51 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
พฤติกรรมการลองผดิ ลองถูกในการกนิ แมลงปอ แมลงรอบเบอร์และผงึ้ 52 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
53 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
5.Insight Learning: การใชเ้ หตผุ ล เกดิ ในพวก Primates เป็ นพฤตกิ รรมท่มี ีการดดั แปลงมาจากการ ลองผิดลองถูก โดยการเรียนรูน้ ้ีจะเกิดข้ึนอย่างรวดเร็วโดยสตั ว์ ตอบสนองไดถ้ กู ตอ้ งเลยในครง้ั แรก Fixed-action pattern Insight (Innate) (Learned) เป้าหมายเพื่อ เพม่ิ โอกาสอยู่รอด + โอกาสสืบพนั 5ธ4์ุ จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
การแก้เชือกของกาทผ่ี ูกอาหารไว้ การใช้ไม้สอยกล้วยทอ่ี ยู่ทส่ี ูง55 โดยใช้ลงั ต่อกนั จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
ตารางเปรยี บเทยี บลาดบั การเกดิ พฤตกิ รรมในส่งิ มีชีวติ 56 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
พฤตกิ รรมทางสงั คม / การสอ่ื สารระหวา่ งสตั ว์ (Social behavior /Communication) 57 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
1. Sound Communication : การสือ่ สารโดยใชเ้ สยี ง เสยี งของสตั วใ์ ชใ้ นการตดิ ตอ่ สอ่ื สารระหวา่ งกนั และกอ่ ใหเ้ กดิ การตอบสนอง ถอื วา่ เป็นการเรยี นรูอ้ ยา่ งหน่ึง 58 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
59 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
60 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
61 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
การสอ่ื สารดว้ ยเสยี งมีจุดม่งุ หมายคลา้ ยกนั ดงั น้ี 1. ใชใ้ นการบอกชนิดสตั ว์ ซ่ึงอยูใ่ น species เดียวกนั 62 2. ใชบ้ อกเพศวา่ เป็ นเพศผูห้ รอื เพศเมีย 3. บอกตาแหน่งตนเองใหท้ ราบว่าอยูจ่ ุดใด 4. เป็ นการประกาศเขตแดนใหส้ ตั วต์ วั อน่ื ๆรู้ 5. บอกสญั ญาณเตือนภยั หรอื ข่มขู่ 6. บอกความรูส้ กึ ต่างๆและเก้ยี วพาราสี จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
เสยี งมีความหมายท่แี ตกต่างกนั ออกไปคอื 1. เสยี งเรยี กตดิ ต่อ (contact calls) 2. เสยี งเรยี กเตือนภยั (warning calls) 3. เสยี งเรยี กคู่ (mating calls) 4. เสยี งเรยี กกาหนดสถานทข่ี องวตั ถุ (echolocation) 63 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
2. Visual Signal Communication : การส่ือสารโดยใชท้ า่ ทาง 64 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
65 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
66 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
67 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
68 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
69 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
70 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
71 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
การสอ่ื สารของผง้ึ : BEE LANGUAGE 1. การเตน้ รา * แบบวงกลม (round dance) - อาหารอยู่ใกล้ ประมาณ 50 เมตร ไม่เกิน 80 เมตร * แบบเลข 8 (wagging dance) - อาหารอยูไ่ กล เกนิ 80 เมตร ขึน้ ไป 2. การสา่ ยทอ้ ง - อาหารอยู่ไมไ่ กล อตั ราการเต้นราแบบส่ายท้องจะเร็วและส้ัน - อาหารอยไู่ กล อตั ราการเต้นราแบบส่ายทอ้ งจะช้าและนาน 72 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
73 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
74 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
75 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
ตวั อย่าง Bee Language 76 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
3. Chemical Communication : การสอื่ สารโดยใชส้ ารเคมี เช่น การปล่อยฟีโรโมน 77 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
ฟโี รโมน (PHEROMONE) 1. ฟี โรโมนทท่ี าให้เกดิ พฤติกรรมทนั ที (releaser pheromone) เช่น สารดงึ ดูดเพศตรงข้าม ได้แก่ ฟี โรโมนทผี่ เี สื้อไหมตวั เมีย ปล่อยออกมาเพื่อดงึ ดูดความสนใจของผเี สื้อไหมตวั ผู้ 2. ฟี โรโมนทไี่ ม่ทาให้เกดิ พฤตกิ รรมทนั ที (primer pheromone) เช่น ฟี โรโมนของหนูตวั ผู้ปล่อยออกมา ชักนาให้หนูตวั เมยี เป็ นสัด และพร้อมทจ่ี ะผสมพนั ธ์ุ 78 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
ประเภทฟี โรโมน ฟีโรโมนเพศ (sex pheromone) เช่น ผีเสือ้ ไหม ฟีโรโมนปลกุ ระดม (aggregation pheromone) เช่น ดว้ งท่ที าลายเปลอื กไม้ ฟีโรโมนเตอื นภยั (alarm pheromone) เช่น ผ้ึง ฟีโรโมนตามรอย (trail pheromone) เชน่ สนุ ขั ฟีโรโมนนางพณา (queen-substance pheromone) เช่น แมลงสงั คม ไดแ้ ก่ มด ผึ้ง ตอ่ แตน ปลวก 79 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
4. Physical Communication : การสื่อสารโดยการสมั ผสั เช่น การสัมผสั เป็ นสื่อเพ่ือขออาหารของลูกนกนางนวลบางชนิด โดยใช้จะงอยปาก จิกทจ่ี ุดสีแดงบริเวณจะงอยปากของแม่เพื่อกระตุ้นให้แม่ไปหาอาหารมาให้ 80 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
5. luminous Communication : การสือ่ สารโดยใชร้ หสั แสง เช่น สัตว์ทอี่ าศัยอยู่ในทะเลลกึ และห่ิงห้อย โดยเกดิ กระบวนการ bioluminescence ดงั นี้ Luciferin (L) + Luciferase (E) E-L E + L + hv (แสง) O2 81 จดั ทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล
Search