Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 4 การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์

หน่วยที่ 4 การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์

Published by meannylagkana, 2020-12-24 11:17:17

Description: หน่วยที่ 4 การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์

Search

Read the Text Version

แนวความคิดต้องการสร้างงานแบบใด คาถามข้อน้ี ผูส้ ร้างควรมี ความคิดพ้ืนฐานในใจก่อนว่า จะสร้างผลงานสื่อผสมเป็ นรูปแบบใด เช่น รูปธรรม นามธรรม ที่มีท่ีมาจากธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มรอบๆ ตวั หรือเกิด จากการจินตนาการข้ึนเอง ผ่านรูปทรง โครงสร้าง วสั ดุ อุปกรณ์และเทคนิค วธิ ีการต่างๆ กนั ไป

การท่ีจะทาใหบ้ รรลุผลไดต้ ามแนวคิดขา้ งตน้ น้นั ส่ิงที่สามารถทาไดง้ ่าย และรวดเร็วท่ีสุดก็คือ ให้ออกแบบภาพร่างตน้ แบบ (Sketch) หลายๆ ภาพเพ่ือ คน้ หาภาพท่ีตรงกบั ความตอ้ งการซ่ึงการจะถ่ายทอดจินตนาการใหอ้ อกมาไดน้ ้ัน การออกแบบภาพร่างโดยใชว้ ธิ ีสเกตชจ์ ะเป็ นวธิ ีการท่ีดีที่สุด แนวคิดบางลกั ษณะอาจเกิดข้ึนจากแรงบนั ดาลใจ จากส่ือวสั ดุต่างๆ เช่น กิ่งไม้ ขวด กล่อง ก้อนหิน เป็ นต้น ด้วยเหตุท่ีว่ารูปลักษณะของสื่อ วสั ดุ มี ความหมาย ความงาม และความแปลกประหลาด ใหผ้ สู้ ร้างงานสามารถคิดต่อไป ได้ จนเกิดเป็ นรูปทรงและโครงสร้างใหม่ข้ึนมาหลงั จากน้นั จึงนามาออกแบบตาม ภาพร่างตน้ แบบไดใ้ นภายหลงั

การออกแบบภาพร่างตน้ แบบให้มีความชดั เจนต้งั แต่เริ่มตน้ จะช่วยให้ ผูส้ ร้างผลงานไม่ตอ้ งไปลองผิดลองถูก หรือลงมือแกป้ ัญหาจากการทางานจริง เพราะอาจทาให้สิ้นเปลืองวสั ดุ ส่ือ อุปกรณ์ และเสียเวลากับการทางานมาก จนเกินไป ดว้ ยไม่ทราบวา่ ผลงานจะออกมาเป็ นอยา่ งไรก็คาดเดาสุ่มเอาเองวา่ ควร เป็ นอยา่ งน้นั ควรเป็ นอยา่ งน้ี จนหาความพอดีลงตวั ในการสร้างผลงานไม่ได้ ดงั น้ัน ลองกลบั มาออกแบบภาพร่างเพ่ือให้ภาษาภาพท่ีปรากฏ ช่วยให้ ผสู้ ร้างไดม้ องเห็นเสน้ ทางในการทางาน วา่ ควรวางแผนในการทางานอยา่ งไร และ ดาเนินการสร้างสรรคผ์ ลงานตามแบบภาพร่างชิ้นใด จะเป็ นวธิ ีการที่ไดผ้ ลมากกวา่

๔) เทคนคิ การสร้างงานสื่อผสมแบบสามมติ ิ เทคนิควิธีการสร้างงานในลกั ษณะน้ี จะมีวิธีการหลกั ท่ีแตกต่างไปจากการ ทางานโดยใชว้ สั ดุอุปกรณ์เพยี งเลก็ นอ้ ยเท่าน้นั เนื่องจากการสร้างงานส่ือผสมแบบสามมิติ จะมีเทคนิคการสร้างงานที่ค่อนข้างมีความซับซ้อน และจะต้องมีการเรียนรู้ในการ แกป้ ัญหาอยเู่ สมอๆตามข้นั ตอน ดงั น้ี ข้ันตอนแรก หลงั จากที่ไดม้ ีการออกแบบภาพร่าง และเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ไวจ้ านวนหน่ึงแล้ว ข้ันตอนต่อมา คือ การศึกษาและทาความเขา้ ใจเก่ียวกับคุณลักษณะของ สิ่งของเหล่าน้นั ถึง รูปร่าง รูปทรง พ้ืนผวิ ขนาด (ความหนา ความบาง หรือความสูงต่า) มคี วามหมาย ความงามอะไรบา้ ง ในการจะเลือกนามาใชใ้ นการสร้างงานได้ เพื่อท่ีจะสามารถ ถ่ายทอดออกมาสู่ผูช้ มให้สามารถรับรู้ได้ ในตอนน้ีผูส้ ร้าง งานจะเป็นผวู้ เิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์ เพอ่ื ใหไ้ ดว้ สั ดุ อุปกรณ์ ท่ีมีคุณลักษณะตามรูปแบบที่ได้ออกแบบไว้ และตรงกับ ความพงึ พอใจมากที่สุด

ข้ันตอนท่ีสอง ทดลองนาวสั ดุและอุปกรณ์ท่ีได้คัดเลือกไวม้ าประกอบกันตามที่ ออกแบบไว้ ลองวาง ลองต่อ หรือประกอบไวแ้ บบชว่ั คราว(อยา่ ติดไวถ้ าวร) เพ่ือพิจารณาดูวา่ การ จดั วางมีรูปทรง โครงสร้าง ความงาม ความหมายได้ผลตามที่ออกแบบไวห้ รือไม่ มีอะไรตอ้ ง เพิม่ เติมหรือเปลี่ยนแปลงบา้ ง ข้นั ตอนน้ีจึงเป็ นข้นั ตอนท่ีใหจ้ ดั การปัญหาและอปุ สรรคตา่ งๆ ข้นั ตอนท่ีสาม ให้นาวสั ดุอุปกรณ์ท่ีได้ เลือกและจัดเตรี ยมไว้ในข้ันตอนท่ีสองมา ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั โดยใช้กาวลาเท็กซ์หรือกาว เคมีตามความเหมาะสมเพ่ือให้ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ เกาะยึดติดกนั จากน้นั ตกแต่งผลงานด้วยเทคนิค การระบายสี หรือด้วยการปะติดรายละเอียดเล็ก น้อยลงไปตามส่วนประกอบของผลงานตามจุด ต่างๆ ให้เกิดความสวยงาม และมีความหมายตาม รูปทรงใหม่ท่ีเกิดข้ึน ผู้สร้างอาจตกแต่งและ ปรับเปล่ียนใหเ้ กิดความแตกต่างไปจากแบบร่างที่ ได้ออกแบบไวบ้ ้างก็ได้ เพื่อให้ผลงานส่ือผสม แบบสามมิติมีความสมบรู ณ์และลงตวั มากที่สุด

๒.๒ เทคนิคการป้ันดนิ เหนยี วหรือดนิ นา้ มนั ๑) ความเข้าใจในลกั ษณะของการป้ันดนิ เหนยี วหรือดนิ นา้ มนั การป้ ั นดินเหนี ยวหรื อ ดินน้ ามนั เป็ นเทคนิคเฉพาะของการทางานในการก่อ รูปทรงให้ปรากฏเป็ นผลงานในลกั ษณะใด ลักษณะหน่ึ ง ที่มีรู ปลักษณะของมว ล (Mass) และปริมาตร (Volume) แสดงถึง ความโค้งมนความหนาแน่น อันเกิดจาก กลุ่มก้อนของเน้ือดิน อีกท้ังกลวิธี การ ทางานกับวสั ดุที่มีเน้ือยืดหยุ่นจะต้องใช้ กระบวนการในการเพิ่มเข้า เติมเข้า ให้ กลายเป็นรูปทรงตามท่ีตอ้ งการ

๒) ส่ือ วสั ดุ อุปกรณ์การป้ันดนิ เหนียวหรือดนิ นา้ มนั งานป้ันเป็ นการสร้างสรรค์งานศิลปะที่ตอ้ งใช้วสั ดุท่ีมีความเหนียวและนิ่ม วสั ดุที่นามาป้ันจะตอ้ งสามารถยดึ จบั กนั เป็นกอ้ นหรือเกาะตวั เป็นแท่ง และทรงตวั อยไู่ ด้ ตลอดเวลาที่ป้ัน รวมท้งั ตอ้ งมีความคงทนไมแ่ ตกสลายไดง้ ่ายท้งั ในขณะป้ันและเม่ือป้ัน เสร็จแลว้ วสั ดุท่ีใชใ้ นการป้ันมีหลายชนิด เช่น ดินเหนียว ดินน้ามนั ข้ีผ้งึ ข้ีเล่ือยผสมกาว กระดาษแช่น้าจนเปื่ อยยยุ่ ผสมกาว แป้งขนมปัง เป็ นตน้ แต่วสั ดุท่ีหาง่ายและราคาถูก และเหมาะสมกบั นกั เรียน มดี งั ต่อไปน้ี

๒.๑) ดินเหนียว เป็ นวัตถุดิบที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ มีอยู่แทบจะทุก ทอ้ งถิ่นมนุษยร์ ู้จกั นาดินเหนียวมาใชท้ าผลิตภณั ฑต์ ่างๆ ต้งั แต่สมยั โบราณแลว้ เนื่องจาก ดินเหนียวมีคุณสมบตั ิเหมาะสมกบั การนามาป้ันหรือข้ึนรูปใหเ้ กิดรูปทรงใหม่ๆ ไดต้ าม ตอ้ งการ เพราะมีความเหนียว มีความยดื หยนุ่ มกี ารอ่อนตวั เม่อื ถูกน้า และมคี วามแขง็ เม่ือ แหง้ ซ่ึงการท่ีจะนาดินเหนียวมาป้ันเป็นรูปน้นั จะตอ้ งมีการเตรียมดิน โดยเริ่มจากการคดั ส่ิงท่ีปะปนมากับดิน เช่น เศษวสั ดุ ซากพืช ซากสัตว์ ออกใหห้ มดเสียก่อน ถา้ ดินแห้ง เป็ นกอ้ นแข็งก็ตอ้ งนาไปแช่น้าใหช้ ุ่มและนวดแต่ตอ้ งระวงั อยา่ ผสมน้าใหม้ ากจนเหลว เพราะดินเหนียวที่ใชป้ ้ันรูปไดด้ ีตอ้ งมเี น้ือดินที่หมาดและนิ่ม

๒.๒) ดินน้ามันหรือขี้ผึง้ การ นาวสั ดุประเภทดินน้ามนั หรือข้ีผ้งึ มาใช้ กับงานป้ันไม่ตอ้ งมีการเตรียมล่วงหน้า เ พ ร า ะ ว ัส ดุ ท้ ัง ส อ ง ช นิ ด น้ ี ไ ด้ผ่า น ก า ร ผสมและการเตรียมมาดีแลว้ แต่หากดิน น้ามนั หรือข้ีผ้งึ อยใู่ นสภาพแขง็ เกินไป ก็ ใหน้ ้าไปตากแดดหรือนวดสักเลก็ น้อยก็ จะนิ่มไดพ้ อดี ดินน้ามนั สามารถนามาใชส้ ร้างสรรคผ์ ลงานไดอ้ ยา่ ง สวยงาม เหมือนจริง ไม่แพว้ สั ดุอ่ืน

อุปกรณ์ทใี่ ช้เป็ นเคร่ืองมือในการป้ันดนิ เหนยี วหรือดนิ นา้ มนั มดี งั นี้ ๑. แบบลวดเหลก็ หรือทองเหลือง มีลักษณะเป็ นห่วงกลมๆ หรื อโค้งมนอยู่ที่ปลายด้ามไม้ท้ัง ๒ ขา้ ง มีหลายขนาด เครื่องมือชนิดน้ีใช้ สาหรับการข้ึนรูป ขูดเกลา ควกั และ ตกแต่งรายละเอียดต่างๆ บางชนิดมี ลวดเหล็กหรื อลวดทองเหลืองอยู่ท่ี ปลายไม้เพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้าง หน่ึงเป็นไมห้ นา้ แบนตดั เฉียงประมาณ ๔๕ องศา หรือหนา้ ตดั กวา้ ง ๓๐ องศา

๒. แบบทที่ าด้วยไม้ท้งั ด้าม มีหลายลักษณะและมีหลาย ขนาด ปลายดา้ นหน่ึงเป็ นไมห้ น้าแบน ตดั เฉียงประมาณ ๔๕องศา หรือหน้าตดั ตรง ๙๐ องศา ส่วนอีกดา้ นหน่ึงมีปลาย ข น า ด เ ล็ ก ก ว่า มี ลัก ษ ณ ะ ก ล มม น เคร่ืองมือชนิดน้ีใชส้ าหรับตดั เฉือนปาด ผิวดิ นให้เรี ยบ หรื อทาให้เกิ ดเป็ น ลักษณะพ้ืนผิว ตลอดจนใช้ตกแต่ง รายละเอียดต่างๆ

๓. แผ่นกระดานรองป้ัน เป็นแผน่ กระดานแข็งอยู่ตวั นิ ยมวางลงบน โต๊ะทางาน หรื อแท่ น ป้ัน เพื่อเป็ นฐานของรูปป้ันดินขณะ กาลงั ทางานป้ันหรือข้ึนรูป เพราะจะ ช่วยให้การขยบั เคล่ือนยา้ ยหมุนงาน ป้ันทาไดส้ ะดวกโดยไม่ตอ้ งไปสัมผสั กบั ตวั ชิ้นงาน

๓) การรับรู้สู่การพฒั นาผลงาน การป้ันดินเหนียวหรือดินน้ามนั มีกรรมวิธีเช่นเดียวกับการทางานสื่อผสม แบบสามมิติ คือ การปฏิบตั ิเป็ นข้นั ตอนตามลาดบั เช่น ก่อนการลงมือป้ันตอ้ งจดั เตรียม ส่ิงต่างๆ ใหพ้ ร้อม ไดแ้ ก่ ดินเหนียวหรือดินน้ามนั กระดานรองป้ัน เครื่องมือ เป็ นตน้ หลงั จากน้ันก็ตอ้ งกาหนดว่า “เราต้องการจะสร้ างงานป้ันดินเป็ นรูปอะไร” และ “มี วิธีการปั้นแบบใด” การปฏิบตั ิการถา้ จะใหเ้ กิดผลเป็ นรูปธรรมตอ้ งอาศยั การออกแบบภาพร่างลง บนกระดาษตามความคิด หรือจินตนาการของศิลปิ นเอง ให้ไดเ้ คา้ โครงทางความคิด โดยรวม และมองเห็นรูปทรงงานป้ันไดว้ ่าจะออกมามีหน้าตาแบบใด ซ่ึงการออกแบบ ภาพร่าง (sketch) ศิลปิ นควรออกแบบไวห้ ลายๆ ภาพ เพื่อให้มีตวั เลือกของแบบภาพร่าง ท่ีมีความหลากหลายและสมบูรณ์แบบตรงใจ ตลอดจนตรงกับวตั ถุประสงค์ของการ ทางาน

4) เทคนคิ การป้ันดนิ เหนยี วหรือดนิ นา้ มนั ข้นั ตอนแรก ก่อนลงมือป้ันดินเหนียวจะตอ้ งเตรียม วสั ดุและอุปกรณ์ ซ่ึงประกอบด้วยดินเหนียว ชุดเครื่องมือป้ัน กระดานรองป้ัน ข้นั ตอนทสี่ อง ให้ค่อยๆ พอกเน้ือดินลงไปบนโครง หุ่นท่ีเตรียมไว้ โดยคอ่ ยๆ พอกดินทีละนอ้ ยๆ เริ่ม จากส่วนลา่ งก่อน แลว้ จึงค่อยๆ ไล่ข้ึนไปตอนบน ข้นั ตอนทส่ี าม ข้ันน้ีเป็ นข้ันการตกแต่งรายละเอียด ตามแบบภาพร่างที่ออกแบบไว้ ซ่ึงจะตอ้ งอาศยั การปรับแต่งรูปทรงรอบนอกและภายในอย่าง ละเอียดถ่ีถว้ น

สรุป การสร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศิลป์ ประเภทประติมากรรม เป็ นการสร้างงาน แบบ ๓ มิติ มีความกวา้ ง ความยาว และความหนาหรือความลึก บางลกั ษณะมีรูปทรง ลอยตวั มองเห็นไดร้ อบดา้ น ซ่ึงกรรมวธิ ีการสร้างสรรคผ์ ลงานอทาไดห้ ลายแบบ ไดแ้ ก่ เทคนิคส่ือผสมแบบสามมิติ และเทคนิคการป้ันดินเหนียวหรือดินน้ามนั หรืออาจสร้าง เป็ นรูปแบบและเทคนิควธิ ีการอ่ืนๆ ไดอ้ ีกตามความสามารถและความสนใจของผูเ้ รียน โดยมีหลกั ท่ีสาคญั คือ ความเขา้ ใจงานที่จะทา สื่อ วสั ดุและอุปกรณ์ในการทางาน รวมถึงเทคนิควิธีการทางานที่มีความสอดคลอ้ งกันไป ผูเ้ รียนจะตอ้ งเรียนรู้และทา ความเขา้ ใจกระบวนการป้ัน วธิ ีและประเภทของการป้ันชนิดน้นั ๆ ใหถ้ ่องแทก้ ่อน แลว้ ค่อยลงมือป้ันจริง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook