Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยและสากล

ทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยและสากล

Published by meannylagkana, 2020-12-25 06:51:42

Description: ทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยและสากล

Search

Read the Text Version

๑๐หน่วยการเรียนรู้ท่ี ทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมไทยและสากล

๑. ผลงานทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมไทย ง า น ทั ศ น ศิ ล ป์ ข อ ง ไ ท ย เ ป็ น ก า ร สร้างสรรคท์ างศิลปะท่ีเกิดจากการประดิษฐ์ คิดค้น และการแสดงออกของช่างศิลป์ หรือศิลปิ นผ่านผลงานทศั นศิลป์ ในรูปแบบ ประเภทต่างๆ ไดแ้ ก่ - จิตรกรรม - ประติมากรรม - สถาปัตยกรรม ก า ร ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ผ ล ง า น ทัศ น ศิ ล ป์ อาจจะเป็ นไปเพ่ือตอบสนองความต้อง การทางจิตใจโดยเน้นคุณค่าทางความคิด ความงาม หรือเพ่ือตอบสนองในเร่ืองของ ประโยชน์ใช้สอย เพ่ืออานวยความสะดวก ในชีวิตประจาวนั

ผลงานทัศนศิลป์ ท่ีสร้างขนึ้ เพื่อตอบสนองความต้องการทางจติ ใจ และความงาม จดั อยใู่ นประเภท “วจิ ิตรศิลป์ ” (Fine Arts) ไดแ้ ก่ จิตรกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม

ผลงานที่สร้างขึน้ เพ่ือเน้นประโยชน์ใช้สอยเป็ นหลัก มีความงามรองลงมา จดั อย่ใู นประเภท “ประยกุ ตศ์ ิลป์ ” (Applied Arts) เช่น การออกแบบเคร่ือง- เรือน การออกแบบเส้ือผา้ เป็นตน้

ปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ ผลงานทศั นศิลป์ ท้งั ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑.๑ แนวความคดิ และปรัชญาความเชื่อ ก า ร แ ส ด ง อ อ ก ท า ง ค ว า ม คิ ด ข อ ง บุคคล หรื อค่านิ ยมต่างๆ รวมถึ ง ป รั ช ญ า แ ล ะ ค ว า ม เ ช่ื อ ย่ อ ม มี ผลกระทบต่อการสร้างสรรค์ผลงาน ทศั นศิลป์ เช่น แนวความคิดเกี่ยวกับ ศิลปะเพื่อศิลปะ แนวความคิดเก่ียวกบั ศิลปะเพื่อชีวิตได้สร้างแรงบนั ดาลใจ ให้กับผู้สร้างงานทัศนศิลป์ ให้เห็น คลอ้ ยตามแนวความคิดน้นั เป็ นตน้

๑.๒ วสั ดุและส่ิงแวดลอ้ ม การสร้ างสรรค์ ผลงานทัศนศิ ลป์ เพื่อให้เกิดรูปทรง โครงสร้าง หรือเกิด เป็ นภาพน้ัน การพิจารณาเร่ืองของ วสั ดุท่ีใช้ และเทคนิคในการออกแบบ มีความจาเป็นอยา่ งยง่ิ เพราะคุณสมบตั ิ ของวสั ดุที่แตกต่างกัน จะทาให้เกิด คุณค่า ความงาม และมีเน้ือหาสาระที่ แตกต่างกนั สิ่งแวดลอ้ มนบั เป็ นปัจจยั สาคญั ต่อ แนวความคิดและแรงบันดาลใจให้ ผูส้ ร้างสรรค์ ซ่ึงแต่ละคนจะมีแง่มุมที่ จะใ ช้สาหรั บการสร้ างสรรค์ผล แตกตา่ งกนั ออกไป ความสัมพนั ธ์ระหว่างธรรมชาติและการสร้างสรรคท์ ศั นศิลป์ จึงเป็ นไปในลกั ษณะท่ีเอ้ือต่อกนั โดยธรรมชาติจะให้บทเรียนแก่มนุษยใ์ นดา้ นความรู้สึกใหม่ๆ ดว้ ยเหตุน้ี ศิลปิ นจึงอาศยั ธรรมชาติเป็ น ครูในการสร้างสรรคผ์ ลงาน

๑.๓ การรับอิทธิพลทางศิลปะ การคิดค้ นและการสร้ างสรรค์ ผลงานทัศนศิลป์ นอกจากการศึกษา เรียนรู้จากวฒั นธรรมไทยแลว้ ยงั มีการ เรียนรู้วธิ ีการจากภายนอก เพื่อนามาใช้ ปรับปรุงและพฒั นาผลงาน เช่น การรับ แบบอย่างทางศิลปะจากตะวนั ออกมา ใชใ้ นการสร้างสรรคผ์ ลงาน การศึกษา แ ห ล่ งเ รี ย นรู้ ศิ ล ป ะ ต าม แ น วทา ง ตะวนั ตก เป็นตน้ ซ่ึงอิทธิพลของศิลปะ จากวฒั นธรรมภายนอกได้มีส่วนช่วย ทาให้ผลงานทศั นศิลป์ ของไทยมีการ พัฒนาและเปล่ียนแปลง ท้ังในด้าน รูปแบบ เน้ือหา และวธิ ีการนาเสนอ

๑.๔ หนา้ ท่ีใชส้ อย ทัศนศิลป์ เป็ นกิจกรรมประเภทหน่ึงท่ีมนุษยส์ ร้างสรรคข์ ้ึน เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการในดา้ น ต่างๆ โดยการแสดงออกผ่านผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ซ่ึงการสร้างสรรค์ ผลงานทศั นศิลป์ เหล่าน้นั ไดม้ ีส่วนช่วยให้การดารงชีวติ อยขู่ องมนุษยใ์ นสงั คมปัจจุบนั ให้มีคุณภาพที่ดี มากข้ึน ดงั น้ี ๑. เป็นเครื่องยกระดบั อารมณ์และความรู้สึกในเร่ือง ความงาม ๒. ช่วยในการออกแบบการปรุงแตง่ สิ่งแวดลอ้ มให้ มีสภาพท่ีเหมาะสม สวยงาม ๓. ช่วยปรับปรุงเทคนิคในการตกแต่งเครื่ อง- อปุ โภคบริโภคให้มีความน่าสนใจมากข้ึน

จดุ ประสงคใ์ นการสร้างสรรคผ์ ลงาน มีดงั น้ี ประการที่ ๑ เพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์ ประการที่ ๔ เพื่อเป็ นแนวทางในการ และความรู้สึกนึกคิดต่อการรับรู้เร่ืองราว อ อ ก แ บ บ แ ล ะ ต ก แ ต่ ง เ ค ร่ื อ ง ใ ช้ ในสงั คมวฒั นธรรมไทย และสภาพแวดลอ้ มให้มีความงาม ประการที่ ๒ เพ่ือความภาคภูมิใจของตน ประการที่ ๕ เพื่อความสะดวกในการ ดารงชีวิตของผสู้ ร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ และหมู่คณะ หรื อเป็ นอนุสรณ์แห่ ง และผอู้ ่ืน คุณงามความดีที่เกิดข้ึนในอดีต หรื อ ปัจจบุ นั ประการท่ี ๓ เพ่อื ดึงดูดความสนใจของผู้ ประการท่ี ๖ เพื่อรับใช้ หรือแสดงออก พบเห็นที่จะนาไปสู่จุดประสงคอ์ ยา่ งใด ด้านความเชื่อ ความศรัทธาต่อสถาบัน อยา่ งหน่ึงบนพ้ืนฐานทางสงั คม กษตั ริย์ และสถาบนั ศาสนา

๒. ผลงานทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมสากล ศิลปะสากล เป็ นศิลปะท่ีผสมผสานแนวคิด ตลอดจนรูปแบบต่างๆ อย่างเป็ นกลาง การใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และวิธีการสร้างสรรคก์ ระทาไดอ้ ยา่ งอิสระ ไม่จากดั ขอบเขตตายตวั ผลงานที่สาเร็จออกมา ไม่นบั ว่าเป็ นรูปแบบของชาติใดชาติหน่ึงโดยเฉพาะ ซ่ึงคนทุกชาติ ทุกภาษามองแล้วเขา้ ใจผลงาน น้นั ๆ ได้ เพราะมีความเป็ นนานาชาติ

การสร้างสรรค์ทัศนศิลป์ ในวัฒนธรรม สากล ในระยะแรกเกิดจากความเช่ือและ ความศรัทธาในอานาจล้ีลับต่างๆ ท่ีมองไม่ เห็น และมีรูปแบบในการแสดงออกของ ผลงานเป็ นการเลียนแบบธรรมชาติและส่ิงท่ี อยู่ใกล้ตวั รวมท้งั มีการพฒั นารูปแบบตาม ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ จนในท่ีสุด รูปแบบเหล่าน้นั ก็ค่อยคลี่คลายเป็ นรูปแบบ ทางศิลปะท่ีเป็ นเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั ในสมยั อียปิ ต์ กรีก โรมนั

จดุ ประสงคใ์ นการสร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมสากลจะมีลกั ษณะ ดงั น้ี ประการท่ี ๑ ประการที่ ๒ ประการที่ ๓ ประการท่ี ๔ เพ่ือการคน้ ควา้ ทดลอง เ พื่ อ ผ ส ม ผ ส า น เพื่อการคน้ หาขอ้ เท็จจริง เพ่ือการแสดงออกทาง และการแสวงหาความ แ น ว ค ว า ม คิ ด เ กี่ ย ว กั บ แ น ว คิ ด รูปแบบศิลปะอย่างเป็ น จ ริ ง ต า ม ธ ร ร ม ช า ติ และรูปแบบของศิลปะ ความหมาย ความงามใน ก ล า ง โ ด ย ไ ม่ เ น้ น แ ล ะ ส่ิ ง แ ว ด ล้อ ม บ น ในลัทธิต่างๆ หรื อคติ มุมมองใหม่ และอาศัย รูปแบบของความเป็ น พ้ืนฐานของหลักวิชา ความเชื่อในช่วงเวลาใด วัตถุดิบ รวมท้ังวิธีใน ช า ติ ใ ด ช า ติ ห น่ึ ง ศิลปะ (Academic Art) เวลาหน่ึงที่สะท้อนถึง การสร้ างสรรค์อย่าง โ ด ย เ ฉ พ า ะ เ พ่ื อ ใ ห้ ที่มีการถ่ายทอดผลงาน ก า ร แ ส ด ง อ อ ก ท่ี มี มากมาย เพ่ือให้ผลงาน ผล งานท่ี สร้ างสรรค์ โดยใช้ทกั ษะฝี มือและมี เอกลกั ษณ์ของศิลปิ น ทั ศ น ศิ ล ป์ มี ค ว า ม สาเร็จมีความเป็ นสากล แบบแผนในการทางาน สมบูรณ์แบบและลงตวั ท่ีมนุษย์ทุกคนในโลก อยา่ งเป็ นข้นั ตอน ตามความต้องการมาก สา ม า ร ถ รั บ รู้ ไ ด้จ า ก ที่สุด คุณค่าที่เกิดข้ึนในตัว ของผลงาน

๓. เปรียบเทยี บความแตกต่างของงานทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมไทยและสากล ทัศนศิลป์ ในวัฒนธรรมไทย แ ละ สา กล มี จุด เ ริ่ ม ต้น ใ น ก า ร สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ที่มีความ เ ป็ น ม า ค ล้ า ย ค ลึ ง กั น จ า ก ปัจจยั พ้ืนฐานในการดารงชีวิตของ มนุษย์ สะท้อนถึงความเชื่อ และ ความศรัทธาทางศาสนา รวมถึงลทั ธิ ปรัชญาต่างๆ ซ่ึงสรุปได้ ดงั น้ี

๓.๑ ทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมไทย ศิลปะทางด้านทศั นศิลป์ ของไทย ท่ีคงไวใ้ นรูปของขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรม เป็นศิลปะ ประจาชาติท่ีเราควรภาคภมู ิใจ เห็นคุณค่า และหวงแหนรักษา ซ่ึงในแต่ละสมยั ก็จะมีการสร้างสรรคผ์ ลงาน ท่ีมีความงดงามและมีเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั แตกตา่ งกนั ออกไป

ท้งั น้ี หากพิจารณาถึงรูปแบบและเน้ือหาของงานทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมไทย จะพบว่าผลงานท่ีเกิดข้ึน ในแต่ละยคุ สมยั จะมีเร่ืองราวเกี่ยวกบั ความศรัทธาทางศาสนา ความเชื่อ และวิถีชีวิตความเป็ นอยู่ ทาให้เกิด ความงามและคุณคา่ ที่แตกต่างกนั ไปในแต่ละช่วงเวลา

การศึกษาเรื่องราวของงานทศั นศิลป์ ในสมยั ประวตั ิศาสตร์ สามารถแบง่ ออกเป็น ๔ ช่วงใหญ่ๆ ดงั น้ี ๑. สมยั ก่อนสุโขทยั เป็ นช่ วงเวลาที่แผ่นดิ นไทยมีชนชาติต่างๆ เคยต้ังถ่ิ นฐานมาก่อน และได้ทิ้งร่ องรอย อารยธรรมทางดา้ นศิลปะไวม้ ากมาย ไดแ้ ก่ - สมัยทวารวดี ศิลปะในสมยั น้ีส่วนใหญจ่ ะเก่ียวขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท ซ่ึงรับอิทธิพลมา จากอินเดีย ตอ่ มาก็นามาประยกุ ตจ์ นมีเอกลกั ษณ์เป็นของตนเอง งานจติ รกรรม : ไม่ปรากฏหลกั ฐาน งานประตมิ ากรรม : พระพทุ ธรูปนงั่ ห้อยพระบาทปางแสดงปฐมเทศนา พระพทุ ธรูปศิลาขาว ปัจจุบนั อยดู่ า้ นหลงั องคพ์ ระปฐมเจดีย์ จงั หวดั นครปฐม งานสถาปัตยกรรม : พระปฐมเจดียอ์ งคเ์ ดิม หรือจลุ ประโทณเจดีย จงั หวดั นครปฐม

- สมัยศรีวิชัย ต้งั อยใู่ กลบ้ ริเวณหมู่เกาะชวา มาเลเซีย และตอนใตข้ องไทย ปัจจุบนั คือ อาเภอไชยา จงั หวดั สุราษฎร์ธานี ศิลปวตั ถุไดร้ ับอิทธิพลต่อเน่ืองจากชวาเป็นสาคญั งานจิตรกรรม : ไมป่ รากฏหลกั ฐาน งานประติมากรรม : รูปเคารพและพระพิมพด์ ินดิบเป็นรูปพระโพธิสตั วอ์ วโลกิเตศวร งานสถาปัตยกรรม : พระบรมธาตไุ ชยา จงั หวดั สุราษฎร์ธานี

- สมยั ลพบุรี หรือละโว้ มีวฒั นธรรมท่ีหลากหลายอนั เกิดจากการผสมผสานระหว่างวฒั นธรรมเดิม ที่เป็ นทวารดีกบั วฒั นธรรมขอม งานจิตรกรรม : ไม่ปรากฏหลกั ฐาน งานประติมากรรม : ลกั ษณะเด่นของงานประติมากรรมแบบลพบุรี คือ ไม่ว่าจะเป็ นรูปคน หรือรูปเคารพต่างๆ จะมีหนา้ ผากกวา้ ง ปากแบะหนา คางเหลี่ยม และรูปร่างล่าเต้ีย งานสถาปัตยกรรม : พระปรางคส์ ามยอด จงั หวดั ลพบุรี ปราสาทเมืองสิงห์ จงั หวดั กาญจนบุรี

- สมยั เชียงแสน หรือลา้ นนา เป็ น ศิลปะภาคเหนือรุ่นแรกๆ ก่อนสมัย สุ โขทัย เ ป็ นก ารรั บเ อาอิ ทธิ พล แ บ บ อ ย่ า ง ศิ ล ป ะ ม า จ า ก อ า ณ า จัก ร พกุ ามของพม่า งานจติ รกรรม : ไม่ปรากฏ หลกั ฐาน งานประตมิ ากรรม : พระพทุ ธรูปท้งั ท่ีหล่อดว้ ยสาริด และป้ันดว้ ยปูน งานสถาปัตยกรรม : พระธาตุ หริภญู ไชย จงั หวดั ลาพนู

๒. สมยั สุโขทยั จดั เป็นศิลปะไทยท่ีงดงามและมีเอกลกั ษณ์เป็นของตนเองมากที่สุด โดยเฉพาะการสร้างพระพทุ ธรูป ในสมยั น้ี ไดร้ ับพระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท ลทั ธิลงั กาวงศ์ ดงั น้นั อิทธิพลของศิลปะแบบลงั กาจึงเขา้ มามีอิทธิพลต่อ ศิลปะสุโขทยั แต่ช่างสุโขทยั ไดป้ ระดิษฐ์คิดคน้ สร้างสรรคร์ ูปแบบงานท่ีเป็ นเอกลกั ษณ์เฉพาะตน เช่น เจดีย์ ทรงพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ หรือดอกบวั ตมู ท่ีพระเจดียป์ ระธานวดั มหาธาตุ จงั หวดั สุโขทยั เป็นตน้

๓. สมยั อยธุ ยา สมยั อยธุ ยามีความเจริญรุ่งเรืองต่อเน่ืองยาวนานถึง ๔๑๗ ปี จึงมีความเจริญทางดา้ นศิลปวฒั นธรรมเป็ น อยา่ งมาก ผลงานมกั มีความเกี่ยวขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนา โดยมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นองคอ์ ุปถมั ภ์ ผลงาน ดา้ นศิลปวฒั นธรรมเด่นๆ เช่น เจดียว์ ดั พระศรีสรรเพชญ์ เจดียว์ ดั ใหญ่ชยั มงคล เจดียว์ ดั ภูเขาทอง เป็นตน้

๔. สมยั รัตนโกสินทร์ ภายหลังการสถาปนากรุ งรัตนโกสินทร์ข้ึนเป็ นราชธานี ผลงานทัศนศิลป์ ด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมไดถ้ ูกสร้างสรรคข์ ้ึนอยา่ งมากมาย ผลงานที่สาคญั เช่น จิตรกรรม ฝาผนังภายในพระที่นัง่ พุทไธสวรรย์ พิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ และจิตรกรรม ฝาผนงั ภายในพระอโุ บสถวดั สุวรรณารามราชวรวหิ าร กรุงเทพมหานครฯ เป็นตน้

ต่อมาเมื่อไดร้ ับอิทธิพลจากตะวนั ตก จิตรกรรมไทยไดร้ ับการผสมผสานให้เกิดเป็ นรูปแบบใหม่ เพิ่มข้ึน กล่าวคือ มีการนาเทคนิคการเขียนภาพให้มีมิติตามแบบอยา่ งตะวนั ตก เช่น จิตรกรรมของ ขรัวอินโขง่ ภายในพระอโุ บสถวดั บวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร เป็ นตน้ ปัจจุบนั จิตรกรรมฝาผนงั ไทยมี การผสมผสานกบั คตินิยมจากตะวนั ตก ทาใหม้ ีลกั ษณะร่วมสมยั กบั นานาชาติมากข้ึน

๓.๒ ทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมสากล ศิลปะสากล มีพ้ืนฐานมาจาก ศิลปะตะวนั ตกและมีวิวฒั นาการ มาหลายยุคหลายสมยั จนอิทธิพล ขยายไปยงั ชาติต่างๆ ในโลกอยา่ ง กวา้ งขวาง ค า ว่ า “ ส า ก ล ” ห ม า ย ถึ ง ท้งั หมด ท้งั สิ้น ทวั่ ไป และระหวา่ ง ประเทศ ศิลปะสากลจึงเป็ นศิลปะ ที่มีการผสมผสานแนวความคิด ตลอดจนรู ปแบบต่างๆ ไว้อย่าง กวา้ งขวาง มีการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และวิธีการสร้างสรรค์ผลงานได้ โดยอิสระ

การศึกษาเร่ืองราวของงานทศั นศิลป์ ในสมยั ประวตั ิศาสตร์สามารถแบ่งออกเป็น ๓ ช่วงใหญ่ๆ ดงั น้ี ๑. สมยั โบราณ เป็ นสมยั แห่งความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวฒั นธรรม งานทศั นศิลป์ ในยคุ แรกๆ ไดแ้ ก่ - สมัยอียิปต์เป็ นชุมชนท่ีมีความเจริ ญมาก มีการสร้างสรรค์ผลงานในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านจิตรกรรม ศิลปิ นมีความเขา้ ใจในการถ่ายทอดรูปแบบได้ดี มีจุดหมายเพื่อส่งเสริมความเชื่อ ความศรัทธาของฟาโรห์ เช่น พรี ะมิดแห่งเมืองกิเซห์ สฟิ งซ์ เป็นตน้ ซ่ึงการสร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศิลป์ ของอียปิ ตไ์ ดส้ ่งอิทธิพลตอ่ งานทศั นศิลป์ ในยคุ คลาสสิกสมยั กรีกและโรมนั ดว้ ย

- สมยั กรีก มีความเจริญรุ่งเรืองดา้ นศิลปวิทยาในหลายสาขา เช่น ดา้ นจิตรกรรม พบการเขียนสีบน ภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ ดา้ นประติมากรรม พบรูปแกะสลกั หินอ่อนที่มีชื่อเสียงปรากฏอยเู่ ป็ นจานวนมาก โดยเฉพาะรู ปป้ันนักขว้างจักรฝี มือของไมรอน สถาปัตยกรรมท่ีงดงามและมีช่ือเสียง ได้แก่ วหิ าร พาร์เธนอน ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เป็นตน้

- สมยั โรมนั ชนชาติโรมนั ไดร้ ับอิทธิพลจากกรีกในหลายๆ ดา้ น ชาวโรมนั ไดน้ าศิลปะกรีกมาปรับปรุง ใหม่ให้มีความหรูหรา โอ่อ่า และเสริมความมีอานาจแบบชนชาตินกั รบ ผลงานดา้ นจิตรกรรมท่ีมีความ สมบูรณ์ส่วนใหญ่พบที่เมืองปอมเปอี นอกจากน้ี ยงั นิยมนาโมเสกมาประดบั ตกแต่งภาพอีกด้วย ด้าน ประติมากรรม ผลงานท่ีมีช่ือเสียง คือ การทาหนา้ กากข้ีผ้งึ และการป้ันภาพเหมือน ส่วนดา้ นสถาปัตยกรรม มีการสร้างเพดานโคง้ นิยมสร้างโรงมหรสพขนาดใหญ่ และสนามกีฬา

๒. สมยั กลาง มีรู ปแบบทางศิลปะที่สาคัญ คือ ศิลปะแบบโรมาเนสก์ (Romanesque) เนน้ เรื่องราวเก่ียวกบั ศาสนา เช่น รูปแม่ พระมารี พระเยซู นกั บุญต่างๆ เป็ นตน้ งานสถาปัตยกรรมนิยมใชแ้ นวโคง้ แบบ ประทุนเกวียน และโดม ซ่ึงถือเป็ น หั ว ใ จ ข อ ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง ส่ ว น ป ร ะ ติ ม า ก ร ร ม แ ล ะ จิ ต ร ก ร ร ม จ ะ มี ลกั ษณะเป็ นภาพแบนราบ ไม่มีมิติ

- ศิลปะแบบกอทิก (Gothic) เป็ นศิลปะที่มีรูปแบบอ่อนช้อย มีชีวิตชีวา การตกแต่งโบสถ์ วิหารท้ังภายในและภายนอก จะ ท าอย่างป ระ ณี ตงด งา ม เ ค ร่ื อ ง ต ก แ ต่ ง มี ท้ั ง ประติมากรรม และการประดบั ห น้ า ต่ า ง ด้ ว ย ก ร ะ จ ก สี โครงสร้างของโบสถไ์ ดเ้ ปลี่ยน จากแนวโค้งธรรมดามาเป็ น แนวโคง้ ยอดแหลม เช่น โบสถ์ ซาเครเกอร์ โบสถ์นอตเตอร์ ดาม กรุงปารีส ประเทศฝร่ังเศส เป็ นตน้

- ส มัยฟ้ื นฟูศิ ล ปวิ ทยา ก าร ( The Renaissance) ได้มีการร้ื อฟ้ื นศิลปะของ กรีกและโรมนั ข้ึนมาอีกคร้ัง ลกั ษณะเด่น ของผลงาน คือ งานจิตรกรรม ไม่จากดั เร่ืองราวอยกู่ บั ศาสนา แตน่ าเอาภาพบคุ คลสาคญั ตานาน ส มัย ก รี ก แ ล ะ โ ร มัน เ ร่ื อ ง ร า ว ท า ง ประวตั ิศาสตร์มาสร้างเป็นภาพ ภาพแสดง ชีวิตความเป็ นอยภู่ ายในครอบครัวมาเป็ น แก่นของเน้ือเร่ือง การเขียนภาพมีการใช้สี ท่ีสดใส มีความกลมกลืน มีแสงเงา มีส่วน ลึก ทาใหด้ ูเหมือนของจริงยง่ิ ข้ึน

งานประติมากรรม ท่ีมีเทคนิคการแกะสลกั และการป้ันท่ีแสดงให้เห็นถึงโครงสร้าง สัดส่วนของ รูปทรงมนุษยท์ ่ีสวยงาม งานสถาปัตยกรรม มีการสร้างสรรคผ์ ลงานท่ีไม่ไดม้ ุ่งไปท่ีการแสดงออกเพ่ือเทิดทูนศาสนา หรือส่ิง ศกั ด์ิสิทธ์ิเพยี งอยา่ งเดียว หากเป็นการแสดงออกถึงวถิ ีชีวิตและความตอ้ งการของมนุษยใ์ นแง่ตา่ งๆ ดว้ ย

๓. สมยั ใหม่ ศิลปะสากล มีความเจริญรุ่งเรืองมากในช่วงคริสต์ศตวรรษท่ี ๑๙ โดยมีฝร่ังเศสเป็ นจุดศูนยร์ วม ในช่วงระยะเวลาดงั กล่าวไดเ้ กิดผลงานสร้างสรรค์ โดยเฉพาะทางดา้ นจิตรกรรมข้ึนมาหลายลทั ธิ ไดแ้ ก่ แนวจินตนิยม (Romanticism) แสดงความรู้สึก แนวบาศกนิยม (Cubism) มีการสร้างสรรคโ์ ดยการ ออกมาเกินความจริง ผลงานแนวประทบั ใจที่ส่ือ นากลวิธี ภาพปะติดด้วยกระดาษและเศษ ผ้า ความประทบั ใจออกมาให้ไดแ้ สงสีตามบรรยากาศท่ี หรื อการใช้แผ่นโลหะและเศษวัสดุต่างๆ มา เป็นจริง เนน้ ความเป็นจริงตามธรรมชาติ ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั

ตารางเปรียบเทียบงานทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมไทยและสากล ทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมไทย ทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมสากล พทุ ธศตวรรษที่ ๗ คริสตศ์ กั ราช ๓๐๖-๓๐๗ งานทัศนศิลป์ อินเดียเร่ิ มเข้ามาเผยแผ่พร้อมกับ งานทศั นศิลป์ ในอาณาจกั รออตโตมนั เป็นแบบ การคา้ ขายในแถบดินแดนสุวรรณภูมิ มีรูปแบบเป็ น ไบแซนไทน์ คือ มีการผสมผสานแบบโรมนั ศิลปะแบบอินเดียอยา่ งชดั เจน และแบบเอเชียกลาง เช่น วหิ ารฮาเกียโซเฟี ย ที่กรุงอิสตนั บูล ประเทศตุรกี เป็นตน้

ทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมไทย ทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมสากล พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๒-๑๘ คริสตศ์ กั ราช ๔๗๖-๑๔๙๒ งานทัศนศิลป์ ในสมัยอาณาจักรโบราณ ได้แก่ งานทศั นศิลป์ ยคุ กลางในยโุ รป รูปแบบทศั นศิลป์ จะ ทวารวดี ศรีวิชยั และละโว้ มีรูปแบบผสมผสานกบั เป็นการถ่ายทอดผลงานทศั นศิลป์ โดยเน้นเร่ืองราว ศิลปะอินเดียและแบบพ้ืนเมือง ตามคติความเชื่อ ทางศาสนาเป็นหลกั ของพระพทุ ธศาสนาและศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

ทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมไทย ทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมสากล พทุ ธศตวรรษที่ ๑๘-๒๓ คริสตศ์ กั ราช ๑๐๙๖-๑๒๙๑ งานทศั นศิลป์ ในสมยั อาณาจกั รล้านนา สุโขทัยมี ในช่วงการทาสงครามศาสนาระหวา่ งชาวคริสเตียน รูปแบบทางทศั นศิลป์ ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะ กบั ชาวมุสลิม เรียกว่า สงครามครูเสด ทาให้การ ลงั กาและพม่า ในยุคแรกๆ ต่อมาได้มีการพฒั นา สร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศิลป์ ในยโุ รปชะลอตวั ลงไป รูปแบบเป็นลกั ษณะเฉพาะของตนเอง

ทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมไทย ทัศนศิลป์ ในวฒั นธรรมสากล พทุ ธศกั ราช ๑๘๙๓-๒๓๙๔ คริสตศ์ กั ราช ๑๓๐๐-๑๔๙๐ งานทศั นศิลป์ ในสมยั อยธุ ยาจนถึง งานทศั นศิลป์ เริ่มตน้ เขา้ สู่ยคุ ฟ้ื นฟศู ิลปวทิ ยาการ สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ ศิลปะไดร้ ับอิทธิพลจาก มีการสร้างสรรคผ์ ลงานตามหลกั มนุษยนิยม เขมร จีน ตะวนั ตก งานจิตรกรรมมีความรุ่งเรืองใน ศิลปวทิ ยาการมีความกา้ วหนา้ มาก มีการเขียน สมยั พระบาทสมเด็จพระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ภาพเหมือนจริงจนพฒั นามาเป็นรูปแบบทางศิลปะ ที่มีเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั เช่น ศิลปะบาโรก เป็นตน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook