Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทำเนียบแหล่งเรียนรู้ เดือน ก.ค.63

ทำเนียบแหล่งเรียนรู้ เดือน ก.ค.63

Published by มณีวรรณ พรมมาลา, 2020-07-31 04:08:51

Description: ทำเนียบแหล่งเรียนรู้ เดือน ก.ค.63

Search

Read the Text Version

ทำเนียบแหลง่ เรยี นรอู้ ำเภอนำกลำง ประจำเดือน กรกฎำคม 2563 กลุ่มงำนกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอนำกลำง ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอนำกลำง สำนกั งำนสง่ เสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั จังหวัดหนองบัวลำภู

คำนำ ทำเนยี บแหล่งเรียนร/ู้ ภมู ปิ ญั ญำท้องถ่ิน หมำยถึง แหล่งข้อมลู ข่ำวสำร สำรสนเทศ และประสบกำรณ์ ที่สนับสนนุ ส่งเสริม ใหผ้ ูเ้ รียนใฝเ่ รียน ใฝร่ ู้ แสวงหำควำมร้ดู ้วยตนเองตำมอัธยำศยั อย่ำงกว้ำงขวำงและต่อเน่ือง เพอ่ื เสริมสรำ้ งใหผ้ ้เู รียนเกิดกระบวนกำรเรยี นรู้ และเปน็ บุคคลแห่งกำรเรียนรู้ เปน็ แหล่งกำรศึกษำตลอดชวี ิต ที่ประชำชนสำมำรถหำควำมรู้ต่ำง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเองตลอดเวลำ แหล่งเรยี นรู้เลม่ น้ี จัดทำข้ึนเพื่อสง่ เสรมิ ใหช้ มุ ชน และสังคม มแี หล่งกำรเรยี นร้เู พ่ือกำรศึกษำทีห่ ลำกหลำย สำมำรถเรยี นรู้ได้ตำมอธั ยำศัย เปน็ เคร่อื งมอื ทีส่ ำคัญ ของบุคคลแหง่ กำรเรียนรู้ ในกำรแสวงหำควำมรเู้ พอื่ พฒั นำตนเอง ท้งั ๙ ตำบล ของอำเภอนำกลำง ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอนำกลำง จงึ ได้จัดทำทำเนยี บแหลง่ อำเภอนำกลำง จังหวดั หนองบวั ลำภู ซึง่ เปน็ แหล่งขอ้ มูลทร่ี วบรวมภูมิปญั ญำท้องถนิ่ ทัง้ ๙ ดำ้ น ซง่ึ ประกอบ ไปดว้ ย ดำ้ นเกษตรกรรม ด้ำนอุตสำหกรรมและหัตถกรรม ดำ้ นกำรแพทย์แผนไทย ดำ้ นกำรจดั กำร ทรัพยำกรธรรมชำติ และสิ่งแวดลอ้ ม ด้ำนกองทนุ และธุรกิจชมุ ชน ด้ำนศลิ ปกรรม ด้ำนภำษำและวรรณกรรม ดำ้ นปรชั ญำศำสนำ และประเพณีและดำ้ นโภชนำกำร ขอบเขตของกำรจดั ทำทำเนียบแหลง่ เรยี นรู้ ทั้ง ๙ ดำ้ นน้ี พร้อมที่จะให้ผู้ที่สนใจเข้ำไปศึกษำคน้ คว้ำ ดว้ ยกระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ที่แตกต่ำงกันของแต่ละบุคคล ปลูกฝังใหผ้ ูเ้ รยี นได้ร้แู ละรัก ในทอ้ งถ่นิ ของตนเองมองเห็นคุณค่ำในชมุ ชน ของตนเอง และเปน็ กำรสง่ เสรมิ กำรเรยี นร้ตู ลอดชีวิตเปน็ แหล่งเช่ือมโยงใหส้ ถำนศึกษำและชมุ ชนมีควำมสัมพนั ธ์ใกล้ชดิ กัน กำรจัดทำข้อมลู ทำเนียบแหลง่ เรียนรู้ อำเภอนำกลำง ครงั้ นี้ ไดร้ ับควำมร่วมมอื อยำ่ งยง่ิ จำกแหล่งสำรสนเทศที่ได้ จำกกำรจัดทำแหล่งเรียนรู้ ซึ่งจะเปน็ ประโยชน์ ตอ่ หนว่ ยงำนที่เกีย่ วข้อง เพื่อใชเ้ ป็นแนวทำงในกำรขยำยผล และพัฒนำกำรดำเนนิ งำนท่ถี ูกตอ้ งเพื่อให้เกิดประสิทธภิ ำพและประสิทธผิ ลในกำรดำเนนิ งำนยิง่ ขึ้นไป กลมุ่ งำนกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั อำเภอนำกลำง ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอกลำง ผจู้ ัดทำ

สำรบญั หน้ำ เรือ่ ง 1 12 แหลง่ เรยี นร้/ู ภูมปิ ัญญำท้องถิน่ ตำบลโนนเมอื ง 16 - ดำ้ นเกษตรกรรม สำขำเกษตรผสมผสำน 19 แหลง่ เรยี นรู้/ภูมปิ ัญญำท้องถ่ิน ตำบลด่ำนช้ำง 24 - ดำ้ นภมู ปิ ญั ญำท้องถ่นิ สำขำศิลปหตั ถกรรม 28 แหลง่ เรยี นร/ู้ ภูมิปญั ญำท้องถ่ิน ตำบลนำกลำง 32 - ดำ้ นศิลปวฒั นธรรม สำขำประวตั ศิ ำสตร์ 37 43 แหล่งเรยี นรู/้ ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถน่ิ ตำบลอทุ ัยสวรรค์ - ดำ้ น ปรำชญช์ ำวบ้ำน สำขำ ปรำชญ์ชำวบ้ำน แหลง่ เรียนรู้/ภมู ิปัญญำทอ้ งถิน่ ตำบลกุดแห่ - ดำ้ น แหล่งท่องเทย่ี วประจำตำบล สำขำ กำรทอ่ งเทย่ี ว แหลง่ เรียนร้/ู ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถน่ิ ตำบลฝ่ังแดง - ดำ้ นภูมิปัญญำชำวบ้ำน กำรเพำะเหด็ ฟำง สำขำ ดำ้ นเกษตรกรรม ( หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ) แหลง่ เรยี นรู้/ภมู ิปัญญำท้องถิ่น ตำบลเกำ่ กลอย - ด้ำน หัตถกรรม สำขำ กำรทอผำ้ พื้นเมือง แหลง่ เรยี นรู้/ภูมปิ ัญญำท้องถิ่น ตำบลกดุ ดินจี่ - ดำ้ น แหลง่ เรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง สำขำ สถำนทแี่ หล่งเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู/้ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถิ่น ตำบลดงสวรรค์ - ด้ำน ภมู ิปัญญำกำรทอผำ้ สำขำ กำรทอผำ้ ฝำ้ ยทอมอื ลำยหมำกหวำยน้อย ภำคผนวก - ผจู้ ดั ทำ

ตำบลโนนเมอื ง ประวัตแิ ละผลงำนครูภมู ิปญั ญำท้องถิ่นจังหวัดหนองบวั ลำภู ด้ำน เกษตรกรรม สำขำ เกษตรผสมผสำน นำยสมบรู ณ์ ศรีโนนยำง

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

นำยสมบรู ณ์ ศรีโนนยำง ประวัติและผลงำนครภู มู ิปญั ญำทอ้ งถิ่นจังหวดั หนองบวั ลำภู ดำ้ น เกษตรกรรม สำขำ เกษตรผสมผสำน 1.ประวัตแิ ละผลงำน นำยสมบูรณ์ ศรีโนนยำง (ชื่อเล่น ตำบุญ) เกดิ เม่ือปี พ.ศ. 2499 ปจั จบุ นั อำศัยอยู่ บ้ำนเลขที่ 53/1 หมู่ 5 ตำบลโนนเมือง อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบวั ลำภู รหัสไปรษณยี ์ 39170 โทร 0961037303 นำยสมบูรณ์ ศรโี นนยำง เปน็ เกษตรกรเริ่มจำกกำรทำนำ และปลูกพชื ผักสวนครวั ต่อมำได้มกี ำรขยำย แปลงกำรเกษตรให้มีกำรทำเกษตรแบบผสมผสำนเรม่ิ มีกำรปลูกพชื หลำยหลำยชนดิ ตำมฤดูกำล เช่น ผกั สลดั ผกั คะนำ้ ผกั บุ้งนำ ตน้ หอม ฯลฯ ปลกู ผลไม้ เชน่ ตน้ ฝรั่ง กล้วย พทุ รำ ฯลฯ มกี ำรไก่พนื้ บำ้ น เลี้ยงปลำดกุ ปลำ ตะเพียน ปลำนิล ปลำยี่สก ปลำชอ่ น ปลำทบั ทมิ และปลำชนิดอ่ืนๆอกี มำกมำย ซ่ึงนำยสมบูรณ์ ศรโี นนยำง ไดน้ ำแนวคดิ กำรทำเกษตรมำจำก หลักปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซง่ึ บริหำรจัดกำรเกษตรในพื้นท่ี จำนวนท่ีมี ได้อย่ำงคมุ้ คำ่ 2. องค์ควำมรู้และควำมเชี่ยวชำญ นำยสมบรู ณ์ ศรโี นนยำง มีองค์ควำมรู้ในด้ำนเกษตรกรรม กำรเป็นปรำชญ์ชำวบำ้ นรุ่นใหม่ ในกำรทำ เกษตรไรน่ ำสวนผสมตำมแนวเกษตรทฤษฎใี หม่เปน็ อยำ่ งดี 3. กำรถำ่ ยทอดควำมรแู้ ละควำมเชยี่ วชำญ กำรปลกู มะเขือพวง พชื เสริมสขุ ภำพ ทป่ี ลกู งำ่ ย ดูแลงำ่ ย ทนโรค ทนรอ้ น ให้ผลผลติ ได้ 3 ถึง 4 ปี และเปน็ หนง่ึ ในพืชผกั สำหรบั คนรกั สขุ ภำพ เพรำะไม่ใชแ่ ค่ประโยชน์และสรรพคุณที่มีอยู่ในมะเขือพวงเทำ่ น้ันท่ี เปน็ ประโยชน์ต่อสุขภำพ กำรปลกู มะเขือพวง ยังมีขนั้ ตอนกำรดแู ลที่ปลอดสำรพษิ เน่ืองจำกควำมทนทำนต่อ โรคและแมลงศัตรูพืชของมะเขอื พวง ซง่ึ ดีต่อสุขภำพของผู้บริโภคมำกๆ และยังดีต่อเกษตรกรผ้ปู ลูกมะเขือพวง ทไี่ ม่ต้องสะสมสำรพิษจำกกำรใช้ยำฆำ่ แมลง หรือสำรเคมีต่ำงๆ ให้เกดิ โทษต่อร่ำงกำย ปจั จัยท่คี วรคำนึงถึงกอ่ นปลูกมะเขือพวง สายพนั ธุ์ 1. มหี นำม 2. ไรห้ นำม สภาพดนิ 1. มีควำมอุดมสมบูรณ์

2. ระบำยน้ำได้ดี เพรำะมะเขือพวงไมช่ อบน้ำท่วมขงั 3. ไมม่ ีสำรพิษเจือปน หรืออยู่ใกล้แหลง่ สำรพิษ 4. ดนิ ไมเ่ คยเกิดโรคมำก่อน สภำพพน้ื ท่ี 1. น้ำไมท่ ว่ มขัง กำรขยำยพนั ธมุ์ ะเขอื พวง ขยำยพนั ธุด์ ว้ ยเมล็ด กำรเพำะในกระถำงหรอื ภำชนะ เตรยี มเครือ่ งปลูก ยอ่ ยดินใหร้ ่วนละเอยี ด เพรำะเมลด็ มะเขือพวงมี ขนำดเล็กมำก ถำ้ เครอ่ื งปลกู ไมล่ ะเอยี ดพอ เมล็ดจะลอดรดู ินได้ จำกนน้ั หยอดเมลด็ ลงในภำชนะ กลบด้วยป๋ยุ คอกหรือปยุ๋ หมัก กำรเพำะในแปลงเพำะกล้ำ  ไถดินลึกประมำณ 10 ถึง 15 เซนตเิ มตร ตำกแดดท้ิงไว้ 5 ถึง 7 วัน  ใสป่ ยุ๋ คอกหรอื ปยุ๋ หมัก คลกุ ใหเ้ ข้ำกันกับดิน  ยกแปลง เพื่อเตรียมเพำะกลำ้  คลกุ เมลด็ 1 สว่ น กับทรำยหยำบ 3 สว่ น เพ่ือช่วยให้กำรหวำ่ นเมล็ดตกกระจำยไดด้ ีขึ้น  หว่ำนเมลด็ ใหท้ ัว่ แปลงเพำะ หรอื โรยเปน็ แถว  กลบเมล็ดด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก หนำประมำณ 1 เซนติเมตร  รดน้ำด้วยหวั ฉีดฝอยละเอยี ด หรอื บวั รดน้ำตำถ่ี คลมุ ด้วยฟำงข้ำวหรือหญ้ำแหง้  ถ้ำเพำะเมล็ดในกระถำงหรือภำชนะ หลังรดนำ้ ให้หอ่ ภำชนะที่ใชเ้ พำะเมล็ดดว้ ยถงุ พลำสตกิ หอ่ ให้พอง ลมเพ่อื รักษำควำมชมุ่ ชื้นของหน้ำดินใหค้ งที่ตลอดเวลำ ประมำณ 10 ถึง 15 วัน เมล็ดจะงอกจึงคอ่ ยแกะ ถุงออก ขยำยพันธ์โุ ดยกำรตัดชำรำก  ตดั รำกมำชำ ใหเ้ กดิ ต้นใหม่ข้ึนจำกรำก เมื่อมตี น้ กลำ้ ข้นึ มำหลำยตน้ และต้นกลำ้ อำยุประมำณ 20 ถงึ 30 วัน ให้ใชก้ รรไกรท่ีคม ตดั ตน้ เลก็ ออก เหลือเพียง 1 ตน้ ตอ่ หลมุ  เมอื่ ต้นกลำ้ อำยุได้ 45 วัน ให้ยำ้ ยไปปลูกลงในแปลงปลูก กำรเตรียมดนิ  กำรเตรยี มดินสำหรบั แปลงปลกู น้นั ควรไถดินลกึ ประมำณ 25 ถึง 30 เซนติเมตร  ตำกดนิ ไว้ 7 ถงึ 10 วัน ย่อยดินให้ละเอียดร่วนซุย แลว้ ทำกำรยกแปลง กำรปลกู ต้นกล้ำ ตน้ กล้ำท่ีได้จำกกำรเพำะเมล็ด ควรมีอำยปุ ระมำณ 30 วนั ตน้ กล้ำท่ีไดจ้ ำกกำรชำรำก ควรมีอำยุประมำณ 45 วัน  นำต้นกลำ้ ออกจำกภำชนะเพำะ หรือแปลงเพำะ โดยรดนำ้ ให้ช่มุ ทง้ิ ไวป้ ระมำณ 30 นำที ดึงต้นกล้ำขึน้ จำกภำชนะเบำๆ นำไปปลูกในแปลงท้ังที่มดี ินตดิ มำ  เว้นระยะห่ำงระหว่ำงต้น 2 ถงึ 3 เมตร ระยะห่ำงระหวำ่ งแถว 3 ถงึ 4 เมตร

 รดนำ้ ใหช้ ่มุ กำรดแู ลหลังกำรปลูก กำรใหน้ ำ้  ในระยะแรก รดทุกวนั ๆ ละ 1 ครัง้ ชว่ งเชำ้ แต่สำมำรถเว้นระยะในฤดูฝนได้เม่ือต้นโตเต็มท่ี และคอย สงั เกตกำรระบำยน้ำ อย่ำให้น้ำทว่ มขงั โคนตน้ กำรใหป้ ยุ๋  ให้ปยุ๋ หมัก หรอื ปุย๋ คอก คร้งั ที่สอง หลังกำรปลกู ตน้ กลำ้ ประมำณ 15 วัน ถ้ำใช้ปุ๋ยคอกมลู สัตว์ ควรเลือก ชนดิ ท่ีมธี ำตุโพแทสเซยี มสงู กว่ำ ธำตไุ นโตรเจนและฟอสฟอรัส  ใหป้ ยุ๋ ทกุ ๆ 20 ถงึ 30 วันในครัง้ ตอ่ ไป กำรกำจดั วชั พืช  หมน่ั กำจดั วัชพชื เมือ่ พบเห็นกำรเจริญเตบิ โตของวชั พชื ในทนั ที กำรพรวนดิน  สำมำรถพรวนดินไปพร้อมกบั กำรกำจดั วัชพชื ได้ กำรตัดแตง่ กิง่ -ทำสำวมะเขือพวง กำรตัดแตง่ กงิ่ ตน้ มะเขือพวง อำจทำได้เป็น 2 ลกั ษณะ คอื 1. กำรทอนก่งิ เปน็ กำรตดั กิ่งให้แตกยอดใหม่ โดยตัดใหเ้ หลือตอก่งิ ไว้ และควรตัดลงมำถึงตำที่อย่ใู นทศิ ทำง ทต่ี ้องกำร กำรตดั ควรตัดชดิ กับตำเปน็ ปำกฉลำม ให้รอยแผลหนั ออกจำกตำ 2. กำรตัดกงิ่ ทิ้งท้ังกง่ิ คือ ตดั ไม่ให้เหลือตอกงิ่ ตดั ก่งิ ที่ไม่ตอ้ งกำรทิง้ เช่น กิง่ ที่หนั เข้ำพุ่ม หรือหนั ออกจำก ทศิ ทำงทต่ี ้องกำร หรือก่ิงท่เี ป็นโรคตลอดจนกง่ิ แห้ง เป็นต้น กำรตัดแบบนี้จะตดั ชดิ กบั ตน้ หรือกง่ิ ใหญ่ ให้ ผวิ รอยแผลเรยี บ ***เด็ดใบท่ีเหลอื งและเห่ียวออกด้วย*** กำรป้องกนั และแก้ไข โรคและแมลงศตั รูมะเขือพวง มะเขือพวงเป็นพชื ท่ีไม่คอ่ ยมโี รคและแมลงมำรบกวน กำรปลูกมะเขือพวงไรห้ นำม พันธแุ์ มโ่ จ้นิรมิต1 ลกั ษณะทั่วไป  ไม่มหี นำม  ใหผ้ ลดก และตดิ ผลเรว็  มีรสชำตดิ ี  มีลำต้นแข็งแรง และตำ้ นทำนโรคทำงดินดี  มกี ิ่งแขนงมำก และมีทรงพ่มุ กวำ้ ง  อำยตุ ้นกลำ้ ประมำณ 1 เดอื น  อำยกุ ำรเก็บเก่ยี ว 80 ถึง 90 วัน หลงั จำกย้ำยปลูก กำรเตรยี มดนิ สำหรบั ปลูก ปลกู งำ่ ย เจริญเตบิ โตได้ดีในดินเกอื บทุกชนดิ

 ไถตำกดนิ ทง้ิ ไว้ประมำณ 7 ถงึ 10 วัน  ยกแปลงกว้ำงประมำณ 1.20 เมตร  ใสป่ ยุ๋ อินทรยี ์ประมำณ 1 ถึง 2 ตนั ตอ่ ไร่ กำรเพำะกล้ำ  นำเมล็ดพนั ธุ์แชน่ ้ำให้เปียกแล้วนำมำห่อไวใ้ นถุงผำ้ ทช่ี น้ื ไว้ประมำณ 1 ถึง 2 วัน หรืออำจจะแชน่ ำ้ อ่นุ ประมำณ 40-50 องศำเซลเซียส (อุ่นพอทส่ี ำมำรถแชม่ ือลงไปได้) นำนประมำณ 1 ชั่วโมง เปน็ กำรเร่งกำร งอกไดด้ ขี ึ้นและฆ่ำเชื้อโรคท่ีปะปนมำ  นำไปเพำะในแปลงเพำะหรือถำดเพำะ กำรเตรียมวสั ดเุ พำะ  ผสมดินเพำะกล้ำ+แกลบเผำ+แกลบดิบ+ดนิ +ขุยมะพรำ้ ว อยำ่ งละ 1 สว่ น ให้เข้ำกัน  นำดนิ ทีผ่ สมแลว้ ใส่ในหลุมให้เสมอปำกหลุม  หยอดเมลด็ พนั ธ์ุ หลมุ ละ 1 ถึง 2 เมล็ด  รดน้ำพอชมุ่ คลมุ ด้วยฟำงขำ้ ว  หลังกำรเพำะเมลด็ ไมค่ วรปล่อยใหข้ ำดน้ำ ควรรดนำ้ ทุกวันๆ ละ 1 ครงั้ ในตอนเช้ำ เมื่อต้นกล้ำมีอำยุครบ 30 วัน นำไปปลกู ในแปลงปลกู ได้ กำรปลูก  ปลกู โดยใช้ระยะห่ำงระหวำ่ งตน้ ประมำณ 1.50 เมตร ระยะห่ำงระหว่ำงแถวประมำณ 2 เมตร  ขดุ หลมุ ปลูก กว้ำง 1 ฟุต ยำว 1 ฟุต ลกึ ½ ฟตุ เพ่ือให้รำกเดินสะดวก โดยเฉพำะกำรปลูกในดินเหนยี ว  ใสป่ ุ๋ยคอกรองกน้ หลมุ ชนั้ ที่ 1 ประมำณ 100 กรัม ต่อหลมุ โรยดินทับชน้ั ที่ 1  แล้วใส่ปุ๋ยคอกอีก 50 กรมั เป็นชัน้ ที่ 2 แลว้ โรยดนิ ทับช้ันที่ 2  นำตน้ กล้ำมะเขือพวงไรห้ นำมทแ่ี ข็งแรงแลว้ มำปลกู ในหลุม กลบดิน และรดนำ้ ทันที กำรดูแลมะเขือพวงไรห้ นำมหลังกำรปลกู กำรใหน้ ้ำ  ในช่วงแรกรดนำ้ ทุกวันๆ ละ 1 คร้ังในตอนเชำ้  เมอ่ื ต้นมะเขือพวงโตเต็มที่ สำมำรถเว้นระยะกำรให้นำ้ ได้ โดยสังเกตสภำพดินและอำกำศ อย่ำปลอ่ ยให้ ดินโคนตน้ แหง้ เกนิ ไป กำรใหป้ ุ๋ย  ใสป่ ๋ยุ หลังปลกู ประมำณ 2 สปั ดำห์ โดยใชป้ ยุ๋ หมัก หรอื ปุย๋ คอก แล้วรดน้ำ  หลังจำกนน้ั ใสป่ ุ๋ยทุก 20 ถึง 30 วัน กำรกำจัดวัชพืชและพรวนดนิ  หมน่ั ทำเป็นประจำ กำรเกบ็ เก่ยี ว  สำมำรถเกบ็ เกย่ี วได้เมอื่ อำยปุ ระมำณ 80 ถึง 90 วัน หลงั ย้ำยปลกู และทยอยเก็บเกยี่ วไดเ้ ร่อื ยๆ  เมื่อตน้ มีอำยุมำกขึน้ เริม่ ทรดุ โทรม สำมำรถทำกำรตดั แต่งก่ิงเพ่ือให้มกี ำรแตง่ กงิ่ ใหม่และให้ผลผลิตใหมไ่ ด้ อกี

4. ลกั ษณะของเครอื ข่ำยและกำรสร้ำงเครือขำ่ ย มหี น่วยงำนของรฐั เอกชนและกลุ่มสนใจจำกภำคส่วนต่ำงๆ ให้ควำมสนใจเปน็ แหลง่ เรยี นรใู้ หก้ บั คนใน ชมุ ชน นักเรยี น นกั ศกึ ษำ กศน. ไดเ้ รยี นรู้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 5. ผลงำนที่เปน็ ประโยชน์ต่อชมุ ชนและสังคม - ปรำชญช์ ำวบำ้ น ดำ้ นเกษตรผสมผสำน ตำบลโนนเมือง 6. รำงวลั หรือเกยี รตคิ ณุ ท่ีได้รบั -

ตำบลด่ำนชำ้ ง ประวตั แิ ละผลงำนครูภมู ปิ ญั ญำท้องถนิ่ จังหวดั หนองบวั ลำภู ด้ำน ภูมิปญั ญำทอ้ งถ่นิ สำขำ ศลิ ปหตั ถกรรม นำงสำวฐิตตยิ ำภรณ์ เพลนิ จิตต์

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

นำงสำวฐิตติยำภรณ์ เพลินจติ ต์ ประวตั ิและผลงำนครภู ูมิปัญญำทอ้ งถ่นิ จังหวดั หนองบวั ลำภู ด้ำน ภมู ิปญั ญำท้องถนิ่ สำขำ ศิลปหตั ถกรรม 1. ประวัตแิ ละผลงำน นำงสำวฐติ ยำภรณ์ เพลินจิตต์ อำยุ ๕๒ ปี ระดบั กำรศึกษำ ปรญิ ญำตรี ภมู ิปญั ญำ/ปรำชญ์ชำวบำ้ น ด้ำน กำรทอผ้ำฝำ้ ยพื้นเมือง ที่อย่ปู ัจจุบัน เลขท่ี ๑๘๙ หมทู่ ่ี ๓ ตำบลดำ่ นช้ำง อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบัวลำภู โทรศพั ท์มือถือ ๐๘๙-๘๑๗๓๑๑๔ E-mail - อำชพี ผู้ใหญ่บำ้ น สถำนท่ีทำงำน ทท่ี ำกำรผ้ใู หญ่บำ้ นบำ้ นโป่งแค หมู่ ๓ ตำบลด่ำนช้ำง อำเภอนำกลำง จังหวดั หนองบัวลำภู โทรศพั ท์ ๐๘๙-๘๑๗๓๑๑๔ โทรสำร - E-mail - ประวัตผิ ลงำน ท่ีให้กำรสนับสนุนกิจกรรมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย (โดยระบุช่ือหนว่ ยงำน หรือองค์กรที่ท่ำนเขำ้ รว่ มกิจกรรม ไดม้ ีกำรจดั ทำกำรสอนกำรทำอำชพี ให้กับนกั ศึกษำ กศน ชอ่ื สถำนศึกษำ/หนว่ ยงำนท่ีเสนอขอเข้ำรบั กำรประเมนิ กศน. ตำบลดำ่ นช้ำง ศนู ย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย สังกดั สำนักงำน กศน. จังหวดั หนองบัวลำภู 2. องคค์ วำมร้แู ละควำมเชยี่ วชำญ นำงสำวฐติ ตยิ ำภรณ์ เพลินจติ ต์ มอี งค์ควำมรู้ในกำรทอผำ้ ฝ้ำยพ้ืนเมืองมัดลำยหมี่ กำรย้อมสธี รรมชำติ และเปน็ วิทยำกรในกำรเรียนรู้เพอื่ ต่อยอดอำชีพใหก้ ับชมุ ชน 3. กำรถำ่ ยทอดควำมรู้และควำมเชย่ี วชำญ นำงสำวฐิตติยำภรณ์ เพลินจติ ต์ ได้ทำกำรศึกษำกำรทอผ้ำฝ้ำยพ้ืนเมือง เพื่อเป็นอำชพี เสรมิ นอกจำกทำ ไรทำนำจนมีควำมเช่ียวชำญ และไดเ้ รียนรู้เร่ืองกำรทอผำ้ ฝ้ำยพน้ื เมือง กำรย้อมสี จำกสีธรรมชำติ จนมคี วำมรู้ และทักษะดำ้ นกำรทอผ้ำ กำรย้อมสแี ละได้สบื ทอดกำรท่อผ้ำฝ้ำยมำจนถงึ ปัจจุบัน และจงึ ไดเ้ ร่มิ ทำเป็นอำชีพ หลักจดั ทำกลุ่มอำชีพทอผ้ำฝ้ำยพื้นเมืองในชมุ ชนเริ่มจำกบ้ำนใกล้เคียงและมีสมำชิกเพิ่มข้ึนเพรำะส่วนใหญ่เป็น กลมุ่ ผ้สู งู อำยุในชมุ ชน และเป็นตน้ แบบถำ่ ยทอดองค์ควำมรู้ให้แก่ชมุ ชนในตำบลผสู้ นใจกำรทอผ้ำไหม

4. ลกั ษณะของเครือข่ำยและกำรสรำ้ งเครอื ขำ่ ย ได้รับกำรยอมรับของบุคคลทั่วไป เชน่ พฒั นำชุมชนตำบลด่ำนช้ำง พัฒนำชมุ ชนอำเภอนำกลำงได้รับ กำรยอมรบั ว่ำเป็นศูนย์แหล่งเรียนร้ไู ด้ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอนำกลำง ได้ สนับสนนุ มหี นว่ ยงำนของรฐั และเอกชนไดม้ ำจัดอบรมเพื่อเปน็ ควำมรู้ใหก้ บั หน่วยงำนอ่นื 5. ผลงำนที่เปน็ ประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสังคม เป็นวิทยำกรใหค้ วำมรูแ้ ก่บคุ คลทส่ี นใจในกำรทอ่ ผ้ำและเปน็ แหลง่ เรียนรใู้ นตำบลทม่ี ีผ้สู นใจเขำ้ มำ เรยี นรู้จำนวนมำก 6. รำงวลั หรอื เกียรตคิ ณุ ท่ไี ด้รบั ไดร้ บั กำรยอมรบั จำก พฒั นำชมุ ชนจงั หวดั หนองบวั ลำภแู ละบุคคลในหมู่บำ้ นวำ่ เป็นบคุ คลท่ีสมควร ยกย่องและเชดิ ชูว่ำเปน็ กลมุ่ ทอผ้ำตวั อย่ำงทีส่ ำมำรถสง่ ออกสร้ำงรำยได้และยดึ เป็นอำชพี อยำ่ งยั่งยนื ได้สร้ำง ช่อื เสยี งใหก้ ับชมุ ชนได้

ตำบลนำกลำง ประวัติและผลงำนครภู มู ิปัญญำทอ้ งถิ่นจงั หวดั หนองบัวลำภู ดำ้ น ศลิ ปวฒั นธรรม สำขำ ประวตั ิศำสตร์ เสมำหนิ

รปู ภำพเพิม่ เตมิ เสมำหนิ

ประวัตแิ ละผลงำนครูภมู ิปญั ญำทอ้ งถนิ่ จังหวดั หนองบัวลำภู ดำ้ น ศิลปวัฒนธรรม สำขำ ประวตั ศิ ำสตร์ 1. ประวัติ กลมุ่ เสมำหินวัดภูนอ้ ย ตัง้ อยู่บนเนนิ เขำภูน้อยท่ีมีควำมสงู จำกระดับนำ้ ทะเลปำนกลำงประมำณ 342 เมตร สภำพบนยอดเขำเป็นท่ีรำบไมก่ ว้ำงนัก ตั้งอยดู่ ้ำนทิศตะวันตกของวดั สนั ติธรรมบรรพตหรือวัดภูน้อย อำเภอนำกลำง จังหวัดหนองบวั ลำภู มีกลุ่มเสนำหินอยู่ทงั้ หมด 8 กล่มุ วำงไวท้ ง้ั 8 ทิศ แต่ละกลมุ่ มีเสมำหิน จำนวน 4 ใบ บำงใบเสมำมีกำรจำรึกอกั ษรโบรำณ บำงใบเสมำมกี ำรแกะสลักเปน็ รปู พระโพธิสตั ว์และรูปคลำ้ ย ยอดเจดยี ์ นอกจำกน้ี ใบทีพ่ เิ ศษท่สี ดุ คือ มรี ูปลกู ศร 4 – 5 ลูก สันนิษฐำนว่ำกล่มุ เสมำหินเหล่ำนี้ฝังอย่รู ำยรอบ เทวสถำนของขอม ทัง้ นี้ กรมศิลปำกรได้ทำกำรสำรวจแหลง่ โบรำณคดีภนู ้อย คร้ังแรกเม่ือปี พ.ศ. 2540 และ จำกหลกั ฐำนที่ปรำกฏ พบวำ่ เปน็ ศลิ ปะแบบทวำรวดสี รำ้ งข้ึนรำวพทุ ธศตวรรษท่ี 14 – 16 2. องค์ควำมร้แู ละควำมเช่ียวชำญ กลุม่ มเี สมำหินทจี่ ำรึกและกำรสลกั เป็นรูปพระโพธิสตั ว์และคลำ้ ยยอดเจดีย์, จุดชมวิวอำเภอนำกลำงทสี่ งู และสวยงำม 3. กำรถ่ำยทอดควำมรู้และควำมเช่ียวชำญ ไดจ้ ดั ทำเปน็ แหลง่ ท่องเที่ยวเชิงนเิ วศและแหลง่ โบรำณสถำนทใี่ หช้ ุมชนและนกั ท่องเที่ยวไดเรียนรู้ ประวตั ิศำสตรใ์ นชมุ ชน 4. ลักษณะของเครือข่ำยและกำรสร้ำงเครือข่ำย มหี น่วยงำนของรัฐและเอกชนให้กำรสนับสนุนกำรศกึ ษำเปน็ แหล่งเรียนรู้ที่มีคณุ คำ่ ใหก้ ับประชำชนท่ี เข้ำมำเยย่ี มชมและหึควำมสนใจ 5. ผลงำนทเี่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม ชมุ ชนไดก้ รำบไว้และเรียนรบู้ รรพบุรุษในยุคสมยั ที่มเี สมำหนิ ได้เล่ำสบื ต่อกันมำเพื่อให้ลูกหลำนได้ เรยี นรู้เก่ียวกับประวตั ิศำสตร์ 6. รำงวัลหรอื เกยี รตคิ ณุ ทีไ่ ด้รบั เป็นแหลง่ ประวัตศิ ำสตรใ์ หป้ ระชำชนได้เรียนรู้

ตำบลอุทัยสวรรค์ ประวัตแิ ละผลงำนครภู มู ปิ ญั ญำท้องถ่นิ จังหวัดหนองบัวลำภู ดำ้ น ปรำชญ์ชำวบ้ำน สำขำ ปรำชญช์ ำวบ้ำน นางโสภา มุมวัน

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

นำงโสภำ มมุ วนั ประวัตแิ ละผลงำนครภู มู ิปญั ญำทอ้ งถ่ินจังหวัดหนองบัวลำภู ดำ้ น ปรำชญช์ ำวบ้ำน สำขำ ดำ้ นปรำชญช์ ำวบำ้ น 1. ประวัติและผลงำน นำงโสภำ มมุ วัน อยู่บ้ำนเลขที่ 210/6 ม.10 ต.อุทยั สวรรค์ อ.นำกลำง จ.หนองบัวลำภู 39170 เบอรโ์ ทร 086-2200224 สถำนทีท่ ำงำน ท่ีทำกำรผใู้ หญบ่ ำ้ น 210/6 ม.10 ต.อทุ ยั สวรรค์ อ.นำกลำง จ.หนองบวั ลำภู ประวัตกิ ำรศกึ ษำ - จบกำรศกึ ษำระดับประถมศึกษำ โรงเรียนบ้ำนหนองกงุ ศรี อำเภอนำกลำง จงั หวัดอดุ รธำนี -จบกำรศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น ศนู ยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอนำกลำง อำเภอนำกลำง จังหวดั หนองบัวลำภู -จบกำรศึกษำระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย ศนู ย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอ นำ กลำง อำเภอนำกลำง จงั หวดั หนองบัวลำภู 2. องคค์ วำมรู้และควำมเชีย่ วชำญ มีควำมรคู้ วำมเชียวชำญในผลผลิตทำงด้ำนกำรเกษตร มีกำรจำหน่ำยผลผลิตทำงกำรเกษตร เพือ่ เพม่ิ รำยได้ลดรำยจำ่ ยให้แก่ชุมชน ไดแ้ ก่ ส่งเสริมกำรเพำะปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ขิง ข่ำ ตะไคร้ ใบ มะกรดู รวบรวมและหำตลำดให้แก่กลุม่ สมำชกิ หลกั กำรทำเกษตร ซ่ึงในควำมคิดและพบเจอ คนทุกคนทำ กำรเกษตร จะลงทุนทำเพยี งอยำ่ งใดอยำ่ งหน่งึ ซึ่งเปน็ กำรเส่ียงต่อกำรขำดทนุ หรอื มีรำยได้เฉพำะ เมือ่ พบ เจอกับปญั หำของทุกคนแลว้ ตนเองเลยมำคิกวเิ ครำะห์ สอบถำมจำกท่ำนผูร้ ู้ และผู้มปี ระสบกำรณ์ เลยได้ นำเอำหลำยๆอำชพี มำรวมกัน เพียงแตจ่ ะไม่ใหเ้ ด่นมำก แต่ก็จำมีทุกอย่ำง เหมอื นร้ำนค้ำเบด็ เตลด็ เลยได้ทำ เปน็ ศูนย์กำรเรียน เพื่อศึกษำ 3. กำรถ่ำยทอดควำมรแู้ ละควำมเช่ียวชำญ ผลักดนั กำรจัดหำวตั ถดุ บิ และปัจจัยเสรมิ ท่สี ำคญั ในกำรทำกำรเกษตรรวมทง้ั กำรใหค้ วำมรู้ในกำรทำ เกษตร ได้แก่ ซื้อปยุ๋ ชวี ภำพ จำกแหล่งผลติ โดยตรงเพ่ือเป็นกำรลดค่ำใช้จำ่ ย ของรำษฎรในชมุ ชน นอกจำกน้ี ยังรณรงค์ใหเ้ กษตรกรหันมำผลติ ปุย๋ อนิ ทรยี ์ ใชเ้ องเพ่ือลดต้นทุนกำรผลติ และเปน็ กำรนำวตั ถุดบิ รอบตวั มำใช้ ให้เกิดประโยชน์ 4. ลักษณะของเครอื ข่ำยและกำรสรำ้ งเครอื ข่ำย เปน็ ประธำนกล่มุ สตรีหมบู่ ้ำนหนองกงุ ศรี โดยเสยี สละเวลำชว่ ยเหลืองำนชุมชน โดยมีงบประมำรที่ กลมุ่ สตรจี ดั สรรไว้ และประสำนกบั องคก์ รต่ำงได้เข้ำมำมสี ่วนร่วม ได้อบรมกลุ่มสตรี ในกำรพฒั นำอำชีพ และ ใหท้ ำงำนรว่ มกันกบั ชุมชน แบบมคี วำมเสมอภำคเพยี งใหเ้ ข้ำใจในกำรเคำรพผู้อำวโุ ส และประสำนให้เกดิ

ควำมสำมคั คี ทำงำนรว่ มกนั ได้ระหวำ่ งสำมวัย วยั รุน่ วัยทำงำน กับวยั ผสู้ งู อำยุ โดยไม่มคี วำมเลอ่ื มล้ำ โดย เน้นกระบวนกำรทำงำนเปน็ ทีม เพอื่ ให้เกดิ ประโยชนส์ งู สุดในองค์กรตง้ั กลุ่มผู้ตั้งกองทุนร้ำนคำ้ สหกำร กลุม่ วัว เยำวชน กลุ่มนำ้ ประปำหมู่บ้ำน โดยไดร้ ับกำรสนบั สนนุ จำกสำนกั งำนพัฒนำชุมชนอำเภอนำกลำง สำนักงำน เกษตรอำเภอนำกลำง 1.กองทุนโครงกำร กข.คจ. ปัจจบุ ัน มีเงินทนุ 303,408 บำท สมำชิก จำนวน 1,065 คน ประธำน ชื่อนำง โสภำ มุมวัน เบอร์โทรศัพทม์ ือถือ 0862200224 2.กองทนุ หมบู่ ้ำนและชุมชนเมอื ง ปัจจุบนั มีเงนิ ทนุ 3,054,000.07 บำท สมำชกิ จำนวน 268 คน ประธำน ช่ือนำง โสภำ มุมวนั เบอร์โทรศพั ทม์ ือถือ 0862200224 3.กองทุนแม่ของแผน่ ดิน ปัจจบุ นั มีเงนิ ทนุ 85,528 บำท สมำชกิ จำนวน .158 ..คน ประธำน ชื่อ นำงโสภำ มุมวนั เบอรโ์ ทรศพั ท์มือถือ 0862200224 4. กองทุนรำ้ นค้ำสหกำร 2 ปัจจบุ ันมเี งนิ ทนุ 111,700 บำท สมำชิก 277 คน ประธำนช่อื นำงโสภำ มมุ วนั เบอรโ์ ทรศัพท์มอื ถอื 0862200224 5.กลมุ่ ผู้ใชน้ ำ้ ประปำ ปัจจบุ ัน มีเงนิ ทุน 77,000 บำท สมำชกิ 1,065 คน ประธำนชอื่ นำงโสภำ มุมวัน เบอร์โทรศพั ท์มอื ถอื 0862200224 6.กลมุ่ ววั เยำวชน ปัจจบุ ันมีเงนิ ทนุ 561,567 บำท สมำชกิ 247 คน ประธำนชื่อ นำงโสภำ มุมวัน เบอรโ์ ทรศัพท์ ผลงำนที่เปน็ ประโยชน์ต่อชุมชน 1. เปน็ ผ้ใู หญบ่ ้ำนหนองกุงศรี 2. ประธำนโครงกำร กข.คจ. 3. ประธำน กองทนุ หมูบ่ ้ำนและชมุ ชนเมือง ร่วมกับภำคเอกชน ซึ่งในกำรทำหน้ำทีใ่ นตำแหนง่ ตำมท่ี กล่ำวมำน้ัน ไดเ้ ป็นผู้ประสำนงำนกบั ทุกฝำ่ ยจนเกิดผลดกี ับสมำชกิ ทุกองค์กร 5. ผลงำนทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ ่อชุมชนและสังคม 1. ประธำนกองทนุ โครงกำร กข.คจ. 2. ประธำนกองทุนหมู่บ้ำนและชมุ ชนเมอื ง 3. ประธำนกองทนุ แม่ของแผน่ ดิน 4.ประธำนกองทนุ รำ้ นค้ำสหกำร 2 5. ประธำนกลุ่มผู้ใชน้ ำ้ ประปำ 6.ประธำนกลมุ่ ววั เยำวชน 6. รำงวัลหรอื เกยี รตคิ ณุ ทไี่ ด้รับ - รำงวัลรองชนะเลศิ อนั ดับ 1 หมูบ้ำนประชำธปิ ไตย พ.ศ.25562 สำนักงำน กกต.จังหวัดหนองบัวลำภู

ตำบลกุดแห่ ประวตั แิ ละแหลง่ เรียนรทู้ ้องถิ่นจังหวัดหนองบัวลำภู ด้ำน แหล่งทอ่ งเท่ียวประจำตำบล สำขำ กำรท่องเที่ยว ภูแปก บ้ำนสนำมชัย หมู่ 6 ตำบลกุดแห่ อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบวั ลำภู

รูปภำพเพิ่มเตมิ ภแู ปก บำ้ นสนำมชยั หมู่ 6 ตำบลกุดแห่ อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบัวลำภู

ประวตั ิแหลง่ เรียนร้ทู ้องถน่ิ จงั หวดั หนองบวั ลำภู ด้ำนแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วประจำตำบล สำขำกำรทอ่ งเท่ียว 1. ประวตั ิและผลงาน ภูแปก เปน็ ภเู ขำสงู ที่มีลักษณะแปลกตำมชือ่ ทีช่ ำวบำ้ นเรียกขำน คือ เปน็ ภเู ขำทีม่ ตี น้ สนสองใบขน้ึ อยู่ เป็นจำนวนมำก ซึ่งในป่ำเต็งรังบรเิ วณท่ีสำรวจจะพบตน้ สนสองใบ ซง่ึ เป็นทมี่ ำของชอื่ “ภแู ปก” เนื่องจำก คำวำ่ “แปก” เปน็ ภำษำท้องถ่ิน แปลวำ่ “ต้นสน” ทภี่ แู ปกแห่งเดยี วในจังหวัดหนองบัวลำภเู ท่ำนน้ั อำกำศเยน็ สบำยภมู ิทัศบนภเู ขำมีควำมสวยงำมท้ำทำยนักท่องเที่ยวที่แสวงหำควำมตื่นเต้นในกำรพิชิตสนั เขำภูแปก ต้งั อยู่ท่บี ำ้ นสนำมชัย ตำบลกุดแห่ อำเภอนำกลำง จังหวดั หนองบัวลำภู 2. องคค์ วามรู้และความเชี่ยวชาญ มกี ารจดั การความรู้และมคั คุเทศท่ีมีความสามารถถ่ายทอดความรู้ ความเปน็ มา และสง่ิ ท่ีจะได้ ไดจ้ ากการศึกษาแหล่งเรียนรู้ ผูส้ นใจมคี วามรู้ ความเข้าใจและเกดิ ทักษะในเรื่องธรรมชาติ ขนบธรรมเนียม ประเพณี 3. การถา่ ยทอดความรแู้ ละความเช่ยี วชาญ โดยมคั คเุ ทศก์ประจาตาบล แนะนาการท้ังภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ัตจิ ริงใหเ้ กิดความรู้ความ เชี่ยวชาญเปน็ หลักสูตรทม่ี ุ่งพัฒนาความรคู้ วามสามารถความเขา้ ใจในแหลง่ เรยี นรู้ ตลอดจนเกดิ ทกั ษะด้าน อาชีพเสริมที่เกดิ แกป่ ระชาชนและผู้สนใจทั่วไปได้หาทรัพยากรธรรมชาตเิ พอ่ื นาไปประกอบอาหารและขาย เพอื่ ให้เกดิ รายได้ เรยี นร้เู ชงิ นเิ วศน์วถิ ี 4. ลกั ษณะของเครอื ขา่ ยและการสร้างเครอื ขา่ ย มีสมาชกิ ภายในตาบลกุดแห่ หมู่บ้าน 9 หมู่บ้าน รวมกลุ่มกันขน้ึ มาเพ่ือพัฒนาภูแปกใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรู้ ให้กบั ชมุ ชนตนเอง และชุมชนใกล้เคียงได้ศึกษาและได้ประโยชน์จากแหลง่ เรยี นรู้ 5. ผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อชมุ ชนและสงั คม 1.วิเคราะหแ์ นวทางการเรียนรูค้ ธู่ รรมชาติ 2.มีความรู้ในการอนุรักษ์ธรรมชาติ 3. ประชาชนมีอาชีพเสริมเกิดรายไดจ้ ากการหาทรัพยากรในผืนป่า 4. ใช้พื้นที่ป่าเขาใหเ้ กิดประโยชน์ 5. รู้จักนาทรัพยากรในท้องถ่ินมาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งคุม้ คา่ 6.สามารถใช้ชีวิตพอเพียงพ่ึงพาธรรมชาตไิ ด้

6. รำงวัลหรอื เกียรตคิ ณุ ทไี่ ด้รับ - แหลง่ เรียนรูป้ ระจำตำบล - แหล่งเรียนรูโดยชมรมนักสอ่ื ควำมหมำยธรรมชำติ -สนับสนุนงบประมำณในกำรพฒั นำโดย อบต.กดุ แห่ และ อบจ.จงั หวดั หนองบวั ลำภู

ตำบลฝง่ั แดง ประวัติและผลงำนครภู มู ปิ ัญญำทอ้ งถนิ่ จังหวดั หนองบวั ลำภู ด้ำนภมู ิปัญญำชำวบำ้ น กำรเพำะเหด็ ฟำง สำขำ ดำ้ นเกษตรกรรม ( หลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ) นำงสขุ สนั ต์ แสงรุง่ เบอร์โทรศพั ท์ 089 -0104766 เลขท่ี 38 หมู่ท่ี 16 บำ้ นสุขสำรำญ ตำบลฝัง่ แดง อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบัวลำภู

รูปภำพเพม่ิ เตมิ กำรทำโรงเรือน กำรทำช้นั กำรเพำะเหด็ ฟำง

นำงสุขสนั ต์ แสงร่งุ ประวัติและผลงำนครภู มู ิปัญญำท้องถน่ิ จังหวดั หนองบัวลำภู ด้ำนภูมิปัญญำชำวบ้ำน สำขำ ดำ้ นเกษตรกรรม 1. ประวตั ิและผลงำน ใน ประวัตคิ วำมเป็นมำ หลงั จำกกำรว่ำงเวน้ จำกกำรทำนำ ได้ใชเ้ วลำวำ่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ จึงคิดรเิ รม่ิ และไดร้ วบรวมสมำชกิ ครง้ั แรก ซ่ึงอยู่ในชว่ งเกิดโรคระบำด จำกเช้ือไวรสั โควคิ 2019 จำนวน 10 คน จดั ตงั้ เปน็ กลมุ่ วิสำหกิจชุมชน โดยมีนำยอดุ ร แสงรุ่ง เป็นประธำนกลุ่ม ได้ปรกึ ษำกบั นำยทองมว้ น คำสวนมอน ผใู้ หญบ่ ำ้ นบ้ำนสุขสำรำญ หมู่ท่ี 16 ตำบลฝั่งแดง อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบวั ลำภู เพือ่ จดั ตั้งเปน็ กลุ่มอำชพี ในชุมชน และเป็นอำหำรในกำรบริโภค ให้กบั ประชำชน เขตพืน้ ทตี่ ำบลฝง่ั แดง เพอื่ นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ครอบครัว และชมุ ชนต่อไป 2. องค์ควำมรู้และควำมเชยี่ วชำญ 2.1 มีควำมรู้และสำมำรถเพำะเชื้อเห็ดฟำง 2.2 มีควำมรใู้ นกำรทำป๋ยุ อนิ ทรยี ์ 3. กำรถ่ำยทอดควำมรแู้ ละควำมเชย่ี วชำญ - กำรถำ่ ยทอดให้ควำมรู้ด้วยกำรอธิบำยและสำธติ ตำมข้ันตอนในกำรผลิต และใหผ้ ู้เรียนลงมือ ปฏบิ ตั ติ ำมขน้ั ตอนกำรผลิตโดยกำรแบ่งกลมุ่ ปฏบิ ัติ วัสดใุ นกำรเพำะเหด็ ฟำง 1. กำกมัน 2. ปยุ๋ คอก 3. รำออ่ น 4. ปยุ๋ แคลเซียม 5. กำกนำ้ ตำล 6. อี เอ็ม 7. แป้งมัน 8. แป้ง เจ้ล่วง

ข้ันตอนในกำรทำ กำกมนั ปยุ๋ คอก กำกน้ำตำล อีเอ็ม ผสมใหเ้ ข้ำกันแลว้ หมักไว้ 4 คืน ครบ 4 คืน นำไป เกบ็ ในโรงเรอื นแลว้ อบดว้ ยไอน้ำ เปน็ เวลำ 1 คืน ปดิ ไม่ให้อำกำศเขำ้ กำรทำอำหำรเสริม เห็ดเงินล้ำนผสมกับรำออ่ น นำไปโรยในแปลงทีเ่ ตรียมไวแ้ ละรดน้ำ ขัน้ ตอนเพำะเชื้อเหด็ ฟำง เชื้อเห็ด เหด็ เงินลำ้ น แป้งมนั แปง้ เจ้ลว่ ง ผสมเข้ำดว้ ยกันโรยบนแปลงทเ่ี ตรยี มไว้ รดน้ำพอให้ชมุ่ แลว้ ปิด โรงเรอื นไมใ่ ห้อำกำศเข้ำ เปน็ เวลำ 4 วนั 3 คนื แลว้ เปดิ ตดั ใย ปดิ โรงเรอื นอีก 3 วนั 2 คืน แลว้ เดตดั ใยอีกครั้ง ให้อำหำร อุณหภมู จิ ะอยู่ในระดับ 28 – 30 องศำเซลเซยี ส ตอ่ มำอีก 4 วนั เร่ิมเก็บดอก 4. ลักษณะของเครอื ข่ำยและกำรสร้ำงเครอื ขำ่ ย ดังนี้ 4.1 เกษตรอำเภอนำกลำง 4.2 เกษตรตำบลฝง่ั แดง 4.3 พัฒนำชุมชนอำเภอนำกลำง 4.4 พฒั นำชุมชนตำบลฝง่ั แดง 5. ผลงำนท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม 5.1 เป็นผลผลิต เพอื่ ใชใ้ นกลุ่มเกษตรกร ในพ้นื ทต่ี ำบลฝง่ั แดง 5.2 เป็นอำหำรเพื่อกำรบรโิ ภคให้กบั ประชำชน 5.3 เพอื่ สรำ้ งรำยไดใ้ นครวั เรือน 6. รำงวัลหรือเกียรตคิ ุณที่ได้รับ -

ตำบลเกำ่ กลอย ประวัตแิ ละผลงำนครูภมู ปิ ัญญำท้องถ่ินอำเภอนำกลำง จังหวดั หนองบวั ลำภู ดำ้ น หตั ถกรรม สำขำ กำรทอผำ้ พ้ืนเมือง นำงสำวประมวล ศรีมันตะ 203/1 หมู่ 13 ตำบลเก่ำกลอย อำเภอนำกลำง จังหวดั หนองบวั ลำภู 39350

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ



ประวตั ิและผลงำนครูภมู ปิ ัญญำท้องถิน่ จงั หวัดหนองบัวลำภู ด้ำน เกษตรกรรม สำขำ ภมู ปิ ัญญำชำวบ้ำน 1. ประวตั แิ ละผลงำน นำงสำวประมวล สมี ันตะ มีภูมิลำเนำอยู่ที่ บ้ำนกดุ กระสใู้ ต้ หม่ทู ่ี 13 ตำบลเกำ่ กลอย อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบวั ลำภู เรียนจบในระดบั ช้ันมธั ยมศึกษำปที ่ี 3 สำขำวิชำ กำรจดั กำร จำกศูนยก์ ำรศกึ ษำนอก ระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอนำกลำง สมรสแล้ว มบี ุตรทั้งหมด 2 คน ดว้ ยควำมสนใจเฉพำะตวั บวกกับควำมสำมำรถในควำมคดิ สร้ำงสรรคใ์ นกำรประดษิ ฐ์ลวดลำยผ้ำ ที่ได้ เรียนรแู้ ละรบั กำรถ่ำยทอด ฝึกฝนจำกแม่มำตง้ั แตเ่ ดก็ จงึ ทำให้มคี วำมพยำยำมท่จี ะสรำ้ งสรรคช์ น้ิ งำนใหม่ๆและ ถ่ำยทอดควำมรู้นใี้ ห้กับคนในชุมชน จึงไดม้ ีกำรจดั ตั้งกลุ่มทอผำ้ พ้นื เมอื งบ้ำนกดุ กระสู้ใต้ขึ้น มสี ำมชกิ ทั้งสิน้ 26 คน ปัจจุบันไดร้ บั กำรไดร้ บั คำเชญิ จำกหนว่ ยงำนตำ่ งๆเพื่อเปน็ วิทยำกรในกำรในควำมรูเ้ กำ่ ยวกบั กำร ประดิษฐล์ ำยผ้ำมดั หมี่ กำรเย็บหน้ำกำกอนำมยั ท่ีได้มำตรฐำนจำกหน่วยกำรต่ำงๆ รวมทั้งกำรประดิษฐข์ องใช้ ของทร่ี ะลกึ จำกเศษผ้ำในแต่ละพ้นื ท่ดี ้วย 2. องค์ควำมรแู้ ละควำมเชีย่ วชำญ 1.กำรยอมสีดำ้ ยด้วนเทคนิคธรรมชำตแิ ละสีธรรมชำติ 2.กำรประดิษฐล์ ำย 3.กำรทำเกษตรแบบผสมผสำน 4.กำรเยบ็ หนำ้ กำกอนำมยั ที่ได้มำตรฐำน 5.กำรใชก้ ่กี ระตุก 3. กำรถำ่ ยทอดควำมรู้และควำมเช่ียวชำญ สำหรบั กำรถำ่ ยทอดควำมรทู้ ่ีมนี ้ัน คณุ ประมวลไดเ้ ลำ่ ว่ำ หำกใครทส่ี นใจสำมำรถมำศึกษำเรียนรูไ้ ด้ ทบี่ ้ำน ยนิ ดีสอนใหโ้ ดยไมค่ ิดค่ำใช้จ่ำย ขอแคใ่ จทีร่ กั และได้รับกำรเชญิ เปน็ วิทยำกรให้กับหนว่ ยกำรต่ำงๆ อกี ด้วย 4. ลกั ษณะของเครือข่ำยและกำรสร้ำงเครอื ขำ่ ย กำรประสำนเครอื ขำ่ ยและกำรร่วมมือในกำรจัดกิจกรรมและพฒั นำงำน จำกควำมร่วมมอื ของ เครอื ข่ำย 1. กศน.ตำบลเกำ่ กลอย สงั กัด กศน.อำเภอนำกลำง 2. เกษตรอำเภอนำกลำง 3. พฒั นำชุมชนอำเภอนำกลำง 4. ที่ดนิ จงั หวัดหนองบัวลำภู 5. สปก.จงั หวัดหนองบัวลำภู 6. พัฒนำฝีมือแรงงำนจังหวัดหนองบวั ลำภู 7. หอกำรคำ้ จงั หวัดหนองบัวลำภู

8. เทศบำลตำบลเก่ำกลอย 10. ผู้นำชมุ ชน 5. ผลงำนทเี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนและสังคม เปน็ วิทยำกรอำสำให้ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเยบ็ หน้ำกำกอนำมัยท่ีไดม้ ำตรฐำนให้กับหนว่ ยงำนต่ำงๆตำม คำเชิญและสอนใหก้ ับคนในชุมชน หมบู่ ้ำน 6. รำงวัลหรือเกียรติคุณทไ่ี ด้รบั -

ตำบลกดุ ดนิ จี่ ประวัตแิ ละผลงำนครูภมู ิปญั ญำท้องถนิ่ จังหวัดหนองบวั ลำภู ดำ้ น แหลง่ เรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง สำขำ สถำนที่แหล่งเรยี นรู้

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

สวนเศรษฐกิจพอเพียงบำ้ นอำบชำ้ ง ม.5 ตำบลกดุ ดินจ่ี ประวัตแิ ละผลงำนครูภมู ิปัญญำท้องถ่นิ จงั หวดั หนองบัวลำภู ดำ้ น แหลง่ เรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพยี ง สำขำ สถำนทีแ่ หลง่ เรยี นรู้ 1.ประวตั ิกำรก่อต้งั สืบเนอ่ื งจำก นำงสำคร สุชัยสงค์ ซง่ึ เป็นเกษตรกร ได้ไปศึกษำดูงำนยังแหลง่ เรียนอ่นื แล้วไดน้ ำ แนวคิดและประสบกำรณ์ทำงดำ้ นเกษตรกรรมนำมำใชก้ บั สวนเกษตรของตนเองอีกท้ัง ได้รับแนวคดิ กำรทำ เกษตรแบบผสมผสำนจำกพระรำชดำรัสของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยหู่ ัวรชั กำลที่ 9 เรอื่ งกำรทำเศรษฐกิจ พอเพยี ง จึงไดน้ ำมำปรับใชก้ ับตวั เองจนเป็นผลสำเรจ็ ผลงำนท่โี ดดเดน่ คือ เปน็ วทิ ยำกรกำรนำควำมรูด้ ำ้ น เศรษฐกจิ พอเพียงมำใช้สอนบุคคลท่ีสนใจในงำนดำ้ นกำรเกษตรโดยประยกุ ต์ภมู ิปัญญำเข้ำกับกำรรักษำวิถี ธรรมชำติ แนวควำมคิดของนำยบรรทม สำมำรถนำไปปฏิบตั แิ ละก่อใหเ้ กิดผลทช่ี ดั เจน อกี ทั้งยงั สัมพนั ธก์ ับวถิ ี เศรษฐกจิ ของชำวบำ้ น บนพนื้ ฐำนของกำรใชช้ วี ิตอยำ่ งพออยู่พอกิน 2. องค์ควำมรู้และควำมเชีย่ วชำญ นำงสำคร สชุ ัยสงค์ มำจำกครอบครัวเกษตรกร มคี วำมคนุ้ เคยกบั กำรทำไร่ทำนำมำแต่กำเนดิ โดย กอ่ นทจี่ ะมำทำสวนแบบผสมผสำน เคยทำนำมำกอ่ น ดังน้ัน อำชพี เดียวของนำงสำคร สชุ ยั สงค์ คือ กำรทำ กำรเกษตร โดยนำงสำครและครอบครวั ได้รบั ควำมร้กู ำรทำเกษตรมำจำกบรรพบรุ ษุ และมชี ีวิตท่ีแวดล้อมไป ด้วยธรรมชำตแิ ละกำรเกษตร นำงสำคร เลำ่ ว่ำ อำชพี เกษตรกำรทำนำ เป็นอำชพี ด้ังเดิมของเรำ เรำก็สบื ทอดกัน มำเร่ือยๆ หลังจำกไดย้ ินพระรำชดำรสั เก่ียวกบั เศรษฐกจิ พอเพียง นำงสำคร จงึ ได้เริ่มทำกำรเกษตรแบบ ผสมผสำน มำเรือ่ ยๆ จนถึงปัจจุบนั นำงสำคร เป็นบุคคลท่ีมีมนษุ ย์สัมพันธท์ ดี่ ีเยย่ี ม ชอบพบปะสงั สรรค์กบั ผูอ้ น่ื มบี คุ ลิกภำพทีย่ ิ้มแย้มแจ่มใสและชอบพูดคยุ กบั ผู้อน่ื มีควำมเสียสละ และมีควำมเป็นผนู้ ำซึ่งเปน็ บคุ ลกิ ที่ เหมำะสม และมีควำมสนใจในกำรพฒั นำอำชพี ของตนเองอยู่เร่ือยๆ 3. กำรถ่ำยทอดควำมรู้และควำมเช่ียวชำญ จำกแนวคดิ ทอ่ี ยำกแบง่ ปันควำมสขุ ใหก้ บั ทุกคนท่ีรู้จัก นำงสำคร จึงได้สรำ้ งศนู ย์เรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียงขนึ้ โดยใช้บ้ำนสวนของตนเองเปน็ สถำนที่ ในกำรสรำ้ งศนู ย์เศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นแหล่งเรียนรู้ทเ่ี ปดิ รบั ทุกคนทีม่ คี วำมสนใจในกำรเรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียง มี นักเรียน นกั ศกึ ษำ เยำวชน และหน่วยงำนรำชกำรหลำย เชน่ กศน.ตำบลกดุ ดนิ จ่ี สำนกั งำนปศสุ ตั ว์อำเภอนำกลำง สำนกั งำนเกษตรอำเภอนำกลำง แห่งนำบุคลำกรเขำ้ เรียนรู้เป็นจำนวนมำก อย่ำงไม่ขำดสำย เน่อื งจำกวำ่ นำงสำครได้รับเลอื กใหเ้ ป็นเกษตรกรตัวอยำ่ งของบ้ำนอำบ ชำ้ ง และได้กำรยอมรบั จำกบคุ คลทัว่ ไปวำ่ สำมำรถนำปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งมำใช้ไดอ้ ยำ่ งดเี ย่ียม นำง สำคร เป็นคนที่มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ ทไ่ี ม่หยุดน่ิงอยกู่ บั ท่ี พยำยำมพฒั นำอำชพี ของตนเองไปเรอ่ื ยๆ เชน่ กำรทำ สวนและกำรปลกู มะนำว บวบหวำน ต้นกระเจยี๊ บแดง เหด็ นำงฟำ้ เหด็ ขอนขำวมะม่วง ผักชนิดตำ่ งๆ จะ พยำยำมเรียนรเู้ พิม่ เติม หำกลอง แลว้ ใชไ้ ม่ไดผ้ ล ก็พยำยำมพัฒนำขึน้ ใหม่ มีกำรลองผดิ ลองถูกไปเรื่อยๆ มีกำร ไปอบรมหำควำมรูใ้ หม่ๆมำพัฒนำอำชีพของตนเองอยเู่ สมอ ทง้ั ในด้ำนวิชำกำรและวิชำชีพโดยกำรไปเข้ำรว่ ม อบรม สมั มนำในสถำนทตี่ ่ำงๆอยู่เป็นประจำแลกเปลยี่ นเรียนรูก้ บั ผู้อ่นื อยู่เสมอ

4. ลักษณะของเครอื ขำ่ ยและกำรสรำ้ งเครือข่ำย ได้รบั กำรยอมรบั ของบุคคลท่ัวไป โดยมสี ำนักงำนปศสุ ตั ว์อำเภอนำกลำงให้กำรรบั รองมำตรฐำน ว่ำเป็นสถำนทท่ี ่ีสำมำรถใชเ้ ป็นแหลง่ เรียนรไู้ ด้ ศนู ย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอนำ กลำง ได้สนบั สนนุ กำรเขำ้ ร่วมศกึ ษำดงู ำนของนักศึกษำ กศน.ตำบลกุดดนิ จี่ โดยมีประชำชนสนใจเขำ้ รว่ ม จำนวน 15 คน 5. ผลงำนท่ีเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม เป็นแหลง่ เรยี นรใู้ นตำบลทีม่ ีผู้สนใจเข้ำมำเรยี นรู้จำนวนมำก 6. รำงวลั หรือเกยี รติคณุ ท่ไี ด้รับ ไดร้ บั กำรเปิดเป็นแหล่งเรยี นรู้ของตำบลโดยมี นำงสำคร สุชยั สงค์ เปน็ วทิ ยำกรใหค้ วำมรู้ แก่บคุ คลทีส่ นใจ

ตำบลดงสวรรค์ ประวัตแิ ละควำมเป็นมำของแหล่งเรียนรู้ท้องถ่นิ จังหวดั หนองบวั ลำภู ด้ำน ภมู ิปญั ญำกำรทอผำ้ เรือ่ ง กำรทอผำ้ ฝ้ำยทอมอื ลำยหมำกหวำยนอ้ ย นำงนวลจนั ทร์ ทศั ศิริ

รปู ภำพเพ่มิ เตมิ

ประวตั แิ ละควำมเปน็ มำชองแหลง่ เรยี นรทู้ อ้ งถิน่ จงั หวดั หนองบวั ลำภู ด้ำน ภูมปิ ญั ญำกำรทอผ้ำ เรื่อง กำรทอผำ้ ฝำ้ ยทอมือลำยหมำกหวำยน้อย 1. ประวัตแิ ละควำมเปน็ มำ นำงนวลจันทร์ ทัศศิริ อยู่ที่บ้ำนเลขท่ี 195 หมู่ 3 บ้ำนสันติสุข ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนำกลำง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้เร่ิมก่อตั้งกลุ่มทอผ้ำพื้นเมืองขึ้น เม่ือปี พ.ศ.2559 โดยมีองค์กำรบริหำรส่วนตำบลดง สวรรค์เปน็ ผสู้ นับสนุนในกำรจัดตง้ั กลมุ่ ขน้ึ มำ เพอื่ ส่งเสรมิ ใหค้ นในชมุ ชนได้สร้ำงอำชีพเสรมิ จนมำถึงปัจจุบัน กลุ่มทอผ้ำพื้นเมือง บ้ำนสันติสุข ของตำบลดงสวรรค์ มีผลิตภัณฑ์จำกผ้ำ พ้นื เมอื งท่ีมีคุณภำพ ไดร้ บั รำงวัลจำกหน่วยงำนต่ำงๆซ่งึ ทำใหค้ นในชุมชนไดม้ ีรำยได้จำกกำรทอผ้ำพน้ื เมือง 2. องค์ควำมรู้และควำมเช่ยี วชำญ บ้ำนสันติสุข หมู่ท่ี 3 ตำบลดงสวรรค์ อ.นำกลำง จ.หนองบัวลำภู เป็นหมู่บ้ำนโบรำณที่ปรำกฏช่ือใน ประวัติศำสตร์กำร ก่อตั้งบ้ำนเรือนของชุมชนในจังหวัดหนองบัวลำภูมำต้ังแต่สมัยโบรำณ ปัจจุบันบ้ำนสันติสุข เป็นแหล่งผลิตผ้ำฝ้ำยทอมือพื้นบ้ำนแบบครบวงจรที่มีคุณภำพ ช่ำงทอผ้ำส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอำยุได้ส่ังสม ประสบกำรณ์ในกำรทอผ้ำซ่ึงสืบทอด มำจำกบรรพบุรุษ กำรทอผ้ำบ้ำนสันติสุขจะผลิตด้วยมือทุกข้ันตอน ออกแบบลวดลำย ย้อมผ้ำ จนกระท่ังทอเป็นผืนผ้ำ ลำยผ้ำฝ้ำยบ้ำนสันติสุขในปัจจุบัน พบว่ำมี มำกกว่ำ 10 ลำย มที ง้ั ลำยโบรำณท่สี ืบทอดมำจำกบรรพบรุ ุษ ซง่ึ มีอำยมุ ำกกวำ่ 100 ปี เช่น ลำยกอตะไคร้ ลำยกอ ตระไคร้ ลำยหม่ีคีบ นอกจำกน้ียังมีลำยที่ประยุกต์จำกลำยโบรำณด้ังเดิมได้เป็นลำยใหม่ท่ีสวยงำม และยังมีลำยท่ีคิด สร้ำงสรรค์ขึ้นใหม่ โดยได้แนวคิดจำกธรรมชำติและแวดล้อมของชุมชน เช่น แม่น้ำภูเขำ ป่ำไม้ พืชพรรณ และ สัตว์ ตำ่ งๆ เป็นต้น ซึง่ เป็นลวดลำยทสี่ ะท้อนควำมเป็นอยูแ่ ละวิถีของชมุ ชนในอดตี ที่ บรรพบรุ ุษได้สร้ำงสรรค์ไว้ และสืบทอดมำจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพำะผ้ำโบรำณลำยกอตะไคร้ของบ้ำนสันติสุข ได้รับ กำรคัดเลือกจำก จงั หวัดหนองบัวลำภูไปจัดแสดงในงำนตำ่ งๆมำกมำย กำรทอผ้ำเป็นภูมิปัญญำและเปน็ วฒั นธรรมสำคัญของชุมชน เป็นกระบวนกำรขัดเกลำทำงสังคมอย่ำง หน่ึง เม่ือผู้คนมีกำรอพยพเคลื่อนย้ำยไปตั้งถิ่นฐำนในพื้นท่ีใด วัฒนธรรมก็ตดิ ตัวไปด้วยและนำไปปฏิบัติในพนื้ ที่ ท่ยี ้ำยไปอยู่ ใหม่ ดงั นน้ั ในชุมชนใกลเ้ คยี งหรือในพื้นที่จังหวัดหนองบวั ลำภูหลำยแห่ง รวมท้ังในภมู ิภำคตำ่ งๆ ซ่ึง มีกำรผลิตผำ้ ฝำ้ ยทอมือ จึงมลี วดลำยคลำ้ ยคลงึ กนั จนไมส่ ำมำรถบอกควำมแตกต่ำงหรอื อัตลักษณ์ของลวดลำย ผ้ำฝ้ำยทอมือในแต่ละพื้นท่ีได้ อย่ำงชัดเจน ปัจจุบันกลุ่มทอผ้ำฝ้ำยทอมือบ้ำนสันติสุข ได้มีกำรพัฒนำและ ออกแบบลวดลำยผ้ำฝ้ำยทอมืออัตลักษณ์ของ ผ้ำฝ้ำยทอมือบ้ำนสันติสุข ลำยผ้ำหมำกหวำยน้อยลักษณ์ชุมชน บ้ำนสันติสุข มีสองแบบคือ แบบลำยโบรำณดั้งเดิมและ ลำยที่ประยุกต์ขึ้นใหม่ เพ่ือเป็นกำรอนุรักษ์ลำยผ้ำ โบรำณและสมำชิกในชุมชนเกิดภำคภูมิใจในภูมิ ปัญญำของบรรพบุรุษ เนื่องจำกบ้ำนสันติสุขเป็นหมู่บ้ำนที่มี กำรทอผ้ำฝ้ำยทอมือพ้ืนบ้ำนเป็นภูมิปัญญำท่ีสืบทอดจำกบรรพ บุรุษยำวนำนจนถึงปัจจุบัน สร้ำงชื่อเสียงแก่ ชุมชนบ้ำนสันติสุข ทำให้ได้รับคัดเลือกเป็นชุมชนเข้มแข็งต้นแบบ ของจังหวัดหนองบัวลำภู ในปี พ.ศ. 2560 และกลำยเป็นแหล่งศึกษำดูงำนและเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษำ นักวิจัย นักวิชำกำร และผู้ท่ีสนใจทั่วไป รวมทง้ั ลูกค้ำผู้บริโภคท่ีได้เขำ้ ไปเยีย่ มชมและซื้อสนิ ค้ำในชมุ ชนบำ้ นสนั ติสุข ปัจจบุ ัน กำรทอผำ้ เป็นอำชพี เสริมท่ี สร้ำงรำยไดแ้ ก่ชำ่ งทอผำ้ เปน็ อยำ่ งดี

3.กำรถ่ำยทอดควำมรู้และควำมเชีย่ วชำญ กลุ่มผ้ำฝ้ำยทอมือบ้ำนสันติสุข ต้ังอยู่เลขท่ี 195 หมู่ที่ 3 ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนำกลำง จังหวัด หนองบัวลำภู เป็นกำรรวมกลุ่มของ ผู้ผลิตผ้ำฝ้ำยทอมือตั้งแต่ย้อมสี ทอผ้ำ ตัดเย็บ จำหน่ำย โดยมีนำง นวลจันทร์ ทัศศริ ิ เป็นประธำนกล่มุ ปจั จบุ นั มีสมำชกิ กลมุ่ จำนวน 24 คน สมำชิกส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรใชเ้ วลำ ว่ำงในกำรทอผ้ำเน่ืองจำกแต่ละคนมีควำมรู้ที่ได้รับกำรสืบทอดจำกรุ่นพ่อแม่ เป็นกลุ่มท่ียัง ใช้วิธีกำรย้อมสี ธรรมชำติ และในปี 2561 ได้รับคัดเลือกเป็นสินค้ำผลิตภัณฑ์ชุมชนระดับ 4 ดำวของจังหวัด คือผ้ำปูโต๊ะท่ีผลิต จำกผ้ำ ฝ้ำยทอมือ โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ลวดลำยท่ีหลำกหลำย เป็นกำรนำควำมดั่งเดิมมำประยุกต์ เช่น ลำย เกล็ดเต่ำ ลำยตำถี่ ลำยปม ฯลฯ ฝ้ำยที่ใช้ทอเป็นฝ้ำยที่ย้อมด้ำยสีท่ีมีคุณภำพ เม่ือนำมำทอจึงได้ผ้ำทอท่ีมีสีสัน งดงำม คงทน สไี มต่ ก กำรทอใช้ฟมื เหล็ก ทำให้ได้ผำ้ เนอื้ แน่นและละเอยี ด ผนื ผำ้ ทที่ อออกมำดูสวยงำมน่ำสวม ใส่ ผำ้ ที่ผลติ ไดส้ ำมำรถนำไปแปรรูปเป็นผลติ ภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีกมำกมำย เช่น กระเป๋ำ เสื้อผ้ำ ของใช้อื่น ๆ นอกจำกนี้ทำงกลุ่มได้เปิดโอกำสให้หลำยพื้นที่มำเรียนรู้ พร้อมทั้งกำรไปเป็นวิทยำกรช่วยสอนเด็ก นกั เรียน ในโรงเรยี นบำ้ นดงสวรรค์วทิ ยำ เป็นตัวแทนของชุมชนในกำรสืบสำนภูมปิ ัญญำท้องถ่ินและยังเป็นกำร ใช้เวลำว่ำงหลังจำกกำรทำนำทำไร่มำ ร่วมกันทอผ้ำย้อมผ้ำ จำกกำรหำรือร่วมกันทำงกลุ่มสนใจที่จะถ่ำยทอด องค์ควำมรู้เพื่อท้องถ่ินท่ีจะนำมำสร้ำงกำรเรียนรู้ร่วมกัน จึงได้รวมกลุ่มขึ้นมำโดยนำหลักพละ 5 ทำงพุทธ ศำสนำมำเป็นหลกั ในกำรดำเนินงำนเพื่อหำแนวทำงกำรในกำรฟนื้ ฟู รักษำ พฒั นำ ภมู ิ ปัญญำดงั้ เดิมให้เกิดกำร ขยำยผล และเป็นแบบอย่ำงให้กับชุมชนหรือกลุ่มทอผ้ำพ้ืนบ้ำนอ่ืน ๆ รวมท้ังสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจกับผู้ใช้ หรือผู้บริโภคได้เห็นควำมสำคัญของกำรทอผ้ำที่เป็นกำรทอผ้ำแบบภูมิปัญญำดั้งเดิมที่ไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภำพ รวมถึงเกิด กำรสืบสำนภมู ิปัญญำใหเ้ กดิ ควำมย่งั ยืนต่อไป 4.ลักษณะของเครือข่ำยและกำรสร้ำงเครอื ข่ำย กำรสรำ้ งเครือขำ่ ยแหล่งเรียนรูผ้ ้ำฝ้ำยทอมือบำ้ นสนั ติสขุ ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนำกลำง จังหวดั หนองบวั ลำภู เป็นแหล่งเรยี นรู้ผำ้ ทอมือระดับท้องถิ่น ซง่ึ เปน็ กำรขยำยควำมร่วมมือจำกระดบั ท้องถิ่น ส่รู ะดบั ภมู ิภำค เปน็ กำร สรำ้ งควำมเข้มแขง็ ทำงวิชำกำร และภูมิปญั ญำทอ้ งถน่ิ โดยควำมร่วมมือขอ สถำบันกำรศึกษำ ภำครัฐ ชุมชน องค์กรสว่ นท้องถนิ่ ให้กำรสนับสนนุ เพอ่ื สรำ้ งแหล่งเรียนรู้ ระดบั ภมู ิภำค และหน่วยงำนในท้องถ่นิ ชว่ ยกันรบั ผิดชอบส่งเสรมิ รกั ษำวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถิน่ ถ่ำยทอดองค์ ควำมร้สู เู่ ยำวชนรุ่นตอ่ ไป โดยภำพรวมของเครือข่ำยระดับภูมิภำค จึงสง่ ผลใหเ้ ป็นชมุ ชนท่ีเข้มแข็ง เปน็ แหล่งเรยี นรู้ของชุมชน เป็นแหล่งเรียนรูด้ ำ้ นวัฒนธรรมกำรทอผ้ำ จำกบรรพบุรษุ มีผู้คนมำกมำยให้ควำมสนใจมำเยี่ยมชม ชมุ ชนบำ้ นสนั ติสขุ 5.ผลงำนที่เป็นประโยชนต์ ่อชุมชน กำรทอผำ้ ฝำ้ ยทอมอื ของบ้ำนสันติสขุ มีกำรสบื สำนภูมิปญั ญำมำกวำ่ 200 ปี ต้งั แต่ในสมัยปู่ ย่ำ ตำ ยำย โดยทกุ ขน้ั ตอนตง้ั แต่กำรทำเสน้ ฝำ้ ย กำรย้อมสี กำรทอผำ้ ลว้ นเป็นกระบวนกำรแบบธรรมชำติ มกี ำรสืบ ทอดจำกรนุ่ สรู่ ่นุ จนถึง ปัจจบุ นั กำรรวมกลมุ่ ผำ้ ฝ้ำยทอมือเร่ิมจำกกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพยข์ องหมู่บำ้ นท่มี ี หลำกหลำยอำชีพมำรวมกล่มุ กันเพื่อออมเงิน จำกน้ัน ได้รบั กำรแนะนำจำกทำงรำชกำรเก่ียวกบั กำรรวมกลุ่ม ทำงวิชำชีพ จงึ เกิดกำรรวมกลุ่มผ้ำฝำ้ ยทอมือบำ้ นสนั ตสิ ขุ ข้ึน เมอ่ื ตน้ ปี 2560 ตำมโครงกำรในพระรำชดำริ

เศรษฐกจิ พอเพียงของพระบำทสมเด็จพระเจำ้ อย่หู วั ในขณะน้นั (สมเดจ็ พระปรมินทรมหำภมู ิพลอดลุ ยเดช) โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พื่ออนุรักษ์และสบื สำนภูมิปญั ญำกำรทอผำ้ ฝ้ำย รวมท้ังเพื่อชว่ ยให้คนในชุมชนมงี ำนทำและ มีรำยไดม้ ำก ลวดลำยกำรทอผ้ำฝำ้ ยของกล่มุ ฯ มที ั้งกำร ฟืน้ ฟูและอนุรกั ษล์ วดลำยดั้งเดิมที่สบื ทอดมำจำก บรรพบุรุษ เรยี กว่ำ “ลวดลำยด้ังเดมิ ” และกำรคิดค้น ดัดแปลงออกมำเปน็ ลวดลำยใหม่ เรยี กวำ่ “ลวดลำย ประยุกต์”จนกระทงั่ ปจั จบุ ันมีเทคโนโลยีท่ีเขำ้ มำช่วยในกำรทอผ้ำมำกขนึ้ แต่กลมุ่ ฯ กย็ ังคงอนรุ ักษ์วิถีกำรทอผำ้ ฝ้ำย ทอมือตำมท่ีได้สบื ทอดมำจำกบรรพบรุ ุษ 6.รำงวัลหรอื เกยี รติคณุ ทีไ่ ดร้ บั กลุ่มผ้ำฝ้ำยทอมือบ้ำนสันติสุข เป็นสินค้ำแนวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ถักทอด้วยมือตำมแบบภูมิปัญญำ ดงั้ เดมิ และย้อมสธี รรมชำต)ิ ผลติ จำกวัตถดุ บิ คุณภำพดี สี แบบลวดลำยสำมำรถพัฒนำใหเ้ ป็นสินคำ้ ร่วมสมัยได้ โดยเฉพำะลวดลำยด้งั เดิมทม่ี ีควำมสวยงำมอ่อนช้อย แสดงถึงภมู ปิ ัญญำของ บรรพบุรุษท่ีได้ถ่ำยทอดออกมำใน รูปแบบของลวดลำยผ้ำทอที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถ่ิน สำมำรถดึงดูดควำมสนใจของลูกค้ำท่ัวไป ได้ สำมำรถ เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวท้ังในและนอกพ้ืนท่ีเพ่ือขยำยตลำดได้โดยประสำนงำนกับหน่วยงำนภำครัฐในกำร ออกงำน แสดงสินค้ำ กำรแลกเปล่ียนเรียนรู้ในผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันท้ังในและนอกพื้นที่ จัดกิจกรรม ท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม จึงได้รับรำงวัลมำกมำยจำกหน่วยงำนภำครัฐ ท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถ่ินใหก้ ำรสนับสนุนด้ำนกำรประชำสมั พนั ธ์ มีหลำยหนว่ ยงำนให้กำรสนบั สนนุ กำรพัฒนำสินค้ำ และ ตลำด จำหน่ำย OTOP - ได้รับรำงวลั OTOP 4 ดำว จำกผวู้ ำ่ รำชกำรจงั หวัดหนองบวั ลำภู ปี พ.ศ. 2561 - ไดร้ ับยกย่องเชิดชูผทู้ รงภมู ิปัญญำทอ้ งถิ่น ครูภมู ปิ ัญญำผำ้ ฝ้ำยทอมือในชมุ ชน ผ้มู ผี ลงำนดเี ด่นใน ชุมชนทำงดำ้ นวฒั นธรรม คนดีศรสี งั คม เปน็ ตน้ โดยยกย่องเชิดชูเกยี รตทิ งั้ ในระดับท้องถิน่ และ ระดบั ชำติ ปี พ.ศ.2562 จำกผูว้ ่ำรำชกำรจังหวัดหนองบวั ลำภู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook