Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมที่ 4 เรื่องอาณาจักรโพรติสตา

ชุดกิจกรรมที่ 4 เรื่องอาณาจักรโพรติสตา

Published by djp.saithara, 2018-07-01 12:08:59

Description: อาณาจักรโพรติสตา

Keywords: วิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

ชดุ ท่ี 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 1 คานา ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7 E) รายวิชาชีววิทยา(ว33242) เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 เป็นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั ผู้เรียนสามารถนาไปฝึกปฏบิ ัติหรือเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง ท้งั ในและนอกเวลาเรียน โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แต่ละชุดประกอบด้วยเอกสาร 2 ส่วน คือ คู่มือครูและชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ท้ังน้ีเพ่ือให้ผู้เรียนนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปดาเนินการกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพตรงตามจุดมุ่งหมายของการสร้างชุดกจิ กรรม ซ่ึงชุดกิจกรรม เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ ประกอบด้วย8 ชุดกิจกรรม ดังนี้ 1. ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ 2. ชุดกิจกรรมท่ี 2 กาเนดิ ของสง่ิ มชี ีวติ 3. ชดุ กิจกรรมท่ี 3 อาณาจกั รมอเนอรา 4. ชุดกจิ กรรมท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 5. ชดุ กิจกรรมที่ 5 อาณาจกั รพชื 6. ชุดกจิ กรรมที่ 6 อาณาจกั รฟังไจ 7. ชุดกิจกรรมท่ี 7 อาณาจักรสัตว์ 8. ชุดกจิ กรรมที่ 8 ความหลากหลายทางชวี ภาพในประเทศไทย ชุดกิจกรรมนี้เป็นชุดที่ 4 เร่ือง อาณาจักรโพรติสตา ซ่ึงประกอบด้วย คาช้ีแจง ผลการเรียนรู้จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ เวลาที่ใช้ วิธใี ช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ และอปุ กรณ์การเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ซ่ึงเป็นแบบตัวเลือก 4 ตัวเลือก จานวน 10 ข้อ พร้อมกับบัตรความรู้และบัตรกิจกรรม รวมทั้งมีแบบทดสอบหลังเรียนและเฉลยแบบทดสอบและบัตรกิจกรรม ท้ายสุดมีแบบบันทึกคะแนนก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรยี น ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าชุดการเรียนรู้นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน สาหรับครู นักเรียนและผทู้ ี่สนใจ เพือ่ ใช้ในการพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตอ่ ไป นางสาวสายธารา เดชเจรญิ พร ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 2สารบญั หนา้ 1เร่ือง 2คานา 3สารบญั 4คาช้แี จง 5การใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6ผลการเรยี นรู้ 6จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 7สาระการเรยี นรู้ 8บทบาทของนักเรียน 11แบบทดสอบก่อนเรียน 13บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 1 15บัตรความรทู้ ี่ 1 16บัตรกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 2 24บัตรความรู้ที่ 2 28บตั รกิจกรรมการเรียนรูท้ ี่ 3 31แบบทดสอบหลงั เรยี น 32บรรณานกุ รม 33ภาคผนวก 34แบบบนั ทึกคะแนนระหวา่ งเรียน 35เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น 42เฉลยบัตรกจิ กรรม 47แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น และประเมินคณุ ลักษณะแบบประเมนิ ผงั ความคิด ชดุ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 3คาชแ้ี จง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรูแ้ บบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7 E) รายวชิ าชีววทิ ยา(ว33242) เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ชุดกจิ กรรมนป้ี ระกอบดว้ ยชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8 ดังนี้ชดุ ท่ี ชอื่ ชดุ กิจกรรม จานวนชวั่ โมง 1 การศึกษาความหลากหลายทางชวี ภาพ 2 2 กาเนดิ ของส่งิ มีชีวติ 2 3 อาณาจักรมอเนอรา 2 4 อาณาจักรโพรติสตา 2 5 อาณาจักรพชื 2 6 อาณาจักรฟงั ไจ 2 7 อาณาจักรสตั ว์ 2 8 ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย 2 รวม 16 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ฉบับนี้เป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดท่ี 4 เร่ือง อาณาจักรโพรติสตา ซ่ึงนักเรียนจะได้ศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เพ่ือศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต โดยใช้เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมท้ังหมด 2 ช่ัวโมง และให้นักเรียนศกึ ษาชุดกิจกรรมตามลาดับขั้นตอนตอ่ ไปนี้ ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 4การใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นเตรียมก่อนใช้ชดุ กิจกรรม 1. ทาการศึกษาคน้ คว้าในเรื่องท่ีตนเองจะเรียนหรือปฏบิ ตั กิ ิจกรรมมากอ่ นล่วงหนา้ เพอื่ ให้เขา้ ใจใน บทเรยี นได้ดีและรวดเร็วยิง่ ขึ้น 2. เตรียมความพร้อมของตนเองสาหรบั การปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับเพอ่ื นในห้องเรียนกับเพ่ือนใน ห้องเรียนและเพื่อนร่วมกลุ่ม 3. คาแนะนาในการปฏบิ ัติงานกล่มุ 3.1 เลือกประธานกลุ่มเพ่ือเปน็ ผูน้ าในการดาเนินการจัดการเรยี นรู้ และเลขากลุ่มเพื่อบนั ทึก ข้อมูลในการปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ 3.2 สมาชิกทุกคนตอ้ งมีส่วนรว่ ม ช่วยเหลือซ่ึงกันละกนั และรับผิดชอบร่วมกนั 3.3 ตั้งใจปฏบิ ัติกิจกรรมอย่างเตม็ ความสามารถและรอบคอบ 4. ใชก้ ลุ่มเดมิ ตลอดการเรยี นด้วยชดุ กจิ กรรมการเรยี นรนู้ ี้ ขนั้ การใช้ชุดกิจกรรม 1. ศึกษาภาระงานใหเ้ ขา้ ใจ และปฏิบตั ติ ามลาดับขนั้ ตอน 2. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมดว้ ยตนเอง ไม่ลอกเพื่อนและไม่ใหเ้ พอ่ื นลอก 3. ศึกษากจิ กรรมด้วยความตงั้ ใจแล้วทาการวเิ คราะหเ์ นอื้ หาและสรปุ เพ่อื ให้เขา้ ใจได้ง่ายๆ 4. ศกึ ษาคาชแ้ี จงของกิจกรรมโดยการระดมความคดิ ในกลุ่ม เพ่อื ตอบคาถามให้ตรงตามทฤษฎีของ เร่อื งท่เี รยี น ไม่ตอบโดยไม่มีเหตผุ ลหรือไม่มีทฤษฎีรองรบั 5. รว่ มอภปิ รายกับครูดว้ ยความต้งั ใจ จดความรูใ้ หม่ และซักถามทนั ทีเมือ่ ไมเ่ ข้าใจ 6. มคี วามสามัคคี มนี า้ ใจ ภาคภูมใิ จในผลงานของกลมุ่ โดยไม่เอาเปรียบด้วยการน่งั เฉยหรือก่อ ความวุน่ วายในห้องเรียน ขนั้ หลังใช้ชุดกจิ กรรม 1. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น 2. รวบรวมผลงานที่ไดจ้ ากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมสง่ ครู เพ่ือประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3. จัดเก็บอปุ กรณ์ทุกชิ้นให้เรียบร้อย ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ แบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 5ผลการเรยี นรู้ด้านความรู้ 1. นกั เรยี นสามารถสืบคน้ ข้อมลู อภปิ ราย และอธบิ ายเกี่ยวกับความหมายและองคป์ ระกอบของ ความหลากหลายทางชีวภาพได้ 2. นกั เรียนสามารถสืบค้นข้อมลู อภิปราย และอธบิ ายการศึกษาของสิง่ มชี ีวิต การจดั หมวดหมู่ของ สิง่ มชี ีวิต ชือ่ ของส่งิ มชี ีวิต และการระบชุ นิดได้ด้านทกั ษะกระบวนการ นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติกิจกรรมตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฎั จกั ร 7 ขั้น (7E) ดังน้ี 1. ทาแบบฝึกหดั ก่อนบทเรียน เพอื่ ทดสอบความรู้เดมิ (Elicitation Phase) 2. ร่วมกันอภิปรายและตัง้ คาถามจากแบบทดสอบก่อนเรียน (Engagement Phase) 3. สบื ค้นข้อมูลจากเอกสารประกอบการเรยี นรู้เรอ่ื ง การศึกษาความหลากหลายของสิง่ มชี ีวิต (Exploration Phase) 4. นาข้อมูลมาดาเนินการวเิ คราะห์ แปลผล สรุปผลและนาเสนอผลทไ่ี ด้ในรูปตา่ งๆเชน่ บรรยายสรุป สรา้ งแผนภมู คิ วามคดิ รวบยอด (Explanation and Expansion Phase) 5. ให้นักเรียนนาผลงานท่ีได้จากการสรปุ ผลการวเิ คราะห์มานาเสนอหนา้ ช้ันเรียนเพ่ือนาไปสหู่ าสรุป รว่ มกนั ในชั้นเรียนและประเมินผลงาน (Evaluation and Extension Phase)ด้านคณุ ธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ได้แก่ การสนทนาซกั ถาม กระตือรือรน้ ในการปฏิบัติกจิ กรรม 2. มีความรับผดิ ชอบ ไดแ้ ก่ ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย ทางานสาเร็จตามเป้าหมาย 3. ความมเี หตุผล ได้แก่ การรวบรวมข้อมูล การอธบิ ายหรอื แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผลมี หลกั การหรือข้อมลู อง้ องิ 4. มรี ะเบียบวินยั ได้แก่ ตรงต่อเวลาทน่ี ัดหมาย ปฏิบตั ิตามระเบียบวินัยของกิจกรรม 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง ได้แก่ ใชท้ รัพยส์ ินตนเองอยา่ งประหยดั ทรพั ยส์ นิ ส่วนรวมอย่างคมุ้ คา่ ไมเ่ อา เปรียบคนอน่ื วางแผนการเรยี นการทางาน 6. มงุ่ ม่ันในการทางาน ไดแ้ ก่ ตงั้ ใจ อดทนทางาน ไม่ยอ่ ทอ้ 7. รักความเปน็ ไทย ได้แก่ มีจิตสานักในความเป็นไทยและภมู ิปัญญาไทย 8. มจี ิตสาธารณะ ได้แก่ ช่วยเหลอื เพื่อน พ่อแม่ ครู มจี ติ อาสา ทางานเพ่ือสว่ นรวม ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7 E) ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 6 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สืบคน้ ข้อมูล อภปิ ราย และอธบิ ายเกี่ยวกบั ความหมายและองคป์ ระกอบของความหลากหลาย ทางชวี ภาพได้ 2. สืบคน้ ข้อมลู อภปิ ราย และอธบิ ายการศึกษาของสงิ่ มีชวี ติ การจัดหมวดหม่ขู องสง่ิ มีชีวิต ชอ่ื ของ สิง่ มชี ีวิต และการระบุชนิดได้ สาระการเรยี นรู้ 1. ความหลากหลายทางชวี ภาพ 2. การศกึ ษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวติ 3. ชือ่ ของสิ่งมีชีวิตเวลาที่ใช้ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง การศึกษาความหลากหลายทางชวี ภาพ ใช้เวลาในการทาการ เรยี นรู้ 2 ชั่วโมง ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรติสตา 7 บทบาทของนักเรยี น 1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน เลือกประธานกลมุ่ เพ่ือเป็นผู้นาในการดาเนินกิจกรรมและเลขานกุ ารกลุ่มเพื่อบนั ทึกข้อมูลในการปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆและมอบหมายหน้าทใ่ี ห้สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ ให้ชัดเจน 2. ตรวจสอบความครบถ้วนของชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ บบ 7Eเรือ่ ง อาณาจักรโพรตสิ ตา 3. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพื่อทดสอบความรเู้ ดิมของนักเรียน 4. ศึกษากิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 1 แล้วให้แต่ละกลุ่ม ร่วมกนั อภิปรายและตอบคาถาม 5. ศกึ ษาและปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนร้ทู ี่ 2 เพอ่ื สารวจและคน้ หาคาตอบ 6. ศึกษากิจกรรมการเรยี นรูท้ ่ี 3 และ 4 จากนนั้ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม อภิปรายและระดมความคดิ ในกลมุ่ สรปุ แก้ปัญหาจากสถานการณ์ท่ีกาหนดข้นึ แล้วบันทึกคาตอบลงในแบบบันทึกกจิ กรรม พรอ้ มทง้ั ขยายความรูท้ ีไ่ ด้รับโดยการนาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 7. แลกเปล่ียนกนั ตรวจแบบบันทกึ กิจกรรมการเรียนรู้ โดยเลขานุการกลุ่ม รวบรวมแบบบนั ทกึ คาตอบของสมาชิกไปแลกเปลย่ี นกบั กลมุ่ อน่ื โดยกาหนดให้กล่มุ ที่ 1 ตรวจกลมุ่ ที่ 5, กลุ่มที่ 5 ตรวจกลุ่มที่ 4, กลมุ่ ท่ี 4 ตรวจกลุ่มท่ี 3, กลุ่มท่ี 3 ตรวจกลุ่มที่ 2 และกล่มุ ท่ี 2 ตรวจกลมุ่ ที่ 1 8. ประธานรับเฉลยกจิ กรรมการเรียนรู้ จากครผู ้สู อนเพื่อนามาตรวจคาตอบ 9. สมาชิกในกล่มุ ตรวจแบบบนั ทึกกิจกรรมของสมาชกิ กลมุ่ อน่ื (กรณีมีข้อสงสยั ให้นักเรยี นถามครผู ูส้ อน) 10. เลขานุการกลุ่ม รวบรวมแบบบนั ทกึ กจิ กรรมกลุ่มคนื กลุ่มเดิม 11. ประธานกลุม่ นาเฉลยกจิ กรรมคืนครูผู้สอน 12. สมาชิกในกล่มุ บนั ทกึ คะแนนลงในแบบบันทึกคะแนน รวมคะแนนของสมาชกิ ในกลุ่มหาคา่ เฉล่ยี เป็นคะแนนของกลุ่มแจ้งครผู ู้สอน ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 8 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชดุ การเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง อาณาจักรโพรตสิ ตาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ชุดท่ี 4 เรื่อง อาณาจักรโพรติสตาจานวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน ใช้เวลา 10 นาทีคาชแ้ี จง: แบบทดสอบเปน็ แบบปรนยั เลอื กตอบ ก ข ค และ ง จานวน 10 ขอ้1. ในอาณาจักรโพรโตซวั มีหลายเซลล์รวมกนั เป็นกลมุ่ แต่ละเซลลส์ ามารถทาหนา้ ท่ีของความเปน็ สง่ิ มชี ีวิตได้ครบถ้วนอย่าง อสิ ระ เรียกเซลลท์ รี่ วมกนั นน้ั ว่าอะไรก. เน่ือเยื่อ ข. อวยั วะค. โคโรนี ง. ซโู ดโพเดยี ม2. อวัยวะทใี่ ช้ในการเคล่ือนไหวของสงิ่ มชี วี ิตในอาณาจักรโพรโทซวั คือข้อใดก. แฟลกเจลลัม ข. หางค. ครีบ ง. เกล็ด3. ส่งิ มีชีวิตในขอ้ ใดมอี ายสปอต (eya spot) ใชใ้ นการตอบสนองต่อแสงก. สาหร่ายสแี ดง ข. พารามเี ซียมค. ยกู ลนี า ง. พลาสโมเดยี ม4. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องไดอะตอมก. การทาไส้กรอง ข. ยาขัดรองเทา้ค. ทาเครอ่ื งแกว้ ง. น้ายาลา้ งจาน5. “ปรากฏการณ์ขป้ี ลาวาฬ” เกดิ จากสิ่งมชี วี ติ ในกลมุ่ ใดก. กล่มุ ไดโนแฟลเจลเลต ข. กลมุ่ สาหรา่ ยสนี า้ ตาลค. กลุ่มไดโพลโมแนด ง. กลมุ่ ยกู ลีนอยด์6. โรคในข้อใด ที่ไม่ได้เกดิ จากส่ิงมีชวี ิตในอาณาจกั รโพรโตซัวก. ติดเชอ้ื ในช่องคลอด ข. โรคเหงาหลบัค. โรคนิ่วในถุงนา้ ดี ง. ปรสติ ในลาไส้ของคน ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 97. จีฉ่าย นามาทาอาหาร หรือสาหร่ายผมนาง คือสงิ่ มีชวี ติ ในข้อใดก. สาหร่ายสีแดง ข. สาหรา่ ยสีเขียวค. สาหรา่ ยสีน้าตาล ง. ราเมอื ก8. ส่ิงมีชวี ิตกลุ่มใดมลี กั ษณะก่ิงก้านคล้ายพืชชัน้ สูงก. สาหร่ายสเี ขยี ว ข. สาหร่ายสีน้าตาลค. ราเมอื ก ง. สาหร่ายเคลป์9. สาหร่ายในขอ้ ใดทีช่ ว่ ยปรบั คุณภาพนา้ ได้ก. สาหรา่ ยสีเขียว ข. สาหร่ายสีนา้ ตาลค. ราเมอื ก ง. สาหร่ายเคลป์10. ส่งิ มีชีวิตในขอ้ ใดท่มี โี ปรตีนสงู และมักนามาทาอาหารเสริมก. สาหรา่ ยสีเขียว ข. สาหรา่ ยสนี า้ ตาลค. ครอเรลลา ง. สาหรา่ ยเคลป์ ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7 E) ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจกั รโพรติสตา 10 กระดาษคาตอบชดุ กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 3เรือ่ ง อาณาจักรมอเนอรา กอ่ นเรียน  หลังเรยี นชอื่ .................................................................................... ช้ัน ................ เลขที่ ..............ขอ้ ท่ี ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.10. ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7 E) ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรติสตา 11 บตั รกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง สิง่ มชี วี ติ อาณาจกั รโพรตสิ ตา คาช้ีแจง กิจกรรมการเรียนรู้ฉบับนี้เป็นกิจกรรมที่จัดการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ข้ันตรวจสอบความรู้เดิม (Elicitation Phase) ขั้นเร้าความสนใจ(Engagement Phase)และข้ันอธิบาย(Explanation Phase) คาสงั่ นกั เรยี นศึกษาภาพและข้อความขา่ วท่กี าหนดใหแ้ ล้วตอบคาถามต่อไปนี้ (10 คะแนน) ขอ้ ความข่าวที่กาหนด \"ขป้ี ลาวาฬ\" ทานา้ ทะเลพัทยาเปลีย่ นสีโชคดียงั ไม่เขา้ ชายหาด ผู้ส่อื ข่าวได้รับแจ้งจากนักท่องเทยี่ ววา่น้าทะเลบริเวณหนา้ อา่ วพัทยา ห่างจากฝ่ังประมาณ 300 เมตร มีปรากฏการณน์ ้าทะเลเปลยี่ นสีหรอื ทเ่ี รียกกันวา่ ปรากฏการณ์ข้ีปลาวาฬ หรือแพลงก์ตอนบลูม ทมี่ า: http://pirun.ku.ac.th/~b521105127 สืบคน้ เมอื่ 2 มถิ นุ ายน 2559โดยจากการสังเกตจากมุมสูงจะเห็นได้ว่าน้าทะลจากบริเวณชายฝั่งกับน้าทะเลท่ีอยู่ห่างออกไปจะมีความแตกต่างกัน ซ่ึงลักษณะจะเป็นน้าสีเขยี วเข้มอยา่ งเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ หรือแพลงก์ตอนบลูมน้ันนักท่องเที่ยวพบเห็นในช่วงเมื่อวานน้ีในช่วงน้าข้ึนตอนบ่ายบริเวณหาดวงค์อมาตย์ นาเกลือ แต่หลังจากน้นั กระแสน้าได้พัดให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางและจางหายไป กระทั่งมาวันนี้ช่วงน้าข้ึนกพ็ ปรากฏการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง สาหรับปรากฏการณ์ขี้วาฬ หรือแพลงก์ตอนบลูม นั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่มักจะเป็นไปตามฤดูกาล โดยกระบวนการน้าผุดที่แนวชายฝ่ัง ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการเคล่ือนตัวของน้าทะเล การเติบโตของแพลงตอนพชื อุณภูมิทเ่ี พิ่มสูงขึ้นของนา้ ทะเลนนั้ ยงั เป็นอกี ปัจจยั ทีท่ าให้เกิดปรากฏการณข์ ี้ปลาวาฬเช่นเดยี วกนั ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชุดที่ 4 อาณาจักรโพรติสตา 12 คาชแ้ี จง นักเรยี นศกึ ษาภาพและขอ้ ความข่าวท่ีกาหนดให้แลว้ ตอบคาถามต่อไปน้ี1. สิง่ มชี วี ติ ที่ทาให้เกิดปรากฎการณ์แพลงก์ตอนบลูม คอื............................................................................................................................. .................................................................................................................................. ............................................................................................2. ปรากฎการณแ์ พลงกต์ อนบลูม ทาใหน้ า้ ทะเล มลี กั ษณะอย่างไร............................................................................................................ .............................................................................................................................................................................................. .................................................3. แพลงตอนพืช เป็นส่งิ มชี วี ติ ในกลุม่ ใด............................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................................................................4. เหตุการณน์ ี้มผี ลกระทบตอ่ สิ่งแวดลอ้ มอย่างไร................................................................................................. ....................................................................................................................................................................................................... ..............................................5. นักเรียนสามารถแก้ปญั หาจากเหตกุ ารณน์ ้ีได้อยา่ งไร............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................... .......... ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

ชุดที่ 4 อาณาจักรโพรติสตา 13 บัตรความรู้ท่ี 1 เร่ือง อาณาจักรโพรติสตา คาชแ้ี จง กจิ กรรมการเรียนรฉู้ บบั นีเ้ ปน็ กจิ กรรมทีจ่ ัดการเรียนรูต้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ข้ันอธบิ าย (Explanation Phase) และขั้นขยายความรู้(Elaboration Phase) คาสงั่ ให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันศกึ ษาบตั รความรูแ้ ละร่วมกันวิเคราะห์ อภิปรายและตอบคาถามต่อไปน้ลี งในบตั รบันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ อาณาจักรโพรติสตา การจัดแบ่งสิง่ มีชวี ิตออกเป็น 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตวน์ ้ันเกิดปัญหาที่สาคัญคือสิ่งมชี ีวิต บางชนิดมีลักษณะทง้ั พชื และสัตวอ์ ย่ใู นตัวเอง จงึ ทาให้นกั พฤกษศาสตร์จดั ไว้ในอาณาจักรพืช และนักสัตว์วิทยาก็จัดไว้ในอาณาจักรสัตว์ ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ท่ีส่ิงมีชีวิตชนิดเดียวอยู่ทั้งสองอาณาจักร ดังนั้นErnst Haeckel นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันจึงได้ เสนอช่ือ โพรติสตา (protista) ซึ่งหมายถึงสิ่งมีชีวิตพวกแรก ๆ ขึ้นมาใช้ จึงทาให้แยกสิ่งมีชีวิตท่ีไม่มีลักษณะของพืชหรือสัตว์ อย่างชัดเจน ออกจากอาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตว์ แลว้ ต้ังเป็นอาณาจักรใหม่ ชอ่ื “อาณาจักรโพรตสิ ตา” ลักษณะสาคัญของสงิ่ มีชีวิตในอาณาจักรโปรติสตา 1. รา่ งกายประกอบดว้ ยโครงสร้างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน สว่ นมากประกอบดว้ ยเซลล์เดยี ว (unicellular)บางชนิดมีหลายเซลล์รวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า โคโลนี (colony) หรือเป็นสายยาว (filament) แต่ยังไม่ทาหนา้ ท่ี ร่วมกันเปน็ เน้ือเย่ือ (tissue)หรอื อวัยวะ (organ) แตล่ ะเซลล์สามารถทาหน้าที่ของความเป็นสิ่งมีชวี ิตได้ครบถ้วนอย่าง อสิ ระ 2. ไม่มีระยะตัวอ่อน (Embryo) ซึ่งต่างจากพืชและสัตว์ที่มีระยะตัวอ่อนก่อนที่จะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวยั 3. การดารงชีพ มีทั้งชนิดท่ีเป็นผู้ผลิต (Autotroph) เพราะมีคลอโรฟิลล์ เป็นผู้บริโภค (Consumer)และเปน็ ผยู้ ่อยสลายอินทรยี สาร (Decomposer) 4. โครงสร้างของเซลล์เป็นแบบยูคาริโอติก (Eucaryotic) ซ่ึงมีเย่ือหุ้มนิวเคลียส ได้แก่ โพรโทซัว เห็ดรา ยีสต์ ราเมอื ก สาหรา่ ยต่าง ๆ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 14 5. การเคล่ือนที่ บางชนิดเคลื่อนท่ีได้โดยใช้ ซีเลีย (cilia) แฟลกเจลลัม (flagellum) หรือซูโดโปเดียม(Pseudopodium) บางชนิดเคล่อื นที่ไม่ได้ 6. การสืบพันธุ์ ทั้งแบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) และแบบอาศัยเพศ (Sexualreproduction) แบบอาศัยเพศมีท้ังชนิดคอนจูเกชัน (Conjugation) ซึ่งเกิดจากเซลล์สืบพันธ์ุที่มีรูปร่างและขนาดเหมือนกัน มารวมกนั ดังเช่นท่ีพบในพารามีเซียม ราดา เป็นต้น และชนิดปฏิสนธิ (fertilization) ซ่งึ เกิดจากเซลลส์ บื พันธุ์ ทม่ี รี ปู ร่างและขนาดตา่ งกนั มารวมกนั ดงั เชน่ ท่ีพบในสาหรา่ ยเปน็ สว่ นใหญ่ เป็นต้น ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 15 บัตรกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง อาณาจกั รโพรตสิ ตา คาชแี้ จง กจิ กรรมการเรยี นรู้ฉบับน้เี ป็นกิจกรรมทจ่ี ัดการเรียนรู้ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ขั้นสารวจและคน้ หา (Exploration Phase) ,ขน้ั ขยายความรู้(Exploration Phase) และขัน้ นาความรู้ไปใช้(Extend Phase) คาสัง่ จงตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกต้อง (10 คะแนน) 1. นักวทิ ยาศาสตรค์ นใดที่เป็นคนเสนอ อาณาจักรโพรตสิ ตา ขึ้นมาคนแรก............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ................................................. 2. สว่ นทเ่ี รยี กว่า โคโลนี (colony) ในอาณาจกั รโพรติสตา คอื............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ..............................................................................................................................................................................................................................ทาหนา้ ที่............................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................. .. 3. โพรโตซวั มีการดารงชีพอย่างไร จงอธิบาย......................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................. 4. ซีเลีย (cilia) แฟลกเจลลัม (flagellum) หรอื ซโู ดโปเดยี ม เปน็ อวยั วะของโพรโตซวั ซ่งึ ทาหน้าที่ใด............................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................... 5. โพรโตซวั มกี ารสืบพันธ์อุ ย่างไร จงอธิบาย....................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ................................................. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7 E) ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 16 บตั รความรู้ที่ 2 เรอื่ ง ความหลากหลายของโพรตสิ ตา คาชแ้ี จง กจิ กรรมการเรยี นรู้ฉบับนเ้ี ป็นกิจกรรมทจี่ ัดการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ขน้ั อธิบาย (Explanation Phase) และข้นั ขยายความรู้(Elaboration Phase) คาส่งั ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ทากจิ กรรม เร่ือง การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพตามกจิ กรรมท่ีกาหนดใหต้ ่อไปนี้ ความหลากหลายของโพรทิสต์ หากแบง่ โพรทสิ ตเ์ ป็นกลุ่มตามสายววิ ฒั นาการ จะแบง่ กลุ่มได้ 8 กลุ่ม ดังน้ี 1. กลมุ่ ไดโพลโมนาดิดา (Diplomonadida) และ พาราบาซา ลา (Parabasara)เปน็ โพรทสิ ตท์ ม่ี ีแตน่ วิ เคลยี สและไรโบโซม กลุ่มไดโพลโมแนด (Diplomonads) - มีแฟลเจลลาหลายเส้น มี 2 นิวเคลยี ส - ตัวอย่างเช่น Giardia lamblia เป็นปรสิตในลาไสข้ องคน กลมุ่ พาราบาลติ (Parabasalids) - มีแฟลกเจลลาเป็นคู่ - ผิวเยอื่ หุม้ เซลลม์ ีลกั ษณะเป็นรอบหยกั คลา้ ยคลนื่ - ตัวอยา่ งเช่น Trichonympha vasinalis ที่อาศัยอยู่ในลาไสป้ ลวก และ Trichomonas spทาให้เกิดอาการติดเช้ือในชอ่ งคลอด ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7 E) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 17Giardia lamblia trichonympha vaginalisทม่ี า: https://mykindofscience.com ท่ีมา http://www.nana-bio.com สืบค้นเม่ือ 4 มถิ ุนายน 25592. กลมุ่ ยกู ลโี นซวั (Euglenozoa) เป็นโพรทสิ ตก์ ลมุ่ ทเี่ คลอ่ื นที่โดยใช้แฟลกเจลลา กลุม่ ยูกลีนอยด์ (Euglenoid) - สว่ นใหญ่สงั เคราะห์ดว้ ยแสงได้ - ตัวอย่างเชน่ ยูกลนี า เป็นโพรทิสตเ์ ซลล์เดยี วที่มสี าร แคโรทนี และคลอโรฟลิ ล์ จึงสามารถดารงชวี ิต เป็นผ้ผู ลิต ละมีอายสปอต (eya spot) ในการตอบสนองต่อแสง Euglena sp ทมี่ า https://www.uniprot.org สืบค้นเมื่อ 4 มิถุนายน 2559 ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรติสตา 18กลมุ่ คเิ นโทพลาสติด (Kinetoplastid)- มโี ครงสร้างทีเ่ รยี กว่า คเิ นโทพลาสติด (Kinetoplastid)ซง่ึภายในมสี ารพนั ธกุ รรมแบบวงแหวน (circular DNA) และมีไมโทคอนเดรยี ขนาดใหญ่- ตวั อยา่ งเชน่ ทรปิ พาโนโซมา (Trypanosoma sp.) เป็นปรสติ ทท่ี าให้เกิดโรคเหงาหลับ Trypanosoma sp. ทม่ี า: https://kingdomoflifeblog.word สืบคน้ เมอ่ื 4 มิถุนายน 2559 3. กลมุ่ แอลวโี อลาตา (Alveolata) เปน็ โพรทสิ ต์เซลลเ์ ดียวทมี่ ีลักษณะร่วมกันคือ มชี อ่ งว่างเลก็ ๆ ใต้เย่ือห้มุ เซลล์ท่ีเรียกว่า แอลวีโอไล (alveoli) กล่มุ ไดโนแฟลเจลเลต (Dinoflagellate) - มสี ารแคโรทีนและคลอโรฟิลล์ในพลาสติด ทาให้สงั เคราะหแ์ สงได้ - เคลื่อนทีโ่ ดยอาศัยแฟลเจลลา 2 เส้น ในแนวขวางและแนวดง่ิ - บางชนิดมีแผ่นเซลลโู ลสหลายแผ่นประกอบกนั คล้ายเกราะ - เมื่อมกี ารเพิ่มจานวนจนมปี ริมาณมาก จะทาใหเ้ กดิ ปรากฏการณ์ขป้ี ลาวาฬ (red tide) ไดโนแฟลเจลเลตชนดิ ต่างๆ ท่มี า: https://ammybella.wordpress.com สบื ค้นเมอ่ื 4 มถิ นุ ายน 2559 ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 6

ชุดที่ 4 อาณาจกั รโพรติสตา 19 กลุม่ เอพคิ อมเพลซา (Apicomplexa) - สว่ นใหญ่ดารงชีวติ เปน็ ปรสติ - มโี ครงสรา้ งทใ่ี ชส้ าหรับแทงผา่ นเซลล์โฮสต์ ไม่มี โครงสรา้ งในการเคลื่อนท่ี ยกเว้นในเซลลส์ ืบพันธ์ุ เพศผู้ - ตวั อยา่ งเช่น พลาสโมเดียม (Plasmodium sp.)Plasmodium sp. ทาใหเ้ กิดโรคมาลาเรยี ในคนและสัตวโ์ ดยมียงุ ก้นปล่องเปน็ทมี่ า: http://www.ihr.chula.ac.th พาหะสืบคน้ เม่อื 4 มถิ ุนายน 2559 กลุม่ ซิลิเอต (Ciliates)- เป็นโพรทิสตท์ ใี่ ชซ้ ิเลยี ในการเคลื่อนท่ี- มนี ิวเคลียส 2 ขนาด คือ นิวเคลยี สขนาดเล็กทาหนา้ ทใ่ี นการสบื พันธ์ุ และนิวเคลยี สขนาดใหญท่ าหนา้ ทคี่ วบคุมกระบวนการต่างๆในเซลล์- ตวั อย่างเช่น พารามีเซียม (Paramecium sp.) วอร์ติเซลา (Vorticella sp.) เป็นตน้ Paramecium sp orticella spทีม่ า: https://kingdomprotista1.wordpress.com ทม่ี า: http://protist.i.hosei.ac.jp สบื คน้ เม่ือ 4 มิถุนายน 2559 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7 E) ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรติสตา 204. กลมุ่ สตรามโี นไพลส์ (Stramenopiles) ส่วนใหญ่มีกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง แอลจี หรือสาหรา่ ย มลี กั ษณะรว่ มกนั คือ เซลล์สบื พนั ธ์ุมแี ฟลกเจลลา 2 เสน้ โดยเส้นหนง่ึ มขี นอีกเสน้ หน่งึ ไม่มีขน กล่มุ สาหรา่ ยสีนา้ ตาล (Brown algae) - มีฟิวโคแซนทีนซึง่ เปน็ สารสนี ้าตาลมากกว่าคลอโรฟิลล์ และแคโรทีนอยด์อาศยั เพศ - สว่ นอาศัยในน้าเคม็ เคลป์ - มลี ักษณะกิ่งกา้ นคลา้ ยพชื ชัน้ สูง ท่มี า: http://beachcombers- - มีการสืบพันธ์แุ บบอาศัยเพศ และไม่ kit.fish.wa.gov.au - ตวั อยา่ ง เช่น สาหร่ายเคลป์ (Kelp) เป็น สืบคน้ เมอื่ 4 มถิ ุนายน 2559สาหร่ายขนาดใหญท่ ส่ี ุด สาหร่ายท่นุ หรอื ซากัสซัม (Sargassum sp.) ซ่งึ มธี าตุไอโอดีนสงู ลามินาเรยี(Laminaria sp.) เป็นต้น กลุ่มไดอะตอม (Diatom) - มีสารสีฟวิ โคแซนทนี - ผนงั เซลล์มลี กั ษณะเป็น 2 ฝาประกบกนัประกอบด้วยสารซิลกิ า - มีการสะสมอาหารไวใ้ นรูปของนา้ มนั - เม่อื ไดอะตอมตายจะเกดิ การทบั ถมทบี่ ริเวณใต้ทอ้ งทะเล ซ่งึ กลายเปน็ แหลง่ รวมแรธ่ าตุและน้ามนั โดยสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การทาไส้ ไดอะตอมชนิดตา่ งๆกรอง ยาขดั รองเท้า ทาเครือ่ งแกว้ ตู้อบ ยาขดั รถ ทมี่ า: ทีม่ า http://www.alamy.comเป็นตน้ สบื คน้ เมื่อ 4 มิถุนายน 2559 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจักรโพรติสตา 21 5. กลมุ่ สาหรา่ ยสแี ดง (red algae) Gracilaria sp ท่ีมา: https://www.algaebarn.com - มีรงควตั ถุท่ที าใหเ้ ปน็ สแี ดงคอื ไฟโคอีรที รนิ (phycoery- thrin) นอกจากน้ียังมคี ลอโรฟิลล์ และ สบื คน้ เมือ่ 4 มถิ นุ ายน 2559แคโรทีนอยดด์ ว้ ย - ไม่มีระยะที่มีแฟลเจลลา - ผนงั เซลลม์ ีเมอื กเคลือบอย่เู รยี กว่าคารแ์ รกจแี นน(carageenan) ซึ่งนามาผลติ วนุ้ ได้ - บางชนิดนามาใช้ประโยชนใ์ นอุตสาหกรรม เช่น พอรไ์ ฟรา (Porphyra sp.) หรอืจีฉา่ ย นามาทาอาหาร สาหรา่ ยผมนางหรอื กราซลิ าเรยี (Gracilaria sp.) นามาสกดั ทาวุน้ 6. กลมุ่ สาหร่ายสีเขยี ว (Green algae) Porphyra sp ท่ีมา: http://protist.i.hosei.ac.jp - สามารถสรา้ งอาหารเองได้ เปน็ แหลง่ อาหารที่สาคญัของสัตว์ และชว่ ยเพ่ิมปรมิ าณออกซิเจนในแหลง่ น้า สบื คน้ เมอ่ื 4 มิถนุ ายน 2559 - มรี งควัตถคุ ลอโรฟลิ ลเ์ อ บี และแคโรทีนอยด์ - ผนงั เซลล์เปน็ เซลลูโลส - ตวั อยา่ งเชน่ คลอเรลลา (Chorella sp.) มโี ปรตีนสงู จึงมักนามาทาอาหารเสรมิ สไปโรไจรา (Spiroyra sp.)หรอื เทาน้า มีคลอโรพลาสตล์ ักษณะเปน็ เกลียว นิยมนามประกอบอาหาร สาหร่ายไฟ (Chara sp.) มลี กั ษณะคล้ายกับพชื ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7 E) ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 22 7. กลมุ่ ไมซโี ทซวั (Mycetozoa) หรือกลุ่มราเมอื ก (Slime mold) พบในทีช่ ื่นแฉะทม่ี สี ิง่ ปฎิกูลทบั ถมเป็นเวลานาน มลี ักษณะคล้ายเมือก มบี ทบาทเป็นผูส้ ลายสารอนิ ทรีย์ท่สี าคญั ในระบบนิเวศ ราเมือกชนิดพลาสโมเดียม (plasmodium slime molds) - เซลลจ์ ะรวมกันเปน็ กลมุ่ เป็นก้อนใหญ่ และมีหลายนิวเคลียส - ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ - ตัวอย่างเชน่ Physarum polycephalum ทาใหเ้ กิดโรคยืนตน้ ตายในพืชที่เรียกวา่ โรคไฟซารัม ราเมือกชนดิ เซลลูลาร์ (cellular slime molds ) - สิ่งมชี วี ติ เซลลเ์ ดยี วมีหนึ่งนวิ เคลียส และอยู่อยา่ งอสิ ระ - ไมส่ ามารถสังเคราะหแ์ สงได้ - ตวั อย่างเชน่ Dictyostelium discoideumPhysarum polycephalum Dictyostelium discoideumท่ีมา: http://www.lostcoast.org ท่ีมา: https://en.wikipedia.orgสบื ค้นเม่อื 4 มิถุนายน 2559 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7 E) ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรติสตา 23 8. กลมุ่ ไรโซโพดา (Rhizopoda) เปน็ สง่ิ มีชวี ิตเซลลเ์ ดียว เคลอ่ื นที่และกนิ อาหารโดยใช้ ซโู ดโพเดยี ม (Pseudopodium) เช่น อะมีบา (Amoeba sp.) ซง่ึ มีการดารงชพี แบบอสิ ระ แต่บางชนดิ เป็นปรสิต เช่น เอนทามีบา (Entamoeba histolytica) เปน็ สาเหตขุ องโรคบดิ มีตวัAmoeba sp Entamoeba histolyticaทม่ี า: http://www.microscopes.in.th ทม่ี า: http://www.k-state.edu สืบคน้ เมอื่ 2 มิถนุ ายน 2559 ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชุดที่ 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 24 บัตรกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง ความหลากหลายของโพรตสิ ตา คาช้ีแจง กิจกรรมการเรียนร้ฉู บบั นเ้ี ปน็ กจิ กรรมท่จี ัดการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรขู้ ้นั สารวจและคน้ หา(Exploration Phase) และข้นั ขยายความรู้(Exploration Phase) และขนั้ประเมนิ ผล(Evaluate Phase) กจิ กรรมที่ 1 ให้นักเรยี นพจิ ารณาภาพแล้วเติมข้อความลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง (10 คะแนน)1. ชอ่ื ............................................................................ กลมุ่ .......................................................................... อวัยวะที่ใช้ในการเคล่อื นที่ ...................................... ................................................................................... . ทีม่ า: https://kingdomprotista00.wordpress.com สบื ค้นเม่อื 5 มถิ นุ ายน 25592. ชอ่ื ………………………………………………………………….. กลมุ่ ……………………………………………………………….. อวัยวะทใ่ี ชใ้ นการเคล่อื นท่ี ……………………………….. ………………………………………………………………………… . ท่มี า: https://kingdomprotista1.wordpress.com สบื คน้ เมอื่ 5 มถิ ุนายน 25593. ช่ือ ………………………………………………………………….. กลมุ่ ………………………………………………………………… อวัยวะที่ใชใ้ นการเคลอื่ นท่ี ……………………………….. ………………………………………………………………………… .. ทม่ี า: http://protistakingdompccnst.blogspot.com สืบค้นเมอื่ 5 มถิ นุ ายน 2559 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 254. ช่อื ………………………………………………………………….. กลมุ่ ………………………………………………………………… อวัยวะท่ีใชใ้ นการเคลื่อนที่ ………………………………. ………………………………………………………………………… ทมี่ า: https://mykindofscience.com สืบคน้ เม่อื 5 มิถนุ ายน 25595. ชอ่ื ………………………………………………………………….. กลมุ่ ………………………………………………………………… อวัยวะท่ใี ช้ในการเคลอ่ื นที่ ……………………………….. ………………………………………………………………………… .. ท่ีมา: https://kingdomprotista1.wordpress.com สบื ค้นเมื่อ 5 มถิ นุ ายน 25596. ชอ่ื ………………………………………………………………….. กลมุ่ ………………………………………………………………… อวัยวะท่ใี ช้ในการเคล่ือนที่ ...................................... ................................................................................... ที่มา: https://kingdomprotista00.wordpress.com สบื ค้นเมือ่ 5 มิถนุ ายน 2559 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7 E) ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจกั รโพรติสตา 267. ช่อื ............................................................................ กลมุ่ ........................................................................ ลักษณะเด่น ............................................................. .................................................................................. ทม่ี า: https://www.quora.com สบื ค้นเม่อื 5 มิถุนายน 25598. ช่ือ ............................................................................ กลมุ่ .......................................................................... แตกตา่ งจากสาหร่ายกล่มุ อนื่ คือ ………………………. ………………………………………………………………………… … ทมี่ า: http://www.pkc.ac.th/science/picture สบื ค้นเมอื่ 5 มิถุนายน 25599. ชือ่ ………………………………………………………………….. กลมุ่ ………………………………………………………………… รงควตั ถุทพี่ บ ………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ทม่ี า: https://truebotanicals.com สืบคน้ เมอ่ื 5 มิถนุ ายน 255910. ช่ือ ………………………………………………………………….. กลมุ่ ………………………………………………………………… กอ่ โรค …………………………………………………………….. ………………………………………………………………………… .. ทมี่ า: https://sites.google.com สบื ค้นเมือ่ 5 มิถุนายน 2559 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 27กจิ กรรมท่ี 2 จงตอบคาถามเกยี่ วกบั อาณาจักรโพรทิสตา (10 คะแนน)1. โพรทิสตช์ นดิ ใดทาใหเ้ กดิ โรคเหงาหลบั …………………………………………………………………………………2. โพรทสิ ตช์ นดิ ใดอาศยั อยูใ่ นลาไส้ปลวก …………………………………………………………………………………3. โพรทิสต์ชนดิ ใดทาให้เกิดโรคมาลาเรีย ………………………………………………………………………………….4. โพรทสิ ต์กลุ่มใดทาให้เกิดปรากฎการณ์ขีป้ ลาวาฬ …………………………………………………………………..5. โพรทิสตท์ ีท่ าให้เกดิ อาการตดิ เชอื้ ในช่องคลอด ………………………………………………………………………6. สาหร่ายสเี ขียว (น้าจดื ) ชนดิ ใดมโี ปรตีนสูง ……………………………………………………………………………7. สาหรา่ ยสเี ขียวชนดิ ใดทีช่ าวบา้ นเรียก เทาน้า ……………………………………………………………………..8. ไดอะตอมมีสารใดสะสมในเซลล์ …………………………………………………………………………………………..9. สาหร่ายสแี ดงชนิดใดทสี่ ามารถนามาสกัดวนุ้ ได้ ……………………………………………………………………..10. สาหรา่ ยสนี ้าตาลชนิดใดใชเ้ ปน็ อาหารและมีไอโอดีนสงู …………………………………………………………กิจกรรมที่ 3 ใหน้ กั เรยี นนาอักษรหน้าข้อความทางด้านขวามาเตมิ หน้าข้อความทมี่ ีความสมั พนั ธ์กัน (10 คะแนน)................1. อวยั วะทีใ่ ช้ในการเคลอ่ื นท่ีของวอลวอกซ์ ก. Entamoeba histolytica................2. อวยั วะท่ีใช้ในการเคลื่อนที่ของวอร์ตเิ ซลลา ข. Pigment................3. คอลเรลลาและสไปโจไจรา ค. Lichen................4. เกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการจาแนกสาหรา่ ยชนิดตา่ งๆ ง. Aspergilus Flavas................5. สาหร่ายสีเขียวทชี่ าวบ้านเรยี ก เทานา้ จ. Brown algae................6. พอร์ไฟราและกราซลิ าเรีย ฉ. Cilia................7. สาหรา่ ยท่นุ พบมากในอ่าวไทย ใช้ทาอาหารได้ ช. Sargassum sp.................8. ผลติ สารอะฟลาทอกซอนเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งตับ ซ. Greenalgae................9. ราอยู่รวมกบั สาหรา่ ย ฌ. Flagella................10. สาเหตุของโรคบดิ มตี วั ญ. Spirogyra sp. ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7 E) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 28 แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ การเรียนร้ทู ี่ 4 เรื่อง อาณาจักรโพรติสตาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ชดุ ท่ี 4 เรือ่ ง อาณาจักรโพรติสตา จานวน 10 ขอ้ คะแนน 10 คะแนน ใชเ้ วลา 10 นาทีคาชี้แจง: แบบทดสอบเปน็ แบบปรนยั เลือกตอบ ก ข ค และ ง จานวน 10 ข้อ1. อวยั วะทีใ่ ช้ในการเคลื่อนไหวของส่งิ มีชวี ิตในอาณาจกั รโพรโทซัว คอื ข้อใดก. แฟลกเจลลมั ข. หางค. ครีบ ง. เกล็ด2. สิ่งมชี ีวิตในข้อใดมีอายสปอต (eya spot) ใช้ในการตอบสนองต่อแสงก. สาหรา่ ยสแี ดง ข. พารามเี ซยี มค. ยูกลีนา ง. พลาสโมเดียม3. ในอาณาจกั รโพรโตซวั มีหลายเซลล์รวมกนั เปน็ กลมุ่ แตล่ ะเซลล์สามารถทาหน้าที่ของความเป็น สง่ิ มชี วี ิตได้ครบถ้วนอย่าง อิสระ เรยี กเซลลท์ รี่ วมกนั นัน้ ว่าอะไรก. เนอื่ เย่อื ข. อวยั วะค. โคโรนี ง. ซูโดโพเดียม4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องไดอะตอมก. การทาไส้กรอง ข. ยาขดั รองเทา้ค. ทาเครอ่ื งแกว้ ง. นา้ ยาล้างจาน5. “ปรากฏการณข์ ้ปี ลาวาฬ” เกิดจากสง่ิ มชี ีวิตในกลมุ่ ใดก. กลุม่ ไดโนแฟลเจลเลต ข. กลมุ่ สาหร่ายสนี ้าตาลค. กลมุ่ ไดโพลโมแนด ง. กลมุ่ ยูกลนี อยด์6. สิง่ มชี วี ิตในข้อใดทีม่ โี ปรตนี สงู และมักนามาทาอาหารเสริมก. สาหร่ายสีเขียว ข. สาหรา่ ยสนี า้ ตาลค. ครอเรลลา ง. สาหร่ายเคลป์ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรติสตา 297. จฉี า่ ย นามาทาอาหาร หรอื สาหร่ายผมนาง คือสิ่งมีชีวติ ในข้อใดก. สาหร่ายสแี ดง ข. สาหรา่ ยสเี ขยี วค. สาหรา่ ยสีนา้ ตาล ง. ราเมือก8. สิ่งมีชีวิตกลุม่ ใดมลี ักษณะก่ิงก้านคล้ายพชื ชั้นสูงก. สาหร่ายสเี ขยี ว ข. สาหร่ายสนี า้ ตาลค. ราเมอื ก ง. สาหร่ายเคลป์9. โรคในข้อใด ที่ไมไ่ ด้เกิดจากสิ่งมีชวี ติ ในอาณาจักรโพรโตซัวก. ติดเชื้อในช่องคลอด ข. โรคเหงาหลบัค. โรคนวิ่ ในถงุ นา้ ดี ง. ปรสติ ในลาไส้ของคน10. สาหรา่ ยในข้อใดทช่ี ่วยปรับคุณภาพนา้ ได้ก. สาหรา่ ยสีเขียว ข. สาหรา่ ยสนี ้าตาลค. ราเมอื ก ง. สาหรา่ ยเคลป์ ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7 E) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรติสตา 30 กระดาษคาตอบชดุ กิจกรรมท่ี 4 เรื่อง อาณาจักรโพรตสิ ตา ก่อนเรยี น  หลังเรยี นชือ่ .................................................................................... ชนั้ ................ เลขท่ี ..............ข้อท่ี ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.10. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7 E) ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 31บรรณานุกรม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2551). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานพทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพมหานคร:ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. โครงการดาราวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มูลนิธิ สอวน.(2552). ชีววทิ ยา สตั ววทิ ยา3. กรงุ เทพมหานคร:มลู นิธิ สอวน. จิรัสย์ เจนพาณิชย(์ 2558).ชีววิทยาสาหรบั นกั เรียนมธั ยมปลาย.กรงุ เทพมหานคร: หจก.สามลดา. เชาวน์ ชโิ นรกั ษ์ และพรรณี ชิโนรักษ(์ 2552).ชวี วิทยา1.กรุงเทพมหานคร: โสภณการพิมพ์. ซรี ส์ ตาร์(2552).ชวี วิทยา เล่ม 1.(แปลจาก Biology 1 Concepts and Applications โดย ทีมคณาจารย์ ภาควชิ าชวี วทิ ยามหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น, ผู้แปล). กรุงเทพมหานคร : เจเอสที พบั ลชิ ชิ่ง จากดั . นงลักษณ์ สวุ รรณพนิ จิ และ ปรชี า สุวรรณพนิ ิจ(2552). จลุ ชวี วิทยาท่วั ไป.กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ประสงค์ หลาสะอาด และจติ เกษม หลาสะอาด(มปป.).คมู่ ือสาระการเรียนรูพ้ น้ื ฐานและเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชีววทิ ยา ม.6 เล่ม5.กรุงเทพมหานคร:พัฒนาศึกษา ปรชี า สวุ รรณพนิ ิจ และนงลักษณ์ สวุ รรณพินจิ (2549).ชีววทิ ยา2. กรงุ เทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. วันดี วัฒนชัยยิง่ เจริญ(2552). การจดั จาแนกส่งิ มีชีวิต.ภาควิชาชวี วทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ : มหาวทิ ยาลัยนเรศวร. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี(2554). หนงั สอื เรยี นรายวชิ าชีววิทยา เพ่ิมเตมิ เล่ม 5. กรงุ เทพมหานคร : สกสค. สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย(ี 2555). ค่มู ือครรู ายวิชาชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ เล่ม 5. กรงุ เทพมหานคร : สกสค. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 32ภาคผนวก ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 33 แบบบนั ทึกคะแนนระหวา่ งเรียน เรือ่ ง อาณาจักรโพรตสิ ตาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ วิชา ชีววทิ ยา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่อื ง อาณาจักรโพรตสิ ตาชอ่ื .................................................................................... ช้นั ................ เลขที่ .............. กจิ กรรม คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้บตั รกจิ กรรมท่ี 1 10บตั รกจิ กรรมท่ี 2 10บัตรกจิ กรรมท่ี 3 30 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 34เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน เรอื่ ง อาณาจักรโพรติสตา เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. ค 2. ก 3. ค 4. ง 5. ก 6. ค 7. ก 8. ก 9. ข 10. ค เฉลย แบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ก 2. ค 3. ค 4. ง 5. ก 6. ค 7. ก 8. ง 9. ค 10. ก ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 35 เฉลยบัตรกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง สงิ่ มชี ีวิตอาณาจกั รโพรติสตา คาชี้แจง กิจกรรมการเรียนรู้ฉบับน้ีเป็นกิจกรรมที่จัดการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม (Elicitation Phase) ขั้นเร้าความสนใจ(Engagement Phase)และขั้นอธิบาย(Explanation Phase) คาส่งั นกั เรียนศึกษาภาพและข้อความข่าวที่กาหนดใหแ้ ล้วตอบคาถามต่อไปนี้ (10 คะแนน) ขอ้ ความขา่ วท่กี าหนด \"ขป้ี ลาวาฬ\" ทาน้าทะเลพัทยาเปล่ยี นสีโชคดยี ังไมเ่ ขา้ ชายหาด ผู้ส่ือขา่ วไดร้ ับแจ้งจากนักท่องเทยี่ วว่าน้าทะเลบริเวณหนา้ อ่าวพัทยา ห่างจากฝ่งั ประมาณ 300 เมตร มปี รากฏการณน์ า้ ทะเลเปลีย่ นสีหรือท่ีเรยี กกันวา่ ปรากฏการณข์ ป้ี ลาวาฬ หรอื แพลงกต์ อนบลมู ท่มี า: http://pirun.ku.ac.th/~b521105127 สืบคน้ เมอ่ื 2 มถิ ุนายน 2559โดยจากการสังเกตจากมุมสูงจะเห็นได้ว่าน้าทะลจากบริเวณชายฝ่ังกับน้าทะเลที่อยู่ห่างออกไปจะมีความแตกต่างกัน ซ่ึงลักษณะจะเป็นน้าสีเขียวเข้มอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ข้ีปลาวาฬ หรือแพลงก์ตอนบลูมน้ันนักท่องเที่ยวพบเห็นในช่วงเมื่อวานน้ีในช่วงน้าข้ึนตอนบ่ายบริเวณหาดวงค์อมาตย์ นาเกลือ แต่หลังจากน้ันกระแสน้าได้พัดให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางและจางหายไป กระทั่งมาวันนี้ช่วงน้าข้ึนก็พปรากฏการณ์ดังกล่าวอีกคร้ัง สาหรับปรากฏการณ์ขี้วาฬ หรือแพลงก์ตอนบลูม น้ันเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติทีม่ กั จะเป็นไปตามฤดกู าล โดยกระบวนการน้าผุดท่ีแนวชายฝ่งั ซง่ึ เกดิ ข้ึนตามธรรมชาติจากการเคลือ่ นตวั ของน้าทะเล การเติบโตของแพลงตอนพืช อุณภูมิที่เพ่ิมสูงข้ึนของน้าทะเลน้ันยังเป็นอีกปัจจัยที่ทาให้เกิดปรากฏการณ์ขปี้ ลาวาฬเชน่ เดยี วกนั ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7 E) ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจกั รโพรติสตา 36ขอ้ คาถาม1. สง่ิ มชี ีวติ ทที่ าให้เกิดปรากฎการณ์แพลงก์ตอนบลูม คือ แพลงตอนพืช2. ปรากฎการณแ์ พลงก์ตอนบลูม ทาให้นา้ ทะเล มลี กั ษณะอย่างไร ลักษณะจะเปน็ น้าสเี ขยี วเข้มอย่างเห็นได้ชัด3. แพลงตอนพชื เป็นสิ่งมีชวี ติ ในกลมุ่ ใด กลมุ่ ไดโนแฟลเจลเลต4. เหตุการณ์นม้ี ีผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อมอย่างไร ปรากฏการณน์ ีเ้ กย่ี วข้องกับอัตราการตายของส่งิ มีชีวติ หลาย ๆ อยา่ งท่ีอาศัยอยูใ่ นทะเลรวมไปถงึ แนวชายหาด เชน่ ปลา นก สตั ว์เลยี ้ งลกู ด้วยนมทางทะเล และส่ิงมีชวี ิตชนิดอน่ื ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรติสตา 37 บัตรกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง อาณาจักรโพรติสตา คาชแ้ี จง กิจกรรมการเรียนรู้ฉบับนี้เปน็ กจิ กรรมท่จี ดั การเรียนรู้ตามกระบวนการสบื เสาะหาความรขู้ นั้ สารวจและค้นหา (Exploration Phase) ,ขั้นขยายความรู้(Exploration Phase) และขนั้ นาความรู้ไปใช้(Extend Phase) คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกต้อง (10 คะแนน) 1. นกั วทิ ยาศาสตรค์ นใดทเ่ี ป็นคนเสนอ อาณาจักรโพรตสิ ตา ข้ึนมาคนแรก Ernst Haeckel นักวทิ ยาศาสตรช์ าวเยอรมัน 2. สว่ นท่เี รียกวา่ โคโลนี (colony) ในอาณาจกั รโพรตสิ ตา คอื เซลล์หลายเซลล์รวมกนั เป็นกลุ่ม ทาหน้าที่ เซลลท์ าหนา้ ทขี่ องความเปน็ สิง่ มชี ีวิตไดค้ รบถ้วนอยา่ ง อสิ ระ 3. โพรโตซวั มีการดารงชีพอยา่ งไร จงอธบิ าย การดารงชีพ มีทงั้ ชนดิ ทเ่ี ป็นผู้ผลติ (Autotroph) เพราะมีคลอโรฟิลล์ เป็นผบู้ ริโภค (Consumer) และ เปน็ ผ้ยู ่อยสลายอนิ ทรยี สาร (Decomposer) 4. ซเี ลีย (cilia) แฟลกเจลลัม (flagellum) หรอื ซโู ดโปเดียม เปน็ อวยั วะของโพรโตซัว ซ่ึงทาหนา้ ทใ่ี ด ใช้ในการเคล่ือนไหวร่างกาย 5. โพรโตซัวมกี ารสืบพนั ธอุ์ ย่างไร จงอธิบาย มที ัง้ แบบไม่อาศยั เพศ (Asexual reproduction) และแบบอาศยั เพศ (Sexual reproduction) ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7 E) ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 38 บตั รกจิ กรรมการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง ความหลากหลายของโพรตสิ ตา คาชีแ้ จง กจิ กรรมการเรียนรูฉ้ บับน้ีเปน็ กิจกรรมท่จี ดั การเรยี นรูต้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรขู้ ้ันสารวจและค้นหา(Exploration Phase) และขั้นขยายความรู้(Exploration Phase) และขน้ัประเมินผล(Evaluate Phase) กิจกรรมที่ 1 ให้นักเรยี นพจิ ารณาภาพแลว้ เตมิ ขอ้ ความลงในช่องวา่ งให้ถูกต้อง (10 คะแนน)1. ชื่อ พารามเี ซียม (Paramecium sp.) กลมุ่ แอลวีโอลาตา (Alveolata) อวัยวะท่ใี ช้ในการเคลือ่ นที่ ซิเลยี ที่มา: https://kingdomprotista00.wordpress.com สบื ค้นเมอื่ 5 มิถนุ ายน 25592. ชือ่ ยูกลีนา (Euglena sp) กลมุ่ ยูกลโี นซัว (Euglenozoa) อวัยวะท่ใี ช้ในการเคล่ือนที่ แฟลเจลลา ที่มา: https://kingdomprotista1.wordpress.com สบื คน้ เม่อื 5 มิถุนายน 25593. ช่ือ วอลวอกซ์ (Volvox sp.) กลมุ่ สาหรา่ ยสีเขียว (Green algae) อวัยวะทใ่ี ชใ้ นการเคลอ่ื นท่ี ซิเลยีท่ีมา: http://protistakingdompccnst.blogspot.com สืบคน้ เมื่อ 5 มิถุนายน 2559 ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7 E) ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 394. ชื่อ เกยี รเ์ ดีย (Giardia sp.) กลมุ่ ไดโพลโมนาดิดา (Diplomonadida) อวัยวะที่ใชใ้ นการเคล่อื นท่ี แฟลเจลลา ท่ีมา: https://mykindofscience.com สบื คน้ เมอ่ื 5 มถิ นุ ายน 25595. ช่อื วอร์ติเซลลา (vorticella sp.) กลมุ่ แอลวโี อลาตา (Alveolata) อวัยวะที่ใชใ้ นการเคลอื่ นที่ ซิเลยี ท่มี า: https://kingdomprotista1.wordpress.com สืบคน้ เมื่อ 5 มถิ ุนายน 25596. ชอ่ื อะมบี า (Amoeba sp.) กลมุ่ ไรโซโพดา (Rhizopoda) อวัยวะทีใ่ ชใ้ นการเคลอ่ื นที่ ซูโดโพเดยี ม ทีม่ า: https://kingdomprotista00.wordpress.com สบื ค้นเมื่อ 5 มถิ นุ ายน 2559 ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชุดที่ 4 อาณาจักรโพรติสตา 407. ช่ือ เทานา้ หรือสไปโรไจรา (Spirogyra sp.) กลมุ่ สาหร่ายสีเขยี ว (Green algae) ลักษณะเดน่ มีคลอโรพลาสต์เป็นแผ่นแบนบิแป็น เกลยี วอย่ใู นเซลล์ ทม่ี า: https://www.quora.com สบื คน้ เม่อื 5 มถิ ุนายน 25598. ช่ือ จฉี ่ายหรือพอรไ์ ฟรา (Porphyra sp.) กลมุ่ สาหร่ายสีแดง (red algae) แตกต่างจากสาหร่ายกลุ่มอื่นคือ ไม่มรี ะยะทมี่ ีแฟล เจลลา ท่ีมา: http://www.pkc.ac.th/science/picture สืบค้นเม่ือ 5 มถิ นุ ายน 25599. ชอื่ เคลป์ (Kelp) กลมุ่ สตรามีโนไพลส์ (Stramenopiles) รงควัตถทุ พี่ บ ฟวิ โคเซนทนิ คลอโรฟลิ ล์ และแคโรที นอยด์ ทมี่ า: https://truebotanicals.com สบื ค้นเม่อื 5 มิถนุ ายน 255910. ชือ่ ไฟซารัม กลมุ่ ไมซโี ทซัม กอ่ โรค โรคยืนตน้ ตายในพชื หรอื โรคไฟซารมั ทีม่ า https://sites.google.com สบื คน้ เมอ่ื 5 มิถนุ ายน 2559 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชดุ ที่ 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 41กิจกรรมท่ี 2 จงตอบคาถามเกย่ี วกบั อาณาจักรโพรทสิ ตา (10 คะแนน)1. โพรทิสต์ชนิดใดทาใหเ้ กิดโรคเหงาหลับ ทริปพาโนโซมา (Trypanosoma sp.)2. โพรทิสต์ชนิดใดอาศัยอยใู่ นลาไส้ปลวก ไตรโคนมิ ฟา (triconympha sp.)3. โพรทสิ ตช์ นดิ ใดทาให้เกดิ โรคมาลาเรีย พลาสโมเดียม (Plasmodium sp.)4. โพรทสิ ตก์ ลุ่มใดทาให้เกิดปรากฎการณ์ข้ีปลาวาฬ ไดโนเฟลเจลเลต (Dinoflagellate)5. โพรทสิ ตท์ ที่ าใหเ้ กดิ อาการติดเชือ้ ในช่องคลอด ไตรโคโมแนส (Trichomonas vag[nalis)6. สาหร่ายสีเขียว (นา้ จืด) ชนิดใดมีโปรตนี สงู คลอเรลลา (Chorella sp.)7. สาหร่ายสีเขียวชนดิ ใดท่ชี าวบ้านเรยี ก เทานา้ สไปโรไจรา (Spriogyra sp.)8. ไดอะตอมมีสารใดสะสมในเซลล์ นา้ ตาลพวกคริสโซลามินารนิ และนา้ มนั9. สาหรา่ ยสีแดงชนิดใดที่สามารถนามาสกดั วนุ้ ได้ กราซลิ าเลีย (Gracilaria sp.)10. สาหร่ายสีน้าตาลชนิดใดใช้เป็นอาหารและมีไอโอดีนสงู ซารก์ ัสซัม (Sargassum sp.)กจิ กรรมท่ี 3 ให้นกั เรยี นนาอักษรหน้าข้อความทางดา้ นขวามาเติมหน้าข้อความทมี่ ีความสัมพันธ์กนั (10 คะแนน)ฌ 1. อวยั วะทีใ่ ช้ในการเคลอื่ นท่ีของวอลวอกซ์ ก. Entamoeba histolyticaฉ 2. อวัยวะท่ีใชใ้ นการเคล่ือนท่ีของวอร์ติเซลลา ข. Pigmentซ 3. คอลเรลลาและสไปโจไจรา ค. Lichenข 4. เกณฑท์ ี่ใชใ้ นการจาแนกสาหร่ายชนิดตา่ งๆ ง. Aspergilus Flavasญ 5. สาหรา่ ยสเี ขียวที่ชาวบา้ นเรยี ก เทานา้ จ. Brown algaeจ 6. พอร์ไฟราและกราซลิ าเรยี ฉ. Ciliaช 7. สาหรา่ ยท่นุ พบมากในอ่าวไทย ใชท้ าอาหารได้ ช. Sargassum sp.ง 8. ผลติ สารอะฟลาทอกซอนเป็นสาเหตุของโรคมะเรง็ ตบั ซ. Greenalgaeค 9. ราอยรู่ วมกบั สาหร่าย ฌ. Flagellaก 10. สาเหตขุ องโรคบิดมีตวั ญ. Spirogyra sp. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 42แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ชื่อ ชนั้ ..........................................คาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกับระดบั คะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 321 การแสดงความคิดเห็น2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื3 การทางานตามหนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมาย4 ความมีนา้ ใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรับปรงุ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7 E) ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

ชุดที่ 4 อาณาจักรโพรติสตา 43 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ชอ่ื กลุม่ …………………………………………………………… ชัน้ …………………………………………คาชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกบั ระดับคะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 43211 การแบง่ หนา้ ที่กันอยา่ งเหมาะสม2 ความรว่ มมอื กันทางาน3 การแสดงความคดิ เห็น4 การรบั ฟังความคิดเหน็5 ความมีน้าใจช่วยเหลือกนั รวม ลงชื่อ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพเกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดีมาก ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตา่ กว่า 10 ปรับปรงุ ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7 E) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจกั รโพรตสิ ตา 44แบบประเมินคณุ ลกั ษณะของนกั เรยี นคาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตคุณลักษณะของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนนคุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึง 4321 ประสงค์ด้าน 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนักเรียน1. รักชาติ 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกับสมาชิกในโรงเรียน ศาสน์ 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมและมีสว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี กษัตรยิ ์ ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชมุ ชน 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมีสว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมท่ีเกีย่ วกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชมุ ชนจดั ขน้ึ ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ แบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

ชดุ ท่ี 4 อาณาจกั รโพรติสตา 45 คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึง 4 321 ประสงค์ด้าน 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จริง2. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 2.2 ปฏิบัตใิ นสงิ่ ท่ีถูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ท่ีจะทาความผิด ทาตามสญั ญาท่ตี นให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และ 3. มีวินัย ครู รับผดิ ชอบ 2.3 ปฏิบัติต่อผอู้ ืน่ ด้วยความซื่อตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ไม่ 4. ใฝเ่ รียนรู้ ถูกต้อง 5. อยู่อย่าง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของ พอเพียง ครอบครวั และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ใน ชวี ิตประจาวัน และรับผิดชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รัพย์สินของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่าง ประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอย่าง เหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด คุ้มค่า และเก็บรกั ษา ดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ิตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไม่ทาใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อน พร้อมให้อภัย เมื่อผอู้ นื่ กระทาผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใช้ชีวิตประจาวันบน พืน้ ฐานของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร 5.6 รูเ้ ท่าทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตวั อยรู่ ว่ มกับผู้อนื่ ได้อยา่ งมีความสุข ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7 E) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6

ชุดท่ี 4 อาณาจักรโพรตสิ ตา 46 คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ 4 321 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย ประสงค์ดา้ น 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสาเรจ็6. ม่งุ มนั่ ในการ ทางาน7. รักความเปน็ 7.1 มีจติ สานกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคิด ช่วยทา และแบง่ ปนั ส่ิงของให้ผ้อู ื่น8. มีจติ สาธารณะ 8.3 ดูแล รกั ษาทรัพยส์ มบตั ิของห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชนข์ อง โรงเรยี น ลงชือ่ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7 E) ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook