๕๑ รกั ท่ผี ่านมา คอื “รกั จอมปลอม” รกั ดว้ ยความลมุ่ หลง รักด้วยความเสน่หา รกั เพราะวา่ หลงรัก รักเพราะวา่ ตดิ กับดัก รักเพราะว่าใช้หน้ี สิ่งเหล่านไี้ มใ่ ช่รักที่ แท้จริง แต่ถา้ รักพรหมจรรยข์ องตนเองแลว้ ไซร้ คือละ โลภ โกรธ หลง กิเลศ ทงั้ หลายนี้ ไม่ให้เกดิ ข้นึ อีก นีค่ อื การรกั ษาพรหมจรรย์ เปน็ รกั ที่แทจ้ ริง . คอื รักษาความดี คอื รกั ษากาย วาจา ใจ นัน้ ให้เปน็ ปกติ น้นั คือ “พรหมจรรย์” ธรรมะมหัศจรรย์ ...มนุษย์ตอ่ ไปนีจ้ ะเข้าถงึ ธรรมกันได้ง่าย ก็เหตเุ พราะว่า... . ๑. มนษุ ย์นั้นเห็นทกุ ขภ์ ัยมากยิ่งขนึ้ ๒. เหน็ การตายแห่งมนุษยด์ ว้ ยกนั ๓. เหน็ เวทนาคือ การอดอยาก . ...ดังน้นั มนุษย์ทยี่ งั ตดิ อยใู่ นสขุ อยู่ กด็ ี ท่ยี งั ไม่เคยเจอสภาพทเ่ี ลวรา้ ยก็เรียกว่า ยงั ละออกจากสขุ ไมไ่ ด้ มันตอ้ งเจอของจรงิ สมั ผัสของจรงิ มันถงึ จะรวู้ า่ ทุกขส์ ุข เป็นอยา่ งไร... . ...อปุ มาเหมือนกบั ว่า คนทีม่ บี าดแผล ย่อมมเี วทนาความรสู้ กึ ในบาดแผลนัน้ เช่นกัน ตา่ งกับผ้ทู ่ีเขาไม่มบี าดแผล ยอ่ มไมร่ ู้สกึ เจ็บปวด น่ันแลคือ ความรู้สกึ ใหจ้ ติ ของเขาไปสมั ผสั ได้ คอื เวทนา .
๕๒ ...ก็เชน่ กนั ในกาลข้างหน้าอีกไมน่ านเกนิ รอ จะได้เหน็ ปรากฏการณ์ของ ธรรมชาติอกี เช่นกัน ปรากฏการณแ์ ห่งกรรมทไ่ี มม่ ใี ครลขิ ติ แต่เป็นสงิ่ ธรรมดาที่ มนั เกิดขึน้ มอี ยูแ่ ลว้ ... ------------------------------------------------------- เทศนาธรรมของ... สมเด็จพระพฒุ าจารย์ โต พรหมรังสี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏิบัตธิ รรม พรหมรงั สี . บา้ นโปรง่ วเิ ชยี ร ต.ยางนาํ้ กลดั ใต้ อ.หนองหญ้าปลอ้ ง จ.เพชรบรุ ี ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ ธรรมะมหัศจรรย์...ธรรมทาน -------------------------------------------------------- “...ธรรม เมือ่ กลา่ วไปแลว้ ยอ่ มไมม่ ใี ครเป็นเจ้าของ เพราะเรยี กวา่ เป็น ธรรมทาน... . ...คาํ วา่ “ธรรมทาน” จงึ ไม่มใี ครครอบครองได้ เมอ่ื มีเจตนาจติ ทเ่ี มตตา อยาก ให้มนษุ ย์และสัตว์ทั้งหลายเขาพน้ ทกุ ข์ หากเขาได้สดับแลว้ เปน็ ประโยชน์ก็ดี เขาเรยี กว่า เป็นบุญกศุ ล เปน็ วาสนาบารมตี อ่ กนั หากวา่ สงิ่ ไหนสดบั ไปแล้ว ไม่เข้าใจ ไมค่ วรยึด กข็ อใหว้ างไวเ้ สยี ... . ...แต่เม่อื เราเกดิ สติ เกดิ ตวั รู้ เกดิ ตวั ปัญญา ก็น้อมระลึกถึงเมอ่ื ใด หากวา่ คราว ใดมีสติ มปี ญั ญามากพอ ท่จี ะหยบิ ยกมาพิจารณา กข็ อใหโ้ ยมทัง้ หลายจงเลอื ก-
๕๓ เฟูน เข้าไปในธรรมท้ังหลายทโี่ ยมนัน้ ถกู จรติ ก็เอาจรติ วาสนานน้ั แล มา พจิ ารณา และให้ดับวาสนาในความอยากรู้อยากเห็นได้... . ...เมื่อนัน้ แล ความสงบในจติ ในใจก็จะบงั เกิดขึ้น ตวั รู้ ตัวสงสัย มนั ก็จะระงับ ดบั หายไป...” ธรรมะมหัศจรรย์...เพราะกรรมฉนั ยงั ไมห่ มด . \"...อยา่ งไรก็หนกี รรมไมพ่ ้น เพราะกรรมฉนั ยังไมห่ มด เพราะที่ไม่หมด จงึ ไปตดิ กรรมดว้ ยวาจา วา่ ครัน้ แลว้ สําเรจ็ โดยธรรมแลว้ เหน็ ประจักษแ์ ล้วในธรรมของ ตถาคตเจา้ แล้ว จะกลับมาแทนคุณแผน่ ดินสยามและผู้มคี ุณ ส่งิ เหล่านเ้ี องที่ เป็นแรงผลักแห่งกรรมท่ฉี ันนัน้ ไปยงั ไมไ่ ด้...\"
๕๔ ธรรมะมหศั จรรย์...มนุษยก์ ลัวการเกดิ ------------------------------------------- \"...มนุษย์ทง้ั หลายเขาบอกวา่ กลวั การตาย แต่จริง ๆ ไมใ่ ช่ แท้ทจี่ รงิ แลว้ มนุษย์ นนั้ หลอกตัวเอง มนุษยไ์ มไ่ ด้กลวั ความตาย แตม่ นษุ ย์นน้ั กลัวความเกิด ถ้า ความตายทีแ่ ท้จริง โยมกลัวจริง ๆ แล้ว โยมรู้อยแู่ ลว้ ว่าต้องตาย โยมจะไม่เรง่ ไมร่ ีรอช้าที่จะขวนขวายหาความดีบุญกุศลกัน แตโ่ ยมไม่รูต้ า่ งหากวา่ โยมจะเกดิ หลังการตายของโยมนนั้ เกดิ เป็นอะไร จะไดเ้ กดิ อีกหรอื ไม่... . ...น่คี อื ความกลวั ของมนุษย์ จงึ ตอ้ งรีบเรง่ สรา้ งบญุ ก็ดี สรา้ งกศุ ลกด็ ี เพอ่ื เตรียม ตวั ไว้ แต่ไม่ได้สรา้ งจากใจท่ีมคี วามเช่อื ศรัทธาโดยแท้ ตามหลกั แหง่ ศาสนา...\" ------------------------------------------- เทศนาธรรมของ... สมเด็จพระพฒุ าจารย์ โต พรหมรังสี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ตั ิธรรม พรหมรังสี จ.เพชรบุรี ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ ธรรมะมหัศจรรย์...พระคาถาสืบทางสวรรค์นพิ พาน ---------------------------------------------------------- “…เมื่อธาตขุ องโยมประกอบดว้ ย ดนิ นํา้ ไฟ ลม อฐั ใิ นกายกม็ แี ล้ว โยมภาวนา ทกุ ค่าํ เช้า... . พทุ ธะ พทุ ธา พทุ เธ พุทโธ พทุ ธงั อะระหังพทุ โธ อติ ิปโิ ส ภะคะวา นะโม พุทธายะ
๕๕ ...อฐั ิในตัวของโยมนน้ั จะเกดิ เป็นผลึกใหเ้ ขา้ ถึงสวรรคน์ ิพพานได้ พระคาถาน้ี แล จะนาํ พาไปสทู่ างแห่งมรรค ทางไหนกต็ าม ท่ีไหนกต็ าม ทเ่ี ป็นทเ่ี จรญิ ที่ เป็นทพ่ี ้นทุกข์ ที่เป็นทางทไ่ี มม่ ภี ยั โยมจะไดไ้ ปอย่ใู นที่แห่งน้ัน เข้าใจไหมจะ๊ ... ถา้ จะวา่ เป็นรหัสก็ว่าได้ เชน่ เดยี วกบั พระคาถาชินบญั ชร กเ็ ชน่ กนั ไม่ให้โยม สวดเพราะความงมงาย แต่การสวดน้นั มีวาระที่ซอ่ นเร้นแหง่ สัญญาไว้...” ---------------------------------------------------------- เทศนาธรรมของ... สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรงั สี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ตั ิธรรม พรหมรังสี . บ้านโปรง่ วเิ ชียร ต.ยางน้ํากลดั ใต้ อ.หนองหญ้าปลอ้ ง จ.เพชรบรุ ี ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ ธรรมะมหัศจรรย์...หทู พิ ย์-ตาทิพย์ ---------------------------------------- “...หากโยมอยากไดห้ ทู ิพย์ ตาทพิ ย์ โยมลองไมม่ ีหูมตี าสจิ ะ๊ ...แล้วโยมจักได้หไู ด้ ตา คอื ตามองเห็นสักก็แค่เหน็ หทู ไ่ี ดย้ ินกส็ ักแคไ่ ด้ยนิ แลว้ ก็วางเฉยให้ไดอ้ ยู่ บ่อย ๆ แล้วโยมจะไดเ้ ห็นตามความเปน็ จริง นนั่ แหละจ๊ะคือหูทพิ ย์ ตาทพิ ย์ แต่ ใครจะเจริญแบบน้ีได้ ตอ้ งมีสตภิ าวนาไม่ใหข้ าดสาย คอื ไมห่ ลงเพลินไปตาม อารมณ์ หรือสิง่ ท่ีได้ยิน หรอื ส่งิ ทีม่ ากระทบตา นนั้ คือสิ่งลอ่ หลอกให้โยมละเมิด ล่วงเกนิ ศลี พรหมจรรยข์ องตวั เอง นน่ั คือมนั ทาํ ให้อวชิ ชาครอบงํา ทําใหต้ า สกปรก ทาํ ให้หูมขี ี้หู เข้าใจไหมจะ๊ ... . ...อยากไดต้ าทิพยห์ ทู พิ ย์ ตอ้ งไปดบั หูดับตา คือทําตวั นโิ รธให้บังเกิดบอ่ ย ๆ กับ
๕๖ ตา ทาํ นิโรธให้บงั เกดิ กับหู เมอื่ ได้ยนิ ก็กาํ หนดรู้ ว่าสิ่งทไ่ี ด้ยนิ น้นั เกดิ อารมณ์ใด เราจะดบั มันไดห้ รือไม่ อภยั ไดห้ รอื ไม่ ตัดอารมณไ์ ดห้ รือไม่ ถา้ ตดั ได้นโิ รธก็ บงั เกดิ ตากเ็ ชน่ กัน เมอ่ื ภาพทเี่ ราเหน็ ว่าพอใจ แลว้ ละได้ ข่มได้ วางได้ ตัดได้ นน้ั เรียกวา่ ดับทางตา เมือ่ ตัดได้อย่บู อ่ ย ๆ นิโรธบงั เกิดทางแห่งมรรคเกดิ ขน้ึ เรียกวา่ ผนู้ นั้ มศี ลี สมาธิ ตัวปัญญา วมิ ุตตกิ จ็ ะบงั เกดิ น่คี อื ได้หไู ดต้ าอย่าง แท้จรงิ แตท่ ่โี ยมมีอย่นู ี้ คือ “ตาหมู-หูควาย” ท่เี รียกวา่ ตาหมู คือเห็นอะไรก็ อยากไปหมด เพราะหมูนัน้ มันกินไมเ่ ลือก สว่ นหทู ไ่ี ด้ยนิ เป็นควาย เขาเรียกหไู ม่ พิจารณาอะไรเลย ได้ยนิ กไ็ ดย้ ินเลย เชอื่ เลย หลงเลย อยา่ งนไี้ ม่มีทางหรอกจ๊ะ ท่จี ะได้หูทพิ ย์ตาทิพย์... . ...แต่อนั ดบั แรก เมอื่ โยมปรารถนาแล้ว กอ็ ยา่ ไปปรารถนามนั มากนกั จงทํา อยา่ งที่ฉันบอก ยิง่ โยมอยากไดม้ าก สมาธไิ ม่มที างจะบงั เกดิ แนน่ อน เพราะนี้ คือ “กิเลส” เมือ่ เรากาํ หนดปรารถนาส่ิงใด กใ็ หร้ อู้ ยใู่ นใจ เพราะมนั บนั ทึกอยู่ แล้วในสัญญา เมื่อโยมไดอ้ ยา่ งทโี่ ยมปรารถนาแลว้ สญั ญานน้ั จะถกู ตัดออกมา เพราะเราทําไดแ้ ลว้ เราก็จะละได้ รู้ได้ วางได้ ทงิ้ ได้ แตท่ ฉี่ ันบอกนี้ น่ีคอื วธิ ีท่ี จะเกิดหเู กิดตา เขา้ ใจไหมจ๊ะ... . ...เขาบอกวา่ “ทาํ ไม่ยากหรอกจะ๊ แต่ไม่ค่อยอยากทํา” มนั เหมอื นกนั ไหมจะ๊ ทําไม่ยากเลย แต่ไม่อยากทาํ ก็ไมอ่ ยากไดน้ จ่ี ๊ะ จงึ ไม่อยากทาํ เพราะคนที่มนั อยากทาํ เพราะมนั มคี ุณวเิ ศษอยู่ในตวั เขาวา่ ดีตอ่ ดมี นั จึงจะถงึ ดีได้ แตถ่ า้ ไมม่ ดี ี แล้วมาอวดดี จะหมดดีทนั ที เข้าใจไหมจะ๊ … . ...ดังนั้นผู้ทมี่ ขี องวิเศษ ตอ้ งมีคณุ วิเศษเสียกอ่ น คุณวเิ ศษท่วี ่านี้ คือต้องเปน็ ผ้มู ี
๕๗ ความอ่อนนอ้ มถอ่ มตน นคี่ อื คุณวเิ ศษแลว้ ไม่อย่างนั้นอาจารย์ท้งั หลายจะ ประสิทธ์ปิ ระสาทวิชาใหไ้ มไ่ ด้ มันไมเ่ ขา้ กะบาล เมอ่ื มันไม่เขา้ กะบาล มนั จะไป เชื่อไปทําตามได้อยา่ งไร มนั กไ็ ม่เกิดศรัทธา เขา้ ใจไหมจะ๊ ...เพราะมันเชอ่ื ตวั มนั มาก ถือม่ัน ถอื ตนมากอยา่ งนัน้ มนั กเ็ ปน็ อกี วชิ าหนง่ึ ขึ้นมา... ...อนั ท่ีจริง ไม่มอี ะไรจรงิ เลย แม้ฉันนัน้ กไ็ ม่จริง แต่สิ่งท่ีฉนั มาบอกโยม ถ้าโยม เอาไปทาํ ไดจ้ ริง โยมจะเหน็ จรงิ …ส่งิ ทีโ่ ยมอยากได้ยนิ ได้ฟงั นั้น กไ็ มม่ ีจรงิ เลย เพราะถ้าโยมไปยึดจริง โยมกจ็ ะทกุ ข์ “แม้ธรรมน้นั กไ็ ม่ควรยดึ มั่นถอื มัน่ ” แต่ ทฉี่ ันมาบอกทางน้ี เพอื่ ใหโ้ ยมน้นั เดนิ ไปสู่ทางท่โี ยมปรารถนา อธษิ ฐานมาแต่ใน อดีต...” ---------------------------------------- เทศนาธรรมของ... สมเด็จพระพฒุ าจารย์ โต พรหมรังสี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏบิ ัติธรรม พรหมรงั สี บา้ นโปร่งวิเชยี ร ต.ยางนํ้ากลดั ใต้ อ.หนองหญา้ ปล้อง จ.เพชรบุรี ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ ธรรมะมหัศจรรย์ \" เปลี่ยนดวง...ใหเ้ ปล่ียนความคิด \" ------------------------------------------------------------ “...ถ้าโยมอยากเปล่ียนดวง เปลี่ยนวาสนา ใหเ้ ปล่ยี นความคิดเสียกอ่ น... ความคิดน้ีแลทที่ ําใหม้ นุษย์น้ี ดําริชอบ ดํารชิ ว่ั นนั้ คือ การสรา้ งกรรมชัว่ และ กรรมดี เกดิ จากใจทไ่ี ปดาํ ริ กิเลสน้ันแลกเ็ กิดจากใจ...เม่ือความคิดมันเปลย่ี นได้ การกระทาํ มนั ก็จะเปล่ยี น ราศโี ยมก็เปล่ยี น ดวงโยมกเ็ ปลีย่ น สิ่งเหลา่ นี้ไมว่ ่า จะเปน็ ราศี เปน็ บารมี เปน็ วาสนา ลว้ นเดินตามหลังโยมทงั้ น้นั ... .
๕๘ ...ทําไมถึงบอกวา่ มนั เดนิ ตามหลงั โยม... กใ็ จเป็นประธานไม่ใช่เหรอจะ้ ที่เหลอื มันตอ้ งเป็นบรวิ าร... แต่เม่อื ใดโยมใหบ้ รวิ ารนาํ หนา้ เมอื่ ไหร่ ทไี่ หนก็เจง๊ จะ้ ... โยมว่าจรงิ ไหมจ๊ะ...โยมไปทําประธานใหม้ นั ดี ไปแกไ้ ข อยา่ มักงา่ ย อยา่ เอาแต่ กนิ อยา่ เอาแตน่ อน นีแ่ หละจ้ะ เม่ือโยมทําให้เปน็ อย่างน้ัน โยมไมส่ ามารถ กําหนดกรรมได้ ไมส่ ามารถคุมบริวารไดแ้ นน่ อน และโยมไมส่ ามารถจะแก้ไข กรรมได้ เพราะควบคุมกรรมไม่ได้... . ...ใจอยา่ ได้ใหห้ ลง ใจอย่าใหน้ ้อย ใจอย่าให้หดหู่ อยา่ ทําใจใหเ้ ศรา้ หมอง เม่ือ โยมรกั ษาของดีไว้ไดแ้ ลว้ ใจน้แี ล จะสาํ เรจ็ ทุกอยา่ งก็ดว้ ยใจดวงนี้ นิพพาน มรรคผล โสดาบนั ก็ดี ก็สําเร็จด้วยใจดวงน้ที ั้งนัน้ สําเร็จดว้ ยใจที่มันขึ้นจาก โคลนตมทัง้ น้ัน ไมใ่ ช่จากใจที่ไหน จากใจปถุ ชุ นธรรมดาทงั้ นัน้ ... . ...โยมเรยี นรจู้ ากสง่ิ ธรรมดา เหน็ สิง่ นัน้ ธรรมดา ไม่ยึดไมต่ ิดแลว้ ไซร้ โยมจะ เหนอื ธรรมดา แตเ่ มอ่ื โยมเห็นว่าเปน็ ธรรมดาแลว้ โยมยังไปพอใจ ไปตดิ โยมไม่ ถึงแน่ในธรรมชาติของมันที่มนั เกดิ ขึ้น... กโ็ ยมรแู้ ล้วโยมยังไปตดิ กแ็ สดงว่าโยมรู้ ไมจ่ ริง...” ------------------------------------------------------------ ธรรมเทศนาของ... สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏิบัตธิ รรม พรหมรงั สี . บา้ นโปร่งวเิ ชียร ต.ยางนํ้ากลัดใต้ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี โทร.๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔
๕๙ ธรรมะมหัศจรรย์...การเล่อื นข้นั ของการปฏบิ ัติธรรม ------------------------------------------------------------ ถามหลวงปูุ : “...จะรไู้ ดอ้ ยา่ งไรว่าทางธรรมเรานั้น ไดเ้ ลอื่ นขัน้ ไปถงึ ขั้นไหน...” . หลวงปตูุ อบ : “...ถ้าโยมเท่าทันความคดิ น่นั แหละจ้ะ กเ็ ลอื่ นขนั้ จะ้ ถ้าโยมไม่
๖๐ เท่าทันความคิดของตัวเอง โยมก็ยงั ไม่เท่าทนั โยมก็ยงั ไมถ่ งึ ข้นั นั้น ไมเ่ ล่ือนข้นั เพราะจติ โยมกย็ งั เหมือนเดมิ แต่เมอื่ ใดท่โี ยมเท่าทันในความคิด เทา่ ทันใน อารมณ์ได้ ควบคมุ ในอารมณ์ได้ กเ็ รียกว่าโยมนนั้ สอนตวั เองได้ เม่ือสอนตัวเอง ได้ โยมก็บรรจเุ ป็นอาจารย์ได้ นี่แหละจะ้ เขาเรียกวา่ เลือ่ นข้ัน... . ...เมอ่ื กอ่ นเป็นลูกศษิ ย์ ต่อไปโยมก็เป็นอาจารย์เพ่ือสอนตวั เองได้ เมือ่ สอน ตวั เองไดแ้ ลว้ กย็ อ่ มเรยี กว่า มกี ารอบรมบ่มจิตอยู่ตลอดเวลา จติ มันก็จะเติบโต ตลอดเวลา โยมก็จะเหน็ ทางโลกนนั้ ตามความเป็นจริง การทีโ่ ยมจะหลงก็เหลอื น้อยลง จะตดิ ก็ตดิ นอ้ ยลง นนั่ แหละจะ้ คือเรยี กว่าเลอ่ื นขัน้ ทง้ั ทางโลกและทาง ธรรม... . ...ทางโลกนนั้ ก็อาศัยให้โยมนัน้ มาเขา้ หาทางธรรมอยู่ดี เพราะทางโลกน้ันโยม หาเพอ่ื เล้ยี งปากเล้ยี งท้อง กเ็ พ่อื ให้กายสงั ขารไม่ใชเ่ หรอจะ๊ แลว้ กายสังขารใช่ กายธรรมไหมจ้ะ เพราะดวงจติ และดวงใจ ท้งั บญุ และบาปอาศยั อยู่ท้งั น้ัน เรยี กว่าโยมนั้นทีไ่ ปหาเลยี้ งอย่นู ัน้ ไปเลย้ี งกเิ ลสอยู่ ไปเลยี้ งบญุ อยู่ ไปเลย้ี งตวั ช่ัวตวั ดีอยนู่ ั้นแล ส่งิ ทั้งหลายทัง้ ปวงเรียกว่าโยมน้ันตกเป็นทาสโดยแท้ เขา้ ใจม๊ยั จ๊ะ...” โยมอยูเ่ ป็นฆราวาสกส็ ามารถบรรลธุ รรมได้ ----------------------------------------------------------- ถามหลวงปูุ :
๖๑ “...ลกู ใชช้ ีวติ ครอบครัว แตล่ ูกกม็ งุ่ ปฏบิ ัติธรรม ถ้ายงั ใช้ชีวติ ครอบครวั แลว้ จะ บรรลธุ รรมได้อยา่ งไรเจา้ ค่ะ...” หลวงปุูตอบ : “...ฉนั จะบอกให้วา่ ... โยมอยู่เป็นฆราวาสมีสามีภรรยาก็สามารถบรรลุธรรมได้ การบรรลุธรรม บรรลุได้ตอนไหน... หนึ่ง การสาธยายมนต์... สอง การสดับฟัง ธรรม... สาม การให้ธรรม... ลําดบั ตอ่ ไปคือการเพง่ อยู่ในธรรม... ลาํ ดับต่อไป คือ การเจริญวปิ ัสสนาญาณ คือ พจิ ารณาธรรม แม้ในขณะนน้ั จติ ของโยมน้ัน ข้องเกย่ี วกับส่งิ ทฉ่ี นั กลา่ วมานี้ เพง่ ดเู ปน็ นจิ แล้วไซร้ น่นั แหละจะ้ บุคคลจําพวก นั้นแหละจ้ะ เรียกวา่ ในขณะจติ นนั้ กําลังเจรญิ พรหมจรรยอ์ ยู่ หาใช่ว่าโยมนน้ั จะมกี ารครองเรอื นนน้ั เรียกวา่ สมมุติบญั ญัตขิ น้ึ มาท้งั นนั้ เข้าใจไหมจะ๊ ... . ...โยมจะอยู่เคหะสถาน อยบู่ า้ นเรอื น อยู่ปุาเขาลําเนาไพร แตถ่ า้ โยมมีจติ ที่ ปรารถนาทางเดินแหง่ มรรค กาํ หนดรู้ดว้ ยสติ เข้าถึงมรรค เข้าถงึ ธรรม เข้าถึง ศีล เข้าถงึ ปัญญาแลว้ ไซร้ นัน่ แหละจะ๊ ... เรยี กวา่ ผูห้ ลกี เว้นจากโรคภยั ได้ มี เสน้ ทาง มีหลัก มีแนวทางท่จี ะไป... ดงั น้ัน สงิ่ ทโ่ี ยมกระทําในการครองเรือนก็ดี สงิ่ เหลา่ นี้เรียกวา่ เป็นการชดใช้ เป็นการอาศยั ... . ...ดังน้นั สิง่ ทโี่ ยมถาม ไมว่ ่าการรักษาพรหมจรรย์ ไมใ่ ชน่ ้ันบอกใหโ้ ยมนั้นออก จากบา้ น จากเรือน เขา้ ปาุ เข้าเขา แตเ่ มือ่ ใดโยมยงั ไมพ่ รอ้ ม ปาุ เขาลาํ เนาไพร คอื ความสนั โดษ ความสงบ ในขณะจิตที่โยมสงบน่ันแล ตดั ความวนุ่ วายจาก ภายนอก นัน่ แหละจ้ะ โยมเรยี กวา่ อย่สู ันโดษแล้ว มกั นอ้ ยแล้ว พอใจแล้ว เมื่อ
๖๒ โยมมีความพอใจในส่ิงน้นั ในอารมณ์น้นั โยมเอาไปทําอะไรละจ๊ะ สงิ่ นต้ี า่ งหาก ท่สี าํ คญั นน่ั เรียกว่า...พรหมจรรยไ์ ด้หยุดแล้ว สงิ่ ไหนเปน็ ฆ่าศึกต่อพรหมจรรย์ รปู รส สัมผสั ธรรมารมณ์ ท่ีมากระทบ ตา หู ล้ิน กาย ใจ สิ่งน้ีต่างหากท่ีโยม ควรกําหนดรู้ ใหเ้ ทา่ ทัน แต่ไม่ไดไ้ ปห้ามวา่ ไม่ใหม้ นั เกิด เพราะทุกข์เมื่อโยมเกดิ แล้ว โยมต้องรบั มัน กเ็ อาทกุ ข์นน้ั แลมาเรยี นรู้ มาพจิ ารณา มาเป็นครู มาเป็น อาจารย์ มาเปน็ มติ ร มาเปน็ ญาติ มาเป็นสหาย... . ...แตข่ อไว้หน่งึ อย่าง อยา่ ไดเ้ ป็นศัตรู เมื่อปวดโยมไปเกลยี ดมันไมไ่ ด้ เกลยี ด เท่าไหรโ่ ยมกต็ อ้ งเจอมนั ทุกชาติ ๆ โยมต้องยนิ ดกี ับมนั ...โอ้ มติ รเรามาแล้ว มา ใหเ้ ราทําความเพยี รแลว้ เขา้ ใจไหมจะ๊ ... ชนแก้วกับมันไป เมือ่ โยมมสี ติฝกึ อยู่ บอ่ ย ๆ สติโยมน้ันจะไมไ่ ปไหน จิตโยมจะเก่งกล้า เหมอื นเหล็กท่หี ลอมมาด้วย ไฟ แตโ่ ยมต้องทนมนั บอ่ ย ๆ การทนนแ่ี ลคือบารมี คือขนั ตธิ รรม เขา้ ใจไหมจะ๊ ...อยา่ ไดไ้ ปรังเกยี จ อยา่ เห็นวา่ เปน็ ศัตรู นน้ั คือมติ รทีแ่ ท้จรงิ เข้าใจไหมจ๊ะ... . ...สงิ่ นีต้ ่างหากทท่ี ําใหโ้ ยมน้นั บรรลุในธรรมและมรรคผลได้ นเ่ี รยี กวา่ การถอื เพศพรหมจรรย์ การที่โยมครองเรอื น โยมเสยี พรหมจรรย์ตลอดหรอื อยา่ งไร...ก็ ในขณะใดทีโ่ ยมนนั้ เจริญเมตตาธรรม อทิ ธิบาท ๔ ในขณะนั้นศลี โยม ระลกึ ถงึ ศีลอะไร ศลี น้ันก็บังเกิดขน้ึ มา แม้โยมรกั ษาไมถ่ ึง ๑ ช่ัวยาม เพยี งอาราธนาศลี นั้นกไ็ ด้เข้ามาแล้ว คลุมจิตคลมุ ใจโยม เมอื่ โยมอาราธนารักษาอย่บู อ่ ย ๆ ศลี นัน้ จะตามติด ใหเ้ ป็นนสิ ัยเป็นสันดาน เป็นวาสนา เปน็ บารมี แล้วโยมก็จะออกทาง นน้ั ได้ น้ันเรียกว่าโยมตอ้ งมีสัจจะ เพราะวา่ การบรโิ ภคเกนิ ไป มากเกินไปแล้ว มันเรยี กวา่ ไปให้ทา้ ยกิเลส ตณั หา ใหม้ ันเพ่ิมพนู ใหม้ ันเกิดกําลังวังชา... .
๖๓ ...ฉนั จึงบอกว่า เมื่อใดรา่ งกายสงั ขารมนั อ่อนลา้ นน่ั แหละจะ้ เป็นโอกาสทอง ของเราแล้ว เมื่อมนั หลบั นน่ั แหละจ้ะ เม่ือมนั มีบารมมี ากกว่าเราก็ใหม้ นั เสวยไป แต่เมื่อมันเปน็ เวลาของเรา ที่เราต้องทํามาหากนิ แลว้ เราต้องรบี เอาตอนนั้น เขาเรยี กวา่ ...น้าํ ขน้ึ ใหร้ ีบตกั ไม่ใช่ว่ากเิ ลสมนั ไมไ่ หว รา่ งกายมนั ไมไ่ หวกไ็ ปกับ มัน นี่แลเรียกวา่ จมปลักกับกองทุกข์ นแ่ี ล เรยี กวา่ จมปลักกบั ข้ีควาย หายใจ ไมไ่ ดห้ รอกจะ้ แบบน้ี มีแตว่ ันตายลงไป ๆ... . ...เมือ่ ใดสงั ขารเราอ่อนล้าขอให้กาํ หนด เรียกว่า ทรงสตไิ วอ้ ยา่ งน้ัน เด๋ียวมนั ฟื้นฟูขนึ้ มาเอง เพียงใหเ้ รารักษา กาย วาจา ใจ ใหเ้ ป็นปกติ เมอ่ื ศลี เราสงบ ศีล ตัวนี้แล มนั จะไปหลอ่ หลอมกายสงั ขาร ท่มี นั สกึ หรอ ให้กระชุ่มกระชว่ ยข้ึนมา ใหม่ เรียกวา่ ...จติ ตนื่ รู้ เรียกว่าถูกนํ้าค้างนัน้ เอง นาํ้ คลํากจ็ ะขึน้ มา เปลย่ี นจาก น้ําคลาํ เป็นน้ําธรรม เข้าใจไหมจ๊ะ...”
๖๔ คาถาชนิ บญั ชร โดยสมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (โต พรหมรังสี) นะโมตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธสั สะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พุทธสั สะ ปตุ ตะกาโมละเภปตุ ตงั ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานงั ปยิ ะตังสุตตะวา อิติปโิ สภะคะวา ยะมะราชาโน ทา้ วเวสสุวัณโณ มรณงั สขุ งั อะระหังสคุ ะโต นะโมพุทธายะ ๑. ชะยาสะนากะตา พทุ ธา เชตวา มารัง สะวาหะนงั จะตุสัจจาสะภงั ระสัง เย ปิวงิ สุ นะราสะภา. อฏั ฐะวสี ะติ นายะกา ๒. ตัณหงั กะราทะโย พุทธา มัตถะเกเต มุนิสสะรา. สัพเพ ปะตฏิ ฐิตา มยั หงั พทุ โธ ธมั โม ทะวิโลจะเน อุเร สัพพะคุณากะโร. ๓. สีเส ปะติฏฐิโต มยั หัง สารีปตุ โต จะทกั ขิเณ สังโฆ ปะติฏฐโิ ต มยั หงั โมคคัลลาโน จะ วามะเก. อาสุง อานนั ทะ ราหโุ ล ๔. หะทะเย เม อะนุรทุ โธ อุภาสงุ วามะโสตะเก. โกณฑญั โญ ปิฏฐิภาคสั มงิ สุรโิ ย วะ ปะภงั กะโร โสภโิ ต มนุ ปิ งุ คะโว ๕. ทักขเิ ณ สะวะเน มัยหงั กัสสะโป จะ มะหานาโม ๖. เกสันเต ปฏิ ฐิภาคสั มิง นสิ นิ โน สิรสิ มั ปันโน
๖๕ ๗. กุมาระกสั สโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก โส มยั หัง วะทะเน นิจจงั ปะตฏิ ฐาสิคณุ ากะโร. ๘. ปณุ โณ องั คุลมิ าโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี เถรา ปญั จะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ. ๙. เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชนิ ะสาวะกา เอเตสตี ิ มะหาเถรา ชิตะวนั โต ชิโนระสา ชะลันตา สลี ะเตเชนะ องั คะมังเคสุ สัณฐิตา. ๑๐. ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทกั ขเิ ณ เมตตะ สุตตะกัง ธะชคั คัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลมิ าละกงั ๑๑. ขันธะโมระปะริตตญั จะ อาฏานาฏยิ ะ สุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสณั ฐิตา ๑๒. ชนิ า นานาวะระสงั ยตุ ตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา วาตะปิตตาทสิ ญั ชาตา พาหริ ัช ฌัตตปุ ัททะวา. ๑๓. อะเสสา วนิ ะยงั ยันตุ อะนนั ตะชินะ เตชะสา วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สมั พทุ ธะปญั ชะเร. ๑๔. ชินะปัญชะระมชั ฌัมหิ วิหะรันตงั มะฮี ตะเล สะทา ปาเลนตุ มงั สพั เพ เต มะหาปุรสิ าสะภา. ๑๕. อิจเจวะมันโต สคุ ตุ โต สุรักโข ชนิ านภุ าเวนะ ชิตปุ ทั ทะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สงั ฆานภุ าเวนะ ชติ ันตะราโย สัทธมั มานภุ าวะปาลิโต จะรามิ ชนิ ะ ปัญชะเรติ. ที่มา: ธรรมะมหัศจรรย์ โทร. ๐๖๑-๔๒๔ ๑๙๒๔ https://www.facebook.com/ธรรมะมหศั จรรย์-906597052743637/?fref=ts รวบรวมและจดั ทาโดย พงศกั ดิ์ จรัสวราวฒั น์ โทร. ๐๘๒ ๓๖๒๔๔๙๕
Search