รำยงำนผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชน หลักสูตรพฒั นำอำชพี วิชำผลติ ภณั ฑ์จำกไม้ไผ่ 9 กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชีพ วิชาผลติ ภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ ก คานา การดาเนินงานการจัดกิจกรรมของ กศน.ตาบลนาสี ฉบับน้ีเป็นการสรุปผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรพัฒนาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยยึดการดาเนินงานตามนโยบาย วิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์ของงานการศึกษานอกระบบ ซ่ึงมีพันธกิจท่ีได้ ดาเนินการ คือการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน การศึกษาต่อเน่ือง (การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะ ชวี ิตการศึกษาเพอ่ื พัฒนาสงั คมและชมุ ชน โครงการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ) และการพัฒนางานการศึกษานอกระบบ พร้อมทง้ั การนาเสนอปญั หา อปุ สรรค แนวทางการดาเนินงานตอ่ ไป กศน.ตาบลนาสี หวังเป็นอย่างย่ิงว่าสรุปผลการดาเนินงานการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะเป็น ประโยชน์ต่อผู้ต้องการศึกษา และจะเป็นแนวทางในการนาไปพัฒนา และปรับปรุงงานการศึกษานอกระบบใน ปีงบประมาณต่อไป กศน.ตาบลนาสี ศูนยส์ ่งเสรมิ การเรยี นรู้อาเภอสุวรรณคหู า กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาผลติ ภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ ข สารบัญ คานา หนา้ สารบัญ ก บทที่ 1 บทนา ข บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 1 บทที่ 3 วิธดี าเนินงาน 3 บทที่ 4 ผลการดาเนนิ โครงการ 8 บทที่ 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ 10 ภาคผนวก 17 - ภาพกจิ กรรม - รายชอ่ื ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงการ คณะทางาน กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน หลักสูตรพัฒนาอาชพี วิชาผลิตภณั ฑ์จากไม้ไผ่ 1 บทท่ี 1 บทนา หลักการและเหตุผล ตามท่ี สานักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้มีนโยบายและจุดเน้นการ ดาเนินงาน ปีงบประมาณ 2566 ด้านการจัดการศึกษาต่อเน่ือง โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนท่ี การ อนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซ่ึงสถานการณ์ในปัจจุบันประชาชนได้รับผลกระทบจาก ปัญหาการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ทาให้เกิดผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและการ ดาเนิน ชวี ิตประจาวนั ของประชาชนเปน็ อยา่ งมาก เครื่องจักสานไม้ไผ่เป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมท่ีจะพบได้ในแหล่งชนบทของประเทศไทยทั่วทุกภาค ซ่ึงจะ เป็นเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ของคนในชนบท แบ่งได้เป็นเคร่ืองใช้ในครัวเรือน กระบุง ตะแกรง คานหาบ กระด้ง เครื่องใช้ที่รองรับพืชผลทางการเกษตร ตะกร้า เข่ง ใช้บรรจุผักผลไม้ เครื่องมือจับสัตวน์ ้า ลอบ ไซ เป็นส่ิงจาเป็น ในชีวิตประจาวันแทบทุกอย่าง งานจกั สานไม้ไผค่ ืองานศลิ ปะอย่างหนึ่งเพราะจะต้องสรา้ งงานท่ีออกมาจากจิตใจ ท่ีรักงานสร้างสรรค์ จรรโลงเอกลักษณ์วัฒนธรรมในท้องถ่ิน มีความพยายาม ความฉลาดหลักแหลม ประยุกต์ พฒั นารูปแบบให้ดีขึ้น โดยไม่ทง้ิ ความร้แู ละภมู ิปัญญาเดิมของทอ้ งถ่นิ แสดงวิถีชีวิตของคนแตล่ ะท้องถน่ิ ไว้ ซง่ึ ใน ชนบทแต่ละท้องถิ่นมีวัตถุดิบไม่มีเหมือนกัน งานจักสานต่างๆ มักจะทาในเวลาว่าง หรือหลังหมดฤดูการทาการ เกษตรกรรมแล้ว สามารถสรา้ งงานเป็นอาชีพเสรมิ ไดอ้ ีกอยา่ งหน่งึ ไม้ไผ่ เป็นทรัพยากรที่ทางอาเภอสุวรรณคูหา และชุมชนมีเป็นจานวนมาก และเป็นทรัพยากรท่ีมี ความสาคญั สามารถนาส่วนต่างๆของไม้ไผ่มาใช้ได้ ต้ังแต่ หน่อ ลาต้น ใบ ราก เย้ือไผ่ โดยเฉพาะงานหัตกรรมจัก สานไม้ไผ่ การสานตะกร้า เข่ง เปลไม่ไผ่ ฯลฯ จากท่ีกล่าวมาข้างต้น กศน.ตาบลนาสี ได้ตระหนักถึงความสาคัญ ของการ ส่งเสริมงานจักสานต่างๆ ที่สามารถสร้างงานเป็นอาชีพเสริมได้อีกอย่างหนึ่ง กศน.ตาบลนาสี จึงได้ ดาเนนิ การจดั โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรผลติ ภณั ฑ์จากไม้ไผ่ ขนึ้ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้ประชาชนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และมีทักษะเพื่อการประกอบอาชีพ 2. เพือ่ ใหป้ ระชาชนกล่มุ เป้าหมาย สามารถนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในการพฒั นาอาชพี ก่อใหเ้ กิดรายได้ กลุ่มเป้าหมาย กลุม่ เป้าหมายคอื ประชาชนทั่วไปนอกระบบโรงเรียน 1. ผู้ท่ีไม่มีอาชีพ 2. ผทู้ ่มี ีอาชพี และต้องการพัฒนาอาชพี เชิงปริมาณ หลกั สูตร ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่จานวน 30 ชั่วโมง ผู้เรยี น จานวน 12 คน กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพฒั นาอาชีพ วชิ าผลิตภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 2 เชงิ คณุ ภาพ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนาความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์การเรียนรตู้ ่างๆ ไปใช้ในกาประกอบ อาชีพท่ีเป็นการเขา้ สอู่ าชีพ สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ หรือพัฒนาอาชีพ หรือตอ่ ยอดอาชีพเดิม เพ่อื เพิ่มรายได้ระหว่าง การอบรมตามหลกั สตู รใหแ้ ก่ประชาชนทีม่ ีอายุ 15 ปีขึ้นไปได้ ผู้รับผิดชอบโครงการ กศน.ตาบลนาสี ศนู ยส์ ่งเสริมการเรยี นรูอ้ าเภอสุวรรณคหู า โครงการท่ีเกย่ี วข้อง 1. โครงการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวติ 2. โครงการจดั การศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชมุ ชน 3. โครงการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. โครงการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ เครอื ข่าย/หนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 1. อบต.นาสี 2. โรงพยาบาลอาเภอสวุ รรณคหู า 3. โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพบา้ นโนนสมบูรณ์ 4. พัฒนาชุมชนอาเภอสุวรรณคหู า 5. เกษตรอาเภอสุวรรณคหู า ผลท่คี าดว่าจะไดร้ บั ร้อยละ 80 ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีอาชีพใหม่มีการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิม เพ่ิมทักษะการเป็น ผู้ประกอบการ มีรายได้ มีงานทา มีความมั่นคง ย่ังยืน เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนาความรู้ ทักษะ และ ประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ไปใช้ในกาประกอบอาชีพที่เป็นการเข้าสู่อาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ หรือพัฒนา อาชพี หรอื ต่อยอดอาชพี เดิม เพือ่ เพมิ่ รายไดร้ ะหวา่ งการอบรมตามหลักสตู รใหแ้ กป่ ระชาชนทมี่ ีอายุ 15 ปขี น้ึ ไปได้ การประเมินโครงการ 1. ประเมนิ ด้วยแบบสอบถาม/สมั ภาษณ์ 2. รายงานสรปุ ผลการดาเนนิ โครงการฯ ตัวชี้วัดผลสาเรจ็ ของโครงการ 1. ร้อยละ 80 ของผ้เู ข้ารว่ มโครงการมีอาชีพ มงี านทา มรี ายได้ที่ม่ันคง 2. รอ้ ยละ 80 ของผู้เข้าร่วมโครงการมีความพงึ พอใจต่อการจดั การศึกษา กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน หลักสตู รพฒั นาอาชพี วิชาผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 3 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและรายงานท่ีเกยี่ วข้อง ในการจดั ทารายงานคร้งั น้ี ไดท้ าการศึกษาคน้ ควา้ เน้ือหาจากเอกสารการศกึ ษาและรายงานท่เี ก่ยี วข้อง ดงั ต่อไปน้ี 1. การจัดการศกึ ษาต่อเนอื่ ง 2. ไม้ไผ่ การจดั การศึกษาต่อเน่ือง 1. การจัดการศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง การจัดการศึกษาต่อเนื่องมีการจัดกิจกรรม/โครงการ/หลักสูตรการศึกษานอกระบบในรูปแบบที่ หลากหลาย ดังนี้ 1) การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ 2) การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต 3) การศึกษาเพ่ือพัฒนา สังคมและชุมชน 4) หลักสูตรระยะส้ัน 5) การศึกษาตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 6) โครงการอัน เน่ืองมาจากพระราชดาริ การศึกษาเพอื่ พัฒนาอาชีพ เปน็ การจัดการศึกษาท่ีเน้นความรู้และทักษะอาชีพให้สอดคล้องกับสภาพของ แต่ละท้องถิ่น ให้ผู้เรียนมีทักษะความชานาญการเฉพาะเรื่อง สามารถเพิ่มผลผลิต และหรือลดต้นทุนการผลิต มี ความรู้และทักษะในการจัดการระบบบัญชี การตลาด และการบริหารจัดการอย่างครบวงจร สามารถประกอบ อาชีพสมยั ใหม่ เปน็ ผปู้ ระกอบการเอง หรือรวมกลุ่มกันประกอบอาชพี กไ็ ด้ และรู้จกั นาเทคโนโลยีมาใช้เพ่อื พฒั นา อาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การทาอาหาร การนวดแผนไทย การจัดดอกไม้สด การเพาะเห็ดฟาง การ ประดิษฐ์ของชาร่วย การตัดเสื้อผ้าสตรี การจัดสวนหย่อม งานช่างไม้ งานช่างไฟฟ้า งานช่างก่อสร้าง คอมพวิ เตอรเ์ พื่อการประกอบอาชีพ ฯลฯ หลักสูตรระยะสั้น เน้นการจัดการศึกษาเพ่ือส่งเสริมการแก้ปัญหาความยากจนและกระจายรายได้ให้กับ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นท่ี โดยใช้กระบวนการ กศน. ร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างกระบวนการเรียนรู้ให้แก่ คนในชมุ ชน ให้สามารถพฒั นาตนเองสูค่ วามเขม้ แขง็ ได้อย่างยงั่ ยืน (กลุ่มแผนงาน สานกั งาน กศน. : 2559) 2. แนวคิดเก่ียวกับการนิเทศการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กศน. 1) การนิเทศจะต้องอยู่บนพื้นฐาน ปรัชญา และหลักการของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั สอดคล้องกับนโยบายและจุดเนน้ การจัด กศน. ของสานักงาน กศน. และสถานศกึ ษา 2) การนิเทศ กศน. ควรเป็นกระบวนการทางานที่เป็นระบบ เช่น แผนงานโครงการกิจกรรมและเทคนิค ต่างๆ ในการนิเทศ ควรต้ังอยูบ่ นเจตคติและวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ ผลของการนิเทศจะต้องถกู ต้องสมบรู ณ์เชอ่ื ถือ ได้ สามารถสะทอ้ นคุณภาพการจัด กศน. ของสถานศึกษาได้ตรงตามสภาพจริง 3) การนิเทศ กศน. เป็นกระบวนการทางานร่วมกับผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปฏิบัติงานท่ี เก่ียวข้องและเครือข่าย ท่ีมุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิต เพ่ือให้เขาได้พัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างเต็มท่ีเคารพ ศักดิ์สิทธิ์ของความเป็นมนุษย์ อดทนต่อความแตกตาง คามหลากหลายให้ความเท่าเทียมกันเสมอภาคกัน ความ เปน็ อิสระ สรา้ งบรรยากาศท่เี ป็นประชาธิปไตย การมีสว่ นร่วมและการทางานเป็นทมี กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วิชาผลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ 4 4) การนิเทศ กศน. ควรเป็นวิชาชีพ การนิเทศจะต้องมีการประเมินผลการนิเทศอย่างเป็นระบบ ทั้งด้าน ปัจจัยการนิเทศ กระบวนการนิเทศ และผลท่ีเกิดจากการนิเทศ และนาผลการประเมินมาใช้ประโยชน์ในการ ปรับปรงุ การดาเนนิ งานนเิ ทศ เพือ่ พัฒนาการนเิ ทศการศกึ ษาให้มคี ุณภาพ ความสาคญั ของการนเิ ทศการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย การนิเทศเป็นงานสาคัญและจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องดาเนินควบคู่ไปกับการบริหารเพราะการนิเทศเป็น ส่วนหนึ่งของการบริหาร องค์ประกอบของการบรหิ ารย่อมขน้ึ อยู่กบั คน เงิน วสั ดุ และการจัดการ การท่ีจะบริหาร คนให้มีประสิทธิภาพในการทางาน ผู้บริหารจะต้องมีเทคนิคที่เหมาะสม เทคนิคในการบริหารอย่างหน่ึง คือ การ นิเทศเพ่ือส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ สามารถใช้เงิน วัสดุได้อย่างคุ้มค่า มีหลักการจัดการท่ีดี ดังน้ัน การท่ีจะควบคุมการปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงานที่กาหนดไว้ ผู้บริหารต้องใช้เทคนิคการ บริหารงานและการนิเทศควบคู่กัน การนิเทศการศึกษาเป็นความพยายามในการแนะนา กระตุ้นให้กาลังใจ ช่วยเหลือของผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา เพ่ือให้บุคลากรทางการศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มี คณุ ภาพ หรือปรบั ปรุงกระบวนการจัดการศกึ ษาใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสูงสุด โดยมีการสูญเปล่าทางการศกึ ษาน้อยทส่ี ุด โดยเฉพาะอย่างย่ิงการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีการจัดกิจกรรมการศึกษาท่ี หลากหลายให้บริการแก่กลมุ่ เป้าหมายประเภทต่างๆ และไม่ได้สังกัด สานักงาน กศน. ทาให้เห็นความจาเป็นของ การนิเทศการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษาทุกประเภท เข้าใจนโยบายปรชั ญาการจัด กศน. ที่สามารถสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายผู้เรยี นในทิศทางท่ถี ูกตอ้ งและ เหมาะสมกับสภาพพน้ื ท่ีการจดั กิจกรรม กศน. จุดมุ่งหมายของการนเิ ทศการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 1) เพื่อส่งเสริมให้สถานศึกษาบริหารหลักสูตรจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการศึกษา พฒั นาสอื่ นวัตกรรมและเทคโนโลยีและการนเิ ทศภายในอยา่ งมีคุณภาพ 2) ส่งเสริมให้สถานศึกษามีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐาน กศน. 3) เพ่ือให้คาปรึกษา เสนอแนะและเป็นที่พึ่งในการพัฒนาวิชาการของสถานศึกษาและสานักงาน กศน. จงั หวดั 4) เพ่ือประสาน สนับสนุนและเผยแพร่งานทางด้านวิชาการแก่สถานศึกษาและสานักงาน กศน. จังหวัด (อญั ชลี ธรรมะวธิ กี ุล : 2553) กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพัฒนาอาชีพ วชิ าผลิตภัณฑ์จากไมไ้ ผ่ 5 ไมไ้ ผ่ ไผ่เป็นพืชใบเล้ียงเดี่ยว อยู่ในวงศ์ GRAMINAE วงศ์ย่อย BAMBUSOIDAE เป็นพืชที่มีทรงพุ่มขนาดใหญ่ รูปทรงคล้ายไมย้ ืนตน้ แตกออกเป็นพุม่ มีเนอ้ื ไม้ มเี หง้า(rhizome) เปน็ ลาตน้ ใต้ดินและมีลาตน้ เหนอื ดนิ แตกเป็นกอ เจริญออกมา มีการแตกก่ิงก้านสาขา แผ่นใบมีก้านใบ และมีกาบใบเจริญแผ่แบนออกจากก้านใบเพ่ือหุ้มส่วนของ ก่ิงหรือลาต้น ไผ่ทั่วโลกมีประมาณ 80 สกุล(Genera) 1,000 ชนิด (species) และพบในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 200 ชนิดใน 20 สกุล ไผ่บางชนิดมีการเติบโตและแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ขณะท่ีไผ่บางชนิดมีการ เจริญเติบโตในพ้ืนที่ซึ่งมีภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสม ไผ่เป็นพืชซึ่งมีถ่ินกาเนิดในเขตร้อน เขตก่ึงร้อนและ เขตอบอุ่นทั่วโลก ยกเว้นทวีปยโุ รปและ เอเชียตะวันตก มีการเจริญเตบิ โตของไผ่ชนิดตา่ ง ๆ ตั้งแตบ่ รเิ วณพน้ื ทร่ี าบ จนถึงที่ระดับความสูง 4,000 เมตร จากระดับน้าทะเล ซึ่งไผ่ชนิดต่าง ๆ สามารถนาไปปลูกในพ้ืนที่ซ่ึงมีภูมิอากาศ ระดับความสูงของพ้ืนท่ีจากระดับน้าทะเลแตกต่างไปจากถนิ่ กาเนดิ เดิมได้ เม่อื มนษุ ยน์ าไผช่ นดิ หนึ่งไปปลกู ในพ้นื ท่ี หน่ึงซ่ึงห่างไกลออกไปแล้วมีการเจริญเติบโตแพร่กระจายพันธ์ุได้ดีในธรรมชาติ อาจทาให้การจัดจาแนกหมวดหมู่ ของไผ่เปน็ ไปอยา่ งไมถ่ ูกต้องได้ และมคี วามสบั สนเกิดข้ึน การนามาใชป้ ระโยชน์ ไผ่เป็นพชื ทม่ี กี ารแพร่กระจายพันธ์ุอย่ทู ่วั ไป ลาตน้ แข็งแรงมีเนอ้ื ไมแ้ ข็ง เกลาใหเ้ รยี บได้ ยดื หยุ่น มนี ้าหนัก เบา แข็งแต่ดัดให้โค้งงอได้ ถ้าจักเน้ือไม้ให้บางลงสามารถตัดทอนเป็นขนาดต่าง ๆ ได้ ท้ังความยาวและความหนา ให้ เห มาะสม ต่อ ลักษ ณ ะก ารใช้งาน ว่าเป็ น งาน ท่ี ต้อ งรับ น้ าห นั กม าก ห รืองาน ป ระดิ ษ ฐ์ต กแต่ ง ในปัจจุบันไผ่เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสาคัญในตลาดโลกมาก โดยถูกนามาใช้เป็นเยื่อกระดาษ ไม้ปาร์เก้ปูพ้ืน กระดานอัด และหน่อไม้กระป๋อง การนาไม้ไผ่มาใช้ประโยชน์สามารถจาแนกได้ดังนี้ 1. ใช้ในงานกอ่ สร้าง ไผ่ที่มีลาต้นขนาดใหญ่เน้ือไม้หนา ปล้องสั้นมักถูกนามาใช้ในการก่อสร้างท่ีต้องการความแข็งแรง คงทน และรับน้าหนักมาก เช่น เสา ฝาผนัง หลังคา และพ้ืน มีการนาในมาใช้ก่อสร้างสะพาน และทาน่ังร้าน ใช้เป็น สว่ นประกอบของบ้านแบบต่าง ๆ ของชนพ้ืนเมืองท่ีมีรูปแบบและรูปทรงแตกต่างกันไป ตามสภาพภูมิอากาศและ วัฒนธรรม เช่น บ้านในจีน ไทย อนิ เดีย และแอฟรกิ า มกี ารปลูกสร้างบ้านจากไม้ไผ่ท่มี ีรูปทรงแตกต่างกัน มีการใช้ ไม้ไผ่ท้ังลาในการก่อสร้างหรืออาจผ่าคร่ึง หรือผ่าซีกให้เป็นขนาดต่าง ๆ กัน แล้วนามาจักสานเป็นแผ่น 2. ใชท้ าตะกรา้ มีการนาไมไ้ ผม่ าผ่าครึง่ และผ่าซีกเป็นช้ินขนาดต่าง ๆ เพื่อนามาใช้เป็นโครงของหีบหรือตะกร้าหรือกล่อง หรือกระจาด แล้วนาช้ินท่ีแบนบางมาสานเป็นลวดลายต่าง ๆ สาหรับทาภาชนะบรรจุส่ิงของ รวมทั้งกระด้งท่ีใช้ สาหรับตากอาหาร หรือฝัดแยกเมล็ดพืชที่มีขนาดและคุณภาพดีตามต้องการออกจากส่วนท่ีไม่ต้องการด้วย นอกจากน้ียังถูกนามาใช้ในการสานเข่งใส่ผัก ผลไม้ เข่งขนาดเล็กใส่ปลา และล้ัวใส่หมู เป็ด ไก่ รวมทั้งสุ่มสาหรับ เลีย้ งเปด็ ไกด่ ว้ ย กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 6 3. ใช้เปน็ อาหารจาพวกผัก หน่ออ่อนทเ่ี จริญจากตาขา้ งของเหง้าที่อยู่ใต้ดิน ถูกนามาใช้บริโภคเป็นอาหารจาพวกผักที่เรียกว่า หน่อไม้ โดยการขดุ หนอ่ อ่อนแลว้ แยกออกมาจากต้นแม่เดิม ลอกกาบหุ้มท่ีแข็งและเต็มไปดว้ ยขนหรือหนามออก หนั่ ให้เป็น ช้ินเล็ก ๆ หรือเป็นเส้นฝอย แล้วนาไปต้มในน้าเดือดจนกระท่ังสุก สามารถนาไปปรุงเป็นอาหารต่าง ๆ ได้หลาย ประเภท เชน่ หน่อไม้ดอง ผัดกับเนื้อสัตว์ แกงจืด หรือแกงกะทิ แต่หน่อไม้มักจะเจริญเติบโตออมาจากเหง้าใต้ดิน ในช่วงฤดูฝนจึงมีการถนอมอาหารไว้ในรูปของหน่อไม้ดอง เพื่อสามารถรับประทานได้ตลอดปี ในปัจจุบันประเทศ ไทยเป็นผู้ส่งออกหน่อไม้ไผ่บง หรือไผ่ตง (Dendrocalamus asper ( Schultes f .)Backer ex Heyne) รายใหญ่ ท่ีสุดของโลก เนื่องจากเป็นไผ่ทีรสหวาน กรอบอร่อย ไม่ขม จนกระท่ังมีช่ือเรียกท้องถิ่นว่า ไผ่หวาน นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีหน่อไม้ไผ่รวก (Thyrsostachys siaminsis Gamble ) ท่ีนิยมนามาบริโภค และเก็บรกั ษาไว้ในรปู ของหนอ่ ไม้อัดปีบ๊ หรืออดั กระป๋องด้วย 4. ใชผ้ ลิตกระดาษ เป็นเวลาหลายศตวรรษมาแลว้ ท่ีชาวจนี มีการประดษิ ฐก์ ระดาษจากไม้ไผ่ และชาวเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ก็ได้รับความรู้น้ีมาจากประเทศจีน ไผ่ที่ใช้ทากระดาษได้แก่ ไผ่ป่า หรือไผ่หนาม (Bambusa bambos ( L) Voss) ไผ่สีสุก(Bambusa blumeana J.A & J.H. Schultes ) และไผ่ซาง (Dendrocalamus strictus (Roxb ) Nees ) 5. ใชท้ าเครอ่ื งดนตรี การนาไม้ไผ่มาทาเคร่ืองดนตรีนั้น ถือเป็นศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเคร่ืองดนตรีท่ีใช้ไม้ไผ่เป็นโครงสร้างหลัก หรือเป็นส่วนประกอบได้แก่ เคร่ืองตีหรือเคร่ืองเขย่า(idiophones) เช่น ลูกระนาดเอก ลูกระนาดทุ้ม จากไผ่ตงหรือไผ่บง(Dendrocalamus asper) อังกะลุง ขนาดต่าง ๆ จากไผ่ดา (Gigantochloa artroviolaceae) และไผ่ช นิดอื่น ๆ ท่ี อ ยู่ใน สกุลเดียวกัน คือ G. atter , G. levis , G. pseudoarundinacea และ G. robusta นอกจากน้ีไผ่ดาท่ีมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลาต้นขนาดใหญ่ยังถูก นามาใช้ประดิษฐ์เป็นกลองด้วย เคร่ืองเป่าลม(aerophones) ได้แก่ แตรท่ีให้เสียงต่าซ่ึงประดิษฐ์จากไม้ไผ่มา เชอ่ื มต่อกนั แคนที่ทาข้ึนจากไผ่เฮียะหรอื ไผ่โป(Schizostachyum) ขลยุ่ แบบตา่ ง ๆ ของเอเชยี ท่ีประดิษฐจ์ ากไม้ไผ่ นอกจากน้ียังมีเคร่ืองสาย (chordophones) ชนิดต่าง ๆ ท่ีประดิษฐ์ขึ้นจากไม้ และมีไม้ไผ่เป็น ส่วนประกอบ เชน่ จะเข้ พิณ ซงึ และซอ 6. งานศลิ ปหัตถกรรม ในปัจจุบันนี้งานศิลปหัตถกรรมถือเป็นงานอุตสาหกรรมในครัวเรือนท่ีเป็นที่นิยมชมชอบ และสามารถ จาหน่ายไดม้ ากข้ึน งานที่ประดิษฐ์จาก ไม้ไผ่ ได้แก่ เสื่อปูโตะ๊ กันความร้อนจากชามบรรจอุ าหาร กระเปา๋ ถือ หมวก และเคร่อื งใช้ไม้สอยทใี่ ช้สาหรับทอผ้า งานส่วนใหญ่ถูกสร้างข้ึนจากไม้ไผ่ที่ถูกผ่าเป็นซีก หรือผ่าแล้วเหลาเกลาให้เป็นชิ้นบาง ๆ ก่อนนามา ประกอบเปน็ โครงหรอื จักสานเปน็ ลวดลายตา่ ง ๆ แต่งานบางอยา่ งอาจใชล้ าต้นและลาตน้ ใต้ดนิ ท้ังหมดมาประดิษฐ์ ตกแต่งแทน เช่น แจกัน ท่ีเขี่ยบุหร่ี กล่องบรรจขุ องขนาดต่าง ๆ ไม้ไผ่ที่ถูกนามาใช้ในงานจักสานได้แก่ Bambusa atra , Gigantochloa apus , G. scortechinii , Schizostachum latifolium ซ่ึงมีเส้นใยยาวและยืดหยุ่นได้ดี กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรพัฒนาอาชีพ วชิ าผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ 7 ส่วนการนามาแกะสลัก ได้แก่ ไผ่งาช้าง Bambusa vulgaris ไผ่ตง Dendrocalamus asper และไผ่เกรียบ Schizostachum brachycladum 7. เครือ่ งเรือน มีการนาไม้ไผ่มาทาเครื่องเรือนต่าง ๆ ภายในบ้านเรือน ได้แก่ ตู้ เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ต่าง ๆ ซึ่ง นิยมใช้ไม้ไผ่ท่ีมีลาใหญ่ ตรง แข็งแรง ได้แก่ ไม้ไผ่ในสกุล Bambusa สกุล Dendrocalamus และสกุล Gigantochloa 8. การปลกู เพ่ือใชเ้ ปน็ แนวรว้ั บอกเขต แนวป้องกนั ลมและปลูกประดบั ไผ่หลายชนิดมลี ักษณะกอและทรงพุ่มเหมาะสมต่อการนามาปลูกเป็นริว้ และแนวป้องกันลม ได้แก่ ไผร่ วก Thyrsostachys siamensis และ ไผ่เลี้ยง Bambusa multiplex ไผ่หลายชนิดมีทรงพุ่มสวยงามนิยมนามาปลูก เป็นไมป้ ระดบั ไดแ้ ก่ ไผ่เลยี้ ง ไผเ่ หลือง ไผ่เกรียบ ไผท่ ม่ี ีหนามแหลมคม เชน่ ไผห่ นาม Bambusa bambos เปน็ ไผ่ ท่ีนิยมปลูกเป็นแนวร้ัวกันขโมยให้แก่บริเวณบ้าน หมู่บ้าน และสวนผลไม้ รวมทั้งป้องกันสัตว์ป่าเข้ามาทาร้ายหรือ ทาลายทรพั ยส์ นิ ด้วย 9. ประโยชนอ์ น่ื ๆ ทากระบอกรองรับน้าตาลจากงวงมะพรา้ วและงวงตาล ไดแ้ ก่ ไผต่ ง นาไม้ไผ่ทัง้ ลามาทะลุข้อให้เป็นทอ่ กลวงตลอดลาสาหรับทาเปน็ ทอ่ นา้ ไดแ้ ก่ ไผ่ตง นาไผ่ตงมาตัดเปน็ กระบอกสาหรบั ปรงุ อาหาร จาพวก ผัก เน้ือสตั ว์ ขา้ วเจา้ และข้าวเหนียว โดยอดุ สว่ น ปลายของกระบอกดว้ ยใบตองกล้วย แลว้ นาไปผงิ ไฟให้อาหารภายในกระบอกสุก เชน่ การทาขา้ วหลาม จากขา้ วเหนียวผสมกะทิและนา้ ตาล นามาทาตะเกียบ ไมจ้ ้ิมฟนั ไม้เสียบอาหารสาหรบั ปิง้ หรือย่าง อปุ กรณ์ดักจบั ปลาชนิดตา่ ง ๆ เช่น ขอ้ ง ไซ ลอบ นามาทาแพโดยเลอื กใช้ไม้ไผ่ทมี่ ีขนาดเสน้ ผ่านศนู ย์กลางปานกลาง เนือ้ ไมบ้ าง น้าหนักเบา ใบไผน่ ้ามาใช้เปน็ อาหารจาพวกหญ้าสดสาหรบั เลีย้ งสัตว์ ใบของไผ่ที่มีขนาดใหญ่ถกู นามาใชห้ อ่ ขนม จาพวก ขนมจ้างและบ๊ะจ่าง ไมไ้ ผ่ทง้ั ลาถูกนามาใชป้ ระโยชน์ เปน็ คานสาหรบั หามสิง่ ของ คา้ งสาหรับตน้ พืชจาพวก ผกั และไม้ผลท่ี เปน็ ไมเ้ ลอื้ ย คันเบ็ด ถ่อค้าเรือหรอื แพ โป๊ะสาหรบั เทียบเรือ และรัว้ คณุ สมบตั ขิ องไม้ไผ่ 1. คณุ สมบัติทางกายภาพ ความชื้นของไม้ไผ่ที่เจริญเติบโตเต็มที่มีค่าเฉล่ีย 50-99 % และไม้ไผ่ที่ยังอ่อนอยู่มีค่าเฉล่ีย 80-95 % ขณะที่ไม้ไผ่ซึ่งแห้งเต็มท่ีแล้วมีความช้ืน 12-18 % ความชื้นของไม้ไผ่จะค่อย ๆ ลดลงจากส่วนโคนไปยัง ส่วนปลายของลาตน้ และจะลดลงเมอ่ื ลาต้นมีอายเุ พ่มิ ขึน้ และมีความช้ืนสงู ในฤดูฝนมากกว่าฤดแู ล้ง ความหนาแนน่ ของเนอื้ ไม้เปลี่ยนแปลงไปตามชนดิ ของไมไ้ ผ่ ปรมิ าณนา้ ในผนังเซลลข์ องเซลล์เส้นใยหรือไฟเบอร์(fiber) ขน้ึ กับชนิดของเนอื้ ไม้ กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วชิ าผลติ ภัณฑจ์ ากไม้ไผ่ 8 การหดตัวของเน้อื ไม้ เกิดขน้ึ ภายหลังจากการเกบ็ เก่ียว ไม้ไผท่ มี่ ีสีเขยี วจะมีการสญู เสยี น้าและมีการหดตวั ของเซลล์ซึ่งมผี ลตอ่ ขนาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางของลาไม้ไผใ่ ห้หดเล็กลงดว้ ย 2. คณุ สมบัติทางกล ไม้ไผเ่ ป็นพืชทม่ี ีเนื้อไม้ซ่งึ แขง็ แรงและยดื หย่นุ ไดเ้ ช่นเดยี วกับเนอ้ื ไม้ของพชื อืน่ ๆ คือ 1. การโค้งงอ คุณสมบัติข้ึนกับชนิดของไม้ไผ่ และขนาดของลาไผ่ หรือเนื้อไม้ที่ถูกผ่าแบ่งให้มีความหนาและ บางแตกต่างกนั ไป 2. การยดื หย่นุ ขึน้ กับคณุ สมบตั ิในการโค้งงอ และการทนต่อแรงกดบนเนื้อไม้ 3. การทนทานต่อแรงกด แรงบีบ และแรงอัดต่าง ๆ ซง่ึ มผี ลตอ่ การรบั น้าหนกั ของวตั ถุ 3. คณุ สมบัติทางเคมี องค์ประกอบหลักของเน้ือไม้ ได้แก่ เซลลูโลส(cellulose) เฮมิเซลลูโลส(hemicellulose) และลิกนิน (lignin) องค์ประกอบรองได้แก่สารจาพวก เรซนิ (resins) แทนนิน(tannins) แวก๊ ซ์(waxes) และเกลืออนิ นทรีย(์ inorganic salts) อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษและเย่ือกระดาษ มีเซลลูโลสและเฮมิเซลลูโลส ซึ่งเรียกรวมกันว่าโฮโล เซลลูโลส(holocellulose) เป็นองค์ประกอบ 61-71 % เพนโทแซน(pentosans) 16-21 % ลิกนิน (lignin) 20-30 % เถา้ 1-9 % ซลิ ิกา้ 0.5-4% หน่ออ่อนของลาต้นที่นามาบริโภคเป็นหน่อไม้ ในส่วนท่ีรับประทานได้หนัก 100 กรัม ประกอบด้วย น้า 89-93 กรัม โปรตีน 1.3-2.3 กรัม ไขมัน 0.3-0.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.2-6.1 กรัม เส้นใย 0.5-0.77 กรัม เถ้า 0.8-1.3 กรัม แคลเซียม 81-96 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 42-59 มิลลิกรัม เหล็ก 0.5-1.7 มิลลิกรัม วติ ามินบี 10.07-0.14 มิลลิกรัม วิตามินซี 3.2-5.7 มิลลิกรัม กลูโคส 1.8-4.1 กรัม พลังงาน 118-197 จูล ไซยาไนด์ 44-283 มลิ ลิกรัมตอ่ กิโลกรัม ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ไผ่มีถ่ินกาเนิดในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ เป็นไผ่ท่ีมกี ารแตกกอขนาดใหญ่ และเปน็ ลาตน้ สงู ตรง ผอมเรยี ว ส่วนไผ่ทม่ี ถี ิน่ กาเนดิ ในเขตอบอุ่นนัน้ เปน็ ไผท่ ีม่ กี ารแตกกอนอ้ ย และมีลาตน้ ขนาดใหญ่ ไผ่มีลาต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้า(rhizome) ส่วนโคนของลาต้นเหนือดินจะใหญ่และค่อย ๆ เรียวไปยังส่วน ปลายลาต้น หน่อใหม่จะเจริญออกมาจากตาข้างหรือตายอดของเหง้าที่อยู่ใต้ดิน ไผ่แต่ละลาประกอบด้วยส่วนของ ปล้องลาต้นท่ีมีลักษณะเป็นท่อกลวง และสว่ นขอ้ ท่ีมลี ักษณะเป็นแผ่นแบนแข็ง เส้นผ่านศูนย์กลางของลาต้นขน้ึ อยู่ กับชนิดของไผ่ ซึ่งมเี สน้ ผ่านศนู ย์กลางตง้ั แต่ 0.5-20 เซนติเมตร นอกจากนย้ี ังพบว่าขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลางของลา ต้น ขึ้นกับขนาดของหน่ออ่อนท่ีเจริญออกมาจากเหง้าใต้ดินอีกด้วย ปล้องที่อยู่บริเวณส่วนกลางของลาต้นมักมี ความยาวมากกว่า ปล้องที่อยู่ตรงส่วนโคนหรือส่วนปลายของลาต้น และมีริ้วรอยของกาบใบที่หลุดร่วงไปจาก บริเวณข้อของลาต้นด้วย ข้อของลาต้นไผ่บางชนิดอาจมีลักษณะโป่งพอง และอาจพบรากพิเศษเจริญออกมาจาก ขอ้ ของลาต้นทีอ่ ยใู่ กล้กับสว่ นโคนของลาตน้ กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วชิ าผลิตภัณฑจ์ ากไม้ไผ่ 9 ใบของไผ่ประกอบด้วยส่วนของแผ่นใบ(blade) กาบใบ(sheath proper) ล้ินใบ(ligule) และเข้ียวใบ (auricles) ซึ่งมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันตามชนิดของไผ่ รวมท้ังสีสันของกาบใบที่หุ้มหน่ออ่อน รวมทั้งการมี หนาม ขนหรอื ความเปน็ มนั เงาของกาบใบก็แตกต่างกนั ไปตามชนิดของไผด่ ว้ ย การแตกกิ่งก้านสาขาของไผ่จะพบตั้งแต่ส่วนโคนของลาต้นไปจนกระท่ังถึงส่วนปลายยอดในไผ่บางชนิด แต่ไผ่บางชนดิ มีการแตกก่ิงกา้ นสาขาเฉพาะส่วนยอดของลาต้นเท่านัน้ ไผ่ออกดอกเป็นช่อซึ่งมีช่อดอกย่อยแบบ Spikelet ช่อดอกของไผ่ถูกแบ่งออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ แบบ semelauctant ซ่ึงมีการเรียงของช่อดอกย่อยออกมาจากท้ังสองด้านแกนกลาง เป็นช่อดอกแบบช่อกระจะ (Raceme) หรือ (panicle) ส่วนอีกแบบหนึ่งเป็นช่อดอกแบบ iterauctant หรือ indeterminate ซ่ึงมีช่อดอก แตกออกเปน็ กระจกุ เรยี งซ้อนกนั เปน็ ช้ัน ๆ ผลของไผ่เป็นผลธัญพืช (caryopsis) เช่นเดียวกับพืชชนิดอ่ืน ๆ ซึ่งอยู่ในวงศ์หญ้า มีผนังผลเชื่อมติดกับ ส่วนของเปลือกหุ้มเมล็ด เมล็ดประกอบด้วย เอ็มบริโอ(embryo) เอนโดสเปิร์ม(endosperm) และใบเล้ียง 1 ใบ เรียกว่า scutellum เม่ือเมล็ดงอกเป็นต้นกล้า จะมีรากปฐมภูมิซึ่งพัฒนามาจากรากแรกเกิด(radicle) ของ เอ็มบริโอ ส่วนยอดอ่อน(plumule) จะเจริญเป็นลาต้นโผล่เหนือดิน โดยมีเน้ือเยื่อหุ้มยอดแรกเกิด(coleoptile) ห่อหมุ้ ปลายยอดของต้นกล้าออกมาดว้ ย ลกั ษณะทางกายวภิ าค ไม้ไผ่แต่ละลาประกอบด้วยเซลล์พาเรงคิมา(parenchyma) 50 % เส้นใย (fiber) 40 % ท่อลาเลียง 10 % เน้ือเย่ือพาเรงคิมาและท่อลาเลียงต่าง ๆ อยู่ทางด้านในของลาต้นเป็นจานวนมากขณะท่ีเส้นใยหรือไฟเบอร์มัก พบอยูท่ างด้านนอกของลาตน้ เน้ือเย่ือมัดท่อลาเลียงประกอบด้วยโพรโทไซเล็ม(protoxylem) และเมทาไซเล็ม(metaxylem) ซ่ึงทา หน้าที่ลาเลียงน้า และโฟลเอ็ม(phloem) ซ่ึงทาหน้าท่ีลาเลียงอาหารอยู่รวมกันเป็นมัด ถูกล้อมรอบด้วยเย่ือหุ้มที่ ประกอบด้วยเซลล์สเกลอเรงคิมา(sclerenclyma) ชนิดเส้นใย(fiber) ทางรอบนอกของลาต้น เน้ือเย่ือมัดท่อ ลาเลียงจะมีขนาดเล็กและมีจานวนมาก ขณะที่มัดเนื้อเยื่อซ่ึงอยู่ทางด้านในของลาต้นจะมีขนาดใหญ่กว่า และมี จานวนน้อยกว่า จานวนมัดท่อลาเลียงจะค่อย ๆ ลดลงจากด้านนอกเข้าหาด้านใน และจากส่วนโคนไปยังส่วน ปลายของลาต้น รูปแบบของมัดท่อลาเลียงท่ีพบในพืชจาพวกไผ่จะแตกต่างกนั ไปประมาณ 4-5 แบบ ข้นึ กับขนาดและการ กระจายตวั ของมัดท่อลาเลยี ง เสน้ ใย(fiber) ทพี่ บในเน้อื ไม้ของไผ่ มักอยู่บริเวณรอบ ๆ มัดท่อลาเลยี ง และพบมาก บริเวณรอบนอกจนถึงส่วนกลางของเนื้อไมท้ ่ีอยู่โดยรอบปล้องของลาต้น แต่จะมีความยาวของเส้นใยส้ันกวา่ เส้นใย ที่อยู่ด้านในของลาต้น ซ่ึงในอุตสาหกรรมการผลิตเย่ือกระดาษจะต้องเลือกใช้ชนิดของไผ่ท่ีมีคุณสมบัติต่าง ๆ ของ เส้นใยเหมาะสมต่อการผลิตด้วย เส้นใยของไผ่ชนิดต่าง ๆ ท่ีมีถ่ินกาเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มีความยาว ของเส้นใยเฉลี่ย 1.45-3.78 นาโนเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นใย 11-22 ไมโครเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของ ช่องภายในเซลล์ 2-7 ไมโครเมตร ความหนาของผนังเซลล์ 4-9 ไมโครเมตร กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ 10 ภูมิปญั ญาพืน้ บ้านจากไมไ้ ผไ่ ทย ที่มาและความสาคญั งานจกั สานเปน็ งานหตั ถกรรมท่ีชาวบ้านทาเพื่อใช้ในครัวเรือนมาแต่โบราณแมใ้ นปจั จบุ ัน งานจักสานหรือ เครือ่ งจักสานจะมอี ยู่น้อย แต่กย็ งั คงมอี ยู่ทั่วไป ทกุ ภาคในประเทศนอกเหนอื จากประโยชนใ์ ช้สอยแล้ว งานจักสาน ยังสะท้อน วัฒนธรรม สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญาของชาวบ้านได้อีกด้วย (บุญเลิศ มรกต ,2545) ในขณะท่ีสภาพสังคม เศรษฐกิจปัจจุบันที่เปล่ียนไปจากเดิม การไปมาหาสู่กันระหว่างเมืองกับชนบทติดต่อกันได้ สะดวก รวมถึงความเจริญก้าวหน้าทางกระแสวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาแทนที่วัฒนธรรมเดิมทาให้สภาพความ เปน็ อยู่ การดารงชีวิตของคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงไป ซ่งึ มผี ลกระทบทาใหง้ านจกั สานหรืออาชพี จักสานลดนอ้ ยลง ไปเรื่อยๆ จนถึงเพื่อการส่งเสริมความรู้ด้านงานจักสานแก่ผู้ท่ีสนใจในอาชีพ ได้สืบทอดงานจักสานให้คงอยู่ ต่อไป การประกอบอาชีพในทุกวันน้ีมีหลากหลายทางมีการนาเอาเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากมายและมีความ สะดวกสบายมากข้ึนอยากกินปลาก็เดินไปซ้ืออยู่ตลาด จนคนในยุคปัจจุบันไม่รู้จักกรรมวิธีข้ันตอนในอุปกรณ์ใน การประยุกษ์เลือกนาภูมิปัญญาพ้ืนบ้านท่ีได้จากไม้ไผ่เอาวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่มาใ ช้ในการทามาหากินไม่รู้จัก อุปกรณ์พ้ืนบ้านอีสาน ท่ีปู่ย่าจักรสานข้ึน อย่างเช่น สุ่มไก่ การสานกระด้ง กระติบข้าว อีโฮ่งใช้ร่อนปลา กระชังใส่ ปลาซึ่งอุปกรณ์บางอย่างเราก็ไม่รู้จัก จึงจาเป็นอย่างมากท่ีเราควรจะศึกษาขั้นตอนในการทาอุปกรณ์พ้ืนบ้านต่างๆ เพือ่ จะไดส้ บื สานต่อไปคไู่ วใ้ หอ้ ยู่กับคนไทยไปยาวนาน 1 การจักรสานสุ่มไก่ ความเป็นมาสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวดั หนึ่งท่ีประชาชนนิยมกีฬาชนไก่ จึงมีการเลี้ยงไก่ชนเป็นจานวน มาก และอุปกรณ์ที่จาเปน็ ในการเลี้ยงดูไกช่ นอย่างใกลช้ ิดคือสุม่ ไก่ ซึ่งสุ่มไกน่ ี้สานได้ง่าย มีราคาถกู และใช้ประโยชน์ได้ดี การสานสุ่มไก่นี้ศึกษาที่บ้านนาย ศีละ จะกะ เลขที่ 31 หมู่ที่ 1 ต.สันผักหวาน อ. หางดง จ.เชียงใหม่ซ่ึงสามีนาง สงวนฯ (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) สานสุ่มไก่เป็น คนแรกในหมู่บ้านเมื่อประมาณ 30 ปีมาแล้วปัจจุบันลูก ๆ ศีละ ฯ ยังคงสานสมุ่ ไก่ เปน็ อาชีพเสรมิ จากการทารับจา้ งทัว้ ไป ซงึ่ มีฝมี อื ดีสานสมุ่ ไก่ได้รวดเร็ว สาหรับบา้ นนท้ี ากัน 1 คน ไผต่ ะเกียบ11 ไผ่ตะเกียบ คณุ สมบัติมีความเหนียวและอ่อนตัวได้ดี ไผ่ตะเกียบทน่ี ามาจักสานสุ่มไก่มี อายุประมาณ 5 ปี แหล่งท่ีมาเก็บหาภายในหมู่บ้านซึ่งมีเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่รับซ้ือ จากหมู่บ้านอ่ืน ราคาลาละ 4 บาทแต่ละลามี ความยาวประมาณ 8 ม. เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ 1. เลอื่ ยคันธนู ใชเ้ ลื่อยตัดข้อปลายลาไผ่ และเลอื่ ยตัดปากสมุ่ เม่อื สานสุม่ ไก่ เสร็จแล้ว 2. มีดพร้า ใช้ผ่าลาไผ่และเหลาจักตอกไผ่เพ่ือแยกส่วนในและส่วนผิวของไผ่ ซ่ึงส่วนผิวที่ใช้งานจะมีความ เหนยี ว งา่ ยต่อการจกั สาน 3. คอ้ น ใช้ตอกตะขอข้อไผห่ ลักหมดุ ยดึ ส่วนหวั สมุ่ ไก่เม่ือสานขน้ึ รูป วิธกี ารจกั สาน 1. การจักตอกไผ่ กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชพี วชิ าผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 11 1.1 ใช้เลอื่ ยคนั ธนเู ลอ่ื ยตัดข้อปลอ้ งแรกของไผ่ทง้ิ เพื่อให้ผา่ ลาไผไ่ ด้สะดวก 1.2 ผา่ ลาไผ่ออกมาเปน็ เสน้ ๆ 1.3 จักตอกเส้นไผ่เป็นตอกยืน ตอกยาว และตอกไผต่ นี (ส่วนข้อไผท่ ่ีมีตาไผ่) ความกว้างของตอกแต่ละแบบโดยประมาณ คือ ตอกยืน 1.3–1.7 ซม. ตอกยาว 0.8 ซม.และตอกไผ่ ตนี 1.6–2.0 ซม. ซ่ึงไผห่ นง่ึ ลาเหลาจกั ตอกได้ตอกยืนใช้สานสุ่มไก่ได้ 1 ใบ และตอกยาวสานสุ่มไก่ได้ 2 ใบ 1.4 ส่วนท่เี ป็นขอ้ ไผ่นามาเหลาเปน็ ตะขอข้อไผ่หลกั หมุดยึดหัวสุ่ม เพ่ือไมใ่ หส้ มุ่ ขยบั เขยอื่ นในขณะสาน ขึ้นรปู 2. การสานสุ่มไก่ 2.1 เร่มิ จากสานตอกยาวและตอกยืนเป็นหวั สมุ่ แบบลายขัด 2.2 ใชค้ อ้ นตอกตะขอข้อไผ่หลกั หมุดยึดหัวสุม่ บนพืน้ ดนิ ลานกวา้ ง เพื่อยึดส่มุ ไก่ ไวใ้ น การสานขึน้ รูป 2.3 ใชต้ อกยาวสานรอบ ๆ สุ่มไก่เพ่ือขึ้นรปู แบบลายหน่ึง (ยกหน่ึงข้ามหน่ึง) โดยจุดเร่มิ ต้นของตอกยาวแต่ ละเสน้ เปลยี่ นตาแหนง่ ไปเรือ่ ย ๆ เพ่อื ใหส้ ่มุ ไก่ได้รปู ทรงกลม 2.4 สานตนี สมุ่ โดยใช้ตอกไผ่ตีนประมาณ 5 เสน้ 2.5 ใชเ้ ลอ่ื ยคันธนูเล่อื ยตัดส่วนตอกยืนทย่ี ่นื ยาวตีนสุ่มไกท่ ้ิงไป เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 1. เลื่อยคันธนู ใช้เลอื่ ยตดั ข้อปลายลาไผ่ และเล่อื ยตัดปากสมุ่ เมื่อสานสมุ่ ไก่ เสร็จแล้ว 2. มีดพรา้ ใชผ้ า่ ลาไผ่และเหลาจักตอกไผเ่ พ่ือแยกสว่ นในและสว่ นผวิ ของไผ่ ซ่งึ สว่ นผิวท่ใี ชง้ านจะมีความ เหนียว งา่ ยต่อการจักสาน 3. ค้อน ใช้ตอกตะขอขอ้ ไผห่ ลกั หมดุ ยดึ สว่ นหวั สมุ่ ไก่เม่ือสานขึ้นรูป วิธีการจกั สาน 1. การจกั ตอกไผ่ 1.1 ใช้เล่อื ยคันธนูเล่อื ยตัดขอ้ ปลอ้ งแรกของไผ่ทิ้งเพ่ือให้ผ่าลาไผไ่ ดส้ ะดวก 1.2 ผา่ ลาไผ่ออกมาเป็นเสน้ ๆ 1.3 จักตอกเส้นไผ่เป็นตอกยนื ตอกยาว และตอกไผต่ ีน (ส่วนขอ้ ไผ่ทีม่ ีตาไผ่) ความกว้างของตอกแต่ละแบบโดยประมาณ คือ ตอกยืน 1.3–1.7 ซม. ตอกยาว 0.8 ซม.และตอกไผ่ตีน 1.6–2.0 ซม. ซง่ึ ไผห่ นง่ึ ลาเหลาจักตอกไดต้ อกยืนใช้สานสุ่มไก่ได้ 1 ใบ และตอกยาวสานสมุ่ ไก่ได้ 2 ใบ 1.4 สว่ นท่เี ป็นขอ้ ไผน่ ามาเหลาเปน็ ตะขอข้อไผห่ ลักหมุดยึดหวั สุม่ เพอ่ื ไมใ่ หส้ ุม่ ขยับเขยอื่ นในขณะสาน ขน้ึ รปู 2. การสานส่มุ ไก่ 2.1 เรมิ่ จากสานตอกยาวและตอกยนื เปน็ หวั สุ่มแบบลายขดั 2.2 ใช้ค้อนตอกตะขอขอ้ ไผห่ ลกั หมดุ ยึดหวั สุ่มบนพืน้ ดินลานกว้าง เพือ่ ยดึ สุ่มไก่ ไวใ้ น การสานขึ้นรปู 2.3 ใช้ตอกยาวสานรอบ ๆ สุ่มไก่เพ่ือขึ้นรปู แบบลายหน่ึง (ยกหน่ึงข้ามหนง่ึ ) โดยจดุ เร่ิมตน้ ของตอกยาวแต่ ละเสน้ เปล่ยี นตาแหน่งไปเร่ือย ๆ เพ่ือให้สมุ่ ไก่ได้รูปทรงกลม กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ 12 2.4 สานตีนสุ่มไก่ โดยใชต้ อกไผ่ตนี ประมาณ 5 เส้น 2.5 ใช้เลอื่ ยคันธนเู ลอื่ ยตัดสว่ นตอกยนื ที่ยน่ื ยาวตนี สมุ่ ไก่ทง้ิ ไป 1.การจกั ตอกทาสุ่มไก่ 2.การสานลายขดั หวั ส่มุ ไก่ 3.การสานขึ้นหัวสมุ่ ไก่ กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 13 4.การสานขนึ้ รปู แบบลายหนง่ึ รอบ ๆ สุม่ ไก่ 5.การสานตีนสุ่มไก่(คนในสุ่มไก่กาลังถอนข้อไผต่ ะขอหลักหมดุ เมอ่ื สานสุ่มไก่เสร็จแลว้ ) 6.การเลอ่ื ยตดั ปลายตอกยนื ตีนสุม่ ไก่ทยี่ ืน่ ยาวท้งิ ไป 7.สุ่มไกท่ ่ีแล้วเสรจ็ ตลาด สุ่มไก่ชนท่ีทามี 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง และใหญ่ โดยท่ัวไปนิยมขนาดกลางขายปลีกราคา 70, 80 และ 110 บาท ตามลาดับ หากส่งไปให้จะคิดเพิ่มลูกละ 10 บาท ท่ีบ้านนาย ศีละ ฯ มีลูกชาย 4 คน ในแต่ละเดือน สามารถ สานสุ่มไก่ได้ 100-120 ลูก อายุการใช้งานสุ่มไก่ประมาณ 3 ปี แต่โดยทั่วไปสุ่มไก่แต่ ละลูกจะใช้เพียง 1 ปเี ท่าน้ัน ไผ่หายากและขาดแคลนไผ่ กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนาอาชีพ วชิ าผลติ ภณั ฑ์จากไม้ไผ่ 14 2. การจักรสานกระบุง้ ลักษณะของเครื่องมือ: กระบุง เป็นภาชนะท่ีจักสานด้วยไม้ไผ่เป็นลวดลายต่างๆ ใช้สาหรับใส่ข้าว ข้าวโพด ถั่วงา ใช้ตวงหรือโกย และใส่ของอื่นๆ ปากมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมกว้างประมาณ 30-40 เซนติเมตร ก้นมีรูปทรงส่ีเหล่ียม และมีหูห้อยตรงปากกระบุง 2 ข้างเอาไว้สาหรับร้อยเชือกเพ่ือใช้หาบ หรือห้ิว ขนาดของ กระบุงโดยทั่วไปแล้วจะมีอยู่ สามขนาด รูปทรงจะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของการใช้งาน กระบุงขนาด ใหญ่มีหูร้อยเชือกเพื่อใช้หาบ ขนาดกลางใช้ในการตวงหรือโกย และกระบุงขนาดเล็กจะใช้สาหรับงานเบ็ดเตล็ด ท่ัวๆ ไป การใช้ประโยชน์ หลังการเกบ็ เก่ียว และเกบ็ รักษา อธิบายการใช้ประโยชน์: กระบุง เป็นเคร่ืองมือท่ีใช้สาหรับตักตวงหรือโกย ข้าว เมล็ดพืช และใส่สิ่งของ อื่นๆ ท้ังน้ีการใช้ขึ้นอยู่กับขนาดของกระบุงด้วย ซ่ึงหากเป็นกระบุงขนาดใหญ่จะใช้สาหรับในการหาบข้าว หรือ เมล็ดพชื ตา่ งๆ ถ้าเป็นขนาดกลางจะใช้สาหรบั ในการตวง หรือโกยขา้ ว แต่ถ้าหากเป็นกระบุงขนาดเลก็ จะนิยมมาใส่ ของเบด็ เตลด็ กระบงุ สามารถใช้งานได้ประมาณ 2-4 ปี และนยิ มทากันในทอ้ งถนิ่ “การสานกระบงุ ” วัตถุดบิ 1.ไผส่ สี กุ สาหรบั จกั สานเปน็ ตอก และขอบตะกร้า 2. หวาย สาหรับถักรดั ขอบตะกรา้ หวายท่ีนิยมในงานจักสานโดยเฉพาะ “หวายหอม” ที่สาหรบั ทาเส้น หวายใหม้ ีขนาดตามทีต่ ้องการ อุปกรณท์ ่สี าคัญ มีดโต้หรือพร้า สาหรับผ่า เหลาและจกั ไม้ไผใ่ หเ้ ปน็ ตอก ขอบปากและไผ่ขัดกน้ ตะกรา้ รวมทง้ั ส่วนอ่ืนๆ ที่ จาเปน็ เลือ่ ยมือ สาหรบั ตัดผ่าแบ่งไม้ วธิ ีทา ขัน้ ตอนแรก นาไม้ไผม่ าตัดเป็นทอ่ นยาวประมาณ 50 ซม. ขน้ั ตอนท่ี 2แลว้ ผ่าแบง่ ก่อนจะนามาจักเป็นตอก โดยเหลาให้ปลายตอกท้ังสองด้านเท่ากัน จากน้ันนาตอก มาสานเป็นลายสองธรรมดา ขั้นตอนที่ 3 แล้วเหลาไมไ้ ผ่เป็นซส่ี องอนั ใหป้ ลายแต่ละดา้ นแหลมเรียว กอ่ นจะนาไปสอดขดั กบั ตอกท่ีสาน เป็นพน้ื เพื่อให้แขง็ แรง งานที่ได้ในช่วงนค้ี อื สว่ นของพนื้ หรือก้นตะกรา้ ขนั้ ตอนที่ 4 จากน้ันสานแบบบังคบั ทศิ ทางใหเ้ ปน็ รูปทรงกลมตามแบบท่ีตอ้ งการก่อนจะใชต้ อกอีกส่วน หนง่ึ ไพลเ่ ป็นเสน้ เลก็ สานขวางขัดกบั ตอกยืนจนสุดขอบปากตะกรา้ ก่อนจะพบั ปลายตอกยืนใหเ้ ขาไปในรอยตอก ทาไปจนรอบใบจะไดต้ ะกร้าท่ีสวยงาม 3. การจกั รสานกระติบข้าว ความรู้เรอ่ื งกระติบข้าว และวธิ ีสานกระติบข้าว กระติบข้าว(หรือก่องข้าวเหนียว)เป็นของใช้ประจาบ้านท่ีใช้บรรจุข้าวเหนียว ทุกครัวเรือน ทุกพ้ืนที่ที่รับประทาน ขา้ วเหนยี ว โดยเฉพาะในภาคอสี านของไทย ซึง่ ชาวอสี านนิยมบรโิ ภคขา้ วเหนยี ว กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชีพ วชิ าผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 15 วสั ดทุ ่ใี ช้ทากระติบขา้ ว กระติบข้าวสามารถทาได้จากวัสดุหลายอย่าง เช่น ใบจาก ใบตาล ใบลาน เป็นต้น แต่ท่ีนิยมใช้ทามาก และมีคุณภาพดีที่สุด ต้องทาจากไม้ไผ่ไม้ไผ่มีหลายชนิด แต่ละชนิด เหมาะกับงานแต่ละอย่าง และไม้ไผ่ท่ีนิยม นามาทากระติบข้าว คือไม้ไผ่บ้าน หรือไม้ไผ่ใหญ่ อายุประมาณ 10 เดือน ถึง 1 ปี เพราะมีปล้องใหญ่และปล้อง ยาว เนือ้ ไมเ้ หนยี วกาลงั ดี ไมเ่ ปราะง่าย ทาเปน็ เสน้ ตอกสวย ขาว วัสดทุ ่ใี ช้ทากระติบข้าว 1. ไมไ้ ผบ่ า้ น 2. ดา้ ยไนล่อน 3. เข็มเย็บผ้าขนาดใหญ่ 4. กรรไกร 5. มีดโต้ 6. เล่ือย 7. เหลก็ หมาด (เหลก็ แหลม) 8. ก้านตาล 9. เครือ่ งขูดตอก 10. เครื่องกรอดา้ ย ขน้ั ตอนการสานกระตบิ ขา้ ว 1. นาปล้องไม้ไผ่มาตัดหัวท้าย ตัดเอาข้อออก ผ่าเป็นซีกทาเส้นตอกกว้างประมาณ2-3 ม.ม. ขูดให้เรียบ และบาง 2. นาเส้นตอกที่ไดม้ าสานเป็นรปู รา่ งกระติบขา้ ว หน่ึงลกู มี 2 ฝา มาประกอบกนั 3. นากระตบิ ขา้ วท่ีไดจ้ ากขอ้ (2.) มาพับคร่ึงให้เท่า ๆ กนั พอดี เรียกว่า 1 ฝา 4. ขั้นตอนการทาฝาปิด โดยจกั เสน้ ตอกที่มคี วามกวา้ ง 1 นิว้ สานเปน็ ลายตามะกอก และลายขดั 5. นาฝาปดิ หวั ทา้ ยมาตดั เปน็ วงกลม มาใส่เขา้ ที่ปลายทง้ั สองข้าง 6. ใช้ดา้ ยไนลอ่ น และเขม็ เยบ็ เขา้ ด้วยกนั รอบฝาปิดหัวท้าย 7. นากา้ นตาลทมี่ ้วนไวม้ าเยบ็ ตดิ กับฝาลา่ ง ท่ีเปน็ ตวั กระติบขา้ ว 8. นากระติบข้าวท่ีได้ไปรมควันจากฟางข้าว เพื่อกันแมลงเจาะ และเพ่ือความสวยงาม ทนทาน ไม่เกิดรา ดา 9. นาไม้มาเหลาเป็นเส้นตอก กลมยาวเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง 2-3 ม.ม. ความยาวรอบ บางเท่ากบั ฝากระตบิ พัน ด้วยดา้ ยไนลอ่ น แลว้ เยบ็ ตดิ ฝาขอบบน เพื่อความสวยงาม 10. เจาะรูท่ีเชิงกระตบิ ข้าว ด้วยเหล็กแหลม 2 รู ให้ตรงข้ามกัน แล้วทาหูท่ีฝาดา้ นบน ตรงกับรูที่เจาะเชิง ไว้ 11. ใช้ด้ายไนล่อนสอดเข้าเป็นสายไว้สะพายไปมาได้สะดวก จะได้กระติบข้าวท่ีสาเร็จเรียบร้อย สามารถ นามาใช้และจาหนา่ ยได้ กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชีพ วิชาผลติ ภณั ฑ์จากไม้ไผ่ 16 ประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากกระติบขา้ ว 1. ใชบ้ รรจขุ ้าวเหนียว 2. เป็นของชารว่ ย 3. ประดับตกแต่ง 4. กลอ่ งเอนกประสงค์ 5. กลอ่ งออมสิน 6. แจกนั 7. กลอ่ งใสด่ นิ สอ ข้อเสนอแนะ 1. การเลอื กไม้ไผ่ ควรเลอื กไม้ไผ่ ทีม่ ีปล้องยาวอายุประมาณ 10 เดอื น ถงึ 1 ปี 2. การจกั ตอก ต้องมขี นาดความกว้าง ความยาวให้เท่า ๆ กันทกุ เส้น เพ่ือจะได้กระติบรูปทรงสวยงาม 3. ก่อนทีจ่ ะเหลาเส้นตอก หรอื ขดู ให้นาเสน้ ตอกท่จี ักแลว้ แช่น้าประมาณ 1 ช่วั โมง เพื่อให้เส้นตอกออ่ น นมุ่ จะได้ขูดเหลางา่ ยข้ึน แล้วนาไปตากแดด ใหแ้ ห้งสนิท เพื่อป้องกันเชื้อราก่อนลงมือสาน 4. การจักรสานไซดกั ปลา การทาไซดักปลา ไซ เปน็ เครื่องมือดักสัตว์น้า โดยมากดักปลาในกลมุ่ ปลาเล็กปลาน้อย ใชง้ านในแหลง่ นา้ ไม่ลึก มักเป็นแหล่ง น้าไหลและเป็นการเปิดช่องระบายน้าเข้าออกตามบ้ิงนาคันนา ไซมีหลายรูปทรง ตั้งชื่อตามรูปทรงนั้น เช่น ไซ ปากแตร สานเป็นรูปกรวยปากไซบานออกเป็นรูปปากแตร ไซท่อ สานคล้ายท่อดักปลา หรืออาจตั้งชื่อตาม วัตถุประสงค์ เช่น ไซสองหน้า มีช่อง 2 ด้าน ไซลอย ใช้วางลอยในช่วงน้าตื้น ๆ แหวกกอข้าวหรือกอหญ้า วางแช่ น้าไว้ ไซปลากระด่ี ใชด้ กั ปลากระดี่ ไซกบ สานเปน็ ลายขดั ตาส่ีเหลี่ยมรปู ทรงกระบอก ใชด้ ักกบ ไซโป้ง สานกน้ โป่ง เล็กน้อย แม้วา่ จะมีรปู ลกั ษณ์ท่ีตา่ งกัน แต่มลี ักษณะรว่ มกันคือ สานเป็นทรงกระบอกและทาปากทางเข้าเป็นงาแซง (ซี่ไม้เส้ียมปลายแปลม รูปทรงคล้ายกรวยที่บีบแบน ๆ ทาให้ปลาเข้าได้ แต่ว่ายสวนความคมของปลายไม้ออกมา ไมไ่ ด)้ วัสดุท่ีใช้ คือต้นไผ่ ปัจจุบันนี้หาง่ายมาก มีปลูกกันเต็มไปหมดทุกหัวระแหงต้นไผ่ที่นามาทาไซ ต้องไม่แก่ หรืออ่อนจนเกินไป ขนาดกลางๆ อายุประมาณ 2-3 ปี เพราะถ้าแก่เกินไป มันก็จะหักง่าย ส่วนไผ่ท่ีเอามาทาส่วน ใหญ่จะเป็นไผ่สีสุก เพราะทนทานและมีความยืดหยุ่นสูง โดยไผ่ 1 ลาจะสามารถทาไซได้ 1ลูก ซึ่งแต่ละลูกจะใช้ เวลาทาประมาณ 3-5 วนั ทง้ั นขี้ น้ึ อย่กู บั ขนาดของไซดว้ ย” วิธีการสานไซ ผู้ทามักเหลาเส้นตอกให้เล็กเป็นเส้นกลมยาวอย่างน้อย 2 ปล้องไผ่ เมื่อได้เส้นตอกตาม จานวนท่ีต้องการแล้วนามามัดปลายด้านหนึ่งรวมกัน ก่อนจะพับให้กลับไปด้านหลัง แล้วใช้เส้นตอกอีกส่วนหน่ึง สานขวางสลบั กันไปต้งั แต่ด้านบนถงึ ดา้ นล่าง การสานนิยมสานเป็น “ลายขวางไพห้า” ระหวา่ งสานผู้ทาต้องบังคับ ใหร้ ปู ทรงป่องแคบตามลักษณะของงาน สว่ นบรเิ วณตรงกลางหรือกลางค่อนไปทางปลายจะมีการเจาะใส่งาอีกดา้ น ละชอ่ ง เพื่อใหเ้ ป็นส่วนทป่ี ลาวิ่งเข้าและนาออก กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไมไ้ ผ่ 17 ประโยชน์ของไซดักปลา มีคุณค่าต่อวิถีชีวิตของคนในอดีตทุกบ้านจะทาไซไว้ใช้เองโดยจะนาไซไปดักไว้ ตามคลองที่น้าไหลผ่าน ซึ่งสถานที่ดักก็จะมีอยู่ท่ัวไปตามไร่ตามนา ในฤดูฝนมีน้าหลาก ชาวบ้านออกไปทา ไร่ ทานา ก็จะนาไซไปดักทงิ้ ไว้ด้วย ก็จะได้ปู ปลาตา่ ง ๆ มากมาย บางคร้ังอาจยกไซไมไ่ ด้เนือ่ งจากหนกั เพราะ ดักปลาได้เกือบเต็มไซ ปลาที่ได้ก็จะนาไปประกอบอาหารสาหรับทุกคนในครอบครัว แบ่งปันให้เพื่อนบ้าน บ้าง โดยไม่ต้องซ้ือขายกัน ท่ีเหลือก็จะนามาถนอมอาหารเช่น ทาปลาร้า ปลาเค็ม ปลาย่าง เก็บไว้กินยามฤดู แล้ง ความอุดมสมบูรณ์ของทรพั ยากร ที่สามารถหาปลากินได้อย่างเหลือเฟือ เป็นท่ีมาของความเชื่อในเรื่องโชค ราง ชาวบ้านตาบลเพชรชมภู มีความเชื่อว่าไซ เป็นเคร่ืองรางที่จะช่วยดักเงนิ ทอง โชคลาภได้ จงึ มักจะนาไซไป แขวนไว้ตามหนา้ รา้ นคา้ ประตูบา้ น หรอื ใชผ้ กู เสาเอกในพธิ ีลงเสาเอกบา้ นเรอื น เพอื่ ความเปน็ สิริมงคล 5. การจกั รสานข้องใส่ปลา ข้อง เป็นเคร่ืองจักสานชนิดหน่ึง สานดว้ ยผิวไม้ไผ่ ปากแคบอย่างคอหม้อ มีฝาปิดเปิดได้ เรยี กว่า ฝาข้อง ฝาข้องมีชนิดท่ีทาด้วยกะลามะพร้าว และใช้ไม้ไผ่สานเป็นรูปกรวย ปลายกรวยแหลมปล่อยเป็นซี่ไม้ไว้เรียกว่า งา แซง ข้องใชส้ าหรับใส่ ปลาปู กุง้ หอย กบ เขียด การใช้งาน ใชใ้ สป่ ลา ก้งุ หอย ทุกชนดิ ใช้ในเวลาที่ออกหาปลา โดยผูกขอ้ งไว้ทเ่ี อว ถ้าจับปลาที่มขี นาด ใหญน่ ิยมใชข้ ้องเปด็ เพราะปลาไม่ต้องงอตัวอย่ใู นขอ้ ง ปลาจะนอนตามความยาวของตวั ขอ้ ง จะทาให้ปลามีชีวิตอยู่ ไดน้ าน ถา้ ขังปลาดว้ ยข้องเป็ดแล้วนาไปแชน่ ้าที่ไหล ยิ่งจะทาให้ปลามีชีวิตอยู่ได้หลายวนั อปุ กรณ์ในการสานตะขอ้ ง 1.ไม้ไผ่ทีจ่ ักเป็นเสน้ เเละเหลาเปน็ เสน้ บางๆตามความยาวทตี่ ้องการ 2.มดี สาหรับเหลา 1 อนั ต้องเปน็ มดี ที่คม 3.เศษผ้าสาหรบั พันทน่ี ิว้ ชี้ ใช้งานเมอ่ื เหลาไม้ไผ่ปอ้ งกนั การบาดมือ 4.ท่อนไม้ทเี่ หลาเปน็ ทรงกลม สาหรับทาเเบบขนาดของปากตะข้อง วิธีการทา 1.นาไมไ้ ผ่ที่เปน็ ลามามาผา่ เเลว้ จักใหเ้ ป็นเสน้ ๆ เสร็จเเล้วเหลาให้เป็นเสน้ บางๆ จะใชเ้ ฉพาะทผี่ วิ เปลอื ก นอกในการสานตะข้อง เพราะจะมีความทนทาน กว่าการใช้ใสข้ า้ งใน 2.ในการเหลาจะเหลาไว้หลายขนาด ถ้านามาสานทต่ี ัวข้องจะใชเ้ ส้นทย่ี าวเเละเเบน ถ้านามาทาทป่ี ากข้อง จะใช้เส้นเลก็ และกลม เพื่อความแนน่ หนา เเละคงทน 3.ทาการสานโดยสานตัง้ เเตฐ่ านของตะข้องขึ้นมาก่อน โดยสานเป็นการสลบั 1 เวน้ 1 กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลติ ภณั ฑ์จากไมไ้ ผ่ 18 บทท่ี 3 วิธีดาเนนิ การดาเนนิ งาน การประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลของโครงการในการดาเนินงาน จัดการ ดาเนนิ งานโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชนหลกั สตู รพฒั นาอาชีพ วชิ าผลิตภัณฑจ์ ากไม้ไผ่ ดงั รายละเอียดดงั ต่อไปนี้ ขน้ั เตรียมการ ( planning ) ขน้ั ดาเนนิ การ ( Doing ) ขนั้ การตดิ ตามผลและประเมนิ ผล ( Checking and Acting ) ขน้ั เตรยี มการ ( planning ) 1. แตง่ ตง้ั คณะกรรมการ 2. ประชมุ ชี้แจงและวางแผนการดาเนินงานของคณะกรรมการดาเนินงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 3. เตรยี มเอกสารให้กับผ้เู ขา้ รว่ มโครงการและแบบประเมินผลเพ่ือศึกษาความสาเร็จของโครงการ ขนั้ ดาเนินการ ( Doing ) 1. ดาเนนิ การประสานงานผู้ทีเ่ กย่ี วข้อง - องค์การปกครองสว่ นท้องถน่ิ /ผู้นาชุมชน -วทิ ยากร 2. จดั อบรม 3. ประเมินผลโครงการ โดยใหผ้ ู้เข้าร่วมโครงการออกแบบประเมนิ ความพึงพอใจในการเขา้ รว่ มโครงการ 4. รวบรวมขอ้ มูลจากแบบประเมนิ 5. สรปุ ผลความพึงพอใจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ขั้นการติดตามผลและประเมินผล ( Checking and Acting ) 1. เครื่องมือที่ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เป็นแบบประเมินความพงึ พอใจ ซึ่งแบง่ ออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 แบบสอบถามความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารบั การอบรม ตอนท่ี 3 ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะในการจดั อบรมคร้งั ต่อไป เปน็ ข้อคาถามแบบปลายเปิด 2. การเก็บรวบรวมข้อมลู การประเมนิ ผลครั้งน้ี ทาการศกึ ษากลุม่ เปา้ หมายคือประชาชนท่ัวไปที่สนใจเขา้ ร่วม รับการอบรม ในคร้งั น้ี จานวนทั้งส้นิ 12 คน 3. วเิ คราะห์ข้อมูล สถิตทิ ี่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ข้อมูลเชงิ ปริมาณ ใช้วธิ ีวิเคราะห์ค่าความถ่ี คา่ ร้อยละ ส่วนขอ้ มูล เชิง คณุ ภาพจากขอ้ คาถามปลายเปดิ ใชว้ ิธวี เิ คราะหเ์ นื้อหา กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชพี วชิ าผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 19 4. เกณฑ์การประเมิน จากความพึงพอใจทีอ่ ยใู่ นระดับมาก นามาหาคา่ เฉล่ยี ดงั ต่อไปนี้ 1) รอ้ ยละ 80 – 100 อยู่ในระดับดีมาก 2) รอ้ ยละ 70 – 79 อย่ใู นระดบั ดี 3) รอ้ ยละ 60 – 69 อยใู่ นระดบั ปานกลาง 4) รอ้ ยละ 50 – 59 อยรู่ ะดับพอใช้ 5) ร้อยละ 40 – 49 ควรปรับปรงุ กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไมไ้ ผ่ 20 บทที่ 4 ผลการดาเนนิ โครงการ ในการประเมินผลการดาเนินงาน กศน.ตาบลนาสี ได้จัดทาเคร่ืองมือเป็นแบบสอบถาม วัดระดับความคิดเห็นและความพึงพอใจในการดาเนินกิจกรรม ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรกเป็นคาถาม เก่ียวกับข้อมูลทั่วไป ส่วนท่ี 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้ารับร่วมกิจกรรม และ ส่วนท่ี 3 เป็นคาถาม ปลายเปิด ข้อคิดเห็นอ่ืนๆและข้อเสนอแนะ ส่วนท่ีสามเป็นคาถามปลายเปิดเน้ือหาสาระท่ีต้องการพัฒนาในครั้ง ต่อไป ซึ่งในการเก็บรวบรวมข้อมูลน้ัน ได้แจกแบบสอบถามแก่ผู้เข้ารับบริการ การเข้าร่วมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพ ชมุ ชน โดยมีกลุ่มอาชีพ 1 กลุม่ จานวน 12 คน ได้รับแบบสอบถามคืนจานวน 12 ฉบับ จากผู้เข้ารับการ 12 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ซึง่ ใชว้ ดั ระดบั ความคดิ เห็นและความพึงพอใจที่มีต่อโครงการจะปรากฏดงั นี้ ตอนที่ 1 ขอ้ มูลท่ัวไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม จากผ้เู ข้าอบรมจานวน 10 คน ผเู้ ขา้ อบรม จาแนกตามเพศ เพศ จานวน ( คน ) รอ้ ยละ ชาย 11 91.67 หญิง 1 8.33 รวม 12 100.00 จากตาราง พบว่า ผู้ที่เข้าอบรมท้ังหมดเป็นเพศหญิง จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 91.67 และ เป็นเพศชาย จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.33 ผเู้ ขา้ รับการอบรม จาแนกตามอายุ จานวน ( คน ) รอ้ ยละ อายุ - - 1 8.33 ตา่ กว่า 15 ปี 3 25.00 15 – 39 ปี 8 66.67 40 – 59 ปี 12 100.00 60 ปีข้นึ ไป รวม จากตาราง พบว่าผู้ท่เี ขา้ อบรม มีอายรุ ะหว่าง 15 - 39 ปี จานวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 8.33 มีอายุระหว่าง 40 – 59 ปี จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 และอายุ 60 ปีขึ้นไป จานวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 66.67 กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 21 ผู้เขา้ อบรม จาแนกตามระดับการศกึ ษา ระดบั การศกึ ษา จานวน ( คน ) รอ้ ยละ ป.4 4 33.33 ป.6 3 25.00 ม.ต้น 3 25.00 ม.ปลาย 2 16.67 ปวช. - - ปวส. - - ปริญญาตรี -- อื่นๆ โปรดระบุ ................. - - รวม 12 100.00 จากตารางพบว่าผู้เข้าอบรม มีระดับการศึกษา ป.4 จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 33.33 มีระดับการศึกษา ป.6 จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 ระดับการศึกษา ม.ต้น จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 และระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 16.67 ผู้เขา้ อบรม จาแนกตามอาชพี อาชีพ จานวน ( คน ) รอ้ ยละ ผูน้ าทอ้ งถ่นิ -- อบต./เทศบาล -- พนักงานรฐั วสิ าหกิจ - - ทหารกองประจาการ - - เกษตร 12 100.00 รบั ราชการ -- คา้ ขาย - - รับจ้าง - - อสม. - - แรงงานตา่ งดา้ ว -- ว่างงาน -- อ่ืนๆโปรดระบ.ุ ............................ - - รวม 12 100.00 จากตารางผูเ้ ขา้ อบรม มีอาชีพเป็นเกษตรกร จานวน 12 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วิชาผลิตภณั ฑ์จากไมไ้ ผ่ 22 ตอนท่ี 2 ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรมและความพงึ พอใจของผู้เรยี น/ผรู้ ับบรกิ าร ผู้ประเมนิ ไดแ้ ก่ ผู้เขา้ ร่วมโครงการทุกคน ตอนท่ี 1 ความพึงพอใจด้านเนอ้ื หา ระดบั การประเมนิ ท่ี รายการ มากทสี่ ดุ มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย รวม กลาง ที่สุด 1 เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ 5 5 2- - 12 ( 41.67 ) ( 41.67 ) ( 16.66 ) (100.00) 2 เน้อื หาเพยี งพอต่อความต้องการ 651 - - 12 ( 50.00 ) ( 41.67 ) ( 8.33 ) (100.00) 3 เน้ือหาปัจจบุ นั ทนั สมยั 4 6 2- - 12 ( 33.33 ) ( 50.00 ) ( 16.67 ) (100.00) 4 เนื้อหามปี ระโยชนต์ อ่ การนาไปใช้ 75 - - - 12 ในการพฒั นาคุณภาพชีวิต ( 58.33 ) ( 41.67 ) (100.00) เฉลย่ี รวม 45.83 43.75 10.42 - - 100.00 จากตาราง การวเิ คราะห์ข้อมูลความพึงพอใจดา้ นเนื้อหา โดยวดั เปน็ รายดา้ น สรปุ ผลดงั นคี้ อื 1. เนื้อหาตรงตามความต้องการ จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 16.66 2. เน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 50.00 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.33 3. เน้ือหาปัจจุบันทันสมัย จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 4 คน คิดเป็น ร้อยละ 33.33 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 16.67 4. เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 58.83 และพอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 41.67 กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาผลติ ภัณฑ์จากไม้ไผ่ 23 ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม ระดบั การประเมิน ที่ รายการ มากที่สุด มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย รวม กลาง ท่ีสดุ 5 การเตรยี มความพร้อมกอ่ นอบรม 561 - - 12 ( 41.67 ) ( 50.00 ) ( 8.33 ) (100.00) 6 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับ 552 - - 12 วัตถปุ ระสงค์ ( 41.67 ) ( 41.67 ) ( 16.66 ) (100.00) 7 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 462 - - 12 ( 33.33 ) ( 50.00 ) ( 16.67 ) (100.00) 8 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั 5 5 2- - 12 กลมุ่ เปา้ หมาย ( 41.67 ) ( 41.67 ) ( 16.66 ) (100.00) 9 วธิ กี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสม 56 1 - - 12 กบั วัตถปุ ระสงค์ ( 41.67 ) ( 50.00 ) ( 8.33 ) (100.00) เฉลย่ี รวม 40.00 46.67 13.33 - - 100.00 จากตาราง การวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจด้านความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม โดยวัด เปน็ รายด้าน สรปุ ผลดงั นค้ี ือ 5. การเตรยี มความพร้อมก่อนอบรม จานวนผูท้ ่ีตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 50.00 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 8.33 6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 16.66 7. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา จานวนผู้ท่ตี อบมีความพอใจมากที่สดุ จานวน 4 คน คิดเปน็ ร้อยละ 33.33 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 50.00 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 16.66 8. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 5 คน คิด เป็น ร้อยละ 41.67 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 16.66 9. วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 50.00 และพอใจในระดับปานกลาง จานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 8.33 กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชีพ วิชาผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 24 ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร ระดบั การประเมนิ ท่ี รายการ มากท่ีสดุ มาก ปาน น้อย น้อย รวม กลาง ท่ีสดุ 10 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถใน 651 - - 12 เร่ืองท่ีถา่ ยทอด ( 50.00 ) ( 41.67 ) ( 8.33 ) (100.00) 11 วทิ ยากรมเี ทคนิคการถา่ ยทอด ใช้สือ่ 65 1 - - 12 เหมาะสม ( 50.00 ) ( 41.67 ) ( 8.33 ) (100.00) 12 วิทยากรเปิดโอกาสให้มีสว่ นรว่ มและ 75 - - - 12 ซกั ถาม ( 58.33 ) ( 41.67 ) (100.00) เฉลีย่ รวม 52.78 41.67 5.55 - - 100.00 จากตาราง การวิเคราะหข์ อ้ มลู ความพึงพอใจต่อวิทยากรโดยวัดเป็นรายด้าน สรปุ ผลดงั นค้ี ือ 10. วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องท่ีถ่ายทอด จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 50.00 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 และพอใจในระดับ ปานกลาง จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 8.33 11. วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอด ใช้ส่ือเหมาะสม จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 50.00 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 41.67 และพอใจในระดับ ปานกลาง จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.33 12. วิทยากรเปิดโอกาสให้มีสว่ นร่วมและซักถาม จานวนผู้ทตี่ อบมีความพอใจมากท่ีสุด จานวน 7 คน คิด เป็น รอ้ ยละ 58.33 และพอใจในระดบั มาก จานวน 5 คน คดิ เป็น ร้อยละ 41.67 ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก ระดบั การประเมนิ ที่ รายการ มากทส่ี ดุ มาก ปาน น้อย น้อย รวม กลาง ทส่ี ุด 13 สถานท่ี วสั ดุ อปุ กรณ์และสิ่งอานวย 75 - - - 12 ความสะดวก ( 58.33 ) ( 41.67 ) (100.00) 14 การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้ 6 6 - - - 12 เกิดการเรียนรู้ ( 50.00 ) ( 50.00 ) (100.00) 15 การบรกิ าร การช่วยเหลือและการ 66 - - - 12 แกป้ ัญหา ( 50.00 ) ( 50.00 ) (100.00) เฉลยี่ รวม 52.78 47.22 - - - 100.00 กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาผลติ ภัณฑ์จากไม้ไผ่ 25 จากตาราง การวิเคราะห์ขอ้ มูลความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก โดยวดั เปน็ รายด้าน สรปุ ผลดงั น้ีคอื 13. สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณแ์ ละส่ิงอานวยความสะดวก จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากท่สี ุด จานวน 7 คน คดิ เป็น รอ้ ยละ 58.33 พอใจในระดับมาก จานวน 5 คน คดิ เป็น ร้อยละ 41.67 14. การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ จานวนผู้ท่ีตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 50.00 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คดิ เป็น รอ้ ยละ 50.00 15. การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา จานวนผู้ที่ตอบมีความพอใจมากที่สุด จานวน 6 คน คิด เป็น รอ้ ยละ 50.00 พอใจในระดับมาก จานวน 6 คน คดิ เป็น ร้อยละ 50.00 สรปุ แบบสอบถามความพงึ พอใจรวมทกุ ดา้ น จานวน ( ร้อยละ )ผตู้ อบ รายการคาถาม มากท่สี ดุ มาก สรปุ 45.83 43.75 89.58 ตอนที่ 1 ความพึงพอใจดา้ นเนอื้ หา 40.00 46.67 86.67 ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม 52.78 41.67 94.45 ตอนท่ี 3 ความพึงพอใจตอ่ วิทยากร 52.78 47.22 100.00 ตอนที่ 4 ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก 47.84 44.82 92.66 เฉลี่ยรวม จากตารางวิเคราะห์ ความพงึ พอใจรวมในทุกดา้ น สรปุ ผลไดด้ งั น้ี ตัวช้ีวดั เกณฑ์ ผล เป้าหมายการบรรลุ บรรลุ ไมบ่ รรลุ ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจด้านเน้อื หา รอ้ ยละ 80 –100 มีความรู้ ความพงึ 89.58 พอใจ ระดบั มากท่ีสุดขึ้นไป ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจดา้ น ร้อยละ 80 –100 มีความรู้ ความพึง 86.67 กระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม พอใจ ระดับมากที่สุดขนึ้ ไป ตอนท่ี 3 ความพึงพอใจตอ่ รอ้ ยละ 80 –100 มคี วามรู้ ความพงึ 94.45 วิทยากร พอใจ ระดับมากที่สุดข้นึ ไป ตอนที่ 4 ความพงึ พอใจด้านการ รอ้ ยละ 80 –100 มีความรู้ ความพงึ 100.00 อานวยความสะดวก พอใจ ระดับมากทีส่ ดุ ข้นึ ไป เฉลีย่ รวม ร้อยละ 80 –100 มีความรู้ ความพึง 92.66 พอใจ ระดบั มากที่สุดขึ้นไปดี กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วชิ าผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 26 จ า ก ก า ร ป ร ะ เมิ น ผ ล ก า ร ด า เนิ น ง า น ก า ร จั ด โค ร ง ก า ร ศู น ย์ ฝึ ก อ า ชี พ ชุ ม ช น ห ลั ก สู ต ร พั ฒ น า อ า ชี พ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ของ กศน.ตาบลนาสี มีผลการดาเนนิ กิจกรรม บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ ตอนท่ี 3 ด้านการนาความร้ทู ี่ไดร้ บั ไปใชป้ ระโยชน์ จากแบบสอบถาม ผู้เรียนได้นาความรทู้ ่ีได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 100 โดยจะแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้ ใช้ในการต่ออาชีพเดิมให้มีรายได้เพ่ิมข้ึน จานวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 41.67 และ ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ จานวน 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 58.33 กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าผลิตภณั ฑ์จากไม้ไผ่ 27 บทท่ี 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ การประเมินโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของ กศน.ตาบลนาสี โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ จานวน 12 คน ซ่งึ การประเมนิ ผลสรปุ เม่อื สิน้ สุดโครงการ สรุปผลการประเมนิ ดงั น้ี วตั ถปุ ระสงคข์ องการประเมนิ เพ่ือประเมินประสิทธิผลของการดาเนินงาน โครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของประชาชนท่ัวไปท่ีสนใจ ในโครงการที่ กศน.ตาบลนาสี จดั ขึ้น ประชากรกลมุ่ ตัวอย่าง การประเมินในคร้ังนี้ ทาการศึกษาท้ังกลุ่มประชากรผู้เข้าร่วมกิจกรรม โครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของ กศน.ตาบลนาสี กลุ่มเป้าหมายจานวน 12 คน และ มีผู้ท่ีสนใจเข้าร่วมกิจกรรม จานวน 12 คน คิดเป็นร้อย ละ 100.00 เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เครอ่ื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมลู เปน็ แบบประเมินความพึงพอใจ ซ่ึงแบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 แบบสอบถามความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รับการอบรม ตอนที่ 3 ข้อคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะในการจดั อบรมครงั้ ต่อไป เปน็ ข้อคาถามแบบปลายเปิด 2. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การประเมินผลคร้ังน้ี ทาการศึกษากลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วม กิจกรรมในครั้งนี้ จานวนทัง้ ส้ิน 12 คน 3.วเิ คราะหข์ อ้ มูล สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้วิธีวิเคราะห์ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ส่วนข้อมูลเชิง คณุ ภาพจากข้อคาถามปลายเปิดใชว้ ธิ วี ิเคราะหเ์ นื้อหา 4. เกณฑ์การประเมิน จากความพงึ พอใจทอ่ี ยใู่ นระดับมาก นามาหาคา่ เฉลี่ย ดงั ต่อไปน้ี 1) ร้อยละ 80 – 100 อยู่ในระดับดมี าก 2) รอ้ ยละ 70 – 79 อยู่ในระดับดี 3) รอ้ ยละ 60 – 69 อยูใ่ นระดบั ปานกลาง 4) รอ้ ยละ 50 – 59 อยรู่ ะดับพอใช้ 5) รอ้ ยละ 40 – 49 ควรปรับปรุง กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วชิ าผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 28 อภปิ รายผล จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการตอบแบบประมินของผู้เข้าร่วมโครงการ พบว่า มีความพึงพอใจใน ภาพรวมของโครงการในระดับระดับดีมาก ร้อยละ 92.66 และผู้เข้าร่วมโครงการมีความรคู้ วามเข้าใจและทักษะ เพมิ่ มากข้นึ และสามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการดาเนินโครงการอบรม/เข้าร่วมกิจกรรมการจัด โครงการในคร้ังนี้ บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ต้ังไว้ ผู้เข้าร่วมการอบรม/เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความ เข้าใจ สามรถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ และ สามารถทจ่ี ะนาความรู้ท่ีไดไ้ ปขยายผลในชมุ ชนตอ่ ไปได้ แนวทางการดาเนนิ งานครัง้ ต่อไป จากการประเมินผลทาให้ทราบว่าการจัดกิจกรรมโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน มีประโยชน์กับผู้เข้ารับ การฝกึ อบรมเปน็ อยา่ งมาก สามารถทจ่ี ะนาความร้ทู ีไ่ ด้ไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจาวันต่อไป กศน.ตาบลนาสี จะเร่งพัฒนาและจัดทาหลักสูตรการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตให้มีความสอดคล้อง กับความต้องการและความเหมาะสมกับท้องถิ่น เพื่อเป็นการส่งเสริมชีวิตที่มีอยู่ในชุมชนให้ได้รับการพัฒนาและ สง่ เสรมิ ให้มีชีวิตท่ีดีตอ่ ไป ขอ้ เสนอแนะ - กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 29 ภาคผนวก กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 30 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 31 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 32 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 33 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 34 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 35 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 36 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 37 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ 38 ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน วชิ าการผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ดาเนนิ การระหวา่ งวันท่ี 3-8 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ณ วดั ถ้าสุวรรณคหู า ตาบลนาสี อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรพฒั นาอาชีพ วิชาผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ คณะทางาน ทีป่ รึกษา 1. นางนวพรรษ จนั ทราทูล ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอสวุ รรณคหู า ปฏบิ ัติหน้าท่ีผ้อู านวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรอู้ าเภอสุวรรณคูหา 2. นายคมกฤษฏ์ ไชยเตม็ ครู 3. นางสาวอารยา วชิ าสวสั ดิ์ ครู 4. นายอภชิ าติ สทุ ธิโสม ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น คณะทางาน ครู กศน.ตาบล 1. นางฐติ ิพรรณ ใหมว่ งษ์ ครู กศน.ตาบล 2. นายทววี ทิ ย์ ชาวดอน ครศู นู ย์การเรียนชมุ ชน 3. นายวรี พล ทับพมิ ล ผู้จัดพมิ พ์/ออกแบบปก ครู กศน.ตาบล นางฐิติพรรณ ใหมว่ งษ์ กศน.ตำบลนำสี ศนู ยส์ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสุวรรณคหู ำ
รายงานผลการดาเนินงานโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพัฒนาอาชพี วชิ าผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ กศน.ตำบลนำสี ศูนยส์ ่งเสรมิ กำรเรียนรู้อำเภอสวุ รรณคหู ำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: