Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ppt 3_มนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครูสุกฤตา

ppt 3_มนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครูสุกฤตา

Published by suklittha24, 2023-01-31 07:53:22

Description: ppt 3_มนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครูสุกฤตา

Search

Read the Text Version

โดยครูสกุ ฤตา โสมล ป่าไม้ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วเกิดทดแทนได้ ป่าไม้ เป็นแหล่งรวมของความหลากหลายทางชีวภาพ มีความส้าคัญใน ด้านเศรษฐกิจและสังคม มนุษย์ใช้ประโยชน์จากป่าไม้ทั้งทางตรง และทางอ้อม ▪ ประโยชน์ทางตรง เช่น น้าผลผลิตจากป่าไม้หรือผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในป่า มาใช้เปน็ แหล่งเอือ้ อา้ นวยต่อปัจจัยสใี่ นการดา้ รงชีวติ มนษุ ย์ ▪ ประโยชน์ทางออ้ ม เช่น เปน็ แหลง่ หมนุ เวยี นสารในระบบนเิ วศ เป็นแหล่ง ต้นน้าล้าธาร ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิของโลก ควบคุมปริมาณน้าฝน ช่วยในการอนุรักษ์ดินและน้า ท้าให้เกิดความชุ่มชื้น ดินอุดมสมบูรณ์ ป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน เป็นแหล่งท่ีอยู่อาศัยของสัตว์ป่า และ ยังใช้เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ตามธรรมชาติ ป่าไม้ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การลักลอบตัด ไ ม้ ท้ า ลา ย ป่ า ก า ร บุ กรุ ก พ้ื น ท่ีป่ า เ พ่ื อ การ ครอบคร องที่ดินใ นการอยู่อาศัย ก า ร ท้ า เ ห มื อ ง แ ร่ ก า ร ส ร้ า ง โ ร ง แ ร ม รีสอร์ท และสนามกอล์ฟ การเพิ่มขึ้นของ จ้านวนประชากร การเกิดไฟไหม้ป่า และ จากการกระท้าของมนุษย์ 51

โดยครูสกุ ฤตา โสมล 52

โดยครูสกุ ฤตา โสมล 53

ปัญหาท่เี กิดจากการลดลงของทรพั ยากรป่าไม้ 1. ทา้ ให้เกิดแกส๊ CO2 เพม่ิ ข้นึ เกดิ ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก มีผลท้าให้ อุณหภมู ขิ องผิวโลกสูงขึ้น เกิดสภาพแห้งแล้ง สภาพอากาศแปรปรวนท้า ให้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงมากขึ้นในหลายภูมิภาค ท่ัวโลกซึ่งมี ผลกระทบต่อมนษุ ย์และสง่ิ มชี วี ติ ต่างๆ 2. เกดิ อทุ กภัยเมือ่ ฝนตกหนกั จะเกิดน้าป่าไหลหลาก เนื่องจากไม่มีป่าไม้ เ ป็ น แ น ว ก้ั น ห รื อ ช่ ว ย ช ะ ล อ ก า ร ไ ห ล อ ย่ า ง รุ น แ ร ง ข อ ง น้ า จ ะ ท้ า ใ ห้ กระแสนา้ ท่ีไหลหลากลงมาจากพื้นท่ีลาดชันอย่างรวดเร็ว ท้าให้เกิดการ พงั ทลายของดินและส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อบ้านเรือน ชวี ิต และทรพั ยส์ ิน 3. สัตว์ปา่ และพชื พรรณธรรมชาตลิ ดจา้ นวนลงหรือสูญพันธ์ุ เนื่องจาก ขาดแคลนแหล่งท่ีอยู่และแหล่งอาหาร นอกจากน้ีส่ิงมีชีวิตในป่าหลาย สปีชีส์มีปฏิสัมพันธ์กัน การสูญหายไปของบางสปีชีส์อาจมีผลกระทบต่อ ระบบนิเวศ อีกทั้งยังท้าให้การหมุนเวียนแร่ธาตุในระบบนิเวศหยุดชะงัก เกิดผลกระทบเป็นลกู โซต่ ่อสิ่งมชี ีวิตอนื่ ๆ 4. เสียโอกาส ในการใช้ประโยชน์จากป่า เพื่อการศึกษาวิจัยและเป็น แหล่งเรียนรู้ เน่ืองจากป่าไม้เป็นห้องสมุดธรรมชาติท่ีใหญ่ที่สุด เป็น แหล่งในการศึกษาค้นคว้า วิจัย ทางด้านอาหารและยารักษาโรค ก า ร ล ด ล ง ข อ ง พ้ื น ที่ ป่ า ไ ม้ ท้ า ใ ห้ สู ญ เ สี ย โ อ ก า ส ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ จ า ก การพัฒนานวตั กรรมท่เี กดิ จากผลผลติ จากป่า โดยครูสกุ ฤตา โสมล 54

แนวทางการจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ 1. การปฏิบตั ติ ามนโยบายแห่งชาติ โดยก้าหนดให้ประเทศไทย มพี ้ืนทีป่ า่ ไมท้ ง้ั ประเทศอยา่ งนอ้ ยร้อยละ 40 2. สร้างความตระหนัก กระตุ้นจิตส้านึกในการอนุรักษ์ป่าไม้ และให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องประโยชน์และความส้าคัญ ของป่าไม้ 3. การส่งเสริมการปลูกป่าและป้องกันการบุกรุกป่า โดยการ ปลูกป่าทดแทนในส่วนท่ีโค่นหรือถูกตัดท้าลายไปหรือปลูกป่า ทดแทนในพนื้ ทปี่ า่ เสื่อมโทรมโดยใช้พันธุ์ไม้ดั้งเดิมเพ่ือฟื้นฟูป่า และยังคงรักษาสมดุลของระบบนิเวศนั้นๆ การปฏิรูปการใช้ ท่ีดินอย่างมีประสิทธิภาพ จัดสรรที่ดินให้ราษฎรมีที่ดินท้ากิน เพ่ือลดการบุกรุกพ้ืนที่ป่าไม้ ยกเลิกสัมปทานป่าไม้ไม่ให้มีการ ตดั ถนนผ่านป่ากส็ ามารถชว่ ยอนุรกั ษป์ ่าไม้ไดเ้ ช่นกัน 4. การใช้ไม้อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาถึง ความสา้ คัญและจา้ เป็นในการนา้ ไมม้ าใช้ประโยชน์ 5. ลดการใช้ไม้จากป่า รณรงค์ให้ใช้วัสดุอื่นแทนไม้เพ่ือลด การใช้ไม้จากป่า ตลอดจนเร่งส่งเสริมให้ใช้ไม้จากการปลูก ทดแทนจากป่าไม้โดยตรง พัฒนาและส่งเสริมเทคโนโลยีการ ปรับปรุงพันธุ์พืชให้สามารถผลิตเนื้อไม้ที่มีคุณภาพ ใช้พื้นท่ี น้อยลงในการปลูก โตเร็ว มีต้นทุนการผลิตต่้า ส่งเสริมงานวิจัย และนวัตกรรมเพ่อื พฒั นาวสั ดุทเ่ี ทยี บเท่าหรอื ทดแทนการใช้ไม้ 6. การก้าหนดเขตป่าอนุรักษ์ โดยก้าหนดพ้ืนที่ที่ได้รับการคุ้มครองที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งอยู่ในความดูแล ของกรมปา่ ไม้เพอื่ ใช้ประโยชน์ในการอนุรกั ษ์ โดยครูสกุ ฤตา โสมล 55

ตารางแสดงประเภทและลกั ษณะของป่าอนรุ กั ษ์ ป่าอนุรักษ์ ลักษณะสาคญั -พ้ืนทธ่ี รรมชาตทิ ีส่ วยงาม มีความอดุ มสมบูรณแ์ ละมีความหลากหลายตามธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติ -มีพื้นท่ีไม่น้อยกว่า 10 km2 หรือ 6,250 ไร่ ในปีพ.ศ.2561 ประเทศไทยมีอุทยานแห่งชาติที่ (national park) จดั ตง้ั อยา่ งเป็นทางการทั้งหมด 131 แหง่ และอยูร่ ะหว่างการจัดตัง้ อกี 23 แห่ง -อทุ ยานแห่งชาตแิ ห่งแรก คือ อทุ ยานแห่งชาตเิ ขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วนอทุ ยาน (forest park) -พน้ื ทข่ี นาดเล็ก ส่วนใหญ่มักอยใู่ นเขตป่าสงวนแห่งชาติ -เป็นสถานท่ีพกั ผ่อนหยอ่ นใจ อยไู่ ม่หา่ งไกลจากชุมชน สวนพฤกษศาสตร์ -วนอุทยานแห่งแรก คือ วนอุทยานน้าตกกะเปาะ จ.ชุมพร (botanical garden) -เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิดและมีการจัดหมวดหมู่ตามหลักพฤกษศาสตร์เพื่อเป็น แหล่งอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ศึกษาวิจัยและขยายพันธุ์ เป็นท่ีพักผ่อนหย่อนใจ สวนรกุ ขชาติ ของประชาชน (arboretum) -สวนพฤกษศาสตร์แหง่ แรก คือ สวนพฤกษศาสตรพ์ แุ ค จ.สระบรุ ี -เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ที่มีค่า หายากหรือใกล้สูญพันธ์ุซึ่งอยู่ในท้องถิ่น เช่นไม้ดอกและ โดยครูสกุ ฤตา โสมล ไมย้ นื ต้นท่มี ีค่า มพี ้นื ท่ีนอ้ ยกว่าสวนพฤกษศาสตรแ์ ละไมม่ กี ารจัดระบบหมวดหมู่พนั ธุไ์ ม้ -เปน็ ทใ่ี ห้ความรู้เกย่ี วกับพนั ธ์ุไมแ้ ละเป็นแหล่งพกั ผอ่ นหย่อนใจ -ปีพ.ศ.2562 ประเทศไทยมีสวนรุกขชาติ 53 แหง่ เชน่ สวนรุกขชาติหว้ ยแกว้ จ.เชียงใหม่ 56

ป่าอนุรกั ษ์ ลกั ษณะสาคัญ -พน้ื ที่ท่กี ้าหนดข้นึ เพอ่ื คมุ้ ครองสัตวป์ ่า ให้เป็นทอ่ี ยู่อาศยั ของสตั ว์ป่า รกั ษาไว้ เขตรกั ษาพันธุ์สตั วป์ ่า ซ่งึ พันธสุ์ ัตว์ป่า ตลอดจนคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรอื (wildlife sanctuary) ระบบนเิ วศให้คงเดิม เพ่ือประโยชน์ในการอนรุ ักษ์และคมุ้ ครองสตั วป์ า่ และ ความหลากหลายทางชวี ภาพ -เช่น เขตรักษาพันธ์สุ ตั วป์ า่ อุ้มผาง จ.ตาก พ้ืนท่ีอนุรักษ์ธรรมชาติ -พ้ืนที่ตามธรรมชาติ เช่น เกาะ ภูเขา ทะเลสาบ ซากดึกด้าบรรพ์ ท่ีควรอนุรักษ์เพ่ือประโยชน์ต่อ (natural conservation area) เศรษฐกิจและสงั คม เชน่ สสุ านหอย จ.กระบ่ี -พ้ืนท่ีท่ีก้าหนดขึ้นเพื่อการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อรักษาความหลากหลายทาง พ้ืนทส่ี งวนชีวาลัย พนั ธุกรรมของพืชและสตั ว์ เชน่ ป่าสะแกราช จ.นครราชสีมา (biosphere reserve) -พ้ืนที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่มีความเด่นระดับโลก อาจเป็นพื้นที่ท่ีมีวิวัฒนาการทางธรณีและ สิ่งมีชีวิต หรือระบบนิเวศที่ประกอบด้วยสัตว์และพืชท่ีหายาก มีคุณค่าและความส้าคัญทาง พ้ืนทีม่ รดกโลก ชีวภาพโดยได้รับการประกาศจาก UNESCO ได้แก่ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (world heritage) จ.กาญจนบรุ แี ละ จ.ตาก และห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี -ป่าชายเลนทีส่ งวนไวเ้ พือ่ สภาพแวดล้อม และเปน็ แหล่งเพาะพันธ์ุพืชและสตั วน์ ้าเศรษฐกจิ ป่าชายเลนอนุรกั ษ์ (conservation mangrove forest) ป่าชุมชน -ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์หรือพ้ืนท่ีอ่ืนของรัฐนอกเขตป่าอนุรักษ์ที่ได้รับอนุมัติให้จัดต้ังเป็น 57 ป่าชุมชน โดยชุมชนร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการ บ้ารุงรักษา ตลอดจนใช้ประโยชน์ โดยครูสกุ ฤตา โสมล จากทรัพยากรต่างๆ ในป่าชุมชนอย่างสมดุลและยั่งยืน ชุมชนแต่ละแห่งสามารถอนุรักษ์ป่า ชมุ ชนตามบริบท วัฒนธรรมและประเพณีท่แี ตกตา่ งกันไปในแต่ละชมุ ชน

58 โดยครูสกุ ฤตา โสมล

Ep. 5 ทรพั ยากรสตั วป์ ่ า - การใชป้ ระโยชน์ - ปัญหาและการจดั การ โดยครูสกุ ฤตา โสมล

สัตว์ป่า เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีใช้แล้วเกิดทดแทนได้ หมายถึง สัตว์ทุกชนิดท้ัง สตั ว์บก สัตว์น้า สตั วส์ ะเทินน้าสะเทินบก สัตว์ปีก และแมลงหรือแมง รวมทั้งไข่ของสัตว์ ทุกชนิดที่เกิดและด้ารงชีวิตอยู่ในป่าหรือแหล่งน้าตามธรรมชาติ แต่ก็พบว่ามีสัตว์ป่า บางชนิดที่สูญพันธ์ุไปแล้วเช่น สมัน หรือบางชนิดลดลงและเส่ียงต่อการสูญพันธ์ุ เช่น นกแต้วแล้วท้องด้า ▪ สัตว์ป่ามีประโยชน์ต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม เช่น ช่วยให้เกิดความสมดุลของระบบ นิเวศ มั้งด้านการกระจายเมล็ดพันธุ์พืช การผสมเกสร การท้าลายศัตรูพืช การท้าให้ ดินอดุ มสมบูรณ์จากมูลสตั ว์ ในปัจจุบันน้ีพบว่า สัตว์ป่าบางชนิดได้สูญพันธ์ุไปแล้ว และหลายชนิดก้าลังมีแนวโน้มลดลงซ่ึงมาจากหลายสาเหตุ การลดลง ของพ้ืนที่ป่าไม้มีส่วนสัมพันธ์โดยตรงที่ท้าให้จ้านวนสัตว์ป่าลดลง เนื่องจากขาดแคลนท่ีอยู่อาศัยและแหล่งอาหาร ซ่ึงแนวโน้ม ของการลดลงสว่ นใหญเ่ กิดจากมนษุ ย์เปน็ ผกู้ ระท้า โดยครูสกุ ฤตา โสมล 60

พระราชบญั ญตั สิ งวนและคมุ้ ครองสตั วป์ ่า พ.ศ.2562 ตามพระราชบญั ญตั ิสงวนและคุ้มครองสัตวป์ า่ พ.ศ.2562 ได้ให้ความหมายของค้าต่อไปน้ี 61 ▪ สัตว์ปา่ หมายถึง สัตวท์ ุกชนิดซ่ึงโดยท่ัวไปย่อมเกิดและด้ารงชีวิตอยู่ในธรรมชาติอย่างเป็นอิสระ และให้ความหมายรวมถึง ไข่และตัวอ่อนของสัตว์เหล่าน้ันด้วย แต่ไม่หมายความรวมถึงสัตว์พาหนะตามกฎหมายว่าด้วยสัตว์พาหนะ สัตว์ซ่ึงได้รับ การยอมรับในทางวชิ าการวา่ สายพนั ธนุ์ ั้นเป็นสตั ว์บา้ นไม่ใช่สัตวป์ ่า และสัตว์ท่ีได้มาจากการสบื พนั ธุข์ องสัตว์ดังกล่าว ▪ สตั วป์ ่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าหายากหรือสัตว์ปา่ ใกลส้ ูญพันธ์ุจ้าเป็นต้องสงวนและอนุรักษ์ไว้อย่างเข้มงวดตามท่ีก้าหนดไว้ ในพระราชบญั ญัติน้ี ▪ สัตว์ป่าคุ้มครอง หมายถึง สัตว์ป่าท่ีมีความส้าคัญต่อระบบนิเวศ หรือจ้านวนประชากรของสัตว์ป่าชนิดน้ันมีแนวโน้มลดลง อาจส่งผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศตามทก่ี ้าหนดไว้ในพระราชบัญญัตนิ ้ี ▪ สัตว์ป่าควบคุม หมายถึง สัตว์ป่าที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซ่ึงชนิดสัตว์ป่าและพืช ปา่ ทีใ่ กลส้ ูญพันธุ์ และสัตว์ป่าอนื่ ท่ีต้องมมี าตรการควบคมุ ทีเ่ หมาะสมตามทก่ี ้าหนดไว้ในพระราชบัญญัตนิ ี้ ▪ สัตว์ป่าอันตราย หมายถึง สัตว์ป่าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือเป็นพิษต่อมนุษย์หรือสัตว์ป่าอื่นหรือมีผลคุกคามให้สัตว์ป่า พชื ป่า ส่ิงแวดล้อม หรือระบบนิเวศเปล่ียนแปลงเสียหายอย่างรวดเร็ว หรือเป็นพาหะน้าโรคหรือแมลงศัตรูพืชตามที่ก้าหนด ไวใ้ นพระราชบญั ญตั นิ ี้ โดยครูสกุ ฤตา โสมล

โดยครูสกุ ฤตา โสมล 62

ข้อมลู เพิ่มเตมิ ; สัตว์ป่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าหายาก มีทั้งหมด 15 ชนิด คือ แรด กระซู่ กูปรีหรือ โคไพร ควายป่า ละองหรือละม่ัง เนื้อสมัน กวางผา เลียงผา นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร นก แต้วแร้วท้องด้า นกกระเรียน แมวลายหิน อ่อน สมเสร็จ เก้งหม้อ พะยูนหรือหมูน้า ห้ามล่าหรือมีไ ว้ใ นคร อบครอง สัตว์ท้ัง 15 ชนดิ รวมถงึ ซากของสัตว์ป่าเหล่าน้ีโดย เด็ดขาด เว้นแต่ท้าเพื่อการศึกษาหรือเพื่อ กิจการของสวนสาธารณะ โดยต้องขอ อนญุ าตจากกรมป่าไม้ o ปัจจุบันพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ได้เพิ่มสัตว์ป่าสงวนชนิดใหม่อีก 4 ชนิด รวมเป็น 19 ชนิด โดยสัตว์ป่าสงวนชนิดใหม่ 4 ชนิด คอื - วาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni) - เต่ามะเฟอื ง (Dermochelys coriacea) - วาฬโอมรู ะ (Balaenoptera omurai) - ฉลามวาฬ (Rhincodon typus) 63 โดยครูสกุ ฤตา โสมล

ขอ้ มลู เพิ่มเติม; สัตว์ป่าคุ้มครอง หมายถึง สัตว์ป่าที่มีพระราชบัญญัติไว้ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แมวป่ า 1. สัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 เป็นสัตว์ป่าท่ีสงวนไว้เพื่อประดับความงาม ตามธรรมชาติหรือสงวนไว้มิให้ลดจ้านวนลง สัตว์ประเภทน้ีห้ามล่าเว้นแต่จะ ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ก่อน มีทั้งหมด 166 รายการ เช่น ช้าง ชะมด กระรอก ลิง ชะนี เม่น นาก แมวป่า เสือ ปลา อีเห็น นกเงือก นกกวัก นกขนุ ทอง 2. สัตว์ป่าคุ้มครองประเภทท่ี 2 เป็นสัตว์ท่ีก่อนล่าต้องได้รับอนุญาตจากทาง ราชการ และต้องปฏบิ ัติอย่างเคร่งครัดเก่ียวกับวิธีการ อาวุธที่ใช้ สถานท่ี และ ระยะเวลาที่ท้าการล่า มีท้ังหมด 29 ชนิด เช่น กระทิง กวาง กระจง วัวแดง ช้าง เสอื โคร่ง เสอื ดาว อเี กง้ หมีคน หมีควาย นกกระสา ไก่ป่า นกอีโก้ง นกอีโก้ง นกกระสา (แดง) นกกวัก ปจั จบุ นั จ้านวนสัตวป์ า่ ลดลงและมแี นวโนม้ ลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากพน้ื ทีป่ า่ ไม้ซง่ึ เป็นแหล่งท่ีอยู่อาศัย แหล่งหากิน และแหล่งสืบพันธุ์ ของสัตว์ป่ามจี า้ นวนลดลง และมีการล่าสตั วป์ ่าเพ่ือประโยชน์ทางด้านเศรษฐกจิ โดยครูสกุ ฤตา โสมล 64

สาเหตทุ ที่ าให้สตั ว์ป่าลดจานวนลง เช่น การท้าลายแหล่งท่ีอยู่อาศัยของสัตว์ป่า การล่าสัตว์ การลักลอบคา้ สัตวป์ ่า ภัยธรรมชาติ - การสญู เสียแหล่งท่ีอยู่อาศยั : สตั วป์ า่ หลายชนิดต้องการแหล่งท่ีอยู่อาศัยที่เหมาะสมแก่การด้ารงชีวิตและสืบทอดเผ่าพันธุ์ การตัด ไมท้ ้าลายปา่ การบุกรกุ ท่ีดนิ เพ่ือสร้างที่อยู่อาศัย การท้าเกษตรกรรมและการอุตสาหกรรม การสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้า เป็นสาเหตุที่ ส่งผลใหส้ ตั ว์ป่ามีจา้ นวนลดลง เน่ืองจากสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร แหล่งขยายพันธุ์และเลี้ยงดูลูกอ่อน ตลอดจนเป็นแหล่ง หลบภัย สัตว์ป่าบางชนิดไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมท่ีเปล่ียนแปลงได้จึงลดจ้านวนลง และในระยะยาวอาจเส่ียงต่อการ สญู พันธไ์ุ ด้ - การลา่ สัตวป์ ่า : สัตว์ป่าหลายชนิดถูกล่าดว้ ยหลายสาเหตุ เช่น เพื่อนนั ทนาการ เป็นอาหาร น้าส่วนใดส่วนหน่ึงหรืออวัยวะของสัตว์ ซึ่งมรี าคาสงู มาขายอยา่ งผดิ กฎหมาย เป็นตน้ ซ่ึงทา้ ให้สตั ว์ปา่ ในธรรมชาตลิ ดจ้านวนลงและอาจสูญพนั ธไ์ุ ด้ - การนาสัตว์ป่ามาใช้ประโยชน์หรือเป็นสัตว์เล้ียง : สัตว์ป่าหลายชนิดถูกลักลอบน้าออกจากป่ามาขายเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างผิด กฎหมาย เช่น ลูกนกปา่ หลายชนิดซ่งึ สว่ นใหญเ่ ปน็ สตั วป์ า่ คมุ้ ครอง - การเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : เช่น ไฟป่า น้าท่วม ความแห้งแล้ง ภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น นอกจากน้โี รคระบาดในสัตวป์ า่ การอบุ ัติของโรคตดิ ตอ่ ในสัตวป์ า่ ชนิดใหมๆ่ เป็นสาเหตใุ หท้ รัพยากรสัตว์ป่าลดลงไดเ้ ช่นกนั โดยครูสกุ ฤตา โสมล 65

การลดลงของทรพั ยากรสตั ว์ป่าส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ 1. ผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศ สตั ว์ป่าหลายชนิดมีความส้าคัญมากต่อระบบนิเวศ บางชนิด เป็นผู้ถ่ายเรณูของพืช เช่น แมลงชนิดต่างๆ ค้างคาว บางชนิดเป็นผู้แพร่กระจายเมล็ด พันธุ์พืช เช่น นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมหลายชนิด ถ้าสัตว์ป่าเหล่านี้ลดลงจะพืช แพร่กระจายและเพ่ิมขนาดประชากรผ่านกระบวนการถ่ายเรณูและการแพร่กระจาย เมลด็ พนั ธไุ์ ด้น้อยลง ในระยะยาวอาจท้าใหพ้ ืชบางชนดิ สญู พนั ธไุ์ ด้ สัตว์ป่าบางชนิดยังเป็นผู้ควบคุมประชากรสัตว์ป่าชนิดอื่นตามโซ่อาหาร เช่น เสือ โคร่ง เสือด้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์ผู้ล่าขั้นสูงสุดในโซ่อาหารของระบบนิเวศป่าเขตร้อน ซ่ึงแหล่งอาหารหลักของผู้ล่ากลุ่มน้ีคือสัตว์กินพืช เช่น กวางป่า ถ้าเสือโคร่งหรือเสือด้า ถูกล่าจากป่าเป็นจ้านวนมาก อาจส่งผลให้ประชากรสัตว์กินพืชเพิ่มสูงขึ้นจนระบบนิเวศ ไม่สามารถรองรับได้ โดยสัตว์กินพืชจะกินพืชเป็นอาหารมากข้ึนตามขนาดประชากรที่ ใหญข่ ึ้นส่งผลให้พชื บางชนดิ อาจสูญพนั ธ์ุได้เพราะถูกกนิ มากเกนิ ไป 2. ผลกระทบต่อมนุษย์ เม่ือสัตว์ป่าบางชนิดลดลงหรือสูญพันธ์ุไปจะส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ เช่น ค้างคาวกินแมลงบางชนิด สามารถควบคุมประชากรแมลงศัตรูพืชซึ่งท้าความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประเทศได้มากขึ้น อาจท้าใหไ้ ม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติมาควบคุมประชากรแมลงศัตรูพืช ท้าให้เกษตรกรต้องใช้สารฆ่าแมลงมากข้ึนจึงมีต้นทุน การผลิตสงู ข้ึน อีกท้ังยังให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อส่ิงแวดล้อม โดยมีความเสี่ยงที่จะมีสารเคมีอันตรายตกค้างในสิ่งแวดล้อม เพ่ิมขึ้น สัตว์ป่าหลายชนิดสามารถเป็นแหล่งข้อมูลเพ่ือการต่อยอดงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ เช่น การวิจัยหายีนใหม่ๆ ของสัตว์ปา่ ซึ่งสามารถตอ่ ตา้ นโรคระบาด หรือสามารถน้ามาเป็นต้นแบบการพัฒนาและปรับปรุงลักษณะใหม่ๆ ของสัตว์ท่ี มนษุ ยเ์ ล้ียงเปน็ อาหาร เป็นต้น โดยครูสกุ ฤตา โสมล 66

แนวทางการจัดการและการอนรุ กั ษ์สตั วป์ ่า 1. การก้าหนดพ้ืนท่ีอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ พ้ืนที่อนุรักษ์ธรรมชาติ พ้ืนท่ีสงวนชีวาลัย พื้นท่ีมรดกโลก ป่าชายเลนอนุรักษ์ ป่าชุมชน เพื่อสงวนและรักษาแหล่งท่ีอยู่ อาศยั และดา้ รงชวี ิตของสตั วป์ ่า 2. การจดั ศูนย์เพาะเลีย้ งและขยายพนั ธุ์สัตวป์ ่าหายาก เพื่อเพิ่มจา้ นวนสัตวป์ ่าก่อนที่จะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ พัฒนาองค์ความรู้และ ศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก โดยเน้นวิธีการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ เพ่ือเพ่ิมประชากรสัตว์ป่าหายาก และ ศึกษาความเป็นไปได้ในการปล่อยสัตว์ป่าหายากกลับเข้าสู่ถ่ินที่อยู่เดิม ปัจจุบันประเทศไทยมีศูนย์เพาะเล้ียงสัตว์ป่าและขยายพันธุ์สัตว์ ป่าอยทู่ ุกภูมิภาค 3. ส่งเสริมการวิจัยและเพิ่มองค์ความรู้ทรัพยากรสัตว์ป่า โดยการศึกษาทางนิเวศวิทยา พฤติกรรม พันธุศาสตร์ สรีรวิทยาของสัตว์ป่า โดยจัดตงั้ สถานวี จิ ัยสัตวป์ า่ หนว่ ยงานวจิ ัยอื่นๆ หรือมหาวิทยาลัย ท้ังในระยะส้ันและระยะยาว เพื่อเพ่ิมความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง และกจิ กรรมของสัตวป์ า่ จนสามารถน้าผลการวจิ ยั มาใช้ในการจดั การและอนรุ ักษท์ รัพยากรสตั ว์ป่าทีเ่ หมาะสม 4. เผยแพร่ความรู้และสร้างจิตส้านึกให้ประชาชนอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่า โดยน้าองค์ความรู้จากการศึกษาวิจัยมาเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ จัดตั้งแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและสัตว์ป่า เช่น จัดตั้งศูนย์การศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า เพ่ือให้เป็นแหล่งศึกษาและพักผ่อนหย่อนใจ กระตุ้นจิตส้านึกของประชาชนให้เห็นความส้าคัญของสัตว์ป่า และผลกระทบที่ส่งผลต่อ มนุษยแ์ ละสิ่งแวดลอ้ มเพอ่ื ทรพั ยากรสตั ว์ป่าลดลง 14 มกราคม โดยครูสกุ ฤตา โสมล 67

o หลักการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อมเพอ่ื ความย่ังยนื การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีเหตุผล ค้านึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อยา่ งเหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดผลเสียตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มน้อยท่สี ุด เพอื่ มนุษยจ์ ะมีชวี ิตอย่อู ยา่ งมคี ุณภาพทดี่ ีตอ่ ไป โดยครูสกุ ฤตา โสมล

หลักการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มแี นวทางดังนี้ 1. การใช้แบบย่ังยืน (sustainable utilization) หมายถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง เหมาะสมให้ได้ประโยชน์สูงสุด เป็นการหาวิธีบ้าบัดหรือก้าจัดให้ฟื้นคืนสภาพ น้ามาใช้ซ้า (reuse) เช่น น้าถุงพลาสติกมาใช้ใหม่ ลดปริมาณการใช้ให้น้อยลง (reduce) เช่นใช้ถุงผ้า ใส่ของแทนถุงพลาสติก ปิดน้าปิดไฟเม่ือไม่ใช้งาน หรือ น้ามาใช้ประโยชน์ในรูปอ่ืน (recycle) โดยการคัดแยกประเภทขยะเพ่ือให้ง่ายต่อการน้าไปแปรสภาพเพื่อน้ากลับมาใช้ ใหม่ ซง่ึ ทา้ ให้มลพษิ ในสง่ิ แวดล้อมลดนอ้ ยลง 2. การเก็บกัก (storage) หมายถึง การรวบรวมและเก็บกักทรัพยากรท่ีมีแนวโน้มจะขาดแคลนได้เพื่อ เอาไว้ใช้ในอนาคต ซ่ึงการเก็บกักทรัพยากรนั้นมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป เช่น เก็บกักไว้ใช้ใน อนาคตเน่ืองดว้ ยมที รพั ยากรมากเกินไปในเวลาหนง่ึ แตอ่ าจขาดแคลนได้บางช่วงเวลาจึงจ้าเป็นต้องเก็บ เอาไว้ก่อน ได้แก่ การถนอมอาหาร การท้ายุ้งฉาง การเก็บกักน้า หรือกรณีการเก็บกักเพ่ือสร้างความ มั่นคง เช่น การเกบ็ รกั ษาปา่ ไม้ แร่ น้ามนั ปิโตรเลียม แกส๊ ธรรมชาติ ถา่ นหิน น้า เปน็ ต้น 3. การรักษาหรือซ่อมแซม (repair) เป็นการรักษาหรือซ่อมแซมให้ 69 กลับมาเป็นปกติ เช่น การเติมอากาศในแหล่งน้า การปลูกป่า ทดแทน การเพาะเล้ยี งสตั ว์ปา่ เพอื่ นา้ ไปปลอ่ ยกลับสธู่ รรมชาติ โดยครูสกุ ฤตา โสมล

4. การฟ้ืนฟู (rehabilitation) เป็นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติท่ีเส่ือมโทรมไปไม่ว่ามาก การสร้างแนวปะการังเทยี ม หรอื นอ้ ย เพ่ือใหม้ ีสภาพปกตจิ นสามารถน้ากลับมาใช้ได้อีกและใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจใช้เวลามากหรือน้อยแล้วแต่สภาพท่ีเสื่อมโทรม เช่น การเสริมสร้างที่อยู่อาศัยให้ สิง่ มชี วี ิตในทะเลโดยการสร้างแนวปะการงั เทยี มจากแท่งคอนกรีต หรอื การปลูกป่า 5. การป้องกัน (prevention) เป็นวิธีการปกป้องคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติที่ก้าลังถูก ท้ า ล า ย ห รื อ มี แ น ว โ น้ ม ว่ า จ ะ ถู ก ท้ า ล า ย ใ ห้ ส า ม า ร ถ อ ยู่ ใ น ส ภ า พ ป ก ติ อ า จ เ ป็ น การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ หรืออาจใช้กฎหมายควบคุมส้าหรับทรัพยากรแต่ละชนิด หรือแต่ละพื้นทข่ี องทรพั ยากรนั้นๆ ไม่ให้ถูกบกุ รกุ หรือถกู ท้าลายต่อไป นอกจากแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมข้างต้นท่ีทุกคนควรมีส่วนร่วมแล้ว การพัฒนา ก็ เ ป็ น อี ก แ น ว ท า ง ห นึ่ ง ท่ี ช่ ว ย เ พ่ิ ม ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ก า ร น้ า ทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ในปริมาณน้อย แต่ ได้ผลผลิตมากโดยมีการน้าเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่กับ กระบวนการพัฒนา เช่น การใช้เทคโนโลยีช่วยในการ บ้ า บั ด แ ล ะ ก้ า จั ด ข อ ง เ สี ย ที่ เ กิ ด ขึ้ น จ า ก ก า ร ใ ช้ ทรพั ยากรธรรมชาติ หลายประเทศในสหภาพยุโรปตระหนักกับการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตาม แนวทาง 70 เศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) ซ่ึงผู้ผลิตสินค้าและบริการหลายแห่งได้ปฏิบัติตามแนวทางนี้ ต้ังแต่การออกแบบ และพัฒนาวัสดุการผลิตท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตและจ้าหน่าย ใช้วัสดุรีไซเคิลและวัตถุดิบที่ย่อยสลายได้ทาง ชวี ภาพในสดั ส่วนท่ีมากข้ึน โดยครูสกุ ฤตา โสมล

ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีในการก้าจัดขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลหรือน้ากลับไปใช้ได้ใหม่ เพอ่ื ลดปริมาณขยะตกคา้ งในสิง่ แวดล้อม และสามารถนา้ ไปแปรรูปเพ่ือใช้ในกระบวนการอื่นๆ ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เตาเผาขยะแบบพลาสมาแก๊สซิฟิเคชัน (plasma gasification) โดยจะเผาขยะด้วยอุณหภูมิท่ีสูงมากในระบบปิด จนสามารถหลอมละลายขยะทุกชนิดที่เผาและ สามารถควบคุมกระบวนการเผาขยะให้สะอาดได้ง่าย โดยการบ้าบัดแก๊สท่ีได้จากการเผาขยะจน เหลือแต่ ������������2 และ CO เท่านั้น นอกจากน้ผี ลพลอยไดจ้ ากการเผาขยะด้วยวธิ ีนจี้ ะได้ ������2 ซ่ึงน้าไปใช้เป็นพลังงานของเคร่ือง ก้าเนิดไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง ส้าหรับกากที่เหลือจากการเผาขยะจะมีสมบัติเป็นตะกรันแร่ท่ีมีความ เสถียรและแข็งแกร่ง สามารถน้าไปผสมในวัสดุอ่ืนเพื่อใช้ในการก่อสร้างได้ เช่น ผสมในอิฐ ใช้ เปน็ สว่ นประกอบในการสร้างถนน เป็นตน้ การพัฒนาท่ีย่งั ยืน (sustainable development) การพัฒนาท่ีย่ังยืน หมายถึง การพัฒนาท่ีต้องมีการระมัดระวังถึงความเสียหาย หรือ ผลกระทบที่มีต่อส่ิงแวดล้อม ในการท่ีจะบรรลุถึงจุดหมาย เพ่ือให้ประชากรในชุมชนมี คณุ ภาพชวี ติ ทีด่ ีข้ึน โดยมีแนวทางดงั น้ี 1. การรกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม โดยอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ 71 2. การใช้ทรพั ยากรอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 3. ควบคุมการเจริญเติบโตของประชากรให้เหมาะสมกับปริมาณ ทรพั ยากรธรรมชาติ 4. การปรบั เปล่ียนพฤติกรรมการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติให้ถกู วธิ ี 5. เพ่ิมความหลากหลายของระบบนิเวศ และหลีกเลี่ยงการท้าลาย สง่ิ แวดล้อม โดยครูสกุ ฤตา โสมล

ชนดิ พันธตุ์ า่ งถิน่ ทสี่ ่งผลกระทบต่อระบบนเิ วศ โคลงเคลงขนต่อม ขไี้ ก่ยา่ น ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น (alien species) หมายถึง ส่ิงมีชีวิตท่ีถูกน้าเข้ามาใน แหล่งท่ีอยู่ใหม่ โดยแหล่งท่ีอยู่ใหม่อยู่นอกเขตการกระจายพันธ์ุด้ังเดิมใน ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตนั้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากธรรมชาติ เช่น เกาะติดมากับ สัตว์ป่าในระหว่างการอพยพ ถูกพัดพามาโดยลม น้า หรือน้าเข้ามาโดย มนุษย์ท้ังที่ตั้งใจหรือไม่ได้ต้ังใจ เช่น น้าเข้ามาเพ่ือจุดประสงค์ทางการค้า เกษตรกรรม ประมง ปศุสัตว์ หรือติดมากับการคมนาคมขนส่ง เช่น โคลงเคลงขนต่อม (Clidemia hirta) ข้ีไก่ย่าน (Mikania micrantha) ซึ่งมี ถ่ินก้าเนิดและเขตกระจายพันธุ์ด้ังเดิมในธรรมชาติอยู่ที่ทวีปอเมริกาใต้ ปัจจุบันก้าลังระบาดในประเทศไทย โดยเฉพาะโคลงเคลงขนต่อมท่ีระบาด ในเขตสวนปาล์มน้ามัน ยางพารา และบริเวณพ้ืนท่ีอนุรักษ์บางแห่งใน ภาคใตข้ องประเทศไทย ชนดิ พันธ์ตุ ่างถ่ิน สามารถจา้ แนกไดด้ ังน้ี 1 . พั น ธ์ุ ต่ า ง ถ่ิ น ที่ ไ ม่ รุ ก ร า น หอยเชอรี่ (non-invasive alien species) ไ ม่ มี ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ร ะ บ บ นิ เ ว ศ ไมยราบยกั ษ์ โดยตรง ผักตบชวา 2. พันธ์ุต่างถ่ินท่ีรุกราน (invasive alien species) มีผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง แพร่ระบาดสู่ 72 ส่งิ แวดลอ้ มในธรรมชาติแลว้ ยากทก่ี า้ จัดได้ เช่น ผักตบชวา ไมยราบยักษ์ หอยเชอร่ี โดยครูสกุ ฤตา โสมล

ปจั จบุ นั ประเทศไทยแบ่งชนิดพนั ธ์ตุ า่ งถ่ินท่คี วรควบคุมและกา้ จดั เปน็ 4 รายการ ดังน้ี 1. ชนิดพันธุ์ต่างถ่ินท่ีรุกรานแล้ว เป็นชนิดพันธ์ุต่างถิ่นที่แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทย สามารถปรับตัว ตั้งถ่ินฐานและ แพร่กระจายได้ในประเทศไทยแลว้ มคี วามสามารถในการเพ่ิมจ้านวนเป็นชนิดเด่นในส่ิงแวดล้อม มีผลกระทบต่อระบบนิเวศ และอาจ ท้าให้สิ่งมีชีวิตท้องถิ่นด้ังเดิมสูญพันธ์ุได้ คุกคามความหลากหลายทางชีวภาพ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสุขอนามัย ของมนษุ ย์ เชน่ หอยทากยักษ์แอฟรกิ า (Achatina fulica) ไมยราบยกั ษ์ (Mimosa pigra) 2. ชนิดพนั ธ์ุตา่ งถ่ินทีม่ แี นวโนม้ รุกราน เปน็ ชนิดพนั ธุต์ า่ งถิ่นท่ีเคยมีรายงานว่ารุกรานแล้วในประเทศอ่ืนท่ีไม่ใช่ประเทศไทย แต่ มีการพบในประเทศไทยแล้ว สามารถต้ังถ่ินฐานและแพร่กระจายได้ จากการติดตามสถานการณ์พบว่า ชนิดพันธ์ุต่างถิ่นประเภทน้ีมี ความเป็นไปได้ท่ีจะรุกรานในประเทศไทย ถ้ามีปัจจัยและสิ่งแวดล้อมท่ีเหมาะสมจะสามารถคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพได้ เช่น กบบุลฟร๊อก (Lithobates catesbeianus) พวงชมพู (Antigonon leptopus) หรือเป็นชนิดพันธ์ุต่างถ่ินที่ในอดีตเคยรุกรานใน ประเทศไทย แต่ปัจจบุ นั สามารถควบคมุ ระดบั การรกุ รานได้แล้ว 3. ชนิดพันธ์ุต่างถ่ินท่ีมีประวัติว่ารุกรานแล้วในประเทศอื่นแต่ยังไม่รุกรานในประเทศไทย เป็นชนิดพันธ์ุต่างถิ่นท่ีมีรายงานว่า เข้ามาในประเทศไทยแล้วมีหลักฐานในการรุกรานในระเทศอ่ืน เช่น มดหัวโต (Pheidole megacephala) ศรนารายณ์ (Agave sisalana) 4. ชนดิ พันธุต์ ่างถิ่นท่รี กุ รานทย่ี ังไม่เข้ามาในประเทศไทย เป็นชนิดพันธุ์ต่างถ่ินที่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าได้รุกรานแล้ว ในประเทศอ่นื แต่ยงั ไม่พบในประเทศไทย เชน่ ต่อยโุ รป (Vespula vulgaris) คางคกยกั ษ์ (Bufo marinus) ตอ่ ยุโรป หอยทากยักษ์แอฟรกิ า กบบลุ ฟร๊อก โดยครูสกุ ฤตา โสมล ศรนารายณ์ 73

ชนดิ พนั ธ์ตุ ่างถ่นิ ทีอ่ ยู่ในรายการท่ี 1-3 ที่น้ามาใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ ต้องมีมาตรการในการควบคุมเพื่อไม่ให้แพร่กระจายสู่พ้ืนท่ี อนรุ กั ษ์ ส้าหรบั กรณีสตั ว์น้าตอ้ งมีมาตรการควบคุมและดแู ลไมใ่ หแ้ พร่กระจายสแู่ หลง่ น้าธรรมชาติไม่วา่ จะอยูใ่ นหรอื นอกพ้ืนทอ่ี นุรกั ษ์ ตารางแสดงตวั อยา่ งชนดิ พนั ธตุ์ า่ งถนิ่ ทนี่ า้ เขา้ มาในประเทศไทย ชอื่ พนั ธ์ุตา่ งถน่ิ ที่มา จดุ ประสงคก์ ารนา้ เขา้ ผลกระทบท่ีเกดิ ขน้ึ อกี วั นา่ ทวปี อเมริกาใต้, เล้ียงไว้ดูเลน่ ถา้ มากเกนิ ไปอาจคกุ คามสัตว์ในท้องถ่นิ ได้ ปลาดุกรสั เซีย ทวปี อเมรกิ ากลาง เล้ียงไวด้ ูเล่น ท้าลายความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้าไทยเพราะมี หอยเชอร่ี แอฟรกิ าใต้ นิสยั ดรุ ้าย เป็นสตั ว์กินเนื้อ ไมยราบยกั ษ์ เลยี้ งประดบั ตู้ปลา กดั กนิ ต้นขา้ วอ่อน ท้าใหน้ าขา้ วเสยี หาย หญา้ ขจรจบ ทวปี อเมริกาใต้ เปน็ ปยุ๋ พชื สด สร้างปัญหาแก่การชลประทาน ทวีปอเมริกาใต้ พชื อาหารสัตว์ วชั พืชแย่งธาตอุ าหารท้าใหพ้ ืชชนดิ อื่นไม่เจริญเตบิ โต ผกากรอง ไม้ประดบั วัชพืชแยง่ ธาตอุ าหารท้าใหพ้ ชื ชนดิ อ่ืนไมเ่ จรญิ เตบิ โต ผกั ตบชวา อนิ เดยี แหล่งน้าต้ืนเขิน เป็นอุปสรรคต่อการจราจรทางน้า สร้างปัญหา เมก็ ซโิ ก ไม้ประดบั ในสระนา้ ต่อการชลประทาน อินโดนีเซยี อีกัวน่า หญ้าขจรจบ ผกากรอง ปลาดุกรัสเซยี โดยครูสกุ ฤตา โสมล 74

ความเสยี หายต่อทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มที่มาจากการแพรก่ ระจายของชนดิ พันธตุ์ ่างถิ่นทรี่ กุ ราน 1. ความเสียหายต่อระบบนิเวศดั้งเดิม เช่น ผักตบชวา ซึ่งพบ แพร่กระจายตามแหล่งน้าในประเทศไทยเม่ือขยายพันธ์ุจนแผ่ ขยายเต็มพ้ืนที่ผิวน้าจะส่งผลให้แสงแดดไม่สามารถส่องลงไป ในน้าได้ ทา้ ให้ ������2 ละลายในน้าได้นอ้ ยลงจนท้าใหน้ ้าเน่าเสยี ปลาเทศบาล ผักตบชวา หนอนตวั แบนนิวกินี 2. ความเสียหายต่อส่ิงมีชีวิตท้องถิ่น อาจเป็นสาเหตุให้สิ่งมีชีวิตท้องถ่ินบาง ชนิดสูญพันธ์ุหรือมีความหลากหลายทางชีวภาพลดลง เนื่องจากประชากร โดยครูสกุ ฤตา โสมล ลดลงหรือสญู เสียแหลง่ ทอ่ี ยใู่ หก้ ับชนดิ พนั ธุ์ตา่ งถ่นิ ท่รี ุกราน รวมถึงการน้าโรค 75 ระบาดมาสสู่ ง่ิ มชี ีวติ ท้องถน่ิ เช่น หนอนตัวแบนนิวกินี (Platydemus manokwari) เป็นสัตว์ท่ีมีถ่ิน กา้ เนดิ ในเกาะนิวกินี ทางเหนือของประเทศออสเตรเลีย เป็นสัตว์ที่ล่าหอยทาก บกหลายชนิดเป็นอาหาร ซ่ึงเป็นสาเหตุท้าให้หอยทากบกท้องถิ่นหลายชนิด ในแถบหมู่เกาะของมหาสมุทรแปซิฟิกต้องสูญพันธ์ุ ปัจจุบันมีรายงานพบใน ประเทศไทยและอาจมีผลกระทบต่อประชากรของหอยทากบกท้องถ่ินประเทศ ไทยในระยะยาว

แนวทางและมาตรการในการป้องกันแก้ไขการแพร่ระบาดและรกุ รานของชนดิ พันธตุ์ ่างถน่ิ โดยครูสกุ ฤตา โสมล 1. การระมัดระวังในการวางระบบ วิเคราะห์ความเส่ียงหรือผลกระทบของ ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นน้ันๆ ก่อนที่จะน้าเข้า หรือควบคุม ท้าลาย หรือจ้ากัดพื้นท่ี ร่วมกับการบังคับใช้กฎหมายท่ีเข้มงวดโดยภาครัฐต่อการน้าเข้าชนิดพันธุ์ ตา่ งถ่นิ เข้ามาในประเทศไทย เพ่ือให้ลดปริมาณการน้าเข้าหรืออยู่ในระดับที่ ควบคมุ ได้ 2. ทา้ ตามแนวทางบนั ไดสามขั้น ได้แก่ การป้องกนั ไม่ใหม้ กี ารน้าเข้าชนิด พันธต์ุ า่ งถนิ่ การสบื พบเพ่ือเป็นการป้องกันระยะต้น และการก้าจัดซึ่งเป็นข้ัน สุดทา้ ย 3. ท้าตามแนวทางเชงิ นิเวศวิทยา เป็นการน้ากลยทุ ธ์ตา่ งๆ แบบผสมผสาน มาใช้ในการจัดการสิ่งมีชีวิต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะอนุรักษ์ไว้เพื่อ ประโยชนอ์ ย่างย่งั ยนื 4. ความรับผดิ ชอบของคนในสังคม รว่ มกนั สอดส่องดแู ลการลกั ลอบน้าเขา้ ของชนดิ พันธ์ุต่างถน่ิ และแจ้งรฐั ดา้ เนนิ การ 5. การวิจัยและติดตามผลกระทบ ของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่จะส่งผลต่อ การเปล่ยี นแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจและสังคมท่ีเกิดจากชนิดพันธ์ุต่างถ่ินนั้นๆ ตั้งแต่เริ่มต้น โดยรัฐบาลท้าการส้ารวจ จ้าแนกชนิดพันธุ์ และติดตามผล ตามล้าดับ 6. การศึกษา การให้ความรู้และเสริมสร้างความตระหนักแก่ ประชาชน ให้รับทราบถึงผลกระทบต่อการน้าเข้าชนิดพันธุ์ต่าง ถ่ินซ่ึงเป็นวิธีการที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพ โดยรัฐต้องให้ การศึกษาและช้ีแจงประชาชน องค์กรท้องถิ่นให้รับทราบและ ขอความรว่ มมอื ในการดา้ เนนิ การป้องกนั 76

ทรัพยากรธรรมชาติล้วนแล้วแต่มีความส้าคัญและมีประโยชน์กับ มนุษย์และส่ิงมีชีวิตต่างๆ การเข้าใจปัญหา ผลกระทบ และการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติซ่ึงรวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม จ ะ ท้ า ใ ห้ ม นุ ษ ย์ ส า ม า ร ถ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ จ า ก ทรพั ยากรธรรมชาตไิ ด้อย่างยัง่ ยืน โดยครูสกุ ฤตา โสมล 77