แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุง้ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ชื่อหนว่ ย งานเตรียมช้นิ งานเชือ่ มทกิ สอนครั้งที่ 14 ชัว่ โมงรวม 7 ชว่ั โมง จำนวน 7 ชวั่ โมง 1. สาระสำคญั งานเช่อื มทต่ี ้องมีการเตรยี มช้ินงานและการบากหน้างานท่ีถูกต้อง การเตรียมชิน้ งานต้องมีความรู้ ดา้ นงานตัดดว้ ยแกส๊ งานบากมุมช้ินงานรวมถงึ การเวน้ ระยะต่างๆ ในการเชื่อมยดึ ชน้ิ งานที่ถูกต้องจึงจะส่งผลให้ การเช่อื มมีประสิทธภิ าพสูงสุด 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 2.1 แสดงความรู้เกีย่ วกบั การเตรียมช้นิ งานเชอ่ื มทิก 2.2 งานบากหน้างานตามข้ันตอน 2.3 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ความละเอียดรอบคอบ ปลอดภยั เป็นระเบยี บ สะอาด ตรงต่อเวลา มีความซ่ือสตั ยร์ บั ผิดชอบ และอยู่อย่างพอเพียง 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 บอกชอ่ื เคร่อื งมือและอุปกรณ์การเตรยี มชิ้นงานเชือ่ มทิก ได้ถูกต้อง 3.1.2 บอกหน้าทีข่ องเคร่ืองมือและอปุ กรณ์การเตรยี มชิน้ งานเชือ่ มทกิ ได้ถูกตอ้ ง 3.1.3 อธบิ ายวธิ ีใช้เคร่ืองมือและอปุ กรณ์การเตรยี มชิน้ งานเชอ่ื มทิกได้ถูกต้อง 3.1.4 อธิบายวธิ ีบำรงุ รกั ษาเครอ่ื งมือและอปุ กรณ์การเตรียมช้นิ งานเช่ือมทิกได้ถกู ต้อง 3.1.5 บอกข้อควรระวังในการใชเ้ คร่ืองมือการเตรียมช้ินงานเชื่อมทกิ ได้ถูกต้อง 3.1.6 อธิบายการวัดขนาดชิน้ งานได้ถกู ต้อง 3.1.7 อธิบายการตัดช้นิ งานได้ถูกต้อง 3.1.8 อธิบายการเจียรผวิ ชิ้นงานได้ถูกต้อง 3.1.9 อธบิ ายการบากหน้างานไดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.10 บอกขอ้ ควรระวังในการเตรยี มชิน้ งานเชอื่ มทิกได้ถกู ต้อง 3.1.11 บอกวิธีตรวจชน้ิ รอยต่อไดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.12 บอกข้อควรระวังในการตรวจสอบผลงานไดถ้ ูกต้อง 3.1.13 บอกวิธจี ัดเก็บเคร่ืองมอื ได้ถูกต้อง 176
แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ้ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 14 ช่ือหนว่ ย งานเตรยี มชิ้นงานเชอ่ื มทิก สอนครง้ั ท่ี 14 ชัว่ โมงรวม 7 ช่ัวโมง จำนวน 7 ชัว่ โมง 3.1.14 บอกข้อควรระวังการเกบ็ เครื่องมือได้ถูกต้อง 3.1.15 อธบิ ายวิธีใช้อปุ กรณ์ทำความสะอาดไดถ้ ูกต้อง 3.1.16 บอกขอ้ ควรระวังการทำความสะอาดได้ถูกต้อง 3.2 ดา้ นทกั ษะ 3.2.1 เตรียมเครือ่ งมือและอุปกรณ์เชื่อมมกิ ได้ถูกต้อง 3.2.2 ตัดชิ้นงานได้ถูกต้อง 3.2.3 เจยี รนัยผวิ ชิน้ งานไดถ้ กู ต้อง 3.2.4 ปรบั ผวิ หน้าชิ้นงานได้ถูกต้อง 3.2.5 ตรวจสอบผลงานไดถ้ ูกต้อง 3.2.6 เก็บเคร่ืองมือได้ถูกต้อง 3.2.7 ทำความสะอาดไดถ้ ูกต้อง 3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 3.3.1 ตระหนกั ถึง ความรับผิดชอบ ความมวี ินยั มีจิตอาสาและอยู่อย่างพอเพียง 4. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 4.1 การเตรียมช้นิ งานเชอื่ มทิก 4.2 ปฏบิ ตั งิ านบากหน้างานตามขนั้ ตอน 4.3 ปฏบิ ตั กิ ารเชอื่ มยึดชน้ิ งาน 177
แผนการจัดการเรียนรูม้ ุ้งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 14 ช่ือหน่วย งานเตรยี มช้นิ งานเช่ือมทิก สอนครั้งที่ 14 ช่วั โมงรวม 7 ชว่ั โมง จำนวน 7 ชว่ั โมง 5. กิจกรรมการเรียนการสอน (เนน้ สมรรถนะ) กิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 การนำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครเู รียกชอื่ สำรวจการแต่งกายของนักศึกษา การเตรยี มเครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ พรอ้ มทัง้ บันทึกลงในแบบ ประเมนิ ผลคณุ ธรรม จริยธรรม 2. ครแู จ้งจดุ ประสงค์ประจำหนว่ ยการเรยี นรแู้ ละความสำคัญของเนือ้ หาซงึ่ จะเป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้เรอ่ื ง อ่นื ต่อไป 3. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรยี น 4. ครผู สู้ อนให้นกั เรียน บอกชอื่ ชนดิ และลักษณะของเครื่องมือและอปุ กรณ์การเตรียมช้ินงานเชื่อมทิก 5. ผเู้ รยี นปฏบิ ตั งิ านบากหน้างานเตรยี มชนิ้ งานเชอ่ื มทกิ ตามข้ันตอน 5.2 การเรยี นรู้ 5. ครูใช้ส่ือเพาเวอร์พอยต์ในการนำเสนอความรู้เกย่ี วกับงานเตรียมผวิ ชิ้นงานเชอื่ ม 6. ครูผ้สู อนให้นักเรยี นศึกษาจากใบความรู้ เร่ือง การเตรยี มชน้ิ งานเชอื่ มทิก 7. ผเู้ รยี นปฏบิ ัติงานบากหน้างานเตรยี มชิน้ งานเช่อื มทกิ ตามข้นั ตอน 8. ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันสรุปหวั ขอ้ ต่าง ๆ จากใบความรู้และตอบคำถามจากแบบฝึกหัดเร่อื งการเตรียมชน้ิ งาน เชอ่ื มทิก 5.3 การสรปุ 8. ครูสรปุ ทบทวน โดยใช้คำถามกระตุน้ นักเรยี นใหน้ กั เรียนใช้เหตุผลจากความรูท้ ่ีเรียนในเรอ่ื งงานงานเตรยี ม งานเชื่อม 5.4 การวัดผลและประเมนิ ผล 9. ครแู จกแบบทดสอบหลังเรียนเรือ่ งการเตรยี มช้ินงานเช่อื มทิกให้นักเรยี นปฏิบัตติ ามคำสั่งของแบบทดสอบ 178
แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ้ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ชื่อหนว่ ย งานเตรียมชิน้ งานเช่อื มทิก สอนคร้ังท่ี 14 ชั่วโมงรวม 7 ชั่วโมง จำนวน 7 ชวั่ โมง 10. ครูตรวจและเก็บคะแนนประจำแบบทดสอบเรื่องการเตรียมชนิ้ งานเชื่อมทิก 11. ครูใหน้ ักเรียนทบทวนความรู้เพ่ือแก้ไขส่วนที่ผดิ ในการเรียนเร่อื งการเตรยี มชนิ้ งานเช่ือมทิก 12. ครูเนน้ ยำ้ ให้นกั เรยี นตระหนกั ถึงหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในส่วนของ ความสนใจใฝ่รู้ ความมี วนิ ยั ตรงต่อเวลา และอยู่อย่างพอเพยี ง ในเรยี นเร่ืองการเตรยี มช้ินงานเช่ือมทิก 6. ส่อื การเรียนร้/ู แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 ส่ือสงิ่ พิมพ์ 6.2 ส่ือโสตทัศน์ (ถ้ามี) Power Point เร่อื ง การเตรียมชน้ิ งานเชอ่ื มทิก 6.3 หุ่นจำลองหรือของจรงิ (ถ้ามี) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 6.4 อ่ืนๆ (ถา้ มี) ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 7. เอกสารประกอบการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน) - ใบเนอ้ื หาเรือ่ ง การเตรียมชน้ิ งานเชอ่ื มทิก - แบบทดสอบก่อนเรยี นเร่อื ง การเตรยี มช้นิ งานเชอื่ มทิก - แบบทดสอบหลังเรียนเรอื่ ง การเตรียมชนิ้ งานเช่อื มทิก 8. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วิชาอ่ืน บูรณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเก่ยี วกับ - นักเรียนมีเหตุผลในการประกอบและติดตง้ั เครือ่ งมือและอุปกรณก์ ารเตรียมชนิ้ งานเชอื่ มทิก - นกั เรียนมคี วามพอประมาณในการอยู่อย่างพอเพียงความสนใจใฝ่รู้ ความมีวนิ ัย ตรงต่อเวลา และ 179
แผนการจดั การเรียนร้มู ้งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 14 สอนครงั้ ที่ 14 ชื่อหน่วย งานเตรียมช้นิ งานเชื่อมทกิ ชว่ั โมงรวม 7 ชั่วโมง จำนวน 7 ชั่วโมง - นกั เรยี นมีภูมคิ ุ้มกนั เก่ยี วกบั ความสนใจใฝร่ ู้ ความมีวนิ ยั และตรงต่อเวลา 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 10 ขอ้ 9.2 ขณะเรียน - แบบฝึกหดั เรอื่ ง การเตรียมชน้ิ งานเชื่อมทิก 9.3 หลังเรยี น - แบบทดสอบหลงั เรียน จำนวน 10 ข้อ 180
แผนการจัดการเรียนรู้มงุ้ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ชื่อหน่วย งานเตรยี มช้ินงานเช่ือมทกิ สอนครัง้ ที่ 14 ชั่วโมงรวม 7 ชว่ั โมง จำนวน 7 ชั่วโมง แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง งานเชอื่ มเหลก็ กลา้ คารบ์ อนดว้ ยทิก คำชแ้ี จง จงทำเคร่ืองหมาย ทับขอ้ ทเ่ี หน็ วา่ ถกู ที่สุดเพียงข้อเดยี วลงในกระดาษคำตอบ 1. ข้อใดกลา่ วถึงปรากฏการณ์ “ ออกซิเดชั่น ” ได้ถกู ต้อง ก. ออกซิเจนเข้ามารวมกับโลหะขณะกำลังหลอมละลาย ข. ไนโตรเจนเขา้ มารวมกบั โลหะขณะกำลังหลอมละลาย ค. ความชื้นเขา้ มารวมกับโลหะขณะกำลงั หลอมละลาย ง. ถกู ทุกข้อ 2. ทังสเตนจัดว่าเปน็ “ วสั ดุไม่สิน้ เปลือง ”เนือ่ งจากสาเหตุใด ก. แทง่ ทงั สเตนเป็นวัสดทุ ีไ่ มเ่ กิดการสึกหรอ ข. แท่งทังสเตนไม่มกี ารหลอมละลาย ค. แทง่ ทงั สเตนไม่ไดถ้ ูกนำมาใช้ขณะเชื่อม ง. ถูกทุกข้อ 3. กรรมวธิ ีการเชือ่ มโลหะด้วยกระบวนเชื่อม TIG ใช้แกส๊ ปกคลมุ ชนดิ ใด ก. แก๊สเฉ่ือย (Inert Gas) ข. แกส๊ อะเซตลิ ีน ค. แก๊สหงุ ตม้ ง. แกส๊ ผสม (Ar + Co2) 4. กรรมวิธีการเชือ่ มโลหะดว้ ยกระบวนเช่อื ม GTAW จึงตอ้ งการแกส๊ ปกคลุมเพราะเหตใุ ด ก. การถ่ายเทของควันท่ีเกดิ จากการเชื่อม ข. ป้องกนั อากาศเข้าไปในระหว่างการหลอมละลาย ค. ป้องกันความรอ้ นจากกรรมวธิ กี ารเชื่อม ง. เพม่ิ กระแสการอาร์กระหวา่ งหัวอิเลค็ โทรดกับช้นิ งาน 181
แผนการจดั การเรยี นรู้มุ้งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ชื่อหนว่ ย งานเตรยี มช้นิ งานเชือ่ มทิก สอนครัง้ ที่ 14 ช่วั โมงรวม 7 ช่วั โมง จำนวน 7 ชว่ั โมง 5. อิเล็กโทรดกรรมวธิ ีการเชอื่ มโลหะดว้ ย TIG ทำจากวัสดุชนิดใด ก. แมกนเี ซียม ข. ไทเทเนยี ม ค. ทงั สเตน ง. อลูมิเนยี ม 6. กระแสไฟฟ้ากระแสสลับความถส่ี งู สง่ ผลตอ่ การเช่อื มอย่างไร ก. การเช่อื มเป็นไปอย่างสมำ่ เสมอ ข. เรม่ิ ต้นอาร์กงา่ ย ค. ลดความรอ้ นในหัวเชอื่ ม ง. ถูกท้ังข้อ ก และ ข 7. การต่อข้ัวไฟฟา้ กระแสตรงแบบDCENท่ชี ิน้ งานเป็นขั้วใด ก. ข้ัวบวก ข. ขั้วลบ ค. ขัว้ ใดก็ได้ ง. ไม่มีขอ้ ใดถกู 8. การใชก้ ระแสไฟฟ้าในการเชื่อมทิกชนิดใดทที่ ำให้รอยเช่อื มกวา้ งและกราหลอมละลายลกึ นอ้ ย ก. กระแสตรงขั้วตรง(DCEN) ข. กระแสตรงกลับข้วั (DCEP) ค. กระแสไฟสลบั ความถส่ี งู (ACHF) ง. ถกู ทุกข้อ 9. แท่งทงั สเตนขนาด Ø 2.4 ม.ม. ขนาด Nozzle ทีเ่ หมาะสมควรมีขนาดเท่าใด ก. Ø 6.3 ม.ม. ข. Ø 9.5 ม.ม. 182
แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ้ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ชื่อหนว่ ย งานเตรยี มชิน้ งานเช่ือมทิก สอนคร้ังที่ 14 ชั่วโมงรวม 7 ชั่วโมง จำนวน 7 ชวั่ โมง ค. Ø 12.5 ม.ม. ง. Ø 15.8 ม.ม. 10. ทังสเตนบริสทุ ธ์มิ สี ญั ลักษณท์ ีป่ ลายสอี ะไร ก. เขียว ข. แดง ค. เทา ง. น้ำตาล 11. ทงั สเตนผสมเทอร์เลียมไดออกไซด์ 2 เปอรเ์ ซน็ ต์ มีอักษรยอ่ คือข้อใด ก. EWP ข. EWZr ค. EWTh-1 ง. EWTh-2 12. ข้อใด ไมใ่ ช่ วิธีการรักษาปลายแท่งทงั สเตนในการเช่ือม ก. ตรวจสอบใหแ้ น่ใจว่าแท่งทงั สเตนสะอาด ข. ตรวจสอบมุมทปี่ ลายถกู ต้องก่อนเชื่อม ค. ขณะเร่ิมเชือ่ มควรเขยี่ ปลายทังสเตนกบั ชิ้นงานเพ่ือจดุ อาร์ก ง. ขณะเชื่อมไมค่ วรให้ปลายทงั สเตนสมั ผสั กับชิน้ งาน 13. ถา้ ตอ้ งการเชอ่ื มเหลก็ กล้าคาร์บอน ควรเจยี รนยั ส่วนปลายแทง่ ทงั สเตน เปน็ มุม 30 องศา มคี วามเรยี วยาว ประมาณเทา่ ไร ก. 1.5 เทา่ ของขนาดแทง่ ทงั สเตน ข. 2 เท่า ของขนาดแทง่ ทงั สเตน ค. 2.5 เทา่ ของขนาดแท่งทงั สเตน ง. 3 เทา่ ของขนาดแทง่ ทังสเตน 183
แผนการจัดการเรยี นรู้มุ้งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ชื่อหน่วย งานเตรียมชน้ิ งานเชอ่ื มทกิ สอนคร้งั ที่ 14 ชว่ั โมงรวม 7 ชั่วโมง จำนวน 7 ชั่วโมง 14. แทง่ ทงั สเตนเม่อื ประกอบเขา้ กับหัวเชือ่ มแลว้ ต้องมสี ่วนปลายโผล่ออกจากขอบสว่ นบงั คับทศิ ทางแก๊สเฉ่ือย ประมาณเท่าใด ก. 0.75 เทา่ ของขนาดแทง่ ทังสเตน ข. 1.0 เทา่ ของขนาดแท่งทงั สเตน ค. 1.5 เท่า ของขนาดแท่งทงั สเตน ง. 2 เท่า ของขนาดแทง่ ทงั สเตน 15. แก๊สปกคลุมที่นิยมใชใ้ นการเช่ือมโลหะด้วยวิธี TIG คอื แก๊สอะไร ก. อารก์ อน ข. ฮีเลียม ค. คาร์บอนไดออกไซด์ ง. ถกู ทุกข้อ 16. ข้อดีของแกส๊ อาร์กอน คอื ขอ้ ใด ก. หาซื้อไดง้ า่ ย ข. เปลวอาร์กสมำ่ เสมอ ค. ความตา้ นทานการอารก์ น้อยกวา่ ฮีเลี่ยม ง. ถกู ทุกข้อ 17. การระบายความร้อนของหัวเช่อื มมีลกั ษณะใดบา้ ง ก. ระบายความร้อนดว้ ยน้ำ ข. ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ ค. ระบายความร้อนด้วยนำ้ มัน ง. ถกู ทัง้ ขอ้ ก และ ข 18. แกส๊ อาร์กอนท่ีนำมาใช้จะต้องมคี วามบรสิ ทุ ธเ์ิ ท่าใด ก. 95.99% ข. 99.50 184
แผนการจดั การเรียนร้มู ุ้งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 14 ชือ่ หนว่ ย งานเตรียมช้ินงานเชอื่ มทิก สอนคร้งั ที่ 14 ชั่วโมงรวม 7 ชั่วโมง จำนวน 7 ชั่วโมง ค. 99.99% ง. 99.999% 19. ขอ้ ดีของแก๊สฮีเลี่ยม คอื ขอ้ ใด ก. เชื่อมการหลอมละลายลึกสูง ข. เช่ือมได้เรว็ กว่าอาร์กอน ค. หาซอื้ ง่ายราคาถูก ง. ถูกท้งั ข้อ ก และ ข 20. การเชื่อมเหล็กกล้าคารบ์ อนโดยใชก้ ระแสไฟDCEN ควรใชแ้ ก๊สปกคลุมชนดิ ใด ก. อารก์ อน ข. ฮเี ล่ยี ม ค. คาร์บอนไดออกไซด์ ง. อาร์กอนผสมออกซเิ จน เฉลยแบบทดสอบก่อน/หลังเรยี น หนว่ ยการสอนที่ 5เรื่อง งานเชื่อมเหลก็ กลา้ คารบ์ อนด้วยทิก 1. ง 6. ง 11. ง 16. ง 2. ข 7. ก 12. ค 17. ง 3. ก 8. ข 13. ค 18. ค 4. ข 9 ค 14. ค 19. ง 5. ค 10 ก 15. ก 20. ก 185
แผนการจัดการเรียนร้มู งุ้ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ช่ือหน่วย งานเตรยี มช้นิ งานเชอ่ื มทิก สอนคร้ังท่ี 14 ชัว่ โมงรวม 7 ชว่ั โมง จำนวน 7 ชัว่ โมง แบบฝกึ หัด หน่วยที่ 14 งานเชอื่ มเหลก็ กล้าคาร์บอนดว้ ย ทิก ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. ท่านมีหลักการเชื่อมเหล็กกลา้ คารบ์ อนด้วยขบวนการเชอื่ มทิกอย่างไร 2. จงเลือกเคร่ืองมอื อปุ กรณเ์ ชอ่ื มทกิ ท่สี ำคัญ 5 ชนดิ มีหนา้ ท่ีการใช้งานอยา่ งไร 3. วิธีการต่อขั้วเครื่องเชื่อมทิก และผลของการหลอมละลายลึกเหมือนหรือแตกต่างกับการเช่ือมด้วยทิกอ ย่างไร 4. การเลอื กแก๊สปกคลมุ การเชื่อมเหลก็ กล้าคาร์บอนดว้ ยทิกให้เหมาะสมอยา่ งไร 5. ทา่ นมหี ลักการเลือกใช้ลวดเชื่อม เชือ่ มเหล็กกลา้ คารบ์ อนอยา่ งไร 6. จงบอกชนิดและรูปร่างของรอยตอ่ ในงานเช่ือมมีอะไรบา้ ง 7. จงอธิบายถงึ ลักษณะตำแหน่งการเช่อื มตาม AWS. ของงานต่อชนแผ่นโลหะ, ตอ่ ฉากและงานท่อมี อะไรบา้ ง 8. จงบอกถงึ สาเหตแุ ละวิธกี ารแก้ไขข้อบกพรอ่ งในงานเช่อื มทิกมาอยา่ งน้อย 5 ชนดิ 9. จงอธิบายถงึ หลักการวธิ ีการเชื่อมทิกอยา่ งปลอดภยั ตามหลักอาชวี อนามัยได้อย่างไร 10. ทา่ นมีวธิ ีการปรบั ใช้แก๊สปกคลุมให้เหมาะสมกบั งานเชือ่ มทิกอยา่ งไร 186
แผนการจดั การเรียนรู้มงุ้ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 14 ช่อื หน่วย งานเตรยี มช้ินงานเชอ่ื มทิก สอนครั้งที่ 14 ช่ัวโมงรวม 7 ชั่วโมง จำนวน 7 ชัว่ โมง แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชดุ การสอนท่ี 14 งานเตรยี มชิ้นงานเช่อื มทิก คำชแ้ี จง จงทำเครื่องหมาย ทบั ขอ้ ทีเ่ ห็นว่าถกู ท่สี ุดเพยี งข้อเดียวลงในกระดาษคำตอบ 1. การแก้ไขการซึมลึกไมส่ มบูรณ์มวี ธิ ีใดบ้าง ก. อ่นุ ช้นิ งานก่อนเชื่อม ข. เช่อื มด้วยกระแสไฟสงู ค. ออกแบบรอยตอ่ ใหเ้ หมาะสม ง. ถกู ทุกข้อ 2. เคร่อื งเชื่อมทำงานแต่จ่ายกระแสผดิ ปกติ มสี าเหตุมาจากอะไรบ้าง ก. เคร่อื งเช่ือม Overload ข. ระยะเวลาการใชง้ านนานไป ค. อุณหภูมิบรเิ วณน้นั สูงมาก ง. ถกู ทุกข้อ 3. เปลวอาร์กค่อนขา้ งเอื่อย มีสาเหตมุ าจากอะไรบ้าง ก. กระแสน้อยไป ข. ต่อข้ัวไม่แนน่ ค. ตอ่ ขัว้ บวก – ลบผดิ ง. ถกู ท้งั ขอ้ ก และ ข 4. รอยเช่อื มสกปรก มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง ก. ลวดเช่อื มสกปรก ข. ทงั สเตนแตะกบั ช้ินงาน ค. ผวิ ทงั สเตนไม่เรียบ 187
แผนการจัดการเรยี นร้มู ุ้งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 14 ชอ่ื หนว่ ย งานเตรยี มชิน้ งานเช่ือมทิก สอนครั้งท่ี 14 ชว่ั โมงรวม 7 ชว่ั โมง จำนวน 7 ช่วั โมง ง. ถูกทุกข้อ 5. สาเหตุทรี่ อยเช่อื มพรุนเมื่อเชื่อมโลหะผสมอลูมิเนยี มมีอะไรบ้าง ก. มไี ฮโดรเจน ข. ตง้ั กระแสไฟสงู เกินไป ค. ความเร็วในการเช่อื มชา้ ง. ถกู ทุกข้อ 6. เหตุใดจงึ ตอ้ งป้องกันข้อบกพร่องท่ีจะเกิดในรอยเชื่อม ก. แนวเชอ่ื มไม่สวยงาม ก. ความแขง็ แรงไมเ่ พียงพอทีจ่ ะรบั ภาระกรรมต่างๆ ค. ทำใหก้ ารคดิ ราคางานสงู ขึน้ ง. ถกู ทุกข้อ 7. การมีวัสดุแปลกปลอมติดอยูบ่ นผวิ รอยตอ่ ของโลหะ อาจทำใหเ้ กิดข้อบกพร่องใด ก. การเกิดรูพรนุ ข. รอยกดั ขอบแนวเช่ือม ค. การหลอมละลายไม่สมบูรณ์ ง. การเกดิ รอยรา้ ว 8. รอยกัดขอบรอยเช่ือม ทำให้เกิดปัญหาอะไร ก. เนอื้ เชื่อมไม่สมบูรณ์ ข. พน้ื ทหี่ น้าตดั บริเวณน้ันลดลง ค. รอยต่อมีความแข็งแรงลดลง ง. ถกู ทั้งข้อ ข และ ค 9. รูพรุนในรอยเช่ือม มสี าเหตมุ าจากอะไรบ้าง ก. ฝุ่นละอองทีเ่ กาะอยตู่ ามผวิ โลหะงาน ข. ความชืน้ ท่เี กาะอยู่ตามผวิ โลหะงาน 188
แผนการจดั การเรียนรู้มงุ้ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 14 สอนครัง้ ที่ 14 ชอื่ หนว่ ย งานเตรยี มชน้ิ งานเชื่อมทิก ชว่ั โมงรวม 7 ชว่ั โมง จำนวน 7 ชัว่ โมง ค. ลวดเชอ่ื มมีความชนื้ ง. ถกู ทุกข้อ 10. โดยท่วั ไปการแตกรา้ วแบ่งเป็นลักษณะใดบา้ ง ก. การแตกร้าวตามยาว ข. การแตกรา้ วตามขวาง ค. การแตกรา้ วที่บอ่ หลอมละลาย ง. ถกู ทุกข้อ 11. การหลอมละลายไม่สมบูรณ์ มสี าเหตุมาจากอะไรบา้ ง ก. การใหค้ วามร้อนไม่เพยี งพอ ข. การให้ความร้อนมากไป ค. เทคนิคการเช่ือมไม่ถูกต้อง ง. ถูกทง้ั ขอ้ ก และ ค 12. การเกดิ รอยกัดขอบรอยเชื่อม มสี าเหตมุ าจากอะไรบา้ ง ก. เทคนคิ การเช่ือมไม่ถกู ต้อง ข. การเชอ่ื มดว้ ยกระแสสูง ค. การเชอื่ มดว้ ยระยะอารก์ สงู ง. ถกู ทุกข้อ 13. ทงั สเตนฝงั ใน มักเกดิ ในกรณีที่ใชล้ วดเช่ือมประเภทใด ก. ลวดเชอ่ื มเปลอื ยแกนตนั ข. ลวดเช่ือมเปลือยแกนกลวง ค. การเช่ือมแบบทกิ ง. ลวดเชือ่ มหมุ้ ฟลักซ์ 14. การแตกร้าวแบ่งเปน็ ประเภทใดบา้ ง ก. การแตกร้าวขณะใช้งาน 189
แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ้ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 14 ช่ือหนว่ ย งานเตรยี มชน้ิ งานเชื่อมทิก สอนครง้ั ท่ี 14 ช่ัวโมงรวม 7 ช่ัวโมง จำนวน 7 ชวั่ โมง ข. การแตกร้าวร้อน ค. การแตกรา้ วเยน็ ง. ถกู ท้งั ข้อ ข และ ค 15. โดยทว่ั ไปแล้วความนนู ของรอยเช่ือมแบบต่อชนไม่ควรมขี นาดเกนิ เทา่ ใด ก. 1.5 มม. ข. 2.4 มม. ค. 3.2 มม. ง. 4.6 มม. 16. ถ้าใชก้ ระแสไฟในการเชื่อม 100 แอมป์ ในการเช่ือม TIG ควรใช้กระจกกรองแสงเบอร์อะไร ก. 9 ข. 10 ค. 11 ง. 12 17. ทำไมขณะการเชื่อมจึงต้องมีการระบายอากาศอยา่ งเพียงพอ เพ่ือเป็นการชว่ ยลดอะไร ก. ช่วยลดออกไซดข์ องไนโตรเจน ข. ช่วยลดออกไซด์ของคารบ์ อนไดออกไซด์ ค. ช่วยลดออกไซด์ของคาร์บอนมอนนอกไซด์ ง. ถกู ทุกข้อ 18. บคุ คลใดบา้ งทีค่ วรไดร้ บั การปกป้องดวงตาจากการเชอื่ ม ก. ชา่ งเชือ่ ม ข. ชา่ งประกอบ ค. ผชู้ ่วยช่างประกอบ ง. ถกู ทุกข้อ 190
แผนการจดั การเรียนรูม้ ้งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 14 สอนครง้ั ท่ี 14 ชอื่ หน่วย งานเตรยี มชิ้นงานเชอ่ื มทกิ ชั่วโมงรวม 7 ชว่ั โมง จำนวน 7 ช่วั โมง 19. การเกดิ เพลงิ ไหมข้ องการทำงานเชอื่ ม มีสาเหตหุ ลกั มาจากอะไร ก. ไฟฟ้าลดั วงจร ข. สายไฟขาด . กระแสไฟร่ัว ค. สะเก็ดไฟเช่ือม ง. ถูกทุกข้อ 20. รงั สอี ลุ ตราไวโอเลททีเ่ ขม้ ข้น มีผลทำใหเ้ กดิ อะไรต่อรา่ งกาย ก. ทำใหผ้ ิวหนงั เปน็ เมด็ ผ่นื คนั ข. ทำใหอ้ าเจียน ค. อาจทำใหผ้ ิวหนงั เกิดเปน็ แผล ง. ถกู ท้ังข้อ ก และ ค เฉลยแบบทดสอบก่อน/หลังเรียน ชุดการสอนที่ 14 งานเช่ือมเหลก็ กลา้ คาร์บอนดว้ ยทิก 1. ง 6. ง 11 ง 16 ง 2. ข 7. ก 12 ค 17 ง 3. ก 8. ข 13 ค 18 ค 4. ข 9 ค 14 ค 19 ง 5. ค 10 ก 15 ก 20 ง 191
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: