3. การแกสทรูเลชัน (gastrulation) : เป็นกระบวนกำรท่ีเซลลใ์ นเอ็มบรโิ อมีกำรจดั เรยี งเป็นชนั้ ต่ำงๆ (germ layer) 3 ชนั้ คือ ชนั้ เอกโตเดิรม์ (ectoderm) ชนั้ มีโซเดริ ม์ (mesoderm) และชนั้ เอนโดเดิรม์ (endoderm) ตำมลำดบั จำกดำ้ นนอกเขำ้ สดู่ ำ้ นใน -กำรเคล่อื นท่ีของเซลลใ์ นระยะแกสทรูลำ จะนำไปสกู่ ำรพฒั นำชอ่ งภำยในท่ีเรยี กวำ่ gastrocoel หรอื archenteron (ซง่ึ จะพฒั นำตอ่ ไปเป็นทอ่ ของระบบทำงเดนิ อำหำร) บรเิ วณชอ่ งเปิดของ gastrocoel นีจ้ ะเรยี กวำ่ blastopore ซง่ึ กำร พฒั นำของ blastopore นีจ้ ดั เป็นเกณฑห์ ลกั ในกำรจดั จำแนกสตั วใ์ นอำณำจกั รสตั วต์ อ่ ไป จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 51
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 52
- ชนั้ เนือ้ เย่ือแต่ละชนั้ นีจ้ ะมีกำรพฒั นำเปล่ยี นเป็นอวยั วะต่ำงๆ ในรำ่ งกำยดงั สรุปในตำรำง ชั้นเนอ้ื เยอื่ อวัยวะและเนอื้ เย่อื ทเ่ี จรญิ เม่อื เปน็ ตัวเตม็ วยั เอกโตเดริ ม์ (ectoderm) ชนั้ หนงั กำพรำ้ ของผิวหนงั เซลลเ์ ย่ือบผุ ิวในปำกและทวำรหนกั ระบบประสำท สว่ นของ กระจกตำและเลนสต์ ำ เซลลร์ บั ควำมรูส้ กึ ในผิวหนงั มโี ซเดริ ม์ (mesoderm) ระบบโครงกระดกู และกลำ้ มเนือ้ ระบบหมนุ เวียนเลือด ระบบขบั ถ่ำย ระบบสืบพนั ธุ์ เอนโดเดริ ม์ (ยกเวน้ เซลลท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กำรสรำ้ งเซลลส์ ืบพนั ธุ)์ เย่ือบชุ อ่ งตำ่ งๆ ในรำ่ งกำย (endoderm) เซลลบ์ ผุ ิวในระบบทำงเดินอำหำรและระบบทำงเดินหำยใจ ตบั ตบั อ่อน ตอ่ มไทรอยด์ และตอ่ มพำรำไทรอยด์ ตอ่ มไทมสั ทอ่ ปัสสำวะ กระเพำะปัสสำวะ และระบบสบื พนั ธุ์ 4. ออร์แกนโนเจเนซีส และมอร์โฟเจเนซีส (Organogenesis and Morphogenesis) : เป็นกระบวนกำรท่ีเนือ้ เย่ือทงั้ 3 ชนั้ ของเอม็ บรโิ อมีกำรเปล่ียนแปลงเป็นอวยั วะต่ำงๆ โดยระบบแรกท่ีมีกำรพฒั นำคือ ระบบประสำท (Nervous system) จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 53
Origin of an animal’s body parts จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 54
1 1. Cleavage 2. Blastula 2 3. Gastrulation 4. Organogenesis 3 4 จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 55
ชนิดของไข่ (egg type) แบง่ ตามปรมิ าณของไขแ่ ดง 56 1.Homolecithal egg : เป็นไข่ท่ีมี ไขแ่ ดงนอ้ ย กระจำยปนอยใู่ นไซโทพลำซมึ เช่น ไข่ดำวทะเล 2.Mesolecithal egg : เป็นไข่ท่ีมี ไข่แดงปำนกลำง ไขจ่ ะรวมกนั อยดู่ ำ้ นใด ดำ้ นหน่งึ ของไข่ เช่น ไขก่ บ 3.Polylecithal egg : เป็นไข่ท่ีมีไข่ แดงมำก เชน่ ไข่ของไก่ นก จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล
การเจรญิ ของเอ็มบรโิ อของกบ - ไข่กบมี 2 ดำ้ น คือ 1. ครึ่งบน (Animal pole) มีสเี ขม้ เน่ืองจำกสำรสเี มลำนิน (melanin) เป็นดำ้ นท่ีสเปิรม์ จะเขำ้ ปฏิสนธิ 2. คร่ึงล่ำง (Vegetal pole) มีสจี ำง มีอำหำรหรอื ไขแ่ ดงสะสมจมอยู่ ดำ้ นลำ่ ง - กำรเจรญิ มี 2 ระยะ คือ 1. ระยะเอม็ บรโิ อ (2 วนั ) มี 4 ระยะยอ่ ย คือ คลเี วจ โฮโลบลำสติก คลเี วจ , บลำสทเู ลชนั , แกสทรูเลชนั , ออรแ์ กนโนเจเนซีส และ มอรโ์ ฟเจเนซีส 2. ระยะหลงั เอม็ บรโิ อ จะมีเมตำมอรโ์ ฟซสิ 57 จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล
Frog Life Cycle 58 จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล
สตั วก์ ลมุ่ แอมนโิ อต (amniotes) Amniotes คอื สตั วม์ ีกระดกู สนั หลงั กลมุ่ ท่ีมีกำรสรำ้ งโครงสรำ้ งพเิ ศษสำหรบั ห่อหมุ้ ตวั อ่อน (extraembryonic membrane) ไดแ้ ก่ สตั วเ์ ลอื้ ยคลำน สตั วป์ ีก สตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยนำ้ นม ซง่ึ มีโครงสรำ้ งหลำยอย่ำงท่ีพฒั นำขนึ้ สำมำรถสรุปไดด้ งั นี้ 1.ถุงไข่แดง (yolk sac) ภำยในบรรจไุ ขแ่ ดง (yolk) ซง่ึ ถกู ใชเ้ ป็น อำหำรเลยี้ งตวั ออ่ นขณะเจรญิ อยภู่ ำยในไข่ 2.ถุงนำ้ คร่ำ (amnion) ภำยในมีของเหลวบรรจเุ รยี กว่ำ นำ้ ครำ่ (amniotic fluid) ทำหนำ้ ท่ีในกำรปอ้ งกนั กำรกระทบกระเทือน และปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ อ็มบรโิ อแหง้ จนเกิดกำรขำดนำ้ ขนึ้ 3.ถุงแอลแลนทอยส์ (allantois) เป็นสว่ นท่ีอย่ชู ิดตดิ กบั คอเรยี น พรอ้ มกบั มีหลอดเลอื ดฝอยอย่โู ดยรอบ ทำหนำ้ ท่ีในกำรเก็บของเสีย ประเภทกรดยรู กิ เอำไว้ จนกวำ่ เอ็มบรโิ อจะฟักออกจำกไข่ รวมถึงกำร แลกเปล่ยี นแก๊ส 4.คอเรียน (chorion) เป็นเมมเบรนสว่ นท่ีอย่นู อกสดุ และอยตู่ ดิ กบั เปลอื กไข่ ทำหนำ้ ท่ีในกำรแลกเปล่ยี นแก๊ส 5.เปลอื กไข่ (shell) ชว่ ยในกำรปอ้ งกนั อนั ตรำยและปอ้ งกนั กำร สญู เสยี นำ้ ของเซลลไ์ ข่ จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 59
สรุปโครงสรา้ งและการแกป้ ญั หาของเอม็ บรโิ อไก่ 60 • ถุงแอลแลนทอยส์ (Allantois) ทำหนำ้ ท่ีแลกเปล่ยี น แกกรด๊สยOรู กิ 2หแรอืละทCำหOน2ำ้ ทร่ีขวบัมถท่ำงั้ ยเกน็บ่นั สเอะสงมของเสียประเภท • ถุงนำ้ คร่ำ (Amnion) อย่รู อบเอ็มบรโิ อ บรรจขุ องเหลว เรยี กวำ่ นำ้ ครำ่ (Amniotic fluid) มีหนำ้ ท่ีปอ้ งกนั กำรกระทบกระเทือนใหก้ บั เอ็มบรโิ อ • เปลือกไข่ (Shell) มีหนำ้ ท่ีปอ้ งกนั อนั ตรำย และ ลดกำรสญู เสียนำ้ • ไข่แดง (Yolk) เป็นแหลง่ อำหำรของตวั อ่อน จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล
การเจริญของไก่ • เซลลไ์ ข่คอื เฉพำะบรเิ วณท่ีเรยี กวำ่ ไข่แดง ประกอบดว้ ยนิวเคลยี สและไซโทพลำสซมึ ไก่พันธุ์บรำห์มำ กำรเจริญของเอม็ บรโิ อไก่ : cleavage แบบ Meroblastic Blastulation Gastrulation Organogenesis and Morphogenesis แบ่งเซลลเ์ ฉพำะบรเิ วณเลก็ ๆ ใกลผ้ ิวเซลล์ ซง่ึ ปลอดจำกไขแ่ ดง เพรำะไขแ่ ดงมีมำกแบง่ ไมไ่ ดเ้ รยี ก มีโรบลำสตกิ (Meroblastic cleavage) จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 61
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล เสริมเกรด็ ความรู้!! 62
ขั้นตอนการปฏสิ นธแิ ละการเจรญิ ของเอม็ บรโิ อมนษุ ย์ -กำรปฏิสนธิ(Fertilization) ของมนษุ ยเ์ กิดขนึ้ ท่ีบรเิ วณสว่ น ampulla ท่อนำไข่ (oviduct) หรอื ปีกในสตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยนำ้ นม ไข่ท่ีไดร้ บั กำรผสมจะแบง่ ตวั ตอ่ ไป และเคล่อื นไปฝังตวั ในมดลกู ภำยใน 7 วนั Sperm (n)+ Ovum (n) ซ่งึ กำรปฏิสนธิเกิดท่ีตอนตน้ 1/3 ของท่อนำไข่หรอื 2/3 ตอนปลำยของปีกมดลกู ในวนั ท่ี 14 ของรอบเดือน zygote (2n)เอ็มบริโอระยะ Blastocyst (อำยุ 7 วนั ฝังตวั ท่ีผนงั มดลกู ชนั้ ใน (วนั ท่ี 21 ของรอบเดือน) ตงั้ ครรภ์ เอ็มบรโิ ออำยุ 8-10 สปั ดำห์ (ประมำณ 2 เดือน) ซ่งึ สิน้ สดุ ระยะเอ็มบรโิ อเน่ืองจำกมีอวยั วะ ตำ่ งๆ ครบแลว้ ฟีตสั (fetus) คลอด -เม่ือเกิดกำรปฏิสนธิจะเกิดกำรคลีเวจเพ่ิมจำนวนเซลล์ เป็นมอรูลำ และบลำสทลู ำตำมลำดบั จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 63
-เม่ือเอ็มบรโิ อมีอำยปุ ระมำณ 8 สปั ดำหจ์ ะมีกำรพฒั นำ อวัยวะต่ำงๆ จนครบ เรียกเอ็มบริโอตั้งแต่ระยะ 8 สปั ดำหข์ นึ้ ไปวำ่ ฟี ตสั (fetus) จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล
-ในประมำณวนั ท่ี 7 เอ็มบรโิ อในระยะ blastocyst จะมีกำรสรำ้ งถงุ คอเรยี นขนึ้ ลอ้ มรอบ และเกิดกำรฝังตวั ท่ีผนงั มดลกู ชนั้ ใน โดยส่วนของ trophoblast จะมีกำรเจรญิ ต่อไปเป็นรก (placenta) ถำ้ เอ็มบรโิ อไปฝังตวั ท่ีบริเวณอ่ืนนอกจำกมดลกู ถือว่ำ เป็นกำรทอ้ งนอกมดลกู ซง่ึ อำจจะเป็นอนั ตรำยกบั แมไ่ ด้ รก (placenta) : เป็นโครงสรำ้ งท่ีเกิดขนึ้ จำก ถงุ คอเรยี น (chorion) ของลกู และเนือ้ เย่ือของ ผนังมดลูกชั้นในของแม่ ทำหนำ้ ท่ีเก่ียวข้องกับ กำรแลกเปล่ียนแก๊ส สำรอำหำร และของเสีย ต่ำงๆ นอกจำกนี้ รกยังทำหน้ำท่ีในกำรสร้ำง ฮอรโ์ มน HCG (human chorionic gonadotropin) ท่ี จ ะ รัก ษ ำ ส ภ ำ พ ข อ ง corpus luteum ใหค้ งอย่สู ำหรบั กำรสรำ้ ง ฮอรโ์ มน progesterone และ estrogen เพ่ือปอ้ งกนั ไม่ใหผ้ นงั มดลกู ชนั้ ในหลดุ ออกไปเม่ือ เอม็ บรโิ อฝังตวั แลว้ จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 65
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 66
Human fetal development จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 67
การเจรญิ ของเอม็ บรโิ อมนษุ ย์ • เอม็ บรโิ อของมนษุ ยอ์ ย่ใู นมดลกู ของแม่ ระยะเอม็ บรโิ อมนษุ ยส์ นิ้ สดุ ลงเม่ือ 8-10 สปั ดำหห์ ลงั ปฏิสนธิ หลงั จำกนีไ้ ปจะเรยี ก เอม็ บรโิ อว่ำ ฟีตสั (fetus) เพรำะมีอวยั วะตำ่ งๆ ครบแลว้ เยอื่ หุม้ ทำรก (Fetal membrane) 3. คอเกรียน (Chorion) เจรญิ เป็นสว่ นหน่งึ ของรก 68 1. ถุงหมุ้ ไข่แดง (Yolk sac) ใหอ้ ำหำรใน 4. แอลแลนทอยส์ (Allantois) เจรญิ เป็นสว่ นหนง่ึ ช่วงแรกๆ ตอ่ มำไม่ทำหนำ้ ท่ีใดๆ ของรก 2. ถุงนำ้ คร่ำ (Amnion) ปอ้ งกนั กำร กระทบกระเทือนใหแ้ ก่ทำรก ช่วยควบคมุ อณุ หภมู ิ จะ 5. รก (Placenta) ทำหนำ้ ท่ีใหอ้ ำหำรแก่ทำก แตกก่อนคลอดเรยี กวำ่ นำ้ ทนู หวั เปรยี บเสมือนลมิ่ แลกเปล่ยี นแก๊ส ขบั ถ่ำยของเสีย และสรำ้ งฮอรโ์ มน ของเหลว (hydrostatic wedge) ชว่ ยให้ คลอดสะดวก หรอื เทียบไดก้ บั ถงุ ไข่แดง (ใหอ้ ำหำร) HCG กบั Progesterone ดงั นนั้ รกจึงเปรยี บไดก้ บั และแอลแลนทอยส์ (แลกเปล่ยี นแก๊สและขบั ถ่ำยของ ลำไสเ้ ล็ก (แหลง่ ดดู ซมึ อำหำร) ปอด (แลกเปล่ยี นแก๊ส) เสยี ) ในเอ็มบรโิ อไก่ และไต (ขบั ถ่ำยของเสีย) จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 6. สำยสะดอื (Umbilical cord) เป็นโครงสรำ้ ง ติดตอ่ กนั ระหวำ่ งทำรกกบั รก ภำยในมีหลอดเลือด 3 เสน้ คอื 2 Artery ลำเลยี งเลอื ดเสียออกจำกทำรก และ 1 Vein ลำเลียงเลือดดีจำกรกเขำ้ สทู่ ำรก
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 69
เมทามอร์โฟซิส (Metamorphosis) : สตั วท์ ่ีมีเมทำมอรโ์ ฟซสิ ไดแ้ ก่ กงั้ กงุ้ ปู แมลงสว่ นใหญ่ และสตั วส์ ะเทนิ นำ้ สะเทินบก (amphibians) เมทำมอรโ์ ฟซสิ หมำยถงึ กำรเจรญิ เติบโต 70 หลงั ระยะเอม็ บรโิ อของสตั วซ์ ง่ึ มีกำรเปล่ยี นแปลงทงั้ รูปรำ่ งลกั ษณะ พฤติกรรม และกำรดำรงชีวิตไปจำก เดมิ อยำ่ งมำก กำรเปล่ยี นแปลงรูปรำ่ งระหวำ่ งกำร เจรญิ เติบโตหลงั ระยะเอม็ บรโิ อของสตั วม์ ีแบบตำ่ งๆ จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล
การเจรญิ เตบิ โตหลงั ระยะตวั ออ่ นของแมลง กำรเจรญิ เตบิ โตหลังระยะตวั อ่อนของแมลง จะมี 4 ลักษณะ คอื 1. อะเมตาโบลสั (Ametabolus) หรอื อะเมทามอรโ์ ฟซสิ (Ametamorphosis) ไม่มเี มทำมอรโ์ ฟซสิ เชน่ ตวั สองง่ำม ตวั สำมงำ่ ม แมลงแมลงหำงดดี จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 71
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 72
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 73
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 74
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 75
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 76
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 77
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 78
กราฟแสดงการเตบิ โตของสงิ่ มีชวี ติ 1. กราฟรปู ตวั เอส (s-shave curve) 2. กราฟรปู ตวั เอสตอ่ เนอ่ื ง 3. กราฟรปู ขนั้ บนั ได (Intermittent growth) • พบในสตั วท์ ่วั ๆ ไป (ยกเวน้ อำรโ์ ทรพอด) และ • พบในไมย้ ืนตน้ ท่ีมีเนือ้ ไม้ พบในพืชลม้ ลกุ โดยแบง่ กำรเจรญิ เติบโตเป็น (perennial woody • พบในอำรโ์ ทรพอดทกุ ชนิด เช่น 3 ระยะตำมแผนภำพ คอื plant) ซง่ึ มีกำรเจรญิ เติบโตใน แมลง กงุ้ กงั้ ปู ตะขำบ และกิง้ กือ 1) ระยะ I มีอตั รำกำรเติบโตต่ำ แต่ละฤดกู ำลไมเ่ ท่ำกนั ซง่ึ มีกำรลอกครำบเพ่ือกำรเติบโต 2) ระยะ II มีอตั รำกำรเตบิ โตสงู สดุ 3) ระยะ III มีอตั รำกำรเตบิ โตต่ำสดุ • โดยในฤดนู ำ้ มำกจะมีอตั รำเติบโต สงู สว่ นฤดแู ลง้ จะมีอตั รำเติบโตต่ำ จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 79
จัดทำโดย ครูสุกฤตำ โสมล 80
Search