรถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ และ สามารถทจี่ ะนาความรู้ทีไ่ ด้ไปขยายผลในชมุ ชนต่อไปได้ แนวทำงกำรดำเนินงำนครงั้ ต่อไป จากการประเมินผลทาให้ทราบว่าการจัดกิจกรรมโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน มีประโยชน์กับผู้เข้ารับ การฝกึ อบรมเปน็ อย่างมาก สามารถทีจ่ ะนาความรู้ทไ่ี ด้ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ต่อไป กศน.ตาบลสุวรรณคูหา จะเร่งพัฒนาและจัดทาหลักสูตรการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตให้มีความ สอดคล้องกับความต้องการและความเหมาะสมกับท้องถ่ิน เพื่อเป็นการส่งเสริมชีวิตท่ีมีอยู่ในชุมชนให้ได้รับการ พัฒนาและสง่ เสริมให้มีชีวิตทดี่ ตี อ่ ไป ขอ้ เสนอแนะ - กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 21 ภำคผนวก กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 22 ภาพกจิ กรรมการดาเนนิ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรวิชา การปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติ จานวน 35 ชัว่ โมง ณ วดั สุวรรณาราม หมทู่ ี่ 3 ตาบลสวุ รรณคูหา อาเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบวั ลาภู *************************************************************************************************** กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 23 ภาพกจิ กรรมการดาเนนิ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรวิชา การปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติ จานวน 35 ชัว่ โมง ณ วดั สุวรรณาราม หมทู่ ี่ 3 ตาบลสวุ รรณคูหา อาเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบวั ลาภู *************************************************************************************************** กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 24 ภาพกจิ กรรมการดาเนนิ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรวิชา การปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติ จานวน 35 ชัว่ โมง ณ วดั สุวรรณาราม หมทู่ ี่ 3 ตาบลสวุ รรณคูหา อาเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบวั ลาภู *************************************************************************************************** กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 25 ภาพกจิ กรรมการดาเนนิ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรวิชา การปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติ จานวน 35 ชัว่ โมง ณ วดั สุวรรณาราม หมทู่ ี่ 3 ตาบลสวุ รรณคูหา อาเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบวั ลาภู *************************************************************************************************** กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 26 ภาพกจิ กรรมการดาเนนิ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรวิชา การปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติ จานวน 35 ชัว่ โมง ณ วดั สุวรรณาราม หมทู่ ี่ 3 ตาบลสวุ รรณคูหา อาเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบวั ลาภู *************************************************************************************************** กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ 27 ภาพกจิ กรรมการดาเนนิ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรวิชา การปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติ จานวน 35 ชัว่ โมง ณ วดั สุวรรณาราม หมทู่ ี่ 3 ตาบลสวุ รรณคูหา อาเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบวั ลาภู *************************************************************************************************** กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 28 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 29 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 30 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ 31 กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ่งเสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรวิชาการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ คณะผู้จัดทำ ทีป่ รกึ ษำ ตาแหนง่ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอสวุ รรณคูหา นางนวพรรษ จันทราทูล ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ผี ู้อานวยการศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรอู้ าเภอสุวรรณคหู า นายคมกฤษฏ์ิ ไชยเต็ม ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสง่ เสริมการเรียนรู้ น.ส.อารยา วิชาสวสั ดิ์ ตาแหนง่ ครู นายวชรพล เพยี เทพ ตาแหนง่ ครู นายอภชิ าติ สทุ ธิโสม ตาแหน่ง ครูอาสาสมคั รการศึกษานอกโรงเรียน นางสุวรรณา สุทธิโสม ตาแหนง่ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น ตาแหนง่ ครอู าสาสมคั รการศึกษานอกโรงเรียน คณะทำงำน ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล นางยุพรตั น์ ทุมวัน ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล นางสาวหทยั รตั น์ พมิ พ์จ่อง ผรู้ วบรวม/เรียบเรียง/จัดทำรปู เลม่ ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นางฐติ ิพรรณ ใหมว่ งษ์ กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศูนยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวิชาการปลกู พืชผกั เกษตรอนิ ทรียธ์ รรมชาติ กศน.ตาบลสวุ รรณคหู า ศนู ยส์ ง่ เสริมการเรียนรู้อาเภอสวุ รรณคูหา
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: