Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ขุนช้าง ขุนแผน

ขุนช้าง ขุนแผน

Published by matsarina.ch, 2020-12-14 08:44:55

Description: ขุนช้าง ขุนแผน

Search

Read the Text Version

วรรณคดี เรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอน ขนุ ชา้ งถวายฎกี า จดั ทำโดย นางสาว จินต์จฑุ า ศรีลารักษ์ เลขท่ี ๓ นางสาว ชุติมา นางสาว ณฐั ชยา ยนื ยง เลขท่ี ๔ นางสาว ปวรนิ นางสาว ปานตะวนั จติ พินิจยล เลขท่ี ๖ นางสาว เยาวเรศ นางสาว โยษิตา ตนั ไพบลู ย์ เลขที่ ๘ นางสาว อรุชา นางสาว ชลิตา มะลินิล เลขที่ ๙ นางสาว นภัสสร นางสาว พชรภรณ์ ยอยรู้รอบ เลขที่ ๑๐ นางสาว มสฤณา นางสาว ปาณสิ รา กังวานสกลุ ทอง เลขที่ ๑๑ นาย ธนั ว์ พานิช เลขท่ี ๑๕ เมฆจินดา เลขท่ี ๑๙ เรืองศรี เลขที่ ๒๒ สุภาคมล เลขที่ ๒๓ ฉันทว์ งศช์ นะ เลขที่ ๒๔ วฒั นภษู ิตสกุณ เลขท่ี ๒๗ นูมหันต์ เลขท่ี ๑๘ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๖/๑๑ เสนอ ครูชมยั พร แกว้ ปานกัน รายงานเลม่ น้ีเป็นส่วนหนึ่งของรายวชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน (ท๓๓๑๐๑) ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โรงเรียนสงวนหญงิ จังหวดั สพุ รรณบรุ ี เขตพื้นทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต ๙

ก คำนำ  หนังสือออนไลนเ์ รือ่ ง  “ขุนชา้ งขุนแผน”  เล่มน้ี  เปน็ สว่ นหนึ่งของวชิ าภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖   มจี ดุ ประสงค์ เพื่อศึกษาความรู้เกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ซ่ึงหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นมา  ประวัติผู้แต่ง เนื้อเร่ือง ลกั ษณะคำประพนั ธ์ วเิ คราะหค์ ุณคา่ ต่างๆรวมไปถงึ เกร็ดความร้ขู องขุนช้าขุนแผน ทงั้ นีท้ างคณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสอื ออนไลน์เล่มน้ีจะเปน็ ประโยชน์ ตอ่ ผู้ที่ได้ศกึ ษาไมม่ ากกน็ ้อย และทางคณะ ผู้จดั ทำต้องขอขอบคณุ คุณครูชมัยพร แกว้ ปานกัน และผู้ทีม่ สี ว่ นชว่ ยให้รายงานเลม่ น้สี ำเรจ็ ลุล่วงดว้ ยดี คณะผ้จู ดั ทำ

สารบญั ข เรื่อง หนา้ คาํ นาํ ก สารบัญ ข ความเปน็ มา ๑ ประวตั ผิ ู้แต่ง ๒ ลกั ษณะคาํ ประพนั ธ์ ๓ เนอ้ื เร่ือง ๔ - ๒๑ คาํ ศัพท์ ๒๒ - ๒๔ บทวเิ คราะห์ ๒๕ - ๒๖ - คุณคา่ ด้านเนื้อหา ๒๗ - ๒๘ - คณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์ ๒๙ - คุณค่าด้านสังคม ๓๐ เกร็ดความรู้ ๓๑ แผนผังตัวละคร ๓๒ ภาพประกอบ ภาคผนวก บรรณานกุ รม

& s 0& s0 A s 0A s 0 ๑ ความเปน็ มาของเรือ่ งขนุ ชา้ งขนุ แผน เรอ่ื งขนุ ชา้ ง ขุนแผน มีเนื้อความปรากฏในหนังสือคำใหก้ ารชาวกรงุ เก่า ซ่ึงนบั เปน็ เร่ืองในพระราช พงศาวดาร เรอ่ื งขุนชา้ ง ขนุ แผนนี้ เปน็ วรรณกรรมอมตะ นิทานไทยพนื้ บ้านของสพุ รรณบรุ ีมาแตช่ ้านาน เกดิ ขน้ึ ในสมยั กรุงศรีอยุธยาเปน็ ราชธานี ซ่งึ มี หลักฐานอยู่ ในหนังสือคำใหก้ ารชาวกรงุ เกา่ โดยแตง่ เปน็ บทกลอน สำหรับขบั เสภา (เสภาคอื หนังสือกลอนโบราณ ทนี่ ำเอานทิ าน มาแตง่ เปน็ กลอนสำหรับขับลำนำ) ให้ประชาชน ฟงั เหลอื มาถงึ กรงุ รัตนโกสินทร์บางตอนเพราะถูกไฟไหม้และสูญหายไปหายไป เม่อื ครง้ั เสยี กรงุ กับพมา่ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้านภาลยั รัชกาลท2ี่ ทรงโปรด ใหก้ วีหลายทา่ น เชน่ พระองค์ กรมหม่ืน เจษฎา บดินทร์ (รชั กาลท๓ี่ ) สุนทรภู่ ครูแจง้ เป็นตน้ ใหช้ ่วยกนั แต่งเพิ่มเตมิ ข้นึ โดยแบ่งกันแต่งเป็นตอนๆ ไปจนจบเรอื่ ง เสภาเรือ่ งขนุ ชา้ งขุนแผนฉบับที่รวบรวมในปจั จบุ ันมที ั้งหมด 43 ตอน แตม่ อี ยู่ 8 ตอนทีว่ รรณคดสี มาคม ซง่ึ มี พระเจา้ บรม วงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเป็นประธานไดล้ งมติไว้ใน พ.ศ.2474 วา่ แตง่ ดเี ป็นยอด เยี่ยม ได้แก่ ๑.ตอนพลายแกว้ เปน็ ชนู้ างพมิ ๒.ตอนขนุ ชา้ งขอนางพมิ ๓.ตอนขนุ แผนข้ึนเรือนขนุ ชา้ ง ๔.ตอนขุนแผนพาวนั ทองหนี ๕.ตอนกำเนิดพลายงาม ๖. ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา ๗.ตอนฆา่ วันทอง ๘.ตอนพระไวยถูกเสน่ห์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดการฟังขบั เสภามาก พระองคจ์ งึ โปรดเกล้าฯให้กวีในราช สำนกั ช่วยกนั รวบรวมเร่อื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน และช่วยกันแตง่ เสภาตอนท่ีขาดไปตามทีก่ วแี ตล่ ะคนถนดั พระองค์ก็ ทรงพระราชนิพนธ์บทเสภาขุนช้างขนุ แผน ท้ังหมด ๔ ตอนคอื ตอนท่ี ๔ พลายแกว้ เปน็ ชู้กบั นางพมิ ตอนที่ ๑๓ วนั ทองหงึ ลาวทอง ตอนท่ี ๑๗ ขนุ แผนขึ้นเร่อื งขุนชา้ งไดน้ างแกว้ กริ ิยา ตอนที่18 ขนุ แผนพาวันทองหนี

& s 0 A s 0 A s 0A s 0 ๒ ผู้แตง่ วรรณคดีเรื่องขุนชา้ งขนุ แผนกวีแตง่ กันหลายคน ในปลายสมยั อยุธยา และ ในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้น ตอนท่ี ไพเราะ ส่วนมากแตง่ ในสมยั พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั (รัชกาลท่ี ๒) การแตง่ เสภา เรอื่ งขนุ ช้างขนุ แผน ไมน่ ยิ มบอกนามผู้ แต่ง มีเพียงการสนั นิฐานผูแ้ ต่งโดย พจิ ารณาจากสํานวนการแต่งเทา่ น้ัน เสภาขนุ ช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา จงึ ไมท่ ราบ นามผ้แู ตง่ ท่แี น่ชดั

& s 0A s0 A s 0A s 0 ๓ !กษณะ&ประ)น+ เรอื่ งขุนช้างขนุ แผนเป็นคำประพันธ์ ประเภทกลอนเสภา  ๔๓  ตอน ซงึ่ มอี ยู่  ๘ ตอนท่ีไดร้ บั การยกยอ่ งว่าแต่งดยี อดเย่ียม จากวรรณคดีสมาคมอนั มีสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นประธานโดยลงมติเมอ่ื  พ.ศ.๒๔๗๔  ซงึ่ ตอน ขุนชา้ งถวายฎกี าเปน็ หนงึ่ ในแปดตอนท่ีได้รับการยกย่องวา่ เป็นวรรณกรรมทีม่ คี ณุ คา่ ดา้ นการใชล้ กั ษณะการใช้คำ ประพนั ธ ์             ลกั ษณะคำประพันธ์กลอนเสภาเปน็ กลอนสภุ าพ เสภาเป็นกลอนขน้ั เลา่ เรื่องอยา่ งเลา่ นทิ านจึงใช้คำมากเพอ่ื บรรจุข้อความ ให้ชดั เจนแกผ่ ู้ฟงั และมุ่งเอาการขับได้ ไพเราะเปน็ สำคญั สัมผสั ของคำประพันธ์ คอื คำสุดทา้ ยของวรรคต้น ส่งสมั ผสั ไปยังคำใด คำหน่งึ ใน  ๕  คำแรกของวรรคหลังสัมผัสวรรคอ่นื และสมั ผัสระหวา่ งบทเหมือนกลอนสุภาพ

A s 0 A s 0 A s 0A s0 ๔ เน้ือเรอ่ื ง เสภาเร่อื ง ขุนชา้ งขุนแผน ตอน ขนุ ชา้ งถวายฎีกา จะกล่าวถึงโฉมเจ้าพลายงาม              เมือ่ เปน็ ความชนะขนุ ชา้ งนนั่ กลับมาอยูบ่ ้านสำราญครนั                              เกษมสนั ตส์ องสมภริ มย์ยวน พร้อมญาตขิ าดอย่แู ตม่ ารดา                            นึกนึกตรกึ ตราละหอ้ ยหวน โอว้ า่ แมว่ นั ทองช่างหมองนวล                          ไมส่ มควรเคยี งค่กู ับขนุ ชา้ ง เออน่ีเนือ้ เคราะหก์ รรมมานำผดิ                         น่าอายมติ รหมองใจไมห่ ายหมาง ฝา่ ยพอ่ มบี ญุ เปน็ ขุนนาง                                แต่แม่ไปแนบขา้ งคนจญั ไร รปู ร่างวปิ รติ ผิดกว่าคน                                 ทรพลอัปรยี ไ์ ม่ดไี ด้ ทั้งใจคอชวั่ โฉดโหดไร้                                   ชา่ งไปหลงรักใคร่ได้เป็นดี วนั นนั้ แพ้กเู ม่อื ดำน้ำ                                    กก็ ริว้ ซ้ำจะฆา่ ให้เป็นผี แสนแค้นด้วยมารดายงั ปรานี                          ใหไ้ ปขอชีวขี ุนชา้ งไว้ แค้นแมจ่ ำจะแกใ้ หห้ ายแค้น                           ไมท่ ดแทนอา้ ยขุนช้างบา้ งไม่ได้ หมายจิตคิดจะใหม้ นั บรรลัย                            ไมส่ มใจจำเพาะเคราะหม์ นั ดี อยา่ เลยจะรบั แมก่ ลบั มา                               ให้อยดู่ ้วยบิดาเกษมศรี พรากให้พ้นคนอุบาทว์ชาตอิ ปั รีย ์                       ย่งิ คดิ กย็ ง่ิ มคี วามโกรธา อดั อดึ ฮดึ ฮดั ด้วยขัดใจ                                  เมื่อไรตะวนั จะลบั หลา้ เข้าหอ้ งหวนละหอ้ ยคอยเวลา                          จวนสรุ ิยาเล้ยี วลับเมรุไกร เงยี บสัตว์จตั บุ ททวิบาท                                 ดาวดาษเดอื นสวา่ งกระจา่ งไข น้ำคา้ งตกกระเซ็นเย็นเยอื กใจ                          สงัดเสียงคนใครไมพ่ ูดจา ไดย้ นิ เสียงฆ้องยำ่ ประจำวัง                            ลอยลมลอ่ งดังถงึ เคหา คะเนนับย่ำยามได้สามครา                             ดูเวลาปลอดห่วงทักทิน ฟ้าขาวดาวเดน่ ดวงสว่าง                                จันทรก์ ระจ่างทรงกลดหมดเมฆสิ้น จงึ เซน่ เหล้าข้าวปลาให้พรายกนิ                        เสกขมนิ้ ว่านยาเขา้ ทาตัว ลงยนั ต์ราชะเอาปะอก                                 หยบิ ยกมงคลขน้ึ ใส่หวั เป่ามนตร์เบอื้ งบนชอมุ่ มวั                               พรายยว่ั ยวนใจให้ไคลคลา จบั ดาบเคยปราบณรงค์รบ                             เสรจ็ ครบบรกิ รรมพระคาถา ลงจากเรือนไปมิไดช้ า้                                    รบี มาถงึ บ้านขนุ ชา้ งพลัน ฯ

A s 0 A s 0 A s 0A s0 ๕ เห็นคนนอนล้อมอ้อมเปน็ วง               ประตลู ่นั มน่ั คงขอบรว้ั ก้ัน กองไฟสว่างดังกลางวัน                                 หมายสำคัญตรงมาหนา้ ประตู จึงรา่ ยมนตรามหาสะกด                               เส่อื มหมดอาถรรพ์ที่ฝงั อยู่ ภูตพรายนายขนุ ชา้ งวางวิง่ พรู                          คนผูใ้ นบา้ นกซ็ านเซอะ ทัง้ ชายหญิงง่วงงมล้มหลบั                              นอนทับควำ่ หงายกา่ ยกันเปรอะ จี่ปลาคาไฟมนั ไหลเลอะ                                โงกเงอะงยุ งมไมส่ มประดี ใชพ้ รายถอดกลอนถอนล่ิม                    รอยทิม่ ถอดหลุดไปจากท่ี ยา่ งเท้ากา้ วไปในทันท ี                                  มไิ ด้มใี ครทกั แตส่ ักคน มแี ต่หลับเพ้อมะเมอฝัน                                 ทัง้ ไฟกองป้องกันทกุ แห่งหน ผู้คนเงียบสำเนียงเสยี งแต่กรน                          มาจนถงึ เรอื นเจา้ ขุนช้าง จุดเทยี นสะกดข้าวสารปราย                           ภูตพรายโดดเรอื นสะเทือนผาง สะเดาะดาลบานเปิดหนา้ ตา่ งกาง                      ย่างเท้ากา้ วขน้ึ รา้ นดอกไม้ หอมหวนอวลอบบปุ ผาชาต ิ                            เบกิ บานกา้ นกลาดก่งิ ไสว เรณูฟูรอ่ นขจรใจ                                       ย่างเทา้ กา้ วไปไม่โครมคราม ขา้ ไทนอนหลับลงทบั กัน                                สะเดาะกลอนถอนล่นั ถึงชน้ั สาม กระจกฉากหลากสลบั วับแวมวาม                      อรา่ มแสงโคมแก้วแววจับตา มา่ นมู่ลี่มฉี ากประจำกั้น                                อัฒจันทร์เครื่องแก้วกห็ นกั หนา ชมพลางยา่ งเยื้องชำเลืองมา                            เปิดมงุ้ เหน็ หน้าแมว่ ันทอง น่งิ นอนอยู่บนเตียงเคียงขุนช้าง                         มนั แนบขา้ งกอดกลมประสมสอง เจบ็ ใจดังหัวใจจะพงั พอง                               ขยบั จอ้ งดาบงา่ อยากฆ่าฟัน จะใคร่ถบี ขนุ ช้างทกี่ ลางตวั                              นกึ กลวั จะถูกแม่วันทองนัน่ พลางน่งั ลงนอบนบอภวิ นั ท์                             สะอน้ื อ้ันอกแค้นนำ้ ตาคลอ โอแ้ มเ่ จา้ ประคุณของลูกเอ๋ย                            ไมค่ วรเลยจะพรากจากคณุ พอ่ เวรกรรมนำไปไมร่ ั้งรอ                                  มพิ อท่ีจะต้องพรากกจ็ ากมา มนั ไปฉุดมารดาเอามาไว้                                อ้ายหวั ใสข่มเหงไม่เกรงหนา้ ท่ีทำแค้นกจู ะแทนให้ทันตา                            ขอษมาแมแ่ ลว้ ก็ขบั พราย เป่าลงดว้ ยพระเวทวทิ ยา                               มารดาก็ฟน้ื ตื่นโดยงา่ ย ดาบใส่ฝักไว้ไมเ่ คลอ่ื นคลาย                            วนั ทองรู้สกึ กายกล็ มื ตา ฯ

& s 0 A s 0 A s 0A s0 ๖ ครานัน้ จงึ โฉมเจ้าวันทอง                  ต้องมนตม์ วั หมองเป็นหนักหนา ต่นื พลางทางชำเลอื งนยั น์ตามา                        เห็นลูกยาน้ันยนื อยูร่ ิมเตียง สำคัญคดิ ว่าผู้รา้ ยใหน้ ึกกลวั                             กอดผวั ร้องด้ินจนสิน้ เสียง ซวนซบหลบลงมาหมอบเมยี ง                          พระหมืน่ ไวยเข้าเคยี งหา้ มมารดา อะไรแม่แซร่ ้องทงั้ หอ้ งนอน                             ลกู ร้อนรำคาญใจจึงมาหา จะร้องไยใชโ่ จรผู้ร้ายมา                                สนทนาดว้ ยลกู อยา่ ตกใจ ฯ คราน้นั วันทองผ่องโสภา                   คร้ันรู้วา่ ลูกยาหากลัวไม่ ลุกออกมาพลันดว้ ยทนั ใด                               พระหมน่ื ไวยเขา้ กอดเอาบาทา วนั ทองประคองสอดกอดลกู รัก                         ซบพกั ตรร์ อ้ งไห้ไม่เงยหน้า เจ้ามาไยปานน้ีนล่ี ูกอา                                 เขารกั ษาอยทู่ ุกแห่งตำแหนง่ ใน ใส่ดาลบา้ นช่องกองไฟรอบ                             พอ่ ช่างลอบเขา้ มากะไรได้ อาจองทะนงตัวไมก่ ลวั ภยั                               น่ีพ่อใชฤ้ ว่าเจา้ มาเอง ขนุ ชา้ งตืน่ ขึ้นมเิ ป็นการ                                 เขาจะรกุ รานพาลข่มเหง จะเกิดผดิ แม่คิดคะนงึ เกรง                              ฉวยสบเพลงพลาดพลำ้ มิเปน็ การ มธี รุ ะส่งิ ไรในใจเจา้                                      พอ่ จงเลา่ แกแ่ มแ่ ล้วกลับบ้าน มคิ วรทำเจา้ อยา่ ทำใหร้ ำคาญ                          อยา่ หาญเหมอื นพ่อนกั คะนองใจ ฯ จมื่นไวยสารภาพกราบบาทา              ลกู มาผดิ จรงิ หาเถียงไม่ รักตวั กลัวผดิ แตค่ ิดไป                                   ก็หกั ใจเพราะรกั แม่วันทอง ทกุ วนั นลี้ กู ชายสบายยศ                                พรอ้ มหมดเมียม่ิงกม็ สี อง มีบ่าวไพร่ใช้สอยทัง้ เงนิ ทอง                            พน่ี อ้ งข้างพ่อก็บรบิ ูรณ์ ยังขาดแตแ่ ม่คุณไมแ่ ลเหน็                               เปน็ อยู่กเ็ หมือนตายไปหายสูญ ข้อน้ที ีท่ กุ ข์ยงั เพม่ิ พนู                                    ถา้ พรอ้ มมลู แม่ด้วยจะสำราญ ลูกมาหมายวา่ จะมารบั                                  เชญิ แม่วนั ทองกลบั คืนไปบา้ น แม้นจะบังเกิดเหตุเภทพาล                             ประการใดก็ตามแต่เวรา มาอยู่ไยกบั ไอห้ นิ ชาติ                                   แสนอบุ าทว์ใจจติ รษิ ยา ดังทองคำทำเลีย่ มปากกะลา                           หน้าตาดำเหมอื นมนิ หมอ้ มอม เหมอื นแมลงวนั วอ่ นเคล้าทเ่ี นา่ ชัว่                       มาเกลอื กกลว้ั ปทุมาลยท์ ีห่ วานหอม ดอกมะเด่อื ฤจะเจอื ดอกพะยอม                       ว่านกั แมจ่ ะตรอมระกำใจ แม่เลยี้ งลูกมาถึงเจ็ดขวบ                               เคราะห์ประจวบจากแมห่ าเหน็ ไม่ จะคดิ ถึงลกู บ้างฤอยา่ งไร                              ฤหาไม่ใจแมไ่ มค่ ดิ เลย

A s 0 A s 0 A s 0A s0 ๗ ถา้ คิดเหน็ เอ็นดูวา่ ลกู เต้า                               แม่ทนู เกล้าไปเรือนอยา่ เชือนเฉย ให้ลูกคลายอารมณ์ไดช้ มเชย                           เหมอื นเม่อื ครั้งแม่เคยเลีย้ งลกู มาฯ คราน้ันจงึ โฉมเจา้ วนั ทอง                   เศรา้ หมองดว้ ยลูกเปน็ หนกั หนา พ่อพลายงามทรามสวาดขิ องแม่อา                     แม่โศกาเกอื บเจยี นจะบรรลยั ใชจ่ ะอม่ิ เอบิ อาบดว้ ยเงนิ ทอง                          มิใช่ของตวั ทำมาแตไ่ หน ทงั้ ผู้คนช้างมา้ แลข้าไท                                  ไม่รกั ใครเ่ หมือนกบั พอ่ พลายงาม ทุกวันน้ีใชแ่ ม่จะผาสกุ                                   มแี ต่ทุกข์ใจเจบ็ ดงั เหนบ็ หนาม ตอ้ งจำจนทนกรรมทต่ี ิดตาม                           จะขืนความคดิ ไปก็ใชท่ ี เมอ่ื พอ่ เจา้ เขา้ คกุ แม่ทอ้ งแก่                            เขาฉุดแม่ใช่จะแกล้งแหนงหนี ถึงพอ่ เจ้าเล่าไมร่ ูว้ ่ารา้ ยด ี                              เปน็ หลายปีแมม่ าอยู่กบั ขุนช้าง เมอ่ื พอ่ เจ้ากลับมาแตเ่ ชียงใหม่                         ไม่เพด็ ทูลสิ่งไรแต่สักอย่าง เม่ือคราวตวั แม่เป็นคนกลาง                            ท่านกว็ างบทคืนใหบ้ ดิ า เจา้ เปน็ ถึงหวั หมน่ื มหาดเล็ก                            มใิ ช่เด็กดอกจงฟงั คำแมว่ า่ จงเร่งกลับไปคดิ กบั บดิ า                                ฟ้องหากราบทลู พระทรงธรรม์ พระองค์คงจะโปรดประทานให้                        จะปรากฏยศไกรเฉดิ ฉัน อันจะมาลกั พาไมว่ า่ กัน                                 เชน่ นน้ั ใจแม่มเิ ต็มใจ ฯ คราน้ันจงึ โฉมเจา้ พลายงาม                ฟงั ความเห็นว่าแม่หาไปไม่ คิดบา่ ยเบย่ี งเลย่ี งเลย้ี วเบยี้ วบิดไป                      เพราะรักไอข้ ุนช้างกวา่ บิดา จึงวา่ อนจิ จาลูกมารับ                                   แม่ยงั กลบั ทัดทานเปน็ หนกั หนา เหมอื นไมม่ ีรกั ใคร่ในลูกยา                              อุตส่าหม์ ารับแลว้ ยงั มิไป เสยี แรงเป็นลกู ผู้ชายไม่อายเพอื่ น                      จะพาแมไ่ ปเรอื นใหจ้ งได้ แม้นมไิ ปให้งามกต็ ามใจ                                 จะบาปกรรมอยา่ งไรก็ตามที จะตดั เอาศีรษะของแมไ่ ป                               ทิง้ แตต่ ัวไว้ให้อยู่น่ี แม่อย่าเจรจาให้ชา้ ที                                    จวนแจ้งแสงศรีจะรบี ไป ฯ

A s 0 A s 0 A s 0A s0 ๘ ครานัน้ วนั ทองผ่องโสภา                   เห็นลูกยากัดฟันมันไส้ ถอื ดาบฟ้าฟน้ื ยืนแกวง่ ไกว                              ตกใจกลัววา่ จะฆ่าฟัน จงึ ปลอบวา่ พลายงามพ่อทรามรัก                      อยา่ ฮกึ ฮักว้าวุ่นทำหนุ หัน จงครวญใครใ่ ห้เหน็ ขอ้ สำคญั                            แม่นพ้ี รั่นกลวั แตจ่ ะเกิดความ ดว้ ยเปน็ ขา้ ลกั ไปไทลกั มา                               เหน็ เบอ้ื งหนา้ จะองึ แม่จึงหา้ ม ถ้าเหน็ เจา้ เป็นสุขไมล่ กุ ลาม                            ก็ตามเถิดมารดาจะคลาไคล วา่ พลางนางลุกออกจากหอ้ ง                           เศร้าหมองโศกาน้ำตาไหล พระหมนื่ ไวยก็พามารดาไป                            พอรุ่งแจ้งแสงใสกถ็ งึ เรอื น ฯ จะกลา่ วถงึ เจ้าจอมหม่อมขนุ ช้าง           นอนครางหลบั กรนอยปู่ น่ เปือ้ น อัศจรรย์ฝนั แปรแชเชือน                               ว่าขเ้ี รอื้ นขึ้นตวั ทั่วทั้งนั้น หาหมอมารกั ษายาเขา้ ปรอท                           มนั กินปอดตับไตออกไหลลั่น ทัง้ ไสน้ ้อยไส้ใหญ่แลไสต้ ัน                              ฟนั ฟางกห็ ักจากปากตัว ตกใจตืน่ ผวาคว้าวันทอง                                รอ้ งวา่ แมค่ ณุ แมช่ ว่ ยผัว ลุกข้นึ งกงนั ตวั ส่นั รัว                                    ใหน้ ึกกลัวปรอทจะตอดตาย ลมื ตาเหลยี วหาเจ้าวันทอง                              ไมเ่ ห็นนอ้ งห้องสวา่ งตะวันสาย ผ้าผ่อนล่อนแก่นไม่ติดกาย                    เหน็ ม่านขาดเรี่ยรายประหลาดใจ ตะโกนเรียกในหอ้ งวนั ทองเอ๋ย                         หาขานรับเชน่ เคยสกั คำไม่ ทั้งขา้ วของมากมายก็หายไป                           ปากประตเู ปิดไวไ้ ม่ใส่กลอน พลางเรียกหาขา้ ไทอยวู่ ้าวุ่น                            อีอนุ่ อีอิม่ อีฉิมอสี อน อมี ีอีมาอีสาคร                                          นิ่งนอนไยหวามาหากู บ่าวผหู้ ญิงว่ิงไปอยู่งกงนั                                 เห็นนายน้ันแกผ้ ้ากางขาอยู่ ตา่ งคนทรุดน่งั บังประตู                                 ตกตะลงึ แลดูไมเ่ ขา้ มา ขุนช้างเห็นขา้ ไมม่ าใกล้                                 ขัดใจลกุ ขน้ึ ทั้งแก้ผ้า แหงนเถอ่ เปอ้ ปังยืนจงั กา้                                ยา่ งเทา้ กา้ วมาไมร่ ูต้ ัว ยายจนั งนั งกยกมือไหว ้                                 นน่ั พ่อจะไปไหนพ่อทูนหวั ไมน่ งุ่ ผอ่ นนุ่งผ้าดนู ่ากลัว                                ขุนชา้ งมองดตู วั ก็ตกใจ สองมอื ปดิ ขาเหมือนท่าเปรต                           ใครมาเทศนเ์ อาผ้ากไู ปไหน ใหน้ ึกอดสหู มู่ข้าไท                                      ยายจันไปเอาผา้ ให้ขา้ ที ยายจันตกใจเต็มประดา                                เข้าไปฉวยผ้าเอามาคล่ี หยบิ ยืน่ สง่ ไปใหท้ นั ท ี                                   เมนิ หนีอดสไู ม่ดนู าย

& s 0 A s 0 A s 0A s0 ๙ ขุนช้างตัวสัน่ ทาวบอกบา่ วไพร ่                         วันทองไปไหนอยา่ งไรหาย เอ็งไปดใู หร้ ู้ซึง่ แยบคาย                                 พบแลว้ อย่าวนุ่ วายให้เชญิ มา ฯ ข้าไทได้ฟังขุนช้างใช้                       ต่างเท่ยี วคน้ ดน้ ไปจะเอาหนา้ ทง้ั หอ้ งนอกห้องในไม่พบพา                            ทั่วเคหาแลว้ ไปคน้ จนแผน่ ดนิ เหน็ ประตรู ัว้ บา้ นบานเปดิ กว้าง                        ผูค้ นนอนสลา้ งไมต่ ืน่ สิ้น เสาแรกแตกตน้ เป็นมลทิน                               กนิ ใจกลับมาหาขุนช้าง บอกว่าได้คน้ คว้าหาพบไม่                              แล้วเลา่ แจง้ เหตไุ ปสนิ้ ทกุ อย่าง ขา้ เหน็ วปิ ริตผิดท่าทาง                                 ทน่ี วลนางวนั ทองนน้ั หายไป ฯ ครานั้นขนุ ชา้ งฟงั บ่าวบอก                 เหงือ่ ออกโซมลา้ นกระบานใส คิดคดิ ให้แค้นแสนเจ็บใจ                                ช่างทำไดต้ า่ งตา่ งทกุ อย่างจรงิ สองหนสามหนก่นแตห่ น ี                              พล้งั ทลี งไมร่ อดนางยอดหญงิ คราวนั้นอา้ ยขนุ แผนมนั แงน้ ชิง                        นค่ี ราวนหี้ นวี ง่ิ ไปตามใคร ไมค่ ิดวา่ จะเปน็ เห็นว่าแก ่                              ยงั สาระแนหลบล้หี นีไปไหน เอาเถิดเป็นไรก็เปน็ ไป                                  ไม่เอากลบั มาไดม้ ใิ ชก่ ู ฯ จะกลา่ วถงึ โฉมเจา้ พลายงาม               เกรงเนือ้ ความน่งั นึกตรกึ ตรองอยู่ อา้ ยขุนช้างสารพดั เปน็ ศัตร ู                            ถา้ มันรู้วา่ ลกั เอาแมม่ า มันกจ็ ะสอดแนมแกมเท็จ                               ไปกราบทลู สมเดจ็ พระพันวษา ดจู ะระแวงผดิ ในกิจจา                                  มารดาก็จะตอ้ งซงึ่ โทษภัย คิดแล้วเรียกหมืน่ วเิ ศษผล                               เอง็ เป็นคนเคยชอบอัชฌาสัย จงไปบา้ นขนุ ชา้ งดว้ ยทันใด                            ไกล่เกล่ยี เสียอย่าใหม้ นั โกรธา บอกวา่ เราจบั ไขม้ าหลายวนั                            เกรงแมจ่ ะไม่ทันมาเหน็ หน้า เมอื่ คืนนีซ้ ำ้ มีอันเปน็ มา                                 เราใช้คนไปหาแมว่ ันทอง พอขณะมารดามาสง่ ทุกข ์                              ร้องปลกุ เขา้ ไปถงึ ในหอ้ ง จึงรีบมาเรว็ ไวดงั ใจปอง                                 รักษาจนแสงทองสว่างฟ้า ไมต่ ายคลายคนื ฟนื้ ขึ้นได้                               กขู อแม่ไว้พอเห็นหนา้ แตพ่ อให้เคลื่อนคลายหลายเวลา                       จงึ จะสง่ มารดานนั้ คืนไป ฯ

A s 0A s0 A s 0A s0 ๑๐ หมืน่ วิเศษรับคำแล้วอำลา                  รีบมาบา้ นขุนชา้ งหาช้าไม่ ครัน้ ถงึ แอบดอู ยแู่ ต่ไกล                                 เห็นผคู้ นขวักไขว่ท้งั เรือนชาน ขนุ ชา้ งนงั่ เยีย่ มหน้าตา่ งเรอื น                          ดูหนา้ เฝ่ือนทโี กรธอยู่งนุ่ งา่ น จะดอ้ื เดินเขา้ ไปไมเ่ ป็นการ                             คดิ แล้วลงคลานเขา้ ประตู ฯ ครานัน้ เจา้ จอมหม่อมขุนชา้ ง               น่งั คาหนา้ ตา่ งเยี่ยมหน้าอยู่ เหน็ คนคลานเขา้ มาเหลอื บตาดู                        นม่ี าลอ้ หลอกกูฤอย่างไร อะไรพอสวา่ งวางเขา้ มา                                เด็กหวาจับถองให้จงได้ ลุกข้ึนถกเขมรรอ้ งเกนไป                               ทุดอ้ายไพรข่ ค้ี รอกหลอกผูด้ ี ฯ ครานัน้ วิเศษผลคนว่องไว                   ยกมือขน้ึ ไหว้ไม่วงิ่ หนี ร้องตอบไปพลันในทนั ท ี                                คนดีดอกข้าไหว้ใชค่ นพาล ข้าพเจ้าเปน็ บา่ วพระหมน่ื ไวย                          เป็นขุนหม่นื รบั ใช้อยู่ในบ้าน ท่านใชใ้ ห้กระผมมากราบกราน                        ขอประทานคนื น้พี ระหมืน่ ไวย เจบ็ จกุ ปัจจุบนั มอี ันเปน็                                 แกไ้ ขก็เหน็ หาหายไม่ ร้องโอดโดดด้ินเพียงสนิ้ ใจ                              จงึ ใช้ให้ตวั ข้ามาแจ้งการ พอพบท่านมารดามาสง่ ทกุ ข ์                           ขา้ พเจา้ ร้องปลกุ ไปในบ้าน จะกลับขึ้นเคหาเหน็ ช้านาน                            ท่านจงึ รีบไปในกลางคืน พยาบาลคณุ พระนายพอคลายไข ้                      คณุ อย่าสงสัยวา่ ไปอืน่ ใหค้ ำมัน่ ส่งั มาวา่ ยั่งยนื                                   พอหายเจบ็ แลว้ จะคนื ไม่นอนใจ ฯ ครานัน้ ขุนชา้ งไดฟ้ ังว่า                     แค้นดังเลอื ดตาจะหลงั่ ไหล ดับโมโหโกรธาทำว่าไป                                 เรากไ็ มว่ ่าไรสดุ แต่ดี การไข้เจบ็ ล้มตายไมว่ ายเว้น                           ประจบุ ันอนั เป็นทัง้ กรุงศรี ถ้าขดั สนสิ่งไรท่ไี ม่มี                                     ก็มาเอาทีน่ อี่ ย่าเกรงใจ วา่ แล้วปิดบานหน้าตา่ งผาง                            ขนุ ชา้ งเดือดดาลทะยานไส้ ทอดตัวลงกับหมอนถอนฤทยั                           ดูดู๋เปน็ ไดเ้ จียววันทอง เพราะกูแพค้ วามจมื่นไวย                               มันจึงเหิมใจทำจองหอง พอ่ ลูกแม่ลกู ถูกทำนอง                                  ถงึ สองคร้ังแลว้ เป็นแตเ่ ช่นน้ี อ้ายพอ่ ไปเชียงใหมม่ ชี ยั มา                    ตง้ั ตวั ดังพระยาราชสหี ์ อ้ายลกู เป็นหม่ืนไวยทำไมม ี                             เห็นกนู ้ีคนผดิ ตดิ โทษทัณฑ์

& s 0 A s 0 A s 0A s0 ๑๑ มันจงึ ข่มเหงไม่เกรงใจ                                  จะพ่ึงพาใครไดท้ ี่ไหนน่ัน ขนุ นางน้อยใหญเ่ กรงใจกัน                             ถงึ ฟอ้ งมันก็จะปดิ ใหม้ ิดไป ตามบญุ ตามกรรมไดท้ ำมา                              จะเฆ่ยี นฆา่ หาคดิ ชีวติ ไม่ ยง่ิ คิดเดอื ดดาลทะยานใจ                               ฉวยได้กระดานชนวนมา รา่ งฟอ้ งทอ่ งเทียบใหเ้ รยี บรอ้ ย                         ถ้อยคำถ่ถี ว้ นเปน็ หนักหนา ลงกระดาษพบั ไว้มิได้ชา้                                 อาบน้ำผลดั ผา้ แลว้ คลาไคล วนั น้นั พอพระปิ่นนรินทรร์ าช                          เสด็จประพาสบัวยังหากลบั ไม่ ขุนช้างมาถงึ ซ่งึ วงั ใน                                    กค็ อยจ้องท่ีใตต้ ำหนักนำ้ ฯ จะกลา่ วถงึ พระองคผ์ ูท้ รงเดช              เสด็จคืนนเิ วศนพ์ อจวบคำ่ ฝพี ายรายเลม่ มาเตม็ ลำ                                 เรือประจำแหนแหเ่ ซ็งแซม่ า พอเรอื พระท่นี งั่ ประทับท่ี                               ขนุ ชา้ งกร็ ี่ลงตีนท่า ลอยคอชูหนังสือดอ้ื เข้ามา                              ผดุ โผล่โงหนา้ ยึดแคมเรอื เขา้ ตรงบโทนอ้นตน้ กัญญา                             เพ่อื นโขกลงด้วยกะลาว่าผีเส้อื มหาดเล็กอยูง่ านพดั พลดั ตกเรอื                         ร้องวา่ เสอื ตัวใหญ่วา่ ยน้ำมา ขุนชา้ งดงึ ดอ้ื มือยดึ เรือ                                  มใิ ชเ่ สอื กระหมอ่ มฉานลา้ นเกศา สตู้ ายขอถวายซึ่งฎกี า                                   แคน้ เหลือปญั ญาจะทานทน ฯ ครานนั้ สมเด็จพระพนั วษา                 ทรงพระโกรธาโกลาหล ทดุ อา้ ยจญั ไรมิใช่คน                                    บนบกบนฝั่งดงั ไมม่ ี ใชท่ ีใ่ ชท่ างวางเข้ามา                                    ฤอ้ายชา้ งเป็นบ้ากระมังน่ี เฮย้ ใครรับฟ้องของมันท ี                                ตีเสียสามสบิ จงึ ปล่อยไป มหาดเลก็ กร็ ับเอาฟอ้ งมา                               ตำรวจคว้าขนุ ช้างหาวางไม่ ลงพระราชอาญาตามว่าไว้                              พระจึงให้ต้ังกฤษฎกี า วา่ ต้ังแต่วนั น้ีสืบตอ่ ไป                                   หน้าท่ีของผ้ใู ดใหร้ กั ษา ถา้ ประมาทราชการไม่นำพา                           ปล่อยให้ใครเข้ามาในลอ้ มวง ระวางโทษเบด็ เสรจ็ เจด็ สถาน                          ถงึ ประหารชวี ติ เป็นผยุ ผง ตามกฤษฎีการักษาพระองค ์                            แล้วลงจากพระที่นั่งเขา้ วงั ใน ฯ จะกล่าวถงึ ขนุ แผนแสนสนิท               เรืองฤทธฦิ จบพภิ พไหว อยู่บ้านสขุ เกษมเปรมใจ                                สมสนทิ พสิ มยั ด้วยสองนาง

& s 0 A s 0 A s 0A s0 ๑๒ ลาวทองกบั เจา้ แกว้ กิริยา                               ปรนนิบัติวตั ถาไมห่ ่างข้าง เพลิดเพลนิ จำเริญใจไมเ่ ว้นวาง                         คืนนั้นในกลางซง่ึ ราตรี นางแก้วลาวทองท้ังสองหลบั                            ขนุ แผนกลบั ผวาตน่ื ฟื้นจากที่ พระจนั ทรจรแจ่มกระจา่ งดี                            พระพายพดั มาลีตรลบไป คดิ คะนึงถงึ มติ รแต่ก่อนเก่า                             นิจจาเจ้าเหนิ ห่างรา้ งพสิ มัย ถงึ สองครัง้ ตั้งแต่พรากจากพีไ่ ป                         ดังเดด็ ใจจากร่างกร็ าวกนั กกู ็ชั่วมวั รกั แต่สองนาง                                  ละวางใหว้ ันทองน้องโศกศัลย์ เม่อื ตีไดเ้ ชยี งใหม่กโ็ ปรดครัน                           จะเพ็ดทูลคราวน้ันก็คล่องใจ สารพัดที่จะว่าไดท้ ุกอยา่ ง                              อา้ ยขนุ ชา้ งไหนจะโต้จะตอบได้ ไมค่ วรเลยเฉยมาไมอ่ าลยั                                บัดนีเ้ ลา่ เจ้าไวยไปรับมา จำกูจะไปส่สู วาดินอ้ ง                                   เจ้าวันทองจะคอยละหอ้ ยหา คดิ พลางจัดแจงแตง่ กายา                               นำ้ อบทาหอมฟงุ้ จรงุ ใจ ออกจากห้องย่องเดินดำเนนิ มา                        ถงึ เรอื นลูกยาหาช้าไม่ เข้าหอ้ งวนั ทองในทนั ใด                                 เหน็ นางหลับใหลนิ่งนิทรา ลดตวั ลงนงั่ ข้างวนั ทอง                                  เตือนต้องด้วยความเสนหา สน่ั ปลกุ ลุกข้นึ เถิดน้องอา                               พีม่ าหาแล้วอยา่ นอนเลย ฯ นางวันทองตนื่ อย่รู สู้ ึกตวั                    หมายใจว่าผัวกท็ ำเฉย น่งิ ดอู ารมณท์ ีช่ มเชย                                    จะรกั จรงิ ฤจะเปรยเปน็ จำใจ แต่นิ่งดกู ิริยาเป็นชา้ นาน                                หาว่าขานโต้ตอบอย่างไรไม่ ทงั้ รกั ท้ังแคน้ แน่นฤทยั                                   ความอาลัยป่นั ปว่ นยวนวิญญาณ์ ฯ โอเ้ จ้าแก้วแววตาของพี่เอย๋                  เจ้าหลับใหลกะไรเลยเปน็ หนักหนา ดังนิม่ นอ้ งหมองใจไมน่ ำพา                             ฤขัดเคอื งคดิ วา่ พ่ที อดทงิ้ ความรักหนักหน่วงทรวงสวาดิ                         พ่ไี ม่คลาศคลายรักแต่สกั สิ่ง เผอิญเปน็ วิปรติ พ่ีผดิ จรงิ                                 จะนอนนง่ิ ถือโทษโกรธอยู่ไย ว่าพลางเอนแอบลงแนบขา้ ง                           จบู พลางชวนชดิ พสิ มยั ลบู ไลพ้ ไิ รปลอบให้ชอบใจ                              เป็นไรจงึ ไมฟ่ น้ื ต่ืนนทิ รา ฯ เจ้าวันทองนอ้ งตน่ื จากท่ีนอน              โอนออ่ นวอนไหวพ้ ไิ รวา่ หมอ่ มน้อยใจฤทีไ่ ม่เจรจา                              ใช่ตัวขา้ นจี้ ะงอนค่อนพิไร

& s 0 & s 0 A s 0A s0 ๑๓ ชอบผดิ พ่อจงคิดคะนึงตรอง                            อนั ตวั นอ้ งมลทินหาสนิ้ ไม่ ประหนึง่ ว่าวนั ทองน้ีสองใจ                            พบไหนก็เปน็ แต่เช่นนน้ั ทจี่ รงิ ใจถงึ ไปอยูเ่ รอื นอื่น                               คงคิดคนื ทีห่ ม่อมเปน็ แมน่ มัน่ ด้วยรกั ลกู รักผวั ยังพวั พนั                                คราวน้ันกไ็ ปอยูเ่ พราะจำใจ แคน้ คิดดว้ ยมิตรไม่รักเลย                               ยามมที ี่เชยเฉยเสยี ได้ เสยี แรงรว่ มทกุ ขย์ ากกันกลางไพร                      กนิ ผลไมต้ ่างข้าวทุกเพรางาย พอได้ดมี ีสุขลมื ทกุ ข์ยาก                                 กเ็ พราะหากหมอ่ มมีซ่ึงทห่ี มาย ว่านกั กเ็ คร่อื งเคอื งระคาย                               เอ็นดูนอ้ งอยา่ ให้อายเขาอิกเลย ฯ พี่ผิดจรงิ แล้วเจ้าวันทอง                    เหมอื นลืมน้องหลงเลือนทำเชอื นเฉย ใชจ่ ะเพลดิ เพลินชน่ื เพราะอ่นื เชย                      เงยหน้าเถดิ จะเลา่ อยา่ เฝ้าแคน้ เม่ือติดคุกทกุ ขถ์ ึงเจ้าทุกเชา้ คำ่                          ตอ้ งกลืนกลำ้ โศกเศรา้ นนั้ เหลอื แสน ซำ้ ขุนช้างคิดคดทำทดแทน                             มนั ดูแคลนว่าพีน่ ย้ี ากยับ อาลัยเจา้ เท่ากับดวงชีวติ พี่                              คดิ จะหนีไปตามเอาเจ้ากลับ เกรงจะพากนั ผดิ เข้าติดทับ                             แตข่ ยับอย่จู นไดไ้ ปเชยี งอินท์ กลับมาหมายว่าจะไปตาม                              พอเจ้าไวยเป็นความกค็ า้ งสิน้ หวั อกใครไดแ้ คน้ ในแผน่ ดิน                            ไม่เดือดดน้ิ เท่าพี่กบั วนั ทอง คดิ อย่วู า่ จะทูลพระพนั วษา                             เห็นชา้ กว่าจะได้มารว่ มห้อง จะเปน็ ความอกิ ก็ตามแตท่ ำนอง                       จงึ ให้ลูกรับน้องมารว่ มเรอื น จะเป็นตายงา่ ยยากไมย่ ากรกั                           จะฟมู ฟักเหมือนเมือ่ อยู่ในกลางเถอ่ื น ขอโทษท่พี ่ีผิดอยา่ บิดเบอื น                             เจ้าเพ่ือนเสนหาจงอาลัย พ่ผี ิดพี่กม็ าลุแกโ่ ทษ                                     จะคมุ โกรธคุมแคน้ ไปถงึ ไหน ความรักพยี่ ังรกั ระงมใจ                                 อย่าตดั ไมตรีตรงึ ให้ตรอมตาย ว่าพลางทางแอบเขา้ แนบอก                           ประคองยกของสำคญั ม่ันหมาย เจา้ เนือ้ ทพิ หยบิ ช่นื อารมณ์ชาย                        ขอสบายสกั หนอ่ ยอยา่ โกรธา ฯ ใจน้องมใิ หห้ มองอารมณ์หม่อม             ไม่ตัดใจให้ตรอมเสนหา ถ้าตัดรกั หกั ใจแล้วไม่มา                                หมอ่ มอย่าว่าเลยว่าฉนั ไมค่ นื คดิ ถงึ ตวั ไปใจยังนบั อยวู่ ่าผวั                                นอ้ งน้กี ลวั บาปทบั เมอ่ื ดับจติ หญงิ เดยี วชายครองเป็นสองมิตร                       ถา้ มปิ ลดิ เสยี ให้เปลื้องไม่ตามใจ คราวนั้นเม่ือตามไปกลางป่า                            หน้าดำเหมอื นหนงึ่ ทามนิ หม้อไหม้

& s 0 A s 0 A s 0A s0 ๑๔ ชนะความงามหน้าดงั เทียนชยั                          เขาฉุดไปเหมือนลงทะเลลกึ เจ้าพลายงามตามรบั เอากลับมา                       ทีนีห้ น้าจะดำเป็นนำ้ หมึก กำเรบิ ใจดว้ ยเจา้ ไวยกำลงั ฮึก                          จะพาแม่ตกลึกใหจ้ ำตาย มิใชห่ นุ่มดอกอย่ากลุม้ กำเริบรัก                        เอาความผิดคดิ หกั ให้เหือดหาย ถา้ รกั นอ้ งป้องปดิ ให้มดิ อาย                            ฉนั กลบั กลายแลว้ หมอ่ มจงฟาดฟัน ไปเพ็ดทูลเสียให้ทูลกระหม่อมแจ้ง                     น้องจะแต่งบายศรีไวเ้ ชิญขวญั ไม่พักวอนดอกจะนอนอยดู่ ้วยกนั                       ไม่เช่นนัน้ ฉันไม่เลยจะเคยตวั ฯ นจิ จาใจเจ้าจะใหพ้ ี่เจ็บจติ ร                ดังเอากฤชแกระกรีดในอกผัว เกรงผิดคดิ บาปจงึ หลาบกลวั                            พ่ีนี้ชัว่ เพราะหมนิ่ ประมาทความ อนื่ ไกลไหนพี่จะละเลา่                                   น่เี จา้ วา่ ดอกจะยัง้ ไวฟ้ ังหา้ ม เสียแรงมาวา่ วอนจงผ่อนตาม                          อย่าหวงหา้ มเสนหาใหช้ า้ วัน วา่ พลางคลงึ เคลา้ เขา้ แนบขา้ ง                          จูบพลางทางปลอบประโลมขวญั กา่ ยกอดสอดเกีย่ วพลั วนั                                 วนั ทองกั้นกีดไวไ้ มต่ ามใจ พลิกผลกั ชักชวนให้ชืน่ ชิด                               เบอื นบิดแบ่งรกั หาร่วมไม่ สยดสยองพองเสยี วแสยงใจ                            พระพายพดั มาลยั ตรลบลอย แมลงภู่เฝ้าเคล้าไมใ้ นไพรชัฏ                           ไมเ่ บิกบานกา้ นกลัดเกสรสรอ้ ย บันดาลคงคาทิพกะปริบกะปรอย                      พรมพร้อยทอ้ งฟ้านภาลัย อสนีคร้ืนครั่นสนั่นกอ้ ง                                  น้ำฟา้ หาต้องดอกไม้ไม่ กระเซ็นรอบขอบสระสมทุ ไท                          หววิ ใจแลว้ ก็หลับกบั เตยี งนอน ฯ ครน้ั เวลาดึกกำดัดสงดั เงียบ                ใบไมแ้ ห้งแกร่งเกรียบระรุบรอ่ น พระพายโชยเสาวรสขจายจร                          พระจนั ทรแจม่ แจง้ กระจา่ งดวง ดเุ หวา่ เร้าเสยี งสำเนียงกอ้ ง                             ระฆงั ฆ้องขานแข่งในวงั หลวง วนั ทองน้องนอนสนทิ ทรวง                             จติ รง่วงระงบั สู่ภวงั ค์ ฝนั วา่ พลดั ไปในไพรเถ่ือน                               เลอ่ื นเปือ้ นไม่รู้ที่จะกลับหลัง ลดเล้ยี วเทีย่ งหลงในดงรงั                                ยงั มพี ยัคฆรา้ ยมาราวี ท้ังสองมองหมอบอยู่รมิ ทาง                            พอนางด้ันป่ามาถงึ ท่ี โดดตะครุบคาดค้นั ในทันที                    แลว้ ฉดุ คร่าพารไี่ ปในไพร สนิ้ ฝนั ครั้นต่ืนตกประหม่า                              หวดี ผวากอดผัวสะอื้นไห้ เลา่ ความบอกผัวดว้ ยกลัวภยั                            ประหลาดใจน้องฝันพร่นั อรุ า

& s 0A s0 A s 0A s0 ๑๕ ใตเ้ ตยี งเสียงหนกู ็กุกกก                                 แมลงมมุ ท่มุ อกท่ีรมิ ฝา ย่งิ หวาดหวั่นพรั่นตวั กลัวมรณา                        ดงั วญิ ญาณน์ างจะพรากไปจากกาย ฯ คราน้ันขุนแผนแสนสนิท                   ฟังความตามนมิ ติ ก็ใจหาย ครัง้ น้ีน่าจะมีอนั ตราย                                  ฝันร้ายสาหัสตัดตำรา พิเคราะหด์ ูท้ังยามอัฐกาล                               กบ็ ันดาลฤกษแ์ รงเป็นหนักหนา มิรูท้ ่จี ะแถลงแจ้งกจิ จา                                 กอดเมียเมินหน้านำ้ ตากระเดน็ จงึ แกล้งเพทุบายทำนายไป                             ฝันอย่างนม้ี ใิ ช่จะเกดิ เขญ็ เพราะวติ กหมกไหม้จึงได้เปน็                            เนอ้ื เยน็ อยูก่ บั ผวั อยา่ กลวั ทุกข์ พร่งุ น้ีพี่จะแก้เสนียดฝัน                                 แลว้ ทำม่ิงสง่ิ ขวัญใหเ้ ป็นสขุ                      มใิ หเ้ กดิ ราคกี ลียคุ                                        อยา่ เปน็ ทกุ ข์เลยเจา้ จงเบาใจ ฯ ครน้ั วา่ รงุ่ สางสวา่ งฟา้                       สรุ ยิ าแยม้ เยี่ยมเหลีย่ มไศล จะกล่าวถงึ พระองค์ผทู้ รงชยั                            เนาในพระท่ีน่ังบัลลังกร์ ัตน์ พร้อมดว้ ยพระกำนัลนกั สนม                           หมอบประนมเฝ้าแหนแน่นขนัด ประจำตง้ั เครอื่ งอานอยงู่ านพดั                         ทรงเคอื งขดั ขุนช้างแต่กลางคืน แสนถ่อยใครจะถอ่ ยเหมือนมันบา้ ง                    ทกุ อย่างทีจ่ ะช่วั อา้ ยหัวลืน่ เวียนแตเ่ ปน็ ถ้อยความไม่ข้ามคืน                       น้ำยนื หย่งั ไมถ่ ึงยังดึงมา คราวน้ันฟ้องกันด้วยวนั ทอง                            น่ีมนั ฟ้องใครอกิ ไอช้ าติขา้ ดำริพลางทางเสด็จยาตรา                              ออกมาพระทีน่ ัง่ จกั รพรรดิ พระสตู รรูดกร่างกระจา่ งองค์                          ขนุ นางกราบราบลงเปน็ ขนดั ทงั้ หนา้ หลังเบยี ดเสียดเยียดยัด                         หมอบอดั ถดั กนั เปน็ หล่นั ไป ทอดพระเนตรมาเหน็ ขนุ ช้างเฝา้                        เออใครเอาฟ้องมันไปไว้ไหน พระหมนื่ ศรีถวายพลันในทันใด                        รบั ไว้คลี่ทอดพระเนตรพลัน พอทรงจบแจ้งพระทัยในข้อหา                        ก็โกรธาเคืองขนุ่ หุนหัน มันเค่ยี วเขญ็ ทำเปน็ อย่างไรกนั                          อีวันทองคนเดยี วไมร่ ู้แลว้ ราวกับไม่มีหญงิ เฝ้าชงิ กัน                               ฤอีวันทองน้ันมนั มีแกว้ รปู อา้ ยชา้ งช่วั ช้าตาแบ้งแบว                           ไมเ่ ห็นแววทีว่ ่ามันจะรกั ใครจะเอาเปน็ ผวั เขากลวั อาย                          หัวหดู เู หมอื นควายทีต่ กปลกั คราวนั้นเปน็ ความกถู ามซกั                             ตกหนักอยกู่ ับเถ้าศรีประจัน วนั ทองกสู ใิ หก้ บั ไอ้แผน                                 ไยแลน่ มาอยกู่ บั อ้ายชา้ งนน่ั จมน่ื ศรีไปเอาตวั มันมาพลัน                            ท้ังวนั ทองขุนแผนอา้ ยหมื่นไวย ฯ

A s 0 A s 0 A s 0A s0 ๑๖ ฝ่ายพระหมนื่ ศรไี ด้รับสัง่                    ถอยหลงั ออกมาไม่ช้าได้ สั่งเวรกรมวังในทนั ใด                                   ตำรวจในว่ิงตะบึงมาถึงพลัน ขึน้ ไปบนเรอื นพระหมน่ื ไวย                            แจ้งข้อรบั สัง่ ไปขมีขมนั ขุนช้างฟ้องรอ้ งฎีกาพระทรงธรรม ์                    ใหห้ าทัง้ สามทนั่ นนั้ เข้าไป ฯ ครานน้ั วันทองเจา้ พลายงาม               ไดฟ้ งั ความครา้ มคร่นั หวนั่ ไหว ขนุ แผนเรียกวนั ทองเขา้ หอ้ งใน                          ไม่ไว้ใจจึงเสกด้วยเวทมนตร์ สขี ผ้ี ง้ึ สีปากกินหมากเวท                                ซึง่ วิเศษสารพดั แกข้ ัดสน น้ำมนั พรายนำ้ มนั จนั ทน์สรรเสกปน                    เคยคมุ้ ขงั บงั ตนแต่ไรมา แลว้ ทำผงอทิ ธิเจเข้าเจิมพักตร์                         คนเห็นคนทักรักทกุ หนา้ เสกกระแจะจวงจันทนน์ ำ้ มันทา                       เสรจ็ แลว้ กพ็ าวันทองไป ฯ ครานนั้ ทองประศรผี ู้มารดา                ครน้ั ได้แจง้ กิจจาไม่น่ิงได้ เดก็ เอ๋ยวง่ิ ตามมาไวไว                                   ลงบันไดงนั งกตกนอกชาน พลายชุมพลกอดก้นทองประศร ี                        กมู ใิ ช่ชา้ งข่ดี อกลูกหลาน ลกุ ข้นึ โขย่งโกง้ โคง้ คลาน                                ซมซานโฮกฮากอา้ ปากไป ครั้นถงึ ยัง้ อยูป่ ระตวู งั                                    ผู้รับส่งั เรง่ รุดไม่หยุดได้ ขุนแผนวันทองพระหมืน่ ไวย                           เขา้ ไปเฝ้าองค์พระภมู ี ฯ ครานน้ั พระองคผ์ ทู้ รงเดช                  ปนิ่ ปักนคั เรศเรอื งศรี เหน็ สามราเข้ามาอัญชล ี                                พระปรานีเหมอื นลกู ในอทุ ร ดว้ ยเดชะพระเวทวเิ ศษประสิทธ ิ                       เผอิญคดิ รกั ใครพ่ ระทัยออ่ น ตรัสถามอยา่ งความราษฎร                             ฮ้าเฮ้ยดกู ่อนอวี ันทอง เมื่อมึงกลบั มาแตป่ า่ ใหญ ่                                กูสิใหไ้ อ้แผนประสมสอง ครน้ั กขู ดั ใจใหจ้ ำจอง                                   ตัวของมงึ ไปอยูแ่ หง่ ไร ทำไมไมอ่ ยกู่ บั อ้ายแผน                                 แล่นไปอยูก่ ับอ้ายช้างใหม่ เดิมมงึ รกั อ้ายแผนแล่นตามไป                          ครัน้ ยกใหส้ ิเต้นกลบั เลน่ ตัว อยกู่ ับอ้ายชา้ งไมอ่ ยไู่ ด้                                  เกดิ รงั เกยี จเกลียดใจด้วยชังหัว ดูยักใหมย่ ้ายเกา่ เฝ้าเปลีย่ นตัว                         ตกว่าชวั่ แล้วมงึ ไมไ่ ยดี ฯ

& s 0 A s 0 A s 0A s0 ๑๗ ครานน้ั วนั ทองไดร้ บั สั่ง                    ละล้าละลังประนมก้มเกศี หวั สยองพองพรนั่ ทนั ที                                  ทลู คดีพระองค์ผู้ทรงธรรม์ ขอเดชะละอองธุลบี าท                                 องค์หรริ ักษ์ราชรงั สรรค์      เมือ่ กระหม่อมฉันมาแตอ่ ารัญ                          คร้งั น้ันโปรดประทานขุนแผนไป คร้นั อยู่มาขุนแผนตอ้ งจำจอง                          กระหม่อมฉันมที อ้ งน้ันเติบใหญ่ อยู่ทเี่ คหาหนา้ วดั ตะไกร                                ขุนช้างไปบอกวา่ พระโองการ มรี ับสง่ั โปรดปรานประทานให้                         กระหม่อมฉนั ไมไ่ ปกห็ ักหาญ ยื้อยุดฉดุ ครา่ ทำสามานย ์                               เพ่อื นบา้ นจะชว่ ยก็สุดคิด ด้วยขนุ ชา้ งอ้างวา่ รบั สง่ั ให้                              ใครจะขัดขืนไว้กก็ ลัวผดิ จนใจจะมิไปกส็ ดุ ฤทธ ิ                                   ชีวติ อยู่ใตพ้ ระบาทา ฯ ครานั้นพระองค์ผทู้ รงภพ                   ฟงั จบกริ้วขนุ ชา้ งเปน็ หนกั หนา มีพระสิงหนาทตวาดมา                                 อ้ายบ้าเย่อหยง่ิ อา้ ยลิงโลน ตกวา่ กูหาเปน็ เจา้ ชีวติ ไม่                                มึงถอื ใจวา่ เปน็ เจา้ ทโี่ รงโขน เป็นไม่มอี าญาสทิ ธคิ ดิ ดงึ โดน                           เท่ียวทำโจรใจคะนองจองหองครนั เล้ยี งมงึ ไม่ไดอ้ ้ายใจร้าย                                 ชอบแต่เฆ่ยี นสองหวายตลอดสนั แลว้ กลบั ความถามขา้ งวันทองพลนั                    เออเมือ่ มนั ฉดุ ครา่ พามงึ ไป ก็ช้านานประมาณไดส้ บิ แปดปี                         คร้ังน้ีทำไมมึงจึงมาได้ นม่ี งึ หนีมนั มาฤว่าไร                                    ฤว่าใครไปรบั เอามงึ มา ฯ วันทองฟงั ถามใหค้ ร้ามครั่น                บงั คมคัลประนมก้มเกศา ขอเดชะพระองค์ทรงศักดา                             พระอาญาเป็นพ้นลน้ เกล้าไป ครงั้ นจ้ี ม่นื ไวยนัน้ ไปรับ                                 กระหม่อมฉันจึงกลับคนื มาได้ มิใช่ย้อนยอกทำนอกใจ                                 ขุนแผนก็มิได้ประเวณี แตม่ านัน้ เวลาสักสองยาม                               ขุนช้างจงึ หาความวา่ หลบหนี ขอพระองคจ์ งทรงพระปราน ี                           ชีวีอยู่ใตพ้ ระบาทา ฯ ครานน้ั พระองคผ์ ู้ทรงเดช                  ฟงั เหตุขนุ่ เคืองเป็นหนกั หนา อ้ายหมนื่ ไวยทำใจอหังการ์                             ตกวา่ บ้านเมืองไม่มีนาย จะปรกึ ษาตราสนิ ให้ไมไ่ ด ้                              จึงทำตามนำ้ ใจเอาง่ายง่าย ถา้ ฉวยเกดิ ฆา่ ฟันกนั ลม้ ตาย                            อนั ตรายไพรเ่ มืองก็เคอื งกู

A s 0A s0 A s 0A s0 ๑๘ อีวนั ทองกใู ห้ไอแ้ ผนไป                                  อ้ายช้างบังอาจใจทำจู่ลู่ ฉุดมันขนึ้ ชา้ งอ้างถงึ ก ู                                   ตะคอกขอู่ วี นั ทองให้ตกใจ ชอบตบใหส้ ลบลงกับท่ ี                                  เฆี่ยนตีเสียให้ยับไม่นบั ได้ มะพร้าวหา้ วยดั ปากให้สาใจ                           อ้ายหมน่ื ไวยกโ็ ทษถงึ ฉกรรจ์ มึงถือว่าอีวนั ทองเป็นแม่ตวั                              ไม่เกรงกลวั เว้โวท้ ำโมหนั ธ์ ไปรบั ไยไม่ไปในกลางวัน                                อ้ายแผนพ่อนน้ั กเ็ ปน็ ใจ มันเหมือนววั เคยขาม้าเคยข่ ี                            ถึงบอกกูว่าดีหาเชอ่ื ไม่ อา้ ยชา้ งมนั กฟ็ อ้ งเปน็ สองนยั                            วา่ อา้ ยไวยลกั แมใ่ หบ้ ิดา เปน็ ราคีข้อผดิ มีตดิ ตัว                                   หมองมัวมลทินอยู่หนกั หนา ถา้ อา้ ยไวยอยากจะใคร่ได้แมม่ า                        ชวนพ่อฟอ้ งหาเอาเปน็ ไร อยั การศาลโรงกม็ อี ย่ ู                                    ฤวา่ กูตดั สนิ ใหไ้ ม่ได้ ชอบทวนด้วยลวดใหป้ วดไป                            ปรบั ไหมใหเ้ ท่ากบั ชายชู้ มันเกดิ เหตุท้งั นก้ี เ็ พราะหญิง                           จึงหงึ หวงชว่ งชิงยุง่ ย่ิงอยู่ จำจะตัดรากใหญ่ใหห้ ลน่ พร ู                           ให้ลูกดอกดกอยแู่ ตก่ งิ่ เดยี ว อวี นั ทองตัวมนั เหมือนรากแกว้                          ถา้ ตดั โคนขาดแล้วก็ใบเห่ียว ใครจะควรสสู่ มอยกู่ ลมเกลียว                          ใหเ้ ด็ดเดี่ยวรกู้ ันแตว่ ันน้ี เฮย้ อวี ันทองว่ากะไร                                    มงึ ตง้ั ใจปลดปลงใหต้ รงที่ อย่าพะวังกังขาเปน็ ราคี                                 เพราะมึงมผี วั สองกูต้องแค้น ถา้ รักใหมก่ ไ็ ปอยกู่ บั อ้ายชา้ ง                           ถ้ารักเก่าเขา้ ขา้ งอา้ ยขุนแผน อย่าเวยี นวนไปให้คนมันหมนิ่ แคลน                    ถ้าแมน้ มงึ รักไหนใหว้ า่ มา ฯ ครานั้นวันทองฟงั รับสงั่                    ใหล้ ะลา้ ละลังเป็นหนักหนา ครัน้ จะทูลกลวั พระราชอาชญา                        ขุนชา้ งแลดตู ายักควิ้ ลน พระหมืน่ ไวยใช้ใบ้ให้แมว่ า่                               บยุ้ ปากตรงบดิ าเป็นหลายหน วันทองหมองจติ รคดิ เวียนวน                           เปน็ จนใจนง่ิ อยไู่ ม่ทูลไป ฯ ครานนั้ พระองคท์ รงธรณนิ ทร์              หาไดย้ ินวันทองทูลขึ้นไม่ พระตรัสความถามซักไปทนั ใด                         ฤมงึ ไมร่ ักใครใหว้ ่ามา จะรกั ชู้ชังผัวมงึ กลัวอาย                                จะอยูด่ ้วยลกู ชายก็ไมว่ า่ ตามใจกูจะให้ดงั วาจา                                   แต่น้ีเบอื้ งหนา้ ขาดเด็ดไป ฯ

A s 0 A s 0 A s 0A s0 ๑๙ นางวนั ทองรับพระราชโองการ             ใหบ้ ันดาลบังจิตรหาคิดไม่ อกศุ ลดลมัวให้ชว่ั ใจ                                     ด้วยสิน้ ในอายุทีเ่ กดิ มา คดิ คะนึงตะลงึ ตะลานอก                               ดังตวั ตกพระสุเมรภุ ูผา ให้อทุ ัจอดั อน้ั ตันอุรา                                    เกรงผิดภายหนา้ ก็สดุ คดิ จะวา่ รกั ขุนชา้ งกะไรได้                                 ท่จี รงิ ใจมไิ ด้รกั แต่สักหนดิ รกั พ่อลกู ห่วงดังดวงชีวิต                                แมน้ ทูลผดิ จะพิโรธไมโ่ ปรดปราน อย่าเลยจะทลู เปน็ กลางไว้                              ตามพระทัยท้าวจะแยกใหแ้ ตกฉาน คดิ แล้วเท่าน้นั มิทันนาน                                นางกม้ กรานแลว้ กท็ ลู ไปฉับพลนั ความรักขนุ แผนก็แสนรกั                                ด้วยร่วมยากมานักไมเ่ ดยี ดฉันท์ สูล้ ำบากบกุ ป่ามาด้วยกนั                                สารพนั อดออมถนอมใจ ขนุ ช้างแตอ่ ยูด่ ้วยกนั มา                                 คำหนกั หาได้วา่ ให้เคืองไม่ เงนิ ทองกองไว้มใิ ห้ใคร                                  ข้าไทใชส้ อยเหมือนของตัว จมื่นไวยเลา่ ก็เลอื ดทีใ่ นอก                              กห็ ยิบยกรกั เท่ากันกับผวั ทูลพลางตัวนางระเร่ิมรัว                               ความกลัวพระอาญาเปน็ พ้นไป ฯ ครานั้นพระองคผ์ ูท้ รงภพ                   ฟังจบแค้นคงั่ ดังเพลิงไหม้ เหมือนดินประสวิ ปลวิ ตดิ กับเปลวไฟ                   ดดู เู๋ ปน็ ได้อีวนั ทอง จะวา่ รกั ข้างไหนไมว่ า่ ได ้                                น้ำใจจะประดงั เข้าทงั้ สอง ออกนนั่ เข้าน่มี ีสำรอง                                   ยิง่ กว่าท้องทะเลอนั ล้ำลกึ จอกแหนแพเสาสำเภาใหญ่                            จะทอดถมเท่าไรไม่รสู้ ึก เหมือนมหาสมุทรสุดซึ้งซกึ                              น้ำลึกเหลอื จะหยง่ั กระท่ังดิน อิฐผาหาหาบมาทมุ่ ถม                                  กจ็ อ่ มจมสญู หายไปหมดส้นิ อีแสนถอ่ ยจัญไรใจทมฬิ                                 ดังเพชรนลิ เกดิ ขึ้นในอาจม รูปงามนามเพราะนอ้ ยไปฤ                            ใจไม่ซื่อสมศักดเิ ทา่ เส้นผม แตใ่ จสตั ว์มันยังมีทนี่ ยิ ม                                 สมาคมก็แต่ถึงฤดูมัน มงึ นถ่ี ่อยยิง่ กวา่ ถอ่ ยอที า้ ยเมอื ง                        จะเอาเรื่องไม่ได้สักสิ่งสรรพ์ ละโมบมากตัณหาตาเป็นมนั                            สักร้อยพนั ให้มงึ ไมถ่ ึงใจ ว่าหญงิ ช่วั ผวั ยังคราวละคนเดยี ว                       หาตามตอมกันเกรยี วเหมอื นมึงไม่ หนักแผน่ ดินกูจะอย่ไู ย                                  อ้ายไวยมงึ อย่านับวา่ มารดา กูเลี้ยงมงึ ถึงให้เป็นหัวหมน่ื                               คนอื่นรวู้ ่าแม่กข็ ายหนา้ อา้ ยขนุ ชา้ งขุนแผนทั้งสองรา                           กจู ะหาเมียให้อยา่ อาลัย

A s 0 A s 0 A s 0A s0 ๒๐ หญงิ กาลกิณอี แี พศยา                                   มนั ไม่นา่ เชยชิดพสิ มยั ท่ีรปู รวยสวยสมมถี มไป                                 มึงตดั ใจเสียเถดิ อีคนน้ี เร่งเร็วเหวยพระยายมราช                              ไปฟนั ฟาดเสียให้มันเปน็ ผี อกเอาขวานผ่าอยา่ ปรานี                               อยา่ ให้มีโลหิตติดดนิ กู เอาใบตองรองไว้ให้หมากิน                             ตกดนิ จะอปั รยี ก์ าลอี ยู่ ฟันใหห้ ญิงชายท้งั หลายด ู                               สง่ั เสร็จเสด็จสปู่ ราสาทชัย ฯ

A s 0A s0 A s 0A s 0 ๒๑ เน้อื เรอื่ ง (แปล) ฝา่ ยพลายงาม เมื่อชนะความขุนช้างแลว้ กอ็ ยมู่ าด้วยความสุข แต่มาคดิ ว่ายังขาดแตม่ ารดา เห็นวา่ ไมค่ วรคู่ กบั ขุนช้าง แล้ว คิดว่าจะรับแม่กลบั มาอยู่กับขนุ แผน พอตกค่ำจึงออกเดนิ ทางไปบ้านขุนช้าง สะกดผู้คน ภตู พราย และแก้ อาถรรพณ์ แลว้ สะเดาะ กลอน เขา้ ไปถึงชัน้ สามห้องนอน ถอนสะกดนางวนั ทอง แล้วเจรจากัน พระไวยแจ้งวา่ จะมารบั นางวนั ทองกลับไปบ้าน นางวนั ทองแนะนำใหน้ ำเรื่องขึน้ กราบทูลพระพนั วษา พลายงามไม่เห็นด้วยและจะพาไปใหไ้ ด้ นางวันทอง จนใจจึงยอมไปกับพระไวย ขนุ ชา้ งตืน่ ข้ึนไม่พบนางวันทอง ให้บา่ วไพร่คน้ หาไมพ่ บ ฝ่ายพลายงามได้คดิ ว่า ถ้าขุนชา้ งรู้วา่ ลักนางวนั ทองมา ก็คงจะนำความข้นึ กราบทลู สมเด็จพระพันวษา มารดากจ็ ะตอ้ งโทษ คิดแลว้ จงึ ใหห้ มื่นวิเศษผล ไปหาขนุ ช้างท่บี า้ น ช่วยไกล่เกลย่ี เรอ่ื งราว อย่าใหข้ นุ ชา้ งโกรธ ดว้ ยเปน็ คนท่เี คยชอบพอกนั โดยใหบ้ อกขนุ ช้างว่า ตนจับไขอ้ ยู่ หลายวัน เกรงวา่ แม่ไมท่ ันจะเหน็ หน้า จึงใหค้ นไปพาแม่ มา พอใหต้ นหายไขแ้ ลว้ จะสง่ มารดาคนื กลับไป หมน่ื วิเศษรบั คำ แลว้ กร็ บี ไปบา้ นขนุ ชา้ ง แจ้งเรือ่ งตามที่พระไวยส่ังมาทุกประการ ขนุ ช้างได้ฟังก็ทงั้ โกรธและแค้น เมอื่ ขม่ ความโกรธแลว้ ก็ ตอบไปว่า ไมเ่ ปน็ ไรเรอ่ื งการเจ็บไข้ ถา้ ขดั สนสิง่ ไรก็ขอให้มาเอาทต่ี นได้ วา่ แล้วกป็ ิดหนา้ ต่างใส่ ด้วยความเดอื ดดาลและ แคน้ ใจ ฝา่ ยขุนชา้ งร่างฟอ้ งเสร็จแล้ว กม็ าที่วงั ใน รออยู่ที่ใต้ตำหนกั น้ำ พอสมเด็จพระพันวษาเสด็จกลบั วงั ทางเรือ ตอนจวนคำ่ ขุน ช้างก็ลงลอยคอเข้าถวายฎีกา สมเดจ็ พระพันวษาเห็นเข้า กท็ รงพระพโิ รธ ใหร้ บั ฎีกาไว้ แล้วเอาตวั ไปเฆย่ี น สามสบิ ที จากน้ันใหต้ ั้ง กฤษฎกี าว่า ต้งั แตน่ ี้ไป ถา้ ใครปลอ่ ยให้ใครเขา้ มาในล้อมวง ตอ้ งระวางโทษเจ็ดสถาน ถึงประหาร ชวี ติ ฝา่ ยขุนแผนไดอ้ ยู่กับนาง แก้วกริ ยิ า และนางลาวทองมาดว้ ยความผาสขุ ตกกลางคืนคิดถงึ นางวันทอง จึงออกเดนิ มาที่ หอ้ งนางวนั ทอง ท่เี รอื นพระไวย ปลกุ นางขึน้ มาสนทนาด้วย ไดพ้ รำ่ รำพันถงึ ความหลัง ที่ตกทกุ ข์ได้ยากด้วยกันมา นางวัน ทองแนะนำขุนแผน ใหน้ ำความขึน้ เพ็ดทลู พระพันวษา และไม่ยอมตกเป็นของขนุ แผน พอตกดึกกฝ็ นั ไปวา่ ถูกพยคั ฆ์ตะครบุ คาบตัวไปในปา่ ตกใจตนื่ แกฝ้ ันให้ ขนุ แผนฟงั ขนุ แผนได้ฟังกใ็ จหาย รวู้ ่าฝันรา้ ยมอี ันตราย วันร่งุ ข้ึน สมเดจ็ พระพนั วษา เสดจ็ ออกวา่ ราชการ เห็นขุนชา้ งเข้าเฝา้ อยู่ จึงตรัสวา่ เร่อื งนางวันทองไมร่ ูจ้ บ เมื่อคร้งั ก่อน เรอ่ื งตกหนกั ที่นางศรปี ระจัน ก็ ตดั สินไปอยกู่ บั ขนุ แผน แต่ทำไมกลับมาอยกู่ บั ขุน ช้าง แลว้ ให้หมืน่ ศรีไปเอาตัวนางวนั ทอง ขุนแผนและพระไวยมาเฝ้า ท้ัง สามคนได้ฟังความก็ตกใจ ขุนแผนจึงจดั การชว่ ยเหลอื นาง วนั ทองด้วยเวทมนตร์ แล้วจึงพากนั ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระพนั วษา จึงตรสั ถามนางวันทอง ถงึ เรอื่ งราวแต่หนหลัง นางวนั ทองก็ กราบทูลให้ทรงทราบ เม่อื ทรงทราบแลว้ ก็กรว้ิ ขุนช้างเปน็ กำลงั แลว้ ตรสั ถามนางวันทองต่อไปว่า เวลาลว่ งไปแล้วถึงสบิ แปดปี แต่ ทำไมวันนีจ้ ึงมาได้ นางวันทองก็กราบทูลวา่ พระไวยไปรับ เมอื่ ตอนกลางคนื สมเดจ็ พระพันวษาได้ฟัง กท็ รงข่นุ เคืองพระไวย ท่ีทำ ตามอำเภอใจเพราะแย่งชิงนางวนั ทองกัน จงึ ใหน้ าง วนั ทองตดั สินใจวา่ จะอยูก่ ับใคร หรอื ถา้ ไม่อยากอยกู่ ับท้งั สองคน จะเลือกอยู่ กบั ลูกกไ็ ด้ นางวนั ทองเม่ือถงึ คราวจะส้นิ อายุ ไม่สามารถตดั สนิ ใจได้ จงึ กราบทลู เป็นกลางไป หวังจะใหส้ มเด็จพนะพนั วษาตัดสนิ ให้สมเดจ็ พระพันวษาไดท้ รงฟังนางวัน ทองพดู แลว้ กพ็ ิโรธย่ิงนกั ตรสั ประนามนางวันทองว่าเปน็ หญงิ หลายใจ อย่าอยใู่ ห้หนัก แผ่นดิน ให้เอาตัวไปฆา่ เสีย

A s 0 A s 0 A s 0A s 0 ๒๒ คำศพั ท์ กระแจะ ผงเครอ่ื งหอมตา่ งๆท่ีผสมกันสำหรับทาหรอื เจมิ โดยปกตมิ ีเครอื่ งประสม คอื ไม้จนั ทน์ ชะมดเชยี ง เปน็ ต้น ของสำคญั ในท่ีนหี้ มายถงึ เตา้ นม ในความว่า “วา่ พลางทางแอบเข้าแนบอก ประคองยกของสำคัญม่นั หมาย” ข้าวสารปราย ขา้ วสารทีเ่ สกแล้วซัดใหก้ ระจายไป ข้ีครอก ลูกของขา้ ทาส เครอ่ื ง เหตุ เร่อื งราว ในความว่า “วา่ นักกเ็ ครอ่ื งเคืองระคาย” เครอ่ื งอาน เครอ่ื งกิน แงน้ ชิง แงน้ ในท่ีน้ีนา่ จะเปน็ คำเดยี วกับคำวา่ แง่น ซึง่ แปลว่า แยกเขีย้ วจะกัด แงน้ ชิงจงึ หมายถงึ แสดงอาการ โกรธ แย่งชิงทั้งๆ ท่ีไม่สมควรจะได้ จวงจนั ทน์ เคร่ืองหอมท่เี จอื ดว้ ยไมจ้ วงและไมจ้ นั ทน์ จังกา คือ จงั กา้ เป้นลักษณะยืนถ่างขาตั้งทา่ เตรียมสู้ เปน็ ตน้ จัตบุ ททวิบาท (สตั ว)์ ส่ีเทา้ สองเท้า จลู่ ู่ หนุ หนั พลนั แล่น ในความวา่ “อ้ายชา้ งบังอาจใจทำจลู่ ู่” ฉวยสบเพลง บงั เอิญถูกจงั หวะ ฎกี า คำรอ้ งทกุ ขท์ ย่ี น่ื ถวายพระเจา้ แผ่นดนิ ตกวา่ ราวกับว่า ตราสนิ แจ้งความไว้เพ่ือเปน็ หลักฐาน ตลอดสัน ตลอดสนั หลงั ถกเขมร การนงุ่ ผา้ หยกั รง้ั ขึน้ ไปใหพ้ น้ หวั เข่าถงึ ง่ามก้น บางทเี รยี กว่าขดั เขมร ทรามสวาดิ ผเู้ ปน็ ทรี่ กั ทวนดว้ ยลวด เฆย่ี นตดี ้วยหนงั ทท่ี ำเปน็ เสน้ ยาวๆ ซ่ึงเรยี กว่าลวดหนัง ทกั ทนิ อา่ นว่า ทัก-กะ-ทนิ หมายถึง วันชวั่ ร้ายตามความเชื่อในตำราโหราศาสตร์

& s 0 A s 0 A s 0A s 0 ๒๓ น้ำยนื หยงั่ ไมถ่ ึง งามลึกเกินกวา่ เท้าจะหยั่งถงึ บโทนอ้นตน้ กัญญา บโทนคือพนกั งานคอยใหจ้ ังหวะสญั ญาณให้ฝพี ายพายเรอื ช้าหรือเรว็ เรือในทีน่ ้ีเปน็ เรือตน้ กญั ญา คอื เป็นเรือหลวงยาวมเี ครื่องบังแดดเปน็ รูปหลังคา อน้ น่าจะเปน็ ชอื่ ของบโทน บรกิ รรม สำรวมใจร่ายมนตร์ เสกคาถาซ้ำๆ หลายๆ หน เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความขลงั ศักดิ์สิทธ์ิ บายศรี เครอ่ื งเชิญขวญั หรือรับขวญั ทำดว้ ยใบตอง รูปคลา้ ยกระทงเป็นชน้ั ๆ มขี นาดใหญเ่ ล็กสอบกันขึ้นไปตาม ลำดับอาจเปน็ ๓ ชัน้ ๕ ชน้ั ๗ ชัน้ หรอื ๙ ช้ัน มีเสาปกั ตรงกลางเป็นแกน มเี คร่ืองสงั เวยวางอยู่ใน บายศรีและมไี ขข่ วญั เสยี บอยู่บนยอด ปรนนิบตั ิวัตถา คอื ปรนนิบตั วิ ัตถาก หมายถงึ เอาใจใส่คอยปฏบิ ตั รรับใช้ ประจบุ นั คอื ปัจจบุ ัน เรียกโคภยั ทเ่ี กิดขน้ึ ในทนั ทที นั ใดวา่ โรคปจั จบุ ัน \"เจ็บจกุ ประจบุ นั \" หมายความวา่ มีอาการ จกุ เสยี ดข้ึนมาทันที ปรับไหม ให้ผู้กระทำผิดชำระเงินทดแทนความผดิ ท่ีได้กระทำแก่ผ้เู สยี หาย หรอื บิดามารดาหรือผูป้ กครองของผู้ เสียหาย ผงอทิ ธเิ จ เปน็ ผงดินสอทนี่ ำมาผดั หนา้ สำหรบั เป็นเสน่ห์ทำใหค้ นรกั ผเี สื้อ คอื ผีเส้ือน้ำ เทวดาที่รักษานา่ นน้ำ ในท่นี หี้ มายถงึ ผีน้ำ พระสิงหนาท เสยี งตวาดของผู้ที่มีอำนาจซง่ึ ดังราวกับเสียงคำรามของราชสีห์ เพรางาย เวลาเย็นและเวลาเชา้ (เพรา = เย็น , งาย = เชา้ ) มงคล ในทีน่ ี้หมายถึง สิ่งที่ทำเปน็ วง ใช้สวมศรี ษะเพอื่ ความเป็นสิรมิ งคล ทำดว้ ยดา้ ย เป็นตน้ มินหมอ้ เขมา่ ดำทต่ี ิดก้นหมอ้ เมรไุ กร ภเู ขาใหญ่ แมงมุมทมุ่ อก ทุ่มอกคือตีอก เชื่อกนั ว่าเมอื่ แมงมมุ ีอกของมันจะเปน็ ลางรา้ ยอย่างหนึง่ ยวน ทำใหก้ ำเริบรัก ในความว่า “ภริ มย์ยวน” ยาเข้าปรอท ยาทปี่ ระสมสารปรอทซงึ่ อาจทำให้เปน็ พษิ ได้ ย่ำยาม เปลย่ี นยามในเวลากลางคืน ในความว่า “คะเนนบั ยำ่ ยามได้สามครา” หมายความวา่ นบั ได้วา่ เป็นการ ตบี อกเวลาเป็นคร้งั ท่สี ามแลว้ เทา่ กับเป็นเวลายามสามตรงกับเวลาสามนาฬิกาหรอื ตสี าม

A s 0A s0 A s 0A s 0 ๒๔ รอ้ งเกน ร้องตะโกนดงั ๆ รา้ นดอกไม้ ในทน่ี ี้หมายถงึ ชานเรอื นโบราณทีป่ ลูกไม้ดอกไว้ ล่อนแกน่ สน้ิ เนอ้ื ประดาตวั ไม่มตี ิดตัว วนั นน้ั แพ้กูเมอื่ ดำนำ้ จมนื่ ไวยเท้าความถงึ ตอนท่ขี ุนช้างดำนำ้ พิสูจนโ์ ทษเมอ่ื เปน็ คดกี บั ตน ววั เคยขามา้ เคยข่ี หมายความว่าคนุ้ เคยกนั มาอย่างดี รทู้ กี นั เขา้ ใจในทำนองของกันและกัน สำนวนน้ีสว่ นมากใชก้ ับ คนทเ่ี คยเป็นสามีภรรยากัน วางบท ถูกกำหนดใหแ้ สดงไปตามบท คือ หนา้ ทีท่ ่กี ำหนดให้ ในทนี่ ี้หมายถงึ ครัง้ หนงึ่ สมเดจ็ พระพนั วษา ได้เคยทรงตดั สนิ ให้นางวันทองกลับไปอยู่กบั ขนุ แผน สง่ ทุกข์ เข้าร่วม สะเดาะกลอน ทำให้กลอนประตหู ลดุ ออกไดด้ ว้ ยคาถาอาคม เสด็จประพาสบวั ในทีน่ ีห้ มายถงึ การเสดจ็ ประพาสท้องทงุ่ ในฤดนู ้ำหลากท่ีมีน้ำเตม็ เปีย่ ม มดี อกบวั และพนั ธ์ไุ มน้ ้ำที่ งดงาม อาจเปน็ ฤดเู ล่นเรือหรอื เล่นดอกสร้อยสกั วา เสนียด ไมเ่ ปน็ มงคล แสงศรี มาจากคำว่า แสงสรุ ีย์ศรี หมายถงึ แสงอาทติ ย์ หวั หมนื่ ขนาดเล็ก ตำแหน่งขนาดเลก็ ถดั จากตำแหนง่ จางวางซ่ึงเปน็ ตำแหนง่ หวั หนา้ ข้ารับใช้ของเจา้ นายชัน้ บรมวงศห์ รือ ทรงกรมลงมา แหงนเถ่อ ค้างอยู่ อฐั กาล คอื อัฐเคราะห์ หมายถึง ตำปหนง่ ดาวเคราะห์ท้งั ๘ ตามตำราโหราศาสตร์ อัฒจันทร์ ในทน่ี ี้หมายถึง ชัน้ ทีต่ ัง้ เคร่ืองแกว้ ซงึ่ เปน็ ของประดบั บา้ น อาถรรพณ์ หมายถงึ ของที่ลงเลขยันต์คาถาแลว้ ฝงั ไวใ้ นดนิ โดยวธิ ใี สก่ น้ หลุมเสา เช่น เสาประตูบา้ น สำหรับ ป้องกันอันตราย เมื่อจม่นื ไวยจะเขา้ บา้ นขนุ ช้าง จงึ รา่ ยมนตรถ์ อนอาถรรพณเ์ สียก่อน เพราะถ้า อาถรรพณ์ของขนุ ชา้ งไม่เส่อื ม เครอื่ งรางของขลังรวมทัง้ เวทมนตรค์ าถาของจมนื่ ไวยจะเส่ือมความ ศักดิ์สิทธิเ์ ม่อื ผ่านประตูเข้าไป อุธจั จม่นื ไวยจะเส่ือมความศกั ด์สิ ทิ ธเ์ มอื่ ผา่ นประตูเข้าไปตกประหม่า

A s 0 A s 0 A s 0A s 0 ๒๕ วเิ คราะห์คณุ ค่าทางวรรณคี คุณค่าดา้ นเนอ้ื หา ในยุคสมยั หนึ่งๆมักนิยมเร่อื งราวที่เขา้ กบั ยุคสมัยน้นั ๆ เรอื่ งราวและเนอ้ื หาของวรรณคดี จะไมต่ ายตัวแตจ่ ะเปลี่ยนไปตาม สภาพการเปลี่ยนแปลงของสงั คม พฒั นาการของสงั คมจะเป็นเครอื่ งกำหนดเนือ้ หาของวรรณคดี คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ •พโิ รธวาทัง ย่งิ คิดเดือดดาลทะยานใจ                   ฉวยไดก้ ระดานชนวนมา ร่างฟอ้ งท่องเทยี บใหเ้ รียบร้อย                         ถอ้ ยคำถถ่ี ว้ นเป็นหนักหนา   •สลั ลาปังคพิสัย วนั น้ีแมจ่ ะลาพ่อพลายแลว้             จะจำจากลูกแกว้ ไปสญู สิ้น พอบา่ ยกจ็ ะตายลงถมดนิ                                   ผินหนา้ มาแม่จะขอชม  เกดิ มาไม่เหมือนกบั เขาอน่ื                              มิได้ช่นื เชยชิดสนิทสนม   •เสาวรจนีย์ ฟ้าขาวดาวเดน่ ดวงสวา่ ง                    จันทร์กระจ่างทรงกลดหมดมฆสิน้ จงึ เซน่ เหลา้ ข้าวปลาให้พรายกนิ                      เสกขมิ้นวา่ นยาเข้าทาตัว •นารปี ราโมทย์ จะฟูมฟักเหมอื นเมอ่ื อยู่ในกลางเถ่ือน จะเปน็ ตายง่ายยากไม่จากรัก             เจ้าเพอ่ื นเสน่หาจงอาลัย ขอโทษท่ีพผ่ี ดิ อย่าบิดเบือน                          

A s 0 A s 0 A s 0A s 0 ๒๖ •ภาพพจนอ์ ุปลักษณ์                                 เตา่ เตีย้ ดอกอยา่ ต่อใหต้ ีนสูง         มิใช่ยงู อย่ามาย้อนให้เหน็ ขัน                  ห่ิงหอ้ ยหรือจะแข่งแสงพระจนั ทร์                   อย่าปัน้ นำ้ ให้หลงตะลงึ เงา                                                                                       (ตอนนางวนั ทองด่าขุนช้าง) •ภาพพจน์อปุ มา                                เห็นคนนอนลอ้ มออ้ มเป็นวง            ประตูลัน่ ม่ันคงขอบรัว้ ก้ัน                  กองไฟสว่างดงั กลางวัน                                หมายสำคญั ตรงมาหน้าประตู                                                          (ตอนจมน่ื ไวยขึ้นเรอื นขุนช้างเพ่อื พามารดาไปอยดู่ ว้ ย) •ภาพพจน์อตพิ จน์ / อุปมา                              ครานน้ั ขุนชา้ งไดฟ้ งั วา่                    แค้นดังเลอื ดตาจะหลัง่ ไหล                  ดบั โมโหโกรธาทำว่าไป                             เรากไ็ ม่ว่าไรสุดแต่ดี                                                        (ขนุ ช้างทราบวา่ จม่ืนไวยมาพาตวั นางวนั ทองไปอยดู่ ว้ ย)  •ภาพพจน์สัทพจน์                     ใตเ้ ตียงเสียงหนูก็กุกกก            แมงมมุ ทมุ่ อกทร่ี มิ ฝา          ยิ่งหวาดหวั่นพร่ันตัวกลวั มรณา             ดงั วญิ ญาณ์นางจะพรากไปจากกาย (นางวนั ทองตืน่ จากฝันร้าย) คุณคา่ ด้านสังคม / คา่ นิยม ฺ - แสดงค่านยิ มและความเชื่อของคนในสังคมสมัยอยธุ ยา วรรณคดีเร่อื งนี้สะทอ้ นแสดงใหเ้ หน็ โลกทัศน์ของครอบครัว ขุนนางในสมัยกรงุ ศรอี ยุธยา และรัตนโกสินทร์วา่ มคี วามจงรกั ภักดตี อ่ องค์พระมหากษัตริย์ กษตั ริยใ์ นระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธิ ราชยงั มอี ำนาจอยู่เหนือกฎหมาย - ค่านยิ มความเช่ือเรื่องบาปกรรม เชื่อว่าความทกุ ข์ยาก เดือดร้อนด้วยเหตตุ ่างๆ นั้น เป็นผล มาจากกรรมเกา่ ทีท่ ำไว้ - ค่านยิ มในเรอื่ งไสยศาสตร์ แมจ้ ะนบั ถอื พทุ ธศาสนาแตก่ ็ยังเชอ่ื เรือ่ งภูตผปี ีศาจ คาถาอาคม เร่อื งโชคชะตาดวงของคน การ พง่ึ พาไสยศาสตร์เปน็ ส่วนมาก - ค่านยิ มความเชอ่ื ในจารตี ประเพณี ท่ปี ฏิบตั สิ ืบตอ่ กนั มา เชน่ หญิงตอ้ งมีสามคี นเดียว หญิงทม่ี สี ามหี ลายคนหรือมีสามี แลว้ ไปเปน็ ชกู้ บั ชายอน่ื ก็จะถกู ตราหนา้ วา่ เปน็ หญิงแพศยาหรือ กาลกิณี ไม่มีความเจรญิ - คา่ นิยมความเชื่อเรอ่ื งความฝนั ถือวา่ ไม่วา่ จะฝันดหี รอื ฝันร้าย ลว้ นแตเ่ ปน็ ลางบอกเหตทุ จี่ ะ เกดิ ขึ้นแกต่ น หรือคนใน ครอบครัว

A s 0 A s 0 A s 0A s 0 ๒๗ เกรด็ ความรู้ ด้านภูมศิ าสตร์ เร่อื งขนุ ช้างขนุ แผนนี้ กวีแต่งโดยไมไ่ ด้ยกเมฆเอาช่ือตำบลหมู่บ้านมากลา่ วลอยๆ แตอ่ าศยั ความจรงิ ท่ีเป็นอยู่ เลยทเี ดียว ทง้ั ชื่อสถานทีแ่ ละเวลาเดินทางกไ็ ม่ผิดความจริง นบั ว่าภูมิประเทศในเรอ่ื งขุนช้างขุนแผนถกู ต้อง แม่นยำมาก ในพระราชหตั ถเลขา พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว ครัง้ เสด็จประพาสทางลำนำ้ เมือง ชัยนาท เมือองสุพรรณ ทรงกล่าวถงึ ตอนพลายแก้ว ไปทัพว่า “ ปากชอ่ งทแ่ี มน่ ำ้ อ้อมเรยี กบางนางลาง เปน็ ทางซงึ่ ครอบครวั ขุนแผนขนึ้ มาสง่ ทัพ ซ่ึงข้ามแมน่ ้ำทีเ่ หนือพลับพลา วดั มว่ งนี้หน่อยหน่งึ แลว้ จงึ พากันลงไปปลูกโพธสิ์ ามตน้ ที่ใตพ้ ลับพลานี้ลงไป เร่ืองขุนชา้ งขุนแผน แผนทเ่ี ขา มัน่ คง ไมเ่ หลวไหลอย่างวงศ์ๆ จกั รๆ ” ด้านสงั คมไทย ในเรือ่ งนม้ี ีปรัชญาและความจริงของชีวติ ปรากฏอยู่มาก การดำเนนิ ชวี ิตของคนในเมอื งหลวงและในชนบทเปน็ อยา่ งไร เรือ่ งขุนช้างขุนแผนกลา่ วไวอ้ ยา่ งละเอยี ด แนวความคดิ ของคนทงั้ ชายและหญงิ ซ่งึ เราอาจยดึ ถอื เปน็ แนวทางการดำเนนิ ชวี ติ ได้ เช่น ชายมคี วามจงรกั ภกั ดตี ่อพระมหากษตั ริย์ หญิงมคี วามซ่อื สัตย์จงรกั ภักดีและเชื่อ ฟังอยใู่ นโอวาทของสามี คนมคี วามกตัญญู รคู้ ุณ เห็นคุณคา่ ของการศกึ ษา การรจู้ ักกาลเทศะ ฯลฯ ด้านไสยศาสตร์ เร่อื งขนุ ชา้ งขนุ แผนกล่าวถงึ เร่ืองนีไ้ ว้มากมายเกอื บจะตลอดท้งั เรอ่ื ง ตวั ละครดำเนินชวี ิตไปภายใตอ้ ทิ ธพิ ลของ ไสยศาสตร์ และโหราศาสตร์ ความรู้สึกนึกคดิ ของตัวละครในบางคร้งั ขน้ึ อย่กู บั ความเช่ือทางด้านนี้ และความรู้ ทางดา้ นนก้ี ็ทำให้เกิดความ สำเรจ็ ในการประกอบกิจกรรมหลายประการ จึงควรใช้วิจารณญาณในการศกึ ษา ควบคูก่ ันไปดว้ ย ดา้ นการศึกษาของเด็กไทย สมัยโบราณ การศกึ ษาในสมยั โบราณเน้นทก่ี ารศกึ ษาของเด็กชาย การที่จะเขา้ รบั การศกึ ษาได้ก็ต้องบวช พลายแกว้ แสดง ความจำนงท่ี จะบวชว่า “อยากจะเปน็ ทหารชาญชัย ให้เหมือนพอ่ ขุนไกรที่เปน็ ผี จงึ อ้อนวอนมารดาไดป้ รานี ลูกน้ีจะใคร่รวู้ ชิ าการ พระสงฆอ์ งค์ใดวชิ าดี แม่นี้จงพาลกู นีไ้ ปฝากทา่ น ให้เปน็ อุปชั ฌาย์อาจารย์ อธษิ ฐานบวชลกู เป็นเณรไว้” การศกึ ษาแผนโบราณของไทยนิยมใหก้ ารศกึ ษาทางดา้ นพทุ ธศึกษาแกช่ าย มวี ัดเปน็ สถานท่เี รยี น พระสงฆ์เป็นครู ค่านยิ ม ทางการศกึ ษา คอื ฝึกคนเข้ารับราชการ ส่วนการศึกษาของผูห้ ญงิ สมัยโบราณเน้นด้านเคหศาสตร์ เน่อื งจากไม่นิยมให้ลูกหลานที่ เปน็ ผู้หญิงออกไปเรียนหนังสือนอกบา้ น ลูกสาวชาวบา้ นจงึ ได้รับการถ่ายทอด ความร้จู ากมารดาหรือญาตผิ ูใ้ หญ่ที่อยู่ในบ้าน ในเรื่องขนุ ชา้ งขุนแผนจะพรรณนาความสามารถของสตรีในการ ฝมี อื และการครวั อยา่ งละเอยี ด เชน่ การแกะสลักมะละกอของ นางพิม การทำขนม การทำอาหาร ตวั ละครใน เรื่องขนุ ชา้ งขุนแผนอาจจะมีความสามารถในการอา่ นหนังสอื ออกเขยี นหนังสือได้

& s 0A s0 A s 0A s 0 ๒๘ แตผ่ แู้ ต่งไมไ่ ด้จงใจบรรยาย เก่ียวกบั การรหู้ นังสอื เลย ถา้ จะกล่าวถงึ ก็รวบรัดส้นั ๆ ตรงกันขา้ งกบั การศึกษาของเด็กชายซึ่งจะมกี าร พรรณนา ละเอียดลออตั้งแต่วนั ทพี่ าไปฝาก ระบชุ ือ่ สำนัก ชอ่ื อาจารยแ์ ละวชิ าท่เี รยี น แสดงวา่ สมยั โบราณเนน้ การศึกษา ของเด็ก ชายมากกวา่

& s 0A s0 A s 0A s 0 ๒๙ แผนผงั ตวั ละคร

A s 0 A s 0 A s 0A s 0 ๓๐ ภาพประกอบ

A s 0A s0 A s 0A s0 ๓๑ ภาคผนวก คณะผู้จดั ทำจดั การแบ่งหนา้ ท่ตี ามความถนดั ของแตล่ ะบุคคล คณะผู้จดั ทำรว่ มกันหารือเกยี่ วกับหัวขอ้ วรรณคดที ไ่ี ด้รบั คณะผจู้ ดั ทำรบั หนา้ ที่ทำงานตามหนา้ ทข่ี องตนที่ได้รบั มอบหมาย

A s 0A s0 A s 0A s 0 ๓๒ บรรณานกุ รม อ.วลยั พร  ถาอ้าย เร่อื งย่อ เรือ่ งขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอน ขนุ ชา้ งถวายฎกี า (ออนไลน์) ที่มา https://sites.google.com/a/web1.dara.ac.th/thai/1-wrrnkhdi/1-3-khun-chang-khunphaen-txn-khun- chang-thway-dika ค้นเมอ่ื ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๓ รสสุคนธ์ จัตวาภักดี วรรณคดไี ทย  เรอ่ื ง  ขุนช้างขนุ แผน (ออนไลน์) ที่มา https://sites.google.com/site/kruthingspk/khun-chang-khunphaen คน้ เมือ่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๓ ครเู กศศิริ คนึงคดิ เสภาเร่ือง ขุนชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา (ออนไลน)์ ทม่ี า https://sites.google.com/a/banraiwitthaya.ac.th/krucartoon/rabb-than-khxmul/bth-thi-1 คน้ เม่อื ๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ krunucharin ขุนช้างขุนแผนตอน ขุนชา้ งถวายฎกี า (ออนไลน)์ ทม่ี า https://kunchangkunpaneasy.simdif.com/page-3154055.html ค้นเมอื่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๓ Wanida เกรด็ ความรู้ (ออนไลน์) ทม่ี า http://nantayot-tmn.blogspot.com/2010/01/blog-post_8008.html คน้ เมื่อ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ วาดตะวัน ความเปน็ มาของเร่ืองขุนช้างขนุ แผน (ออนไลน)์ ท่มี า http://oknation.nationtv.tv/blog/ThaiTeacher/2011/06/22/entry-1 ค้นเมอ่ื ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๓ ขุนช้างขุนแผน (ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า) (ออนไลน)์ ทม่ี า https://sites.google.com/site/khunphaen2557/reuxng-yx ค้นเม่ือ ๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓ เสภาเรอื่ งขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนขุนชา้ งถวายฎกี า (ออนไลน์) ทมี่ า https://sites.google.com/site/phasathaionline62/bth-thi-1-sepha-reuxng-khun-chang-khunphaen- txn-khun-chang-thway-dika ค้นเมือ่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook