Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความเป็นครู

ความเป็นครู

Published by yook2545, 2022-01-25 12:26:34

Description: ความเป็นครู

Search

Read the Text Version

ความเป็นครู จัดทำโดย นางสาวจิราภรณ์ ไหว้พรหม รหัสนักศึกษา 64121070109

TABLE OF CONTENTS คุณครูปิยากร อสุรินทร์ Q&A MINDSET กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ วิชาชีพครู

ครู ? เริ่มจากความรักในอาชีพ ครูอย่างเเท้จริงจะมีสัญชาตญาณความเป็นครู อยากให้นักเรียนประสบความสำเร็จ กล้าที่จะเสียสละ มีความตั้งใจเเละใส่ใจในวิชาชีพของตน

คุณครูปิยาการ อสุรินทร์ สอนรายวิชาภาษาอังกฤษ

- นางปิยากร อสุรินทร์ อายุ 45 ปี - รับราชการครู ตำแหน่งครู อันดับ คศ.1 - ปัจจุบันทำงานที่ โรงเรียนโนนกุงวิทยาคม ตำบลโนนกุง อำเภอตระการพืชผล จังหวัด อุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อายุราชการ 5 ปี - ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน

การจัดการเรียนการสอน 1.ท่านได้นำความรู้ความสามารถ และเทคนิควิธีการสอนที่หลาหลายมาสู่กระบวนการเรียนการ สอน และนำสื่อการสอนมาช่วย เพื่อให้นักเรียนมีความตั้งใจในเนื้อหาวิชามากขึ้น 2.นำเทคนิคและวิธีการสอนที่หลากหลายให้นักเรียนมีความรู้ และมีความตั้งใจในเนื้อหาวิชา อย่างกว้างขวาง ชัดเจน 3.ครูมีการปรับใช้เนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับชั้นที่ตนสอน ใช้เนื้อหาที่เหมาะสมกับความรู้ นักเรียน อธิบายให้นักเรียนเข้าใจง่าย ข้อมูลในการนำมาสอนถูกต้อง 4.มีการเตรียมตัวก่อนลงมือสอนจริง ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น มีความรู้ใน เรื่องที่สอน และสามารถสอนได้อย่างคล่องแคล่ว

การใช้น้ำเสียง ครูมีการใช้น้ำเสียงที่เสียงดังฟังชัด หนักแน่น ทำให้นักเรียนตั้งใจฟังครูผู้ สอน เทคนิคการสอน - การเขียนบนกระดานเพื่ออธิบาย - การยกตัวอย่างประโยคที่นอกเหนือจากบทเรียน - เเต่งประโยคตัวอย่าง - ให้ทำงานกลุ่ม เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน ทักษะการใช้ภาษา เพื่อให้นักเรียนเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น มีการใช้ภาษากลาง ภาษา ถิ่น และภาษาอังกฤษร่วมกัน เพราะนักเรียนบางคนอาจจะไม่เข้าใจในภาษา อังกฤษทั้งหมด

MINDSET

Mindset Mindset คือ กรอบความคิด ความเชื่อหรือทัศนคติที่ชี้นำพฤติกรรมของคน กรอบความคิดของคนๆหนึ่งจะ เป็นแบบใดขึ้นกับการสะสมประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมของบุคคลคนนั้นมาตั้งแต่เด็ก คนแต่ละคนอาจมี Mindset ทั้งแง่บวกและลบได้เช่น ฉันร้องเพลงไม่เก่ง (แง่ลบ), ฉันเล่นกีฬาเก่ง (แง่บวก)

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ MINDSET ได้รับผลมาจากประสบการณ์ การศึกษา หรือวัฒนธรรมที่หล่อหลอมตั้งแต่เด็ก MINDSET ที่หล่อหลอมมายาวนานยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในทันที แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ซึ่งต้องใช้ เวลา เป็นตัวกำหนดการกระทำและพฤติกรรม ส่งผลต่อมุมมองที่มีต่อโลกรอบตัวและภายในตัวเอง ส่งผลต่อการพัฒนาตัวเอง

GROWTH MINDSET FIXED MINDSET - กรอบความคิดแบบเติบโต ที่เชื่อว่าสมองของ - กรอบความคิดแบบยึดติด ที่เชื่อว่าสมองของ มนุษย์ทุกคนพัฒนาได้ขึ้นอยู่กับอัตราการเรียน มนุษย์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ความสามารถ รู้ ความสามารถและสติปัญญาเป็นเรื่องของพร และสติปัญญาเกิดมาอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แสวง

Mindset ของครู คนทุกคนย่อมมีมุมมองเเละเเนวคิดเป็นของตนเองที่สามารถเรียนรู้ เเละพัฒนาขึ้นได้ มีความอดทน พัฒนาตนเองอยู่เสมอ ให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ กล้าท้าทายกับสิ่งใหม่ๆ ยอมรับในคำติชม ยอมรับที่ จะปรับปรุงตนเอง หากคำวิจารณ์นั้นเป็นข้อเท็จจริง เเละเป็นประโยชน์ มีสติในสถานการณ์ที่เป็นปัญหา หรืออุปสรรคต่างๆ มี Growth Mindset ของตนเองดังนี้ 1. สร้างเเรงจูงใจในการเรียนรู้ 2.สร้างทัศนคติที่ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิต 3.ไม่กลัวการล้มเหลว หรืออุปสรรคใดๆที่ผ่านเข้ามา มองปัญหาให้เป็นการเรียนรู้เเละพัฒนาตนเอง 4.รักในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เเสวงหาโอกาสที่จะพัฒนาตนเองไปในทางที่ดีเสมอ ความสำเร็จของคน อื่ นจะเป็นเเรงผลักดันที่ดี

คำชม สร้าง GROWTH MINDSET ให้กับนักเรียน ทำได้ดีมากเลย ครูขอชื่นชม เก่งมาก ทุกคนมีความพยายามเเละทำได้ดีมาก หนูวาดรูปสวยมากค่ะ ย่อหน้านี้หนูเขียนได้ดีมากค่ะ มีการกระตุ้นผู้เรียนด้วยน้ำเสียงเเละคำพูด ทำให้ นักเรียนมีความกระตือรือร้น เเละไม่ปิดกั้นการ เรียนรู้ในวิชาที่ตนเองอาจจะไม่ถนัด

คำชม (ต่อ) การกล่าวชมนักเรียนนั้น จะไม่มีผลอะไรเลยหากครูกล่าวชมเด็กเเบบหว่านคำชม ไม่เฉพาะ เจาะจงลงไป การกล่าวชมเด็กนั้นไม่จำกัดว่าจะมากหรือน้อยเเต่การกล่าวชมต้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็ก พัฒนาตนเอง หรือเป็นการให้กำลังใจเด็ก เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง เด็กจะมีความสุข ช่วยลดสถานการณ์เครียดลงได้ ช่วยเสริมสร้างความเข้มเเข็งทางอารมณ์ คำชมล้วนมีความหมาย เเล้วเเต่ว่าในสถานการ์นั้นเด้กได้ลงมือทำกิจกรรมอะไร

Q&A

สอนอย่างไรให้มีความสุข? การทำหน้าที่ครู ตัวเราเองต้องมีจิตใจดี รักเด็ก รักเเละศรัทธาในวิชาชีพ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ เรามีความสุขทั้งภายนอก เเละภายใน การสอนนักเรียนนั้น เราสอนเพื่อให้นักเรียนเกิดการ พัฒนารอบด้าน เเละเติบโตไปเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ การจัดการเรียนรู้ที่มีความสุขจึงเป็นสิ่ง ที่สำคัญที่สุด ครูจึงมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการ 1.ครูต้องยอมรับว่าเด็กทุกคนนั้นเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจ สมอง เเละความรู้สึก ที่สามารถพัฒนาได้ ควรให้ โอกาสเด็กเลือกเรียนตามความถนัดเเละความสนใจของตนเอง 2.ครูต้องมีเมตตา จริงใจ ต่อเด็กนักเรียนทุกคน ต้องเข้าใจว่าเด็กทุกคนมีความเเตกต่างระหว่างบุคคล 3.การเรียนรู้ต้องไม่จำกัดอยู่ในเฉพาะบทเรียน ครูสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสภาพความเป็นจริง

การเป็นครูเหนื่อยไหม? การทำงานในหน้าที่ครูนั้น \"เหนื่อย\" เพราะใช่ว่าเราจะทำเเค่หน้าที่การ สอนเพียงอย่างเดียว เเต่คำว่า \"ครู\" เรามีบทบาทหน้าที่หลายอย่าง ควบคู่กันไป 1.เป็นครูผู้สอน 2.เปรียบเป็นผู้ปกครองของนักเรียน 3.เป็นครูที่ปรึกษา 4.เป็นครูปกครอง ควบคุมดูเเลความประพฤติของนักเรียน 5.เป็นบุคคลที่คอยให้คำปรึกษา เปรียบเสมือนเพื่อนเล่นในบางครั้งที่นักเรียนนั้นมีปัญหา เมื่อได้เห็นความสำเร็จของ \"ลูกศิษย์\" มันคุ้มค่ากับสิ่งที่เราทุ่มเท ตั้งใจสอน ทำหน้าที่ครูเสมอมา

มาตรกฐฎานหวมิชาายชีพครู

มาตรฐานวิชาชีพครู 1.มาตรฐานในความรู้เเละประสบการณ์ในวิชาชีพ 2.มาตรฐานการปฏิบัติงาน 3.มาตรฐานการปฏิบัติตน

1.มาตรฐานในความรู้เเละประสบการณ์ในวิชาชีพ ผู้ประกอบวิช าชีพครูต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญาตรีทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นๆที่คุรุสภารับรอง โดยมีมาตรฐานความรู้เเละประสบการร์วิชาชีพ ดังนี้

ก มาตรฐานความรู้ มาตรฐานที่ 1 ความเป็นครู มาตรฐานที่ 8 นวัตกรรมเเละเทคโนโลยี มาตรฐานที่ 2 ปรัชญาการศึกษา สารสนเทศ มาตรฐานที่ 3 ภาษาเเละวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 9 การวัดเเละประเมินผลการ มาตรฐานที่ 4 จิตวิทยาสำหรับครู เรียนรู้ มาตรฐานที่ 5 หลักสูตร มาตรฐานที่ 10 การประกันคุณภาพการ มาตรฐานที่ 6 การจัดการเรียนรู้เเละการ ศึกษา จัดการชั้นเรียน มาตรฐานที่ 11 คุณธรรม จริยธรรม เเละ มาตรฐานที่ 7 การวิจัยเพื่อพัฒนาการ จรรยาบรรณ เรียนรู้

ข มาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพ ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญยาทางการศึกษา เป็นเวลาไม่น้อย กว่า 1 ปี เเละเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์วิธีการเเละเงื่อนไขที่ คณะกรรมการคุรุสภากำหนด ดังต่อไปนี้ 1. การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 2. การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะ

2.มาตรฐานการปฏิบัติงาน วิชาชีพครูต้องมี มาตรฐานการปฏิบัติงาน 12 ข้อ 1. ปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการเพื่อพัฒนาวิชาชีพครูให้ ก้าวหน้าอยู่เสมอ 2. ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ โดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดแก่ ผู้เรียน 3. มุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนให้เติบโตเต็มตามศักยภาพ 4. พัฒนาแผนการสอนให้สามารถปฏิบัติได้จริงในชั้นเรียน 5. พัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ 6. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนรู้จักวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์โดยเน้นผล ถาวรที่เกิดแก่ผู้เรียน 7. รายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนได้อย่างมีระบบ 8. ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน 9. ร่วมมือกับผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์ 10. ร่วมมือกับผู้อื่นในชุมชนอย่างสร้างสรรค์ 11. แสวงหาและให้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา 12. สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์

3.มาตรฐานการปฏิบัติตน วิชาชีพครูต้องมี มาตรฐานการปฏิบัติตน ตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยจรรยาบรรณ ของวิชาชีพ ยกเลิก ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ และจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2548 ให้ใช้ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพ และจรรยาบรรณวิชาชีพ พ.ศ. 2556 จรรยาบรรณวิชาชีพครู พ.ศ. 2556 (มาตรฐานการปฏิบัติตน) ข้อบังคับ คุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556 จรรยาบรรณวิชาชีพ ครู มี 5 ด้าน 9 ข้อ

1. จรรยาบรรณตอตนเอง 1. ครูต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้าน วิชาชีพ บุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ให้ทัน ต่อการ พัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อยู่เสมอ 2. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ 2. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ครู ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อ วิชาชีพและเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ

3. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ 3. ครูต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กำลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่ โดยเสมอหน้า 4. ครู ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และ นิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์ และผู้รับ บริการ ตาม บทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความ บริสุทธิ์ใจ 5. ครูต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้ง ทางกายวาจา และจิตใจ 6. ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญ ทางกายสติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และ ผู้รับบริการ 7. ครูต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผล ประโยชน์ จากการใช้ ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ

#1 สาระในข้อบังคับที่น่าสนใจ จรรยาบรรณวิชาชีพ ต่อ “ผู้รับบริการ 5 ข้อ ผู้ประกอบวิชาชีพครูใด ไม่ปฏิบัติตามข้อ บังคับนี้ หากมีผู้ได้รับความเสียหายจากการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ สามารถ ยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คุรุสภา เพื่อตรวจสอบ

4.จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ 8. ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่าง สร้างสรรค์โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความ สามัคคีในหมู่คณะ 5.จรรยาบรรณต่อสังคม 9. ครูพึงประพฤติปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เงื่อนไขของวิชาชีพ “ครู” 1. ได้รับการศึกษาอบรมเป็นพิเศษ 2. มีจรรยาบรรณครู 3. มีมาตรฐานวิชาชีพครู 4. มีมาตรฐานวิทยฐานะ 5. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 6. มีองค์กรวิชาชีพกำกับ 7. มีพัฒนาการตนเองอย่างต่อเนื่อง

พระราชบัญญัติการศึกษาเเห่งชาติ (ฉบับที่ 1 พ.ศ.2542) คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดให้รัฐต้องจัดการ ศึกษา อบรม และสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้ คู่คุณธรรม จัดให้มี กฎหมายเกี่ยวกับ การศึกษาแห่งชาติ ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง ทาง เศรษฐกิจและสังคม สร้าง เสริมความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้อง (ฉบับที่ 2 พ.ศ.2545) คือ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายปฏิรูประบบราชการ โดยให้แยกภารกิจ เกี่ยวกับ งานด้านศิลปะและวัฒนธรรมไป จัดตั้งเป็นกระทรวงวัฒนธรรม และโดยที่เป็นการ สมควรปรับปรุงการ บริหารและการจัดการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา และการให้มีคณะ กรรมการอาชีวศึกษา

พระราชบัญญัติการศึกษาเเห่งชาติ (ต่อ) (ฉบับที่ 3 พ.ศ.2553) คือ การที่ประถมและมัธยมอยู่ด้วยกัน ส่งผลให้การบริหารไม่คล่องตัว สมควร แยกเขตพื้นที่การศึกษาออกเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และเขตพื้นที่การ ศึกษามัธยมศึกษา เพื่อให้การบริหารและการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ (ฉบับที่ 4 พ.ศ.2562) คือ เพื่อกำหนดขอบเขตในการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการ และ หน่วยงานอื่น ให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากมีการจัดตั้งกระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

สาระสำคัญ \"การศึกษา” หมายความว่า กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม โดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลง ความก้าวหน้า ทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การ เรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้ บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต “การศึกษาขั้นพื้นฐาน” หมายความว่า การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา “การศึกษาตลอดชีวิต” หมายความว่า การศึกษาที่เกิดจาก การผสมผสานระหว่างการศึกษา ใน ระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่าง ต่อเนื่อง ตลอดชีวิต “สถานศึกษา” หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอำนาจหน้าที่หรือ มี วัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา

สาระสำคัญ (ต่อ) “สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน” หมายความว่า สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน “มาตรฐานการศึกษา” หมายความว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพ ที่พึงประสงค์ และ มาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง และเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับ การ ส่งเสริมและกำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมินผล และการประกันคุณภาพทางการศึกษา “การประกันคุณภาพภายใน” หมายความว่า การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบ คุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรือโดย หน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษานั้น “การประกันคุณภาพภายนอก” หมายความว่า การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบ คุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกล่าวรับรอง เพื่อเป็นการ ประกันคุณภาพ และให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา

สาระสำคัญ (ต่อ) “ผู้สอน” หมายความว่า ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่าง ๆ “ครู” หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการ ส่งเสริมการ เรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน “คณาจารย์” หมายความว่า บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยใน สถานศึกษา ระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐและเอกชน “ผู้บริหารสถานศึกษา” หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษา แต่ละแห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน “บุคลากรทางการศึกษา” หมายความว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา รวมทั้ง ผู้สนับสนุน การศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการ สอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ

ตัวอย่างการประพฤติตนของครูตามมาตรฐานวิชาชีพครู ด้านที่ 4 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ ครูเป็นคนมีน้ำใจ เอื้อเฟื้ อเผื่อแผ่ และช่วย เหลือบุคคลอื่ นเสมอ คอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน และมีความเสีย สละ ทำด้วยความเต็มใจ ช่วยอย่างเต็มที่เท่าที่ ตนจะช่วยได้

ตัวอย่างการประพฤติตนของครูตามมาตรฐานวิชาชีพครู (ต่อ) ด้านที่ 3 จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ - ให้คำปรึกษานักเรียนตนอยู่เสมอ ซึ่งทำหน้าที่ครูที่ปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ - คอยช่วยเหลือนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน - ท่านได้นำความรู้ความสามารถ และเทคนิควิธีการสอนที่หลาหลายมาสู่กระบวนการเรียนการสอน และนำสื่อการสอน มาช่วย เพื่อให้นักเรียนมีความตั้งใจในเนื้อหาวิชามากขึ้น - ปฏิบัติหน้าที่ครูที่ปรึกษา เพราะต้องคอยดูแล และช่วยเหลือนักเรียนเมื่อนักเรียนมีปัญหา

THANK YOU


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook