คำนำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. โครงงานน้ีสาเรจ็ ลลุ ่วงสาเรจ็ ไดด้ ้วยความกรุณาจากอาจารย์ พรเทพ ทองหนิ้ว ผใู้ หค้ าปรึกษาในการจดั ทาโครงงานเลม่ น้ี ใหค้ าเสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนการแกไ้ ขข้อบกพร่อง ตา่ งๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเล่มนเ้ี สร็จสมบูรณ์ ผู้ศึกษา จึงขอขอบพระคุณอาจารยพ์ รเทพ ทองหนิ้ว เป็นอย่างสงู ขอขอบคุณผปู้ กครองท่ีให้การสนับสนุนต่างๆ ทง้ั ในเร่ือง ของค่าใชจ้ า่ ยในการจบั ทาโครงงานน้ี รวมทงั้ เป็นกาลงั ใจทด่ี ี ในเรียนรแู้ ละการศึกษาเสมอมา ขอขอบคุณเพอ่ื นร่วมชั้นเรียนทใี่ ห้คาแนะนาเกย่ี วกับการทา โครงงานเล่มนแ้ี ละชว่ ยเหลอื ในเรอ่ื งต่างๆ รวมท้ังเปน็ ขวัญ กาลังใจในการทางานเสมอ
สำรบญั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. บทท่ี 1 อินเทอร์เนต็ และระบบเครือขำ่ ยคอมพวิ เตอร์ 01 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. บทที่ 2 ประเภทของอินเทอรเ์ นต็ และระบบเครือขำ่ ย 05 คอมพิวเตอร์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. บทท่ี 3 ภยั คุกคำมจำกอนิ เทอร์เน็ต 13 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. บทที่ 4 ประโยชนข์ องอินเทอรเ์ นต็ 14 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
บทที่ 1 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. อนิ เทอรเ์ น็ตและระบบเครอื ขำ่ ย คอมพวิ เตอร์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ควำมสำคญั ของเทคโนโลยีสำรสนเทศและอนิ เทอร์เนต็ เทคโนโลยสี ารสนเทศ' หรือ ไอที (องั กฤษ: Information technology หรือ IT) หมายถึงเทคโนโลยีสาหรบั การ ประมวลผลสารสนเทศ ซงึ่ ครอบคลมุ ถงึ การรบั -ส่ง การ แปลง การจัดเกบ็ การประมวลผล และการค้นคืน สารสนเทศ ในการประยุกต์ การบรกิ าร และพน้ื ฐานทาง เทคโนโลยี สามารถแบง่ กล่มุ ยอ่ ยเปน็ 3 กลุ่ม ไดแ้ ก่ คอมพวิ เตอร,์ การสื่อสาร และข้อมลู แบบมัลติมีเดีย ซ่ึงใน แต่ละกล่มุ นี้ยังแบ่งเป็นกลมุ่ ย่อยๆ
บทท่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ประเภทของอินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. องค์ประกอบทง้ั 3 สว่ นนี้ ยงั ต้องอาศัยการทางานร่วมกนั ยกตวั อยา่ งเช่น เครื่องเซริ ์ฟเวอรค์ อมพวิ เตอร์ (คอมพิวเตอร)์ เปน็ องคป์ ระกอบสาคัญของระบบเครือข่าย (การส่ือสาร) โดยมีการส่งข้อมลู ตา่ งๆ ไปยังเครื่องลูก (ข้อมลู แบบมลั ติมีเดีย)ในบางครัง้ จะมีการใชช้ ื่อว่า เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร อินเทอรเ์ น็ต (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครอื ข่าย คอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ ท่ีมีการเชือ่ มตอ่ ระหวา่ งเครอื ขา่ ย หลายๆ เครือขา่ ยท่ัวโลก โดยใชภ้ าษาทใ่ี ชส้ ่อื สารกนั ระหว่าง คอมพิวเตอรท์ ี่เรียกว่า โพรโทคอล (Protocol) ผ้ใู ช้
เครือข่ายนส้ี ามารถส่ือสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเชน่ อเี มล์ เวบ็ บอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆ รวมท้ังคัดลอกแฟม้ ขอ้ มูลและโปรแกรมมาใช้ 2.2 ขอ้ มลู เก่ยี วกับสือ่ สังคม Social Media 2.2.1 ควำมหมำยของ Social Media ทกุ วนั น้ี พวกเราหลายคนใช้ชีวิตอย่กู ับ Social Network และ Social Media มากขึน้ ทกุ วนั แตพ่ อพูดถงึ ‘Social Media’ ว่าคอื อะไร หลายคนท่ใี ช้อยู่ ก็ยงั ถึงกบั อ้ึง และ ตอบไมไ่ ดว้ ่ามันคืออะไร และไม่รู้ จะอธบิ ายอยา่ งไร วันนี้ Marketing Oops! เลยขอทาหนา้ ที่อธิบายคาๆ นแี้ ทน เพือ่ ให้คนที่ใชเ้ ป็นประจาอยู่แล้วสามารถอธบิ ายตอ่ ใหค้ นอื่น ทราบได้ และสาหรบั คนที่ยงั ไมเ่ คยรู้ ก็สามารถทาความรูจ้ กั ได้เชน่ กัน Social ในทีน่ ้หี มายถึง สงั คมออนไลน์ Media ใน ที่นี้หมายถึง เนื้อหา เรื่องราว และบทความ Social Media จงึ หมายถงึ สังคมออนไลนท์ ี่มผี ้ใู ช้เป็นผ้สู อ่ื สาร หรือเขียนเลา่ เนือ้ หา เรอื่ งราว ประสบการณ์ บทความ รปู ภาพ และวดิ ีโอ ทีผ่ ใู้ ชเ้ ขยี นขน้ึ เอง ทาขึ้นเอง
2.2.2 ประวตั ิควำมเป็นมำและพัฒนำกำรของ Social Media 1. วกิ พิ ีเดยี , เว็บรวมทใี่ หท้ กุ คนโพสตข์ า่ ว บง่ ปัน: วดิ ีโอ, รูปภาพ การอภปิ ราย: การเสวนา, โปรแกรมสนทนา ออนไลน์ เครอื ข่ายสงั คม: เครือข่ายสงั คมโดยทว่ั ไปและ เครอื ข่าย 2.2.3ประเภทเว็บไซต์ทใี่ หบ้ ริกำร Social Media - http://www.blogger.com/ เป็นท่นี ิยมมากทส่ี ดุ ในโลก - http://www.wordpress.com/ อเพนซอรส์ ซอฟตแ์ วร์ ทเ่ี ปน็ ที่นยิ ม - http://www.exteen.com/ เป็นทน่ี ยิ มมากท่ีสุดใน เมืองไทย - http://www.bloggang.com/ เปน็ ส่วนหน่งึ ของเวบ็ พัน ทิพ
- http://gotoknow.org เป็นที่นยิ มในการแลกเปล่ยี น ความรใู้ นหมู่คนทางาน - http://blognone.com เป็นแหลง่ ขา่ วไอทีของคนไทย 2.4 ระบบเครอื ข่ำยเบ้ืองตน้ พ้นื ฐานเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ จดุ ประสงค์ของการประดิษฐค์ อมพวิ เตอร์ใชใ้ นสมัยแรก ๆ นั้น เพ่อื ให้คอมพิวเตอร์ได้ทางานบางอย่างแทนมนุษย์ได้ เช่น การคานวณเลข ซึ่งถ้าเป็นตัวเลขจานวนมาก ๆ มนุษยจ์ ะใชเ้ วลาในการคานวณมากและมีโอกาสเกิด ขอ้ ผดิ พลาดได้มาก ในขณะทค่ี อมพวิ เตอร์สามารถคานวณ ไดเ้ รว็ กว่ามาก อีกท้งั ยังมคี วามแม่นยาและมีความผดิ พลาด น้อยกวา่ มนุษย์มาก การทางานจะให้มีประสทิ ธภิ าพสูง
บทที่ 3 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ภัยคุกคำมจำกอนิ เทอร์เน็ต ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ภัยคุกคามทางอินเทอรเ์ น็ตถือได้ว่าเปน็ ภัยอันตรายต่อ สงั คมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากภัยนีจ้ ะเปน็ การรบกวนการทางานของผ้ทู ี่ใชง้ านคอมพวิ เตอร์และ อนิ เทอรเ์ นต็ แลว้ ยงั ส่งผลเสียตอ่ ข้อมลู สาคัญๆ ทม่ี ีอยู่อีก ด้วย
ชนดิ ของภัยคุกคำมที่เกดิ ขน้ึ บนอนิ เทอร์เน็ต จำแนกได้ ดังนี้ 1.มัลแวร์ (Malware) คอื ความไม่ปกติทางโปรแกรมท่ี สญู เสียความลบั ทางข้อมลู (Confidentiality) ข้อมูลถกู เปลีย่ นแปลง (Integrity) สญู เสยี เสถียรภาพของระ ซง่ึ มลั แวรแ์ บ่งออกไดเ้ ป็นหลายประเภท จึงขออธบิ ายแตล่ ะ ประเภทดงั นี้ 1.1 ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) คอื รหสั หรือ โปรแกรมท่สี ามารถทาสาเนาตวั เองและแพรก่ ระจายสู่ เครื่องอนื่ ได้ โดยเจา้ ของเครอื่ งนั้นๆ ไม่รตู้ ัว ถือวา่ เป็นสิง่ ไม่ พงึ ประสงค์ซึง่ ฝังตัวเองในโปรแกรมหรือไฟล์ แลว้ แพร่กระจายจากคอมพวิ เตอร์เครอื่ งหนงึ่ ไปยงั เครอ่ื งอ่นื ๆ ผ่านทางส่ือตา่ งๆ สง่ิ สาคญั คอื ไวรัสไมส่ ามารถแพรก่ ระจาย ไดห้ ากขาดคนกระทาระบบปฏิบตั ิการ (Availability)
1.2 หนอนคอมพิวเตอร์ (Computer Worm) เรยี กสน้ั ๆ ว่า เวิร์ม เปน็ หนว่ ยย่อยลงมาจากไวรัส มีคณุ สมบัตติ า่ งๆ เหมือนไวรัสแตต่ า่ งกนั ทเ่ี วิร์มไม่ตอ้ งอาศัยผใู้ ช้งาน แต่จะ อาศยั ไฟลห์ รือคณุ สมบตั ิในการสง่ ตอ่ ขอ้ มลู ในคอมพวิ เตอร์ เพือ่ กระจายตวั เอง บางทีเวริ ม์ สามารถติดต้ัง Backdoor ที่ เรมิ่ ตดิ เวิรม์ และสร้างสาเนาตวั เองได้ ซงึ่ ผู้สร้างเวริ ม์ นัน้ สามารถส่ังการไดจ้ ากระยะไกล ท่เี รยี กวา่ Botnet โดยมี เป้าหมายเพื่อโจมตคี อมพวิ เตอร์และเครอื ข่าย สง่ ทอี่ นั ตราย อย่างย่ิงของเวิร์มคอื สามารถจาลองตวั เองในคอมพิวเตอร์ เคร่ืองหน่ึงแล้วแพรก่ ระจายตวั เองออกไปได้จานวนมาก
1.3 ม้าโทรจนั (Trojan Horse) คือโปรแกรมชนิดหนง่ึ ทดี่ ู เหมอื นมปี ระโยชน์ แต่แท้ทีจ่ รงิ กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายเมือ่ รนั โปรแกรม หรือติดตง้ั บนคอมพวิ เตอร์ ผู้ทไ่ี ดร้ บั ไฟลโ์ ทร จันมกั ถกู หลอกลวงให้เปิดไฟลด์ ังกล่าว โดยหลงคดิ วา่ เป็น ซอฟต์แวรถ์ ูกกฎหมาย หรือไฟลจ์ ากแหลง่ ทถี่ กู ตอ้ งตาม กฎหมาย เมอ่ื ไฟลถ์ ูกเปิดอาจสง่ ผลลัพธห์ ลายรูปแบบ เช่น สรา้ งความราคาญดว้ ยการเปล่ยี นหนา้ จอ สรา้ งไอคอนท่ไี ม่ จาเปน็ จนถึงขั้นลบไฟล์และทาลายข้อมูล โทรจนั ต่างจาก ไวรัสและเวริ ม์ คอื โทรจนั ไมส่ ามารถสรา้ งสาเนาโดย แพร่กระจายส่ไู ฟล์อน่ื และไม่สามารถจาลองตวั เองได้ 1.4 Backdoor แปลเป็นไทยกค็ อื ประตูหลงั ทเ่ี ปิดท้ิงไวใ้ ห้ บุคคลอนื่ เดนิ เขา้ นอกออกในบา้ นได้โดยง่าย ซ่งึ เป็นช่องทาง ลดั ทเี่ กิดจากชอ่ งโหว่ของระบบ ทาให้ผไู้ มม่ ีสทิ ธิเขา้ ถงึ ระบบ หรือเครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ พอ่ื ทาการใดๆ
1.5 สปายแวร์ (Spyware) คอื มัลแวร์ชนิดหน่งึ ที่ติดตั้งบน เคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ล้วทาให้ลว่ งรู้ขอ้ มลู ของผใู้ ช้งานไดโ้ ดย เจ้าของเคร่ืองไมร่ ูต้ วั สามารถเฝา้ ดกู ารใช้งานและรวบรวม ข้อมูลสว่ นตวั ของผ้ใู ชไ้ ด้ เช่น นสิ ยั การทอ่ งเน็ต และเวบ็ ไซต์ ที่เขา้ ชม ท้ังยังสามารถเปล่ยี นคา่ ท่ตี งั้ ไว้ของคอมพวิ เตอร์ ส่งผลให้ความเร็วในการเชื่อมตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ตชา้ ลง เป็นต้น
2. การโจมตีแบบ DoS/DDos คอื การพยายามโจมตีเพอื่ ทา ให้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ปลายทางหยดุ ทางาน หรอื สญู เสยี เสถียรภาพ หากเครือ่ งต้นทาง(ผโู้ จมตี) มเี ครือ่ งเดียว เรียกว่าการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) แตห่ ากผู้ โจมตมี ีมากและกระทาพร้อมๆ กนั จะเรยี กกว่าการโจมตี แบบ Distributed Denial of Service (DDoS) ซงึ่ ใน ปัจจบุ ันการโจมตสี ว่ นใหญ่มกั เปน็ การโจมตแี บบ DDoS 3.BOTNET หรอื “Robot network” คือเครอื ข่ายห่นุ รบที่ ถือเปน็ สะพานเชือ่ มภัยคกุ คามทางเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ด้วยมลั แวรท์ ั้งหลายทก่ี ลา่ วในตอนตน้ ตอ้ งการนาทางเพ่ือ ต่อยอดความเสยี หาย และทาให้ยากแตก่ ารควบคุมมากข้ึน
4. ขอ้ มูลขยะ (Spam) คือภยั คกุ คามส่วนใหญ่ท่เี กดิ จาก อีเมลห์ รอื เรียกว่า อีเมลข์ ยะ เป็นขยะออนไลนท์ ีส่ ง่ ตรงถงึ ผรู้ ับ โดยทผี่ ู้รับสารนน้ั ไมต่ ้องการ และสรา้ งความเดอื ดร้อน ราคาญให้กับผู้รับได้
บทท่ี 4 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ประโยชนจ์ ำกอินเทอร์เนต็ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ประโยชน์จำกกำรใช้เครอื ข่ำยอนิ เทอรเ์ นต็ ในการใช้อินเทอรเ์ น็ตก่อใหเ้ กิดประโยชน์หลายด้านด้วยกนั สามารถสรุปท่สี าคัญได้ดงั นี้ 1. สามารถแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ข่าวสารไดส้ ะดวกและรวดเรว็ 2. สามารถสืบค้นขอ้ มลู จากแหล่งขอ้ มลู ต่างๆ ทว่ั โลกได้ 3. สามารถแลกเปลยี่ นข้อมูลกับเคร่ืองคอมพิวเตอรต์ ่าง ระบบได้ 4. สามารถสง่ ข้อมลู ได้หลายรปู แบบ 5. สามารถใหค้ วามบนั เทงิ ในรปู แบบต่างๆ เช่น การฟงั เพลง เลน่ เกม
6. สามารถสอ่ื สารด้วยเสยี งและดว้ ยขอ้ ความและ ภาพเคลื่อนไหว เป็นการพูดคยุ กันระหวา่ งผใู้ ชอ้ ินเตอรเ์ นต็ โดยการพมิ พข์ ้อความโตต้ อบหรือพูดผ่านไมโครโฟน และเห้นภาพอีกฝ่ายผา่ นกลอ้ ง 7. สามารถใชส้ ่งจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-mail) 8. สามารถซอื้ ขายสินคา้ และบรกิ าร
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: