Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือ ดิจิทัล

หนังสือ ดิจิทัล

Published by ซ้อ'ออ โอ, 2021-04-06 06:11:09

Description: หนังสือ ดิจิทัล

Search

Read the Text Version

หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ DIGITAL LITERACY สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุ รกิจ วิทยาลั ยอาชีวศึ กษาหนองหาน

คํานํา หนังสือเลมนี้เป็นสว นหน่ึงของการศกึ ษาในระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ จดั ทําข้นึ เพ่อื แกไ ขปัญหาทีม่ า จากการใชช วี ิตประจําวนั ไดพ บเหน็ ปัญหาส่ือการเรียน การสอนอาจจะมีสาเหตจุ ากการส่ือการเรยี นขัดของและ ไดน ํามาแกปัญหา ดงั นัน้ หนังสือเลม นี้จงึ มีเน้ือหาราย ละเอยี ดเก่ียวกบั การแกป ัญหาท่ไี ดพ บเห็นและการนํา ไปใชง านเพ่อื ใหเ กิดประโยชนสูงสดุ ผจู ัดทําคาดวาหนังสอื เลม นี้จะเป็นประโยชนตอทา นที่ สนใจ หากวาหนังสอื เลมนี้มีสง่ิ ผดิ พลาดประการใด ก็ ขออภยั ณ ท่ีนี้ดว ย และจะนําปัญหาท่ีไดรบั ไปปรบั ปรุง แกไขหรอื พฒั นาหนังสือในครัง้ ตอไป

สารบญั เรอง หนา้ ทีม่ าและความสําคัญ……………............................................................1 ความหมาย..…………………………………………………………..................…….…...…….…2 Digital Literacy คอื อะไร………………...................................................8 ทักษะครอบคลุมความสามารถ4มติ ิ….………………………………..…........…….....8 การรูดจิ ทิ ลั …….………………………………..........…………………………............…….………10 การรูส่อื ..…….………………………………………………………………........................…….….10 การรูเ ทคโนโลย.ี .…………………………………………………….........……….............…….11 การรสู ารสนเทศ….……………………………………………........……................…….……..11 การรเู ก่ียวกับส่งิ ที่เหน็ ..….………………………………………….…......……......…….…....11 การรูก ารส่ือสาร…..….………………………………….......……………….….........………...….12 การรูสงั คม…..…..….…………………………………………..........………….........………....….12 การเขาถึงดิจิทัล……..….………………………………………………….............….......……..13 ส่อื ดจิ ิทัล………..….…………………………………………………….................……...….…......14 การส่ือสารผานเครอื ขายสังคมออนไลน….….………………..…….....………….…….15 ความปลอดภัยยุคดิจทิ ลั ….….……………………………………………...........…….....……16 ความมัน่ คงปลอดภยั และความเป็นสวนตวั ทางดจิ ทิ ัล………….…….......……16 ความเป็นสวนตวั ทางดจิ ิทัล…..….….………………………………….........….……...…….17 ความปลอดภยั ความมัน่ คง..…..….….…………………….......………………….…....….…18 การพิสจู นตวั ตน……….….………………………………………………….….............……........18 แนวทางการป องกนั ดา นความปลอดภยั …………………………………………….....…..19 การทาํ การตลาด ดิจิทลั ……..…..….….………………………………....…..……....…......…20 กฎหมายดิจิทัล…..……..…..….….……………………………………….......................………21 บรรณานกุ รมนกุ รม..…..……..…..….….…………………………...................……………..22 ประวัตผิ ูจ ัดทาํ ……..……..…..….….……………………………........................………………23

1 ทีมาและความสาํ คัญ สังคมปัจจบุ นั ไดเ ขาสกู ารเป็นสังคมฐานความรซู ่งึ คนในสงั คมจะตองเป็น แรงงานที่ใชความรูใ นการทาํ งาน (Knowledge worker) ซ่งึ มีคุณลกั ษณะสําคญั คอื เป็น บุคคลทพ่ี รอมเรยี นรูอยูตลอดเวลา ดงั นัน้ ทักษะทค่ี วรมขี องคนในศตวรรษท่ี 21 ไดแ ก ทกั ษะดา นการใชเ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ทกั ษะการรูสารสนเทศ เป็นตน นอกจากนี้รัฐบาลไทยไดมกี ารปรบั เปล่ียนวสิ ยั ทัศนนําพาประเทศไทยไปสโู มเดล ประเทศไทย 4.0 โดยใหความส าคัญในการปรบั ปรุงโครงสรางโทรคมนาคมและการ ส่ือสารท่ีมปี ระสิทธิภาพ รวมถงึ มีอินเทอรเน็ตท่ีครอบคลุมในทกุ พ้นื ทขี่ องประเทศให มากที่สุดเพ่ือเป็นฐานการขบั เคล่อื นเศรษฐกจิ และสงั คมดว ยนวตั กรรม (สุวิทย เมษนิ ท รยี , 2559) จากบรบิ ททงั้ ของโลกและของประเทศไทยทเ่ี ปล่ยี นไปอันเป็นผลมาจาก ความกา วหน าอยา งรวดเรว็ ของเทคโนโลยยี คุ ดจิ ทิ ลั และการส่อื สารผานเครือขา ย อินเทอรเ น็ต เหลานี้สงผลตอพฤตกิ รรมการสรา ง การใชและการส่อื สารสารสนเทศของ คนในสงั คมอนั ไดแก การนําสารสนเทศดจิ ทิ ัลมาใชเ รยี บเรยี งโดยการดัดแปลง การทาํ สาํ เนาในรปู แบบตา งๆ จากนัน้ แบง ปันโดยการโพสตเผยแพรส ารสนเทศเหลานี้เป็นสง่ิ ท่ี สามารถทําไดโ ดยงา ยทัง้ ทีบ่ าน ที่ทาํ งาน ในหอ งเรยี นหรอื แมก ระทัง่ ในทส่ี าธารณะตาง ๆ ซ่ึงสังคมมกั คาดหวังวาผูทํากิจกรรมดังกลาวควรทราบวาตองกระทาํ ภายใตก ฎหมาย รวมถึงมกี ารพิจารณาไตรตรองในเร่ืองความเหมาะสมตา งๆ แตก ็พบวา มกั มกี ารกระทํา ในการใชและเผยแพรส ารสนเทศดิจทิ ัลดว ยความไมต ระหนักรวู าส่ิงใดเป็นเร่อื งทผ่ี ดิ หรอื ไมเหมาะสมอยูเสมอ เน่ืองจากส่ือดิจทิ ลั มีพลงั ในการขบั เคล่อื นการพัฒนาการเรยี น รูของคนและการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม คนในสังคมจึงตอ งมคี วามรูค วามเขา ใจใน ส่อื ดจิ ิทลั ทงั้ การรับสง การใช การจัดการส่อื ดจิ ทิ ลั และกระบวนการทํางานกบั เทคโนโลยี สารสนเทศ รวมถึงการจัดการกบั อารมณของตนในสังคมส่อื ออนไลนซ่ึงเหลานี้คอื การรู ดจิ ิทลั (Digital literacy – DL)ดังนัน้ การรดู จิ ิทลั จึงเป็นหวั ขอสาํ คัญในบริบทท่ี เทคโนโลยีสารสนเทศมกี ารเปลี่ยนแปลงไปอยางรวดเร็วเกินกวาสงั คมจะตามทัน ใน ขณะความกา วหน าทีเ่ กดิ ข้ึนนี้ทาํ ใหบุคคลสามารถทํางานไดร วดเร็วและงายดายมากข้นึ สามารถคน ขอ มลู จากฐานขอมลู ออนไลน ดูหนังฟังเพลง สง หรือเผยแพรข อความใหผู อ่นื ไดอยา งงา ยดาย จากสง่ิ ตาง ๆ ดังกลา วทาํ ใหเกิดความทาทายอยางเรง ดวนเพ่อื นํามา ซ่งึ บรรทัดฐานทางสังคม รูปแบบการตลาดและกรอบกฎหมายโครงสรางทางสังคม มาตรฐานหรือกฎเกณฑของพฤติกรรมทเ่ี หมาะสมในบรบิ ทสภาพแวดลอ มดจิ ิทลั และยัง ไมมีการรับรแู พรห ลายโดยเฉพาะอยางยิ่งในบริบทการเรียนการสอนในระดับ ตา ง ๆ รวมถงึ การสรางแนวความคิดที่ถกู ตองในเร่ืองการรบั การใช การเผยแพร ลิขสทิ ธิร์ วม ถงึ จรยิ ธรรมทางวิชาการในบรบิ ทดจิ ทิ ัลซ่งึ พบวาในประเทศไทยยงั ไมป รากฏมาตรฐาน การรสู ารสนเทศดจิ ิทัลที่ชัดเจนทีจ่ ะสามารถนําไปใชเ ป็นบรรทัดฐานในการศกึ ษาและ การสอนในระดบั ตาง ๆ ดังนัน้ ผเู ขยี นจงึ มีความประสงคที่จะเผยแพรค วามรพู ้นื ฐาน ทักษะการรูดจิ ทิ ัลในบริบทการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรเู พ่ือใหเ ป็นท่ีรูจักและนําไปสกู าร ศึกษาคนควาอยางกวางขวางมากข้ึนในอนาคต

2 ความหมาย แนวคิดเดิมของการรหู นังสือ (Literacy) หมายถงึ ความสามารถในการอา น การเขียนและทักษะทางตัวเลข นัน้ ไมส ามารถทาํ ใหการดาํ เนินชีวติ เป็นไปอยางมี ประสทิ ธภิ าพไดในยุคดิจทิ ลั ดยคุ ดิจิทลั จึงตองเป็นความสามารถในการอานเขยี น และความสามารถเขา ใจสารสนเทศในรูปแบบขอ ความหลายมติ ิ (Hypertext) หรือส่อื ผสม (US Digital Literacy, 2014; Bawden, 2007) คพวา การรูดจิ ทิ ัล ไดเกดิ ข้นึ ในชว งทศวรรษ 1990 พบวา มีนักวิชาการหลายคนไดกลาวถงึ การรูด ิจทิ ัลไวหลาก หลาย ดงั นี้ การรูดิจทิ ลั มคี วามคลายคลึงกบั การรูส่ือผสม (Multimedia literacy) ที่มคี วาม หลากหลายรปู แบบทงั้ ขอความ ภาพ เสียงฯ ท่คี อนขา งแตกตา งจากความสามารถใน การอา นเขยี น (Literacy) ในแบบเดิม ดงั นัน้ คนในสงั คมจงึ จาํ เป็นตองมีรูปแบบของ ความสามารถในการอา นและเขียนในรูปแบบใหมท ีจ่ ําเป็นและใหเทา ทนั กับความ กาวหน าของเทคโนโลยใี นการนําเสนอสารสนเทศ และการส่อื สารปัจจุบัน (Lanham, 1995) ตอ มา Gilster (1997) นักวชิ าการทศี่ ึกษาการรูดิจิทัลในยุคแรก ๆ ใหนิยามไว วา การรูด จิ ทิ ลั เป็นความสามารถในการทําความเขาใจ การใชส ารสนเทศในรปู แบบ และจากแหลง ท่ีหลากหลายทนี่ าเสนอผา นคอมพวิ เตอรค รอบคลมุ ถึงความเขา ใจของ บคุ คลในการทาํ งานกับทรพั ยากรสารสนเทศดจิ ทิ ลั ในทํานองเดยี วกบั ความรูค วาม เขา ใจในการใชทรพั ยากรสารสนเทศหรือวรรณกรรมทเี่ ป็นส่งิ พมิ พ การรูดิจทิ ลั ยงั เป็นแนวคิดและวิธกี ารคดิ หรือความเช่ือทสี่ งผลตอพฤติกรรมIdeas a mindset) โดยมีการใชทักษะเฉพาะหรือสมรรถนะในการทํางานรวมกับสารสนเทศดิจทิ ลั จะ เห็นไดว า Gilster เน นทกั ษะดา นเทคนิค (Technical Skill) คอื การมคี วามรคู วาม เขาใจในส่งิ ทค่ี อมพิวเตอรเครอื ขา ยนําเสนอ และรวมถึงการทีบ่ ุคคลนําเสนอ สารสนเทศดิจิทัลดว ยความรูค วามเขาใจ นอกจากนี้ Gilster ยงั กลา ววา การรดู ิจิทัล และประสิทธิภาพในการใชอินเทอรเ น็ตมคี วามสาํ คญั เทาเทียมกนั การศึกษานิยาม ศัพทการรดู ิจิทลั ในมุมมององคกรของรฐั พบวา SchoolNet National Advisory Board (SNAB) ของแคนาดากลาวถงึ การรูดจิ ิทลั วา มคี วามสําคัญตอ ความสามารถ ในการสรางนวตั กรรม ความสามารถปฏิสัมพนั ธโ ตตอบกับบคุ คลอ่นื ในโลกออนไลน และในประเทศแคนาดานัน้ ความสามารถของบุคลากรท่ใี ชค วามรูใ นการทํางานและ การสรางนวตั กรรมมีความเช่อื มโยงกับการพัฒนาการคิดเชิงวพิ ากษ( Critical thinking) และการรดู ิจิทลั ของพลเมืองอยูบ นพ้ืนฐานของความสามารถในการใช สารสนเทศและเทคโนโลยกี ารการส่ือสาร (SNAB, 2001, p.3) ซ่ึงพบวา SNAB ให นิยามทคี่ ลา ยกบั Gilster ซ่ึงไมเพียงแตใหค วามสําคัญเร่ืองทักษะดา นเทคนิคแตยัง ใหความส าคัญในเร่อื งความสามารถในการใชสารสนเทศดจิ ทิ ลั ในสภาพการณท่ี เหมาะสม โดยใหน ิยามวา การรดู ิจทิ ัล คือ ความเขา ใจในการใชเคร่อื งมือทางเทคนิค และเกีย่ วของกบั ความสามารถพ้นื ฐานในการใชเคร่ืองมอื ดังกลา วอยา งมีประสทิ ธิผล

3 ดังนัน การรูส้ ารสนเทศจงึ เรมิ จากความสามารถในการค้นคืน การจดั การ การ แบง่ ปนรวมถึงการสรา้ งสารสนเทศและความรู้ แต่จะทําใหส้ มบูรณ์ไดก้ ็ต่อเมอื มี การเพมิ ทักษะการแก้ปญหา การคิดเชงิ วพิ ากษ์การสอื สารและการรว่ มมอื (SNAB, 2001, p.3) นอกจากนีกระทรวงศึกษาของประเทศนิวซแี ลนด์ ได้ให้ นิยามการรูด้ ิจทิ ัลไวใ้ นรายงานชอื เรอื ง DigitalHorizons วา่ คือ ความสามารถใน การเหน็ คณุ ค่าศักยภาพของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื สาร (ICT) ใน การนํามาสนับสนุนนวตั กรรมในอุตสาหกรรม ธุรกิจและการสรา้ งกระบวนการ ผู้ เรยี นรูจ้ าํ เปนต้องได้มาซงึ ความมนั ใจในทักษะและความสามารถในการแยกแยะ พนิ ิจพเิ คราะหใ์ นการนําเอา ICTมาใชใ้ หเ้ หมาะสม ดงั นนั การรดู้ ิจทิ ัลจงึ ถกู มอง เสมอื นเปน “ทักษะชวี ติ ” โดยมคี วามสาํ คัญเท่าเทียมกับการอ่านออกเขยี นได้หรอื การรูใ้ นเรอื งตัวเลข (New Zealand, Ministry of Education, 2003, p.5คณะ กรรมาธกิ ารภาคพนื ยุโรป (European Commission) ได้รบั เอาการรูด้ จิ ทิ ัลมา เปนแนวคิดหลักตังแต่ป ค.ศ. 2003 โดยกําหนดชดั เจนวา่ การรดู้ จิ ทิ ัล เปนความ สามารถทางด้าน ICT และอินเทอรเ์ น็ต หรอื เปนความสามารถในการใช้ ICT อยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ลของประชาชน (EuropeanCommission, 2004, p.3, p.14) นอกจากนียงั พบนิยามของนอรเ์ วยโ์ ดย Soby (2003) ได้เขยี นไวใ้ นรายงานของ กระทรวงการศึกษาและวจิ ยั โดยใหแ้ นวคิด การสรา้ งดิจทิ ัล (Digital building) ไวว้ า่ เปนการแสดงถึงความเขา้ ใจดิจทิ ัลในองค์รวมของเดก็ หรอื วยั รุน่ ในการ เรยี นรูแ้ ละพฒั นาในการแสดงเอกลักษณ์หรอื ลักษณะเฉพาะตัวของ รวมถึงการมี ด้านทักษะ คณุ สมบตั ิและความรูท้ ีต้องนํามาใชด้ ้วย การสรา้ งดิจทิ ัลดงั กล่าวยงั ต้องมกี ารบูรณาการการมองแบบองค์รวมทีจะสามารถสะท้อนผลกระทบของ ICT ทีแตกต่างในการนํามาพฒั นาทรพั ยากรมนุษยเ์ พอื เพมิ สมรรถนะในการ สอื สารแบบดิจทิ ัล ทักษะในการคิดเชงิ วพิ ากษ์และกระบวนการสงั สอน เปนต้น Soby, (2003, p.8) ใชค้ ําวา่ Bildung ซงึ เปนคําในภาษาเยอรมนั หมายถึง การ พฒั นาแบบบูรณาการของบุคคลแบบองค์รวม ซงึ มกี ระบวนการต่อเนืองตลอด ชวี ติ มผี ลต่อทกุ มุมมองความคิดของบุคคลและกิจกรรมทีทําซงึ มผี ลต่อความ เขา้ ใจ การแสดงออก ความเชอื ทัศนคติและอารมณ์รวมถึงการแสดงออกทาง กายจะเหน็ ได้วา่ เหล่านีสง่ ผลต่อเอกลักษณ์ของบุคคลในฐานะสมาชกิ ของวฒั นธร รมนันๆ ต่อมาพบนิยามของ Aviram & Eshet-Alkalai (2006) กล่าววา่ การรดู้ จิ ทิ ัล วา่ เปนการรวมใน 3 เรอื งคือ

4 ตอ มาพบนิยามของ Aviram & Eshet-Alkalai (2006) กลา ววา การรูดจิ ทิ ลั วา เป็นการรวมใน 3 เร่ืองคอื 1) เทคนิคกระบวนการในการทํางานกับเทคโนโลยี 2) ความรูความเขา ใจในเร่อื งดจิ ิทัล 3) ทกั ษะทางดานอารมณและทางสงั คม (Emotional-social skills) สามารถยกตวั อยางใหเห็นภาพตอ ไปนี้ เชน การใช โปรแกรมคอมพิวเตอรน ัน้ เป็นเร่ืองของทกั ษะกระบวนการในการทํางานกบั เทคโนโลยี (เชน การจดั การแฟ มขอมลู และการการปรบั แตงหรือตดั ตอ ภาพฯ) ซ่ึงจําเป็นตองใชทกั ษะการเรียนรู (เชน ความสามารถในการถอดรหสั หรือเขา ใจ ในขอมูลท่ฝี ังมากับภาพที่ใชฯ ) และในการสืบคน ขอมูลจากอินเทอรเ น็ตเป็นการ ใชความรคู วามเขาใจซ่งึ เป็นการบูรณาการทักษะกระบวนการ (การทํางานกับ เคร่อื งมอื สบื คน) และทกั ษะการเรยี นรู (การประเมินขอ มลู ท่ไี ดรบั การตรวจ สอบความถกู ตอ งของขอ มลู และการหาความเป็นกลาง ความเท่ียงตรง การ ทราบความแตกตา งของขอมูลทเ่ี กีย่ วขอ งและไมเก่ียวของ) นอกจากนี้ในการ ทํางานกับดิจทิ ลั ในสภาพแวดลอมการเรียนรูแบบดิจทิ ัล พบวาประสิทธผิ ลของ การส่ือสารในหอ งสนทนาแบบดจิ ิทัล นับวนั จะจาํ เป็นตอ งใชท กั ษะทางดา นอารมณและทางสงั คมเพมิ่ มากข้นึ การรู ดิจทิ ัลอาจถอื ไดว าเป็น “ทกั ษะเพ่ือการอยูรอด (Survival skill)” เป็นกญุ แจส าคญั ท่ีจะชวยใหบคุ คลท างานไดอยา งมปี ระสทิ ธิภาพในสงั คมดจิ ิทัลทีซ่ บั ซอ น พบวา แนวคดิ นี้สอดคลอ งกับ Burniske (2007) ซ่ึงเน นในเร่อื งการคิดอยา งมี วจิ ารณญาณและการรูก าลเทศะในการใชภ าษา การมีวจิ ารณญาณในการประเมิน เวบ็ ไซต การวิเคราะหเน้ือหาทีพ่ บบนเวบ็ ไซต และความสามารถในการระบุไดว า สารสนเทศใดท่เี ช่อื ถอื ได การมีตรรกะการคดิ ที่ถูกตองและไมใ ชอ ารมณเป็นใหญ แตใ หความส คัญกบั เน้ือหา (Embedded emotional content) และท่ีส าคัญ ตอ งมีการฝึกฝนดา นจริยธรรมและมารยาทบนอินเทอรเ น็ตดว ยWilliam & Minnian (2007) ใหน ิยามการรดู จิ ทิ ัล วา เป็นแนวคดิ กวางๆ ทใี่ หความส คญั กับ การสรา งความรจู ากแหลงท่ีหลากหลาย และการใชความคิดแบบมีวจิ ารณญาณ เทา ๆกบั การรูคอมพวิ เตอรท ี่เน นทกั ษะดา นเทคโนโลยีสารสนเทศ และพบวา Hargittai (2005) และ Kauhanen – Simanainen (2007) มคี วามเห็น สอดคลอ งกบั Gilster โดยใหค วามส าคญั การรูด ิจทิ ัลเทา กบั การรเู ครอื ขา ยโดย เน นประสิทธผิ ลของการใชอ นิ เทอรเ น็ตและแหลงสารสนเทศจากเครอื ขาย คอมพวิ เตอร

5 ในสหรัฐอเมริกาพบวาหนวยงานเทคโนโลยสี ารสนเทศของ มหาวทิ ยาลัย Cornell ใหนิยาม การรูด ิจิทัล ในแงม ุมของการศึกษา ระดบั มหาวทิ ยาลยั วา เป็นความสามารถในการคนหา ประเมนิ ใช ประโยชน แบง ปันและสรางเน้ือหาโดยใชเ ทคโนโลยีสารสนเทศและ อินเทอรเ น็ต ซ่งึ เป็นทร่ี ูกันวากจิ กรรมท่ที ําในฐานะที่เป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยไดแก การเขียนรายงาน การสรา งส่ือมลั ติมีเดยี เพ่ือ การนําเสนอ และการโพสตสารสนเทศเกยี่ วกบั ตนเองหรอื การใชส่ือ ออนไลนประเภทตา งๆ เหลา นี้ถอื วาเป็นสวนหน่ึงของชวี ติ ประจาํ วัน และกิจกรรมทัง้ หมดนี้ตอ งการการรูด จิ ทิ ัลในระดับทแี่ ตกตา งกัน อาจ เหน็ วา เป็นการงา ยท่ีนักศึกษาจะเรียนรูวิธีการทํางานกับส่อื ดิจทิ ลั แต จริงๆ แลวหากตองการประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลทแ่ี ทจรงิ ยังมสี ่ิง ท่ตี องเรียนรูม ากกวานัน้ (Cornell University, Cornell Information Technologies, 2009)The University Library of The University of Illinois (2014) ไดน ิยามการรูดจิ ิทัลในแงข องความสามารถของ คนใน 3 ดา น คือ 1) การใชเ ทคโนโลยีดิจทิ ลั เคร่อื งมอื ส่อื สาร หรอื เครือขา ยการคนหา ประเมนิ และสรา งสารสนเทศ 2) ความเขา ใจและ ใชสารสนเทศในรปู แบบและแหลงทห่ี ลากหลายโดยสารสนเทศเหลานี้ ถกู นําเสนอผา นทางคอมพิวเตอร และ 3) ความสามารถในการปฏิบัติ งานทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพของบคุ คลในสภาพแวดลอมดจิ ทิ ัล สรปุ ไดว า การรดู จิ ทิ ลั คอื ความรู ความเขาใจในการใชเ คร่ืองมือทางเทคนิค และเกยี่ วขอ งกับความรูความสามารถพ้นื ฐานในการใชใ นการทาํ งาน กับเทคโนโลยสี ารสนเทศและเครอื ขา ยสารสนเทศ ไดแ ก ความ สามารถในการคน คนื การจัดการ การ แบงปัน รวมถึงการสรา ง สารสนเทศและความรู ทกั ษะการเรียนรใู นการทาํ งานกบั สารสนเทศท่ี นําเสนอผานคอมพวิ เตอรใ นรูปแบบและจากแหลง ทีห่ ลากหลาย ทกั ษะการคิดเชิงวพิ ากษแ ละทกั ษะทางดา นอารมณและทางสังคมโดย การมตี รรกะการคดิ ทถี่ ูกตอ งและไมใชอ ารมณแตใหค วามสําคัญกับ เน้ือหา

6 นอกจากนี้ยังตอ งมกี ารมีทักษะการแกปัญหา ทักษะการส่อื สาร การรว มมอื กับผูอ่นื รวม ถึงมีการตระหนักดา นจริยธรรมและมารยาทบนอนิ เทอรเน็ตความสัมพันธข องทักษะ การรสู ารสนเทศและการรดู จิ ทิ ลั การรสู ารสนเทศ (Information literacy) เกิดข้นึ ใน ชวงปลาย ค.ศ. 1980 และมกี ารสอนในหองสมุดมหาวทิ ยาลัย ซ่งึ เดิมเป็นการสอนการ ทาํ บรรณานกุ รม ตอ มาทางการศกึ ษาเรม่ิ ใหค วามสาํ คญั กับแนวคดิ เน นผูเรียนเป็นสําคัญ ประกอบกบั ความกาวหน าทางเทคโนโลยเี ครือขายเวิลดไวดเ ว็บหรืออนิ เทอรเ น็ตได กลายเป็นแหลง สารสนเทศสําคญั และมอี ิทธพิ ลตอ การเรียนการสอนและการใชช วี ิตใน สงั คม การรูส ารสนเทศจึงเป็นเร่อื งสําคญั ที่คนในสังคมตอ งเรียนรูโ ดยเฉพาะอยา งยิง่ นักศึกษาระดบั อดุ มศึกษา (Association of College and Research Libraries, 2000) ACRL กาํ หนดมาตรฐานการรสู ารสนเทศ 5 ประการ สาํ หรบั เป็นตวั บงชีก้ ารรู สารสนเทศของนักศึกษาระดับอดุ มศกึ ษา ดังนี้ 1) ทราบความตองการสารสนเทศของตน 2) สามารถเขา ถึงสารสนเทศทีต่ นตอ งการไดอยา งมปี ระสิทธภิ าพและมปี ระสิทธิผล 3) สามารถประเมนิ สารสนเทศและวิเคราะหแ หลงสารสนเทศในการเลอื กสารสนเทศที่ ตอ งการ 4) ใชส ารสนเทศตามความตอ งการเฉพาะเร่ืองอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ 5) ใชสารสนเทศเพ่ือสรา งความเขา ใจในเศรษฐกิจ กฎหมายและประเด็นในสังคมรอบ ขาง รวมทัง้ เขาถงึ และใชส ารสนเทศอยางมจี รยิ ธรรมและถูกกฎหมาย จากมาตรฐานดงั กลา วสรุปไดวา การรูส ารสนเทศประกอบดวย การทราบความตองการสารสนเทศของ ตน ทักษะในการเขา ถงึ สารสนเทศ ทักษะในการคดิ วิเคราะหส ังเคราะห การพิจารณา ประเมนิ ความถกู ตอ งหรอื ความนาเช่ือถอื ของสารสนเทศที่รวมถงึ การนําไปใชประโยชน อยางมีจริยธรรม การรดู ิจิทัลและการรูสารสนเทศ ทงั้ สองแนวคิดมคี วามสัมพันธก นั และมีความใกลเ คียงกันมาก ยกตัวอยางลกั ษณะการทํางานของบรรณารักษใ นขณะ ชว ยเหลือผรู บั บรกิ ารหองสมดุ คนหาบทความจากฐานขอมลู จะเหน็ ไดวามกี ารนําเอาทัง้ ทักษะการรสู ารสนเทศและการรดู จิ ทิ ัลมาใชใ นกระบวนการใหบริการ กลาวคือใชทกั ษะ การรสู ารสนเทศ เชน การเขาถึงฐานขอมูลและเทคนิคการสืบคน การใชค าํ ในการสบื คน การประเมนิ บทความวารสารทีไ่ ดจากการสบื คน เป็นตน ในขณะเดยี วกันกม็ ีการรู ดิจทิ ัลดวย ไดแก วธิ ีการนําทางเขา สู เว็บไซตของหองสมุดและที่เก่ยี วของ การหาหน า เพจทใี่ ชใ นการสบื คนตัง้ แตข นั้ พ้นื ฐานจนถงึ ขัน้ สูงการหาแฟ มขอมูลท่ีใหสารสนเทศคํา แนะนํา (Help) วธิ ีการจัดเกบ็ หรอื การสง ออกขอมลู อา งอิงหรอื ฉบบั เตม็ การสมัคร สมาชิกบนเวบ็ ไซตหรือส่อื สงั คมออนไลนประเภทตางๆ รวมถงึ วธิ กี ารแสดงความเหน็ ตอ สิง่ ทผี่ ูอ่ืนโพสตไวบ นเว็บไซต เป็นตน โดยทวั่ ไปแลว จะเห็นไดว าหองสมุดอุดมศกึ ษา สวนใหญม ีการมุง เน นทักษะการรูส ารสนเทศมากกวา การรูด ิจทิ ัล ซ่ึงในศตวรรษท่ี 21 ทัง้ สองแนวคดิ มคี วามเช่ือมโยงใกลชิดกัน (Association of College & Research Libraries, 2000, p.14) กลา วคือ

7 - การรูสารสนเทศตองการการรูด จิ ิทลั เพ่ือใหสามารถเขาถงึ แหลง สบื คนออนไลน ทเ่ี หมาะสมกับงานของตน - การรสู ารสนเทศมีบรบิ ททก่ี วางขวางและในการประเมนิ ทกั ษะการรูส ารสนเทศ นัน้ จะตองไดรับการพัฒนาจากการนําการรดู ิจิทลั มาชวย ดังนัน้ การรูดิจทิ ลั จะสามารถทําใหผ เู รียนสามารถเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการเรยี นใน สภาพแวดลอ มดจิ ทิ ัลไดดยี ่งิ ข้ึน กรอบแนวคดิ การรดู ิจทิ ัล Bowden (2007) ได นําแนวคิดการรูดิจิทลั ของ Gilster (1997) มากําหนดเป็นทักษะและสมรรถนะ 7 ประการตอ ไปนี้ (1)ความสามารถในการสรางความรูจากสารสนเทศทีถ่ ูกตองจากแหลงตาง ๆ (2)การมีทักษะการคนคืนผสมผสานกบั การคดิ อยางมวี ิจารณญาณในการประเมนิ สารสนเทศท่ีคนได โดยมคี วาม ระมัดระวังในเร่ืองความถูกตองและความ สมบรู ณของแหลงอนิ เทอรเน็ต (3)ความสามารถในการอา นและการทาํ ความเขาใจสารสนเทศที่ไมต อ เน่ืองและมี การเคล่ือนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (4)การตระหนักรูคุณคา เคร่ืองมอื รปู แบบเดมิ ในบรบิ ทรวมกับส่อื อนิ เทอรเน็ต (5)การตระหนักในความสําคญั ของเครือขายบคุ คล (People network) เสมือน เป็นแหลงที่ใหค าํ แนะนําาและใหก ารชวยเหลอื (6)ความสามารถในการคัดกรองและจดั การสารสนเทศทไี่ ดร บั เขา มา (7)ความสามารถในการเผยแพร และตรวจสอบส่อื สารสนเทศเทาๆ กบั การเขา ถึง สารสนเทศจากแนวคดิ ของ Bowden (2007)

8 Digital literacy คืออะไร ทกั ษะความเขา ใจและใชเ ทคโนโลยีดจิ ิทัล หรอื Digital literacy หมายถงึ ทกั ษะในการนําเคร่อื งมอื อุปกรณ และเทคโนโลยดี ิจทิ ัลทีม่ อี ยู ในปัจจุบัน อาทิ คอมพิวเตอร โทรศพั ท แทปเลต โปรแกรมคอมพวิ เตอร และส่ือออนไลน มาใชใหเ กดิ ประโยชนสงู สุด ในการส่อื สาร การปฏิบัติ งาน และการทาํ งานรว มกนั หรอื ใชเพ่ือพฒั นากระบวนการทํางาน หรือ ระบบงานในองคก รใหม ีความทันสมยั และมีประสิทธภิ าพ ทักษะดังกลา่ วครอบคลุมความสามารถ 4 มิติ 1.การใช (Use) หมายถงึ ความคลอ งแคลว ทางเทคนิคทีจ่ าํ เป็นในการ ใชค อมพวิ เตอรแ ละอนิ เทอรเ น็ต ทักษะและความสามารถท่ีเกยี่ วของกบั คาํ วา “ใช” ครอบคลมุ ตงั้ แตเ ทคนิคขนั้ พ้นื ฐาน คือ การใชโ ปรแกรม คอมพิวเตอร เชน โปรแกรมประมวลผลคาํ (Word processor) เว็บ เบราวเซอร (Web browser) อเี มล และเคร่อื งมือส่ือสารอ่นื ๆ สูเทคนิค ขัน้ สงู ข้นึ สําหรบั การเขา ถงึ และการใชความรู เชน โปรแกรมท่ีชว ยในการ สบื คน ขอ มูล หรือ เสริ ชเอนจนิ (Search engine) และฐานขอมูล ออนไลน รวมถึงเทคโนโลยอี ุบัตใิ หม เชน Cloud computing 2.เขาใจ (Understand) คอื ชุดของทักษะทจี่ ะชว ยผเู รียนเขาใจบรบิ ท และประเมนิ ส่อื ดจิ ทิ ลั เพ่ือใหสามารถตดั สนิ ใจเกย่ี วกับอะไรที่ทําและพบ บนโลกออนไลน จัดวาเป็นทกั ษะท่สี ําคัญและทจี่ าํ เป็นทจี่ ะตองเร่มิ สอน เดก็ ใหเ ร็วท่ีสดุ เทา ท่ีพวกเคาเขา สโู ลกออนไลน เขาใจยงั รวมถึงการ ตระหนักวาเทคโนโลยเี ครือขายมีผลกระทบตอพฤติกรรมและมุมมอง ของผูเรียนอยางไร มผี ลกระทบตอความเช่ือและความรูสึกเกี่ยวกับโลก รอบตัวผูเ รยี นอยางไร เขา ใจยังชว ยเตรยี มผเู รียนสําหรับเศรษฐกจิ ฐาน ความรทู ผ่ี เู รียนพัฒนาทกั ษะการจัดการสารสนเทศเพ่ือคนหา ประเมิน และใชส ารสนเทศอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพเพ่อื ติดตอส่อื สาร ประสานงานรวม มือ และแกไ ขปัญหา

9 3.สราง (Create) คือ ความสามารถในการผลิตเน้ือหา และการส่อื สารอยางมีประสทิ ธภิ าพผานเคร่อื งมอื ส่ือ ดจิ ทิ ัลท่ีหลากหลาย การสรางดวยส่อื ดจิ ิทลั เป็นมากกวา แคก ารรูวธิ กี ารใชโ ปรแกรมประมวลผลคาํ หรือการเขียน อเี มล แตม นั ยงั รวมความสามารถในการดดั แปลงสงิ่ ทผี่ ู เรียนสรา งสําหรับบรบิ ทและผชู มท่แี ตกตา งและหลาก หลาย ความสามารถในการสรา งและส่อื สารดว ยการใช Rich media เชน ภาพ วิดโี อ และเสยี ง ตลอดจนความ สามารถในการมสี ว นรวมกับ Web 2.0 อยางมี ประสิทธิภาพและรบั ผดิ ชอบ เชน Blog การแชรภาพ และวดิ ีโอ และ Social media รูปแบบอ่ืนๆ 4.เขาถึง (Access) คือ การเขาถงึ และใชประโยชนจาก เทคโนโลยดี ิจิทัล และขอ มูลขาวสาร เป็นฐานรากใน การพฒั นา การสรางความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู เรียนจําเป็นตอ งเขาใจอนิ เทอรเ น็ตและการเขา ถงึ อินเทอรเ น็ตดว ยชองทางตาง ๆ รวมถงึ ขอ ดขี อ เสยี ของแตละชองทางได เพ่ือใหส ามารถไข Search Engine ดนหาขอ มูลที่ตองการจาก อินเทอรเ น็ตได อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนี้ยังจาํ เป็นตอ งเขาใจส่ือ ทางดจิ ิทัลชนิดตาง ๆ รวมถงึ การนําไปประยุกตไั ขงาน ในป จจุบัน

10 การรู้ดิจทิ ลั คือ ความหลากหลายของทักษะทเ่ี ก่ียวขอ งสมั พันธ กนั ซ่งึ ทกั ษะเหลา นัน้ อยภู ายใต การรูส ่ือ (Media literacy) การรเู ทคโนโลยี (Technology literacy) การรสู ารสนเทศ (Information literacy) การรูเกีย่ ว กับสง่ิ ท่เี ห็น (Visual literacy) การรกู ารส่ือสาร (Communication literacy) และการรูส ังคม (Social literacy) การรู้สอื (Media Literacy) การรูส่ือสะทอ นความสามารถของผเู รียนเก่ียวกับการ เขาถงึ การวเิ คราะห และการผลติ ส่ือผา นความเขาใจ และการตระหนักเกีย่ วกับ 1.ศิลปะ ความหมาย และ การสงขอ ความในรูปแบบตางๆ 2.ผลกระทบและ อิทธิพลของส่ือมวลชนและวัฒนธรรมทเ่ี ป็นทน่ี ิยม 3. ส่ือขอความถูกสรางข้นึ อยา งไรและทําไมถึงถกู ผลิต ข้นึ และ 4.ส่อื สามารถใชในการส่ือสารความคิดของ เราเองไดอยางมีประสิทธภิ าพไดอยา งไร

11 การรู้เทคโนโลยี (Technology literacy) ความชํานาญในเทคโนโลยีสว นใหญม ักจะเกี่ยวของกบั ความ รดู จิ ิทลั ซ่งึ ครอบคลมุ จากทกั ษะคอมพิวเตอรขนั้ พ้นื ฐานสู ทกั ษะทซี่ ับซอนมากข้ึนเชนการแกไ ขภาพยนตรดิจิทลั หรือ การเขยี นรหสั คอมพวิ เตอร การรู้สารสนเทศ (Information literacy) การรูสารสนเทศเป็นอกี สิ่งที่สาํ คญั ของการรูด จิ ทิ ลั ซ่งึ ครอบคลมุ ความสามารถในการประเมินวาสารสนเทศใดทผี่ ู เรียนตองการ การรวู ิธกี ารทจี่ ะคนหาสารสนเทศท่ตี องการ ออนไลน และการรกู ารประเมินและการใชสารสนเทศทีส่ ืบคน ได การรสู ารสนเทศถูกพัฒนาเพ่ือการใชหองสมุด มนั ยัง สามารถเขา ไดด ีกบั ยุคดจิ ทิ ัลซ่ึงเป็นยุคทมี่ ีขอมูลสารสนเทศ ออนไลนมหาศาลซ่ึงไมไ ดมกี ารกรอง ดงั นัน้ การรูวธิ กี ารคิด วเิ คราะหเ กี่ยวกับแหลงทีม่ าและเน้ือหานับเป็นส่ิงจาํ เป็น การรู้เกียวกบั สงิ ทเี ห็น (Visual literacy) การรเู กีย่ วกบั สิ่งทเ่ี หน็ สะทอนความสามารถของของผู เรียนเก่ียวกบั ความเขาใจ การแปลความหมายสิง่ ท่ีเห็น การ วเิ คราะห การเรียนรู การแสดงความคิดเห็น และความ สามารถในการใชสงิ่ ทเี่ หน็ นัน้ ในการทาํ งานและการดาํ รงชีวิต ประจําวันของตนเองได รวมถึงการผลิตขอ ความภาพไมวา จะผา นวตั ถุ การกระทํา หรือสญั ลักษณ การรเู กีย่ วกับสง่ิ ที่ เหน็ เป็นส่ิงจําเป็นสําหรบั การเรียนรแู ละการส่ือสารในสังคม สมยั ใหม

12 การรู้การสือสาร (Communication literacy) การรกู ารส่ือสารเป็นรากฐานสําหรบั การคดิ การจัดการ และการเช่อื มตอ กับคนอ่นื ๆ ในสังคมเครอื ขา ย ทกุ วันนี้ เด็กและเยาวชนไมเ พยี งจาํ เป็นตอ งเขาใจการบูรณาการ ความรูจ ากแหลงตางๆ เชน เพลง วดิ ีโอ ฐานขอมลู ออนไลน และส่ืออ่ืนๆ พวกเคา ยงั จําเป็นตอ งรูวธิ ีการใช แหลง สารสนเทศเหลานัน้ เพ่ือเผยแพรแ ละแลกเปลีย่ น ความรู การรู้สังคม (Social literacy) การรูส ังคมหมายถึงวัฒนธรรมแบบการมีสว นรวม ซ่ึงถูก พัฒนาผานความรวมมือและเครือขาย เยาวชนตองการ ทักษะสําหรับการทํางานภายในเครอื ขายทางสงั คม เพ่อื การรวบรวมความรู การเจรจาขามวัฒนธรรมท่ีแตกตาง และการผสานความขดั แยง ของขอมูล

13 การเข้าถึงดจิ ทิ ลั (Digital Access) เช่ือมตอ อินเทอรเน็ต คือ การเช่อื มโยงเครอื ขายคอมพิวเตอร ทุกเครอื ขา ยเขา ดว ยกนั ประเภทของการเขาถึงอนิ เทอรเ น็ต 1. การการเช่อื มตออนิ เทอรเน็ตแบบไรส าย 2.อนิ เทอรเน็ตตามสาย - ระบบอินเทอรเ น็ตผา นสายทองแดง แบง ไดเ ป็นประเภทหลักคอื ประเภทผา นระบบโทรศัพท (Dial-up) และแบบทใ่ี ชส ญั ญาณโทรศพั ท คูข นานกับสญั ญาณอนิ เทอรเน็ต หรือ DSL ADSL และ VDSL เป็น เทคโนโลยีที่พัฒนาตอจาก ADSL โดยมอี ตั ราการรับสงขอมูลทเี่ ร็วยิ่ง ข้ึน - อินเทอรเน็ตผา นสายโทรทศั นเคเบลิ - อนิ เทอรเ น็ตผา นไฟเบอรอ อปติก 2.3เทคโนโลยีการส่อื สารไรสายสามารถเช่ือมตอกับสัญญาณ อินเทอรเน็ตได ผานการเช่อื มตอ ทงั้ แบบ 2G, 3G, 4G และ 5G ที่ สามารถรองรบั ความเร็วสงู ระดบั 1 Gbps ซ่งึ มคี วามแตกตา งกันใน ดา นประสทิ ธภิ าพการใชงานโทรศัพทมอื ถือ 2.4ความกวา งของคล่ืนความถีห่ รือ Bandwidth หมายถงึ ความกวา ง ของแถบคล่ืนความถี่ เป็นคาํ ท่ีใชวัดความเร็วในการสงขอ มลู ของ อินเทอรเ น็ต 2.5นโยบายการใชอยา งยตุ ิธรรม (Fair Usage Policy; FUP) ทจี่ ะ กําหนดปรมิ าณขอ มลู สูงที่สุดทีผ่ ูใ ชแ ตล ะราย จะไดรบั ในแตละเดือนข้นึ อยกู ับระดบั ราคาทผ่ี ูใ ชบ ริการจา ยตอ เดอื น เพ่อื เป็นการใหผ ูใช อินเทอรเน็ตไรส ายรายอ่นื สามารถใชงานอินเทอรเ น็ตไดด ว ยความเรว็ ทเ่ี หมาะสมกับการใชง าน ขอ ดี ของนโยบายนี้คือ ผูใชง านอนิ เทอรเ น็ต จะยังคงสามารถใชง านอินเทอรเ น็ตไดต อ เน่ืองโดยไมต อ งกงั วลวา เม่ือ ปรมิ าณอนิ เทอรเน็ตท่ีใชอยนู ัน้ จะหมดเม่ือไร ผูใชจะยังสามารถใชงาน อนิ เทอรเ น็ตตอ ไปไดโ ดยไมเสียคา ใชจ า ยเพิม่ เติม แตถ าหากตอ งการได ความเรว็ ทีส่ ูงข้ึน ผูใชม ีตวั เลอื กท่ีจะจายคา บริการเพิม่ เติม

14 สอื ดจิ ิทลั ✖ วิถชี วี ิตดจิ ิทัล (Digital Lifestyle) ทน่ี ําเทคโนโลยดี จิ ิทัลมาผสานเขากับ การใชชีวติ ในประจําวัน ✖ เทคโนโลยกี ารเช่อื มตอดว ยบลทู ธู (Bluetooth) เป็นเทคโนโลยกี ารส่ือสาร ไรสายรปู แบบเครอื ขายสว นบคุ คล (Personal Area Networks-PAN) ✖ ระบบระบพุ กิ ดั (Location Service) ปัจจุบนั มเี ทคโนโลยีดา นการระบุพกิ ดั หลักๆ 2 เทคโนโลยคี อื ระบบระบุตําแหนงบนพ้ืนโลก (GPS) ของ สหรฐั อเมรกิ า และระบบนําทางผานดาวเทยี มสากล (Global Navigation Satellite System; GLONASS) ของรสั เซีย หมายถึง การตดิ ตอ สง่ิ ท่ีตดิ ตอ ใหถึงกนั และงานทีส่ รา งสรรคเพ่ือส่ือความหมายในรูปแบบที่คอมพวิ เตอร สามารถจัดเก็บและจัดการได หรือทรี่ จู กั กันวาเป็น ระบบอเิ ล็กทรอนิกส โดยท่สี ่อื ดิจิทัลจะเป็นไปไดในหลากหลายรปู แบบ เชน เสยี ง วดิ โี อ ภาพถา ย หนังสืออิเล็กทรอนิกส การสบื คน ขอมูล ✖ การคนหาขอ มลู ในอนิ เทอรเน็ต (Search Engine) ✖ ประเภทการคนหาขอ มลู ในอินเทอรเน็ต 1. ระบบการคน หาขอมลู ทอ่ี าศัยการดงึ ขอ มูลจากเน้ือหาบนเวบ็ ไซต (ท่ีเรียก วา Web-crawler หรอื Spider) ตัวอยา งของระบบการคนหากลุมนี้คือ Google, Bing และDuckDuckGoเป็นตน 2. สารบญั เว็บ (Web Directory) 3. ระบบการคน หาที่อิงจากป ายทีร่ ะบขุ องเวบ็ ไซต (Meta Search Engine) ✖ เทคนิคคน หาขอมูลในอนิ เทอรเ น็ต เทคนิคการสบื คน ขอ มลู ดังนี้ ใชว รรค เพ่อื ชว ยใหการคน หา ใน กรณีทตี่ องการหาท่มี คี ําคนหามากกวาหน่ึง ผใู ชส ามารถใช เวน วรรคเพ่ือระบุ ถึงคําคน หาทีม่ ากกวา 1 คําได เชน ถาหากตอ งการคน หาสลากกนิ แบงรัฐบาล ในงวดลา สดุ ผูใช สามารถคน หาค าวา “หวย ลาสดุ ” เพ่อื ใชค นหาสลากกนิ แบงรฐั บาลในงวด ลาสดุ ได หากผูใชต องการคนหาวลีนัน้ ทัง้ วลี ผูใ ชสามารถใชเคร่ืองหมายคํา พูดครอบคาํ คน หาไดเ ชน ถาหากตอ งการคน หาคาํ วา “อนิ เทอรเน็ตเพ่ือการ ศกึ ษา” โดยไมตองการท่ีแยกคําวา “อนิ เทอรเน็ต” และ “เพ่อื การศกึ ษา” ออกจากกนั ผใู ชจ ะตอ งคน หาดวยคําวา “อินเทอรเ น็ตเพ่อื การศกึ ษา” โดยมี เคร่ืองหมายคําพูดครอบดว ย

15 การสือสารผา่ นเครอขา่ ยสงั คมออนไลน์ ปัจจุบันขา ยสังคมออนไลนอยมู ากมาย แตทีไ่ ด รบั ความนิยมมาก ไดแก Facebook, Twitter, Line, YouTube และ Instagram เป็นตน Facebook ไดก าํ หนดระดับความเป็นสวนตัว ▪3 ระดับ คอื สาธารณะเป็นการก าหนดวาไมใคร ▪ก็ตามสามารถเหน็ โพสตขอ ความท่นี ําเสนอได เพ่อื น เป็นการกาํ หนดวา เฉพาะ เพ่ือนใน Facebook เทา นัน้ ที่ ▪สามารถมองเห็นโพสตของเราได เฉพาะฉันเป็นก า หนดใหเฉพาะตนเองเทานัน้ ท่ีจะเหน็ โพสตนัน่ คือ บคุ คล อ่ืนไม สามารถเหน็ โพสตน ัน้ ได 30 การส่ือสารผานเครอื ขายสังคมออนไลน Twitter เป็นชอ งทางการส่ือสารออนไลนท่ีมี ความรวดเรว็ สามารถสราง กระแสของขอ มลู สารสาร ไดอยางรวดเร็วผานการ Tweet (ทวตี ) และ Retweet (รที วีต) Instagram หรือ IG ชอ งทางการแสดงความ คดิ เห็นท่ีมี จดุ เดน คือการโพสตร ูปภาพ ภาพ เคล่ือนไหว หรือเร่อื งราว โดยผูใชส ามารถกําหนดผรู บั สารเฉพาะ กลุมผตู ิดตาม หรือก าหนดเป็นสาธารณะได (Public) วธิ กี ารรูปแบบใหมข องการส่อื สารดิจทิ ัลท่นี า ▪ ▪สนใจ Mentions (เรียกวา การ tag บุคคลอ่นื ๆ) ▪Hashtag (เรียกวาการตดิ แฮชแทก็ #) การใช Emoticon หรือ Sticker

16 ความปลอดภยั ยคุ ดจิ ิทลั (Digital Safety) ความปลอดภยั ยคุ ดิจิทลั คือ การเขาใจความรู พ้ืนฐานทัว่ ไปของความ ปลอดภัยบนโลกอนิ เทอรเ น็ต โดยจะมอี นั ตรายที่มาจากผไู มประสงคด ีในโลก อนิ เทอรเน็ต เครอื ขา ยสงั คมออนไลน ไดอยางถูกตอง และปลอดภยั เพ่อื การ หลกี เลีย่ งภยั คกุ คาม และ รับมือกับภยั อันตรายในโลกดิจิทลั ความมนั คงปลอดภยั และความเปนส่วนตวั ทางดจิ ทิ ลั ความมัน่ คงปลอดภยั และความเป็นสวนตวั ทางดิจทิ ัล (Digital Security and Privacy) เป็น ศาสตรท่วี า ดว ยการสงวนรักษาไวซ่งึ ความลับ ความ ครบถว นถกู ตอง ความพรอมใชของขอ มลู ทมี่ คี วาม สาํ คัญ และการปกป องขอมลู สวนตวั ในโลกออนไลน โดยอาศยั วธิ ีการตรวจสอบและประเมนิ ความเส่ียง ของขอ มลู และระบบที่สาํ คญั และขอ มูลสว นบุคคลท่ี เก่ยี วกบั การใชง านดิจิทลั และหาแนวทางในการตรวจ สอบ ปกป อง และแกไ ขชอ งโหว รวมถงึ ภัยคกุ คามทท่ี าใหเกดิ ความเส่ียง ตอชีวิต ทรพั ยสนิ ขอ มูลท่ีสาํ คญั ขอมลู สวนบคุ คล ระบบและอุปกรณดจิ ทิ ลั ของผูใ ชง าน จากการกระทาํ โดยผูไมป ระสงคด ี การกระทาํ ท่ีผดิ

17 ความเปนส่วนตัวทางดจิ ทิ ัล ความเป็นสว นตัวทางดิจิทัล (Digital Privacy) คอื สทิ ธิการปกป องขอมูลความสว นตวั ใน โลก ออนไลนของผูใชง านท่ีบุคคลหรอื หนวยงาน อ่ืนจะนําไปจดั เกบ็ นําไปใชป ระโยชน หรอื นําขอ มลู นัน้ ไปเผยแพร ในปัจจบุ ันประเดน็ ดานความเป็น สว นตวั ถอื เป็นส่ิงหน่ึงทีป่ ระชาชนเร่มิ ใหค วาม สาํ คญั เน่ืองจากขอมูลทสี่ ามารถระบุถึงตัวตนและ ความเป็นสวนตัว โดยขอมลู สว นบุคคลสามารถถกู นําไปใช ไดใ นหลายมติ ิ ตัวอยางที่หน่ึงทีเ่ ห็นได ชดั เจนคอื บริษทั บัตรเครดิตจะใชข อมูลสว นบุคคล ในการยืนยนั ความเป็นตัวเราในการทําธรุ กรรม ผา นทางโทรศัพท เป็นตน นอกเหนือจากนี้ บริษทั ท่ผี ลิตสินคา และเจา ของบรกิ ารยังสามารถนํา ขอมลู สว นบุคคล ไปใชในการวเิ คราะหเพ่ือทาํ การ ตลาด ในการนําเสนอสินคาและบรกิ ารใหก ับ ประชาชนได ซ่งึ ทําใหเกดิ ความเสย่ี งทข่ี อ มูลสวน บคุ คล จะถูกขโมยหรือนําไปใชโ ดยไมไดรับความ ยินยอมจากเจาของขอ มลู

18 ความปลอดภยั ความมนั คง (Security) เป็นศาสตรท ีว่ าดวยแนวทางการปกป องระบบและอุปกรณดิจทิ ัล จาก การบกุ รุกโดยผูใชภายนอกหรือจากความผิดพลาดของระบบท่เี กิดจาก ผูใ ชบริการ ความมัน่ คงถอื เป็นหน่ึงประเด็นทไี่ ดรบั ความสนใจทงั้ ภาค หนวยงานและภาคประชาชน โดยในภาคหนวยงานนัน้ ตองรบั ประกัน วาขอ มลู ทจ่ี ดั เก็บภายในหนวยงานมีความปลอดภยั เพียง พอที่จะ สามารถรักษาความลับทางหนวยงาน รวมไปถึงขอมลู ลูกคา ของหนวย งานได ในสว นภาคประชาชนนัน้ ควรทีจ่ ะคํานึงถงึ ความปลอดภยั เน่ืองจากวิถีชวี ติ ในปัจจบุ ันนัน้ เกยี่ วโยง กับเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเป็นอยา ง มาก ประกอบกับขอ มลู สวนบคุ คลท่อี ยูบ นโลกออนไลนมีปริมาณมาก ข้นึ ทาํ ใหภ าคประชาชนควรตอ งรูเร่อื งเกย่ี วกบั ความปลอดภัย เพ่อื เป็นการป องกนั ตวั เองจากผไู มป ระสงคด ี การพสิ จู น์ตวั ตน (Authentication เ ป็นกระบวนการทใ่ี ชใ นการยนื ยันวา ผใู ชด ังกลาว เป็นเจา ของขอ มลู ท่ผี ู ใชต องการเขา ถงึ โดยปัจจุบัน แนวทางการพิสูจนตัวตนมีหลากหลาย วิธี โดยในกรณีนี้จะยกตัวอยา ง 2 วธิ ีที่เป็นทน่ี ิยมในการเขาถงึ ขอมลู วิธแี รก เป็นวิธกี ารพิสูจนตวั บคุ คลดว ยช่ือผใู ชและรหสั ผา น (Username and Password) ซ่ึงเป็นวธิ ีท่ีไดรบั ความนิยมอยา งสูงมาก ในการเขา ถงึ ขอมลู สวนบคุ คล วิธีทีส่ อง การพสิ จู นตวั ตนดว ยระบบสอง ปัจจัย (2-Step Authentication) เป็นแนวทาง ในการพิสูจนตวั ตนท่ี เสรมิ ความแข็งแรงจากการพิสูจนตวั ตนดวยช่อื ผูใชแ ละรหัสผา น โดย วิธีดงั กลาว มีแนวทางในการพสิ จู นตัวตนไดหลากหลายวิธี ประกอบ ดวย วธิ กี ารยืนยนั ตวั ตนผา นรหัสชวั่ คราว วิธกี ารยนื ยันตัวตนผา นรหสั ชวั่ คราวที่ไดจ ากแอปพลเิ คชันพสิ ูจนตัวบคุ คล และระบบการยนื ยันตัว ตน ดวยอุปกรณทีใ่ ชเ พ่ือการยืนยนั ตวั ตน แนวทางการยืนยนั ตัวตน ผานรหสั ชัว่ คราว (One-time Password หรือ OTP) เป็นวิธกี าร ยืนยันตวั ตนทอ่ี าศัยหมายเลขโทรศพั ทม อื ถอื หรืออีเมลในการสง ขอความพเิ ศษทีใ่ ชสําหรับการยืนยนั ตัวตนเทานัน้

19 แนวทางการปองกนั ด้านความปลอดภยั ในปัจจุบัน การโจมตีผานชอ งทางดจิ ิทลั เกดิ ข้ึน ไดบ อยข้นึ กวา แตกอนมาก การทผี่ ูใชท ราบถึง แนวทาง การป องกันดา นความปลอดภัย เปรียบเสมอื นกบั การ เสรมิ สรางเกราะเพ่ือพรอมทจี่ ะเผชิญหน ากับผไู ม ประสงคด ที ีจ่ ะอาศยั ชองโหวในการโจมตไี ดท ุกเม่ือ สิ่ง แรกทผ่ี ใู ชค วรติดตวั ไวกค็ อื สติ เม่ือไรกต็ ามท่ผี ใู ชเจอ ปัญหาท่ีเกย่ี วขอ งกบั ความปลอดภัย เชน บรกิ ารดจิ ทิ ลั ท่ี ใชอยโู ดนโจมตีใหผใู ชเปล่ยี นรหสั ผานในการเขาใช บรกิ ารเหลานัน้ ทนั ที การใชงาน อินเทอรเ น็ตผานโครง ขายทีไ่ มนาไวใจ การเขา ชมเวบ็ ไซตท ีม่ ีการเขารหัสแบบ HTTPS หรือการที่ผใู ช คิดกอ นทีจ่ ะเขาไปในเวบ็ ไซต บรกิ ารหรอื ไฟลเอกสารที่มีโอกาสสงู ที่จะทําใหผ ูใชถ กู โจมตีนอกจากนี้การตัง้ รหสั ผานทป่ี ลอดภยั กเ็ ป็นอกี หน่ึง แนวทางทสี่ ําคัญเชนกนั โดยการทจี่ ะตัง้ รหสั ผา นท่ดี ีได นัน้ ควรจะมปี ัจจัยทตี่ อ งคํานึงถงึ ดังตอไปนี้ ความยาว รหัสผา นขัน้ ต่าํ และขนั้ สูงของผใู หบ ริการแตละราย สวน มากจะอยทู ่ี 8-16 ตัวอักษร รหัสผานไมควรจะเกยี่ วขอ ง กับขอ มูลสว นตัว เชน เบอรโทรศัพท วนั เกดิ หรือช่ือ จรงิ และนามสกลุ รหัสผา นควรทจ่ี ะมอี งคป ระกอบทงั้ ตวั เลข ตวั อักษรพมิ พใหญ ตวั อกั ษรพิมพเลก็ และ อักขระพิเศษ รหสั ผานควรมีความซับซอ นมากพอ แตผ ู ใชควรจะจดจํารหสั ผานไดดว ยตนเองควรทจ่ี ะลงช่อื ออก ทุกครงั้ เม่ือใชบ รกิ ารผานอุปกรณสาธารณะ

20 การทําการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) การขยายยอดผซู ้ือสินคาเป็นอกี หน่ึงปัจจัยสําคญั ท่ีจะผลกั ดนั ใหรานคาของผูใ ชป ระสบ ความสาํ เรจ็ ในการขายสินคาได โดย หน่ึงในแนวทางการขยายยอดผซู ้ือสนิ คานัน่ กค็ อื การทําการตลาด ดจิ ทิ ัล (Digital Marketing) โดยการทําการตลาดดจิ ิทัลนัน้ สามารถ ทาํ ไดใ น 3 รูปแบบเบ้ืองตน คอื การทําโครงการ สง เสริมการขาย ในชองทางการจดั จาํ หนาย การจดั อันดบั และการโฆษณาในระบบ การคน หา และการใชส ังคมออนไลนใหเกิดประโยชน ซ่งึ มรี าย ละเอียดดงั ตอไปนี้ 1) บริการการขายสินคา ทางดิจิทลั คอมเมริ ซ บางบรกิ าร จะเปิดให ผูซ้ือสนิ คาสามารถทาํ โครงการ สง เสรมิ การขายในชอ งทางการจัด จําหนายได ซ่งึ จะเป็นไดท ัง้ ในรูปแบบ การลดราคาสินคา การแจก สว นลดใหกับผูซ้อื สินคา หรือการลงโฆษณา เพ่อื กระตุนใหลูกคา ตัดสนิ ใจซ้ือสินคาทีม่ ากข้ึน ซ่ึงการทาํ โครงการสง เสรมิ การขายใน ชอ งทางการจัดจ าหนายนัน้ เพ่ือเป็นการเพิ่มยอดผูซ้อื สินคาให มากยิ่งข้นึ นัน่ เอง 2) ระบบการจัดอนั ดับ และระบบการโฆษณาในระบบการคนหา (search engine) โดยการทีจ่ ะ ใชชองทางนี้ ควรมีหน าเว็บไซต สาํ หรับการแนะน าผลิตภณั ฑ ซ่ึงในการจดั อันดับในระบบการ คนหา จะอา งองิ จากเน้ือหาในหน าเวบ็ ไซต รวมไปถึงคาํ คนทีม่ ี ความใกลเ คียงกนั กับเน้ือหาใน เว็บไซต 3) การใชส งั คมออนไลนในการสงเสริมการขายเป็นอีกหน่ึงชอ ง ทางท่ีผูใชจ ะสามารถขยายฐาน ลูกคาไดโดยท่ใี ชต นทนุ ต่ํา ซ่ึงผูใช สามารถสรางหน าสาํ หรบั ธรุ กจิ บนสงั คมออนไลน เชน Facebook Page ทวติ เตอรห รือบญั ชธี ุรกิจของ Instagram โดยวิธกี ารขยาย ฐานลกู คา นัน้ สามารถทําไดท ัง้ การโพสตกระตนุ ยอด การลง โฆษณา หรอื การจา ยเงินเพ่อื เพมิ่ ยอดผูเขาถึง (หรือ boost post) ทัง้ นี้ เน้ือหาแตละเน้ือหาจะใชวิธกี ารขยายฐานลูกคา ที่แตกตางกนั

21 กฎหมายดิจทิ ัล(Digital Law) ผูศกึ ษาจาํ เป็นตอ งมีความเขา ใจสทิ ธแิ ละขอ จาํ กดั ทีค่ วบคมุ การใชส ่ือ ดจิ ทิ ัลในรูปแบบตา ง ๆ ซ่งึ ไดถ กู กําหนดโดยภาครฐั เพ่ือทีจ่ ะได สามารถปฏบิ ตั ิงานและดาํ เนินชีวิตไดอ ยถู กู ตองตามกฎระเบียบ สงั คม ซ่งึ จะเป็นการเคารพสทิ ธิของผูอ ่นื อีกดว ย

22 บรรณานุกรม สมพร พุทธาพิทักษผ์ ล (2554) “ห้องสมดุ และทรัพยากร สารสนเทศดจิ ิทัล” ใน ประมวลสาระชดุ วชา การจัดการดจิ ทิ ลั ทและการคน้ คืน เล่ม 2 หน่วยที 12 นนทบุร สาขาศิลปศาสตร์ มหาวทยาลัย สโุ ขทัยธรรมาธิราช. “Data Curation.” Wikipedia. Retrieved from https://en.wikipedia.org/wiki/Digital_curation “Digital Library: Advantages and Disadvantages.” Retrieved from http://www.sscasrh.org/sri-sri-ayurveda- college/index.php/articles- by-doctors/item/320-digital-library- advantages-and- disadvantages#.Vp2brk8ppiw

23 ประวัตผิ ู้จัดทํา นางสาว กาญจนา ผวิ พรรณ เกดิ 2 กุมภาพันธ 2541 อายุ 23 ป ทอ่ี ยปู จจบุ ัน 221 หมู6 บา นหนองกงุ ตาํ บลขอนยงู จงั หวดั อุดรธานี สาขาวิชา พาณชิ ยกรรม สาขาคอมพิวเตอรธรุ กิจ นักเรยี นนกั ศึกษาประกาศนยี บัตรวิชาชีพปท ่ี 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษาหนองหาน อาจารยท ่ปี รกึ ษา อาจารย เยาวเรศ เคาคํา ปก ารศึกษา 2563 ภาคเรียนท่ี 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook