โรงเรียนกระบรุ วี ทิ ยา อาเภอกระบรุ ี จังหวดั ระนอง 1 -1หมวด 1. การนาองคก์ ร (110 คะแนน)1.การนาองค์กร (110 คะแนน)1.1 การนาองคก์ ร : ฝา่ ยบรหิ ารของโรงเรียนนาองคก์ รอย่างไร (60 คะแนน) 1. วสิ ัยทศั น์ คา่ นยิ ม และพันธกจิ (1) วสิ ัยทศั น์และค่านยิ ม - ฝ่ายบริหารดาเนินการอย่างไรในการกาหนดวิสัยทัศน์ และค่านิยมของโรงเรียนรวมท้ังการดาเนินการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังต่อเน่ืองเพ่ือนาไปสู่การปฏิบัติ เกี่ยวกับวิสัยทัศน์และค่านิยมดังกล่าว โดยผ่านระบบการนาองค์กรตามโครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียนไปสู่ครูและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนตลอดจนสถานการศึกษาหน่วยงาน องค์กร สถานประกอบการ ท้ังภาครัฐภาคเอกชน รวมท้ังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอ่ืน ๆ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจและสามารถนาไปปฏิบัติได้อย่างไร การปฏิบัติตนของฝ่ายบริหารได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งม่ันท่ีมีต่อค่านิยมของโรงเรยี นอยา่ งไร การกาหนดวิสัยทัศน์และค่านิยมของโรงเรียนผู้บริหารมีแนวคิดและสร้างค่านิยมที่จะให้บุคลากรของโรงเรียนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาโรงเรียน โดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโรงเรียนเป็นสาคัญโดยกระบวนการที่ได้ดาเนินการคือ การทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ค่านิยม ฯลฯ ด้วย กระบวนการ SWOT Analysis ซึ่งเป็นการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มและประเมนิ สถานภาพ ของโรงเรียนทง้ั สภาพแวดล้อมภายนอกท่ีเป็นโอกาสและอุปสรรค และสภาพภายในโรงเรยี นทเ่ี ปน็ จุดแขง็ และจดุ อ่อน เมื่อวิเคราะห์ได้ครบถ้วนในทุกด้านและสามารถประเมนิ สถานภาพของโรงเรยี นในปจั จบุ นั ได้ บุคลากรท้ังหมดและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องมากาหนดร่วมกันในการวางทิศทางการจัดการบริหารโรงเรียนว่าอนาคตข้างหน้าต้องการ เป็นอะไรอยา่ งไรวิสัยทศั นก์ ารนาองค์กรโรงเรียนกระบุรวี ิทยาหนว่ ยงานระบบ TQA ไปขบั เคล่อื นองค์กร โรงเรียนกระบุรีวิทยา มีนักเรียนมากกว่า 1,000 คน ครูและบุคลากรมากกว่า 60 คนมุ่งมั่นสูค่ วามสาเรจ็ โดยการนาเอาระบบ TQA ไปขับเคล่อื นองคก์ ร โดยเริ่มต้นจากการมอบนโยบายใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียนกระบุรีวิทยาไปชี้แจงทาความเข้าใจกับบุคลากรในทุกระดับ เพื่อให้บุคลากรภายในองค์กรทราบถึงความเปลี่ยนแปลงในการดาเนินงานของโรงเรียน จากนั้นสร้างจิตสานกึ ใหก้ บั ผปู้ ฏิบตั งิ านโดยยดึ หลักคณุ ธรรมและค่านิยมขององคก์ ร และการสื่อสารให้บุคลากรในองค์กรทราบและนาไปปฏิบัติ โดยแต่งตั้งคณะทางานในระดับต่าง ๆ เพื่อเป็นเครือข่ายในการขับเคลื่อนไปในทศิ ทางเดยี วกนั
โรงเรยี นกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบรุ ี จังหวัดระนอง 1 -2 ปัจจัยแห่งความสาเร็จในโรงเรียนกระบุรีวิทยา โรงเรียนกระบุรีวิทยา ได้น้อมนาเอาพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ฯ ยดึ ถอื เป็นหวั ใจของการปฏิบัติงาน คือ “ เข้าใจ เข้าถึงพฒั นา” เขา้ ใจ – หมายถึง ผูอ้ านวยการ รองผู้อานวยการ คณะครูและบุคลากรทุกคน ของโรงเรียนร่วมมือกันทาให้ทิศทางในการขับเคล่ือนมีความชัดเจน โดยปูพ้ืนฐานต้ังแต่ขั้นตอนแรกกาหนดเป็นแผนงานทีช่ ดั เจน ทาให้บุคลากรทุกคนไดร้ เู้ ปา้ หมายทช่ี ัดเจนมคี วามเข้าใจท่ตี รงกนั เขา้ ถงึ – หมายถงึ บคุ ลากรทุกคนมีส่วนร่วมในทุกกลุ่มงาน ส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาทุกกลุ่มงาน ตามทรัพยากรการบริหารต่าง ๆ อย่างรู้คุณค่า สร้างระบบการจัดการความรู้สรา้ งทมี งานที่เขม้ แขง็ มขี วัญกาลังใจในการปฏิบัติงานด้วยวัฒนธรรมองค์กรท่ีว่า “สังคมแห่งการเอื้ออาทร” พัฒนา – หมายถึง บุคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานโดยมีการนิเทศติดตามผลการดาเนินการอย่างต่อเนื่อง เพ่ือนาไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการทางานและต่อยอดไปสู่การสรา้ งนวัตกรรม ให้บรรลเุ ปา้ หมายตามวิสัยทศั น์ทกี่ าหนด ส่ิงท่ีระบบบริหารคุณภาพ TQA ให้กับโรงเรียนกระบุรีวิทยาคือ เป็นเครื่องมือตรวจสุขภาพโรงเรียน ทาให้ทราบ จุดแข็งจุดอ่อน และโอกาส ในการกาหนดและปรับปรุงโรงเรียนให้มีคุณภาพดีข้ึน ทาให้โรงเรียนกระบุรีวิทยาสามารถมอบคุณภาพท้ังผลผลิตและบริการท่ีดีให้กับผู้รับบริการ และทาให้โรงเรียนกระบุรีวิทยามีภาพลักษณ์ที่ดีในการบริหารจัดการ ได้รับความพึงพอใจจากนักเรียนผู้ปกครอง และชุมชน โดยใช้ระบบริหารคุณภาพ PDCA มาเป็นแนวในการบริหารแบบเทียบเคียงมาตรฐานสากล Benchmarking โดยการร่วมกันวางทิศทางของโรงเรียน คือ การกาหนดวิสัยทัศน์พันธกิจ เป้าประสงค์ และกลยุทธ์ โดยพิจารณาจากภารกิจของโรงเรียน ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และความคาดหวังของตามตัวชี้วัดท่ีกาหนด ซ่ึงจากการดาเนินการร่วมกันทาให้บุคลากรในโรงเรียนได้รับทราบถึงทิศทางในการบริหารโรงเรียนถือเป็นการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ ให้ได้รบั รรู้ ่วมกนั ทกุ ฝา่ ย เม่ือโรงเรียนกาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ร่วมกันจากนั้นจะถ่ายทอดสู่บุคลากรทุกฝ่ายอย่างทั่วถึงรวมทั้งชุมชน ผู้ปกครองและสังคมโดยทั่วไป และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ในรูปแบบวารสารประชาสัมพันธ์ ตัดข้อความให้เห็นชัดเจน เอกสารแผ่นพับ ป้ายไวนิล VTR ในการจัดนทิ รรศการแนะนาโรงเรียนท้งั ภายในภายนอกไดร้ ับทราบ จากการดาเนนิ การดังกลา่ ว เมือ่ กาหนดวสิ ยั ทัศน์ร่วมกัน บุคลากรมุ่งไปยังจุดเดียวกัน ทาให้เกิดทีมงาน เกิดความท้าทายที่จะเดินทางไปสู่ความสาเร็จ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นท่ีมีต่อวิสัยทัศน์ และค่านิยมของโรงเรียนโรงเรียนจึงได้กาหนดกลยุทธ์ของโรงเรียนโดยให้คลอบคลุมกลุ่มท่ีจะไดร้ ับผลประโยชนจ์ ากการวางแผนกลยทุ ธข์ องโรงเรียนโดยตรงคอื 1. นกั เรียน 2. ครู และบคุ ลากรทุกคน 3. โรงเรียน (บรรยากาศ สิง่ แวดลอ้ ม ปจั จัย (Input) และกระบวนการ (Process) ฯลฯ) 4. ผู้ปกครองและชมุ ชน
โรงเรียนกระบรุ ีวทิ ยา อาเภอกระบุรี จงั หวดั ระนอง 1 -3 จากน้ันกลยุทธ์ระดับองค์กร ก็จะนาไปจัดทากลยุทธ์ระดับแผนงาน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ท่ีครอบคลุมผลการดาเนินงานในระดับผลลัพธ์ (Outcome) เป็นวิธีการดาเนินการในวงแคบแต่ไม่ชัดเจนในการปฏบิ ัติ จากกลยทุ ธ์ระดับองคก์ รสูก่ ลยุทธ์ระดับโครงการ ซ่ึงเป็นการดาเนินงานระดับผลผลิต(Output) สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ชัดเจน เมอ่ื โรงเรียนได้กลยุทธ์ในระดับแผนแล้วเลือกประเด็นท่ีช่วยแก้ปัญหา/หรือพัฒนามากาหนดเป็นแผนพัฒนาโรงเรียน (แผนระยะยาว 3 ปี) และกาหนดเป็นแผนปฏิบัติการ (ในแต่ละปี) และกาหนดให้บุคลากรทุกคนทุกงานในโรงเรียนเสนอแผนระดับโครงการในแต่ละปีการศึกษาเพื่อพจิ ารณาจัดสรรงบประมาณและดาเนนิ การไปตามแผนงาน/โครงการ โรงเรียนได้กาหนดผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้กากับติดตามโดยฝ่ายแผนงานของโรงเรียน เมื่อสิ้นสุดปีการศึกษาฝ่ายแผนงานโรงเรียนกาหนดให้ทุกงานดาเนินการประเมินผลการดาเนินงานเป็นรายงานประจาปเี สนอตอ่ ผ้บู รหิ ารหนว่ ยงานท่เี กีย่ วข้องและสาธารณชนต่อไป (2) การสง่ เสริมการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และมจี รยิ ธรรม - การปฏิบัติตนของฝ่ายบริหารแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรมอย่างไร ฝ่ายบรหิ ารไดส้ ร้างบรรยากาศในโรงเรยี นเพือ่ สิง่ เหล่านอ้ี ย่างไร ผู้บริหารได้จัดทาคู่มือการปฏิบัติงานของโรงเรียนโดยกาหนดโครงสร้างการบริหารงาน ตามกฎกระทรวงแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มงาน ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหารงบประมาณและแผนงาน กลุ่มบริหารงานบุคคล และกลุ่มบริหารงานท่ัวไป ซึ่งแต่ละกลุ่มงานจะมีการกระจายอานาจโดยแต่ละกลุ่มบริหารจะมีรองผู้อานวยการทุกฝ่าย หัวหน้างาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้และหัวหน้างานต่าง ๆ ในกลุ่มงานย่อย ในการบริหารงาน ซ่ึงมีการกาหนดตัวบุคคลรับผิดชอบ ทุกงานโดยการกาหนดบุคคลที่รับผิดชอบในแต่ละงานน้ันจะพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และความเหมาะสมของแต่ละบุคคล นอกจากน้ียังมีการอธิบายงานไว้อย่างชัดเจน และมีการปรับปรงุ ทกุ ปีการศึกษา และประกาศใหท้ ุกคนได้รับทราบ ในการดาเนินการของกลุ่มบริหารงาน แต่ละกลุ่มมีการประชุมกันเป็นประจาและเสนอให้ผู้อานวยการรับทราบผลของการประชุมทุกคร้ัง นอกจากน้ันแต่ละงานจัดทาปฏิทิน การปฏิบัติงานและหลอมรวมเปน็ ปฏิทินของโรงเรียน กลุ่มบริหารวิชาการ ส่งเสริมกากับติดตามในเรื่องของการประกันคุณภาพการศึกษา การจัดการเรียนการสอน การควบคุมนกั เรียนในเรือ่ งของผลการเรยี น เทคโนโลยี ส่อื นวัตกรรม ICT ฯลฯ กลุ่มบริหารงบประมาณแผนงาน กากับติดตามในเร่ืองของการดาเนินงานตามแผนงานโครงการ การรายงานประจาปี ฯลฯ กลุ่มบริหารงานบุคคล ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ส่งเสริมกากับติดตามในเร่ืองของการพัฒนาบุคลากรทุกคนด้าน ผลประโยชน์ สวัสดิการ ความดีความช อบ การเล่ือนตาแหน่งเครื่องราชอิสรยิ าภรณ์ กากับตดิ ตามในเรื่องของการบรรจแุ ต่งตง้ั การมาปฏบิ ตั ริ าชการ ฯลฯ
โรงเรียนกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบุรี จงั หวัดระนอง 1 -4 กลุ่มบริหารทั่วไป ควบคุมกากับติดตามในเร่ืองของพฤติกรรมของนักเรียน ความประพฤติส่งเสริม กากับ ติดตาม ในเร่ืองของความสัมพันธ์กับชุมชน การบริการชุมชน การบริการท่ัวไปภายในและภายนอกโรงเรยี น ด้านบรรยากาศ ส่ิงแวดล้อม สาธารณปู โภค ฯลฯ ในด้านจริยธรรมท่ีมีต่อการปฏิบัติงาน ผู้บริหาร ให้ย้าเตือนให้ฝ่ายบริหารเป็นต้นแบบในการปฏิบัติงาน และการประพฤติปฏิบัติตนในการครองคน ครองตนและครองงาน ยึดหลักวัฒนธรรมองค์กร “สังคมแห่งการเอ้ืออาทร” อีกทั้งยึดกรอบของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 พระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางละเมินของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติข้าราชการครู พ.ศ. 2523ระเบียบคุรุสภาว่าด้วยจรรยาบรรณครู พ.ศ. 2539ระเบยี บคณะกรรมการตรวจเงนิ แผ่นดินว่าดว้ ยวินยั ทางงบประมาณและการคลัง พ.ศ. 2544 ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สิน หรือประโยชนอ์ ื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั พ.ศ. 2543 ฯลฯ (3) การสร้างความยง่ั ยนื ใหก้ บั โรงเรียน - ฝ่ายบริหารดาเนินการอย่างไรท่ีจะทาให้โรงเรียนมีการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองและยั่งยืนฝ่ายบรหิ ารดาเนนิ การอยา่ งไรเพือ่ ทีจ่ ะใหไ้ ด้ผลสาเรจ็ จากการที่ผู้บริหารได้กาหนดเป้าหมายในการดาเนินงานของโรงเรียนกับกลุ่มท่ีจะรับผลประโยชน์ คือ กล่มุ นักเรียน กลุ่มครูและบุคลากร โรงเรียน ผปู้ กครองและชุมชน เพ่ือให้บรรลุตามวิสัยทัศน์นั้น ผู้บริหารส่งเสริมให้ทุกกลุ่มบริหารงาน กลุ่มงาน งาน จัดให้มีการประชุมสัมมนาทบทวนระบบทุกระบบงานในโรงเรียนเป็นประจาทุกปีการศึกษา มีการประชุมกันเป็นประจาทุกเดือน หรอื ทกุ สัปดาห์ โดยจัดตารางปฏิบัติงานให้ตรงกันในระดับคณะกรรมการ มีการประชุมพบปะปรึกษาหารอื ในข้อที่เป็นปัญหา และในข้อท่ีต้องการพัฒนา อีกทั้งส่งเสริมให้ทุกกลุ่มงานได้พัฒนางานโดยการศกึ ษาดูงานจากโรงเรียนทีป่ ระสบความสาเร็จในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ยังปรับปรุง ระบบ ICTในเร่ืองของ Internet ให้มีความเร็วสูงในการบริการและให้นักเรียนและบุคลากรทุกคนมี Passwordสามารถส่ง E-mail ถึงกันได้ และปัจจุบันได้นาโปรแกรมการบริหารงานในองค์กร เพื่อใช้สื่อ ICTช่วยในการบริหารงานให้เกิดความรวดเร็ว และในการปฏิบัติงานของแต่ละกลุ่มงานบริหารนอกจากน้ีได้เนน้ ย้าใหใ้ ชว้ งจร เดมมิง (PDCA) ในการดาเนินงานในทุกกิจกรรม เพ่ือให้งานเป็นระบบปฏิบัติงานของโรงเรียน และมีประสิทธิภาพเกิดความคล่องตัวและเพื่อให้บุคลากร มีทักษะในการปฏบิ ัตงิ านตามมาตรฐาน นอกจากนี้ผู้บริหารยังคานึงถึงการทางานด้วยความสุข ความปลอดภัยในการทางาน มีการปรับปรุงในเรือ่ ง สาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้า แสงสว่างทั้งโรงเรียน เรื่องน้าดื่มน้าใช้ความปลอดภัยในสถานศกึ ษา จดั หายาม ตลอดจนจดั สร้างรัว้ รอบโรงเรยี น ผู้อานวยการโรงเรียนแบ่งหน้าท่ีให้ฝ่ายบริหารเดินตรวจสถานที่และแบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบการบันทึกส่ิงที่พบที่มีปัญหาและเร่งแก้ไขปัญหา โดยทุกเช้าก่อนทางาน ผู้บริหารจะเดินตรวจและเย่ยี มจุดต่าง ๆ ในบรเิ วณโรงเรยี น
โรงเรียนกระบรุ วี ทิ ยา อาเภอกระบุรี จงั หวัดระนอง 1 -5 นอกจากน้ีผู้อานวยการยังให้นโยบายในเร่ืองของโอกาส คือ ท้ังในกลุ่มนักเรียน กลุ่มครูและบุคลากร ย้าและส่งเสริมให้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน อีกท้ังสร้างโอกาส ใหก้ ลมุ่ นักเรียนและกลมุ่ ครแู ละบุคลากรมคี วามเข้าใจและมีสมั พันธภ์ าพที่ดีโดย 1. สง่ เสรมิ ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี น โดยครูตอ้ งเยี่ยมบ้านนักเรียน(รู้จักนกั เรียนเปน็รายบุคคล)รอ้ ยละ 100 2. จดั อบรมใหค้ วามรคู้ รู อาทิ วินัยเชิงบวก เรื่องของการคดั กรองเดก็ LD (เด็กพเิ ศษ) 3. จดั กจิ กรรมโฮมรูมในชว่ งเวลาเชา้ กอ่ นเข้าเรยี นและหลงั เรียนก่อนกลบั บา้ น 4. จดั กิจกรรมฟุตซอลตา้ นภัยยาเสพตดิ โดยคณะครูชายและหญงิ เขา้ รว่ มการแข่งขนั ผู้อานวยการโรงเรียนยังให้ความสาคัญในเรื่องภาวะผู้นาโดยส่งเสริมให้ทุกกลุ่มงานมีการกระจายอานาจ โดยย้าในเร่ือง การสร้างผู้นาในหมู่ผู้นา (Leader of Leader) โดยแต่งต้ังผู้ช่วยผอู้ านวยการครบทุกฝา่ ยงาน เพือ่ เปน็ การปลกู ฝังและวางแผนแนวทาง ใหเ้ รยี นรู้กับผู้นาและบุคลากรตน้ แบบ โดยเฉพาะในเรอื่ งของการครองคน ครองตน และครองงาน ผู้นา มีการนิเทศ การฝ่ายบริหารทุกครั้ง เมื่องานมีปัญหาหรือการวางแผนพัฒนางานโดยมีการบันทึก และการนิเทศแต่ละกลุ่มบริหารงาน ฯ และเปิดโอกาสให้มีส่วนในการร่วมเรียนรู้ เพ่ือวางแผนในการสืบทอดตาแหน่งให้กับโรงเรยี น โดยสง่ เสริมให้เข้าร่วมประชุมสัมมนา เข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน องค์กรต่าง ๆ ให้เป็นผู้แทนของโรงเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมทั้งระดับท้องถิ่น จังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ จัดช่ัวโมงในการพบปะนักเรียน เพื่อสร้างภาวะผู้นา ใหบ้ ทบาทในการประเมนิ ผู้ปฏบิ ตั ิงานในกลุ่มบริหารงาน เพ่ือนาผลมาในการพจิ ารณาเลอื่ นขัน้ เงินเดอื น ใหบ้ ทบาทในการเป็นคณะกรรมการต่าง ๆ อาทิ การจัดซ้ือจัดจ้าง การสืบสวนสอบสวน การพบปะผู้ปกครองชุมชนในการแก้ไขปัญหาและร่วมวางแผนในการดาเนินงานต่าง ๆ ทั้งในโรงเรียนและชุมชนที่เก่ียวข้อง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แลกเปล่ียน เรียนรู้กับผู้นาระดับสูงของโรงเรียนต่าง ๆ และผู้อานวยการมีการกากับติดตาม ตลอดการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด พร้อมลงมอื ร่วมปฏบิ ัตงิ านในบางโอกาสข. การสื่อสารและผลการดาเนินการของโรงเรยี น (1) ด้านการสือ่ สาร จากโครงสร้างการบรหิ ารงานของโรงเรยี น ได้แบง่ กลุ่มบรหิ ารงานเป็น 4 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มบริหารงานจะมีงานย่อย และมีคณะกรรมการบริหารกลุ่มงานต่าง ๆ คอยกากับติดตาม และระบุบทบาทหน้าท่ีไว้อย่างชัดเจน โดยถ่ายทอดนโยบายไปสู่การปฏิบัติไปยังบุคลากรในกลุ่มงานบรหิ ารงานตา่ ง ๆ ท้ังในลักษณะทางเดียว คือ คาสั่งตา่ ง ๆ และสองทาง โดยผ่านการประชุมแต่ละครั้งทง้ั ในการประชมุ ประจาเดอื น การประชุมกลมุ่ งานบริหาร กลุ่มงาน และงานต่าง ๆ และเปิดโอกาสให้ผู้เขา้ ร่วมประชมุ ไดแ้ สดงความคิดเห็นอยา่ งเต็มที่ อนั สง่ ผลใหเ้ กิดการมสี ว่ นรว่ ม และสรา้ งทมี งานท่ีดี
โรงเรียนกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบรุ ี จังหวัดระนอง 1 -6จากกลไกการส่ือสารระหว่างโ รงเรียนกับนักเรียนและผู้มีส่ว นไ ด้ส่วนเสียมีช่องทางการดาเนนิ การดังนี้วัตถปุ ระสงค์ รายการ จานวน-การถ่ายทอดนโยบาย 1.ประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา 4 เดือน/ครัง้-ช้แี จงนโยบาย 2.ประชุมคณะกรรมการบริหารโรงเรยี น 1 สปั ดาห์/ครั้งและแนวปฏิบตั ิ 3.ประชุมบุคลากรในโรงเรียน 1 เดือน/ครัง้ 4.ประชมุ จดั ทาแผนงาน/โครงการ 1 ปี / คร้ัง-การประชุมตา่ ง ๆ 1. ประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา 1 ครง้ั /ภาคเรยี น 2.ประชมุ คณะกรรมการบริหารโรงเรยี น 1 คร้งั /สปั ดาห์ 3.ประชุมโรงเรยี น 1 คร้งั /เดอื น 4.ประชมุ หัวหนา้ ระดับ 1 ครั้ง/สัปดาห์ 5.ประชุมหวั หนา้ คณะสี 1 ครง้ั /สปั ดาห์ 7.ประชมุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 1 คร้งั /สปั ดาห์ 8.ประชุมผู้ปกครอง 1 ครัง้ /ภาคเรียน 9. .ประชุมนักการภารโรง ทกุ วนั 10.ประชมุ คณะกรรมการบรหิ ารวิชาการ 1 ครงั้ /สปั ดาห์ 11.ประชุมคณะกรรมการบริหารงบประมาณและ 1 คร้งั /สปั ดาห์ แผนงาน 12.ประชุมคณะกรรมการบรหิ ารงานบุคคล 1 ครงั้ /สปั ดาห์ 13.ประชุมคณะกรรมการบรหิ ารทวั่ ไป 1 คร้งั /สปั ดาห์ 14.ประชมุ วชิ าการระดบั ชนั้ 1 ครั้ง/เดอื น 15ประชมุ กลุม่ ย่อย (กจิ กรรมพิเศษ) ตลอดเวลา-สอื่ ขอ้ ความทว่ั ไป 1. ประกาศ ทุกวนั 2. แจ้งเวียน ทกุ วัน 3. วารสาร 1 ครง้ั /ภาคเรยี น 4. ป้ายประชาสมั พนั ธ์ ทุกวนั 5. เสียงตามสาย ทกุ วนั 6. แผน่ พับ ทุ ก ค ร้ั ง / เ มื่ อ มี 7. จดหมายขา่ ว กจิ กรรม 8. Web Site 2 เดอื น/คร้ัง 9. กระดานแจง้ ขา่ ว ทุกวนั 10. ปฏทิ ินประจาเดือน ทุกวัน 11. รายงานประจาปี ทกุ วัน 12. วิทยชุ มุ ชน 1 คร้ัง/ปี 13. Line ทุ ก ค รั้ ง / เ ม่ื อ มี กิจกรรมทุกวัน
โรงเรยี นกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบรุ ี จังหวัดระนอง 1 -7วตั ถุประสงค์ รายการ จานวน-การแลกเปล่ียนถ่ายทอด 1. การประชมุ อบรมสัมมนาในโรงเรียน 2 ครัง้ /ปีความรู้ 2. ก า ร ป ร ะ ชุ ม อ บ ร ม สั ม ม น า กั บ หน่วยงานภายนอก ทกุ วัน 3. การศึกษาดงู าน 1 ครัง้ / ปี 4. Web Site หนว่ ยงาน ทกุ วัน 5. ห้องสมดุ ทุกวัน 6. หอ้ งกลุ่มสาระ ทุกวัน 7. การประชุมกลุ่มย่อยในกลุ่มสาระ 1 ครง้ั /สปั ดาห์ คณะสี ระดับสายชน้ั ฯลฯ 8. Line ทุกวัน ในส่วนของการยกย่อง ชมเชย และการให้รางวัล ตลอดทั้งการให้สวัสดิการต่าง ๆ นั้นโรงเรียนมีการดาเนินการมาโดยตลอด โดยการแบ่งบทบาทหน้าท่ีของงาน ยกย่อง ชมเชย การให้รางวัล ให้กับงานเกียรติประวัติโรงเรียน เป็นผู้รับผิดชอบ รวบรวมผลงานทั้งระดับนักเรียน ระดับครูระดบั ผบู้ รหิ ารและระดบั โรงเรยี น พร้อมประกาศเกยี รติคุณ และจัดพิธีการมอบหน้าเสาธง เพ่ือให้เด็กนักเรียนเห็นเปน็ ตัวอย่างมกี ารบันทึกภาพ นอกจากน้ียังมีการคัดเลือกครูดีเด่น และให้รางวัลกับบุคลากรในโรงเรียนที่ปฏิบัติงานจากผลงานเป็นท่ีประจักษ์ อาทิ การคัดเลือกครูโดยคณะกรรมการ โรงเรียนจัดทาเกียรติบัตรมอบให้และประกาศยกย่องชมเชย อกี ท้งั เสนอชอื่ เขา้ รว่ มแข่งขันกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ งานวันครู องค์กรต่างๆ ที่จัดประกวดและครูอัตราจ้าง ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ที่มีความรู้ความสามารถและต้ังใจปฏิบัติงานเลอ่ื นขน้ั เงนิ เดือนในรอบปี ในด้านอื่น ๆ โรงเรียนมีการจัดสวัสดิการโรงเรียนในเร่ือง สวัสดิการน้าด่ืม ห้องน้าห้องส้วมหอ้ งประจา ใหพ้ ร้อมและสะอาด และในเรื่องของสวัสดกิ ารเส้อื ผ้า อาทิ ชดุ ทมี โรงเรียน เป็นตน้ (2) การทาให้เกดิ การปฏบิ ตั อิ ยา่ งจริงจงั - ฝ่ายบริหารดาเนินการอย่างไร ที่จะมุ่งเน้นการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานอย่างจริงจังเพ่ือให้บรรลุตามวัตถุประสงค์การปรับปรุงผลการดาเนินการและบรรลุวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ฝ่ายบริหารดาเนินการอย่างไรในการระบุสิ่งท่ีต้องทาในการตั้งความคาดหวังต่อผลการดาเนินการ ฝ่ายบริหารคานึงถึงและดาเนินการอย่างไรในการนาเร่ืองการสร้างคุณค่า และทาให้เกิดความสมดุลของคณุ ค่าระหว่างนกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสยี มาพจิ ารณา โรงเรียนมีการใช้ระบบ PDCA มาเป็นตัวควบคุมในการดาเนินงานอย่างจริงจัง โดยกระจายอานาจให้ทุกกลุ่มบริหารงาน ฯ เป็นผู้รับผิดชอบในบทบาทหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย มีการประชุมร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงผลงานดาเนินงานเพื่อให้งานดาเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวตั ถปุ ระสงค์
โรงเรยี นกระบรุ ีวทิ ยา อาเภอกระบุรี จังหวัดระนอง 1 -8 นอกจากนีย้ ังมคี ณะกรรมการท่ีรับผดิ ชอบ คือ งานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน มีการจดั ให้ทุกกลุ่มบรหิ ารงาน ฯ ประเมนิ ตนเอง (การประเมนิ ภายใน) และเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดเป็นประจาทุกปีและหน่วยงานต้นสังกัดจัดต้ังคณะกรรมการมาประเมินอีกครั้งถือว่าเป็นการประเมินโดยงานต้นสังกดั เป็นประจาทกุ ปี เชน่ กนั ฉะน้ันถือว่าการประเมินคุณภาพการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงานการศึกษาและถือว่าเป็นการทบทวนตัวชี้วัดผลการดาเนินการ ซึ่งโรงเรียนยึดการพัฒนางานตามมาตรฐานการศึกษาท่ีสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกาหนดและสอดคลอ้ งกบั วิสัยทศั นข์ องโรงเรียน สาหรับความคาดหวังของโรงเรียนต่อผลการดาเนินการผู้บริหารมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าและทาให้เกิดสมดลุ ของคณุ คา่ ให้กบั ผบู้ ริหาร คือ นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยแรกเร่ิมให้โอกาสในการร่วมกาหนดทิศทางของการบริหารโรงเรียนร่วมกัน มีการจัดทาแผนพัฒนาระยะยาว 3 ปี และจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี มีการกากับติดตามและประเมินเพ่ือปรับปรุงพัฒนา โดยมุ่งเน้นความสาเร็จ คอื - นักเรียน มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กาหนด และมีคุณสมบัติตามมาตรฐานการศกึ ษา - ครู เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในการจัดการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ สามารถออกแบบการจัดการเรียนการสอนและการประเมินผลให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา (ครมู อื อาชีพ) - ผู้บริหาร มีภาวะผู้นา สามารถจัดการบริหารโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยึดหลกั ธรรมาภบิ าล - ผู้ปกครอง/ชุมชน มีความรู้ความเข้าใจและเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและมีส่วนชว่ ยยกระดบั คณุ ภาพของนักเรียนใหไ้ ดต้ ามมาตรฐานทก่ี าหนด1.2 การกากับดูแลองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคมในวงกว้าง : โรงเรียนดาเนินการอย่างไรในการกากับดูแลโรงเรียน และทาให้บรรลุผลด้านความรับผิดชอบตอ่ สงั คม (50 คะแนน)1. การกากบั ดแู ลโรงเรยี น (1) ระบบการกากับดแู ลโรงเรียน โรงเรยี นดาเนินการอย่างไรในการทบทวนและทาให้โรงเรียนประสบความสาเร็จในเรื่องต่าง ๆที่สาคญั ในระบบการกากบั ดแู ลโรงเรยี น จากการบริหารงานโดยจัดทาโครงสร้างท่ีมีการกระจายอานาจในการบริหารงาน และกากับติดตามของโรงเรียน ไปยังกลุ่มบริหารงานทั้ง 4 กลุ่มงาน ซึ่งในการจัดคณะกรรมการตามโครงสร้าง เป็นไปด้วยความเหมาะสม ตรงตามความรู้ความสามารถของบุคคล และในการบริหารจดั การได้ใชห้ ลกั ธรรมาภิบาล (Good Governance)มาใช้โดยมกี ารปฏบิ ตั ติ ามกฎขอ้ บงั คับ ระเบียบ
โรงเรยี นกระบรุ วี ทิ ยา อาเภอกระบุรี จงั หวัดระนอง 1 -9กฎหมายตา่ ง ๆ ทม่ี ีส่วนเกีย่ วขอ้ งกบั สถานศกึ ษา และบคุ ลากร โดยผู้บริหารยึดความเป็นธรรมความถกู ตอ้ งดงี าม ส่งเสริมให้บุคลากรประพฤติ ปฏิบัติตามจรรบยาบรรณครู บริหารงานโดยสุจริต โดยเหน็ แก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นท่ีตั้ง สามารถตรวจสอบได้ ตลอดจนเปิดโอกาสให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เสนอแนวคิด ผู้บริหารมีความมุ่งม่ันและเอาใจใส่ในการแก้ปัญหา ของการบริหารการจัดการ โดยการบริหารงานทางกลุ่มบริหารงาน/กลุ่มงาน/กลุ่มสาระ บริหารงานโดยใช้รูปแบบของคณะกรรมการ มีการประชุมแสดงความคิดเหน็ เป็นประจาทุกสปั ดาห์และทุกเดือน และนาเสนอแนวคิดแก่ผบู้ ริหารโรงเรียนท้งั น้ีโดยยดึ ประโยชน์ของโรงเรยี นเปน็ สาคัญ นอกจากนี้โรงเรียนยังนาระบบควบคุมภายใน มาเป็นเคร่ืองมือในการบริหารงานการและเป็นกลไกพ้ืนฐานสาคัญของกระบวนการกากับดูแล มีการกากับติดตามการดาเนินงานระบบควบคุมภายในเพ่ือให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ซ่ึงการควบคุมภายใน ประกอบด้วย 5ด้าน คอื 1. ดา้ นการบรหิ าร 2. ดา้ นการเงิน 3. ดา้ นงบประมาณ 4. ดา้ นทรัพยส์ นิ 5. ดา้ นเทคโนโลยีและสารสนเทศ ซึ่งงานควบคุมภายในมีกลุ่มบริหารงานงบประมาณและแผนเป็นส่วนรับผิดชอบหลักเป็นผู้ประสานงานในการดาเนินงานและกากับติดตาม การรวบรวมข้อมูลท่ีเป็นสภาพแวดล้อม การควบคุม รวมถึงความซ่ือสัตย์และจริยธรรม ของผู้บริหารและบุคลากรในสถานศึกษา การควบคุมความเส่ียง ที่จะมีผลกระทบต่อการดาเนินงาน การควบคุมเพื่อป้องกันและลดความเส่ียงและผู้รับผิดชอบมีการประเมินระบบการควบคุมภายในและเป็นประจาทุกปี มีการจัดทารายงานต่อผบู้ รหิ ารและหนว่ ยงานท่ีเก่ยี วข้องอยา่ งเปน็ ระบบ ในส่วนของการดาเนินการสรรหาคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนได้ดาเนินการสรรหาคณะกรรมการสถานศึกษา ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกาหนด ซึ่งบุคลากรที่มาเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาน้ันมาจากบุคลากรในทุกภาคส่วน และมีการประชุมเป็นประจาภาคเรียนละไม่น้อยกว่า 2 ครัง้ โรงเรียนมีนโยบายในการเปิดเผยข้อมูลในทุกด้านให้ทั่วถึงและครอบคลุมบุคลากรในทุกภาคส่วน โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลาย อาทิ การนาแจ้งในท่ีประชุมหัวหน้าส่วนราชการ การประชาสมั พนั ธ์ทางสถานีวิทยุกระจายเสียง การประชาสัมพันธ์ทางเวบ็ ไซต์ของโรงเรียน และวารสารของโรงเรยี น
โรงเรียนกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบุรี จังหวดั ระนอง 1 -10 (2) การประเมนิ ผลการดาเนินการ -โรงเรียนดาเนินการอย่างไรในการประเมินผลการดาเนินการของฝ่ายบริหารและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ฝ่ายบริหารและคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานใช้ผลการทบทวนการดาเนินการข้างตนไปพัฒนาต่อและปรับปรุงประสิทธิผลในการนาองค์กรของฝ่ายบริหารและคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน รวมทง้ั ระบบการนาโรงเรียนต่อไปอย่างไร โรงเรียนมีเครื่องมือในการประเมินผลการดาเนินงานของบุคลากรทุกกลุ่มงาน รวมท้ังผู้นาระดับสูงและคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งมีท้ังการประเมินตนเองและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นผู้ประเมิน (ผู้นาระดับสูงและผู้นาสูงสุดประเมินผล บุคลากรและบุคลากร และผู้นาระดับสูงประเมินผ้นู าสูงสุด โดยแบง่ เป็น 3 กลุ่ม สลับการประเมินผล) นอกจากนเ้ี มื่อสิ้นปกี ารศึกษาโรงเรียนยังมีการกาหนดให้มีการประเมินผลการดาเนินการตามแผนงาน/โครงการซ่ึงแต่ละกลุ่มงานรับผิดชอบ ตามวงจรพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง (PDCA)ได้แก่การวางแผน (Plan) การปฏิบัติการตามแผน (Do) การติดตามประเมินการดาเนินงาน (Check)และการปรับปรุงเพื่อพัฒนา(Act) ซ่ึงกระบวนการครอบคลุมทั้งกระบวนการดาเนินงานตามพันธกิจกระบวนการบริหารจัดการ และมีการประเมนิ ภายในโดยคณะกรรมการของโรงเรียน จากหน่วยงานต้นสังกัด และจากสานักรับรองมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา(สมศ.) ซึ่งประเมินทุกด้านรวมทั้งด้านการดาเนนิ งานของผู้บริหารระดับสูง รวมทัง้ คณะกรรมการสถานศกึ ษา โดยการ 1. ตรวจสอบเอกสารหลักฐานทเี่ ก่ยี วข้อง 2. สัมภาษณ์ จาก - ผบู้ ริหาร - นกั เรียน - คร/ู บุคลากร - ชุมชน/ผปู้ กครอง - คณะกรรมการสถานศึกษา 3. จากการสังเกต รอ่ งรอยของการบรหิ ารจดั การ เมื่อโรงเรียนได้รับทราบผลการประเมินแล้ว จะนาข้อมูลที่ได้รับมาวางแผน และดาเนินการในการปรบั ปรงุ พัฒนาในปีการศกึ ษาต่อไป
โรงเรยี นกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบรุ ี จงั หวัดระนอง 1 -112. การประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและมีจรยิ ธรรม (1) การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบข้อบังคบั โรงเรียนดาเนินการอย่างไร ในการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงความกังวลของสาธารณะที่มีต่อท่ีหลักสูตรการจัดการศึกษาและและบริการอ่ืน ๆ ท่ีส่งเสริมการศึกษาและการปฏิบัติการท้ังในปัจจุบันและในอนาคตอยา่ งไรโรงเรยี นมกี ารเตรียมการเชิงรุกถงึ ความกังวลและผลกระทบเหล่าน้ีอย่างไร ทั้งน้ีรวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้กระบวนการจัดการห่วงโซ่อุปทานท่ีมีประสิทธิผลโรงเรียนมีกระบวนการจดั การที่มปี ระสทิ ธิผลโรงเรียนมีกระบวนการ ตัววัด เป้าประสงค์ที่สาคัญอะไรในเร่ืองทเี่ ก่ยี วกบั ขอ้ กาหนดด้านกฎระเบยี บข้อบงั คับและกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับท่ีกาหนดหรือดีกว่าท่ีกาหนด โรงเรียนมีกระบวนการ ตัวช้ีวัดและเป้าประสงค์ที่สาคัญอะไรในเร่ืองความเส่ียงที่เกี่ยวข้องกับท่ีหลักสูตรการจัดการศึกษาและและบริการอ่ืน ๆ ท่ีส่งเสริมการศึกษาและการปฏบิ ตั ิการของโรงเรยี น จากการบริหารงานโรงเรียน งานหลักของโรงเรียนคือการผลิตนักเรียนออกไปมีคุณภาพให้สอดคล้องกับปรัชญาของโรงเรียนท่ีว่า “คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น” ดังน้ันการบริการจัดการในเร่ืองของการศึกษา จึงครอบคลุมหลายด้านท่ีจะให้มีความสอดรับและให้การส่งเสริมสนับสนุนซ่ึงกันและกัน การที่จะผลิตนักเรียนให้มีคุณภาพน้ัน โรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน มีส่วนร่วมในการขัดเกลา เร่ิมต้งั แต่ 1. การสารวจ ความพร้อมและความต้องการของชุมชน ว่าต้องการให้ผลผลิตที่เกิดจากโรงเรียนมีคุณลักษณะ เปน็ อย่างไรรบั ฟัง เสย่ี งจากนักเรยี น ผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสีย 2. ในการดาเนินการทุกงานมีการดาเนินงานโดยรูปคณะกรรมการ อาทิคณะกรรมการสถานศึกษา (ซ่ึงเป็นตัวแทนของผู้ปกครอง ชุมชน ศิษย์เก่า ผู้ทรงคุณวุฒิในชุมชนผ้แู ทนครู) คณะกรรมการศิษย์เก่า คณะกรรมการเครือขา่ ยผู้ปกครอง ชุมชน ท้ังองค์กรภาครัฐและเอกชนที่เก่ยี วข้อง 3. สารวจความพร้อมภายในองค์กรของตนเองว่ามจี ุดแข็งและจดุ ออ่ นในเรอ่ื งใด 4. ใช้กระบวนการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม ในการบริหารจัดการสถานศึกษา ซึ่งในการดาเนนิ การในองค์กรเรมิ่ จาก 4.1 ปรบั โครงสรา้ งในการบริหารงาน โดยมอบหมายการงานให้เหมาะสมกับบุคคลและให้ครอบคลุมถงึ การงานในทุกงานของโรงเรยี น โดยสอดคลอ้ งตามมาตรฐานการศกึ ษา 4.2 ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน มีการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนมาตรฐานสากล โดยการจัดสาระการเรียนรู้มาตรฐานสากลได้แก่รายวิชาเพิ่มเติม ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย ดังนี้ 1. รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation): IS1 2. รายวิชาการสื่อสารและการนาเสนอ (Communication and presentation) : IS2 3. รายวิชาการนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสงั คม (Social Service Activity) : IS3 และโรงเรียนไดเ้ ร่ิมจัดการเรียนการสอนภาษาจีน และการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสารโดยใช้ครูต่างชาติ เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสและมีทักษะ
โรงเรียนกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบรุ ี จังหวดั ระนอง 1 -12ในการใช้ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ในการส่ือสาร จัดทาสาระเพิ่มเติมอาเซียนศึกษาในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จัดทาหลักสูตรบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในทุกกลุม่ สาระการเรียนรู้และกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียนทกุ ระดับชัน้ นอกจากโรงเรียนได้ดาเนินการในการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของผปู้ กครองและชุมชนแล้ว โรงเรียนยังได้ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนได้มีการพัฒนาในทุกๆ ด้านอาทิ 4.2.1 ส่งเสริมนักเรียนในเร่ืองสุนทรียภาพท้ังด้านดนตรีและกีฬา เช่น จัดให้มีเวทีคนเก่ง จัดให้มีการแข่งขันฟุตซอลต้านภัยยาเสพติด การแข่งขันกีฬาสีประจาปี จัดทีมวอลเลย์บอลเพอ่ื เขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ในชุมชนและในระดับจงั หวัด 4.2.2 ส่งเสริมในด้านความคิดสร้างสรรค์ โดยให้นักเรียนทาโครงงานและครูเป็นท่ีปรึกษา เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ โครงการอาหารโภชนาการ และจัดนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในงานศิลปหตั ถกรรมประจาทกุ ปี 4.2.3 โรงเรียนได้พัฒนาด้านกายภาพของโรงเรียนให้พร้อม อาทิ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณูปโภค ด้านสื่อ ICT ด้านห้องศูนย์การเรียนรู้ จัดแหล่งการเรียนรู้ภายในเช่น ห้องสมุด ห้องสมุดกลุ่มสาระ ห้องปฏิบัติการ ครบทุกกลุ่มสาระ อินเตอร์เน็ตสาธารณะปรับปรงุ คอมพวิ เตอรเ์ พื่อการเรยี นการสอนให้พร้อม ฯลฯ 4.3 พฒั นาระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน โดยให้แนวนโยบายว่า ครูทุกคนต้องเยยี่ มบา้ นนักเรยี นในที่ปรึกษา ร้อยละ 100 ให้รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล คัดกรองนักเรียน โดยโรงเรียนได้จัดอบรมครูในเร่ืองของการคัดกรองเด็กพิเศษ (LD / Autistic) และเรื่องวินัยเชิงบวกเพอ่ื ให้ครูเขา้ ใจเดก็ และมปี ฏสิ มั พันธ์ ทดี่ ี นอกจากน้ีโรงเรียนยังเน้นย้านักเรียนทุกคนในด้านจริยธรรมซ่ึงกาหนดเป็นแนวนโยบายว่า นกั เรยี น ม.1 และ ม.4 ที่มาเขา้ เรยี นโรงเรยี นแห่งน้ี ทกุ คนตอ้ งผ่านค่ายคุณธรรมจริยธรรม ซ่ึงผู้รับผิดชอบคือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ซ่ึงดาเนินกิจกรรมในรอบ 1 ปี อาทิ การเข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนพิธีในวันสาคัญ พบครูท่ีปรึกษาก่อนเข้าหอ้ งเรยี นและหลังเลอื กเรียนในทุกวนั อบรมคุณธรรมทุกวันศกุ ร์ในคาบกจิ กรรม จากที่ได้กลา่ วมาขา้ งต้นโรงเรยี นไดด้ าเนินการในเชงิ รกุ อยูเ่ สมอ ประกอบกบั โรงเรียนถกูคัดเลอื กอยใู่ นกลุ่มงานบรหิ ารหลายกลมุ่ เช่น กล่มุ โรงเรียนมาตรฐานสากล( WCSS : World ClassStandard School) กลุ่มโรงเรียนในฝัน กลุ่มโรงเรียนปลอดบุหรี่ โรงเรียนเศรษฐกิจพอเพียงประกอบกับมีการกากับติดตามให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาจึงทาให้โรงเรียนต้องดาเนินการในเชงิ รกุ และพยายามลดความเส่ยี งและผลกระทบอนั อาจจะเกิดข้นึ
โรงเรียนกระบรุ วี ทิ ยา อาเภอกระบรุ ี จังหวดั ระนอง 1 -13 (2) การประพฤติปฏิบัตอิ ยา่ งมีจรยิ ธรรม โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการส่งเสริมและสร้างความม่ันใจว่าปฏิสัมพันธ์ทุกด้านของโรงเรียนมกี ารประพฤติปฏบิ ตั อิ ยา่ งมีจรยิ ธรรม โรงเรียนมกี ระบวน ตวั วดั หรือ ตัวชว้ี ดั ท่สี าคัญอะไรในการส่งเสริมและกากับดูแลให้มีการประพฤติอย่างมีจริยธรรมภายใต้โครงสร้างระบบการกากับดู แลโรงเรียนและตลอดท่ัวทั้งโรงเรียน รวมทั้งการปฏิสัมพันธ์กับนักเรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โรงเรียนในเขตพน้ื ท่บี ริการ อกี ทั้งสถาบันอดุ มศึกษา สถานประกอบการหน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชน โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการกากับดูแลและดาเนินการในกรณีที่มีการกระทาท่ีขัดต่อ การประพฤติปฏิบัติอยา่ งมจี รยิ ธรรม โรงเรียนมีวิธีการส่งเสริม และสร้างความมั่นใจ ในการประพฤติ ปฏิบัติตนของบุคลากรในสถานศึกษา ในด้านจริยธรรมการปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามระเบียบ และแนวปฏิบัติขององค์กร การรักษาวินัย ของบุคลากร โดยมีสายงานที่เป็นกลุ่มงานบริหาร อาทิ งานคุณธรรมจริยธรรม เป็นงานที่จัดกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียน ครู และบุคลากร ได้มีโอกาสในการร่วมกิจกรรมดา้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ประเมนิ ผลและพฒั นางานเปน็ ประจาทุกปี ในส่วนของนกั เรยี นมีการกาหนดตัวบ่งชี้ ไว้ชัดเจนในมาตรฐานการศึกษาและหลักสูตรสถานศึกษา ครูมีจรรยาบรรณครู พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ.2523 กฎหมาย การบริหารบุคคลท่ีเกี่ยวข้องกับการดาเนินการทางวินัยข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา ลูกจ้างประจา และพนักงานราชการ เป็นตัวควบคุม และเมื่อพบว่าบุคลากรมีพฤติกรรม ที่ผิดระเบียบข้อบังคับและจริยธรรม โรงเรียนจะดาเนินการตามขั้นตอนตามที่ระเบียบได้กาหนดไว้ในรูปของคณะกรรมการ นอกจากน้ันโรงเรียนยังมีระบบควบคุมภายในท่ชี ว่ ยลดความเส่ยี งในเรื่องดังกลา่ วได้3. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมและการสนบั สนุนชมุ ชนที่สาคญั (1) ความผาสกุ ของสังคมในวงกว้าง โรงเรยี นใหค้ วามสาคัญของกลุม่ ของผู้ปกครอง ชุมชนเพราะเปน็ กลุ่มเป้าหมายในการวางกลยุทธ์ ซง่ึ ในการพัฒนาโรงเรยี นทุกภาคสว่ น ซ่งึ ในปัจจุบนั โรงเรียนได้แต่งต้ังผู้รับผิดชอบโดยตรงในเร่ืองของชุมชนสัมพันธ์ คือกลุ่มบริหารท่ัวไป รับผิดชอบในการประสานระหว่างโรงเรียนกับชุมชนโดยยึดหลกั การบรหิ ารจดั การโดยใช้โรงเรยี นเปน็ ฐาน ( SBM ) และคานงึ ถงึ ข้อกาหนด ดงั นี้ -โรงเรยี นให้อะไรกบั ชมุ ชน อาทิ แหลง่ เรยี นรขู้ องชุมชน การบริการด้านอาคารสถานท่ี การเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน ฯลฯ -ชุมชนให้อะไรกับโรงเรียน อาทิ สนับสนุนงบประมาณในเรื่องทุนการศึกษา ให้ความร่วมมือในกิจกรรม กากับดูแลใหก้ ารตดิ ตามพฤตกิ รรมนักเรียน ฯลฯ
โรงเรียนกระบรุ ีวิทยา อาเภอกระบุรี จังหวดั ระนอง 1 -14 (2) การสนับสนนุ ชมุ ชน โรงเรียนดาเนินการอย่างไรในการสนับสนุนและการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนที่สาคัญของโรงเรยี นอยา่ งจรงิ จงั ชุมชนที่สาคัญของโรงเรยี นมีอะไรบ้าง โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการกาหนดชุมชนดังกล่าวและกาหนดกิจกรรมท่ีโรงเรียนเข้าไปมีส่วนร่วม รวมถึงกิจกรรมที่อาจใช้สมรรถนะหลกั ของโรงเรยี น ฝา่ ยบริหาร ครแู ละบุคลากรผ้ปู ฏิบตั งิ านรว่ มมือกันในการพัฒนาชุมชนน้ันอย่างไร โรงเรยี นมีการดาเนินการหลายโครงการและหลายกิจกรรมในการส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งโดยผู้บริหารได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการระดับชุมชน หลายจุด อาทิ คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานสถานีตารวจภูธรอาเภอกระบุรี คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอาเภอ คณะกรรมการในกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน ฯลฯ อีกทั้งคณะครูและบุคลากร หลายคนเข้าร่วมเป็นกรรมการ และเป็นวิทยากรได้ร่วมเสนอแนวคิดในการดาเนินการต่าง ๆ ในชุมชน อีกทั้งมีโอกาสไดเ้ ข้ารว่ มประชมุ กบั ผู้นา ชมุ ชนและหวั หนา้ ส่วนราชการในเปน็ ประจาทกุ เดือน นอกจากนี้ส่ิงท่ีสาคัญในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ก็เพื่อมุ่งเน้นผลิตคนดีมีคุณภาพออกสู่สังคม และชุมชน จึงต้องมีการพัฒนาหลักสูตรให้หลากหลาย และให้ความสาคัญในสาระท้องถิ่นและใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ิน วิทยากรท้องถ่ิน ปราชญ์ชาวบ้าน พระภิกษุ ให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้อย่างหลากหลาย และเข้าใจถึงวิถีชีวิตในชุมชนและนอกจากนั้นโรงเรียนยังเน้นเร่ืองของการรักษาส่ิงแวดล้อม การอนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โดยกาหนดให้มีงานส่ิงแวดล้อม อยู่ในโครงสร้างบริหารงาน และออกร่วมรณรงค์ กับชุมชนในเร่ืองของการปลูกป่ารักษาป่า และจัดบรรยากาศในโรงเรียนให้มีสภาพท่ีร่มร่ืนอาศัยต้นไม้ เพ่ือให้เด็กนักเรียนได้รู้คุณค่าของการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ ฉะน้ันการดาเนินการดังกล่าวโรงเรียนคาดว่าเด็กในวันนี้ จะเติบใหญ่ออกไปพัฒนาชุมชนของตนเองในอนาคตให้เป็นชุมชนที่เข็มแข็ง และส่งผลต่อความมั่นคงเข้มแข็งของสังคมและประเทศชาติสบื ตอ่ ไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: