ครมู ัลลิกา อ่มิ ลาภ ชนดิ คLoading…
การ่จาแนกชนิดของ่คาในภาษาไทยมีการศึกษากันมานานพอสมควร และกระ่ทากันอ่ยางหลากหลาย นักวิชาการ่ตางก็ใ่ชแนวคิดและทฤษฎที ่แี ตก่ตางกันออกไป อาทิ พระยาอุปกิตศิลปะสาร 2511 ่จาแนกไ่ด 7 ชนิด วิจินตน์ ภาณุพงศ์ 2542 ่จาแนกไ่ด 26 ชนิด และสมทรง บุรุษพัฒน์ 2526 ่จาแนกไ่ด 18 ชนิด นอกจากน้ีใน หนังสือ “บรรทัดฐานภาษาไทย เ่ลม 3 ชนิดของ่คา วลี ประโยคและสัมพันธสาร” ่สานักวิชาการและมาตรฐาน การศึกษา สถาบันภาษาไทย กระทรวงศึกษาธิการเ่ปน่ผูจัด่ดาเนนิ การ โดยมศี าสตราจารย์กติ ติคุณ เ่ปนประธาน กรรมการ ซ่ึงไ่ด่จาแนก่คาออกเ่ปน 12 ชนิด ไ่ดแ่ก ่คานาม ่คาสรรพนาม ่คากริยา ่คา่ชวยกิริยา ่คาวิเศษณ์ ่คาท่ี เกี่ยวกับ่จานวน ่คาบอก่กาหนด ่คาบุพบท ่คาเชื่อม ่คาลง่ทาย ่คาอุทาน และ ่คาปฎิเสธ เ่ปนการ่จาแนกโดย ใ่ชเกณฑห์ ่นาที่ เกณฑ่ต์ าแห่นงท่่คี าปรากฏและสัมพันธก์ บั ่คาอ่นื และเกณฑ์ความหมาย ดังนนั้ ใน การศกึ ษาคร้ังน่ผี้ เู ขยี นจึงอาศัยการจดั แ่บงชนิดของ่คาดังก่ลาว ท้ัง 12ชนิด มรี ายละเอยี ด ดัง่ตอไปนี้
1 ่คานาม หมายถึง ่คาท่ีใ่ชเรียกสิ่งท่ีเ่ปนรูปธรรม อาทิ คน สัตว์ ส่ิงของ สถานท่ี เ่ชน คน ่ตนไ่ม สัตว์ ดาว เดือน เครื่องบิน พะเยา ่ลาปาง และส่ิงที่เ่ปนนามธรรม เ่ชน คำนำม ความเช่อื ่คานิยม ความคิด เ่ชน ความดี ความ่รู สติปัญญา ความเขลา ความงาม ตัว่บงช้ี ดังน้ีชี้วัด การปรากฏตาม่ตาแห่นงในประโยคของ่คานามน้ัน ปรากฏไ่ดใน่ตาแห่นง ประธาน ่ทาห่นาทเี่ ่ปนประธาน และปรากฏใน่ตาแห่นงกรรม ่ทาห่นาท่เี ่ปนกรรม ่จาแนกไ่ด 4 ชนิด ไ่ดแ่ก ่คานามสามัญ ่คานามวิสามัญ ่คาลักษณะนาม และ่คา อาการนาม มรี ายละเอียดดงั ่ตอไปน้ี 1 ่คานามสามญั ่คานามสามัญหรอื สามานยนาม เ่ปน่คานามที่ใ่ชเรียกสิ่งที่เ่ปนรปู ธรรมและนามธรรมท่ัวไป มิไ่ด่จาเพาะ ลงไป่วาเ่ปนส่งิ ใด ชอื่ ใด เ่ชน โรงเรียน มหาวิทยาลัย สมุด ่บาน วดั พดั ลม่ขาว
12 ่คานามวสิ ามญั ่คานามวิสามัญหรือวิสามานยนามเ่ปน่คานามท่ีใ่ชเรียกรูปธรรมและนามธรรมเ่ชนกัน แ่ตจะ่จาเพาะ คำนำมเจาะจงลงไป่วาเ่ปนสง่ิ ใด ช่อื ใด เ่ชน พะเยา แ่มฟ่าหลวง เนช่นั ภาคกลาง เ่จาพระยา เ่ปนชื่อเฉพาะ ของมหาวิทยาลัย ภาษาไทย๓ษาจีน ภาษาฝร่ังเศส การศึกษา พัฒนาสังคม เ่ปนช่ือเฉพาะของ สาขาวิชาในคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ่สวนใหญ่แ่ลว่คาวิสามัญมักใ่ชเ่ปนช่ือเฉพาะของ ่คานามวิสามัญ แ่ตท้ังนี้ก็มิใ่ช่วา่คานามสามัญ่ตองมีช่ือเฉพาะเสมอไป เ่ชน การแก่ลงดิน ความ่รู ดวง จันทร์ โลก อวกาศ เ่ปนนามสามญั ทไี่ ่มมชี ื่อเฉพาะ 3 ่คาลกั ษณะนาม ่คาลักษณะนามเ่ปน่คาท่ีใ่ชบอกลักษณะของ่คานามหรือ่คากิริยา เ่ชน ใบ ดอก ผล ตัว อัน ช้ืน เร่ือง เ่ลม นอกจากน้ียังใ่ชบอกหมวดห่มู ก่ลุม หรือพวกของ่คานามไ่ด่ดวย ่คาลักษณะนามประการหลังนี้แ่ต เดิมเรียก่วา สมุหนาม เ่ชน ก่ลุมพวก คณะ ฝงู โขลง
14 ่คาอาการนาม ่คาอาการนาม หมายถึง ่คานามท่ีเกิดจากการแปลง่คากริยาใ่หเ่ปน่คานาม โดยเติม่คา่วา การ คำนำมหรือ ความ ลงไป่ขางห่นา เม่ือ่คาดังก่ลาวเ่ปน่คานามและมีความหมายและมีห่นาท่ีเหมือนกับ่คานาม ่คาอาการนาม เ่ชน ความ่รู การเรยี น ความดี การตระหนักคดิ ่คาอาการนามทเ่ี กดิ จากการเตมิ “การ” ห่นา่คากริ ยิ านั้นมกั แสดงกระบวนการในการ่ทากิริยา ใน กรณีนเ้ี ราไ่มอาจเติม “ความ” ลงไปแทนท่ีไ่ดเพราะนอกจากไ่มสื่อความหมายแ่ลวยังผิดไวยากรณ์ของ ภาษา่ดวย ่สวนอาการนามที่เกดิ จากการเติม “ความ” ห่นา่คากริ ยิ าน้ันมักแสดงสภาพหรือลกั ษณะรวมๆ ของกิริยาน้ัน เ่ชนเดียวกับเราไ่มอาจเติม “การ” ลงไปแทนที่ไ่ด เพราจะไ่มส่ือความหมายและผิด ไวยากรณ์
2 หมายถึง ่คาสรรพนามท่ีใ่ชแทน่คานามเพ่ือไ่ม่ตองก่ลาว่คานามน้นั ่ซ้า เ่ชน เธอ เขา มัน สู เ่จา การปรากฏตาม่ตาแห่นงในประโยคของสรรพนามน้ันมีลักษณะ คำสรรพนำม เ่ชนเดยี วกบั ่คานาม ่คาสรรพนาม่จาแนกไ่ด 5 ชนิด ไ่ดแ่ก ่คาบุรุษสรรพนาม ่คาสรรพนามถาม ่คาสรรพนามช้ีเฉพาะ ่คาสรรพนามไ่มชี้เฉพาะ และ่คาสรรพนามแยก่ฝาย มรี ายละเอียด ดังนี้ 1 ่คาบรุ ษุ สรรพนาม ่คาบรุ ษุ สรรพนาม ่คาสรรพนามบอกบุรษุ หรอื ่คาสรรพนามแทนบคุ คล ่ลวนแ่ตเ่ปนช่อื เรียกส่ิงเดียวกนั หมายถึง่คา สรรพนามที่ใ่ชแทนบุคคลเพื่อบอก่วาเ่ปน่ผูพูด ่ผทู พี่ ูด่ดวยหรือ่ผทู กี่ ่ลาวถงึ นอกจากน้ันเราสามารถใ่ช่คาบุรษุ สรรพนาม นแี้ ทนสตั ว์ สง่ิ ของ ผี เทวดา หรือความคิดกไ็ ่ด สามารถแยกไ่ด 3 บรุ ษุ ดงั น้ี 1) ่คาสรรพนามบรุ ษุ ท่ี 1 ใ่ชแทนตนเองขณะพูดกับตนเองหรือ่ผอู ื่น เ่ชน ผม เรา กู่ขาพเ่จา กระผม ดิฉนั อาตมา 2) ่คาสรรพนามบรุ ุษที่ 2 ใ่ชแทนบคุ คลทเี่ ราพดู ่ดวย เ่ชน เธอ คณุ ่ทาน แก มึง 3) ่คาสรรพนามบุรุษที่ 3 ใ่ชแทนบุคคลหรอื ส่งิ ท่เี ราก่ลาวถงึ เ่ชน เขา มัน ่ทาน ห่ลอน
12 ่คาสรรพนามถาม ่คาสรรพนามถาม หรือปฤษฉาสรรพนาม หมายถึง ่คาสรรพนามที่ใ่ชแทน่คานามใน คำนำมขณะเดยี วกนั ก็ใ่ชแทนการถามไปในตัว่ดวย ในภาษาไทยมเี พียง 3 ่คา ไ่ดแ่ก ใคร อะไร ไหน 3 ่คาสรรพนามชี้เฉพาะ ่คาสรรพนามช้ีเฉพาะหรือนิยมสรรพนาม หมายถึง ่คาสรรพนามท่ีใ่ชแทน่คานามใน ขณะเดยี วกันก็บอกระยะใก่ลและไกล่ดวย ในภาษาไทยมีเพียง 8 ่คา ไ่ดแ่ก น่ี น้ี นั่น น้ัน โ่นน โ่นน ่นูน ่นูน ระยะใก่ลสุด นี่ นี้ ระยะไกลออกไปใ่ช น่ัน นั้น ระยะไกลออกไปอีกใ่ช โ่นน โ่นน ระยะไกลท่ีสุดใ่ช ่นนู ่นนู
14 ่คาสรรพนามไ่มชเี้ ฉพาะ ่คาสรรพนามไ่มช้ีเฉพาะหรืออนิยมสรรพนามเ่ปนสรรพ นามที่ใ่ชแทนนามโดยไ่ม่กาหนด เฉพาะ่วาหมายถึงใคร ่ผใู ด ส่ิงใด หรอื สถานทใ่ี ด เ่ชน ใคร อะไร ไหน ่ทาน เขา เรา ใด ใครๆ ใดๆ 5 ่คาสรรพนามแยก่ฝาย ่คาสรรพนามแยก่ฝาย หรือวภิ าคสรรพนาม หมายถึง ่คาสรรพนามท่ีใ่ชแทนนามหรือ่คาบุรุษ สรรพนามเพื่อแสดง่วามีหลาย่ฝายหรืหลาย่สวน แ่ตละ่ฝายก็แยกกัน่ทากิริยาหน่ึงหรือมากก่วา ่คา สรรพนามนม้ี ี 3 ่คา ไ่ดแ่ก ่ตาง ่บาง กนั
3 ่คากริยา หมายถึง ่คาท่ี่ทาห่นาที่เ่ปนกริยาหรือกริยาวลี แทนการกระ่ทาของ มนุษยห์ รือธรรมชาติ ถอื ไ่ด่วาเ่ปน่สวน่สาคญั ของประโยค หากไ่มมกี ริยา ภาษาห่นวยนั้นก็ คำกริยำ ไ่มใ่ชประโยค เ่ชน กิน น่นั เดนิ นอน่รองไ่ห ่จาแนกไ่ด 2 ประเภทหลกั ๆ ดังนี้ 1 ่คากรยิ าทม่ี หี ่นวยกรรม 1) ่คากรยิ าสกรรม หรือสกรรมกรยิ า คือ่คากริยาที่มีกรรมหรอื นามวลตี ามหลงั 1 ห่นวย ฉันฟงั เพลง ชาวนาเกยี่ วขา้ ว นอ้ งกินขนม 2) ่คากรยิ าทวิกรรม หรอื ทวกิ รรมกริยา คอื กรยิ าทม่ี ีห่นวยกรรมหรอื นามวลตี ามหลงั 2 ห่นวย สอน ป้อน ให้ แจก อบรม ... ฉันสอนนอ้ งอา่ นหนงั สอื พ่ีปอ้ นขา้ วน้อง
12 ่คากรยิ าทไี่ ่มมหี ่นวยกรรม คำนำม่คากริยาชนิดนี้ไ่ม่ตองมีห่นวยกรรมตามหลังก็่ทาใ่หประโยคน้ันส่ือความหมายไ่ดสมบูรณ์ ่จาแนกไ่ด 5 ประเภท ดงั นี้ 1) ่คากริยาอกรรม หรืออกรรมกริยา คือกริยาท่ีไ่ม่ตองมีห่นวยกรรมหรือนามวลีตามหลังก็ส่ือ ความหมายไ่ดครบ่ถวน หัวเราะ ตก ข้ึน ตาย นอน เสียใจ... เดก็ หัวเราะ ฝนตก 2) ่คากริยาคุณศัพท์ คือ ่คากริยาท่ีแสดงคุณสมบัติหรือสภาพของ่คานามหรือ่คาบุรุษสรรพนาม เ่ชน ดี ชั่ว สวย งาม สูง ่ต่า ่คากริยาคุณศัพท่์ตางจากกริยาอกรรมท่่ีคากริยาคุณศัพท์สามารถใ่ช ่รวมกับ่คา่วา “ก่วา ที่สุด” และ่คากรยิ าคุณศัพท์สามารถปรากฏตามหลงั ่คาลกั ษณะนามไ่ด เธอเปน็ คนสวย นกั เรียนเปน็ คนดา
3.) ่คากริยา่ตองเติมเต็ม หรือวกิ ตรรถกริยา คือ ่คากริยาท่ี่จาเ่ปน่ตองมีกรรมหรือนามวลี ตามหลังเสมอ เพื่อเติมเต็มใจความของประโยคใ่หครบ่ถวนสมบูรณ์ เ่ชน เหมอื น คือ ค่ลาย เ่ทา เปรยี บด่งั ... ่นองห่นาค่ลายแ่ม เขาเ่ปน่ตารวจ 4.) ่คากริยา่นา คือ ่คากริยาท่่ีตองปรากฏ่นาห่นากริยาอื่นเสมอ โดย่ตองปรากฏ่รวมกบั กริยาทีต่ ามมาในรปู ของกริยาเรียง เ่ชน ชอบ อยาก ่หาม โปรด ต้งั ใจ... เราต้ังใจเรียน 5.) ่คากริยาตาม คือ ่คากริยาท่่ีตองปรากฏตามหลัง่คากริยาอื่นเสมอ อาจปรากฏ ตามหลังตดิ กันหรือตามหลงั ห่นวยกรรมกไ็ ่ด เ่ชน ไป มา ขน้ึ เอา เสีย ออก เขาสง่ จดหมายไปแล้ว เขาหลอ่ ออก
่คา่ชวยกริยาหรือ่คากรยิ านุเคราะห์ คือ่คาที่ปรากฏห่นา่คากริยาเพื่อความหมาย ทางไวยากรณ์ของกริยาน้ัน ่คา่ชวยกริยาไ่มใ่ช่คากริยาและปรากฏตาม่ลาพังไ่มไ่ด เ่ชน คง ยงั ่ตอง ถกู โดน่กาลัง มกั เพิ่ง 4 - เธอคงสอบตกแน่ๆ - เราต้องทาความดี คำชว่ ยกรยิ ำ - น้องกาลงั กลบั บ้าน - ครูพง่ึ ไปบวชมา
5 ่คาวิเศษณ์ หมายถึง่คาท่ี่ทาห่นาท่ีขยายกริยา ่ทาห่นาท่ีเ่ปนวิเศษณ์วลี ปรากฏ หลัง่คากริยา หากเ่ปนกริยาอกรรมท่ีปรากฏ่ตอกันไป หากเ่ปนกริยาสกรรม ก็จะปรากฏ คำวิเศษณ์ ตามหลังกรรม ในภาษาไทยแ่บง่คาวิเศษณ์ไ่ด 4ชนิด ไ่ดแ่ก ่คาวิเศษณ์สามัญ ่คาวิเศษณ์ ขยายเฉพาะ ่คาวิเศษณ์ถาม และ่คาวเิ ศษณบ์ อกกรยิ า มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1 ่คาวิเศษณส์ ามญั เ่ปน่คาวเิ ศษณ์ทีใ่ ่ชขยาย่คากรยิ าโดยท่ัวไป เ่ชน มาก ่นอย จัง แ่ลว อ่ยางเรว็ 2 ่คาวิเศษณข์ ยายเฉพาะ เ่ปน่คาวิเศษณ์ที่ใ่ชขยายกรยิ า่คาใด่คาหนงึ่ โดยเฉพาะ เ่ชน แ่อ แป่ล ด๊ิก จั๊วะ แ่จ กริบ
13 ่คาวเิ ศษณถ์ าม ่คาวิเศษณ์แสดงการถามหรือปฤจฉาวิเศษณ์ หมายถึง ่คาวิเศษณ์ท่ีใ่ชแสดง่คาถามเก่ียวกับ การกระ่ทา่วาส่ิงท่่ีทานั้นเ่ปนเพราะเหตุใดมีวัตถุประสงค์ใดเวลาใดหรือ ลักษณะใด เ่ชน เ่ชนใด ไย ไฉน ่ทาไม เพราะอะไร 4 ่คาวิเศษณบ์ อกเวลา ่คาวิเศษณ์ท่ีใ่ชแสดงเวลาท่ีเกิดเหตุการณ์หรือการกระ่ทาใดอ่ยางหนึ่ง เ่ชน เ่ชาต่รู กลางวัน กลางคืน พลบ่คา่ พ่รงุ นี้ ่ปห่นา
6 ่คาที่เกี่ยวกับ่จานวน หรือประมาณวิเศษณ์ หมายถึง ่คาท่ีเกี่ยว่ของกบั ่จานวน ่จาแนก ไ่ดแ่ก ่คาบอก่จานวน ่คาบอก คำทเี่ กีย่ วกับ ่ลาดบั ่คาห่นา่จานวน และ่คาหลัง่จานวน จำนวน 1 ่คาบอก่จานวน ่คาบอก่จานวนหรอื ประมาณวเิ ศษณ์ เ่ปน่คาที่หมายถงึ ่จานวน อาจเขยี นรูปตัวเลข เ่ชน 1 2 3 4 5 และ ่คา่ตอไปน้ี เ่ชน ทกุ หลาย บาง ครึง่ ่คาบอก่จานวนนม้ี ักปรากฏห่นา่คาลักษณนาม ห่นา่คานาม หรือ ปรากฏหลงั ่คากรยิ า่ตองเติมเต็ม
12 ่คาบอก่ลาดบั ่คาบอก่ลาดับ หมายถึง ่คาท่ีแสดง่ลาดับ ไ่ดแ่ก่คาบอก่จานวนประเภทตัวเลขซ่ึงปรากฏ ่รวมกับ่คา่วา ที่ เ่ชน ที่หน่ึง ท่ีสอง ท่ีสาม นอกจากนี้ยังม่ีคาอื่นๆไ่ดแ่ก แรก สุด่ทาย ห่นา กลาง หลัง รง้ั ่ทาย 3 ่คาห่นา่จานวน ่คาห่นา่จานวน หมายถึง ่คาที่ปรากฏอ่ยูห่นา่คาบอก่จานวนมกั ม่ีคาลักษณนาม ตามหลัง ่คา ห่นา่จานวนนีข้ ยายความของ่คาบอก่จานวน เ่ชน อกี สกั ตัง้ ทัง้ เพียง ประมาณ เกอื บ ราวๆ 4 ่คาหลงั ่จานวน ่คาหลงั ่จานวน คอื ่คาทีป่ รากฏอ่ยหู ลงั ่คาบอก่จานวนปรากฏไ่ดทั้งห่นาหรอื หลัง่คา ลกั ษณนาม กไ็ ่ด เ่ชน ก่วา เศษ พอดี ่ถวน
7 ่คาบอก่กาหนด หมายถงึ ่คาขยายนามทีอ่ ่ยใู ด่ตาแห่นง่ทายสุด่ทายวลี ไ่ดแ่ก น่ี น้ัน โ่นน ่นูน นี้ น้ัน โ่นน ่นูน ่คาบอก่กาหนด่จาแนกไ่ดแ่ก 2 ชนิด คือ ่คาบอก่กาหนดช้ี คำบอกกำหนด เฉพาะ และ่คาบอก่กาหนดไ่มช้เี ฉพาะ 1 ่คาบอก่กาหนดชเ้ี ฉพาะ ่คาบอก่กาหนดชเี้ ฉพาะหรือนยิ มวิเศษณ์ เ่ปน่คาขยาย่คานามเพ่อื ่กาหนดชี้เฉพาะ่วา่คานามนน้ั อ่ยูใก่ล หรือไกล จะปรากฏใน่ตาแห่นงสดุ ่ทายของนามวลีนนั้ ่คาบอก่กาหนดท้งั 8 ่คาใน่ขาง่ตนมหี ลักการใ่ช ่ตางกัน 2 ลักษณะ ไ่ดแ่ก 1) ่คาบอก่กาหนด น่ี น้นั โ่นน ่นนู ใ่ชตามหลังและปรากฏตดิ กับ่คานาม 2) ่คาบอก่กาหนด น้ี นั้น โ่นน ่นนู ใ่ชตามหลังปรากฏตดิ กบั ่คานาม บางกรณเี มอ่ื ปรากฏตามหลัง ่คานามจะม่คี าลกั ษณนามมาค่ันก็ไ่ด
12 ่คาบอก่กาหนดไ่มช้เี ฉพาะ ่คาบอก่กาหนดไ่มช้ีเฉพาะหรือนิยมวิเศษณ์ เ่ปน่คาขยายนามท่ีไ่มช้ีระยะใก่ลไกล ไ่ม่จาเพาะ เจาะจง รวมท้ังไ่มระบุใ่หจัดเจน่วาเ่ปนส่ิงใด เ่ปนการบอกโดยทั่วไป เ่ชน ่ตาง ๆ อื่น่ตาง ๆ นานา ใด ไหน ลักษณะการปรากฏในประโยคเ่ปน่คาเ่ชนเดียวกับ่คาบอก่กาหนดช้ีเฉพาะ คือ ปรากฏหลังและติด ่กา่คานาม หรอื ปรากฏหลงั ่คานามโดยมีลกั ษณนามคัน่ กไ็ ่ด
8 ่คาบุพบทหรือ่คาบุรพบท หมายถึง ่คาที่ปรากฏห่นานามวลีเพ่ือประกอบเ่ขา เ่ปนบุพบทวลีมักมีความหมายเพื่อบอก่ตาแ่นง ห่นาท่ี ความเก่ียว่ของ ความ่มุงหมาย คำบพุ บท และความเ่ปนเ่จาของ เ่ปน ่คาบุพบท เ่ชน ของ ใน บน ่ขาง ตรง ใ่ต เพราะ เพ่ือ กับ แ่ก แ่ด ่ดวย ก่วา • หนังสอื วางอยใู่ ตโ้ ต๊ะ • แบงคพ์ นั ใบนขี้ องครู • เขาน่งั อยตู่ รงกลาง • เราเดนิ ทางไปทะเลด้วยรถบสั
9 ่คาเช่ือม หมายถึง ่คาท่ีใ่ชเช่ือม่คา วลี หรือประโยคเ่ขา่ดวยกัน รายละเอียด และตัวอ่ยาง่คารวมทงั้ ประโยคของแ่ตละประเด็นมดี ังน้ี เ่ชน คำเชื่อม ▪ พ่อ และ แ่มไป่ทางาน ▪ ฉัน กับ เธอคงไ่ดอ่ยโู รงเรียนเดยี วกนั อกี ▪ เธอจะดโู ทรทัศน์ หรือ จะฟงั ฉันพดู ▪ เธอชอบดลู ะครหลงั ่ขาว แ่ต เขาชอบดูฟุตบอล ▪ รถตดิ จงึ มาเรียนสาย ▪ เศรษฐกจิ ไ่มดีแบบนม้ี ัน ก็ ่ลาบากกันท่วั ห่นา ▪ ความแตกแยก ซงึ่ ไ่ม่นาเกดิ ข้ึน ไ่ดเกิดข้นึ มานานแ่ลว
10 ่คาลง่ทาย หมายถึง ่คาที่ปรากฏใน่ตาแห่นง่ทายสุดของประโยค ไ่มมี ความสัมพันธ์กับ่สวนใดๆ ในประโยค อีกทั้งไ่มมีความหมายที่ชัดเจนในตัวเอง ่คาลง คำลงท้ำย ่ทาย่คาหน่ึงอาจมีรูป่คา่ยอยไ่ดมากก่วา 1 รูป เ่ชน ซิ ซิ่ ซี ซี่ นะ ่นะ ่นา ่นา ละ ่ลา เ่ลา ่คาลง่ทายแ่บงไ่ด 2 ประเภท ไ่ดแ่ก ่คาลง่ทายแสดงทัศนภาวะ และ่คาลง่ทายแสดง มารยาท 1 ่คาลง่ทายแสดงทัศนภาวะ ่คาลง่ทายแสดงทศั นภาวะ เ่ปน่คาลง่ทายทแ่ี สดงเจตนาหรอื ความ่รูสึก อาจแสดงไ่ด่ดวยการ ออกเสยี ง เ่ชน ออกเสียงสัน้ จะส่ือความท่ีม่ีนา้ หนักอาจแสดงอารมณ์โกรธ ไ่มพอใจ เ่ชน ซิ นะ เถอะ ละ หากออกเสยี งยาวอาจแสดงเจตนาชกั ชวน ขอ่รอง โ่นม่นาวใจ เ่ชน ซี่ ่นา ่นา หรืออาจใ่ช่คาลง่ทาย ประสมกนั ต้งั แ่ต 2 ่คาขนึ้ ไป เ่ชน เถอะนะ ซินะ ่ละซิ ละซนิ ะ -นเี่ งนิ ทอนซินะ -ทาไมไม่มาล่ะ -เข้ามาซิ -เปน็ แฟนกันเถอะ
12 ่คาลง่ทายแสดงมารยาท ่คาลง่ทายแสดงมารยาท เ่ปน่คาลง่ทายท่ีแสดงความสุภาพหรือไ่มสุภาพก็ไ่ด แ่ตใน ขณะเดียวกนั กแ็ สดงสถานภาพและความสัมพันธร์ ะห่วาง่ผพู ดู ่ดวย เ่ชน ครับ ่คะ คะ ขอรับ ่จะ ห่วะ ยะ -สวัสดีครับ -สบายดคี ะ่ -มอี ะไรให้ชว่ ยไหมคะ -ใครตดวะ -ฉันสวยยะ่
11 ่คาอุทาน หมายถึง ่คาพูดท่ีเป่ลงออกมาเพื่อแสดงอารมณ์ความ่รูสึกอ่ยางใด อ่ยางหน่ึง เ่ชน โถ่วาย โ่ธ โ่อโห ตายจริง ่ตายตาย เชอะ ทุเรศ พุทโ่ธ ตาเถร ่คาลง คำอทุ ำน ่ทายดังก่ลาวมักปรากฎห่นาประโยคเสมอ -โถ ! รัตนต์ ิญา ไมน่ า่ ตายเลย -วา้ ย ! ช่วยด้วย จกั รกฤษณจ์ ะปลา้ ฉนั -โอโ้ ห ! ทาไมครหู ล่อขนาดนี้
12 ่คาปฏิเสธ หมายถึง ่คาท่ีใ่ชบอกรับหรือไ่มรับ เ่ชน ไ่ม มิ ไ่ม่คอย หาไ่ม เป่ลา มิไ่ด ่คาปฏิเสธแ่บงไ่ด 2 ชนิด ไ่ดแ่ก คำปฏิเสธ ่คาปฏิเสธกรยิ า และ่คาปฏเิ สธ่ขอความ มรี ายละเอียดดงั น้ี 1 ่คาปฏเิ สธกรยิ า ่คาปฏิเสธกริยา หมายถึง ่คาทใ่ี ่ชแสดงการปฏเิ สธกริยา ่สวนใหญ่จะปรากฏห่นา่คากรยิ า เ่ชน มิ ไ่ม หาไ่ม ไ่ม่คอย -ฉันไม่ค่อยไดเ้ กรดส่เี ลย 2 ่คาปฏเิ สธ่ขอความ ่คาปฏเิ สธ่ขอความ หมายถงึ ่คาปฏิเสธทใี่ ่ชปฏิเสธ่คานาม เ่ชน หามไิ ่ด มิไ่ด เป่ลา -กระผมหามไิ ดด้ หู มน่ิ สถาบันเบื้องสูง
THANKSLoading…
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: