สรปุ องคค์ วามรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี น วิชา การจดั การเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรร์ ะดบั มธั ยมศกึ ษา นางสาวชลธชิ า ศรเี กษม รหสั 62003161003 ชนั้ ปีที่ 3 สาขาวทิ ยาศาสตรท์ ว่ั ไป
ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นการสอน พฒั นาการของเดก็ มธั ยม - เสียงเริ่มแตกหนุ่ม ดา้ นร่างกาย - เดก็ ชายอวยั วะเพศเติบโตข้ึนมาก เริ่มมีข้ึน - เดก็ ผหู้ ญิงมีประจาํ เดือนกนั เป็นส่วนใหญ่ - ฝันเปี ยกในเพศชาย ดา้ นสงั คม - แยกกิจกรรมเพศใครเพศมนั - เดก็ ผหู้ ญิงยงั เกาะกนั เป็นกลุ่ม - เริ่มจะทาํ อะไรดว้ ยกนั ในครอบครัวนอ้ ยลง - ปฏิบตั ิต่อเพอ่ื นดีกวา่ คนในบา้ น - อารมณ์อ่อนไหว ดา้ นอารมณ์ - อารมณ์จะแปรปรวนง่าย - ถดถอยเขา้ สู่โลกของตวั เอง - เรียนรู้ลึกซ้ึงข้ึน - เกบ็ เน้ือเกบ็ ตวั ชอบหมกอยคู่ นเดียวนานๆ - ก่อรูปความคิด - เริ่มเห็นตวั ตนของตนเองปรากฏข้ึน ดา้ นสตปิ ัญญา - มีสาํ นึกตอ้ งการทาํ ใหส้ าํ เร็จ - เลิกสนใจเร่ืองแบบเดก็ ๆ
ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นการสอน การศกึ ษารายงานการวิจยั ส่วนประกอบ ส่วนหน้า ประกอบดว้ ย ปกหนา้ ปกใน บทคดั ยอ่ กิตติกรรมประกาศ สารบญั สารบญั ตาราง สารบญั ภาพประกอบ ส่วนเนื้อเร่ือง ประกอบไปดว้ ย 5 บท บทท่ี 1 บทนาํ ประกอบดว้ ย - ความเป็นมาและความสาํ คญั ของปัญหา - วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั - ขอบเขตของการวจิ ยั (ขอบเขตเป็นการสร้างประดิษฐแ์ ละการประเมินประสิทธิภาพของ สิ่งประดิษฐ)์ - ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ บทท่ี 2 แนวคิดทฤษฎีและงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง บทที่ 3 วธิ ีการด าเนินการวิจยั บทที่ 4 ผลการวิจยั บทที่ 5 สรุป อภิปราย และขอ้ เสนอแนะ ส่วนของอ้างองิ ประกอบไปดว้ ย บรรณานุกรม ภาคผนวก ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์ขอ้ มูล รายนามผทู้ รงคุณวฒุ ิท่ี ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวจิ ยั ประเภท รายการการวจิ ยั โดยทว่ั ไปจาํ แนกได้ 3 รูปแบบ คือ 1.การเขียนรายงานการวจิ ยั แบบยอ่ หรือบทคดั ยอ่ 2.การเขียนรายงานการวิจยั แบบสรุป 3.การเขียนรายงานการวจิ ยั แบบฉบบั สมบูรณ์
ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นการสอน 01 ก่อนที่จะทาํ การเขียนแผนจดั การเรียนรู้ เราควรที่จะทาํ การวเิ คราะห์หลกั สูตรสาํ หรับการจดั ทาํ หน่วยการ เรียนรู้ ตารางการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และกรอบแนวคิดการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ยอ่ ยก่อน เพื่อใหง้ ่ายต่อการเขียนแผนการจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อๆไป และทาํ ใหก้ ารเขียนแผนจดั การเรียนรู้มี ขอ้ ผดิ พลาดนอ้ ยท่ีสุด 02 กาํ หนดจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ตอ้ งกาํ หนดใหค้ รอบคลุมท้งั 3 ดา้ น คือ 1. ดา้ นความรู้ ความรู้ต่างๆ ท่ีผเู้ รียนไดร้ ับจากกิจกรรมการเรียนรู้ 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ เนน้ ประเมินดา้ นทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ และทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 3. ดา้ นเจตคติ เนน้ เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 03 ก่อนการเขียนแผนครูควรท่ีจะวเิ คราะห์กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ก่อนวา่ ควรใชเ้ ทคนิคหรือรูปแบบใดในการ ออกแบบกิจกรรมใหเ้ หมาะสม และสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคใ์ นการจดั การเรียนรู้ของแผนน้นั ๆ รวมท้งั ครู ตอ้ งจดั สร้างส่ือการสอน/นวตั กรรม ในกิจกรรมน้นั ๆดว้ ย โดยใหค้ าํ นึงถึงบริบทของโรงเรียน
ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นการสอน 04 การวดั และการประเมินในแผนจดั การเรียนรู้ควรเขียนใหช้ ดั เจนวา่ ประเมินดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ น เจตคติอยา่ งไร ใชเ้ ครื่องมืออะไรในการประเมิน และควรระบุเกณฑใ์ นการประเมินใหช้ ดั เจนวา่ ผา่ นเกณฑ์ แบบไหน(ร้อยละ หรือ ระดบั ) 05 ในการวดั และประเมินผเู้ รียนน้นั ครูตอ้ งประเมินผเู้ รียนในระหวา่ งปฏิบตั ิกิจกรรม เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่ตรงตามความจริงที่สุด 06 บนั ทึกหลงั การสอน เป็นการนาํ ปัญหาท่ีพบหรือส่งผลกระทบต่อตวั ผเู้ รียนหรือการจดั กิจกรรมในช้นั เรียน ท้งั ดา้ นพฤติกรรมของผเู้ รียน ดา้ นการจดั การเรียนการสอน เพ่อื นาํ มาหาสาเหตุ และปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ี ยง่ิ ข้ึน https://education.kapook.com/view14962.html
ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นการสอน 07 ไดเ้ รียนรู้รูปแบบการจดั การเรียนรู้แบบ STEAM คือ การจดั การเรียนรู้บูรณาการ 5 สาขาวชิ า ไดแ้ ก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์ ศิลปศึกษา และคณิตศาสตร์ อนั นาํ ไปสู่การแกไ้ ขปัญหา การสร้างสรรคน์ วตั กรรมใหม่ การจดั การเรียนรู้แบบ STEAM ท่ีมีดว้ ยกนั 5 ข้นั คือ 1. กาํ หนดปัญหา 2. สืบคน้ ขอ้ มูล/ระดมความคิดหาวธิ ีแกไ้ ขปัญหา 3. ออกแบบวธิ ีแกไ้ ขปัญหาที่ดีที่สุด 4. ทดสอบวิธีแกไ้ ขปัญหา 5. ประเมินวิธีแกไ้ ขปัญหา 08 ไดเ้ รียนรู้การจดั การเรียนรู้แบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน เป็นกระบวนการจดั การเรียนรู้โดยเร่ิมตน้ จากปัญหาท่ี เกิดข้ึน ซ่ึงตอ้ งเป็นปัญหาที่ใกลต้ วั และพบเจอในชีวติ ประจาํ วนั เพราะผเู้ รียนจะรับทราบและเขา้ ถึง ผเู้ รียนไดง้ ่าย และสร้างองคค์ วามรู้ใหเ้ กิดข้ึนโดยใชก้ ระบวนการทาํ งานแบบกลุ่ม เพอื่ ใหเ้ กิดการ แกป้ ัญหาดงั กล่าว ทาํ ใหต้ วั ของปัญหาน้นั คือจุดสาํ คญั ของการจดั การเรียนรู้รูปแบบน้ี การจดั การเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐานน้นั ประกอบดว้ ย 6 ข้นั ตอน อนั ไดแ้ ก่ ข้นั ที่ 1 กาํ หนดปัญหา ข้นั ท่ี 2 ทาํ ความเขา้ ใจกบั ปัญหา ข้นั ที่ 3 ดาํ เนินการศึกษาคน้ ควา้ ข้นั ท่ี 4 สงั เคราะห์ความรู้ ข้นั ท่ี 5 สรุปและประเมินคา่ ของคาํ ตอบ ข้นั ท่ี 6 นาํ เสนอและประเมินผลงาน
ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นการสอน 09 ไดฝ้ ึกการเขียนแผนโดยเทคนิคการจดั รูปแบบการจดั การเรียนรู้แบบ STEAM โดยใช้ ปัญหาเป็นฐาน ซ่ึงผสู้ อนควรท่ีจะเปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีสิทธิเลือกหรือเสนอปัญหาท่ี ผเู้ รียนสนใจเอง เพ่อื ท่ีจะใหผ้ เู้ รียนไดเ้ กิดกระบวนการคิดภายในตนเอง และยงั สามารถทาํ ใหผ้ เู้ รียนไดร้ ู้จกั กลา้ ที่จะแสดงออก กลา้ ที่จะแสดงความคิดเห็น ซ่ึงส่ิงพวกน้ีน้นั จะทาํ ให้ ผเู้ รียนไดเ้ กิดการเรียนรู้ท่ีดีมากข้ึน https://properea.com/active-learning-02-03-2021/ วชิ า การจดั การเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรร์ ะดบั มธั ยมศึกษา
Thank you
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: