1 ปฏบิ ัติการท่ี 1 เรือ่ ง กล้องจลุ ทรรศน์ ส่วนประกอบและวธิ ใี ช้งานกล้องจลุ ทรรศน์ รายวชิ า ปฏบิ ตั ิการทางชีววทิ ยา ผูส้ อน คณุ ครวู ารณุ ี ไชยรงศรี ช่อื – สกุล.................................................................................... เลขท่ี.................หอ้ ง...................... ผลการเรียนรู้ บอกส่วนประกอบและอธิบายหนา้ ท่ีของส่วนประกอบของกล้องจุลทรรศน์ไดถ้ ูกตอ้ ง จุดประสงค์ 1. เพอื่ ศกึ ษาสว่ นประกอบและหน้าท่ขี องสว่ นประกอบต่างๆของกล้องจุลทรรศน์ 2. เพ่อื ฝึกทักษะการใชก้ ล้องจุลทรรศนแ์ บบแสง (Light microscope) อย่างถูกวธิ ี กลอ้ งจุลทรรศน์ เปน็ เครอ่ื งมือสำคัญของนักชวี วิทยา เพราะกล้องจุลทรรศน์ชว่ ยใหศ้ ึกษาโครงสร้างและ ส่วนประกอบของเซลล์และสิ่งมชี วี ิตเล็กๆ ได้ กล้องจลุ ทรรศน์แต่ละแบบจะให้กำลงั ขยายที่แตกตา่ งกนั ซ่ึงขึ้นอยู่กบั ประสิทธภิ าพและลำแสงท่ีใช้ กลอ้ งจลุ ทรรศน์ เป็นเคร่อื งมือท่ีสำคญั ในการศึกษาชวี วิทยาและชว่ ยให้เรามองเห็นใน ส่ิงทีเ่ ล็กมากๆ อีกด้วย ประเภทของกล้องจุลทรรศน์ ในปัจจุบนั กล้องจลุ ทรรศน์แบง่ ออกเป็น 3 ประเภทใหญๆ่ คอื 1. กลอ้ งจลุ ทรรศน์เลนส์เดี่ยว (simple light microscope) เป็นกล้องจุลทรรศน์ท่ีประกอบดว้ ยเลนส์เพยี ง เลนสเ์ ดยี ว มีกำลงั ขยายต่ำ ประมาณ 4-50 เทา่ ใชส้ ่องดูวตั ถุท่ีไมต่ ้องการกำลงั ขยายสงู มากนกั 2. กล้องจุลทรรศน์แบบเลนสป์ ระกอบ (compound microscope) เปน็ กล้องจลุ ทรรศนท์ ี่ประกอบดว้ ย เลนส์ตงั้ แต่ 2 เลนส์ขนึ้ ไป ปัจจบุ นั น้ีสามารถใหก้ ำลังขยายสูงสุดไดถ้ งึ 1,250 เทา่ โดยใชแ้ สงธรรมดา และ ถ้าใชแ้ สงสี ฟ้า จะเพ่มิ กำลังขยายไดถ้ ึง 5,000 เทา่ ซง่ึ กล้องจุลทรรศนแ์ บบเลนสป์ ระกอบ มีอยู่ 2 แบบ คอื กล้องจุลทรรศน์ใช้ แสงแบบธรรมดาและแบบสเตอริโอ 3. กล้องจุลทรรศน์แบบอเิ ลก็ ตรอน (electron microscope) มีกำลงั ขยายสูง สามารถปรับเปล่ยี น กำลงั ขยายได้โดยปรบั เปลย่ี นแรงดันไฟฟ้ามีกำลังขยาย 500-1,000,000 เท่า ซงึ่ มีอยู่ 2 แบบ คอื กล้องจลุ ทรรศน์ อิเล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope- TEM) และแบบส่องกราด (Scanning electron microscope-SEM) ส่วนประกอบของกล้องจลุ ทรรศน์ 1. ฐาน (base) ทำหนา้ ทีร่ บั น้ำหนกั ทงั้ หมดของกล้องจุลทรรศน์ มรี ปู รา่ งสเ่ี หล่ียม หรือวงกลม ที่ฐานจะมีปมุ่ สำหรับปิดเปดิ ไฟฟ้า 2. มอื จบั (arm) เปน็ ส่วนยดึ ลำกลอ้ งและฐานไว้ด้วยกนั ใช้เปน็ ที่จบั เวลาเคลือ่ นยา้ ยกลอ้ งจลุ ทรรศน์ 3. ลำกล้อง (body tube) เป็นสว่ นที่อยู่ต่อจากมือจับมลี กั ษณะเป็นท่อกลวงปลายดา้ นบนมเี ลนส์ใกล้ตาสวม อยู่ดา้ นบนอีกด้านหนึง่ มชี ดุ ของเลนส์ใกล้วตั ถุซึ่งติดอยูก่ บั จานหมุนท่ีเรียกวา่ Revolving Nosepiece
2 4. แท่นวางวตั ถุ (stage) เป็นแท่นสำหรบั วางสไลด์ตวั อยา่ งทต่ี อ้ งการศึกษา มลี ักษณะเป็นแทน่ ส่เี หลยี่ ม หรอื วงกลมตรงกลางมีรูให้แสงจากหลอดไฟส่องผ่านวัตถแุ ทน่ น้ีสามารถเล่อื นข้ึนลงไดด้ ้านในของแท่นวางวัตถุจะมีครปิ สำหรับยดึ สไลด์และมีอุปกรณ์ช่วยในการเลือ่ นสไลด์ เรยี กว่าMechanical Stage นอกจากนีย้ งั มสี เกลบอกตำแหน่ง ของสไลด์บนแทนวางวัตถุ ทำใหส้ ามารถบอกตำแหนง่ ของภาพบนสไลดไ์ ด้ 5. เลนส์รวมแสง (condenser) จะอยดู่ า้ นใต้ของแท่นวางวตั ถุ เปน็ เลนส์รวมแสง เพ่ือรวมแสงผ่านไปยงั วัตถุ ทีอ่ ยู่บนสไลด์ สามารถเลือ่ นขึ้นลงไดโ้ ดยมปี ุ่มปรบั 6. แหล่งกำเนดิ แสง (light source) อาจเปน็ กระจกเงาท่รี บั แสงจากภายนอก หรอื หลอดไฟท่ีติดอยูบ่ รเิ วณ ฐานกล้อง ในกรณีทเ่ี ป็นกล้องใชไ้ ฟฟา้ 7. ไอรสิ ไดอะแฟรม (iris diaphragm) คือ มา่ นปิดเปดิ รูรับแสง สามารถปรับขนาดของรูรบั แสงไดต้ าม ตอ้ งการ มีคันโยกสำหรับปรับขนาดรูรับแสงอยู่ดา้ นลา่ งใต้แทน่ วางวตั ถุ 8. เลนสใ์ กล้วตั ถุ (objective lens) จะติดอยู่เป็นชุดกับจานหมุน ซง่ึ เป็นส่วนของกลอ้ งที่ประกอบดว้ ยเลนส์ ซ่ึงรบั แสงที่สอ่ งผา่ นมาจากวัตถุที่นำมาศึกษา (Specimen) เมอื่ ลำแสงผ่านเลนส์ใกล้วัตถุ เลนส์ใกลว้ ัตถุจะขยายภาพ ของวัตถนุ ัน้ และทำให้ภาพที่ได้เปน็ ภาพจริงหัวกลบั ( Primary Real Image) โดยเลนส์ใกลว้ ตั ถุจะมีกำลงั ขยายต่าง ๆ กนั ได้แก่ - เลนส์ใกล้วตั ถกุ ำลงั ขยายตำ่ (Lower Power) กำลังขยาย 4X, 10X - เลนสใ์ กลว้ ัตถกุ ำลงั ขยายสูง (High Power) 40X - เลนสใ์ กล้วตั ถแุ บบ Oil Immersion ขนาด 100X 9. revolving nosepiece เปน็ ส่วนของกล้องทใ่ี ช้สำหรบั หมนุ เพอ่ื เปลย่ี นกำลงั ขยายของเลนสใ์ กลว้ ตั ถุ 10. เลนสใ์ กล้ตา (eyepiece lens หรือ ocular lens) เลนสน์ ้ีจะสวมอยูก่ บั ลำกล้อง มีตัวเลขแสดง กำลังขยายอยู่ดา้ นบน เช่น 5X, 10X หรอื 15X เปน็ ตน้ กล้องที่ใชใ้ นปฏบิ ัติการจลุ ชีววทิ ยาท่ัวไปน้นั มีกำลงั ขยายของ เลนสต์ าที่ 10X รนุ่ ท่ีมีเลนสใ์ กล้ตาเลนส์เดยี ว เรียก Monocular Microscope ชนิดท่ีมเี ลนส์ใกล้ตาสองเลนส์ เรียก Binocular Microscope 11. ปุม่ ปรบั ภาพหยาบ (coarse adjustment knob) ใช้เลือ่ นตำแหนง่ ของแท่นวางวตั ถุข้นึ ลง เม่ืออยู่ใน ระยะโฟกัส ก็จะมองเหน็ ภาพได้ ป่มุ นี้มีขนาดใหญจ่ ะอยู่ที่ด้านข้างของตัวกล้อง 12. ปุม่ ปรับภาพละเอยี ด (fine adjustment knob) เป็นปมุ่ ขนาดเล็กอยูถ่ ัดจากปมุ่ ปรับภาพหยาบออกมา ทางด้านนอกท่ีตำแหน่งเดียวกัน หรอื กล้องบางชนิดอาจจะอยูใ่ กล้ๆ กนั เมื่อปรบั ดว้ ยป่มุ ปรับภาพหยาบจนมองเห็น ภาพแลว้ จึงหมนุ ปมุ่ ปรับภาพละเอยี ดจะทำให้ได้ภาพคมชดั ยงิ่ ขน้ึ
3 วิธใี ชก้ ลอ้ งจุลทรรศน์ การใช้กล้องจุลทรรศนแ์ บบใชแ้ สง (Light microscope) มีวธิ ีใช้ดังน้ี 1. วางกลอ้ งให้ฐานอยู่บนพน้ื รองรับทเี่ รียบสม่ำเสมอเพื่อให้ลำกลอ้ งตั้งตรง 2. หมุนเลนส์ใกลว้ ตั ถุ (objective lens) อันทม่ี ีกำลงั ขยายต่ำสุดมาอยู่ตรงกบั ลำกลอ้ ง 3. ปรบั กระจกเงาใต้แท่นวางวตั ถใุ ห้แสงสะท้อนเข้าลำกล้องเตม็ ที่ 4. นำสไลด์ทจ่ี ะศึกษาวางบนแทน่ วางวัตถุ ให้วัตถุอย่ตู รงกลางบริเวณทแี่ สงผา่ น แลว้ มองดา้ นข้างตามแนวระดับ แท่นวางวตั ถุ ค่อยๆ หมนุ ปุม่ ปรับภาพหยาบ (coarse adjustment knob) ให้ลำกล้องเลื่อนมาอยู่ใกล้วตั ถุที่จะศึกษามาก ท่ีสดุ โดยระวงั อยา่ ให้เลนสใ์ กล้วัตถุสมั ผสั กบั กระจกปิดสไลด์ กลอ้ งจุลทรรศน์บางร่นุ เมื่อหมุนปมุ่ ปรับภาพหยาบลำกล้อง จะเคล่อื นทข่ี ้นึ และลงเขา้ หาเลนสใ์ กลว้ ัตถุ แต่กล้องบางรุน่ แทน่ วางวตั ถวุ ัตถุจะทำหน้าที่เลอ่ื นขึ้นลงเข้าหาเลนสใ์ กล้วตั ถุ 5. มองผ่านเลนสใ์ กล้ตา (eyepiece) ลงตามลำกลอ้ ง พร้อมกับหมุนปุ่มปรับภาพหยาบข้ึนช้าๆ จนมองเห็นวตั ถทุ ่ี จะศึกษาค่อนขา้ งชัดเจน แลว้ จึงเปล่ียนมาหมนุ ปรบั ปมุ่ ภาพละเอยี ด (fine adjustment knob) เพ่ือปรบั ภาพใหค้ มชัด อาจเลอื่ นสไลด์ไปมาช้างๆ เพ่ือให้สง่ิ ท่ตี ้องการศึกษามาอยู่กลางแนวลำกล้อง 6. ถ้าต้องการขยายภาพใหใ้ หญข่ ้ึน ใหห้ มุนเลนสใ์ กล้วตั ถุอันที่มกี ำลงั ขยายสูงขึ้นเข้ามาในแนวลำกลอ้ ง และไม่ ต้องขยับสไลดอ์ ีก แล้วหมนุ ปุ่มปรับภาพละเอียดเพอื่ ให้เหน็ ภาพชดั เจนขน้ึ 7. การปรบั แสงทีเ่ ข้าในลำกล้องให้มากหรือน้อย ใหห้ มนุ แผ่นไดอะแฟรม (diaphragm) ปรบั แสงตามต้องการ กล้องจลุ ทรรศน์ที่ใช้กันในโรงเรียนมีจำนวนเลนสใ์ กลว้ ตั ถุตา่ งๆ กนั ไป เชน่ 1 อัน 2 อนั หรือ 3 อัน และมีกำลงั ขยายตา่ ง ๆ กันไป อาจเป็นกำลงั ขยายต่ำสุด( x4) กำลังขยายขนาดกลาง (x10) และกำลงั ขยายขนาดสงู (x40 , x80) หรือ กำลังขยายสูงมาก ๆ ถึง x100 ส่วนกำลังขยายของเลนสน์ ั้นโดยท่ัวไปโดยทวั่ ไปจะเปน็ x10 แตก่ ็มีบางกล้องทีเ่ ป็น x5 หรือ x15 กำลังขยายของกลอ้ งจุลทรรศน์คำนวณไดจ้ ากผลคณู ของกำลัง ขยายของเลนส์ใกลว้ ัตถุกับกำลังขยายของเลนส์ ใกล้ตา ซง่ึ มีกำกับไวท้ ่เี ลนส์
4 8. ถา้ ตอ้ งการใหภ้ าพขยายใหญ่ขึ้นก็หมุนเลนส์อันท่ีกำลงั ขยายสูงข้นึ เข้าสูแ่ นวลำกล้อง แลว้ ปรบั ความคมชดั ด้วยปุ่มปรับภาพละเอยี ดเทา่ นนั้ 9. บันทกึ กำลังขยายโดยหาได้จากผลคูณดังท่ีกล่าวไวแ้ ลว้ 10. หลังจากใชก้ ล้องจุลทรรศนแ์ ลว้ ใหป้ รบั กระจกเงาให้อยู่ในแนวดงิ่ ตัง้ ฉากกับตัวกล้อง เลือ่ นที่หนบี สไลด์ ให้ตั้งฉากกับทวี่ างวัตถุ หมนุ เลนส์ใกล้วัตถุให้เป็นอนั ทีม่ กี ำลังขยายต่ำสดุ อยู่ในตำแหนง่ ของลำกล้อง และเล่ือนลำกล้อง ให้อยใู่ นตำแหน่งต่ำสดุ เชด็ ทำความสะอาดสว่ นที่เป็นโลหะดว้ ยผา้ นุม่ ๆและสะอาด แลว้ จึงนำกลอ้ งเขา้ เก็บในตำแหน่ง ท่ีเก็บกล้อง Numerical aperture (N.A.) เปน็ ค่าทแ่ี สดงความสามารถของเลนสท์ ี่สามารถแยกจดุ สองจุดท่ีอยใู่ กลก้ นั ออก จากกนั ได้ เรยี กว่าค่า resolving power หรอื คา่ resolution เลนส์ท่ีมคี า่ N.A. สูงจะสามารถแยกจุดสองจดุ ท่อี ยู่ใกล้ กนั ใหอ้ อกจากกันกวา่ เลนสท์ ี่มคี ่า N.A. ตำ่ เลนส์วัตถุท่มี ีกำลังขยายสูงจะมีคา่ N.A. สูงกวา่ เลนสว์ ตั ถุที่มกี ำลงั ขยายต่ำ เลนสว์ ัตถุที่มคี ุณภาพดีจะมีลักษณะเปน็ parfocus คือจะมีโฟกัสทใ่ี หภ้ าพชัดในระยะที่เท่ากัน ดังน้ันเมื่อ เปลี่ยนกำลังขยายของเลนส์วัตถุ จะไม่ตอ้ งปรับโฟกสั ของภาพใหม่ หรือปรบั เพยี งเลก็ น้อย เลนสใ์ กล้วตั ถุกำลงั ขยาย 100X จะมีระยะการทำงานของเลนส์วตั ถุ (working distance) สนั้ มาก จงึ ต้องหยดน้ำมนั ลงบนแผ่นสไลด์ ใหเ้ ลนส์ แชอ่ ยใู่ นนำ้ มนั เพอื่ ใหน้ ้ำมันเปน็ ตัวปรบั ดัชนีหักเหของแสงทีส่ ่องจากแผ่นสไลด์มาสเู่ ลนส์ใกล้วตั ถุ ขอ้ ควรระวังในการใชก้ ล้องจุลทรรศน์ เนอ่ื งจากกลอ้ งจลุ ทรรศน์เป็นอุปกรณ์ทมี่ ีราคาค่อนขา้ งสูงและมีสว่ นประกอบที่อาจเสยี หายง่ายโดยเฉพาะเลนส์ จงึ ต้องใช้และเกบ็ รักษาด้วยความระมดั ระวังใหถ้ ูกวธิ ี ซ่ึงมีวธิ ีปฏิบัตดิ ังนี้ 1. ในการยกกล้องและเคลื่อนย้ายกลอ้ ง ต้องใชม้ ือหน่งึ จบั ที่แขนและอีกมือหนึ่งรองทฐ่ี านของ กล้อง 2. สไลด์และกระจกปิดสไลด์ทีใ่ ช้ต้องไมเ่ ปียก เพราะอาจจะทำให้แทน่ วางวตั ถเุ กดิ สนมิ และเลนสใ์ กล้วตั ถุ อาจขึ้นราได้ 3. เมื่อต้องการหมนุ ป่มุ ปรับภาพหยาบต้องมองด้านขา้ งตามแนวระดับแทน่ วางวัตถุ เพ่ือป้องกันการกระทบ ของเลนส์ใกลว้ ตั ถุกับกระจกสไลด์ ซง่ึ อาจทำใหเ้ ลนส์แตกได้ 4. การหาภาพต้องเริม่ ดว้ ยเลนส์ใกล้วตั ถทุ ีม่ ีกำลังขยายต่ำสดุ กอ่ นเสมอ 5. เมือ่ ต้องการปรบั ภาพใหช้ ัดขน้ึ ใหห้ มุนเฉพาะปมุ่ ปรับภาพละเอยี ดเทา่ นนั้ เพราะถ้าหมุนปุ่มปรับภาพหยาบ จะทำใหร้ ะยะภาพหรือจุดโฟกัสของภาพเปลย่ี นไปจากเดิม 6. ห้ามใช้มือแตะเลนส์ ควรใชก้ ระดาษเช็ดเลนส์ในการทำความสะอาดเลนส์ 7. เม่ือใช้เสรจ็ แลว้ ต้องเอาวัตถทุ ศี่ ึกษาออก เช็ดแท่นวางวตั ถแุ ละเชด็ เลนสใ์ ห้สะอาด หมุนเลนสใ์ กล้วัตถุ กำลังขยายตำ่ สดุ ใหอ้ ย่ตู รงกลางลำกล้อง และเลอื่ นลำกลอ้ งลงต่ำสุด ปรบั กระจกใหอ้ ยู่ในแนวตัง้ ฉากกับแทน่ วางวัตถุ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุน่ เกาะ แลว้ เก็บใสก่ ล่องหรอื ตู้ให้เรยี บรอ้ ย
5 อปุ กรณ์ 1. กลอ้ งจลุ ทรรศน์แบบใช้แสงชนิดเลนส์ประกอบ 2. กระดาษและนำ้ ยาเช็ดเลนส์ 3. กระจกสไลด์ (slide) 4. แผน่ กระจกปิดสไลด์ (cover glass) 5. กระดาษหนังสือพมิ พ์ทม่ี ีตัวอักษร วิธีการศกึ ษาภาพทีเ่ กดิ ข้ึนจากกล้องจุลทรรศน์ 1. วางกล้องจลุ ทรรศน์ในที่ๆต้องการหมนุ เลนส์วตั ถกุ ำลงั ขยายต่ำสุดใหอ้ ยู่ในตำแหนง่ ใชง้ านปรับแสงให้สวา่ ง เต็มที่ 2. วางสไลดม์ ีกระดาษพิมพ์ตัวอักษร ลงบนแท่นวางวัตถขุ องกลอ้ งจลุ ทรรศน์ใชก้ ำลงั ขยายตำ่ สุดหาภาพ และ ปรบั ภาพใหเ้ หน็ ชดั เจน วาดรปู และบอกกำลงั ขยาย 3. เปล่ียนเลนสว์ ตั ถุให้เปน็ กำลงั ขยายสงู ขึ้นสอ่ งดูวัตถปุ รับภาพใหเ้ ห็นชัดเจนอีกครง้ั 4. ลองส่องดตู วั อักษรบนกระดาษหนงั สือพมิ พ์สังเกตลักษณะตัวอักษร ท่ีเหน็ ในกล้องกับตวั อักษรท่เี หน็ ดว้ ย ตาเปล่า 5. เลือ่ นกระดาษหนงั สอื พิมพ์ไปทางซ้าย ขวา หนา้ หลัง และสงั เกตภาพในกล้องท่เี คลือ่ นไป ตอนที่ 1 ส่วนประกอบของกล้องจุลทรรศน์
6 ตอนท่ี 2 การใช้กลอ้ งจุลทรรศน์ 1. ภาพตวั อักษรที่เห็นจากกล้องจลุ ทรรศน์ ภาพ ..............................................................กำลงั ขยาย....................... 2. หากดูอกั ษร “ก” ส่องผ่านกล้องจลุ ทรรศน์ จะเหน็ อักษร ก จะมลี ักษณะอย่างไร ....................................................................................... .................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ 3. จงอธบิ ายเมอ่ื ขยับกระดาษไปในทิศทางต่างๆ ว่าภาพในกล้องจุลทรรศน์เคลอ่ื นที่ไปอย่างไร (อธิบายโดยละเอียด) ซ้าย ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................... ...................................................... ......................................................................................................................................................................................... ขวา ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ หน้า ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................. ........................................................... ................................. หลัง ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................................ .................................
7 ตอนที่ 3 เรอ่ื ง เซลลแ์ ละโครงสร้างของเซลล์ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือศึกษารปู ร่างและสว่ นประกอบของเซลล์ 2. เพอื่ เปรยี บเทียบรูปร่างและส่วนประกอบของเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์ อุปกรณ์และสารเคมี 1. เซลล์เยือ่ บขุ ้างแกม้ 2. ไม้จ้มิ ฟัน 3. แผน่ ปิด 4. แผน่ สไลด์ 5. กล้องจุลทรรศน์ 6. หลอดหยด 7. ทชิ ชู่ 8. มีด 9. บกิ เกอร์ 10. น้ำกลนั่ 11. สารละลายไอโอดีน 12. เซลลว์ า่ นกาบหอย วิธกี ารทดลอง เซลล์ว่านกาบหอย 1. นำกลอ้ งจลุ ทรรศฯวางไวบ้ นโต๊ะ เปิดสวิตส์เตรียมทำการทดลอง 2. ใสน่ ้ำในบกิ เกอร์ที่เตรยี มไว้ แล้วกรีดบริเวณหลังใบของวา่ นกาบหอยดว้ ยมีด กรดี เอาใบเฉพาะตรงท่ีเป็นสีม่วง พยายามไม่ใหต้ ิดสีเขยี ว แล้วนำปวางลงบนแผ่นสไลด์ 3. นำหลอดหยดแล้วดูดน้ำกลั่นจากบกิ เกอร์ท่ีเตรยี มไว้ มาหยดลงบนแผน่ สลด์ทม่ี ีเซลลว์ า่ นกาบหอยวางไว้ ประมาณ 2 หยด 4. ใช้แผ่นปดิ ปดิ แผ่นสไลด์ โดยเรมิ่ ปิดจากการให้ด้านหนึ่งของกระจกปิดอย่ตู ดิ กบั น้ำบนแผน่ สไลด์ แลว้ คอ่ ยๆปิด ในการปดิ ควรทำมมุ 45 องศาเซลเซยี ส แล้วปิดลงเร่ือยๆจนแนบสนิท 5. นำแผ่นสไลดไ์ ปวางบนแทน่ วัตถุที่กล้องจลุ ทรรศน์ ปรับแสง ปรบั ความหยาบ และความชัดของกล้องจลุ ทรรศน์ ใหอ้ ยูใ่ นกำลังขยายทเ่ี หมาะสม 6. การใช้กล้องจลุ ทรรศน์ส่องดเู ซลล์ ควรเรม่ิ จากกำลังขยายต่ำสดุ ที่ 10x 40x และ100x ตามลำดับ 7. สงั เกตภาพท่ีได้ จากนั้นบันทึกและสรปุ การทดลอง เซลล์เย่ือบุข้างแก้ม 1. นำไม้จิ้มฟนั ขดู บรเิ วณกระพงุ้ แกม้ แลว้ นำมาวางบนแผน่ สไลด์ หลงั จากนนั้ นำสารละลายไอโอดีนความเข้มขน้ รอ้ ยละ 5 หยดลงบนแผ่นสไลด์ 2 หยด แล้วใชแ้ ผ่นปดิ ปดิ แผน่ สไลด์ วิธีการใชเ้ หมอื นกับเซลลว์ า่ นกาบหอย 2. หากมีสารละลายไอโอดีนออกมาขา้ งนอก ควรใช้กระดาษทิชช่ซู ับออก 3. นำแผ่นสไลด์ไปวางบนแท่นวัตถุ ส่องดู ปรับภาพตามท่ีต้องการ
8 4. บันทกึ และสรุปผลการทดลอง 5. เม่ือทำการทดลองเสร็จแล้ว ควรทำความสะอาดแผ่นสไลด์ใหเ้ รียบรอ้ ย แล้วปดิ สวิตส์กล้องจลุ ทรรศน์ และเกบ็ ใส่ตใู้ ห้เรยี บรอ้ ย ผลการทดลอง ช่ือภาพ..........................กำลังขยายเลนสว์ ตั ถุ …10X..... ชือ่ ภาพ..........................กำลงั ขยายเลนสว์ ตั ถุ…40X..... ขนาดกำลังขยายของภาพ.............................................. ขนาดกำลงั ขยายของภาพ.............................................. ชือ่ ภาพ..........................กำลังขยายเลนส์วตั ถุ …10X..... ชือ่ ภาพ..........................กำลงั ขยายเลนส์วตั ถุ …40X..... ขนาดกำลังขยายของภาพ.............................................. ขนาดกำลงั ขยายของภาพ.............................................. สรุปและอภิปรายผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: