Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การสร้างหนังสือ Interactive E-Book Online วิชา การศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน

การสร้างหนังสือ Interactive E-Book Online วิชา การศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน

Published by fonsabpang, 2021-06-07 04:58:40

Description: วัตถุประสงค์ของการจัดทำหนังสือ Interactive E-Book Online วิชา การศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน
1.เพื่อให้นักเรียนทำการศึกษาค้นคว่าเพิ่มเติมจากหนังสือ Interactive E-Book Online วิชา การศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน
2.เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มากขึ้น

Keywords: Interactive E-Book,การศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน

Search

Read the Text Version

การศึกษาเพื่อพฒั นาชุมชน

ความหมายของการศกึ ษา การศึกษา หมายถึง การสร้างคนใหม้ ีความรู้ ความสามารถมีทกั ษะพ้ืนฐานที่จาเป็นมี ลกั ษณะนิสยั จิตใจที่ดีงาม มีความพร้อมที่จะต่อสูเ้ พื่อตนเองและสงั คม มีความพร้อมที่จะ ประกอบการงานอาชีพได้ การศึกษาช่วยใหค้ นเจริญงอกงาม ท้งั ทางปัญญา จิตใจ ร่างกาย และสงั คม

ความหมายของการพฒั นา การพฒั นา หมายถึง การเปล่ียนแปลงท่ีมีการกระทาใหเ้ กิดข้ึน หรือมีการวางแผนกาหนดทิศทาง ไวล้ ่วงหนา้ โดยการเปล่ียนแปลงน้ีตอ้ งเป็นไปในทิศทางท่ีดีข้ึนถา้ เปล่ียนแปลงไปในทางที่ไม่ดีก็ ไม่เรียกวา่ การพฒั นา

ความหมายของการพฒั นาชมุ ชน การพฒั นาชุมชน หมายถึง กระบวนการเปลี่ยนแปลงคนและชุมชนใหด้ ีข้ึน โดยใชพ้ ลงั และความ ร่วมมือจากคนในชุมชนและหน่วยงานของรัฐและองคก์ รในชุมชน เพื่อปรับปรุงแกไ้ ขปัญหาและ สร้างสรรคช์ ุมชนใหเ้ กิดความกา้ วหนา้ ท้งั ในดา้ นคุณภาพชีวติ ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ สงั คม การเมือง การปกครอง โดยมุ่งยกระดบั มาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวติ ของประชาชน

แนวคดิ พืน้ ฐานในการพฒั นาชมุ ชน 1. การมีส่วนร่วมของประชาชน 2. การช่วยเหลือตนเอง 3. ความคิดริเริ่มของประชาชน 4. ความตอ้ งการของชุมชน 5. การศึกษาภาคชีวิต 6. การใชท้ รัพยากรในชุมชน 7. การร่วมมือกนั ระหวา่ งรัฐกบั ประชาชน 8. การพฒั นาแบบบูรณาการ 9. ความสมดุลในการพฒั นา 10. การพ่งึ ตนเองของชุมชน 11. ขีดความสามารถของชุมชนและรัฐบาล

ประเภทของการพฒั นาชมุ ชน โดยพิจารณาจากความสมั พนั ธ์ของคนในชุมชน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1. ชุมชนชนบท เป็นชุมชนท่ีอยใู่ นเขตชนบทซ่ึงมีความหนาแน่นของประชากรนอ้ ยผอู้ ยอู่ าศยั มีความสมั พนั ธ์ อนั ดีต่อกนั มีชีวติ ความเป็นอยคู่ ลา้ ยคลึงกนั ยดึ ดมน่ั ในขนบธรรมเนียมประเพณี มีอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่ เก่ียวขอ้ งกบั เกษตรกรรม 2. ชุมชนเมือง เป็นชุมชนท่ีมีความหนาแน่นของประชากรมากอาคารบา้ นเรือนหนาแน่น มีความเจริญกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยสี ิ่งแวดลอ้ มเป็นสิ่งแวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึนมากกวา่ สิ่งแวดลอ้ มตามธรรมชาติอาชีพมีมากมายหลายอาชีพ แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวขอ้ งกบั อุตสาหกรรม การคา้ ขายและการ บริการ

ประเภทของการพฒั นาชมุ ชน การแบ่งชุมชนตามระดบั การพฒั นาโดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท 1. ชุมชนดอ้ ยพฒั นา เป็นชุมชนที่สมาชิกยงั ไม่พร้อมในการพฒั นา 2 ชุมชนพร้อมพฒั นา เป็นชุมชนท่ีสมาชิกมีความพร้อมพ้ืนฐานในการพฒั นา 3. ชุมชนกาลงั พฒั นา เป็นชุมชนท่ีสมาชิกร่วมมือร่วมใจผนึกกาลงั กนั เพือ่ ปรับปรุงเปล่ียนแปลง 4. ชุมชนเร่งรัดพฒั นา เป็นชุมชนท่ีต่อเนื่องจากชุมชนกาลงั พฒั นาประสบการณ์ สามารถนาไปใชใ้ นการ ดาเนินงานพฒั นาชุมชนใหส้ าเร็จลุล่วงไปไดอ้ ยา่ งรวดเร็วโดยไม่มีผลกระทบในทางเสียหายต่อชุมชน 5. ชุมชนพฒั นา เป็นชุมชนท่ีบรรลุวตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ สามารถดารงลกั ษณะดงั กล่าวไว้ ไดต้ ลอดไปดว้ ยศกั ยภาพภายในชุมชนเอง

ลกั ษณะของการพฒั นาชมุ ชน 1. การพฒั นาดา้ นการดาเนินงานโดยคนและใชท้ รัพยากรในชุมชนเป็นสาคญั 2. การพฒั นาเป็นการร่วมมือระหวา่ งคนในชุมชนดว้ ยกนั 3. การพฒั นาเป็นการเปล่ียนแปลงที่มีเป้าหมายและทิศทาง 4. การพฒั นาเกิดจากความต้งั ใจและการกระทาของมนุษย์ 5. การพฒั นาเป็นการพฒั นาคุณภาพของคนในชุมชน 6. การพฒั นาเป็นกระบวนการใหก้ ารศึกษาตลอดชีวติ 7. การพฒั นาเป็นกระบวนการจดั องคก์ รหรือกลุ่ม 8. การพฒั นาเป็นการนากลวธิ ีหรือวธิ ีการต่างๆมาใชเ้ ป็นการสร้างผนู้ า การสร้างกลุ่ม การเสริมสร้างทกั ษะความสามารถในดา้ นต่างๆ 9. การพฒั นามีลกั ษณะเป็นประชาธิปไตย เปิ ดโอกาสใหค้ นในชุมชนเป็นผกู้ าหนดวถิ ีการดารงชีวติ ของตนเอง

ลกั ษณะของการพฒั นาชมุ ชน 10. เป็นการพฒั นาแบบองคร์ วม คือ ดาเนินการพฒั นาทุก ๆ ส่วนของชุมชนไปพร้อมกนั อยา่ งมีคุณภาพ 11. เป็นการพฒั นาแบบยง่ั ยนื คือ การพฒั นาท่ีตอบสนองความตอ้ งการในปัจจุบนั โดย ไม่ส่งผลกระทบต่ออนาคต 12. มีลกั ษณะเป็นการบริหารจดั การ 13. เป็นการนายทุ ธศาสตร์หรือกลวธิ ีการต่าง ๆ มาใช้ 14. มีลกั ษณะเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ 15. เป็นการมีส่วนร่วมของสมาชิกหรือคนในชุมชนในทุกข้นั ตอน

ความสาคญั ของการพฒั นาชมุ ชน การพฒั นาชุมชนมีความจาเป็นอยา่ งยงิ่ ท่ีจะช่วยลดช่องวา่ งทางสงั คมและขจดั ปัญหาความยากจนใน ชุมชนใหล้ ดนอ้ ยลง ซ่ึงจาเป็นตอ้ งอาศยั ความร่วมมือจากทุกฝ่ าย ท้งั ภาครัฐบาล เอกชน องคก์ รชุมชน นกั วชิ าการ และองคก์ รธุรกิจ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ภาครัฐบาล ซ่ึงเป็นองคก์ รหลกั ในการพฒั นาตอ้ งให้ ความสาคญั ต่อการพฒั นา โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การพฒั นาโดยการบรรจุไวใ้ นแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติ ซ่ึงเป็นแนวทางและมีมาตรฐานในการปฏิบตั ิเป็นข้นั ตอนและมีความต่อเน่ือง เพื่อขจดั ปัญหา ตาม โครงการที่กาหนด

แนวคดิ ในการจดั การศกึ ษาของชมุ ชน แนวคิดในการจดั การศึกษาของชุมชนแบ่งออกเป็น 5 แนวคิด ดงั น้ี 1. แนวคิดการจดั การศึกษาผา่ นบทบาทของสถาบนั ทางสงั คม 2. แนวคิดการจดั การศึกษาผา่ นขนบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรม 3. แนวคิดการใชแ้ หล่งการเรียนรู้ 4. แนวคิดการจดั เวทีการเรียนรู้ 5. แนวคิดการใชโ้ รงเรียนเป็นแหล่งการจดั การเรียนรู้

บทบาทของโรงเรยี นในการจดั การศกึ ษาเพือ่ พฒั นาชมุ ชน 1.การบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของชุมชนทาไดโ้ ดยร่วมมือกบั ชุมชนกาหนดเป้าหมายในการจดั การศึกษาของโรงเรียนเพ่ือ ตอบสนองความตอ้ งการของชุมชน 2. การจดั การเรียนการสอนที่ใชเ้ น้ือหาสาระในชุมชนทาไดโ้ ดยจดั เป็นบทเรียนรายวชิ า หรือหลกั สูตรสถานศึกษาโดยนาสาระของชุมชน เขา้ ไปบูรณาการในการจดั การเรียนการสอน 3. การจดั กิจกรรมเสริมหลกั สูตรเป็นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่นอกเหนือจากบทเรียน มีวตั ถุประสงคท์ ี่มุ่งเนน้ ใหน้ กั เรียนไดท้ ากิจกรรม ร่วมกบั ชุมชน 4. การจดั แหล่งการเรียนรู้เพอ่ื ใชใ้ นการจดั การศึกษาใหก้ บั นกั เรียนเป็นการใหบ้ ริการจดั การเรียนรู้กบั ชุมชน สามารถทาไดโ้ ดยการจดั ทาศูนยข์ อ้ มูลทอ้ งถ่ิน พพิ ธิ ภณั ฑช์ ุมชน การจดั สวนสมุนไพร การจดั ทาอุทยานตน้ ไมใ้ นวรรณคดี การอนุรักษม์ รดกไทยในวดั เป็นตน้ 5. การจดั กิจกรรมระหวา่ งโรงเรียนวดั ชุมชน เพื่อจดั กระบวนการเรียนรู้ในชุมชน สามารถทาไดโ้ ดยดาเนินการจดั ทาโครงการรณรงค์ แกไ้ ขปัญหาของชุมชน

บทบาทหนา้ ทขี่ องโรงเรยี นต่อชมุ ชนตามที่ กฎหมายกาหนด 1) บทบาทในการจดั กระบวนการเรียนรู้และพฒั นากระบวนการเรียนการสอนใหม้ ีประสิทธิภาพ 2) บทบาทในการประเมินผเู้ รียน 3) บทบาทในการจดั สรรโอกาสการเขา้ ศึกษาต่อ 4) บทบาทในการพฒั นาหลกั สูตร 5) บทบาทในการประสานความร่วมมือกบั ครอบครัวชุมชน สงั คมเพื่อการจดั การศึกษา 6) บทบาทในการประกนั คุณภาพการศึกษา 7) บทบาทในการระดมทรัพยากรและบริหารจดั การทรัพยากรเพอ่ื การจดั การศึกษา

บทบาทหนา้ ทขี่ องโรงเรยี นต่อชมุ ชนตาม แนวคดิ ของนักวชิ าการ 1) บทบาทในการใหก้ ารศึกษาอบรมแก่บุคลากรในชุมชน 2) บทบาทในการถ่ายทอดและส่งเสริมวฒั นธรรมประเพณีของชุมชน 3) บทบาทในการบูรณาการและสร้างสมดุลใหก้ บั ชุมชนและสงั คม 4) บทบาทในการเป็นแหล่งวทิ ยาการและขมุ ปัญญาของชุมชน 5) บทบาทในการเป็นศูนยป์ ระสานงานของชุมชนกบั หน่วยงาน 6) บทบาทในการพฒั นาชุมชนใหก้ า้ วหนา้ อยา่ งต่อเนื่อง

คาถาม 1.จงอธิบายความหมายของการศึกษา พอสงั เขป 2.การเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ มีสาเหตุต่าง ๆ หลายประการดงั ต่อไปน้ี คือ 3.นกั ศึกษาคิดวา่ “การพฒั นาชุมชน” มีความหมายวา่ อยา่ งไร? 4.จงบอกแนวคิดพ้ืนฐานในการพฒั นาชุมชนอยา่ งนอ้ ยมา 3 ขอ้ 5. การพฒั นาชุมชนเเบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบา้ ง จงอธิบาย 6. จงบอกลกั ษณะของการพฒั นาชุมชนอยา่ งนอ้ ยมา 5 ขอ้ 7.การพฒั นาชุมชน มีความสาคญั ที่จะตอ้ งพฒั นามีอะไรบา้ งและจะตอ้ งพฒั นาอยา่ งไร 8. เเนวคิดการจดั การศึกษาผา่ นบทบาทของสถาบนั ทางสงั คมจะตอ้ งดาเนินการจดั การศึกษาอยา่ งไร 9. อุดมการณ์เเละเป้าหมายของโรงเรียนต่อชุมชนที่กาหนดไวม้ ีเเนวทางการปฏิบตั ิอยา่ งไร 10. บทบาทหนา้ ที่ของโรงเรียนต่อชุมชนตามท่ีกฎหมายกาหนด 7 ประการ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง

สมาชิกกลุ่ม 1 1.นางสาวชลธิชา ศรีเกษม รหสั 62003161003 2.นายทิวากร เยน็ สบาย รหสั 62003161021 3.นายเอกนรินทร์ ศริรันดร์ รหสั 62003161022 4.นางสาวกญั ญารัตน์ ป้ันหา้ ว รหสั 62003161035 สาขาวทิ ยาศาสตร์ทว่ั ไป