Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้างรายวิชา ม 4 เทอม 1

โครงสร้างรายวิชา ม 4 เทอม 1

Published by tata1500300167508, 2021-09-22 10:22:38

Description: โครงสร้างรายวิชา ม 4 เทอม 1

Search

Read the Text Version

โครงสร้างรายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท33101 ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ ปกี ารศึกษา 2564 นางสาวเสาวนีย์ ตะ๊ ตา๋ ตาแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ สงั กัดสานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท 31101 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 จดั ทาโดย นางสาวเสาวนีย์ ต๊ะต๋า ตาแหน่ง ครูผู้ช่วย กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

คาอธิบายรายวชิ า ท31101 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 ศึกษาหลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม ตีความ แปลความ และขยาย ความ ตอบคาถาม คาดคะเนเหตุการณ์ แสดงความคิดเห็นโตแ้ ยง้ เสนอความคิดใหม่ และวิเคราะห์วิจารณ์อย่างมี เหตผุ ล เขียนส่ือสาร ประเมินงานเขียน พฒั นาและผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ เขียนเรียงความ ยอ่ ความ บนั ทึก เขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ มีมารยาทในการเขียน สรุป วิเคราะห์ ประเมินแนวคิด และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกบั การใชภ้ าษาและความน่าเชื่อถือจากเร่ืองที่ฟังและดู มีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องที่ฟังและดู ลกั ษณะของ ภาษา การใชค้ าและกลุ่มคาสร้างประโยค วิเคราะห์อิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย หลกั การสร้างคาใน ภาษาไทย การใช้ภาษาอย่างถูกตอ้ งเหมาะสม วิเคราะห์ ประเมินการใชภ้ าษา แต่งบทร้อยกรอง ท่องจา วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินคุณคา่ และสงั เคราะหข์ อ้ คิดวรรณคดีและวรรณกรรมที่ศึกษา โดยใช้กระบวนการทางภาษา การสืบคน้ ความรู้ การจดบนั ทึก ใช้ความสามารถในการคิดการอภิปราย เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจในการเรียนรู้ ใชค้ วามสามารถในการสื่อสารกบั ผอู้ ื่นใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั เห็นคุณค่าของภาษาไทย นาความรู้ไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาใหเ้ กิดประโยชน์ในชีวิต เป็นผมู้ ีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด เห็นคุณค่าภาษาไทยซ่ึงเป็นเอกลกั ษณ์ของชาติ รัก ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็ นไทยและมีจิต สาธารณะ เพอื่ ใหเ้ กิดการเรียนรู้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยและรักษาไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ ตวั ชี้วดั ท 1.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, ม.4–6/3, ม.4–6/4, ม.4–6/5, ม.4–6/6 ท 2.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, ม.4–6/3, ม.4–6/4, ม.4–6/5, ม.4–6/6, ม.4–6/7, ม.4–6/8 ท 3.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, ม.4–6/3, ม.4–6/4, ม.4–6/5, ม.4–6/6 ท 4.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, ม.4–6/3, ม.4–6/4, ม.4–6/5, ม.4–6/6, ม.4–6/7 ท 5.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, ม.4–6/3, ม.4–6/4, ม.4–6/6 รวมท้งั หมด 32 ตวั ชี้วดั

ผงั มโน รายวชิ าภาษาไทย ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ภา ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน เวลา 1 ชวั่ โมง หน่วยที่ 1 รายว ธรรมชาติและลกั ษณะของภาษา รหัส ระดบั ช้ัน เวลา 3 ชว่ั โมง เวลา หน่วยที่ 2 การใช้ภาษาในการสื่อสาร เวลา 4 ชว่ั โมง หน่วยท่ี 3 อเิ หนา ตอน ศึกกะหมงั กหุ นิง เวลา 9 ชว่ั โมง

นทศั น์ รหัสวชิ า ท31101 าคเรียนที 1 ปี การศึกษา 2564 สอบกลางภาค 1 ชว่ั โมง สอบปลายภาค 1 ชวั่ โมง วชิ าภาษาไทย หน่วยท่ี 6 สวชิ า ท31101 นิทานเวตาลเร่ืองท่ี 10 นมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 า 40 ช่ัวโมง เวลา 3 ชว่ั โมง หน่วยท่ี 5 ส่งสารด้วยการเขียน เวลา 10 ชวั่ โมง หน่วยท่ี 4 การฟัง การดู และการพดู ให้สัมฤทธ์ิผล เวลา 8 ชว่ั โมง

รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท31101 โครงสร้า ระดบั ช้ันมธั หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐาน ตวั ชี้วดั ท่ี ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน 1. ธรรมชาติและ ท 1.1 ม.4–6/2 ภาษาเป็ นเคร่ืองมือในกา ลกั ษณะของภาษา ท 4.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, ความต้องการให้ผูอ้ ื่นร ม.4–6/5, ม.4–6/6 ร่วมกนั ภาษาแต่ละภาษ ไปจากภาษาอ่ืน 2. การใชภ้ าษา ท 1.1 ม.4–6/2 การมีความรู้เก่ียวกบั การ ในการส่ือสาร ท 2.1 ม.4–6/7 ให้ประสบความ สาเร็จต ท 3.1 ม.4–6/2, ม.4–6/3, ส่งสารเพ่อื กิจธุระเป็นกา ม.4–6/5, ม.4–6/6 การใช้คา กลุ่มคาให ท 4.1 ม.4–6/3, ม.4–6/7 สื่อสารกบั บุคคลต่าง ๆ จ การสื่อสาร การใชค้ าท่ีมีความหมายค หรือให้ความรู้สึกชดั ข้ึน สื่อสารไดช้ ดั เจนข้ึน 3. อิเหนา ตอน ศึก ท 1.1 ม.4–6/1, ม.4–6/3, การวิจารณ์วรรณคดีแ กะหมงั กหุ นิง ม.4–6/4, ม.4–6/5, เก่ียวกับวรรณคดีและว ม.4–6/6 อยา่ งไร ท 5.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2,

างรายวชิ า ธยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 สาระสาคญั เวลา รวม คะแนน A - น (ช่ัวโมง) 5 KP - 1 ารสื่อสารที่ใชถ้ ่ายทอดความคิด ความรู้สึก 1 -- รับรู้ ซ่ึงแต่ละภาษาจะมีลักษณะบางอย่าง 3 22 ษาจะมีลกั ษณะเฉพาะของตนเองที่แตกต่าง รสื่อสาร จะเพ่ิมประสิทธิภาพในการสื่อสาร 4 5 22 1 ตามจุดมุ่งหมายมากข้ึน การรับสารและการ ารส่ือสารท่ีจาเป็นในชีวติ ประจาวนั ห้ถูกตอ้ งเหมาะสมตามสถานการณ์ในการ จะทาใหส้ ื่อสารไดต้ รงตามจุดมุ่งหมายของ คลา้ ยกนั และการใชค้ าท่ีทาใหม้ องเห็นภาพ นเป็ นพิเศษ ทาให้เขา้ ใจจุดมุ่งหมายในการ และวรรณกรรม เป็นการแสดงความคิดเห็น 9 12 6 4 2 วรรณกรรมว่ามีคุณค่าหรื อมีข้อบกพร่ อง

ม.4–6/3, ม.4–6/4, ประวตั ิวรรณคดีและ ม.4–6/6 ๑๗๙๒–๑๙๘๑ มีวรรณค ประวตั ิวรรณคดีแล ๑๘๙๓–๒๐๗๒) เป็ นช่ว วรรณคดีใหศ้ ึกษาไม่มาก บทละครเร่ือง อิเหน นิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ที่ไ ที่ 6 ว่าเป็ นยอดแห่งบท กระบวนกลอน การอ่านทานองเสนาะ ตามลกั ษณะบงั คบั ของคา การอ่านตีความ เป็ นก ละเอียด การเขียนแสดงความค ขอ้ เทจ็ จริงท่ีน่าเชื่อถือ สานวนโวหาร เป็นก ของภาษา 4. การฟัง การดู การ ท 3.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, การมีความรู้เก่ียวกบั ห พดู ใหส้ มั ฤทธ์ิผล ม.4–6/3, ม.4–6/4, ไดต้ รงตามจุดมุ่งหมายท ม.4–6/5, ม.4–6/6 ฝึกฟังจบั ประเดน็ สาคญั ท 4.1 ม.4–6/3, ม.4–6/5 ฟังและการดูเป็ นมารยา กาลเทศะ

ะวรรณกรรมสมัยสุโขทัยเร่ิมต้งั แต่ พ.ศ. คดีท่ีเก่าแก่ท่ีสุด คือ หลกั ศิลาจารึก ะวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น (พ.ศ. วงเร่ิมตน้ สร้างบา้ นเมือง จึงมีหลกั ฐานทาง กนกั นา ตอน ศึกกะหมงั กุหนิง เป็ นบทพระราช ไดร้ ับยกยอ่ งจากวรรณคดีสโมสรในรัชกาล ทละครรา มีความดีเด่นท้ังเน้ือความและ ะ เป็นการอา่ นที่มีการเอ้ือนเสียงเป็นทานอง าประพนั ธ์ การพิจารณาและจบั ใจความของเร่ืองอยา่ ง คิดเห็น เป็นการถ่ายทอดความรู้โดยการอา้ ง การเลือกใชค้ า สานวน เพื่อความสละสลวย หลกั ในการฟังและการดูจะทาให้ฟังและดู 8 10 4 4 2 ที่ตอ้ งการการฟังใหส้ ัมฤทธ์ิผลตอ้ งอาศยั การ คิดวิเคราะห์เรื่องที่ฟังและดูมารยาทในการ าททางสังคมที่ควรปฏิบตั ิให้เหมาะสมกบั

ก า ร มี ห ลั ก ใ น ก า ร พ จุดมุ่งหมายที่ตอ้ งการ ก การพดู ฝึกพดู อยา่ งสม่าเส มารยาทในการพูดเป็ นม กบั กาลเทศะและบุคคล 5. ส่งสาร ท 2.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, การเขา้ ใจกระบวนกา ดว้ ยการเขียน ม.4–6/3, ม.4–6/4, เขียนไดอ้ ย่างมีลาดบั ข้นั ม.4–6/5, ม.4–6/6, เกียรติผูอ้ ่าน การเขียนใ ม.4–6/7, ม.4–6/8 แตกต่างกันออกไป ผูเ้ ข ถูกตอ้ งตามรูปแบบของง ท 4.1 ม.4–6/4 บทร้อยกรองมีหลายป ฉนั ทลกั ษณ์ของบทร้อยก 6. นิทานเวตาล ท 1.1 ม.4–6/1, ม.4–6/2, นิทานเวตาล เป็นนิทา เรื่องท่ี 10 ม.4–6/3, ม.4–6/4, มาทิตยฟ์ ังระหวา่ งการเด ม.4–6/5, ม.4–6/6 ท่ีเวตาลเล่าถวายพระวกิ ร ท 5.1 ม.4–6/1, ม.4–6/4 สติปัญญาผฟู้ ัง การเขียนเชิงสร้างสร นาเสนอเน้ือหาท่ีแปลกใ ผู้อ่าน และช่วยจรรโล สนุกสนานเพลิดเพลิน สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม

พูดจะทาให้พูดได้ตรงตามหัวข้อหรื อ การพูดในโอกาสต่าง ๆ ตอ้ งศึกษาหลกั ใน สมอ และตอ้ งรักษามารยาทในการพดู มารยาททางสังคมท่ีควรปฏิบตั ิใหเ้ หมาะสม ารเขียนและกระบวนการคิดทาให้สร้างงาน 10 13 6 4 3 นตอน การเขียนอย่างมีมารยาทเป็ นการให้ ในรูปแบบต่าง ๆ มีรูปแบบในการเขียนท่ี ขียนต้องเลื อกใช้รู ปแบบในการเขียนให้ งานเขียน ประเภท การแต่งบทร้อยกรองจาเป็นตอ้ งรู้ กรองประเภทท่ีจะแต่ง านซอ้ นนิทาน ท่ีเวตาลเล่าถวายใหพ้ ระวิกร 3 5 2 2 1 ดินทางนาตวั เวตาลไปมอบใหโ้ ยคี ซ่ึงนิทาน รมาทิตยน์ ้นั เป็นนิทานซ่อนปริศนาท่ีทา้ ทาย รรค์ เป็นการเขียนท่ีมีรูปแบบ กลวิธี วิธีการ ใหม่ เนน้ คุณประโยชน์ ใหข้ อ้ คิดท่ีดีงามต่อ ลงสังคม นอกเหนือจากความรู้ ความ 1 20 1 30 40 100 22 18 10

การวเิ คราะห์มาต รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท31101 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง ธรรมชาติและลกั ษณะของภาษา เวลา ตวั ชี้วดั รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน / ชิน้ งา ท 1.1 ม.4–6/2 รู้อะไร 1. จับใจความ อภิปรา ตีความ แปลความ และ 1. คาสาคญั ไดแ้ ก่ วจั นภาษา อวจั นภาษา แลกเปล่ียนความค ขยายความเร่ืองท่ีอา่ น ภาษาตาย โฆษะ อโฆษะ วภิ ตั ติ บริบท ศึ ก ษ า ค้น ค ว้า เ กี่ ย ท 4.1 ม.4–6/1 การประสมอกั ษร ธรรมชาติและลกั ษณะ อธิบายธรรมชาติของ 2. ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารมีท้งั ภาษาที่ 2. ขยายประโยค ภาษา พลังของภาษา เป็นถอ้ ยคาและภาษาท่ีไม่ใช่ถอ้ ยคา 3. วิเคราะห์การใช้สา และลกั ษณะของภาษา 3. ภาษาแต่ละภาษาจะมีธรรมชาติของ ต่างประเทศ ภาษา คือใช้เสียงในการส่ือความ 4. ประสมอกั ษร ท 4.1 ม.4–6/2 หมาย ประกอบด้วย หน่วยเล็กซ่ึง 5. อ่านตีความจากบริบท ประกอบกนั เป็นหน่วยใหญ่ข้ึน มีการ 6. วิเคราะห์จุดเนน้ ของป ใช้คาและกลุ่มคาสร้าง เปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา และมี 7. เขียนแผนภาพความค ประโยคตรงตาม วตั ถุประสงค์ ลกั ษณะเฉพาะที่ต่างและเหมือนกนั ท 4.1 ม.4–6/5 วิเคราะห์อิทธิพลของ 4. ภาษาไทยเป็นภาษาท่ีมีระบบตวั เขียน ภาษาต่าง ประเทศและ และมีอักษรใช้เป็ นของตนเอง ซ่ึง ประกอบด้วย พยญั ชนะ สระ และ ภาษาถิ่น วรรณยกุ ต์ และสามารถนามาประสม ท 4.1 ม.4–6/6

ตรฐานและตัวชี้วดั ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 ษาปี ที่ 4 3 ช่ัวโมง าน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ าย สนทนา 1. การสื่อสาร 1. ความสามารถในการ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ คิดเห็นและ 2. การคิด อธิบาย ช้ีแจง การแปล 2. ซื่อสตั ยส์ ุจริต ว กับ เ รื่ อ ง 3. การแกป้ ัญหา ความและตีความ 3. มีวนิ ยั ะของภาษา 4. การใชท้ กั ษะชีวติ 2. ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. การใชเ้ ทคโนโลยี ดดั แปลงและนาไปใช้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง นวนภาษา 3. การมีมุมมองท่ีหลาก 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน หลาย ให้ความ สาคญั 7. รักความเป็นไทย และใส่ใจในความ รู้สึก 8. มีจิตสาธารณะ ของผูอ้ ื่น และการรู้จกั ประโยค ตนเอง คิด 4. มีมารยาทในการอ่าน และมีนิสยั รักการอา่ น

อธิบายและวิเคราะห์ เป็นคาหรือประโยคเพื่อใช้สื่อสารกนั หลักการสร้ าง คาใน ได้ ภาษาไทย 5. การเขา้ ใจลกั ษณะของภาษาไทยจะทา ให้ออกเสียงคา และเขียนสะกดคา ถู ก ต้ อ ง ต า ม ห ลัก เ ก ณ ฑ์ ข อ ง ภ า ษ า รวมถึงสามารถตีความหมายของคา ขอ้ ความ และประโยค โดยพิจารณา จากบริบทและการเรียงคาเขา้ ประโยค ไดด้ ียง่ิ ข้ึน ทาอะไร 1. อธิบายความหมายของภาษาได้ 2. เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและใชภ้ าษา ในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 3. ออกเสียงและเขียนสะกดคาถูกต้อง ตามหลกั เกณฑข์ องภาษา 4. ตีความหมายของคา ข้อความ และ ประโยคจากบริบทและการเรียงคาเขา้ ประโยค



การวเิ คราะห์มาต รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท31101 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การใช้ภาษาในการสื่อสาร เวลา 4 ช่ัวโม ตวั ชี้วดั รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน / ชิน้ งา ท 1.1 ม.4–6/2 รู้อะไร 1. จับ ใ จ ค ว า ม อ ภ ตีความ แปลความ และ 1. ก า ร มี ค ว า ม รู้ แ ล ะ ค ว า ม เ ข้า ใ จ สนทนาแลกเปล่ียน ขยายความเร่ืองท่ีอา่ น เ กี่ ย ว กับ ก า ร ส่ื อ ส า ร ใ น เ ร่ื อ ง คิดเห็น และศึกษาค ท 2.1 ม.4–6/7 ค ว า ม ส า คัญ ข อ ง ก า ร ส่ื อ ส า ร เก่ียวกบั การใชภ้ าษา บันทึกการศึกษาค้นคว้า อ งค์ปร ะกอ บขอ งการ ส่ื อสาร ส่ือสาร เพื่อนาไปพัฒนาตนเอง จุดมุ่งหมายของการส่ือสาร ภาษาใน 2. พูดส่ือสารในสถาน การสื่ อสาร สถานการณ์ในการ ต่าง ๆ อยา่ งสม่าเสมอ สื่อสารที่มีประสิทธิภาพ อุปสรรค 3. วิเคราะห์สถานกา ท 3.1 ม.4–6/2 วิเคราะห์แนวคิด การใช้ ของการส่ือสารและวิธีแกไ้ ข จะทา การส่ือสาร ภาษา และความน่าเช่ือถือ ให้การส่ือสารบรรลุจุดมุ่งหมายได้ 4. ใช้โทรศัพท์และโท จากเรื่องท่ีฟังและดูอยา่ งมี ง่ายข้ึน ในการสื่อสาร เหตุผล 2. การรับสารและการส่งสารเพื่อกิจ 5. เขียนแผนภาพความ ธุระ ผรู้ ับสารและผสู้ ่งสารจะตอ้ งใช้ 6. แสดงบทบาทสมมุต ท 3.1 ม.4–6/3 ภาษาใหก้ ระชบั รัดกมุ ไม่กากวม ทา 7. คน้ ควา้ ความรู้เพ่มิ เต ประเมิ นเรื่ องท่ี ฟั งและดู แ ล้ ว ก า ห น ด แ น ว ท า ง

ตรฐานและตวั ชี้วดั ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 ษาปี ที่ 4 มง าน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ภิ ป ร า ย 1. การสื่อสาร นความ 2. การคิด 1. ความสามารถในการ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ คน้ ควา้ 3. การแกป้ ัญหา าในการ 4. การใชท้ กั ษะชีวิต อธิ บาย ช้ี แจง การ 2. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต 5. การใชเ้ ทคโนโลยี นการณ์ แปลความและตีความ 3. มีวนิ ยั ารณ์ใน 2. ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ 4. ใฝ่เรียนรู้ ทรสาร ดดั แปลงและนาไปใช้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มคิด 3. การมีมุมมองที่หลาก 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน ติ ติม หลาย ใหค้ วาม สาคญั 7. รักความเป็นไทย และใส่ ใจในความ 8. มีจิตสาธารณะ รู้สึ กของผู้อ่ืน และ การรู้จกั ตนเอง 4. มีมารยาทในการอ่าน และมีนิสยั รักการอ่าน

นาไปประยุกต์ใช้ในการ ใหเ้ กิดความเขา้ ใจผดิ และตอ้ งใชใ้ ห้ ดาเนินชีวิต เหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล ท 3.1 ม.4–6/5 3. ก า ร ใ ช้ค า ก ลุ่ ม ค า ใ ห้ ถู ก ต้อ ง พูดในโอกาสต่าง ๆ พูด เหมาะสมตามสถานการณ์ในการ แสดงทรรศนะ โต้แย้ง สื่อสารกับบุคคลต่าง ๆ ผูส้ ื่อสาร โน้มน้าวใจ และเสนอ จะตอ้ งคานึงถึงฐานะ โอกาส และ แนวคิดใหม่ด้วยภาษา กาลเทศะในการส่ือสารดว้ ย เพราะ ถูกตอ้ งเหมาะสม เป็ นส่ิงท่ีใชก้ าหนดระดบั ของภาษา ท 3.1 ม.4–6/6 ว่ า ค ว ร จ ะ ใ ช้ ภ า ษ า อ ย่ า ง ไ ร ใ ห้ มีมารยาทในการฟัง การดู เหมาะสม 4. การใช้คาท่ีมีความหมายคล้ายกัน และการพดู และการใช้คาท่ีทาให้มองเห็นภาพ ท 4.1 ม.4–6/3 ใช้ภาษาเหมาะสมแก่ หรือให้ความรู้สึกชัดข้ึนเป็ นพิเศษ ค ว ร เ ลื อ ก ใ ช้ ใ ห้ ถู ก ต้ อ ง ต า ม โอกาส กาลเทศะ และ ความหมายที่ตอ้ งการส่ือสาร เพ่อื ให้ บุคคล รวมท้ังคาราชา การสื่ อสารบรรลุจุดมุ่งหมายท่ี ศพั ทอ์ ยา่ งเหมาะสม ตอ้ งการ ท 4.1 ม.4–6/7 วิเคราะห์และประเมินการ ทาอะไร ใช้ภาษาจากสื่อสิ่งพิมพ์ 1. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการ และสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ส่ือสารสามารถส่ือสารไดต้ รงตาม จุดมุ่งหมายและแก้ไขอุปสรรคใน การส่ือสารได้



2. เลือกส่ือในการรับสารและส่งสาร เพื่อกิจธุระได้เหมาะสม และใช้ ภาษาได้เหมาะสมตาม ฐานะ กาลเทศะ และสถานการณ์ 3. เลือกใช้คา กลุ่มคาเหมาะสมกับ ฐานะ โอกาสและกาลเทศะในการ ส่ือสาร 4. เลือกใชค้ าไดต้ รงตามความหมายท่ี ตอ้ งการส่ือสาร



การวเิ คราะห์มาต รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท31101 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง อเิ หนา ตอน ศึกกะหมังกหุ นิง เวลา ตัวชี้วดั รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน / ช ท 1.1 ม.4–6/1 รู้อะไร 1. อ่านเรื่อง ความร อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ 1. คาสาคัญได้แก่วรรณศิลป์ วาทศิลป์ วรรณคดีและวร และบทร้อยกรองไดอ้ ยา่ ง ภาพพจน์ อสญั แดหวา อสญั หยา ตุนาหงนั สุโขทยั และอยุธ ถูกตอ้ ง ไพเราะ เหมาะสม กระยาหงัน อะหนะ ยุรยาตร สีหบัญชร จับใจความสาค กบั เรื่องที่อา่ น ดะหมัง ปัจจามิตรเลก เจียระบาด ตรัส วิเคราะห์ แสดง ท 1.1 ม.4–6/3 เตร็จ ก้นั หยนั่ ตามะหงง วิหลนั่ กิดาหยนั และตอบคาถาม วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่อง ฟันไมข้ ่มนาม โขลนทวาร บุหรง นามครุ 2. เขียนแผนภาพคว 3. อภิปรายกลุ่ม ท่ีอ่านในทุก ๆ ดา้ นอย่าง ฑา 2. การวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม ผู้ 4. วจิ ารณ์วรรณคดีต มีเหตุผล วิจารณ์จะต้องพิจารณาองค์ประกอบที่ วิจารณ์ ท 1.1 ม.4–6/4 คาดคะเนเหตุการณ์จาก สาคัญของงานประพันธ์ คือ รู ปแบบ 5. เขียนแสดงทรรศ เร่ืองท่ีอ่านและประเมินค่า เน้ือหา และภาษา โดยมีเหตุผลท่ีน่าเชื่อถือ 6. ทารายงาน เพ่ือนาความรู้ ความ คิด มาอธิบายประกอบ 7. อ่านบทละครเร่ือ ไปใชต้ ดั สินใจ แก้ ปัญหา 3. วรรณคดีสมัยสุโขทัยมีลักษณะเป็ นการ ศึกกะหมงั กุหนิง บรรยาย สภาพบา้ นเมือง วฒั นธรรม สงั คม สาคัญ เล่าเร่ื อง ในการดาเนินชีวิต และการอบรมศีลธรรม ไม่มุ่งเน้นความ

ตรฐานและตวั ชี้วดั ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 ษาปี ท่ี 4 9 ชั่วโมง ชิน้ งาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ รู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั 1. การสื่อสาร 1. ความสามารถใน 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รรณกรรมสมัย 2. การคิด การอธิบาย ช้ีแจง 2. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต ธยาตอนตน้ แลว้ 3. การแกป้ ัญหา การแปลความและ 3. มีวินยั คัญ สรุ ปความ 4. การใชท้ กั ษะชีวติ ตีความ 4. ใฝ่ เรียนรู้ งความคิดเห็น 5. การใชเ้ ทคโนโลยี 2. การประยุกตใ์ ช้ ดดั 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง แปลงและนาไปใช้ 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน วามคิด 3. ก า ร มี มุ ม ม อ ง ท่ี 7. รักความเป็นไทย ตามรูปแบบการ ห ล า ก ห ล า ย ใ ห้ 8. มีจิตสาธารณะ ความสาคญั และใส่ ใจในความ รู้สึ ก ศนะ ของผูอ้ ื่น และการ รู้จกั ตนเอง อง อิเหนา ตอน 4. มีมารยาทในการ งแลว้ จบั ใจความ อ่านและมีนิสัยรัก งย่อ วิเคราะห์ การอา่ น

ท 1.1 ม.4–6/5 บนั เทิง แต่งเป็นร้อยแกว้ ใชค้ าไทยโบราณ แสดงความคิดเ วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดง บาลีสนั สกฤตและเขมรปะปน คาถาม ค ว า ม คิ ด เ ห็ น โ ต้แ ย้ง 4. วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้น ส่วนใหญ่ 8. เขียนภาพโครงเร เก่ียวกับเร่ืองที่อ่าน และ เป็ นเรื่องเก่ียวกับศาสนา พิธีกรรม พระ 9. เขียนยอ่ ความ เสนอความคิดใหม่อยา่ งมี มหา กษตั ริย์ มีคาประพนั ธ์ท้งั โคลง ฉันท์ 10. อ่านทานองเสนา เหตุผล กาพย์ ร่าย และลิลิต ยกเวน้ กลอน 11. ท่องจาบทร้อยกร ท 1.1 ม.4–6/6 5. บทละครเรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหมงั กุห 12. อ่านตีความ ตอบคาถามจากการอ่าน นิง มีเน้ือหาสะทอ้ นถึงวิธีการทาศึกตาม 13. วเิ คราะห์ลกั ษณะ งานเขียนประเภทต่าง ๆ ตาราพิชัยสงคราม การจัดทัพ และการ 14. เขียนแสดงความ ป้องกนั บา้ นเมือง และใหข้ อ้ คิดเตือนใจใน 15. เขียนงานเขียน ภายในเวลาท่ีกาหนด เร่ืองความรัก ต่าง ๆ ท 5.1 ม.4–6/1 วิ เ ค ร า ะ ห์ แ ล ะ วิ จ า ร ณ์ 6. การอ่านทานองเสนาะ เป็ นการอ่านออก 16. แต่งเรื่องส้นั หรือ วรรณคดี วรรณกรรมตาม เสียงตามวรรคตอนจังหวะ ลีลา และ ท่วงทานองตามลักษณะบังคับของบท หลกั การวจิ ารณ์เบ้ืองตน้ ประพันธ์ โดยใช้น้ าเสียงและอารมณ์ ท 5.1 ม.4–6/2 7. สอดคลอ้ งกบั รสความของคาประพนั ธ์น้นั 8. การตีความ เป็ นการจบั ใจความของเร่ือง วิเคราะห์ลกั ษณะเด่นของ อยา่ งละเอียด เพ่ือใหท้ ราบความคิดสาคญั วรรณคดีเชื่อมโยงกบั การ ของเร่ืองโดยอาศยั ความรู้ในการพิจารณา เรียนรู้ทางประวตั ิศาสตร์ องคป์ ระกอบของเร่ือง และวิถีชีวิตของสังคมใน การเขียนแสดงความคิดเห็น เป็ นการ อดีต ถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึก ประสบการณ์ ท 5.1 ม.4–6/3 วิ เ ค ร า ะ ห์ แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ ของ

เห็น และตอบ ร่ือง าะ รอง ะนิสยั ตวั ละคร มคิดเห็น โดยใช้โวหาร อนิทาน

วรรณคดีและวรรณกรรม อย่างมีเหตุผลท่ีน่าเช่ือถือ เพ่ือก่อให้เกิด ในฐานะท่ีเป็ นมรดกทาง การเปล่ียนแปลงที่ดี วฒั นธรรมของชาติ 9. สานวนโวหารในภาษาไทย แบ่งออกเป็ น ท 5.1 ม.4–6/4 บรรยายโวหาร พรรณนาโวหาร อุปมา สังเคร าะห์ข้อ คิ ด จ า ก โวหารสาธกโวหาร และเทศนาโวหาร วรรณคดีและวรรณกรรม ทาอะไร เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ใน 1. บ อ ก ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ ลัก ษ ณ ะ ข อ ง ชีวติ จริง วรรณคดีและวรรณกรรม ท 5.1 ม.4–6/6 2. บ อ ก ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ข อ ง ว ร ร ณ ค ดี 3. วรรณกรรม และยกตวั อยา่ งถูกตอ้ ง ท่องจาและบอกคุณค่าบท บอกแนวทางการวิจารณ์ วรรณคดี อ า ข ย า น ต า ม ที่ ก า ห น ด 4. วรรณกรรมตามองค์ประกอบของงาน แ ล ะ บ ท ร้ อ ย ก ร อ ง ที่ มี ประพนั ธ์ คุ ณ ค่ า ต า ม ค ว า ม ส น ใ จ บอกเหตุการณ์ท่ัวไปของบ้านเมืองใน และนาไปใชอ้ า้ งอิง สมยั สุโขทยั และอยธุ ยาตอนตน้ 5. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ ทางประวตั ิศาสตร์และวรรณคดีในสมยั สุโขทยั และอยธุ ยาตอนตน้ 6. บอกเหตุการณ์ทางวรรณคดีในสมัย สุโขทยั และอยธุ ยาตอนตน้ 7. บอกลกั ษณะและยกตวั อย่างวรรณคดีใน สมยั สุโขทยั และอยธุ ยาตอนตน้



8. จับใจความสาคญั เล่าเรื่องย่อ และบอก ขอ้ คิดจากเร่ืองท่ีอา่ น 9. เข้าใจลักษณะการอ่านทานองเสนาะ กลอนบทละคร 10. บอกหลกั การอ่านตีความที่สามารถทาให้ เขา้ ใจเร่ืองท่ีอ่านไดอ้ ยา่ งลึกซ้ึง 11. เขียนแสดงความคิดเห็นเร่ืองราวต่าง ๆ อยา่ งน่าเชื่อถือ ไม่มีอคติ 12. บอกลกั ษณะของสานวนโวหารและใช้ สานวน โวหารในการเขียนงานเขียนได้ อยา่ งสร้างสรรค์



การวเิ คราะห์มาต รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท31101 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง การฟัง การดู และการพดู ให้สัมฤทธ์ิผล ตวั ชี้วดั รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน / ชิ้นง ท 3.1 ม.4–6/1 รู้อะไร 1. จบั ใจความ อภิปรา สรุ ปแนวคิดและแสดงความ 1. การรู้จกั หลกั การฟังและการดู แลกเปล่ียนควา คิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู ทาให้เลือกฟังและดูส่ิงที่เป็ น และศึกษาค้นคว้า ท 3.1 ม.4–6/2 ความรู้และความบันเทิง โดย เร่ือง การฟัง การด วิเคราะห์แนวคิด การใช้ภาษา ฟังและดูไดอ้ ยา่ งมีวิจารณญาณ พดู ใหส้ มั ฤทธ์ิผล และความน่าเชื่อถือจากเรื่องที่ และตรงตามจุดมุ่งหมายท่ี 2. วิเคราะห์ แสดงคว ประเมินค่าเรื่องท่ีฟ ฟังและดูอยา่ งมีเหตุผล ตอ้ งการ ท 3.1 ม.4–6/3 2. ก า ร ฟั ง ใ ห้สัม ฤ ท ธ์ิ ผ ล ต้อ ง 3. ฟังและดูส่ิงท่ีเป็นค ประเมินเร่ื องท่ีฟังและดู แล้ว พิจารณาโอกาสในการฟัง และ ความบนั เทิง กาหนดแนวทางนาไปประยุกต์ ควรฟังอยา่ งเป็นระดบั ข้นั ตอน 4. ฝึกพดู ในโอกาสต่า 3. ผทู้ ี่มีมารยาทในการฟังและการ 5. พูดอภิปรายตามห ใชใ้ นการดาเนินชีวิต ดู จะต้อ งมี มารยาทในการ กาหนด ท 3.1 ม.4–6/4 แสดงออกและมารยาทในการ 6. เขียนแผนภาพความ มีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องที่ ฟังและดู รับสารที่เหมาะสม 7. แสดงบทบาทสมม

ตรฐานและตัวชี้วดั ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 ษาปี ที่ 4 เวลา 8 ชั่วโมง งาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ าย สนทนา 1. การส่ือสาร 1. ความสามารถในการ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มคิดเห็น 2. การคิด อธิบาย ช้ีแจง การแปล 2. ซื่อสตั ยส์ ุจริต าเกี่ยวกับ 3. การแกป้ ัญหา ความและตีความ 3. มีวินยั ดู และการ 4. การใชท้ กั ษะชีวติ 2. ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. การใชเ้ ทคโนโลยี ดดั แปลงและนาไปใช้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง วามคิดเห็น 3. การมีมุมมองท่ีหลาก 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน ฟังและดู หลาย ให้ความ สาคญั 7. รักความเป็นไทย ความรู้และ และใส่ใจในความ รู้สึก 8. มีจิตสาธารณะ ของผูอ้ ่ืน และการรู้จกั าง ๆ ตนเอง หัวข้อท่ีครู 4. มีมารยาทในการอ่าน และมีนิสยั รักการอา่ น มคิด มุติ

ท 3.1 ม.4–6/5 4. การรู้จกั หลกั การพูดทาใหเ้ ลือก พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดง เร่ืองที่จะพูดได้เหมาะสมกับ ทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจ จุดมุ่งหมายท่ีตอ้ งการพดู และเสนอแนว คิดใหม่ 5. การ พูดให้สัมฤ ทธ์ิ ผลต้อง ท 3.1 ม.4–6/6 พิจารณาโอกาสและระดบั ของ มีมารยาทในการฟัง การดู และ บุคคลท่ีพูดด้วย แล้วเลือกใช้ การพดู คาพดู ใหเ้ หมาะสม 6. ผูท้ ี่มีมารยาทในการพูดจะทา ท 4.1 ม.4–6/3 ใช้ภาษาเหมาะสมแก่โอกาส ใหผ้ ฟู้ ังเช่ือถือและยกยอ่ ง กาลเทศะ และบุคคล รวมท้งั คา ทาอะไร ราชาศพั ทอ์ ยา่ งเหมาะสม 1. ฟังและดูเร่ืองราวต่าง ๆ อยา่ งมี ท 4.1 ม.4–6/5 หลกั การ วิเคราะห์อิทธิ พลของภาษา 2. ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ได้สัมฤทธ์ิ ต่างประเทศและภาษาถ่ิน ผลตามท่ีตอ้ งการ 3. พูดในโอกาสต่าง ๆ อย่างมี หลกั การ 4. พดู ไดส้ มั ฤทธ์ิผลตามที่ตอ้ งการ 5. มีมารยาทในการฟังการดู และ การพดู



การวเิ คราะห์มาต รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท31101 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง ส่งสารด้วยการเขยี น เวลา 10 ชั่วโมง ตวั ชี้วดั รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน / ช ท 2.1 ม.4–6/1 รู้อะไร 1. จบั ใจความ อภิป เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ 1. คาสาคญั ไดแ้ ก่ แก่นของเร่ือง คณะ แลกเปล่ียนคว ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้ คาเอกโทษ คาโทโทษ ชิงสัมผัส เก่ียวกบั เร่ือง กา ภาษาเรียบเรียงถูกตอ้ ง มีขอ้ มลู สมั ผสั เฝือ การเขียน และสาระสาคญั ชดั เจน 2. การ ใช้กร ะบว นการ เขี ย น แ ล ะ 2. พูดอภิปรายเก ท 2.1 ม.4–6/2 เขียนเรียงความ กระบวนการคิดประกอบการเขียน เขียนในรูปแบบ งาน จะทาให้งานเขียนมีจุดมุ่งหมาย 3. วิเคราะห์งานเขีย ท 2.1 ม.4–6/3 เขียนยอ่ ความจากส่ือท่ีมีรูปแบบ ท่ีชัดเจน และเรี ยบเรียงอย่างเป็ น 4. สร้างสรรคง์ านเ ลาดบั ต่าง ๆ และเน้ือหาหลากหลาย 3. การมีมารยาทในการเขียน เขียนโดย 5. รวบรวมตัวอย ท 2.1 ม.4–6/4 4. ใช้ถ้อยคาสุภาพ ไม่ใช้ปากกาเป็ น 6. รูปแบบต่าง ๆ อาวุธ และเขียนดว้ ยความรับผดิ ชอบ อธิบายแผนผงั ผ ลิ ต ง า น เ ขี ย น ข อ ง ต น เ อ ง ใ น จดั เป็นการใหเ้ กียรติผอู้ า่ น 7. กรองประเภท รูปแบบต่าง ๆ การเขียนในรูปแบบต่าง ๆ มีรูปแบบ แ ต่ ง บ ท ร้ อ ย ในการ เขียนท่ีแตกต่างกันออกไป แผนผงั ท 2.1 ม.4–6/5 ผูเ้ ขียนตอ้ งมีจุดมุ่งหมายที่ชดั เจนใน เขียนแผนภาพค ประเมินงานเขียนของผอู้ ื่น แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 ม.4–6/6

ตรฐานและตวั ชี้วดั ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 ษาปี ท่ี 4 ชิ้นงาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ปราย สนทนา 1. การส่ือสาร 1. ความสามารถในการ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ วามคิดเห็น 2. การคิด อธิบาย ช้ีแจง การแปล 2. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต ารส่งสารดว้ ย 3. การแกป้ ัญหา ความและตีความ 3. มีวนิ ยั 4. การใชท้ กั ษะชีวิต 2. ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ 4. ใฝ่ เรียนรู้ ก่ียวกับการ 5. การใชเ้ ทคโนโลยี ดดั แปลงและนาไปใช้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง บต่าง ๆ 3. การมีมุมมองท่ีหลาก 6. มุ่งมนั่ ในการทางาน ยน หลาย ให้ความ สาคญั 7. รักความเป็นไทย เขียนรูปแบบ และใส่ใจในความ รู้สึก 8. มีจิตสาธารณะ ของผูอ้ ่ืน และการรู้จกั ย่างงานเขียน ตนเอง 4. มีมารยาทในการอ่าน งของบทร้อย และมีนิสยั รักการอา่ น ทต่าง ๆ และ กรองตาม ความคิด

เขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ การเขียนจึงจะเลือก รู ปแบบการ เรื่องที่สนใจตามหลกั การเขียน เขียนไดเ้ หมาะสมกบั เรื่องท่ีตอ้ งการ เ ชิ ง วิ ช า ก า ร แ ล ะ ใ ช้ข้อ มู ล เขียน และถูกตอ้ งตามรูปแบบในการ สารสนเทศอา้ งอิงอยา่ งถูกตอ้ ง เขียน ท 2.1 ม.4–6/7 5. บทร้อยกรองมีหลายประเภท ท้ัง บันทึกการศึกษาค้นคว้าเพ่ือ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย การ น า ไ ป พัฒ น า ต น เ อ ง อ ย่ า ง เรียนรู้การแต่งบทร้อยกรอง จะทาให้ สม่าเสมอ แต่งได้ถูกต้องตามฉันทลกั ษณ์ของ ท 2.1 ม.4–6/8 บทร้อยกรองท่ีตอ้ งการแต่ง และทา ใหเ้ ห็นความงดงามของภาษาไทย มีมารยาทในการเขียน ท 4.1 ม.4–6/4 ทาอะไร แต่งบทร้อยกรอง 1. ใช้กระบวนการเขียนและกระบวน การคิดในการเขียนรูปแบบต่าง ๆ ได้ อยา่ งเป็นระบบ 2. มีมารยาทในการเขียน 3. สร้างสรรค์งานเขียนรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามความตอ้ งการและถูกตอ้ ง ตามรูปแบบในการเขียน 4. แต่งบทร้อยกรองถูกต้องตามฉันท ลกั ษณ์โดยใชภ้ าษาท่ีสละสลวย



การวเิ คราะห์มาต รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท31101 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง นิทานเวตาลเร่ืองที่ 10 เวลา 3 ช่ัวโม ตวั ชี้วดั รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน / ชิน้ ท 1.1 ม.4–6/1 รู้อะไร 1. อ่านนิทานเวต อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและ 1. นิทานเวตาล เป็ นวรรณคดีภาษา 10 แลว้ จบั ใจคว บทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง สันสกฤตแล้วนามาแปลเป็ น ตีความ วิเคราะ ไพเราะ เหมาะสมกบั เร่ืองท่ีอ่าน ภาษาองั กฤษ พระราชวรวงศ์เธอ ความคิดเห็น ท 1.1 ม.4–6/2 กรมหม่ืนพิทยาลงกรณ (น.ม.ส.) คาถาม ตีความ แปลความ และขยาย ทรงแปลจากตน้ ฉบบั ภาษาองั กฤษ 2. เขียนแผนภาพโ มาเป็ นภาษาไทย นิ ทานซ้อน และแผนภาพค ความเร่ืองท่ีอ่าน นิทานอย่างเร่ือง นิทานเวตาลน้ีที่ 3. วิเคราะห์ตวั ละค ท 1.1 ม.4–6/3 วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องท่ีอ่าน ให้ข้อคิด วิธีการคิดวิเคราะห์ 4. อา่ นออกเสียงร แกไ้ ขปมปริศนา นบั ว่าเป็นนิทาน 5. ทารายงาน ในทุก ๆ ดา้ นอยา่ งมีเหตุผล ท่ี ไ ด้รั บ ค ว า ม นิ ย ม อ ย่า ง ม า ก ใ น 6. วิ เ ค ร า ะ ห์ วิ จ า ท 1.1 ม.4–6/4 ช่วงเวลาน้ัน เนื่องจากทรงแปล อยา่ งมีเหตุผล และเรียบเรียงเป็ นภาษาที่งดงาม 7. แต่งนิทานซอ้ น คาดคะเนเหตุการณ์ จากเร่ื องที่ และสละสลวย 8. เ ขี ย น ง า น เ ข อ่านแล ะปร ะเมิ นค่าเพ่ือ นา การเขียนเชิงสร้างสรรค์ เป็ นงาน สร้างสรรค์ คว า ม รู้ คว า ม คิ ด ไ ปใช้ตัด สิ น ใจ 2. แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ เขียนที่มีกระบวนการคิด การ

ตรฐานและตัวชี้วดั ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 ษาปี ท่ี 4 มง นงาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ตาลเร่ืองที่ 1. การส่ือสาร 1. ความสามารถในการ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ วามสาคญั 2. การคิด อธิบาย ช้ีแจง การแปล 2. ซื่อสตั ยส์ ุจริต ะห์ แสดง 3. การแกป้ ัญหา ความและตีความ 3. มีวินยั และตอบ 4. การใชท้ กั ษะชีวิต 2. ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. การใชเ้ ทคโนโลยี ดดั แปลงและนาไปใช้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง โครงเร่ือง 3. การมีมุมมองที่หลาก 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน ความคิด หลาย ให้ความ สาคญั 7. รักความเป็นไทย คร และใส่ใจในความ รู้สึก 8. มีจิตสาธารณะ ร้อยแกว้ ของผูอ้ ื่น และการรู้จกั ตนเอง ารณ์เรื่ อง 4. มีมารยาทในการอ่าน และมีนิสยั รักการอา่ น นนิทาน ขี ย น เ ชิ ง

ท 1.1 ม.4–6/5 นาเสนอผลงานที่แตกต่าง จาก วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความ รู ปแบบเดิม ๆ ท้ังด้านรู ปแบบ คิดเห็นโตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เร่ืองที่อ่าน กลวิธีในการเขียน การสอดแทรก และเสนอความคิดใหม่อย่างมี ความรู้ ขอ้ คิด การเลือกใชถ้ อ้ ยคา เหตุผล สานวนภาษา ท 1.1 ม.4–6/6 ทาอะไร ตอบคาถามจากการอ่านงานเขียน 1. อ่านออกเสียงไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม ประเภทต่าง ๆ ภายในเวลาท่ี กบั เรื่อง กาหนด 2. ตีความ แปลความจากเร่ืองที่อ่าน ท 5.1 ม.4–6/1 3. วิเคราะห์วิจารณ์เร่ื องอย่างมี วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี เหตุผล และวรรณกรรมตามหลักการ 4. เขียนงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ วจิ ารณ์เบ้ืองตน้ ถูกตอ้ งเหมาะสม ท 5.1 ม.4–6/4 สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดี แ ล ะ ว ร ร ณ ก ร ร ม เ พื่ อ น า ไ ป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง



การวดั และประเม รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท31101 ระดบั ช้ันมธั ย เป้าหมายการเรียนรู้ ภาระงาน / ชิน้ งาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 1. จับใจความ อภิปราย สนทนา 1 ธรรมชาติและลกั ษณะของภาษา แลก เปล่ียนความคิดเห็นและ 2 สาระสาคญั ศึ กษาค้นคว้าเกี่ ยวกับเร่ื อ ง 3 ภาษาเป็ นเครื่ องมือในการสื่ อสารที่ใช้ ธรรมชาติและลกั ษณะของภาษา 4 ถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ความตอ้ งการให้ 2. ขยายประโยค ผูอ้ ่ืนรับรู้ ซ่ึงแต่ละภาษาจะมีลกั ษณะบางอย่าง 3. วิเคราะห์การใช้สานวนภาษา ร่วมกัน ภาษาแต่ละภาษาจะมีลกั ษณะ เฉพาะ ต่างประเทศ 5 ของตนเองท่ีแตกต่างไปจากภาษาอ่ืน 4. ประสมอกั ษร 6 5. อ่านตีความจากบริบท 6. วิเคราะห์จุดเนน้ ของประโยค 7. เขียนแผนภาพความคิด หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 1. จับใจความ อภิปราย สนทนา 1 การใชภ้ าษาในการส่ือสาร แลก เปล่ียนความคิดเห็น และ 2 สาระสาคญั ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการใช้ 3 การมีความรู้เก่ียวกับการสื่อสาร จะเพ่ิม ภาษาในการสื่อสาร 4 ประสิทธิภาพในการส่ือสารให้ประสบความ 2. พดู ส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ สาเร็จตามจุดมุ่งหมายมากข้ึน การรับสารและ 3. วิเคราะห์สถานการณ์ในการ สื่อสาร 5

มนิ ผลการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 ยมศึกษาปี ที่ 4 วธิ ีวดั เครื่องมือวัด ประเด็น / เกณฑ์ คะแนน การให้คะแนน 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั ไดค้ ะแนน 5 2. การสนทนาซกั ถาม เรียน ร้อยละ 60 ข้ึนไป 3. การสงั เกต 2. แบบประเมินการอา่ น ถือวา่ ผา่ น 4. การตรวจผลงาน / 3. แบบประเมินการเขียน กิจกรรมเป็นราย 4. แบบประเมินการพดู บุคคลหรือรายกลุม่ 5. แบบประเมินการฟังและ 5. การวดั เจตคติ การดู 6. การวดั ทกั ษะ / 6. แบบประเมินดา้ นคุณธรรม กระบวนการ จริยธรรม และค่านิยม 7. แบบประเมินด้านทักษะ และกระบวนการ 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั ไดค้ ะแนน 5 2. การสนทนาซกั ถาม เรียน ร้อยละ 60 ข้ึนไป 3. การสงั เกต 2. แบบประเมินการอา่ น ถือวา่ ผา่ น 4. การตรวจผลงาน / 3. แบบประเมินการเขียน กิจกรรมเป็นราย 4. แบบประเมินการพดู บุคคลหรือรายกลุม่ 5. แบบประเมินการฟังและ 5. การวดั เจตคติ การดู

การส่งสารเพื่อกิจธุระเป็ นการสื่อสารท่ีจาเป็ น 4. ใชโ้ ทรศพั ทแ์ ละโทรสารในการ 6 ในชีวิต ประจาวนั สื่อสาร การใช้คา กลุ่มคาให้ถูกต้องเหมาะสมตาม 5. เขียนแผนภาพความคิด สถานการณ์ในการส่ือสารกบั บุคคลต่าง ๆ จะ 6. แสดงบทบาทสมมุติ ทาให้สื่อสารได้ตรงตามจุดมุ่งหมายของการ 7. คน้ ควา้ ความรู้เพิม่ เติม สื่อสารการใช้คาที่มีความหมายคล้ายกันและ การใชค้ าที่ทาใหม้ องเห็นภาพหรือใหค้ วามรู้สึก ชดั ข้ึนเป็นพิเศษ ทาใหเ้ ขา้ ใจจุด มุ่งหมายในการ สื่อสารไดช้ ดั เจนข้ึน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 1. อ่านเรื่อง ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั 1 อิเหนา ตอน ศึกกะหมงั กหุ นิง วรรณคดีและวรรณกรรมสมัย 2 สาระสาคญั สุโขทยั และอยุธยาตอนตน้ แลว้ 3 การวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม เป็ น จับใจความสาคัญ สรุ ปความ 4 การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวรรณคดีและ วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็น วรรณกรรมว่ามีคุณค่าหรื อมีข้อบกพร่ อง และตอบคาถาม 2. เขียนแผนภาพความคิด 5 อยา่ งไร ประวตั ิวรรณคดีและวรรณกรรมสมยั สุโขทยั 3. อภิปรายกลุม่ 6 เร่ิมต้ังแต่ พ.ศ. ๑๗๙๒–๑๙๘๑ มีวรรณคดีท่ี 4. วิจารณ์วรรณคดีตามรูปแบบการ วจิ ารณ์ เก่าแก่ท่ีสุด คือ หลกั ศิลาจารึก ประวตั ิวรรณคดีและวรรณกรรมสมยั อยธุ ยา 5. เขียนแสดงทรรศนะ ตอนตน้ (พ.ศ. ๑๘๙๓–๒๐๗๒) เป็นช่วงเร่ิมตน้ 6. ทารายงาน สร้างบา้ นเมือง จึงมีหลกั ฐานทางวรรณคดีให้ 7. อ่านบทละครเรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหมงั กุหนิงแลว้ จบั ใจความ ศึกษาไม่มากนกั

6. การวดั ทกั ษะ / 6. แบบประเมินดา้ นคุณธรรม กระบวนการ จริยธรรม และค่านิยม 7. แบบประเมินด้านทักษะ และกระบวนการ 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั ไดค้ ะแนน 12 2. การสนทนาซกั ถาม เรียน ร้อยละ 60 ข้ึนไป 3. การสงั เกต 4. การตรวจผลงาน / 2. แบบประเมินการอา่ น ถือวา่ ผา่ น 3. แบบประเมินการเขียน กิจกรรมเป็ นราย 4. แบบประเมินการพดู บุคคลหรือรายกลุม่ 5. แบบประเมินการฟังและ 5. การวดั เจตคติ 6. การวดั ทกั ษะ / การดู กระบวนการ 6. แบบประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม 7. แบบประเมินด้านทักษะ และกระบวนการ

บทละครเร่ือง อิเหนา ตอน ศึกกะหมงั กุหนิง สาคัญ เล่าเรื่ องย่อ วิเคราะห์ เป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ที่ไดร้ ับยก แสดงความคิดเห็น และตอบ ย่องจากวรรณคดีสโมสรในรัชกาลที่ 6 ว่าเป็ น คาถาม ยอดแห่งบทละครรา มีความดีเด่นท้งั เน้ือความ 8. เขียนภาพโครงเร่ือง และกระบวนกลอน 9. เขียนยอ่ ความ การอ่านทานองเสนาะ เป็ นการอ่านที่มีการ 10. อา่ นทานองเสนาะ เอ้ือนเสียงเป็นทานองตามลกั ษณะบงั คบั ของคา 11. ท่องจาบทร้อยกรอง ประพนั ธ์ 12. อา่ นตีความ การอ่านตีความ เป็ นการพิจารณาและจับ 13. วเิ คราะห์ลกั ษณะนิสยั ตวั ละคร ใจความของเรื่องอยา่ งละเอียด 14. เขียนแสดงความคิดเห็น การเขียนแสดงความคิดเห็น เป็ นการ 15. เขียนงานเขียน โดยใช้โวหาร ถ่ายทอดความรู้โดยการอ้างข้อเท็จจริ งท่ี ต่าง ๆ น่าเช่ือถือ 16. แต่งเรื่องส้นั หรือนิทาน สานวนโวหาร เป็ นการเลือกใช้คา สานวน เพอ่ื ความสละสลวยของภาษา หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 1. จับใจความ อภิปราย สนทนา 1 การฟัง การดู และการพดู ใหส้ มั ฤทธ์ิผล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และ 2 สาระสาคญั ศึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกับเรื่อง การ 3 การมีความรู้เก่ียวกบั หลกั ในการฟังและการ ฟัง การดู และการพดู ใหส้ ัมฤทธ์ิ 4 ดูจะทาให้ฟังและดูได้ตรงตามจุดมุ่งหมายที่ ผล ตอ้ งการการฟังให้สัมฤทธ์ิผลตอ้ งอาศยั การฝึ ก 2. วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็น ฟังจบั ประเดน็ สาคญั คิดวิเคราะห์เรื่องท่ีฟังและ ประเมินค่าเรื่องที่ฟังและดู 5

1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั ไดค้ ะแนน 10 2. การสนทนาซกั ถาม เรียน ร้อยละ 60 ข้ึนไป 3. การสงั เกต 4. การตรวจผลงาน / 2. แบบประเมินการอ่าน ถือวา่ ผา่ น 3. แบบประเมินการเขียน กิจกรรมเป็ นราย 4. แบบประเมินการพดู บุคคลหรือรายกลุ่ม 5. แบบประเมินการฟังและ 5. การวดั เจตคติ การดู

ดูมารยาทในการฟังและการดูเป็ นมารยาททาง 3. ฟังและดูส่ิงท่ีเป็ นความรู้และ 6 สงั คมที่ควรปฏิบตั ิใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ความบนั เทิง การมีหลกั ในการพูดจะทาให้พูดไดต้ รงตาม 4. ฝึกพดู ในโอกาสต่าง ๆ หัวข้อหรือจุดมุ่งหมายที่ต้องการ การพูดใน 5. พูดอภิปรายตามหัวข้อท่ีครู โอกาสต่าง ๆ ตอ้ งศึกษาหลกั ในการพูด ฝึ กพูด กาหนด อย่างสม่าเสมอ และตอ้ งรักษามารยาทในการ 6. เขียนแผนภาพความคิด พดู 7. แสดงบทบาทสมมุติ มารยาทในการพูดเป็ นมารยาททางสังคมที่ ควรปฏิบตั ิใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 1. จับใจความ อภิปราย สนทนา 1 ส่งสารดว้ ยการเขียน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกบั 2 สาระสาคญั เรื่อง การส่งสารดว้ ยการเขียน 3 การเข้าใจกระบวนการเขียนและกระบวน 2. พดู อภิปรายเกี่ยวกบั การเขียนใน 4 การคิดทาให้สร้างงานเขียนได้อย่างมีลาดับ รูปแบบต่าง ๆ ข้นั ตอน การเขียนอย่างมีมารยาทเป็ นการให้ 3. วิเคราะห์งานเขียน เกียรติผู้อ่าน การเขียนในรู ปแบบต่าง ๆ มี 4. สร้างสรรคง์ านเขียนรูปแบบต่าง 5 รู ปแบบในการเขียนท่ีแตกต่างกันออกไป ๆ 6 ผู้เขียนต้องเลือกใช้รู ปแบบในการเขียนให้ 5. รวบรวมตัวอย่างงานเขียน รูปแบบต่าง ๆ ถูกตอ้ งตามรูปแบบของงานเขียน บทร้อยกรองมีหลายประเภท การแต่งบท 6. อธิบายแผนผงั ของบทร้อยกรอง ร้อยกรองจาเป็ นตอ้ งรู้ฉันทลกั ษณ์ของบทร้อย ประเภทต่าง ๆ และแต่งบทร้อย กรองตามแผนผงั กรองประเภทที่จะแต่ง 7. เขียนแผนภาพความคิด

6. การวดั ทกั ษะ / 6. แบบประเมินดา้ นคุณธรรม กระบวนการ จริยธรรม และค่านิยม 7. แบบประเมินด้านทักษะ และกระบวนการ 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั ไดค้ ะแนน 13 2. การสนทนาซกั ถาม เรียน ร้อยละ 60 ข้ึนไป 3. การสงั เกต 4. การตรวจผลงาน / 2. แบบประเมินการอา่ น ถือวา่ ผา่ น 3. แบบประเมินการเขียน กิจกรรมเป็ นราย 4. แบบประเมินการพดู บุคคลหรือรายกลุม่ 5. แบบประเมินการฟังและ 5. การวดั เจตคติ 6. การวดั ทกั ษะ / การดู กระบวนการ 6. แบบประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม 7. แบบประเมินด้านทักษะ และกระบวนการ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 1. อ่านนิทานเวตาลเรื่องท่ี 10 แลว้ 1 นิทานเวตาลเรื่องท่ี 10 จับ ใ จ ค ว า ม ส า คัญ ตี ค ว า ม 2 สาระสาคญั วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็น 3 นิทานเวตาล เป็ นนิทานซ้อนนิทาน ท่ีเวตาล และตอบคาถาม 4 เล่าถวายให้พระวิกรมาทิตย์ฟังระหว่างการ 2. เขียนแผนภาพโครงเรื่องและ เดินทางนาตวั เวตาลไปมอบให้โยคี ซ่ึงนิทานท่ี แผนภาพความคิด เวตาลเล่าถวายพระวิกรมาทิตยน์ ้ันเป็ นนิทาน 3. วเิ คราะห์ตวั ละคร 5 ซ่อนปริศนาที่ทา้ ทายสติปัญญาผฟู้ ัง 4. อ่านออกเสียงร้อยแกว้ 6 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ เป็ นการเขียนที่มี 5. ทารายงาน รูปแบบ กลวิธี วิธีการนาเสนอเน้ือหาท่ีแปลก 6. วิเคราะห์วิจารณ์เร่ื องอย่างมี ใหม่ เน้นคุณประโยชน์ ให้ข้อคิดที่ดีงามต่อ เหตุผล ผูอ้ ่าน และช่วยจรรโลงสังคม นอกเหนือจาก 7. แต่งนิทานซอ้ นนิทาน 8. เขียนงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ ความรู้ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook